Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ใบความรู้เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก

ใบความรู้เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก

Published by Supakrit Seangprampai, 2022-07-17 06:29:36

Description: ใบความรู้เลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติก

Keywords: ใบความรู้เลี้ยงปลาดุก

Search

Read the Text Version

ใบความรู้ กิจกรมท่ี ๑ กิจกรรมความรู้เบอ้ื งต้นของการเลยี้ งปลาดกุ ในบ่อพลาสตกิ เรื่องท่ี ๑ ความหมาย วตั ถปุ ระสงค์ และขอ้ ดีของการเลี้ยงปลาดุกในบอ่ พลาสติก ปลาดุก เปน็ สกลุ ของปลาหนังน้าจืดในสกุล Clarias (/คลา-เรยี ส/) ในวงศ์ Clariidae โดยค้าวา่ Clarias มาจากภาษากรีกค้าว่า chlaros หมายถึง \"มชี ีวติ \" มีความหมายถึง การที่ปลาสกลุ นีสามารถใช้ชีวติ อยู่ ได้บนบกหรือสภาพทีข่ าดนา้ มกี ารแพรก่ ระจายพันธุใ์ นนา้ จดื และน้ากรอ่ ยตามแหล่งน้าของทวีปเอเชียและ แอฟรกิ า เป็นปลาไมม่ ีเกล็ด ล้าตวั ยาว มหี วั ท่ีแบนและแขง็ มหี นวดยาวแปดนวิ มคี รบี หลงั และครีบกน้ ยาวเกนิ ครึ่งของความยาวลา้ ตวั จุดเร่มิ ตน้ ของครีบหลังอยู่ลา้ หน้าจดุ เร่ิมต้นของครบี ท้อง ครบี หลงั ไม่มีเงี่ยงแข็ง ไม่มี ครีบไขมนั ครีบหางมนกลม ครีบทังหมดเป็นอสิ ระจากกนั สามารถหายใจและครบี คลานบนบกได้เมอื่ ถึงฤดู แล้ง เปน็ ปลาวางไข่ เปน็ ปลากนิ เนือโดยเฉพาะเมื่อตัวโตเตม็ ที่ชอบกนิ ปลาอ่ืนท่ีตวั เลก็ กว่าเปน็ อาหาร รวมถงึ กนิ ซากพชื และซากสัตวอ์ กี ด้วย ปลาดุก เปน็ ปลาทอ่ี าศัยอย่ใู นแหล่งน้าจดื น้าท่คี อ่ นข้างกรอ่ ย หรอื แม้แตใ่ นหนองน้าทีม่ ีน้าเพยี ง เลก็ น้อยเพราะว่าปลาดกุ เปน็ ปลาท่ีมอี วัยวะพิเศษช่วยในการหายใจเช่นเดียวกบั ปลาช่อนจงึ สามารถด้ารงชวี ิต อย่ใู นน้าท่ีมีออกซเิ จนเพียงเล็กน้อยไดเ้ ปน็ อยา่ งดี อกี ทังเปน็ ปลานา้ จดื ท่ีคนไทยนยิ มรบั ประทาน ปลาดุกจะพบ ได้ทั่วไปในแถบเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ เช่น ประเทศอินเดีย พม่า ไทย ลาว กมั พูชา ฟิลิปปนิ สเ์ วยี ดนาม และ มาเลเซีย สา้ หรบั ประเทศไทยพบปลาดกุ ในคลอง หนอง บึง ตา่ ง ๆ ทัว่ ทุกภาค เป็นปลาทีอ่ าศัยอยูใ่ นแหล่งนา้ จืดท่วั ไป ปลาดุกทีพ่ บในประเทศไทยมีอย่ดู ว้ ยกันทังหมด ๕ ชนดิ แตท่ เี่ ป็นที่รจู้ ักมีเพยี ง ๒ ชนิด คอื ปลาดกุ อยุ และปลาดุกด้าน ปลาดกุ ท่ีนิยมเลียงคือ ปลาดกุ ด้าน เพราะเนือปลาดกุ ดา้ นค่อนข้างแขง็ ทา้ ให้สามารถขนสง่ ได้ในระยะทางไกล ๆ ประกอบ กับปลาดกุ ดา้ นเลียงง่าย โตเรว็ จงึ เปน็ ท่นี ยิ มเลียงกนั มาก แต่ส้าหรับผู้บริโภค แล้ว จะนิยมปลาดกุ อุยเพราะให้รสชาตดิ เี นือปลาน่มุ ฟู กลิน่ ดี เกษตรกรรายย่อยที่อยู่ในพืนท่ีห่างไกลและขาด แคลนนา้ หรือในเขตพืนท่ีสูง ฐานะยากจนมักประสบปัญหาขาดแคลนอาหารโปรตนี ดังนันการเลียงปลาดกุ บก๊ิ อุยในบอ่ พลาสตกิ เปน็ ทางเลือกหนง่ึ ทจี่ ะส่งเสริมและพฒั นาครอบครวั ท่ียากจนไมใ่ หข้ าดแคลนอาหารโปรตีน ปัจจบุ นั ปลาดุกเป็นที่นยิ มเลียงของ เกษตรกร เนื่องจากเลียงงา่ ย เจรญิ เตบิ โตเร็ว อกี ทงั ยังทนทานต่อโรคและสภาพแวดล้อม เปน็ ที่ นิยมบริโภคของประชาชนเนื่องจากรสชาติดีและ ราคาไมแ่ พงสามารถเลียงไดท้ ังในบอ่ ดนิ บ่อ ซเี มนต์ และบ่อพลาสติก ถา้ มีพืนท่ีจา้ กัด การ เลยี งในบ่อพลาสตกิ ก็เป็นทางออกท่ดี ีและ ประหยัด โดยทีใ่ นบอ่ พลาสติกจะมีอายุการใช้ งานประมาณ ๓ - ๕ ปี วัตถปุ ระสงคใ์ นการเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสตกิ ๑. เป็นการส่งเสรมิ ใหป้ ระชาชนลดรายจา่ ยในครัวเรอื น โดยการเลียงปลาเพ่อื เปน็ อาหารบริโภคเอง ๒. เปน็ การส่งเสรมิ และสนบั สนนุ แนวทางเศรษฐกิจพอเพยี ง ๓. เปน็ การพัฒนาอาชพี การเลยี งปลาแบบพอเพยี งไปส่รู ะบบการเลียงปลาเชงิ พาณิชย์ ๔. ให้มอี าหารโปรตนี จากปลาบริโภคในครวั เรอื น

ข้อดขี องการเล้ียงปลาดุกในบ่อพลาสตกิ ๑. ใช้พืนที่เลียงน้อย และสามารถเลียงได้ทุกพืนที่ ๒. การก่อสรา้ งบอ่ เลียงง่าย สะดวกและรวดเรว็ ๓. ใชร้ ะยะเวลาในการเลียงสัน แต่ละรุ่นใชเ้ วลาเลียงเพยี ง ๙๐ – ๑๒๐ วัน ๔. ปลาดกุ เป็นปลาที่อดทนตอ่ สภาพน้าได้ดี ๕. ปลาดกุ สามารถเลียงและดูแลรักษาได้สะดวก นอกจากจับมาบรโิ ภคในครวั เรือนแล้วส่วนท่เี หลือก็ นา้ ไปขายเป็นรายไดเ้ สริมใหก้ บั ครอบครัว เร่อื งที่ ๒ การเลอื กสถานทส่ี ร้างบอ่ การเตรียมพันธุ์ และการปลอ่ ยปลาดุก การเลอื กสถานท่ีสรา้ งบอ่ - อย่ใู กล้บ้าน - อยทู่ ร่ี ม่ หรอื มหี ลงั คา - มแี หล่งนา้ ส้าหรับการเปล่ยี นถ่ายนา้ ได้สะดวก การเตรยี มพันธ์ุปลาและการปล่อยปลา - ควรจดั ซือพันธ์ุปลาจากฟาร์มที่เชือ่ ถอื ได้ - ปลาท่ีปล่อยควรมขี นาดใกล้เคียงกัน - ก่อนปล่อยปลาควรปรับอุณหภูมนิ ้าในถุงบรรจุปลา โดยลอยถงุ ปลาในบ่อ ๒๐-๓๐ นาที แล้วจึงค่อย ปลอ่ ยปลาลงในบ่อ ใบความรู้ กจิ กรมท่ี 2 กจิ กรรมเรยี นรรู้ อบดา้ นการเลยี้ งปลาดกุ ในบอ่ พลาสติก เรอ่ื งที่ 1 วิธีการเล้ียงปลาดกุ ในบอ่ พลาสตกิ

๑. ขนาดปลาทจ่ี ะนา้ มาเลียง ควรมีขนาดความยาวประมาณ ๒ – ๓ เซนตเิ มตรขนึ ไป ไม่ควรน้าปลา มาเลียงในฤดหู นาวเพราะปลามีความต้านทานตอ่ โรคต่า้ ๒. อัตราการเลียง ปลอ่ ยลูกปลาในอัตรา ๑๐๐ ตวั /ตารางเมตร ๓. การปลอ่ ยปลา ควรแชถ่ ุงลูกปลาไว้ในบ่อเลียง ๓๐ นาทีจึงคอ่ ย ๆ ปลอ่ ยลงบอ่ ในช่วงแรกท่ีปล่อย ใหเ้ ติมนา้ ลงบอ่ มีความสงู ประมาณ ๑๐ เซนตเิ มตร แล้วคอ่ ยเพิ่มระดบั น้าขนึ ไปเร่ือย ๆ ทุก ๆอาทิตย์จนมรี ะดบั สงู สดุ ๓๐ -๕๐ เซนตเิ มตร การจัดการนา้ ในบอ่ เลี้ยง - ในชว่ งแรกทปี่ ลอ่ ยปลาให้เติมนา้ ลงในบ่อให้มีความสูงประมาณ ๓๐ ซม. แลว้ ค่อยๆ เพิ่มระดับนา้ ขึน ไปเร่อื ย ๆ จนมีระดับสูงสดุ ๕๐-๗๐ ซม. (เพ่มิ ระดับน้า ๕ ซม./สัปดาห์) - ระหว่างการเลียงปลา ใหใ้ ช้ EM สาดให้ท่วั บ่อ สัปดาหล์ ะ ๑ ครัง เพือ่ บ้าบัดน้า ซ่ึงการเลียงแบบนีไม่ ต้องเปล่ยี นถ่ายนา้ ตลอดระยะเวลาการเลียง การให้อาหาร - เริม่ แรกให้อาหารเม็ดเลก็ และบบุ พอแตกสา้ หรับปลาเล็ก อาหารสดพวกเศษเนือสับให้ปลากินได้ ตวั ปลวก แมลงเมา่ และแมลงอ่ืน ๆ โปรยให้ปลากิน ควรให้อาหารเปน็ เวลา วนั ละ ๒ มอื เชา้ -เยน็ ไม่ควรให้ อาหารปลามากเกนิ ไปเพราะจะท้าใหน้ ้าเนา่ เสีย - เมอ่ื อากาศครึมหรือฝนตก งด ใหอ้ าหารปลา การให้อาหาร ผู้เลียงตอ้ งอาศยั การสงั เกต ตรวจสอบ พฤตกิ รรมการกนิ ของสัตว์นา้ เพ่ือเปน็ ข้อมูลในการปรับเปลีย่ นปรมิ าณและความถ่ีของการใหอ้ าหารให้ถูกต้อง เหมาะสมส้าหรบั ปลา เมอ่ื ให้อาหารแลว้ อาหารท่ีให้ควรหมดภายในเวลา ๑๕ - ๒๐ นาที ดังนันเพอื่ ใหง้ า่ ยใน การปฏบิ ตั ิ ควรสังเกตจากมือแรกท่ีให้อาหารแลว้ ปรับปริมาณการให้ทกุ ๗ วัน เชน่ มือแรกใหอ้ าหารปลา ประมาณ ๓๐๐ กรมั ถา้ ภายใน ๒๐ - ๓๐ นาทปี ลากินหมด แสดงวา่ อาหารไม่พอ ให้เพิ่มอาหารเล็กนอ้ ย ถ้าภายใน ๒๐ - ๓๐ นาทปี ลากนิ ไม่หมด ให้ลดอาหารลง เมอ่ื ครบ ๗ วนั ให้ปรับอาหารใหม่ เพ่ิมอีก ๕๐ กรัม เป็น ๓๕๐ กรมั จนครบ ๗ วัน ใหป้ รับการให้ อาหารอกี คือ ปรับเพิม่ อาหารทุก ๗ วนั

ผลผลิต ๑. ระยะเวลาการเลียงประมาณ ๓ - ๔ เดือน ไดป้ ลาขนาด ๑๐๐ - ๒๕๐ กรัม/ตวั ๒. อตั รารอดประมาณ ๘๐ – ๙๕ % เกรด็ ความรู้ ๑. การซือพันธปุ์ ลากอ่ นการเคล่อื นยา้ ยใหป้ ลาอดอาหาร ๑ – ๒ วนั เพอ่ื ปอ้ งกันปลาดินและท้าให้ ปลาไส้ขาด เวลาเลียงปลาจะไมโ่ ต ๒. การเคลอ่ื นยา้ ยปลาให้เตรยี ม นา้ มนั พชื ๓๐ ซีซี : เกลอื ๑ ชอ้ นโตะ๊ คนใหเ้ ข้ากันตกั ใสใ่ นถุงหรือที่ มพี นั ธุ์ปลา อยปู่ ระมาณ ๑ ช้อนชา เพือ่ ปอ้ งกนั ปลาบาดเจบ็ ๓. การปอ้ งกนั ปลาหนีจากบ่อเวลาฝนตก ใช้วิธีหากมฝี นตกให้หวา่ นอาหารให้ปลากิน สัก ๒ – ๓ ครัง เพ่อื หลอกวา่ เวลาฝนตกจะไดก้ ินอาหารแลว้ ปลาจะไม่หนี ๔. การเปลยี่ นถ่ายนา้ ใหด้ ูดนา้ ออก ๑ ส่วน ใน ๓ ส่วน และน้าน้าท่ใี ส่ใหมใ่ ห้ท้าเปน็ ละอองฝอยโดยใช้ สายยางเพ่อื เพม่ิ ออกซเิ จนใหแ้ ก่ปลา ๕. การจับปลาเพ่อื บริโภคโดยใช้วธิ ีใช้สายยางฉดี น้าเหมือนกบั ฝนตกปลาจะเลน่ น้า จากนันใชส้ วิงตัก ปลา ที่เล่นนา้ ทันที ปลาจะไม่รสู้ กึ ถึงอนั ตรายและจะกินอาหารตอ่ และไมห่ นี โรคปลาดกุ ในกรณีที่มกี ารป้องกนั อยา่ งดแี ล้วแต่ปลาก็ยังปว่ ยเปน็ โรค ซงึ่ มักจะแสดงอาการให้เห็น โดยแบง่ อาการของโรคเปน็ กล่มุ ใหญ่ ๆ ดงั นี ๑. การติดเชือจากแบคทเี รยี จะมกี ารตกเลือด มีแผลตามลา้ ตัวและครบี ครีบกรอ่ น ตาขุ่น หนวดหงิก กกหูบวม ท้องบวมมีนา้ ในช่องท้องกินอาหารนอ้ ยลงหรือไม่กินอาหาร ลอยตัว ๒. อาการจากปรสิตเข้าเกาะตวั ปลา จะมเี มอื กมาก มแี ผลตามล้าตวั ตกเลอื ด ครีบเปอื่ ย จดุ สขี าวตาม ล้าตัว สีตามล้าตวั ซดี หรอื เขม้ ผดิ ปกติ เหงอื กซีดวา่ ยนา้ ทุรนทรุ าย ควงสวา่ นหรือไม่ตรงทศิ ทาง ๓. อาการจากอาหารมคี ณุ ภาพไมเ่ หมาะสม คอื ขาดวติ ามนิ บีกะโหลกร้าว บริเวณใตค้ างจะมีการตก เลอื ดตวั คด กินอาหารนอ้ ยลง ถา้ ขาดวติ ามนิ บีปลาจะว่ายนา้ ตัวเกรงและชกั กระตกุ ๔. อาการจากคุณภาพน้าในบอ่ ไมด่ ี ปลาจะว่ายนา้ ขนึ ลงเรว็ กวา่ ปกติลอยหวั ครีบกรอ่ นเป่อื ย หนวด หงกิ เหงือกซีดและบวม ลา้ ตัวซดี ไมก่ นิ อาหาร ท้องบวม มแี ผลตามตวั


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook