Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore pladookbigui

pladookbigui

Published by hiyeeding, 2018-07-02 00:37:38

Description: pladookbigui

Search

Read the Text Version

การเลยี้ งปลาดกุ บ๊กิ อุยคาํ นาํ ปลาดกุ อุย ( Clarias macrocephalus ) เปนปลาพื้นบานของไทยชนิดไมมี เกลด็ รปู รางเรยี วยาวมหี นวด 4 เสน ทีร่ มิ ฝป าก ผิวหนงั มสี ีนาํ้ ตาล เนอ้ื มีสเี หลือง รสชาติอรอยนมุ นวลสามารถนํามาปรงุ แตง เปนอาหารชนดิ ตาง ๆ ไดม ากมาย ในประเทศ ไทยมพี นั ธปุ ลาดุกอยจู ํานวน 5 ชนิด แตท เี่ ปนท่รี จู กั ทวั่ ๆไปคอืปลาดุกอุยและปลาดุกดา น ( Clarias batrachus ) ซ่ึงในอดตี ทัง้ ปลาดุกอยุ และปลาดกุ ดา นไดมีการเพาะเล้ียงกันอยา งแพร หลาย เมอ่ื ไมนานมานีเ้ องเกษตรกรไดน ําพันธปุ ลาดุกชนดิ หนึ่งเขา มาเลยี้ งใน ประเทศไทย ซึ่งอธิบดีกรมประมงไดม คี าํ สง่ั ใหก ลมุ วจิ ยั การเพาะเลีย้ งสตั วน ํ้า สถาบันวจิ ยั การเพาะเลย้ี งสตั วน ํ้าจดื ดาํ เนนิการศึกษาพบวา เปนปลาในตระกูล แคทฟช เชน เดยี วกับปลาดกุ อุย มีถ่นิ กาํ เนิดในทวปี แอฟรกิ า มชี ่ือวา( Clarias gariepinus African sharptooth catfish ) เปน ปลาทีม่ กี ารเจริญเตบิ ใจรวดเร็วมาก สามารถกินอาหารไดแ ทบทกุ ชนดิ มีความตานทานโรคและสภาพ แวดลอมสูงเปนปลาท่มี ขี นาดใหญ เม่อื เจริญเติบโตเต็มท่ี แตปลาดกุ ชนิดนมี้ เี นือ้ เหลว และมสี ีซีดขาว ไมนารบั ประทาน ซึง่ กรมประมงไดใ หชอื่ วา ปลาดุกเทศ จากการศกึ ษาทางลักษณะรูปรา งและชีววทิ ยาของปลาดกุ เทศทางกลุม วจิ ยั การเพาะเลีย้ งสัตวน ํ้าสถาบันวิจยั การเพาะเลย้ี งสตั วน า้ํ จดื ไดทาํ การเพาะขยาย พันธปุ ลาโดยนาํ มาผสมพันธุก บั ปลาดุกอยุ และปลาดกุ เทศ ผลปรากฏวาการผสมขา มพันธรุ ะหวางปลาดุกอยุ เพศเมยี ผสมกบั ปลาดุกเทศเพศผู สามารถเพาะขยายพนั ธุไดด ี ลูกท่ีไดมีอัตราการเจรญิ เตบิ โตรวดเร็ว ทนทานตอ โรคสูง มลี ักษณะใกลเ คียงกบั ปลาดกุ อุย จงึทําใหเกษตรกรนาํ วธิ ีการผสมขา ม พนั ธไุ ปปฏบิ ตั ิ กนั อยา งแพรหลาย ซง่ึ ลูกหลานทีเ่ กดิ จากคผู สมนท้ี างกรมประมงใหชื่อวา ปลาดกุ อยุ -เทศ แตโดยทว่ั ๆไปชาวบา นเรียกกนั วา บก๊ิ อยุ หรอื อยุ บอ สวนการผสมขามพันธุระหวา งปลาดกุ อุยเพศผกู บั ปลาดุกเทศเพศเมีย ลูกทไี่ ดไมแ ขง็ แรงและเหลือรอดนอย เมื่อเทยี บกับการเพาะพนั ธเุ พอ่ื ใหไ ดป ลาบก๊ิ อุย สวน การผสมขามพันธรุ ะหวา งปลาดกุ ดานกับปลาดกุ เทศ ไมป ระสบผลสาํ เรจ็ เทาที่ควร ในปจจุบนั นีอ้ าจกลา วไดวา ปลาดกุ ลกู ผสมอุย-เทศ หรือบ๊ิกอุย นน้ั เปน ท่นี ยิ มเล้ียงของเกษตรกร เน่ืองจากเลี้ยงงาย มกี ารเจริญเตบิ โตรวดเร็ว อกี ท้งั ทนทานตอ โรคและสภาพแวดลอมไดด ี ทงั้ ยังเปนท่นี คิ มบรโิ ภคของประชาชน เนอื่ งจากมรี สชาติดแี ละราคาถกู

ขอแตกตางระหวา งปลาดุกอยุ และปลาดุกเทศลกั ษณะ ปลาดุกอุย ปลาดกุ เทศ เลก็ คอ นขา งรีไมแบนกะโหลกจะมีล่ืนมรี อยบมุ ใหญแ ละแบนกะโหลกจะเปน1.หัว ตรง ตมุ ๆ ไมเรยี บ กลางเล็กนอ ย มรี อยบุม ตรงกลางเล็กนอย2.ใตคาง มีสีคลาํ้ ไมข าว สขี าว3.หนวด มี 4 คู โคนหนวดเล็ก มีสคี ู โคนหนวดใหญ4.กะโหลกทา ยทอย โคงมน หยักมี 3 spyd5.ปาก ไมป า นคอ นขา งมน ปาน แบนหนา มเี งยี่ งใหญ สน้ั น่มิ ไมแ หลมคม6. ครีบหู มีเงีย่ งเลก็ ส้นั แหลมคมมาก ครีบแขง็ ยน่ื ยาวเกนิ และสวน ของครบี ออนหมุ ถงึ หรือเทา กบั ครบี ออน ปลายครีบแข็ง ปลายครีบสแี ดง7.ครบี หลงั ปลายครีบสเี ทาปนดํา กลมใหญ สีเทา ปลายครีบมสี ี แดงละมแี ถบสีขาดลาดบรเิ วณ8.ครีบหาง กลมไมใหญมากนกั สเี ทาปนดาํ คอดหาง9.สัดสวนระหวางหวั : 1:4 1:3ตวั เทา เทาอมเหลอื ง10.สีของลําตวั ดํา นํ้าตาลปนดําทีบ่ ริเวณดานบนของลาํ ตวั ไมมจี ุด เมอื่ ปลาโตข้ึนจะ ปรากฏคลายหินออนอยทู วั่ ตวั11.จดุ ที่ลําตัว ขณะที่ปลาขนาดเลก็ จะปรากฏจุดขาวเรยี งขวาง ประมาณ 9-10 แถว เมอื่ ปลามขี นาดใหญจ ดุ จะ ผนงั ทองมีสขี าวตลอดจนถงึ เลือนหาย ไป โคนหาง12.ผนงั ทอ ง มสี ขี าวเหลอื ง บรเิ วณอกถึงครีบทอ ง การเพาะผสมเทียมปลาดกุ บก๊ิ อุย การเลย้ี งพอ-แมพ ันธุ ควรเล้ยี งในบอ ดนิ ท่มี ีขนาดตง้ั แต 100 ตารางเมตรขึน้ ไป โดยปลอ ยในอตั รา 20-30 ตวั /ตรม. ที่ระดับความลกึ ของนาํ้ ประมาณ 1.0-1.5 เมตร ควรมีการถายเทนํ้าบอย ๆ เพื่อกระตุน ใหป ลากนิ อาหารไดดี

และพฒั นาระบบสบื พนั ธุของปลาใหม ีไขแ ละน้าํ เชื้อดยี ง่ิ ขึน้ จะใชเ วลาประมาณ 3-4 เดอื นฤดูกาลผสมพนั ธุป ลาดุก จะอยูใ นชว งเดือนมีนาคม- ตุลาคมกอนฤดกู าลผสมพนั ธุ ในชว งเดือนกุมภาพันธุควรเริม่ คดั ปลาท่มี ีไขแกส มบรู ณบ างสวนมาเร่ิม ดาํ เนินการผสมเทียม. การคัดเลือกพอ - แมพ ันธุ พอแมพนั ธปุ ลาดุกท่นี ํามาใชควรเปน ปลาทส่ี มบรู ณ ไมบอบช้ําและควรมอี ายตุ ง้ั แต 1 ปข้ึนไปการสงั เกตลกั ษณะปลาเพศเมยี ท่ีดีในการเพาะ พนั ธดุ ูไดจ ากสว นทอ งจะอูมเปง ไมนมิ่ หรือแขง็ จนเกนิ ไป ต่ิงเพศจะมลี ักษณะกลมมีสแี ดง หรอื ชมพอู มแดง ถา เอามอื บบี เบา ๆ ทที่ องจะมไี ขล ักษณะเปน เม็ด กลมสีน้าํ ตาลออ นใสไหลออกมา สวนปลาดกุ เพศผจู ะมตี ่ิงเพศยาวเรียว มสี ีชมพเู ร่อื ๆ ปลาไมค วรมีขนาดอว นหรือผอมจนเกนิ ไป ขนาดพอ-แมพ นั ธุปลาดุก ควรมีขนาดนาํ้ หนักมากกวา 200 กรมั ข้นึ ไปหรอื ปลาทีม่ อี ายุประมาณ 7-8 เดอื น หรอื 1 ป ใหอ าหารท่ีมคี ุณภาพดี เพอ่ื ใหม ีไขแ ก จะใชเวลา 3-4 เดอื นมกี าร ถายเทนํา้บอย ๆ เพือ่ กระตุนใหป ลาถึงวยั เจริญพันธเุ รว็ ขนึ้ สว นปลาดุกเทศเพศผนู ิยมใช ขนาดน้าํ หนกั ตัวมากกวา500 กรมั ข้ึนไป และควรเปน ปลาทมี่ ีอายไุ ม ต่าํ กวา 1 ป ลาํ ตวั เพรยี วยาวและไมอ ว นจนเกินไป อปุ กรณและวิธีการผสมเทยี ม 1. พอ-แมพ ันธปุ ลา 2. ฮอรโ มนตอมใตส มองปลา หรือฮอรโมนสังเคราะหช นดิ ตาง ๆ 3. โกรงบดตอ มใตส มอง 4. เข็มฉดี ยา 5. เครี่องชั่งนํา้ หนัก สามารถช่ังไดถ งึ จดุ ทศนยิ ม 2 ตําแหนง 6. ภาชนะสําหรบั ผสมไขป ลากบั นา้ํ เช้อื ไดแ ก กะละมังพลาสตกิ และขนไก 7. น้าํ เกลอื และน้าํ กลัน่ 8. อุปกรณใ นการกกไขปลา เชน กระชัง อวนมุง เขยี ว 9. อปุ กรณในการอนุบาลลกู ปลา ชนดิ และวิธกี ารฉดี ฮอรโ มน ฮอรโมนที่ใชใ นการฉดี เรงใหแมปลาดกุ มไี ขแ กเ พ่อื ทจี่ ะรดี ไขผสมกับนาํ้ เชอ้ื นน้ั มหี ลายชนิดซึง่ สามารถแยกได ดังน้ี 1. ฮอรโ มนจากตอ มใตสมอง (pituitary gland) ไดแ ก ตอมใตสมองปลาชนดิ ตาง ๆ เชน ตอ มใตส มองปลาจนี ปลาโรฮู ปลาสวาย ปลาไน เปน ตน มีหนว ยความเขม ขน คอื โดส ซ่ึงมสี ูตรการคํานวณ คือโดส= นา้ํ หนักปลาทเ่ี ก็บตอ ม /น้ําหนกั ของปลาท่จี ะฉดี ฮอรโ มน การฉีดฮอรโมนผสมเทียมปลาดุกอยุ โดยใชฮ อรโมนจากตอมใตสมองจะตองฉดี สองครง้ั คร้งัแรกฉีดท่ีระดบั ความเขม ขน 1 โดสทงิ้ ระยะ หาง 6 ชั่วโมง จงึ ฉีดครงั้ ท่ีสองทร่ี ะดบั ความเขมขน 2 โดสหลังจากนนั้ ประมาณ 9 - 10 ช่ัวโมง เม่อื สังเกตเหน็ วามไี ขต กออกมาจากชองทองของแม ปลาบางตัวแลว จงึรดี ไขผสมกับน้าํ เช้ือได การฉดี ฮอรโ มนผสมเทียมปลาดกุ เทศ สามารถไขฮอรโมนจากตอ มใตส มองฉีดเรง ให

แมป ลามีไขสุก โดยไขความ เขมขนของฮอรโ มนไดเ ชน เดยี วกบั การฉีดปลาดุกอยุ แตระยะเวลาการรีดไขหลังการฉีดเขม็ สองจะใชเ วลาประมาณ 4 ช่ัวโมง ซ่ึงตา งจากปลาดุกอยุ 5-6 ช่วั โมง การใชต อมใตส มองฉดีเรง ใหแมปลาวางไข อาจใชรว มกบั ฮอรโ มนสกดั เพ่อื ใหก ารฉดี ไขส ะดวกขึ้น โดยใสฮ อรโ มนสกดั ในระดับความเขมขน 100-300 ไอยู/แมป ลานาํ้ หนัก 1 กก. รว มกับการใชตอ มใตส มองในอตั ราเทาเดิม สว นปลาเพศผูสามารถกระตนุ ใหมนี ้ําเชื้อมากขนึ้ โดยใชต อมใตส มองท่รี ะดับ ความเขมขน 0.5 โดส ฉดี ใหกับพอ ปลาพรอ มกับการฉดี ฮอรโมนใหก บั แมป ลาคร้ังที่สอง 2. ฮอรโมนสกดั (Extract hormone) ไดแก เอช ซี จี HCG (Human chorionic Gonadotropin) มีหนว ยความเขม ขน เปนไอ.ย.ู (l.U. - lnternational unit) การฉดี ฮอรโมนผสมเทยี มปลาดุกอยุ โดยใชฮ อรโมนสกดั (HCE) สามารถฉดี เรงใหแมปลามไี ขส กุ ไดโ ดยการฉดี คร้งั เดยี วทร่ี ะดับความเขม ขน 3,000-5,000 ไอย/ูแมปลานํ้าหนกั 1 กก. หลังจากฉีดฮอรโ มนสกัดเปนเวลาประมาณ 15 -16(1/2) ช่วั โมง สามารถรีดไข ผสมน้าํ เชอื้ ได การฉดี ฮอรโมนผสมเทยี มปลาดกุ เทศ โดยใชฮอรโ มนสกัด (HCG) ฉดี เรง ใหแ มปลามไี ขส ุกไดโดยการฉีดครง้ั เดียวเหมอื นกับปลาดุกอุยที่ ระดับความเขมขน 2,000 -4,000 ไอย/ู แมป ลานํ้าหนัก 1 กก.หลังจากฉีดฮอรโมนเปน เวลาประมาณ 9(1/2) - 11 ช่ัวโมง สามารถรดี ไขผ สมเทยี มไดใ น เพศผูก ารกระตนุ ใหพอ พนั ธุมีนาํ้ เชือ้ มากขน้ึ โดยการฉีดฮอรโมนสกดั คร้งั เดยี วที่ระดบั ความเขม ขน 200 - 400ไอย/ู พอปลานํ้าหนกั 1 กก.ประมาณ 6ชวั่ โมง กอ นผา เอาถุงน้าํ เชอื้ ออกมาไขในการผสมเทียม 3. ฮอรโมนสังเคราะห (Synthetic hormone) ไดแก LHRHa หรอื LRH-a มีหนว ยความเขม ขนเปน ไมโครกรมั (ug) ซึ่ง ในการฉีดกับปลาดุกตอ งใชร ว มกบั สารระงบั การทํางานของระบบการหล่งั ฮอรโมนคอื โดมเพอรโิ ดน (Domperidone) หรือมีชอ่ื ทางการคา วา โมทีเลียม (Motilium)ซง่ึ มหี นว ยเปน มิลลกิ รัม(mg) ขนาดท่มี ีขายโดยทว่ั ไปคอื เมด็ ละ 1O มิลลิกรมั การฉีดฮอรโ มนผสมเทียมปลาดุกอุยโดยใชฮอรโ มนสังเคราะห สามารถฉดี เรง ใหแ มปลาดกุ อยุ มีไขส ุกได โดยการฉีดครง้ั เดียวท่ีระดบั ความเขมขน 20-30ไมโครกรมั แมป ลาน้ําหนัก 1 กก. รว มกับการใสโ ดมเพอรโิ ดนท่ี ระดบั ความเขมขน 5 มิลลกิ รัม/ แมปลานา้ํ หนกั 1 กก.หลังจากฉดี ฮอรโมนสังเคราะหน เี้ ปนเวลาประมาณ 16 ช่ัวโมง สามารถรดี ไขผ สมนาํ้ เชือ้ ไดการฉดี ฮอรโ มน ผสมเทียมปลาดกุ เทศ โดยใชฮ อรโมนสงั เคราะหสามารถฉดี เรงใหแ มป ลาดุกเทศมไี ขส กุ ไดโดยการฉีดครงั้ เดียวท่รี ะดับความเขมขน 15-30 ไมโคร กรัม / แมปลานา้ํ หนัก 1 กก. รวมกบั การใสโ ดมเพอริโดนทีร่ ะดบั ความเขมขน 5 มลิ ลิกรัม/แมป ลาน้าํ หนกั 1 กก. หลงั จากฉดี ฮอรโมนสงั เคราะหเปน เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง สามารถรีดไขผสมน้ําเชื้อได ในปลาเพศผูก ารกระตนุ ใหพ อพนั ธุมนี ้าํ เชือ้ มากข้นึ โดยการฉดี ฮอรโมนสงั เคราะหท ร่ี ะดับความเขม ขน 5 ไมโครกรัม/พอ ปลาน้าํ หนกั 1 กก.รว มกับโดมเพอรโิ ดน 5มิลลิกรมั /พอปลานํา้ หนัก 1 กก.กอนผา ถงุ นา้ํ เช้อื ประมาณ 10 ช่วั โมง ปริมาณสารละลายที่ใช หลงั จากท่ีเตรยี มฮอรโ มนทจี่ ะฉดี ใหกับพอ -แมพ นั ธปุ ลาดกุ แลว การคาํ นวณสารละลายทจี่ ะผสมกบั ฮอรโมนเพ่ือฉีดใหก บั พอ -แมพ ันธุ ปลาเปนเรือ่ งท่คี วรคํานึง คือ จะตองใชน ํ้ากลั่นหรอื นา้ํ สะอาดเตมิ

ในปริมาณทเ่ี หมาะสม โดยการฉีดปลาดกุ ขนาด 200-500 กรัม จะใชปริมาณสารละลาย ผสมแลว ประมาณ0.3-0.7 ซซี ี สวนปลาดุกขนาด 500-2,000 กรมั ควรใชปริมาณสารละลายผสมประมาณ 0.4 -1.2 ซีซี สวนปลาดุกขนาด 2,000 กรัม ขึน้ ไปใช สารละลายประมาณ 1.0-2.5 ซีซี ตาํ แหนง ที่ฉดี ฮอรโ มน การฉีดฮอรโ มนปลาดุกน้ัน ตําแหนง ทเี่ หมาะสมทส่ี ุดคอื บริเวณกลามเนื้อใตค รีบหลังสว นตนเหนือเสนขางตัว โดยใชเ ข็มเบอร 22-24 แทงเขม็ เอียงทํามุมกบั ลาํ ตัวประมาณ 30 องศา แทงลึกประมาณ 1นิว้ /(2 เซนติเมตร) ในกรณที ต่ี องฉีดสองครัง้ ควรฉดี คร้ังท่ีสองสลบั ขา งกับการฉีดครงั้ แรกหลงั จากฉีดฮอรโ มนปลาดกุ แลว ขังในภาชนะทีม่ รี ะดบั นํ้าเพยี งทวมหลงั พอ-แมพนั ธุป ลาเทานนั้ เพราะถาใสน ้าํ มากเกนิ ไปปลาจะบอบชํา้ มาก ในกรณที ่ีตองฉีดสองครั้ง ควรฉีดครงั้ ทสี่ องสลับขางกบั การฉีดครงั้ แรก หลังจากฉดี ฮอรโ มนปลาดุกแลวขงั ในภาชนะทม่ี รี ะดบั นํ้าเพยี ง ทว มหลงั พอ-แมพ ันธุปลาเทานั้น เพราะถา ใสน ้ํามากเกนิ ไปปลาจะบอบช้ํามากตารางที่ 1 ชนดิ และปริมาณตอ มใตสมองในการฉีดกระตนุ ใหปลาดกุ วางไข ชนดิ ตอม ฉีดครง้ั ที่ 1 (โดส) ฉีดครง้ั ที่ 2 (โดส)ปลาสวาย 1.5 2.5ปลาจีน 1 2ปลาไน 0.8 1.8 การรดี ไขผ สมนา้ํ เชอื้ การรดี ไขของปลาดุกเพ่อื ผสมกบั นาํ้ เช้ือนนั้ ใชว ิธีก่ึงเปย ก เปน วธิ ีทเ่ี หมาะสมท่ีสดุ นาํ แมปลาท่ีไดร บั การฉดี ฮอรโ มนและมไี ขแ กเ ตม็ ทแี่ ลว มารดี ไขใ สใ นภาชนะผวิ เรยี บ เชน กะละมงั เคลอื บ พรอมกันน้ีผาเอาถุงนํา้ เชอื้ จากพอปลา นาํ มาวางบนผา มงุ เขียว แลว ขยใี้ หล ะเอียดพรอมกบั เทนา้ํ เกลือเขม ขน ประมาณ0.7 % หรือนา้ํ สะอาดลงบนผา มงุ เขียวท่ขี ยีถ้ งุ นาํ้ เช้อื ใหน ํา้ ไหลผานเพอ่ื ใหน าํ้ เช้อื ลงไปผสมกบั ไข ผสมไขกบันํ้าเชอ้ื ใหเ ขากนั โดยการคนเบา ๆ ดว ยขนไกประมาณ 2-3 นาที จงึ นําไขท ี่ไดร บั การผสมแลวไปลา งน้ําสะอาด 1 ครัง้ แลว นาํ ไปฟก น้ําเชื้อจากปลาตัวผหู น่งึ ตวั สามารถผสมกับไขทไ่ี ดจ ากการ รีดปลาเพศเมยีประมาณ 10 ตัว การฟก ไข ไขปลาดกุ อุยเปนไขตดิ ไขทดี่ คี วรมีลักษณะกลม มีนาํ้ ตาลเขม ไขของปลาดุกเทศกเ็ ปน ไขติดเชนเดยี วกับปลาดุกอยุ ไขท ด่ี คี วรมลี กั ษณะ กลมและมสี ีเขียวเขมนาํ ไขป ลาดกุ ที่ไดร บั การผสมกับนํ้าเชื้อแลวไปฟก โดยโรยไขบ นผามงุ เขยี วเบอร 20 ท่ขี งึ ตึงท่รี ะดบั ตํา่ กวา ผวิ นํ้าประมาณ 5-10 เซนติเมตร โดยระดบั นา้ํ

ในบอที่ขึงผา มุงเขียวนั้นมีระดบั นํ้าลกึ ประมาณ 20-30 เซนติเมตร เปดนํา้ ไหลผานตลอดเวลาและควรมีเครอื่ งเพ่ิมอากาศใสไ วในบอกกไข ปลาดวย ไขป ลาดุกทีไ่ ดรบั การผสมจะพฒั นาและฟก เปน ตัวโดยใชเ วลาประมาณ 21-26 ชั่วโมง ทีอ่ ณุ หภูมิของนา้ํ 28-30 องศาเซลเซียสลูกปลาดกุ ทฟี่ กออก เปนตวั จะหลุดลอดตาของมงุ เขียวลงสูพืน้ กนบอ ดา นลาง หลงั จากลูกปลาหลุดลอดลงสพู น้ื กนบอหมดแลว จงึ ยา ยผามงุ เขยี วทีใ่ ชฟ กไขอ อกจากบอฟก จะใช เวลา 6-8 ชัว่ โมง ลกู ปลาจะคอ ย ๆ พัฒนาเจรญิ ขน้ึ เปน ลําดับจนมีอายปุ ระมาณ 48ช่ัวโมง จึงเริ่มกนิ อาหารบอเพาะฟก ลูกปลาดุกควรมหี ลังคาปกคลุมปอ งกัน แสงแดดและน้าํ ฝนไดแ มป ลาขนาดประมาณ 1 กิโลกรมั จะไดล กู ปลาประมาณ 5,000 -20,000 ตัว ทง้ั น้ีขึน้ อยูก บั ฤดกู าลและขนาดแมปลา การอนุบาลลูกปลาดกุ อุย ลูกปลาดกุ ทฟี่ ก ออกเปน ตวั ใหม ๆ จะใชอาหารในถงุ ไขแ ดงท่ตี ดิ มากบั ตวั เมอื่ ถงุ ไขแ ดงทตี่ ิดมากับลกู ปลายุบ ใหไขไ กต ม สุกเอาเฉพาะไข แดงบดผา นผา ขาวบางละเอยี ดใหล ูกปลากนิ 1-2 ครัง้ หลงั จากน้ันจงึ ใหล ูกไรแดงเปน อาหาร การขนสงลกู ปลา เมอื่ ลูกปลาอายุครบ 2 วัน สามารถขนยายไดดว ยความระมดั ระวงั โดยใชสายยางดูด แลว บรรจใุ นถุงพลาสตกิ ขนาด 18 นว้ิ ไมค วรเกนิ 10,000 ตัวตอถุง หากขนสง เกิน 8 ชัว่ โมง ใหลดจํานวนลกู ปลาลง การอนบุ าลลูกปลาดกุ ในบอ ซเี มนต สามารถดแู ลรกั ษาไดงา ยขนาดของบอ ซีเมนตควรมีขนาดประมาณ 2-5 ตารางเมตร ระดับความ ลกึ ของนาํ้ ทใี ชอนบุ าลลกึ ประมาณ 15-30 เซนตเิ มตร การอนุบาลลูกปลาดกุ ที่มขี นาดเล็ก(อายุ 3 วัน) ระยะแรกควรใสน ํา้ ในบอ อนบุ าลลกึ ประมาณ 10-15 เซนตเิ มตร เมื่อลูกปลามีขนาดใหญข น้ึ จงึ คอ ย ๆ เพ่ิมระดับนาํ้ ใหสงู ขึ้น การอนบุ าลใหลกู ปลาดกุ มขี นาด 2-3 เซนติเมตรจะใชเวลาประมาณ 10-14 วนั น้าํ ที่ ใชใน การอนบุ าลจะตองเปล่ยี นถา ยทกุ วนั เพอื่ เรงใหล กู ปลาดุกกนิ อาหารและมีการเจริญเตบิ โตดี อกี ทัง้ เปน การปองกนั การเนาเสยี ของน้ําดว ย การอนุบาลลูก ปลาดุกจะปลอยในอตั รา3,000-5,000 ตัว/ตรม. อาหารทใ่ี ชค อื ไรแดงเปนหลัก ในบางครั้งอาจใหอาหารเสริมบา ง เขน ไขต นุบดละเอยี ด เตา หูออนบด ละเอียด หรอื อาจใหอ าหารเรง การเจริญเตบิ โต ซึ่งหากใหอ าหารเสรมิ จะตอ งระวงัเก่ยี วกบั การยอ ยของลกุ ปลาและการเนาเสียของน้าํ ในบอ อนุบาลใหด ดี ว ย การอนบุ าลลกู ปลาดกุ ในบอ ดนิ บอดนิ ที่ใชอ นบุ าลลกุ ปลาดุกควรมีขนาด 200-800 ตรม. บอดินทจี่ ะใชอ นบุ าลจะตองมกี ารกาํ จัด ศัตรูของลกู ปลากอน และพนื้ กน บอ ควรเรียบ สะอาดปราศจากพชืพรรณไมนา้ํ ตา ง ๆ ควรมีรองขนาดกวา งประมาณ 0.5 -1 เมตร ยาวจากหัวบอจรดทายบอ และลกึ จากระดบัพื้นกนบอ ประมาณ 20 เซนตเิ มตร เพอ่ื ความสะดวกในการรวบรวมลูกปลา และ ตรงปลายรองควรมีแองลกึมีพ้นื ที่ประมาณ 2-4 ตรม. เพื่อเปน แหลงรวบรวม ลูกปลาการอนบุ าลลูกปลาดุกในบอจะตองเตรยี มอาหารสาํ หรบั ลูกปลา โดยการเพาะไรแดงไวลว งหนาเพือ่ เปน อาหารใหแ กล กู ปลากอ น ที่จะ ปลอ ยลกู ปลาดกุ ลงอนุบาลในบอ การอนุบาลในบอดนิ จะปลอ ยในอัตรา 300-500 ตวั /ตรม. การอนุบาลลูกปลาใหเ ตบิ โตได

ขนาด 3-4 เซนตเิ มตรใชเวลา ประมาณ 14 วนั แตการอนบุ าลลูกปลาดุกในบอดินนนั้ สามารถควบคุมอตั ราการเจริญเตบิ โตและอตั รารอดไดยากกวาการอนุบาลในบอ ซเี มนต ปญหาในการอนุบาลลกู ปลา นํา้ เสยี เกดิ ข้ึนจากการใหอาหารลูกปลามากเกนิ ไปหากลกู ปลาปว ยใหล ดปรมิ าณอาหารลง30-500% ดูดตะกอนถายนาํ้ แลว คอย ๆ เตมิ นํ้าใหมห ลงั จากนนั้ ใชย าปฏชิ วี นะออกซีเตตรา ซยั คลิน แชล ูกปลาในอัตรา 10-20 กรัมตอนํา 1 ลูกบาศกเ มตร หรอื ในไตร ฟุราโชน 5-10 กรัมตอ นาํ้ 1 ลกู บาศกเ มตร วนั ตอ ๆมาใชยา 3/4 เทา ปลาจะลดจํานวนการตายภายใน 2 3 วัน ถา ปลาตายเพ่ิมขึน้ควรกําจดั ลูกปลาทิ้งไป เพือ่ ปองกินการตดิ เชอ้ื ไปยังบอ อืน่ ๆ การเลีย้ งปลาขนาดตลาด การเล้ียงปลาดุกลกู ผสมอุยเทศเพื่อใหไ ดข นาดตามท่ตี ลาดตอ งการนน้ั สามารถเล้ียงไดท ั้งในบอดินและบอซีเมนต การเลยี้ งในบอซเี มนต ควรปรับสภาพของนํา้ ในบอทีเ่ ลยี้ งใหมีสภาพเปน กลางหรอื เปน ดางเลก็ นอ ย แตตอ งแนใจวา บอ ซีเมนตจ ะตอง หมดฤทธขิ์ องปนู ระดับนํา้ ในบอ เมือ่ เรม่ิ ปลอยลกู ปลาขนาด 2-3ชม. ควรมีความลกึ ประมาณ 20-30 เซนตเิ มตร เมอื่ ลกู ปลาเตบิ โตข้นึ คอย ๆ เพิ่มระดับนาํ้ ให สูงขน้ึ ตามลําดับโดยเพมิ่ ระดบั นํา้ ประมาณ 5 ชม./อาทติ ยใ หอ าหารเม็ดประมาณ 3-7 เปอรเ ซน็ ตของนาํ้ หนกั ตวั ปลา โดยปลอ ยปลาในอัตรา 50-70 ตวั / ตรม. ปลาจะเติบโตไดขนาดประมาณ 100-200 กรัม/ตวั ในระยะเวลาเลยี้ งประมาณ 90 วนั อตั ราการรอดประมาณ 80% ซ่ึงอาหารทใ่ี ชเ ลี้ยงสามารถให อาหารชนดิ ตา ง ๆ ทดแทนอาหารเม็ดได โดยใชอ าหารพวกไสไ กหรอื ปลาเปด ผสมกบั เศษอาหารกไ็ ด แตจ ําเปนตองถา ยเทนา้ํ เพ่ือปองกันนํา้ เสยี กวาการถา ยเท นา้ํ เมอ่ื เลี้ยงดว ยอาหารเมด็ การเลยี้ งในบอ ดนิ การเลีย้ งในบอ ดินนน้ั จะตอ งเตรยี มบอ ตามหลักการเตรยี มบอ เลีย้ งปลาท่ัวๆ ไปดังน้ี 1. จะตอ งตากกนบอใหแหง ปรับสภาพกน บอ ใหส ะอาด 2. ใสป ูนขาวเพ่อื ปรบั สภาพของดินโดยใสปูนขาวในอัตราประมาณ 60 - 100 กก./ไร 3. ใสป มุ คอกเพ่อื ใหเกิดอาหารธรรมชาตสิ ําหรับลูกปลาในอตั ราประมาณ 40 - 80 กก./ไร 4. นํานาํ้ เขาบอ โดยกรองไมใ หศ ัตรูของลูกปลาตดิ เขา มากับนาํ้ จนมรี ะดบั น้ําลึก 30-40 ซม.หลงั จากนน้ั วนั รงุ ขนึ้ จงึ ปลอ ยปลาและเพอ่ื ให ลกู ปลามีอาหารกินควรเติมไรแดงในอัตราประมาณ 5 กโิ ลกรัมเพอื่ เปน อาหารแกล กู ปลาหลงั จากนั้นจึงใหอ าหารผสมแกล กู ปลา ลกู ปลาทน่ี ํามาเลีย้ งควรตรวจ ดวู า มีสภาพปกติ การปลอยลูกปลาลงบอเล้ยี งจะตอ งปรบั สภาพอุณหภมู ิของน้าํ ในถุงและนาํ้ ในบอ ใหเ ทาๆกันกอ น โดยการแชถุงบรรจลุ กู ปลาในนา้ํ ประมาณ 30 นาที จงึ ปลอ ยลกู ปลา เวลาท่ีเหมาะสมในการปลอยลกู ปลาควรเปนตอนเย็นหรอื ตอนเชา

ขัน้ ตอนการเล้ียง อตั ราปลอยปลาดกุ ลกู ผสม (บิก๊ อุย) ลกู ปลาขนาด 2-3 ซม. ควรปลอยในอตั ราประมาณ 40 -100 ตัว/ตรม. ซง่ึ ข้นึ อยูกับกรรมวธิ ใี นการเลีย้ ง คือ ชนดิ ของอาการขนาดของบอ และระบบการเปลยี่ นถา ยนา้ํซ่งึ ปกติทว่ั ๆไป อัตราปลอ ยเลยี้ งประมาณ 50 ตวั /ตรม. และเพื่อปอ งกันโรคซง่ึ อาจ จะติดมากับลกู ปลา ใชนา้ํ ยาฟอรม าลนิ ใสในบอเลยี้ ง อตั ราความเขมขน ประมาณ 30 สวนในลา น (3 ลติ ร/นํ้า 100 ตัน) ในวันท่ีปลอยลกู ปลาไมจ าํ เปน ตอ งให อาหาร ควรเริ่มใหอาหารในวันรุงขน้ึ การใหอาหาร เมอื่ ปลอยลูกปลาดกุ ผสมลงในบอดนิ แลว อาหารท่ีใหใ นชวงที่ลกู ปลาดุกมีขนาดเล็ก (2-3 ซม.) ควรใหอ าหารผสมคลุก นํ้าปน เปน กอ นใหลกู ปลากนิ โดยใหกนิ วนั ละ 2 ครั้ง หวา นใหกินทว่ั บอ โดยเฉพาะในบรเิ วณขอบบอ เม่อื ลูกปลามีขนาดโตขึน้ ความยาวประมาณ 5-7 ซม. สามารถฝกใหกนิ อาหารเมด็ ได หลังจากนนั้ เม่อื ปลาโตขน้ึ จนมคี วามยาว 15 ซม.ข้นึ ไป จะใหอ าหารเม็ดเพยี งอยา งเดยี วหรืออาหารเสริมชนดิ ตาง ๆ ได เชน ปลาเปด ผสมรําละเอยี ดอตั รา 9 : 1 หรอื ใหอาหารทีล่ ดตนทนุ เชน อาหารผสมบดจากสว นผสมตางๆเชน กระดกู ไก ไสไก เศษขนมปง เศษเสนหมี่ เศษเลือด หมู เลอื ดไก เศษเกยี้ วหรอื เศษอาหารวางๆเทาที่สามารถหาไดนาํ มาบดรวมกนิ แลวผสมใหป ลากนิ แตการใหอ าหารประเภทน้ีจะตอ งระวงั เรอื่ งคุณภาพของ นํา้ ในบอเลย้ี งใหด ี เม่ือเลยี้ งปลาไดประมาณ 3-4 เดอื นปลาจะมีขนาดประมาณ200-400 กรัม/ตวั ซงึ่ ผลผลติ ทีไ่ ดจะประมาณ 10 - 14 ตนั /ไร อัตรารอด ตายประมาณ 40- 70 % การถา ยเทน้าํ เมอ่ื ตอนเรม่ิ เลย้ี งใหมๆ ระดับความลึกของนา้ํ ในบอ ควรมีคา ประมาณ 30 - 40ซม. เม่อื ลกู ปลาเจริญเติบโตขน้ึ ในเดอื น แรกจงึ เพ่ิมระดับน้าํ สงู เปนประมาณ 50 -60 ซม. หลังจากยา งเขาเดือนที่สองควรเพ่ิมระดับนํ้าใหส ูงขึน้ 10 ชม./อาทิตย จนระดบั นาํ้ ในบอ มีความลึก 1.20 - 1.50 เมตร การถา ยเทนํา้ ควรเริ่มตั้งแตก ารเลย้ี งผา นไปประมาณ 1 เดอื น โดยถา ยนํ้าประมาณ 20 % ของน้ําในบอ 3 วัน/ครั้งหรอื ถา นํ้าในบ เร่ิมเสยี จะ ตอ งถา ยน้ํามากกวาปกติ การปอ งกันโรค การเกิดโรคของปลาดุกทเ่ี ลย้ี งมักจะเกดิ จากปญ หาคณุ ภาพของนํา้ ในบอ เล้ยี งไมด ี ซง่ึ อาจเกิดจากสาเหตขุ องการให อาหารมากเกนิ ไปจนอาหารเหลือเนา เสยี เราสามารถปองกันไมใหเ กิดโรคไดโดยตอ งหม่นั สังเกตวา เมอื ปลาหยุดกนิ อาหารจะตอ งหยุดใหอ าหารทันที เพราะ ปลาดกุ ลกู ผสมมีนิสยัชอบกนิ อาหารทใี่ หใหม โดยถึงแมจ ะกนิ อมิ่ แลว ถาใหอ าหารใหมอกี กจ็ ะคายหรอื สํารอกอาหารเกา ทง้ิ แลวกนิอาหารใหใ หมอ ีกซง่ึ ปริมาณ อาหาร ทใ่ี หไ มค วรเกนิ 4 - 5 % ของนํา้ หนักตวั ปลา วิธีการปองกันการเกิดโรคในปลาดุกลูกผสมท่เี ลี้ยง 1. ควรเตรยี มบอ และน้ําตามวธิ กี ารท่เี หมาะสมกอนปลอ ยลกู ปลา 2. ช้อื พันธุป ลาจากแหลงทีเ่ ช่อื ถือไดว า แขง็ แรงและปราศจากโรค 3. หมน่ั ตรวจดอู าการของปลาอยา งสมาํ่ เสมอถาเห็นอาการผิดปกตติ องรบี หาสาเหตแุ ละแกไ ขโดยเรว็

4. หลังจากปลอ ยปลาลงเล้ียงแลว 3-4 วนั ควรสาดน้าํ ยาฟอรมาลิน 2-3 ลิตร/ปรมิ าตร นาํ้ 100 ตันและหากปลาท่ีเลย้ี งเกิดโรคพยาธิภาย นอกใหแ กไขโดยสาดนา้ํ ยาฟอรม าลนิ ในอตั รา 4 - 5 ลิตร/ปรมิ าตรนาํ้100 ตนั 5. เปล่ยี นถา ยนา้ํ จากระดบั กนบอ อยางสมํ่าเสมอ 6. อยา ใหอ าหารจนเหลือ โรคของปลาดกุ เลย้ี ง ในกรณีทม่ี กี ารปอ งกันอยา งดแี ลว แตป ลากย็ งั ปว ยเปน โรค ซึง่ มักจะแสดงอาการใหเหน็ โดยแบงอาการของโรคเปนกลุมใหญ ๆ ดงั น้ี 1. การติดเชือ้ จากแบคทเี รยี จะมีการตกเลือด มีแผลตามลําตวั และครีบ ครบี กรอน ตาขุน หนวดหงกิ กกหูบวม ทองบวมมีนาํ้ ในชอ งทอ ง กินอาหารนอ ยลงหรอื ไมกินอาหาร ลอยตวั 2. อาการจากปรสติ เขา เกาะตวั ปลา จะมีเมอื กมาก มแี ผลตามลาํ ตวั ตกเลือด ครีบเปอ ย จุดสีขาวตามลําตวั สีตามลาํ ตัวซดี หรอื เขมผดิ ปกติ เหงือกซีดวายน้าํ ทรุ นทรุ าย ควงสวานหรือไมต รงทศิ ทาง 3. อาการจากอาหารมคี ุณภาพไมเหมาะสม คอื ขาดวิตามนิ บีกะโหลกราว บริเวณใตค างจะมีการตกเลือด ตวั คด กนิ อาหารนอยลงถา ขาด วิตามนิ บีปลาจะวายนํ้าตวั เกรงและชกั กระตุก 4. อาการจากคณุ ภาพนาํ้ ในบอ ไมด ี ปลาจะวา ยนา้ํ ขน้ึ ลงเร็วกวาปกติลอยหวั ครีบกรอนเปอ ยหนวดหงกิ เหงือกซดี และบวม ลําตัวซีดไมกิน อาหาร ทอ งบวม มแี ผลตามตวั อนง่ึ ในการรกั ษาโรคปลาควรจะไดพจิ ารณาใหร อบคอบกอ นการตัดสินใจเลอื กใชย าหรือสารเคมี สาเหตุของโรค ระยะรักษา คา ใชจ า ย ในการรักษา สารเคมีและยาปฏิชีวนะที่นิยมใชป อ งกนั และรักษาโรคปลา ชนดิ ของสารเคม/ี ยา วตั ถปุ ระสงค ปรมิ าณที่ใชเกลือปนู ขาว กําจดั แบคทเี รียบางชนดิ เช้ือราและปรสติ 0.1-0.5% แชต ลอด 0.5-1.0 % แชคลอรีน บางชนดิ ลดความเครยี ดของปลา ภายใต การดแู ลอยางใกลช ิดดิพเทอรเรก็ ซ ฆาเช้อื กอนปลอ ยปลาปรบั PH ของดิน 60-100 กโิ ลกรัม/ไร ละลายน้ํา และน้าํ แลวสาดให ทว่ั บอ ฆา เชอ้ื อุปกรณตาง ๆ ที่ใชก บั บอเลยี้ งปลา 10 พีพเี อม็ แช 30 นาที แลว ลา ง ดวยน้ํา สะอาดกอนใช กาํ จดั ปลงิ ใส เห็บปลา หนอนสมอ 0.25-0.5 พพี ีเอม็ แชตลอด ยาท่ใี ช ควร เปน ผงละเอยี ดสขี าว ถายา เปล่ียนเปน ของเหลวไมค วรใช

ฟอรมาลนี กําจดั ปรสิตภายนอกทวั่ ไป 25-50 พีพเี อม็ แชต ลอด ระหวาง การใชควร ระวังการขาดออกซเี ตตรา ซัยคลิน กาํ จัดแบคทีเรยี ออกซเิ จนในนา้ํคลอแรมฟนิคอล กาํ จัดแบคทีเรยี ผสมกบั อาหารในอตั รา 3-5 กรัม/ อาหาร 1 กิโลกรัม ใหกนิ นาน 7- 10 วันตดิ ตอ กนั แชใน อตั รา 10- 20 กรมั ตอนํา้ 1 ตนั นาน 5-7 วัน ผสมกับอาหารอัตรา 1 กรมั อาหาร 1 กโิ ลกรัม หนึง่ สัปดาห บางคร้งั ก็ ใชไมไดผ ลเนอื่ งจากเช้ือ แบคทีเรียดอ้ื ยา ปรมิ าณและผลผลติ จากสถิติผลผลิตการเลยี้ งปลานา้ํ จืด ของกองเศรษฐกจิ กรมประมง กรมประมง ป 2535 ปลาดุกใหผลผลติ สูงเปน อนั ดับ 3 ปริมาณ 23,775 ตัน ปรอื รอยละ 16.7 ของปริมาณปลานํ้าจืดทง้ั หมด มมี ูลคา 591 ลา นบาท สาํ หรบั ผลผลติ ปลานํา้ จดื สงู สดุ อันอับหนง่ึ คือปลานลิ ปรมิ าณ 43,935 ตนั มูลคา 612 ลานบาท อนั ดับสองคอื ปลาตะเพยี น ปริมาณ 23,840 ตัน มลู คา 499 ลา นบาท โดยจาํ แนกปริมาณและผลผลิตการเลีย้ งปลาดุกรายภาค ดังน้ี ภาค ปริมาณ (ตนั ) มลู คา (พันบาท) เหนอื 3,683.75 86,804.99 ตะวนั ออกเฉียงเหนือ 706.52 22,679.98 กลาง 9,069.03 193,648.74 ตะวนั ออก 3,839.52 115,145.49 ตะวนั ตก 4,185.86 94,511.71 ใต 2,290.51 78,063.33

ราคาจาํ หนา ยผลผลิต การจาํ หนายผลผลิตปลาดุกในราคาเฉลี่ยสูงสดุ และตํ่าสุดเปน รายภาคป 2535 ดังน้ี ภาคเหนือ จังหวดั เชยี งใหม ราคาปลาดุกสงู สุด กโิ ลกรมั ละ 44.92 บาท จังหวดั อทุ ยั ธานี ราคาปลาดุกตํา่ สุด กโิ ลกรมั ละ 19.26 บาท ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื จังหวดั อุดรธานี ราคาปลาดกุ สงู สดุ กโิ ลกรัมละ 70.23 บาท จังหวดั นครราชสมี า ราคาปลาดุกตาํ่ สดุ กิโลกรัมละ 20.89 บาท ภาคกลาง จงั หวดั ชยั นาท ราคาปลาดกุ สงู สดุ กิโลกรมั ละ 28.61 บาท จงั หวดั ลพบรุ ี ราคาปลาดุกต่าํ สุด กโิ ลกรัมละ 20.38 บาท ภาคตะวนั ออก จังหวดั สมุทรปราการ ราคาปลาดุกสูงสุด กโิ ลกรมั ละ 68.49 บาท จังหวดั นครนายก ราคาปลาดุกตาํ่ สดุ กิโลกรัมละ 20.86 บาท ภาคตะวันตก จงั หวดั ประจวบคีรีขนั ธ ราคาปลาดุกสูงสดุ กิโลกรัมละ 30.95 บาท จงั หวดั กาญจนบุรี ราคาปลาดุกตา่ํ สุด กโิ ลกรมั ละ 20.07 บาท ภาคใต จังหวดั กระบ่ี ราคาปลาดุกสงู สดุ กิโลกรมั ละ 54.48 บาท จังหวดั พัทลุง ราคาปลาดุกต่าํ สดุ กิโลกรมั ละ 23.20 บาท สาํ หรบั ในป 2538 ราคาปลาดุกไตรมาสแรก (เดอื นมกราคม-มนี าคม 2538) เฉลี่ยกโิ ลกรมั ละ32.63 บาทและไตรมาสทส่ี อง (เดือนเมษายน-พฤษภาคม) เฉลี่ยกโิ ลกรัมละ 33.97 บาท (จลุ สารเศรษฐกิจการประมง กรมประมง) จากการศึกษาของสํานักงานเศรษฐกจิ การเกษตรพบวา ตน ทนุ การผลิตปลาดุกบ๊ิกอุยในป 2535 โดยเฉล่ียตอไรเปน เงนิ 48,834.07 บาท จาํ หนายไดไ รล ะ 64,624.23 บาทมีกําไรสุทธิ 15,790.16 บาทตอไร สวนตน ทนุ การผลติ ตอ กิโลกรัมเปน เงนิ 15.30 บาทมีกาํ ไรสทุ ธิเฉลยี่ กโิ ลกรัมละ 4.95 บาทไดรบัผลตอบแทนของการลงทุนรอ ยละ 32.35 หากเปรียบเทยี บ ตน ทุนการผลิต ระหวา งปลาดุกบกิ๊ อยุ กบั ปลาชอนในป 2535 พบวา ตนทุนการผลิตเฉล่ยี ไรละ 411,297.83 บาท จาํ หนายผลผลติ มรี ายได 469,737.10 บาทตอ ไรสาํ หรับตน ทุนการผลิตตอ กิโลกรมั เปนเงนิ 40.47 บาท มีกาํ ไรสทุ ธิเฉลีย่ 5.75บาทตอกโิ ลกรมั ไดร ับผลตอบแทนของการลงทนุ รอยละ 14.21 เกีย่ วกับผลการศกึ ษาจํานวนฟารม เนอื้ ที่ ปริมาณและมลู คาการเล้ียงปลานาํ้ จืดในป 2534 ของกองเศรษฐกจิ การประมง กรมประมงมดี ังนี้ ภาคเหนือ จํานวน 15,444ฟารมเนื้อที่ 15,430 ไร ปรมิ าณผลผลิต

13,298.46 ตนั มูลคา 288.1 ลา นบาท ไดแ กพ ื้นที่จังหวดั นครสวรรค พษิ ณโุ ลก เพชรบูรณ อทุ ัยธานี ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื จาํ นวน 29,226 ฟารม เน้ือที่ 46,501 ไร ปรมิ าณผลผลิต 11,334.13 ตนั มลู คา 264.7 ลา นบาท ใน พ้ืนท่ีจงั หวดั อดุ รธานี นครราชสมี า หนองคาย อบุ ลราชธานี ภาคกลาง จาํ นวน 14,172 ฟารม เนื้อที่77,322 ไร ปริมาณผลผลติ 85,199.22 ตนั มูลคา 1,614.5 ลานบาท ในพนื้ ทจ่ี ังหวัดสมทุ รปราการกรุงเทพมหานคร สุพรรณบรุ ี ฉะเชิงเทรา ภาคใต จํานวน 5,897 ฟารม เนือ้ ที่ 1,925 ไร ปริมาณผล ผลิต5,076.94 ตนั มลู คา 156.7 ลานบาท ในพน้ื ท่จี ังหวดั สรุ าษฎรธานี สตูล สงขลาตน ทุนและผลตอบแทนจากการเพาะเล้ยี งปลานํ้าจืดทส่ี าํ คัญป 2535 รายการ ดุกบกิ๊ อยุ ชอ น นลิ ตะเพยี นตนทนุ ทงั้ หมดตอไร( บาท) 48,834.07 411,297.83 6,151.25 9,832.84ผลผลิตตอ ไร (กก.) 3,191.32 19,163.07 888,27 1,120.48เกษตรกรขายได (บาท) 20.25 15.16พันธุปลาที่ปลอย (ตวั /ตรม.) 25-30 46.22 11.35 2-3กําไรสุทธเิ ฉลยี่ ตอ กก. (บาท) 4.95 25-30 5-6 6.39กําไรสุทธิเฉล่ียตอไร (บาท) 15,790.16 5.75 4.43 7,162.64ระยะเวลาในการเพาะเลยี้ ง (เดอื น) 5.25 58,439.27 10.83ผลตอบแทนการลงทนุ (รอ ยละ) 32.35 6.85 3,930.61 72.86 14.21 10.49 64.02 ตลาด 1. ตลาดกลางทเ่ี ปนแหลงซ้ือขายปลาน้ําจดื ขนาดใหญไดแ ก ตลาดบางปะกง ฉะเชงิ เทรา ตลาดรงั สติ ปทุมธานี ตลาดลาดกระบัง กรุงเทพ และสะพานปลา กรุงเทพฯ จากการศกึ ษาวิถีการตลาดปลาในภาคอีสานของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร พบวาปลาน้ําจดื (ปลาดุก ปลาชอ น และปลาหมอเทศ) ซ่งึ ขนสงในลักษณะแชน ํา้ ไวระหวา งการขนสง และวางขายในตลาดน้นั จะผา นมอื ผรู วบรวมจากภาคกลางแลวสงใหพ อคาขายสง มือ 1,2 จนกระท่งั ถงึ พอคา ขายปลกี 2. การบริโภคภายในประเทศ จากผลผลิตปลาดุกเฉล่ยี ในป 2530 จาํ นวน 13,900 ตนั ถาจาํ นวนประชากรมีประมาณ 52 ลา นคน ก็จะ บริโภคปลาดกุ เฉลย่ี 0.27 กก./คน/ป เทานัน้ แตจ ากการศกึ ษาของมหาวทิ ยาลยั ขอนแกน พบวา ในภาคอีสานบรโิ ภคปลานํ้าจืดเฉลีย่ 21.3 กก./คน/ป ในจาํ นวนน้ีเปน ปลาชอน 7กก./คน/ป ปลาดกุ 3.6 กก./คน/ป ปลาหมอ 1.8 กก./คน/ป นอกนั้นเปน ปลานิลตะเพยี นและปลาอ่นื ๆ ปรมิ าณปลาดุกท่ีบรโิ ภค 3.6 กก./คน/ป น้นั รอ ยละ 18.6 ไดจากการซื้อมา ดงั นน้ั คนอีสาน 1 คน ซือ้ ปลาดกุ บรโิ ภคเฉลีย่ 0.67 กก./คน/ป ซงึ่ สูงกวาปรมิ าณเฉลยี่ ทั้งประเทศ

3. ราคา จากการศกึ ษาของสาํ นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร เกย่ี วกับราคาสัตวน ้ําท่ีชาวประมงขายได พบวา การเพิ่มขึ้นของราดาปลานา้ํ จดื โดยเฉพาะ ปลาชอนและปลาดกุ มแี นวโนม เพม่ิ สูงขึ้นในอตั รารอ ยละ 5.85 และ 5.05 ตามลําดับ ซง่ึ อตั ราการเพิ่มสงู ขึน้ ของราคาปลาน้าํ จดื นม้ี ีแนวโนม สูง มากกวา สตั วน ้ําจากทะเล การตลาด พจิ ารณาฟารม เฉลีย่ ตอ กโิ ลกรมั ของสัตวน ํ้าจืดสาํ คญั ๆ เปรยี บเทยี บกนั จะเห็นวาอัตราการเพมิ่ ขน้ึ ของราคาฟารมของปลาดุกสงู ข้นึ ถึงรอ ยละ 25.63 ซ่ึงสงู มากที่สดุ สวนปลาชอ นนน้ั อตั ราเพมิ่ ข้นึของราคาเพียงรอยละ 3.6 เทา นัน้ สวนราคากุงกา มกรามนนั้ ลดลงรอยละ 9.01 จากป 2529 สําหรบั ราคาฟารมเฉลย่ี ในแตล ะภาคนัน้ จะเหน็ วา ราคาฟารมในภาคใต ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื และภาคเหนอื นน้ั สงู มากกวาภาคกลาง และภาค ตะวนั ตกและภาคตะวนั ออก และถา เปน รายจังหวดั แลวจะเห็นวา ราคาฟารม ในจงั หวัดสตลู และสงขลานน้ั สงู สุดกลา วคือราคาปลาดกุ ณ ฟารม สงู ถึงกโิ ลกรัม ละ 40 บาท ซ่งึ แสดงวาปรมิ าณผลิตน้นั มีผลกระทบกบั ราคาฟารม กลาวคือ ในภาคกลาง และภาคตะวันตก ซ่งึ มกี ารกระจกุ ตัวกนั ของแหลงผลติมากทําให ร าคาฟารม เฉลยี่ นน้ั ตํ่ากวาภาคอนื่ ๆ ซึ่งมีการกระจายตวั ของแหลงผลิตมากกวา แนวโนม ตลาด 1. ปลาดกุ บิก๊ อยุ เปนปลาเล้ียงงายเจริญเติบโตเรว็ จงึ มเี กษตรกรนยิ มเลีย้ งเปนจํานวนมาก สง ผลใหร าคาปลาดกุ ไมเ คลือ่ นไหวมากนกั 2. เนอ่ื งจากอปุ นิสยั ของคนไทยซึ่งนยิ มบรโิ ภคเน้อื ปลาอยูแ ลว ถา สามารถลดตน ทุนการผลติเพอื่ ใหราคาตา่ํ ลงไดแ ลวจะทาํ ใหการบรโิ ภค สงู ข้ึน 3. ผลผลิตจากแหลงนํา้ ธรรมชาติลดลงอนั เนอ่ื งมาจากแหลงนาํ้ เสือ่ มโทรมกจ็ ะมผี ลทาํ ให มกี ารบริโภคปลาจากการเพาะเล้ยี งมากขึน้ 4. เมอ่ื มีการเลี้ยงแบบอตุ สาหกรรม ซึ่งสามารถควบคมุ ปริมาณและคณุ ภาพของปลาดกุ ไดแ ลวก็มีโอกาสในการแขงขนั ในระดบั ตา ง ประเทศมากขน้ึ 5. ในปจ จบุ นั มกี ารรณรงคบรโิ ภคอาหารโปรตีนจากเน้ือปลา เพราะใหโ ปรตีนสงู ยอยงายและยงั มีราคาถกู ดว ย ปญ หาและอปุ สรรค 1. สว นเหลื่อมการตลาด (Market margin) ของปลาดกุ ซง่ึ ตอ งแชนาํ้ ตลอดจนทัง้ นเ้ี พราะผบู รโิ ภคนยิ มบรโิ ภคแบบมชี ีวิต ทาํ ใหส ว น เหล่ือมการตลาดสูง จากการศกึ ษาของมหาวิทยาลยั เกษตรศาสตรพบวา สว นเหลอ่ื มการตลาดของปลานาํ้ จดื เฉล่ยี กิโลกรมั ละ 14 บาท 2. สําหรับตลาดในประเทศนนั้ ยงั มกี ารแขงขนั กบั ปลาดกุ จากแหลง น้าํ ธรรมชาตใิ นบางชว งฤดูโดยเฉพาะในฤดฝู น ดังน้นั การผลติ และ ตลาดควรคาํ นงึ ถงึ ฤดูการดวย

3. ตลาดตา งประเทศ ยังคอนขา งจาํ กดั เนอื่ งจากมกี ารเผยแพรผลติ ภณั ฑแ ปรรูป ยงั ไมกวา งขวางเหมอื นสัตวนาํ้ ชนดิ อ่ืน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook