เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าการตัดเยบ็ เบื้องต้น ชนกนาถ มะยโู ซะ๊ คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา 2559
เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าการตัดเยบ็ เบื้องต้น ชนกนาถ มะยโู ซะ๊ศป.ม. (นฤมติ ศลิ ป์ การออกแบบแฟช่นั และสงิ่ ทอ) คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลยั ราชภฏั สวนสุนนั ทา ISBN 2559
คานา เอกสารประกอบการสอน รายวิชาการตัดเย็บเบื้องต้น Foundation Sewing รหัสวิชาFAD1206 ได้แบ่งเนือ้ หาในการเรียนการสอนไว้ท้ังหมด 10 หัวข้อเรื่อง แต่ละหัวข้อเรือ่ งใช้เวลาในการสอน 1-2 สัปดาห์ มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการตัดเย็บเบอื้ งตน้ ประกอบด้วยความรู้ในเรือ่ งเคร่อื งมอื เครือ่ งใช้เบือ้ งต้นในการตดั เย็บ การเยบ็ ด้วยมอื การติดเครื่องเกาะเกี่ยว การฝึกปฏิบัติเย็บจักรอุตสาหกรรม การเย็บตะเข็บแบบต่างๆการวัดตัว การสร้างแพทเทิร์นกระโปรง เสื้อและกางเกงเบื้องต้น ตลอดจนเทคนิคการตัดเย็บเสื้อผ้าเบื้องต้น ซึ่งทาให้ผู้เรียนมีพื้นฐานในการตัดเย็บเสื้อผ้าเบื้องต้นโดยสามารถใช้เปน็ แนวทางในการออกแบบแฟช่นั ต่อไป ผู้สอนได้รวบรวมข้อมูลและศึกษารายละเอียดของเน้ือหาในแต่ละหัวข้อจากหนังสือเกี่ยวกับการตัดเย็บท้ังในประเทศและต่างประเทศหลายฉบับ หวังว่าเอกสารประกอบการสอนฉบับนี้คงอานวยประโยชน์ต่อการเรียนการสอนในรายวิชาการตัดเย็บเบื้องต้นตามสมควร หากท่านที่นาไป ใช้มีข้อเสนอแนะผู้เขียนยินดีรับ ฟั งและขอขอบพระคณุ ในความอนเุ คราะหน์ ั้น ณ โอกาสนีด้ ้วย ชนกนาถ มะยโู ซ๊ะ 15 สิงหาคม 2559
สารบญั หน้าคานา …………………………………………………………… (1)สารบญั ………………………………………………………….... (3)สารบญั ภาพ ………………………………………………………….... (3)สารบัญตาราง ………………………………………………………….... (3)แผนบริหารการสอนประจาวิชา ………………………………………………………….... (3)แผนบริหารการสอนประจาบทที่ 1 ………………………………………………………….... 1บทที่ 1เอกสารอ้างอิง
รายละเอียดของรายวชิ า(Course Specification) รหสั วชิ า FAD1206 รายวชิ า การตดั เยบ็ เบอื้ งตน้สาขาวชิ า การออกแบบเครอื่ งแตง่ กาย คณะศลิ ปกรรมศาตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ นั ทา ภาคการศกึ ษา 1 ปกี ารศึกษา 2559๑. รหสั และชอื่ รายวชิ า หมวดที่ ๑ ขอ้ มลู ทวั่ ไป รหัสวิชา ชือ่ รายวิชาภาษาไทย FAD1206 ชื่อรายวิชาภาษาอังกฤษ การตัดเยบ็ เบ้ืองต้น Foundation Sewing๒. จานวนหนว่ ยกติ 3(2-2-5) ทฤษฎี 2 ช่ัวโมง/ปฏิบตั ิ 2 ชั่วโมง/นอกเวลา 5 ช่วั โมง๓. หลกั สตู รและประเภทของรายวชิ า๓.๑ หลกั สตู ร ศิลปกรรมศาสตรบณั ฑติ สาขาการออกแบบเคร่อื งแต่งกาย๓.๒ ประเภทของรายวิชา วชิ าเฉพาะด้าน๔.อาจารยผ์ รู้ บั ผดิ ชอบรายวชิ าและอาจารยผ์ สู้ อน๔.๑ อาจารย์ผู้รบั ผิดชอบรายวิชา อาจารย์ชนกนาถ มะยโู ซะ๊๔.๒ อาจารย์ผสู้ อน อาจารย์ชนกนาถ มะยูโซะ๊
๕. สถานทตี่ ดิ ตอ่ อาคาร 58 คณะศิลปกรรมศาสตร์ ห้องพักอาจารย์ช้ัน ME – Mail. [email protected]๖. ภาคการศกึ ษา / ชน้ั ปีทเี่ รยี น๖.๑ ภาคการศึกษาที่ 1 /2559 ช้ันปีที่ 1๖.๒ จานวนผู้เรยี นทีร่ ับได้ ประมาณ 53 คนแบ่งเปน็ 2กลมุ่ เรียน 001,002๗. รายวชิ าทตี่ อ้ งเรยี นมากอ่ น(Pre-requisite) (ถา้ มี)ไมม่ ี๘. รายวชิ าทตี่ อ้ งเรยี นพรอ้ มกนั (Co-requisites)(ถา้ มี) ไมม่ ี๙. สถานทเี่ รยี น อาคาร 58 คณะศิลปกรรมศาสตร์ ห้อง58M05 ชั้น M๑๐.วนั ที่จดั ทาหรอื ปรบั ปรงุ วนั ที่ 30 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2559รายละเอยี ดของรายวชิ าครงั้ ลา่ สดุ หมวดที่ ๒ จุดมงุ่ หมายและวัตถปุ ระสงค์๑. จดุ มงุ่ หมายของรายวชิ า ๑) เพ่อื สามารถเรียนรวู้ ิธีการใชเ้ ครอ่ื งมือเคร่อื งใช้ในกระบวนการตัดเยบ็ ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๒) เพอ่ื สามารถเข้าใจในทฤษฎีและกระบวนการปฏิบัติตดั เยบ็ ด้วยมือและเครื่องจักรอุตสาหกรรมไดอ้ ยา่ งถกู วิธี ๓) เพอ่ื สามารถเขา้ ใจในทฤษฎีและกระบวนการปฏิบตั ิตดั เย็บเสอื้ กระโปรงและกางเกงได้อย่างถกู วิธี ๔) เพ่อื สามารถนาหลกั เกณฑ์และทฤษฎีต่างๆทไี่ ดม้ าประเมินคุณคา่ และนาแนวทางไปพัฒนางานออกแบบ
๒. วตั ถปุ ระสงคใ์ นการพฒั นา/ปรับปรงุ รายวชิ า นักศึกษาสามารถเข้าใจทฤษฎีและกระบวนการตัดด้วยมือและเคร่ืองจักรอุตสาหกรรมรวมถึงกระบวนการตัดเย็บเสื้อ กระโปรง กางเกงได้อย่างถูกวิธี โดยมีความเชี่ยวชาญจนกระทั่งนาไปใช้พฒั นาในการออกแบบเครอ่ื งแต่งกายต่อไป หมวดที่ ๓ ลกั ษณะและการดาเนนิ การ๑. คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิเกย่ี วกับเครือ่ งมือเครอ่ื งใช้และอุปกรณ์ต่างๆที่ใชใ้ นงานตัดเยบ็ การ เยบ็ ด้วยมือ การติดเครื่องเกาะเกี่ยว การเย็บจกั รอตุ สาหกรรม การทาตะเข็บต่างๆ การติดซปิ การเยบ็ เสอื้ และกางเกงเบ้ืองต้น Machines, tools and equipment used in sewing, hand sewing, fixing fasteners,industrial sewing, making various kinds of treading, zipping, and basic blouse and pantsewing๒. จานวนชวั่ โมงทใี่ ชต้ อ่ ภาคการศกึ ษาบรรยาย สอนเสรมิ การฝกึ ปฏบิ ตั /ิ งาน การศกึ ษาดว้ ยตนเอง (ชั่วโมง)(ช่ัวโมง) (ชั่วโมง) ภาคสนาม/การฝกึ งาน (ชวั่ โมง) 5 ชว่ั โมงตอ่ สัปดาห์ 75 ช่วั โมงต่อภาค2 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ ตามประกาศของ 2 ชัว่ โมงต่อสปั ดาห์ การศึกษา30 ชัว่ โมงต่อภาค มหาวิทยาลยั (การศึกษา เฉพาะกรณที ี่งดการ 30 ชัว่ โมงต่อภาค เรียนการสอน ) การศึกษา หรอื ตามความ ต้องการของ นกั ศึกษาเฉพาะ รายบคุ คล
๓. จานวนชวั่ โมงตอ่ สปั ดาหท์ อี่ าจารยใ์ หค้ าปรกึ ษาและแนะนาทางวชิ าการแกน่ กั ศกึ ษาเปน็ รายบคุ คล ๑ ช่ัวโมง / สัปดาห์ ๓.๑ ปรกึ ษาด้วยตนเองที่ห้องพกั อาจารย์ผสู้ อน ห้องพกั อาจารย์ ช้ัน Mอาคาร 58 คณะศิลปกรรมศาสตร์ ๓.๒ ปรกึ ษาผ่านโทรศพั ท์ทท่ี างาน 02-1601392 ต่อ 204 มือถอื0812855880 ,086383382 ๓.๓ ปรกึ ษาผ่านจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Mail) [email protected] หมวดท๔ี่ การพฒั นาผลการเรยี นรขู้ องนกั ศกึ ษา๑.คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ๑.๑ คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทตี่ อ้ งพฒั นา (1) ตระหนกั ในคณุ คา่ ของคณุ ธรรม จรยิ ธรรม (2) มีวนิ ยั ตรงต่อเวลา และความรบั ผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม (3) มีภาวะความเปน็ ผู้นาและผู้ตาม สามารถทางานเปน็ ทีมและสามารถแก้ไขข้อ ขดั แย้งและลาดบั ความสาคัญได้ (4) เคารพสิทธิและรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อนื่ รวมท้ังเคารพในคณุ คา่ และศกั ดิศ์ รี ของความเปน็ มนษุ ย์ (5) เคารพกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ขององคก์ รและสงั คม (6) มีจรรยาบรรณทางวิชาการและวิชาชีพ
๑.๒ วธิ กี ารสอน จรยิ ธรรมกาหนดให้มีวัฒนธรรมทีด่ ีขององคก์ ร เพ่อื เปน็ การปลูกฝงั ใหน้ กั ศึกษามี ระเบียบวินัย ได้แก่ การแต่งกายทีเ่ ป็นไปตามระเบียบของมหาวิทยาลยั สรา้ งนิสยั การตรงต่อ เวลาในการเข้าชน้ั เรียนหรอื การส่งงานตามเวลาที่ได้นดั หมาย สรา้ งความรับผดิ ชอบในหนา้ ที่ ได้รับมอบหมาย การทางานกลุ่มต้องฝึกให้รู้หน้าที่ของการเปน็ ผู้นากลุ่มและการเป็นสมาชิกกลุ่ม มีความซอ่ื สตั ยโ์ ดยต้องไม่กระทาการทุจริตในการสอบหรอื ลอกการบ้านของผอู้ ื่น เป็นต้น นอกจากนี้อาจารย์ผสู้ อนทุกคนต้องสอดแทรกเรอ่ื งคุณธรรม จรยิ ธรรมในการสอนทกุ รายวิชา รวมทั้งมีการจดั กจิ กรรมส่งเสรมิ คุณธรรม จรยิ ธรรม เช่น การยกย่องนกั ศึกษาที่ทาดี ทา ประโยชน์แกส่ ่วนรวม และเสยี สละ เปน็ ต้น ๑.๓ วธิ กี ารประเมนิ ผล (1) ประเมินจากการตรงเวลาของนกั ศึกษาในการเขา้ ชั้นเรยี น การส่งงานตามกาหนด ระยะเวลาที่มอบหมายและการร่วมกจิ กรรม (2) ประเมินจากการมีวนิ ยั และพรอ้ มเพรียงของนักศึกษาในการเขา้ ร่วมกิจกรรมเสริม หลักสูตร (3) ปรมิ าณการกระทาทจุ รติ ในการสอบ (4) ประเมินจากความรับผดิ ชอบในหน้าที่ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย๒. ความรู้ 2.1. ผลการเรยี นรดู้ า้ นความรู้ (1) มีความรู้และความเข้าใจเก่ียวกับทฤษฎีและทักษะที่สาคัญในเนื้อหาสาขาวิชา การออกแบบเคร่อื งแต่งกาย (2) สามารถวิเคราะห์ปัญหา เข้าใจและอธิบายความต้องการด้านออกแบบเคร่ือง แต่งกายของสังคม รวมทั้งประยุกต์ความรู้ ทักษะทีเ่ หมาะสมกับการแกไ้ ขปญั หาแต่ละครั้ง
(3) สามารถวิเคราะห์ ออกแบบ ปรับปรงุ และ/หรือประเมิน องคป์ ระกอบต่าง ๆของงานออกแบบเคร่อื งแต่งกายในลักษณะของงานสร้างสรรค์ (4) สามารถติดตามความก้าวหน้า และวิวัฒนาการของงานออกแบบเคร่ืองแต่งกายรวมทั้งการนาไปประยุกต์ใช้ตามความนิยมของสังคม โดยงานจะออกมาในลักษณะของงานรว่ มสมยั (5) มีความรู้ ความเข้าใจและสนใจพัฒนาความรู้ ความชานาญทางการออกแบบเครอ่ื งแต่งกายอย่างต่อเนื่อง (6) มีความรู้ในแนวกว้างของสาขาการออกแบบเคร่ืองแต่งกาย เล็งเห็นการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจผลกระทบจากสื่อและผลงานออกแบบเคร่ืองแต่งกายของนักออกแบบจากนานาประเทศท่ัวโลก (7) มีประสบการณ์ในการพัฒนาและ/หรือการประยุกต์ความรู้ด้านการออกแบบเคร่อื งแต่งกาย เพ่อื สรา้ งงานออกแบบเครอ่ื งแต่งกายที่ร่วมสมยั และหลากหลาย (8) สามารถบูรณาการความรใู้ นสาขาวิชาการออกแบบเคร่อื งแต่งกายกับความรใู้ นศาสตร์อื่นๆที่เก่ียวข้องการทดสอบมาตรฐานนี้สามารถทาได้โดยการทดสอบแต่ละวิชาในชั้นเรียน ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ในหลกั สตู ร๒.๒ วธิ กี ารสอนจัดการเรียนการสอนในหลากหลายรปู แบบ ท้ังทางทฤษฎีและฝึกปฏิบตั ิในสภาพแวดล้อมจรงิเช่น การใช้สื่อ 2-3 มิติ ในการเรียนการสอน การใช้วสั ดุอุปกรณจ์ รงิ การสืบค้นขอ้ มลู จากห้องสมดุอิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลจากอนิ เตอรเ์ น็ต การเรียนรจู้ ากสถานการณจ์ รงิ การฝึกปฏิบตั ิงานในสถานประกอบงานทางด้ายเครอ่ื งแต่งกาย การส่งเสรมิ ให้นกั ศึกษาส่งผลงานเข้าประกวด การจัดทาโครงงาน การศึกษาดูงาน หรอื เชญิ ผู้เชีย่ วชาญทมี่ ีประสบการณต์ รงมาเป็นวิทยากรพเิ ศษเฉพาะเรือ่ งตลอดจนการฝึกปฏิบัตงิ านด้านการออกแบบเครอ่ื งแต่งกายและ/ หรอื งานทีเ่ กย่ี วข้องในสถานประกอบการทั้งภาครฐั และเอกชน
๒.๓ วธิ กี ารประเมนิ ผล (1) การทดสอบย่อย (2) การสอบกลางภาคเรยี นและปลายภาคเรียน (3) ประเมินจากรายงานทนี่ กั ศึกษาจัดทา (4) ประเมินจากโครงงานและการวจิ ัยที่นาเสนอ (5) ประเมินจากการนาเสนอรายงานในช้ันเรยี น (6) ประเมินจากรายวิชาสหกจิ ศึกษาหรอื ประสบการณ์วชิ าชีพ๓.ทักษะทางปญั ญา ๓.๑ ทกั ษะทางปญั ญาทตี่ อ้ งพฒั นา (1) คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณและอย่างเปน็ ระบบ (2) สามารถสืบค้น ตีความ และประเมินสารสนเทศ เพอ่ื ใช้ในการแก้ไขปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์ (3) สามารถรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์ และสรุปประเดน็ ปัญหาและความต้องการ (4) สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะกับการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในกระบวนการออกแบบเครอ่ื งแต่งกายแต่ละครงั้ ได้อย่างเหมาะสม การวัดมาตรฐานในข้อนี้ สามารถทาได้โดยการสังเกตนักศึกษาในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถอธิบายแนวคิดของการแก้ปญั หา และวิธีการแก้ปญั หาโดยการประยกุ ต์ความรทู้ ีเ่ รยี นมา ๓.๒ วธิ กี ารสอน (1) กรณีศึกษาเกีย่ วกบั งานดา้ นการออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย (2) การอภิปรายกลมุ่
(3) ให้นกั ศึกษามโี อกาสปฏิบตั ิจริง ๓.๓ วธิ กี ารประเมนิ ผล ประเมินตามสภาพจรงิ จากผลงาน และการปฏิบตั ิของนักศึกษา เช่น ประเมินจากการ นาเสนอรายงานในชั้นเรยี น การทดสอบโดยใช้แบบทดสอบหรอื สัมภาษณ์ เป็นต้น๔. ทกั ษะความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบ ๔.๑ ทกั ษะความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบคุ คลและความรบั ผดิ ชอบทตี่ อ้ งพฒั นา (1) สามารถสอื่ สารกบั กลุ่มคนหลากหลายและสามารถสนทนา ทั้งภาษาไทยและ ภาษาตา่ งประเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ (2) สามารถให้ความช่วยเหลือ และอานวยความสะดวกแกก่ ารแก้ปัญหาสถานการณต์ า่ ง ๆ ในกลมุ่ ทั้งในบทบาทของผู้นา หรอื ในบทบาทของผู้ร่วมทมี ทางาน (3) สามารถใช้ความรใู้ นศาสตรม์ าชนี้ าสังคมในประเดน็ ทีเ่ หมาะสม (4) มีความรบั ผดิ ชอบในการกระทาของตนเองและรับผดิ ชอบงานในกลุ่ม (5) สามารถเปน็ ผู้ริเรม่ิ แสดงประเดน็ ในการแกไ้ ขสถานการณ์ ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม พรอ้ มท้ังแสดงจดุ ยนื อยา่ งพอเหมาะทั้งของตนเองและของกลุ่ม (6) มีความรับผดิ ชอบการพัฒนาการเรียนรู้ ทั้งของตนเอง และทางวิชาชีพอย่างต่อเนื่องคณุ สมบตั ิต่าง ๆ นีส้ ามารถวดั รว่ มกบั คุณสมบตั ใิ นข้อ (1), (2), และ (3) ได้ในระหว่างการทากิจกรรรมรว่ มกัน ๔.๒ วธิ กี ารสอน (1) สามารถทางานกบั ผอู้ ืน่ ได้เป็นอย่างดี (2) มีความรบั ผดิ ชอบต่องานทไี่ ด้รับมอบหมาย (3) สามารถปรับตวั เข้ากบั สถานการณแ์ ละวัฒนธรรมองคก์ รที่ไปปฏิบตั ิงานได้เปน็ อยา่ งดี
(4) มีมนุษยสมั พนั ธ์ทด่ี ีกบั ผู้ร่วมงานในองคก์ รและกบั บุคคลท่วั ไป (5) มีภาวะผนู้ า ๔.๓ วธิ กี ารประเมนิ ผล ประเมินจากพฤติกรรมและการแสดงออกของนักศึกษา ในการนาเสนอรายงานกลุ่มในช้ันเรยี นและสงั เกตจากพฤติกรรมที่แสดงออกในการร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ และความครบถว้ นชัดเจนตรงประเดน็ของข้อมลู๕. ทกั ษะการวเิ คราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การสอื่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ ๕.๑ ทกั ษะการวิเคราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การสอื่ สาร และการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศทตี่ อ้ งพฒั นา (1) มีทกั ษะในการใช้เครือ่ งมอื ทีจ่ าเป็นที่มีอยู่ในปจั จุบนั ตอ่ การทางาน ที่เกย่ี วกับ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์เพือ่ งานออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย (2) สามารถแนะนาประเดน็ การแก้ไขปัญหา โดยใช้สารสนเทศหรอื การแสดงสถติ ิประยุกต์ต่อปญั หาที่เกย่ี วขอ้ งอย่างสรา้ งสรรค์ (3) สามารถสอื่ สารอยา่ งมีประสิทธภิ าพทั้งปากเปล่าและการเขียน เลือกใชร้ ปู แบบของสื่อการนาเสนออยา่ งเหมาะสม (4) สามารถใช้สารสนเทศและเทคโนโลยีสอื่ สารอยา่ งเหมาะสม ๕.๒ วธิ กี ารสอน จัดกจิ กรรมการเรียนรใู้ นรายวิชาต่าง ๆ ให้ผเู้ รียนได้วเิ คราะห์สถานการณจ์ าลอง และสถานการณเ์ สมือนจรงิ และนาเสนอการแกป้ ัญหาทีเ่ หมาะสม เรียนรเู้ ทคนิคการประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศในหลากหลายสถานการณ์ ๕.๓ วธิ กี ารประเมนิ ผล
ประเมินจากเทคนิคการนาเสนอโดยใช้ทฤษฎีการเลอื กใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยสี ารสนเทศหรอื คณิตศาสตรแ์ ละสถติ ิทเ่ี ก่ยี วข้อง ประเมินจากความสามารถในการอธิบายถงึ ข้อจากดั เหตุผลในการเลือกใชเ้ ครอ่ื งมือต่าง ๆ การอภิปราย กรณีศึกษาต่าง ๆ ทีม่ ีการนาเสนอตอ่ ชั้นเรยี น๖. ดา้ นอนื่ ๆ -หมายเหตุสญั ลักษณ์ หมายถงึ ความรับผดิ ชอบหลักสญั ลักษณ์ หมายถงึ ความรับผดิ ชอบรองเว้นว่าง หมายถงึ ไม่ได้รับผิดชอบซ่งึ จะปรากฎอยู่ในแผนที่แสดงการกระจายความรับผดิ ชอบมาตรฐานผลการเรียนรจู้ ากหลักสูตรสู่รายวิชา (Curriculum Mapping)
หมวดท๕ี่ แผนการสอนและการประเมนิ ผล๑. แผนการสอน จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อนสปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด ชวั่ โมง ที่1 แนะนาการเรยี นการสอน 4 1. ระเบียบในการเรยี นการสอน อ.ชนกนาถ 2. แนะนารายวิชา วัตถุประสงคก์ าร เรียนรแู้ ละนาเข้า สู่บทเรยี น2 บทที่ 1 วัสดอุ ปุ กรณใ์ นการตดั 4 1. แนะนาวัสดอุ ปุ กรณท์ ีใ่ ชใ้ นการตดั อ.ชนกนาถ เยบ็ เยบ็ และวิธีการดูแลรักษา -การเยบ็ ด้วยมอื 2. ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับการเยบ็3 - การเยบ็ ด้วยมือ(ต่อ) ด้วยมอื เชน่ การเนา การสอย การ ด้นเปน็ ตน้ 3. ฝึกปฏิบัติการเยบ็ ด้วยมอื บนผ้า ทดลองขนาดA4 4 1. ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั การเย็บ อ.ชนกนาถ ด้วยมอื เชน่ การสอยแบบต่างๆ 2. ฝึกปฏิบตั ิการเยบ็ ด้วยมอื บนผ้า ทดลองขนาดA4 3.ฝึกปฏิบัติออกแบบงานศิลปะด้วย เทคนิคการเยบ็ ด้วยมือ
สปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อน ที่ ชว่ั โมง4 -การติดเครอ่ื งเกาะเกี่ยว 4 1. ความรเู้ บ้ืองตน้ เกี่ยวกับการติด อ.ชนกนาถ เครอ่ื งเกาะเกี่ยวชนิดตา่ งๆ 2. ฝึกปฏิบตั ิการตดิ เครอ่ื งเกาะเกีย่ ว บนผ้าทดลองขนาดA4 3.ฝึกปฏิบตั ิออกแบบงานศิลปะด้วย เทคนิคการเยบ็ ด้วยมือ5 ความรเู้ กี่ยวกับวิธีการใชจ้ กั ร 4 ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิเกย่ี วกับการใช้ อ.ชนกนาถ อุตสาหกรรมและการดูแลรกั ษา จักรอุตสาหกรรมและการดูแลรักษา6 การเยบ็ ข้ันพนื้ ฐานด้วยจกั ร 4 ฝึกปฏิบตั ิการเยบ็ ด้วยกระดาษข้ัน อ.ชนกนาถ อตุ สาหกรรม พืน้ ฐานด้วยจักรอตุ สาหกรรม โดย แบบทดสอบการเย็บขน้ั พืน้ ฐาน7 การเย็บข้ันพนื้ ฐานด้วยจักร จานวน 8 แบบ อุตสาหกรรม (ตอ่ ) 4 ฝึกปฏิบตั ิการเย็บด้วยผ้าข้ันพนื้ ฐาน อ.ชนกนาถ8 สอบกลางภาค ด้วยจกั รอุตสาหกรรม โดย แบบทดสอบการเยบ็ ขนั้ พืน้ ฐาน จานวน 8 แบบ 3 อ.ชนกนาถ
สปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อน ที่ ช่วั โมง9 การตดั เย็บกางเกงเบ้ืองต้น 4 1. ศึกษาตาแหน่งในการวัดตัว อ.ชนกนาถ สาหรับการสรา้ งกางเกงเบอ้ื งต้น การวางแบบตัดผา้ การตดั ผ้า และการทาเคร่อื งหมายลงบน 2. ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิการทาแพ ผ้า ทเทิร์นกางเกงเบ้ืองตน้ และการ พฒั นาแบบตัดให้เปน็ แบบตดั สาเร็จรูปพร้อมสาหรบั การตดั เยบ็ จรงิ 3. เรียนรวู้ ิธีการกนั หดผ้ากอ่ นการ ตดั ผ้าจรงิ 4. ศึกษาและฝึกปฏิบัติการวางแบบ ตัดลงบนผ้า การตดั ผ้าและการทา เคร่อื งหมายลงบนผ้ากอ่ นการเย็บ จรงิ10 4 ศึกษาและปฏิบตั ิการเย็บประกอบตวั อ.ชนกนาถ กางเกงเบ้ืองตน้ ตามข้ันตอนดงั นี้ 1. การเนาเส้นรากฐานได้แก่ เอว สะโพก เปา้ เข่า กลางหน้า กลาง หลงั 2. การเขา้ ตะเข็บข้างและตะเขบ็ ใต้ ท้องขา 3. การเยบ็ ประกบเป้าหน้าเปา้ หลัง รดี เกบ็ ความเรียบร้อย
สปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อน ที่ ช่วั โมง11 - การวัดตวั 4 1. ศึกษาตาแหน่งในการวดั ตวั อ.ชนกนาถ สาหรับการสรา้ งเสอื้ เบือ้ งต้น - การสรา้ งแพทเทริ น์ เบ้ืองตน้ เสือ้ 2. ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิการทาแพ ทเทิร์นเสอื้ เบือ้ งต้นและการพฒั นา แบบตัดให้เปน็ แบบตัดสาเรจ็ รปู พรอ้ มสาหรับการตัดเยบ็ จรงิ 3. เรียนรวู้ ิธีการกนั หดผ้ากอ่ นการ ตดั ผ้าจรงิ 4. ศึกษาและฝึกปฏิบัติการวางแบบ ตัดลงบนผ้า การตดั ผ้าและการทา เครอ่ื งหมายลงบนผ้ากอ่ นการเยบ็ จรงิ 5. ศึกษาและปฏิบตั ิการเย็บประกอบ ตวั เสอื้ เบือ้ งต้นตามข้ันตอนดงั นี้ 1. การเขา้ ตะเข็บไหล่ 2. การเขา้ ตะเขบ็ ข้าง 3. การรีดพบั ชายและแขน เสอื้ สอย 3. เข้าสาปคอเสอื้
สปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อน ที่ ชวั่ โมง12 -การวัดตัว 4 1. ศึกษาตาแหน่งในการวดั ตัว อ.ชนกนาถ -การทาแพทเทิร์นกระโปรง สาหรบั การสรา้ งกระโปรงเบอ้ื งต้น เบ้ืองต้น 2. ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิการทาแพ ทเทิร์นกระโปรงเบ้ืองตน้ และการ พัฒนาแบบตัดให้เป็นแบบตดั สาเรจ็ รปู พร้อมสาหรบั การตดั เย็บ จรงิ 3. เรียนรวู้ ิธีการกนั หดผ้ากอ่ นการ ตดั ผ้าจรงิ13 การวางแบบตัดผา้ การตดั ผ้า 4 ศึกษาและฝึกปฏิบตั ิการวางแบบตดั อ.ชนกนาถ และการทาเครอ่ื งหมายลงบน ลงบนผา้ การตดั ผ้าและการทา ผ้า เครอ่ื งหมายลงบนผ้ากอ่ นการเย็บ จรงิ14 การตดั เย็บกระโปรงเบอื้ งตน้ 4 ศึกษาและปฏิบตั ิการตดั เยบ็ อ.ชนกนาถ กระโปรงเบื้องตน้ ตามข้ันตอนดงั นี้ - การเนาและเย็บเกลด็ ทงั้ 8 เกลด็ - การติดซปิ
สปั ดาห์ หวั ขอ้ /รายละเอยี ด จานวน กิจกรรมการเรยี นการสอน/สอื่ ทใี่ ช้ ผสู้ อน ที่ ชั่วโมง15 การตดั เยบ็ กระโปรงเบอ้ื งตน้ 4 ศึกษาและปฏิบตั ิการตดั เย็บ อ.ชนกนาถ (ต่อ) กระโปรงเบื้องตน้ ตามขั้นตอนดงั นี้ - การเย็บตะเขบ็ ข้าง - การรีดพบั ชายกระโปรง16 การตดั เยบ็ กระโปรงเบอ้ื งตน้ 4 ศึกษาและปฏิบตั ิการตดั เย็บ อ.ชนกนาถ (ต่อ) กระโปรงเบ้ืองตน้ ตามข้ันตอนดงั นี้ - การเตรยี มขอบเอวและ เขา้ ขอบเอว - การติดตะขอ รดี และเกบ็ ความเรียบร้อย17 สอบปลายภาค 4 สอบปลายภาค อ.ชนกนาถ
๒. แผนการประเมนิ ผลการเรยี นรู้กิจกรรมที่ กิจกรรมการประเมนิ สปั ดาห์ ประเมนิ สดั สว่ นของการ ประเมนิ ผล1 งานที่ได้รับมอบหมาย 2,7,12,132 สอบกลางภาค 8 30 %3 รายงานกลุ่ม 16 25 %4 สอบปลายภาค 18 20 % 25 % หมวดที่ ๖ ทรพั ยากรประกอบการเรยี นการสอน๑. ตาราและเอกสารหลกั ชนกนาถ มะยูโซะ๊ . ( 2552) . เอกสารประกอบการสอน รายวิชา TRD 2606 หลักการออกแบบแพทเทริ น์ และการตัดเย็บ๒.เอกสารและขอ้ มลู สาคญั Winifred Aldrich . Metric Pattern Cutting . 7sted (Great Britain : The University Press,Cambridge,1992)๓. เอกสารและขอ้ มลู แนะนา Calasibetta , Chalotte Mankey . Esstential Terms of Fashion. (New York:Fairchild Publications, 1986) Carol Jouce .Textile Design . 2nded(New York : Watson – Guptill Publications,1993)
หมวดท๗ี่ การประเมนิ และปรบั ปรงุ การดาเนนิ การของรายวชิ า๑. กลยทุ ธก์ ารประเมนิ ประสทิ ธผิ ลของรายวชิ าโดยนกั ศกึ ษา - เปิดโอกาสใหน้ กั ศึกษาแสดงความคดิ เหน็ ตอ่ การเรยี นการสอนผา่ นแบบประเมนิ รายวชิ า - ใหน้ ักศึกษาประเมนิ พัฒนาการการเรยี นรู้ การคิดวิเคราะห์และการนาไปประยกุ ตใ์ ช้ของตนเองโดยเปรียบเทียบ ระหวา่ งกอ่ นและหลังการเรียนรายวิชานี้๒. กลยทุ ธก์ ารประเมนิ การสอน -ประเมินผลการสอนจากแบบการประเมินรายวิชา - ประเมินผลจากคะแนนสอบและผลงานของนกั ศึกษา๓. การปรบั ปรงุ การสอน - ประมวลปัญหาและอุปสรรค ผ่านความคิดเห็นของนักศึกษา หาแนวปฏิบัติที่เหมาะสมเพื่อสรุปเป็นข้อมลู ในการแก้ไขปรับปรุงรายวิชาต่อไป - เพิ่มเตมิ เนื้อหาใหม่ ปรับปรงุ รายละเอียดวิชาให้ทนั สมยั และเหมาะสมกับนักศึกษารุ่นต่อไป๔. การทวนสอบมาตรฐานผลสมั ฤทธขิ์ องนกั ศกึ ษาในรายวชิ า - ตรวจสอบการให้คะแนนในรายวิชา - เปรียบเทียบการให้คะแนนตามเกณฑ์ทีก่ าหนดเพ่อื ให้มมี าตรฐานการให้คะแนน๕. การดาเนนิ การทบทวนและการวางแผนปรบั ปรงุ ประสทิ ธผิ ลของรายวชิ า - ประเมินจากผลการเรียนการสอนและการแสดงความคดิ เหน็ ของนักศึกษาพรอ้ มทั้งนาผลการประเมินที่ได้ มาเปรียบเทียบกับผลการประเมินรายวิชาการสอนของตนเองเพื่อพัฒนาเนื้อหาสาระและแนวทางในการสอนให้มีความเหมาะสมพร้อมทั้งปรับวิธีการเรียนการสอนให้ทันสมัยและตรงกับผลการเรียนรใู้ ห้เกดิ ประสิทธิผลที่ดีที่สดุ ***********************
บทที่ 1 วสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการตดั เยบ็ และทาแพทเทริ น์ เบือ้ งต้น ในการตดั เย็บและทาแพทเทิร์นเสื้อผ้าเบื้องตน้ จาเป็นต้องมีวัสดุอปุ กรณ์ทีเ่ หมาะสมกับการใช้งาน วัสดุอุปกรณ์เหล่านี้จะต้องอานวยความสะดวกและความพร้อมให้กับผู้ใช้งานเป็นอย่างดีเพื่อทาให้งานตัดเย็บเสื้อผ้าออกมามีคุณภาพที่ดี ประกอบกับความปราณีตและความสวยงามดังน้ันวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดเย็บและทาแพทเทิร์นเบื้องต้นควรจะต้องอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์พร้อมสาหรับการใชง้ านอยู่เสมออีกท้ังการเลือกใช้จะต้องเหมาะสมกับหนา้ ที่ใชส้ อยมากทีส่ ดุวสั ดุอปุ กรณ์ในการตัดเย็บและทาแพทเทิร์นเบื้องต้น สามารถแบ่งประเภทวัสดุอปุ กรณ์ที่ใช้ในการตดั เย็บและทาแพทเทิรน์ ให้เปน็ หมวดหมู่ตามประเภทการใชส้ อยได้ดงั น้ี 1. เข็มหมุดและเขม็ สอย (Pins and Needles) 2. วสั ดุอุปกรณ์สาหรับการตดั (Cutting Equipment) 3. วสั ดุอุปกรณ์สาหรบั การทาเครือ่ งหมาย (Marking Tools) 4. สายวดั และไม้บรรทดั แบบต่างๆ (Measuring Tapes and Rulers) 5. วัสดุอุปกรณ์สาหรับการรดี (Pressing Equipment)1. เข็มหมุดและเข็มสอย (Pins and Needles) 1.1 เข็มหมุด (Pins) ในการเลือกใช้งานเข็มหมุดแต่ละประเภทให้เหมาะสมควรคานึงถึงสิ่ง ต่อไปนี้ น้าหนกั ผา้ ผวิ สัมผัสของผา้ รูปแบบของงานเดรปปิ้งที่ทาด้วยมือและลักษณะของเนื้อผ้าที่นามาใช้ในงาน ชั่วคราวในงานเดรปปิง้ 1.1.1 เข็มหมุดหัวมุก (Pearl head pins) เข็มหมุดหัวมุกควรเลือกที่ทาจากโลหะแท้ไร้ สนิม มีก้านเข็มลื่นและปลายแหลมคม ส่วนหัวหุ้มด้วยพลาสติกสีสรรต่างๆเรียกว่า หัวมุก ในปัจจุบันมีการผลิตหัวเข็มหมุดเป็นรูปร่างต่างๆมีความสวยงามและน่าใช้
มากขึ้น เข็มหมุดหัวมุกชนิดนี้จะใช้กลัดแพทเทิร์นเข้ากับผ้าที่กาลังจะตัด หรือใช้ สาหรบั แทนการเนาหรอื ยึดผา้ ต้ังแต2่ ชนิ้ ให้ติดกัน รปู ที่ 1 เข็มหมุดมีหัวแบบหัวมกุ ที่มา : http://www.fotosearch.com รูปที่ 2 เข็มหมดุ มีหวั แบบรูปร่างต่างๆ ทีม่ า : http://honbysales.en.made-in-china.com1.1.2 เขม็ หมุดเดรป (Shirt Pins) จะเปน็ เข็มหมดุ แบบก้านสนั้ หัวเล็ก ตัวเข็มทาจากโลหะ ไร้สนิม มีก้านเข็มลื่นและปลายแหลมคมเหมาะสาหรับงาน เดรปปิ้งที่ต้องใช้เข็ม หมุดเป็นจานวนมากๆในการยึดงาน หรือใช้แทนการเนาผ้าที่มีลักษณะโค้งมีความ จาเป็นต้องใช้เข็มหมุดถี่ๆ
รปู ที่ 3 เข็มหมุดเดรปแบบหัวมน ที่มา : www.morplan.com รปู ที่ 4 เข็มหมดุ เดรปแบบหัวตดั ที่มา : www.morplan.com1.1.3 เข็มหมุดลูกไม้ (Brass Lace PinsหรือSilk Pins) เป็นเข็มหมุดที่ผลิตจากทองเหลือง มีปลายแหลมคม เหมาะสาหรับยึดผา้ ทีม่ ีน้าหนักเบาหรอื ผา้ ที่มีเน้ือบาง เช่น ผ้าลูกไม้ ผา้ ไหม ผา้ ชีฟองเป็นต้น
รปู ที่ 5 เข็มหมุดลกู ไม้ ทีม่ า : www.morplan.com1.1.4 เข็มหมุดแบบคู่ (Fork Pins) เป็นเข็มหมุดที่มีลักษณะคล้ายซี่ของช้อนส้อม ทาจาก โลหะไร้สนิม สามารถแทงทะลุและตรึงวัสดุบุทีล่ ่ืนใหอ้ ยู่กับที่ได้ ส่วนปลายที่โค้งงอใช้ สาหรบั การตรงึ ทีง่ า่ ยดาย รูปที่ 6 เขม็ หมุดแบบคู่ ที่มา : www.morplan.com1.1.5 เข็มหมุดรูปตัวที (T-Head Pins) เป็นเขม็ หมุดที่มีลักษณะเหมอื นตัวT ใช้สาหรับยึด วัสดุตั้งแต่2ชิน้ ขึ้นไปให้ติดกัน โดยสามารถใช้เตารีดรีดทับได้โดยไม่ต้องถอดเข็มหมุด
ออก อีกทั้งยังสามารถยึดวัสดุแล้วนาไปเย็บในจักรเย็บผา้ ได้โดยไม่ต้องถอดเข็มหมุด ออกในขณะเย็บ รูปที่ 7 เขม็ หมุดรูปตวั T ทีม่ า : www.morplan.com 1.1.6 เข็มกลดั (Safety Pins) เข็มกลัดนีจ้ ะใช้กลดั กบั ผา้ ทีท่ อหลวมๆหรือใชก้ บั ผา้ ถักนิตที่ มีโครงสร้างการถักที่หลวม หรือเหมาะสาหรบั ผู้ที่ไม่ชอบใช้เข็มหมุดขาตรงท่ัวๆไปใน การทางานตดั เยบ็ รูปที่ 8 เข็มกลดั ทีม่ า : www.morplan.com1.2 เขม็ (Needle) ในการเลือกใช้งานเข็มสาหรบั การเย็บด้วยมือแต่ละประเภทใหเ้ หมาะสมควร คานงึ ถึงสง่ิ ตอ่ ไปนี้
น้าหนกั ผา้ โครงสรา้ งผ้า ขนาดและน้าหนกั ของประเภทเส้นดา้ ย ความตง้ั ใจในการออกแบบชนิ้ งาน1.2.1 เข็มมือ (Sharps Hand-Sewing Needles) ทาจากโลหะแท้ไร้สนิม มกี ้านเข็มลน่ื และ ปลายแหลมคม ส่วนหัวมีการเจาะช่องเปิดไว้สาหรับร้อยด้าย เป็นเข็มที่ใช้ท่ัวไป สาหรับงานเย็บด้วยมือ เช่น การเนา การสอย การเย็บติดเคร่ืองเกาะเกี่ยว การปะ การชนุ การถักรังดุมเป็นต้น ขนาดเข็มที่นยิ มใช้คอื เบอร์ 7-8 รูปที่ 9 เข็มมอื (Sharps Hand-Sewing Needle) ที่มา : www.jjneedles.com รปู ที่ 10 เข็มที่ใชส้ าหรบั งานมือท่ัวไป ทีม่ า : www.sew4home.com1.2.2 เข็มปกั (Embroidery Needles) เป็นเขม็ ที่ใชส้ าหรับงานปักลวดลาย หวั เขม็ จะมีช่อง ขนาดใหญ่ข้ึนสาหรบั ร้อยไหมปกั ได้สะดวก
รปู ที่ 11 เข็มสาหรบั งานปกั (Embroidery Needles) ทีม่ า : www.jjneedles.com รปู ที่ 12 เขม็ ที่ใชส้ าหรับงานปกั ทีม่ า : www.lifechilli.com1.2.3 เข็มครอสติซ (Cross Stitch Needles) เป็นเข็มที่ใช้ในงานปักผ้าครอสติซโดยเฉพาะ ตัวเข็มจะมีขนาดใหญ่กว่าเข็มท่ัวไปเล็กน้อย ปลายเข็มจะค่อนข้างทู่และหัวเข็มจะมี ช่องที่ใหญ่มาก เพื่อให้สามารถร้อยไหมปกั หรอื ไหมพรมขนาดใหญ่ได้ ขนาด 13, 14 เหมาะสาหรับเด็กที่ฝกึ เย็บงานครอสติซบนเพท ขนาด 16, 18, และ 20 เหมาะสาหรบั การเยบ็ พรม ขนาด 22, 24, 26 และ 28 เหมาะสาหรบั งานครอสตซิ ท่ัวไป
รปู ที่ 13 เข็มครอสติซ (Cross Stitch Needles) ทีม่ า : www.jjneedles.com รูปที่ 14 เข็มทีใ่ ชใ้ นงานปักครอสติส ที่มา : www.dmc-usa.com1.2.4 เขม็ ปกั ลกู ปดั (Beading Hand-Sewing Needle) เป็นเขม็ ทีใ่ ชส้ าหรบั งานปักประดบั ลูกปัดและเลื่อมชนิดต่างๆ ตัวเข็มจะมีขนาดผอมและยาว หัวเข็มจะมีช่องขนาด ค่อนข้างเล็กเพื่อที่จะสามารถสอดเข็มเข้าในรูของลูกปัดหรือเลื่อมได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ติดขัด รูปที่ 15 เข็มปกั ลกู ปัด (Beading Hand-Sewing Needle) ทีม่ า : www.jjneedles.com
รูปที่ 16 เข็มทีใ่ ชใ้ นงานปกั ประดับลูกปัดและเลื่อม ที่มา : http://topicstock.pantip.com1.2.5 เข็มเย็บหนัง (Leather Needles) เป็นเข็มที่ใชส้ าหรบั เยบ็ หนังนิม่ ที่ไม่มเี น้อื หนาจนเกินไป มี ขนาดปานกลาง ปลายเข็มจะเปน็ รปู สามเหล่ยี ม มีความคมและแข็งแรงมากเพ่อื ที่จะสามารถแทง ทะลหุ นงั นิ่มหรือไวนิลได้ โดยไม่ทาใหช้ นิ้ งานเสียหาย รูปที่ 17 เข็มเย็บหนัง (Leather Needles) ทีม่ า : www.jjneedles.com
รูปที่ 18 เข็มทีใ่ ชส้ าหรบั งานหนงั ที่มา : http://fashionsewingwithangelawolf.com/1.2.6 เข็มโค้ง (Curved Needles) เป็นเข็มที่มีลักษณะโค้งงอ มีปลายแหลมคมใช้สาหรับ เย็บชิ้นงานที่เข็มตรงไม่สามารถเข้าไปเย็บได้ถึงหรือบนพื้นผิวที่เข็มตรงเข้ายาก เช่น การปกั งานฝีมอื ทีล่ ะเอียด การการเนาผา้ หม่ เยบ็ เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น รปู ที่ 19 เขม็ โค้ง (Curved Needles) ทีม่ า : www.jjneedles.com รปู ที่ 20 การใชเ้ ข็มโค้งในงานปัก
ที่มา : www.yesiquilt.com1.2.7 เข็มดึงยางและสอดเชือก (Bodkin Needles) เป็นเข็มที่มีลักษณะยาวและหนา มีรู เข็มที่กว้างมากใช้สาหรับสอดยางยืด , ริบบิน้ หรอื เทปผา้ ได้ รูปที่ 21 เข็มดึงยางและสอดเชอื ก (Bodkin Needles) ทีม่ า : www.naradacrafts.com รปู ที่ 22 การใชเ้ ข็มดึงยาง ที่มา : http://blog.creativelive.com1.2.8 ที่ร้อยด้าย (Needle Threader) ใช้สาหรบั อานวยความสะดวกในร้อยด้ายให้ง่ายขึ้น
รูปที่ 23 ทีร่ อ้ ยด้าย (Needle Threader) ทีม่ า : www.trc-leiden.nl รูปที่ 24 วิธีการรอ้ ยด้าย ทีม่ า : www.gograph.com1.2.9 ปลอกนิ้ว (Thimble) ปลอกสาหรับสวมนิ้วมือเวลาเย็บผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้เข็มแทง นิ้วมือ อีกท้ังยังสามารถใช้ดันก้นเข็มเม่ือเวลาเย็บผ้าเน้ือหนา ควรผลิตจากโลหะไร้ สนิม
รปู ที่ 25 ปลอกนิว้ (Thimble) ทีม่ า : www.quiltviews.com รปู ที่ 26 วิธีการใชป้ ลอกนวิ้ ที่มา : www.sew4home.com2. วสั ดอุ ปุ กรณส์ าหรบั การตดั (Cutting Equipment) เครือ่ งมือสาหรบั งานตัดด้วยมือทีม่ คี ุณภาพดี จะสามารถอานวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานและไม่ก่อให้เกิดปัญหาในการใช้งานเคร่ืองมือ นั้นๆ ต้องพิจารณาอุปกรณ์ใบมีดในการตัดให้เหมาะสมกับประเภทวัสดุที่ต้องการตัด เพราะ ใบมีดมีหลายประเภทด้วยกัน เช่น ใบมีดหยัก ใบมีดตรงเป็นต้น ต้องตรวจสอบก่อนการใช้งาน ว่าใบมีดมีความคมอยู่หรือไม่ ถ้าใบมีดทื่อไม่คมจะก่อให้เกิดความเสียหายกับวัสดุที่ทาการตัด และทาให้กระบวนการทางานช้าลงจากเดิม
ข้อควรระวัง ไม่ควรนากรรไกรตัดผ้ามาตดั กระดาษ และหลีกเลีย่ งการทากรรไกรตกเพราะ จะทาให้กรรไกรเสียศูนย์ ความคมของใบมีดกรรไกรลดลง เม่ือใช้งานกรรไกรเสร็จ เรียบร้อยแล้วควรจะเอาผ้าชุบน้ามันจักรมาเช็ดที่ใบมีด และหยอดน้ามันลงที่น็อตเพื่อ ป้องกันการเกิดสนมิ ทีต่ ัวกรรไกร2.1. กรรไกรตัดกระดาษ (Paper Scissors) เป็นกรรไกรด้ามตรงใช้สาหรับตัดกระดาษและ กระดาษแขง็ เท่านั้น รปู ที่ 27 กรรไกรตดั กระดาษ ทีม่ า : http://cdn.dickblick.com2.2. กรรไกรตัดผ้า (Shears) เปน็ กรรไกรด้ามโค้งมีความคมต้ังแต่โคนถึงปลายกรรไกร ตัว กรรไกรจะขนานและแนบไปกับพื้นโต๊ะเวลาตัดผ้า ควรจะมีไว้สาหรับใช้งาน 2ขนาด ขนาดที่นิยมใช้คือ 9 นิ้ว และ 12 นิ้ว โดยเลือกขนาดกรรไกรให้เหมาะสมกับเนื้อผ้าที่ ต้องการตัด ออกแบบมาเพื่อใช้สาหรับตัดผ้าเท่าน้ันไม้ควรนาไปตัดกระดาษ และไม่ ควรทาตกเพราะจะทาให้กรรไกรเสียศนู ย์ ความคมของใบมีดกรรไกรลดลง
รูปที่ 28 กรรไกรตัดผ้า (Shears) ที่มา : http://www2.fiskars.com2.3. กรรไกรซิกแซก (Pinking Shears) มีใบมีดท้ัง2ด้านเป็นหยกั ฟันปลา(ซิกแซก) ใชใ้ นการ ตกแต่งตะเขบ็ เพื่อป้องกนั การลุ่ยของรมิ ผ้า รปู ที่ 29 กรรไกรซิกแซก (Pinking Shears) ที่มา : https://images-na.ssl-images-amazon.com 2.4 กรรไกรตัดเศษด้ายหรือกรรไกรก้ามปู (Thread Clipper) มีลักษณะคล้ายก้ามปู มี ความยาวประมาณ7-8 เซ็นติเมตร ใช้สาหรับตัดเศษด้าย นิยมนาเข้าไปตัดเศษด้าย ในขณะเยบ็ จักร เนื่องจากมีขนาดเล็กพกพาสะดวกไม่เกะกะเวลาเยบ็ จกั ร \ รปู ที่ 30 กรรไกรตดั เศษด้ายหรือกรรไกรก้ามปู (Thread Clipper)
ที่มา : http://habbyhyper.co.za2.5 กรรไกรเล็กตัดเศษไหมปัก (Embroidery Scissors) เป็นกรรไกรขนาดเล็กมีปลายที่แหลมคม เหมาะสาหรับใช้ตัดตกแต่งงานงานเย็บปักถักร้อยที่มีขนาดเล็ก เช่นงานตัดเศษไหมปกั ต่างๆ รปู ที่ 31 กรรไกรตดั เลก็ เศษไหมปกั (Embroidery Scissors) ที่มา : https://www.icanhelpsew.com2.6 ที่เลาะผ้า (Seam Ripper) เป็นเคร่ืองมือขนาดเล็กมีใบมีดที่คมคล้ายตะขอ ใช้สาหรับเลาะแนวตะเข็บต่างๆที่ไม่ต้องการออก อีกท้ังยังสามารถใช้เจาะตาแหน่งเปิดของแนวรังรังดมุ ทีเ่ ย็บด้วยจกั ร รูปที่ 32 ทีเ่ ลาะผ้า (Seam Ripper) ทีม่ า : https://lumenaris.com/seamwise_woodenseamrippers.html
2.7 โรตารีค่ ัตเตอร์ (Rotary Cutter) เป็นอุปกรณ์ตัดผา้ ที่มีลักษณะเปน็ ใบมีดวงกลมมีดา้ มจับลักษณะคล้ายคัดเตอร์ตัดกระดาษ ใช้ตัดผ้าในแนวตรง สามารถตัดผ้าได้คร้ังละหลายช้ันเนอ่ื งจากใบมีดมีความคมมาก รปู ที่ 33 โรตาร่คี ตั เตอร์ (Rotary Cutter) ทีม่ า : http://newidea.businesxxl.com2.8 ที่เจาะรู (Revolving Hole-Punch) เป็นอุปกรณ์สาหรับการเจาะรูในวัสดุต่างๆเช่นเจาะรูสายเข็มขัด เจาะรูบล็อคแพทเทิร์นเป็นต้น บริเวณส่วนหัวสามารถหมุนได้เพื่อเลือกขนาดของรูทีต่ อ้ งการเจาะ รปู ที่ 34 ที่เจาะรู (Revolving Hole-Punch) ที่มา : http://www.banggood.com
3. วัสดุอุปกรณ์สาหรับการทาเครื่องหมาย (Marking Tools) อุปกรณ์สาหรับการทาเคร่ืองหมาย จะใช้เพื่อระบุข้อมูลต่างๆที่ต้องการลงบนกระดาษแพทเทิร์น เช่น ตาแหน่ง ขนาด สี เคร่ืองหมายสัญลักษณ์ต่างๆเป็นต้น ข้อมูลต่างๆเหล่านี้บางชนิดต้องถ่ายทอดลงบนผ้าด้วย เพื่อทาให้ผู้เย็บเข้าใจในการสื่อความหมายที่ต้องการ วัสดุอุปกรณ์สาหรับทาเคร่ืองหมาย สามารถแบ่งเปน็ 2 ประเภทด้วยกนั คือ 3.1. วสั ดุอุปกรณ์สาหรับการทาเครื่องหมายลงบนกระดาษแพทเทิร์น (Marking tools for the paper pattern) 3.1.1 ที่บากกระดาษแพทเทิร์น (Pattern Notcher) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการบาก กระดาษแข็งสาหรับทาบล็อคแพทเทิร์น เพื่อให้ทราบแนวตาแหน่งต่างๆของตัว แพทเทิร์น เช่น แนวเอว แนวอก แนวเกล็ด เป็นต้น ซึ่งตาแหน่งเหล่านี้จะใช้เป็น แนวทางในการเยบ็ ต่อไป รปู ที่ 35 ทีบ่ ากกระดาษแพทเทิรน์ (Pattern Notcher) ที่มา : http://www.banggood.com
3.1.2 สว่านมือ (Pattern Drill) เป็นอุปกรณ์ใช้สาหรับเจาะรูกระดาษแพทเทิร์น อีกทั้งยัง สามารถเจาะรูเพื่อกาหนดเป็นตาแหน่งกระเป๋า ในส่วนหัวของเครื่องมือมีการถอด เปลีย่ นได้เพื่อเลือกขนาดของรทู ีต่ ้องการ รูปที่ 36 ทีบ่ ากกระดาษแพทเทิรน์ (Pattern Notcher) ที่มา : http://www.indiamart.com3.1.3 เครือ่ งเจาะรขู นาดใหญ่ (Pattern Punch) เปน็ เครื่องเจาะรูกระดาษบล็อคแพทเทิร์น เพือ่ ใช้สาหรบั ร้อยเชอื กมดั รวมบลอ็ คแพทเทิรน์ เปน็ เซ็ทเดียวกนั รูปที่ 37 เครื่องเจาะรขู นาดใหญ่ (Pattern Punch)
ที่มา : http://www.pgmdressform.com รปู ที่ 38 วิธีการใชเ้ ครือ่ งเจาะรขู นาดใหญ่ (Pattern Punch) ทีม่ า : http://www.pgmdressform.com3.2 วสั ดอุ ปุ กรณส์ าหรบั การทาเครื่องหมายลงบนผ้า (Marking tools for fabric) 3.2.1 ชอล์กขีดผ้า (Tailor’s Chalk) ส่วนใหญ่มักจะผลิตเป็นรูปสามเหลี่ยม เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ สาหรับทาเครอ่ื งหมายลงบนผา้ ใช้ขีดตามแนวต่างๆที่ต้องการทาสัญลักษณ์ ในกรณีที่ ไม่ต้องการใช้ก็ปัดออกรอยชอล์กก็หลุดออกจากผ้าโดยง่าย แนะนาให้ใช้สีที่ใกล้เคียง กับสีผ้า ตกพื้นจะแตกหักง่ายเวลาใช้ควรระมัดระวัง ใช้งานไปนานๆด้านริมจะทู่ สามารถใช้มดี หรอื คัตเตอร์เหลาให้คมได้
รูปที่ 39 ชอล์กขีดผา้ (Tailor’s Chalk) ที่มา : https://blog.colettehq.com/news/marking-tools3.2.2 ดนิ สอเขยี นผา้ (Chalk Pencils) เปน็ ดินสอทีใ่ ช้สาหรับทาเครื่องหมายลงบนผ้า ใชข้ ีด ตามแนวต่างๆที่ตอ้ งการทาสัญลักษณ์ มีหลากหลายสี เวลานามาใช้งานควรเลือกใช้สี ที่ใกล้เคียงกบั สีผ้า รปู ที่ 40 ดินสอเขียนผ้า (Chalk Pencils) ที่มา : www.aliexpress.com/w/wholesale-chalk-pencils.html3.2.3กระดาษคารบ์ อน(Colored Carbon Paper) เป็นกระดาษที่เคลือบด้วยเทียนไขสี มหี ลาย สีให้เลือกควรเลือกสีทีใ่ กล้เคียงกับสีผ้า ใช้งานควบคู่กับลูกกลิง้ เพื่อที่จะกดรอยให้ เทียนไขสีลงไปทาเครื่องหมายบนผ้า ใช้เปน็ แนวทางในการเย็บจกั ร แนวกดรอยบนผา้ สามารถซักออกได้
รูปที่ 41 กระดาษคารบ์ อน(Colored Carbon Paper) ที่มา : www.alibaba.com/product-detail/colored-carbon- paper-tracing-paper-transfer_107019198.html3.2.4 ลกู กลิง้ (Tracing Wheel) เป็นอุปกรณ์ที่ใชค้ ู่กบั กระดาษคารบ์ อน ใช้กลิ้งทา เครื่องหมายจากกระดาษแพทเทิรน์ ลงผ้าเพือ่ ที่ใช้เป็นแนวทางในการเยบ็ จักร มี 2 ชนิด ด้วยกนั คอื ชนดิ ฟันแหลม (Spiked Wheel) เหมาะสาหรับกดรอยบนกระดาษแพทเทิรน์ เนือ้ ปานกลาง และกดรอยผ้าเนือ้ ปานกลางจนถึงเน้ือหนา รปู ที่ 42 ลกู กลงิ้ ชนิดฟันแหลม (Spiked Wheel)
ที่มา : https://goldstartool.com/Tracing_Wheel_Needle_Point.html ชนดิ ฟนั มน (Smooth-Edged Wheel) ใช้กดรอยกระดาษแพทเทิรน์ ชนิดบาง และกดรอยผา้ เนือ้ บางเบา เนื้อน่มิ รปู ที่ 43 ลูกกลงิ้ ชนิดฟันมน (Smooth-Edged Wheel) ที่มา : https://www.cleanersupply.com4. สายวดั และไม้บรรทดั แบบตา่ งๆ (Measuring Tapes and Rulers) อปุ กรณ์ที่ใชส้ าหรับการวัดต้อง มีคุณภาพได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเวลานามาใช้งาน หนว่ ยการวัดจะได้มคี วามเทีย่ งตรง แมน่ ยาและลดความคลาดคลนื่ 4.1 สายวัด (Tape Measure) ปัจจุบันสายวัดมักผลิตจากวัสดุจาก เทปผ้า ไฟเบอร์กลาส และพลาสติก สายวัดที่มีคุณภาพที่ดเี ม่อื ใช้งานไปนานๆจะไม่ยืดหรือหดตัว ควรมโี ลหะ หุ้มที่ส่วนหัวและส่วนปลายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการใช้งาน สายวัดจะประกอบไป ด้วยหลักนิ้วและหลักเซ็นติเมตร มีความยาว 60 นิ้ว หรือ 150 เซนติเมตร มีการ แบ่งช่องอย่างชัดเจน สายวัดที่ดีควรจะมีท้ังหลักนิ้วและหลักเซ็นติเมตรอยู่ในหน้า เดียวกันเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ปกติในการวัดตัวหลักเซนติเมตรจะมีความ ละเอียดกว่าหลักนิ้ว ในปัจจุบันสายวัดมีให้เลือกใช้ท้ังแบบเป็นเส้น และแบบเป็นตลับ ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้
รูปที่ 44 สายวัด (Tape Measure) ทีม่ า : http://www.chaiwattana.co.th รูปที่ 45 สายวัดแบบตลบั ทีม่ า : http://static.weloveshopping.com/shop/client/000072/handicraftlover/4.2 สายวัดสาหรับช่างเสื้อ (Tailor’s Tape Measure) เป็นสายวัดที่ด้านหนึ่งมีการหุ้มด้วย โลหะยาวประมาณ 2 นิ้ว หรือประมาณ 5 เซนติเมตร ใช้สาหรับการวัดตะเข็บด้านใน จนถึงเป้ากางเกง
รปู ที่ 46 สายวัดแบบช่างเสื้อ (Tailor’s Tape Measure) ที่มา : https://www.shopfittingsonline.co.uk4.3 ไม้บรรทัดใส (Transparent Ruler) มี 2 ขนาด ขนาด 12 นิ้ว(30 เซนติเมตร) และขนาด 24 นิ้ว(45 เซนติเมตร) ควรผลิตจากวัสดุที่เป็นพลาสติกอ่อนใส โปร่งแสงสามารถ มองเห็นทะลุด้านล่างได้ ใช้สาหรับขีดเส้นตรงในการสร้างแพทเทิร์น ควรเลือกใช้ไม้ บรรทัดที่ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานเพื่อป้องกันการคลาดเคลื่อนในการสร้างแพท เทิรน์
รูปที่ 47 ไม้บรรทัดใส (Transparent Ruler) ทีม่ า : http://www.voguefabricsstore.com4.4 ไมโ้ ค้งเอนกประสงค์ (French Curves) เปน็ ไม้โค้งทีท่ าจากพลาสตกิ ใสหรือพีวีซี มี รูปร่างโค้ง-เว้าคลา้ ยปีกนกแก้ว ตามท้องตลาดมกั จะเรียกว่าไม้โค้งนกแก้ว ผลิตมา เพื่ออานวยความสะดวกในการสรา้ งแพทเทิรน์ โดยใช้สร้างเส้นโค้งตามตาแหนง่ ต่างๆ บนตัวแพทเทิรน์ เช่น คอ วงแขน หวั แขน สะโพก เป็นต้น รูปที่ 48 ไม้โค้งเอนกประสงค์ (French Curves) ทีม่ า : http://www.ilovequiltings.com/4.5 ไม้บรรทัดฉาก (Set Square) เป็นไม้บรรทัดรูปสามเหลี่ยมมุมฉาก ผลิตจากพลาสติก หรือพีวีซี อ่อนใสและโปร่งแสง สามารถมองเห็นทะลุด้านล่างได้ ใช้สาหรับวัดระยะ เส้นตรงที่ต้องการสร้างให้เปน็ มมุ ฉากในการทาแพทเทิร์น ควรเลือกใช้ไม้บรรทัดฉากที่ ได้รับรองคุณภาพมาตรฐานเพื่อป้องกนั การคลาดเคลื่อนในการสร้างแพทเทิรน์
รปู ที่ 49 ไม้บรรทดั ฉาก (Set Square) ทีม่ า : http://www.morplan.com/shop/en/morplan/graders-set-squares4.6 ไม้บรรทัดเผือ่ ตะเข็บ (Sewing Gauge) เป็นอุปกรณ์ที่ใชอ้ านวยความสะดวกในการเผื่อ ตะเข็บบนแพทเทิร์นและบนผ้า วิธีใช้จะนาเครื่องมอื วางบริเวณริมแพทเทิร์ทหรอื ริมผ้า ที่ต้องการเผ่ือตะเข็บและปรับความกว้างของระยะเผ่ือตะเข็บ และใช้ดินสอหรือสีขีด เผ่อื ให้เห็นเส้นตะเขบ็ ตามทีต่ อ้ งการ รูปที่ 50 ไม้บรรทดั เผอ่ื ตะเข็บ (Sewing Gauge) ทีม่ า : http://decor.marilynfenndesign.com/favorite-sewing-tools/
รปู ที่ 51 วิธีใช้งานไม้บรรทดั เผ่อื ตะเขบ็ ที่มา : http://decor.marilynfenndesign.com/favorite-sewing-tools/4.7 ไมบ้ รรทดั ต้นแบบแพทเทริ ์น (Pattern Master) เป็นไม้บรรทัดต้นแบบทีใ่ ชต้ กแต่งเส้น โค้ง เส้นฉากในแพทเทิรน์ อีกท้ังยังสามารถนาไปใช้ตกแต่งเส้นโครงสร้างต่างๆในตวั แพทเทิรน์ ได้อีกด้วย รปู ที่ 52 ไม้บรรทัดต้นแบบแพทเทิรน์ (Pattern Master) ที่มา : http://www.whitetreefabrics.com/pattern-master.html
Search