Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงาน(PLC)-003

รายงาน(PLC)-003

Published by ton.ton55540, 2022-06-25 07:55:40

Description: รายงาน(PLC)-003

Search

Read the Text Version

รายงาน การสงั เกตและวเิ คราะหก์ ารปฏิบตั ิหน้าทค่ี รผู ่านชุมชนแห่งการเรยี นร้ทู าง วชิ าชีพ (PLC) โรงเรยี นวดั อมรินทราราม สงั กัดสำนักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษากรงุ เทพมหานคร ************************************************** จัดทำโดย นายรัตนพล สขุ เกษม รหัสนกั ศึกษา 6411030003 นำเสนอ อาจารย์นเิ ทศก์ นายสมชาย ศรรี กั ษ์ รายงานเลม่ น้ีเป็นสว่ นหนึ่งของวิชา 1001201 การปฏบิ ตั ิวิชาชีพครูในสถานศึกษา 1 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

ก คำนำ ตามหลกั สูตรครศุ าสตรบณั ฑิต (หลักสูตรปรับปรงุ พ.ศ.๒๕๕๕) ปริญญาตรี ๔ ปี รายวิชาการ ฝึก ปฏิบตั กิ ารวิชาชพี ครูระหวา่ งเรยี น ๑ (การศึกษาสังเกตและการมสี ว่ นรว่ ม) นั้นเปน็ หนงึ่ ในรายวิชา บังคับด้านการฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู โดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาครูมีคุณลกั ษณะ ของครูท่ดี ีและมเี จตคติทีด่ ีต่อวชิ าชีพครู เพื่อสง่ เสริมใหน้ ักศกึ ษาครูไดเ้ รียนรู้งานในหน้าท่ีของครูตาม หลักสตู รทีส่ อนได้อยา่ งแจม่ แจ้งและกว้างขวางจากการศึกษาสังเกตและมสี ว่ นร่วม และเพ่อื ส่งเสริมให้ นกั ศึกษาครูได้เรียนรทู้ ้ังภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติควบคู่ให้สอดคลอ้ งกันจนเปน็ พน้ื ฐาน สำหรับนำไป ปฏบิ ัติงานในหนา้ ท่ขี องครไู ด้อย่างเหมาะสมตอ่ ไปในอนาคต ในด้านวิธีการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในการศึกษาสังเกตและการมีส่วนรว่ มในครั้งนี้นั้น ประกอบ ด้วย ๒ กิจกรรมหลัก ๆ คือ การศึกษาและสังเกต และการมีส่วนร่วม ซึ่งการศึกษาและ สังเกต เปน็ วิธกี ารทใี่ ชเ้ พ่ือ หาประสบการณ์ในสถานการณ์จริง โดยการไปดู ไปฟัง ไปซักถามและไป สังเกตเรื่องที่รับมอบหมายในโรงเรียนที่เป็นหนว่ ยฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครแู ละการมีส่วนร่วมคือ วิธีการที่ใช้เพื่อหาประสบการณ์จริง โดยการไปช่วยปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายกับครูพี่เลี้ยงใน โรงเรยี นท่ีเปน็ หนว่ ยฝกึ ประสบการณว์ ิชาชพี ครู โรงเรียนที่เป็นหน่วยฝกึ ประสบการณ์วชิ าชพี ครทู ี่ทางนกั ศึกษาครูเลือกในการมาศึกษาสังเกต และมีส่วน ร่วมในภาคการศกี ษานี้ คือ โรงเรียนวดั อมรนิ ทราราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ประถมศึกษา กรงุ เทพมหานคร ด้วยความหวงั ทีว่ า่ จะได้รบั ประสบการณต์ รง ทงั้ งานธุรการในชั้นเรยี น งานการเรียนการสอนและสนบั สนุนการเรยี นการสอน งานกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน งานพฒั นาโรงเรียน และชุมชน และงานที่ได้รับมอบหมาย จากโรงเรียนได้อย่างเต็มท่ีตามศักยภาพ ตลอดระยะเวลา ๘ สปั ดาห์ ตั้งแต่ ๙ พฤษภาคม – ๒๔มถิ ุนายน พุทธศักราช ๒๕๖๕

ข สารบญั เรือ่ ง .หน้า 1. บทคดั ย่อ……………………………………………………………………………….…………..………….… ก 2. สารบญั ………………………………………………………………………………………………..……….... ข 3. การพฒนาการเรียนรู้ของตนเองเร่ืองการปฏิบัตหิ น้าทค่ี รู……………………………………..….1 4. ภาคผนวก……………………………………………………………………………….…………..……….….15 5. การสงั เกตและวเิ คราะห์การปฏบิ ตั ิหน้าท่ีครู ผ่านชุมชนแหง่ การเรียนรทู้ างวชิ าชีพ (PLC)……………………………………………………..…16 6. แผนการดำเนนิ การ......................................................................................................16 7. เคร่อื งมือทใ่ี ช้ในการเก็บรวบรวมข้อมลู ........................................................................17 1) แบบบันทกึ บริบทโรงเรียน ผังโรงเรยี น (A1) ……………………………………..…….18 2) แบบสังเกตการปฏิบตั หิ นา้ ทีค่ รู (A2) …………………………………………………..….19 3) แบบสัมภาษณ์ (A3) …………………………………………………………………………....21 8. การวิเคราะห์ข้อมลู ……………………………………………………………………………….……….….26 9. ภาพกิจกรรม……………………………………………………………………………………..…………..…28

1 การพฒั นาการเรียนรู้ของตนเองเรื่องการปฏบิ ตั ิหนา้ ทค่ี รู บทเรยี นจากครกู ลมุ่ สาระสงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม / ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนวัดอมรินทราราม ชอ่ื ผเู้ ขียน : นายรัตนพล สุขเกษม บทคดั ย่อ การพัฒนาการเรียนรขู้ องตนเองเร่อื งการปฏิบตั ิหนา้ ที่ครูบทเรียนจากครูกลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 โรงเรียนวัดอมรินทรารามโดยมี วตั ถปุ ระสงค์ เพ่อื ศกึ ษาการปฏบิ ัติงานในหนา้ ที่ครู วธิ กี ารเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู จากการสังเกตและการ สอบถาม แบบบันทึกบริบทโรงเรียน แบบสังเกตการปฏิบัติหน้าทีค่ รู และแบบวิเคราะห์งานครูด้วย แผนภาพmind mapping ได้ข้อค้นพบที่เกิดขึ้น จากการสังเกตและสัมภาษณ์ครูพี่เลี้ยงข้าพเจ้าได้ สังเกตวา่ งานครไู ม่ใชแ่ ค่การสอนในรายวิชานั้นๆ งานครูทีข่ ้าพเจ้าสังเกตเห็นมีทง้ั การเข้าอบรมเสริม ความรู้และจัดแผนการสอน การบรกิ ารพยาบาล ขายของท่ี สวสั ดิการ บทบาท หนา้ ที่ และภาระงาน ของครู ตามหลกั สูตรการศกึ ษาขันพืน้ ฐานงานกจิ กรรมตา่ งๆ คณุ ครูจะศกึ ษาค้นควา้ หาความรู้อยูเ่ สมอ เพื่อให้การเรียนการสอนเกิดความทันสมัยตามยุคเวลาและนอกจากนี้ครูจะต้องประพฤติตนเป็น แบบอย่างที่ดีให้แก่นักเรียน แนวทางการนำไปใช้ประโยชน์ จากการที่ได้สังเกตการณ์คุณครูได้รับ วธิ กี ารสอน เทคนิคในการสอนการพูดเพือ่ ดึงดดู ความสนใจนักเรยี น ได้เรยี นรูก้ ารทำสอื่ การสอนตา่ งๆ บริบทและสภาพโรงเรียน สภาพทว่ั ไปของสถานศึกษาและชมุ ชน ขอ้ มลู ท่วั ไป สถานศกึ ษา : โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ท่ีอยู่ : เลขที่ 566/1 ถนนอรุณอมรนิ ทร์ แขวงศริ ริ าช เขตบางกอกน้อย กรงุ เทพมหานคร รหสั ไปรษณีย์ 10700

2 สังกดั : สำนกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาประถมศกึ ษากรุงเทพมหานคร โทรศพั ท์และโทรสาร : 0 2411 3017 , 0 2418 0927 เปดิ สอน : ระดับช้นั อนบุ าลชั้นปีท่ี 1 ถึงระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 6 คติพจน์/ปรชั ญาของโรงเรยี น : นักเรยี น ต้องเป็นคน \"คิดดี พูดดี ทำด\"ี วิสยั ทศั นข์ องโรงเรียน : ภายใน พ.ศ. 2562 โรงเรยี นวดั อมรินทราราม ม่งุ เนน้ วชิ าการ ก้าวทนั เทคโนโลยี มีคณุ ภาพตามมาตรฐานสากล บนพื้นฐานคุณธรรมจริยธรรมและความเป็นไทย นอ้ มนำ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง พันธกิจ 1. จดั กระบวนการเรียนรู้ ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล มีทักษะ การใช้เทคโนโลยีท่ีทนั สมัยและเหมาะสม สู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการอย่างยัง่ ยืน 2. สง่ เสรมิ ใหผ้ เู้ รยี นมีคุณธรรม จริยธรรมและความเปน็ ไทย นำความรู้และคา่ นยิ มหลัก 12 ประการ น้อมนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การดำรงชวี ติ 3. พฒั นาระบบบริหารจัดการดว้ ยระบบคุณภาพ โดยยึดหลกั การบรหิ ารใช้โรงเรยี นเปน็ พนื้ ฐานและการมีสว่ นร่วมของผู้เกย่ี วข้องทุกฝา่ ย 4. ส่งเสรมิ พฒั นาคณุ ภาพครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ให้มีความรู้ ความสามารถตา มาตรฐานวชิ าชีพ 5. พฒั นาโรงเรยี นใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรู้ และประสานความรว่ มมือ ระหวา่ งโรงเรยี น ผปู้ กครอง ชมุ ชน และสรา้ งเครอื ขา่ ย เพื่อสนบั สนนุ การจัดการศกึ ษาอย่างมีคุณภาพ ประเด็นยทุ ธศาสตร์ 1. พัฒนานักเรยี นให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล มีทักษะการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย สู่ ความเป็นเลิศทางวิชาการ 2. พัฒนานักเรียนให้มีคุณธรรม จริยธรรมและความเปน็ ไทย มีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี โดยนำความรู้ ค่านิยมหลัก 12 ประการและนอ้ มนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 3. พัฒนาระบบบริหารจัดการด้วยระบบคุณภาพ โดยยดึ หลักการบรหิ ารใช้โรงเรียนเปน็ ฐาน และการมสี ่วนร่วมของผเู้ กยี่ วข้องทกุ ฝ่าย 4. สง่ เสริมและพัฒนาคณุ ภาพครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาให้มคี วามรู้ ความสามารถตาม มาตรฐานวิชาชพี

3 5. พฒั นาโรงเรยี นให้เปน็ แหล่งเรยี นรู้ และประสานความรว่ มมอื ระหวา่ งผู้มสี ่วนได้เสียทุก ฝา่ ยตลอดจนสรา้ งเครอื ข่ายเพือ่ สนับสนนุ การจดั การศึกษาอย่างมคี ุณภาพ เป้าประสงค์ 1. นักเรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานสากล มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยที ี่ทันสมัย และเหมาะสม ส่คู วามเป็นเลิศทางวิชาการอยา่ งยงั่ ยนื 2. นักเรียนมที กั ษะชีวติ มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีความเป็นไทย นำความรูแ้ ละค่านิยมหลกั ของคนไทย 12 ประการ น้อมนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงสกู่ ารดำรงชีวติ 3. ครูและบุคลากรทางการศึกษา มคี วามร้คู วามสามารถตามมาตรฐานวิชาชีพ 4. โรงเรียนมีระบบบรหิ ารการจัดการดว้ ยระบบคุณภาพ โดยยึดหลักงานบรหิ ารใชโ้ รงเรียน เป็นฐานและมีสว่ นร่วมของผูเ้ กย่ี วขอ้ งทกุ ฝา่ ย 5. โรงเรยี นเปน็ แหล่งเรียนรู้ และประสานความรว่ มมอื ระหว่างบา้ น ชมุ ชน และโรงเรียน ตลอดจนสรา้ งเครอื ข่ายเพ่อื สนบั สนุนการจัดการศกึ ษาอย่างมีคณุ ภาพ ประวตั โิ รงเรียนโดยย่อ โรงเรียนวัดอมรินทราราม ปัจจุบันสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ เปิดทำการ สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 ตั้งอยู่เลขที่ 566/1 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10700 โทรศัพท์,โทรสาร 0-2411-3017 ,0- 2418-0927 มีประวตั คิ วามเป็นมาพอสงั เขปดังนี้ โรงเรียนวัดอมรินทราราม สังกัดกองการมัธยมศึกษา กรมวิสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ก่อตั้งมาก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า ก่อตั้งมาแต่ เมอื่ ใด เปดิ ทำการสอนตงั้ แตช่ ัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 (ม. 1) - มธั ยมศึกษาปีที่ 8 (ม.8) มีช่อื เสียง ทั้งด้านวิชาการและด้านการกีฬาในยุคสมัยนั้น ต่อมาปี พ.ศ. 2477 โรงเรียนวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นโรงเรียนสงั กดั เดยี วกนั ซึ่งต้ังอยู่ทวี่ ัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ได้เปลี่ยนจากโรงเรียนชายไป เป็นโรงเรียนหญงิ ชื่อ “โรงเรียนสตรีวัดระฆงั ” จงึ โอนนักเรยี นชายทงั้ หมดมาเรยี นทโ่ี รงเรียนวัดอมรนิ ท รารามและไดช้ ่อื ใหมว่ า่ “ โรงเรยี นอมรนิ ทร์โฆสิต ” และเปดิ การสอนต่อมาจนถงึ พ.ศ. 2484 ได้เกิด สงครามโลกคร้ังที่ 2 ขึ้น สถานท่ีตง้ั โรงเรียนอยู่ใกล้สถานีรถไฟธนบุรีอันเปน็ จุดยทุ ธศาสตร์ อาคาร เรียนถูกลูกระเบิด ทำลายและไฟไหม้หมด เมื่อสงครามโลกครั้ง ที่ 2 สงบลงนักเรียนโรงเรียน อมรินทร์โฆสิตต้องไปอาศัยเรียนที่โรงเรียนทวีธาภิเศก ซึ่งภายหลังได้มีการรวมตั วกันก่อต้ัง

4 “ สมาคมศิษย์เก่าทวีธาภิเศก อมรินทร์- โฆสิต ” ขึ้น เพราะสงครามโลกครัง้ ท่ี 2 โรงเรียนวัดอมริ นทรารามยคุ เรมิ่ ตน้ จึงถูกยุบเลิกไปโดยปริยาย ต่อมาถึงปี พ.ศ. 2503 กระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้น ได้ขยายการศึกษาระดับช้ัน ประถมศึกษาเป็นประถมศึกษาตอนตน้ 4 ปี และประถมศึกษาตอนปลาย 3 ปี ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากุล รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการในขณะนั้นได้ติดต่อกับพระธรรมรตั นากร (ต่อมา คอื สมเดจ็ พระวันรัต) เจา้ อาวาส วัดสังเวชวิทยาราม ซึง่ รักษาการตำแหน่งเจา้ อาวาสวัดอมรินทรา ราม และพระครปู ลัดรัตนวัตร ซง่ึ ไดร้ ับมอบหมายให้ดแู ลวดั อมรินทราราม (ตอ่ มาคือพระสนุ ทรวหิ าร กิจ เจ้าอาวาส วัดอมรนิ ทราราม) เพื่อขอจัดตั้งโรงเรียนข้ึนใหม่ พระคุณเจ้าท้ังสองรูปได้เล็งเห็น ความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษาของชาติ จึงได้มอบท่ีดินว่างเปล่าของวัด เนื้อที่จำนวน 4 ไร่ 3 งาน ใหก้ รมสามญั ศึกษาก่อต้งั โรงเรยี นขึน้ เพ่ือรับสถานการณ์การขาดแคลนสถานที่เรียนของ นักเรียนในสมัยนั้น อาคารเรียนหลงั แรก เปน็ ตึก 3 ชนั้ 12 ห้องเรียน การกอ่ สร้างอาคารเรียนแล้ว เสรจ็ เมอื่ เดือนมถิ นุ ายน พ.ศ. 2504 ต้ังชอื่ ว่า “ โรงเรียนวัดอมรินทราราม ” รับนักเรยี นเข้าเรียนใน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 จำนวน 573 คน เปดิ เรียนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 มิถนุ ายน พ.ศ. 2504 มี ครูทำการสอนจำนวน 28 คน และได้ทำพิธีเปิดป้ายโรงเรียนเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2504 โดยมี ฯพณฯ ม.ล.ปิ่น มาลากลุ รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในพธิ ี ในปี พ.ศ. 2505 กอ่ สรา้ งอาคารเรียนหลงั ท่ี 2 เปน็ ตกึ 3 ช้ัน 9 หอ้ งเรยี น ชัน้ ลา่ งเป็น โรงอาหาร เปดิ เรยี นถึงชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 มนี ักเรยี น 1,024 คน ครู 45 คน ปี พ.ศ. 2506 กอ่ สรา้ งอาคารเรียนอีกหลังหน่ึงเปน็ หลงั ท่ี 3 เปน็ ตกึ 3 ชนั้ 16 หอ้ งเรยี น ต่อจากอาคารเรียนหลังที่ 2 เปิดเรียนถึงชั้นประถมศึกษาปที ี่ 7 มีนักเรียน 1,383 คน ครู 66 คน และมีนักเรียนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 6 จบหลกั สูตรประถมศกึ ษารุ่นแรกจำนวน 518 คน ปี พ.ศ. 2507 ได้กอ่ สร้างอาคารเรียนหลังท่ี 4 เป็นตกึ 3 ช้นั 11 หอ้ งเรียน ปี พ.ศ. 2508 ไดง้ บประมาณกอ่ สร้างร้วั คอนกรตี ดา้ นทิศใต้ สนามคอนกรตี ทางระบายนำ้ และครัวถาวรในปนี ้มี นี กั เรียนทั้งหมดตั้งแต่ ป. 5-ป. 7 รวม 1,448 คน ครู 74 คน ปี พ.ศ. 2509 มีการโอนโรงเรียนไปสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดธนบุรี กระทรวงมหาดไทย มีโรงเรียนฝั่งธนบุรีหลายโรงเรียนที่กรมสามัญศึกษา ขอสงวนไว้เพื่อเป็น โรงเรียนสำหรับทดลองวิจัยด้าน การเรียนการสอน นอกจากโรงเรียนวัดอมรินทรารามแล้วยังมี โรงเรียนอ่ืน ๆ เช่น โรงเรียนโฆสิตสโมสร โรงเรียนประถมทวีธาภิเษก โรงเรียนวัดหงส์รัตนาราม

5 เป็นต้น และมีโรงเรียนอื่น ๆ ในต่างจังหวัดอกี รวมเรียกว่า โรงเรียน “ สามัญ ” มีอักษร “ ส ” ปักนำชือ่ โรงเรยี น เช่น ส.อ.ร. , ส.ฆ.ส. ส.ช.ก. เป็นตน้ ปี พ.ศ. 2512 ก่อสรา้ งอาคารเรียนหลังที่ 5 เป็นตึก 3 ชั้น 6 ห้องเรยี น เชื่อมอาคาร เรียน หลังเก่าทางด้านทิศเหนือ ชั้นล่างเป็นห้องประชุม ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปีการศึกษา 2504 เป็นต้นมาโรงเรียนวัดอมรินทรารามได้พฒั นาโรงเรียนทกุ ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการเรียนการสอน เปน็ ทไ่ี ว้วางใจและมีช่อื เสียงเปน็ ท่ีรจู้ ักกันทั่วไป ปี พ.ศ. 2518 กระทรวงศึกษาธกิ ารไดป้ รับเปล่ียนการจดั การศกึ ษาภาคบงั คับจาก 4 ปี เป็น 6 ปี ดงั นน้ั ในปีการศกึ ษา 2518 โรงเรยี นวัดอมรินทรารามจงึ เปดิ รบั นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 ปี พ.ศ. 2519 กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ ไดม้ อบหมายให้โรงเรียนวดั อมรินทราราม เป็น โรงเรียนทดลองหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 หอ้ งเรียนและได้ทำการทดลองตอ่ เน่ืองจนถึงชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 ในปี พ.ศ. 2524 ปี พ.ศ. 2520 โรงเรียนได้เปิดเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 4 ห้องเรียน ตามคำส่ัง กระทรวงศึกษาธิการ ที่ ศธ0806/11672 ลงวันที่ 19 เมษายน 2520 ที่จะปรับโรงเรียน ประถมศึกษาสังกัดส่วนกลางเป็นโรงเรียนมัธยมแต่ได้ยุบเลิกในปีการศึกษา 2521 ตามคำสั่ง กระทรวงศกึ ษาธิการเชน่ กัน ปี พ.ศ. 2523 มีการเปลย่ี นแปลงรปู แบบการบรหิ ารงานมกี ารจดั ต้งั สำนักงานคณะกรรมการ การประถมศึกษาแห่งชาติซึ่งเท่ากับเป็นกรมหนึ่งในกระทรวงศึกษาธิการ โรงเรียนประถมศึกษา ส่วนกลางทั้งหมด ซึ่งมีโรงเรียนวัดอมรินทรารามด้วย จึงย้ายมาสังกัดสำนักงานการประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแหง่ ชาติ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร มีการ แบ่งโรงเรียนประถมศึกษาส่วนกลางเป็น 5 กลุ่มโรงเรียน คือ กลุ่มโรงเรียนทวาราวดี กลุ่ม โรงเรยี นอโยธยา กลุม่ โรงเรียนสุโขทัย กลุ่มโรงเรยี นกรงุ ธนบุรี และกลุ่มโรงเรยี นรตั นโกสนิ ทร์ สำหรับโรงเรียนวัดอมรินทรารามสังกัดกลุ่มโรงเรียนทวาราวดี ซึ่งมีโรงเรียนในกลุ่ม 7 โรงเรียน ไดแ้ ก่ โรงเรียนพญาไท โรงเรยี นราชวนิ ิต โรงเรยี นวัดโบสถ์ โรงเรยี นวัดโสมนัส โรงเรียน อนบุ าลวัดปรนิ ายก โรงเรียนโฆสิตสโมสร และโรงเรยี นวดั อมรนิ ทราราม ปี พ.ศ. 2534 โรงเรยี นวัดอมรินทรารามไดร้ ับการประเมนิ เป็นโรงเรียนพระราชทานขนาด ใหญ่ ในระดับประถมศึกษา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ ัวฯ โดยผู้อำนวยการโรงเรียน นายช ลิต พุทธรักษา ได้เข้ารับพระราชทานรางวัลโล่และเกียรติบตั ร พร้อมท้ังรับพระบรมราโชวาทจาก

6 สมเด็จพระเทพรตั นราชสุดา สยามบรมราชกมุ ารี มี ดร.ก่อ สวสั ดิพานิช กราบทูลถวายรายงาน เมื่อ วันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2535 ณ ศาลาดุสิดาลยั สวนจิตรลดา ปี พ.ศ. 2535 เปดิ รบั นกั เรยี นระดับกอ่ นประถมศึกษา ช้ันอนุบาลปีท่ี 1 จำนวน 1 ห้องเรยี น นักเรียน 35 คน และได้ขยายเป็นอนุบาลปที ่ี 2 ในปีตอ่ มา ปี พ.ศ. 2543 โรงเรยี นได้ลดจำนวนหอ้ งเรยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 จากฐานเดิม 6 ห้อง มาเป็น 5 หอ้ งเรียน เนื่องจากรฐั บาลมนี โยบายลดจำนวนข้าราชการ ขา้ ราชการครูที่เกษียณอายุ ราชการและที่ขอเกษียณอายรุ าชการก่อนกำหนด จะถกู ตดั อตั ราทำใหจ้ ำนวนขา้ ราชการครูลดลง ไม่ สามารถจัดการเรียนการสอนตามฐานเดิมได้ เม่ือถึงปกี ารศึกษา 2549 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 6 จะมสี ายช้ันละ 5 หอ้ งเรียน ปี พ.ศ. 2544 โรงเรียนได้ผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่ 1 โดยได้รับการตรวจ เยย่ี มจากคณะผู้ประเมินภายนอกของสถานศึกษา จำนวน 7 คน อาจารยป์ ระจำกลมุ่ และผู้แทนจาก สมศ. จำนวน 3 คน เมื่อวันที่ 11-13 ธันวาคม 2544 ผลการประเมินมาตรฐานด้านผู้เรียน(มฐ. 1,4,5,9,10,12) มคี ุณภาพอยูใ่ นระดบั ดี (มฐ.5) อยู่ในระดบั พอใช้ มาตรฐานดา้ นครูผู้สอน (มฐ. 22) มี คุณภาพอย่ใู นระดบั พอใช้ (มฐ.24) อยู่ในระดบั พอใช้ มาตรฐานด้านผบู้ รหิ าร (มฐ. 14,18,20) อยู่ ในระดับดี (มฐ. 13,25) อยใู่ นระดับพอใช้ ปี พ.ศ. 2546 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 รัฐบาลได้ประกาศใช้พระราชบญั ญัติ ระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 และได้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มผี ล บังคับใช้ใน วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 เป็นผลให้โรงเรียนวัดอมรินทรารามโอนมาสังกัด สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษากรงุ เทพมหานคร เขต 3 สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นการรวมการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามาอยู่ในสังกัด เดียวกนั อีกครัง้ หนงึ่ ปกี ารศึกษา 2548 โรงเรียนวัดอมรนิ ทรารามเปดิ ทำการสอน ระดบั ชั้นอนบุ าลปีที่ 1–2 ช้ัน ละ 2 หอ้ งเรยี น รวม 4 ห้องเรียน ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 มี 6 หอ้ งเรียน ชั้นประถมศกึ ษาปี ที่ 2 – 6 ชั้นละ 5 หอ้ งเรยี น รวม 31 ห้องเรียน รวมหอ้ งเรยี นท้งั สิ้น 35 ห้องเรียน จำนวน นักเรยี น 1,406 คน ข้าราชการครู จำนวน 57 คน ลูกจา้ งประจำ จำนวน 7 คน ครอู ตั ราจา้ ง (งบประมาณ) จำนวน 1 คน ครูจ้างสอน (งบสมาคมฯ) จำนวน 6 คน ลูกจ้างชั่วคราว จำนวน 12 คน โรงเรยี นได้พัฒนาการเรยี นการสอน ปรบั ปรงุ อาคารเรียน หอ้ งเรยี น หอ้ งพิเศษตา่ ง ๆ ให้ ทันสมยั เชน่ ห้องปฏิบัตกิ ารทางภาษา ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องสมุด หอ้ งเรียนอนบุ าล ได้ปรับเป็น

7 ห้องปรับอากาศเพอื่ เออ้ื ตอ่ การเรียนการสอนและปอ้ งกันมลพิษ และในปีน้ีโรงเรียนไดร้ บั การคัดเลือก จากกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ ใหเ้ ปน็ โรงเรียนสฟี ้าตน้ แบบยอดเยย่ี มท่ีจัดการเรยี นการสอน เรอื่ ง “ การรักษาสทิ ธปิ ระโยชนข์ องผู้บริโภคในการซือ้ สินค้าและบริการ ” ปีการศึกษา 2549 โรงเรียนได้ผ่านการประเมินคุณภาพภายนอกรอบที่ 2 โดยได้รับการ ตรวจเยี่ยมจากคณะผู้ประเมินภายนอกของสถานศึกษา สังกัดหน่วยประเมินบริษัท แอลเอสการ ประเมินจำกัด จำนวน 5 คน เมื่อวันที่ 20-22 กุมภาพันธ์ 2549 ผลการประเมินระดับการศึกษา ปฐมวัย มีครูจำนวน 4 คน นักเรียนจำนวน 152 คน ผลการประเมินมีคา่ เฉลี่ย 3.65 อยู่ในระดบั ดี มาก ผลการประเมินระดับประถมศึกษา มีครูจำนวน 55 คน นักเรียนจำนวน 1,255 คน ผลการ ประเมินมคี า่ เฉลีย่ 3.50 อยูใ่ นระดบั ดีมาก ปีการศึกษา 2551 โรงเรียนวัดอมรินทราราม เปิดชั้นอนุบาลปีที่ 1 จำนวน 2 ห้อง อนุบาลปีที่ 2 จำนวน 3 ห้องเรียน ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 จำนวน 31 ห้องเรียน รวม ท้ังส้ิน 36 ห้องเรียน เพ่ิมช้นั จากเดมิ 1 ห้องเรียน จำนวนนกั เรยี น1,334 คน ข้าราชการครูจำนวน 53 คน ลกู จ้างประจำ 7 คนครอู ตั ราจา้ ง 1 คน ครจู า้ งสอน 10 คน ลูกจา้ งชั่วคราว 12 คน ปรับปรงุ อาคารเรียน สร้าง ห้องนำ้ เชอื่ มต่ออาคาร 3 และ 4 ปรบั ปรุงภูมทิ ัศน์รอบโรงเรียน ยา้ ยเสาธง สรา้ งศาลาไทย ศาลาแปด เหลี่ยม โรงอาหาร ห้องศูนย์กิจกรรมปฐมวัย ห้องเรียนอนุบาลปรับเป็นห้องปรับอากาศ ต่อ Internet ทุกหอ้ ง ปีการศึกษา 2552 โรงเรียนไดร้ บั คดั เลอื กเป็นโรงเรยี นต้นแบบการใช้หลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระดับประถมศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 3 เปิดสอนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ตงั้ แต่ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 ถงึ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ปีการศกึ ษา 2553 โรงเรียนวัดอมรนิ ทรารามไดร้ บั คดั เลอื กเปน็ โรงเรียนในโครงการโรงเรยี น มาตรฐานสากล World – Class Standard School ซึ่งเป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนมุ่งให้ ผเู้ รียนมีคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ (Learner Profile) เทยี บเคียงมาตรฐานสากล (World – Class Standard) ผู้เรียนมีศักยภาพเป็นพลโลก (World citizen) พัฒนายกระดบั คุณภาพจัดการเรียน การสอนและการจัดการด้วยระบบคุณภาพ เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตาม มาตรฐานสากล เป็นการต่อยอดคุณลักษณะพึงประสงค์ที่เป็นมาตรฐานชาติ และในวันที่ 3 สิงหาคม 2553 โรงเรียนได้รับการประเมินการดำรงรักษาสภาพสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ระดบั ประถมศึกษาขนาดใหญ่ ค่าเฉลยี่ 3.875 ระดับการปฏบิ ตั ิดมี าก

8 ปกี ารศกึ ษา 2554 โรงเรียนวัดอมรนิ ทราราม ได้รบั การประเมนิ คณุ ภาพภายนอกรอบสาม (พ.ศ.2554 – 2558) จากสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การ มหาชน) สมศ. เม่ือวนั ท่ี 15 – 17 สิงหาคม 2554 มีผลการประเมินระดบั ปฐมวัย สรปุ อยู่ในระดบั ดี มาก และมีผลการประเมนิ ในระดับประถมศกึ ษาอยใู่ นระดบั ดี ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนวัดอมรินทราราม ได้รับการคัดเลือกจากสำนักงาน คณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ใหเ้ ปน็ โรงเรยี นตน้ แบบลูกเสือ ประจำปี 2555 ของสำนักงาน เขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษากรงุ เทพมหานคร ปีการศึกษา 2556 โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ไดพ้ ฒั นาการเรยี นการสอนโรงเรียนในโครงการ จัดการเรียนการสอนตามหลกั สูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (Mini English Program) ในช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี1 จำนวน 1 หอ้ งเรียน โดยมคี รไู ทยและครูชาวต่างชาตเิ ปน็ ผู้สอน ปรับปรุงภูมิ ทัศน์รอบ ๆ โรงเรียน ปรับปรุงห้องหน้าอาคารเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เป็นห้องพักครูและเปน็ บรเิ วณทีอ่ ่านหนังสอื ของผู้ปกครอง ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนวัดอมรินทราราม ได้พัฒนาการเรียนการสอนเปิดสอนช้ัน อนุบาล 3 ขวบ จำนวน 2 ห้องเรียน และได้เปิดสอนโครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตร กระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (Mini English Program) ในชั้นอนุบาล 1 จำนวน 1 ห้อง และชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 1 ห้องเรียน โดยมีครูไทยและครูชาวต่างชาติเป็นผู้สอนและ โรงเรียนได้รับการประเมินผ่านในโครงการ “ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ” ตามพระราชดำรัสสมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เปน็ โรงเรยี นคุณภาพมาตรฐานกิจกรรมวทิ ยาศาสตร์สำหรับ เดก็ ปฐมวัย ปีการศกึ ษา 2558 โรงเรยี นวดั อมรินทราราม เปิดช้ันอนุบาลสามขวบเพมิ่ จำนวน 1 ห้อง รวมเป็น 3 ห้องเรียน ได้เปิดการเรียนการสอนชั้นอนุบาล 2MEP จำนวน 1 ห้องเรียน ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 2 MEP จำนวน 1 ห้องเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 MEP จำนวน 1 ห้องเรียน โรงเรียนวัดอมรนิ ทราราม ไดร้ บั คดั เลือกให้เป็นสถานศกึ ษาแบบอย่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และ การบริหารจัดการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี 2556 “สถานศึกษาพอเพียง 2556” ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ 24 กรกฎาคม พทุ ธศักราช 2558 กองลูกเสือสำรองโรงเรยี นวดั อมรินทราราม ไดร้ บั รางวลั ชนะเลิศกองลกู เสอื สามัญโรงเรยี นวดั อมรนิ ทราราม และการประกวดระเบยี บแถวลกู เสือ เนตรนารี โครงการส่งเสริมเยาวชนลกู เสือมีระเบยี บวินัย ในสังคมประจำปี 2558 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดอมรินทราราม เปิดชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 MEP จำนวน 1 ห้องเรยี น และโรงเรยี นวัดอมั รนิ ทรทราราม วนั ที่ 8 กรกฎาคมคม 2559 โรงเรียนไดผ้ า่ นการประเมนิ

9 รางวัลคณุ ภาพระดบั องคก์ ร (School Quality Awards: SCQA ) ซงึ่ แสดงถงึ การบริหารจัดการด้วย ระบบคุณภาพของโรงเรียนมาตรฐานสากล ประจำปีพุทธศักราช 2557-2558 ให้ไว้ ณ วันที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 และโรงเรียนได้รับรางวัลระดับเหรียญทอง ชนะเลิศ กิจกรรมประกวด โครงงานคณิตศาสตร์ ประเภทสร้างทฤษฏีหรือคำอธิบายทางคณิตศาสตร์ ระดับชั้น ป.4-6 งาน ศลิ ปหัตถกรรมนกั เรียนระดับชาติ ครั้งท่ี 66 การศึกษา 2559 ปีการศกึ ษา 2560 โรงเรียนวัดอมรินทราราม เปิดสอนชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 MEP จำนวน 1 ห้องเรียน และโรงเรียนวดั อมรินทรารามได้รบั คดั เลือกจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พื้นฐานและมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลยั เป็นโรงเรยี นวิถีพทุ ธชนั้ นำรุ่นที่ 8 ปกี ารศึกษา 2560 และโรงเรยี นวัดอมรินทรารามได้ผา่ นการประเมินรอบทีส่ อง “ บ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ ้อย ” ตาม พระราชดำรสิ มเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ปีการศกึ ษา 2560 - 2562 โรงเรียน วัดอมรินทรารามได้รับคดั เลือกเป็นโรงเรยี นต้นแบบการขับเคลื่อนโครงการโรงเรยี นคุณธรรม สพฐ. ของสำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐานลำดบั ที่ 3 ให้ไว้ ณ วันที่ 18 สงิ หาคม 2560 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนวัดอมรินทราราม ได้รับรางวัลคุณภาพแห่งสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน (OBECQA) พ.ศ. 2559-2560 ลำดับที่ 127 จาก 213 โรงเรียน ตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน เรื่อง รายชื่อโรงเรียนในโครงการ ยกระดบั คุณภาพ สมู่ าตรฐานสากล ทไ่ี ด้รับรางวลั คุณภาพแห่งสำนกั งานคณะกรรมการการศึกษา ขนั้ พื้นฐาน (Office of the Basic Education Commission Quality Awards : OBECQA) ปี 2559- 2560 ประกาศ ณ วันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 โรงเรียนไดร้ บั โลร่ างวัลเป็นโรงเรียนต้นแบบการ สง่ เสริมคณุ ธรรมจรยิ ธรรม “ระดับ 3 ดาว” โครงการโรงเรยี นคณุ ธรรม สพฐ. ของเขตตรวจราชการ ส่วนกลางและเขตตรวจราชการท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2561 โรงเรียนได้รบั การคัดเลือกจากสำนักงาน เขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร เป็นโรงเรียนที่มคี วามพร้อม เข้าร่วมโครงการ โรงเรยี นคุณภาพประจำตำบล ปีการศึกษา 2562 โรงเรียนวัดอมรินทรารามได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารเรยี นหลัง ใหม่เป็นอาคารตกึ ห้าชั้นใต้ถุนสูง เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2562 ประธานในการวางศิลาฤกษฝ์ ่าย สงฆ์คือ พระภาวนา วิสุทธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดประดู่ พ ระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัด สมุทรสงคราม และพระสุนทรกิจจาภิวัฒน์ ผู้ช่วยเจา้ อาวาสวัดอมรนิ ทรารามวรวิหาร เจ้าคณะแขวง บา้ นชา่ งหล่อ ปีการศึกษา 2563 ในภาคเรียนที่ 2 โรงเรียนวัดอมรินทรารามได้รับการบรรจุแต่งต้ังรอง ผู้อำนวยการโรงเรยี นเพิม่ ขึน้ อกี 2 ตำแหนง่ ทำหนา้ ทรี่ องผู้อำนวยการโรงเรียนกล่มุ บริหารทวั่ ไป และ

10 กลุ่มบริหารวิชาการและโรงเรียนวัดอมรินทราราม ได้ย้ายขึน้ มาเรียนอาคารหลังใหม่ที่เป็นตึก 5 ช้ัน (อาคารอมรินทรามาตย์) แล้วรื้อถอนอาคารเรียนหลังเก่าที่เป็นตึก 3 ชั้น บริเวณแนวถนนอรุณ อมรินทร์ ปีกตึกด้านทิศเหนือและด้านทิศใต้ที่เกินออกไปก็ถูกรื้อถอน เพื่อคืนพื้นที่ให้กับ กรงุ เทพมหานคร ในการก่อสร้างโครงการแก้ไขปญั หาจราจรตามพระราชดำริฯ ขอ้ มลู เก่ยี วกบั นกั ศึกษา ▪ ช่อื -นามสกลุ : นายรตั นพล สุขเกษม ▪ รหัสนกั ศึกษา : 6411030003 ▪ คณะครุศาสตร์ สาขาวิชาสังคมศกึ ษา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏธนบรุ ี ▪ ทอี่ ยู่ : 193/4 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมทุ รเจดีย์ จ.สมุทรปราการ รหัสไปรษณีย์ 10290 ประวัตกิ ารศึกษา ▪ ระดบั ช้ันประถมศึกษา : โรงเรยี นนพคุณศกึ ษา ▪ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาตอนตน้ : โรงเรียนมธั ยมวัดใหม่สมทุ รกิจวทิ ยาคม ▪ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย : โรงเรยี นมธั ยมวัดใหม่สมุทรกิจวิทยาคม ▪ ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ท่ี มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบรุ ี งานครู 1.งานครูมอี ะไรบา้ ง หน้าท่ีหลกั ของครู คือ มีหน้าทีส่ อนและถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับนกั เรยี นและต้องปฏิบัติตน ใหเ้ ป็นแบบอย่างทด่ี ีให้กับนักเรียนในทกุ ๆดา้ น ครูกอ่ นจะสอนนกั เรยี นไดน้ ั้น ตอ้ งมีการเขียนแผนการ สอน และเพื่อที่จะให้บรรยากาศในห้องเรียนน่าเรียนมากขึ้นครูจะต้องมีสื่อการสอนประกอบด้วย รวมถงึ ครตู ้องดูแลเอาใจใส่นกั เรียนทกุ คนอยา่ งเทา่ เทียมกนั ซง่ึ ภาระหนา้ ที่งานของครูนน้ั นอกจากการ จัดการเรียนการสอนภายในห้องเรียนแล้ว ครูยังต้องมีหน้าที่อืน่ ๆอกี มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท่ีใน การอบรมคุณธรรมจริยธรรมให้แก่นักเรียน โดยครูต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับ นักเรียน และครูยังต้องมีความรับผิดชอบในวิชาการอยู่เสมอ ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ ตลอดเวลา รเู้ ท่ากนั การเปลย่ี นแปลงทเี่ กดิ ขน้ึ ในปจั จบุ ัน และยงั มงี านเอกสารงานธุรการและกิจกรรม ต่างๆของโรงเรียนที่ครูตอ้ งเขา้ ร่วมอีกมากมาย

11 2. ทักษะที่จำเปน็ ในการปฏิบตั ิหน้าทีค่ รู ประการที่ 1 ทักษะการมคี วามอดทน อดกลน้ั ถอื เปน็ ทกั ษะทีส่ ำคญั ที่สดุ สำหรับการเป็นครู โดยเฉพาะในยุคสมัยน้ี เนื่องจากในปจั จุบันนกั เรียนมคี วามคดิ เปน็ ของตนเองสูง รักอิสระ หลายคน ขาดความเคารพยำเกรง ความเกียจคร้าน ในงานที่ตนเองต้องรับผิดชอบ เหตุผลเหล่านี้ล้วนเป็น สาเหตุที่คุณครูทีด่ ที ุกคนต้องมีความอดทน อดกลั้น ต่อพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคต์ ่างๆ และต้องหา วธิ ีการจดั การเรยี นการสอนใหเ้ หมาะสมกบั ผูเ้ รียนใหเ้ ปน็ ไปตามตวั ชี้วดั และมาตรฐานของหลกั สูตร ประการที่ 2 ทักษะการปรบั ตวั เด็กแตล่ ะคนยอ่ มมีการเรียนรูท้ ต่ี ่างกัน และในบางบทเรียน อาจจะต้องการเครือ่ งมอื การสอนทแ่ี ปลกใหม่ไมเ่ หมอื นใคร ครูทด่ี ตี อ้ งรจู้ ักวิธีปรบั เปลีย่ นแผนการสอน ให้เหมาะสมกับนักเรียน เพื่อให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้อย่างเหมาะสมที่สุด อาจจะต้องใช้เวลาในการ ปรับตัว เพราะพฤติกรรมนักเรียนมีการปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาตามแต่ละช่วงวัย ทักษะในการ ปรบั ตัวจงึ มีความสำคัญเป็นอยา่ งยิง่ ประการที่ 3 ทกั ษะการมีจนิ ตนาการ ครูแตล่ ะคนไม่ว่าจะสอนรายวชิ าใดก็ตามไมม่ ีเคร่ืองมือ ชนิดใดที่มีประสิทธิภาพมากไปกว่าการใช้จินตนาการของครูเพื่อสร้างวิธีการสอนใหม่ๆ ที่น่าสนใจ สำหรบั นักเรียน ไมว่ ่าครจู ะได้แรงบนั ดาลมาจากอะไรก็ตาม สิง่ ที่สำคัญคือครูตอ้ งใช้ความคิดริเร่ิมใน การหาวธิ กี ารใหม่ๆ กจิ กรรมใหม่ๆ ในการเรยี นรูเ้ นื้อหาสาระ นอกจากจะแตกต่างไปจากเดิมแล้วยัง ทำใหผ้ ู้เรียนไมร่ ู้สกึ เบอ่ื หนา่ ยอีกดว้ ย ประการท่ี 4 ทักษะการทำงานเปน็ ทมี ครูแต่ละคนมภี าระงานท่ีมากน้อยแตกกนั ไป ไมว่ ่าจะ เป็นในเรื่องการจัดการเรียนการสอน หรอื งานอื่นๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมายจากผู้บริหาร จงึ ทำใหใ้ นบางครั้ง งานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายไม่บรรลุตามเวลาทก่ี ำหนดไว้ การมเี พอื่ นรว่ มทมี ไมว่ า่ จะเป็นเพอื่ นครู เจ้าหน้าที่ ธุรการ นักการภารโรง หรือแม่ครัว คอยช่วยเหลืออยู่เสมอ จะทำให้งานต่างๆ ที่ใช้เวลามากกลับ น้อยลง ในห้องเรียนเช่นกนั การสอนให้นักเรยี นทำงานเป็นทีมจะชว่ ยเพิ่มศักยภาพและทักษะในการ เรยี นรูก้ ารทำงานเปน็ ทีมได้ดีขนึ้ ประการที่ 5 ทักษะการยอมรับความเสี่ยงของสิ่งที่ทำ ในบางโอกาสเพื่อรางวัลแห่ง ความสำเรจ็ ของผู้สอน อาจจะตกอยูใ่ นความเส่ยี งทีจ่ ะถกู คนอื่นตดิ ตามผลงานของตนเอง เพราะฉะนน้ั ผสู้ อนตอ้ งยอมรับความเส่ียงที่จะเกดิ หากรูว้ า่ กำลงั ถกู คนอื่นลอกผลงาน ประการที่ 6 ทักษะการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ด้วยภาระหน้าที่ของครูที่ต้องให้ความรู้แก่ นักเรียน ครูจำเป็นจะต้องหาวิธีที่ดีที่สุดในการสอนนักเรียน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรการประชุมเชิง

12 ปฏิบตั ิการ และการสัมมนาต่างๆ ท้ังทเี่ ขตพ้ืนทีจ่ ัดขน้ึ และหาเพมิ่ เตมิ เอง มีการตรวจสอบเนือ้ หาสาระ องคค์ วามร้ตู ่างๆ ให้ทนั ต่อเหตกุ ารณป์ จั จบุ ันเสมอ ประการที่ 7 ทกั ษะการสอ่ื สาร คณุ ครจู ะไมป่ ระสบความสำเรจ็ ในการสอนเลย หากไม่มี ทกั ษะการส่อื ระการที่ 7 ทักษะการส่ือสาร คณุ ครจู ะไม่ประสบความสำเร็จในการสอนเลย หากไม่มี ทักษะการสื่อสารที่ดี ชัดเจน กระชับและตรงประเดน็ ยิ่งทักษะการสื่อสารของคุณครูดมี ากเท่าไหร่ บทเรยี นตา่ งๆท่ีคณุ ครูสอน กจ็ ะย่งิ งา่ ยขึน้ เท่านน้ั ประการท่ี 8 ทักษะการให้คำปรึกษา นอกเหนือจากผู้ปกครองแล้ว ครูก็ยงั เป็นหนึ่งในผู้ให้ คำปรึกษาเรื่องต่างๆ ในชีวิตของนักเรียน และนั่นหมายถึงการเป็นตัวอย่างที่ดีตลอดเวลา ยิ่งในยุค ปจั จุบนั โลกเทคโนโลยเี ข้ามามีบทบาทมากขึน้ และกลายเป็นส่วนหน่ึงในชีวติ ประจำวันไปแล้ว การท่ี คุณครูสามารถใหค้ ำแนะนำ คำปรึกษาในการรบั รู้ขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ บนโลกโซเชยี ล ก็จะทำใหน้ ักเรียน ปลอดภยั จากผูไ้ ม่หวงั ดี และสามารถบรหิ ารจัดการตนเองได้ ประการที่ 9 ทกั ษะความเปน็ ผนู้ ำ อีกหนึ่งทกั ษะทส่ี ำคญั ทคี่ รูแตล่ ะคนต้องมี (นอกเหนือจาก ความอดทน) คือ ความเป็นผู้นำ นักเรียนในชัน้ เรียนตอ้ งการใครสกั คนที่จะแนะนำพวกเขา จะเป็นผู้ กำหนดความเปน็ ไปของกิจกรรมตา่ งๆ ในชัน้ เรยี น นอกจากการเป็นผูน้ ำในชนั้ เรยี น ความเปน็ ผู้นำใน ด้านวิชาการ ครูตอ้ งแตกฉานในเนือ้ หาท่สี อน ไม่พงึ่ พาเพียงแตต่ ำราเทา่ น้ัน จำเปน็ ต้องมีองค์ความรู้ คอยเสริมให้นกั เรยี นดว้ ยที่นอกเหนอื จากเน้ือหาสาระหลัก สรุป 1. ข้อค้นพบท่เี กิดข้นึ จากการสงั เกตการปฏิบตั หิ น้าที่ของครพู บวา่ ครไู มไ่ ด้มหี น้าท่แี ค่สอนเพยี งอยา่ งเดียวแลแตรู จะต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่นักเรียน เพราะตัวอย่างที่ดีมคี ่ามากกว่าคำสอน รวมถึงครู จะต้องเปน็ ผู้ใฝร่ ู้ใฝ่เรียน และพัฒนาตนเองอยเู่ สมอ ครตู ้องมีเทคนิควิธีการสอน มีอุปกรณ์ไว้สำหรับ การทำส่ือการสอนใหน้ ่าสนใจ เพือ่ ใหน้ ักเรียนมคี วามสนใจในการเรยี นมากขึ้น 2.บทเรยี นที่เกิดขน้ึ บทเรียนท่เี กดิ ข้ึนขา้ พเจ้าไดม้ ีโอกาสเปน็ ผู้ประสานงานระหวา่ งบุคลากรของโรงเรียนวัดอมริ นทรารามและกล่มุ นกั ศกึ ษาออกฝกึ ประสบการณ์สงั เกตการสอนหนา้ ที่ตรงนที้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมายทำให้ ขา้ พเจา้ ไดเ้ รยี นรู้การใช้เทคโนโลยีมากย่งิ ข้ึน ไดท้ ำในส่งิ ท่ีไมเ่ คยทำมาก่อน ไดเ้ รยี นรู้ส่ิงใหม่ๆ เรียนรู้ สง่ิ ผิดพลาดแล้วการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้ฝึกการทำงานใหร้ อบคอบจากหน้าท่ีตรงนี้สามารถนำมา ปรับใช้ในการเรียนกาสอนการทำงานการทำความเข้าใจใส่ใจการเรียนรู้ของเด็กในภายภาคหน้าได้ การออกฝกึ ประสบการณ์ทางวิชาชพี ในคร้งั นี้เปน็ ประโยชนอ์ ย่างมากของการเรมิ่ ตน้ ของการเป็นครู

13 3.ประโยชน์ 3.1 ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเอง - ได้เรียนรเู้ ทคนคิ การสอน วิธีการควบคมุ ช้ันเรยี น ท่จี ะนำไปใช้กับนกั เรียนเพอื่ ในเกิด ประสิทธิภาพท่ีดตี ่อการเรยี น - รู้จักแก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ - มีความตรงตอ่ เวลา และรับผิดชอบในหนา้ ที่ - มคี วามอดทน อดกล้ัน 3.2 ประโยชน์ต่อการพัฒนาการปฏิบตั ิงานของตนเองและเพือ่ นร่วมงาน - ไดเ้ รยี นรู้ในกระบวนการทำงานกลมุ่ อย่างมีประสิทธิภาพ ทำใหก้ ารทำงานร่วมกบั ผูอ้ ืน่ สำเรจ็ ลลุ ่วงด้วยดี - ได้เรียนรถู้ งึ ความสามัคคีในหมูค่ ณะ ทเ่ี กดิ ขึน้ ในกระบวนการทำงานกลุ่ม - มมี นุษย์สมั พันธ์ท่ดี ตี ่อเพอื่ นร่วมงาน - มคี วามกล้าทจ่ี ะแสดงออกทางด้านความคดิ เหน็ ในหมคู่ ณะ และยอมรบั ฟงั ความ คิดเห็นของผอู้ ื่น 3.3 ประโยชนต์ อ่ การพฒั นาคุณภาพการเรยี นรขู้ องนกั เรียน - ทำใหเ้ รยี นร้เู ทคนิคการสอนทด่ี ีและฝกึ ให้เตรยี มความพรอ้ มอยู่เสมอ - ทำใหเ้ รารจู้ ักใฝห่ าความรู้อย่เู สมอเพือ่ ที่จะปรับใหเ้ หมาะสมและเท่าทันสถานการณ์ใน ปจั จุบนั - หากิจกรรมมาใหน้ ักเรยี นทำอย่เู สมอเพือ่ ให้นักเรยี นไดเ้ รียนรอู้ ย่างเตม็ ท่ี ไดล้ งมอื ปฏบิ ตั เิ อง และไดม้ ีส่วนร่วมในการเรยี นอย่างมีประสิทธภิ าพ - สง่ เสรมิ ให้นกั เรียนไดพ้ ฒั นาตนเองตามศักยภาพและความสนใจ พฒั นาความสามารถ ทางด้านทกั ษะกระบวนการฟัง พูด อ่าน และเขียน - เดก็ ได้มีความรใู้ นสาขาวชิ าอืน่ ๆควบค่ไู ปด้วยกนั โดยเพราะเกดิ การบรู ณาการกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน 3.4 ประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรียน - ทำใหก้ ารจดั การสอนในสถานศกึ ษามคี ณุ ภาพมากยง่ิ ขึน้ และการเรียนรู้เทคนคิ การ สอนของครแู ตล่ ะท่านภายในโรงเรยี น ทั้งในดา้ นการสอน และดา้ นการทำงานอืน่ ๆ

14 รายการอา้ งองิ คณะครศุ าสตร์ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. (2558). เอกสารประกอบการพฒั นาบคุ ลากรแกนนำ โดย ใชก้ ระบวนการสรา้ งระบบการชี้แนะและการเปน็ พี่เลีย้ ง. เอกสารอดั สำเนา. คณะครุศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . (มปป). คมู่ อื การจดั เกบ็ ข้อมลู โครงการการวิเคราะห์ ผู้เรยี น: CAR1. ศูนยพ์ ัฒนาการเรียนรู้และวิชาชีพครู (Center for the Advancement of Learning and Teaching Profession) สริ พิ ันธุ์ สุวรรณมรรคา. (2554). โมดูล 8 การวจิ ัยปฏิบตั ิการในชั้นเรียน. (เอกสารอัดสำเนา). ภาควิชาวจิ ยั และจิตวิทยาการศึกษา คณะครศุ าสตร์ จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย. สริ พิ นั ธุ์ สวุ รรณมรรคา. (2561). ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวชิ าชีพเพือ่ การพฒั นาการศกึ ษา. ในชุดวิชา 23728 นวตั กรรมการบริหารการศกึ ษาและภาวะผ้นู ำ. มหาวทิ ยาลยั สุโขทัยธรรมาธิราช. อ้างองิ ภาพ https://quizizz.com/admin/quiz/5bc6ac9bba4326001b579fe7/

15 ภาคผนวก

16 การสังเกตและวิเคราะห์การปฏบิ ตั ิหนา้ ทีค่ รู ผ่านชมุ ชนแหง่ การเรยี นรู้ทางวชิ าชพี (PLC) 1. แผนการดำเนนิ การ นักศึกษา สังเกตและวเิ คราะห์การปฏิบัตหิ น้าทีค่ รู โดยมแี ผนการดำเนนิ การดังนี้ แผนปฏิบัติการการสรา้ งชมุ ชนแหง่ การเรยี นรทู้ างวิชาชพี (PLC) ผา่ นการพัฒนาบทเรยี นร่วมกัน สัปดาห์ สปั ดาห์ สปั ดาห์ สปั ดาห์ สัปดาห์ ท่ี 1 ท่ี 2 ท่ี 3 ท่ี 4 ที่ 5-7 กิจกรรม 1. เตรยี มความพรอ้ ม ศกึ ษาบริบทโรงเรยี น ✓ 2.สังเกตการปฏบิ ัตหิ นา้ ทค่ี รู ✓ 3. วเิ คราะห์บทบาทหน้าทคี่ รู ✓ 4. แลกเปลีย่ นเรียนรูร้ ว่ มกบั เพอ่ื น ✓ 5. สรปุ ผล ถอดบทเรียน จดั ทำรายงานและนำเสนอ ✓ ผล

17 2. เครอ่ื งมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมขอ้ มลู 1) แบบบนั ทึกบรบิ ทโรงเรียน ผงั โรงเรียน นักศึกษาสังเกต ทำความเข้าใจบรบิ ทโรงเรียน และจดบนั ทกึ A1 โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม ทตี่ ง้ั 566 1 ถ. อรณุ อมรนิ ทร์ แขวงศิรริ าช เขตบางกอกนอ้ ย กรงุ เทพมหานคร 10700 สถานทใ่ี กล้เคียง โรงพยาบาลศริ ิราช ปยิ มหาราชการุณย์ (SiPH) ช่ือผู้บรหิ าร ดร.ภารดี ผางสง่า ************************************ จำนวนครู/บุคลากร (คน) 119 จำนวนนกั เรียน (คน) 1,364 จำนวนหอ้ งเรยี น (หอ้ ง) 41 รวม 1,524

18 A1 วาดผงั โรงเรยี น แผนผงั แสดงท่ตี ง้ั โรงเรยี นวัดอมรินทราราม แผนผังแสดงที่ตั้งโรงเรียนวดั อมรินทราราม (ลงชื่อ)............................................................ครู

19 2) แบบสงั เกตการปฏิบัตหิ น้าที่ครู A2 แบบสังเกตการปฏิบัตหิ น้าที่ครู คำชี้แจง: การบันทึกจากการสังเกตเป็นข้อมูลสำคัญในการทำความเข้าใจการปฏิบัติหน้าที่ครูและ เป็นโอกาสในการพัฒนาแนวคิดและทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญของนักศึกษา จึงขอให้นักศึกษาได้ บนั ทึกข้อมลู ให้ครอบคลมุ ประเดน็ ดงั นี้ 1) ข้อมูลเกย่ี วกบั สภาพและผบู้ ันทกึ ข้อมลู วนั ท.่ี ...7....เดือน................มถิ ุนายน...................ปี.....2565......เวลา.......14:30.น.......ถึง...15:30.น..... สถานท่ี..........โรงเรียนวดั อมรนิ ทราราม.................................................................................................. เปา้ หมายของการสังเกต (ครชู ่อื หรอื กลมุ่ สาระชอื่ หรอื ห้องพักครู) ...........นายอานนท์…ปั้นเจริญ.................................................................................................................. นามผู้จดบันทึกหรอื ผู้สังเกต.............นายรตั นพล...สุชเกษม................................................................... 2) ขณะทีก่ ำลงั สงั เกต: การบนั ทึกข้อมูลจากการสังเกตและการสนทนา (บันทึกความคิด) (บนั ทกึ ข้อมลู ) 1) สังเกตการสอนของครู วชิ าประวัตศิ ตร์ เวลา 14:30 น. ระดับช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 4 (สิง่ ทีส่ ังเกตเห็นหรอื การสนทนาทีไ่ ด้ยนิ ) 2) ครูทบทวนความรู้ และตั้งคำถาม ครูได้ทบทวนความรู้เกี่ยวกับบทความใน เก่ยี วกับเน้อื หาก่อนเข้าสบู่ ทเรยี น 3) ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยและสรุป หนงั สอื ก่อนเข้าสูบ่ ทเรียน แลว้ ครกู ็ต้ังคำถามเก่ียวกับ เรื่องในหนังสือ ให้เด็กตอบคำถาม โดยเป็นการสุ่ม พร้อมกนั ในแบบฝึกหัดท่ที ำ จากนั้นครูได้ให้นักเรยี นทำแบบฝกึ ประวตั ิศาสตร์ พอ นักเรียนทำเสรจ็ แล้ว เฉลยและสรุปไปพร้อมกัน เม่ือ

20 เวลาใกล้หมดครูได้สั่งการบ้านให้นักเรียนกลับไปทำ สง่ คาบเรยี นถดั ไป (อาจวาดภาพสถานทหี่ รอื บริบทของการสงั เกต) เวลา 15:30 น. 3) หลังจากจบกิจกรรมการสงั เกต: การประมวล วิเคราะห์ทำความเข้าใจ และสรปุ ความร้สู ึกนกึ คิดและการเรียนรทู้ ่ีเกดิ ขน้ึ กับผูส้ งั เกต (สว่ นนี้ไม่ใชข่ ้อมลู แต่เป็นการตคี วามและการแปลความหมาย ของข้อมลู ตลอดจนการวเิ คราะห์และการเรยี นรู้ของผสู้ งั เกต) 1. ความรู้สกึ ท่เี กดิ ขนึ้ ครมู วี ิธกี ารจดั การทีด่ เี พราะนักเรียนทกุ คนเข้าใจและเช่อื ฟงั อาจจะมีบางคน ทีย่ ังไม่คอ่ ยเข้าใจบ้าง แต่ครกู ็พยายามอธบิ ายใหเ้ ขา้ ใจง่ายขึน้ และทำให้เรารสู้ กึ วา่ อาชีพครไู มไ่ ดม้ หี นา้ ที่ แค่สอนหนงั สอื เพียงทา่ นน้ั 2. สิง่ ท่ไี ดเ้ รียนรู้ ได้รูจ้ กั เทคนคิ ในการสอน การแสดงวธิ ที ำทีถ่ ูกต้อง ทำให้นักเรยี นเขา้ ใจและสามารถ จำเทคนิคท่คี รูสอนได้ การเตรียมข้อมลู ความพร้อมกอ่ นสอน วิธีรบั มอื และควบคุมเดก็ 3. การนำไปใชป้ ระโยชน์ จะนำเอาเทคนคิ ทคี่ รสู อนในหอ้ งไปใช้ประโยชน์ อธิบายใหน้ ักเรยี นเข้าใจได้ ง่ายขึ้น และจะนำรูปแบบหรอื วธิ ีการสอนของครไู ปปรับใช้กับตวั เองในอนาคตขา้ งหนา้ 4. ข้อสังเกตหรือคำถามค้างใจที่ต้องการคำตอบต่อไป ถ้าวันหนึ่งมนี ักเรียนไมส่ ่งการบ้านเลยครจู ะมี วธิ ีการแกไ้ ขปัญหากบั เด็กยังไง วธิ กี ารจดั การหรือควบคมุ เด็ก

21 3) แบบสมั ภาษณ์ A3 แบบสัมภาษณ์ ครู วันท.่ี ..17...เดอื น......มิถุนายน.........ปี.......2565.........ต้งั แต่เวลา...16:30.น....ถงึ ......17:00.น.......... สถานที่..........โรงเรยี นวัดอมรนิ ทราราม........................................................................................................ ผสู้ มั ภาษณ…์ ………นายรตั นพล สชุ เกษม………………………………………...………………..……………………. ผถู้ ูกสมั ภาษณ์.............นางสาวณชิ ารยี ์ ศรีศุภสันต์............................................................................. การถามนำ / คำกล่าวนำ สวสั ดคี รับคณุ ครู ผมขอสัมภาษณ์คุณครเู ก่ียวกบั งานสอนและงานท่นี อกเหนือจากงานสอนสกั 4-5 ข้อหน่อยได้ไหมครับ คำถามสัมภาษณ์ 1) นักเรียนทด่ี ใี นอดุ มคตขิ องคุณ เป็นอยา่ งไร ➢ เปน็ คนดมี ีคุณธรรม มนี ำ้ ใจ เสียสละ มีเมตตา ออ่ นน้อมถอ่ มตน มกี ริ ิยามารยาทเรยี บร้อย ถึงแม้นักเรียนจะเรียนไม่เก่ง แต่ขอให้ประพฤติตนเเป็นคนดี มีสติสัมปชัญญะในการ ดำเนินชีวิต 2) มีวธิ กี ารจัดการอารมณ์กบั เด็กที่พฤติกรรมรุนแรง ➢ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูและนักเรียน ใช้หลักธรรม ความเมตตากรุณา รับฟัง ปญั หาเด็กเสมอ เมือ่ นักเรยี นทำผดิ มีวธิ ตี กั เตือน อบรม ไม่ตำหนิ ดุดา่ ลงโทษท่ีใช้ความ รุนแรง ชักจูงให้อยากเปลี่ยนแปลงแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น จัดกิจกรรมที่นักเรียนชอบหรอื สนใจ เช่น วาดภาพ การเล่นกีฬาและให้ครอบครัวของนักเรียนมีส่วนร่วมในการแก้ไข ปญั หาพฤตกิ รรมของนักเรียน

22 3) มีเทคนคิ การสอนอยา่ งไรใหเ้ ดก็ เข้าใจงา่ ยและไมเ่ ครียด ➢ ใชส้ ือ่ การเรียนร้ทู หี่ ลากหลายกายจะช่วยให้ผู้เรยี นเกิดความสนใจในการเรียนรูม้ ากขึน้ ➢ ในระหว่างการสอน มกี ิจกรรมสอดแทรก ใหผ้ ู้เรียนไม่รสู้ กึ เบ่ือหนา่ ย โดยกจิ กกรม อาจจะ มหี ลายรูปแบบท้ัง แบบเดีย่ ว แบบคู่ หรือ แบบกลมุ่ ซ่งึ การเรียนการสอนแบบทำกิจกรรม นนั้ เปน็ การเรียนการสอนทพี่ ัฒนาศักยภาพทางสมอง ไดแ้ ก่ การคิด การแกป้ ัญหา การนาํ ความรู้ไปประยกุ ตใ์ ช้ ➢ เปดิ โอกาสให้ผู้เรยี น ร่วมกจิ กรรม ทำแบบฝึกหัด แบบกลุ่ม ออกมานำเสนอ ออกมาแสดง ความคิดเหน็ 4) เคยเจอปัญหาระหวา่ งเพอ่ื นรว่ มงานบ้างหรอื ไม่ ➢ ไม่เคยมปี ญั หากบั เพอื่ นรว่ มงานเพราะทำงานดว้ ยความเขา้ ใจซ่ึงกันและกัน มีเหตุและผล ไมใ่ ช้อารมณ์ในการตดั สินปญั หา คณุ ครูที่โรงเรียนให้การสนับสนุนและชว่ ยเหลืองานต่างๆ เปน็ อยา่ งดี 5) นอกจากอาชีพครมู อี าชพี เสริมเพม่ิ เตมิ หรอื ไมแ่ ละบรหิ ารจดั การเวลาอย่างไร ➢ ไม่มี ในวันหยดุ จะกลบั บ้านตา่ งจงั หวัดเพอื่ ไปดูแล ลกู และครอบครัว คำกลา่ วในการปดิ การสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ผมขอขอบคุณมากเลยนะครับทีใ่ ห้ผมสมั ภาษณใ์ นครั้งน้ี โดยผมจะนำเอาขอ้ มูลเหล่าน้ีที่ได้จาก การ สัมภาษณ์ของครูในวันนไี้ ปทำเล่มรายงานการสงั เกตและวเิ คราะหก์ ารปฏิบัติหน้าท่ีครูผ่าน ชุมชน แหง่ การเรยี นรู้ทางวิชาชพี (PLC) เพือ่ สง่ รายงานผลให้กบั คณะอาจารยท์ าง มหาวทิ ยาลยั ต่อไปครับ

23 A3 แบบสมั ภาษณ์ ครู วนั ที.่ ..17...เดอื น......มิถุนายน.........ปี.......2565.........ต้งั แตเ่ วลา...16:30.น....ถงึ ......17:00.น.......... สถานที่..........โรงเรยี นวัดอมรินทราราม........................................................................................................ ผูส้ ัมภาษณ…์ ………นายรัตนพล สชุ เกษม………………………………………...………………..……………………. ผ้ถู ูกสัมภาษณ์.............นายอานนท์ ป้นั เจริญ............................................................................. การถามนำ / คำกลา่ วนำ สวสั ดีครับคุณครู ผมขอสัมภาษณค์ ุณครูเก่ยี วกบั งานสอนและงานทน่ี อกเหนอื จากงานสอนสกั 4-5 ขอ้ หน่อยได้ไหมครับ คำถามสัมภาษณ์ 6) นกั เรยี นทด่ี ใี นอดุ มคตขิ องคณุ เปน็ อยา่ งไร ➢ นักเรียนในอดุมคติของครูคือนักเรียนที่มคี วามใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ี ตนเองท่ไี ด้รับ รวมถึงการมคี วามประพฤติทด่ี ีแต่ในท้งั นี้เด็กนกั เรยี นท่ีเราไดพ้ บเจออาจจะ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ไปตามท่ีเราคาดหวงั หรือเด็กนักเรยี นในอดมุ คติ การจัดการเรียนการสอนต้องมี การบูรณาการปรับตามสภาพและบริบทของผู้เรียนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ เกิด ประโยชน์กับผู้เรยี นใหไ้ ด้มากที่สุด บนพื้นฐานความเชื่อทีว่ ่านักเรยี นทุกคนสามารถท่ีจะ เรียนรู้ได้ 7) มวี ธิ ีการจดั การอารมณก์ ับเดก็ ท่ีพฤติกรรมรุนแรง ➢ การจดั การกบั พฤติการของนกั เรียนทีม่ ีพฤตกิ รรมไมพ่ งึ ประสงค์ ควรดตู ามบรบิ ทของ สภาพแวดล้อมภายในห้องเรยี นและตวั ของนกั เรยี น มวี ิธีการหลากหลายในการจดั การ เชน่ การเสรมิ แรงทางบวก เสริมแรงทางลบ การลงโทษทางบวก การลงโทษทางลบ ซ่งึ วิธกี ารอาจจะตอ้ งประเมินตามตวั บุคคลทกี่ ำลงั มีพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงค์นนั้ ๆ โดยอาจจะ เรมิ่ วิธกี ารจากเบาไปหาหนัก ตามพฤติกรรมทผี่ ู้เรยี นไดแ้ สดงออกมา

24 8) มีเทคนคิ การสอนอยา่ งไรใหเ้ ด็กเข้าใจงา่ ยและไมเ่ ครยี ด ➢ ไม่มแี ผนการสอนใดที่ดที สี่ ดุ และแย่ทสี่ ุด การจดั การเรยี นการสอนภายในหอ้ งเรยี น ครผู ูส้ อนอาจจะตอ้ งศึกษาสภาพทัว่ ไปของผู้เรียนเป็นเร่ิมต้นจากนัน้ หาวธิ กี ารในการสอน ให้ผเู้ รียนไดเ้ ข้าใจ อยา่ งเช่น การใหผ้ ้เู รยี นได้มีสว่ นร่วมในการจดั การเรียนการสอน มกี าร ถาม-ตอบ การยกตัวอย่างท่ใี กล้ตัวผู้เรียนจะสามารถทำให้ผู้เรียนมคี วามสนในและเข้าใจ เนอ้ื หามากย่งิ ข้ึน 9) เคยเจอปัญหาระหว่างเพื่อนรว่ มงานบ้างหรือไม่ ➢ การเรียนรู้ การปรับตวั การศกึ ษาวัฒนธรรมองคก์ รเป็นอีกเรอ่ื งทค่ี รหู รือบุคลากรทาง การศกึ ษาต้องรจู้ ักปรบั ตัวและเขา้ ใจ การพูดคยุ การแลกเปล่ยี นองคค์ วามรู้ เน้ือหาของ งานสามารถทำใหก้ ารปฏบิ ัตงิ านผิดพลาดไดน้ อ้ ยลง ปัญหากจ็ ะพบได้นอ้ ย การทำงาน รว่ มกบั คนอ่นื ควรพรอ้ มเป็นคนท่ี พร้อมเรยี นรอู้ ย่เู สมอ ออ่ นนอ้ มและยอมรับคำติชมใน การทำงานเพอื่ นำมาปรับปรงุ และกล้าชี้แจง้ ในส่วนที่จำเป็นต้องอธิบายเพ่อื ให้งาน สามารถดำเนนิ ไปได้ และสมบูรณแ์ บบ 10) นอกจากอาชีพครมู ีอาชีพเสริมเพิม่ เติมหรือไม่และบรหิ ารจัดการเวลาอยา่ งไร ➢ อาชีพครูหรอื ขา้ ราชการครูเป็นอาชพี ท่มี ีเกียรติ แต่ด้วยความทย่ี คุ สมัยเปลย่ี นไป การ ดำเนนิ ชวี ิตท่เี ปลี่ยนไป สภาพเศรษฐกิจและสังคมทีป่ รับเปล่ยี นการมเี พยี งหน่ึงอาชพี อาจจะไม่เพยี งต่อการดำเนินชีวติ สว่ นตวั มองว่าอยากมธี ุรกจิ ส่วนตัวเก่ยี วกบั การค้าขาย หรอื อาจจะมีสอนพิเศษเพม่ิ เตมิ เพ่อื หารายได้เสริม ในเวลาว่างหรอื ช่วงวา่ งเว้นจากการ ทำงาน แต่กอ็ ยา่ ลืมไปว่าหน้าทห่ี ลกั ของตนเองคือ สอนในสถานศกึ ษาการท่ีจะมีงานเสรมิ ก็ไม่ควรทำใหง้ านหลกั ไดร้ ีบผลกระทบหรอื เสียหาย ควรจดั การและวางแผนและศกึ ษา รายละเอยี ดของงานอยา่ งเข้าใจ คำกลา่ วในการปิดการสมั ภาษณ์ / การขอบคณุ ผมขอขอบคณุ มากเลยนะครับทใี่ ห้ผมสมั ภาษณ์ในครั้งน้ี โดยผมจะนำเอาข้อมลู เหลา่ น้ีที่ได้จาก การ สมั ภาษณข์ องครใู นวันนี้ไปทำเลม่ รายงานการสังเกตและวเิ คราะห์การปฏิบตั ิหน้าที่ครูผา่ น ชุมชน แหง่ การเรยี นร้ทู างวชิ าชพี (PLC) เพ่ือสง่ รายงานผลให้กบั คณะอาจารยท์ าง มหาวิทยาลัยตอ่ ไปครับ

25 บนั ทึกหลังการสมั ภาษณ์ ความคดิ เหน็ ของผสู้ ัมภาษณ์ 1) ความร่วมมือของผู้ให้สัมภาษณ์ ➢ ครพู ่เี ลย้ี งให้การสัมภาษณเ์ ปน็ อยา่ งดี ตอบตรงประเด็นคำถาม ➢ ขณะสัมภาษณม์ ีการพูดคยุ เป็นกันเอง มสี หี น้าที่ยม้ิ แยม้ 2) สาระสำคญั ท่ไี ดร้ บั จากการสัมภาษณ์ ➢ ครูผู้สอนนอกจากมีหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนแล้ว ยังต้องมีการ สังเกตพฤตกิ รรมของเด็กนักเรยี นแต่ละคน แล้วนำมาวิเคราะห์ว่าเด็กสนใจ อะไรบา้ งเพื่อท่จี ะหาส่อื การสอนใหม่ๆมาใชค้ วบค่ใู นการสอนตอ่ ไป ➢ ในการทำงานเพื่อนร่วมงานเป็นสิ่งสำคัญเพราะฉะนั้น จึงต้องทำงาน ช่วยเหลือกันบนความเขา้ ใจซ่ึงกนั และกัน ปรับตวั เข้าหากัน มีเหตผุ ล ไม่ใช้ อารมณใ์ นการจดั การปัญหา 3) การใชป้ ระโยชน์ ➢ ตอ้ งพฒั นาตวั เองอยเู่ สมอ ไมห่ ยุดอยู่กับท่ีใหท้ นั ต่อโลกท่ีเจริญก้าวทางดา้ น เทคโนโลยี และนำความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากการสังเกตนำมาปรบั ใช้ให้เกดิ ประโยชน์ ประยกุ ตใ์ ช้ใหเ้ กิดผลดีตอ่ ตวั เองอย่างท่สี ุด 4) ประเด็นทีค่ วรสัมภาษณ์เพิม่ เตมิ ➢ หนา้ ทงี่ านครูตา่ งๆที่ต้องรับผดิ ชอบในฐานะครูมีอะไรอกี บา้ ง

26 3. การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู มีขน้ั ตอนในการดำเนินการดังต่อไปน้ี ขน้ั ตอนท่ี 1 วเิ คราะห์งานครลู งในแผนภาพ นำข้อมูลจากแบบบันทึกบริบทโรงเรียน ผังโรงเรียน (A1) แบบสังเกตการปฏิบัติหน้าที่ครู (A2) และแบบสัมภาษณ์ (A3) มาวิเคราะห์ด้วยแผนภาพ Mind Mapping เพื่อจัดหมวดหมู่ลักษณะ งานครูอย่างรอบด้านในประเด็นตา่ งๆ ดงั น้ี 1) บริบทโรงเรยี น MM1 2) งานครู 3) ขอ้ คน้ พบ/สง่ิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ 4) การนำไปใช้ประโยชน์ 5) แนวทางการพฒั นาตนเอง แบบวิเคราะห์งานครูดว้ ยแผนภาพ Mind Mapping (ร่าง) แผนภาพ Mind Mapping งานครู โรงเรยี นวดั อมรนิ ทราราม งานครู 1 งานครู 2 งานที่ได้รับหน้าที่เพิ่มเติมจากโรงเรยี น งานสอน การจดั การเรียนการสอนการ การเข้าเวรประจำวนั การเข้าอบรม การ จัดเตรยี มแผนกาสอนการจดั ทำสอ่ื การ จดั การกิจกรรมของโรงเรยี น สอน เพอ่ื ใชใ้ นชั่วโมงเรยี น งานครู 3 งานครู 4 งานหน้าที่จัดกิจกรรมวันสำคัญต่างๆให้ งานเครือข่ายผู้ปกครองนักเรียน มีหน้าท่ี นักเรียน ครูจำเป็นต้องมีกิจกรรมให้ ประสานงานกบั เครอื ข่ายการศึกษา เพอื่ แสวงหา นักเรียนได้มีความรู้ และได้เข้าไปมีส่วน ความร่วมมือความช่วยเหลือส่งเสริม สนับสนุน งานการศึกษาของสถานศึกษา เผยแพร่ข้อมูล เครือขา่ ยการศกึ ษาให้บคุ ลากรในสถานศกึ ษาและ รว่ มในการทำกิจกรรมและเกิดการเรียนรู้ …………………………………………………….. ผทู้ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งทราบ งานครู 5 การทำหลักฐานการประเมินผลการเรียน การบันทึกคะแนนจากการ ตรวจสมดุ ใบงานและแบบฝกึ หัดของนักเรยี นท้งั งานที่เปน็ การบ้านและ ที่ทำในห้องเรียน ครูจะต้องวัดผลและประเมินผลก่อนเรียน ระหว่าง เรียนและหลังเรียน ตลอดจนการวัดผลประจำภาคเรียน จัดทำแบบ บันทึกการวดั ผลย่อยสถติ ิและผลการเรยี น

27 ขอ้ คน้ พบ/สิง่ ท่ีได้เรียนรู้ การนำไปใช้ประโยชน์ แนวทางการพัฒนาตนเอง ได้รู้ว่าครูมีหน้าท่ีในการ ได้ฝึกความอดทน พัฒนาตนเองโดยการ สอนให้ความรู้แก่นักเรียน และ เนื่องจากนักเรียนแต่คนจะมี ที่มีความ รับผิดชอบมากยิ่งข้ึน ยงั ต้องมีการฝึกทักษะให้นักเรียน ลักษณะนิสยั ทแ่ี ตกตา่ งกัน และ กล้าคิดกล้าทำมากกว่านี้ และ สามารถนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวัน สามารถวางแผนการปฏิบัติงาน ฝกึ ฝนให้ตนเองมีความเป็นผู้นำ ได้และครูจะต้องแสวงหาความ ห ร ื อ ก ิ จ ก ร ร ม ต ่ า ง ๆ ท่ี แ ล ะ พ ั ฒ น า ต น เ อ ง ด ้ ว ย ร ู ้ อ ย ู ่ เ ส ม อเ พื ่ อใ ห ้ เ ท่าทั น สอดคล้องกับบทเรียนเพื่อ การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม สถานการณใ์ นปัจจุบนั นำมาปรับใช้ในการเรียนการ เกี่ยวกับการสอน และทักษะ สอนได้ การทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่าง เปน็ ระบ ลงช่อื นายรตั นพล สขุ เกษม นักศกึ ษา

28 ภาพกจิ กรรม เขา้ รว่ มกิจกรรมปฐมนเิ ทศนกั ศึกษา วันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ.2565

29 กิจกรรมชว่ ยงานครพู เี่ ล้ียงกอ่ นเปิดเทอม

30 กิจกรรมสอนนกั เรียนพบั กลอ่ งนม

31


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook