ประสิทธผิ ลการบริหารตามหลกั ธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศึกษา กลุ่มท่ี 9 สงั กัดสานกั งานพระพุทธศาสนาแหง่ ชาติ An Effectveness Of Good Governance Administration InThe Phrapariyattidhamma Schools Genaral Education Group 9 Under The Office Of National Buddhism พระมหาศุพชยั สภุ ชโย, ดร.สงั วาลย์ เพยี ยรุ ะ,พระครสู โมธานเขตคณารักษ์,ดร.1 มหาวิทยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั วิทยาเขตขอนแก่น. บทคดั ยอ่ การวิจัยคร้งั น้มี วี ัตถุประสงค์เพอื่ 1) ศกึ ษาประสทิ ธิผลการบริหารตามหลกั ธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามญั ศกึ ษา กลุ่มท่ี 9 สงั กดั สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 2) เปรียบเทยี บการบรหิ ารโรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9, 3)ศึกษาแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสม กลุ่มตัวอย่างการวิจัยเชิงปริมาณ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา จานวน 386 รูป/คน สุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นในแต่ละกลุ่มแล้วสุ่มอย่างง่าย เคร่ืองมือท่ีใช้คือแบบสอบถาม มีค่าความเช่ือม่ันทั้งฉบับ เท่ากับ .97 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูป สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉล่ีย ค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน T–test F-test และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีการของเซฟเฟ่(Scheffe’ method) กลุ่มเป้าหมายการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอน จานวน 15 รูป/คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสมั ภาษณ์ และใช้การวเิ คราะห์เชิงเน้ือหาและหาขอ้ สรปุ ผลการวิจัย พบว่า : ประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มท่ี 9 พบว่า โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง และเม่ือจาแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักคุณธรรม รองลงมา คือ ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความคุ้มค่า ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักนิติธรรม ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความรับผิดชอบ และประสิทธิผลการบริหารด้านหลักความโปร่งใส ตามลาดับ ส่วนด้านท่ีมีค่าเฉล่ียต่าสุด คือประสิทธผิ ลการบรหิ ารตามหลักการมสี ว่ นรว่ ม ผลการเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตามหลักธรรมาภบิ าล จาแนกตามวุฒิการศกึ ษา พบว่า โดยภาพรวมมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมี
2 จิตอาสากับการพัฒนาสงั คมท่ียั่งยืน (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development)นัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 เม่ือจาแนกตามตาแหน่งหน้าที่ และประสบการณ์ในการทางาน ไมแ่ ตกต่างกัน ข้อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาประสิทธิผลการบริ หารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปรยิ ัตธิ รรมแผนกสามญั ศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล มดี ังน้ี 1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย พบว่า แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการบริหารตามหลักนิติธรรมพบว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ควรบริหารงานวิชาการตามระเบียบของทางราชการ เพื่อปลูกฝังให้บุคลากรเคารพกฎระเบียบ และกฎหมายว่าด้วยความเป็นธรรม 2) ประสิทธิผลการบริหารตามหลักคุณธรรม พบว่า ผู้บริหารควรบริหารงานบุคลากรโดยยึดหลักคุณธรรมมีความซ่ือสัตย์สุจริตเมตตาเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่ ให้การสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรอย่างทั่วถึง ผู้บริหารควรบริหารงานงบประมาณอย่างตรงไปตรงมา มีความชัดเจน มีคณะกากับและตรวจสอบได้ในทุกระดับ และผู้บริหารควรบริหารงานสัมพันธ์ชุมชน โดยใช้หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา 3) ประสทิ ธผิ ลการบริหารตามหลกั ความโปร่งใส สถานศึกษามีการประสานความร่วมมือในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาจากหน่วยงานต่างๆ ด้วยดี 4) ประสิทธิผลการบริหารด้านหลักการมีส่วนร่วม สถานศึกษามีการเปิดโอกาสให้บุคลากร ประชาชนและผู้มีส่วนเก่ยี วข้องเข้มามีส่วนร่วมในการวางแผนและพัฒนาสถานศึกษา 5) ประสิทธิผลการการบริหารตามหลักความรับผิดชอบ ผู้บริหารควรส่งเสริมและสร้างขวัญกาลังใจให้บุคลากรเกิดความมุ่งม่ันไม่ย่อท้อต่อการปฏิบัติงานไม่ทอดทิ้งภาระธุระของสถานศึกษา 6) ประสิทธิผลการบริหารตามหลักความคุ้มค่า ผู้บริหารควรมีความขยันหม่ันเพียรในการจัดระบบบริหารและพัฒนาองคก์ รอย่างสม่าเสมอตามความร้คู วามสามารถและความถนดั ของบุคลากรคาสาคญั : ประสทิ ธิผลการบรหิ ารตามหลักธรรมาภิบาล Abstract The aims of this research were: 1) to study the administrativeeffectiveness based on good governance in Phrapariyatti Dhamma Schools,General Education Group 9, under National Office of Buddhism; 2) to comparethe administration effectiveness based on the samples’ factors; 3) to presentthe ways to promote the administration according to the good governance inthe schools. The samples of this research were 386 of the administrators andteachers in the studied area, sized by Stratified Random Sampling and SimpleRandom Sampling. The tool used was a questionnaire with its reliability valueof .97. The statistics used to analyze the data were: Frequency, Percentage,
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครง้ั ที่ 5 และระดับนานาชาติ ครงั้ ท่ี 3 3 The 5th National and the 3rd International Conferences 2018Mean, Standard Deviation, t-test, f-test, Scheffe’s method. The target groupused in the qualitative research included 15 of the school administrators andteachers, selected by Purposive Sampling; the tool used in this process wasan interview form to obtain the data before the content analysis was used tofind the conclusion. The research results were as follows: 1) The statistic scores of the administration effectiveness based onthe good governance in the studied schools in overall and each aspectperspectives were at a moderate level; the highest was that of ‘Morality’,followed by that of ‘Cost’, ‘The Rule of Law’, ‘Administrative Effectiveness’,‘Responsibility’, ‘Transparency’; the least can be seen in that of‘Participation’. 2) Based on the comparison, the statistic scores of the administrationeffectiveness based on the good governance in the studied schools, classifiedby the samples’ education in overall and each aspect perspectives weredifferent with the statistical significance level of.05. Classified by theirpositions and experiences, the scores were indifferent. 3) The ways to promote the administration according to the goodgovernance in the schools are as follows: 1) for the administration accordingto the rule of law, the schools should operate the academic affairs based onthe government regulations in order to raise the respect in the law andfairness; 2) for the effectiveness of the administration according to themorality, the administrators should do their work according to the morality;honesty, generosity, support of personnel development, honest andtransparent financial management which can be assessed in all processes; theadministrators should pay attention to the public relations in the community;3) for the administration effectiveness according to the transparency, theschools should join hands with other institutions in educational development;4) for the administration effectiveness according to the participationprinciples, the schools should give an opportunity for the staff, public andstakeholders to join the school planning and educational developing; 5) forthe administrative effectiveness based on the responsibility, theadministrators should give the personnel encouragement to do their works; 6)
4 จิตอาสากับการพฒั นาสังคมทย่ี ั่งยืน (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development)for the administrative effectiveness according to the cost, the administratorsshould be diligent to manage the administrative system and constantlydevelop the organizations based on the personnel capacity and skills.Keyword: An Effectveness Of Good Governance Administration1. บทนา การศึกษาเป็นเคร่ืองมือในการพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ เป็นพื้นฐานสาคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ปีพุทธศักราช 2549กาหนดให้สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมีอานาจหน้าท่ีในการทานุบารุงพุทธศาสนศึกษา เพ่ือพัฒนาความรู้คู่คุณธรรม โดยมีกองพุทธศาสนศึกษาเป็นหน่วยงานย่อยในการประสานและดาเนินการเก่ียวกับการควบคุมดูแลจัดการศึกษาวิชาการพระพุทธศาสนา การจัดการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และรับผิดชอบงานการศึกษาของคณะสงฆ์โดยมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และท่ีแก้ไขเพ่มิ เติม (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2545 และตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิในการจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานโดยสถาบันพระพทุ ธศาสนา พุทธศักราช 2548 ได้ให้สิทธิสถาบันพระพุทธศาสนาจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานแก่พระภิกษุและสามเณร (กองพุทธศาสนศึกษา, 2555 : 1)การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเป็นการจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานท่ีรัฐกาหนดให้มีขึน้ ตามความประสงค์ของคณะสงฆ์ เพื่อให้พระภิกษุสามเณรมีความรู้ทั้งทางโลก และทางธรรมควบคู่กันไปเป็นการจัดการศึกษาท่ีมุ่งเน้นให้พระภิกษุสามเณรเป็นศาสนทายาทที่ดี มีความรู้ตามมาตรฐานการศึกษาของชาติและมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมคาสอนจากพระพุทธศาสนาได้ถูกต้องถ่องแท้ ปลูกฝังความศรัทธา ม่ันคงต่อพระพุทธศาสนา น้อมนาหลักธรรมและพระวินัยไปประพฤติปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่ชีวิต เกิดปัญญาสามารถดารงอยู่ในสังคมได้อย่าง มีความสุขและช่วยเผยแผ่ ปกป้อง รักษาพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองและส่งเสริมสันติสุข แก่สังคมไทยและสังคมโลกสืบไป ด้วยเหตุนี้สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจงึ สง่ เสรมิ ให้วัดทม่ี ีความพรอ้ มในทุกๆ ด้านจดั ต้งั โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา และขยายชั้นเรียน ในระดับสูงขึ้นเพื่อประโยชน์แก่สังคมและประเทศ (กองพุทธศาสนศึกษา, 2555 : 3) โรงเรยี นพระปรยิ ตั ิธรรม แผนกสามัญศึกษา กล่มุ ที่ 9 เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมท่ีเกิดขึ้นจากการแยกกลุ่มจากสานักงานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษากลุ่มท่ี 10 ประกอบด้วย 4 จังหวัดคือ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอานาจเจริญ จังหวัดยโสธร จังหวัด อานาจเจรญิ ซ่งึ ปจั จบุ ัน สานกั งานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครั้งท่ี 5 และระดบั นานาชาติ คร้ังท่ี 3 5 The 5th National and the 3rd International Conferences 2018ศกึ ษา กล่มุ ท่ี 9 ตั้งอยเู่ ลขท่ี 2 วัดวรรณวารี ถนนเทศบาล 26 ตาบลวารินชาราบ อาเภอวารินชาราบ จังหวัดอุบลราชธานี ดูแลรับผิดชอบโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา4 จังหวัดคือ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอานาจเจริญ จังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดยโสธรปัจจุบันการจัดการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มท่ี 9 มีปัญหาสาคัญหลายประการ กล่าวคือ ด้านบุคลากร พบว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษายังขาดแคลนครูท่ีมีคุณวุฒิและคุณสมบัติท่ีเหมาะสม ในด้านอุปกรณ์การเรียนการสอนก็ยังขาดแคลนเป็นจานวนมากเช่นกัน ด้านอาคารสถานที่ รวมท้ังปัญหาด้านการบริหารงานของโรงเรียนยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร อีกทั้งยังพบว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามญั ศกึ ษา กลุม่ ท่ี 9 มีบุคลากรประจา จานวนไมม่ าก ดังน้ันจึงต้องจ้างครูสอนพิเศษซึ่งเป็นเพียงแต่จ้างสอนในรายวิชาเป็นการช่ัวคราวเท่าน้ัน ซ่ึงทาให้เกิดปัญหาการเปลี่ยนบุคลากรสอนบอ่ ยคร้ัง ขวญั และกาลงั ใจปฏบิ ัตงิ านตา่ อุปกรณก์ ารเรียนการสอนไมไ่ ดร้ ับการสนับสนุนสาหรับพระภิกษุสามเณรที่เข้ามาศึกษาซ่ึงเป็นผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษายากจน จึงต้องมาบวชเรียนขาดแคลนวสั ดุ อุปกรณ์ทางการศึกษาทุกๆ ด้าน ในด้านการเรียนการสอนนั้น ภาคเช้าในช่วงเข้าพรรษาจะเรียนแผนกธรรม ภาคบ่ายเรียนบาลี และภาคค่าจะเรียนวิชาสามัญเช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ เป็นต้น (สานักงานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศกึ ษา กลุ่มที่ 9, 2560 : 1) จากเหตุผลและความจาเป็นดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยในฐานะเป็นครูสอนโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาและแผนกธรรมเป็นเวลาหลายปี ผู้วิจัยมีความสนใจท่ีจะศึกษาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มท่ี 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพ่ือเป็นข้อสนเทศนาไปใช้เป็นแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ให้มีประสทิ ธภิ าพและนาไปสู่การปรบั ปรงุ พฒั นาใหเ้ กดิ ประสทิ ธผิ ลมากยิง่ ขน้ึ ต่อไป2. วัตถุประสงคก์ ารวจิ ัย 1. เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กล่มุ ท่ี 9 สงั กดั สานกั งานพระพทุ ธศาสนาแห่งชาติ 2. เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกดั สานกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยจาแนกตามตาแหน่ง วฒุ ิการศกึ ษา และประสบการณ์ในการทางาน 3. เพื่อศึกษาแนวทางในการส่งเสรมิ และพัฒนาการบรหิ ารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
6 จติ อาสากบั การพฒั นาสงั คมที่ย่ังยืน (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development)3. วธิ ดี าเนนิ การวิจัย 3.1. รปู แบบการวจิ ยั การวิจัยในครั้งน้ี ผูว้ จิ ยั ใช้แบบการวิจัยวธิ วี ิทยาแบบผสม (Mixed MethodologyResearch) เป็นการวิจัยผสมระหว่างการวิจัยวิทยาเชิงคุณภาพ (Qualities MethodologyResearch) กับการวจิ ัยวิธวี ทิ ยาเชิงปรมิ าณ (Quantitative Methodology Research) 3.2 ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง 1.ประชากร ได้แก่ ผบู้ ริหารและครูโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในกลุ่มที่ 9 จานวน 458 รูป/คน มีจานวนโรงเรียนท้ังหมด 36 แห่ง ในปีการศึกษา 2560จาแนกตามตัวแปรตน้ ท่ีศกึ ษาได้ดงั น้ีตารางที่ 3.2.1 ประชากรและกล่มุ ตวั อยา่ ง ตวั แปร ประชากร กลมุ่ ตัวอย่าง 1.ตาแหน่ง 1.1 ผ้บู ริหารสถานศึกษา 72 33 1.2 ครผู ูส้ อน 386 78 รวม 458 111 2.วุฒิการศกึ ษา 2.1 ปรญิ ญาตรี 300 150 2.2 สูงกว่าปริญญาตรี 70 35 รวม 370 185 3.ประสบการณก์ ารทางาน 21 10 3.1 ตา่ กว่า 10 ปี 3.2 ระยะ 11- 20 ปี 17 8 3.3 ระยะ 21 ปขี ึ้นไป 47 20 รวม 85 38 2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนจานวน 111 รูป/คนโดยกาหนดกลุ่มตัวอย่างตามตารางเครชซี่และมอร์แกน (เครชชี่และมอร์แกน อ้างใน บุญชมศรีสะอาด, 2560 : 43) โดยการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) ตามตัวแปรตาแหน่งหน้าท่ีและนาไปเทียบสัดส่วน จากประชากรตามตัวแปรต้นตัวที่ 2 และตัวท่ี 3ไดก้ ลุม่ ตวั อยา่ งในแต่ละกลุ่มยอ่ ย โดยการสุม่ อย่างง่าย (Simple Radom Sampling) ด้วยวิธีจบั สลาก
การประชมุ วิชาการระดับชาติ ครงั้ ที่ 5 และระดบั นานาชาติ ครัง้ ที่ 3 7 The 5th National and the 3rd International Conferences 20184. สรปุ ผลการวจิ ัย จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ สรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ได้ดังน้ี 4.1 ประสิทธิผลการบรหิ ารตามหลกั ธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยภาพรวมและรายด้านมีการปฏิบัติในระดับมาก โดยด้านท่ีมีค่าเฉลี่ยการปฏิบัติสูงสุด คือ ด้านหลักความโปร่งใสด้านหลักความรับผิดชอบ ด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านหลักความคุ้มค่า ด้านหลักคุณธรรมสว่ นดา้ นทม่ี คี า่ เฉลย่ี การปฏบิ ัติตา่ สดุ คอื ดา้ นหลักนติ ธิ รรม 4.1.1 ด้านนิติธรรม โดยภาพรวมและรายข้อท่ีมีการปฏิบัติในระดับมาก คือบริหารกิจการนักเรียนเป็นไปตามระเบียบของหน่วยงาน โดยการปกครองนักเรียน มีการกาหนดมาตรฐานการปฏบิ ัติอย่างเคร่งครัด รองลงมา คือกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบ และตามเกณฑ์การประเมินผลการปฏิบัติงานและต่าสุด คือเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยจัดตั้งคณะกรรมการสถานศึกษา มีการประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาอยา่ งสม่าเสมอ 4.1.2 ด้านคุณธรรม โดยภาพรวมและรายข้อท่ีมีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด คือบริหารวิชาการโดยยึดหลักคุณธรรม มีภาวะความเป็นผู้นา ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชารองลงมา คือบริหารงานกิจการนักเรียน โดยการรณรงค์จัดกิจกรรมสง่ เสริมความมีคุณธรรม และคุณลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์แกน่ ักเรียนตามนโยบายของหน่วยงานและต่าสุด คือการบริหารงานธุรการ การเงิน งบประมาณอย่างตรงไปตรงมา มีความชัดเจนมคี ณะกรรมการกากับและตรวจสอบได้ในทุกระดบั 4.1.3 ด้านความโปร่งใส โดยภาพรวมและรายข้อที่มีการปฏิบัติในระดับมากท่ีสุดคือการบรหิ ารงานจัดซื้อจัดจ้าง และการงบประมาณเป็นไปตามแผนทก่ี าหนดอย่างเป็นระบบสามารถตรวจสอบได้ รองลงมา คือบริหารงานบุคลากรด้วยความโปร่งใส แสดงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงานของบุคลากรชัดเจน และต่าสุด คือบริหารงานโดยมีการเผยแพร่ประชาสมั พันธ์การดาเนนิ งานให้ผปู้ กครอง และชุมชนทราบอย่างต่อเน่อื ง 4.1.4 ด้านการมีส่วนร่วม โดยภาพรวมและรายข้อท่ีมีการปฏิบัติในระดับมากท่ีสุดคือการบรหิ ารงานธุรการ การเงนิ งบประมาณ พัสดุ โดยเปิดโอกาสให้บุคลากรทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการวางแผน และการใช้งบประมาณต่างๆ ของโรงเรียนรองลงมา คือต่าสุด คือบริหารงานกิจการนักเรียน โดยมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝา่ ยท้ังครู ผู้ปกครองและชมุ ชน 4.1.5 ด้านความรับผิดชอบ โดยภาพรวมและรายข้อที่มีการปฏิบัติในระดับมากท่สี ดุ คอื การบรหิ ารงานธุรการ การเงิน งบประมาณ พัสดุ โดยให้บุคลากรรับผิดชอบร่วมกันและผู้บริหารติดตามการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบรองลงมา คือบริหารงานบุคลากรด้วยความรบั ผิดชอบ
8 จิตอาสากับการพฒั นาสังคมท่ีย่ังยืน (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development) 4.1.6 ด้านความคมุ้ คา่ โดยภาพรวมและรายขอ้ ทีม่ กี ารปฏบิ ตั ิในระดบั มากที่สุด คือการบริหารงานธุรการ การเงิน งบประมาณ พัสดุ การจัดสวัสดิการด้วยความประหยัดคุ้มค่าได้ประโยชน์แก่สว่ นรวมรองลงมา คือบริหารงานโดยการระดมทรพั ยากรจากแหล่งต่างๆ ของชมุ ชนมาสนบั สนุน และใช้อย่างประหยัดคมุ้ ค่า และตา่ สดุ คอื บริหารงานกจิ การนักเรียน โดยใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสดุ ต่อการพัฒนาการเรยี นการสอน 4.2 การเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จาแนกตามสถานภาพ โดยภาพรวมและรายด้าน มีการปฏิบัติไม่แตกต่างกัน เม่ือจาแนกตามวุฒิการศึกษา โดยภาพรวมผู้บริหารและครูผู้สอนท่ีมีการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรี มีความคิดเห็นต่อการบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษาน้อยกว่าครูผู้สอนท่ีมีการศึกษาระดับปริญญาตรีลงมา อย่างมีนัยสัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 เม่ือจาแนกตามประสบการณ์การทางาน โดยภาพรวมและรายด้านมีการปฏิบัติแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติอยู่ท่รี บั .01 โดยทบ่ี คุ ลากรทีม่ ปี ระสบการณ์ในการทางาน 5 ปีลงมา และระยะเวลา11 ปขี ้ึนไป มีคา่ เฉลี่ยการปฏบิ ตั สิ งู กวา่ ระยะเวลา 6- 10 ปี 4.2.3 แนวทางการสง่ เสริมและพัฒนาประสทิ ธิผลการบรหิ ารตามหลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในแต่ละด้าน พบว่าธรรมพบว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมควรบริหารงานวิชาการตามระเบยี บของทางราชการ เพ่ือปลูกฝังให้บุคลากรเคารพกฎระเบียบ และกฎหมายว่าด้วยความเป็นธรรม โรงเรียนพระปริยัติธรรมควรบริหารงานธุรการ การเงิน งบประมาณ พัสดุเป็นไปตามระเบียบของทางราชาการอย่างยุติธรรม ควรกาหนดหน้าท่ีความรับผิดชอบโดยมอบหมายให้บุคลากรได้ทางานตามความรู้ความสามามารถที่เหมาะสมเป็นไปตามระบียบของโรงเรียนพระปริยัติธรรมและตามเกณฑ์ การประเมินผลการปฏิบัติงาน และสถานศึกษาควรบริหารงานกิจการนักเรียนเป็นไปตามระเบียบของหน่วยงาน โดยการปกครองนักเรียนมีการกาหนดมาตรฐานมีการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครดั5. อภิปรายผลการวิจยั 1. การประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษากล่มุ ที่ 9 สังกดั สานกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 4.16)ท่ีเป็นเช่นน้ีอาจเปน็ เพราะว่า ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาได้มีการนาหลักธรรมาภิบาล ได้แก่ ด้านนิติธรรม ด้านคุณธรรม ด้านความโปร่งใส ด้านการมีส่วนร่วมด้านความรับผิดชอบ และด้านหลักความคุ้มค่ามาประยุกต์ใช้ในการบริหารสถานศึกษาข้ันพื้นฐาน ทั้งใน ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงานงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และด้านการบริหารงานท่ัวไป ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ อิศริยา
การประชมุ วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 5 และระดบั นานาชาติ ครงั้ ท่ี 3 9 The 5th National and the 3rd International Conferences 2018พยัควรรณ (อิศริยา พยัคฆวรรณ, 2557) ได้ทาการศึกษาเร่ือง “การการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น” ในการบริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มท่ี 7 งานของผู้บริหารโรงเรียน ตามความคิดเห็นของครูโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ในกลุ่ม 7 ผลการศึกษาพบว่าผู้บริหารโรงเรียนมีการใช้หลักธรรมาภิบาลทั้ง 6 ด้าน ในการทางานการบริหารงาน และด้านหลักคณุ ธรรม มีการนาไปปฏิบตั ิมากทส่ี ุด ยังสอดคล้องกับ วารินทร์ การพันธ์ (วารินทร์การพันธ์ , 2552) ได้ทาการศึกษาวิจัยเร่ือง การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 7 สังกัดสานักงานพรพุทธศาสนาแห่งชาติ” ผลการศึกษาพบวา่ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษามีการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ได้แก่ด้านนิติธรรม ด้านคุณธรรม ด้านความโปร่งใส ด้านการมีส่วนร่วม ด้านหลักความรับผิดชอบและด้านหลักความคุ้มค่ามาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และสอดคลอ้ งกับ พระชวลติ ธีรธมฺโม(ชยั สวุ รรณ์) (พระชวลิต ธีรธมฺโม (ชัยสุวรรณ์), 2559) การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 : ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐานสงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ทปี่ ระถมศึกษาขอนแก่น เขต 1 เป็นการบริหารท่ที าให้การทางานเกดิ ประสทิ ธิภาพในการบรหิ ารงานในสถานศึกษามากยง่ิ ข้ึน 2. การประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษา จาแนกตามสถานภาพ พบวา่ มีดังนี้ 2.2 ตาแหน่งหน้าที่ ต่างกนั มคี วามคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารโรเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา สังกัดมหาเถรสมาคม สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้ ท่ีเป็นเช่นน้ีอาจเนื่องมาจากการบรหิ ารโรงเรยี นพระปรยิ ัตธิ รรมแผนกสามัญศึกษา เป็นการบริหารงานแบบมีส่วนร่วม มีการทาหน้าท่ีหลากหลายหรือช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จึงทาให้มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาลท้ัง 6 ด้าน ในการบริหารสถานศึกษาสังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่แตกต่างกันไปด้วย ซ่ึงมีความสอดคล้องกับงานวิจัยของ พระระพิน ฐิตธมฺโม ท่ีได้ทาการศึกษาวิจัยเรื่อง หลักธรรมาภิบาลกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของบุคลากรสังกัดเทศบาลในเขตอาเภอจตุรพักตร์พิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด พบว่า การปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารและพนักงานราชการและลูกจ้างมีการนาหลักธรรมาภิบาลมาปรับใช้ในกระบวนการทางาน และการเรียนการสอนทาให้นักเรียนที่อยู่ภายในโรงเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมมากข้ึน นอกจากนั้นยังมีการนาหลักธรรมอ่ืนๆท่ีสอดคล้องกันมาใช้ในชีวิตประจาวันในการปฏิบัติหน้าที่เหมือนกัน (พระระพิน ฐิตธมฺโม, 2554) ซึ่งสอดคล้องกับพระมหาจีรศักด์ จิรสกฺโก (ศรีปราบ) ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร ผลวิจัยพบว่า
10 จิตอาสากับการพฒั นาสังคมที่ย่ังยนื (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development)ผบู้ รหิ ารและครูทีม่ ตี าแหน่ง ต่างกนั มีการบริหารงานวิชาการตามหลักธรรมาภิบาล แตกต่างกัน (พระจีรศักดิ์ จิรสกโฺ ก, 2554) 2.2 วุฒิการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะว่าถึงแม้จะมีวุฒิการศึกษาที่ต่างกัน แต่มีความคิดเห็นการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สังกัดสานักงานประถมศึกษาไม่แตกต่างกัน ซึ่งมีความสอดคลอ้ งกบั งานวิจัยของ ภาวินี ชินคร ทไ่ี ดท้ าการศึกษาวจิ ัยเร่ืองรูปแบบการบริหารด้วยหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเขตพ้ืนท่ีการศึกษานครสวรรค์ เขต 1 พบว่า ระดับการศึกษาของบุคลากรโรงเรียนตาคลีวิทยามีการนาหลัก ธรรมาภิบาลมาใช้ในการปฏิบัติหน้าท่ีไม่แตกต่างกัน(พระจีรศักด์ิ จิรสกฺโก, 2554) และงานวิจัยของ สุเมธ ถาวรวัฒนา ได้ทาการศึกษาวิจัยเรื่อง ประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาสานักงานเขตพ้ืนที่การประถมศึกษาจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า ระดับการศึกษาของบุคลากรต่างกันมีทัศนะต่อประสทิ ธภิ าพการปฏิบัติงาน ไม่แตกตา่ งกัน (สุเมธ ถาวรวัฒนา, 2554) 2.3 ประสบการณใ์ นการทางาน ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการประยุกต์ใช้หลักธรรมาภิบาล ในการบริหารสถานศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ไม่แตกต่างกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้ที่เป็นเช่นน้ีอาจเนื่องมาจากผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน มีประสบการณ์ในการทางานไม่แตกตา่ งกนั ซ่ึงสอดคลอ้ งกบั งานวจิ ัยของ พสิ มัย หมกทอง ได้ทาการศึกษาวิจัยเรื่องการบริหารตามลักธรรมาภิบาลของสานักงานเขตบางกอกน้อย พบว่า ประสบการณ์ในการทางานของบุคลากรต่างกันมีทัศนะต่อประสิทธิภาพการบริหารจัดการสานักงานจังหวัดพิษณุโลกตามหลักธรรมาภิบาล ไม่แตกต่างกัน (สุเมธ ถาวรวัฒนา, 2554) และงานวิจัยของพระมหาลาพึง ธีรปญฺโญ ได้ศึกษาวิจัยเรื่อง การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนนว มินทราชูทิศมัชฌิม จังหวัดนครสวรรค์ ผลวิจัยพบว่า ผู้บริหารและครูที่มีเพศอายุ วุฒิการศึกษา ตาแหน่ง และประสบการณ์ทางานต่างกันมีการบริหารงานวิชาการตามหลักธรรมาภบิ าล6. ขอ้ เสนอแนะ จากผลการวิจัย ได้แนวทางในการพัฒนาท่ีใช้เป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเชิงปฏบิ ตั กิ ารและใช้ในการวจิ ัยครงั้ ต่อไป ดงั นี้ 1. ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1.1 หน่วยงานท่ีเก่ยี วขอ้ งควรรณรงค์ใหม้ ีการนาหลักธรรมาภิบาลมาประยุกต์ใช้ในหน่วยงาน องค์กรอยา่ งเป็นรปู ธรรม สรา้ งจติ สานกึ ร่วมกัน สรา้ งความรับผิดชอบร่วมกัน รู้รัก
การประชมุ วิชาการระดับชาติ ครงั้ ท่ี 5 และระดับนานาชาติ ครง้ั ที่ 3 11 The 5th National and the 3rd International Conferences 2018สามัคคีมีน้าใจไมตรต่อเพ่ือนร่วมงานให้เห็นความสาคัญของการใช้ทรัพยากรให้เกิดความคมุ้ คา่ มากที่สดุ ในการผลติ ทรัพยากรบุคคลเพือ่ จะได้ศาสนทายาททด่ี ีมีคุณภาพ 1.2 สานักงานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มท่ี 9 สังกัดสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรมีการจัดฝึกอบรมผู้บริหารและครูผู้สอนเพ่ือส่งเสริมพัฒนาศักยภาพการปฏิบัติงานภายในสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลเพ่ือสนองนโยบายของรัฐบาลและระเบยี บของทางราชการเพื่อความเรียบร้อยดีงาม ปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ได้รับมอบหมาย 1.3 สานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดที่มีท่ีต้ังอยู่ภายในเขตจังหวัดรับผิดชอบโรงเรียนพระปริยัติธรรม ควรมีการไปสารวจลงพื้นที่การปฏิบัติงานจริงของพนักงานศาสนการหรือครูผู้สอนเป็นระยะว่ามีการนาหลักธรรมาภิบาลไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของโรงเรียนพระปริยัติธรรมหรือไม่ ถ้าไม่มีควรหาแนวทางเพ่ือนาไปสู่กระบวนการปฏิบัติในครั้งต่อไป และควรมีกิจกรรมส่งเสริมภาวะผู้นาด้านการบริหารให้กับผู้บริหารและ บุคลาการทางศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ ง 2. ข้อเสนอแนะในการนาผลไปปฏบิ ตั ิ 2.1 ควรนาผลการศึกษาครัง้ นไี้ ปเปน็ ขอ้ มูลในการวางแผนการบริหารโรงเรียนพระปรยิ ตั ธิ รรมแผนกสามญั ศกึ ษา ใหม้ คี ุณภาพและมีประสิทธภิ าพมากยิง่ ขนึ้ 2.2 ควรหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่ได้จากการศึกษามาปรับแก้ไขในส่วนท่ีเป็นปัญหาให้มีความชัดเจนมากขึ้น เพ่ือจะนาไปสู่การลงมือปฏิบัติและไม่กลับไปสู่วังวนเดิมอีกเปน็ การย้อนกลบั ขอ้ มลู ที่ไดจ้ ากการศึกษาอกี คร้ัง 3. ขอ้ เสนอแนะสาหรบั การวิจัยครงั้ ตอ่ ไป 3.1 ควรศึกษาในการนาหลักพุทธธรรมอืน่ ๆ เพมิ่ เตมิ เช่น หลักพรหมวิหาร 4 หลักสจุ รติ 3 ธรรมเป็นโลกบาล 2 เป็นต้น มาประยุกตใ์ ช้ในการบริหารงานของโรงเรยี นพระปริยัติธรรมแผนกสามญั ศกึ ษาหรอื สถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนวถิ ีพุทธ 3.2 ควรจะศึกษากลุ่มตัวอย่างจากสถานศึกษาที่มีลักษณะโครงสร้างแตกต่างกันบา้ งเพื่อหาความแตกตา่ ง ด้านตาแหนง่ ขนาดสถานศกึ ษา ประสบการณก์ ารทางาน เอกสารอ้างอิงกองพุทธศาสนศึกษา.(2555). สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ. คู่มือการปฏิบัติงานการ ขออนุญาตจัดตั้ง และขยายช้ันเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ ศึกษา.นภิ าพร เหล่าพรมมา.(2557).“การบริหารบคุ ลากรทางการศึกษาตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของ ผู้บริหารโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 7 ในเขตอาเภอเมือง
12 จติ อาสากับการพฒั นาสงั คมท่ยี ั่งยนื (Volunteer Spirit with Sustainable Social Development) จังหวัดขอนแก่น”, วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัญฑิต สาขาวิชาการ บริหารการศึกษา, (บณั ฑิตวิทยาลยั ) : มหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั .ผ่องพรรณ ตรัยมงคล และสุภาพ ฉัตรภรณ์. (2554).การออกแบบการวิจัย.. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พม์ าวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.พระชวลิต ธีรธมฺโม (ชัยสุวรรณ์).(2559). “การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลในสถานศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน สังกัดสานักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1. วิทยานิพนธ์ พุทธศาสตรมหาบัณฑิต,สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวิทยาลยั .พระระพิน ฐิตธมฺโม.(2554). “หลักธรรมาภิบาลกับประสิทธิผลการปฏิบัติงานของบุคลากร สังกัดเทศบาลจตุรพักตร์พิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด”. พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์.บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลยั .พระจีรศักด์ิ จิรสกฺโก.(2554). การบริหารการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร โรงเรียนมัธยมศึกษา เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร.วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธ ศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาจุฬาลง กรณราชวทิ ยาลัย.พระมหาลาพงึ ธีรปญโฺ ญ(เพญ็ ภู่).(2554). “การบริหารตาหลกั ธรรมาภบิ าลของโรงเรียนนว มินทราชูทิศมัชฌิม จังหวัดนครสวรรค์”. (บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหา จฬุ าลงกรณราชวิทยาลัย.สานกั งานกลมุ่ โรงเรียนพระปรยิ ัติธรรมแผนกสามญั ศึกษา กล่มุ ที่ 9.(2560) : แผนปฏิบัติการ ประจาปี 2560-2562. อุบลราชธานี : วัดวรรณวารี ตาบลวารินชาราบ อาเภอ วารินชาราบ.สุเมธ ถาวรวัฒนา. (2554).“ประสิทธิภาพการบริหารจัดการสานักงานเทศบาลจังหวัด เพชรบูรณ์”.วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขารัฐประศาสน ศาสตร์. (บัณฑิตวทิ ยาลยั : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลยั .วารินทร์ การพันธ์. (2552). “การบริหารงานบุคคลตามหลักธรรมาภิบาลของโรงเรียนพระ ปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา กลุ่มที่ 7”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. บณั ฑิตวทิ ยาลัย : มหาวทิ ยาลัยมหาจฬุ าลงกรณราชวทิ ยาลยั .อศิ ริยา พยคั ฆวรรณ.(2557). การบรหิ ารงานวชิ าการในโรงเรยี นพระปรยิ ตั ธิ รรมแผนกสามัญ ศึกษาในเขตเทศบาลนครขอนแก่น, ปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต,สาขาวิชา การบริหารการศึกษา .บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราช วิทยาลยั วทิ ยาเขตขอนแกน่ .
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ ครัง้ ที่ 5 และระดบั นานาชาติ ครงั้ ที่ 3 13 The 5th National and the 3rd International Conferences 2018
Search
Read the Text Version
- 1 - 13
Pages: