Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการองค์ความรู้ (KM) งานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

การจัดการองค์ความรู้ (KM) งานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

Published by azuradragon5, 2020-07-17 03:07:53

Description: การจัดการองค์ความรู้ (KM) งานเครื่องราชอิสริยาภรณ์

Search

Read the Text Version

พระราชบัญญตั ิ เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์อนั เปน็ ทเ่ี ชดิ ชูยิง่ ชา้ งเผอื ก พทุ ธศกั ราช ๒๔๘๔ ------------------------------------ ในพระปรมาภไิ ธยสมเดจ็ พระเจ้าอยูห่ วั อานนั ทมหิดล คณะผสู้ าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ (ตามประกาศประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ลงวนั ท่ี ๔ สิงหาคม พุทธศกั ราช ๒๔๘๐) อาทิตยท์ ิพอาภา พล.อ. พิชเยนทรโยธิน ตราไว้ ณ วนั ท่ี ๒๔ ตลุ าคม พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ เปน็ ปีท่ี ๘ ในรัชกาลปจั จุบัน โดยทส่ี ภาผู้แทนราษฎรลงมตวิ ่า สมควรแก้ไขกฎหมายวา่ ดว้ ยเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณอ์ ันเปน็ ที่เชดิ ชูย่งิ ชา้ งเผอื ก จ่ึงมีพระบรมราชโองการใหต้ ราพระราชบญั ญตั ขิ น้ึ ไว้ โดยคาแนะนาและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดงั่ ตอ่ ไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตใิ ห้เรยี กว่า “พระราชบญั ญตั ิเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ์อันเปน็ ที่เชดิ ชยู ิง่ ช้างเผือก พุทธศักราช ๒๔๘๔” มาตรา ๒ ใหใ้ ช้พระราชบญั ญัตินตี้ ้ังแต่วนั ประกาศในราชกจิ จานุเบกษาเป็นตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์อนั เปน็ ท่เี ชดิ ชยู ่งิ ชา้ งเผือกรตั นโกสนิ ทรศก 128 และบรรดากฎหมาย กฎและขอ้ บังคบั อืน่ ๆ ในส่วนทม่ี ีบญั ญัติไวแ้ ลว้ ในพระราชบัญญัตนิ ้ี หรอื ซ่งึ ขัดแยง้ กบั บทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา ๔ พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประธานของเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์อันเปน็ ท่เี ชิดชยู ิ่งชา้ งเผือก และทรงไวซ้ ึ่งพระราชอานาจท่จี ะพระราชทานและเรยี กคนื เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์นี้ มาตรา ๕ เคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณน์ ้ี สาหรบั พระราชทานผูก้ ระทาความดีความชอบเปน็ ประโยชนแ์ ก่ ราชการหรอื สาธารณชน ตามทท่ี รงพระราชดาริเหน็ สมควร มาตรา ๖ เจ้านายหรอื ผมู้ ีเกียรตขิ องตา่ งประเทศอาจได้รับพระราชทานเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณ์นีไ้ ด้ มาตรา ๗ เคร่อื งราชอิสริยาภรณ์แบง่ เปน็ 8 ช้ัน มนี ามดังต่อไปนี้ ชัน้ สูงสุด มหาปรมาภรณช์ ้างเผอื ก อกั ษรยอ่ ม.ป.ช. ชั้นท่ี 1 ประถมาภรณ์ช้างเผอื ก อกั ษรยอ่ ป.ช. ชนั้ ท่ี 2 ทวีติยาภรณช์ า้ งเผือก อกั ษรย่อ ท.ช. ชั้นที่ 3 ตริตาภรณช์ ้างเผอื ก อกั ษรย่อ ต.ช. ชั้นท่ี 4 จตั รุ ถาภรณช์ ้างเผอื ก อักษรยอ่ จ.ช. ชน้ั ท่ี 5 เบญจมาภรณช์ ้างเผือก อกั ษรย่อ บ.ช. ชน้ั ท่ี 6 เหรยี ญทองชา้ งเผือก อกั ษรย่อ ร.ท.ช. ชน้ั ท่ี 7 เหรียญเงนิ ชา้ งเผือก อักษรย่อ ร.ง.ช.

มาตรา ๘ เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณน์ ้ีมลี ักษณะด่งั ต่อไปน้ี คอื ชน้ั สงู สุด มหาปรมาภรณช์ า้ งเผือก ดวงตราดา้ นหนา้ เป็นรูปช้างไอราพต ลงยาสขี าวอยู่บนพ้ืนทองในดอกบัวบาน กลีบลงยาสชี มพูสลบั แดง เกสรเงนิ รอบนอกมีกระจงั ทองลงยาสีเขียวสท่ี ศิ มรี ัศมีเปลวเงนิ ตามระหว่างดา้ นหลังเปลย่ี นรปู ชา้ งเปน็ อักษรพระปรมาภไิ ธยย่อ ม.ป.ร. ลงยาสีแดง เบื้องบนมีอุณาโลมสีเงนิ และพระมหามงกุฎทองรัศมหี อ้ ยกบั แพร แถบขนาดกวา้ ง 10 เซนติเมตร สแี ดงริมเขยี วมีรว้ิ เหลืองริ้วนา้ เงนิ ขนาดเล็กควบค่ันทง้ั สองขา้ ง สะพายบ่าซา้ ย เฉยี งลงทางขวา กับมดี าราดา้ นหน้าอย่างดวงตรา แต่ย่อมกว่าซอ้ นอยู่บนรศั มีเงินจาหลักเป็นเพชรสรง่ สแ่ี ฉก รศั มีทองสแ่ี ฉก ประดบั ท่อี กเสือ้ เบื้องซ้าย สาหรบั พระราชทานสตรนี ั้น ดวงตรา ดารา และสายสะพายบ่ามี ขนาดย่อมกวา่ ช้ันท่ี 1 ประถมาภรณช์ ้างเผอื ก ดวงตราเป็นรูปช้างเผือกทรงเครอ่ื งยนื แทน่ อยบู่ นพนื้ ทองในดอกบวั บาน กลีบลงยาสีแดงสลบั เขยี ว เกสรเงิน รอบนอกมีกระจังเงินแปดทศิ มกี ระจังแทรกตามระหวา่ ง ดา้ นหลังเปลย่ี นรปู ช้างเผือกเปน็ อักษร พระปรมาภไิ ธยย่อ ม.ป.ร. ลงยาสีแดง เบือ้ งบนมพี ระมหามงกฎุ ทองมรี ศั มหี อ้ ยกับแพรแถบขนาดกวา้ ง 10 เซนติเมตร สีแดงรมิ เขียว มีร้วิ เหลือง ร้ิวน้าเงิน ขนาดใหญค่ วบคั่นทง้ั สองข้าง สะพายบา่ ขวาเฉียงลง ทางซ้ายกบั มดี าราด้านหนา้ อย่างดวงตราแตก่ ระจงั ยาวกว่าดา้ นหลังเปน็ ทอง ประดับท่อี กเส้ือเบอื้ งซ้าย สาหรบั พระราชทานสตรีนั้น ดวงตรา ดารา และสายสะพายมขี นาดย่อมกว่า

ชน้ั ที่ 2 ทวีตยิ าภรณช์ ้างเผือก ดวงตราอยา่ งประถมาภรณ์ แต่ยอ่ มกวา่ และท่ีพระมหามงกฎุ ไม่มีรัศมี ด้านหลังเปน็ ทองเกล้ียง หอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกวา้ ง 4 เซนตเิ มตรสวมคอ กับมดี าราอยา่ งประถมาภรณ์ประดบั ที่อกเส้ือเบ้อื งซ้าย สาหรบั พระราชทานสตรีนน้ั ดวงตรา ดารา ยอ่ มมีขนาดย่อมกว่า และดวงตราใชห้ อ้ ยกับแพรแถบ ผกู เปน็ รปู แมลงปอ ประดบั เส้อื ทีห่ น้าบ่าซา้ ย ชัน้ ที่ 3 ตริตาภรณ์ช้างเผือก ดวงตราอยา่ งทวตี ยิ าภรณ์ ห้อยกับแพรแถบขนาดกวา้ ง 4 เซนติเมตร สวมคอ สาหรบั พระราชทาน สตรนี ัน้ ดวงตรามีขนาดย่อมกวา่ และหอ้ ยแพรแถบผกู เป็นรูปแมลงปอประดับเส้อื ทหี่ นา้ บ่าซา้ ย

ชน้ั ท่ี 4 จตั รุ ถาภรณ์ช้างเผือก ดวงตราอยา่ งตรติ าภรณ์ แตย่ อ่ มกว่า หอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกวา้ ง 3 เซนติเมตร มดี อกไม้จีบตดิ บน แพรแถบประดับที่อกเสอื้ เบื้องซ้าย สาหรับสตรีผกู เปน็ รปู แมลงปอ ประดบั เสอ้ื ทหี่ นา้ บา่ ซา้ ย ชนั้ ท่ี 5 เบญจมาภรณช์ า้ งเผอื ก ดวงตราอย่างจตั รุ ถาภรณ์ แต่ไมม่ ดี อกไมจ้ ีบ สาหรับสตรีผกู เปน็ รปู แมลงปอ ประดบั เส้ือทห่ี นา้ บา่ ซา้ ย

ชน้ั ที่ 6 เหรยี ญทองชา้ งเผอื ก เหรียญเงินกลมกะไหลท่ อง ดา้ นหน้าเปน็ รปู ช้างเผือกอย่ใู นดอกบวั บาน ดา้ นหลงั เป็นอักษรพระ ปรมาภิไธยยอ่ ม.ป.ร. เบอื้ งบนมพี ระมงกุฎห้อยกับแพรแถบ ขนาดกว้าง 3 เซนติเมตร ประดบั ทอ่ี กเสื้อเบ้ือง ซา้ ย สาหรบั สตรีผกู เปน็ รปู แมลงปอ ประดับเส้อื ทห่ี นา้ บา่ ซ้าย ชนั้ ที่ 7 เหรยี ญเงนิ ช้างเผอื ก เหรยี ญเงิน มลี กั ษณะอย่างเหรยี ญทอง สาหรบั สตรผี ูกเป็นรูปแมลงปอ ประดบั เส้ือท่หี นา้ บา่ ซ้าย มาตรา ๙ ผซู้ ึง่ ได้รับพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์น้ตี ัง้ แตช่ ้ันที่ 5 ถงึ ชน้ั สูงสุด ใหม้ ี ประกาศนยี บตั รทรงลงพระปรมาภไิ ธย และประทับพระราชลัญฉกร สว่ นผทู้ ี่ไดร้ ับพระราชทานชั้นที่ 6 และ ที่ 7 จะได้ประกาศนามในราชกิจจานเุ บกษา

มาตรา ๑๐ เมอื่ ผูซ้ ่งึ ได้รบั พระราชทานเครื่องราชอสิ รยิ าภรณน์ ว้ี ายชนม์ ผู้รับมรดกจะต้องส่ง เครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์นคี้ นื ภายในกาหนดสามสิบวัน ถา้ สง่ คืนไมไ่ ดด้ ว้ ยประการใด ๆ กองมรดกจะตอ้ ง รบั ผดิ ชอบ มาตรา ๑๑ เมอ่ื ผ้รู ับพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์น้ไี ด้รบั พระราชทานช้นั สงู ขึ้น ผู้รบั พระราชทานตอ้ งส่งเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ชน้ั รอง หรือในกรณที ท่ี รงเรยี กเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณน์ ีค้ นื ตามความ ในมาตรา 4 ถา้ ผูร้ ับพระราชทานส่งคืนไมไ่ ด้ด้วยประการใด ๆ ผู้รบั พระราชทานจะต้องใช้ราคา เครื่องราชอสิ รยิ าภรณน์ ้ัน มาตรา ๑๒ บรรดาผซู้ ึง่ ไดร้ บั พระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์นี้อย่แู ลว้ ในวันใชพ้ ระราชบญั ญตั ิน้ี มี สิทธิและหน้าทีต่ ามพระราชบญั ญตั ินีท้ กุ ประการ มาตรา ๑3 ให้นายกรัฐมนตรรี กั ษาการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พบิ ลู สงคราม นายกรฐั มนตรี พระราชบัญญัติฉบับน้ีประกาศราชกจิ จานเุ บกษาเลม่ 58 หน้า 1566 วนั ท่ี 12 พฤศจิกายน 2484

พระราชบัญญตั ิ เครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรตยิ ศย่ิงมงกฎุ ไทย พุทธศักราช ๒๔๘๔ ------------------------------------ ในพระปรมาภิไธยสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั อานนั ทมหดิ ล คณะผ้สู าเร็จราชการแทนพระองค์ (ตามประกาศประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร ลงวันที่ ๔ สงิ หาคม พทุ ธศักราช ๒๔๘๐) อาทิตย์ทพิ อาภา พล.อ. พชิ เยนทรโยธิน ตราไว้ ณ วันที่ ๒๔ ตลุ าคม พุทธศกั ราช ๒๔๘๔ เป็นปที ี่ ๘ ในรชั กาลปจั จบุ นั โดยที่สภาผู้แทนราษฎรลงมตวิ า่ สมควรแกไ้ ขกฎหมายวา่ ดว้ ยเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณอ์ นั มเี กียรตยิ ศย่งิ มงกุฎไทย จึ่งมีพระบรมราชโองการใหต้ ราพระราชบัญญตั ิข้นึ ไว้ โดยคาแนะนาและยินยอมของสภาผู้แทนราษฎร ดั่งตอ่ ไปน้ี มาตรา ๑ พระราชบัญญัติให้เรียกวา่ “พระราชบญั ญตั ิเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์อันมเี กยี รตยิ ศยง่ิ มงกุฎ ไทย พุทธศักราช ๒๔๘๔” มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบัญญตั นิ ีต้ ง้ั แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ตน้ ไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ พระราชบัญญตั ิเครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณอ์ ันมีเกยี รตยิ ศยิง่ มงกุฎไทยรัตนโกสนิ ทรศก 128 และบรรดากฎหมาย กฎและขอ้ บังคับอน่ื ๆ ในส่วนที่มบี ัญญตั ไิ วแ้ ลว้ ในพระราชบัญญตั ินี้ หรือซึ่งขดั แยง้ กับบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๔ พระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประธานของเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณอ์ นั เปน็ ท่เี ชดิ ชยู ่ิงช้างเผือก และทรงไว้ซ่งึ พระราชอานาจที่จะพระราชทานและเรียกคนื เครือ่ งราชอิสรยิ าภรณน์ ้ี มาตรา ๕ เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณน์ ้ี สาหรบั พระราชทาน ผ้กู ระทาความดีความชอบเปน็ ประโยชน์ แก่ราชการหรอื สาธารณชน ตามทที่ รงพระราชดารเิ หน็ สมควร มาตรา ๖ เจ้านายหรอื ผมู้ ีเกียรติของต่างประเทศอาจไดร้ ับพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณน์ ไ้ี ด้ มาตรา ๗ เครอื่ งราชอิสริยาภรณแ์ บ่งเป็น 8 ช้ัน มนี ามดังตอ่ ไปน้ี ชั้นสูงสดุ มหาวชริ มงกฎุ อกั ษรยอ่ ม.ว.ม. ชั้นที่ 1 ประถมาภรณม์ งกฎุ ไทย อกั ษรย่อ ป.ม. ชนั้ ที่ 2 ทวตี ิยาภรณ์มงกฎุ ไทย อกั ษรย่อ ท.ม. ชั้นท่ี 3 ตริตาภรณม์ งกฎุ ไทย อกั ษรย่อ ต.ม. ชั้นที่ 4 จัตรุ ถาภรณ์มงกุฎไทย อกั ษรย่อ จ.ม. ชนั้ ที่ 5 เบญจมาภรณ์มงกฎุ ไทย อกั ษรย่อ บ.ม. ชน้ั ที่ 6 เหรยี ญทองมงกฎุ ไทย อกั ษรย่อ ร.ท.ม. ช้นั ท่ี 7 เหรยี ญเงนิ มงกฎุ ไทย อักษรย่อ ร.ง.ม.

มาตรา ๘ เคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์นี้มีลกั ษณะดั่งตอ่ ไปน้ี คือ ชน้ั สูงสดุ มหาวชริ มงกฎุ ดวงตราเป็นกลบี บัวทอง แววลงยาสีแดง สกี่ ลบี มีพระมหาวชิราวธุ เงินแทรกสลับตามระหว่างกลาง ดวงตรามอี ักษรพระปรมาภิไธยยอ่ ร.ร. กับเลข 6 เปน็ เพชรสร่ง มเี น่ืองเงนิ ล้อมรอบอยภู่ ายใต้พระมหามงกุฎ ทอง เบอ้ื งบนมพี ระเศวตฉัตรรศั มที องหอ้ ยกับแพรแถบขนาดกว้าง 10 เซนตเิ มตร สคี รามแก่มรี ิ้วแดงร้ิวขาว อย่รู มิ ท้ังสองขา้ ง สะพายบ่าซ้ายเฉียงลงทางขวา กับมดี าราเป็นรศั มีเงิน 4 ทศิ มีรัศมีสายฟ้าทองแทรกสลบั ตาม ระหวา่ ง กลางดาราเหมือนอย่างดวงตรา แต่อกั ษรพระปรมาภิไธยยอ่ ประดบั เพชรและไม่มีพระเศวตฉตั ร ประดบั ที่อกเสอ้ื เบือ้ งซา้ ย สาหรบั พระราชทานสตรนี นั้ ดวงตรา ดาราและสายสะพายมีขนาดย่อมกว่า ชั้นท่ี 1 ประถมาภรณ์มงกฎุ ไทย ดวงตราเปน็ รูปพระมหามงกฎุ อย่ใู นลายหว่านลอ้ มทองพน้ื ลงยาสีนา้ เงินและสแี ดง มีกระจงั เงนิ ใหญ่สี่ ทศิ เลก็ สีท่ ศิ มีรัศมที องสลบั ตามระหว่าง ด้านหลังเปล่ยี นพระมหามงกุฎเป็นอกั ษรพระปรมาภไิ ธยย่อ จ.ป.ร. เบอ้ื งบนมีจุลมงกฎุ หอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกว้าง 10 เซนติเมตร สนี า้ เงินริมเขยี ว มรี ว้ิ เหลือง ร้วิ แดง ขนาดใหญ่ ควบคนั่ ทัง้ สองข้าง สะพายบ่าขวาเฉียงลงทางซ้ายกับมีดารารปู อย่างด้านหนา้ ดวงตราแต่ไม่มีจลุ มงกุฎดา้ นหลัง เปน็ ทอง ประดับท่ีอกเสื้อเบอ้ื งซ้าย สาหรบั พระราชทานสตรีน้นั ดวงตรา ดารา และสายสะพายมขี นาดย่อมกว่า

ชั้นท่ี 2 ทวตี ยิ าภรณ์มงกุฎไทย ดวงตราอยา่ งประถมาภรณ์ แต่ด้านหลงั เป็นทองเกลย้ี งหอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกวา้ ง 4 เซนตเิ มตรสวม คอ กับมดี าราอยา่ งประถมาภรณ์ ประดบั ทอ่ี กเสอื้ เบ้ืองซา้ ย สาหรบั พระราชทานสตรีนั้น ดวงตรา ดารา ยอ่ มมี ขนาดยอ่ มกว่า และดวงตราใชห้ อ้ ยกับแพรแถบ ผกู เป็นรปู แมลงปอประดับเส้อื ทห่ี นา้ บ่าซ้าย ช้ันที่ 3 ตรติ าภรณ์มงกฎุ ไทย ดวงตราอยา่ งทวตี ยิ าภรณ์ หอ้ ยกบั แพรแถบขนาดกวา้ ง 4 เซนติเมตร สวมคอ สาหรบั พระราชทาน สตรนี ัน้ ดวงตรามขี นาดย่อมกว่า และหอ้ ยแพรแถบผูกเปน็ รูปแมลงปอประดับเสื้อทห่ี น้าบา่ ซา้ ย

ชั้นท่ี 4 จัตรุ ถาภรณ์มงกุฎไทย ดวงตราอย่างตรติ าภรณ์ แตย่ อ่ มกว่า ห้อยกบั แพรแถบขนาดกว้าง 3 เซนตเิ มตร มดี อกไม้จีบตดิ บน แพรแถบประดับทอี่ กเส้อื เบอื้ งซ้าย สาหรับสตรผี ูกเปน็ รปู แมลงปอ ประดบั เสือ้ ท่ีหนา้ บา่ ซา้ ย ชน้ั ที่ 5 เบญจมาภรณม์ งกฎุ ไทย ดวงตราอย่างจตั ุรถาภรณ์ แต่ไมม่ ีดอกไมจ้ ีบ สาหรบั สตรีผกู เป็นรปู แมลงปอ ประดบั เส้ือทห่ี นา้ บา่ ซา้ ย

ชั้นที่ 6 เหรียญทองมงกุฎไทย เหรียญเงนิ กลมกะไหลท่ อง ด้านหน้าเป็นรูปพระมหามงกุฎอยใู่ นลายหวา่ นลอ้ ม ดา้ นหลงั เป็นอักษร พระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. เบ้อื งบนมจี ลุ มงกุฎห้อยกบั แพรแถบ ขนาดกวา้ ง 3 เซนตเิ มตร ประดับท่ีอกเสอื้ เบ้อื ง ซา้ ย สาหรบั สตรผี กู เป็นรูปแมลงปอ ประดบั เส้ือที่หนา้ บา่ ซ้าย ช้นั ท่ี 7 เหรยี ญเงนิ มงกุฎไทย เหรยี ญเงิน มีลกั ษณะอย่างเหรียญทอง สาหรบั สตรีผกู เป็นรปู แมลงปอ ประดบั เส้ือท่หี น้าบา่ ซา้ ย มาตรา ๙ ผู้ซ่งึ ไดร้ ับพระราชทานเครือ่ งราชอิสริยาภรณน์ ้ีต้งั แตช่ ้ันท่ี 5 ถงึ ช้นั สงู สุด ให้มี ประกาศนยี บัตรทรงลงพระปรมาภไิ ธย และประทบั พระราชลัญฉกร ส่วนผู้ท่ีได้รบั พระราชทานชน้ั ที่ 6 และ ท่ี 7 จะไดป้ ระกาศนามในราชกิจจานเุ บกษา

มาตรา ๑๐ เมอื่ ผู้ซ่งึ ได้รบั พระราชทานเครื่องราชอสิ รยิ าภรณน์ ้วี ายชนม์ ผรู้ ับมรดกจะต้องส่ง เครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์นคี้ นื ภายในกาหนดสามสิบวัน ถา้ สง่ คนื ไม่ไดด้ ้วยประการใด ๆ กองมรดกจะต้อง รบั ผดิ ชอบ มาตรา ๑๑ เมอ่ื ผรู้ ับพระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณน์ ้ีไดร้ บั พระราชทานชัน้ สูงข้นึ ผูร้ ับ พระราชทานตอ้ งส่งเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ชน้ั รอง หรือในกรณีท่ที รงเรียกเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์น้คี ืนตามความ ในมาตรา 4 ถา้ ผูร้ ับพระราชทานส่งคืนไมไ่ ด้ด้วยประการใด ๆ ผ้รู บั พระราชทานจะตอ้ งใชร้ าคา เครื่องราชอสิ รยิ าภรณน์ ้ัน มาตรา ๑๒ บรรดาผซู้ ึง่ ไดร้ บั พระราชทานเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์นอ้ี ย่แู ลว้ ในวนั ใช้พระราชบญั ญัติน้ี มี สิทธิและหน้าทีต่ ามพระราชบญั ญตั ินีท้ กุ ประการ มาตรา ๑3 ให้นายกรัฐมนตรรี กั ษาการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พบิ ลู สงคราม นายกรฐั มนตรี พระราชบัญญัติฉบับน้ีประกาศราชกจิ จานเุ บกษาเลม่ 58 หน้า 1574 วันท่ี 12 พฤศจกิ ายน 2484

พระราชบัญญตั ิ เหรยี ญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดมิ าลา พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ ------------------------------------ ในพระปรมาภไิ ธยสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัวอานนั ทมหิดล คณะผ้สู าเรจ็ ราชการแทนพระองค์ (ตามประกาศประธานสภาผูแ้ ทนราษฎร ลงวนั ท่ี ๔ สิงหาคม พทุ ธศักราช ๒๔๘๐) อาทติ ยท์ ิพอาภา พล.อ. พิชเยนทรโยธิน ตราไว้ ณ วันที่ ๒๔ ตุลาคม พทุ ธศักราช ๒๔๘๔ เป็นปที ี่ ๘ ในรชั กาลปัจจบุ ัน โดยทสี่ ภาผู้แทนราษฎรลงมตวิ า่ สมควรแกไ้ ขกฎหมายว่าดว้ ยเหรียญจักรมาลาและเหรยี ญจักรพรรดิมาลา จึ่งมีพระบรมราชโองการใหต้ ราพระราชบญั ญตั ิขนึ้ ไว้ โดยคาแนะนาและยินยอมของสภาผแู้ ทนราษฎร ดง่ั ต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตใิ หเ้ รยี กวา่ “พระราชบัญญตั ิเหรยี ญจักรมาลาและเหรียญจกั รพรรดิมาลา พุทธศักราช ๒๔๘๔” มาตรา ๒ ให้ใช้พระราชบญั ญตั ินตี้ งั้ แตว่ นั ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป มาตรา ๓ ให้ยกเลกิ พระราชบญั ญตั เิ หรียญจักรมาลารัตนโกสนิ ทรศก ๑๒๓ และพระราชบัญญตั ิ เหรยี ญจกั รพรรดมิ าลารัตนโกสินทรศก ๑๓๐ มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญัติน้ี คาวา่ “ทหารและตารวจ” หมายความวา่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ และตารวจ คาวา่ “ข้าราชการฝ่ายพลเรอื น” หมายความวา่ ข้าราชการพลเรอื นตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบยี บ ข้าราชการพลเรอื น ข้าราชการพลเรอื นสงั กัดกระทรวงกลาโหม และขา้ ราชการฝ่ายตลุ าการตามกฎหมายว่า ดว้ ยระเบยี บข้าราชการฝา่ ยตุลาการ เว้นแต่ข้าราชการประเภทวิสามญั มาตรานีย้ กเลิกตามพระราชบญั ญัตเิ หรยี ญจักรมาลาและเหรียญจกั รพรรดมิ าลา (ฉบบั ที่ ๓) พทุ ธศักราช ๒๕๐๗ และให้ใชค้ าตอ่ ไปน้แี ทน มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี “ทหารและตารวจ” หมายความวา่ ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศและตารวจ “ข้าราชการฝา่ ยพลเรือน” หมายความวา่ ข้าราชการพลเรอื นตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบขา้ ราชการ พลเรือน ขา้ ราชการพลเรอื นสงั กัดกระทรวงกลาโหม ข้าราชการฝ่ายตลุ าการตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบ ขา้ ราชการฝา่ ยตุลาการ ขา้ ราชการฝ่ายอัยการตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บข้าราชการฝ่ายอยั การ และ หมายความรวมถงึ พนกั งานเทศบาลตามพระราชกฤษฎกี าวา่ ด้วยระเบยี บพนกั งานเทศบาล ทั้งน้ี เวน้ แต่ ขา้ ราชการวิสามญั หรอื พนกั งานเทศบาลวสิ ามัญ

มาตรา ๕ เหรียญจกั รมาลา มลี กั ษณะเปน็ เหรียญเงนิ กลม ด้าหนน้ามีรปู จักร กลางวงจักรเปน็ รปู จุลมงกุฎ พานรองสองชั้น มเี คร่อื งสงู สองขา้ ง ดา้ นหลังมรี ูปจักร กลางวงจกั รเปรน็ ูปช้าง กบั จารกึ อักษรว่า“ส.พ.ป.ม.จ.๕” มีห่วงหอ้ ยกบั แพรแถบกวา้ ง ๓ เซนติเมตร สแี ดงขอบเขยี วมีรว้ิ สีเหลือง ริ้วสีนา้ เงิน ประดับทอ่ี กเสื้อเบื้องซ้าย มาตราน้ียกเลกิ ตามพระราชบญั ญตั ิเหรียญจักรมาลาและเหรียญจักรพรรดิมาลา (ฉบบั ท่ี ๒) พุทธศกั ราช ๒๔๔๘๕ และให้ใชค้ วามต่อไปน้ีแทน มาตรา ๕ เหรียญจกั รมาลา มีลักษณะเป็นเหรยี ญเงนิ กลม ดา้ หนน้ามีรูปจักร กลางวงจักรเป็นรูปจลุ มงกฎุ พานรองสองชน้ั มีเครือ่ งสูงสองขา้ ง ด้านหลงั มรี ูปจกั ร กลางวงจกั รเปน็ รูปชา้ ง กับจารึกอักษรว“่าส.พ.ป.ม.จ.๕” มีห่วงหอ้ ยกบั แพรแถบกว้าง ๓ เซนติเมตร สีแดงขอบเขียวมีร้วิ สีเหลอื ง รว้ิ สีน้าเงนิ ประดับทอี่ กเสอื้ เบือ้ งซา้ ย มาตรา๖ เหรยี ญจักรมาลาสาหรบั พระราชทานแกผ่ ู้ที่มยี ศทหารหรอื ตารวจตลอดจนวา่ ยศนัน้ ๆ ท้ังต้องเปน็ ผู้ที่รบั ราชการประจาการหรอื ในกองประจาการ รวมกนั เปน็ เวลาไมน่ ้อยกวา่ ๑๕ ปี การนับเวลาราชการ ให้นบั ตัง้ แตอ่ าย๑ุ ๘ ปบี รบิ รู ณห์ รอื ตั้งแต่วันขึ้นทะเบยี นกองประจาการ ตามกฎหมาย วา่ ด้วยการรับราชการทหาร แล้วแตก่ รณี มาตรา ๗ เหรยี ญจักรพรรดิมาลามลี กั ษณะเปน็ เหรียญเงินกลมรูปจักร ดา้ นหนา้ มรี ปู ครุฑพ่าห์อย่ใู น วงจกั ร ด้านหลังมีรปู ช้างอยใู่ นวงจักร จารึกอักษรโดยรอบวา่ “บาเหนจ็ แหง่ ความยัง่ ยืนและมน่ั คงในราชการ” เบื้องบนเหรยี ญมเี ครื่องหมายพระวชริ าวธุ ห้อยกับแพรแถบกวา้ ง ๓ เซนติเมตร สีแดงขอบสเี หลอื งกบั สเี ขยี ว ประดบั ท่อี กเส้ือเบอ้ื งซา้ ยสาหรบั พระราชทานสตรใี ช้ห้อยกับแพรแถบผูกเปน็ รปู แมลงปอ ประดบั เสอ้ื ทหี่ นา้ บา่ ซ้าย มาตรา ๘ เหรยี ญจักรพรรดิมาลาสาหรับพระราชทานข้าราชการฝ่ายพลเรอื น ทีร่ บั ราชการมาด้วย ความเรยี บรอ้ ย เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒๕ ปี การนบั เวลาราชการ ใหน้ ับโดยคานวณเวลาราชการท้ังหมดของผนู้ ้ันรวมกนั แตถ่ ้าผู้นั้นเข้ารบั ราชการ ก่อนอายุครบ ๑๘ ปีบริบูรณ์ ใหน้ บั ตง้ั แตว่ นั อายคุ รบ ๑๘ ปบี ริบรู ณเ์ ปน็ ตน้ ไป

มาตรา ๙ ทหารและตารวจทร่ี ับราชการมารวมเวลาราชการไมน่ ้อยกวา่ ๒๕ ปี หากไม่เข้าเกณฑท์ ีจ่ ะ ไดร้ ับพระราชทานเหรยี ญจักรมาลาตามมาตรา ๖ ก็ให้ไดร้ ับพระราชทานเหรียญจกั รพรรดิมาลาตามมาตรา ๘ มาตรา ๑๐ ผูซ้ ่งึ ได้รบั พระราชทานเหรียญจกั รมาลาหรือเหรยี ญจักรพรรดิมาลา ให้มีประกาศนียบตั ร ทรงลงพระปรมาภไิ ธย และประทับพระราชลญั ฉกร มาตรา ๑๑ การพระราชทานเหรยี ญจกั รมาลาหรอื เหรียญจกั รพรรดิมาลา พระราชทานเป็น กรรมสทิ ธ์ิเมอ่ื ผ้ไู ด้รบั พระราชทานวายชนม์ใหท้ ายาทโดยธรรมรกั ษาไวเ้ ป็นทร่ี ะลกึ แต่ถา้ ผู้ไดร้ บั พระราชทานก็ดี ทายาทโดยธรรมกด็ ี ประพฤติตนไมส่ มเกยี รติ อาจทรงเรียกคนื ได้ ถา้ สง่ คนื ไมไ่ ด้ดว้ ยประการใด ๆ ภายใน กาหนดสามสบิ วนั จะตอ้ งใชร้ าคาเหรียญนน้ั มาตรา ๑๒ เหรียญจกั รมาลาหรอื เหรยี ญจักรพรรดิมาลาจะพระราชทานแก่ผูใ้ ดอย่างใดอยา่ งหนึ่งแต่ อย่างเดียวเทา่ นน้ั มาตรา ๑๓ บรรดาผู้ซึ่งไดร้ ับพระราชทานเหรียญจกั รมาลาหรอื เหรยี ญจักรพรรดิมาลาอยู่แล้วในวันใช้ พระราชทานบัญญตั นิ ีม้ สี ทิ ธิและหน้าทต่ี ามพระราชบญั ญตั นิ ท้ี ุกประการ มาตรา ๑๔ ใหน้ ายกรฐั มนตรีรักษาการใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญตั นิ ี้ ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พบิ ูลสงคราม นายกรฐั มนตรี

เหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา (ร.จ.พ.) บุรษุ เหรียญจกั รพรรดมิ าลา (ร.จ.พ.) สตรี

การคืนเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์ เครื่องราชอสิ ริยาภรณเ์ ปน็ สงิ่ ทท่ี รงคณุ คา่ ย่งิ ในทางเกยี รติยศ มีผลในการสง่ เสริมใหบ้ ุคคลรว่ ม แรงรว่ มใจทาประโยชนแ์ กป่ ระเทศชาติ และทาคุณความดีควรแก่การเอาเยย่ี งอยา่ ง เครือ่ งราชอิสริยาภรณจ์ ึง มิใชเ่ ครอื่ งจาแนกชนชัน้ ของบุคคล หรอื สงิ่ ทแ่ี สดงความไม่เสมอภาค เพราะบุคคลที่ประพฤติปฏบิ ตั ิเชน่ เดียวกัน ย่อมมโี อกาสรบั พระราชทานเช่นเดยี วกันจากการอุทิศและเสยี สละตนสู่การตอบแทนอันสูงค่า เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์จึงเปน็ เอกลกั ษณข์ องความดีที่อยู่ค่แู ผ่นดนิ สาหรับพระราชทานใหผ้ ้กู ระทาความดี ความชอบเปน็ ประโยชนแ์ กร่ าชการหรอื สาธารณชน ตามทีท่ รงพระราชดารเิ ห็นสมควร พระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประธานของเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์ และทรงไว้ซงึ่ พระราชอานาจท่ี จะพระราชทาน และเรียกคนื เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ กฎหมายว่าด้วยเครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ทข่ี า้ ราชการ ลกู จ้างประจา พนกั งานราชการ ไดร้ ับ พระราชทานมี 2 ตระกลู คอื  พระราชบัญญัตเิ ครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์อนั เปน็ ทีเ่ ชิดชูย่งิ ชา้ งเผือก พ.ศ.2484  พระราชบัญญัตเิ คร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์อนั มเี กยี รติยศยงิ่ มงกฎุ ไทย พ.ศ.2484 ซ่งึ มาตรา 10 และ 11 ของพระราชบญั ญัตเิ ครอื่ งราชอสิ ริยาภรณท์ งั้ สองตระกูล ไดบ้ ัญญัติกรณีทต่ี ้องส่งคนื เครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ ดังน้ี 1. เมื่อผ้ไู ดร้ บั พระราชทานเครื่องราชอิสรยิ าภรณน์ ี้ไดร้ บั พระราชทานช้นั สงู ข้ึนในตระกลู ใด ผูร้ บั พระราชทานต้องสง่ คืนเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณข์ องตระกูลน้ัน 2. กรณีทีท่ รงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ให้เรยี กเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณน์ ้ีคืน ตอ้ งส่งคืนทกุ ชัน้ ตรา ท่ที รงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ 3. เมื่อผไู้ ดร้ บั พระราชทานเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์วายชนม์ ผรู้ ับมรดกต้องสง่ คนื เครอื่ งราช อสิ ริยาภรณ์คนื ทุกชัน้ ตรา ภายใน 30 วัน 4. ถา้ ส่งเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณค์ นื ตามที่กฎหมายบญั ญตั ิไมไ่ ดด้ ว้ ยประการใด ๆ ต้องชดใช้ ราคาเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณ์นนั้ และคณะรัฐมนตรไี ดก้ าหนดใหป้ รบั ราคาชดใชแ้ ทนเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ทไี่ มส่ ามารถสง่ คนื ตามกฎหมายทกุ 3 ปี สานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เปน็ หนว่ ยงานทม่ี ีหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบเกีย่ วกับการขอพระราชทาน เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ รวมทั้งการจดั เตรยี มเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์เพื่อทูลเกลา้ ฯ ถวาย สาหรบั พระราชทาน และการรบั คนื เครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ แมว้ า่ สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรีจะได้รับงบประมาณในการจดั สร้าง เครื่องราชอิสรยิ าภรณ์มาก แต่ก็คดิ เปน็ สดั สว่ นเพียงประมาณรอ้ ยละ 25 ของจานวนทั้งหมดที่จะต้องใชส้ าหรบั การจดั สร้างเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณใ์ หค้ รบถ้วนตามจานวนผู้ได้รับพระราชทานในแต่ละปี มีผลให้ไม่สามารถจา่ ย เครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณช์ น้ั ตา่ กวา่ สายสะพายให้ผู้ทีม่ ีชือ่ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาไดค้ รบถว้ น เพียงเฉล่ยี จา่ ย ให้กระทรวง กรม ตามสัดสว่ นรอ้ ยละทีไ่ ด้รับการจัดสรรแตล่ ะปี เทา่ น้ัน การคนื เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ จงึ เปน็ หน้าท่ขี องผู้ได้รับพระราชทานทกุ คน แม้ว่าจะเกษยี ณอายุ ลาออก โอน ยา้ ย หรือวายชนมไ์ ปแล้วกต็ าม ก็ตอ้ งปฏิบัติตามกฎหมาย ตามกรณี

1. เม่อื ได้รบั พระราชทานเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณช์ ั้นสูงขน้ึ โดยทข่ี ้าราชการ ลกู จ้างประจา พนักงานราชการ จะไดร้ บั พระราชทานเครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ ตระกลู มงกุฎไทย สลบั กบั ตระกูลชา้ งเผือก ซงึ่ พระราชบญั ญัติแตล่ ะฉบับต่างกาหนดใหค้ นื ช้นั รอง มผี ลให้ผไู้ ดร้ บั พระราชทานท่ียังมชี ีวติ จะมสี ิทธเิ ก็บเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณช์ ัน้ สงู ของแต่ละตระกูลไวป้ ระดับร่วมกันเพ2ียงชั้นตรา คอื ตระกลู ชา้ งเผือก1 ดวง/สารับ และตระกูลมงกฎุ ไทย1 ดวง/สารับ แลว้ ส่งคนื ชั้นรองของแต่ละตระกลู ทัง้ หมด - เม่ือได้รับพระราชทานชน้ั จ.ม. ให้เก็บไว้ประดับรว่ มกับ บ.ช. โดยใหค้ นื ช้นั บ.ม. - เมือ่ ได้รบั พระราชทานชน้ั จ.ช. ให้เก็บไวป้ ระดับร่วมกบั จ.ม. โดยให้คืนชนั้ บ.ช., บ.ม. - เมอ่ื ไดร้ ับพระราชทานชั้น ต.ม. ให้เกบ็ ไว้ประดับร่วมกบั จ.ช. โดยให้คนื ชัน้ จ.ม. ลงมา ทกุ ชน้ั ตราท่ีไดร้ บั - เมื่อได้รบั พระราชทานชั้น ต.ช. ให้เกบ็ ไว้ประดับรว่ มกบั ต.ม. โดยใหค้ ืนช้นั จ.ช. ลงมา ทุกช้นั ตราท่ไี ด้รบั - เมอื่ ได้รับพระราชทานชน้ั ท.ม. ใหเ้ กบ็ ไวป้ ระดับร่วมกับ ต.ช. โดยให้คืนชน้ั ต.ม. ลงมา ทกุ ชน้ั ตราที่ไดร้ ับ - เมื่อไดร้ บั พระราชทานชั้น ท.ช. ให้เกบ็ ไวป้ ระดบั ร่วมกบั ท.ม. โดยใหค้ ืนชั้น ต.ช. ลงมา ทุกชั้นตราทไ่ี ดร้ บั - เมอ่ื ได้รบั พระราชทานชน้ั ป.ม. ใหเ้ ก็บไว้ประดับร่วมกับ ท.ช. โดยใหค้ ืนชน้ั ท.ม. ลงมา ทุกชั้นตราท่ีไดร้ บั - เมอ่ื ไดร้ ับพระราชทานชัน้ ป.ช. ใหเ้ กบ็ ไวป้ ระดบั ร่วมกบั ป.ม. โดยให้คนื ชน้ั ท.ช. ลงมา ทุกชั้นตราที่ไดร้ ับ - เมื่อได้รับพระราชทานชน้ั ม.ว.ม. ใหเ้ ก็บไว้ประดับร่วมกบั ป.ช. โดยให้คืนชั้น ป.ม. ลงมา ทุกช้ันตราที่ได้รบั - เมอื่ ได้รับพระราชทานชั้น ม.ป.ช. ให้เก็บไวป้ ระดบั ร่วมกบั ม.ว.ม. โดยใหค้ นื ชน้ั ป.ช. ลงมา ทกุ ชั้นตราที่ไดร้ บั สานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรีไดข้ อความร่วมมือให้หน่วยงานต่าง ๆ เรง่ รดั ให้บคุ ลากรใน สงั กัดส่งคืนเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณต์ ามท่กี ฎหมายบัญญัติมาอย่างตอ่ เนอ่ื ง และใหก้ ระทรวง ทบวง กรม กาชับ กวดขนั ใหส้ ว่ นราชการและรัฐวสิ าหกจิ ในสงั กดั จัดทาประวัตกิ ารได้รับพระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ (ทะเบยี นฐานันดร) ใหถ้ ูกต้องและเปน็ ปัจจบุ ัน และใหต้ ดิ ตามเรง่ รดั ผู้ท่ียงั มไิ ด้สง่ คนื เครอื่ งราชอิสรยิ าภรณต์ าม กฎหมายให้ส่งคืนเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ หากไม่สามารถสง่ คนื ได้ให้ชดใชต้ ามราคาท่ีกาหนด การจัดทาทะเบียนฐานันดร คอื การบนั ทึกประวตั กิ ารได้รบั พระราชทานเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ ทุกชน้ั ตรา ตามทป่ี ระกาศในราชกจิ จานุเบกษา การได้รบั การจา่ ยเคร่อื งราชอิสริยาภรณต์ ามทร่ี าชกจิ จานเุ บกษา ประกาศหรือไม่ เมือ่ ใด ได้สง่ คนื หรือชดใชแ้ ทนราคาตามเอกสารอ้างอิงใดหรอื ไม่อย่างไร ทง้ั นี้ ต้องมีการ ปรับปรุงข้อมลู ใหเ้ ปน็ ปจั จุบันอยู่เสมอ เพื่อประโยชน์ในการทวงถามให้สค่งืนเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณห์ รือชดใชเ้ งิน อน่ึง เม่อื ขา้ ราชการ โอน ย้าย เจ้าหน้าที่ท่ีเกย่ี วข้องควรแนบสาเนาทะเบียนฐานันดรและ สาเนาเอกสารที่เก่ียวข้องไวใ้ นแฟม้ ประวตั ิ เพ่อื ใหส้ ว่ นราชการที่รับยา้ ย โอน จะไดใ้ ชเ้ ป็นขอ้ มูลประกอบการ พจิ ารณาเสนอขอพระราชทานเล่อื นชน้ั ตราสูงข้นึ มีผลใหต้ อ้ งเรียกคนื ชั้นรองที่เคยไดร้ บั การจา่ ยไว้ก่อนหน้าแล้ว ดงั นัน้ หากปรากฏขอ้ มูลทะเบยี นฐานันดรและเอกสารในแฟม้ ประวัติ จะทาใหส้ ามารถทวงคนื เคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ไดค้ รบถว้ น เกิดประโยชนส์ งู สดุ ต่อราชการ การคนื เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณช์ น้ั รองนี้ ต้องใชแ้ บบ ฐน.3 ตามท่ีสานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี กาหนด

เม่ือจัดทาแบบ ฐน.3 เรยี บรอ้ ยแล้ว เสนอหัวหน้าสว่ นราชการระดบั กองลงนามแลว้ ส่งคืน กล่มุ บริหารงานบคุ คล สานักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ท้งั นีไ้ มค่ วรส่งทางไปรษณยี ์ เนือ่ งจากหากมีการ สูญหายอาจจะตอ้ งชดใช้แทนราคา สมควรที่เจ้าหน้าท่ีผู้รบั ผดิ ชอบจะนามาส่งดว้ ยตนเอง หรือมอบหมายใหผ้ ู้ที่ มีความรูค้ วามเขา้ ใจเปน็ ผูน้ าส่ง เนือ่ งจากหากมีข้อขัดข้องประการใด จะได้หาขอ้ สรุปได้ 2. เมอ่ื ผ้ไู ด้รบั พระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์วายชนม์ ทายาทผู้รับมรดกจะต้องส่งคืนเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณภ์ ายใน 30 วัน ถ้าไมส่ ามารถสง่ คืนได้ ดว้ ยประการใด ๆ ทายาทจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบ โดยชดใช้แทนราคาตามกฎหมายกาหนด ในการส่งคนื เคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณข์ องผู้วายชนมใ์ หใ้ ช้แบบ ฐน.5 ทงั้ นี้ ถ้าผไู้ ดร้ บั พระราชทานทกุ รายได้เคยสง่ คืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ช้ันรองตามกฎหมายมากอ่ นแล้ว เม่ือวายชนม์ให้ทายาท นาสง่ คนื เฉพาะ 2 ดวง/สารับสูงสุดทเี่ กบ็ รกั ษาไว้ แตถ่ ้าผวู้ ายชนม์ยงั ไมเ่ คยสง่ คืนเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณช์ ้นั ใด มาก่อนกต็ อ้ งสง่ คนื ท้งั หมด ถา้ สง่ คืนไม่ไดต้ อ้ งชดใชเ้ งนิ แม้ว่าจะถูกโจรกรรม ประสบอทุ กภยั วาตภยั อัคคีภยั อนึ่ง ถ้าผวู้ ายชนม์เคยได้รบั พระราชทานเหรยี ญจกั รพรรดมิ าลา ทายาทไม่ตอ้ งส่งคืนเหรียญ จักรพรรดมิ าลา เน่ืองจากพระราชบญั ญัติเหรียญจกั รมาลา และเหรียญจักรพรรดิมาลา พ.ศ.2484 มาตรา 11 กาหนดวา่ เป็นการพระราชทานใหเ้ ป็นกรรมสิทธิ์ เมื่อผ้ไู ดร้ ับพระราชทานวายชนม์ ให้ทายาทโดยธรรมรกั ษาไว้ เป็นท่รี ะลึก แต่ถา้ ผู้ได้รบั พระราชทานหรอื ทายาทโดยธรรม ประพฤตติ นไมส่ มเกยี รติ อาจทรงเรยี กคืนได้ ถ้าส่งคืนไม่ได้ด้วยประการใด ๆ ภายในกาหนด 30 วัน จะตอ้ งใชร้ าคาเหรียญ ในทางปฏิบตั ิ สว่ นราชการมกั ไมร่ ายงานรายชอื่ ผวู้ ายชนมต์ ามแบบ ฐน.5 ตามทีส่ านกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรกี าหนด และไมต่ ดิ ตามทวงถามหรือบังคับให้เป็นไปตามกฎหมายกาหนดอยา่ งแท้จริง กรณตี ิดตามผวู้ ายชนมห์ รอื ผทู้ ่ีลาออกหรือเกษยี ณอายไุ ปกอ่ นแล้ว แต่ไม่สามารถติดตามไดห้ รอื ไมท่ ราบข้อมลู ว่าวายชนมห์ รือยัง ดังน้นั ขอใหส้ ่วนราชการตรวจสอบผทู้ ่จี ะลาออกหรือจะเกษยี ณว่าได้คืนชนั้ รองครบแลว้ หรอื ไม่ ถ้าคืนช้ันรองหมดแลว้ เหลือแตช่ น้ั ตราสงู สดุ ของตระกลู ใหส้ อบถามผ้ทู ี่จะลาออกหรือผทู้ จ่ี ะเกษียณว่า ประสงค์จะเก็บรักษาเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณไ์ ว้หรอื ไม่ หากไม่มีความจาเป็นต้องใชป้ ระดบั แล้วก็ควรจะสง่ คนื ช้ันตราสูงสุดที่มอี ยหู่ รอื ชดใชแ้ ทนราคา ทั้งนี้ ขอใหเ้ ปน็ ความสมคั รใจของผูน้ ้ันทจี่ ะคืนชน้ั ตราสงู สดุ ดังกล่าว ซ่งึ เจ้าหน้าทที่ ร่ี บั ผดิ ชอบงานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณข์ องหนว่ ยงาน ควรแจ้งให้ผู้ไดร้ บั พระราชทานทราบถึงสิทธิ และหนา้ ที่อนั พงึ กระทาตามทีก่ ฎหมายบัญญัตอิ ย่างเครง่ ครดั 3. เมอื่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ รียกคนื เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณ์ หากผูไ้ ด้รบั พระราชทานเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณป์ ฏบิ ัตติ นและหน้าที่ไม่เหมาะสมกบั การไดร้ ับ พระราชทานเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ดงั กลา่ ว เช่น ใหโ้ ทษแก่ประเทศชาติบ้านเมอื ง หรอื หมน่ิ พระบรมเดชานุภาพ เป็นต้น กรณนี ี้ ตอ้ งคนื ประกาศนยี บตั รกากบั เครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณด์ ้วย (ถา้ เป็นการสง่ คนื ช้นั รองของ ผทู้ เ่ี ล่ือนชัน้ ตราสงู ขนึ้ และของผ้วู ายชนม์ ตามขอ้ 1 และ 2 ไม่ต้องส่งคนื ประกาศนยี บัตรกากับ เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์)

ข้อแนะนาในการตรวจรับคืนเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์จากผู้ส่งคนื เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณแ์ ตล่ ะช้นั ตราจะมีลักษณะรายละเอยี ด ขนาดของดวงตรา ดารา แตกตา่ งกนั จาเปน็ อยา่ งย่ิงที่เจ้าหน้าท่ผี รู้ บั ผิดชอบจะต้องศึกษา จดจาลักษณะของแตล่ ะชั้นตรา เพือ่ สามารถ ตรวจสอบเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ทีม่ ผี ู้นามาสง่ คนื ได้อย่างถกู ต้อง เนื่องจากมีปญั หาเนอื ง ๆ เชน่ - เปน็ บุรุษ นาเหรียญของสตรีมาคนื หรอื สตรนี าเหรยี ญบรุ ษุ มาสง่ คืน ซงึ่ อาจเกิดจากการนา เหรียญของคูส่ มรสมาส่งคืนและอา้ งว่าไดร้ บั การจา่ ยผดิ ตัง้ แตแ่ รก ซึ่งหากเจา้ หนา้ ที่รบั คืนมากไ็ มเ่ ป็นการถูกตอ้ ง อีกทงั้ มผี ลใหค้ ู่สมรสครอบครองเหรียญท่ีไม่ถกู ต้อง หากนาไปประดบั กไ็ ม่บงั ควร และเม่ือคู่สมรสจะสง่ คืนกผ็ ิด เหรียญ (เน่อื งจากสลับเหรียญระหวา่ งสามี-ภรรยา) - เรมิ่ ได้รับพระราชทานชน้ั จ.ช. ซึง่ เปน็ เครื่องราชอิสริยาภรณท์ ี่มีดอกไม้จีบ (เรยี กวา่ “จอก”) ตดิ บนแพรแทบ และผู้ส่งคนื ได้ทาจอกหลุดหายไปแลว้ แต่แจ้งว่าส่งคนื บ.ช. ซง่ึ หากเจ้าหน้าท่ไี ม่รู้จัก เคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ และรับคืนก็จะขัดกบั ข้อเทจ็ จริง และเมื่อนาส่งคืนสานกั งานปลดั กระทรวงสาธารณสุข ก็จะมีปญั หา เน่ืองจากไมเ่ คยได้รบั บ.ช. แต่นา บ.ช. มาคืน ดงั น้ัน นอกจากเจ้าหนา้ ท่จี ะรู้จักลักษณะของแตล่ ะ ดวงตราแลว้ ยังจาเปน็ ตอ้ งทราบประวตั ขิ องผู้ส่งคืนแต่ละรายด้วย จงึ ต้องจดั ทาทะเบยี นฐานันดรไว้ทกุ สว่ นราชการ - เมอ่ื ได้รับพระราชทานชน้ั สายสะพาย และนาชน้ั รองคือ ท.ม. หรือ ท.ช. มาคนื มักมีการสลับ ดาราของ ท.ม. กบั ท.ช. เช่น ส่งคนื ท.ม. แต่นาดาราของ ท.ช. มาด้วย ซึง่ หากผ้ไู ด้รับพระราชทานนา เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณท์ ี่เหลือคือ ท.ช. ไปประดับร่วมกบั ดาราของ ท.ม. ยอ่ มไมถ่ กู ตอ้ ง จึงตอ้ งตรวจสอบให้ เรียบรอ้ ยกอ่ นท่ีจะรับคนื ตอ่ หน้าผ้นู าส่ง อนง่ึ ส่วนราชการควรจดั สถานท่ที ีเ่ หมาะสมทจ่ี ะเก็บรกั ษาเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์เพื่อมิให้ สญู หาย ชารุด เมอ่ื มผี ูน้ าเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์มาคืน เจา้ หนา้ ท่ีควรปฏิบตั ดิ งั น้ี 1. ตรวจสอบเหรยี ญท่ีส่งคนื ว่าถูกต้อง สมบรู ณ์ครบถว้ นตรงกับช้นั ตราทีผ่ ้สู ง่ คนื ระบหุ รือไม่ 2. ตรวจสอบประวตั ิการได้รับพระราชทานจากทะเบียนฐานนั ดรวา่ ผู้สง่ คนื เคยไดร้ บั พระราชทานชัน้ ตราท่ีสง่ คืนหรือไม่ ตามประกาศราชกจิ จานุเบกษา ลาดบั ใด หน้าใด ประจาปใี ด 3. บันทึกชือ่ ผ้สู ่งคนื ชนั้ ตราท่คี นื ไวก้ บั เครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณ์ เนื่องจากหากมีปญั หาในการ ส่งคืนเหรียญของผใู้ ด ชน้ั ตราใด จะได้สะดวกในการตรวจสอบแกไ้ ขตอ่ ไป 4. จัดทาบัญชีรายชือ่ ผูส้ ่งคืนเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ (แบบ ฐน.3) โดยระบุชอ่ื -สกุล พร้อม ชอ่ื - สกลุ เดมิ (ถา้ มี) ช้นั ตราที่คืน จานวน ลาดับ/หน้าที่ และปที เ่ี คยไดร้ บั พระราชทาน ซง่ึ หากส่วนราชการจดั ทา ทะเบยี นฐานนั ดรไว้ กส็ ามารถนาขอ้ มูลมาใชอ้ า้ งอิงได้ทันที การส่งคืนเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์ ผูไ้ ด้รับพระราชทานสง่ คนื ทห่ี น่วยงานท่ีตนเองปฏบิ ัตริ าชการ อยู่ หากโอน ย้าย ใหส้ ่งคืนที่ส่วนราชการใหมท่ สี่ ังกดั และถา้ ลาออก เกษียณอายแุ ล้ว ไม่มีความจาเป็นจะต้อง ใชป้ ระดบั หรอื วายชนม์ ให้ส่งคนื สังกดั สดุ ทา้ ย หรอื ส่งคนื ทสี่ ่วนกลาง เพ่อื กรมจะได้รวบรวมสง่ สานกั เลขาธกิ าร คณะรฐั มนตรีต่อไป อนงึ่ กรณีเครื่องราชอิสรยิ าภรณท์ ่สี ่งคนื มีสภาพชารุด เสยี หาย จะพจิ ารณารบั คืนเฉพาะทมี่ ี การชารุดตามสภาพการใช้งาน เชน่ การลงยาสีลอก บุบ กะเทาะ สึกหรอที่ส่วนใดสว่ นหนงึ่ เพยี งเล็กนอ้ ย แต่ หากมสี ภาพชารดุ ในลกั ษณะทข่ี าดสว่ นใดสว่ นหนง่ึ ขององค์ประกอบของดวงตรา ดารา หรือเหรยี ญ ซงึ่ ระบไุ ว้ ในพระราชบัญญัตขิ องเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ตระกูลนนั้ ๆ สมควรทส่ี ่วนราชการจะขอความร่วมมือใหใ้ ชเ้ งินแทน หรือขอซ่อมแซมโดยเจา้ ของรบั ผิดชอบค่าใช้จา่ ยในการซอ่ มทง้ั หมด ในกรณีจาเป็นจะตอ้ งสง่ คืนหรอื ชดใช้ทีส่ านักอาลักษณแ์ ละเคร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์ สานัก เลขาธิการคณะรฐั มนตรี ทาเนยี บรัฐบาลกไ็ ด้ แตต่ อ้ งแจง้ รายละเอยี ดใหส้ านกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ทราบ ทกุ ครง้ั เพื่อบันทกึ ขอ้ มลู ไว้ในทะเบียนฐานนั ดร

ขอ้ มลู ประกอบการปฏิบัติของสานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี เกย่ี วกบั การสง่ คนื เครือ่ งราชอิสริยาภรณ์ หรอื ชดใช้ราคาแทนเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ทีไ่ ม่สามารถสง่ คืนตามกฎหมาย เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณท์ ่ีสง่ คนื ต้องเปน็ เครื่องราชอสิ รยิ าภรณ์ท่ไี ดร้ ับพระราชทาน หรอื ไดร้ บั การจา่ ยจากสานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี เท่าน้ัน เครื่องราชอิสริยาภรณท์ ่ีซอ้ื หรือจดั หามาจากท่ีอนื่ ใด ถือวา่ เปน็ เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ปลอมและไมส่ ามารถส่งคนื ทดแทนได้ตามกฎหมาย ผทู้ ี่จะส่งคนื เครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์หรอื เงินชดใชร้ าคาแทนเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์สง่ ได้ที่ หนว่ ยงานใดหน่วยงานหนง่ึ ดังน้ี  หนว่ ยงานต้นสังกัด ซ่ึงจะรวบรวมส่งสานกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรตี อ่ ไป  สานกั เลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ภายในบรเิ วณทาเนยี บรัฐบาล โดยติดต่อท่ีสานักอาลกั ษณ์ และเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ โทร. 0 2280 9000 ตอ่ 423 424 กรณชี ดใชร้ าคาแทนเครอื่ งราชอิสริยาภรณ์เป็นเชค็ หรอื ต๋ัวแลกเงิน ขอให้สัง่ จ่าย สานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรแี ละส่ง สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ถนนนครปฐม เขตดสุ ติ กรงุ เทพมหานคร 10300 เมอื่ หน่วยงานตน้ สังกัดไดร้ บั เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณค์ ืนจากผู้ใดแล้ว ขอให้เขียนปา้ ยชื่อติดไว้ที่ เครื่องราชอิสริยาภรณ์นนั้ ด้วย เพ่อื ประโยชนใ์ นการดาเนนิ การในภายหลงั โดยเฉพาะกรณีทพ่ี บว่าเปน็ เครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ปลอม ชารดุ กรณีมีเหตอุ ันควรสงสัยว่าจะเป็นเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ปลอม เช่น รูปลกั ษณะ สี ขนาด หรือนา้ หนกั แตกต่างไปจากเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณท์ ไ่ี ด้รบั การจา่ ยจากสานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี หรอื ไม่ปรากฏเครื่องหมายผสู้ รา้ ง ใหแ้ จ้งผ้สู ่งคนื ทราบเบื้องตน้ แลว้ สง่ ใหส้ านกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี พจิ ารณาต่อไป เมื่อสานักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรไี ด้รับเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณห์ รอื เงินชดใชร้ าคาแทน เครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์แลว้ จะออกหลักฐานใบรบั เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณห์ รอื ใบเสรจ็ รับเงินใหแ้ ก่ผสู้ ่งคืนเพอ่ื เก็บไวเ้ ปน็ หลักฐาน และจะบนั ทึกขอ้ มูลในฐานข้อมูลทะเบยี นฐานนั ดรด้วย ในส่วนของเครอ่ื งราชอสิ รยิ าภรณ์ท่ีได้รับคืนนัน้ สานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรีจะดาเนินการ จดั ซ่อมให้มีสภาพใหมเ่ พอ่ื ใช้หมนุ เวยี นสาหรับการพระราชทานในปตี ่อไป ดงั นน้ั การส่งคนื เคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ ตามทก่ี ฎหมายบัญญตั ิ นอกจากจะเป็นการปฏบิ ัตติ ามกฎหมายและโบราณประเพณีแลว้ ยงั นับเป็นการสนอง พระมหากรุณาท่ีทรงมตี ่อผ้ไู ด้รบั พระราชทานเครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ อกี ทัง้ ยังเป็นการช่วยลดภาระในดา้ น งบประมาณสาหรับการจดั สรา้ งเครอ่ื งราชอิสริยาภรณข์ ้ึนใหมอ่ กี ด้วย กรณีเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์ทีจ่ ะสง่ คืนชารุด มีแนวทางปฏบิ ัติ ดังนี้  กรณชี ารุดเล็กนอ้ ย เชน่ สีลงยาแตก สลกั ยดึ หลุดแตส่ ว่ นประกอบทกุ ชิน้ สว่ นอยู่ครบ สามารถส่งคนื ไดโ้ ดยไม่ตอ้ งเสียคา่ ใช้จ่ายในการซ่อม  กรณีชารดุ ในสาระสาคัญ เชน่ ถูกไฟไหม้จนเสยี รปู ลกั ษณะ จะไมส่ ามารถสง่ คืนได้  กรณสี ่วนประกอบบางสว่ นสูญหาย ใหต้ ิดต่อสานกั เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เพอื่ ดาเนนิ การสง่ ให้หน่วยงานผู้สรา้ งเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ (สานกั กษาปณ์ หรอื องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก) ซอ่ มเพ่มิ เตมิ สว่ นประกอบใหม้ ีสภาพสมบูรณ์ก่อนสง่ คนื ท้ังน้ี ผทู้ ่ตี ้องส่งคืนเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์ต้อง รับผดิ ชอบคา่ ใช้จ่ายในการซ่อมแซมทง้ั หมดกอ่ น

กรณีขอสร้างเครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณท์ ดแทนที่สูญหาย เนือ่ งจากพระราชบัญญตั เิ ครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณจ์ ลุ จอมเกล้า พทุ ธศักราช2484 พระราชบัญญตั เิ ครื่องราชอสิ ริยาภรณเ์ ป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก พุทธศักราช2484 พระราชบญั ญตั ิ เครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณอ์ ันมเี กียรติยศยงิ่ มงกุฎไทย พทุ ธศกั ราช2484 และพระราชบัญญตั ิเครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ อันเปน็ ท่ีสรรเสริญย่งิ ดเิ รกคณุ าภรณ์ พ.ศ.2534 บัญญัตใิ หผ้ ู้ได้รบั พระราชทานเครอ่ื งราชอิสริยาภรณ์ชน้ั สูงขึน้ ต้องสง่ คืนเครือ่ งราชอสิ รยิ าภรณ์ชน้ั รอง ถ้าส่งคืนไมไ่ ดด้ ว้ ยประการใด ๆ ตอ้ งใชร้ าคาเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ และ กรณีผู้ได้รับพระราชทานวายชนม์ ทายาทหรอื ผูร้ ับมรดกต้องส่งคนื เคร่ืองราชอิสริยาภรณภ์ ายในสามสิบวัน ถ้า ส่งคืนไมไ่ ด้ด้วยประการใด ๆ ต้องใช้ราคาเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์ ยกเว้นเครอื่ งราชอสิ รยิ าภรณอ์ นั เปน็ ทสี่ รรเสริญ ยิง่ ดิเรกคุณาภรณ์ ซงึ่ กฎหมายไม่ไดบ้ ัญญัตใิ หต้ อ้ งสง่ คืนชั้นสงู สดุ ปรากฏว่า มผี ไู้ ดร้ บั พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณห์ รือทายาทของผไู้ ดร้ ับพระราชทาน เคร่ืองราชอิสรยิ าภรณแ์ จ้งความประสงค์ ขอใหส้ านักเลขาธิการคณะรัฐมนตรจี ดั สรา้ งเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์ ทดแทนทสี่ ญู หายเพือ่ ใช้ประดบั หรอื สง่ คืนตามท่ีกฎหมายบญั ญตั ิ โดยผไู้ ดร้ บั พระราชทานหรือทายาทจะเป็นผู้ ออกค่าใชจ้ า่ ย ซ่ึงสานกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรีพิจารณาแลว้ เห็นวา่ เพือ่ ให้มีแนวทางปฏิบัตทิ ีช่ ดั เจนและ เปน็ ไปตามเจตนารมณ์และบทบญั ญัตขิ องกฎหมายทบ่ี ญั ญัติให้กรณีท่ีส่งคืนเครื่องราชอสิ รยิ าภรณไ์ มไ่ ด้ตอ้ งใช้ ราคาเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ จงึ เหน็ สมควรกาหนดหลกั เกณฑใ์ นการขอสรา้ งเครอื่ งราชอิสริยาภรณท์ ดแทนที่ สูญหาย ดงั นี้ 1. เครือ่ งราชอิสริยาภรณช์ ั้นสูงสุดที่ได้รบั พระราชทานในแตล่ ะตระกูล 1.1 กรณผี ูไ้ ด้รบั พระราชทานยังมีชีวติ อยู่ ขอสร้างทดแทนได้ เพ่อื ใชป้ ระดับในโอกาสอันควร 1.2 กรณผี ไู้ ด้รับพระราชทานวายชนม์แลว้ ไมส่ ามารถขอสร้างทดแทน 2. เครอ่ื งราชอสิ ริยาภรณช์ ้นั รองท่ีได้รบั พระราชทานในแตล่ ะตระกลู 2.1 กรณเี ป็นเครื่องราชอิสรยิ าภรณช์ ัน้ ท่ีมีทัง้ ดวงตราและดารา (1) หากสูญหายเฉพาะดวงตราหรือดารา ขอสร้างทดแทนไดเ้ ฉพาะส่วนทสี่ ูญหาย เทา่ นน้ั (2) หากสญู หายทัง้ ดวงตราและดารา ไม่สามารถขอสร้างทดแทน 2.2 กรณีเป็นเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ช้นั ทม่ี ีเฉพาะดวงตราหรือช้นั เหรยี ญ หากดวงตราหรอื เหรียญสญู หาย ไมส่ ามารถขอสร้างทดแทน

ราคาชดใชแ้ ทนเคร กรณที ไี่ มส่ ามารถส่งคนื ประจาป (ตง้ั แต่ 1 ต.ค.57 ชา้ งเผอื ก ชั้น บรุ ุษ สตรี ม.ป.ช. 41,560 32,382 ป.ช. 28,658 22,618 ท.ช. 15,600 12,316 ต.ช. 6,696 5,934 จ.ช. 3,496 3,708 บ.ช. 3,332 3,522 ร.ท.ช. 2,414 2,786 ร.ง.ช. 2,324 2,668

ร่อื งราชอสิ ริยาภรณ์ ปงี บประมาณ พ.ศ.2558 – 2560 7 – 30 ก.ย.60) มงกฎุ ไทย ชั้น บุรษุ สตรี ม.ว.ม. 55,516 43,316 ป.ม. 27,240 20,834 ท.ม. 16,664 11,612 ต.ม. 6,406 5,096 จ.ม. 3,496 3,708 บ.ม. 3,332 3,522 ร.ท.ม. 1,994 2,420 ร.ง.ม. 1,976 2,364 ร.จ.พ. 2,284 2,664

บญั ชีรายช่ือผู้ส่งคืนเคร่ืองราชอิสริยา กระทรวง......................... กรม/หน่วยงาน................................... คานาหนา้ ช่ือ ชื่อตัว ชื่อสกุล เคร เลขประจาตัวประชาชน ( ลงเลขจานวนในช้ันทคี่ ืน , ส ลาดับ (หากมีการเปล่ียนแปลง คานาหนา้ ช่ือ ชื่อตัว ชื่อสกลุ ม.ป.ช. ม.ว.ม. ป.ช. ป.ม. ท โปรดแจ้งขอ้ มูลเดิมในวงเล็บต่อทา้ ยชื่อ) บ ส บ ส บ ส บ ส บ รวม

าภรณ์ (กรณีส่งคืนช้ันรอง) ......................... .............................................. รื่องราชอิสริยาภรณ์ แบบ ฐน 3 ส่วนช้ันทไี่ ม่มีการคืนให้ทาเครื่องหมาย ( - ) ) หมายเหตุ (ระบกุ รณที ่ี ท.ช. ท.ม. ต.ช. ต.ม. จ.ช. จ.ม. รวม ส่งคืน,กรณีการโอน สบสบสบ ส บ ส บ ส สังกัด ฯลฯ) (ลงชื่อ) ..................................................................... ผู้รับรอง (.....................................................................) ตาแหน่ง ....................................................................

บญั ชีรายชื่อผูส้ กระท กรม/ หนว่ ยงาน โรงพย ลาดบั ที่ คานาหน้าช่ือ ม.ป.ช. ม.ว.ม. เครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ (ลงเลขจานวนใน ชอ่ื ตัว ชอ่ื สกุล 1. (หากมีการ บรุ ุษ สตรี บรุ ุษ สตรี ป.ช. ป.ม. ท.ช. ท.ม. เปลีย่ นแปลงคา นาหน้าชื่อ ช่ือ บรุ ษุ สตรี บุรุษ สตรี บรุ ษุ สตรี บรุ ษุ สต ตวั ชื่อสกุล โปรดแจง้ ข้อมูล เดิมในวงเลบ็ ตอ่ ท้ายชอ่ื ) นายศกั ดชิ์ ัย จันทรส์ ุข* คาอธบิ าย * ระบุชือ่ ผู้นาสง่ คืน ถา้ มีการเปล่ียนชอ่ื ตวั ชื่อสกุล คานาหนา้ นาม ใหว้ งเลบ็ ไวเ้ พื่อยืนยันวา่ เป็น ** ระบจุ านวนและชือ่ เครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ทีน่ าสง่ คนื พรอ้ มวงเล็บปีท่ีเคยได้รับพระราชทานเห *** ระบเุ ลขหนา้ /ลาดับทที่ ีไ่ ดป้ ระกาศในราชกิจจานเุ บกษา **** ผู้รับรองคอื หวั หน้าส่วนราชการระดบั กอง คอื ผ้อู านวยการโรงพยาบาลศูนย/์ โรงพยาบาลท

สง่ คนื เครือ่ งราชอิสรยิ าภรณ์ บ.ช. แบบ ฐน 3 ทรวงสาธารณสขุ ยาบาลสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราช บรุ ษุ สตรี รวม หน้า/ ลาดับที่ นชัน้ ทคี่ นื ,ส่วนชั้นทไ่ี ม่มกี ารคนื ใหท้ าเครื่องหมาย (-) *** หมาย ต.ช. ต.ม. จ.ช. จ.ม. เหตุ ตรี บรุ ษุ สตรี บุรษุ สตรี บรุ ุษ สตรี บรุ ษุ สตรี บ.ม. บุรุษ สตรี ** ** 2 ต.ม. 11 50/170 (34) (32) ต.ช. 51/111 12 นบคุ คลเดยี วกัน หรียญดังกล่าว ทว่ั ไป นายแพทย์สาธารณสขุ จังหวัด ผอู้ านวยการกอง/สานัก/สถาบันในส่วนกลาง **** ลงช่อื ........................................................ผรู้ บั รอง (........................................................)

บญั ชีรายช่ือผู้ได้รับพระราชทานเคร่ืองรา กระทรวง...................................... กรม/หนว่ ยงาน........................................ ลาดับที่ คานาหนา้ ชื่อ ช่ือตัว ช่ือสกุล วายชนม์ เลขประจาตัวประชาชน วัน เดือน ปี สาเหตุทว่ี ายชน (หากมกี ารเปล่ียนแปลงคานาหน้าช่ือ ช่ือตัว ชื่อสกลุ โปรดแจง้ ขอ้ มูลเดิมในวงเล็บต่อทา้ ยช่ือ)

าชอิสริยาภรณท์ วี่ ายชนม์ .......................... ...................................... แบบ ฐน 5 เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ เงินชดใช้แทนราคาฯ นม์ (นะบุชื่อย่อช้ันตราท่ี (บาท / ระบชุ ่ือย่อช้ันตรา หมายเหตุ ส่งคืนแต่ละรายการ) ทส่ี ่งเงนิ คืนในวงเล็บ) ลงชื่อ.................................................... ผู้รับรอง (.....................................................) ตาแหนง่ .................................................

แบบบญั ชีรายชอื่ ผู้ไดร้ ับพระราชทา กระทรวงส กรม/หน่วยงาน โร วายชนม์ ลาดบั รายช่ือ วนั เดอื น ปี สาเหตทุ ่วี ายชนม์ (1) (2) (2) 1. * ** ** นายสรุ นิ ทร์ เทียนทอง 1 ก.ค. 45 อุบัติเหตุรถชน คาอธบิ าย * ใหร้ ะบชุ อื่ – สกลุ ผวู้ ายชนม์ ถ้ามกี ารเปลย่ี นชอื่ ตัว ชอ่ื สกลุ คานาหน้านาม ให้วงเล็บไว้เพื่อยนื ย ** ระบุวัน เดอื น ปี และสาเหตุท่วี ายชนม์ *** ระบชุ ้ันตราทท่ี ายาทนาส่งคนื พร้อมระบปุ ที ี่เคยได้รับพระราชทาน **** กรณีทีไ่ ม่สามารถส่งคนื เคร่อื งราชอสิ ริยาภรณไ์ ด้ให้ใช้เงนิ แทนราคา โดยระบจุ านวนเงินและช ***** ผอู้ านวยการโรงพยาบาลศนู ย/์ โรงพยาบาลท่ัวไป นายแพทยส์ าธารณสขุ จงั หวัด ผ้อู านวยกา

านเคร่อื งราชอสิ รยิ าภรณ์ที่วายชนม์ สาธารณสขุ รงพยาบาลแมส่ อด เคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์ท่ีสง่ คืน แบบ ฐน 5 หมายเหตุ เครื่องราชอิสรยิ าภรณ์ (ระบุ เงินชดใช้แทนราคาฯ เคยส่งคนื ต .ช. (5 ธ.ค. 34) และ ชือ่ ยอ่ ช้นั ตราทสี่ ่งคนื แตล่ ะ (บาท/ระบชุ อื่ ยอ่ ช้ันตรา ต.ม. (5 ธ.ค. 32) แล้ว ทสี่ ง่ เงินคืนในวงเลบ็ ) ตามหนงั สอื ......................ท.่ี ........... รายการ) ลว........................................ (3) (4) *** **** ท.ม. (5 ธ.ค. 37) 7,830 บาท (ท.ช. 5 ธ.ค. 41) ***** ลงชื่อ.....................(5).................................ผรู้ บั รอง (........................................................) ยันว่าเปน็ บคุ คลเดยี วกัน ชัน้ ตราท่ีชดใช้ พร้อมระบปุ ีที่ไดร้ บั พระราชทาน ารกอง/สานกั /สถาบนั ในสว่ นกลางลงนามรับรอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook