98 การนาคอนเดนเสทกลับมาใช้ ถา้ หากไอนา้ ที่ไช้มีความดัน 700 kPa คอนเดนเสทจะมพี ลงั งานประมาณ 25% ของ ความรอ้ นที่ใข้ในการ ผลิตไอน้า ถ้าหากคอนเดนเสทถูกปล่อยท้ิงประสิทธิภาพของการใช้ ไอน้าจะน้อยกว่า 75 % คอนเดนเสท คือ ไอน้าท่ีกลั่นตัวเป็นหยดน้า หรือเรียกว่า น้ากลั่นร้อนที่เหมาะต่อการป้อน กลับให้หม้อไอน้า การนาคอนเดนเสท ป้อนกลับให้หม้อไอน้าไม่เพียงแต่จะเป็นการ ประหยัดเช้ือเพลิง แต่ยังเป็นการประหยัดน้า ค่าปรุงแต่งน้า ยืดอายุ การใชง้ านของหมอ้ ไอ นา้ และระบบไอนา้ เมือ่ คิดรวมกนั แล้วจะทาให้สามารถประหยดั เงินได้เปน็ จานวนมาก จากตัวอย่างท่ีแสดงให้เห็นนี้เป็นที่ชดั เจนว่าเราควรนาคอนเดนเสทกลับมาใช้และควรระลึกใช้เสมอว่าการ เพ่ิมข้ึนทุก ๆ 5°c ของน้าป้อนหม้อไอน้าจะประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 1% อย่างไรก็ดีการนาคอนเดนเสท กลับมาใช้ต้องมีข้อควรระวังอยู่บ้างคอนเดนเสทที่มีอุณหภูมิสูง อาจทาให้เกิดฟองอากาศ (Cavitation) ข้ึนกับ เครื่องสูบน้าป้อนน้าได้แต่ก็มีวิธีป้องกันได้โดยให้ทางเข้าเครื่องสูบน้ามีเฮดความดันเพียงพอโดยยกถังป้อนน้าให้สูง กว่า ตัวเคร่ืองสูบนา้ ตามเกณฑต์ อ่ ไปนี้ 1 88 °c ใช้ความสงู 1.6 เมตร 2 93 °c ใช้ความสงู 3.1 เมตร 3 99 °c ใชค้ วามสูง 4.6 เมตร 4 100 °c ใชค้ วามสูง 5.2 เมตร เหตุผลหน่ึงที่คนไม่นิยมนาคอนแดนเสทกลับมาใช้ เน่ืองจากคอนเดนเสทถูกเจือปนด้วย สารต่าง ๆ ใน กระบวนการผลติ ในกรณนี ี้เราสามารถใชอ้ ุปกรณแ์ ลกเปลยี่ นความร้อนของ คอนเดนเสทกลับมาใชไ้ ด้อยดู่ ี เพื่อที่จะ นาความร้อนจากคอนเดนเสทมาใช้ให้มากทีส่ ุด ท่อคอนเดนเสทควรหมุ้ ฉนวน เพ่ือป้องกันการสญู เสยี ของความร้อน กับดักไอน้า (Steam Trap) เป็นอุปกรณ์สาหรับปล่อยคอนเดนเสทออกจากระบบไอน้า และป้องกันคอนเดนเสท ท่วม ผิวการถ่ายเทความร้อน นอกจากน้ี อาจท่าหน้าท่ีปล่อยอากาศและก๊าซที่ไม่ควบแน่นทิ้ง ไปการร่ัวของกับตัก ไอน้า หรือการล้มเหลวจากการเปิดด้างให้ไอน้าไหลผ่านได้เป็นสาเหตุ ของการสูญเสียพลังงานอย่างมากมาย เพ่ือ หลีกเลี่ยงการสูญเสียความร้อน ควรจะได้มี แผนตรวจการทางานของกับดักไอน้าอย่างสม่าเสมอ นอกจากน้ี การ เลือกใช้ประเภทและ ขนาดของกบั ตักไอนา้ ท่ีไม่ถูกต้อง จะท่าใหก้ ับตกั ไอนา้ ท่างานโดยไม่มปี ระสิทธิภาพเต็มท่ี และ อาจนาไปสกู่ ารล้มเหลวของกบั ตักไอนา้ ก่อนเวลาอนั ควร ไอนาแฟลช (Flash steam) คอนเดนเสทท่ีเกิดขึ้นภายใต้ความดันจะมีอุณหภูมิสูงกว่า 100°c เมื่อคอนเดนเสทผ่านกับ ตักไอน้า ความ ดันของคอนเดนเสทลดลง แต่อุณหภูมิยังคงท่ี ท่าให้คอนเดนเสทบางส่วน ระเหยกลายเป็นไออีก ไอท่ีเกิดข้ึนน้ี เรียกว่า แฟลชสตีม ซึ่งสามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ได้ โดยใช้กังแฟลช ซึ่งท่าหน้าท่ีเก็บไอน้าแฟลชเอาไว้ใชป้ ระโยชน์ ต่อไปได้ เช่น การใช้ไอน้า แฟลชในกระบวนการ Preheat หรือในกระบวนการที่ต้องการใช้ไอน้าความดันต่า เป็น ตน้
99 การระบายอากาศ การระบายอากาศหรือก๊าซที่ไม่ควบแน่นอ่ืน ๆ ออกจากระบบไอน้าเป็นสิ่งจาเป็น เนื่องจาก อากาศหรือ ก๊าซนี้จะลดการถ่ายเทความร้อนทาให้ระบบร้อนช้าและสูญเสียพลังงาน นอกจากนี้จุดเย็น (Cold Spot) อาจ เกิดขึ้น ซ่ึงจะทาให้อุปกณ์ทาความร้อนบิดเบี้ยวเสีย หายได้ เพื่อการระบายอากาศออก จึงควรที่จะติดต้ังกับดักไอ นา้ ทีม่ ตี ัวระบายอากาศในตัว และตดิ ตง้ั ตัวระบายอากาศทอ่ี ุปกรณซ์ ่ึงใช้ไอน้า ถงั ปอ้ นนา้ และเครอ่ื งสูบน้า การสูญเสียความร้อนจากกังป้อนน้าสามารถป้องกันได้โดยการหุ้มฉนวนกัง และกังควรจะ มีฝาปิด ถึง จะต้องโตพอท่ีจะป้อนน้าให้แก่หม้อไอน้าและรับน้าจากระบบได้ทัน เพ่ือหลีกเล่ียงการสูญเสียไอน้าแฟลช ท่อคอน เดนเสทควรต่อกับกังโดยให้ต่ากว่าระดับน้าใน กัง ถ้าหากอุณหภูมิของคอนเดนเสทสูงเกินไปใหต้ รวจดูวา่ กับดักไอ น้าล้มเหลวหรือไม่ ถ้า หากกับดักไอน้าทางานปกติ ให้ใช้อุปกรณ์แลกเปลี่ยนความร้อนกับคอนเดนเสทเสียก่อนที่ จะปล่อยเข้าถัง การสญู เสียความร้อน'ในอุปกรณ์ที่ใชไ้ อนา้ การสญู เสยี พลังงานของไอน้าจากอีกแหล่งหน่ึงก็คือ การสญู เสยี ความร้อนในอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้า โอกาสของ การสูญเสียและการอนุรักษ์พลังงานจะข้ึนอยู่กับอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้าท่ีใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมซ่ึงมักจะนาไปใช้ใน กระบวนการทาความร้อน ซ่ึงสามารถนาไปใช้ไดใน 2 ลักษณะคือ การฉีดพ่นโดยตรง (Direct Steam Injection) และการก่ายเทความร้อนผ่านผนังโลหะ จะเป็นการ ไม่เพียงพอถ้าเราพยายามป้องกันการสูญเสียพลังงานในระบบ ผลติ ไอนา้ และระบบล่งจ่ายไอน้าแตก่ ลับนาไอนา้ มาใชอ้ ย่างไม่ระมัดระวังต่อการสูญเสีย หลกั การทีส่ าคัญของการใช้ ไอน้าก็คือไอน้า จะต้องแห้งให้มากที่สุดเท่าท่ีจะมากได้ก่อนเข้ากระบวนการในบางกรณีอาจจะมีความจาเป็นต้อง ติดต้ังตัวแยกไอน้า (Separator) สาหรับอุปกรณ์ท่ีใช้ไอน้าแต่ละตัว โดยเฉพาะอย่างย่ิงในกรณีที่ การแยกคอนเดน เสทออกทาได้ลาบาก ทั้งน้ีก็เพ่ือให้ไอน้าแห้งและมีการก่ายเทความร้อนดีท่ีสุด ในกรณีท่ีไอน้าถูกใช้ผ่านอุปกรณ์ แลกเปลี่ยนความร้อน และถ้าสมมติว่าไอน้าท่ีใช้นั้นแห้งดีแล้ว สาเหตุต่าง ๆ ที่ทาให้กระบวนการให้ความร้อนมี ประสิทธภิ าพต่าคือ - ผวิ การถา่ ยเทความร้อนไมด่ ี หรอื การระบายอากาศไม่ดี - กบั ดักไอน้าที่ใชไ้ ม่ถูกประเภท และขนาด หรือขาดการบารงุ รกั ษา - อปุ กรณ์ขาดการหุ้มฉนวนหรือมแี ต่ไมเ่ พียงพอ กระบวนการทาความร้อนโดยการฉีดพ่นไอน้าโดยตรงอย่างเช่นการทาของเหลวในถังให้ร้อนมีข้อดีหลายอย่างเช่น อุปกรณท์ ี่ใช้ไม่ซับซ้อนและมีราคาถูกไม่จาเป็นต้องใช้กบั ดักไอน้าและความร้อนสัมผัสจะถูกนาไปใช้ในกระบวนการ ให้ความร้อนได้ด้วยแต่ในหลายกรณีพลังงานจากไอน้าได้เกิดการสูญเปล่าไปมากมายจากการท่ีไอน้าได้ระเหยออก จากผวิ ของเหลวกอ่ นท่ีจะกลนั่ ตวั ดงั แสดงในรปู ท่ี 5.5 อีกท้ังยงั เปน็ การทาใหส้ ภาวะการทางานไม่ดีอีกด้วย
100 การถ่ายเทความร้อนจากไอน้าผ่านผนังโลหะเป็นปรากฎการณ์ท่ีน่าสนใจและจะทาให้เราเข้าใจถึงความ จาเป็นของการระบายอากาศและคอนเดนเสทออกจากระบบไอน้าโดยทั่วไปความด้านทานต่อการไหลของความ ร้อนในพวกโลหะและโลหะผสมจะมีค่าน้อยอย่างไรก็ดีโลหะมักจะมีชั้นของตะกรันเกิดข้ึนเน่ืองจากการออกซิเดช้ัน หรือการกัดกร่อนสารบางอย่างอาจจะตกตะกอนติดอยู่กับผิวโลหะนอกจากน้ีจะมีฟิล์มของน้าเกิดข้ึนบนด้าน กระบวนการดูรูปท่ี 5.5และบนด้านไอน้าจะมีฟิล์มของคอนเดนเสทและอากาศช้อนกันอยู่ด้วยฟิล์มเหล่าน้ีจะทาให้ เกิดความด้านทานต่อความร้อนมากข้ึนถ้าหากจะเปรียบเทียบความด้านทานของวัสดุต่าง ๆ ต่อการไหลของความ รอ้ นกับทองแดงโดยให้ความดา้ นทานของทองแดงมีค่าเปน็ หน่ึงแลว้ จะพบว่าค่าตวั เลขเหล่าน้ีไดแ้ สดงว่าอากาศและ นา้ จะมคี า่ ความด้านทานต่อการไหลของความร้อนมากกว่าวสั ดุอื่น ๆ อย่างมากมายการระบายอากาศและคอนเดน เสทออกจากระบบไอนา้ จึงเป็นสิ่งจาเป็นอย่างย่งิ รปู ท่ี 5.5 แผ่นฟิลม์ ของอากาศ น้า และตะกรนั บนพนื้ ผิวโลหะ ทาใหล้ ดประสิทธภิ าพการถา่ ยเทความร้อน วธิ กี ารอนุรักษพ์ ลังงานในระบบไอนา้ การป้องก้นการสญู เสียพลังงาน การสญู เสียพลงั งานในโรงงานอุตสาหกรรมอาจจะเกิดข้ึนได้ในรูปต่าง ๆ กันเช่นการสูญ เสียความรอ้ นจาก การหุ้มฉนวนอย่างไม่เหมาะสม การร่ัวไหลของไอน้าตามรอยร่ัวต่าง ๆ ในระบบการสูญเสียไอน้า เนื่องจากความ บกพร่องของกับดักไอน้า การป้องกันการสูญเสียในรายการเหล่าน้ีนอกเหนือจากการให้ผลในด้านการอนุรักษ์ พลังงานแล้วยังมีผลอย่างมากต่อความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมการทางานที่ดีอีกด้วย ตัวอย่างเช่นพ้ืนผิวท่ีมี อณุ หภูมสิ ูงอาจจะเปน็ อนั ตรายตอผทู้ ่ีทางานในบริเวณดังกล่าว และทาให้พืน้ ทใ่ี นบริเวณนน้ั มีอณุ หภูมิสูงการร่ัวไหล ของไอน้าก็จะมีผลในทานองเดียวกัน ท่อล่งไอน้าจะต้องหุ้มฉนวนเสมอ การลงทุนหุ้มฉนวนท่อไอน้าจะได้รับทุนคืน
101 ภายในไม่ถึง หนึ่งปี เกณฑอ์ ย่างง่าย ๆ ท่ใี ช้ในการดูความเหมาะสมของฉนวนหมุ้ ท่อ เราพิจารณาที่ อณุ หภมู ิผวิ นอก ของฉนวนการหุ้มฉนวนควรพิจารณาหุ้มท่อหน้าแปลนวาล์ว เฮดเดอร์ และอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้าท่ัวไปท่ีมีความ จาเป็นต้องเก็บรักษาความร้อนซ่ึงอาจจะหมายถึง กังย้อมผ้าด้วย ในกรณีของหน้าแปลนอาจจะเทียบเป็นความยาว ของตรงเท่ากับ 0.4 เมตร และวาล์วเทียบเป็นความยาวของท่อตรงเท่ากับ 1.2 เมตรโดยทั่วไปอุณหภูมิผิวนอกไม่ ควรเกิน 50°c อย่างไรก็ตาม สาหรับท่อส่งไอน้าท่ีอยู่ในบริเวณที่มีการปรับอากาศฉนวน หุ้มต้องหนา เพ่ิมข้ึน กล่าวคอื อณุ หภมู ิผิวนอกท่เี หมาะสมควรจะตา่ กว่าตัวเลขที่ให้ไว้ ข้างต้น ทง่ั น้เี น่อื งจากอุณหภมู ิอากาศรอบท่อที่ต่า จะท่าให้มีการสูญเสียความร้อนเพิ่มข้ึน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร้อนท่ีสูญเสียจากท่อจะกลายเป็นภาระ ทางความ รอ้ นของเครอ่ื งปรบั อากาศดว้ ย รปู ผลของการหุ้มฉนวน และการตดิ ตงั้ ฝาปดิ ถังบรรจุคอนเดนเสทท่ีมีต่อการสญู เสยี ความรอ้ นคอนเดนเสท รูปแสดงปริมาณการสูญเสียความร้อนจากกังคอนเดนเสท ซ่ึงบรรจุคอนเดนเสทที่ อุณหภูมิ 95°c และอุณหภูมิ แวดล้อมท่ี 25 °c เปรียบเทียบระหว่างในกรณีที่ไม่มีฝาปิด และไม่มีการหุ้มฉนวนกัง กับในกรณีท่ีมีฝาปิดและหุ้ม ฉนวนหนา 50 มลิ ลเิ มตร รูป แสดงปรมิ าณความร้อนท่ีสูญเสียจากผิวน้าในกรณีที่มฝี าปิดถงั น้าร้อนและไม่มฝี าปิดถงั น้ารอ้ นทีอ่ ุณหภูมิ ระหว่าง 35-100°c รปู ปรมิ าณความร้อนทีส่ ูญเสยี จากผวิ นา้ ในกรณีทไ่ี ม่ฝาปิดและไม่มีฝาปิดท่ีอณุ หภูมิน้า ระหว่าง 35-106 c
102 รูปแสดงปริมาณการรั่วไหลของไอน้าผ่านรูร่ัวขนาดต่าง ๆ และมูลค่าของความสูญเสียดังกล่าวในหนึ่งปีในการ คานวณมูลค่าความสูญเสียเรากาหนดให้ระบบไอน้ามีการทางานปีละ 2,400 ชั่วโมงและคิดค่าใช้จ่ายในการผลิต ไอนา้ ที่ 0.35 บาทตอ่ กโิ ลกรมั รปู การสญู เสยี ไอน้าผา่ นรรู วั่ ขนาดตา่ ง ๆในระบบไอนา้ และมลู คา่ ความสูญเสยี ท่เี กดิ ขน้ึ ต่อปี รูปแสดงปริมาณการร่ัวไหลของไอน้าผ่านรูรั่วขนาดต่าง ๆ และมูลค่าของความสูญเสียดังกล่าวในหน่ึงปีในการ คานวณมูลค่าความสูญเสียเรากาหนดให้ระบบไอน้ามีการทางานปีละ 2,400 ชั่วโมงและคิดค่าใช้จ่ายในการผลิต ไอนา้ ที่ 0.35 บาทต่อกิโลกรัม รูปการณ์สญู เสียไอน้าผ่านรูรัว่ ขนาดต่าง ๆ ในระบบไอนา้ และมูลคา่ ความสญู เสยี ทเ่ี กิดข้ึนต่อปี
103 การนาพลงั งานท่ีเหลอื จากการใช้แล้วกลบั มาใช้ใหม่ พลังงานที่เหลือจากการใช้แล้ว (Waste Heat)ในกรณีน้ีได้แก่ คอนเดนเสทหรือน้าร้อน จากการใช้งานใน กระบวนการผลติ ส่วนตา่ ง ๆ รวมทั้งน้าร้อนจากการเปาหรอื พ่นท้ิง (Blow Down) ออกจากหม้อไอน้าคอนเดนเสท นน้ั เนอ่ื งจากยังมีพลังงานความร้อนในตวั สูง (ประมาณหนง่ึ ในส่ีของพลังงานในไอนา้ ท่ีใช้) และเปน็ น้าสะอาดที่ผ่าน การบาบัดจน เหมาะสมสาหรับใชก้ ับหม้อไอน้าแลว้ จึงควรจะนากลับคืนมาใช้เสมอ ยกเว้นคอนเดนเสท ที่เกิดการ ปนเปื้อนในกระบวนการผลิต เพราะนอกจากอนุรักษ์พลังงานแล้ว ยังช่วยลด ค่าใช้จ่ายสาหรับเป็นค่าน้าและค่า สารเคมีท่ีใช้ในการบาบัดน้าอีกด้วย คอนเดนเสท สามารถใช้งานได้ในสองลักษณะ คือ น้ากลับคืนไปเป็นน้าป้อน หม้อไอน้าโดยตรง และ การนาคอนเดนเสทไปผลิตไอน้าแฟลช (Flash Steam) เพ่ือใช้ในกระบวนการผลิตที่ต้อง การไอนา้ ความดันตา่ รูปวิธกี ารนาคอนเดนเสทกลบั คนื ไปใช้ดว้ ยแทรปเครอ่ื งสูบนา้ (Pumping Trap) ในกรณีท่ีความดันท่ีทางออกของกับดักไอน้าไมส่ ูงพอทีจ่ ะดันคอนเดนเสทข้นึ ไปสู่ท่อคอนเดนเสทได้ รูปแสดงวิธีการหน่ึงในการนาคอนเดนเสทกลับคืนใช้ประโยชน์ส่วนรูป แสดงปริมาณการเกิดเป็นไอน้า แฟลชคิดเป็น % ของคอนเดนเสทสาหรับที่ค่าต่าง ๆ ของความดันคอนเดนเสทและความดันของไอน้าแฟลซที่ ต้องการตัวอย่างเช่นในกรณีท่ีเป็นคอนเดนเสทซ่ึงมาจากกับตักไอน้าที่ความดัน 80 psi ถ้าถูกนากลับมาใช้โดยการ บรรจุในกังคอนเดนเสทแบบเปิดธรรมดาจากกราฟพบว่าไอน้าแฟลชที่เกิดขึ้นเท่ากับ 12% ของคอนเดนเสทนั้นคือ การนาคอนเดนเสทกลับมาใช้ด้วยกังเปิดธรรมดาจะทาให้เกิดการสูญเปล่าไอน้าความดันต่าถึง 12% ของคอนเดน เสทท้งั หมด
104 รูปที่ปริมาณไอน้าแฟลชที่เกิดข้ึนเม่ือคอนเดนเสทถูกป้อนเข้าไปในถึงความดนั ต่างกันน้าร้อนที่เกิดจากการเปาหรอื พ่นท้ิงจากหม้อไอน้าสามารถนาไปใช้ในการอุ่นน้าป้อนหม้อไอน้าผ่านอุปกรณ์แ ลกเปล่ียนความร้อนหรือนาไปผลิ ไอน้าแฟลซเพอื่ ใชใ้ นกระบวนการผลิตท่ตี ้องการไอน้าความดนั ต่าก็ได้ นอกจากน้ี ความร้อนจากก๊าซไอ เสียของหม้อไอน้า หากมีอุณหภูมิท่ีสูง เพียงพอ ก็สามารถ นามาใช้ในการอุ่นน้า ป้อนหรืออากาศท่ีใช้ในการเผาไหม้ให้ร้อนมากข้ึนได้ซึ่งจะทาให้ ประสิทธิภาพความร้อนเพิ่มข้ึนประมาณ 1 % ต่อ ทุก ๆ 20 °c ทอี่ ุณหภูมิของกา๊ ซทลี่ ดลง ดังนั้นจึงเป็นแนวทางหนง่ึ ทส่ี ามารถประหยดั เช้อื เพลิงได้
105 บทท่ี 4 มาตรการอนรุ กั ษ์พลังงานในระบบหม้อไอน้า การปรบั ปรุงประสิทธภิ าพการเผาไหม้ บริษทั ไทยเทพรส จากัด (มหาชน) ดาเนนิ ธรุ กิจผลติ เครื่องปรุงรส จาหน่ายทง้ั ในประเทศ และต่างประเทศ ทางานวันละ 24 ชั่วโมง จานวน 312 วัน/ปี ในบางขั้นตอนของ กระบวนการผลิตจะมีการใช้ไอน้าในการให้ความ ร้อนและฆ่าเช้ือให้กับผลิตภัณฑ์ในการ ผลิตไอน้าเพื่อใช้งานของโรงงานแห่งน้ีจะอาศัยหม้อไอน้า ขนาด 6 ton/hr ชนิดท่อไฟ ใช้เชื้อเพลิงชนดิ น้ามันเตาเกรด C ปริมาณเฉล่ีย 1,169,844 ลิตร/ปีจากการตรวจวัดก๊าซเสีย จากปล่อง โดยใชเ้ คร่อื งมือวัดการเผาไหม้ได้ผลดังนี้ ปรมิ าณ O2 2 6.8 % ปริมาณ CO2 10.68 % ปริมาณ CO 68 ppm อณุ หภูมิ 254 C ปริมาณอากาศสว่ นเกิน 48.0 % ประสทิ ธิภาพการเผาไหม้ 82.5 % เนอื่ งจากหม้อไอน้าของโรงงานใชน้ ้ามันเตาเกรด C เป็นเช้อื เพลงิ ซึ่งโดยทั่วไปอากาศท่ีใช้เผาไหม้สาหรับ หมอ้ ไอน้าซึ่งใช้เช้อื เพลิงดงั กล่าวท่ีเหมาะสม ควรมีปริมาณอากาศสว่ นเกนิ ไมเ่ กนิ 22% หรือมีปริมาณ02 ในกา๊ ซเสีย อยู่ในระดับไม่เกิน 4% จากผลการตรวจวัดจะเห็นว่าปริมาณอากาศส่วนเกินของหม้อไอน้าอยู่ในเกณฑ์สูง ดังน้ัน ทางโรงงาน จึงได้ทาการปรับแต่งการเผาไหม้ของหม้อไอน้าดังกล่าวเพื่อรักษาระดับปริมาณอากาศส่วนเกินและ ควบคุมปริมาณอากาศเผาไหม้ท่ีป้อนเข้าหม้อไอน้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมซึ่งผลการตรวจวัดก๊าซเสียจากปลอ่ งมี ดังนี้ ปรมิ าณ O2 4% ปรมิ าณ CO2 12.7 % ปรมิ าณ CO 14 ppm อณุ หภมู ิ 196 oC ปรมิ าณอากาศสว่ นเกิน 20.0 % ประสิทธภิ าพการเผาไหม้ 88.0 % จากการปรับปรุงการเผาไหม้ของหม้อไอน้าโดยวิธีการปรับแต่งสัดส่วนระหว่างเชื้ อเพลิงกับอากาศให้อยู่ ในชว่ งท่ีเหมาะสม สง่ ผลให้โรงงานสามารถประหยัดพลังงานได้ 9,427 MJ/ปี หรอื เช้อื เพลิง 77,990ลติ ร/ปีหรือเป็น เงิน 937,440 บาท/ปี (นา้ มันเตาเกรด C ราคาเฉลี่ย12.02 บาท/ลิตร)
106 การคานวณ ปรมิ าณเชือ้ เพลงิ ท่ีประหยดั ได้= ปริมาณเชือ้ เพลิงทใี่ ช้X(ประสิทธิภาพใหม่-ประสทิ ธิภาพเกา่ ) = 77,990 ลติ ร/ปี = 3,219,427 M J/ปี คิดเป็นเงินท่ปี ระหยัดได้ = ปริมาณเช้อื เพลงิ ทป่ี ระหยัดได้ X ค่าเชอ้ื เพลงิ เฉลี่ย = 77,990 ลติ ร/ปี X 12.02 บาท/ลิตร = 937,440 บาท/ปี การนาคอนเดนเสทกลับมาใช้ใหม่ บรษิ ัทไทยเทพรส จากดั (มหาชน) ดาเนนิ ธุรกิจผลติ เครื่องปรงุ รส ในกรณศี ึกษาท่ี 1 ในขน้ั ตอนของการทา ให้ถ่ัวเหลืองสุกละลายก่อนท่ีจะนาไปบรรจุลงขวด จะใช้ไอน้ามาใช้ในการต้มน้าในหม้อต้มไอน้าหลังจากผ่านชุด แลกเปล่ียนความร้อนจะกล่ันตัวเป็นคอนเดนเสทและถูกปล่อยทิ้งไปพร้อมกับน้าล้างวัตถุดิบลงสู่บ่อบาบัดปริมาณ คอนเดนเสทท่ีจะเกิดข้ึนจากการตรวจวัดพบว่ามีปริมาณโดยเฉล่ีย 700 kg/hr และมีอุณหภูมิประมาณ 80°c หลังจากโรงงานได้เข้าร่วมโครงการอนรุ ักษ์พลงั งาน ทางผู้บริหารของโรงงาน ได้เล็งเห็นถึงความสูญเสียที่เกิดขน้ึ จึง มนี โยบายใหเ้ รง่ ดาเนนิ การปรบั ปรุงโดยนาเอาคอนเดนเสท ที่ได้ปล่อยทง้ิ ไปนนั้ กลบั มาผสมกบั น้าท่ปี ้อนเข้าหม้อไอ นา้ อุณหภมู ิ 30°c จากการปรับปรุงล่งผลใหโ้ รงงานสามารถประหยดั พลงั งานได้ 1,568,753 MJ/ปี หรอื เช้อื เพลิง 38,003 ลติ ร/ปี หรือเป็นเงิน 465,796 บาท/ปีและมรี ะยะเวลาคืนทนุ 0.23 ปี การคานวณ 7,488 ชม. /ปี ข้อมูลสาหรับการคานวณ 82.5 % (1) เวลาทางาน [24 (ชม.) x 312 (วนั )] 41.28 MJ/ลติ ร (2) ประสทิ ธภิ าพการเผาไหม้หม้อไอน้าเฉล่ยี 12.02 บาท/ลิตร (3) คา่ ความร้อนเช้ือเพลงิ 4,080 ลิตร/ชม. (4) ราคาเช้ือเพลงิ 700 kg/hr (5) ปรมิ าณนา้ ปอ้ นหมอ้ ไอน้าโดยเฉลีย่ 125.58 kJ/kg (6) ปรมิ าณน้าคอนเดนเสท 100,000 บาท (7) Enthalpy ของน้าป้อนอุณหภูมิ 30oC (8) เงนิ ลงทุนในการปรบั ปรุง ก่อนปรับปรุง นา้ ปอ้ นอุณหภูมิ 30°c ทาใหเ้ ปน็ น้าอุณหภมู ิ100°c ต้องใช้คา่ ความร้อน
107 = 4,080 kg/hrx4.187 kJ/kg X (100-30) (ค่าความถว่ งจาเพาะของนา้ เปน็ 1 kg/ลิตร) = 1,406,832 kJ/hr หลังปรับปรงุ นาคอนเดนเสทอุณหภูมิ 80°c มาผสมกบั น้าป้อนอุณหภูมิ 30°c จะไดอ้ ุณหภูมิผสมเป็น = (3.480 kg/hr X 30aC1 + (700 kg/hr X 80aC1 4,080 kg/hr = 38.8°c น้าปอ้ นอุณหภมู ิ 38.8°c ทาใหเ้ ป็นน้าอุณหภมู ิ 100°c ต้องใชค้ า่ ความร้อน = 4,080 kg/hr X 4.187 kJ/kg/K X(100-38.6) = 1,233,993 kJ/hr ค่าความรอ้ นที่ประหยัดได้ 1,406,832 kJ/hr - 1,233,993 kJ/hr = 172,839 kJ/hr คิดเปน็ ปริมาณเชือ้ เพลงิ ได้ = 172,839 kJ/hr 41.28 บาท/ลิตร X82.5% X1,000 = 5.08 ลติ ร/ชม. หรอื 5.08 ลติ ร/ชม. x 7,488 ชม. /ปี = 38,003 ลิตร/ปี คิดเป็นเงิน 38,003 ลิตร/ปี x 12.02 บาท/ลิตร = 456,796 บาท/ปี คิดเป็นระยะเวลาคนื ทุน = 100,000 บาท 456,796 บาท/ปี = 0.23 ปี การปรบั ปรุงฉนวนหุ้มท่อส่งไอน้า บริษัท ไทยเทพรส จากัด (มหาชน) ดาเนินธุรกิจผลิตเครื่องปรุงรส ออกจาหน่ายท้ังใน และต่างประเทศ ทางานวันละ 20 ช่ัวโมง จานวน312 วัน/ปี ในบางข้ันตอนของกระบวนการ ผลิตจะมีการใช้ไอน้าในการล้างขวด ผลิตภัณฑ์ในการผลิตไอน้าเพ่ือใช้งานของโรงงานแห่งน้ี จะอาศัยหม้อไอน้า ขนาด 4 ตัน/ชม. ชนิดท่อไฟ ใช้ เชื้อเพลิงชนิดน้ามันเตาเกรด C ผลิตไอ น้าส่งไปตามท่อส่งขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 น้ิว ไปยังสายการผลิต เน่ืองจากโรงงานเปิด กิจการมาเป็นระยะเวลานานจงึ ทาให้ฉนวนท่ีใช้สาหรับหุ้มท่อเกิดการชารุดคิดเป็นความ ยาว 170 เมตร จากการปรับปรงุ จุดบกพร่องดังกล่าวลง่ ผลให้โรงงานสามารถประหยดั พลังงานได้ 330,936 MJ/ปี หรือ เช้ือเพลิง 9,717 ลิตร/ปีหรือเปน็ เงิน 115,181 บาท/ปแี ละมรี ะยะเวลาคืนทนุ 1.70 ปี
108 การคานวณ ขอ้ มูลสาหรบั การคานวณ (1) ขนาดเสน้ ผ่านศูนยก์ ลางท่อ 2 นว้ิ (2) ขนาดความยาวท่อ 170 เมตร (3) พื้นท่ีผวิ การระบายความร้อน (A) 27.12 m2 (4) อุณหภมู ิท่ีผวิ เตาก่อนห้มุ ฉนวน (Ta) 140.0 oC (5) อุณหภูมิภายนอก (Ts) 27 oC (6) สัมประสิทธก์ิ ารแผ่รังสคี วามร้อน (hr) 0.9 W/m2K (7) สัมประสิทธิก์ ารพาความร้อน (hc) 5.110 W/m2K (8) คา่ เช้ือเพลิง (น้ามนั เตา C) 11.85 บาท/ลติ ร (9) ประสิทธิภาพการเผาไหม้หม้อไอนา้ เฉลย่ี 82.5 % (10) เงนิ ลงทุนในการปรับปรุง 196,227 บาท กาลงั ความร้อนสญู เสยี ก่อนปรบั ปรงุ ฉนวน = (hr + hc) x A x (Ts-Ta) = 18,415 W การหุ้มฉนวนลดการสญู เสยี พลงั งานลงได้ (ขอ้ มลู จาก พพ.) 80% คดิ เปน็ คา่ กาลังงานทล่ี ดลง = 18.415 kW x 80% = 14.732 kW คิดเปน็ คา่ พลงั งานที่ประหยดั ได้ = 18.415 kW x 20 ชม. x 312 วัน = 91,927 kWh/ปี หรือ = 330,936 MJ/ปี หรือเทยี บเทา่ น้ามนั เตา C = 330,936 MJ/ปี 41.28 MJ/ลติ ร x 82.5% = 9,717 ลิตร/ปี คิดเป็นเงนิ ท่ีประหยัดได้ = 9,717 ลิตร/ปี x 11.85 บาท/ลิตร = 115,181 บาท/ปี คิดระยะเวลาคนื ทุน = 196,227 บาท 115,181 บาท/ปี = 1.70 ปี
109 การลดแรงดนั ของไอน้าที่ผลติ บริษัท ไทยเทพรส จากัด (มหาชน) ดาเนินธุรกิจผลิตเคร่ืองปรุงรส ออกจาหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ เป็นชนิดท่อไฟ ขนาดพิกัดกาลังผลิตไอน้าติดตั้ง 6 ตันไอน้า จานวน 2 ชุด ทางานคร้ังละ 1 ชุด ใช้น้ามันเตาเป็น เชอ้ื เพลงิ ก่อนปรับปรุง หม้อไอน้าปรับตั้งความดันไอน้าที่ 105 psig มีอุณหภูมิ172°C ซ่ึงสูงเกินกว่าความต้องการของอุปกรณ์ที่ใช้ไอน้าใน โรงแรม ทาใหห้ ม้อไอน้าใชเ้ ชื้อเพลิงเกนิ กว่าท่จี าเป็น หลังปรับปรุง ทาการปรับลดความดนั ไอนา้ ลงเป็น 90 psig มอี ณุ หภูม1ิ 66°C ซึง่ เพียงพอต่อความตอ้ งการของอปุ กรณท์ ่ีใช้ไอน้า การตรวจและวิเคราะห์การทางานของหม้อไอน้า ชนิดไอนา้ ที่ใช้ = ไอนา้ อม่ิ ตัว ขนาดหม้อไอนา้ = 2 ตนั /ช่ัวโมง จานวนหม้อไอน้า = 2 ชุด เปอรเ์ ซ็นต์การทางาน = 17 ช่วั โมง/วัน วันทางาน = 365 วัน/ปี รายการ กอ่ นปรับปรงุ หลังปรบั ปรงุ ความดนั ไอนา้ ท่ตี ั้งไว้ (Psig) 105 90 อณุ หภูมไิ อนา้ (°C) 172 166 เอนทาลปขี องไอน้า (kJ/kg) 2770.31 2,764.72 พลงั งานจากไอน้าท่ีลดลง = (2,770 kJ/kg – 2,764.72 kJ/kg) x (2,000 kg/h) x(17 h/d) x 0.7 x (365 d/y) = 48,555,117.80 kJ/ปี = 48,555.12 MJ/ปี ค่าความร้อนตา่ ของน้ามันเตา = 39.77 MJ/ลติ ร คดิ เป็นปริมาณน้ามนั เตา = 48,555.12 / 39.77 = 1,220.90 ลติ ร/ปี ราคาน้ามันเตาเฉลยี่ = 16 บาท/ลิตร คดิ เปน็ เงินทปี่ ระหยัดได้ = 1,220.90 x 16 = 19,534.4 บาท/ปี การลดการโบลวด์ าวน์ บริษัท ไทยเทพรส จากัด (มหาชน) ดาเนินธุรกิจผลิตเคร่ืองปรุงรส ออกจาหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ ทางานครัง้ ละ 1 ชดุ โดยทางาน 20 ชัว่ โมงต่อวนั และใชน้ ้ามนั เตาเกรดซีเป็นเชือ้ เพลงิ
110 จากการสารวจพบวา่ ความเขม้ ขน้ ของสารละลายในน้าของหม้อไอน้าอยทู่ ่ี 685 ppm ซง่ึ ตา่ กวา่ มาตรฐาน พกิ ัดของหมอ้ ไอนา้ ท่ีมีแรงดันตา่ กว่า 150 psig ท่ียอมใหค้ วามเข้มขน้ ของสารละลายในนา้ อยู่ท่ี 3,500ppm โรงแรม จะทาการโบลว์ดาวน์วันละ 2 ครั้ง จากค่าความเข้มข้นของสารละลายของน้า โรงงานไม่มีความจาเป็นต้องโบลว์ ดาวน์ เน่ืองจากน้ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ข้อมูลจากการตรวจวัดพบว่า โรงแรมสูญเสียน้าโบลว์ดาวน์ที่อุณหภูมิ 95°C ในอตั รา 6 ลติ ร/นาที หรอื 3,153.6 ลบ.ม./ปี และยงั สญู เสยี นา้ ประปา 28 ลติ ร/นาทีหรอื เทา่ กับ 14,716.80 ลบ.ม./ปี หากโรงแรมสามารถลดการโบลว์ดาวน์ลงได้จะทาใหโ้ รงแรมลดการใช้ไอน้าและเชอ้ื เพลงิ การตรวจและวเิ คราะหก์ ารทางานของหม้อไอนา้ โรงงานจะตอ้ งทาการตรวจวัดความเขม้ ข้นของสารละลายในนา้ และความถี่ในการโบลว์ดาวน์ หากพบวา่ ความเขม้ ข้นของสารละลายในนา้ ของหมอ้ ไอน้ามคี ่าตา่ กวา่ 3,500 ppm โรงแรมจะต้องหยดุ การโบลวด์ าวนแ์ ละ ปรบั ความถ่ีของการโบลวด์ าวน์ เพื่อมิใหโ้ รงแรมต้องสญู เสยี น้าในหมอ้ ไอน้า ในกรณีของโรงแรมนสี้ ามารถลดการ โบลว์ดาวนไ์ ดเ้ ปน็ 1 คร้ัง/วัน ครัง้ ละไมเ่ กิน 5 นาที ประสิทธิภาพของหม้อไอน้าเฉลย่ี = 84.52 % การใชง้ าน = 7,300 ชวั่ โมง/ปี อณุ หภูมิน้าป้อน = 95.0 °C อัตราการโบลว์ดาวน์ = 360 ลติ ร/ช่วั โมง อัตราการไหลของน้าประปาท่ีร่วั จากวาลว์ = 1,680 ลิตร/ชั่วโมง คา่ ความร้อนต่าของนา้ มันเตาเกรดเอ = 39.77 MJ/ลติ ร คา่ นา้ เฉลี่ย = 17.11 บาท/ลิตร ค่าเชือ้ เพลิงเฉล่ีย = 14.31 บาท/ลิตร ผลประหยัด นา้ รอ้ น = อตั ราการไหลของน้ารั่ว (L/h) x ชัว่ โมงใชง้ าน (h/y) = (360 x 7,300) / 1,000 = 2,628 m3/y น้าประปา = อัตราการไหลของน้าร่วั (L/h) x ช่ัวโมงใชง้ าน (h/y) = (1,680 x 7,300) / 1,000 = 12,264 m3/y คา่ น้าประปาสูญเสยี = (2,628 m3/y + 12,264 m3/y) x 17.11 บาท/ลิตร = 254,802.12 บาท/ปี ความรอ้ นสญู เสียไปกับน้าทร่ี ั่ว (น้ารอ้ น) Qw = Fw x Dw x Cp x (Tw – Two)
111 เม่ือ Fw = อตั ราการไหลของน้าท่รี ั่ว (L/h) Dw = คา่ ความหนาแนน่ ของน้า Cp = ค่าความร้อนจาเพาะของน้า Tw = อณุ หภูมินา้ ร่วั Two = อณุ หภูมนิ า้ ปกติท่สี ภาวะมาตรฐาน Qw = Fw x Dw x Cp x (Tw – Two) = (360 L/h x 1 x 4.187 kJ/kg. °C) x (95°C - 25°C) / 1,000 = 105.51 MJ/h คดิ เทียบเป็นนา้ มันเตาเกรดเอ = (Qw / LHV) / η = (105.51 / 39.77) / 0.8452 = 3.29 ลติ ร/ช่ัวโมง = 3.29 x 7,300 ลติ ร/ปี = 24,017 ลติ ร/ปี ค่าเช้อื เพลงิ = 24,017 (L/y) x 14.31 (฿/L) = 43,683.27 บาท/ปี ผลประหยดั รวมท่เี กดิ ขึน้ = คา่ น้า + คา่ เชอื้ เพลงิ = 254,802.12 + 343,683.27 = 598,485.39 บาท/ปี การลงทนุ ค่าวาลว์ ควบคมุ ขนาด 1.5 น้วิ จานวน 4 ชุด = 91,440 บาท ระยะเวลาคนื ทุน = 91,440 / 598,485.39 = 0.15 ปี
112 ตารางการแปลงหน่วย ปรมิ าณพลงั งานของเช้ือเพลิง(ค่าความร้อนสทุ ธิ) Energy Content of Fuel (Net Calorific Value) ประเภท (หน่วย) kcal/UNIT toe/106 UNIT MJ/UNIT 103 Btu/UNIT TYPE (UNIT) พลังงานเชงิ พาณิชย์ (COMMERCIAL ENERGY) 1. น้ามนั ดบิ (ลติ ร) 8680 860.00 36.33 34.44 1. CRUDE OIL (liter) 2. คอนเดนเสท (ลติ ร) 7900 782.72 33.07 31.35 2. CONDENSATE (liter) 3. กา๊ ซธรรมชาติ 3. NATURAL GAS 3.1 ชืน้ (ลกู บาศกฟ์ ตุ ) 248 24.57 1.04 0.98 3.1 WET (set.) 3.2 แห้ง (ลกู บาศก์ฟุต) 244 24.18 1.02 0.97 3.2 DRY (set.) 4. ผลติ ภัณฑป์ โิ ตรเลยี ม 4. PETROLEUM PRODUCTS 4.1 กา๊ ซปิโตรเลียมเหลว (ลติ ร) 6360 630.14 26.62 25.24 4.1 LPG (liter) 4.2 น้ามันเบนชิน (ลิตร) 7520 745.07 31.48 29.84 4.2 GASOLINE (liter) 4.3 น้ามนั เคร่ืองบิน (ลิตร) 8250 817.40 34.53 32.74 4.3 JET FUEL (liter) 4.4 นา้ มนั กา๊ ด (ลติ ร) 8250 817.40 34.53 32.74 4.4 KEROSENE (liter) 4.5 น้ามนั ดีเชล (ลิตร) 8700 861.98 36.42 34.52 4.5 DIESEL (liter) 4.6 น้ามนั เตา (ลิตร) 9500 941.24 39.77 37.70 4.6 FUEL OIL (liter) 4.7 ยางมะตอย (ลติ ร) 9840 974.93 41.19 39.05 4.7 BITUMEN (liter) 4.8 ปโิ ตรเลียมโค้ก(กก.) 8400 832.26 35.16 33.33 4.8 PETROLEUM COKE (kg.) 5. ไฟฟ้า (กิโลวัตต์ช่ัวโมง) 860 85.21 3.60 3.41 5. ELECTRICITY (kWh) 6. ไฟฟ้าพลงั 'นา (กโิ ลวัตต์ช่ัวโมง) 2236 221.54 9.36 8.87 ธ. HYDROELECTRIC (kWh) 7. พลงั งานความรอ้ นใตพ้ ิภพ 9500 941.24 39.77 37.70 7. GEOTHERMAL (kWh) (กิโลวัตต์ชวั่ โมง) 8. ถา่ นหินนาเขา้ (กก.) 6300 624.19 26.37 25.00 8. COAL IMPORT (kg.) 9. ถา่ นโค้ก (กก.) 6600 653.92 27.63 26.19 9. COKE (kg.) 10. แอนทราไชต์(กก.) 7500 743.09 31.40 29.76 10. ANTHRACITE (kg.) 11. อีเทน (กก.) 11203 1110.05 46.89 44.45 11. ETHANE (kg.) 12. โปรเพน (กก.) 11256 1115.34 47.11 44.67 12. PROPANE (kg.) 13. ลกิ ไนต์ 13. LIGNITE 13.1 ลี้(กก.) 4400 435.94 18.42 17.46 13.1 LI (kg.) 13.2กระบ่ี(กก.) 2600 257.60 10.88 10.32 13.2 KRABI (kg.) 13.3 แมเ่ มาะ(กก.) 2500 247.70 10.47 9.92 13.3 MAE MOH (kg.) 13.4 แจ้คอน(กก.) 3610 357.67 15.11 14.32 13.4 CHAE KHON (kg.)
113 ประเภท (หน่วย) kcal/UNIT toe/106 UNIT MJ/UNIT 103 Btu/UNIT TYPE (UNIT) พลงั งานใหม่และหมุนเวยี น (NEW & RENEWABLE ENERGY) 15.99 28.88 1.ฟืน(กก.) 3820 378.48 14.40 15.16 1. FUEL WOOD (kg.) 7.53 27.38 2. CHARCOAL (kg.) 2. ถา่ น (กก.) 6900 683.64 4.86 13.65 3. PADDY HUSK (kg.) 10.88 7.14 4. BAGASSE (kg.) 3. แกลบ (กก.) 3440 340.83 4.60 5. GARBAGE (kg.) 12.68 10.32 6. SAW DUST (kg.) 4. กากออ้ ย (กก.) 1800 178.34 20.93 12.02 7. AGRICULTURAL WASTE (kg.) 5. ขยะ (กก.) 1160 114.93 19.84 8. BIOGAS (m3) 6. ข้เี ลอ่ื ย (กก.) 2600 257.60 7. วสั ดเุ หลือใช้ทางการเกษตร 3030 300.21 (กก.) 8. ก๊าซชวี ภาพ (ลกู บาศกเ์ มตร) 5000 495.39 ตารางแสดงพลงั งานชวี มวลท่ีเกดิ ขึ้นในแตล่ ะปี คา่ ความร้อน อัตราส่วนชีวมวล ปริมาณ พลงั งาน ความช้นื ต่า ล้านดนั ลาดับ ผลผลติ ชวี มวล ตอ่ ผล ต้น/ไร่6 เมกะจลู เมกะจลู /กก. ผลิต4 X106 1 ข้าวเปลือก 25 ลา้ นตนั แกลบ 12.00% 13.52 21.00% 5.25 70.96 2 ข้าวเปลือก 25 ล้านตนั ฟางขา้ ว 10.00% 12.33 3 อ้อย 50 ลา้ นตนั ชานออ้ ย 50.73% 7.37 49.00% 12.25 151.04 4 อ้อย 50 ลา้ นตนั ใบและยอด 9.20% 15.48 28.00% 14.00 103.15 5 ไม้ยางพารา ออ้ ย 6 ไมย้ างพารา 0.25 ล้านไร่ ข้เี ลอื่ ย 17.00% 8.50 131.57 7 ไมย้ างพารา 0.25 ล้านไร่ ปีกไม้ 8 ไมย้ างพารา 0.25 ลา้ นไร่ ปลายไม้ 55.00% 6.57 3 0.75 4.93 9 ปาล์มนา้ มนั 0.25 ลา้ นไร่ รากไม้ 10 ปาลม์ นา้ มนั 5 ล้านตัน ใยปาลม์ 55.00% 6.57 12 3 19.71 11 ปาลม์ น้ามนั 5 ลา้ นตัน กะลาปาลม์ 5 ล้านตัน ทะลายเปล่า 55.00% 6.57 12 3 19.71 12 ปาลม์ นา้ มนั 13 ปาลม์ นา้ มัน ปาลม์ 55.00% 6.57 5 1.25 8.21 14 มนั สาปะหลงั 5 ล้านตนั ทางปาล์ม 0.01 ล้านไร่ สาต้นปาล์ม 38.50% 11.40 19.00% 0.95 10.83 10 ลา้ นตนั กากมนั 12.00% 16.90 4.00% 0.20 3.38 สาปะหลัง 58.60% 7.24 32.00% 1.60 11.58 78.00% 1.76 141.00% 7.05 12.41 48.40% 7.54 10 0.10 0.75 80.00% 1.47 37.00% 3.70 5.43
114 15 มนั สาปะหลัง 10 ลา้ นตัน เปลอื กมนั 67.00% 1.49 0.06% 0.01 0.01 สาปะหลัง 16 มันสาปะหลงั 17 ลา้ นตัน เหง้ามัน ลาปะ 59.40% 5.49 20.00% 3.40 18.68 หลงั 17 ข้าวโพด 5 ลา้ นตัน ชงั ข้าวโพด 40.00% 9.62 24.00% 1.20 11.54 18 ขา้ วโพด 5 ล้านตัน ลาตน้ ขา้ วโพด 42.00% 9.83 82.00% 4.10 40.30 19 ไมย้ ูคาลิปตสั 0.6 ล้านไร่ เปลอื กไม้ ยคู า 63.00% 4.92 3 1.80 8.85 ลปิ ตสั รวม 633 เทยี บเทา่ น้ามนั ดิบ kTOE 15,000 ตารางแสดงคา่ ความร้อน คา่ ความรอ้ น (kcal/Unit) 3,218 / kg. ลาดบั ประเภทของแหล่งพลงั งานและเชอ้ื เพลิง 6,900 /kg. 1 เชอื้ เพลงิ ไม้ 2 ถ่านหิน 6,000 /kg. 3 ถา่ นหินนาเขา้ 2,260/kg. 3.1 สาหรับโรงงานอตุ สาหกรรม 3.2 สาหรบั โรงงานตน้ กาลัง 2,260/kg. 4 ถ่านหินภายในประเทศ 2,600 /kg. 4.1 แหล่งล้ี 2,500 /kg. 4.2 แหล่งกระบ่ี 1,400 /kg. 4.3 แหลง่ แม่เมาะ 1,910/kg. 5 แกลบ 11,154/kg. 6 ชานออ้ ย 6,398 / liter 7 L.P.G 9,371 / liter 8 แกส๊ โซลนี 9,280 / liter 9 ดีเซล 8,621 / liter 10 นา้ มนั กา๊ ซ 9,826 / liter 11 J.P.-1 9,193 / liter 12 H.F.O. 2,605 / kWh 13 นา้ มนั ดิบ 252 / set. 14 พลังงานน้า 15 แก๊สธรรมชาติ
115 16 แก๊สชวี ภาพ 5,500 /m3 17 หนิ น้ามนั 2,605 / kWh 18 แอลกอฮอล์ 5,374/liter 19 ไม้โตเร็ว 405.720 / เช้อื เพลงิ ไม้ 1 ม3 20 พลงั งานแสงอาทิตย์ เทา่ กบั นา้ มันดิบ 58.133 ลิตร/ม3 บทท่ี 5 สรปุ และขอ้ เสนอแนะ หม้อไอน้าคืออุปกรณ์ที่ใช้ความร้อนจากการเผาไหม้เช้ือเพลิง หรือไฟฟ้า สาหรับผลิตไอน้าเพ่ือใช้สาหรับ การผลิตหรือเคร่ืองจักร อุปกรณ์ ที่ต้องการใช้พลังงานความร้อน อีกทั้งหม้อไอน้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานสูง ดังน้ันจึงต้องเข้าใจระบบ และการทางานของหม้อไอน้า เพื่อทีจ่ ะสามารถวิเคราะห์การทางาน และใชง้ านได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสมในบทนี้เป็นเนื้อหาด้านการวิเคราะห์การทางานของหม้อไอน้าและอุปกรณ์ การวิเคราะห์ ประสิทธิภาพหม้อไอน้า การวิเคราะหก์ ารสูญเสียพลังงาน และการอนรุ ักษ์พลังงาน เพื่อสามารถเรยี นรู้และเข้าใจ ระบบหมอ้ ไอนา้ ได้อย่างถูกต้อง
116 ตอนที่ 3 การจดั การพลังงาน สาหรบั โรงงานควบคุม หรอื อาคารควบคมุ ขอ้ มูลเบ้ืองตน้ ข้อมลู ท่ัวไป 1. ชือ่ นติ ิบุคคล : ทรสั ต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อมิ แพ็คโกรท ชอ่ื อาคารควบคุม : ทรสั ต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรพั ย์อิมแพ็คโกรท TSIC – ID : 82302-0002 2. ระบุกลุม่ อาคารควบคุมดังนี้ กลุ่มที่ 1 (ขนาดเล็ก) : อาคารควบคุมท่ีใช้เครื่องวัดไฟฟ้าหรือติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้ารวมกัน น้อยกว่าสามพัน กิโลวัตต์ หรือสามพันห้าร้อยสามสิบกิโลโวลต์แอมแปร์ หรืออาคารควบคุมที่ใช้พลังงานไฟฟ้าพลังงานความร้อน จากไอน้า หรือพลงั งานสิ้นเปลอื งอนื่ ๆ โดยมปี รมิ าณพลังงานเทยี บเท่าพลงั งานไฟฟา้ ต่ากวา่ หกสบิ ล้านเมกะจูล กลุ่มที่ 2 (ขนาดใหญ่) : อาคารควบคุมท่ีใช้เครื่องวัดไฟฟ้า หรือติดต้ังหม้อแปลงไฟฟ้ารวมกันต้ังแต่สามพัน กิโลวัตต์ หรือสามพันหา้ ร้อยสามสิบกิโลโวลตแ์ อมแปร์ขนึ้ ไป หรอื อาคารควบคุมที่ใช้พลงั งานไฟฟ้า พลังงานความ รอ้ นจากไอนา้ หรอื พลังงานสิน้ เปลืองอนื่ ๆ โดยมปี รมิ าณพลังงานเทียบเทา่ พลงั งานไฟฟา้ ตั้งแต่หกสิบลา้ นเมกะจูล ข้ึนไป 3. ท่ีอยูอ่ าหาร เลขท่ี 99 ถนน ปอ๊ ปปลู ่า ตาบล บา้ นใหม่ อาเภอ ปากเกรด็ จังหวดั นนทบรุ ี รหสั ไปรษณีย์ 11120 โทรศัพท์ 02-833-5138-9 โทรสาร 02-833-5140 อเี มล www.impact.co.th 4. ประเภทอาคาร สานักงาน โรงแรม โรงพยาบาล ศูนยก์ ารค้า สถานศึกษา อน่ื ๆ (ระบ)ุ ศูนย์แสดงสนิ ค้า นทิ รรศการ และการประชุม 5. อาคารเริม่ เปดิ ดาเนินการ เมอ่ื ปี พ.ศ. 2542 จานวนพนักงาน ประจา 1,395 คน วา่ จา้ งภายนอก (Outsource) - คน พนักงานรายวัน - คน โดยมีจานวน 26 แผนก/ฝา่ ย (เปน็ พนักงานสัญญา ปี/ปี อกี 52 คน 6. จานวนอาคารทงั้ หมด 3 อาคาร (รายละเอยี ดจานวนอาคาร แสดงในภาคผนวก ก.) 7. สาหรับอาคารประเภทโรงแรม จานวนหอ้ งพกั ทงั้ หมด - ห้อง (รายละเอยี ดจานวนหอ้ งพกั ทีจ่ าหนา่ ยได้ แสดงในภาคผนวก ก.) 8. สาหรับอาคารประเภทโรงพยาบาล จานวนเตยี งคนใช้ในท้งั หมด - เตียง (รายละเอยี ดจานวนคนใช้ใน แสดงในภาคผนวก ก.)
117 9. ผู้รบั ผิดชอบด้านพลงั งาน ลาดับที่ ชอื่ - นามสกุล คุณสมบัต*ิ ** ทะเบยี นเลขที่ 1 นายกฤษฎา ดเี ชย ผชอ. 06502 2 นายฐพัชธ์ เกตถุ าวร ผรู้ ับผิดชอบด้านพลงั งานสามัญ ผชอ. 06031 3 นายทศิ า บญุ เนาว์ □ ผรู้ บั ผดิ ชอบด้านพลงั งานอาวโุ ส ผชอ. 06030 4 นายชยั วรรธ คงธรรม ผรู้ ับผดิ ชอบด้านพลงั งานสามญั ผชอ. 07636 5 นายทรงชยั หล่าเรอื ง □ ผู้รบั ผิดชอบดา้ นพลังงานอาวุโส ผอส. 03091 6 นายสมยศ หมอ่ นสอน ผรู้ บั ผดิ ชอบด้านพลังงานสามญั ผอส. 02319 7 นายภาณุวัศน์ แรงรวมสนิ □ ผรู้ ับผิดชอบดา้ นพลงั งานอาวุโส ผอส. 01831 ผู้รบั ผิดชอบดา้ นพลังงานสามัญ □ ผรู้ ับผดิ ชอบด้านพลงั งานอาวโุ ส □ ผรู้ บั ผดิ ชอบดา้ นพลงั งานสามัญ ผรู้ ับผดิ ชอบดา้ นพลงั งานอาวุโส □ ผู้รบั ผิดชอบดา้ นพลังงานสามญั ผรู้ ับผิดชอบด้านพลงั งานอาวุโส □ ผู้รับผิดชอบดา้ นพลังงานสามัญ ผู้รับผดิ ชอบดา้ นพลงั งานอาวุโส ***คณุ สมบตั ผิ ูร้ ับผิดชอบดา้ นพลงั งาน ผูร้ ับผิดชอบด้านพลังงานสามัญ (ก) เปน็ ผู้ไดร้ บั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชั้นสงู และมีประสบการณก์ ารทางานในอาคารอยา่ งน้อยสามปโี ดยมีผลงาน ด้านการอนรุ ักษ์ พลังงานตามการรับรองของเจา้ ของโรงงานควบคุมหรือเจา้ ของอาคารควบคมุ (ข) เป็นผู้ได้รบั ปริญญาทางวศิ วกรรมศาสตร์ หรอื ทางวิทยาศาสตร์ โดยมผี ลงานด้านการอนรุ ักษ์พลังงานตาม การรับรองของเจา้ ของ อาคารควบคมุ (ค) เป็นผู้สาเรจ็ การฝกึ อบรมดา้ นการอนุรักษพ์ ลงั งานหรือการฝึกอบรมที่มวี ัตถุประสงคค์ ลา้ ยคลงึ กันทอี่ ธบิ ดีให้ ความเห็นชอบ (ง) เป็นผู้สาเรจ็ การฝกึ อบรมหลักสตู รผรู้ บั ผดิ ชอบดา้ นพลงั งานสามญั ทอี่ ธิบดีให้ความเหน็ ชอบ (จ) เป็นผู้ทีส่ อบไดต้ ามเกณฑท์ กี่ าหนดจากการจดั สอบผรู้ บั ผดิ ชอบดา้ นพลังงาน ซึง่ จัดโดยกรมพัฒนาพลงั งาน ทดแทนและอนรุ กั ษพ์ ลังงาน ผรู้ บั ผิดชอบด้านพลังงานอาวโุ ส (ก) เป็นผสู้ าเรจ็ การฝึกอบรมหลกั สตู รผูร้ ับผดิ ชอบดา้ นพลงั งานอาวโุ ส ทอี่ ธบิ ดีใหค้ วามเหน็ ชอบ (ข) เปน็ ผ้ทู ี่สอบไดต้ ามเกณฑ์ที่กาหนดจากการจัดสอบผรู้ ับผดิ ชอบดา้ นพลังงาน ซ่งึ จัดโดยกรมพฒั นาพลงั งาน ทดแทนและอนุรกั ษ์พลงั งาน
ข้อมูลด้านการจดั การพลังงาน ขั้นตอนที่ 1 คณะทางานด้านการจัดการพลงั งาน โครงสรา้ งคณะทางานด้านการจดั การพลังงาน คณุ วิชยั บรรพบรุ ษุ เลขำนุกำร 1. คณุ สมยศ หมอ่ น สอน 2. คณุ ชยั วรรธ คงธรรม คณะทำงำนฝ่ ำยบญั ชีและ คณะทำงำนฝ่ ำยกิจกรรม คณะทำงำนฝ่ ำยจดั ซื้อ คณะทำงำนฝ่ ำยฝึ กอบรม คณะทำงำนฝ่ ำย จดั หำ 1. คณุ กลุ ณัฐ นำค มำตรกำร กำรเงิน 1. คณุ สภุ ำพร บญุ ขำว 1. คณุ ทิศำ บญุ เนำว์ คณุ จินตนำ บรรหำร นำคินทร์ 2. คณุ สรุ สีห์ เสือคง คณุ ขวญั ใจ ทวีอกั ษรพนั ธ์ 2. คณุ สภุ ำภรณ์ ต้นแพง 2. คณุ อรรณพ กิตติกลู 3. คณุ พนำรตั น์ นำค 3. คณุ กิติพงษ์ สำยสอน 3. คณุ สิรพรรณ สวุ รรณ เลก็ 4. คณุ สชุ ำญร์ ินี เกียรติรตั นำก รูปท่ี 1-1 ผังโครงสร้างคณะทางานดา้ นการจดั การพลงั งาน การแตง่ ตัง้ คณะทางานดา้ นการจดั การพลังงาน และอานาจหนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบ 118
เอกสารท่ใี ช้งานกอ่ นปรบั ปรงุ ออกวนั ที่ 17 มถิ ุนายน 2562 เอกสาร Up date ปจั จบุ นั ออกวนั ที่ 22 กุมภาพนั ธ์ 2564 119
120 ข้ันตอนที่ 2 การประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานเบ้ืองตน้ ผลการประเมินสถานภาพการจดั การพลังงานเบอื้ งตน้ ตารางที่ 2.1 การประเมนิ การจดั การพลังงานขององค์กร หมายเหตุ : ปนี ใี้ ช้อา้ งองิ การประเมินของปผี ่านมา ข้อมูลการประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานเบื้องต้นประเมินจาก 26 ฝ่าย/แผนก ของจานวนท้ังหมด 26 ฝ่าย/แผนก หรือบุคลากรจานวน 629 คน จากทั้งหมด 1,643 คน คิดเป็นร้อยละ 38.28% (ปัจจุบันบุคลากร 1,395 คน ปี 2563 มีสถานะการโรคระบาด COVID-19 จึงขอเล่ือนการประเมินออกไป) โดยใช้ ของปีก่อนอา้ งอิง ในกรณีที่อาคารควบคุมพัฒนาระบบการจัดการพลังงานในรอบที่สอง ในขั้นตอนน้ีอาคารควบคุมจะ ดาเนินการหรือไม่ดาเนินการก็ได้ หากดาเนิน การประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานภายในองค์กรต่อเนื่อง ทุก ๆปี จะทาใหท้ ราบสถานภาพการจดั การพลงั งานท่ีมกี ารเปล่ียนแปลงได้ดยี ิ่งขน้ึ การประเมินสถานภาพการจัดการพลังงานในภาพรวมของอาคารควบคุม หากทางอาคารมีวิธีการอื่นที่เหมาะสม กว่า กส็ ามารถนามาใช้แทนตารางดา้ นบนได้ *** เอกสารนีเ้ ปน็ เพียงความเหน็ ของบคุ ลากรบางส่วนท่ีใช้อ้างองิ ผลการประเมนิ เท่าน้ัน
121 ภาพแสดงการประชาสมั พนั ธ์แจ้งทุกฝ่ายทาง mail ภาพการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ติดบอรด์ รูปท่ี 2-1 การเผยแพร่ประชาสมั พันธ์การประเมนิ สถานภาพการจัดการพลังงานเบ้ืองต้น
122 ขนั้ ตอนที่ 3 นโยบายอนรุ กั ษ์พลังงาน 3.1 นโยบายอนุรกั ษ์พลงั งานขององคก์ ร เพ่ือแสดงเจตจานงและความมุ่งม่ันในการดาเนินการด้านการอนุรักษ์พลังงาน อาคารควบคุมได้กาหนด นโยบายอนุรักษ์พลังงานตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งสอดคล้องกับสถานภาพการใช้ พลงั งานและเหมาะสมกับอาคารควบคมุ ดังต่อไปนี้ รปู ที่ 3-1 นโยบายอนุรกั ษพ์ ลังงาน
123 3.2 การเผยแพรน่ โยบายอนุรักษพ์ ลังงาน เพื่อให้พนักงานทุกคนรับทราบและปฏิบัติตามนโยบายอนุรักษ์พลังงานของอาคารควบคุม จึงได้ ดาเนินการเผยแพร่และดาเนนิ การดังต่อไปน้ี วธิ กี ารเผยแพรน่ โยบายอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน ตดิ ประกาศ □ โปสเตอร์ จานวนติดประกาศ 14 แห่ง จานวนติดประกาศ - แห่ง □ เอกสารเผยแพร่ □ เสียงตามสาย แผ่นพบั /วารสาร - ฉบบั สัปดาห์ละ - ครัง้ ชว่ งเวลา - □ จดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ □ การประชมุ พนักงาน จานวนผูไ้ ด้รับ - คน สัปดาห์ละ - ครง้ั ระดับของผ้ไู ด้รับ - คน อน่ื ๆ (ระบุ) Intranet of IMPACTBUILDING หลกั ฐานหรอื เอกสารตา่ ง ๆ ที่แสดงถงึ การเผยแพรน่ โยบายอนุรักษ์พลังงาน ให้กับพนักงานในองค์กรได้รบั ทราบ อยา่ งท่วั ถึง ตดิ ประกาศประชาสัมพนั ธ์นโยบายอนรุ ักษพ์ ลงั งาน (ตัวอย่าง) หนา้ สานกั งานฝ่ายส่ือสารองค์กร ชั้น 10 อาคารบางกอกแลนด์
ภาพแสดงการเผยแพรป่ ระชาสัมพันธท์ าง Intranet of IMPACT BUILDING รูปท่ี 3-2 ภาพการเผยแพรน่ โยบายอนรุ กั ษ์พลงั งาน 124
125 ข้ันตอนท่ี 4 การประเมนิ ศักยภาพการอนรุ กั ษ์พลังงาน การประเมินศกั ยภาพการอนุรักษ์พลงั งานขององค์กรแบ่งออกได้เปน็ 3 ระดับ คอื - การประเมินระดบั องคก์ ร - การประเมนิ ระดับการบริการ - การประเมนิ ระดบั เครื่องจักร/อปุ กรณ์ โดยมแี นวทางดาเนนิ การดังต่อไปน้ี 4.1 การประเมินระดับองค์กร ก. เปรียบเทยี บข้อมลู การใช้พลังงาน ก.1 การใช้พลงั งานไฟฟา้ รูปท่ี 4-1.1 กราฟแสดงข้อมูลเปรียบเทียบการใช้พลงั งานไฟฟ้ารายเดอื น ปี 2562 และปี 2563 IMPACT EXIBITION CENTER BUILDING (IEC)
126 รูปที่ 4-1.2 กราฟแสดงข้อมูลเปรยี บเทียบการใช้พลงั งานไฟฟ้ารายเดอื น ปี 2562 และปี 2563 IMPACT FORUM BUILDING (IF) รูปที่ 4-1.3 กราฟแสดงข้อมูลเปรียบเทยี บการใช้พลงั งานไฟฟ้ารายเดอื น ปี 2562 และปี 2563 IMPACT CHALLENGER BUILDING (IC) (หมายเหตุ : รายละเอียดอา้ งอิงอยู่ในภาคผนวก ข.)
สัดส่วนการใช้พลังงานไฟฟ้า รปู ท่ี 4-4 กราฟแสดงข้อมลู เปรยี บเทียบสดั สว่ นการใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ปี 2562 และปี 2563 127
รายงานระบบการจดั การพลงั งาน ปี พ.ศ. 2563 4.2 การประเมนิ ระดบั การบริการ 4.2.1 ค่าการใช้พลังงานจาเพาะของพ้นื ที่ใช้สอย (ทุกกรณ)ี ตารางที่ 4.1 ปริมาณการใช้พลังงานตอ่ หนว่ ยพื้นที่ใชส้ อยที่ใชง้ านจรงิ ในรอบปี 2562 และปี 2563 ฐานขอ้ มูล : สาเนาบลิ การไฟฟ้ารวมและปริมาณการใช้นา้ มันผลติ ไฟฟ้าสารองจากการบันทึก หมายเหตุ : ค่าการใช้พลงั งานจาเพาะ (SEC) =ปริมาณพลงั งานไฟฟ้า (กิโลวตั ต-ชั่วโมง) x 3.6 (เมกะจลู /กิโลวตั ต-ชั่วโมง)+ปรมิ าณพลงั งานความรอ้ น (เมกะจลู ) พ้ืนท่ีใช้สอยท่ีใช้งานจริง (ตารางเมตร) 128
รายงานระบบการจดั การพลงั งาน ปี พ.ศ. 2563 รูปท่ี 4-7 ค่าการใช้พลงั งานจาเพาะในรอบปี 2562 และปี 2563 129
รายงานระบบการจดั การพลงั งาน ปี พ.ศ. 2563 4.3 การประเมินระดับเครอื่ งจักร/อุปกรณห์ ลกั การค้นหาการใช้พลังงานที่มีนัยสาคัญในเคร่ืองจักร/อุปกรณ์หลัก อาคารควบคุมได้ดาเนินการโดยการตรวจวัดหาข้อมูลปริมาณการใช้พลังงาน ช่ั วโมงการ ทางาน และวเิ คราะหห์ าค่าประสทิ ธิภาพและการสญู เสียพลงั งานในแตล่ ะเคร่ืองจกั ร/อปุ กรณห์ ลักทม่ี ีการใชใ้ นอาคารควบคมุ ซึง่ มผี ลสรปุ ไดด้ งั นี้ ตารางที่ 4.2 แบบบนั ทึกข้อมูลการใช้พลังงานไฟฟ้าที่มนี ยั สาคัญของเคร่ืองจักร/อปุ กรณ์หลัก 130
รายงานระบบการจดั การพลงั งาน ปี พ.ศ. 2563 (ต่อ) ตารางที่ 4.2 แบบบนั ทึกขอ้ มูลการใชพ้ ลังงานไฟฟ้าท่มี ีนัยสาคญั ของเคร่ืองจกั ร/อปุ กรณห์ ลกั 131
132 ขัน้ ตอนท่ี 5 การกาหนดเป้าหมายและแผนอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน และแผนการฝึกอบรมและกจิ กรรมเพื่อส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงาน อาคารควบคมุ ไดก้ าหนดเปา้ หมายและแผนอนรุ กั ษพ์ ลงั งาน โดยมรี ายละเอียดการดาเนนิ การดังต่อไปน้ี 5.1 การกาหนดเป้าหมายและแผนอนุรักษ์พลังงาน กรณีมี 1 บรกิ าร คา่ เปา้ หมาย เป้าหมายการอนุรกั ษพ์ ลังงาน กรณมี ี 1 บริการ 5.00% การกาหนดเปา้ หมาย ร้อยละที่ลดลงของปริมาณพลังงานทใ่ี ช้เดมิ □ ระดับของค่าการใช้พลงั งานต่อหน่วยบรกิ าร เป้าหมายการอนรุ ักษ์พลงั งาน กรณมี ีหลายบริการ คา่ เป้าหมาย การกาหนดเป้าหมาย □ ร้อยละทีล่ ดลงของปริมาณพลังงานทใ่ี ชเ้ ดมิ □ ระดับของค่าการใช้พลังงานต่อหน่วยบรกิ าร ระดับของคา่ การใช้พลงั งานต่อหน่วยบรกิ าร ระดับของค่าการใช้พลงั งานต่อหนว่ ยบรกิ าร หมายเหตุ : ในการกาหนดเป้าหมายการอนรุ กั ษ์พลังงาน ให้เลือกดาเนินการอย่างใดอยา่ งหน่งึ
133 รายละเอียดมาตรการอนรุ ักษ์พลงั งาน (สาหรบั มาตรการด้านไฟฟา้ ) 1) มาตรการลาดบั ที่ :1 2) ชือ่ มาตรการ : Add Split type to Fast Food 3) ผู้รับผดิ ชอบมาตรการ : คณุ สมยศ หมอ่ นสอน ตาแหนง่ Operation Support Engineering Manager : คุณชยั วรรธ คงธรรม ตาแหน่ง Assistant Manager-Energy Saving 4) อปุ กรณท์ ี่ปรบั ปรุง : เคร่ืองปรับอากาศชนิดคอยลน์ ้าเย็น 5) จานวนอปุ กรณ์ท่ปี รับปรุง : 5 Unit 6) สถานท่ีปรบั ปรุง : Fast Food IMPACT CHALLENGER (IC) 7) สาเหตุการปรับปรงุ : ลดการสญู เสียพลงั งานไฟฟ้าและปรบั ปรงุ อุปกรณ์ของระบบปรบั อากาศ 8) เปา้ หมายเชงิ ปริมาณ กิโลวัตต์ กิโลวตั ต์-ช่ัวโมง/ปี บาท/ปี 9) ระดบั การใชพ้ ลงั งานอา้ งอิงกอ่ นการปรบั ปรุง 66.31 96.06 43,357.80 173,864.78 57,637.80 231,127.58 10) ระดบั การใช้พลงั งานเป้าหมายหลังการปรบั ปรงุ 29.75 14,280.00 57,262.80 11) เงนิ ลงทุนท้ังหมด 600,000.00 บาท 12) ระยะเวลาคืนทนุ 3.45 ปี 13) รายละเอียดการดาเนนิ การปรับปรุง 13.1 วางแผนขนั้ ตอนการดาเนนิ การปรบั ปรงุ และตรวจสอบโครงการ 13.2 จัดหาผ้รู ับเหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บรษิ ทั ฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอุปกรณ์ และภาพถา่ ยการทางานอปุ กรณก์ ่อนปรับปรุง 13.4 คัดเลอื กผู้รับเหมาช่วงเข้าดาเนินการ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนนิ การของผรู้ บั เหมาระหว่างดาเนนิ การ (วธิ ีการ/ปัญหาระหวา่ งทางาน) 13.6 ตรวจวัดการทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณห์ ลังปรบั ปรุง 14) วธิ กี ารตรวจสอบผลการประหยัดหลังปรับปรุง นาข้อมูลจากข้อ 13 มาประกอบการวเิ คราะห์ผลประหยดั ด้านพลงั งานไฟฟ้า และจัดทารายงาน
15) แสดงวธิ กี ารคานวณประกอบ 134 Location No Event at Challenger Unit Show hour 600 hr./yr. Cost 4.01 Baht/kWh Before Primary and Secondary Pump 93.50 kW/hr. AHU 2.56 kW/hr. Energy Consumption 57,637.80 kWh/yr. Cost 231,127.58 Baht/yr. After Split type 29.75 kW/hr. Energy Consumption 14,280.00 kWh/yr. Cost 57,262.80 Baht/yr. Investment 600,000 Baht Saving Power 66.31 kW Energy Consumption 43,357.80 kWh/yr. Cost Saving 173,864.78 Baht/yr. Payback Period 3.45 yr.
135 1) มาตรการลาดบั ท่ี :2 2) ชอื่ มาตรการ : Replace MH (Metal Halide) 250w into LED of Loading 1-3 3) ผ้รู ับผิดชอบมาตรการ : คณุ สมยศ หมอ่ นสอน ตาแหนง่ Operation Support Engineering Manager : คุณชยั วรรธ คงธรรม ตาแหน่ง Assistant Manager-Energy Saving 4) อปุ กรณ์ทป่ี รบั ปรุง : Metal Halide 250w 5) จานวนอปุ กรณ์ทปี่ รับปรงุ : จานวน 52 หลอด 6) สถานทป่ี รบั ปรงุ : Loading 1-3 IMPACT CHALLENGER (IC) 7) สาเหตกุ ารปรับปรุง : ลดการสญู เสยี พลงั งานไฟฟ้าและปรบั ปรุงอปุ กรณ์ของระบบแสงสว่าง 8) เปา้ หมายเชิงปริมาณ กิโลวตั ต์ กโิ ลวตั ต์-ชวั่ โมง/ปี บาท/ปี 6.19 26,701.22 107,071.89 9) ระดบั การใช้พลงั งานอ้างอิงกอ่ นการปรบั ปรงุ 13.99 60,358.22 242,036.46 10) ระดบั การใช้พลงั งานเป้าหมายหลงั การปรับปรุง 7.80 33,657.00 134,964.57 11) เงนิ ลงทนุ ท้ังหมด 250,000.00 บาท 12) ระยะเวลาคนื ทุน 2.33 ปี 13) รายละเอียดการดาเนินการปรับปรงุ 13.1 วางแผนขั้นตอนการดาเนินการปรับปรงุ และตรวจสอบโครงการ 13.2 จัดหาผ้รู บั เหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บริษทั ฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์ก่อนปรับปรุง 13.4 คดั เลอื กผู้รับเหมาช่วงเข้าดาเนินการ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนนิ การของผรู้ ับเหมาระหวา่ งดาเนินการ (วิธีการ/ปญั หาระหวา่ งทางาน) 13.6 ตรวจวัดการทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์หลังปรบั ปรุง 14) วิธีการตรวจสอบผลการประหยดั หลงั ปรับปรุง นาข้อมูลจากข้อ 13 มาประกอบการวเิ คราะหผ์ ลประหยัดด้านพลงั งานไฟฟ้า และจัดทารายงาน
136 15) แสดงวิธีการคานวณประกอบ 0.25 kw/หลอด การคานวณผลประหยดั 0.019 kw/ตวั การใช้พลงั งานก่อนปรบั ปรงุ 52 หลอด ข้อมลู เบ้ืองตน้ 13.988 kw 4,315 ช่วั โมง/ปี กาลังไฟฟ้า Metal Halide 250w 4.01 บาท/kwh กาลงั ไฟฟ้า Ballast 60,358.22 kwh/ปี จานวน 242,036.46 บาท กาลงั ไฟฟ้า ชว่ั โมงการใชง้ าน 0.15 kw/หลอด ค่าพลงั งานไฟฟา้ เฉล่ียปี 2019 (รวม VAT) 7.80 kw พลังงานไฟฟา้ 33,657.00 kwh/ปี ค่าใชจ้ ่ายดา้ นพลังงานไฟฟ้า 134,964.57 บาท การใช้พลงั งานหลงั ปรับปรุง กาลงั LED 150W 250,000.00 บาท กาลงั ไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า 6.19 kw คา่ ใชจ้ า่ ยด้านพลงั งานไฟฟา้ 26,701.22 kwh/ปี การลงทุน 107,071.89 บาท/ปี เงินลงทนุ รวมภาษี 2.33 ปี ผลประหยดั และการคนื ทนุ กาลงั ไฟฟา้ พลงั งานไฟฟ้า ค่าใชจ้ า่ ยด้านพลังงานไฟฟา้ ระยะเวลาในการคืนทนุ
137 1) มาตรการลาดับท่ี :3 2) ชอื่ มาตรการ : Replace MH (Metal Halide) 250w into LED Royal Jubilee 3) ผรู้ ับผิดชอบมาตรการ : คุณสมยศ หม่อนสอน ตาแหนง่ Operation Support Engineering Manager : คุณชัยวรรธ คงธรรม ตาแหน่ง Assistant Manager-Energy Saving 4) อุปกรณ์ท่ีปรบั ปรุง : Metal Halide 250w 5) จานวนอปุ กรณ์ทปี่ รบั ปรงุ : จานวน 70 หลอด 6) สถานทป่ี รบั ปรงุ : Royal Jubilee IMPACT CHALLENGER (IC) 7) สาเหตุการปรบั ปรงุ : ลดการสญู เสยี พลังงานไฟฟ้าและปรับปรุงอปุ กรณ์ของระบบแสงสวา่ ง 8) เปา้ หมายเชงิ ปรมิ าณ กิโลวตั ต์ กิโลวตั ต์-ชั่วโมง/ปี บาท/ปี 8.33 27,072.50 108,560.73 9) ระดับการใชพ้ ลงั งานอ้างอิงกอ่ นการปรับปรุง 18.83 61,197.50 245,401.98 10) ระดบั การใช้พลังงานเป้าหมายหลังการปรับปรงุ 10.50 34,125.00 136,841.25 11) เงนิ ลงทุนทั้งหมด 300,000.00 บาท 12) ระยะเวลาคนื ทนุ 2.76 ปี 13) รายละเอียดการดาเนินการปรับปรุง 13.1 วางแผนขั้นตอนการดาเนินการปรับปรุงและตรวจสอบโครงการ 13.2 จดั หาผรู้ บั เหมาเขา้ ดาเนินการ ตามข้อกาหนด บริษทั ฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอปุ กรณ์ และภาพถา่ ยการทางานอปุ กรณก์ ่อนปรบั ปรุง 13.4 คดั เลอื กผู้รับเหมาชว่ งเข้าดาเนินการ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนนิ การของผรู้ ับเหมาระหวา่ งดาเนินการ (วธิ ีการ/ปัญหาระหว่างทางาน) 13.6 ตรวจวัดการทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์หลงั ปรับปรุง 14) วธิ ีการตรวจสอบผลการประหยดั หลงั ปรบั ปรุง นาขอ้ มูลจากข้อ 13 มาประกอบการวิเคราะห์ผลประหยดั ด้านพลงั งานไฟฟา้ และจัดทารายงาน
138 15) แสดงวิธีการคานวณประกอบ 0.25 kw/หลอด การคานวณผลประหยัด 0.019 kw/ตวั การใช้พลังงานกอ่ นปรับปรงุ 70 หลอด ข้อมูลเบ้ืองตน้ 18.83 kw 3,250 ชวั่ โมง/ปี กาลังไฟฟ้า Metal Halide 250w 4.01 บาท/kwh กาลังไฟฟา้ Ballast 61,197.50 kwh/ปี จานวน 245,401.98 บาท กาลงั ไฟฟา้ ช่วั โมงการใช้งาน 0.15 kw/หลอด ค่าพลงั งานไฟฟ้าเฉลยี่ ปี 2019 (รวม VAT) 10.50 kw พลังงานไฟฟ้า 34,125.00 kwh/ปี ค่าใช้จ่ายด้านพลงั งานไฟฟา้ 136,841.25 บาท การใช้พลงั งานหลังปรับปรุง กาลัง LED 150W 300,000.00 บาท กาลังไฟฟ้า พลงั งานไฟฟา้ 8.33 kw ค่าใชจ้ ่ายดา้ นพลงั งานไฟฟา้ 27,072.50 kwh/ปี การลงทุน 108,560.73 บาท/ปี เงนิ ลงทุนรวมภาษี 2.76 ปี ผลประหยดั และการคืนทนุ กาลังไฟฟ้า พลงั งานไฟฟา้ ค่าใชจ้ ่ายดา้ นพลังงานไฟฟ้า ระยะเวลาในการคืนทนุ
139 1) มาตรการลาดบั ที่ :4 2) ชื่อมาตรการ : Replace PAR300W into LED of Royal Jubilee 3) ผู้รับผิดชอบมาตรการ : คุณสมยศ หมอ่ นสอน ตาแหน่ง Operation Support Engineering Manager : คุณชัยวรรธ คงธรรม ตาแหนง่ Assistant Manager-Energy Saving 4) อปุ กรณ์ที่ปรบั ปรุง : หลอด PAR 56 ขนาด 300w 5) จานวนอปุ กรณ์ทป่ี รับปรุง : จานวน 286 หลอด 6) สถานทปี่ รบั ปรงุ : Royal Jubilee IMPACT CHALLENGER (IC) 7) สาเหตุการปรบั ปรงุ : ลดการสญู เสยี พลังงานไฟฟ้าและปรับปรงุ อุปกรณ์ของระบบแสงสว่าง 8) เป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ กโิ ลวตั ต์ กโิ ลวัตต์-ชัว่ โมง/ปี บาท/ปี 73.79 114,371.40 458,629.31 9) ระดบั การใช้พลังงานอ้างอิงก่อนการปรับปรุง 85.80 139,990.00 533,289.90 10) ระดบั การใช้พลังงานเปา้ หมายหลังการปรับปรุง 12.01 18,618.60 74,660.59 11) เงินลงทนุ ท้งั หมด 1,300,000.00 บาท 12) ระยะเวลาคนื ทนุ 2.83 ปี 13) รายละเอียดการดาเนินการปรบั ปรงุ 13.1 วางแผนข้ันตอนการดาเนินการปรับปรุงและตรวจสอบโครงการ 13.2 จดั หาผ้รู บั เหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บริษทั ฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอปุ กรณ์ และภาพถา่ ยการทางานอุปกรณ์ก่อนปรบั ปรงุ 13.4 คดั เลอื กผู้รบั เหมาช่วงเข้าดาเนนิ การ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนินการของผูร้ บั เหมาระหวา่ งดาเนนิ การ (วิธีการ/ปญั หาระหว่างทางาน) 13.6 ตรวจวัดการทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณห์ ลังปรบั ปรุง 14) วิธีการตรวจสอบผลการประหยัดหลงั ปรบั ปรุง นาขอ้ มลู จากข้อ 13 มาประกอบการวิเคราะห์ผลประหยัดด้านพลงั งานไฟฟ้า และจัดทารายงาน
140 15) แสดงวธิ กี ารคานวณประกอบ 0.30 kw/หลอด การคานวณผลประหยัด 286 หลอด การใช้พลังงานก่อนปรับปรุง 85.80 ขอ้ มูลเบื้องตน้ 800 kw 750 ชั่วโมง/ปี กาลังไฟฟ้า PAR56 4.01 ช่ัวโมง/ปี จานวน 132,990.50 บาท/kwh กาลงั ไฟฟา้ 533,289.90 kwh/ปี ช่วั โมงการใช้งาน Show day บาท ช่ัวโมงการใช้งาน Last set up คา่ พลงั งานไฟฟา้ เฉลีย่ ปี 2019 (รวม VAT) 0.042 kw/หลอด พลังงานไฟฟ้า 12.011 kw คา่ ใช้จา่ ยด้านพลงั งานไฟฟ้า 18,618.60 kwh/ปี การใชพ้ ลงั งานหลงั ปรับปรงุ 74,660.59 บาท กาลัง LED 42W รวมกาลงั ไฟฟา้ 1,300,000.00 บาท รวมพลังงานไฟฟา้ ค่าใช้จ่ายด้านพลงั งานไฟฟา้ 73.79 kw การลงทุน 114,371.40 kwh/ปี เงนิ ลงทนุ รวมภาษี 458.629.31 บาท/ปี ผลประหยดั และการคืนทนุ 2.83 ปี กาลงั ไฟฟา้ พลงั งานไฟฟ้า คา่ ใชจ้ า่ ยด้านพลงั งานไฟฟ้า ระยะเวลาในการคืนทนุ
141 1) มาตรการลาดับท่ี :5 2) ชอ่ื มาตรการ : Replace MH (Metal Halide) 150w into LED of Drop off Challenger 1-3 Lv.2 3) ผรู้ ับผิดชอบมาตรการ : คณุ สมยศ หม่อนสอน ตาแหน่ง Operation Support Engineering Manager : คณุ ชัยวรรธ คงธรรม ตาแหนง่ Assistant Manager-Energy Saving 4) อุปกรณท์ ป่ี รับปรุง : หลอด Metal Halide MH150w 5) จานวนอปุ กรณท์ ป่ี รับปรุง : จานวน 60 หลอด 6) สถานท่ีปรบั ปรงุ : IMPACT CHALLENGER (IC) Drop off Challenger 1-3 Lv.2 7) สาเหตกุ ารปรบั ปรงุ : ลดการสญู เสียพลงั งานไฟฟ้าและปรบั ปรุงอปุ กรณ์ของระบบแสงสวา่ ง 8) เป้าหมายเชงิ ปริมาณ กิโลวัตต์ กโิ ลวัตต์-ช่ัวโมง/ปี บาท/ปี 5-34 15,631.52 62,682.38 9) ระดับการใชพ้ ลงั งานอ้างอิงกอ่ นการปรับปรงุ 10.14 29,682.32 119,026.08 10) ระดับการใช้พลงั งานเป้าหมายหลังการปรับปรุง 4.80 14,050.80 56,343.71 11) เงนิ ลงทนุ ท้ังหมด 350,000.00 บาท 12) ระยะเวลาคนื ทุน 5.58 ปี 13) รายละเอียดการดาเนนิ การปรับปรงุ 13.1 วางแผนขน้ั ตอนการดาเนินการปรับปรุงและตรวจสอบโครงการ 13.2 จดั หาผ้รู บั เหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บริษัทฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอปุ กรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์ก่อนปรบั ปรุง 13.4 คัดเลอื กผู้รบั เหมาช่วงเข้าดาเนนิ การ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนนิ การของผูร้ ับเหมาระหว่างดาเนินการ (วิธีการ/ปญั หาระหว่างทางาน) 13.6 ตรวจวดั การทางานของระบบอปุ กรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์หลงั ปรับปรุง 14) วิธีการตรวจสอบผลการประหยัดหลงั ปรบั ปรุง นาขอ้ มลู จากข้อ 13 มาประกอบการวเิ คราะหผ์ ลประหยดั ด้านพลังงานไฟฟา้ และจัดทารายงาน
142 15) แสดงวธิ ีการคานวณประกอบ 0.150 kw/หลอด การคานวณผลประหยัด 0.019 kw/ตวั การใชพ้ ลังงานก่อนปรบั ปรงุ 60 หลอด ข้อมลู เบื้องตน้ 10.14 kw 2,927.25 ช่วั โมง/ปี กาลังไฟฟ้า Metal Halide 150w 4.01 บาท/kwh กาลงั ไฟฟ้า Ballast 29,682.32 kwh/ปี จานวน 119,026.08 บาท กาลงั ไฟฟ้า ชั่วโมงการใชง้ าน 0.080 kw/หลอด คา่ พลังงานไฟฟา้ เฉลีย่ ปี 2019 (รวม VAT) 4.80 kw พลงั งานไฟฟ้า 14,050.80 kwh/ปี คา่ ใช้จา่ ยด้านพลงั งานไฟฟ้า 56,343.71 บาท การใชพ้ ลงั งานหลงั ปรับปรุง กาลัง LED 80W 350,000.00 บาท กาลงั ไฟฟ้า พลงั งานไฟฟ้า 5.34 kw คา่ ใชจ้ ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า 15,631.52 kwh/ปี การลงทนุ 62,682.38 บาท/ปี เงินลงทนุ รวมภาษี 5.58 ปี ผลประหยัด และการคนื ทุน กาลงั ไฟฟ้า พลงั งานไฟฟา้ ค่าใช้จา่ ยด้านพลงั งานไฟฟ้า ระยะเวลาในการคนื ทนุ
143 1) มาตรการลาดับที่ :6 2) ชื่อมาตรการ : BBP (SCADA) : Supervisory Control and Data Acquisition of challenger 3) ผูร้ ับผิดชอบมาตรการ : คุณสมยศ หมอ่ นสอน ตาแหน่ง Operation Support Engineering Manager : คณุ ชัยวรรธ คงธรรม ตาแหน่ง Assistant Manager-Energy Saving 4) อุปกรณ์ที่ปรับปรุง 5) จานวนอปุ กรณท์ ปี่ รับปรุง : คุณภาณวุ ศั น์ แรงรวมสิน ตาแหน่ง Asst. Manager Tenant Co. 6) สถานทปี่ รบั ปรงุ 7) สาเหตกุ ารปรบั ปรุง : Control Chiller or Equipment Plant of Challenger : ส่วนใหญ่เป็นอปุ กรณท์ ่ีใชต้ ิดตงั้ เพ่ือควบคมุ การทางานของเคร่อื งทานา้ เย็น : Chiller Plant CHALLENGER : ลดการสูญเสียพลงั งานไฟฟ้าและปรบั ปรงุ อปุ กรณ์ของระบบปรบั อากาศ 8) เป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ กโิ ลวัตต์ กโิ ลวตั ต์-ชัว่ โมง/ปี บาท/ปี 9) ระดบั การใชพ้ ลังงานอ้างอิงกอ่ นการปรับปรุง 249.00 2,163.00 927,286.00 3,718,416.86 8,052,986.00 32,292,473.86 10) ระดบั การใช้พลังงานเปา้ หมายหลงั การปรับปรุง 1,914.00 7,125,700.00 28,574,057.00 11) เงินลงทนุ ทง้ั หมด 0.00 บาท 12) ระยะเวลาคืนทุน 0.00 ปี 13) รายละเอียดการดาเนินการปรบั ปรุง 13.1 วางแผนขน้ั ตอนการดาเนนิ การปรับปรงุ และตรวจสอบโครงการ 13.2 จดั หาผู้รับเหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บรษิ ัทฯ 13.3 ตรวจวัดการทางานของอปุ กรณ์ และภาพถา่ ยการทางานอปุ กรณ์ก่อนปรบั ปรงุ 13.4 คดั เลอื กผรู้ ับเหมาช่วงเข้าดาเนินการ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนินการของผู้รบั เหมาระหว่างดาเนินการ (วธิ กี าร/ปัญหาระหว่างทางาน) 13.6 ตรวจวดั การทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์หลังปรับปรุง 14) วธิ กี ารตรวจสอบผลการประหยัดหลงั ปรบั ปรงุ นาข้อมลู จากข้อ 13 มาประกอบการวเิ คราะห์ผลประหยัดด้านพลังงานไฟฟ้า และจัดทารายงาน
144 15) แสดงวิธกี ารคานวณประกอบ (Step 1)
145 1) มาตรการลาดบั ที่ :7 2) ช่ือมาตรการ : BBP (SCADA) : Supervisory Control and Data Acquisition of Arena IEC 3) ผรู้ ับผดิ ชอบมาตรการ : คณุ สมยศ หมอ่ นสอน ตาแหน่ง Operation Support Engineering Manager : คุณชยั วรรธ คงธรรม ตาแหน่ง Assistant Manager-Energy Saving 4) อุปกรณท์ ่ีปรบั ปรุง 5) จานวนอุปกรณท์ ปี่ รับปรงุ : คุณภาณวุ ัศน์ แรงรวมสนิ ตาแหนง่ Asst. Manager Tenant Co. 6) สถานที่ปรบั ปรุง 7) สาเหตกุ ารปรบั ปรุง : Control Chiller or Equipment Plant of Arena IEC : สว่ นใหญ่เปน็ อุปกรณท์ ่ีใชต้ ดิ ตง้ั เพ่ือควบคมุ การทางานของเคร่ืองทานา้ เยน็ : Chiller Plant Arena IEC hall 5-8 : ลดการสูญเสยี พลังงานไฟฟ้าของระบบปรับอากาศ 8) เปา้ หมายเชิงปริมาณ กิโลวัตต์ กิโลวตั ต์-ชั่วโมง/ปี บาท/ปี 9) ระดับการใช้พลังงานอ้างอิงก่อนการปรบั ปรงุ 189.80 987.20 581,746.00 2,332,801.46 3,026,505.00 12,136,285.05 10) ระดับการใช้พลงั งานเป้าหมายหลังการปรบั ปรุง 797.40 2,444,759.00 9,803,483.59 11) เงินลงทุนทง้ั หมด 0.00 บาท 12) ระยะเวลาคืนทุน 0.00 ปี 13) รายละเอียดการดาเนนิ การปรับปรุง 13.1 วางแผนขั้นตอนการดาเนนิ การปรับปรุงและตรวจสอบโครงการ 13.2 จัดหาผู้รับเหมาเข้าดาเนินการ ตามข้อกาหนด บริษัทฯ 13.3 ตรวจวดั การทางานของอปุ กรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณ์ก่อนปรบั ปรุง 13.4 คัดเลอื กผรู้ บั เหมาช่วงเข้าดาเนินการ ตามแผนงานบริษัทฯ 13.5 ตรวจสอบการดาเนนิ การของผรู้ ับเหมาระหวา่ งดาเนนิ การ (วธิ กี าร/ปัญหาระหวา่ งทางาน) 13.6 ตรวจวัดการทางานของระบบอุปกรณ์ และภาพถ่ายการทางานอุปกรณห์ ลงั ปรับปรุง 14) วธิ กี ารตรวจสอบผลการประหยดั หลังปรับปรุง นาข้อมูลจากข้อ 13 มาประกอบการวเิ คราะหผ์ ลประหยัดด้านพลงั งานไฟฟา้ และจัดทารายงาน
146 15) แสดงวธิ ีการคานวณประกอบ
147 1) มาตรการลาดบั ท่ี : ไม่อยู่ในมาตรการปี 2563 (แต่อยู่ใน Set Target 2563) 2) ชอื่ มาตรการ : Operation All Building 3) ผู้รับผิดชอบมาตรการ : คุณสมยศ หม่อนสอน ตาแหนง่ Operation Support Engineering Manager 4) อปุ กรณ์ทปี่ รับปรุง : Management and control of the use of air conditioning and lighting Systems and Other 5) จานวนอุปกรณท์ ี่ปรับปรุง : Exhibition equipment Other 6) สถานทีป่ รับปรุง : Arena & IMPACT Exhibition Center or IMPACT Challenger & IMPACT Forum 7) สาเหตกุ ารปรับปรงุ : ลดการใช้พลังงานและคา่ ใช้จา่ ยไฟฟ้าของระบบฯ 8) เป้าหมายเชงิ ปรมิ าณ กโิ ลวัตต์ กโิ ลวตั ต์-ช่วั โมง/ปี บาท/ปี 9) ระดบั การใชพ้ ลงั งานอา้ งอิงก่อนการปรบั ปรงุ - - 281,339.86 2,332,801.46 -- 10) ระดบั การใช้พลงั งานเปา้ หมายหลังการปรับปรงุ - - - 11) เงนิ ลงทนุ ทงั้ หมด - บาท 12) ระยะเวลาคืนทุน - ปี 13) รายละเอียดการดาเนินการปรับปรงุ Operation การบรหิ ารจดั การ การใช้อุปกรณอ์ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ เชน่ การควบคมุ การใชง้ านของชุดเคร่ืองทา นา้ เยน็ การควบคมุ การใชง้ านระบบไฟฟา้ แสงสว่าง และอุปกรณท์ ุกชนดิ ทใ่ี ช้พลังงาน ท่สี ามารดาเนนิ การได้ เพราะเป็น ต้นทุน ฝ่ายวิศวกรรมเน้นการบริหารจัดการด้านระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และระบบปรับอากาศ เช่นเม่ือลูกค้าอยู่ในพื้นท่ี น้อย และใกล้เวลาเลิกของแต่ละงานน้ัน ผู้ปฏิบัติจะปิดเคร่ืองปรับอากาศก่อน แต่ยังเปิดระบบทาน้าเย็นเลย้ี ง AHU อยู่ มีการบริหารจัดการท่ีดี โดยมีการวัดอุณหภูมิภายนอกเทียบกับอุณหภูมิภายในเพื่อปรับหรือเพ่ิมอุณหภูมิให้เหมาะสม กบั สถานการณ์นัน้ ๆ ในการใช้งานจริงฝา่ ยขายมีการแนะนาลูกค้าให้ใช้บริการในพ้ืนที่ท่ีมีการใช้พลังงานรว่ มกันมากขึ้น คือ ควบคมุ พน้ื ทกี่ ารขายใหข้ าย และใช้งานแบบเหมาะสม 14) วิธีตรวจสอบผลประหยดั หลงั ปรับปรงุ นาข้อมลู ข้อ 13 มาวิเคราะหผ์ ลแลว้ จัดทารายงาน รายละเอียดมาตรการอนรุ กั ษ์พลงั งาน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175