ความหมายของวนั ครสิ ตม์ าส • วนั ครสิ ตม์ าส คอื การฉลองวนั ประสตู ขิ อง พระเยซผู ูเ้ ป็ นศาสดาสงู สดุ ของชาวครสิ ตท์ วั่ โลก เป็ นวนั ฉลองทมี่ คี วามสาคญั และมี ความหมายมากทสี่ ดุ วนั หนึง่ เพราะชาว ครสิ ตถ์ อื วา่ พระเยซมู ใิ ชเ่ ป็ นแตเ่ พยี งมนุษย ์ ธรรมดาๆ ทมี่ าเกดิ เหมอื นเด็กทวั่ ไป แต่ พระองคเ์ ป็ นบตุ รของพระเจา้ ผูส้ งู สดุ และมี พระธรรมชาตเิ ป็ นพระเจา้ และเป็ นมนุษยใ์ น พระองคเ์ อง การบงั เกดิ ของพระองค ์ จงึ เป็ น เหตกุ ารณพ์ เิ ศษ ทไี่ ม่เหมอื นใครและไม่มใี คร เหมอื นดว้ ย
ประวตั กิ ารพระเยซเู จา้ • ในอดตี จกั รพรรดอิ อกสั ตสั รบั สงั่ ให้ ราษฎรทกุ คน ในอาณาจกั รโรมนั ไป ลงทะเบยี นสามะโนประชากร โยเซฟ และมารยี ์ ซงึ่ มคี รรภแ์ กจ่ งึ ตอ้ งเดนิ ทาง ไปยงั เมอื งเบธเลเฮม อนั เป็ นเมอื งที่ กษตั รยิ ด์ าวดิ ประสตู ิ พอดถี งึ กาหนด ทมี่ ารยี จ์ ะคลอดบตุ ร เธอก็ไดค้ ลอด บตุ รชายหวั ปี เธอเอาผา้ พนั กายพระ กมุ ารแลว้ วางไวใ้ นรางหญา้ เนือ่ งจาก ตามโรงแรมไม่มที พี่ กั เลย
ประวตั พิ ระเยซู • คนื นัน้ ทตู สวรรคข์ องพระเจา้ ปรากฎแกพ่ วก เลยี ้ งแกะ พวกเขาตกใจกลวั มาก แตท่ ตู สวรรค ์ ปลอบพวกเขาวา่ \"อย่ากลวั ไปเลยเพราะเรานา ขา่ วดมี าบอก คนื นีเ้ องในเมอื งของกษตั รยิ ด์ า วดิ มพี ระผูช้ ว่ ยใหร้ อดประสตู ิ พระองคน์ ัน้ เป็ น พระครสิ ตพ์ ระเป็ นเจา้ นีจ่ ะเป็ นหลกั ฐานให ้ พวกทา่ นแน่ใจคอื พวกทา่ นจะพบพระกมุ ารมี ผา้ พนั กาย นอนอย่ใู นรางหญา้ \" • ทนั ใดนัน้ มที ตู สวรรคอ์ กี มากมาย รอ้ งเพลง สรรเสรญิ พระเจา้ วา่ \"Gloria in Excelsis Deo\" ขอเทดิ พระเกยี รตพิ ระเจา้ ผูส้ ถติ ยใ์ น สวรรคช์ นั้ สงู สดุ สนั ตสิ ขุ บนพภิ พจงเป็ นของผู้ ทพี่ ระองคท์ รงพอพระทยั
ทาไมจงึ ฉลองครสิ ตม์ าสวนั ที่ 25 ธนั วาคม • ตามหลกั ฐานในพระคมั ภรี ์ (ลก.2:1-3) บนั ทกึ ไวว้ า่ พระเยซเู จา้ บงั เกดิ ในสมยั ที่ จกั รพรรดซิ ซี า่ รอ์ อกสั ตสั ใหจ้ ดทะเบยี น สามะโนครวั ทว่ั ทงั้ แผ่นดนิ โดยมคี ีรนิ ิอสั เป็ น เจา้ ครองเมอื งซเี รยี ซงึ่ ในพระคมั ภรี ไ์ ม่ได ้ บอกวา่ เป็ นวนั หรอื เดอื นอะไร แตน่ ัก ประวตั ศิ าสตรใ์ หเ้ หตผุ ลวา่ ทคื่ รสิ ตชน เลอื ก เอาวนั ที่ 25 ธนั วาคม เป็ นวนั ฉลอง ครสิ ตม์ าส ตง้ั แต่ ศตวรรษที่ 4 เป็ นตน้ มา เนื่องจาก ในปี ค.ศ. 274 จกั รพรรดเิ อาเร เลยี น ไดก้ าหนดใหว้ นั ที่ 25 ธนั วาคม เป็ น วนั ฉลอง วนั เกดิ ของสุรยิ เทพผูท้ รงพลงั ชาว โรมนั ฉลองวนั นีอ้ ยา่ งสงา่ และถอื เสมอื นวา่ เป็ นวนั ฉลองของพระจกั รพรรดไิ ปในตวั ดว้ ย เพราะพระจกั รพรรดกิ ็เปรยี บเสมอื น ดวง อาทติ ย ์ ทใี่ หค้ วามสวา่ งแกช่ วี ติ มนุษย ์
ทาไมจงึ ฉลองครสิ ตม์ าสวนั ที่ 25 ธนั วาคม • ครสิ ตช์ นทอี่ ย่ใู นจกั รวรรดิ โรมนั รสู ้ กึ อดึ อดั ใจทจี่ ะฉลองวนั เกดิ ของสรุ ยิ ะเทพ ตามประเพณีของชาวโรมนั จงึ หนั มา ฉลองการบงั เกดิ ของพระเยซเู จา้ แทน จนถงึ วนั ที่ 25 ธนั วาคม ค.ศ. 330 จงึ เรมิ่ มกี ารฉลองครสิ ตม์ าสอยา่ งเป็ น ทางการ และอย่างเปิดเผย เนือ่ งจาก กอ่ นนัน้ มกี ารเบยี ดเบยี นศาสนาอยา่ ง รนุ แรง (ตงั้ แต่ ปี ค.ศ. 64-313) ทาให้ ครสิ ตช์ นไม่มโี อกาสฉลองอะไรอยา่ ง เปิ ดเผย
ความสาคญั ของวนั ครสิ ตม์ าส • รคหา่รนงสิึง่กใตนาม์ยศาจาสดัสงเนปาา็ นนควรรนั สนิื่ ทตเรมี่ ์งมิ คี ภใิ วาชายเ่มปนส็ นอาวกคนั เญัทส่าาอนคยัน้ญา่ั งซฝย่งงาึิ่่ เวยปนั ็ น แโแลตตกเแ่่ พมกยีนน่ งุษแเปทยลอ้์ นอืยัน่ กทู่ คนคี่ อื อวากพมขรรอะกัเงจกขา้ าทอรงรฉพงลรรกอั ะเมงจคนา้ รุษทสิ ยี่ตม์ มมตี์ าาอ่ สก จพนระถองงึ กคบั์ ใยหอม้ มาสเกง่ พดิ เรปะ็ นบตุ มรนแุษตยอ่ ง์ มคเี เน์ ดือ้ยี หวนขังอมงงั สา ชอื่ วา่ \"เยซ\"ู • กเเดกปปางาั็็ นนนรรทมฉทัน้ นาพีลค่ สุษอรวงะายขเคมจ์อเวสพา้งาไาคอื่มดควชรถญ้ัากว่ั อ่มยทขมชมพีอ่อวัน่ งรงวุษแะคนเัลยจ์ แคะใา์้บลหรมาะสิร้ตีเปตอกอ่ ตดมยโี์ า่ลพารงตสกนๆ้ จมิ จลนงึนางอันุ่กษมยเกายอทู่ เาง์กี่ รดิ ทคอยรงั้ สสา่ิ งนติ ้ เทป์ ็ มนี่ าจเรกงิ ดิ เเปป็ น็ นจมงั นแุษลยะเ์ มหา็นกตกวั วตา่ นสใงิน่ อพนื่ รใะดเยซู
ประวตั วิ นั ครสิ ตม์ าส • ครสิ ตม์ าส คอื การฉลองการบงั เกดิ ของพระ เยซเู จา้ เราเฉลมิ ฉลองกนั ในวนั ที่ 25 ธนั วาคม คาวา่ ครสิ ตม์ าส เป็ นคาทบั ศพั ท ์ ภาษาองั กฤษ Christmas ซงึ่ มาจาก ภาษาองั กฤษ โบราณวา่ Christes Maesse ที่ แปลวา่ บชู ามสิ ซาของพระครสิ ตเจา้ เพราะ การรว่ มพธิ มี สิ ซาเป็ นประเพณีสาคญั ทสี่ ดุ ที่ ชาวครสิ ต ์ ถอื ปฎบิ ตั กิ นั ในวนั ครสิ ตม์ าส • คาวา่ Christes Maesse พบครงั้ แรก ใน เอกสารโบราณ เป็ นภาษาองั กฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคานีก้ ็แปรเปลยี่ นมาเป็ นคาวา่ Christmas คาทกั ทายทเี่ ราไดฟ้ ังบ่อย ๆ ใน เทศกาลนีค้ อื Merry Christmas คาวา่ Merry ในภาษาองั กฤษโบราณ แปลวา่ สนั ติ สขุ และความสงบทางใจ
การรอ้ งเพลงครสิ ตม์ าส • เพลงครสิ ตม์ าสทเี่ รานิยมรอ้ งมากทสี่ ดุ ใน ปัจจบุ นั ไดแ้ ตง่ ขนึ้ ในศตวรรษที่ 19 จาก ประเทศองั กฤษเป็ นสว่ นใหญ่ เพลงทมี่ เี สยี ง มากไดแ้ ก่ Silent Night, Holy Night เป็ น ภาษาไทยวา่ \"ราตรสี วสั ดิ ์ คนื อนั ศกั ดสิ ทิ ธ\"์ • ความเป็ นมาของเพลงนีค้ อื วนั กอ่ นวนั ครสิ ตม์ าส ของปี ค.ศ. 1818 คณุ พอ่ Joseph Mohr เจา้ อากาสวดั ที่ Oberndorf ประเทศ อวงอขสบัเตไมร่สเลายี มาไรดถข้ รา่ อ้วงวเา่พอลองรตแ์ ากมนทใซนี่ วอ้ ดัมไเสวไยี้ ดท้ คาณุให ้ พ่อเองตงั้ ใจจะแตง่ เพลงครสิ ตม์ าส หลงั จาก แตง่ เสรจ็ ก็เอาไปใหเ้ พอื่ นคนหนึ่งชอื่ Franz SวGนiั rleuทnbี่ 2te4Nr ทiนgอี่ ั้hนยtเอหู่ เปงม็ นู่บสคตาั้ นรบงใั้ รุ แกษุ รลวกเ้ดัคใโยี กดงลใยสกก้ ท่ ็ไาดารนเฟ้ลอังน่ งเใพกนตีลคางนืร ์ ประกอบการขบั รอ้ ง ซงึ่ กลายเป็ นเพลงทนี่ ิยม มากทสี่ ดุ ทว่ั โลก
เทยี นและพวงมาลยั • ในสมยั กอ่ นมกี ลมุ่ ครสิ ตชนกลมุ่ หนึ่งในเยอรมนั ไดเ้ อากงิ่ ไมม้ าประกอบเป็ นวงกลมคลา้ ยพวงมาลยั แลว้ เอาเทยี น 4 เลม่ วางไวบ้ นพวงมาลยั นั้นใน ตอนกลางคนื ของวนั อาทติ ยแ์ รกของเทศกาล เตรยี มรบั เสด็จ ทุกคนในครอบครวั จะมารวมกนั เดพบั ลไฟงคแรลสิ วต้ จม์ ดุ าเสทรยี ว่ นมเกลนัม่ หเขนาึ่งจสะทวดาดภงั านวีท้ นุกาอแาลทะรติ อ้ยง์ จนครบ 4 อาทติ ยก์ อ่ นครสิ ตม์ าส ประเพณีนีเ้ ป็ น ทนี่ ิยมและแพรห่ ลายในทหี่ ลายแห่ง โดยเฉพาะที่ สหรฐั อเมรกิ า • ซเทงึ่ ยี ตนอ่ ทมจี่าดุมไกี วาต้ รรเงพกมิ่ ลาโดง ย1เอเลาม่พไวปงแมขาวลนยั ไพวทร้ อหี่้ มนกา้ บตั า่ ง เพอื่ ชว่ ย ใหค้ นทผี่ ่านไปมา ไดร้ ะลกึ ถงึ การเตรยี ม ตวั รบั วนั ครสิ ตม์ าสทใี่ กลเ้ ขา้ มา และพวงมาลยั น้ัน ชยงันเปะ็ นแตสใ่ญั นลทกั นี่ ษีห้ ณมาท์ ยคี่ ถนงึ กสามรยัทโพี่บรราะอณงใคชม์ ห้ ามบางั ยเกถดิ งึ ใชนยั โลก และทาใหท้ ุกสงิ่ ทกุ อย่างครบ บรบิ รู ณต์ าม แผนการณข์ องพระเป็ นเจา้
การทามสิ ซาเทยี่ งคนื • เมอื่ พระสนั ตะปาปาจลู อี สั ที่ 1 ไดป้ ระกาศให ้ วนั ที่ 25 ธนั วาคมเป็ นฉลองพระครสิ ตสมภพ (วนั ครสิ ตม์ าส) แลว้ ในปี น้ันเองพระองคแ์ ละ สตั บรุ ษุ ไดพ้ ากนั เดนิ สวดภาวนา และขบั รอ้ งไป ยงั ตาบลเบธเลเฮม ยงั ถา้ ทพี่ ระเยซเู จา้ ประสตู ิ • พอไปถงึ ก็เป็ นเวลาเทยี่ งคนื พระสนั ตะปาปาก็ ทรงถวายบชู า ณ ทนี่ ้ัน เมอื่ เสรจ็ แลว้ ก็กลบั มา ทพี่ กั เป็ นเวลาเชา้ มดื ราวๆ ตี 3 พระองคก์ ็ กถนวั ากยลมบั สิ ซแตาอก่ กี็ยคงั มรสีงั้ ตั แบลรุะสษุ ตัหบลรุาษุยเคหนลทา่ ไี่นมั้น่ไกด็พไ้ ปา พระสนั ตะปาปาก็ทรงถวายบชู ามสิ ซาอกี ครง้ั หนึ่งเป็ นครง้ั ที่ 3 เพอื่ สตั บรุ ษุ เหลา่ นั้น ดว้ ย เหตนุ ีเ้ องพระสนั ตะปาปาจงึ ทรงอนุญาตใน พระสงฆถ์ วายบชู ามสิ ซาได ้ 3 ครงั้ ในวนั ครสิ ตม์ าส เหมอื นกบั การปฏบิ ตั ขิ องพระองค ์ ตงั้ แตน่ ั้นเป็ นตน้ มาจงึ มี ธรรมเนียมถวาย มสิ ซาเทยี่ งคนื ในวนั ครสิ ตม์ าส และพระสงฆก์ ็ สามารถถวายมสิ ซาได ้ 3 มสิ ซา ใน โอกาสวนั ครสิ ตม์ าสเชน่ เดยี วกนั
เรอื่ งเลา่ จากซานตาครอส • ตวั จรงิ ของซานตาครอส คอื นักบญุ นิโคลสั ซงึ่ เป็ นบาทหลวงในตรุ กี ชว่ งครสิ ตศ์ ตวรรษทสี่ ี่ ผูข้ นึ้ ชอื่ ในเรอื่ งความใจดี โดยเฉพาะกบั เด็กๆ ตอ่ มาท่านเป็ นทรี่ จู ้ กั อย่างกวา้ งขวางทว่ั ฮอลแลนดใ์ นชอื่ \"ซนิ เตอรค์ ลาส\" ราว ค.ศ.1870 ชาวอเมรกิ นั เรยี กชอื่ เพยี้ นไปเป็ น \"ซานตาคลอส\" ตง้ั แตแ่ รกจนถงึ ค.ศ. 1890 • ภาพของซานตาคลอสเป็ นชายรา่ งผอมสงู สวมชดุ สเี ขยี ว หรอื นา้ ตาลสลบั แดง เจนนี ไน สตรอม ศลิ ปิ นชาวสวเี ดน เป็ นผูค้ ดิ คน้ รปู ลกั ษณข์ องซานตาครอสอยา่ งทเี่ ห็นกนั ใน ปัจจบุ นั โดยวาดภาพลงในบตั รอวยพร ครสิ ตม์ าส ภาพเหลา่ นีไ้ ดร้ บั ความนิยมไปทว่ั โลก เมอื่ ชาวสวเี ดนอกี คนชอื่ แฮดดอน ซนั ด ์ บลอม นาภาพวาดของไนสตรอมสวมชดุ ขาว
เมนูอาหารทนี่ ิยมรบั ประทาน ฉลอง “ครสิ ตม์ าส” • 1. มนั ฝรง่ั อบ (Roast potatoes) • มนั ฝรง่ั อบนี่แหละเป็ นเมนูทขี่ าดไม่ไดเ้ ลยในชว่ ง ครสิ ตม์ าส กนิ กบั ไกง่ วงหรอื แฮมก็อรอ่ ย หรอื จะกนิ เพยี วๆ ก็ดงี ามไม่แพก้ นั ! • 2.สตฟั ฟิ ง / เดรสซงิ่ (Stuffing/Dressing) • อาหารยดั ไสส้ ดุ คลาสสคิ เสริ ฟ์ พรอ้ มขนมปังอนุ่ ๆ หอม กรนุ่ จากเตา กนิ แลว้ เขา้ กนั๊ เขา้ กนั • 3.แฮม/ไกง่ วง Roast Ham/Turkey • ขอเสยี งปรบมอื ตอ้ นรบั จานหลกั ยอดนิยมอยา่ ง แฮม/ไก่ งวง หน่อยเรว็ คณุ สามารถนาไปอบหรอื ย่างก็ไดต้ ามใจ ชอบ กนิ คกู่ บั มนั บดหรอื ผกั บางประเทศอาจใชห้ งษ ์ หา่ น ไสก้ รอก หรอื เนือ้ ววั เป็ นจานหลกั แทน แตเ่ ชอื่ เถอะวา่ รสชาตดิ สี สู ไี ม่แพก้ นั เลย • 4. ครสิ ตม์ าสพุดดงิ้ (Christmas pudding) • ขนมทมี่ แี หลง่ กาเนิดจากประเทศองั กฤษ มสี ว่ นผสม หลกั ๆ ของผลไมอ้ บแหง้ ถว่ั และนา้ ตาลทรายแดง รสชาตแิ ละเนือ้ สมั ผสั ละมา้ ยคลา้ ยฟรตุ ๊ เคก้ ตกแตง่ ดคาร้ สนิ ตบมน์ าดสว้ )ยกดอ่อนกเฮสอริ ลฟ์ ลจี่ ะ(รหานดึ่งดในว้ สยญบั รลน่ั กั ดษแี ณละข์จอดุ ไงฟวนั
อาหารทนี่ ิยมทานในวนั ครสิ ตม์ าส • 5.ขนมปังขงิ หรอื ขนมขงิ เป็ นของหวานที่ นิยมรบั ประทานมากทสี่ ดุ ในชว่ งครสิ ตม์ าส มี สว่ นผสมจากเครอื่ งเทศตา่ งๆ อาทิ อบเชย กานพลู โป๊ ยกกั๊ แลว้ ตกแตง่ ดว้ ยอลั มอนด ์ เปลอื กสม้ หรอื ชอ็ กโกแล็ต หอมมนั รสหวาน นิดๆ ขมหน่อยๆ พอดกี นั • 6.เคก้ ฟองนา้ เนือ้ นุ่มๆ มว้ นกลมจนทาใหม้ ที รง คลา้ ยๆ ขอนไม ้ ตกแตง่ ดว้ ยครมี สนี า้ ตาล โรย ดว้ ยไอซงิ่ ทเี่ หมอื นกบั หมิ ะ เมอรแ์ รงแทนเห็ด แซมดว้ ยผลราสเบอรี่ จาลองเสมอื นขอนไมท้ ี่ เกดิ ตามธรรมชาติ เป็ นเมนูทหี่ นา้ ตาสดุ ควิ้ ท ์ เห็นแลว้ น่าลมิ้ ลอง • 7.มนิ ซพ์ าย หรอื พายหวาน ขนมสญั ชาติ องั กฤษทมี่ ไี สท้ าจากผลไมแ้ หง้ และเครอื่ งเทศ นิยมรบั ประทานมากในชว่ งครสิ ตม์ าส เรยี กวา่ ไม่มบี า้ นไหนเลยทไี่ ม่มมี นิ ซพ์ ายจะดกี วา่ !
อาหารทนี่ ิยมทานในวนั ครสิ ตม์ าส • 8.ไวนร์ อ้ น (Mulled Wine) • อากาศหนาวๆ ชว่ งครสิ ตม์ าสหากไดจ้ บิ ไวน์ รอ้ นๆ คงจะดไี ม่นอ้ ย ลองทาดสู ไิ ม่เห็นจะยาก แคต่ ม้ ไวนแ์ ดงพรอ้ มเครอื่ งเทศ อาทิ อบเชย กานพลู โป๊ ยกกั๊ เตมิ รสหวานและเปรยี้ วดว้ ย นา้ ตาลทรายและผลไมส้ ด ตม้ ทงิ้ ไว ้ 1 ชว่ั โมง แคน่ ีก้ ็เป็ นอนั เรยี บรอ้ ย • 9.เอก้ น็อก (EggNog) • เครอื่ งดมื่ ทรี่ วมรสหวานมนั และแอลกอออล ์ แรงๆ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั อย่างลงตวั ทงั้ นม ครมี ไข่ เพมิ่ ดกี รคี วามแรงดว้ ยบรน่ั ดี วสิ กี้ หรอื เหลา้ รมั จบิ แลว้ แฮปปี้เขา้ กบั เทศกาลแหง่ ความสขุ จนทาใหก้ ารดมื่ “เอก้ น็อก” ในวนั ครสิ ตม์ าส กลายเป็ นธรรมเนียมของคนอเมรกิ นั ไปแลว้ !
จดั ทาโดย นาย ธรี ะเศรษฐ ์ ศรบี ญุ เพ็ง ชน้ั ม.4/10 เลขท8ี่
Search
Read the Text Version
- 1 - 16
Pages: