Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประกาศิต

ประกาศิต

Published by jutatip112517, 2020-01-07 02:43:10

Description: ประกาศิต

Search

Read the Text Version

ววิ ัฒนาการของเทคโนโลยี

วิวฒั นาการการของเทคโนโลยี วิวฒั นาการการของเทคโนโลยี เทคโนโลยีมีการ เปล่ยี นแปลงหรือพฒั นาเมอ่ื เวลาผา่ นไปขนั้ ตอนการ เปล่ยี นแปลงขนึ ้ อยกู บั กระบวนการทางวิวฒั นาการ ของระบบหรือเครื่องมือนนั้ ๆ ดงั นนั คาํ วา่ วิวฒั นาการ ของเทคโนโลยี จงึ หมายถงึ ความเปลยี่ นแปลงท่ีเกด ขนึ ้ ในระบบหรือเคร่ืองมอื ทีเกิดขนึ ้ อยา่ งซบั ซ้อนและมี การเปลีย่ นแปลงตามลําดบั อยา่ งตอ่ เน่ืองอนั มสี าเหตุ มาจากปัจจยั ตา่ งๆ ววิ ฒั นาการสามารถแบงได้เป็ น 5 ยคุ

ววิ ัฒนาการสามารถแบงได้เป็ น 5 ยุค - ยคุ หนิ (Stone age) - ยคุ ทองสมั ฤทธิ (Bronze age) - ยคุ เหล็ก (Iron age) - ยคุ การปฏิวตั ิ อตุ สาหกรรม (Industrial Revolution) - ยคุ ศตวรรษที 20 (The 20th Century)

ยุคหนิ (Stone age) เป็ นยคุ แรกของมนษุ ย์ที่มีการ ใช้เคร่ืองมอื ซงึ ทํามาจากหินทงั สนิ เชนอาวธุ ทใี ช้ในการตอส้หู รือเครื่องใช้ภายใน ครัวเรือนชนิดตา่ งๆ เครื่องมือตา่ งๆเหลา่ นี ้ ทํามาจากหนิ ก่อนทีจะมกี ารใช้โลหะใน เวลาตอ่ มา

ทวปี อเมริกายคุ หินในทวีปอเมริกาได้เร่ิมขึนเมื่อมมี นษุ ย์ รุ่นแรกๆจากหลายถ่ินฐานได้เข้าไปอยอู า่ ศยั ในทวีปอเมริกาหรือท่ีเรียก วาโลกใหม่ (Newworld) เมื่อประมาณ 30,000 ปี ทีแล้วและยคุ หนิ ในทวีปอเมริกาได้สนิ สดุ ลงเมือ่ ประมาณ 2,500 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช ทวปี เอเชีย (ตะวนั ออกกลางและ เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้) ยคุ หินได้สนิ ้ สดุ เม่อื ประมาณ 6,000 ปี กอนค ริสต์ศกั ราช ทวีปยโุ รป ทวปี แอฟริกา และเอเชยี เหนือ ยคุ หินได้สนิ ้ สดุ เมื่อ ประมาณ 4,000 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช ระยะเวลาของยคุ หนิ ในแตละทวปี บนพนื ้ โลกมีความแตกตา่ งกนั ดงั ได้ กลาวมาแล้ว และระยะเวลาการเกิดของยคุ หินในแตละทีม่ ีอิทธิพล โดยตรงตอ่ มนษุ ย์ด้วยเชน่ กนั ดงั นนั จงึ ได้แบงยคุ หินออกเป็ น 3 ระยะ

ระยะพาลโี อลคิ (Paleolitthic) ระยะพาลโี อลิค หรือ Old Stone Age เป็ นชว่ งทีมีความยาวนานมากทีส่ ดุ ของยคุ หินโดยได้เริ่ม ขนึ ้ เม่อื ประมาณ 2 ล้านปี ทีผานมาแล้ว และสนิ ้ สดุ เมอ่ื ยคุ นําแข็งได้สนิ ้ สดุ ลงเมื่อประมาณ 13,000 ปี ก่อน คริสต์ศกั ราช มนษุ ย์ยคุ นีไ้ ด้นําหินมาทาํ เป็ นอาวธุ และได้ พบหลกั ฐานวามนษุ ย์ถ้าโครแมนยอง ในทวปี ยโุ รปได้วาด ภาพซงึ่ แสดงถึงวฒั นธรรมความเป็ นอยตู่ า่ งๆ ในชวง ปลายของระยะนี ้

ระยะมีโซลติ คิ (Mesolithic) ระยะมโี ซลิติค (Mesolithic) หรือ Middle Stone Age เป็ นชวงหลงั 13,000 ปี ก่อน คริสต์ศกั ราช ระยะนีม้ ีการเปล่ยี นแปลงมากขนึ ้ บนพนื ้ โลก สง่ ผลให้มีความอดุ มสมบรู ณ์ของอาหารเพิ่มมากขนึ ้ จงึ มีเคร่ืองมอื เครื่องใช้หลายชนิดทีทําด้วยก้อนกรวด ก้อนหนิ ทไ่ี ด้มาใช้ในชวี ิตประจาํ วนั

ระยะนีโอลติ ติ (Neolithic) ระยะนีโอลิติต (Neolithic) ระยะนีไ้ ด้เริ่ม ขนึ ้ เม่ือประมาณ 8,000 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช มนษุ ย์ยคุ นีไ้ ด้ นําสงั คมเกษตรกรมเข้ามาใช้ในชีวติ ประจาํ วนั เคร่ืองมอื ที่ ใช้ในครัวเรือนบางชนิดได้มีการเปลยี่ นแปลงและได้มกี าร เร่ิมใช้โลหะบางชนิด ได้มกี ารเปลี่ยนแปลงและได้มีการเร่ิม ใช้โลหะบางชนิดในชวงป่ ลายของระยะนี ้

ยุคทองสมั ฤทธิ (Bronze age) ลักษณะของยคทองสมั ฤทธ์ิ ได้เริ่มขนึ ้ เมือ่ ประมาณ 3,000 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช และสนิ ้ สดุ เมื่อประมาณ 1,000 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช เชือกนวาเคร่ืองไม้เคร่ืองมือทีทําจาก ทองสาํ เริดได้เริ่มมีขนึ ครัง้ แรกในแถบตะวนั ออกกลาง (Middle East) และในทวปี ยโุ รปโดยเร่ิมท่ปี ระเทศกรีกใน ทวปี เอเชีย ยคุ ทองสาํ ริดได้เริ่มขนึ ้ ทปี่ ระเทศจีนเมอ่ื ประมาณ 1,800 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช สว่ นในทวปี อเมริกา ยคุ ทองสําริดได้ เริ่มขนึ ้ เม่อื 1,000 ปี กอ่ นคริสต์ศกั ราช ในประเทศไทยได้มีการ ค้นพบเครื่องมอื บางชนิดทีทําด้วยทองสาํ ริด เชน่ ใบหอกขวาน กาไล และ เบด็ ตกปลา เป็ นต้น ท่ี ตาํ บลบ้านเชียง อําเภอหนอง หาน จงั หวดั อบุ ลราชธานี และทีตาํ บลแวงอําเภอสวา่ งแดนดิน จงั หวดั สกลนครและจากการค้นพบวตั ถโุ บราณชนิดนีท้ ําให้เช่ือ วายคุ ทองสาํ ริดเกดขนึ ้ มานานแล้วประมาณ 4,500 ปี ก่อน คริสต์ศกั ราช

ยคุ ทองสาํ ริดในตะวนั ออกกลางและแถบเมดเิ ตอร์เรเนียนแบง่ ออกเป็ น 3 ระยะดงั นี ้ - ระยะต้น (Eaarly Bronze age) โลหะถกู นํามาใช้เป็ นเครื่องมือในชวี ิตประจําวนั มากขนึ ้ ซงึ่ เป็ นยคุ ของ ชู บาเรียน ซวิ ไิ ลเซซนั ( Sumaian Civilzation) - ระยะกลาง (Middle Brone age) เป็ น ยคุ ของบาบิโลน (Babylon) ชาวบาบิโลนนอกจากรู้จกั ใช้ โลหะแล้ว ยงั เป็ นผ้ใู ห้กาเนิดวิธีการทาํ นายชะตาชีวติ มนษุ ย์ โดยดจู ากอทิ ธิพลของดวงดาวหรือโหราศาสตร์โดยมหี ลกั ฐาน หนิ ปักเขตรูปเทพเจ้าตา่ งๆ ที่ค้นพบ - ระยะสดุ ท้าย (Late Bronze age) เป็ นยคุ ของไมโนแอน ครีท (Minoan crete) และไมซนี าเอน ครีซ (Mycenaean Creece)

ยุคเหลก็ (Iron age) ลกั ษณะของยคุ เหล็ก เป็ นยคุ ท่ีมีการพฒั นา เปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยมี ากขนึ ้ เร่ือยๆ มีการนําเอาเหลก็ เข้า มาใช้เป็ นเคร่ืองมือ วสั ดุ อปุ กรณ์ และอาวธุ ยทุ โธปกรณ์แทน ทองสมั ฤทธิ์ซง่ึ มกี ารใช้แพร่หลายคนในยคุ ทองสมั ฤทธ์ิยคุ นีไ้ ด้ นําเหลก็ มาใช้มากขนึ ้ เมอ่ื มีการนําเตาเผาซง่ึ มีประสทิ ธิภาพสงู ในการหลอมโลหะบางชนิดจนทําให้เหลก็ กลายเป็ นวสั ดทุ ี่ สาํ คญั ทีใ่ ช้ในการผลติ วสั ดอุ ปุ กรณ์ เคร่ืองใช้ตา่ งๆ ของมนษุ ย์ใน ยคุ เหล็ก โลหะเหล็กใช้กนั แพร่หลายมากในชว่ ง 500 ปี ก่อน คริสต์ศกั ราช ในประเทศไทยมี การขดุ พบเคร่ืองมือที่ทําจาก เหลก็ ท่ี บ้านดอนตาเพชร จงั หวดั กาญจนบรุ ี และท่ีตาํ บลโนนชยั อาํ เภอเมือง จงั หวดั ขอนแก่น

การผลิตเหล็กกล้าในยคุ แรกๆ ทาํ ได้ด้วยวธิ ีการนําธาตคุ าร์บอนไปผสมกบั ธาตเุ หล็กจากนนั้ จะใช้ค้อนทบุ ในเตาถา่ นหนิ ทีม่ อี ณุ หภมู ิสงู เพอ่ื ทาํ เป็ นอปุ กรณ์ใช้สอยชนิด ตา่ งๆ เชน่ ภาชนะ เคร่ืองใช้สอยตา่ งๆ ใน ครัวเรือนนอกจากนีไ้ ด้มกี ารนําซีเมนต์และ คอนกรีตโดยมีเหล็กเป็ นโครงสร้างมากอ่ น สร้างตกึ อาคารตา่ งๆ ในยคุ นีอ้ ตุ สาหกรรมการทาํ เหมอื งแร่ได้มีการ พฒั นามากขนึ ้ ด้วย

ยุคการปฏวิ ัติ อุตสาหกรรม (Industลrกั ษiaณlะขRองeยคุ vปฎoิวตlั uิอตุ tสiาoหกnรรม)เทคโนโลยี ได้มกี ารพฒั นาเปลย่ี นแปลงมากขนึ ้ เร่ือยๆจากยคุ ต้นๆจน กลายเป็ นยคุ การปฏิวตั อิ ตุ สาหกรรมซงึ่ เริ่มต้นทีป่ ระเทศ องั กฤษ (Great Britain) ในชว่ งระหวา่ งปี ค.ศ. 1790- 1830 โดยการสนบั สนนุ ของรัฐบาลองั กฤษ โดยในชว่ งแรกๆ ได้พฒั นาจากการเกษตรแบบชนบท จากนนั้ กลายเป็ น การเกษตรแบบเมืองและกลายเป็นอตุ สาหกรรมการผลติ ใน ท่ีสดุ อตุ สาหกรรมการผลิตแหง่ แรกในประเทศองั กฤษได้ เริ่มขนึ ้ ในปี ค.ศ. 1740 ได้แก่อตุ สาหกรรมสิงทอง ตอ่ มา James Watt และ Homas Newcomen ได้ ผลิตเครื่องจกั รไอนํา้ ขนึ ้ ยคุ อตุ สาหกรรมได้แพร่หลายไปยงั หลายประเทศในทวีปยโุ รปในชวงศตวรรษที่ 19 และขยาย ไปยงั อเมริกา รัสเซีย และ ญี่ป่ นุ ในชวงต้นศตวรรษที่ 20

ยคุ นีเ้ทคโนโลยเี จริญรุดหน้ามาก คือ เทคโนโลยีด้าน พลงั งาน (Energy Technology) มีการสร้างกงหนั ลมและใช้ พลงั งานไอนํา้ สาํ หรับการทํางานของเคร่ืองจกั รกล และการค้นพบ ความรู้เรื่องไฟฟ้ าเป็ นผลให้คิดค้นสร้างเครื่องกาเนิดไฟฟ้ าความรู้การ ถลงุ แร่ทําให้เกิดโลหะวทิ ยาและเกิดเทคโนโลยตี า่ งๆ มากขนึ ้ นอกจากนีม้ ีการสร้างโรงงานทอผ้าทใ่ี ช้ความรู้ทางเคมีกบั เรื่องทอ ใน ตอนปลายของยคุ วิศวกรโรงงานตา่ งๆ พฒั นาสงิ่ กอ่ สร้างตา่ ง เชน่ เข่ือนทอ่ การสือสารและคมนาคม เชน่ ก่อสร้างถนน ขดุ คลอง กิจการ รถไฟ การส่ือสารระบบการพมิ พ์ การถายภาพ โทรเลข โทรศพั ท์ เทคโนโลยใี นยคุ นีก้ ้าวหน้ารวดเร็วมาก สว่ นใหญเป็ นเทคโนโลยตี าม ความต้องการของสงั คมอตุ สาสิงๆ สะพานหกรรมขณะนนั้

ยุคศตวรรษที 20 (The 20th Century) ลกั ษณะของยคุ ศตวรรษท่ี 20 ยคุ นี ้ถือเป็ นการเจริญเตบิ โตอยา่ งมากหรือ ยคุ ทองทางด้านเทคโนโลยไี ด้เพม่ิ มากขนึ ้ ในชว่ งศตวรรษที่ 20 ตอน ( education) ทาํ ให้มีการคดิ ค้นสร้างใหมๆ่ อยา่ งไมม่ ี ขีดจํากดั อยา่ งมากกระบวนการผลิต

กระบวนการ ตา่ งๆ ท่ีนําไปสกู ารเจริญเติบโต แบง่ ออกเป็ น 4 ขนั้ ตอน -ความเข้าใจพนื ้ ฐาน (Basic information) -การให้ความรู้ด้านเทคนิค (Technica education) -การประเมินผลด้านเทคโนโลยี (Assessment of technology) -อนาคตของเทคโนโลยี (Outlook)

ยคุ นีเ้ริ่มจากการบนิ การสง่ จรวดความรู้ทาอิเล็กทรอนิกส์ และ ระเบดิ ปรมาณู การประดษิ ฐ์คิดต้นวสั ดใุ หมๆ่ ซง่ึ มี ทงั้ สร้างสรรค์และทาํ ลายสงั คมการพฒั นา วทิ ยาการบินและเทคโนโลยีทางอวกาศ ก้าวหน้ามากเกิดความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ หลายแขนงทาํ ให้มกี าคิดค้นสร้างเทคโนโลยี ใหมๆ่ อยา่ งไมม่ ขี ีดจํากดั

จดั ทาํ โดย สามเณร ประกาศติ ดวงใจ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 โรงเรียนพระปริยตั ิธรรมวดั สวุ รรณรังสรรค์


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook