§ สรปุ ผ้จู ่ายเงินไดจ้ ะตอ้ งหักภาษีเงนิ ได้ ณ ทจี่ า่ ยของ นาย ก. ใน กรณนี ี้ ดงั นี้ C§ เดือนมกราคม = 926,66 บาท C§ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์ = 796.66 บาท C§ เดือนมนี าคม ถงึ พฤศจกิ ายน เดือนละ = 276.66 บาท C§ เดอื นธันวาคม = 276.73 บาท C
§ ตวั อย่างที่ 5 กรณีนายจา้ งออกเงินค่าภาษีเงนิ ได้แทนให้ ลกู จ้าง สำหรับเงนิ เดอื นหรอื คา่ จา้ งท่ีลูกจ้างไดร้ ับในปภี าษี โดย ลูกจ้างไมต่ อ้ งรบั ภาระในการเสยี ภาษีเงนิ ไดด้ ้วยตนเองเลย (ออกภาษใี หต้ ลอดไป) ตามขอ้ 1 (7) C§ นายลขิ ิตมเี งนิ เดือน ๆ ละ 25,000 บาท มภี รรยาชอบดว้ ย กฎหมาย และบตุ ร กำลังศกึ ษา 1 คน บรษิ ัทออกเงนิ ภาษีให้ ตลอดไป ผจู้ ่ายเงนิ ได้ ตอ้ งหกั ภาษีเงนิ ได้ ณ ทจี่ า่ ย ดังน้ี C
§ วิธีคำนวณ C§ ครัง้ ท่ี 1 C§ เงินเดอื นเสมือนหนึง่ ว่าไดจ้ ่ายทงั้ ปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ หัก คา่ ใช้จ่าย (40 % ไมเ่ กิน 60,000 บาท) = 60,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินได้หลังจากหักค่าใช้จา่ ย = 240,000.- บาท C§ หกั คา่ ลดหยอ่ นส่วนตัว 30,000.- บาท C§ คา่ ลดหยอ่ นคสู่ มรส 30,000.- บาท C§ ค่าลดหย่อนบุตรศึกษา 1 คน 17,000.- บาท = 77,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินไดส้ ทุ ธิ = 186,400.- บาท C§ ภาษที ี่คำนวณไดค้ ร้ังที่ 1 (150,000 ยกเวน้ ) + (36,400 X10%) = 3,640.- บาท C
§ คร้งั ที่ 2 C§ เงนิ เดือนเสมอื นหนง่ึ วา่ ไดจ้ ่ายท้ังปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษีทค่ี ำนวณได้ครั้งท่ี 1 = 3,640.- บาท C§ รวมเงินได้พึงประเมิน = 303,640.- บาท C§ หัก ค่าใช้จา่ ย (40 % ไม่เกนิ 60,000 บาท) = 60,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลังจากหกั ค่าใช้จ่าย = 243,640.- บาท C§ หกั ค่าลดหย่อน (30,000 + 30,000 + 17,000) = 77,000.- บาท C§ คงเหลือเงินได้สทุ ธิ = 166,640.- บาท C§ ภาษีทคี่ ำนวณได้ครง้ั ท่ี 2 (150,000 ยกเวน้ ) + (16,640 X10%) = 1,664.- บาท C
§ คร้งั ที่ 3 C§ เงนิ เดือนเสมือนหนึ่งว่าไดจ้ า่ ยทง้ั ปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษที ่ีคำนวณได้ครง้ั ที่ 2 = 1,664.- บาท C§ รวมเงนิ ได้พึงประเมิน = 301,664.- บาท C§ หกั ค่าใชจ้ ่าย (50 % ไมเ่ กิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลงั จากหกั ค่าใช้จ่าย = 401,664.- บาท C§ หกั ค่าลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท C§ คงเหลือเงนิ ไดส้ ทุ ธิ = 211,664.- บาท C§ ภาษีทีค่ ำนวณไดค้ ร้ังที่ 3 (150,000 ยกเวน้ ) + (61,644 X5%) = 3,082.20 บาท C
§ ครง้ั ที่ 4 C§ เงินเดอื นเสมอื นหนึ่งว่าได้จา่ ยทง้ั ปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษที ่คี ำนวณได้คร้งั ท่ี 3 = 1,466.40 บาท C§ รวมเงินไดพ้ งึ ประเมิน = 301,466.40 บาท C§ หัก คา่ ใชจ้ า่ ย (50 % ไม่เกนิ 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงนิ ไดห้ ลงั จากหักคา่ ใชจ้ ่าย = 201,466.40 บาท C§ หกั คา่ ลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) =180,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินได้สุทธิ = 21,466.40 บาท C§ ภาษที ่คี ำนวณไดค้ ร้ังท่ี 4 (150,000 ยกเว้น) C
§ ครั้งท่ี 5 C§ เงนิ เดือนเสมอื นหนึง่ วา่ ได้จา่ ยท้ังปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษีที่คำนวณไดค้ รัง้ ที่ 4 = 1,446.64 บาท C§ รวมเงนิ ได้พงึ ประเมิน = 301,446.64 บาท C§ หกั ค่าใชจ้ ่าย (50 % ไมเ่ กนิ 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินได้หลังจากหกั คา่ ใช้จ่าย = 241,446.64 บาท C§ หัก คา่ ลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท§ คงเหลอื เงินไดส้ ทุ ธิ = 61,446.64 บาท C§ ภาษีที่คำนวณได้คร้ังท่ี 5 (150,000 ยกเวน้ )C
§ คร้งั ที่ 6 C§ เงินเดือนเสมอื นหนึง่ ว่าได้จา่ ยทง้ั ปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษีที่คำนวณได้ครั้งท่ี 5 = 1,444.66 บาท C§ รวมเงินได้พงึ ประเมนิ = 301,444.66 บาท C§ หัก ค่าใชจ้ า่ ย (50 % ไมเ่ กนิ 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลังจากหกั ค่าใช้จ่าย = 201,444.66 บาท C§ หัก ค่าลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินไดส้ ทุ ธิ = 21,444.66 บาท C§ ภาษีท่ีคำนวณได้ครัง้ ท่ี 6 (150,000 ยกเวน้ ) C§ C
§ คร้งั ที่ 7 C§ เงินเดือนเสมอื นหนึง่ ว่าได้จา่ ยทั้งปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษีที่คำนวณได้ครั้งที่ 6 = 1,444.47 บาท C§ รวมเงินได้พงึ ประเมนิ = 301,444.47 บาท C§ หัก ค่าใชจ้ า่ ย (50 % ไมเ่ กิน 60,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดห้ ลังจากหกั ค่าใชจ้ ่าย = 201,444.47 บาท C§ หัก ค่าลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินไดส้ ทุ ธิ = 21,444.47 บาท C§ ภาษีท่ีคำนวณได้ครัง้ ท่ี 7 (150,000 ยกเว้น)C§ C
§ ครง้ั ท่ี 8 C§ เงนิ เดอื นเสมือนหน่งึ ว่าได้จ่ายทง้ั ปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษที ่คี ำนวณได้คร้ังท่ี 7 = 1,444.45 บาท C§ รวมเงนิ ได้พงึ ประเมนิ = 301,444.45 บาท C§ หกั ค่าใช้จ่าย (50 % ไมเ่ กิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลอื เงินได้หลังจากหักค่าใชจ้ ่าย = 201,444.45 บาท C§ หัก คา่ ลดหยอ่ น (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดส้ ทุ ธิ = 21,444.45 บาท C§ ภาษที ค่ี ำนวณได้คร้งั ท่ี 8 (150,000 ยกเวน้ )C
§ ภาษีเงินไดห้ กั ณ ท่จี ่ายแต่ละเดอื น 1,444.45 หาร 12 = 120.37 บาท C§ เหลอื เศษ = .008 บาท C§ จำนวนเงินเหลือเศษใหร้ วมกบั เงินภาษี Cที่จะตอ้ งหักไว้คร้งั สุดท้ายในเดอื นธนั วาคม = 120.37 + (0.008 X 12 ) = 120.47 บาท C§ สรุป ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหกั ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของ นายลขิ ิต ในกรณีน้ี ดงั น้ี C§ เดือนมกราคม ถงึ พฤศจกิ ายน เดือนละ = 120.37 บาท C§ เดือนธันวาคม = 120.47 บาท C
§ ตวั อยา่ งที่ 6 กรณีนายจ้างออกเงนิ คา่ ภาษีเงินไดแ้ ทนให้ ลกู จ้าง สำหรับเงินเดือนหรือคา่ จ้างเป็นจำนวนที่ แนน่ อน (ออก ภาษีให้ครั้งเดยี ว) ตามข้อ 1 (8) เช่น เท่ากับจำนวนภาษีเงนิ ไดท้ ่ี จะตอ้ งชำระ C§ จากตัวอยา่ งที่ 5 นายจา้ งออกเงนิ ค่าภาษใี หค้ รง้ั เดียวเป็น จำนวนที่แน่นอน ผจู้ ่ายเงินได้ ต้องคำนวณหักภาษเี งนิ ได้ ณ ท่ี จ่าย ดังน้ี C
§ วิธีคำนวณ C§ ครงั้ ท่ี 1 C§ เงนิ เดอื นเสมือนหนง่ึ วา่ ได้จ่ายทั้งปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ หัก ค่าใช้จา่ ย (50 % ไมเ่ กนิ 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงนิ ได้หลังจากหกั คา่ ใชจ้ า่ ย = 200,000.- บาท C§ หกั ค่าลดหยอ่ น (60,000 + 60,000 + 60,000)=180,000.- บาท C§ คงเหลอื เงนิ ไดส้ ทุ ธิ = 120,000.- บาท C§ ภาษที ่ีคำนวณได้คร้ังที่ 1 (150,000 ยกเว้น) C
§ ครงั้ ที่ 2 C§ เงินเดอื นเสมือนหน่ึงว่าได้จ่ายท้ังปี = 25,000 x 12 = 300,000.- บาท C§ บวก ภาษที คี่ ำนวณได้คร้ังที่ 1 = 1,300.- บาท C§ รวมเงนิ ไดพ้ ึงประเมนิ = 301,300.- บาท C§ หกั คา่ ใชจ้ ่าย (50 % ไมเ่ กิน 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลือเงินได้หลงั จากหกั คา่ ใชจ้ ่าย = 201,300.- บาท C§ หัก ค่าลดหย่อน (60,000 + 60,000 + 60,000) = 180,000.- บาท C§ คงเหลือเงินไดส้ ทุ ธิ = 21,300.- บาท C
§ ภาษที คี่ ำนวณไดค้ ร้งั ที่ 2 (150,000 ยกเวน้ ) + (14,300 X10%) = 1,430.- บาท C§ ภาษีเงนิ ได้หัก ณ ทีจ่ า่ ยแต่ละเดอื น 1,430 หาร 12 = 119.16 บาท C§ เหลือเศษ = .006 บาท C§ จำนวนเงนิ เหลอื เศษให้รวมกบั เงินภาษี C§ ทีจ่ ะต้องหกั ไว้ครัง้ สุดท้ายในเดือนธนั วาคม = 119.16 + (0.006 X 12 ) = 119.23 บาท C§ สรุป ผ้จู า่ ยเงนิ ได้จะตอ้ งหกั ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของ นายลขิ ิต ในกรณนี ้ี ดงั น้ี C§ เดือนมกราคม ถงึ พฤศจิกายน เดอื นละ = 119.16 บาท C§ เดือนธันวาคม = 119.23 บาท C
§ ตัวอยา่ งที่ 7 การคำนวณภาษหี ัก ณ ทีจ่ า่ ย ใหถ้ ูกต้องครบถว้ นตาม หลกั ฐานการหักค่าลดหย่อนท่ีแท้จริงที่ผมู้ เี งนิ ไดน้ ำมาแสดง กรณผี ู้มี เงินได้ออกจากงานในระหว่างปภี าษี ตามขอ้ 3 C§ จากตัวอยา่ งท่ี 1 นาย ก. ไดล้ าออกจากงานวันท่ี 30 มถิ นุ ายน 2552 และไมส่ ามารถนำหลกั ฐานการจา่ ยเบย้ี ประกนั ชีวติ จำนวน 9,600 บาท ทแ่ี จง้ รายการขอหักลดหย่อนไว้ต่อผ้จู ่ายเงินได้มาแสดงได้ แตไ่ ดน้ ำใบ เสรจ็ รับเงิน ดอกเบยี้ เงินกยู้ ืมทจ่ี า่ ยในแตล่ ะเดือนมาแสดงจำนวน 12,000 บาท ผู้จา่ ยเงนิ ไดต้ อ้ ง คำนวณภาษีเงินไดห้ ัก ณ ทจ่ี ่ายเดือน มิถุนายน 2552 ดงั นี้ C
§ วิธคี ำนวณ <§ เงนิ เดือนเสมอื นหนึง่ วา่ ไดจ้ ่ายทง้ั ปี = 30,000 x 12 = 360,000.- บาท C§ หกั ค่าใชจ้ ่าย (50 % ไม่เกนิ 100,000 บาท) = 100,000.- บาท C§ คงเหลอื เงนิ ได้หลงั จากหกั คา่ ใชจ้ า่ ย = 260,000.- บาท C
§ หัก คา่ ลดหย่อนส่วนตัว 60,000.- บาท C§ ค่าลดหย่อนคู่สมรส 60,000.- บาท C§ คา่ ลดหยอ่ นบุตรศึกษา 2 คน 60,000.- บาท C§ ค่าลดหยอ่ นดอกเบยี้ เงนิ กู้ยืมฯ 12,000.- บาท = 192,000.- บาท C§ คงเหลือเงินได้สุทธิ = 68,000.- บาท C§ ภาษเี งนิ ไดท้ งั้ ปี (150,000 ยกเวน้ ) C§ ภาษีเงินไดห้ กั ณ ทจ่ี ่ายแต่ละเดือน 4,400 หาร 12 = 366.66 บาท C§ ภาษีท่ีนำส่งไว้ขาดแตล่ ะเดอื น (366.66 - 276.66 ) = 90.- บาท C
§ จำนวนเดอื นทส่ี ่งไว้ขาด คอื 5 เดอื น (มกราคม - พฤษภาคม) C§ ภาษที ต่ี ้องนำสง่ เดอื นมิถุนายน 366.66 + (90.00 X 5) = 816.66 บาท C§ *** สรุป ผจู้ ่ายเงินได้จะต้องหกั ภาษีเงนิ ได้ ณ ทจ่ี า่ ยของ นาย ก. ใน กรณีน้ี ดังน้ี C§ เดอื นมกราคม ถึง พฤศจิกายน เดอื นละ = 366.66 บาท C§ เดือนธนั วาคม = 276.73 บาท C
.จบการบรรยาย . . ขอบคณุ คะ่ .
Search
