แผนการเรยี นรูร้ ายวิชา พต31001 ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่… ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ ไวยากรณน์ า่ รู้ เรื่องที่ ๑๒ โครงสรา้ ง รายวิชา/หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เนื้อหา โครงสร้าง 2. เปรยี บเทียบ 3. การเปรยี บเทยี บโครงสรา้ งภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษ ประโยค ภาษาองั กฤษ ความแตกตา่ ง เปรียบเทียบลักษณะคาํ ที่มาของคําความหมายและการประยกุ ตค์ าํ ใน (40 ชว่ั โมง) ระหวา่ ง ภาษาอังกฤษใชใ้ นภาษาไทยและคําในภาษาไทยท่ีนําไปในภาษาองั กฤษ วัฒนธรรม - ศัพทข์ องภาษาไทยส่วนใหญม่ าจากภาษาบาลี/สนั สกฤตในขณะทศี่ พั ทข์ อ ภาษาอังกฤษ สว่ นใหญจ่ ากภาษากรีกและโรมัน องั กฤษกับ วัฒนธรรมไทย - คําในภาษาองั กฤษทน่ี าํ มาใช้ในภาษาไทย เชน่ กิโลกรมั กิโลเมตร เซนตเิ คําในภาษาไทยท่ีนาํ ไปใช้ในภาษาองั กฤษ เช่น Tom Yam Kung, Muai โครงสร้างของประโยคต่างๆ - ประโยคความเดยี ว (Simple Sentence) - ประโยคความรวม (Compound Sentence) - ประโยคความซ้อน (Complex Sentence) - ประโยคความผสม (Compound-Complex Sentence) - การใช้ Transitive / intransitive/ auxiliary verbs - Tense ตา่ งๆ - ลกั ษณะของประโยคคําถาม - ประโยคเงือ่ นไข - การใชส้ นั ธาน (Conjunction) และบุพบท (Preposition) etc.
1 ภาษาอังกฤษเพ่อื ชวี ติ และสังคม ……………….. ปกี ารศกึ ษา…………………………. งประโยคภาษาองั กฤษ สัปดาห์ท…ี่ ………………………… การจัดกระบวนการเรียนรู้ ส่อื และแหล่ง การวัดและ เรียนรู้ ประเมินผล ขน้ั ที่ 1 ก้าหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ - ใบความรเู้ ร่ือง - ใบงาน 1.1 ครนู าํ ตัวอย่างมา 12 ประโยค โครงสรา้ ง - แบบฝกึ หัด เช่น 1.2 ครูและผเู้ รียนทาํ ความเข้าใจเร่ืองโครงสรา้ งประโยค ประโยคภาษา ภาษาองั กฤษ องั กฤษ อง 1.3 ครแู ละผเู้ รียนร่วมกนั วางแผนการจัดกจิ กรรม - ใบงาน เมตร ขั้นที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรยี นรู้ - แบบฝกึ หัด i Thai 2.1 ครใู ห้ใบความรเู้ ร่ืองโครงสรา้ งประโยคภาษาองั กฤษ - ค่มู อื หลกั 2.2. ครูใหผ้ ้เู รียนแบง่ กล่มุ วเิ คราะหป์ ระโยคตามตัวอย่าง ไวยากรณ์ แลว้ ใหว้ เิ คราะห์ประโยควา่ เปน็ ประโยคแบบใด ภาษาองั กฤษ 2.3 ครใู หผ้ ู้เรียนทาํ แบบฝกึ หดั เรอ่ื งโครงสรา้ งของประโยค ภาษาอังกฤษ ขน้ั ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละการน้าไปใช้ 3.1 ผเู้ รียนนําความรู้ท่ีไดไ้ ปวิเคราะหป์ ระโยคในการอ่าน บทความ ข่าวสาร วา่ เปน็ เหตุการณใ์ นอดตี ปัจจุบนั และ อนาคตได้ 3.2 ครใู ห้ผูเ้ รียนศึกษาเรื่องโครงสรา้ งของประโยคจาก บทความ ข่าวสารเพ่อื เก็บไวใ้ นแฟม้ สะสมงาน ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4.1 ครแู ละผู้เรยี นประเมนิ จากกระบวนการปฏบิ ัตงิ าน และการนําเสนอโดยใช้แบบสังเกต 4.2 ประเมนิ จากแบบฝกึ หัด
แผนการเรียนร้รู ายวิชา พต31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรยี นที่… ช่อื หน่วยการเรียนรู้ News & News headline เรื่องท รายวิชา/หวั ตัวชว้ี ดั เน้ือหา เร่ือง 1. เขา้ ใจและใชป้ ระโยคที่ 1. เสียง คาํ ศัพท์ วลี สาํ นวน ท่ี มกั ใชบ้ อ่ ย ๆ ในขา่ ว การพาดหัวขา่ ว และข่าว ซบั ซ้อนในสถานการณต์ า่ ง ๆ 2. องค์ประกอบของข่าว ประกอบด้วย (10 ช่ัวโมง) Headline, Sub headline, Lead และ Detail 2. ใช้ Tenses ที่ยงุ่ ยากและ 3. ประเภทของข่าว เช่น ข่าวการเมอื ง ซับซ้อน ข่าวการศกึ ษา ขา่ วกีฬา ขา่ วสงั คม 3. ศกึ ษาค้นคว้าความรแู้ ละ ขา่ วเศรษฐกิจ เปน็ ตน้ ข้อมลู จากส่ือ 4. โครงสร้างของการเขียนพาดหัวข่าวNe( ws หนังสือพมิ พ์ Headline) ได้แก่ 4. แลกเปล่ียนขอ้ มูลข่าวสาร 4.1 ขา่ วและพาดหัวขา่ ว ความรอู้ ย่างเปน็ ทางการ 4.2 การถามและตอบคาํ ถามจากข่าวด้วยคําถาม 5. สืบค้นข้อมลู ในด้านตา่ ง ๆ ท่เี ปน็ Wh-Question และ Yes/No จาก Internet 4.3 Question 4.3 การถามและแสดงความคดิ เห็นว่าเห็นดว้ ย หรอื ไม่เห็นดว้ ย เชน่ - Do you agree with this.................... ? - What do you think about................. . 4.4 Website ของหนังสอื พิมพ์ The Nation หรือ Bangkok Post เพอื่ ศึกษาข่าว ประเภท ต่าง ๆ ทส่ี นใจแลว้ วิเคราะห์ โครงสรา้ งของพาดหวั ข่าวนั้น ๆ หรอื บอก ประเภทของข่าวนั้น ๆ
1 ภาษาอังกฤษเพ่ือชวี ิตและสังคม ……………….. ปีการศกึ ษา…………………………. ที่ 13 การพาดหัวข่าว สปั ดาห์ท…่ี ………………………… การจดั กระบวนการเรียนรู้ สอ่ื และแหล่ง การวัดและ เรียนรู้ ประเมินผล ขั้นที่ 1 กา้ หนดสภาพปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้ -ประเมนิ จาก งานทส่ี ่ง 1.1 ครูทกั ทายพรอ้ มกบั นําตวั อยา่ งประโยคท่ีเกี่ยวกับ การพาดหวั ข่าวมาให้ผู้เรียน 1.2 ครแู ละผ้เู รยี นทําความเข้าใจเร่อื งคาํ ศพั ท์ วลี สํานวน ประโยคท่ีใชเ้ ขยี นพาดหวั ข่าว 1.3 ครูและผเู้ รียนร่วมกนั วางแผนการจดั กิจกรรม ข้ันที่ 2 แสวงหาข้อมูลและจดั การเรยี นรู้ - ใบความรู้ 2.1 ครูอธบิ าย และให้ใบความรเู้ กย่ี วกับคําศพั ท์ วลี เรือ่ งคาํ ศัพท์ สํานวน ประโยคทีใ่ ช้เขียนพาดหัวข่าว วลี สาํ นวน 2.2. แบ่งกล่มุ ใหผ้ ูเ้ รยี นฝกึ เขยี นพาดหวั ข่าว โดยใช้ ประโยคทีใ่ ช้ คาํ ศัพท์ วลีสาํ นวน ประโยคท่ีเกี่ยวข้อง เขยี นพาด 2.3 ครใู หผ้ เู้ รียนรว่ มวิเคราะหป์ ระโยคท่ีแตล่ ะกลมุ่ เขียน หวั ข่าว พาดหัวข่าว พรอ้ มกบั สรปุ - ใบงาน ขั้นท่ี 3 การปฏิบตั ิและการนา้ ไปใช้ - ประเมินจาก 3.1 ผู้เรียนนําความรทู้ ไี่ ดไ้ ปใชใ้ นการอ่าน การแปล ใบงาน ความหมายของหัวขอ้ ข่าวได้ 3.2 ครูใหผ้ เู้ รียนศกึ ษาคน้ ควา้ วลหี รือประโยคตวั อย่าง ของการพาดหัวขา่ วพร้อมกับแปลความหมาย เพิ่มเติมเพ่ือเกบ็ ไว้ในแฟม้ สะสมงาน ข้นั ท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 4.1 ครแู ละผูเ้ รียนนําพาดหัวขา่ วท่ีเก็บไว้ในแฟ้มสะสม
รายวชิ า/หัว ตัวช้วี ดั เน้ือหา เรื่อง - Subj. + V1 - Subj. + V3 - Subj. + to + V1 - Subj. + V. ing Noun phrase
การจดั กระบวนการเรยี นรู้ สื่อและแหล่ง การวดั และ เรยี นรู้ ประเมินผล งาน มาสรปุ เป็นองค์ความรู้ โดยประเมินคุณภาพ จากกระบวนการปฏบิ ัตงิ าน และผลงานในแฟ้ม สะสมงาน
แผนการเรยี นรู้รายวิชา พต31001 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ภาคเรยี นท…่ี ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ สาํ นวนสุภาษิต คําพงั เพย เรอื่ งที่ ๑๔ เปรียบ รายวชิ า/หวั เรื่อง ตวั ชี้วดั เนอ้ื หา เปรียบเทียบ 2. เปรยี บเทยี บ 1. เปรยี บเทยี บ ส้านวน คา้ พงั เพย สภุ าษติ บทกลอน สาํ นวน คาํ พังเพย สภุ าษิต ความแตกต่าง ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ (10 ช่วั โมง) ระหวา่ ง 3.1 คําและสํานวนท่ีได้รับอิทธิพลจากศาสนา เชน่ วัฒนธรรม องั กฤษกบั - Oh, god! = คณุ พระชว่ ย วฒั นธรรมไทย - Oh, my god! = พุทโธ ธมั โม สงั โฆ etc. 1.2 คาํ พงั เพย สภุ าษติ ทมี่ ักจะใช้ในชวี ิตประจําวัน เชน่ - It’s a piece of cake. (ปลอกกลว้ ยเขา้ ปาก) - Silence is gold. (นง่ิ เสยี ตาํ ลึงทอง) - Time and tide wait for no one. (เวลาและวารีไม่เคยคอยใคร) ลกั ษณะของบทกลอนภาษาไทยกบั ภาษาอังกฤษที่ เหมือนและแตกต่างกัน แรงบนั ดาลใจของกวใี นการแต่ง คําประพนั ธ์พร้อมตัวอยา่ งทีม่ กั ได้ยินเสมอ ๆ เชน่ Roses are red, violets are blue, sugar is sweet, but not as sweet as you. แม้เน้อื เย็นเปน็ หว้ งมหรรณพ จะขอพบศรีสวสั ดิ์เปน็ มัจฉา แม้เป็นบวั ตวั พ่ีเปน็ ภุมรา
1 ภาษาอังกฤษเพ่อื ชวี ติ และสงั คม ……………….. ปีการศึกษา…………………………. บเทยี บ สํานวน คาํ พงั เพย สุภาษิต สัปดาห์ท่ี…………………………… การจดั กระบวนการเรยี นรู้ สอ่ื และแหลง่ การวดั และ เรยี นรู้ ประเมินผล ขั้นที่ 1 ก้าหนดสภาพปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้ - แบบฝึกหดั 1.1 ครนู ําภาพสาํ นวน คําพังเพย สุภาษิต มาให้ผู้เรียนดู 1.2 ครูและผู้เรียนทําความเขา้ ใจสาํ นวน คําพงั เพย สุภาษิต 1.3 ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั วางแผนการจัดกิจกรรม ข้นั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และจัดการเรียนรู้ - ใบงาน 2.1 ครูให้ผเู้ รียนแบ่งกลมุ่ และใหแ้ ปลความหมายของ - แบบฝึกหดั สาํ นวนคาํ พงั เพย สุภาษิต ตามใบงานพร้อมกับ - ภาพตัวอยา่ ง นําเสนอ สํานวน 2.2 ครใู ห้ผเู้ รียนทําแบบฝึกหัดเรอื่ งคําพงั เพย สุภาษติ สภุ าษิตและ ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ัติและการนา้ ไปใช้ คาํ พังเพย 3.1 ผ้เู รยี นนําความร้ทู ไี่ ด้ไปอา่ นประโยคสาํ นวนสุภาษติ คาํ พังเพยได้ 3.2 ครูให้ผู้เรยี นศึกษาเพ่มิ เติมเกยี่ วกับสาํ นวนสภุ าษิต ง คําพังเพย เกบ็ ไว้ในแฟม้ สะสมงาน ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 4.1 ครแู ละผเู้ รยี นประเมนิ จากกระบวนการปฏบิ ัตงิ านและ การนําเสนอโดยใช้แบบฝึกหัด
รายวชิ า/หวั เรื่อง ตวั ชี้วดั เนอื้ หา เชยผกาโกสมุ ภ์ประทมุ ทอง แม้เป็นถา้ํ อําไพใครเ่ ปน็ หงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคสู่ อง จะตดิ ตามทรามสงวนนวลละออง เป็นคู่ครอง พสิ วาส ทุกชาติไป etc.
การจดั กระบวนการเรียนรู้ ส่อื และแหลง่ การวดั และ เรยี นรู้ ประเมินผล
การใช้พจนานกุ รมในการอ่านภาษาอังกฤษ ส่วนมากเร่ืองที่นักศึกษาอ่านมักจะมีคาํ ท่ีนกั ศกึ ษาไม่เคยร้จู ักมากอ่ นเลย ปะปนอยู่ด้วย ตามปรกตินักศกึ ษาไมจ่ ําเป็นต้องเขา้ ใจคาํ ทุกๆ คําในยอ่ หน้าใดย่อหน้าหนงึ่ เพ่อื ที่จะเข้าใจสงิ่ ท่ีผเู้ ขียนเขียนใน ยอ่ หน้าน้นั อย่างไรกต็ าม คําบางคาํ ที่สําคัญมาก หากไม่ทราบความหมายของคาํ น้นั เม่ืออยใู่ นเนอื้ ความแล้วนกั ศึกษากอ็ าจ พลาดใจความสาํ คญั ของเร่ืองราวหรือเขา้ ใจเร่ืองราวน้ันผิดไป วธิ หี นึง่ ท่ีจะหาความหมายของคาํ ท่ีเข้าใจก็คือ ดใู นพจนานกุ รม เราเหน็ ว่านกั ศึกษาจําเปน็ ตอ้ งรู้วธิ ีใชพ้ จนานุกรมอย่างมีประสิทธภิ าพ ดงั นัน้ เพ่อื ชว่ ยให้นสิ ิตเสริมสร้างทกั ษะน้ี จงึ มีภาคการ ใชพ้ จนานกุ รมนีข้ ึ้น ซง่ึ จะสาธิตวิธใี ชพ้ จนานกุ รมฉบบั Oxford Advanced Learner’s Dictionary of Current English (OALDCE) เหตุทเ่ี ลือกพจนานุกรมเลม่ น้ี กเ็ พราะเป็นพจนานุกรมทีจ่ ดั ทาํ ขนึ้ สําหรับนักเรยี นตา่ งประเทศท่ีเรยี นภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะ ระหวา่ งทีเ่ รยี นวชิ าภาษาองั กฤษพนื้ ฐานนี้ นักศกึ ษาจาํ เป็นตอ้ งใช้ OALDCE และโปรดนาํ พจนานกุ รมฉบับดงั กลา่ ว ตดิ ตัวมาด้วยเมื่อเขา้ เรยี น Alphabetical Order: ตัวอักษรภาษาองั กฤษมี 26 ตัว โดยเรียงกนั ตามลําดบั อักษร ( alphabetical order) คําในพจนานกุ รมจะเรียงกนั ตามลําดบั ตัวอกั ษร ยกตวั อย่างเชน่ bird ant rat fish eagle cat Alphabetical order ของคาํ เหลา่ นี้คอื ant bird cat eagle fish rat Quizzes Guide Words : ตอนบนสดุ ของพจนานกุ รมแต่ละหน้า จะมีคาํ 2 คาํ พมิ พ์อยคู่ ําท้ังสองน้ี เรยี กวา่ Guide word ตวั Guide word ชว่ ยใหท้ า่ นหาคาํ ศพั ท์ในพจนานุกรมไดเ้ ร็วขน้ึ Headword a) ข้อมูลเกย่ี วกับ headword ประกอบดว้ ย 1. การออกเสียงของคํานนั้ ๆ ( Pronunciation) 2.หน้าทีท่ างไวยกรณห์ รือประเภทของคํา (Part of Speech) 3. คําจาํ กัดความ (Meaning) อย่างน้อยที่สดุ พจนานุกรมสว่ นมาก จะให้ขอ้ มูลดังกลา่ วสําหรับ headword แต่ละคํา b) entry ทใ่ี หเ้ ปน็ ตวั อยา่ งน้ี มีขอ้ มูลอื่นรวมอยู่ดว้ ยคือ 1.วลีที่เป็นสาํ นวน (Idiomatic Expression) 2. คาํ อน่ื ๆ ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับ headword 3. ตวั อยา่ งการใช้คํา (Example)
c) พจนานกุ รมฉบับน้ใี ชต้ ัวพิมพ์ (Type) ชนดิ ตา่ งๆ กันเพ่อื ให้ท่านหาขอ้ มูลต่างๆ ในแต่ละ entry ได้งา่ ยขน้ึ ตวั พมิ พเ์ หลา่ นีไ้ ดแ้ ก่ 1. ตัวพิมพห์ นา (Bold Type) สาํ หรับ headword และคาํ อ่ืนท่ีเกย่ี วขอ้ ง ซ่ึงมีคําจาํ กดั ความ อยู่ใน entry 2. ตัวพมิ พธ์ รรมดา (Regular Type) สําหรบั คําจาํ กดั ความ (Meaning) 3. ตวั พมิ พเ์ อนหนา (Bold Italic Type) สําหรบั วลที เี่ ป็นสาํ นวน 4. ตวั พมิ พ์เอน (Italic Type) สาํ หรบั ตวั อย่างการใช้คาํ Abbreviation (abbrs.) ตามพจนานกุ รม OALDCE คํา abbriviation หมายถึง shortend form, esp. of a word โปรดสังเกตคํา esp. ในคําจาํ กัดความ คํานี้ยอ่ มาจาก especially abbriviation (abbrs.) คือ คํายอ่ ทีใ่ ชใ้ นพจนานุกรมเพ่ือประหยัดเนอื้ ท่ี Definition คือการบอกความหมายของคาํ ทเ่ี ราตอ้ งการหา ถอื ว่าเป็นสว่ นท่สี ําคญั ปญั หามากท่ีสดุ ในการใหค้ ําจํากัด ความ ใบงาน เร่อื ง คําศพั ท์ 10 คาํ คาํ ช้แี จง จงหาความหมายของคําศัพท์ในพจนานุกรมดังต่อไปน้ี 1. Mother ความหมาย……………………………………………………………………….. 2. Desk ความหมาย……………………………………………………………………….. 3. Computer ความหมาย……………………………………………………………………….. 4. Turn on ความหมาย……………………………………………………………………….. 5. Clock ความหมาย……………………………………………………………………….. 6. Chair ความหมาย……………………………………………………………………….. 7. Pencil ความหมาย……………………………………………………………………….. 8. Shoe ความหมาย……………………………………………………………………….. 9. Bag ความหมาย……………………………………………………………………….. 10. Money ความหมาย………………………………………………………………………..
ใบงาน หาคา้ ศัพทจ์ ากพจนานกุ รม หนว่ ยการเรยี นรู้ การใช้พจนานกุ รมภาษาอังกฤษ จาํ นวน 10 ช่ัวโมง วิชา ภาษาองั กฤษเพ่ือชวี ติ และสังคม ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย ค้าชีแ้ จง จงหาคาํ อา่ น ความหมาย ของคําศพั ทใ์ นพจนานกุ รมดงั ตอ่ ไปน้ี 1. Mother คาํ อ่าน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 2. Desk คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 3. Computer คําอา่ น.............................................................. ความหมาย…………………………………………………
4. Turn on คําอ่าน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 5. Clock คาํ อ่าน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 6. Chair คําอา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 7. Pencil คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 8. Shoe คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 9. Bag คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 10. Money คําอา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… ใบงาน หาค้าศพั ทจ์ ากสถานท่ตี า่ ง ๆ หน่วยการเรียนรู้ การใช้พจนานกุ รมภาษาองั กฤษ จาํ นวน 10 ช่ัวโมง วิชา ภาษาอังกฤษเพ่อื ชีวิตและสงั คม ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย ค้าช้ีแจง จงหาความหมายของคาํ ศัพทใ์ นพจนานกุ รมดงั ต่อไปนี้ 1. …………………..….…. คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 2. …………………..….…. คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 3. …………………..….…. คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 4. …………………..….…. คําอา่ น.............................................................. ความหมาย…………………………………………………
5. …………………..….…. คาํ อ่าน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 6. …………………..….…. คําอา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 7. …………………..….…. คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 8. …………………..….…. คาํ อ่าน.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 9. …………………..….…. คาํ อา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… 10…………………..….…. คําอา่ น.............................................................. ความหมาย………………………………………………… บันทกึ หลังการสอน รายวชิ า ภาษาตา่ งประเทศ (พต 31001) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ชวั่ โมงที่ .............วนั ท่ี ............เดอื น................................พ.ศ......................... สาระการเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ..กระบวนการจดั การเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ..สอื่ ประกอบการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ..การวัดผลประเมนิ ผล ....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... ..ปัญหาและอุปสรรคในการ เรียนรู้ ....................................................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................... ข้อปรบั ปรงุ แกไ้ ข และ ขอ้ เสนอแนะ ....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... .. ลงช่ือ......................................................ผบู้ นั ทึกหลังการสอ น (................................................... ...................) ขอ้ คิดเหน็ / เสนอแนะ ของผ้นู เิ ทศ / ผบู้ ริหาร
....................................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................... .. ลงช่ือ................................................. ผู้นิเทศ/ ผบู้ รหิ าร (......................................................................)
Search
