Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คุณธรรม 3 ดาว หนองหวาย (1)

คุณธรรม 3 ดาว หนองหวาย (1)

Published by banbak99, 2022-08-20 06:43:33

Description: คุณธรรม 3 ดาว หนองหวาย (1)

Search

Read the Text Version

นกั เรยี นตั้งใจศกึ ษาหาความรดู้ ้วยความพากเพยี รพยายาม ๔๙ ๔๙ ๔๙

ครแู ละนักเรียนดำรงชวี ิตอยู่ในหลกั ความพอเพยี ง ๕๐ ๕๐ นกั เรยี นรบั ประทำนอำหำรให้หมดจำน ๕๐

โครงงโาคนรคงงุณำธนรครณุมปธรระรจมำช้นั เรยี น ๕๑ ๕๑ ประจำชัน้ เรยี น ๕๑

ชือ่ โครงงำน ดืม่ นมแล้วทง้ิ ถุงลงถัง คณุ ธรรมเปำ้ หมำย ความรับผิดชอบ ระเบียบวินยั ผู้จัดทำโครงงำน นักเรียนช้นั อนบุ าลปีที่ ๑-๓ ครทู ่ีปรกึ ษำ นางสาวทิพอาภา เหมะธุลนิ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ท่ีมำและควำมสำคัญของปญั หำ จากการสงั เกตพฤติกรรมการด่ืมนมของนักเรียนชน้ั อนุบาล ๑-๓ โรงเรยี นบ้านหนองหวาย พบว่ามี เด็กนักเรียนบางคนไม่ชอบดื่มนมโรงเรียนที่จะดื่มนมในช่วงเช้าทุกวัน เมื่อครูตัดถุงนมให้เด็กนักเรียน แล้ว คุณครูสังเกตเหน็ ว่านักเรียนบางคนจะไม่ยอมดูดนม บางคนดื่มนมไม่หมดและเทนมทิ้ง บางคนกัด หลอดเล่น หรือดูดนมช้าๆ อมน้าไวใ้ นปากไม่ยอมกลนื บางคนน่งั เล่นไม่ยอมดูดนม ทาให้กระทบต่อการ เริ่มทากิจกรรมในห้องเรียนช้าลง และเมื่อดื่มเสร็จแล้วเด็กบางคนทิ้งถุงนมไม่เป็นท่ี จึงหาวิธีการ ขับเคลื่อนแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงคล์ งสู่ โครงงานคุณธรรม เร่ือง \"ดื่มนมแล้วทิ้งถุงลงถัง\" เพื่อฝึก ใหน้ ักเรยี นมีความรับผิดชอบในตนเองในเร่ืองการดื่มนม และมีความรับผิดชอบต่อขยะในมือของตนเอง ต้องไปทิ้งในถังขยะ เพื่อเป็นการปลูกจิตสานึกที่ดีตั้งแต่เด็ก ผู้จัดทาจึงได้เห็นความสาคัญและจัดทา โครงงานคุณธรรม เรอ่ื ง “ด่มื นมแลว้ ท้งิ ถุงลงถงั ” ขน้ึ วตั ถปุ ระสงค์ ๕๒ ๑. ดา้ นความรู้ (Knowleadge) เพอ่ื ให้นักเรียนระดับชัน้ อนุบาล ๑-๓ มีความรูแ้ ละความเข้าใจ ๕๒ ความรบั ผดิ ชอบในการดื่มนมและความมรี ะเบยี บวินัยในการทง้ิ ขยะในถูกที่ ๒. ดา้ นกระบวนการปฏิบัติ (Process) เพ่ือเสริมสรา้ งความมีวินัยและความรบั ผิดชอบให้กบั นักเรยี นระดบั ช้ันอนุบาล ๑-๓ ทุกคนดืม่ นม ๓. ด้านเจตคติ (Attitude) เพื่อเสริมสรา้ งให้นักเรยี นรถู้ ึงความสาคญั ของการดื่มนมและการ ช่วยกันรกั ษาความสะอาดหน้าหอ้ งเรียน กล่มุ เปำ้ หมำย เชิงปริมาณ : นักเรียนระดบั ชนั้ อนุบาล ๑-๓ โรงเรยี นบ้านหนองหวาย จานวน ๑๖ คน เชิงคณุ ภาพ : นักเรยี นระดบั ชั้นอนบุ าล ๑-๓ โรงเรยี นบา้ นหนองหวายมีความรับผดิ ชอบในการด่ืม นมและทิ้งขยะให้ถูกท่ี รอ้ ยละ ๙๕ วิธีกำรแกไ้ ขปัญหำ ๑. ครูแนะนาและอธิบายถงึ ความสาคญั และประโยชนข์ องการดม่ื นม เพ่ือเสรมิ สร้างความ รับผดิ ชอบ และความมรี ะเบยี บวินยั ๒. ประชาสมั พันธ์ในเรอื่ งการทงิ้ ขยะเมื่อดมื่ นมเสร็จแล้วจะตอ้ งนาถงุ นมไปทง้ิ ถังขยะ ทาให้นักเรยี น ไดม้ วี นิ ัยในตนเองในการทงิ้ ขยะในครั้งตอ่ ไป ๓. จัดเตรยี มถงั ขยะไว้ เพอ่ื ใหน้ ักเรียนสะดวกในการนาขยะไปทิง้ ในถงั ขยะ ๕๒

๔. นักเรียนแกนนาพาน้องๆและเพื่อนๆ ดื่มนมโรงเรียนร่วมกัน เมื่อดื่มนมหมดแล้วนาไปทึ้งขยะ ๕๓ ๕๓ ท่ีคุณครูเดรียมไวใ้ ห้ ๕. สังเกตพฤติกรรมการด่ืมนมและการทิ้งขยะ หลกั ธรรมท่นี ำมำใช้ อรยิ สัจ ๔ คือ หลกั ความจริงอนั ประเสริ ฐ ๔ ประการสมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจา้ ทรงตรัสรู้ อนตุ รสัมมาสมั โพธญิ าณและ ไดค้ น้ พบหลักความจริงอันประเสรฐิ ๔ ประการ หรือ อรยิ สัจ ๔ ซ่ึงเปน็ หลกั ธรรมหรือหลกั ความจรงิ แห่งการพ้นทกุ ขท์ ้งั ปวง อริยสัจ ๔ ประกอบดว้ ย (ทุกข์ สมุทยั นิโรธ มรรค) ทกุ ข์ คือ ปัญหา นกั เรยี นไมช่ อบดม่ื นมโรงเรียน สมุทยั คือ สาเหตุของปัญหา ๑. นมมรี สชาตไิ ม่หวาน จดื ไม่อรอ่ ย ๒. นักเรียนท้ิงขยะไม่ลงถงั ขยะ นิโรธ คือ แนวทางในการแกป้ ัญหา ๑. ครใู หเ้ ดก็ ๆ ดวู ดิ ีโอประโยชน์ของการด่มื นม ๒. มีการให้รางวลั สาหรบั นักเรยี นท่ีไม่อยากด่ืมนม และนักเรยี นท่ดี ม่ื นมจนหมด ๓. แนะนาการทงิ้ ขยะสาหรบั นักเรียนอนบุ าล ๑-๓ มรรค คือ ผลของการแกป้ ัญหา นักเรียนทกุ คนสามารถด่มื นมได้ทุกคน และยงั นาถุงนมที่กนิ หมดแลว้ ไปทิง้ ถงั ขยะได้ วิธีกำรวัดและประเมินผล วิธกี ารประเมินผล : การสงั เกต เครอ่ื งมือท่ีใช้ในการประเมิน : แบบสงั เกต ช่วงระยะเวลำ ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ผลกำรทำโครงงำน จากการจัดกจิ กรรมคุณธรรมในระยะเวลา ๓ สปั ดาห์ นักเรียนระดับช้ันอนุบาล ๑-๓ โรงเรียนบา้ น หนองหวายทกุ คน มรี ะเบียบวินยั และความรับผิดชอบในการดม่ื นมและการท้ิงขยะให้ถูกท่ี รอ้ ยละ ๙๕ ปญั หำในกำรทำโครงกำร ต้องพูดคุยและอธบิ ายถึงเหตุผลในการทาโครงงานเพื่อให้นักเรียนมคี วามเข้าใจ ขอ้ เสนอแนะ นักเรียนทุกคนต้องรว่ มมอื กับทางโรงเรยี นชว่ ยกนั ทงิ้ ถงุ นมลงถงั ๕๓

เด็กๆ เข้าแถวดม่ื นมอย่างเป็นระเบยี บ และพร้อมที่จะด่ืมนม ๕๔ ๕๔ เดก็ ๆดื่มนมอยา่ งเอร็ดอรอ่ ยพร้อมรอยย้ิมอย่างมคี วามสุขทไ่ี ดด้ ม่ื นม ๕๔

๕๕ ๕๕ นักเรียนช้นั อนบุ าล ดม่ื นมจนหมด และท้ิงถงุ นมลงถงั ขยะอย่างเรยี บรอ้ ย ๕๕

ช่ือโครงงำน สวดมนตฝ์ ึกจติ พัฒนาสตปิ ญั ญา คณุ ธรรมเปำ้ หมำย ความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ความรบั ผดิ ชอบ ความมรี ะเบยี บวินยั ผจู้ ดั ทำโครงงำน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๑ ครทู ่ปี รกึ ษำ นางสุวรรณา โพธ์ิศรี ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ทมี่ ำและควำมสำคญั ของปัญหำ จากสภาพปัญหาที่พบเป็นประจาทุกวันของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านหนอง หวาย พบว่า ชอบคุยกัน เล่นกันในเวลาเรียน มีปัญหาการคัดลอกงานเพื่อน ขาดระเบียบวินัย ไม่ตั้งใจ เรียน ขาดสมาธิในการเรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นจึงมีการอภิปรายระหว่างครู กับนักเรียน ร่วมกันหาทางแก้ปัญหา จากการสังเกตร่วมกันของ นักเรียนกลุ่มแกนนาของบ้องเรียน พบว่า ในระหวา่ ง ทา่ สมาธติ อนเชา้ ก่อนเรียน และสวดมนตต์ อนเยน็ ก่อนกสบั บา้ น นกั เรียนทุกคนมีความตั้งใจ ดี มีความสงบ คาดว่า สามารถนาไปแก้ปัญหาดังกล่าวข้างต้นได้ จึงไต้ร่วมกันจัดท่าโครงงานคุณธรรม เรอ่ื ง “สวดมนต์ฝึกจิต พัฒนา สติปญั ญา” ขนึ้ วตั ถุประสงค์ ๕๖ ๕๖ ๑. ดา้ นความรู้ (Knowleadge) เพือ่ ให้นักเรียนระดับชัน้ อนบุ าล ๑ มคี วามรู้และความเขา้ ใจ ดา้ นความมรี ะเบียบวนิ ัย มีสติปญั ญา ๒. ด้านกระบวนการปฏิบัติ (Process) เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเชิงบวกนักเรียนช้ัน ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ใบ้นกั เรยี นมีสมาธใิ นการเรยี นและการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆมากขน้ึ ๓. ด้านเจตคติ (Attitude) เพื่อปลูกฝัง สร้างความตระหนักให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มรี ะเบียบวินัย สามารถดาเนนิ ชวี ิตประจาวัน และอยูร่ ่วมในสงั คมไตอ้ ยา่ งเป็นสุข ปัญหำ นกั เรยี นชอบคุยกัน เล่นกนั ในเวลาเรยี น ไม่มคี วามซื่อสัตย์ในการทางาน ยงั มกี ารลอกงานเพอื่ น ขาดระเบียบวนิ ัย ไม่ตั้งใจเรยี น ขาดสมาธใิ นการเรยี นหรือ ปฏิบตั กิ จิ กรรมตา่ ง ๆ กลุม่ เปำ้ หมำย เชงิ ปริมาณ : นกั เรยี นระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๑ โรงเรียนบ้านจาปนาถ่อน จานวน ๑๑ คน เชงิ คณุ ภาพ : นกั เรียนระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านจาปานาถ่อน จานวน ๑๑ คน มี ระเบยี บวินยั ต้ังใจเรียน มสี มาธิในการเรยี นหรือปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ ดีข้นึ วธิ ีกำรแก้ไขปญั หำ ๑. สร้างความตระหนักและจิตสานึกในการมีความซื่อสัตย์ต่อตนเอง มีระเบียบวินัยตั้งใจเรียน มสี มาธใิ นการเรียนหรอื ปฏบิ ตั ิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ๕๖

๒. แบ่งกลุ่มนักเรียนวิเคราะห์ผลเสียในการขาดความซื่อสัตย์ ขาดระเบียบวินัย ไม่ตั้งใจเรียน ๕๗ ๕๗ ขาดสมาธใิ นการเรียน หรอื ปฏิบัติกิจกรรมตา่ ง ๆ ๓. กาหนดวิธีการรว่ มกนั ในการสวดมนต์แกสมาธิ และปฏิบตั ิกจิ กรรมสร้างสติ ๔. ขอความรว่ มมอื จากสมาชิกในบ้องเรยี นใหป้ ฏบิ ัติ ๕. สังเกตพฤติกรรมของสมาชิกในห้องเรียนขณะสวดมนต์แกสมาธิ และปฏิบัติกิจกรรมสร้างสติ และพฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน หรือทากิจกรรมตา่ ง ๆ ๖. แบ่งกลุ่มนักเรียนแต่งประโยค การสร้างความสงบ การมีระเบียบวินัย การตั้งใจเรียนหรือ ปฏบิ ัติ กจิ กรรมต่าง ๆ ๗. ยกยอ่ งชมเชย ใบ้รางวัลกับนักเรียนทท่ี าดเี พ่ือเปน็ ขวัญและกาลงั ใจ ๘. ประเมินผลและสรุปผลการดาเนนิ การ หลักธรรมทน่ี ำมำใช้ มงคลชีวติ 38 ประการ : มงคลที่ 9 มีวินัย มงคลชวี ติ 38 ประการ ฉบบั ทางกา้ วหนา้ ดาบคมท่ีไร้ฝัก ลกู ระเบดิ ที่ไม่มสี ลกั นิรภัย ย่อมเกิดโทษแกเ่ จา้ ของไดง้ ่ายฉันใด “ความรู้” และ “ความสามารถ” ถ้าไม่มีวินยั กากับแลว้ ก็จะมีโทษแก่ผู้เปน็ เจ้าของได้ฉนั นนั้ ชา่ งดาบทาฝักดาบไวก้ นั อนั ตราย ช่างทาระเบดิ กท็ าสลกั นริ ภยั ไว้เช่นกนั เมื่อพระสัมมาสมั พุทธเจา้ ทรงสอนพุทธศาสนกิ ชน ให้เปน็ คนฉลาดรฉู้ ลาดทาแลว้ จงึ ทรงสั่งสาทบั ดว้ ยว่า “ตอ้ งมวี นิ ยั ” สติเป็นของเหนียวแน่นคงทน แม้อดอาหารทั้งวันสติก็ยังดีได้ ทางานหนักทั้งเดือนสติก็ยังดีนอน ป่วยบนเตียงทั้งปีก็ยังดีได้พักสติก็ยังดี นอนป่วยบนเตียงทั้งปีสติก็ยังดี แต่สติกลับเปื่อยยุ่ยทันที ถ้าไปเสพ สุรายาเมาเข้า สุราเพียงครึ่งแก้ว อาจทาผู้ดื่มให้สติฟั่นเฟือนถึงกับ ลืมตัวลงมือทาร้ายผู้มพี ระคุณได้ หมด ความสามารถในการเปลี่ยนกาลังกายให้เป็นกาลังความดี ดังนั้นผู้ที่เสพสุราหรือของมึนเมา จึงมีสภาพ ผิดปกติ คือมีสภาพใกล้สัตวเ์ ขา้ ไปทกุ ขณะ วิธีกำรวัดและประเมินผล แบบสังเกตพฤติกรรม ๕๗

สรุปผลกำรดำเนนิ งำน จากการทากจิ กรรมสวดมนต์และสมาธิ พัฒนาสติปัญญา นักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ ๑. นักเรยี นสวดมนตแ์ กสมาธิ และปฏิบตั กิ จิ กรรมสรา้ งสตไิ ด้ ๒. นักเรียนมคี วามสงบ มรี ะเบียบวินัย ตง้ั ใจเรียน สมาธใิ นการเรยี นหรือปฏิบตั ิกจิ กรรม ต่าง ๆ มี สมาธใิ นการเรยี นดขี น้ึ ๓. นกั เรียนได้นาการสวดมนตแ์ กสมาธิไปฏบิ ัตทิ ีบ่ ้าน และเชญิ ชวนใหค้ นในครอบครัวทาดว้ ย ๔. นักเรียนมีผลการเรยี นดี และคณุ ลกั ษณอันพงึ ประสงค์ดขี ้ึน แบบบนั ทึกกำรสังเกต โครงกำรคณุ ธรรม เรอื่ ง สวดมนต์ฝึกจติ พัฒนำ สติปัญญำ ประจาเดอื น..............................................ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๔ คาชี้แจง ให้กาเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ ง  ทต่ี รงกับพฤตกิ รรมท่เี กดิ ขึ้นจรงิ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ ท่ี พฤติกรรม คะแนนผลการประเมนิ ๓๒๑ ๑ มีความตั้งใจในการเรียนและทางาน ๒ มีความรับผดิ ชอบ ๕๘ ๕๘ ๓ ตรงตอ่ เวลา ๔ ความสะอาดเรยี บร้อย ๕ ผลสาเรจ็ ของงาน รวม คะแนนเฉลย่ี ระดบั คณุ ภำพ เกณฑ์กำรประเมิน ระดบั คุณภำพ เกณฑ์ที่ผ่ำน ๑. พฤติกรรมที่ปฏบิ ัติชดั เจนและสม่าเสมอ ดี ๑๑ – ๑๕ คะแนน ดี ตั้งแต่ ๑๐ ๒. พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ิชัดเจนและบ่างครั้ง พอใช้ ๖ – ๑๐ คะแนน พอใช้ คะแนน ข้ึนไป ๓. พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ัติบางครง้ั ปรบั ปรงั ๑ – ๕ คะแนน ปรับปรุง ๕๘

นั่งเรียนสวดมนต์ น่งั สมำธิ เพอื่ ทำให้ใจสงบสุข ๕๙ ๕๙ ๕๙

๖๐ ๖๐ ๖๐

ช่ือโครงงำน เดก็ ดีวางรองเท้าใหถ้ ูกที่ คุณธรรมเป้ำหมำย ความมีระเบยี บวนิ ยั ผูจ้ ัดทำโครงงำน นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๒ ครูทป่ี รึกษำ นางสาวสริ ิจรรยา นาอดุ ม ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ท่ีมำและควำมสำคญั จากการสังเกตพฤติกรรมการวางรองเท้าของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ พบว่ายังมีนักเรียน หลายคนยังมีการวางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ บางคนวางรองเท้าไว้ข้างๆ ชั้นวางรองเท้า ไม่วางบนชั้นวาง รองเทา้ ครปู ระจำชน้ั และนักเรยี นเห็นความสำคัญของปัญหาดังกล่าว จงึ ได้รว่ มกนั ทำการวจิ ัยเพ่ือแก้ปัญหา เกยี่ วกบั พฤตกิ รรมการวางรองเทา้ ของนักเรยี น ระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๒ ในลำดบั ตอ่ ไป วตั ถุประสงค์ ๑. เพ่อื ให้นกั เรยี นสร้างความรับผิดชอบในการวางรองเท้าใหถ้ ูกท่ี ๒. เพอื่ ให้นักเรยี นเปน็ คนท่รี จู้ ักวางรองเทา้ ใหเ้ ป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย กลุ่มเป้ำหมำย ๓.๑ เชิงปริมาณ : นกั เรียนระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียนบา้ นหนองหวาย จำนวน ๔ คน ๖๑ ๖๑ ๓.๒ เชิงคุณภาพ : นกั เรียนระดบั ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรยี นบ้านหนองหวายมคี วามรับผิดชอบ และความมีระเบียบวินัยในการวางรองเท้า ปัญหำ ๑. นกั เรยี นห่วงเลน่ มากเกินไป ๒. นกั เรยี นมพี ฤติกรรมขาดความรบั ผดิ ชอบ วธิ ีกำรแกไ้ ขปญั หำ ๑. สรา้ งขอ้ ตกลงในการวางรองเท้าให้เปน็ ระเบยี บและถกู ที่ ๒. ขอความร่วมมือจากเพื่อนๆช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๒ ทุกคนในการวางรองเท้าใหเ้ ป็นระเบยี บและ ถูกที่ ๓. สงั เกตพฤติกรรมการวางรองเท้าหลงั จากสร้างข้อตกลงในเรื่องการวางรองเท้าใหเ้ ป็นระเบยี บ และถูกที่ ๔. ผ้บู รหิ าร และครูเปน็ แบบอย่างท่ดี ีให้กบั นักเรียน ผลท่คี ำดว่ำจะได้รบั นักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๒ มคี วามรับผดิ ชอบในการวางรองเท้าอย่างถกู ทแี่ ละมคี วามเป็น ระเบียบ ๖๑

หลกั ธรรมท่ีนำมำใช้ ๖๒ ๖๒ อทิ ธิบาท ๔ - ฉันทะ มีใจรักในงานทีท่ ำ - วิริยะ ความขยนั หมนั่ เพียร - จิตตะ ความเอาใจใส่ - วิมังสา ทบทวนหาเหตุผล ในสงิ่ ทไ่ี ดร้ บั ควำมเชือ่ มโยงสคู่ ุณธรรมอัตลักษณ์ : จากโครงงานคุณธรรมได้สอดคล้องกับคุณธรรมอัตลักษณ์ของ โรงเรยี นบ้านหนองหวาย คือ ซอื่ สตั ย์ รับผดิ ชอบ จิตอาสา พอเพยี งเช่ือมโยงกับคณุ ธรรมเป้าหมาย : ความ รบั ผดิ ชอบ พฤติกรรมบ่งช้เี ชงิ บวก : นักเรียนมคี วามรบั ผดิ ชอบในการวางรองเทา้ ใหถ้ กู ที่ วธิ ีการวดั และประเมินผล วธิ ีการวดั ผล วิธกี ารวดั ผล : การสังเกตพฤติกรรม เคร่ืองมือการวัดผล เครื่องมือท่ีใชใ้ นการประเมิน : แบบสงั เกตพฤติกรรม ช่วงระยะเวลา ช่วงเวลาการประเมิน : สัปดาหล์ ะ ๑ ครงั้ ผลการทำโครงงาน นกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๒ ทุกคนช่วยกนั วางรองเทา้ ได้ถูกท่ีและเป็นระเบียบ คดิ เป็นรอ้ ยละ ๑๐๐ ตัวชว้ี ดั นกั เรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ ๒ ทกุ คน มคี วามรับผิดชอบในการวางรองเทา้ ใหถ้ ูกที่และเป็นระเบียบ ผลทีค่ าดว่าจะได้รบั - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๒ มคี วามรับผิดชอบในการวางรองเท้าอยา่ งถกู ทแี่ ละมคี วามเป็นระเบยี บ ปัญหาในการทำโครงการ - ต้องพดู คยุ และอธบิ ายถงึ เหตุผลในการทำโครงงานเพื่อฝกึ ใหน้ กั เรยี นมคี วามรบั ผดิ ชอบ ๖๒

ขอ้ เสนอแนะ - นกั เรียนทกุ คนต้องรว่ มมือกับทางโรงเรยี นในการชว่ ยกนั วางรองเท้าให้ถกู ท่ีและเป็นระเบยี บ นอกจากนน้ั ยังเปน็ การป้องกันการสูญหายของรองเทา้ อีกด้วย ๖๐ ๖๓ ๖๓ ครูสร้างขอ้ ตกลงในการวางรองเท้าใหเ้ ปน็ ระเบยี บและถูกท่ี สงั เกตพฤติกรรมการวางรองเท้าหลงั จากสร้างขอ้ ตกลงในเรื่องการวางรองเทา้ ใหเ้ ป็นระเบียบและถูกที่ ๖๓

ชอ่ื โครงงำน ลดขยะ ใชซ้ ้า นากลับมาใช้ใหม่ คณุ ธรรมเปำ้ หมำย ความรับผดิ ชอบ ความมรี ะเบยี บวินยั มีจิตอาสา ผูจ้ ัดทำโครงงำน นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ ครทู ป่ี รกึ ษำ นายศิขรนิ ทร์ ทพิ ชาติ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ทีม่ ำและควำมสำคญั ปัจจุบันปัญหาเรื่องขยะนับว่าเป็นปัญหาสำคัญทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศ สาเหตุ เน่อื งมาจากประชากรในประเทศมีจำนวนมากขึน้ ชมุ ชนกเ็ พมิ่ ข้ึน สถานประกอบการตา่ ง ๆ มีมากข้ึน และ สิ่งทต่ี ามมาอยา่ งเลี่ยงไม่ได้ก็คอื ขยะ ยอ่ มมีจำนวนมากขึ้นตามไปดว้ ย จนกระทัง่ การกำจัดขยะไม่สมดุลกับ การเพิม่ ข้นึ ของจำนวนขยะ ในแตล่ ะวนั จะมีขยะเพม่ิ ข้ึนเปน็ จำนวนนับร้อยล้านตนั แตเ่ ราสามารถกำจดั ขยะ ได้เพียงวันละไม่กสี่ ิบล้านตนั เท่าน้ัน (ขอ้ มลู จากกรมพัฒนาและส่งเสริมพลังงาน กระทรวงวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี) จึงมีขยะที่เหลือตกค้างรอการกำจัดอยู่เป็นจำนวนมาก แม้รัฐบาลจะมีพื้นที่ที่จัดไว้เพื่อรองรับ ขยะแต่ก็ไม่เพียงพอกับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สร้างปัญหาเป็นอย่างมากทั้งทางด้านทัศนวิสัย กลนิ่ ความสะอาด ฯลฯ เกิดเป็นปญั หาขยะล้นเมอื ง ถงึ แมว้ ่าในปหี นง่ึ ๆ ประเทศจะต้องเสียงบประมาณเป็น ๖๔ ๖๔ จำนวนมากไปกับการจัดการและแกไ้ ขปัญหาด้านขยะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากรัฐบาลยังมีการบริหารการจัดการขยะยังไม่ดี เท่าที่ควร ประกอบกับประชาชนในประเทศเองก็ยังขาดจิตสำนึกในการทิ้งขยะให้เป็นที่ การคัดแยกขยะ ก่อนทิ้ง รวมทั้งขาดความรู้เกี่ยวกับการนำขยะกลับมาใช้ใหม่ เพราะพอได้ยินคำว่า “ ขยะ ” หลายๆ คนก็ ไม่สนใจ ละเลยและไม่เห็นคุณค่า ทั้งที่ขยะเหล่านั้นหากนำมาคัดแยกอย่างถูกวิธีแล้วจะสามารถสร้าง ประโยชน์ได้ และยังสามารถนำกลับมาหมุนเวียนเข้ากระบวนการผลิตเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง ซึ่ง เป็นการประหยัดทรัพยากรและเงินงบประมาณแผ่นดินได้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งปริมาณขยะก็จะจำนวน ลงได้มาก ซงึ่ จะสง่ ผลดีทงั้ ต่อส่ิงแวดลอ้ ม ตอ่ ประชากร และตอ่ ประเทศชาติต่อไป โรงเรยี นบา้ นหนองหวายเป็นหนว่ ยงานย่อยจงึ เห็นความสำคัญในการกำจัดขยะ มกี ารจดั เก็บ แยก ทำลาย เผา ฝัง โรงเรียนพร้อมสร้างพลังชุมชน สร้างจิตสำนึก สร้างพฤติกรรม เปลี่ยนนิสัยของประชาชน และเยาวชนในโรงเรียนและชุมชน จึงจัดกิจกรรม “ รวมพลัง ช่วยกันแยก ช่วยกันลด หมดปัญหาขยะ” เพ่อื ก่อให้เกดิ ประโยชน์อนั มหาศาลต่อสังคมและประเทศชาตติ ่อไป ๖๔

วัตถปุ ระสงค์ ๑. เพ่อื ให้นักเรียนมคี วามรับผิดชอบในหน้าท่ีทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ๒. เพ่อื ให้นักเรยี นมรี ะเบยี บวินยั ในการทง้ิ ขยะใหถ้ ูกท่ี ๓. เพอ่ื ใหน้ ักเรยี นคัดแยกขยะอยา่ งถูกวิธี ขอบเขตของโครงงำน ๑. ระยะเวลาในการดาเนนิ งาน คอื ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๔ ๒. แหลง่ คน้ ควา้ ข้อมูล คือ อินเทอรเ์ น็ต กลุม่ เปำ้ หมำย นกั เรยี นระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑๑ คน หลักธรรมที่นำมำใช้ ๖๕ ๖๕ อิทธบิ ำท ๔ ได้แก่ ฉนั ทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการท่ีจะทา ใฝใ่ จรักจะทาสิ่งนั้นอย่เู สมอ และปรารถนาจะทาให้ ได้ผลดยี ง่ิ ๆข้ึนไป วิริยะ (ความเพียร) คือ ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระ ไม่ท้อถอย จิตตะ (ความคิด) คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทา และทาสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปลอ่ ยใจให้ฟุ้งซ่านเล่ือนลอยไป วมิ ังสา (ความไตร่ตรอง หรอื ทดลอง) คือ หมนั่ ใช้ปัญญา พจิ ารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และ ตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในส่งิ ทท่ี านั้น มีการวางแผน วัดผล คิดคน้ วิธีแกไ้ ขปรับปรุง พระรำชดำรัส การทาความดนี นั้ ทายากและเหน็ ผลชา้ แต่จาเปน็ ต้องทา เพราะหาไม่แลว้ ความชวั่ ซึง่ ทางา่ ยจะเขา้ มาแทนท่ีและพอกพูนอยา่ งรวดเรว็ ควำมเช่อื มโยงสูค่ ณุ ธรรมอตั ลักษณ์ ความรบั ผิดชอบ พฤติกรรมเชิงบวก ๑. นักเรียนทางานทไ่ี ด้รับมอบหมายให้สาเรจ็ ลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี ๒. นักเรยี นรู้จกั บทบาทหน้าท่ขี องตนเองและมีความรบั ผิดชอบในการทิ้งขยะให้ถูกที่ และคัดแยกขยะ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง ๖๕

ประโยชนท์ ่ีคำดวำ่ จะได้รบั ๖๖ ๖๖ ๑. นักเรยี นทงิ้ ขยะได้ถูกที่ ๒. นกั เรยี นคดั แยกขยะไดถ้ ูกวธิ ี ๓. นกั เรยี นร้จู กั ความสามคั คี เหน็ คุณคา่ ของการทางานร่วมกัน ๔. นักเรียนทกุ คนสามารถมองเห็นคณุ ค่าในตนเอง ขั้นตอนกำรดำเนินงำน ๑.๑ นักเรียนระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ ร่วมประชมุ ปรกึ ษาหารอื เกย่ี วกบั การดาเนนิ งานภายใน หอ้ งเรียน เช่น การแต่งตั้งหวั หนา้ ห้อง การแต่งต้ังเวรประจาวนั ฯลฯ ๑.๒ เลอื กหัวหน้าเวรประจาวันและให้สมาชกิ แต่ละคนเลอื กเวรประจาวนั ตามความสมคั รใจในการ คัดแยกขยะท้ังในห้องเรยี น และบรเิ วณรอบโรงเรียน ๑.๓ จดั ทาแนวปฏิบตั แิ ละขอ้ ตกลงในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ใี นการคดั แยกขยะ และนาขยะมาประดษิ ฐ์ เปน็ ผา้ กันเปื้อน ๑.๔ ทกุ คนปฏิบตั ิหนา้ ทต่ี ามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ๑.๕ สงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัตงิ าน ๑.๖ สรุปและประเมนิ ผล โดยใช้เครือ่ งมือประเมิน คือ แบบบนั ทึกการตรวจเวรประจาวนั ของ คณะกรรมการนักเรยี น ๗. เสนอแนะ ปรับปรงุ แก้ไข ๘. จดั ทารูปเล่ม ๙. จัดทาบอรด์ โครงงาน ๑๐. นาเสนอโครงงาน ตวั ชวี้ ัด ๑. นกั เรยี นมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์ รู้จักความรับผดิ ชอบและมีวนิ ัยในตนเองมากขนึ้ ๒. ผลการตรวจเศษขยะในห้องเรียน และบรเิ วณรอบโรงเรยี น ร้อยละ ๘๐ วิธกี ำรวัดและประเมนิ ผล ๑. สงั เกตพฤติกรรม ๒. แบบบนั ทกึ การตรวจเวรประจาวนั ของคณะกรรมการนักเรียน ชว่ งระยะเวลำกำรประเมิน วันท่ี ๑ มิถนุ ายน ๒๕๖๔ – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ ต้งั แต่เวลา ๐๗.๓๐ น. – ๐๘.๐๐ น. ๖๖

สรปุ ผลกำรดำเนินงำน ๑. นกั เรยี นทเ่ี ขา้ ร่วมกจิ กรรมโครงงาน “ลดขยะ ใช้ซ้า นากลับมาใชใ้ หม่” มีความรบั ผิดชอบ และมี วนิ ัยในตนเองมากขน้ึ ๒. ผลการตรวจเศษขยะในห้องเรียน และบรเิ วณรอบโรงเรียน รอ้ ยละ 80 คัดแยกขยะไดถ้ ูกวธิ ี มกี ารใช้ ซ้า และนากลบั มาใช้ใหม่ ข้อเสนอแนะ ๑. ควรขยายผลไปยังนกั เรียนทกุ คนในโรงเรียน ๒. ควรจดั ทาโครงงานนอ้ี ยา่ งตอ่ เนอื่ งเพ่ือให้นักเรยี นมีความรับผิดชอบและมีวินยั ในตนเองอย่าง ย่ังยืน ของลกั ษณะนสิ ยั ๓. ควรมกี ารพัฒนาสอื่ คณุ ธรรมในรูปแบบตา่ ง ๆ เพ่ือกระตุน้ คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงคไ์ ดด้ ยี ิง่ ขึ้น ๖๗ ๖๗ ๖๗

๖๘ ๖๘ ๖๘

ชือ่ โครงงำน อนาคตสดใสได้เพราะออม คุณธรรมเปำ้ หมำย ความพอเพยี ง ผจู้ ดั ทำโครงงำน นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ ครทู ปี่ รึกษำ นางสาวกมลวรรณ อุปฌาย์ ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ในสภาพปัญหาปัจจุบันพบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านหนองหวาย ได้เงินมา โรงเรียนจานวนมาก จึงทาใหเ้ กิดการใช้จ่ายฟมุ่ เฟอื ยเกินความจาเป็น พฤติกรรมการใชจ้ า่ ยของนักเรียน จะเริ่มตั้งแต่ตอนเชา้ คือ ซื้อขนมและบะหมี่กึ่งสาเร็จรูปรับประทานในตอนเช้า ซื้อขนมและน้าหวานใน ตอนกลางวันและก่อนเลิกเรียน นั่นทาให้เกิดพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ไม่พึงประสงค์ หากละเลยต่อการ กระทาเช่นน้ีต่อไป จะส่งผลต่อการดารงชีวิตและการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยของนักเรียน ดังนั้นเพื่อเป็นการ ปลูกจิตสานึกที่ดีตั้งแต่เด็ก มีความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุผลในการใช้จ่ายและมีภูมิคุ้มกันในการ ดารงชีวิตที่จะช่วยให้พึ่งพาตนเองได้ ผู้จัดทาจึงได้เห็นความสาคัญและจัดทาโครงงานคุณธรรม เรื่อง “อนาคตสดใสไดเ้ พราะออม” ข้ึน วัตถุประสงค์ ๖๙ ๖๙ ๑. เพ่อื ใหน้ ักเรียนรู้จักประหยัดและการออม ๒. เพอื่ ให้นกั เรียนมีระเบียบวินยั ในตนเอง ๓. เพื่อใหน้ กั เรียนรูจ้ ักการดาเนินชีวติ อยูอ่ ยา่ งพอเพียง วธิ ีแกป้ ัญหำ ๑. ใหค้ วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกับการใช้จา่ ยเงนิ อย่างถูกวธิ ี ๒. ครแู ละผปู้ กครองอบรมสง่ั สอนและดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชดิ ๓. ครูฝึกให้นักเรยี นรจู้ กั ออมอย่างสมา่ เสมอ โดยใหน้ กั เรยี นออมเงินทกุ คนในทุกๆวนั อยา่ ง นอ้ ยวนั ละ ๑ บาท เพื่อส่งเสริมให้นักเรยี นรูค้ ุณคา่ ของการใช้เงนิ วธิ ีกำรประเมินผล ๑. สงั เกตพฤติกรรมการนาเงินมาโรงเรยี นของนักเรยี นและการใช้จ่ายในเวลาพักกลางวนั ๒. จดั ทาแบบบันทึกการออมเงิน ๓. สงั เกตพฤติกรรมการออมเงนิ ก่อน-หลังการใหค้ วามรู้ คุณธรรมเปำ้ หมำย ความพอเพียง ๖๙

แบบประเมนิ โครงงำน ๗๐ ๗๐ 1. สงั เกตการใชเ้ งินของนักเรยี น 2. บัญชกี ารออมเงนิ 3. สมั ภาษณค์ รูและผปู้ กครอง สรปุ กำรดำเนินงำน นักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ ออมเงินทกุ คนนอกจากน้ียังไดร้ ู้จกั การอดออม ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า และประหยัดและช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง มุ่งเน้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ที่ เหมาะสมกับวยั และสามารถดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันไดอ้ ย่างมคี ุณภาพและมคี วามสุข ปัญหำ/อุปสรรค ยังมผี ปู้ กครองบางส่วนขาดความเอาใจใส่ดูแลนกั เรยี น ข้อเสนอแนะเพื่อกำรพฒั นำ/ปจั จยั ทีจ่ ะนำไปส่คู วำมสำเร็จ บอกประโยชน์ของการออมเงินและแจ้งผปู้ กครองเพ่ือให้ผปู้ กครองช่วยกระตุน้ นักเรียนออมเงินอีก ทางหนึ่ง ครู และผู้ปกครองกากับติดตามดูแลการใช้จ่ายและการออม ผู้บริหารสถานศึกษามีการนิเทศ กากบั ตดิ ตามอยา่ งสม่าเสมอ ๗๐

๗๑ ๗๑ ๗๑

ช่อื โครงงำน เด็กดี มมี ารยาทงาม คุณธรรมเปำ้ หมำย ความซ่ือสตั ยส์ จุ ริต ความมรี ะเบียบวนิ ัย ผ้จู ัดทำโครงงำน นกั เรียนชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๖ ครทู ปี่ รกึ ษำ นางสาวดษุ ฎี แกว้ อุ่นเรอื น ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ทม่ี ำและควำมสำคัญ เมื่อครูและนักเรียนได้เรียนรู้ในหนังสือเรียนชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ วิถีชีวิตไทย และอ่านเสริเด็กดีมีมารยาท เป็นบุคคลที่ดีที่สังคมไทยย่อมรับในด้านของความมีคุณธรรม ประจาตัว เป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจิตใจที่ดีงามตามวิถีไทย โดยไม่หวัง ผลตอบแทนใดๆนอกจากความสุขใจทไี่ ดร้ ับ จึงเป็นบคุ คลท่มี ีศักยภาพสงู ส่ง เมื่อได้ศึกษาแนวทางปฏิบัติแล้วนักเรียนทุกคนในชั้นเรียน จึงช่วยหาวิธีที่จะมีส่วนร่วมในการ พัฒนาโรงเรียน พัฒนาชุมชนตามความรู้ความสามารถที่จะช่วยได้จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า จะดาเนิน โครงงาน เด็กดีมีมารยาทงาม ตามบทเรียนที่ได้อ่านทุกคนจึงร่วมด้วยช่วยกันพัฒนาด้านคุณธรรมของ โรงเรยี นและชุมชนเพื่อให้เกิดประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมโดยทุกคนต้องมีส่วนรว่ มในการปฏิบตั ิกิจกรรมทุกวันให้ ตดิ เปน็ นสิ ัยประจาตัว ๗๒ ๗๒ วัตถุประสงค์ ๑. เพอ่ื สรา้ งจิตสานกึ ให้แกน่ ักเรยี นทไ่ี ด้มสี ่วนร่วมในการทาความดี ๒. เพอ่ื สง่ เสริมสนับสนนุ ให้นักเรยี นปฏบิ ตั ิกิจกรรมด้วยความภาคภูมิใจ ขอบเขตของกำรศึกษำ ๑. ขอบเขตดำ้ นเน้อื หำ การศกึ ษามารยาทไทยตามวถิ ีชีวติ ไทย บทที่ ๑๖ ในหนังสอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐานภาษาไทย ชุดภาษาเพ่อื ชีวิต ภาษาพาที่ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๕ ของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ๒.ขอบเขตด้ำนประชำกร นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๕-๖ จานวน ๑๔ คน ๗๒

เด็กดีมมี ำรยำท (อ่ำนเสรมิ ) หนเู อยรหู้ รือไม่ มารยาทไทยน้ันงามนัก พบใครท่รี จู้ กั ไหวัทายทัก “สวสั ดี” ออ่ นโยนในทว่ งท่า งามกิริยายามพาที อ่อนหวานในวจี ตามวิถีชวี ติ ไทย ใครชว่ ยกล่าว “ขอบคณุ ” ผู้เกอ้ื หนุนยอ่ มพสิ มัย ทาผิดพลาดพลง้ั ไป กล่าว “ขอโทษ” จากใจจริง ไม่เฝ้าเอาแตใ่ จ รอคอยได้ไม่วุน่ ว่งิ ผใู้ ดทกั ทว้ งติง รู้จักนิง่ ยอมเปล่ียนปรบั เลอื กใชค้ าลงทา้ ย เด็กผูช้ ายใช้วา่ “ครบั ” เดก็ หญงิ ใช้ “ค่ะ” รบั เมื่อใครเรยี กขาน “ครับ” “ขา” ทกุ คนเปรียบญาติมิตร ไมตรจี ติ ไมโ่ รยรา เกรงใจปู่ ยา่ ตา ยาย ลุง ป้าและพน่ี อ้ ง ผา่ นทา่ นค้อมตวั ต่า ไม่ยืนคา้ ทาผยอง เห็นผเู้ ฒา่ เข้าประคอง ชว่ ยถือของช่วยจงู เดิน ๗๓ ๗๓ มารยาทแบบไทยไทย ไปหนใดคนสรรเสรญิ ส่งผลพาเจรญิ เป็นท่รี ักตลอดไป ข้ันตอนกำรดำเนินกำร ๑. ประชมุ ช้แี จงและแบง่ งานใหท้ ุกคนในห้องเรียนมสี ว่ นร่วมในการปฏบิ ัติกิจกรรมทุกวัน ๒. สมาชกิ ทุกคนรว่ มกนั จัดทาแผนการปฏิบัติกจิ กรรมประจาวนั ๓. กากับ/ตดิ ตาม/ชี้แนะแนวทางการปฏิบัติกิจกรรมประจาวนั /สปั ดาห์ ๔. นาผลการปฏบิ ัติประจาวนั /สัปดาห์ รายงานผลการปฏิบตั กิ จิ กรรม ผลกำรดำเนินกำร โครงงาน เด็กดี มมี ารยาทงามเพื่อใหส้ มาชิกในห้องเรยี นมีจติ สานึกในการมีส่วนร่วมพฒั นา โรงเรยี นและชมุ ชนในด้านคณุ ธรรม และเปน็ กจิ กรรมท่ีสรา้ งสรรค์ประกอบคุณงามความดดี ว้ ยใจโดยไม่ หวังส่ิงตอบแทนใด ๆ นอกจากความสขุ ทางใจที่ไดป้ ระกอบกจิ กรรมจนบังเกดิ ผลดตี ่อทางหนว่ ยงาน ทาให้ ชุมชนและโรงเรยี นนา่ ดู น่าอยู่ นา่ เรียน เพราะทุกคนมีมารยาทตามวิถีชีวิตไทยจนเป็นนิสัยประจาตัวทุกคน ๗๓

สรุปผล จากการดาเนินโครงงานสรปุ ผลได้วา่ ๑. นกั เรยี นมีจติ สานกึ ท่จี ะปฏิบตั ติ นทีด่ ีมมี ารยาทต่อสังคมจนบังเกดิ ผลดตี ่อทางหน่วยงาน ๒. นักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมทุกวนั ด้วยความภาคภมู ิใจ ขอ้ เสนอแนะ ๑. นกั เรียนทกุ คนในโรงเรียนควรได้รบั การอบรม คุณและโทษ ของบุคคลท่ีมมี ารยาท ๒. คณะครทู ุกคนควรมีส่วนร่วมในการพฒั นาจิตใจของนกั เรียนในโรงเรียนทกุ คน ๗๔ ๗๔ ๗๔

๗๕ ๗๕ ๗๕

ภาพกิจกรรมพัฒนาคุณธรรมนักเรยี น ๗๖ ๗๖ โรงเรียนบา้ นหนองหวาย ๗๖

กจิ กรรมรณรงค์ตอ่ ตา้ นยาเสพติด และต่อตา้ นการสบู บุหรี่ ๗๗ ๗๗ ในโรงเรียน และชุมชนใกลเ้ คยี ง ๗๗

กจิ กรรมรณรงค์ตอ่ ตา้ นยาเสพติด และต่อตา้ นการสบู บุหรี่ ๗๘ ๗๘ ในโรงเรียน และชุมชนใกลเ้ คยี ง ๗๘

กิจกรรมระเบียบแถว ในการเดินแถวเขา้ ชน้ั เรยี น ๗๙ ๗๙ โดยโรงเรยี นกำหนดให้นกั เรียนเดนิ ตามเส้นทีก่ ำหนดข้นึ เพอ่ื ฝกึ ระเบียบ วินัย ๗๙

กิจกรรมระเบยี บแถว ในการยืนเขา้ แถวเคารพธงชาติ ๘๐ ๘๐ และทำกิจกรรมหน้าธงเปน็ ประจำทุกวนั วินัย ๘๐

กจิ กรรมจติ อาสา การมสี ่วนในการทำกิจกรรมร่วมกัน ๘๑ ๘๑ ของครู นกั เรยี น และชุมชน ๘๑

กจิ กรรมจติ อาสา การมสี ่วนในการทำกิจกรรมร่วมกัน ๘๒ ๘๒ ของครู นกั เรยี น และชุมชน ๘๒

กจิ กรรมจติ อาสา การมสี ่วนในการทำกิจกรรมร่วมกัน ๘๓ ๘๓ ของครู นกั เรยี น และชุมชน ๘๓

กจิ กรรมอำลาสถาบนั ๘๔ ๘๔ เพ่อื สร้างความรัก ความสำนึกท่ดี ตี ่อสถาบนั และครูผูส้ อน ๘๔

กิจกรรมสง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรมนักเรียน ครมู ีสว่ นร่วมในการทำกิจกรรม และประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ๘๕ ๘๕ ๘๕

กิจกรรมสง่ เสริมคณุ ธรรม จริยธรรมนักเรียน ๘๖ ๘๖ ครมู ีสว่ นร่วมในการทำกิจกรรม และประพฤติตนเปน็ แบบอยา่ งทด่ี ี ๘๖

กจิ กรรมสวดมนต์ไหว้พระ น่ังสมาธิ ๘๗ ๘๗ กอ่ นเขา้ เรยี นภาคบา่ ย และกอ่ นกลับบา้ นเป็นประจำทุกวัน ๘๗

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ส่งเสรมิ และพฒั นาผู้เรยี น ๘๘ ใหม้ วี ินัย มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นกฎระเบยี บ ๘๘ ๘๘

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ส่งเสรมิ และพฒั นาผู้เรยี น ๘๙ ๘๙ ใหม้ วี ินัย มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่ ปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นกฎระเบยี บ ๘๙

กิจกรรมปลูกปา่ เฉลมิ พระเกียรติ ๙๐ ๙๐ เพ่อื ใหนักเรยี นมสี ่วนร่วม และปลกู ฝังจติ สำนึกทดี่ ีต่อชาติ พระมหากษตั รยิ ์ ๙๐

กจิ กรรมถวายพระพรชยั มงคล ๙๑ ๙๑ เพ่อื ใหนกั เรียนมสี ่วนร่วม และปลูกฝังจติ สำนึกทีด่ ีต่อชาติ พระมหากษัตรยิ ์ ๙๑

กิจกรรมไหวค้ รู ส่งเสรมิ และปลูกฝังให้นกั เรยี น ๙๒ ๙๒ เคารพ ศรทั ธา และระลึกถงึ พระคณุ ของครบู าอาจารย์ ๙๒

นำนักเรยี นเข้าร่วมกิจกรรมวันเข้าพรรษา และกจิ กรรมที่ชุมชนจดั ขึ้น ๙๓ ๙๓ เพื่อสรา้ งความสมั พันธท์ ่ดี ตี ่อกันระหวา่ งชนุ ชนและโรงเรียน ๙๓

ผลงานทีค่ รแู ละโรงเรียนได้ทำ มกี ารนำเสนอและแลกเปล่ียนเรียนรู้ ๙๔ ๙๔ ระดับเขตพนื้ ที่การศกึ ษา ๙๔

ผลการสอบระดบั ชาติ O – NET และ NT ของโรงเรียนบ้านหนองหวาย ๙๕ ๙๕ ๙๕

การประชาสมั พันธโ์ ครงการ และกิจกรรมต่าง ๆ ในรปู แบบ ประชาสัมพนั ธใ์ นเพจเฟซบุ๊กโรงเรยี น กลุม่ ไลน์ แผ่นพับ ปา้ ยประชาสมั พนั ธ์ เป็นตน้ ๙๖ ๙๖ ๙๖

๙๗ ๙๗

๙๘ ๙๘


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook