1/5 เทศนาเรอื่ ง “มงุ่ สตู่ ะวนั ออกแลว้ ขนึ้ เหนอื ” โดย ผป.ดร.รกั ษ์ พรหมปาลติ นมัสการภาคเช้า ทสี่ ถานนมัสการบ้านแมห่ วาน วนั อาทติ ยท์ ี่ ๒๘ มนี าคม ๒๐๒๑ ………………………………………………………………………………………………………………… มาระโก 11:1-11 ชวี ติ มักเรม่ิ ต้นด้วยการมงุ่ หนา้ ไปยงั ทิศตะวันออก โดยเฉพาะผทู้ ีก่ ำลงั อยใู่ นคำ่ คนื ที่มดื มิดและหนาวเย็นก็มกั ถวิลหาดวงตะวนั ท่ีข้ึน ณ ขอบฟา้ ทางทศิ ตะวนั ออก ส่งิ ท่ีให้กำลังและความสดชน่ื ก็คอื การหนั หนา้ ไปทางทิศ ตะวนั ออกและเดินตรงไปยังดวงตะวนั ทใ่ี ห้ความสวา่ งและความอบอนุ่ หนทางท่มี ่งุ สู่ตะวันออกมักเปน็ สัญลกั ษณ์ ของวัยเด็กหรอื วยั เร่ิมตน้ ของชวี ิตใหม่ พระเยซกู ำลังมุ่งหน้าไปยงั ตะวนั ออกซง่ึ เป็นทศิ ทางที่มงุ่ สกู่ รุงเยรูซาเล็ม พระองค์กำลังเผชญิ กบั บทใหมข่ องชวี ิตในสง่ิ ทีไ่ มเ่ คยกระทำมาก่อน วนั น้ีเปน็ วนั อาทิตย์ทางตาลหรือ Plam Sunday อนั เปน็ วนั แหง่ การเฉลมิ ฉลองของครสิ เตยี น เราไดผ้ ่านพ้น 40 วันแหง่ ฤดูกาลมหาพรตหรือ Lent Season ซงึ่ เร่ิมต้นตั้งแตว่ นั ที่ 1 มนี าคมและสนิ้ สดุ ลงในวนั นี้ ในรอบ 40 วนั ที่ผา่ นไปก็เปน็ เวลาแห่งถน่ิ ทรุ กนั ดาร เราไดเ้ ดนิ ผ่านพ้นถ่ินทรุ กันดารและกำลังม่งุ เข้าสู่เมืองหรอื ดนิ แดนท่อี ยู่ ทางทิศตะวันออก สำหรบั พระเยซนู ้ัน ก่อนท่จี ะมาถึงวาระท่จี ะมุ่งหนา้ สู่กรุงเยรูซาเล็มก็มีประชาชนมากมายตดิ ตามพระองค์ หลายคนได้รอคอยใหพ้ ระองคร์ ักษาโรค ไมว่ ่าเปน็ คนป่วยโรคเร้อื น, คนทีเ่ ป็นง่อย, คนตาบอด, คนท่มี ีผีสิง ตา่ ง ได้รับการตอบสนองจากพระเยซูด้วยความเมตตา พระองคท์ รงรกั ษาและสง่ั สอนพวกเขา บัดน้กี ม็ าถงึ กาลเวลาทพี่ ระองค์จะทรงกระทำในสิ่งใหม่ พระองค์ทรงส่งสาวกของพระองคใ์ หเ้ ขา้ ไปใน หมูบ่ า้ นท่ีอยู่ตรงหนา้ และบอกกับพวกเขาว่า เมื่อพบลูกลาตวั หน่ึงท่ผี กู อย่ซู ่ึงเป็นลูกลาทีย่ งั ไม่มีใครข้ึนขี่ก็จงแกม้ นั จูง มาเถิด พระองค์ส่งสาวกเข้าไปในหมู่บา้ นเพ่ือที่จะเตรยี มทางให้พระองค์เสดจ็ เขา้ ไปในกรุงเยรูซาเลม็ โดยปกติ แล้ว ทกุ คนทเ่ี ดนิ ทางเข้าไปในกรุงเยรซู าเล็มมักเข้าเมอื งดว้ ยการเดนิ เทา้ แต่สำหรับการเขา้ กรุงเยรูซาเล็มในคร้งั นี้ ของพระเยซกู ็ขี่บนหลังของลูกลาเข้าเมือง เมือ่ ประชาชนเห็นพระเยซขู ลี่ กู ลาเข้ากรงุ จึงพากันโห่รอ้ งเสียงดังดว้ ยคำ ว่า “โฮซนั นา! โฮซนั นา!”
2/5 พระเยซูทรงทราบถงึ การเริม่ ตน้ ใหม่ของพระองคใ์ นวนั อาทิตยท์ างตาลซึง่ เป็นการเร่ิมต้นแหง่ การสิ้นสดุ เพราะหลงั จากนี้อกี ไม่กว่ี ัน พระองค์จะถกู ตรึงแขวนไว้ทไ่ี มก้ างเขนและสนิ้ พระชนม์ การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระเยซูก็ดว้ ยการขบ่ี นลูกลาที่ไม่เคยมใี ครข่ีมาก่อน โดยปกติในตอนแรกลูก ลาจะไม่ยอมใหใ้ ครขี่บนหลังของมัน สัตวท์ ุกตวั จะไม่ยอมใหใ้ ครข่หี ลงั ของมนั สตั วท์ กุ ตัวจะตอ้ งไดร้ ับการฝึก เสียกอ่ นจนเชอื่ งแลว้ จึงยอมให้ข่ีได้ สำหรับการเขา้ กรุงเยรซู าเล็มน้ี พระองค์ขบ่ี นหลังของสัตว์ที่ยงั ไม่เชือ่ ง แต่ใน ท่ีสดุ สัตวต์ วั น้ีกย็ ินยอมให้ปูบนหลงั ของมนั และพระองคก์ ท็ รงลานนั้ เข้าไปในเมือง แม้เป็นการถูกข่เี ป็นครั้งแรกและ มเี สียงอันดังโหร่ อ้ งโฮซนั นาแต่ลกู ลาก็ยนิ ยอมให้พระเยซูทรงลานัน้ เขา้ กรงุ เยรซู าเลม็ ขณะทพ่ี ระเยซูทรงลาเขา้ ไปในกรงุ เยรูซาเล็ม ฝูงชนตะโกนวา่ “โฮซันนา” (ซ่ึงแปลวา่ ขอทรงช่วยใหร้ อด ทันที) และร้องตอ่ ไปว่า “ขอให้ทา่ นผู้ที่เสดจ็ มาในพระนามขอองคพ์ ระผู้เป็นเจ้าทรงพระเจรญิ ความสขุ สวสั ดิ มงคล จงมแี ก่แผ่นดินของดาวิดบรรพบุรุษของเราที่จะมาตง้ั อยู่ โฮซนั นาในทสี่ ูงสดุ ” สำหรับพวกยิวน้นั ในฤดูกาลปัศคาทีม่ ีชาวยิวคนหนง่ึ น่ังบนหลงั ลกู ลาหรือบนหลงั ของมา้ แลว้ ขีเ่ ข้าเมือง เยรซู าเล็มนัน้ เป็นส่ิงที่ทำให้ประชาชนต่นื เต้นอย่างยิ่ง เช่นเดยี วกบั ปัจจบุ ันที่ผูน้ ำบางทา่ นอาจใช้วิธีการสร้างภาพ ใหแ้ กต่ นเองดว้ ยการขี่บนคอช้างเพอ่ื ให้เปน็ สัญญลกั ษณข์ องจอมกษัตรยิ ท์ ่อี อกศึกสงคราม ในช่วงเวลาที่พระเยซู เสด็จเข้ากรงุ เยรูซาเลม็ กต็ รงกับเทศกาลปศั คาอนั เป็นเวลาท่ชี นชาติอสิ ราเอลระลกึ ถึงอดีตท่ีได้รบั การปลดปลอ่ ยออก จากการเป็นทาสในอียีปต์ เชน่ เดียวกับการระลึกถึงช่วงเวลาทีพ่ ระเจา้ ทรงกอบกู้พวกเขาจากการเป็นเชลยในบาบิ โลน เมื่อพระเยซขู ีบ่ นหลังลูกลาเข้ากรุงเยรูซาเล็มจึงทำให้พวกเขาระเบิดอารมณอ์ อกมาต้องการใหช้ าติอิสราเอล หวนกลับไปเหมอื นกับสมัยของกษตั รยิ ์ดาวดิ อันรงุ่ เรืองสดุ ขีด พวกเขาตอ้ งการใหพ้ ระเจ้ากอบกู้ประเทศใหพ้ น้ จาก การเป็นเมอื งขนึ้ ของโรมัน แตเ่ ราพบวา่ พระเยซูมไิ ด้ตอบสนองตามท่ีประชาชนต้องการ เพราะในเวลาต่อมาก็ไดพ้ บวา่ ประชาชนท่ี เคยตะโกนร้องว่า “โฮซนั นา ๆ” ก็เป็นกล่มุ ชนเดียวกนั ท่ีตะโกนวา่ “ตรงึ เขาเสีย ๆ“ คำสรรเสรญิ กก็ ลายเป็นคำแช่ง สาป สำหรบั ประชาชนท่วั ไปตา่ งคิดว่า การเขา้ ฝา่ ยทใ่ี ช้กำลงั หรือการรอ้ งขอให้กอบกใู้ หพ้ ้นจากการเป็นเมืองขึ้น หรอื ให้มีอสิ ระภาพทางการเมืองการปกครองคือสิง่ ท่ีพระเจา้ ทรงพอพระทยั ใหเ้ กิดขึน้ จริงอยู่ ในอดีตของอิสราเอล กเ็ คยตกเปน็ ทาส เคยเป็นเชลย และในปัจจุบนั เปน็ เมืองขน้ึ ของโรมัน ในสภาพเช่นน้ีเองมกั เบ่ยี งเบนความนึกคิดถึง ประเด็นสำคัญกวา่ คือการเป็นทาสของบาป สภาพเชน่ นัน้ มักก่อให้เกดิ วิกฤตในชีวิตหรือเปน็ การตกลงไปในการ
3/5 ทดลอง บอ่ ยครั้งทอี่ ยใู่ นสภาพการที่เหมอื นเปน็ ทาสทางเศรษฐกิจ, สงั คม, การเมอื ง, ขนมธรรมเนียมประเพณี, หรือเกียรติยศชอ่ื เสียง จากสภาพที่เหมือนทาสทีไ่ มอ่ าจเปน็ เสรีชนไดน้ ัน้ ก็มกั เกดิ การลมื ตัวตอ้ งการชดเชยด้วย การร้องขอใหม้ อี ัศวินม้าขาวเขา้ มากอบกู้ใหต้ นพน้ จากพันธนาการภายนอกหรอื สงิ่ ท่เี ปน็ ทกุ ข์ช่วั คราว แตล่ ืมถงึ พนั ธนาการเน่ืองจากบาปและความพินาศทางฝ่ายจิตวญิ ญาณ ในสภาพน้ันอาจเป็นกบั ดกั ท่ีมารซาตานใช้ลวงมนษุ ย์ เราเคยเหน็ ผู้นำจอมเผด็จการเช่นอดอ๊ ฟ ฮิตเลอร์ทสี่ ร้างภาพลวงตาในหม่ชู นเยอรมันในสมัยหลังสงครามโลกคร้ังท่ี 1 จนตอ่ มากลายเปน็ สงครามโลกคร้งั ที่ 2 และมกี ารฆ่าลา้ งมนุษย์ด้วยกนั เพอ่ื ความยงิ่ ใหญ่ตามคำโฆษณาของผ้นู ำ แต่ในพระคมั ภีรก์ ช็ ใ้ี หเ้ หน็ ถึงสงิ่ ท่ยี ิ่งใหญ่กว่าอำนาจหรอื ความเกรยี งไกรนนั่ กค็ ือความเงียบและความถ่อม สภุ าพ เราคงจำถึงเหตุการณใ์ นสวนเกเซมนีเมอ่ื พระเยซตู ้องคุกเขา่ ลงและออ้ นวอนต่อพระบิดาดว้ ยคำพดู วา่ “ถ้า เป็นไดข้ อให้ถว้ ยน้เี ลอ่ื นพ้นไปจากขา้ พระองค์เถิด” พระองคม์ ิใช่วงิ วอนเพียงครง้ั เดยี วแต่เปน็ 3 ครงั้ พระบุตร กล่าวคำว่า “ถา้ เป็นไปได้…..” ซ่ึงเป็นถ้อยคำท่มี าจากส่วนลกึ ในจิตใจของตน เราพบว่า พระบิดาทที่ รงรกั พระบุตร ไดต้ อบสนองต่อคำวิงวอนเชน่ ไรบา้ ง? สิ่งทปี่ รากฎคอื “ความเงียบ” ความเงยี บนมี้ ใิ ช่เงียบเพือ่ ใหผ้ ่อนคลาย สบายอารมณแ์ ต่เปน็ ความเงียบทส่ี ร้างความทุกข์ทรมาน ในสภาพนั้นเอง พระเยซมู อิ าจใช้อะไรอน่ื มาทดแทนได้ นอกจากความเชื่อศรทั ธาที่มตี ่อพระบิดาเจ้า มใิ ชด่ ้วยส่งิ ที่ตามองเหน็ แต่ดว้ ยความเชือ่ ศรัทธาทีก่ ลา่ วออกมาวา่ “แตใ่ ห้เปน็ ไปตามพระทัยของพระองค์” เสยี งโหร่ อ้ งโฮซันนาอนั ดงั ย่ิงนั้นก็กลายเป็นความเงียบและสิ่งนก้ี เ็ กดิ ขน้ึ กบั พระเยซู และสภาพนั้นเองก็เป็น ส่งิ ทีเ่ กิดกบั บรรดาสาวกของพระเยซแู ละเราทัง้ หลายเช่นกนั การฉลองวนั ทางตาลน้ีมิใช่เขา้ ถงึ สภาพของความรสู้ กึ ถงึ การมีชยั หรือกำลงั จะชนะ แตค่ วรมาถงึ เก เซมนีอันเงยี บสงัดท่ไี มไ่ ดร้ ับคำตอบใด ๆ จากพระเจ้าด่งั เช่นเดียวกบั พระเยซทู ่อี ้อนวอนขอให้ถว้ ยนเี้ ล่ือนพน้ ไปจาก ตนเอง ในที่สุดกก็ ล่าววา่ อยา่ ให้เปน็ ไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แตใ่ หเ้ ปน็ ไปตามพระทัย ของพระองค์ อกี ประการหน่ึง วันอาทติ ย์ทางตาลครั้งแรกนัน้ ประชาชนต่างประสงคท์ จ่ี ะให้พระเจา้ เสดจ็ มาด้วย แสนยานภุ าพหรอื ด้วยอำนาจเพ่ือการพิชติ อาณาจักรโรมนั แต่ปรากฎว่า พระเยซูทรงเสด็จมาเพ่ือสนั ตสิ ขุ หรือ สนั ตภิ าพ พระองค์ทรงสัง่ สอนให้ประชาชนสรา้ งสันติกบั โรมนั และคนทอ่ี ยรู่ อบขา้ ง วันอาทติ ยท์ างตาลนั้น พระ เยซูมิได้ขม่ี ้าขาวเพอื่ แสดงออกถงึ การเป็นผพู้ ชิ ิตในแง่ของกองทัพ แต่พระองคท์ รงลาอยา่ งถอ่ มสุภาพอันเปน็ สัญญลักษณแ์ ห่งสนั ตภิ าพ วนั อาทติ ยท์ างตาลดังที่กลา่ วไวใ้ นพระคัมภีรไ์ ดส้ อนอะไรแกเ่ ราทงั้ หลายบ้าง
4/5 ประการท่ี 1 วนั อาทิตย์ทางตาลไดใ้ หค้ วามหมายถึงการทรงสถติ อย่ดู ้วยของพระเจา้ ในส่ิงท่เี ป็นการเขา้ มาของพระเจ้าที่มีความสำคัญก็มีอยู่ 5 ครง้ั คือ (1) ทรงเป็นอมิ มานเุ อลทมี่ าบงั เกิดในครรถ์ ของหญงิ พรหมจารซี ึ่งทตู สวรรคไ์ ด้ประกาศวา่ ให้เรียกนามของทา่ นว่าเยซูเพราะว่าทา่ นเป็นผทู้ จี่ ะโปรดช่วยชนชาติ ของท่านใหร้ อดจากความผดิ บาปของเขา (2) เม่ือพระเยซมู าที่พระวิหารตอนอายุ 12 ขวบและได้แจ้งใหม้ ารีย์และโย เซฟทราบวา่ ท่านไมท่ ราบหรอื วา่ ฉันต้องอยใู่ นพระนิเวศแหง่ พระบดิ าของฉันหรือกระทำธกุ ิจแหง่ พระบดิ าของฉนั (3) มาทแี่ มน่ ้ำจอรแ์ ดนเพื่อจะรับบัพติศมา และมีพระสุรเสยี งจากฟ้าสวรรคว์ ่า “ท่านผนู้ ี้เป็นบตุ รทีร่ กั ของเรา เรา ชอบใจทา่ นมาก” (4) เข้ามาในกรุงเยรซู าเลม็ ด้วยความถอ่ มสภุ าพ (5) เขา้ ไปในสวนเกเสมนีเพ่อื ให้น้ำพระทัยของ พระเจ้าสำเรจ็ ท้ัง 5 ประการก็เก่ยี วขอ้ งกบั พระคุณของพระเจ้าทม่ี ุ่งถงึ การทรงสถิตของพระเจา้ ในทา่ มกลางมนษุ ย์ ประการที่ 2 วันอาทติ ย์ทางตาลก็มคี วามหมายทท่ี ำใหเ้ ราทราบถึงความรักของพระเจ้าทมี่ ีต่อมนษุ ย์ ส่ิงที่ พระเยซทู รงกระทำในวนั อาทติ ยท์ างตาลซ่งึ พระองค์ทรงลานน้ั กเ็ พื่อประกาศใหม้ นุษย์ทราบวา่ พระเจา้ ทรงรักมนษุ ย์ พระองคท์ รงรกั คุณ ทรงรกั ทกุ ๆ คน วันอาทติ ยท์ างตาลก็เปน็ วันทพี่ ระเยซูมงุ่ หนา้ สู่ทศิ ตะวนั ออกเพือ่ เขา้ เยรซู าเลม็ แตเ่ ราก็ไดเ้ รยี นรตู้ อ่ ไปวา่ พระเยซมู ไิ ดม้ ุ่งเข้าเยรซู าเล็มเพ่อื ทีจ่ ะอยู่ท่ีนนั่ หรอื ขน้ึ ครองบงั ลงั ค์ใด ๆ คอื หลังจากทีพ่ ระองคม์ ุ่งไปยงั ตะวันออก แล้วกข็ นึ้ เหนอื คือหลังจากนั้นอีก 5 วนั พระองค์ตอ้ งออกจากกรุงเยรซู าเล็มและเดินแบกไม้กางเขนขน้ึ ไปทาง เหนอื ยงั บริเวณซึง่ เรยี กว่า กลโกธาหรอื ภเู ขากระโหลกศีรษะเพ่อื ถกู ตรึงและสิน้ พระชนม์ วันนี้และตลอดสัปดาห์จนถงึ วนั อาทติ ย์หน้าก็มปี รากฎการณท์ ี่เริ่มตน้ จากความยนิ ดียิ่งทีพ่ ระเยซเู สดจ็ เขา้ กรุง เยรูซาเล็ม และเราท้งั หลายก็รู้ว่า มีอะไรกำลงั รอคอยพระองคอ์ ยูข่ า้ งหน้านน่ั ก็คือการถูกตรงึ ทไี่ มก้ างเขนซง่ึ เป็น ความตายกอ่ นท่จี ะมาถึงเช้าตรอู่ ิสเตอรท์ ี่พระเยซทู รงเป็นขึน้ จากความตาย นับจากวนั นไี้ ปจนถงึ วนั ศุกร์ประเสริฐ บางทีเราอาจถูกทดสอบ เราอาจต้องข้นึ เหนอื ไปท่ีกลโกธาซง่ึ มีแตค่ วามมดื มดิ ส่งิ ทเ่ี กีย่ วข้องกบั การฉลองวันอาทิตยท์ างตาลนี้มิใชเ่ ปน็ เพยี งความยนิ ดที พ่ี ระเยซไู ดเ้ สด็จเข้ากรุงเยรซู าเล็ม อยา่ งผพู้ ชิ ติ แต่ยังมีต่อไปยังสวนเกเซมนีทม่ี เี รื่องของ “อยา่ ให้เป็นตามใจปรารถนาของข้าพระองค์ แต่ใหเ้ ปน็ ไป ตามพระทัยของพระองค์” เม่อื มุง่ สูต่ ะวันออกแล้วกต็ ้องขึน้ เหนือ หลงั จากเข้าประตเู ยรซู าเล็มแลว้ ก็ต้องเดิน ต่อไปที่กลโกธา ขอใหก้ ารเดินต่อไปในสัปดาห์น้ีเป็นโอกาสทีเ่ ราทัง้ หลายจะก้าวตอ่ ไปดว้ ยความมุง่ มน่ั , ความเขม้ แข็งในจิตใจ, และความเช่ือศรทั ธาในองคพ์ ระผเู้ ปน็ เจ้า, อาเมน
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: