Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานผลการปฏิบัติงานสุภัสสรปี63รอบ1

รายงานผลการปฏิบัติงานสุภัสสรปี63รอบ1

Published by kon85 m38, 2021-03-12 08:26:48

Description: รายงานผลการปฏิบัติงานสุภัสสรปี63รอบ1

Search

Read the Text Version

1 แบบรายงานผลการปฏิบัตงิ านเพื่อประกอบการพจิ ารณา การเลื่อนขั้นเงนิ เดือน ครั้งที่ 1 (1 เมษายน 256๓) นางสภุ ัสสร ศรีสวสั ด์ิ ตาแหน่ง รองผอู้ านวยการสถานศึกษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์31

2 แบบรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านเพื่อประกอบการพิจารณาการเล่อื นขั้นเงินเดือน ครั้งท่ี 1 (1 เมษายน 256๓) ของรองผู้อานวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ต.ชา่ งเคง่ิ อ.แม่แจ่ม จงั หวดั เชียงใหม่ 1. ข้าพเจา้ นางสภุ สั สร ศรสี วสั ด์ิ ดารงตาแหนง่ ณ สถานศึกษาปัจจุบนั ๖ เดอื น 2. วฒุ ิการศกึ ษา ปริญญาโท(ศศ.ม.) บรหิ ารการศึกษา 3. ปจั จบุ นั ดารงตาแหน่ง รองผูอ้ านวยการสถานศึกษา วทิ ยฐานะ ชานาญการ ตาแหนง่ เลขที่ ๑๒๔๑๕๕ ขัน้ ๓๓,๑๐๐ บาท ใน ค รึ่ ง ปี ท่ี แ ล้ ว ม า ล า กิ จ - ค ร้ั ง ล า ป่ ว ย ๒ ค ร้ั ง - วั น ร ว ม - ค รั้ ง - วั น ในครงึ่ ปที แ่ี ล้วมาจนถึงปัจจบุ ัน  อยรู่ ะหว่างสอบสวนทางวินยั  ไมอ่ ยู่ระหว่างสอบสวนทางวนิ ัย  ถูกลงโทษทางวินัย  ไม่ถกู ลงโทษทางวินยั  ถกู ฟอ้ งคดีอาญา  ไม่ถกู ฟอ้ งคดีอาญา 4. ข้อมูลการเลอื่ นข้นั เงนิ เดือนย้อนหลังรวมทั้งปี ( 2 ขัน้ / 1.5 ขัน้ / 1 ขน้ั / 0.5 ขน้ั ) ในรอบ 5 ปที ี่ ผ่านมา วนั เดอื น ปี ผลการพิจารณาเล่อื นข้นั เงินเดอื น 5.5 1 1.5 รอเลอื่ น 5. ผลการปฏิบตั ิงานดีเด่น หรอื เคยไดร้ บั เกียรติประวตั ิดเี ด่น ท่ีเก่ยี วข้องกับการจัดการศึกษา ท่เี กดิ จากการ ปฏิบตั ิงานในหนา้ ที่ในรอบ 6 เดือนทแี่ ลว้ มา ( 1 ตลุ าคม 256๓ – 31 มีนาคม 256๔ ) 5.1 ตอนท่ี 1 การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธผิ ลการปฏิบตั งิ าน (70 คะแนน) 1. ด้านการกาหนดนโยบายการบริหารจดั การสถานศกึ ษา (18 คะแนน) ซงึ่ มี ขอบข่ายภาระงานดังนี้

3 1) จัดระบบการประกันคุณภาพ และนาผลการประเมนิ ไปใชพ้ ฒั นาคุณภาพ สถานศกึ ษา (10 คะแนน) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีการจัดระบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศึกษา เป็นระบบที่สถานศึกษาร่วมกับชุมชนและหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ภายใต้การกากับ ดูแลและ สนับสนุนส่งเสริมของหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อสร้างความม่ันใจท่ีตั้งอยู่บนพื้นฐานของหลักวิชา ข้อมูล หลักฐาน ที่ตรวจสอบได้ และการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้องว่า ผู้เรียนทุกคนจะได้รับบริการด้าน การศึกษาท่ีมีคุณภาพจากสถานศึกษา เพ่ือพัฒนาความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ตามที่ กาหนดในมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๔ และมาตรฐานการศึกษาและตัวบ่งช้ี เพื่อการประเมนิ คุณภาพภายนอก ระดับการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน รอบที่สี่ จดั ระบบการประกนั คณุ ภาพ และนาผลการประเมินไปใช้พัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยสถานศึกษายึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องโดยการส่งเสริม สนับสนนุ และกากับ ดูแลของหนว่ ยงานต้นสังกดั ประกอบดว้ ย 1) การจดั ระบบบรหิ ารและสารสนเทศ ดว้ ยการทาจดั โครงสรา้ งการบรหิ ารจดั การ ให้เอ้ือต่อการดาเนินงาน ทุกคนมีส่วนร่วมและมีการประชาสัมพันธ์กับทุกฝ่ ายท่ีเกี่ยวข้อง แต่งต้ัง คณะกรรมการเพ่ือกาหนดแนวทางให้ความเห็นและข้อเสนอแนะและแต่งต้ังคณะบุคคลทาการตรวจสอบ ทบทวนและรายงานคณุ ภาพการศึกษา และจัดให้มีขอ้ มูลทเี่ พียงพอในการดาเนนิ งานพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษา เพื่อนามากาหนดวิสัยทศั น์ ภารกิจและแผนพฒั นา 2) การพัฒนามาตรฐานการศึกษา โดยมุ่งเน้นมาตรฐาน ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ สอดคล้องกับมาตรฐานชว่ งชน้ั ทหี่ ลกั สูตรกาหนด

4 3) การจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้วยการจัดทาแผนอย่างเป็นระบบพื้นฐานของ ข้อมูลสถานศึกษา ซ่ึงประกอบด้วย เป้าหมาย ยุทธศาสตร์ และแนวปฏิบัติที่ชัดเจน สมบูรณ์ ครอบคลุม การพัฒนาทุกกิจกรรมท่ีเป็นส่วนประกอบหลักของการจัดการศึกษาและเป็นที่ยอมรับร่วมกันของทุกฝ่ายที่ เกี่ยวข้องนาไปปฏิบัติ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของแต่ละกิจกรรมที่กาหนดอย่างสอดรับกับวิสัยทัศน์และ มาตรฐานหลกั สตู รการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน 4) การดาเนินงานตามแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา โดยการกากับ ติดตามการดาเนินงาน อย่างต่อเน่ืองให้บรรลุเป้าหมาย ตามแผนพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาท่ีกาหนดไว้โดยจัดทาแผนปฏิบัติการ ประจาปีทชี่ ดั เจนครอบคลมุ งาน/โครงการของสถานศึกษา 5) การตรวจสอบและทบทวนคุณภาพการศึกษา จะประกอบด้วยการตรวจสอบและ ทบทวนภายในโดยบุคลากรในสถานศึกษาดาเนนิ การและการตรวจสอบและทบทวนจากหนว่ ยงานตน้ สงั กดั 6) การประเมินคุณภาพการศึกษา โดยมุ่งเน้นการประเมินผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนในระดับชั้น ไดแ้ กป่ ระถมศกึ ษาปที ่ี 3 และ 6 ในวิชาแกนร่วมโดยใชแ้ บบทดสอบมาตรฐาน จากหน่วยงานส่วนกลางร่วมกับ ต้นสงั กดั ดาเนินการ 7) การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี เป็นการนาข้อมูลผลการประเมินมาตรฐาน คุณภาพ การตรวจสอบและทบทวนภายในและภายนอก มาประมวลรายงานผลการพัฒนาคุณภาพประจาปี การศึกษาซงึ่ จะนาไปใชเ้ ป็นข้อมลู สาหรับการวางแผนพัฒนาคุณภาพต่อไป 8) การผดุงระบบการประกันคุณภาพการศึกษา เป็นกลไกส่วนหนึ่งของระบบประกัน คุณภาพภายใน เพ่ือให้ข้อมูลย้อนกลับเพ่ือการส่งเสริม พัฒนาและประเมินประสิทธิภาพการดาเนินงานของ ระบบประกันคณุ ภาพ แนวการดาเนินการตามขัน้ ตอนการประกนั คณุ ภาพการศกึ ษา การควบคมุ คณุ ภาพการศกึ ษา (Quality Control) 1. การศึกษา และเตรยี มการ มีแนวการดาเนินการ ดงั น้ี 1.1 ต้งั คณะทางาน และพัฒนาระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษา 1) ศกึ ษาแนวคิด รูปแบบ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา 2) พฒั นาระบบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา โดยกาหนดรูปแบบที่ สถานศกึ ษาสามารถปฏิบตั ไิ ดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 3) จัดทาสื่อ เอกสาร คมู่ ือ และเครอื่ งมือตา่ ง ๆ เพ่อื คณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา 1.2 ให้การศึกษาแกค่ รู และบุคลากรท่ีเกีย่ วขอ้ งเพอื่ สรา้ งความเข้าใจ 1) สร้างความรู้ ความเขา้ ใจ ใหเ้ กิดความตระหนกั และเหน็ ความสาคัญของการประกนั คุณภาพการศึกษา เพื่อทุกคนจะได้ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงานต่าง ๆ เพ่ือคุณภาพการศึกษาของ สถานศกึ ษา 2) ให้ชว่ ยกนั สรา้ งแนวคดิ การประกันคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษาและกาหนด รูปแบบการดาเนินงานทเ่ี หมาะสมกับสถานศกึ ษา 1.3 ตั้งคณะกรรมการ และคณะอนกุ รรม ในการดาเนินการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา

5 เพ่อื ให้การดาเนนิ งานเกดิ ความคลอ่ งตวั 1) กาหนดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบงานตา่ ง ๆ ที่สถานศึกษาตอ้ งจัดทาเพอ่ื การ ประกันคณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 2) การสร้างทีมงานต่าง ๆ ของสถานศึกษาให้เข้มแขง็ 3) การพัฒนาความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานต่าง ๆ เพื่อการประกนั คุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษา 2. การวางแผนการประกันคุณภาพการศึกษา โดยวางแผนการดาเนินการประกันคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา โดย การมสี ว่ นร่วมของทุกฝ่าย 2.1 กาหนดมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา ทเ่ี ป็นการกาหนดจากมาตรฐาน การศึกษาข้ันพ้นื ฐาน และมาตรฐานการศกึ ษาของหน่วยงานตน้ สังกดั มีขั้นตอน ดงั นี้ 1) ต้งั คณะทางานร่างมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2) ประชุมพจิ ารณา ความเหมาะสมของรา่ งมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 3) ปรบั ปรุง และจัดทาเปน็ มาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษามาให้ทุกคน ของสถานศึกษานาไปเปน็ แนวทางในการพัฒนาสถานศกึ ษา ใหเ้ ขา้ สูม่ าตรฐานของสถานศกึ ษาตอ่ ไป 2.2 จัดทามาตรฐานการปฏิบตั งิ านตา่ ง ๆ ของสถานศกึ ษาเพื่อควบคมุ ใหผ้ ู้รับผดิ ชอบงานคุณภาพ ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐาน และตัวช้ีวัดท่ีกาหนดปฏิบัติงานอย่างมีคุณภาพ สม่าเสมอตลอดเวลา มี ข้ันตอน ดังน้ี 1) ตง้ั คณะทางานร่างมาตรฐานการปฏิบตั งิ าน สาหรับงานต่าง ๆ ทวี่ ิเคราะห์มาจาก มาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2) จดั ประชมุ พิจารณาทบทวน และรับรองมาตรฐานการปฏิบัติงานท่ีเขยี นขึ้น พร้อมกับ ปรับปรุงแก้ไขใหเ้ หมาะสมกบั การปฏบิ ัตงิ านในสถานศกึ ษา 3) จดั ทาเปน็ มาตรฐานการปฏิบตั ิงานของสถานศกึ ษาและประกาศให้ทกุ คนนาไปปฏิบัติ 2.3 สรา้ งเคร่ืองมือประเมนิ คุณภาพการศึกษา ตามมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาของสถานศึกษาท่ี กาหนดขึ้น เพ่ือเก็บรวบรวมข้อมูลคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา มาจัดทาเป็นข้อมูลพื้นฐานของ สถานศึกษา ท่จี ะใช้ในการหาจดุ ที่จะพัฒนาสถานศกึ ษาตอ่ ไป มีขัน้ ตอนดังน้ี 1) ตง้ั กรรมการสร้างเคร่ืองมือเก็บรวบรวมข้อมูลพืน้ ฐานของสถานศึกษา ตามมาตรฐาน คณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา 2) ดาเนินการสรา้ งเครื่องมอื เก็บรวบรวมขอ้ มลู ตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของ สถานศึกษา 3) ตรวจสอบคณุ ภาพของเคร่อื งมือเกบ็ รวบรวมข้อมูล 4) จัดเก็บเครื่องมือเพื่อการนาไปใชต้ อ่ ไป 2.4 ประเมินสภาพปจั จุบนั หรอื เกบ็ ข้อมลู สภาพปจั จบุ นั ของสถานศึกษา โดยใช้เคร่อื งมอื ประเมนิ คุณภาพการศกึ ษาทสี่ ร้างข้ึนในข้อ 1.2 มีข้ันตอน ดังนี้

6 1) วางแผนกาหนดการประเมินคณุ ภาพการศกึ ษาภายในสถานศึกษา ตลอดปี การศกึ ษา 2) แต่งตั้งคณะกรรมการประเมนิ คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา เป็นคณะ โดยใหม้ กี ารประเมนิ ข้ามฝ่าย เพอ่ื ปอ้ งกันการประเมินทไี่ ม่เป็นธรรม หาข้อบกพร่องของการปฏิบตั งิ าน เพ่ือช่วยกนั แกไ้ ข ใหง้ านนั้น ๆ มีคุณภาพ และป้องกันไมใ่ หข้ อ้ บกพร่องนน้ั ๆ เกิดขนึ้ อกี 3) เตรียมเคร่ืองมือประเมนิ โดยรวบรวมเคร่อื งมือประเมนิ ท่ีเก่ียวกบั นักเรยี น หรอื ครู หรอื ผู้ปกครอง ฯลฯ ใหเ้ ปน็ ฉบบั เดียวกันสาหรับแตล่ ะกลุ่ม เพื่อใช้การประเมินเพียงครั้งเดียว แลว้ ทา ให้ได้ข้อมูลทุกมาตรฐาน และตัวชี้วัด ท่ีเกี่ยวขอ้ งกับกลุ่มน้ัน ๆ อย่างครบถ้วน ท้ังน้ีเพ่ือไม่ให้เกิดความราคาญ แก่ผู้ให้ขอ้ มูล 4) ดาเนินการประเมนิ และสรุปผลการประเมนิ ตามมาตรฐาน และตัวช้ีวัด 2.5 จดั ทาสารสนเทศ หรือข้อมูลพื้นฐานสภาพปจั จบุ นั ของสถานศึกษา โดยนาผลการประเมิน คณุ ภาพการศึกษาของสถานศึกษา มาจัดทาข้อมูลพ้ืนฐานแสดงผลการปฏบิ ตั งิ านของสถานศึกษา โดยการจดั กลมุ่ ของข้อมลู ตามมาตรฐานและตัวช้ีวดั คณุ ภาพการศกึ ษาของสถานศึกษา 2.6 จดั ทาแผนกลยุทธ์ของสถานศกึ ษา หรอื แผนพฒั นาสถานศกึ ษา มีขั้นตอน ดงั น้ี 1) ต้ังคณะทางานร่างแผนกลยทุ ธ์หรอื แผนพฒั นาสถานศึกษา 2) สารวจความต้องการของผู้ปกครอง ชมุ ชน สังคม ตรวจสอบนโยบายของ กระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สภาพ ขีดความสามารถของสถานศึกษา และผลการประเมินคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาสาหรับมาตรฐาน และตัวชี้วัดคณุ ภาพทีย่ ังต้องปรับปรุง มาเปน็ ขอ้ มลู หน่งึ ในการจัดทาแผนพฒั นาสถานศึกษา จดั ทาแผนปฏิบัติ ราชการประจาปี ตามแผนกลยุทธข์ องสถานศึกษา 3) ร่างแผนกลยทุ ธส์ ถานศึกษาระยะ 3 ปี 4) ประชมุ คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พจิ ารณาให้ข้อเสนอแนะ 5) ปรบั ปรงุ รา่ งแผนกลยุทธ์ สถานศึกษา 6) ส่งใหผ้ ูเ้ กยี่ วขอ้ งให้ความเห็นชอบและลงนาม 7) ประกาศใช้เป็นแผนพัฒนาสถานศึกษาตอ่ ไป 2.7 จดั ทาแผนปฏิบัติการประจาปีตามแผนกลยทุ ธ์ของสถานศกึ ษา โดยการนากลยทุ ธ์และ กิจกรรมในแต่ละปกี ารศึกษา ทีก่ าหนดไวใ้ นกลยทุ ธ์สถานศกึ ษา ไปวางแผนการปฏบิ ตั ิราชการประจาปี ซึง่ อาจจะมขี ้ันตอนการดาเนนิ งาน ตอ่ ไปนี้ 1) แตง่ ต้งั คณะทางาน รา่ งกาหนดกรอบแผนงาน โครงการของสถานศกึ ษา 2) ประชมุ พิจารณากรอบแผนงาน โครงการ และงบประมาณ 3) ให้ทกุ ฝ่าย/กลุ่มสาระการเรียนร/ู้ งาน รว่ มกนั วางแผนปฏิบตั ิการของตน 4) ประชุมชแี้ จง พิจารณารา่ งแผนปฏิบตั ิราชการ 5) ปรับปรุง และจัดทาแผนปฏบิ ตั ิราชการการทสี่ มบรู ณ์ 6) ขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน

7 7) จัดทาเป็นแผนปฏบิ ัตริ าชการประจาปขี องสถานศกึ ษา 3. การดาเนนิ การประกนั คุณภาพการศึกษา มีขนั้ ตอนการดาเนนิ การ ดังนี้ 3.1 ทบทวนการประกนั คุณภาพการศกึ ษา โดยทบทวนงานต่าง ๆ ทส่ี ถานศึกษาได้ทาการวางแผนไว้ ใหท้ กุ คนเขา้ ใจ และนาไปปฏบิ ัติ 3.2 ปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏบิ ตั ิงานของสถานศึกษา และตามแผนปฏบิ ัติราชการของ สถานศกึ ษาโดยดาเนนิ การ ดังน้ี 1) ใหผ้ เู้ ก่ยี วขอ้ งและผู้รับผิดชอบปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานการปฏบิ ัตงิ านของสถานศึกษา ท่รี บั ผดิ ชอบ และปฏิบตั งิ านตามแผน/โครงการ ทร่ี บั ผดิ ชอบให้เตม็ ความสามารถ พร้อมเก็บรวบรวมหลักฐาน การปฏบิ ัตงิ านไว้อย่างเป็นระบบ ทคี่ ้นหาง่าย รวดเร็ว 3) ติดตามการปฏบิ ัติงานตามมาตรฐานการปฏิบตั งิ าน และติดตามการทางานตาม โครงการที่ไดร้ บั มอบหมาย 3) แก้ไข ปรับปรงุ ข้อบกพรอ่ งทพี่ บจากการติดตามการปฏิบัติงาน 3.3 นเิ ทศ กากับ ติดตามผลการดาเนนิ งานตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ระหว่าง ทที่ กุ ฝ่ายของสถานศึกษาได้ดาเนนิ งานไป ขณะเดยี วกัน กช็ ่วยกันแก้ไขปญั หาท่เี กิดขึน้ ให้สาเรจ็ ลุลว่ งไป เพื่อให้คณุ ภาพของสถานศึกษาเขา้ สู่มาตรฐานที่กาหนดไวเ้ ร็วขน้ึ การตรวจสอบ ทบทวน และปรบั ปรุงคณุ ภาพ 4. การตรวจสอบ และทบทวนคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา โดยดาเนินการ ดังนี้ 4.1 แต่งต้งั คณะกรรมการมาตรวจสอบคณุ ภาพการศึกษาของถานศกึ ษา 4.2 กาหนดระยะเวลา และแนวทางการตรวจสอบ หรือวางแผนการตรวจสอบ ซ่ึงการตรวจสอบ และทบทวนคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา สถานศึกษาควรทาการตรวจสอบ ท้ังการปฏิบัติงานตาม มาตรฐานการปฏิบัติงาน และตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษา (มาตรฐานและตัวชวี้ ดั ) ของสถานศึกษาดว้ ย 4.3 ดาเนินการตรวจสอบตามแผนที่วางไว้ สาหรับการประเมินสภาพของสาถนศึกษาตามมาตรฐาน คุณภาพการศึกษาของสาถานศึกษาครั้งที่ ๓ หลังจากได้ปฏิบัติงานตามมาตรฐานการปฏิบัติงานของ สถานศกึ ษา ไปได้ระยะเวลาหน่ึง โดยนาเครอื่ งมือประเมินคุณภาพการศึกษาที่สรา้ งข้ึนมาแล้วในข้อ 1.3 ของ ขั้นตอนท่ี 2 (การวางแผนฯ) และทาการประเมินคุณภาพการศึกษา ดังข้อ 1.4 และจัดทาสารสนเทศหรือ ข้อมูลพื้นฐานของสถานศึกษาครั้งที่ 2 ตามข้อ 1.5 ของขั้นตอนท่ี 2 (การวางแผนฯ) ท้ังนี้เพ่ือตรวจสอบ ความกา้ วหนา้ ของตัวชี้วัด และมาตรฐานคุณภาพการศึกษา ท่ีบกพรอ่ งที่พบจากการประเมินคร้ังที่ ๒ และเพ่ือ ตรวจสอบ และแก้ไขส่ิงทย่ี ังไมเ่ ปน็ ไปตามมาตรฐานคณุ ภาพการศึกษาต่อไป

8 5. การพัฒนาและการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของสถานศกึ ษา 5.1 ปรับปรุง แก้ไขการปฏิบตั ิงานทีพ่ บว่าไมเ่ ป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน และมาตรฐาน คุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา 5.2 ตดิ ตาม ตรวจสอบแก้ไขปรับปรุงการปฏิบตั ิงานที่ไมเ่ ป็นไปตามมาตรฐานการปฏิบัติงานและ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ตามระยะเวลาทเ่ี หมาะสมท่ีผ้ปู ฏบิ ตั ไิ ด้กาหนดไวว้ ่าจะแก้ไขเสร็จ ท้งั น้ี เพ่ือให้แน่ใจว่า ข้อบกพร่องที่พบ ได้รับการแก้ไขอย่างจรงิ จัง 5.3 สรุปผลการตรวจสอบ และรายงานผลการตรวจสอบการประกนั คณุ ภาพการศึกษาของ สถานศกึ ษาโดยการจดั ทารายงานผลการประเมนิ ตนเอง (SAR) 5.4 สาหรบั งานทีม่ คี ุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนดไว้ ใหพ้ ฒั นาการปฏบิ ัตงิ านให้มี ประสิทธภิ าพดยี ิง่ ๆ ข้ึนต่อไป การประเมนิ และรบั รองคุณภาพ 6. การเตรียมการเพื่อรบั การประเมนิ จากสานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา โดย ดาเนนิ การ ดังน้ี 6.1 ผู้เก่ียวข้องจัดเตรียมหลักฐานการปฏิบัติงาน และข้อมูลต่าง ๆ ตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษา ขน้ั พื้นฐาน และรายงานการประเมนิ ตนเองไวล้ ่วงหน้าให้พร้อม เพื่อรบั การประเมินจากองคก์ รภายนอก ท่ีเป็น ผแู้ ทนสานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา ตามกาหนดระยะเวลาท่ีองค์กรภายนอกจะ มาประเมินคณุ ภาพของสถานศึกษา 6.2 รับการประเมินจากองค์กรภายนอก โดยองค์กรภายนอก จะทาการประเมินคุณภาพของ สถานศึกษาตามมาตรฐานคุณภาพการศึกษาข้ันพ้ืนฐานทั้ง ๓ มาตรฐาน ซึ่งเม่ือองค์กรภายนอกจัดส่งรายงาน ขอ้ เท็จจรงิ ดังกล่าวใหก้ ับสานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา 6.3 ถ้าสานักงานรับรองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษา พิจารณารายงานข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่า สถานศึกษามีคุณภาพผ่านเกณฑ์มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครบถ้วนทั้ง ๓ มาตรฐาน กจ็ ะให้ การรับรองมาตรฐานคุณภาพการศกึ ษาของสถานศกึ ษา ซึ่งหมายความว่าสถานศึกษาได้รับการรบั รองคุณภาพ การศึกษาจากสานักงานรบั รองมาตรฐาน และประเมินคุณภาพการศึกษาแล้ว ซ่ึงการรบั รองดังกล่าวจะมีอายุ 5 ปี คือ เม่ือครบ 5 ปี สถานศึกษาจะต้องถูกประเมินคุณภาพาใหม่ท้ังหมด ๓ มาตรฐาน อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่สถานศึกษาได้รับใบรับรองคุณภาพการศึกษา องค์กรภายนอกจะมาทาการประเมินคุณภาพ การศกึ ษาของสถานศกึ ษาอย่างสมา่ เสมอ ตลอดเวลา 6.4 ถา้ สถานศึกษาไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินคณุ ภาพตามมาตรฐานการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน สถานศกึ ษา ต้องปรับปรุงคุณภาพของสถานศึกษาให้ได้มาตรฐาน ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการประเมินกาหนดแล้วข้อ รับการประเมินใหม่ แต่ถ้าถึงระยะเวลาที่กาหนดแล้วสถานศึกษายังมีการพัฒนายังไม่ถึงเกณฑ์ สานักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ต้องรายงานต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน เพ่ือให้ ดาเนินการปรับปรุงแก้ไข ตามมาตรา 51 ของหมวด 6 ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ.2545

9 การประเมินภายในสถานศกึ ษา การประเมินภายใน (Internal Evaluation) เปน็ กระบวนการประเมินผลการดาเนนิ งานของ หน่วยงานที่กระทาโดยบุคลากรในหน่วยงาน หรือผู้ท่ีเก่ียวข้อง อย่างต่อเนื่อง เพ่ือให้ได้ข้อมูลมาใช้ในการ ปรับปรุงพัฒนาการดาเนินงานให้บรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ ซึ่งการประเมินภายในน้ีถือเป็นกระบวนการ ตรวจสอบการทางานของตนเอง (Self-evaluation) สถานศึกษาควรกาหนดให้การประเมินภายใน เป็น กิจกรรมหน่ึงที่ต้องปฏิบัติอย่างต่อเน่ืองของสถานศึกษา และถ้าโรงเรียนจัดทามาตรฐานการปฏิบัติงานแล้ว ดงั นัน้ ในการประเมินคุณภาพการจดั การศึกษาของโรงเรียนควรดาเนนิ การประเมนิ 2 ลักษณะ ไดแ้ ก่ 1. ประเมินผลการปฏบิ ตั ิงานตามมาตรฐานการศกึ ษาระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน 2. ประเมนิ การปฏิบตั ิงานตามมาตรฐานการปฏิบัตงิ านของทุกฝ่ายในโรงเรยี น เพ่ือให้ โรงเรยี นมีการดาเนินงานมีคุณภาพอย่างสมา่ เสมอ 2) กาหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบาย และแผนกลยุทธ์(4 คะแนน) วิสยั ทัศนโ์ รงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ภายในปีพ.ศ.๒๕๖๒ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีระบบการจัดการศึกษาทีม่ ี คณุ ภาพ มีครมู อื อาชีพ ผเู้ รียนมคี ณุ ลกั ษณะตามหลักสูตรและเปน็ ศูนย์การเรียนร้ตู ามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง อตั ลกั ษณ์ของโรงเรียน “จงรักภกั ดี มคี ุณธรรม นอ้ มนาแนวทางพระราชดาริ” เอกลกั ษณ์ของโรงเรียน “สืบสานพระราชปณิธาน สร้างคนดสี ู่สังคม ” คาขวญั “รักศักดศ์ิ รี มคี ุณธรรม นาวิชาการ สบื สานงานพระราชดาริ” สร้างความสัมพันธแ์ ละการมสี ่วนร่วมของครูบุคลากรในสถานศกึ ษา ผปู้ กครอง ชมุ ชน และสงั คม(4 คะแนน) โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ สง่ เสริมสร้างความสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของครบู ุคลากรใน สถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ชมุ ชน และสงั คมอย่างต่อเน่ือง เพื่อการอนุเคราะห์ช่วยเหลือซงึ่ กันและกนั ในทกุ มติ ิ เพอ่ื ให้สถานศึกษาและกระบวนการการศึกษาภายในมคี วามเขม้ แขง็

10 คณะกรรมการสถานศึกษารว่ มกิจกรรมงานโรงเรยี นทกุ ครงั้ และคณะครกู ร็ ว่ มกิจกรรมของชมุ ชนไมเ่ คยขาด เชน่ กันเสมอื นดงั่ สงั คมไทยในอดีตที่สงเคราะห์กันและกัน

11 2. ด้านการบริหารการจัดการเรยี นรู้ (20 คะแนน) ซงึ่ มขี อบขา่ ยภาระงานดังน้ี 1) บรหิ ารการพัฒนาหลกั สตู ร(4 คะแนน) โรงเรยี นไดม้ กี ารประชมุ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพอ่ื ศึกษา ทบทวน ความรู้เก่ียวกับโครงสร้างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 2551 ที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ สอดคล้องกับสถานการณ์ มาปรับประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของสถานศึกษา โดยร่วมมือกันจัดทา หลักสูตรสถานศึกษา หลักสูตรท้องถิ่น ที่สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่ปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 256๓ 2) บรหิ ารจดั การกระบวนการเรียนรู้(4 คะแนน) โรงเรียนดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญโดยทุกระดับช้ัน ให้ ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง สนับสนุนให้ครูจัดการเรียนรู้ด้วยการน้อมนาศาสตร์พระราชามาบูรณาการในการ จัดการเรียนรู้ในทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้เหมาะสมตามช่วงวัย และโรงเรียนมีการส่งเสริมด้วยโครงการ พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนแบบบูรณาการทักษะชีวิต ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและศาสตร์ของพระราชา ประจาปีการศึกษา 256๓ เป้าหมายการดาเนินปีการการศึกษา 256๓ โรงเรียนคงระดับคุณภาพ อยู่ใน ระดับ ๓ เพ่ิมกิจกรรม คือ การทานา้ หมักชีวภาพ และการสร้างแหล่งเรยี นร้แู ปลงเกษตรผสมผสาน ส่งเสรมิ ให้ ครูจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ โดยเนน้ ผู้เรียนเป็นสาคญั จัดกระบวนการเรียนรู้ เชิงบูรณาการให้เหมาะสม กับสภาพบริบทของโรงเรียนและชุมชน เน้ือหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจ ความถนัดของ ผู้เรียน ปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมท่ีดีงาม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ จัดบรรยากาศ สิ่งแวดล้อมและ แหลง่ เรยี นรู้ให้เออื้ ต่อการจดั กระบวนการเรียนรู้ นาภูมิปญั ญาท้องถ่ินเข้ามามีส่วนรว่ มในการจัดการเรยี นการ สอนตามความเหมาะสม มีการนิเทศการเรียนการสอนแก่ครู โดยเน้นการนิเทศที่ร่วมมือช่วยเหลือกันแบบ กัลยาณมิตร ส่งเสริมให้มีการพฒั นาครู เพ่ือพัฒนากระบวนการเรียนรูอ้ ย่างตอ่ เนอื่ ง 3) จัดระบบและนิเทศการจดั การเรียนรู้ (4 คะแนน) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ มีรูปแบบการนิเทศการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพ นกั เรยี นในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีกระบวนการ 7 ขัน้ ตอน ดงั น้ี 1) เข้าใจตรงกนั 2) แบ่งปนั ความรู้ 3) มุ่งสู่ การแก้ไข 4) ร่วมใจวางแผน 5) สร้างแกนนาการปฏิบัติ 6) เร่งรัดส่งเสริม 7) ต่อเติมตอบสนอง ภายใต้ เงื่อนไข หลักการการสร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ การมีเป้าหมายและจุดเน้นร่วมกัน การทางาน อย่างเป็นระบบ การสะท้อนผลการเรยี นรแู้ ละการพัฒนาอยา่ งต่อเน่ือง โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ กระบวนการนเิ ทศโดยใช้วงจรของเดมมิง (Circle Demming Cycle) การนาวงจรเดมมิง (Demming circle) หรอื โดยทั่วไปนิยมเรยี กกันวา่ P-D-C-A มาใชใ้ นการดาเนนิ การนเิ ทศการศกึ ษา โดยมีข้นั ตอนทีส่ าคัญ 4 ข้นั ตอน คือ

12 1. การวางแผน (P-Planning) 2. การปฏิบัตติ ามแผน (D-Do) 3. การตรวจสอบ/ประเมินผล (C-Check) 4. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข (A-Act) สรปุ เป็นแผนภูมิได้ ดงั นี้ การวางแผน (Plan) การปรบั ปรุงแกไ้ ข การปฏิบตั ิตามแผน (Act) (Do) การตรวจสอบ/ประเมินผล (Check) จากแผนภมู ิกระบวนการ PDCA แต่ละขน้ั ตอนมกี จิ กรรมสาคญั ดังนี้ 1. การวางแผน (P-Plan) 1.1 การจดั ระบบข้อมลู สารสนเทศ 1.2 การกาหนดจดุ พัฒนาการนิเทศ 1.3 การจดั ทาแผนการนเิ ทศ 1.4 การจดั ทาโครงการนิเทศ 2. การปฏบิ ตั งิ านตามแผน (D-Do) 2.1 การปฏิบตั ติ ามข้ันตอนตามแผน/โครงการ 2.2 การกากับตดิ ตาม 2.3 การควบคุมคณุ ภาพ 2.4 การรายงานความก้าวหนา้

13 2.5 การประเมนิ ความสาเร็จเป็นระยะ ๆ 3. การตรวจสอบและประเมินผล (C-Check) 3.1 กาหนดกรอบการประเมนิ 3.2 จดั หา/สร้างเคร่ืองมอื ประเมนิ 3.3 เก็บรวบรวมข้อมลู 3.4 วเิ คราะหข์ ้อมูล 3.5 สรปุ ผลการประเมิน 4. การนาผลการประเมนิ มาปรับปรงุ งาน (A-Act) 4.1 จดั ทารายงานผลการนิเทศ 4.2 นาเสนอผลการนเิ ทศและเผยแพร่ 4.3 พฒั นาตอ่ เนื่อง กระบวนการนเิ ทศแบบ PIDRE สรปุ เปน็ แผนภูมไิ ด้ ดังนี้ ใหก้ ารนเิ ทศและ ควบคมุ คุณภาพงาน ข้นั ที่ 1 ขน้ั ท่ี 2 ข้นั ที่ 3 ขน้ั ที่ 4 ขัน้ ท่ี 5 วำงแผน กำรใหค้ วำมรู้ ปฏิบัติงำน กำรสร้ำงขวญั ประเมนิ (P) (I) (D) กำลงั ใจ (E) (R) บริการ สนับสนนุ ในกรณีคณุ ภำพไม่ถงึ ข้นั ในกรณีทท่ี ำยังไมไ่ ดผ้ ล ปรบั ปรงุ แก้ไข

14 4) จดั ระบบและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ของผู้เรียน (4 คะแนน) โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ระดับของการวัดผลและประเมนิ ผล การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ แบ่งออกเปน็ ๔ ระดบั ไดแ้ ก่ ระดบั ช้นั เรยี น ระดับสถานศกึ ษา ระดบั เขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา และระดับชาติ มรี ายละเอยี ด ดังนี้ ๑. การประเมินระดบั ช้ันเรียน เป็นการวดั และประเมนิ ผลที่อยูใ่ นกระบวนการจัดการเรยี นรู้ ผู้สอนดาเนินการเป็นปกติและสม่าเสมอ ในการจัดการเรียนการสอน ใช้เทคนิคการประเมินอย่างหลากหลาย เช่น การซักถาม การสังเกต การตรวจการบ้าน การประเมินโครงงาน การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน แฟ้ม สะสมงาน การใช้แบบทดสอบ เป็นต้น โดยผู้สอนเป็นผู้ประเมินเองหรือเปิดโอกาส ให้ผู้เรียนประเมินตนเอง เพอื่ นประเมนิ เพ่ือน ผปู้ กครองร่วมประเมนิ ในกรณที ีไ่ ม่ผา่ นตัวชี้วัดใหม้ ีการสอนซอ่ มเสรมิ การประเมินระดับชั้นเรียน เป็นการตรวจสอบว่า ผู้เรียนมีพัฒนาการความก้าวหน้าในการ เรียนรู้ อันเป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนหรือไม่ และมากน้อยเพียงใด มีสิ่งที่จะต้องได้รับ การพัฒนาปรับปรุงและส่งเสริมในด้านใด นอกจากน้ียังเป็นข้อมูลให้ผู้สอน ใช้ปรับปรุงการเรียนการสอน ของตนด้วย ท้ังน้ีโดยสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วัด ๒. การประเมินระดับสถานศึกษา เป็นการประเมินท่ีสถานศึกษา ดาเนินการเพ่ือตัดสินผล การ เรียนของผู้เรียนเป็นรายปี/รายภาค ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน นอกจากนี้เพ่ือให้ได้ข้อมูลเก่ียวกับการจัดการศึกษาของสถานศึกษาว่า ส่งผลต่อการเรียนรู้ของผู้เรียนตามเป้าหมายหรือไม่ ผู้เรียนมีจุดพัฒนาในด้านใด รวมทั้งสามารถนาผลการ เรยี นของผเู้ รียนในสถานศึกษาเปรียบเทยี บกับเกณฑ์ระดบั ชาติ ผลการประเมนิ ระดับสถานศึกษาจะเป็นข้อมูล และสารสนเทศเพื่อการปรับปรุงนโยบาย หลักสูตร โครงการ หรือวิธีการจัดการเรียนการสอน ตลอดจนเพ่ือ การจัดทาแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ตามแนวทางการประกันคุณภาพการศึกษาและการ รายงานผลการจัดการศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษา สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา สานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน ผปู้ กครองและชุมชน 3. การประเมินระดับเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เป็นการประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับเขตพ้ืนที่ การศึกษาตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานใน การพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นท่ีการศึกษาตามภาระความรับผิดชอบ สามารถดาเนินการโดย ประเมินคุณภาพผลสัมฤทธ์ิของผู้เรียนด้วยข้อสอบมาตรฐานท่ีจัดทาและดาเนินการโดยเขตพ้ืนที่การศึกษา หรือด้วยความร่วมมือกับหน่วยงานต้นสังกัด ในการดาเนินการจัดสอบ นอกจากน้ียังได้จากการตรวจสอบ ทบทวนข้อมูลจากการประเมินระดบั สถานศึกษาในเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษา ๔. การประเมินระดับชาติ เปน็ การประเมินคุณภาพผู้เรียนในระดับชาติตามมาตรฐานการเรียนร้ตู าม หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนทุกคนท่ีเรียนในชั้นประถมศึกษาปี ท่ี ๓ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เข้ารบั การประเมิน ผลจากการประเมินใช้เป็นข้อมูลในการเทียบเคียงคุณภาพ การศึกษาในระดับต่าง ๆ เพ่ือนาไปใช้ในการวางแผนยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา ตลอดจนเป็นข้อมูล สนับสนนุ การตัดสินใจในระดบั นโยบายของประเทศ ข้อมูลการประเมินในระดับต่าง ๆ ข้างต้น เป็นประโยชน์ต่อสถานศึกษาในการตรวจสอบทบทวนพัฒนา คุณภาพผู้เรียน ถือเป็นภาระความรับผิดชอบของสถานศึกษาท่ีจะต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือ ปรับปรุงแก้ไข

15 ส่งเสริมสนับสนุนเพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาเต็มตามศักยภาพบนพ้ืนฐาน ความแตกต่างระหว่างบุคคลท่ีจาแนก ตามสภาพปัญหาและความต้องการ ไดแ้ ก่ กลุ่มผู้เรียนทั่วไป กลุ่มผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ กลุ่มผู้เรียน ท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนต่า กลุ่มผู้เรียนท่ีมีปัญหาด้านวินัยและพฤติกรรม กลุ่มผู้เรียนท่ีปฏิเสธโรงเรียน กลุ่มผู้เรียนที่มีปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม กลุ่มพิการทางร่างกายและสติปัญญา เป็นต้น ข้อมูลจากการ ประเมินจึงเป็นหัวใจของสถานศึกษาในการดาเนินการช่วยเหลือผู้เรียนได้ทันท่วงที ปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้รับ การพฒั นาและประสบความสาเร็จในการเรียน สถานศึกษาในฐานะผู้รับผิดชอบจัดการศึกษา จะต้องจัดทาระเบียบว่าด้วยการวัดและประเมินผลการ เรียนของสถานศึกษาให้สอดคล้องและเป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติท่ีเป็นข้อกาหนดของหลักสูตร แกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน เพอ่ื ใหบ้ ุคลากรทเ่ี ก่ียวขอ้ งทกุ ฝ่ายถือปฏิบตั ิร่วมกนั เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ๑. การตัดสิน การใหร้ ะดบั และการรายงานผลการเรียน การตดั สินผลการเรยี น ในการตัดสนิ ผลการเรียนของกล่มุ สาระการเรยี นรู้ การอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขยี น คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนน้ัน ผู้สอนต้องคานึงถึงการพัฒนาผู้เรียนแต่ละคนเป็น หลัก และต้องเก็บข้อมูลของผู้เรียนทุกด้านอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ืองในแต่ละภาคเรียนรวมทั้งสอนซ่อมเสริม ผเู้ รียนใหพ้ ฒั นาจนเตม็ ตามศกั ยภาพ ระดบั ประถมศกึ ษา ๑. ผเู้ รยี นต้องมเี วลาเรยี นไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นท้ังหมด ๒. ผูเ้ รยี นต้องไดร้ บั การประเมินทุกตวั ชว้ี ัด และผ่านตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด ๓. ผู้เรียนตอ้ งได้รบั การตดั สนิ ผลการเรียนทุกรายวิชา ๔. ผูเ้ รียนตอ้ งได้รบั การประเมิน และมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ี่สถานศกึ ษากาหนด ในการ อ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี น คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น การใหร้ ะดบั ผลการเรียน ระดับประถมศึกษา ในการตดั สนิ เพอ่ื ใหร้ ะดบั ผลการเรียนรายวิชา สถานศึกษาสามารถใหร้ ะดับผลการเรียน หรอื ระดับคุณภาพการปฏบิ ัติของผู้เรยี น เปน็ ระบบตัวเลข ระบบตวั อักษร ระบบร้อยละ และระบบทใ่ี ช้คา สาคญั สะท้อนมาตรฐาน การประเมนิ การอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน และคุณลักษณะอนั พึงประสงคน์ น้ั ใหร้ ะดับผล การประเมนิ เป็น ดเี ยย่ี ม ดี และผ่าน การประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน จะต้องพิจารณาท้ังเวลาการเข้าร่วมกิจกรรมการปฏิบัติ กจิ กรรมและผลงานของผู้เรียนตามเกณฑท์ ี่สถานศึกษากาหนด และใหผ้ ลการเขา้ รว่ มกิจกรรมเป็นผา่ นและไม่ ผา่ น

16 การรายงานผลการเรียน การรายงานผลการเรียนเปน็ การสอ่ื สารให้ผู้ปกครองและผเู้ รียนทราบความก้าวหน้าในการ เรียนรู้ของผเู้ รียน ซึ่งสถานศกึ ษาต้องสรุปผลการประเมินและจดั ทาเอกสารรายงานใหผ้ ู้ปกครองทราบเปน็ ระยะ ๆ หรอื อยา่ งน้อยภาคเรียนละ ๑ คร้งั การรายงานผลการเรียนสามารถรายงานเปน็ ระดบั คุณภาพการปฏิบัตขิ องผู้เรยี นท่ี สะท้อนมาตรฐานการเรียนรู้กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ เกณฑ์การจบการศึกษา หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กาหนดเกณฑ์กลางสาหรบั การจบการศกึ ษาเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับประถมศกึ ษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เกณฑก์ ารจบระดบั ประถมศึกษา ๑. ผูเ้ รียนเรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานและรายวชิ า/กจิ กรรมเพิ่มเติมตามโครงสร้างเวลา เรียนท่หี ลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานกาหนด ๒. ผู้เรยี นต้องมีผลการประเมนิ รายวิชาพื้นฐาน ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ตามที่ สถานศึกษากาหนด ๓. ผเู้ รียนมีผลการประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นในระดบั ผ่านเกณฑ์การ ประเมนิ ตามทีส่ ถานศึกษากาหนด ๔. ผเู้ รียนมีผลการประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ นระดับผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ ตามทสี่ ถานศึกษากาหนด ๕. ผู้เรียนเข้าร่วมกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและมผี ลการประเมินผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ ตามท่ีสถานศกึ ษากาหนด การจัดระบบและประเมินผลการเรียนรขู้ องผูเ้ รียนของโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ เปน็ ไปตาม มาตรฐานของประกาศสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกระทรวงศึกษาธิการ ระเบียบว่าด้วยการ วดั และประเมินผล ซ่งึ โรงเรยี นได้ถือปฏิบตั ิตามระเบียบน้ีและนอกจากนั้นยงั มกี ารวัดประเมินผลแบบรอบด้าน ท้งั จากตัวนักเรียนเอง จากชุมชน จากคณุ ครปู ระจาช้ัน คณะคณุ ครูทัง้ หมดของโรงเรียนและจากผู้ปกครอง ใน วาระการประชุมต่างๆท่ีโรงเรียนได้จัดมีขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพ่ือนาผลไปสู่การพัฒนาการศึกษาของผู้เรียนทุก ระดบั อย่างตอ่ เนอื่ งครอบคลมุ ทั้งโรงเรียน 5) บริหารจดั การเทคโนโลยสี ารสนเทศเพื่อการเรยี นรู้ (4 คะแนน) โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ได้นาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาปรับ ประยกุ ต์เพอ่ื ใช้ในการจดั การเรยี นรขู้ องผู้เรียนอย่างหลากหลาย โดย 1) ผู้บรหิ ารไดก้ ระตนุ้ ให้คุณครูผู้สอนตระหนักถงึ ประโยชน์ คณุ คา่ และสง่ิ ที่ ซ่อนอยู่ภายในระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี ีต่อการเรยี นรู้ยคุ ปัจจบุ นั การช่วยอธิบายองคค์ วามรูไ้ ดอ้ ยา่ ง หลากหลาย ลกึ ซง้ึ และทบทวนได้ตลอดเวลา ตามความเหมาะสมของชว่ งวัย ซง่ึ ในการประชมุ คณุ ครูและ บุคลากรทางการศึกษาทกุ ครั้งผบู้ รหิ ารจะนาตัวอยา่ งการใชเ้ ทคโนโลยี หรือระบบสารสนเทศท่ใี ช้ในการจัดการ เรียนการสอนไดผ้ ลดี มาเสนอแนะให้กบั คณะครูอย่างสม่าเสมอ

17 2) การจัดทาห้องสบื ค้นอนิ เตอร์เน็ต ปกี ารศกึ ษา 256๓ โรงเรียน โดยใชส้ ญั ญาณจาก CAT บริการท่วั ถงึ ทุกอาคารเรยี น เพอ่ื ใชใ้ นการเปิดท่องโลกกวา้ งได้อยา่ งเสรีแต่อยู่ใน การควบคุมดแู ลของคุณครูผ้ดู ูแลอยา่ งใกลช้ ดิ ผ้เู รียนไดเ้ รยี นรเู้ ป็นทัง้ สื่อการเรยี นรู้ เป็นท้งั ประตสู โู่ ลกกวา้ ง เปน็ คลังสมดุ ขนาดใหญท่ ี่มีทั้งภาพ เสยี ง ข้อความ การตอบสนองแบบActive และอกี มากมายท่เี ทคโนโลยสี ารสนเทศสมัยใหม่ นอกจากนั้นแล้วโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ได้มีเว็บไซต์เพื่อเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์งาน กิจกรรมของทางโรงเรียน เปิดเผยต่อสาธารณชน งานข้อมูลสารสนเทศเพื่อประโยชน์ต่อการบริหารจัด การศึกษาในอนาคต โดยโรงเรียนบ้านป่าหม้อหนองคูได้สร้างหน้าเว็บไซต์หลัก ประกอบด้วย ระบบภาพ กจิ กรรมของเรา ระบบประกาศจัดซื้อ จัดจ้าง ข่าวประชาสัมพันธ์กลุ่ม (blog) เผยแพร่ผลงาน วจิ ัย นวัตกรรม และผลงานทางวิชาการ กระดานสนทนา แนะนาบคุ ลากรของเรา ส่วนดาวน์โหลด - มีระบบงานตามกรอบภาระหนา้ ทแ่ี ละยุทธศาสตร์ - ระบบบรหิ ารจดั การหลังเว็บไซต์(Backend Office) เพิม่ เติมแก้ไข สอ่ื ภาพ เสียง วิดโี อจาก Youtube ได้ - ระบบโตต้ อบสมาชกิ แบบออนไลน์ chat - มีการแบ่งระดับสมาชกิ เปน็ 3 ระดบั คือผดู้ แู ลระบบ สมาชกิ และบคุ คลทัว่ ไป ทั้งนี้เพื่อรองรับการเผยแพร่ข้อมูลเพ่ือป้องกันการทุจริตและคอรัปช่ันในอนาคต ตามเกณฑ์การ ประเมิน ITA พ.ศ. 2562 ดังน้ี (1) โครงสร้างหน่วยงาน (2) ข้อมูลผู้บริหาร (3) อานาจหน้าที่ (4) แผนการ ขับเคลื่อนหน่วยงาน (5) ข้อมูลการติดต่อหน่วยงาน (6) กฎหมายที่เก่ียวข้อง (7) ข่าวประชาสัมพันธ์ (8) กระดานถามตอบ (9) Social Network (10) แผนดาเนินงานประจาปี (11) รายงาน การกากับติดตามการ ดาเนินงานรอบ 6 เดือน (12) รายงานผลการดาเนินงานประจาปี (13) มาตรฐานการปฏิบัติงาน (14) มาตรฐานการใหบ้ ริการ(15) ข้อมูลเชงิ สถิตกิ ารให้บริการ (16) ข้อบัญญตั หิ รือเทศบัญญัติงบประมาณรายจา่ ย ประจาปี (17) รายงานการกากับติดตามการใช้จ่ายงบประมาณรอบ 6 เดือน (18) รายงานผลการใช้จ่าย งบประมาณประจาปี (19) แผนการจัดซ้ือจัดจ้างหรือแผนการจัดหาพัสดุ (20) ประกาศต่างๆเกี่ยวกับจัดซ้ือ จดั จา้ งหรอื การจัดหาพัสดุ (21) สรุปผลการจัดซื้อจัดจ้างหรือจัดหาพสั ดรุ ายเดือน( 22) รายงานผลการจดั ซ้ือ จัดจ้างหรือจัดหาพัสดุประจาปี (23) แนวปฏิบัติการจัดการเรื่องร้องเรียนการทุจริต (24) ช่องทางการแจ้ง ร้องเรียนการทุจริต (25) ข้อมูลเชิงสถิติ เรื่องร้องเรียนการทุจริตประจาปี (26) ช่องทางการรับฟังความ คดิ เห็น (27) การเปิดโอกาสใหเ้ กดิ การมีสว่ นร่วม (28) เจตจานงสุจรติ ของผู้บรหิ าร (29) การมีส่วนร่วมของ ผู้บริหาร (30) การเสริมสรา้ งวัฒนธรรมองคก์ ร (31) แผนปฏิบัตกิ ารปอ้ งกนั การทจุ รติ ประจาปี (32) รายงาน การกากับติดตามการดาเนินงานป้องกันการทุจริตรอบ 6 เดือน( 33) รายงานการกากับติดตามการ ดาเนินงานปอ้ งกันการทจุ ริตรอบ 12 เดือน ในปี 256๓ e-service 1. รายงานผลการสารวจความพึงพอ ใจการให้บริการ 2. นโยบายการ บรหิ ารทรพั ยากรบคุ คล 3. การดาเนนิ การตามนโยบายการบรหิ ารทรพั ยากรบคุ คล 4. หลกั เกณฑก์ ารบริหาร และพัฒนาทรัพยากรบุคคล 5. รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจาปี 6. การประเมิน

18 ความเส่ียงการทุจริตประจาปี 7. การดาเนินการเพื่อจัดการความเสี่ยงการทุจริต 8. มาตรการเผยแพร่ข้อมูล ตอ่ สาธารณะชน 8. มาตรการให้ผู้มีสว่ นได้ส่วนเสียมีส่วนร่วม 9. มาตรการส่งเสรมิ ความโปร่งใสในการจัดซ้ือ จัดจ้าง 10. มาตรการการจัดเรื่องร้องเรียนการทุจริต 11. มาตรการป้องกันการรับสินบน 12. มาตรการ ป้องกันการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม 13. มาตรการตรวจสอบการใช้ ดลุ พินิจ เวบ็ ไซตโ์ รงเรียนบ้านป่าหม้อหนองคู http://rpk31school.ac.th

19 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ได้นาเทคโนโลยีสารสนเทศ มาปรับประยุกต์เพ่ือใช้ในการจัดการ เรียนรู้ของผู้เรียนอย่างหลากหลายเพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเป็นพ้ืนฐานในการศึกษาในข้ันท่ีสูงข้ึน ต่อไป แม้แต่การศึกษาผู้ใหญ่หรือการศึกษาตลอดชีวิต เมื่อเด็กมีพื้นฐานท่ีดีจะเกิดประโยชน์ท่ีอเนกอนันต์ต่อ เขาตลอดไป 3. ดา้ นการบริหารจดั การงานทวั่ ไปของสถานศกึ ษา (16 คะแนน) ดงั นี้ 1) บรหิ ารจดั การงบประมาณ การเงนิ และสนิ ทรัพย์(4 คะแนน) 1.1) การระดมทรัพยากรเพ่ือการบริหารจัดการด้านการศึกษา ได้ระดม ทรัพยากรจากทกุ ภาคส่วนเพ่ือส่งเสริมสนับสนนุ การจัดการศกึ ษา 1.2) การจดั ทาและเสนอของบประมาณ วิเคราะห์ผลการดาเนินงานของ สถานศึกษาตามข้อตกลงที่ทากับเขตพื้นท่ีการศึกษา ด้านปริมาณ คุณภาพ เวลา ตลอดจนต้นทุน ซ่ึงต้อง คานวณต้นทุนผลผลิตขององค์กร และผลผลิตงาน / โครงการ จัดทาข้อมูลสารสนเทศ วิเคราะห์ สภาพแวดล้อมท่ีมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จัดทารายละเอียดแผนงบประมาณ ประจาปี แผนงาน งานโครงการ ตามตัวช้ีวัดความสาเร็จของสถานศึกษา จัดทากรอบประมาณการ รายจ่าย ให้สอดคล้องกับประมาณรายได้ของสถานศึกษาท้ังจากเงินงบประมาณ และเงินนอก งบประมาณ โดยผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศกึ ษา 1 .3) ก า ร จั ด ส ร ร งบ ป ร ะ ม า ณ ภ า ย ใน ส ถ า น ศึ ก ษ า จั ด ส ร ร งบประมาณ ตามหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการจัดสรรงบประมาณ ตรวจสอบกรอบวงเงินงบประมาณท่ี ได้รับ วิเคราะห์กิจกรรมตามภารกิจงาน แผนงาน งานโครงการของสถานศึกษา เพื่อจัดลาดับ ความสาคัญ และกาหนดงบประมาณ จัดทารายละเอียดแผนปฏิบัติการประจาปี ท่ีสอดคล้องวงเงิน งบประมาณที่ได้รับ นาเสนอแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ ขอความเห็นชอบคณะกรรมการ สถานศึกษา การเบิกจ่ายและการอนุมัติงบประมาณ จัดทาแผนการใช้งบประมาณรายไตรมาส โดยกาหนด ปฏิทินปฏิบัติงานรายเดือนให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการประจาปีงบประมาณ เบิกจ่ายเงินงบประมาณ ประเภทตา่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนปฏบิ ตั กิ ารประจาปี 1.4) การตรวจสอบ ตดิ ตาม ประเมนิ ผล และรายงานผลการใช้เงนิ และ ผลการดาเนินงาน จัดทาแผนการตรวจสอบ ติดตามการใช้เงินท้ังเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ของสถานศึกษา ตรวจสอบ ติดตาม และนิเทศ พร้อมท้ังเสนอข้อปัญหา ให้ทุกคนในสถานศึกษาได้รับรู้ อย่างโปรง่ ใสและเที่ยงธรรม หลักฐานต่างๆในการอา้ งองิ มดี ังตอ่ ไปนี้ - แผนพฒั นาการจัดการศึกษา - แผนปฏิบตั กิ ารประจาปี - การดาเนินงานโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจดั การศึกษาตั้งแตร่ ะดับ อนบุ าลจนจบการศกึ ษาขน้ั พื้นฐานตามปฏทิ ินการดาเนินงาน - บันทกึ การประชมุ ครู - บนั ทกึ การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน

20 - บนั ทกึ การประชมุ - บันทึกการประชุมคณะกรรมการภาคี 4 ฝา่ ย - คาสัง่ แต่งตง้ั คณะกรรมการกากับติดตามและประเมินผล - คาส่งั มอบหมายงาน - แฟม้ งานการเงินโรงเรยี น - แฟ้มเอกสารการจัดซอื้ จัดจ้าง - แฟ้มพฒั นาพัสดแุ ละสินทรัพย์ - รายงานการตรวจสอบพัสดุประจาปี 2) บริหารและพัฒนาทรพั ยากรบุคคล(4 คะแนน) 2.1) การบรหิ ารงานบุคคลในสถานศึกษา เป็นภารกิจสาคัญท่มี ุ่งส่งเสริม ให้สถานศึกษาสามารถปฏิบัติงานเพ่ือตอบสนองภารกิจของสถานศึกษาให้เกิดความคล่องตัว อิสระภายใต้ กฎหมาย ระเบียบ เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล บุคลากรได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถ มีขวัญ กาลังใจ มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของผู้เรียนเป็น สาคัญ โรงเรียนได้จัดทาแผนอัตรากาลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา จัดทา ภาระงานสาหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ประเมินเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะ ขอกาหนด ตาแหนง่ เพ่มิ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กาหนด ส่งเสริมใหค้ รแู ละบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง 2.2) การพฒั นาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ชีแ้ จงภาระ งาน มาตรฐานคุณภาพ มาตรฐานวชิ าชีพ จรรยาบรรณวิชาชพี เกณฑก์ ารประเมินผลงาน ฯลฯ แก่ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ก่อนมีการมอบหมายหน้าท่ีใหป้ ฏิบัตงิ าน ตดิ ตาม ประเมินผลและจัดให้มีการพัฒนาตามความเหมาะสมและต่อเนื่อง

21 2.3) การเลอ่ื นขนั้ เงินเดือนข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการ ศึกษา แตง่ ต้งั คณะกรรมการพจิ ารณาความดีความชอบของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษา ๓) บรหิ ารจดั การอาคารสถานที่ สภาพแวดลอ้ มและบรรยากาศใหเ้ อ้ือ ต่อการเรียนรู้ (4 คะแนน) โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์๓๑ ดาเนินการปรับปรงุ แกไ้ ข จัดอบั และสถานท่ี ตา่ งๆให้ปลอดภัยและเอ้ือต่อการเรยี นร้ดู งั น้ี ๑.ปรับปรงุ ซ่อมแซม ระบบน้าและระบบไฟฟา้ ใหเ้ พียงพอตอ่ การใช้งานท้งั อาคารเรยี นและหอนอน

22 4) บริหารกิจการนกั เรียนและจัดระบบดูแลช่วยเหลือผ้เู รยี น (4 คะแนน) โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ดาเนินการบรหิ ารกจิ การนักเรียน โดยคุณครูทุกคนช่วยกัน เปรยี บเสมือนดังบิดามารดาคนทส่ี อง ในการสอดส่องดูแล ใหค้ าแนะนาช่วยเหลอื มีการเย่ยี มบา้ นนกั เรียน การฝ้าระวังเด็กกล่มุ เสย่ี ง มีการป้องกนั การตงั้ ครรภ์ในวยั เรียน การช่วยเหลอื นักเรียนยากจน ฯลฯ มอบทนุ ชว่ ยเหลอื นักเรยี นที่เรียนดี ครอบครัวยากจน องคป์ ระกอบท่ีสาคญั ในการดาเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น ประกอบด้วย 1. ผู้บริหารโรงเรียน รองผู้อานวยการทุกฝ่าย ตระหนักถึงความสาคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรยี น และให้การสนับสนนุ การดาเนินงานหรือรว่ มกจิ กรรมตามความเหมาะสมอย่างสม่าเสมอ 2. ครูทุกคนและผู้ท่ีเก่ียวข้องจาเป็นต้องมีความตระหนักในความสาคัญของระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนมีทศั นคติทดี่ ตี อ่ นกั เรียน และมีความสุขท่จี ะพฒั นานักเรยี นในทุกดา้ น 3. คณะกรรมการหรือคณะทางานทุกคณะ ต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิด และมีการประชุมใน แต่ละคณะอย่างสมา่ เสมอตามท่ีกาหนด 4. ครูที่ปรึกษา ครูหอนอนเป็นบุคลากรหลักในการดาเนินงาน โดยต้องได้รับความร่วมมือจาก ผเู้ ก่ยี วขอ้ งทุกฝา่ ย 5. การอบรมให้ความรู้และทักษะ รวมท้ังการเผยแพร่ข้อมูล ความรู้แก่ครูที่ปรกึ ษาหรือผู้เกี่ยวข้องใน เรื่องที่เอ้ือประโยชน์ต่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในส่ิงที่จาเป็นโดยเฉพาะเร่ืองทักษะการปรึกษาเบื้องต้น และแนวทางการแก้ไขปัญหาตา่ งๆ ของนักเรยี น

23 กระบวนการดาเนนิ งานตามระบบการดแู ลช่วยเหนอื นกั เรยี นโดยครทู ี่ปรกึ ษาเปน็ บุคลากรหลกั ในการ ปฏบิ ัตงิ านมีองคป์ ระกอบสาคัญ 5 ประการ คอื 1. การรจู้ ักนกั เรียนเป็นรายบคุ คล 2. การคดั กรองนักเรียน 3. การสง่ เสริมนักเรียน 4. การป้องกันและแก้ไขปญั หา 5. การส่งต่อ กระบวนการดาเนินงานตามระบบการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนเป็นหน้าทแ่ี ละความรบั ผดิ ชอบของครูท่ี ปรึกษาตลอดกระบวนการ โดยมีการประสานงานหรือรับการสนับสนุนจากผู้บริหาร ครูที่เก่ียวข้อง รวมถึง ผ้ปู กครอง ซ่ึงมีวธิ กี ารและเครอื่ งมอื ตัวอย่างสรปุ ได้ ดงั น้ี กระบวนการดาเนินงาน วิธีการ เครอื่ งมือ 1. การร้จู กั นกั เรยี นเป็นรายบคุ คล ศึกษาขอ้ มลู จากการใช้ 1.1 ดา้ นความสามารถ 1) ระเบยี นสะสม 1) ระเบียนสะสม - การเรยี น 2) แบบประเมนิ พฤติกรรมเด็ก (SDQ) 2) แบบประเมนิ พฤติกรรมเด็ก - ความสามารถอื่น ๆ 3) อ่นื ๆ (SDQ) หรอื 1.2 ด้านสุขภาพ - แบบประเมินความฉลาดทาง 3) อน่ื ๆ เชน่ - ร่างกาย อารมณ์ (E.Q.) - แบบประเมินความฉลาด - จิตใจ - แบบสัมภาษณ์นักเรียน ทางอารมณ์ (E.Q.) - พฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - แบบสมั ภาษณน์ กั เรยี น 1.3 ด้านครอบครัว นกั เรยี น - แบบสัมภาษณ์ผู้ปกครอง - เศรษฐกิจ - แบบสมั ภาษณผ์ ู้ปกครอง และเย่ยี มบ้านนักเรยี น - การคุ้มครองนักเรียน และเยย่ี มบา้ นนักเรียน - แบบบนั ทึกการตรวจสุขภาพ 1.4 ดา้ นอ่นื ๆ ฯลฯ ดว้ ยตนเอง ฯลฯ 2. การคดั กรองนกั เรยี น ดาเนินการตอ่ ไปนี้ 2.1 กล่มุ ปกติ 1) วเิ คราะห์ข้อมูลจาก 1) เกณฑ์การคดั กรองนักเรยี น 2.2 กลุ่มเสีย่ ง/มีปัญหา 1.1 ระเบยี นสะสม 2) แบบสรุปผลการคดั กรอง 1.2 แบบประเมินพฤติกรรม และ ชว่ ยเหลอื นกั เรียนเป็น เด็ก (SDQ) รายบุคคล 1.3 แหล่งข้อมูลอ่ืน ๆ 3) แบบสรปุ ผลการคัดกรอง 2) คัดกรองนกั เรยี นตามเกณฑ์ นกั เรียนเป็นหอ้ ง การคัดกรองของโรงเรยี น

24 กระบวนการดาเนนิ งาน วธิ กี าร เคร่อื งมอื 3. การส่งเสริมนกั เรยี น ดาเนินการต่อไปน้ี (สาหรบั นักเรยี นทุกกลมุ่ ) 1) จดั กจิ กรรมโฮมรมู (Homeroom) ๑)แนวทางการจัด กิจกรรม 2) จดั ประชมุ ผูป้ กครองช้นั เรียน โฮมรมู ของโรงเรยี น (Classroom meeting) หรอื 2) แนวทางการจดั กจิ กรรม 3) จดั กิจกรรมอนื่ ๆ ทค่ี รพู ิจารณา ประชมุ ผู้ปกคอรงช้ันเรียนของ วา่ เหมาะสมในการส่งเสริม โรงเรยี น นกั เรียนใหม้ ีคุณภาพมากข้ึน 3) แบบบนั ทกึ /สรุปประเมินผล การดาเนนิ กิจกรรมโฮมรมู ประชุมผู้ปกครองชัน้ เรยี นอืน่ ๆ 4. การปอ้ งกนั และแก้ไข ดาเนินการต่อไปนี้ ปญั หา (จาเป็นอยา่ งมาก 1) ให้การศกึ ษาเบ้ืองตน้ 1) แนวทางการจดั กจิ กรรมเพอื่ สาหรบั นกั เรยี นกลุม่ เสีย่ ง/มี 2) ประสานงานกับครแู ละ ผู้เก่ียวขอ้ ง การป้องกนั และแก้ไขปัญหา ปัญหา) อ่ืนๆ เพื่อการจดั กจิ กรรมสาหรับการป้องกัน ของนักเรยี น 5 กจิ กรรม และชว่ ยเหลือแก้ไขปัญหาของนักเรียน คือ 2) แบบบนั ทกึ สรุปผลการคัด 2.1) กิจกรรมในห้องเรยี น กรองและช่วยเหลือนกั เรียน 2.2) กิจกรรมเสรมิ หลกั สูตร เป็นรายบุคคล 2.3) กิจกรรมเพือ่ นชว่ ยเพื่อน 3) แบบบนั ทึกรายงานผลการ 2.4) กิจกรรมซ่อมเสรมิ ดูแล ช่วยเหลือนักเรยี น 2.5) กิจกรรมสอ่ื สาร(SMS)กับผปู้ กครอง 5. การสง่ ตอ่ ดาเนินการต่อไปนี้ 5.1 สง่ ตอ่ ภายใน 1) บนั ทึกการสง่ นักเรยี นไปยังครู 1) แบบบันทกึ การสง่ ต่อของ 5.2 สง่ ต่อภายนอก ทเ่ี กยี่ วข้องในการชว่ ยเหลอื โรงเรยี น นักเรยี นต่อไป เชน่ ครแู นะแนว 2) แบบรายงานแจ้งผลการ ครปู กครอง ครปู ระจาวชิ า ชว่ ยเหลือนกั เรียน ครพู ยาบาล เปน็ ต้น ซง่ึ เปน็ การ สง่ ต่อภายใน 2) บนั ทกึ การสง่ นักเรียนไปยัง ผู้เชี่ยวชาญภายนอกโดยครู แนะแนวหรือฝ่ายปกครองเปน็ ผู้ดาเนนิ การ ซึง่ เปน็ การสง่ ตอ่ ภายนอก โรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ดาเนนิ การอย่างเป็นปจั จบุ ัน

25 4. ดา้ นการพัฒนาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ (12 คะแนน) ซง่ึ มีขอบข่ายภาระงานดังน้ี 1) วางแผนและพัฒนาตนเองดา้ นความรู้ และคณุ ลักษณะบุคคลสาหรบั ผู้ดารง ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา (4 คะแนน) ข้าพเจ้าวางแผนและพัฒนาตนเองด้านความรู้ และคุณลักษณะบุคคลสาหรับผู้ดารงตาแหน่งรอง ผบู้ ริหารสถานศึกษา ข้าพเจา้ ได้ศึกษา ค้นคว้า ริเรมิ่ สร้างสรรค์ความรู้ใหม่ นวัตกรรมในการพัฒนางานใน หน้าที่ ดงั นี้ (1) เข้ารว่ มอบรม รวมกลุม่ วชิ าชพี สรา้ งเครอื ข่ายสงั คมเพอื่ การแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ สมั มนา ศกึ ษาดู งาน เรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญ อบรมปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาตนเองท้ังแบบออนไลน์และเชิงปฏิบัติการอย่าง ตอ่ เนื่อง ศึกษาข้อมูล ความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อพัฒนาการสอนให้หลากหลายมากขึ้น ซ่ึง จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนักเรียนมากข้ึน (2) ต้ังใจทางานที่ได้รับมอบหมายทุกงาน เพื่อให้งานนั้น สาเร็จและมีคุณภาพผลงานมีความถูกต้อง ครบถ้วนสมบูรณ์ และเป็นแบบอย่างได้ (3) จัดทาสรุปผลการ ปฏิบัติงานในหน้าท่ขี องครูทุกปีการศึกษา(4) ส่งเสริมให้ครทู าวิจยั ในช้ันเรยี น มีนวัตกรรมการจัดการเรียนรใู้ ห้ เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน (Individual Plan) (5) สนับสนุนให้ความช่วยเหลือครูผู้สอนในการจัดทา นวัตกรรมการศกึ ษาตามโอกาส เปน็ ต้น อยา่ งสม่าเสมอ นอกจากน้ันแล้วข้าพเจ้า วางแผนไว้ในอนาคตจะศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ,เข้าอบรมนักบริหาร ระดับกลาง-สูงของ สานักพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา การเข้าอบรมเก่ียวกับการพัฒนาบุคลิกภาพ ต่างๆที่หน่วยงานต้นสังกัดและหน่วยงานที่ราชการรับรอง,ทักษะการพูดของสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพ ,การ อบรมพัฒนาการตอ่ ตา้ นทจุ ริตและคอรปั ชั่นในหนว่ ยงานของรฐั การเปดิ เผยขอ้ มูลตอ่ สาธารณชน เปน็ ต้น ๒) สง่ เสรมิ และพัฒนาผอู้ ื่นด้านความรู้ ทักษะ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และ จรรยาบรรณวชิ าชพี (4 คะแนน) ข้าพเจ้าสง่ เสรมิ ใหผ้ ู้อ่ืนพัฒนาตนเองดา้ นความรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรมจรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวิชาชพี โดยการสง่ เสริมให้ขา้ ราชการครแุ ละบคุ ลากรทางการศึกษา เข้ารับการอบรมพัฒนาทางวิชาชีพและสง่ ผลงาน ในการประเมนิ ทางวิชาการ 3) เป็นผูน้ าในชมุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี (4 คะแนน) ขา้ พเจา้ พยายามปฏบิ ตั ิตนเพ่ือส่งเสรมิ ความเปน็ ผ้นู าในชมุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชีพ ต่างๆดงั น้ี - สง่ เสริมการเข้าร่วม TEPE Online การพฒั นาครแู ละบุคลากรทางการศึกษา โดยยึด ภารกจิ และพ้ืนท่ีปฏิบัติงานเป็นฐานดว้ ยระบบออนไลน์ (Teachers and Educational Personnel Enhancement Based on Mission and Functional Areas as Majors : TEPE Online) ของขา้ ราชการ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา - สนบั สนนุ ให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ทุกคนมีการเกบ็ เอกสารอเิ ล็กทรอนิกส์ ไว้เปน็ หมวดหมู่

26 5. ด้านงานอื่น ๆ ที่ไดรับมอบหมาย (4 คะแนน) ซึ่งมีขอบขา่ ยภาระงานดังน้ี ดำเนินกำรตำมนโยบำยของหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง และปฏิบัติภำรกิจของ สถำนศึกษำ เป็นคณะทำงำนตรวจคุณสมบัติผู้สมัครสอบคัดเลือกครูผู้ช่วยกรณีพิเศษ ประจำปี ๒๕๖๔ ของ สำนกั บรหิ ำรงำนกำรศกึ ษำพเิ ศษ 3.2 ตอนท่ี 2 การประเมินการปฏบิ ตั ิตนในการรักษาวนิ ัย คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วชิ าชพี (35 คะแนน) 1) มคี วามซอื่ สตั ย์ สุจรติ รกั ษาประโยชนส์ ่วนรวม ไม่อาศัยหรือยินยอมให้ผู้อ่นื ใช้อานาจ และหน้าทข่ี องตน เพ่ือแสวงหาประโยชน์ (5 คะแนน) ข้าพเจ้ายึดถือ ได้ยึดถือและปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตในการปฏิบัติหน้าท่ี การ รักษา ผลประโยชน์ของทางราชการและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ปฏิบัติต่อตนเอง ต่องาน ต่อหน้าที่ ด้วย มุ่งหวังให้การศึกษาได้พัฒนา ส่งผลต่อนักเรียนเป็นคนดี มีคุณภาพ โดยกิจกรรมท่ีแสดงให้เห็นถึงการมีจิต อาสา จติ สาธารณะและมุ่งประโยชน์ส่วนรวมเปน็ สาคญั ดงั นี้ (๑)ใหค้ วามร่วมมอื ชว่ ยเหลือในกิจกรรม งานโครงการท่ีโรงเรยี นจดั อยา่ งเต็มใจ (๒)ปฏบิ ัติงานตามท่ไี ดร้ บั มอบหมายอย่างเตม็ ความสามารถ ให้สาเรจ็ ตามวัตถุประสงค์ (๓)ใหก้ ารชว่ ยเหลือผรู้ ว่ มงาน ตามความเหมาะสมท่เี ราจะช่วยได้ โดยไม่ตอ้ งคอยใหเ้ ขา ขอความชว่ ยเหลอื เห็นประโยชน์สว่ นรวมมากกวา่ ประโยชน์สว่ นตวั (๔)รว่ มกจิ กรรมของชมุ ชนอย่างสม่าเสมอ อานวยความสะดวกแกหนวยงานราชการ อ่นื ๆ ท่มี าขอใชหองปฏบิ ัติการในการจัดสอบ หอ้ งประชมุ และการอบรมบคุ ลากร (๕)มสี ว่ นรว่ มในการวางแผน ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมตดั สนิ ใจ ในการปฏิบตั ิงานหรือจัด กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทกุ คร้งั ที่มีโอกาส (๖)ยินดีรบั ฟังข้อเสนอแนะหรือข้อแนะนาตกั เตือนจากเพื่อนร่วมงานเสมอ เพื่อใหง้ าน ประสบผลสาเร็จอย่างมีคณุ ภาพ (๗)ปฏบิ ตั งิ านทไี่ ด้รบั มอบหมายดว้ ยความวริ ิยะ อุตสาหะ ซื่อสัตย์ สุจรติ เป็น แบบอย่างทด่ี ีแกผ่ ใู้ ตบ้ ังคับบัญชาและเพ่ือนรว่ มงาน (๘)รบั ผิดชอบงานในหน้าที่การบริหารจดั การสถานศึกษา การจดั การเรยี นการสอน และงานหน้าที่พิเศษท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความเต็มใจ (๙)ไม่แสวงหาผลประโยชน์จากงานราชการไมเ่ อาเวลาราชการไปหาประโยชน์ส่วนตัว รักษาผลประโยชน์ทางราชการของโรงเรียน โดยปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สจุ ริตไม่แสวงหา ผลประโยชนใ์ ด ๆ (๑๐)พจิ ารณาความดีความชอบร่วมกบั คณะกรรมการ ดว้ ยความบริสุทธ์ิยุติธรรม (๑๑)มพี ฤตกิ รรมแสดงออกทัง้ การกระทาและวาจาดา้ นความซื่อสตั ย์เป็นที่ไวใ้ จได้ (๑๒)ปฏิบัตหิ น้าท่ดี ว้ ยความซื่อสัตย์สจุ รติ ไม่เคยใชอ้ านาจหนา้ ท่ีในทางทมี่ ชิ อบหรือรบั อามิสสินจ้างใด ๆ ทั้งส้ิน (๑๓)ปฏบิ ัตหิ นา้ ทตี่ ามทีไ่ ดร้ ับการแต่งตง้ั เปน็ คณะกรรมการต่าง ๆ อยา่ งซ่ือสตั ย์สจุ รติ

27 ๒)การปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบ กฎหมาย นโยบายและคาสัง่ ของผบู้ ังคบั บัญชา(5 คะแนน) ข้าพเจ้าไดย้ ดึ ถือและปฏบิ ตั ิงานโดยยดึ มนั่ ในหลักนติ ิธรรม ยืนหยดั กระทาในสิง่ ท่ี ถกู ต้อง เป็นธรรมและชอบด้วยกฎหมาย ปฏบิ ตั ิตามกฎระเบียบ กฎหมาย นโยบายและคาสัง่ ของ ผู้บงั คบั บญั ชา ดังนี้ (1) ประพฤติปฏบิ ัติตน กระทาในสิ่งท่ถี กู ต้อง เหมาะสม ชอบด้วย กฎหมาย โดยการไม่กระทาในสงิ่ ทผ่ี ดิ กฎหมาย ไม่ผิดศีลธรรม ประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถ่นิ (2) ชว่ ยรักษาและทะนบุ ารุงพุทธศาสนาประเพณีและวฒั นธรรม ตาม สมควร (3) ให้ความสาคัญในการดูแล อบรมส่งั สอนนักเรยี นในการประพฤติ ปฏบิ ัติตนเปน็ คนดี (4) ไมย่ ุ่งเกย่ี วกับสงิ่ เสพติด การกระทาผดิ กฎหมาย สามารถอยูใ่ นสังคม ได้อย่างมีความสุข (5) พิจารณาความดีความชอบดว้ ยความเที่ยงธรรม บริสุทธย์ิ ุติธรรมแก่ทกุ ฝ่าย (6) ศึกษากฎหมายการศึกษา พระราชบัญญัติทางการศกึ ษาและบทบาท หน้าทที่ างราชการของครู ผู้บริหาร ในหมวดทีว่ า่ ด้วยวนิ ยั ทางราชการ (7) ปฏบิ ัตหิ น้าทรี่ าชการตามกฎหมาย ระเบียบทางราชการอยา่ งเครง่ ครัด (8) ปฏิบัติตนอย่างมีวินยั และรักษาระเบยี บวินยั อยา่ งสมา่ เสมอ (9) ปฏิบัติหน้าท่ใี นการบรหิ ารจดั การ และการจัดการเรียนการสอนอย่าง เต็มความสามารถ เข้าทางาน อบรม ประชุม สัมมนาตรงเวลา (๑๐)มีความตรงตอ่ เวลา มาปฏบิ ัติหนา้ ทีร่ าชการเต็มเวลาและอุทิศเวลาให้ ราชการแม้ในยามเวลานอกราชการ (๑๑)ปฏิบัตหิ น้าทต่ี ามคาสัง่ ท่ีไดร้ บั มอบหมายจากผู้บงั คบั บัญชาอย่าง เครง่ ครัด (๑๒)มอบนโยบาย ให้ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ที่ในดา้ นการรักษาและ เสรมิ สร้างวนิ ยั ของโรงเรยี นอย่างสม่าเสมอ 3) มีความวริ ยิ ะ อุตสาหะ ตรงต่อเวลา และอุทิศเวลาใหแ้ ก่ราชการ (5 คะแนน) ข้าพเจ้าได้ยึดถือและปฏิบัติงานการตรงต่อเวลา การอุทิศเวลาให้แก่ทางราชการ และผู้เรียน อยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ดงั น้ี (1) มาปฏบิ ัติหนา้ ทด่ี ้วยความวริ ยิ ะอตุ สาหะ ตรงเวลา ทั้งในเวลาและนอก เวลาราชการอย่างต่อเน่อื ง (2) อุทิศเวลาให้แกท่ างราชการ ไมล่ ะท้ิงหนา้ ท่ีราชการโดยไม่มีเหตุอันควร โดยการมาปฏบิ ตั ิราชการอยา่ งตอ่ เนือ่ งและสมา่ เสมอ (3) ปฏิบัตหิ น้าท่ีรองผู้อานวยการโรงเรียนอยา่ งเต็มกาลงั ความสามารถโดยไม่

28 เอาเวลาราชการไปหาผลประโยชน์หรอื ทาธรุ กิจ (4) เขา้ รบั การอบรมพัฒนาตนเองนอกเวลาราชการท่ที างโรงเรยี นหรือ หน่วยงานอนื่ ไดจ้ ดั ขนึ้ ตามโอกาส (5) ใหค้ วามชว่ ยเหลือ สนบั สนุน สง่ เสรมิ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากร ทางการศึกษาที่อยู่ในการบังคับบัญชาด้วยความเท่ียงตรง ส่งเสริมให้ขวัญกาลังใจแก่บุคคลท่ีอุตสาหะทุ่มเท เสียสละและอุทิศเวลาราชการ ให้แก่นักเรียน ทาให้เห็นเป็นที่ประจักและเชิดชูเกียรติอย่างสม่าเสมอและทุก โอกาสที่เหมาะสม และร่วมมือกับเพ่ือนร่วมงาน อย่างเต็มใจและเต็มกาลังความสามารถ ในการส่งเสริม โครงการที่พัฒนาศักยภาพของผูเ้ รียนในทกุ ด้านในทกุ ระดับ (6) ปฏิบตั งิ านอ่นื ๆ ตามที่ได้รับมอบหมายอยา่ งเครง่ ครัด คะแนน) 4) การมีจิตสานึกที่ดี มุ่งบรกิ ารต่อกลุ่มเป้าหมายต่อผู้รับบิการโดยไม่เลือกปฏบิ ตั ิ (5 ข้ำพเจ้ำได้ยึดถือและปฏิบัติงำนด้ำนกำรเสริมสร้ำงปลูกจิตสำนึกท่ีดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สงั คม มุ่งบรกิ ารต่อกลมุ่ เป้าหมายต่อผ้รู ับบิการโดยไมเ่ ลือกปฏิบัติ ดงั น้ี (1) คณะครู ผู้ปกครอง ผู้เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการกาหนดและปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ส่งเสริมคุณธรรม จรยิ ธรรมตลอดทกุ ปี ผู้เรยี นเขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทกุ ครัง้ (2) ปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ งทด่ี แี ก่คณะครู ผู้ปกครอง ผู้เรยี น (3) ปลูกฝังให้คณะครู ผู้ปกครอง นักเรยี นใชเ้ หตผุ ลในการตัดสิน และ แก้ปญั หา (4) ปลูกฝังให้คณะครู ผู้ปกครอง นักเรยี นเคารพความคิดเหน็ ของผูอ้ ่นื มีความรกั ความสามคั คีของหมคู่ ณะ (5) สนบั สนนุ ให้คณะครู ผปู้ กครอง นกั เรยี นทปี่ รกึ ษาและนักเรียนทกุ คน มกี ารแสดงออกเก่ียวกับมารยาทไทย วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ และนยิ มใชข้ องไทย (6) จดั ทาขอ้ มลู ผู้เรยี นเปน็ รายบุคคลเพือ่ นาข้อมลู ไปใช้ในการชว่ ยเหลือผเู้ รียน ดา้ นการเรยี นการปรับปรุงพฤติกรรมดูแลความปลอดภยั ของผเู้ รียน (7) ร่วมกิจกรรมออกเยย่ี มบ้านนักเรียน ซงึ่ เปน็ การป้องกันและแก้ปัญหายา เสพติด สง่ เสริมให้ผ้เู รียนปฏบิ ตั ิตนได้เหมาะสมกับค่านิยมอันดงี าม (8) ให้การดูแลอยา่ งทั่วถงึ ทันเหตุการณ์การสรา้ งข้อตกลงในการอยู่รว่ มกนั ใน ชั้นเรียน/ประจาวิชา เพ่ือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเต็มศักยภาพ กากับ ดูแล การปฏิบัติของผู้เรียนให้เป็นไป ตามขอ้ ตกลงและสามารถปรับพฤตกิ รรมผ้เู รยี นใหเ้ รยี นร่วมกนั ได้อย่างราบรืน่ (9) มีส่วนรว่ มในการจัดกิจกรรมต่างๆ ทเี่ ปน็ การรณรงค์ และสรา้ งจติ สานกึ ทด่ี ี ให้กับนักเรียน ชุมชนและสังคม ในการรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีท้องถ่ิน การรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์พลังงาน รณรงค์ป้องกันยาเสพติด ให้นักเรียน และชุมชน ได้เห็นคุณค่า ความสาคัญของ การจดั กจิ กรรมรวมถึงการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมนั้น

29 (10)รว่ มบริจาคทรพั ย์เพ่อื พฒั นาการศึกษา ทานบุ ารุงศาสนา และชว่ ยเหลือผู้ เดือดร้อน ตามสมควร 5) การรักษาคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชพี (5 คะแนน) ข้าพเจ้าได้ยึดถือปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความรักและศรัทธาในวิชาชีพ พร้อมท้ัง เป็นสมาชิกท่ีดี สนับสนุนหรือร่วมกิจกรรมของวิชาชีพและทางวิชาการอย่างสร้างสรรค์ เพื่อการการรักษา คณุ ภาพตามมาตรฐานวิชาชพี และจรรยาบรรณวชิ าชีพ ดงั นี้ (1) ประพฤติปฏิบัตติ นใหเ้ หมาะสมกบั ความเป็นรองผู้อานวยการและครู ปฏบิ ตั ิ ตนตามจรรยาบรรณครู ผู้บริหารอย่างเคร่งครัด ปรับปรุงตนเองและพัฒนาตนเองตามจรรยาบรรณครูอย่าง เต็มศักยภาพ (2) มีความรักและศรัทธาในวชิ าชีพครยู ึดมัน่ ในอุดมการณ์ความเป็นครูมืออาชพี ถือว่าวิชาชีพครูเป็นวิชาชีพช้ันสูง มีความภาคภูมิใจในอาชีพของตนเองถือว่าเป็นอาชีพที่มีศักดิ์ศรี มี ความสาคัญต่อประเทศชาติ เพราะต้องสร้างคนเพ่ือพัฒนาชาติ และแก้วิกฤตของชาติ เป็นอาชีพท่ีพัฒนาคน ให้เกิดความรู้ มีประสบการณแ์ ละมีทกั ษะในการดารงชวี ติ อย่างแทจ้ รงิ (3) มุ่งมนั่ ต้งั ใจใฝเ่ รียนใฝ่รู้ เพื่อพัฒนาวิชาชีพของตนเองใหด้ ีท่ีสุด จะได้เกิดการ พัฒนาลกู ศิษยอ์ ย่างแทจ้ รงิ และชแ้ี นะปลูกฝังให้ลกู ศิษย์เกิดความรกั ชน่ื ชม และศรัทธาต่ออาชีพครู เป็นการ ปลูกฝังใหก้ ับคนรุน่ หลงั ไดม้ องเห็นความสาคัญของอาชีพครูและเปน็ ครทู ่ีดีของประเทศต่อไป (4) ปฏิบตั ิตนและรว่ มกิจกรรมทางวิชาการ ในสาขาวชิ าทเ่ี ก่ียวข้องอยา่ งต่อเนื่อง (5) เปน็ สมาชิกองคก์ รวชิ าชีพครู และสนับสนนุ หรือเข้าร่วม ในกจิ กรรมพฒั นา วชิ าชพี ครู เป็นสมาชิกองค์กรครุ ุสภา เข้ารว่ มกิจกรรมขององค์กรทุกครง้ั เชน่ กิจกรรมวันไหว้ครู กิจกรรมวันครู (6) รว่ มมอื และร่วมกจิ กรรมอย่างสมา่ เสมอ พัฒนาตนเอง โดยการเข้าร่วม ประชุมทางวิชาการ อบรมปฏิบตั กิ ารในสาขาที่เกย่ี วข้อง กบั สมาชกิ อน่ื ด้วยความเปน็ กันเอง ไมถ่ ือตวั สามารถแนะนาและให้ความรู้ในเร่ืองท่ีเรารว่ มประชมุ อบรมปฏบิ ัตกิ ารกบั เพื่อนรว่ มงานได้ (7) เขา้ ร่วมชมนิทรรศการ การแสดงผลงานทางวิชาการตา่ งๆ ท่ีหน่วยงานต่างๆ จดั อยูเ่ สมอในแสวงหาความรู้ที่เกย่ี วกบั วชิ าชพี ความร้ทู างวชิ าการ มาพัฒนาตนเองเสมอ เปน็ ตน้ 6) การรกั ษาภาพลักษณ์และความสามัคคีในองค์กร ชมุ ชน และสังคม (5 คะแนน) ข้ำพเจำ้ ไดย้ ดึ ถือและปฏบิ ตั ิงำนการรักษาภาพลกั ษณ์ กำรรักษำควำมสำมคั คี มี นำ้ ใจ เอ้อื เฟ้อื เผือ่ แผ่ต่อเพื่อนรว่ มงำน องค์กร ชุมชน และสังคมดังนี้ (1) เข้าร่วมกจิ กรรมและให้ความช่วยเหลือกบั เพื่อนร่วมงานในโรงเรยี น ตลอด ทั้งการร่วมกจิ กรรมทส่ี าคัญของหน่วยงานราชการ องค์กรและชมุ ชนที่อยู่ใกล้เคียงอยา่ งสมา่ เสมอ (2) รว่ มมอื ในการประสานสง่ เสริมความสามัคคใี นหมู่คณะด้วยความจรงิ ใจ

30 นอกจากน้นั ยงั ช่วยเหลอื เพื่อนรว่ มงานในการทาผลงานทางวิชาการ การนาความรทู้ ่ีพัฒนาตนเองมาเผยแพร่ ใหค้ วามชว่ ยเหลือ คาปรกึ ษา คาแนะนาแกเ่ พอื่ นครู อย่างกัลยาณมติ รทุกคร้งั ทีม่ โี อกาส ทงั้ ในโรงเรียนและ นอกโรงเรยี น ดว้ ยความเต็มใจ บรสิ ทุ ธิใ์ จ (3) ให้ความร่วมมอื ชว่ ยเหลือสนบั สนุน กากับติดตามเพื่อนร่วมงาน ผใู้ ตบ้ งั คับบัญชาในการปฏิบตั ิงานอยา่ งเต็มความสามารถ (4) ร่วมประชมุ วางแผนการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของโรงเรยี น ชมุ ชน และองค์กร ต่าง ๆ ทเี่ ก่ียวข้อง (5) ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของเพื่อนร่วมงานและผู้ที่มสี ว่ นเก่ียวข้องทุกๆฝา่ ย อย่างมีเหตุผลโดยยึดหลักธรรมาภบิ าลในการทางาน (6) สนับสนนุ ใหเ้ พอื่ นร่วมงาน ผู้ใตบ้ ังคบั บัญชาได้พัฒนาตนเองและส่งเสรมิ ให้มี วทิ ยฐานะสูงขน้ึ (7) ใหร้ างวัลโดยการยกย่องชมเชยและขอบคณุ เพ่ือนรว่ มงานเพ่ือใหง้ านนั้นๆ สาเร็จลุล่วง บรรลวุ ัตถปุ ระสงคห์ รอื เป้าหมายที่รว่ มกันวางไว้ (8) เสยี สละ ช่วยเหลอื งานทกุ ฝา่ ยดว้ ยความเตม็ ใจ (9)แสดงบทบาทของผูน้ าและเพ่ือนรว่ มงานไดอ้ ย่างเหมาะสม เปน็ ต้น ขอรับรองวา่ รายงานดงั กลา่ วข้างตน้ เป็นความจริงทุกประการ (ลงชือ่ ) (นางสุภัสสร ศรีสวสั ด์ิ) รองผู้อานวยการโรงเรียน วนั ท่ี ๘ เดือน มีนาคม พ.ศ. 256๔


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook