Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กระชาย 1

กระชาย 1

Published by MAIKAIN LIBRARY, 2021-06-23 07:13:42

Description: กระชาย 1

Search

Read the Text Version

สมนุ ไพร กระชาย ภายใตก้ จิ กรรม “กศน.หว่ งใย ตา้ นภยั โควดิ -19” กศน.อาเภอไมแ้ กน่ สานกั งาน กศน.จังหวดั ปัตตานี

กระชาย กระชาย สรรพคณุ และประโยชน์ เนือ้ หา 1 กระชาย 2 ลกั ษณะของกระชายเหลือง 3 สรรพคณุ ของกระชาย 4 ประโยชนข์ องกระชาย 5 วธิ ที านา้ กระชาย กระชาย กระชาย (กระชายขาว, กระชายเหลอื ง) ช่อื สามญั Fingerroot, Chinese ginger, Chinese keys, Galingale กระชาย ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Boesenbergia rotunda (L.) Mansf. จัดอยู่ในวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) สมนุ ไพรกระชาย มชี ่ือท้องถน่ิ อื่น ๆ ว่า วา่ นพระอาทติ ย์ (กรุงเทพมหานคร), กระชายดา กะแอน ขงิ ทราย (มหาสารคาม), จี๊ปู ซฟี ู เปาซอเร๊าะ เป๊าสี่ เปา๊ ะสี่ ระแอน เปา๊ ะซอเร้าะ (กะเหรยี่ ง- แม่ฮ่องสอน), ละแอน (ภาคเหนอื ), ขงิ จีน เปน็ ต้น

ลักษณะของกระชายเหลอื ง  ตน้ กระชาย มถี ่นิ กาเนิดในเขตรอ้ นบรเิ วณเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ โดยจดั เปน็ ไมล้ ม้ ลุก มี เหงา้ สัน้ แตกหน่อได้ มรี ากอวบ เป็นรูปทรงกระบอกหรอื รูปทรงไข่คอ่ นข้างยาว ปลายเรียว มีความยาวประมาณ 4-10 เซนติเมตร และกวา้ งประมาณ 1-2 เซนติเมตร ออกเป็นกระจุก ผวิ มสี ีนา้ ตาลออ่ น ส่วนเนือ้ ในมีสเี หลืองและมกี ลิน่ หอมเฉพาะตวั มกั พบขนึ้ ในปา่ ดิบรอ้ นชื้น  ใบกระชาย คอื ลกั ษณะของส่วนทอี่ ยู่เหนอื ดนิ มีประมาณ 2-7 ใบ ลกั ษณะของใบเป็นใบเดย่ี ว เรียงสลบั ลักษณะเปน็ รปู รี ใบยาวประมาณ 12-50 เซนตเิ มตรและกวา้ งประมาณ 5-12 เซนติเมตร โคนใบมนหรือแหลม ส่วนปลายใบเรียวแหลม มขี อบเรียบ เสน้ กลางใบ ด้านใบ และกาบใบดา้ นบนจะเปน็ รอ่ ง ส่วนด้านล่างจะนูนเป็นสัน ด้านใบเรียบมคี วามยาวประมาณ 7-25 เซนตเิ มตร สว่ นกาบใบเปน็ สีชมพูยาวประมาณ 7-25 เซนติเมตร ระหวา่ งกา้ นใบและ กาบใบจะมีลน้ิ ใบ  ดอกกระชาย ออกดอกเปน็ ช่อแบบชอ่ เชิงลด โดยจะออกทยี่ อดระหวา่ งกาบใบค่ใู นสุด มี ความยาวประมาณ 5 เซนติเมตร แต่ละดอกจะมใี บประดบั 2 ใบ มสี ขี าวหรอื สขี าวอมชมพู อ่อน ๆ เป็นรปู ใบหอกกวา้ งประมาณ 8 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 3.5-4.5 เซนตเิ มตร ที่ กลีบเลีย้ งมสี ขี าวหรือสขี าวอมชมพูอ่อน โคนตดิ กนั เป็นหลอด ยาวประมาณ 1.7 เซนตเิ มตร ปลายจะแยกเปน็ 3 แฉก สว่ นกลบี ดอกมีสขี าวหรอื สีขาวอมชมพูอ่อน โคนตดิ กนั เป็นหลอด ยาวประมาณ 6 เซนติเมตร และปลายแยกเป็น 3 กลีบ เปน็ รูปใบหอก มีขนาดไม่เท่ากัน กลบี ใหญ่มี 1 กลบี กวา้ งประมาณ 7 มลิ ลิเมตรและยาวประมาณ 1.8 เซนตเิ มตร ส่วนอีก 2 กลบี จะมีขนาดเท่ากัน กวา้ งประมาณ 5 มิลลเิ มตร และยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีเกสร

ตัวผู้อยู่ 6 อนั แตม่ ี 5 อนั ทเ่ี ปลย่ี นไปมลี ักษณะเหมอื นกลีบดอก โดย 2 กลีบบนมสี ชี มพู รปู ไขก่ ลบั ขนาดเท่ากนั มีความกว้างประมาณ 1.2 เซนตเิ มตร และยาวประมาณ 1.7 เซนตเิ มตร สว่ นอีก 3 กลบี ลา่ งมสี ีชมพตู ิดกันเปน็ กระพุ้ง มีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาว ประมาณ 2.7 เซนตเิ มตร และที่ปลายจะแผก่ ว้างประมาณ 2.5 เซนตเิ มตร มีสีชมพูหรือสีม่วง แดงเป็นเสน้ อยเู่ กอื บทงั้ กลีบ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ตรงกระเปาะและปลายกลบี จะมเี กสรตัวผทู้ ี่ สมบูรณ์อยู่ 1 อัน กา้ นชูอบั เรณหู มุ้ กา้ นเกสรตวั เมีย  ผลกระชาย ผลแกจ่ ะแตกเปน็ 3 เสีย่ ง มีเมล็ดค่อนขา้ งใหญ่ กระชาย มีอยู่ด้วยกัน 3 ชนดิ คือ กระชายดา กระชายแดง และกระชายเหลือง (แต่ใน บทความนเ้ี ราจะพูดกนั ถึงกระชายเหลอื งครับ) โดยกระชายเปน็ พชื สมนุ ไพรท่คี นไทยต่างรู้จักกนั เป็น อย่างดี สามารถนามาปรงุ เป็นอาหารได้หลากหลายเมนู โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในการนามาใชเ้ ป็น ส่วนผสมสาคญั ในแกงป่า หรือผัดตา่ ง ๆ โดยส่วนที่นยิ มนามาใช้ประกอบอาหารกนั มากท่ีสดุ คือ ราก สะสมอาหาร หรือท่ีเรยี กวา่ \"นมกระชาย\" ซง่ึ รากกระชายน้ีจะมีกลิ่นหอมเฉพาะตวั สามารถใชเ้ ป็นผัก จม้ิ ไดโ้ ดยตรง แต่คนสว่ นใหญ่มักจะนยิ มนามาใช้เป็นเครอื่ งแกงซะมากกวา่ เพราะมีคุณสมบัตใิ นการ ชว่ ยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์เนอ้ื ปลาไดเ้ ปน็ อยา่ งดี กระชายท่นี ยิ มใชก้ ันก็คือกระชายเหลืองและกระชายดา ซง่ึ กระชายดาปจั จุบนั กาลงั เปน็ ท่ี นิยม จนทาให้กระชายเหลอื งถูกลดความสาคญั ลงไป แต่ว่ากันวา่ ในด้านสรรพคุณทางยาสมนุ ไพร กระชายเหลอื งนั้นดีกวา่ กระชายดา เพราะบางทเี รากค็ ดิ ไปเองวา่ สมนุ ไพรถ้าเป็นสเี ข้มกวา่ กน็ า่ จะมี ประโยชน์มากกวา่ แถมกระชายดายงั ไดร้ ับการโปรโมตทางการตลาดอยา่ งตอ่ เนอื่ ง ทาให้คนทั่วไปหลง คดิ วา่ กระชายดานั้นดกี วา่ กระชายเหลืองนน่ั เอง สมุนไพรกระชาย มีสรรพคุณทางยานานบั ประการ จนได้ชื่อในวงการแพทย์แผนไทยว่าเปน็ \"โสมไทย\" เนอื่ งจากกระชายกับโสมมีความคลา้ ยคลึงกันหลายอยา่ ง เชน่ สรรพคุณในการบารุงกาลงั และเสรมิ สมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นลกั ษณะเดน่ ของสมนุ ไพรท้งั สองชนิด ท้ังกระชายและโสมตา่ งก็ เป็นพชื ท่ีมีส่วนสะสมอาหารที่ใช้เปน็ ยาอยู่ใตด้ นิ เหมือนกนั แถมยงั สามารถเรืองแสงในท่ีมืดได้ เหมือนกนั ดว้ ย และในเรื่องของลกั ษณะท่คี ลา้ ยกับรูปร่างมนษุ ย์เหมอื น ๆ กัน ซง่ึ บางคร้งั เราจะเรียก โสมวา่ \"โสมคน\" และเรียกกระชายว่า \"นมกระชาย\" (เนื่องจากกระชายมลี กั ษณะทีค่ ลา้ ยคลึงกบั นม ผู้หญิงนนั่ เอง และบางครง้ั ก็ดูคลา้ ยเพศชาย จงึ เกิดความเช่ือทว่ี ่ามนั น่าจะมีความเก่ยี วข้องในเร่ือง สรรพคณุ ทางเพศ)

สรรพคุณของกระชาย 1. กระชายมสี รรพคุณชว่ ยบารุงร่างกาย เปน็ ยาอายวุ ัฒนะ 2. ช่วยบารุงธาตใุ นร่างกาย (ใบ) 3. กระชายเหลอื งมีสรรพคุณชว่ ยแกล้ มวงิ เวยี น แน่นหน้าอก 4. ชว่ ยบารุงกาลัง เสริมสมรรถภาพทางเพศ บาบัดโรคนกเขาไมข่ ันหรือโรคอดี ี (Erectile Dysfunctional หรอื ED) (เหงา้ ใต้ดนิ ) 5. ช่วยบารงุ หัวใจ ดว้ ยการใชเ้ หง้าและรากของกระชายนามาปอกเปลือก ลา้ งนา้ ใหส้ ะอาด นามาหั่นตากแหง้ แลว้ บดจนเปน็ ผง และให้ใชผ้ งแห้งท่ีเตรียมไวป้ ระมาณ 1 ช้อนชา นามาชง กบั นา้ ร้อนครึง่ ถว้ ยชา แลว้ รบั ประทานเพียงครั้งเดยี ว (เหง้า, ราก) 6. ชว่ ยบารุงกระดูก ชว่ ยทาให้กระดกู ไมเ่ ปราะบาง 7. ช่วยปรับสมดลุ ของฮอรโ์ มนต่าง ๆ ในรา่ งกาย 8. ชว่ ยบารุงกาหนดั แก้อาการกามตายด้าน (เหง้าใตด้ นิ ) 9. ชว่ ยบารุงสมอง เพราะช่วยทาใหเ้ ลือดไปเลีย้ งสมองสว่ นกลางได้ดีมากข้นึ 10. ชว่ ยปรับสมดุลของความดนั โลหิตในร่างกาย ชว่ ยลดความดนั โลหติ เมอื่ ความดันโลหติ สูง แต่ เมอ่ื ความดันโลหติ ต่าก็จะช่วยทาใหค้ วามดนั เพ่ิมขนึ้ จนเป็นปกติ 11. สรรพคณุ กระชายชว่ ยแก้โลหิตเป็นพษิ (ใบ) 12. กระชายมสี รรพคณุ ทางยาชว่ ยแกโ้ รคในปากและคอ เช่น ปากเปือ่ ย ปากแหง้ ปากเปน็ แผล (ใบ, เหง้า) 13. ชว่ ยแกฝ้ า้ ขาวในปาก ด้วยการใช้กระชายท่ลี า้ งสะอาดนามาบดแบบไม่ตอ้ งปอกเปลอื ก แลว้ ใสใ่ นโถปัน่ พอหยาบ แลว้ นามาใสข่ วดปดิ ฝาแช่ไว้ในต้เู ย็น แลว้ นามากนิ ก่อนอาหารครงั้ ละ 1 ช้อนชาเลก็ กนิ วนั ละ 3 มอ้ื ก่อนอาหารประมาณ 15 นาที ประมาณ 1 อาทิตย์ (ราก) 14. เหงา้ ใต้ดินมีรสเผด็ ร้อนและขม มสี รรพคุณช่วยแกอ้ าการปวดทอ้ ง มวนในท้อง อาการท้องอืด ทอ้ งเฟ้อ ดว้ ยการใชเ้ หงา้ และรากประมาณคร่ึงกามอื ถ้าสดใหใ้ ชป้ ระมาณ 5-10 กรมั แต่ถา้ เป็นแหง้ ใหใ้ ช้ประมาณ 3-5 กรัม แลว้ นามาต้มเอานา้ ดืม่ แก้อาการ หรือจะนามาใช้ปรงุ เป็น อาหารไวร้ บั ประทานก็ได้เชน่ กนั (เหง้าใตด้ นิ ) 15. ช่วยแก้อาการท้องรว่ ง ทอ้ งเดิน ด้วยการใช้เหง้าสด 1-2 เหงา้ ใช้เหงา้ ท่ปี ิง้ ไฟแล้วนามาฝน หรือตาผสมกับนา้ ปนู ใส หรือจะค้ันให้ขน้ ๆ แลว้ นามารบั ประทานคร้ังละ 1-2 ช้อนชาก็ได้ (เหงา้ , ราก) 16. ช่วยแกบ้ ดิ โดยใช้เหงา้ สดประมาณ 2 เหง้า นามาบดจนละเอียดแล้วเตมิ นา้ ปนู ใส คั้นเอาแต่ นา้ มาดื่ม (เหง้าสด)

17. ช่วยรกั ษาอาการท้องเดินในเด็ก (เหงา้ , ราก) 18. รากกระชายมสี รรพคุณช่วยแกโ้ รคกระเพาะ (ราก) 19. ชว่ ยแก้อาการบิดมูกเลือด (เหงา้ , ราก) 20. ใชเ้ ป็นยาขบั ปสั สาวะ แก้อาการปสั สาวะพิการ (เหง้า, ราก) 21. ชว่ ยบารงุ ตับและไตให้แขง็ แรง ช่วยรกั ษาโรคไต ชว่ ยทาใหไ้ ตทางานได้ดียง่ิ ข้ึน 22. ช่วยปอ้ งกนั ไทรอยด์เป็นพิษ 23. ช่วยรกั ษาอาการกระเพาะปสั สาวะเกรง็ ซ่ึงในกรณนี ี้อาจจะตอ้ งใช้เม็ดบวั ท่ีต้มแล้วนามา รบั ประทานรว่ มดว้ ย 24. ชว่ ยแก้อาการไส้เลอื่ นในเพศชาย 25. ช่วยควบคมุ ไม่ให้ต่อมลูกหมากโต 26. ช่วยบารงุ มดลูกของสตรี ป้องกันไม่ใหม้ ดลูกโต 27. แกอ้ าการตกขาว ชว่ ยขับระดูขาวของสตรี (เหงา้ ) 28. ช่วยขับน้าคาวปลาของสตรหี ลงั คลอดบุตร 29. ใชเ้ ป็นยารกั ษารดิ สดี วงทวาร ดว้ ยการใชเ้ หง้าสดประมาณ 60 กรมั (6-8 เหงา้ ) นามาผสมกับ เน้อื มะขามเปยี กประมาณ 60 กรมั เกลอื แกง 3 ชอ้ นแกง และนามาตาแล้วตม้ กับนา้ 6 แก้ว แล้วเคี่ยวจนเหลอื 2 แก้ว นามารับประทานคร้ังละครึ่งแก้วก่อนนอน แลว้ รับประทาน ติดตอ่ กนั ประมาณ 1 เดือนจนกว่าจะหาย (เหง้าใตด้ ิน) 30. ใบช่วยถอนพิษต่าง ๆ (ใบ) 31. ชว่ ยแกอ้ าการปวดเม่อื ย ด้วยการใช้เหงา้ หรือรากแก่ ๆ นามาห่ันเป็นแว่นบาง ๆ แล้วนาไป ตากแหง้ และนามาชงกบั นา้ ดื่ม (ราก, เหง้า) 32. ชว่ ยบารุงเส้นเอน็ ใหแ้ ขง็ แรง 33. เหง้าและรากใชเ้ ป็นยาภายนอก สรรพคณุ ชว่ ยรกั ษาขี้กลาก ขเี้ กล้อื น (เหง้า, ราก) 34. ชว่ ยรกั ษาโรคน้ากดั เท้า ด้วยการใช้รากกระชายทงั้ เปลือกมาลา้ งแล้วผึ่งให้แห้ง ฝานเปน็ แวน่ ๆ และนาไปบดใหเ้ ป็นผงหยาบ ๆ และใชน้ า้ มนั มะกอกหรือน้ามันมะพรา้ วมาอุน่ ในหม้อใบ เล็ก ๆ เติมผงกระชาย ใชน้ า้ มัน 3 เทา่ ของปริมาณกระชาย แลว้ นามาหุงด้วยไฟอ่อน ๆ ราว 15-20 นาที แลว้ กรองกระชายออก เก็บน้ามนั ไวใ้ นขวดแก้วสชี า นามาใชท้ าบรเิ วณทเ่ี ป็น (ราก) 35. ช่วยแกอ้ าการคนั หนงั ศีรษะจากเช้อื รา ดว้ ยการใช้น้ามนั ดงั กลา่ ว (จากสูตรรักษาโรคน้ากัด เทา้ ) นามาเขา้ สูตรทาเปน็ แชมพสู ระผม หรือจะใชน้ า้ มันกระชายโกรกผมแลว้ นวดใหเ้ ขา้ หนัง ศีรษะก็ได้ แล้วค่อยล้างออก (น้ามันกระชาย)

36. ช่วยรกั ษาฝีดว้ ยการใชเ้ หง้ากับรากมาตาให้ละเอยี ดแลว้ นามาทาหัวฝีที่บวม จะทาให้หายเรว็ ยง่ิ ขน้ึ (เหง้า, ราก) 37. เหง้ามีฤทธ์ใิ นการช่วยตา้ นเช้ือราทเี่ ปน็ สาเหตุของการเกดิ โรคผวิ หนงั และโรคในช่องปากดี พอสมควร (เหง้า) 38. กระชายมีสารท่ีออกฤทธช์ิ ว่ ยต้านการก่อการกลายพันธ์ุ โดยการบริโภครากกระชายสามารถ ชว่ ยลดความเส่ียงของการเกดิ โรคมะเรง็ ได้ 39. กระชายมีสารท่ีออกฤทธทิ์ าให้อนมุ ลู อิสระเปน็ กลาง จึงมีผลช่วยลดความเสียหายของการเกดิ อนมุ ลู อิสระภายในร่างกายได้ 40. กระชายมีฤทธ์ิช่วยต้านการอักเสบ การบรโิ ภคกระชายเปน็ ประจาอาจได้ผลคลา้ ยกับการ รบั ประทานยาแอสไพรินและอาจจะชว่ ยปอ้ งกนั การเกิดโรคทม่ี ีสาเหตมุ าจากการอักเสบ เรือ้ รังภายในรา่ งกายได้ 41. งานวิจยั จากมหาวทิ ยาลัยเชยี งใหมร่ ว่ มกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ศกึ ษาพบวา่ สารสกดั จากกระชายสามารถชว่ ยตา้ นการเสอ่ื มของกระดูกออ่ นในหลอดทดลองได้ และได้ผลเป็นที่ น่าพอใจ 42. งานวิจัยในประเทศกานาพบว่าสาร Pinostrobin จากรากและใบมฤี ทธช์ิ ่วยต้านเชอ้ื Plasmodium falciparum ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกดิ โรคมาลาเรีย 43. งานวจิ ยั ของมหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์พบว่าสารสกดั คลอโรฟอร์มและเมทานอลจากราก ของกระชายมีฤทธใ์ิ นการต้านการเจรญิ เติบโตของเชอ้ื Giardia intestinalis ซง่ึ เป็นพยาธิ เซลล์เดียวในลาไส้ท่ีก่อใหเ้ กิดภาวะท้องเสีย ซึ่งเป็นปัญหาท่ีสาคญั อย่างมากสาหรบั ผปู้ ่วยที่ เป็นโรคภูมิค้มุ กนั บกพร่อง 44. งานวิจัยของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพบว่าสาร Pinostrobin, Pinocembrin, Panduratin A และ Alpinetin ของกระชายนัน้ มฤี ทธ์ติ ้านแบคทีเรียได้หลายชนดิ ประโยชนข์ องกระชาย 1. ประโยชนก์ ระชาย สามารถนามาทาเปน็ น้ากระชายปั่น ดื่มเพ่อื เพ่ิมความสดช่ืน บารุงรา่ งกาย ทาให้ร่างกายกระปรีก้ ระเปร่าไดเ้ ป็นอย่างดี 2. นา้ กระชายชว่ ยทาให้รา่ งกายกระปร้ีกระเปรา่ ยิง่ ขน้ึ ชว่ ยทาให้เหน่อื ยลง 3. ชว่ ยทาให้เส้นผมแขง็ แรง เปลี่ยนผมขาวให้กลบั เป็นดา ชว่ ยทาใหผ้ มบางกลับมาหนาขึ้น และ ชว่ ยแกป้ ญั หาผมหงอก ผมร่วงได้

4. รากนามาใชเ้ ป็นเคร่ืองแกงในการประกอบอาหาร ชว่ ยดบั กล่ินคาวของเน้ือและปลาได้เป็น อย่างดี โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงปลาดุก ปลาไหล ปลากุลา เป็นต้น และยงั ทาให้อาหารมีกล่นิ และ รสท่หี อมแบบเป็นเอกลักษณ์อีกดว้ ย 5. รากกระชายสามารถช่วยไล่แมลงได้ ด้วยการนาตะไคร้ ขา่ หอมแดง ใบสะเดาแก่ นามาตา ผสมกันแล้วใชผ้ สมกับน้าฉีดในบริเวณทีม่ ีแมลงรบกวน วธิ ที าน้ากระชาย 1. การทานา้ กระชายใหเ้ ตรยี มวัตถุดบิ ดงั น้ี กระชายเหลืองสดคร่งึ กิโล (หรือจะใช้สตู รผสมก็ได้ โดยใช้กระชายเหลือง 5 สว่ น กระชายดา 1 ส่วน และกระชายแดง 1 ส่วน) / น้าผึ้ง / นา้ มะนาว / น้าเปล่าต้มสุกที่ทง้ิ ไวจ้ นเยน็ 2. ขัน้ ตอนแรกให้นากระชายมาลา้ งให้สะอาด ตดั รากที่รกรงุ รังออก ตัดหวั และท้ายทิง้ ไป ถ้าขูด เปลอื กออกบ้างกจ็ ะดีมาก 3. เม่อื เสรจ็ แลว้ นามาหนั่ เป็นท่อน ๆ เพื่อใหง้ ่ายตอ่ การนามาปั่น 4. ใหเ้ ตรยี มผ้าขาวบางรองด้วยกระชอนไวใ้ ห้พรอ้ ม 5. นากระชายท่เี ตรียมไว้ใส่ในโถปัน่ และผสมกับน้าเปล่าตม้ สุกพอประมาณ แล้วปัน่ จนละเอียด 6. เสร็จแล้วใหเ้ ทใสก่ ระชอนทีเ่ ตรียมไว้ ถา้ น้าน้อยก็ให้ผสมนา้ เปล่าลงไปอีก แลว้ คั้นเอาแตน่ ้า เท่าน้นั 7. ทนี่ เี้ ราก็จะไดน้ ้ากระชายเหลืองสด ๆ ซ่ึงสามารถเกบ็ ไวใ้ นต้เู ย็นไดน้ านเป็นเดือน 8. เมอื่ จะดม่ื ก็เพยี งแคน่ ามาผสมกับนา้ มะนาว นา้ ผึง้ ในถว้ ยแล้วคนใหเ้ ขา้ กัน แล้วจึงใสน่ ้า กระชายตามลงไป 9. เมือ่ ผสมจนรสชาติกลมกล่อมตามท่ีต้องการแลว้ กเ็ ปน็ อันเสรจ็ 10. แตถ่ ้ากลวั ว่ากล่ินกระชายจะแรงไป ก็สามารถใชใ้ บบัวบกหรือใบโหระพามาปนั่ รวมกนั ก็ได้ ตามใจชอบ เพราะไม่มสี ่วนผสมทเ่ี ป็นสูตรตายตวั เท่าไหร่ Tip : นา้ กระชายไม่ควรเก็บไวน้ านมาก เพราะจะทาให้ความซา่ และความหอมของกระชายลดนอ้ ยลง ทาใหเ้ กิดตะกอนทีก่ น้ ถา้ จะใหด้ ที ีส่ ดุ ก็ควรด่มื ให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ จะได้ท้ังรสชาติท่ีซา่ ด่ืมแลว้ ชืน่ ใจ พรอ้ มสรรพคุณอีกเตม็ ๆ ดว้ ย แตส่ าหรับผ้ทู ดี่ ืม่ น้ากระชายแล้วมอี าการแปลก ๆ ร้อนวูบวาบ หรอื มอี าการเหงื่อออกหรอื เรอออกมาก็ไมต่ ้องตกใจ เพราะเป็นอาการปกตทิ ี่อาจเกิดข้ึนได้ หากด่ืมไป สักพกั เดย๋ี วก็ชินไปเอง แหล่งอา้ งอิง : เว็บไซต์สานกั งานโครงการอนรุ ักษ์พนั ธกุ รรมพืชอนั เนื่องมาจากพระราชดาริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, ช่อื พรรณไม้แห่งประเทศไทย สานักงานหอพรรณไม้

กรมอุทยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพันธุ์พืช (เตม็ สมิตนิ ันทน์), เว็บไซตเ์ ทคโนโลยชี าวบ้าน, เว็บไซต์ มหาวิทยาลยั สุโขทัยธรรมาธริ าช, เวบ็ ไซต์วทิ ยาลยั พยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดพะเยา, เว็บไซตห์ มอ ชาวบา้ น (รศ.ดร.สุธาทพิ ภมรประวตั ิ), สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งประเทศไทย (วว.) ภาพประกอบ : www.flickr.com (by FotoosVanRobin, besitai, camillenoir, G's Garden, Ahmad Fuad Morad)


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook