Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เกษตรทฤษฎีใหม่

เกษตรทฤษฎีใหม่

Published by Pat Cha, 2019-10-14 01:18:09

Description: เกษตรทฤษฎีใหม่

Search

Read the Text Version

คำนำ ก หนงั สือเล่มน้มี จี ัดทำขึ้นเพอื่ เป็นค่มู ือในกำรเรียนรู้ เก่ียวกับอดุลย์คลองหลวงฟำร์ม เห็ด ท่ีกลุ่มนักศึกษำคณะศิลปศำสตร์ สำขำกำรท่องเท่ียว มหำวิทยำลัยเทคโนโลยี รำชมงคลธัญบุรี จัดทำข้ึนให้กับ นำยอดุลย์ วิเชียรชัย ประธำนในพ้ืนท่ีชุมชน และ เจ้ำของพ้ืนที่อดุลย์คลองหกฟำร์มเห็ด ท่ีทำงกลุ่มนักศึกษำได้รับมอบหมำยงำนใน รำยวิชำ กำรจัดกำรท่องเท่ียวเชิงวัฒนธรรม และ อำจำรย์พนัส สืบยุบล ท่ีปรึกษำ รำยงำน และหนังสือเล่มน้ี ภำยในหนังสือเล่มน้ีจะประกอบไปด้วย หลักคำสอน และแนวทำงแก้ไขปัญหำ ตำ่ งๆของ พระบำทสมเด็จพระบรมชนกำธิเบศร มหำภูมิพลอดุลยเดชมหำรำช บรม นำถบพิตร นอกจำกนย้ี ังมี เคร่ืองจกั รสำน, ประเภทของต้นไม้ พืชพรรณ แต่ละชนิด รวมทั้งสรรคณุ ทำงด้ำนยำรกั ษำโรค และรับประทำนเปน็ อำหำรได้ สุดท้ำยนี้ทำงคณะผู้จัดทำขอขอบคุณ นำยอดุลย์ วิเชียรชัย และสมำชิกในพื้นท่ี ชุมชน และพื้นท่ีอดุลย์คลองหกฟำร์มเห็ด ท่ีให้กำรต้อนรับ และควำมร่วมมือเป็น อย่ำงดี ขอขอบคุณ อำจำรย์พนัส สืบยุบล ที่ปรึกษำรำยงำน และหนังสือเล่มนี้ ขอขอบคุณ ครอบครัว เพื่อน และทุกคนที่มีส่วนเก่ียวข้องกับกำรทำงำนครั้งนี้ หำก หนงั สอื เลม่ น้มี ีขอ้ มลู เนือ้ หำผิดพลำดประกำรใดทำงคณะผูจ้ ัดทำขออภยั มำ ณ ท่นี ี้ คณะผจู้ ัดทำ

เกษตรทฤษฎใี หม่ ทฤษฎีใหม่ คือ ตัวอย่ำงท่ีเป็นรูปธรรมของ กำรประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียงท่ี เด่นชัดที่สุด ซึ่งพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัวในรัชกำลที่ 9 ได้พระรำชทำน พระรำชดำริน้ี เพื่อเป็นกำรช่วยเหลือเกษตรกรท่ีมักประสบปัญหำท้ังภัยธรรมชำติ และปัจจยั ภำย นอกทมี่ ผี ลกระทบตอ่ กำรทำกำรเกษตร ให้สำมำรถผ่ำนพ้นช่วงเวลำ วกิ ฤต โดยเฉพำะกำรขำดแคลนนำ้ ไดโ้ ดยไมเ่ ดอื ดรอ้ นและยำกลำบำกนกั ควำมเสย่ี งทเ่ี กษตรกร มกั พบเปน็ ประจำ ประกอบด้วย 1. ควำมเส่ยี งดำ้ นรำคำสนิ ค้ำเกษตร 2. ควำมเสี่ยงในรำคำและกำรพ่งึ พำปัจจยั กำรผลิตสมัยใหม่จำกต่ำงประเทศ 3. ควำมเสย่ี งด้ำนนำ้ ฝนท้ิงชว่ ง ฝนแล้ง 4. ภัยธรรมชำติอ่นื ๆ และโรคระบำด 5. ควำมเสี่ยงด้ำนแบบแผนกำรผลิต - ควำมเสี่ยงดำ้ นโรคและศัตรพู ืช - ควำมเสยี่ งดำ้ นกำรขำดแคลนแรงงำน - ควำมเสย่ี งด้ำนหนี้สนิ และกำรสญู เสยี ทีด่ ิน ทฤษฎีใหม่ จึงเป็นแนวทำงหรือหลักกำรในกำรบริหำรกำรจัดกำรที่ดินและน้ำ เพือ่ กำรเกษตรในท่ดี ินขนำดเล็กใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด

ควำมสำคัญของทฤษฎีใหม่ 1. มีกำรบริหำรและจัดแบ่งท่ีดินแปลงเล็กออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน เพื่อประโยชน์ สงู สุดของเกษตรกร ซึ่งไม่เคยมีใครคิดมำก่อน 2. มีกำรคำนวณโดยใช้หลกั วชิ ำกำรเก่ยี วกบั ปริมำณนำ้ ทีจ่ ะกกั เกบ็ ให้พอเพยี งตอ่ กำร เพำะปลกู ได้อยำ่ งเหมำะสมตลอดปี 3. มีกำรวำงแผนทสี่ มบรู ณ์แบบสำหรบั เกษตรกรรำยยอ่ ย โดยมีถึง 3 ขนั้ ตอน ทฤษฎใี หม่ข้ันตน้ ใหแ้ บง่ พน้ื ท่อี อกเป็น 4 สว่ น ตำมอตั รำส่วน 30:30:30:10 ซง่ึ หมำยถึง พื้นท่ีส่วนที่หนึ่ง ประมำณ 30% ให้ขุดสระเก็บกักน้ำเพื่อใช้เก็บกักน้ำฝนในฤดูฝน และใช้เสริมกำรปลูกพืชในฤดแู ลง้ ตลอดจนกำรเลี้ยงสัตว์และพืชนำ้ ตำ่ งๆ พื้นที่ส่วนที่สอง ประมำณ 30% ให้ปลูกข้ำวในฤดูฝนเพ่ือใช้เป็นอำหำรประจำวัน สำหรับครอบครวั ให้เพียงพอตลอด ปี เพอื่ ตัดค่ำใชจ้ ่ำยและสำมำรถพง่ึ ตนเองได้

พื้นท่ีส่วนท่ีสำม ประมำณ 30% ให้ปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น พืชผัก พืชไร่ พืชสมุนไพร ฯลฯ เพอื่ ใช้เป็นอำหำรประจำวนั หำกเหลือบรโิ ภคก็นำไปจำหนำ่ ย พื้นที่ส่วนท่ีส่ี ประมำณ 10% เป็นที่อยู่อำศัย เลี้ยงสัตว์ ถนนหนทำง และโรงเรือน อน่ื ๆ ทฤษฎใี หม่ขั้นท่ีสอง เมื่อเกษตรกรเข้ำใจในหลักกำรและได้ปฏิบัติในที่ดินของตนจนได้ผลแล้ว ก็ต้องเริ่ม ข้ันที่สอง คือให้เกษตรกรรวมพลังกันในรูป กลุ่ม หรือ สหกรณ์ ร่วมแรงร่วมใจกัน ดำเนินกำรในด้ำน (1) กำรผลิต (พนั ธุ์พชื เตรยี มดนิ ชลประทำน ฯลฯ) - เกษตรกรจะต้องร่วมมอื ในกำรผลิต โดยเริม่ ตัง้ แต่ขนั้ เตรียมดนิ กำรหำพันธพุ์ ืช ปุ๋ย กำรจัดหำนำ้ และอื่นๆ เพื่อกำรเพำะปลูก (2) กำรตลำด (ลำนตำกข้ำว ย้งุ เครอ่ื งสขี ำ้ ว กำรจำหนำ่ ยผลผลิต) - เมอื่ มีผลผลิตแลว้ จะตอ้ งเตรียมกำรต่ำงๆ เพอ่ื กำรขำยผลผลิตให้ไดป้ ระโยชน์สูงสุด เชน่ กำรเตรียมลำนตำกขำ้ วรว่ มกนั กำรจดั หำยุง้ รวบรวมข้ำว เตรียมหำเคร่ืองสีข้ำว ตลอดจนกำรรวมกนั ขำยผลผลติ ให้ไดร้ ำคำดแี ละลดค่ำใช้จำ่ ยลงดว้ ย (3) กำรเป็นอยู่ (กะปิ น้ำปลำ อำหำร เครอ่ื งน่งุ ห่ม ฯลฯ) - ในขณะเดียวกันเกษตรกรต้องมีควำมเป็นอยู่ท่ีดีพอสมควร โดยมีปัจจัยพื้นฐำนใน กำรดำรงชีวติ เชน่ อำหำรกำรกินตำ่ งๆ กะปิ น้ำปลำ เส้อื ผ้ำ ท่ีพอเพยี ง (4) สวสั ดิกำร (สำธำรณสขุ เงินกู้) - แตล่ ะชมุ ชนควรมีสวัสดภิ ำพและบริกำรที่จำเป็น เช่น มีสถำนีอนำมัยเม่ือยำมป่วย ไข้ หรอื มีกองทุนไว้กยู้ มื เพอื่ ประโยชน์ในกจิ กรรมต่ำงๆ ของชมุ ชน

(5) กำรศึกษำ (โรงเรยี น ทนุ กำรศึกษำ) - ชมุ ชนควรมบี ทบำทในกำรส่งเสริมกำรศกึ ษำ เช่น มีกองทุนเพ่ือกำรศึกษำเล่ำเรียน ใหแ้ ก่เยำวชนของชมชนเอง (6) สังคมและศำสนำ - ชุมชนควรเปน็ ที่รวมในกำรพฒั นำสังคมและจติ ใจ โดยมศี ำสนำเปน็ ที่ยดึ เหนีย่ ว โดยกิจกรรมท้ังหมดดังกลำ่ วข้ำงตน้ จะตอ้ งได้รบั ควำมรว่ มมือจำกทุกฝำ่ ยท่ีเกี่ยวข้อง ไม่วำ่ สว่ นรำชกำร องคก์ รเอกชน ตลอดจนสมำชกิ ในชมุ ชนนน้ั เป็นสำคญั ทฤษฎีใหม่ขนั้ ท่ีสำม เมื่อดำเนินกำรผ่ำนพ้นข้ันที่สองแล้ว เกษตรกร หรือกลุ่มเกษตรกรก็ควรพัฒนำ ก้ำวหนำ้ ไปสู่ขั้นทีส่ ำมตอ่ ไป คอื ตดิ ต่อประสำนงำน เพ่อื จัดหำทนุ หรือแหล่งเงิน เช่น ธนำคำร หรือบริษัท ห้ำงร้ำนเอกชน มำชว่ ยในกำรลงทุนและพัฒนำคุณภำพชีวิต ท้ังน้ี ทั้งฝ่ำยเกษตรกรและฝ่ำยธนำคำร หรือบริษัทเอกชนจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน กลำ่ วคอื - เกษตรกรขำยข้ำวได้รำคำสงู (ไมถ่ ูกกดรำคำ) - ธนำคำรหรือบริษัทเอกชนสำมำรถซ้ือข้ำวบริโภคในรำคำต่ำ (ซ้ือข้ำวเปลือกตรง จำกเกษตรกรและมำสเี อง) - เกษตรกรซ้ือเครื่องอุปโภคบริโภคได้ในรำคำต่ำ เพรำะรวมกันซื้อเป็นจำนวนมำก (เป็นรำ้ นสหกรณ์รำคำขำยสง่ ) - ธนำคำรหรือบริษัทเอกชน จะสำมำรถกระจำยบุคลำกร เพื่อไปดำเนินกำรใน กิจกรรมตำ่ งๆ ใหเ้ กิดผลดยี ง่ิ ขึ้น

หลักกำรและแนวทำงสำคัญ 1. เป็นระบบกำรผลิตแบบเศรษฐกิจพอเพียงที่เกษตรกรสำมำรถเล้ียงตัวเองได้ใน ระดบั ทีป่ ระหยดั กอ่ น ท้งั นี้ ชุมชนตอ้ งมคี วำมสำมคั คี รว่ มมอื รว่ มใจในกำรชว่ ยเหลือ ซึง่ กนั และกนั ทำนองเดียวกับกำร “ลงแขก” แบบด้ังเดิมเพ่ือลดค่ำใช้จ่ำยในกำรจ้ำง แรงงำนดว้ ย 2. เน่ืองจำกข้ำวเป็นปัจจัยหลักที่ทุกครัวเรือนจะต้องบริโภค ดังน้ัน จึงประมำณว่ำ ครอบครวั หนง่ึ ทำนำประมำณ 5 ไร่ จะทำให้มีข้ำวพอกนิ ตลอดปี โดยไม่ต้องซ้ือหำใน รำคำแพง เพ่อื ยดึ หลกั พ่งึ ตนเองได้อย่ำงมอี สิ รภำพ 3. ต้องมีน้ำเพ่ือกำรเพำะปลูกสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้ง หรือระยะฝนท้ิงช่วงได้อย่ำง พอเพียง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องกันท่ีดินส่วนหนึ่งไว้ขุดสระน้ำ โดยมีหลักว่ำต้องมีน้ำ เพียงพอที่จะเพำะปลูกได้ตลอดปี ท้ังน้ี ได้พระรำชทำนพระรำชดำริเป็นแนวทำงว่ำ ตอ้ งมนี ้ำ 1,000 ลกู บำศก์เมตร ต่อกำรเพำะปลูก 1 ไร่ โดยประมำณ ฉะน้ัน เม่ือทำ นำ 5 ไร่ ทำพืชไร่ หรือไม้ผลอีก 5 ไร่ (รวมเป็น 10 ไร่) จะต้องมีน้ำ 10,000 ลกู บำศก์เมตรตอ่ ปี ดังนัน้ หำกต้ังสมมติฐำนว่ำ มีพนื้ ท่ี 5 ไร่ กจ็ ะสำมำรถกำหนดสตู รคร่ำวๆ ว่ำ แต่ละ แปลง ประกอบดว้ ย - นำข้ำว 5 ไร่ - พืชไร่ พชื สวน 5 ไร่ - สระน้ำ 3 ไร่ ขดุ ลึก 4 เมตร จนุ ้ำได้ประมำณ 19,000 ลกู บำศก์เมตร ซึ่งเป็น ปริมำณน้ำทเ่ี พียงพอทีจ่ ะสำรองไว้ใชย้ ำมฤดูแล้ง - ที่อย่อู ำศยั และอนื่ ๆ 2 ไร่ รวมทง้ั หมด 15 ไร่

4. กำรจดั แบง่ แปลงที่ดินเพื่อใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดนี้ พระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยู่หัว ในรัชกำลท่ี 9 ทรงคำนวณและคำนงึ จำกอตั รำกำรถอื ครองที่ดินถัวเฉลี่ยครัวเรือนละ 15 ไร่ อย่ำงไรก็ตำม หำกเกษตรกรมีพื้นที่ถือครองน้อยกว่ำนี้ หรือมำกกว่ำ น้ี ก็สำมำรถใช้อัตรำส่วน 30:30:30:10 เปน็ เกณฑ์ปรบั ใช้ได้ กลำ่ วคือ รอ้ ยละ 30 ส่วนแรก ขดุ สระนำ้ (สำมำรถเลย้ี งปลำ ปลกู พืชน้ำ เชน่ ผกั บุง้ ผกั กะเฉด ฯลฯ ได้ดว้ ย) บนสระอำจสรำ้ งเล้ำไก่และบนขอบสระน้ำอำจปลูกไม้ยืนต้นท่ีไม่ใช้น้ำ มำกโดยรอบ ได้ รอ้ ยละ 30 สว่ นทีส่ อง ทำนำ รอ้ ยละ 30 ส่วนทสี่ ำม ปลูกพืชไร่ พืชสวน (ไม้ผล ไม้ยืนตน้ ไม้ใชส้ อย ไม้เพื่อเป็นเช้ือ ฟืน ไมส้ รำ้ งบำ้ น พชื ไร่ พชื ผกั สมุนไพร เป็นตน้ ) รอ้ ยละ 10 สดุ ท้ำย เป็นท่อี ยู่อำศัยและอื่นๆ (ทำงเดนิ คนั ดิน กองฟำง ลำนตำก กอง ปุ๋ยหมัก โรงเรือน โรงเพำะเห็ด คอกสัตว์ ไม้ดอกไม้ประดับ พืชสวนครัวหลังบ้ำน เป็นต้น) อยำ่ งไรก็ตำม อตั รำสว่ นดงั กล่ำวเป็นสตู ร หรอื หลักกำรโดยประมำณเท่ำนัน้ สำมำรถ ปรับปรุงเปล่ียนแปลงได้ตำมควำมเหมำะสม โดยขึ้นอยู่กับสภำพของพื้นท่ีดิน ปริมำณน้ำฝน และสภำพแวดล้อม เช่น ในกรณีภำคใต้ที่มีฝนตกชุก หรือพ้ืนที่ที่มี แหลง่ นำ้ มำเติมสระได้ต่อเนอื่ ง ก็อำจลดขนำดของบ่อ หรือสระเก็บน้ำให้เล็กลง เพื่อ เก็บพน้ื ทไ่ี วใ้ ช้ประโยชน์อนื่ ต่อไปได้

5. กำรดำเนนิ กำรตำมทฤษฎใี หม่ มปี จั จยั ประกอบหลำยประกำร ข้นึ อย่กู ับสภำพภูมิ ประเทศ สภำพแวดล้อมของแต่ละท้องถ่ิน ดงั น้นั เกษตรกรควรขอรับคำแนะนำจำก เจ้ำหน้ำที่ด้วย และท่ีสำคัญ คือ รำคำกำรลงทุนค่อนข้ำงสูง โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงกำร ขดุ สระนำ้ เกษตรกรจะต้องได้รับควำมช่วยเหลือจำกส่วนรำชกำร มูลนธิ ิ และเอกชน 6. ในระหว่ำงกำรขุดสระน้ำ จะมีดินท่ีถูกขุดขึ้นมำจำนวนมำก หน้ำดินซึ่งเป็นดินดี ควรนำไปกองไว้ต่ำงหำกเพื่อนำมำใช้ประโยชน์ในกำรปลูกพืชต่ำงๆ ในภำยหลัง โดย นำมำเกลย่ี คลุมดินช้ันล่ำงทเ่ี ปน็ ดนิ ไมด่ ี หรืออำจนำมำถมทำขอบสระน้ำ หรือยกร่อง สำหรบั ปลูกไมผ้ ลกจ็ ะได้ประโยชนอ์ กี ทำงหนง่ึ ประโยชนข์ องทฤษฎีใหม่ 1. ให้ประชำชนพออยู่พอกนิ สมควรแก่อัตภำพในระดับท่ีประหยัด ไม่อดอยำก และ เล้ยี งตนเองไดต้ ำมหลกั ปรชั ญำ “เศรษฐกิจพอเพยี ง” 2. ในหน้ำแล้งมีน้ำน้อย ก็สำมำรถเอำน้ำที่เก็บไว้ในสระมำปลูกพืชผักต่ำงๆ ที่ใช้น้ำ นอ้ ยได้ โดยไมต่ ้องเบียดเบียนชลประทำน 3. ในปที ่ฝี นตกตำมฤดกู ำลโดยมนี ้ำดีตลอดปี ทฤษฎีใหม่นี้สำมำรถสร้ำงรำยได้ให้แก่ เกษตรกรได้โดยไม่เดอื ดร้อนในเร่อื งค่ำ ใช้จ่ำยต่ำงๆ 4. ในกรณีที่เกดิ อุทกภยั เกษตรกรสำมำรถที่จะฟืน้ ตัวและช่วยตัวเองได้ในระดับหน่ึง โดยทำงรำชกำรไม่ตอ้ งชว่ ยเหลอื มำกนกั ซงึ่ เป็นกำรประหยัดงบประมำณด้วย


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook