Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สี่สิ่งเล็กๆ ที่มีปัญญามากเหลือล้น

สี่สิ่งเล็กๆ ที่มีปัญญามากเหลือล้น

Published by Rux Prompalit, 2021-04-26 16:01:32

Description: Document(1)

Search

Read the Text Version

ข้อคิด สปั ดาหแ์ ห่งพฒั นาฟื้ นฟจู ิตใจ การดาเนินชวี ติ อยา่ งผมู้ ปี ัญญา (Live a Smart Life) สาหรบั ผบู้ รหิ ารและครโู รงเรยี นศรธี รรมราชศกึ ษา พฤหสั บดที ่ี 6 กนั ยายน ค.ศ. 2018 โดย ผปู้ กครอง ดร.รกั ษ์ พรหมปาลติ .................................................................................................................. หวั ขอ้ “สิ่งเลก็ ๆ ที่มีปัญญามากล้น” พระวจนะของพระเจา้ (สภุ าษติ 30: 24-28) “มสี ส่ี ง่ิ ในแผน่ ดนิ โลกทเ่ี ลก็ เหลอื เกนิ แต่มปี ัญญามากเหลอื ลน้

มด เป็นประชากรทไ่ี มแ่ ขง็ แรง แต่มนั ยงั เตรยี มอาหารของมนั ไวใ้ นฤดแู ลง้ ตวั กระจงผา เป็นประชากรทไ่ี มม่ กี าลงั แต่มนั ยงั สรา้ งบา้ นของมนั ในซอกหนิ ตกั๊ แตนไมม่ รี าชา แตม่ นั ยงั เดนิ ขบวนเป็นแถว ตกุ๊ แกนนั้ เจา้ เอามอื จบั ได้ แต่มนั ยงั อยใู่ นพระราชวงั ” ปัจจุบนั มนุษยม์ กี ารศกึ ษาวจิ ยั เพอ่ื หาความรู้ คน้ พบสง่ิ ใหม่ ๆ ทงั้ ทเ่ี ป็นสง่ิ ทอ่ี ยู่ บนพ้นื โลก พ้นื น้า และในอวกาศ อากูร์บุตรชายยาเหค์แห่งเมืองมสั สา ได้ตงั้ ข้อสงั เกตในสง่ิ ท่ีเป็นธรรมดาสามญั อาจเป็นสงิ่ เล็กน้อยในสายตาของมนุษย์ อยา่ งไรกต็ ามกเ็ ป็นสงิ่ ทพ่ี ระเป็นเจา้ ไดท้ รงสรา้ ง พระองคไ์ ดท้ รงสรา้ งบรรดาสรรพ

สงิ่ สรรพสตั ว์ ใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั มนุษย์ และเป็นประโยชน์แก่มนุษยท์ ไ่ี ดเ้ รยี นรู้ อากรู ไ์ ด้ สงั เกตถึงธรรมชาติในการดาเนินชวี ติ ของสตั ว์เล็ก ๆ สช่ี นิด เพ่อื ท้าชวนใหเ้ รา ทงั้ หลายคือมนุษย์ (ซ่ึงก็เป็นสง่ิ ท่ีพระเป็นเจ้าได้ทรงสร้างตามพระฉายาของ พระองค)์ เพอ่ื จะไดค้ ดิ พจิ ารณารว่ มกนั เป็นประโยชน์ในการดาเนินชวี ติ 1. มด (Ant) มดในโลกน้ีมีจานวนกว่า 12,000 ชนิด มดมีการสร้างรงั เป็น ลกั ษณะอาณาจกั รขนาดใหญ่ มกี ารแบ่งชนั้ วรรณะ แบ่งหน้าทก่ี ารงานกนั ทาอยา่ ง ชดั เจน คอื มดงาน เป็ นมดเพศเมียเป็ นหมนั ทาหน้าท่หี าอาหาร สร้างและ ซ่อมแซมรงั ปกป้องรงั จากศตั รู และดแู ลลกู เป็นตน้ ในเชงิ ปรมิ าณแลว้ มจี านวน

มากทส่ี ุด สาหรบั มดเพศผ้นู ัน้ มีไว้เพื่อสืบพนั ธ์อุ ย่างเดียว และทส่ี าคญั คอื มด นัน้ มีราชินี เป็ นมดเพศเมีย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งเดิมทีนัน้ กเ็ ป็ นมดเพศ เมียธรรมดา ๆ นัน่ เอง มดราชนิ ีจะเป็นผกู้ าหนดชะตาชวี ติ ของมดทงั้ รงั เปรยี บ เหมอื นเป็นศูนยร์ วมของมดทุกชวี ติ เลยกว็ ่าได้ หากมดราชนิ ีเสยี ชวี ติ หรอื ถูกฆ่า ตาย มดตวั อ่นื ๆ จะขาดทพ่ี ง่ึ และแตกกระจายกนั ไปไม่มจี ุดหมาย เพราะขาดผนู้ า ขาดหวั หน้า ซง่ึ โดยทวั่ ไปมดรงั หน่ึงจะมมี ดราชนิ เี พยี งตวั เดยี วเทา่ นนั้ การทอ่ี ากูรต์ งั้ ขอ้ สงั เกตว่า มดเป็นประชากรทไ่ี ม่แขง็ แรง มนั ยงั เตรยี มอาหาร ของมนั ไวใ้ นฤดูแลง้ การทม่ี ดสามารถเตรยี มอาหารไวใ้ นฤดแู ลง้ ไดน้ ัน้ กเ็ พราะว่า มดมผี นู้ าทเ่ี ป็นส่วนสาคญั ทส่ี ุด เป็น “มดราชนิ ี” คอื จาเป็นตอ้ งมผี นู้ าทม่ี องการณ์

ไกล มผี นู้ าทม่ี วี สิ ยั ทศั น์ รวู้ ่ายามใดมคี วามอุดมสมบูรณ์ และยามใดทจ่ี ะเกดิ การ ขดั สน มีผู้นาท่ีหน้าท่ีในอานวยการสงั่ การ แบ่งหน้าท่ีการงานให้มดแต่ชนิดมี หน้าท่ีความรบั ผดิ ชอบกนั อย่างชดั เจน สาหรบั มดงานท่ีเป็นผู้ปฏิบตั ินัน้ ก็ทา หน้าทก่ี นั อยา่ งขนั แขง็ หากมดงานทางานเพยี งตวั เดยี วแลว้ กอ็ าจเป็นภาระทห่ี นกั แต่หากไดท้ างานรว่ มกนั อยา่ งเป็นทมี แลว้ ภาระทห่ี นักกก็ ลายเป็นงานเบาและจะ สามารถสาเรจ็ ลงไดโ้ ดยงา่ ย 2. กระจงผา กระจงผา เป็นสตั วค์ ลา้ ยกวางแต่มขี นาดตวั ทเ่ี ลก็ มาก บางครงั้ อาจเรยี กว่า Mouse Deer เป็นสตั ว์ท่ีข้กี ลวั ซุกซ่อนตวั เก่ง คล่องแคล่วว่องไว รวดเรว็ ตกใจง่าย เน่ืองจากกระจงตวั เลก็ และไม่มเี ขา จงึ ไม่มอี าวุธไวป้ ้องกนั ตวั

มกั ตกเป็นเหย่อื ของสตั วอ์ ่นื ไดง้ ่ายซ่งึ รวมทงั้ มนุษยด์ ว้ ย ชาวบา้ นมวี ธิ งี า่ ยๆ ทจ่ี ะ หลอกใหก้ ระจงใหอ้ อกมาจากทซ่ี ่อน เช่นหากพบรอยเทา้ ใหม่ๆ ของกระจงในป่ า ก็จะเอามอื ตบไปท่พี น้ื ดนิ เพ่อื ให้เป็นจงั หวะคล้ายกบั จงั หวะเดนิ ของกระจง เม่อื กระจงเจา้ ของรอยไดย้ นิ เสยี ง จะเขา้ ใจผดิ คดิ ว่าเป็นเสยี งจงั หวะเดนิ ของกระจงตวั อ่ืน จึงวิง่ ออกมาหา ทาให้ถูกชาวบ้านจบั ได้ง่ายๆ เน่ืองจากกระจงเป็นสตั ว์ท่ี ตกใจงา่ ย และป้องกนั ตวั เองจากศตั รไู มไ่ ด้ มนั จงึ มกั ไมช่ อบไปหากนิ ไกลจากโพรง รงั นัก เวลาตกใจอะไรสกั อย่าง จะไดว้ ง่ิ กลบั เขา้ ไปหลบซ่อนตวั อย่ใู นโพรงรงั ซ่งึ อาจอย่ตู ามซอกหนิ ทอ่ี ย่ตู ามหน้าผา หรอื โพรงไมท้ ต่ี กลกู กไ็ ด้ เพราะเม่อื ยามคบั ขนั กจ็ ะสามารถวง่ิ หนีเขา้ ไปซ่อนตวั เป็นทล่ี ้ภี ยั ได้

การท่อี ากูร์ได้ตงั้ ขอ้ สงั เกตใหเ้ ราได้คดิ น้ีกน็ ่าจะเป็นว่า มนุษยเ์ ราจะต้องรจู้ กั ขอ้ จากดั ของตนเอง รจู้ กั ความสามารถของตนเองและรจู้ กั อุปนิสยั ของตนเอง เพอ่ื จะไดน้ าขอ้ จากดั เหล่าน้ีไปปรบั ใช้ในการดาเนินชวี ติ ประจาวนั และการทามาหา เลย้ี งชพี เมอ่ื มภี ยั มาถงึ ตนแลว้ จะไดร้ วู้ า่ จะทาอยา่ งไรจงึ จะปลอดภยั ในยามคบั ขนั เพอ่ื ใหต้ นเองรอด 3. ตกั๊ แตน (Grasshopper) เป็นแมลงทม่ี ลี กั ษณะทางสงั คมไม่เหมอื นกบั มด กล่าวคอื ไม่มรี าชนิ ี ไม่มรี าชา ไม่มหี วั หน้า แต่ว่ามกี ารรวมกลุ่มเป็นฝงู ใหญ่ และ การรวมกนั เป็นฝงู ใหญ่นนั้ สามารถทาการใหญ่ใหส้ าเรจ็ ลงไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย เคยมี การระบาดของฝงู ตกั๊ แตนปาทงั กา้ ทล่ี งมากนิ ขา้ วโพดในไรเ่ ป็นพน้ื ทก่ี วา้ งใหญ่ใน

ประเทศไทย ทาให้เกษตรกรจานวนมากสูญเสีย ปกติเรามกั จะเห็นตัก๊ แตน กระโดด หรอื บนิ แต่อากูร์ได้ตงั้ ขอ้ สงั เกตว่า ตกั๊ แตนเดนิ ขบวนเป็นแถว ท่จี รงิ แล้ว ตกั๊ แตนมขี าสองคู่แรกเป็นขาเดิน (Walking legs) และขาคู่หลงั เป็นแบบ กระโดด (Jumping legs) เปรยี บกบั มนุษย์เราแล้ว หลายต่อหลายครงั้ ท่ีมนุษย์ขาดผู้นา หรือการทา กจิ กรรมหลายอยา่ งของมนุษยเ์ รานนั้ ไม่มคี วามจาเป็นทต่ี อ้ งมผี นู้ า ไม่จาเป็นตอ้ ง ใหม้ คี นบอกใหเ้ ราทา หากเราทงั้ หลายมคี วามสามคั คี กลมเกลยี ว และรว่ มกนั แลว้ กส็ ามารถทางานใหส้ าเรจ็ ลงได้

4. ประการสุดท้าย ตุ๊กแก (Gecko) เป็นสตั ว์เล้อื ยคลานชนิดหน่ึง มหี ลายสี ดว้ ยกนั เชน่ น้าตาล เทา ดา เป็นตน้ ตุ๊กแกสามารถปรบั สไี ดต้ ามสภาพแวดลอ้ มท่ี อาศยั ชอบอาศยั อยทู่ งั้ ในบรเิ วณพน้ื ทแ่ี ถบป่าไมแ้ ละในบรเิ วณบา้ นเรอื น ชอบมมุ มดื ท่ปี ราศจากการรบกวน ออกลูกเป็นไข่และมนี ิสยั ชอบร้องเสยี ง\"ตุ๊กแก ๆ ๆ\" ติดต่อกันหลายครงั้ ตุ๊กแกมีตีนลกั ษณะพิเศษท่ีสามารถเกาะไต่ผนังได้อย่าง เหนียวแน่น ดงั นัน้ มนั จะเดนิ ไปอาศยั อย่ทู ไ่ี หน ๆ กไ็ ด้ ทงั้ ในบา้ นเรอื นของผคู้ น หรอื แมก้ ระทงั่ ในพระราชวงั และมนั กส็ ามารถทจ่ี ะออกลูกออกหลานอาศยั อย่ใู น พระราชวงั นัน้ ได้อย่างมคี วามสุขตราบใดท่ไี ม่ส่งเสยี ง “ตุ๊กแก ๆ ๆ” รบกวนใน

พระราชวงั มฉิ ะนัน้ แล้ว ตุ๊กแกตวั นัน้ กจ็ ะถูกขา้ ราชบรพิ ารคน้ หา ถูกล่า และถูก กาจดั ไปใหพ้ น้ จากพระราชวงั นนั้ ใหจ้ งได้ มนุษยเ์ รากเ็ ช่นเดยี วกนั เราจะเดนิ ทางไปทไ่ี หนกไ็ ดใ้ นโลก จะพานักอยอู่ าศยั ทไ่ี หนกไ็ ด้ ตราบเท่าทไ่ี ม่ไปก่อความเดอื ดรอ้ นใหก้ บั ผอู้ ่นื โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ผทู้ ่ี เป็นเจ้าของสถานท่ี หรือผู้ท่ีเป็นผู้ครอบครองสถานท่ี Habitat อยู่เดิม มนุษย์ จะตอ้ งเรยี นรใู้ นการปรบั ตวั กบั สภาพสง่ิ แวดลอ้ มและธรรมชาตทิ พ่ี ระเป็นเจา้ ทรง สรา้ ง โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การอยรู่ ว่ มกบั มนุษย์ เราตอ้ งเรยี นรวู้ ่าการกระทาสงิ่ ไหน ควรและสง่ิ ไหนไมค่ วร ขอ้ สงั เกตของอากรู ์ ในพระวจนะของพระเจา้ น้ี ไดส้ อนใหเ้ ราเรยี นรถู้ งึ สง่ิ ทแ่ี ม้ เป็นสงิ่ เล็กน้อยในสายตาของมนุษย์ แต่ก็มคี ุณค่าท่ี เรา-มนุษย์ ควรจะใช้เป็น

ข้อคิดในการดาเนินชีวิตอย่างมีปัญญา ดังท่ีว่า “มีส่ีส่ิงในแผ่นดินโลกท่ีเล็ก เหลอื เกนิ แต่มปี ัญญามากเหลอื ล้น… มด เป็นประชากรท่ไี ม่แขง็ แรง แต่มนั ยงั เตรยี มอาหารของมนั ไวใ้ นฤดแู ลง้ ตวั กระจงผา เป็นประชากรทไ่ี ม่มกี าลงั แต่มนั ยงั สร้างบ้านของมนั ในซอกหนิ ตกั๊ แตนไม่มรี าชา แต่มนั ยงั เดนิ ขบวนเป็นแถว ตกุ๊ แกนนั้ เจา้ เอามอื จบั ได้ แต่มนั ยงั อยใู่ นพระราชวงั ”. รกั ษ์ พรหมปาลติ [email protected]


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook