การสืบพนั ธ์ขุ องพชื
❑ การสืบพนั ธ์ุ (reproduction) เปน็ กระบวนการท่สี ิง่ มีชวี ติ ใชใ้ นการดาํ รงพนั ธุ์ เพื่อ ไม่ใหส้ ูญพันธ์ุ การสืบพนั ธุ์ของพืชจะมี วิธที แ่ี ตกต่างกัน ออกไป
การสืบพันธุ์ของพืชดอกโดยท่ัวไปมี 2 แบบ คอื 1. การสืบพนั ธ์แุ บบอาศยั เพศ (sexual reproduction) 2. การสืบพนั ธแ์ุ บบไมอ่ าศัยเพศ (asexual reproduction)
การสืบพนั ธแุ์ บบอาศัยเพศ (asexual reproduction)
❑การสืบพนั ธุแ์ บบอาศัยเพศ (sexual reproduction) เป็นการสืบพันธทุ์ ี่เกิดจากการผสม ระหวา่ งเซลลส์ ืบพนั ธุเ์ พศผู้และเซลล์ สืบพันธ์ุเพศเมยี เรียกว่า การปฏสิ นธิ (fertilization) ดังน้ันในการ สืบพันธุ์ แบบอาศยั เพศของพืชจึงตอ้ งมีการสร้าง เซลลส์ ืบพนั ธ์ุ พืชดอกมีการสืบพันธ์ุ แบบอาศยั เพศ โดย ดอกทําหน้าที่สร้างเซลล์สืบพนั ธซ์ุ ง่ึ มีท้งั เซลลส์ ืบพันธุ์ เพศผทู้ ีเ่ รียกว่า สเปรม์ (sperm) อยทู่ ี่ละอองเรณู (pollen grain) และเซลล์ สืบพนั ธุเ์ พศเมยี ทีเ่ รียกวา่ เซลล์ไข่ (egg cell)
โครงสรา้ งของดอก (STRUCTURE OF FLOWER)
❑ โครงสรา้ งของดอก ประกอบดว้ ย 1. กลีบเลย้ี ง(Sepal) • ทา้ หนา้ ทป่ี ้องกนั อันตรายเช่น แมลง ปอ้ งกนั การคายน้า ของดอก ส่วนใหญม่ ีสเี ขยี ว เรยี กวา่ วงกลีบดอก(calyx) 2. กลีบดอก(Petal) • ส่วนใหญ่มสี สี วยเพอ่ื ล่อแมลง เรยี กวงนีว้ า่ วงกลบี ดอก (corolla)
❑ โครงสร้างของดอก(ตอ่ ) 3. เกสรเพศผ(ู้ stamen) • ประกอบด้วย ก้านชอู บั ละอองเรณู (filament) และอบั ละอองเรณู (anther)ท้าหน้าทีส่ รา้ งเซลลส์ ืบพันธเ์ุ พศผู้ เรียกวา่ วงเกสรตัวผู้ (androecium) 4. เกสรเพศเมีย(pistil หรือ carpel) • ประกอบดว้ ยยอดเกสรเพศเมยี (stigma) กา้ นชูยอดเกสรเพศเมียหรือคอ เกสรเพศเมีย(style)และ รังไข่(ovary) ซึ่งภายในมี ออวลุ (ovule)อยู่ เรยี กว่าวงเกสรตวั เมีย(gynoecium)
อับเรณู กลบี ดอก กา้ นชเู กสรเพศผู้ ยอดเกสรเพศเมีย ก้านเกสรเพศเมีย รังไข่ ไข่ กลบี เลีย้ ง ฐานรองดอก
เกสรตวั ผู้(stamen)
เกสรตวั เมีย (pistil)
❑ประเภทของดอก 1. จา้ แนกโดยใชส้ ่วนประกอบเปน็ เกณฑ์สามารถจ้าแนกได้ 2 ประเภท 1.1 ดอกครบสว่ น (complete flower) หมายถงึ ดอกทม่ี ี สว่ นประกอบครบ 4 วง คอื วงกลีบเลย้ี ง วงกลบี ดอก วงเกสรตวั ผู้ และวงเกสรตัวเมีย 1.2 ดอกไม่ครบสว่ น (incomplete flower) หมายถึง ดอกท่มี ี ส่วนประกอบไม่ครบ 4 วง
2. จา้ แนกโดยใช้ชนิดเพศเป็นเกณฑ์ จ้าแนกได้ 2 ชนดิ 2.1 ดอกสมบรู ณ์เพศ (perfect flower) หมายถงึ ดอกท่มี ีท้งั เกสรตัวผู้ และเกสรตวั เมียในดอกเดยี วกนั 2.2 ดอกไมส่ มบรู ณเ์ พศ (imperfect flower) หมายถงึ ดอกทม่ี ี เพยี งเกสรตัวผู้ หรือ เกสรตวั เมียชนิดเดียว
3. จ้าแนกตามจ้านวนดอกท่ีอยบู่ นกา้ นดอกเป็นเกรฑ์ จา้ แนกได้ 2 ชนิด 3.1 ดอกเดี่ยว (simple flower ; solitary flower) ดอกที่พฒั นามาจากตา ดอกหน่ึงตา ดอกเดยี่ วมดี อกเพียงดอกเดยี วอยู่บนก้านดอก 1 ก้าน เช่น ดอก กุหลาบ ดอกพู่ระหง ดอกชบา ดอกมะเขอื เปราะ ดอกฝรงั่ ดอกจา้ ปี ดอกฟกั ทอง
3.2 ดอกช่อ (inflorescence flower)
ดอกเดย่ี ว ดอกช่อ
กระบวนการสืบพนั ธุ์ของพืชดอก มี 3 ข้นั ตอนหลกั คือ การถ่ายละอองเรณู การงอกของละอองเรณู การปฏิสนธิ
กระบวนการสืบพนั ธุ์ของพืชดอก มี 3 ขั้นตอนหลักคือ
❑ปัจจยั ในการถา่ ยละอองเรณู o ถา่ ยละอองเรณูอาศ(ยั pลมol(lainneamtoorp)hilous) o การถ่ายละอองเรณอู าศัยแมลง (entamophilous) พบมากทส่ี ุด o การถา่ ยละอองเรณโู ดยคน การถ่ายละอองเรณูโดยใชส้ ัตวอ์ น่ื ๆเกิดข้นึ ได้ น้อย o การถา่ ยละอองเรณูอาศยั น้า (hydrophilous)
❑การปฏสิ นธซิ อ้ น(double fertilization) ด้วยเหตทุ มี่ ี 2 สเปริ ม์ นวิ เคลยี สผสมพร้อม ๆ กัน คือ 1 สเปิร์มนิวเคลยี สผสม กับไข่ และอกี 1 สเปริ ์มนิวเคลียสผสมกับโพลาร์นวิ คลไี อ จงึ เรยี กวา่ การปฏิสนธซิ อ้ น (Double fertilization) เมอ่ื มกี ารปฏสิ นธแิ ล้วออวูลกลายเปน็ เมลด็ รังไข่เจริญไปเป็นผล สเปิร์ม (n) + ไข่ ( n ) ไซโกต ( 2n ) เอ็มบรโิ อ สเปิรม์ (n) + โพลาร์นวิ คลีไอ ( 2n ) เอนโดสเปริ ม์ ( 3n )
หลังจากการปฏิสนธิมีการเปลีย่ นแปลงเกดิ ขึ้นดงั นี้ ❑ กลบี เลีย้ ง จะเห่ยี วแหง้ และหลุดไปเป็นสว่ นใหญ่ แต่มีพชื บาง ชนดิ ทีย่ ังคงอยู่ เช่น มงั คุด ❑ กลบี ดอก ยอดเกสรเพศเมีย และกา้ นเกสรเพศเมีย จะเห่ยี ว แหง้ และร่วงหลุดไป ❑ รังไข่ จะเจรญิ ไปเปน็ ผล แต่กม็ ีผลบางชนดิ เกดิ จากฐานรอง ดอก เช่น ชมพู่ แอปเปิล ❑ ผนังหุ้มรงั ไข่ เจริญไปเปน็ เปลือกและเน้อื ของผล ❑ ออวุล เจรญิ ไปเปน็ เมล็ด ❑ ไซโกต เจริญไปเปน็ เอ็มบรโิ อในเมลด็
การเกดิ ผลและเมลด็ 1. ผนังผลชนั้ นอก (exocarp หรือ epicarp) 2. ผนังผลช้ันกลาง (mesocarp) 3. ผนังผลช้ันใน (endocarp)
ชนดิ ของผล ผลไมแ้ บง่ เป็น 3 ชนดิ ตามหลกั พฤกษศาสตร์ คือ 1. ผลเดี่ยว (simple fruit) 2. ผลกลมุ่ (aggregate fruit) 3. ผลรวม (multiple fruit)
ผลเดี่ยว (simple fruit)
ผลกลุ่ม (aggregate fruit)
ผลรวม (multiple fruit)
การตรวจสอบคุณภาพของเมลด็ พันธ์ุ ความแข็งแรงของเมลด็ พนั ธุ์ (seedvigour) 1. การเรง่ อายุเมลด็ พนั ธุ์ 2. การหาดัชนกี ารงอก สตู ร คา่ ดัชนีการงอก = ผลรวมของ จา้ นวนเมลด็ ท่ีงอกแต่ละวนั จ้านวนวันหลงั เพาะ
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศยั เพศ (asexual reproduction)
❑ การสืบพนั ธ์แุ บบไมอ่ าศัยเพศ (asexual reproduction) เปน็ การสืบพันธท์ุ ีไ่ มอ่ าศัยดอก และไม่มีการผสมระหว่างเซลล์ สืบพันธเ์ุ พศผู้กบั เซลล์สืบพนั ธุเ์ พศเมีย พืชดอกหลายชนิด สืบพนั ธแ์ุ บบ ไมอ่ าศยั เพศได้ มีทง้ั แบบที่เกิดขึน้ เองตาม ธรรมชาตแิ ละแบบทีม่ นษุ ยก์ ระทาํ าขึน้
1.การสืบพนั ธ์แุ บบไม่อาศยั เพศทีเ่ กิดขน้ึ เองตามธรรมชาติ • พืชตน้ ใหม่ทีเ่ จริญเติบโตมาจากสว่ นของตน้ พันธ์ุ เรียกวา่ การ แพรพ่ ันธ์ุ โดยใช้ส่วนของตน้ พันธ์ุ (vegetative propagation) 2.การสืบพนั ธแุ์ บบไมอ่ าศัยเพศทีเ่ กิดจากการกระทาํ ของมนษุ ย์ • การปลกู พืชโดยใช้วิธีการแพร่พันธ์ุด้วยส่วนของตน้ พนั ธุ์ จะทํา ใหไ้ ด้ต้นใหม่จํานวนมากอย่างรวดเรว็ และไดพ้ ืชตน้ ใหมท่ ีม่ ี ลักษณะดเี หมือนต้นพนั ธห์ุ รือไมก่ ลายพนั ธุ์
การแตกหน่อ การแตกตน้ ใหม่ การสร้าง หรือเหง้า จากส่วนต่างๆ สปอร์ ของพืช
การขยายพนั ธพุ์ ืชโดยใชส้ ่วนประกอบตา่ ง ๆ 1. การตอนกิง่ 5. การทาบกง่ิ 2. การตัดชา้ 6. การใชห้ น่อ 3. การตอ่ ก่ิง หรอื เสยี บก่งิ 7. การใช้ราก 4. การติดตา 8. การใชใ้ บ 9. ใช้หนอ่ ย่อย
การเพาะเลี้ยงเน้อื เยื่อและการทา้ เมลด็ เทยี ม
Search
Read the Text Version
- 1 - 36
Pages: