Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 4กระบวนการสอนทางสุขภาพรุ่น23

4กระบวนการสอนทางสุขภาพรุ่น23

Published by munlika_makrat, 2018-04-24 00:56:29

Description: 4กระบวนการสอนทางสุขภาพรุ่น23

Search

Read the Text Version

กระบวนการสอนทางสขุ ภาพอ.มัลลิกา มากรตั น์ พยาบาลวชิ าชีพชานาญการพเิ ศษ วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี อุดรธานี

ปญั หาสุขภาพบคุ คลคณุ ยายทองใบ อายุ 62 ปี ป่วยเปน็ โรคเบาหวานมา 11 ปี ไม่สามารถควบคุม ระดับนา้ ตาลได้ ระดบั น้าตาลอย่ใู นระดบั สงู เพราะไมค่ ะล้าอาหารหวาน ชอบกินข้าวกบั มะมว่ ง หรอื มะขามสกุ หรอื กล้วยนา้ ว้า ไมไ่ ดอ้ อกก้าลงั กายสม้่าเสมอ กินยาไมต่ รง เวลา และบางครง้ั ก็ลืมกนิ ยา มักมอี าการวูบ บอ่ ยๆ เคยเขา้ นอนรพ.มาแล้ว 5 ครง้ัทา่ นจะด้าเนินการอย่างไร ?

ปญั หาสุขภาพกลมุ่ วยั รนุ่กลุม่ วัยรุ่นมปี ญั หาเร่ืองการคบเพอ่ื น ตา่ งเพศและการมเี พศสัมพันธ์ทไี่ ม่ ปลอดภยั ทา้ ใหเ้ กิดปญั หาโรคเอดส์ ตงั้ ครรภ์ และโรคตดิ ต่อทาง เพศสัมพนั ธอ์ นื่ ๆ ตามมา ทา่ นจะดา้ เนนิ การอย่างไร ?

ปัญหาสุขภาพชมุ ชนในชุมชนมีการระบาดของ โรคไข้เลอื ดออก ผูป้ ว่ ยส่วน ใหญ่เป็นเด็กก่อนวัยเรียน และวยั เรยี นท่านจะด้าเนินการอยา่ งไร?

รปู แบบการสอนทางสขุ ภาพ1. การสอนรายบคุ คล Individual Health Education เป็นการสอนสขุ ภาพกล่มุ เป้ าหมายตวั ต่อตวั เช่น การสอนสขุ ภาพในการ เยี่ยมบ้าน การสอนผปู้ ่ วยในคลินิก การใช้บทเรียนสาเรจ็ รปู เป็นต้น

2. การสอนรายกล่มุ Group Health Education หมายถงึ การสอนกล่มุ เป้ าหมายท่ีมีความสนใจหรือมีปัญหาทางสขุ ภาพรว่ มกนั ตงั้ แต่ 2คนขึน้ ไป ซ่ึงมีทงั้ กล่มุ ที่เป็นทางการ ละกล่มุ ไม่เป็นทางการ เช่น การสอนโดยการประชมุ กล่มุ การสาธิต การเล่นเกมส์ เป็นต้น

3. การสอนรายชุมชน Community Health Education และสขุ ศึกษามวลชนMass Health Educationหมายถึง การสอนกล่มุ เป้ าหมายจานวนมากในขอบเขตพืน้ ท่ีใดพืน้ ที่หนึ่ง เช่น การรณรงคก์ การาเรดจนิ ดั ขนบิทวนรรรณศกรงาคร์ป้หอองกกนัระแจลาะยควขบ่าควมใุ นโรหคมไ่ขบู เ้า้ลนือดกอาอรกสอนทาง Internet สื่อส่ิงพิมพ์ เป็นต้น

ประเภทการสอนทางสุขภาพตามมาตรฐานงานสขุ ศึกษา1. สขุ ศึกษาในโรงเรยี น ( School health education )2. สขุ ศึกษาในโรงพยาบาล ( Hospital health education )3. สขุ ศึกษาในชมุ ชน ( Community health education )

1. สุขศึกษาในโรงเรยี น ( SCHOOL HEALTH EDUCATION )แนวทางการสอนสขุ ศกึ ษาในโรงเรียน1. ควรสอดแทรกเรื่องสขุ ภาพเขา้ ไปในทกุ วิชาของหลกั สตู ร2. โครงการสอนสขุ ศึกษาในโรงเรยี น จะเปน็ ความรบั ผิดชอบรว่ มกนั ระหวา่ งบา้ น โรงเรยี น และชุมชน3. มุ่งส่งเสรมิ สขุ ภาพท้ังด้านสงั คม จิตใจ และอารมณ์ ใหม้ ากพอกบั ด้านสขุ ภาพ4. เนน้ การพฒั นาตวั บคุ คล พัฒนาความรบั ผิดชอบตอ่ สขุ ภาพตนเอง และสังคม5. โรงเรียนจะตอ้ งจดั สง่ิ แวดลอ้ มให้ถูกสขุ ลักษณะและจดั บริการสขุ ภาพขน้ึ ด้วย

หลักการสอนสขุ ศึกษาในโรงเรียน การสอนควรเน้นเรอื่ งสุขภาพในลักษณะบวก (Positive) สอนเพ่ือการมสี ุขภาพดี ไม่ใชส่ อนเพอื่ นใหร้ ู้อย่างเดยี ว ควรประเมินความสนใจ ความตอ้ งการ และความสามารถเด็ก ก่อนสอนเสมอ กิจกรรมการสอนตอ้ งสัมพนั ธ์กบั ประสบการณ์ ใชไ้ ดใ้ นชวี ิตจรงิ ควรช่วยใหน้ กั เรียนไดส้ รปุ หลกั เกณฑ์ และนา้ ไปใช้ใน ชวี ติ ประจ้าวนั ได้ ควรสอดแทรกเรอ่ื งสขุ ภาพเขา้ ไปในการดา้ รงชีวิตจรงิ ของเดก็ ทงั้ ทีโ่ รงเรียน บ้าน และชมุ ชน

2. สุขศึกษาในโรงพยาบาล ( HOSPITAL HEALTH EDUCATION ) กลมุ่ เป้าหมายหลักคอื ผ้ปู ่วย ญาติ วัตถุประสงคส์ า้ คัญ 1. ป้องกนั การป่วยกลับซ้า 2. ลดระยะเวลาในการรักษาพยาบาล 3. ป้องกนั การติดเชอ้ื และการแพร่กระจายเชอ้ื 4. แนะนา้ สถานบรกิ ารและสนับสนนุ งานบริการใหเ้ ป็นที่ยอมรบั 5. ลดคา่ ใชจ้ า่ ยในการรักษาพยาบาล

หลักการจัดกิจกรรมจดั กจิ กรรมให้ผูป้ ่วยคลายความวิตกกังวล หรือความเครียด สามารถเผชญิ การเจบ็ ปว่ ยไดด้ ี มีการปรับตวั ท่เี หมาะสมกบั โรค ทีเ่ ปน็ และสภาพการด้าเนินชวี ติ ทีม่ ีอยู่ เพ่อื ใหส้ ามารถกลบั คืนสู่ สภาพสงั คมเดมิ ของผูป้ ว่ ยและญาติได้อยา่ งเหมาะสมปัญหาอปุ สรรคขณะเจบ็ ปว่ ย ผูป้ ว่ ยและญาตมิ ักจะมคี วามกงั วล จงึ ไม่เกิด แรงจงู ใจในการเรียนรเู้ ทา่ ทค่ี วร แตเ่ มื่อยอมรบั ความเจบ็ ปว่ ยได้ บ้าง จะเริ่มให้ความรว่ มมือมากขึ้น

3. สุขศกึ ษาในชมุ ชน ( COMMUNITY HEALTH EDUCATION )เน้นสร้างเสริมสุขภาพ ป้องกนั โรค ตลอดจนแก้ไขปญั หา สุขภาพในชมุ ชนประชาชนมีส่วนรว่ มคิด ร่วมทา้ รว่ มรบั ผิดชอบสขุ ภาพตนเองกล่มุ เป้าหมายเป็นประชาชนทกุ เพศ ทกุ วยั ทุกอาชีพ

จุดประสงค์ต้องการใหป้ ระชาชนเกิดความเขา้ ใจ ความตระหนักใน ปญั หาสขุ ภาพทีต่ นเองและชมุ ชนเผชิญอยู่สา้ นกึ ในความรับผิดชอบตอ่ การแก้ปญั หามคี วามรพู้ อท่ีจะจดั การปัญหาเบื้องต้นดว้ ยตนเองหรอื ลด ปญั หาของตนเองและชมุ ชนพฒั นาปรบั เปลี่ยนหรือสรา้ งเสรมิ พฤตกิ รรมสุขภาพไป ในทางทีพ่ งึ ประสงค์

กระบวนการสอนทางสุขภาพ1. การประเมนิ ปญั หาและความตอ้ งการความรูท้ างสขุ ภาพ2. การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมสขุ ภาพ(ปจั จัยสาเหตุ) ของกลุ่มเปา้ หมาย3. การวางแผนและการเขยี นแผนการสอน4. การดา้ เนินการสอนทางสุขภาพ5. การประเมินผลการสอนทางสุขภาพ

1. การประเมนิ ปัญหาและความต้องการความรู้ทางสุขภาพ (NEED ASSESSMENT)

วิธีการประเมินปัญหาและความต้องการความรู้ทางสขุ ภาพ 1. การตรวจร่างกาย 2. การสัมภาษณ์ 3. แบบสอบถาม 4. การสังเกต 5. ระเบียนรายงาน

การประเมินปญั หาทจ่ี า้ เป็นต้องให้ความรู้ทางสขุ ภาพ1. มปี ญั หาสุขภาพ กาย จติ สังคมจิตวิญญาณ - ได้แก่ การเจบ็ ป่วย โรคตา่ ง ๆความไมส่ ขุ สบายความเครียด ความวิตกกังวล ต่าง ๆ - เช่น ผปู้ ่วยปฏบิ ตั ิตวั ไมถ่ กู ต้องมีความวิตกกังวลเก่ียวกับการเจ็บปว่ ย เดก็ ฟันผุ เดก็ อุจจาระรว่ งบอ่ ย ๆ เปน็ ต้น

2. ปัญหาเสี่ยงตอ่ การเกิดปญั หาสขุ ภาพฯ / พฤติกรรมการส่งเสริมสุขภาพและป้องกนั โรค 2.1 พฤติกรรมทางลบ เชน่ ไมร่ บั ประทานยาตามแพทย์สง่ั , พฤตกิ รรมสูบบหุ ร่ี ดมื่ สุรา เป็นต้น 2.2 พฤติกรรมท่ไี ม่ปฏิบตั ทิ างบวก เช่น ไมอ่ อกก้าลังกาย เปน็ ตน้ 2.3 พฤติกรรมทางบวกที่ปฏิบตั อิ ยู่แล้ว เช่น การรบั ประทานอาหารครบ 5 หมู่ การซ้ือยาจากร้านทม่ี เี ภสัชกร เมือ่ เจ็บป่วยเล็ก ๆน้อย ๆ

3. ความต้องการทางสุขภาพ เชน่ ตอ้ งการรู้เกยี่ วกับการออกกา้ ลังกายเพ่ือป้องกนั โรค ต้องการรเู้ กย่ี วกบั การดูแลบตุ รหลังได้รบั วัคซีน ต้องการรเู้ รอื่ งไข้หวดั เมอร์ส เป็นต้น

กจิ กรรมการสอน ส่ือ อุปกรณ์การสอน รปู แบบการสอน เขียนแผนการสอน 3.วางแผนเปา้ หมาย/วัตถปุ ระสงค์ การสอน2. วเิ คราะห์ปจั จยั สาเหตทุ ่มี ีผลต่อปัญหาสุขภาพปัจจยั ปัจจยั ปจั จัยนา้ เอื้อ เสรมิ 1. ปญั หาสุขภาพปัญหาพฤติกรรมสขุ ภาพ ความตอ้ งการ HE



การวิเคราะหพ์ ฤติกรรมสขุ ภาพประยกุ ตก์ รอบแนวคิดของ Green มาใช้ เฉพาะ ขน้ั ตอนที่ 3, 4, และ 5 โดยวิเคราะห์ หาสว่ นขาดของพฤติกรรมทง้ั 3 ปัจจยั คือ  ปัจจยั นา Predisposing Factors  ปัจจยั เอ้ือ Enabling Factors  ปัจจยั สนบั สนนุ Reinforcing Factors

วิเคราะห์ วิเคราะห์ วิเคราะห์ วิเคราะห์ วิเคราะห์ทางบรหิ าร ทางการศึกษา ทางพฤติกรรม ทางระบาดวิทยา ทางสงั คมHealth ปัจจยั นา สาเหตอุ ื่น ที่ไม่เกยี่ วกบัPromotion พฤติกรรม Health ปัจจยั เอ้ือ ปัญหา คณุ ภาพEducation สขุ ภาพ ชีวิต Policy ปัจจยั สาเหตทุ ี่ regulation เสรมิ เกี่ยวกบัorganization พฤติกรรม

การวิเคราะหป์ ัจจัยสาเหตุของปัญหาปัญหาสุขภาพ กาหนด ปัจจยั ภายในบุคคล(นา)พฤติกรรมสุขภาพ ปัจจยั เกีย่ วกบั สิง่ แวดลอ้ ม (เอ้ ือ) ปัจจยั เกีย่ วกบั สงั คม (เสริม) ปัญหาสุขภาพ

1.กลุ่มปัจจยั นำ (PREDISPOSING FACTORS)คณุ ลกั ษณะของบคุ คลหรอื ประชากรที่ติดตวั กบั บคุ คลเหลา่ นนั้ มากอ่ นแลว้ เช่น ความรู้ ความเชื่อ ทศั นคติ เจตคติ ค่านิยม ความมนั่ ใจใน ความสามารถท่ีจะปฏิบตั ิในเรอื่ งนน้ัรวมถึงคณุ ลกั ษณะทางประชากรของแต่ละบคุ คล เชน่ เพศ อาย ุ สถานการณท์ างเศรษฐกิจ (รายได้ , รา่ รวย, ยากจน) สงั คม (ตาแหนง่ , หนา้ ที่การ งาน, บทบาทสงั คม) เป็ นตน้

2.กลม่ ุ ปัจจยั เอ้ือ (ENABLING FACTORS)คณุ ลกั ษณะของสิ่งแวดลอ้ ม ทง้ั ดา้ น กายภาพ และสงั คมวฒั นธรรม ทกั ษะสว่ น บคุ คล และหรอื ทรพั ยากรท่ีจะชว่ ยเก้ือกลู ให้ เกดิ พฤติกรรมที่พึงประสงค์เช่น ฤดกู าล บญุ ประเพณี เทศกาล รายได้ ครอบครวั ความสามารถในการเขา้ ถึง บรกิ าร ระยะทาง เป็ นตน้

3. กลม่ ุ ปัจจยั เสรมิ (REINFORCING FACTORS)เป็ นกลม่ ุ ปัจจยั ที่บคุ คลไดร้ บั จากการปฏิบตั ิ ซ่ึงอาจ สนบั สนนุ จงู ใจใหบ้ คุ คลนนั้ มีการปฏิบตั ิไปอยา่ ง ต่อเนื่อง เชน่ คาชมเชยจากเพ่ือนหรอื แพทย์ การลอก เลยี นหรอื ปฏิบตั ิตามแบบอยา่ งรางวลั หรอื ผลตอบแทนหรอื การไดร้ บั การลงโทษ ภายหลงั ที่ไดแ้ สดง พฤติกรรมต่าง ๆ ออกมา ซ่ึงจะ ชว่ ยใหเ้ กดิ ความมนั่ คงของการเกดิ พฤติกรรม การ เสรมิ แรงจะไดร้ บั จากครอบครวั เพ่ือน คร ู บคุ ลากร ทางการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ หรอื ส่ือมวลชน เป็ น ตน้

การน้าไปใช้

ตวั อย่างการเขียนกรอบการวิเคราะห์ปัจจยั นา ปั ญหา-ประเมินความรเู้ รอื่ งการป้ องกนั โรค -C วยั ร่นุ เสยี่ งต่อ-ประเมินทศั นคติต่อการมีเพศสมั พนั ธ์/ -Aการใชถ้ ุงยางอนามยั การตดิ เช้อื เอดสจ์ ากการ-ประเมินทกั ษะการใชถ้ ุงยางอนามยั -P มีเพศสมั พนั ธ์ทไี่ ม่ป้ องกนัฯลฯปัจจยั เอ้อื-สารวจแหล่งขายถุงยางอนามยั ในชมุ ชน-ฐานะการเงนิ ของวยั ร่นุ - ฯลฯปัจจยั เสรมิ-ประเมินนโยบายของรฐั ต่อปัญหา-ประเมินความคดิ เห็นของกล่มุ วยั ร่นุ ต่อการมีเพศสมั พนั ธ์-ประเมินครอบครวั , โรงเรยี น, หอพกั ฯลฯ

ตวั อย่างปญั หา วยั รนุ่ เส่ียงตอ่ การตดิ เชอ้ื ทางเพศสัมพันธ์ ประเมินปัจจยั นา เชน่ ..... วยั รน่ ุ มีความรเู้ รอื่ งโรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ?์ มีความรกู้ ารป้ องกนั ? วยั รน่ ุ มีทศั นคติเรอ่ื งการมีเพศสมั พนั ธอ์ ยา่ งไร? วยั รน่ ุ มีการรบั รคู้ วามเส่ยี งต่อการมีเพศสมั พนั ธ์ หรอื ไม่? อยา่ งไร? วยั รน่ ุ มีทกั ษะการใชถ้ งุ ยางอนามยั อยา่ งมี ประสิทธิภาพหรอื ไม่?

ประเมินปัจจยั เอ้ือ เช่น.....วยั รน่ ุ หาซ้ือถงุ ยางอนามยั ไดง้ ่าย? จากแหลง่ ใดบา้ ง?วยั รน่ ุ มีเงินเพียงพอท่ีจะซ้ือหรอื ไม่?ถงุ ยางอนามยั ราคาแพงหรอื ไม่?แหลง่ ที่พกั มีโอกาสมีเพศสมั พนั ธไ์ ดง้ ่ายหรอื ไม่? (หอพกั ชาย-หญิง)

ประเมินปัจจยั เสรมิ เช่น.....ผปู้ กครองใหก้ ารดแู ลอยา่ งใกลช้ ิดหรือไม่โรงเรยี นและครมู ีนโยบายและปฏิบตั ิต่อเรอ่ื งน้ีอยา่ งไรหน่วยงานสาธารณสขุ ดาเนินการในโรงเรยี นอยา่ งไรกลม่ ุ เพ่ือนของวยั รน่ ุ มีความคิดเห็นต่อเรื่องน้ีอยา่ งไรมีกลม่ ุ เพื่อนวยั รน่ ุ มีเพศสมั พนั ธห์ รือไม่ มากนอ้ ยเพียงใดหอพกั มีกฎระเบียบใหก้ ารดแู ลมากนอ้ ยเพียงใดรฐั ฯ มีนโยบายเรอื่ งน้ีอยา่ งไร เขม้ แข็งหรอื ไม่

ดาเนนิ การสรา้ งแบบสอบถามเพอ่ื วิเคราะหป์ ัจจยั สาเหตุของปัญหา ตัวอย่างข้อคาถามลาดบั รายการประเมิน ใช่ ไม่ใช่ ไม่แน่ใจ ที่ 1 001 การมีเพศสมั พนั ธ์โดยไม่ใชถ้ ุงยางอนามยั มี 0 10 โอกาสติดเช้อื ทางเพศสมั พนั ธ์ได้ 0 10 0 102 ไม่จาเป็ นตอ้ งสวมถุงยางอนามยั เพราะ เชอ่ื ใจคู่นอน(ไวใ้ จได)้3 กล่มุ เพอ่ื นเห็นว่าการมีเพศสมั พนั ธ์โดยไม่สวม ถุงยางอนามยั เป็ นเรอื่ งธรรมดา4 การสวมถุงยางอนามยั 2ชนั้ จะป้ องกนั โรคติดต่อ ทางเพศสมั พนั ธ์ไดด้ ี

สรปุ ปัจจยั สาเหตขุ องปัญหาตวั อย่างสรุปการวเิ คราะห์ปัจจยั สาเหตุ 1. วยั รนุ่ มกี ารรบั ร้เู ร่ืองการปอ้ งกันโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ไม่ ถูกตอ้ ง รอ้ ยละ 67 2. วยั รุน่ มีเพศสัมพนั ธต์ ามแบบอยา่ งกล่มุ เพอ่ื น ร้อยละ 54 3. วัยรุ่นมคี วามรู้ไมถ่ กู ตอ้ งเกยี่ วกบั การปอ้ งกนั โรคติดตอ่ ทาง เพศสมั พนั ธ์ ร้อยละ 45 4. วัยุร่นมโี อกาสมีเพศสัมพันธไ์ ดง้ ่าย (สะดวก) ร้อยละ 39 5. วัยรนุ่ อาศัยอยูห่ อพักโดยไมม่ ีผู้ปกครองดแู ลร้อยละ 28 6. วยั ร่นุ มีความคดิ เหน็ ต่อการมเี พศสัมพนั ธ์โดยไมป่ ้องกันเป็นเร่ือง ธรรมดา รอ้ ยละ 48 7. โรงเรียนไม่ได้รณรงคแ์ ละควบคมุ ปอ้ งกนั โรคเรื่องน้อี ย่างเข้มงวด

ตั้งเปา้ หมายหรือวัตถุประสงค์ (ในแผนการสอนทางสุขภาพ)เพอ่ื ใหว้ ยั ร่นุ1. วยั ร่นุ มีความรทู้ ี่ถูกตอ้ งเกย่ี วกบั การป้ องกนั โรคทางเพศสมั พนั ธ์2. วยั ร่นุ มีการรบั รแู้ ละมีทศั นคติที่ถกู ตอ้ งเกย่ี วกบั การป้ องกนั โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์3. วยั ร่นุ มีทกั ษะการป้ องกนั โรคติดต่อทางเพศสมั พนั ธ์

Design ผูป้ ก ประชุมผู้ปกครอง HE ครอง ขอความร่วมมอื ผู้รับผดิ ชอบในพนื้ ท่ีวยั รุน่ HE แกไ้ ขปัญหา เจา้ ของ หอพกั โครงการ โรงเรยี น กจิ กรรม ระเบยี บ

โรงเรยี น1. โรงเรยี นมีนโยบาย/การรณรงคเ์ รื่องการปอ้ งกนั โรคติดตอ่ ทางเพศสมั พนั ธอ์ ยา่ งชดั เจน เข้มงวด สม่้าเสมอและต่อเนอ่ื งผปู้ กครอง1. ผู้ปกครองมสี ่วนรว่ มในการดูแลบตุ รเพ่อื การป้องกนั โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พันธ์หอพัก1. หอพกั /เจ้าหน้าท่ดี แู ลหอพกั ใหค้ วามรว่ มมอื ในการแกไ้ ขปญั หา มีกฎระเบยี บท่ีเขม้ งวดหนว่ ยบริการสขุ ภาพ1. สถานบรกิ ารสขุ ภาพมกี ารเฝ้าระวงั ความเสี่ยงและให้ความรู้ ทางสขุ ภาพแกน่ ักเรียนอย่างต่อเนื่อง สม่้าเสมอ

ดาเนินการออกแบบการสอนและเขยี นแผนการสอนต่อไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook