Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore กรณีศึกษาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย ที่มีวิธีคิดนโยบาย และวิธีการปฏิบัติด้านความยั่งยืน

กรณีศึกษาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ในประเทศไทย ที่มีวิธีคิดนโยบาย และวิธีการปฏิบัติด้านความยั่งยืน

Published by aeye.oh.yeah, 2021-03-18 06:31:39

Description: กรณีศึกษา บริษัท อินเด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจโดยใช้นโยบายการบริหารทรัพยากรมนุษย์เชิงสร้างสรรค์โดยเน้นการบริหารตามวิสัยทัศน์ขององค์กร คือ “Work Hard Play Hard”และความเป็นองค์กรสุขภาวะ

Search

Read the Text Version

นางสาวกฤษณภรณ์ กตุ ระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณศี ึกษาวธิ ีคิดนโยบาย และวิธีการปฏิบตั ิของบรษิ ัท อนิ เดก็ ซ์ครีเอทีฟวลิ เลจ 1 กรณศี ึกษาการจดั การทรัพยากรมนษุ ยใ์ นประเทศไทย ทีม่ ีวธิ คี ิดนโยบาย และวิธกี ารปฏิบตั ดิ ้านความยงั่ ยืน กรณศี ึกษา บรษิ ัท อนิ เดก็ ซค์ รีเอทฟี วลิ เลจโดยใช้นโยบายการบริหารทรพั ยากรมนษุ ย์เชิง สร้างสรรค์โดยเน้นการบริหารตามวิสยั ทัศน์ขององค์กร คือ “Work Hard Play Hard”และความเปน็ องค์กรสขุ ภาวะ หลกั การที่จะท้าใหเ้ กดิ การบริหารงานพฒั นาทรพั ยากรมนุษยเ์ ชงิ สรา้ งสรรคเ์ ปน็ ประเดน็ ต่างๆ ไดด้ งั น้ี 1. นโยบายกลยทุ ธด์ า้ นการบรหิ ารทรพั ยากรบุคคล นโยบายในองคก์ รหรอื กลยุทธ์ด้านการบริหารทรพั ยากรมนุษยน์ นั้ เปน็ นโยบายทเ่ี ก่ยี วข้องกบั บุคคลในการ ทำงานและเปน็ สิ่งทีต่ อ้ งนำไปปฏิบตั ิให้เกิดผลในทุกๆองคก์ รผู้ บรหิ ารจะใชก้ ลยุทธ์ในด้านนีเ้ พ่ือการสรรหาและ คัดเลือกบุคคลท่ีมีความสามารถ มีความเหมาะสมมาปฏบิ ัติงานในองคก์ ร พรอ้ มทงั้ ท้างานเพอื่ การพฒั นาความรู้ ความสามารถของแต่ละบคุ คล และเมื่อบุคคลมาท้างานนน้ั กต็ อ้ งมกี ารพฒั นาท้ังสขุ ภาพกาย พัฒนาจติ ใจ และตอ้ ง พฒั นาทัศนคติของบคุ คลในการทา้ งานดว้ ย และองค์กรนั้นจะต้องสรปุ ใหส้ มาชิกในองคก์ รท้างานและอย่ใู นสงั คมได้ อยา่ งเปน็ ปกติสขุ โดยด้านนโยบายและกลยุทธข์ องบริษทั อินเดก็ ซ์ครีเอทฟี วิลเลจนัน้ สามารถสรปุ เปน็ ประเดน็ ใน ดา้ นนโยบายคอื 1.1 วัฒนธรรมองค์การบรษิ ทั อินเด็กซค์ รีเอทฟี วิลเลจจะมีวัฒนธรรมองค์การทีเ่ ป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ว่าพนกั งานในองคก์ ารนั้นๆจะประพฤติปฏิบัติต่อกันในวฒั นธรรมขององค์การในลักษณะ “Work Hard Play Hard” คอื เวลาทำงานก็ท่มุ เทใหง้ านประสบความสำเรจ็ อย่างจรงิ จัง เมอ่ื ถงึ เวลาพักผอ่ นกส็ นกุ สนานเพือ่ เสริม กระตุ้นความคดิ สร้างสรรคใ์ ห้เกดิ ขึ้นในองค์กร 1.2 สร้างความเป็นองค์กรสขุ ภาวะ (Healthy Organization) ซง่ึ องคก์ รถอื ว่า กระบวนการพัฒนาคนใน องคก์ รอยา่ งมเี ป้าหมายและยทุ ธศาสตร์ใหส้ อดคล้องกบั วิสัยทัศนท์ สี่ นับสนุนความคิดสรา้ งสรรค์ขององคก์ รเพ่อื ให้ องคก์ รมคี วามสามารถและพรอ้ มต่อการเปลย่ี นแปลง สามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ นำพาองค์กรไปสกู่ ารเตบิ โต อยา่ งยั่งยืน 1.3 การสรรหา (recruitment) องค์กรมกี ระบวนการกล่นั กรอง และคัดเลือกบคุ คลทีม่ คี ุณสมบัตคิ ุณวุฒิ ทางการศกึ ษา มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณใ์ นการทำงานที่เหมาะสมกับวฒั นธรรมองคก์ รเทา่ น้นั นางสาวกฤษณภรณ์ กตุ ระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณีศกึ ษาวธิ ีคิดนโยบาย และวิธีการปฏบิ ตั ิของบริษัท อินเดก็ ซ์ครีเอทีฟวิลเลจ 2 1.4 สร้างความผูกพนั ของพนกั งาน (Employee Engagement) คือองคก์ รจะเสริมสร้างใหบ้ ุคลากร ภายในองค์กรใหม้ รี ะดับความเปน็ เจ้าของหรอื ความมสี ่วนร่วมในองคก์ รให้สงู ขน้ึ เพ่ือใหอ้ งคก์ รประสบความสำเร็จ ตามเปา้ หมายท่ีได้ตง้ั ไว้ ซึง่ องค์กรกจ็ ะสนับสนุนหลายๆปจั จยั ที่ท้าใหเ้ กิดความผูกพนั ได้แก่ • เป้าหมายขององค์กร พนักงานทกุ คนย่อมต้องการทจ่ี ะทา้ งานให้ประสบความสำเรจ็ ดังน้ัน เมอื่ พนกั งาน เปน็ ส่วนหนง่ึ ขององค์กรทท่ี ำใหป้ ระสบความสำเร็จ มสี ่วนทำใหอ้ งค์กรเติบโต เจรญิ รงุ่ เรอื ง ยอ่ มทำให้เขาเกดิ ความ ภาคภูมิใจและอยากจะอยู่ในองค์กร มีความผกู พนั กับองคก์ รในระยะยาว • ผลตอบแทน ทกุ คนย่อมทำงานเพือ่ นำเอาผลตอบแทน เชน่ เงินเดือน โบนสั สวัสดกิ ารตา่ งๆ ไปจับจ่าย ในโลกส่วนตวั ของตนเอง การทพี่ นกั งานรสู้ กึ วา่ ผลตอบแทนทไี่ ดร้ ับมคี วามเหมาะสมต่อผลงาน ยอ่ มทำใหพ้ นกั งาน พรอ้ มท่ีจะอยกู่ บั องคก์ รในระยะยาวตอ่ ไป • หัวหนา้ งานและเพอื่ นสรา้ งบรรยากาศ ผู้คนที่แวดลอ้ มให้พนกั งานร้สู กึ มีความสขุ กจ็ ะทำใหพ้ นกั งาน พร้อมท่จี ะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กบั สถานท่ีทำงาน 1.5 สร้างให้องคก์ รเปน็ องค์กรแห่งการเรียนรูเ้ พราะองคก์ รท่เี ปน็ องคก์ รทมี่ ีความคิดสร้างสรรค์ตอ้ งมีการ พฒั นาองค์ความรู้ตลอดเวลาเพื่อที่จะให้พนักงานตอ่ ยอดองคค์ วามรู้ใหมๆ่ ตลอดเวลา 2 โครงสรา้ งองค์กร/วัฒนธรรมองค์กร ปรชั ญาขององคก์ ร คือ ปรารถนาทจี่ ะเห็นทั้งรอยยิ้มของลกู ค้าทีม่ ีความสขุ และเห็นรอยยิ้มของทมี งานท่ี ทำงานอยา่ งมีความสุข บรษิ ัทจะเนน้ คนเปน็ หลักจะไม่เนน้ ท่วี ตั ถุหรอื เครอ่ื งมอื เปน็ หลัก ด้วยจำนวนพนักงานทีม่ ี มากอยู่ แต่ถ้าพนักงานไมม่ ีใจทำงานบรษิ ทั กจ็ ะเป็นบรษิ ัทที่แหง้ แล้ง พนักงานจะทำตัวเป็นหนุ่ ยนต์จะไมต่ อบสนอง ตอ่ ปรชั ญาองค์การ ทำใหก้ ารทำงานไม่บรรลผุ ลไม่เกดิ ประสทิ ธภิ าพ ดังนั้นทางบริษทั จะมุ่งพฒั นาทรพั ยากรมนุษย์ เชิงสร้างสรรค์เพ่ือใหพ้ นักงานมใี จท่เี ต็มเป่ยี มในการทำงานแลว้ พนักงานจะมีความสุขพอท่จี ะแบ่งใหค้ นอนื่ ด้วยการ ทำงานและการบรกิ ารท่ีดี ซง่ึ การทจ่ี ะทำให้พนักงานมคี วามสุขและสร้างสรรคน์ วัตกรรมองคก์ ารตอ้ งมาจากการ บริหารทรพั ยากรมนุษย์ในดา้ นตา่ งๆ คือ 2.1 การฝกึ อบบรมและพัฒนาพนักงานตอ้ งมีการฝกึ อบรมภายใตก้ รอบแนวคิดการบรหิ ารงานอยา่ ง สร้างสรรค์ มุง่ เน้นสง่ิ ทท่ี ำได้คือนวตั กรรม สร้างปัญญา เพมิ่ คณุ คา่ ทำได้จรงิ คือเนน้ การทำไดจ้ รงิ สร้างมลู คา่ เพิ่ม ซง่ึ การทำไดจ้ ริงเปน็ สง่ิ ที่สำคัญมาก ซึง่ การฝึกอบรมสามารถทำให้พนกั งานคดิ นอกกรอบได้ ทำให้เกิดนวตั กรรม เกดิ การสรา้ งสรรคไ์ ดเ้ ร็วขน้ึ 2.2 การประเมนิ ผลการทำงานทางบรษิ ทั จะนำนวตั กรรมและการบรหิ ารงานอยา่ งสรา้ งสรรคเ์ ขา้ สู่ ระบบประเมนิ ผลซึ่งพนักงานท่สี ามารถสร้างสรรค์ตัวเองและมีสว่ นรว่ มในการสรา้ งสรรค์นวัตกรรมองค์กร ทาง บรษิ ทั จะมที ง้ั รางวลั เป็นตวั เงนิ มาเปน็ ตัวกระตุ้นอกี ทาง นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณศี กึ ษาวิธีคิดนโยบาย และวธิ ีการปฏบิ ตั ิของบริษทั อินเด็กซ์ครีเอทีฟวลิ เลจ 3 3. กิจกรรมพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ 3.1 การออกแบบงาน บริษัทอินเดก็ ซ์ครีเอทีฟวิลเลจเล็งเห็นความสำคัญของการออกแบบงาน ซึ่งบรษิ ทั ถอื วา่ การออกแบบงาน เปน็ กระบวนการทีม่ กี ารจดั การอยา่ งเปน็ ระบบที่ถูกนำมาใช้ในการศกึ ษารวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลท่ีเกี่ยวข้อง กบั งาน เพื่อทีจ่ ะไดส้ ารสนเทศของงานนัน้ เพยี งพอตอ่ การทีจ่ ะนำไปใช้ประโยชนใ์ นการดำเนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ 3.2 การวางแผนกำลงั คน บรษิ ัทอินเดก็ ซ์ครเี อทีฟวลิ เลจมกี ารวางแผนกำลังคนโดยเน้นสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กรในอนาคต การ วางแผนกำลังคน (Human Resource Planning)ข้อมูลจากการวเิ คราะหง์ านจะแสดงคุณลกั ษณะและธรรมชาติ ของงานแตล่ ะชนิดตลอดจนบ่งช้ถี ึงคุณสมบัติของบคุ ลากรท่ีเหมาะสมในการปฏิบตั งิ านนนั้ ด้วย โดยข้อมูลของงาน จะถกู นำมาช่วยในการวางแผนทรัพยากรมนษุ ย์ ตั้งแต่การคาดการณก์ ารวางแผน จนกระทงั่ กำหนดวธิ ีการปฏิบัตทิ ี่ เก่ยี วข้องกับงานบุคลากร นอกจากน้ยี ังสามารถนำข้อมูลของงานพร้อมทัง้ ข้อมลู อืน่ มาใชป้ ระกอบการคาดการณ์ ความตอ้ งการก้าลังคน (Manpower) รวม และในแตล่ ะสาขาขององคก์ าร เพื่อท่ีจะวางแผนและกำหนดยุทธวิธีใน การปฏิบัติตามความตอ้ งการได้อย่างมีประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ล 3.3 การสรรหาและคัดเลือก การสรรหาและการคดั เลือกบคุ ลากร (Recruitment and Selection) ขอ้ มูลจากการวเิ คราะหง์ าน สามารถที่จะนำมาใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชนใ์ นข้นั ตอนการสรรหาและการคดั เลอื กบุคลากรขององค์การไดเ้ ป็นอยา่ งดี โดยในกระบวนการสรรหาและการคัดเลอื กบคุ ลากร เพ่ือให้ไดบ้ ุคลากรทม่ี ีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ ทัศนคติและมคี วามเหมาะสมในดา้ นต่างๆ เข้ามารว่ มงานกบั องค์การ บริษทั อนิ เด็ก ครเี อทีฟวลิ เลจ น้ันมกี าร คดั เลอื กดังนี้บริษัทอินเด็ก ครีเอทฟี วิลเลจ มีมาตรฐานการคัดเลือกที่เป็นมาตรฐานในการคดั เลือกรอบแรกคอื คัดเลือกจากคุณสมบัติเบื้องต้น คือ เลือกจากคะแนนการเรยี นคะแนนภาษาองั กฤษและหลังจากน้นั เน้นการ สัมภาษณ์เพ่ือหาคนทมี่ ีความเหมาะสมกับวัฒนธรรมการทำงาน 3.4 มนุษยสัมพนั ธแ์ ละการตดิ ต่อสอ่ื สารในองคก์ ร บริษทั เน้นเร่ืองการสรา้ งมนษุ ยสมั พันธม์ ากโดยเนน้ ไปทกี่ ารสนใจในตวั บุคคลอื่น การย้ิมแย้มแจ่มใสอยู่ เสมอบคุ คลท่จี ะเปน็ ทป่ี ระทับใจแก่ผู้พบเหน็ มากท่ีสุด และนานที่สุดก็คอื บุคคลทีม่ ีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสอย่เู สมอ การเป็นผูฟ้ งั ทีด่ ี การทำงานทุกอยา่ งยอ่ มมอี ุปสรรคท้งั สิน้ แต่ถ้าหากว่าพวกเราทุกคนร้จู กั สรา้ งความสมั พันธเ์ ชิงกล ยทุ ธใ์ นการปฏบิ ัตงิ าน และนำมาใชใ้ หเ้ ป็นประโยชน์แลว้ เรากจ็ ะสามารถทำงานไดอ้ ยา่ งราบรน่ื และมี ประสทิ ธิภาพยง่ิ ข้นึ นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณีศึกษาวิธคี ิดนโยบาย และวิธกี ารปฏบิ ตั ิของบริษทั อนิ เดก็ ซค์ รีเอทีฟวิลเลจ 4 3.5 การสร้างทมี การท้างานเปน็ ทมี มีความสำคัญในทกุ องค์กรการทำงานเปน็ ทีมเปน็ สิง่ จำเป็นสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของการบรหิ ารงาน มีข้ันตอนหลายข้ันตอนทนี่ ำมาใช้เพอ่ื ให้บรรลกุ ระบวนการ ดงั นี้ 1. สรา้ งทมี ยอ่ ยๆ ขน้ึ มาในการสร้างทีมต้องมนี ักคดิ นกั จัดองคก์ ร นักปฏบิ ัตกิ ารและอืน่ ๆ ซงึ่ จะสนบั สนุน ซึง่ กันและกนั และตรวจสอบกันเองเปน็ ไปตามความเหมาะสม 2. เห็นชอบในเป้าหมายสมาชกิ ทกุ คนรู้วา่ งานของตนคืออะไร มาตรฐานและเป้าหมายคอื อะไร และจะ กา้ วไปในทศิ ทางใด บคุ ลากรแต่ละหน่วยงานจะตอ้ งพยายามรวมกลมุ่ เขา้ ดว้ ยกันเพ่ือทำงานในหนา้ ท่อี ยา่ งดีทีส่ ุด และใหอ้ ยู่ในทีมเดียวกันสิ่งเหล่านจี้ ะกระตุ้นใหส้ มาชิกทุกคนจัดรูปงานของตนเขา้ กบั งานของคนอื่นๆ เพอ่ื ใหบ้ รรลุ เป้าหมายรวมอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพและทนั เวลา จะช่วยใหเ้ กิดการประสานงานและทำงานดว้ ยกนั อยา่ งสามคั คีกลม เกลยี ว 3. รักษาไว้ซึ่งการตดิ ตอ่ ส่อื สารท่ดี กี ารติดต่อสอื่ สารระหว่างทีมมคี วามสำคัญในการพฒั นาเพ่ือนำไปสู่การ เปน็ ทมี ทจี่ ะประสบความสำเรจ็ ในการทำงาน การติดต่อส่ือสารสองทางอย่างต่อเนอื่ งและผลที่ได้รับกลบั มาจะชว่ ย หยดุ การนนิ ทา ลดความสับสน ระงับปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและฟน้ื ฟูสัมพนั ธภาพโดยรวม นบั เป็นความ จำเป็นที่ทุกคนในองคก์ รจะต้องพดู จากบั คนอ่นื ๆ ท้งั ในการประชุมปกติท่เี ปน็ ทางการและอย่างไมเ่ ป็นทางการ เพ่ือ กา้ วไปขา้ งหนา้ ยอมรบั คำแนะนำตา่ งๆ รับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ ระหวา่ งกนั 3.6 การประเมินผลการปฏบิ ัติงาน การประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ าน (Performance Evaluation) ของบรษิ ทั อนิ เด็กซ์ครีเอทีฟวิลเลจเป็น แนวทางเพอื่ ใหบ้ ุคลากรปฏิบตั งิ านและประเมินผลการทำงานของบคุ ลากรวา่ เป็นไปตามวตั ถปุ ระสงคข์ องงาน หรือไมเ่ พยี งไร ตลอดจนสามารถนำมาใช้เป็นมาตรฐานท่เี ป็นรปู ธรรม (Objective Standard) ในการประเมนิ คุณภาพ ประสิทธิภาพ และผลติ ภาพในการท้างานของแตล่ ะบคุ ลากร โดยใชร้ ะบบการประเมนิ การปฏิบัติงานแบบ 360 องศา และมีการประเมนิ ทุก 1ปี 3.7 การฝกึ อบรมและการพัฒนา บรษิ ัทอนิ เด็กซ์ครีเอทีฟวลิ เลจเล็งเห็นการฝกึ อบรมและการพัฒนาบคุ ลากร(Training and Development) ปจั จุบนั การท่ีจะใหบ้ คุ ลากรในองคก์ ารสามารถปฏบิ ัตงิ านได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ตลอดจนมี คณุ ภาพชีวติ การทeงานทเ่ี หมาะสมองคก์ ารจะต้องฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนษุ ยอ์ ยา่ งตอ่ เน่ือง นับต้ังแต่ บุคลากรไดผ้ ่านกระบวนการคัดเลอื กเขา้ ร่วมงานกับองคก์ าร การฝึกอบรมและการพัฒนาจะเปน็ การเตรียมความ พร้อมสำหรับการปฏบิ ตั งิ านในปัจจุบนั และในอนาคต โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจบุ ันที่เกดิ การเปลี่ยนแปลงขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ ท้าให้ความรู้ ทักษะและประสบการณข์ องบคุ ลากรอาจล้าสมยั และไมส่ ามารถใช้ปฏบิ ัติงานไดอ้ ยา่ งมี นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขท่ี 30 sec.1

กรณศี กึ ษาวิธีคิดนโยบาย และวิธกี ารปฏบิ ตั ิของบริษทั อนิ เด็กซค์ รีเอทีฟวลิ เลจ 5 ประสทิ ธภิ าพ โดยนำการเรียนรจู้ ากการทำงาน (Work-based Learning) ซ่ึงการเรียนรแู้ บบน้ีเปน็ การจดั การเรียน การสอนท่ีส่งเสริมผู้เรยี นใหเ้ กิดพัฒนาการทกุ ด้านไมว่ ่าจะเป็นการเรียนรู้เนือ้ หาสาระ การฝึกปฏบิ ตั ิจริง ฝกึ ฝน ทกั ษะทางสังคม ทักษะชีวติ ทกั ษะวิชาชพี การพัฒนาทักษะการคดิ ขน้ั สงู โดยสถาบันการศึกษามักรว่ มมือกับแหลง่ งานในชุมชน รับผิดชอบการจดั การเรียนการสอนรว่ มกัน ต้ังแต่การกำหนดวตั ถุประสงค์ การกำหนดเนอ้ื หา กจิ กรรม และวิธีการประเมนิ 3.8 การจ่ายคา่ ตอบแทนอย่างเปน็ ธรรม ในปัจจุบันนน้ั การจ่ายคา่ ตอบแทนขององค์กรในลักษณะของเงินเดอื นท่ีเพียงพอกับค่าใชจ้ า่ ยในครอบครัว ซึ่งเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจบุ ัน โดยมีความเหมาะสมกับความรู้ ความสามารถ ปริมาณงานที่รบั ผดิ ชอบ ของแตล่ ะบคุ คลมีสวัสดกิ ารเท่าเทียมกบั ขา้ ราชการ หน่วยงานอืน่ ๆ และมคี วามเป็นธรรมในการเลอื่ นข้นั เงนิ เดือน การกำหนดคา่ ตอบแทน (Compensation) ข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการวิเคราะหง์ านสามารถนำมาใชป้ ระกอบในการ ประเมินค่างานได้ โดยการนำงานตา่ งๆ ทท่ี ำการศึกษาจากทงั้ ภายในและภายนอกองคก์ ารมาหาค่าเปรียบเทยี บ (Relative Value) และจดั เรียงลา้ ดบั ตามความส้าคญั ของแตล่ ะงานเพอ่ื ท่จี ะนำมาใช้เปน็ มาตรฐานและสร้างความ เป็นธรรมในการกำหนดคา่ จ้างและผลตอบแทนให้แกส่ มาชกิ ทุกคนในองค์การ ตามหลักการทว่ี า่ “จ่ายเทา่ กัน สำหรบั งานทีเ่ ท่ากนั (Equal Work, Equal Pay)” 3.9 การบำรงุ รักษาสุขภาพอนามยั และความปลอดภยั การจดั บุคลากรในหน่วยบริการสขุ ภาพทางบริษทั มีจัดให้เพียงพอต่อการดำเนนิ การ บรษิ ัทจัดให้มีปฐม พยาบาลและรกั ษาในกรณรี บี ดว่ น และกรณีเกิดอุบัตเิ หตุจดั ส่งไปรักษาตอ่ ได้ตรวจสุขภาพตามกฎหมายเก็บ รวบรวมสถิติ รายงานต่างๆ เกี่ยวกับสขุ ภาพอนามัยของพนักงานการจัดสวัสดกิ ารด้านการรักษาพยาบาลกบั บริษัท ประกันชวี ติ รวมท้ังการรกั ษาฟนั ห้องรกั ษาพยาบาล ปัจจัยต่างๆเหลา่ น้ีจึงชว่ ยลดความกงั วลท่ีจะเกิดขึน้ กบั พนกั งานดงั นนั้ พนกั งานจงึ สามารถใช้เวลาไปคดิ ในการพฒั นางานได้ 4. การสนบั สนุนของผู้บริหาร องค์กรมีความมงุ่ มน่ั ทีจ่ ะก้าวหนา้ พนกั งานมีความท่มุ เทหรือตั้งใจในการทำงานเป็นอย่างดี แต่ขาดการ สนับสนุนจากผบู้ รหิ ารหรือผู้บริหารไมม่ วี ิสัยทศั น์ทด่ี ี องค์กรก็ไม่สามารถขับเคล่ือนไปไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ซ่ึง ความสำคัญของการสนับสนุนของผ้บู รหิ ารนน้ั ยงั เปน็ ไปตาม Kuczmarski (อา้ งใน กีรติ ยศย่ิงยง,2552: 61) ได้ อธบิ ายว่า องค์ประกอบที่สำคัญขององค์กรนวัตกรรมประกอบด้วยผ้บู ริหารมที ศั นคติที่ดแี ละสนบั สนนุ และ ผบู้ รหิ ารดา้ นนวัตกรรม มีความมุง่ มัน่ ทมุ่ เทในการสร้างนวัตกรรม ซงึ่ Stamm (อ้างใน กรี ติ ยศยงิ่ ยง, 2552: 63) ยังกลา่ ววา่ รปู แบบผนู้ ำ ผนู้ ำองค์การต้องสนับสนนุ และส่งเสรมิ นวัตกรรม มีความท่มุ เทมุ่งม่ันดว้ ยใจจรงิ ในการ นางสาวกฤษณภรณ์ กตุ ระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณีศกึ ษาวิธีคิดนโยบาย และวธิ กี ารปฏิบัติของบรษิ ัท อินเด็กซ์ครเี อทีฟวลิ เลจ 6 พฒั นาสงิ่ แวดล้อมทส่ี ่งเสรมิ ใหก้ ล้าทดลอง ค้นหาและรว่ มมือ อดทนกับความลม้ เหลว ผ้นู ำลกั ษณะน้อี ยู่ในทุก ระดับขององคก์ าร โดยเริม่ ท่ผี นู้ ำระดบั สงู ขององคก์ ารก่อน 5. การส่ือสารภายในและภายนอกองคก์ ร เป้าหมายของการตดิ ต่อส่อื สารภายในองคก์ ร เปน็ ท่ยี อมรับกันโดยทัว่ ไปแล้ววา่ การบรหิ ารจะบรรลุผล สำเรจ็ ตามเป้าหมายได้ ก็โดยอาศัยการตดิ ตอ่ สือ่ สาร ทุกคนในองคก์ รจะมีความสัมพนั ธภาพระหวา่ งกัน ซ่ึงอาจจะ เป็นสมั พนั ธภาพระหวา่ งบคุ คลสองคน หรอื บุคคลกบั กลุม่ หรอื กลมุ่ กับกลมุ่ ก็ได้ การตดิ ต่อส่อื สารจะช่วยให้ทุก คนทำงานรว่ มกันได้ เป็นท่เี หน็ ได้ชัดว่า จดุ ประสงค์ประการหนง่ึ ของการติดต่อส่อื สารคอื การใหข้ า่ วสาร ข้อมลู และพฒั นาใหเ้ กิดความเข้าใจที่จำเปน็ เพ่ือทำใหเ้ กดิ พลงั กลุม่ นอกจากน้ันยังมจี ดุ ประสงค์ท่ีจะสร้างทัศนคติที่ จำเป็นเพอ่ื จะไดจ้ งู ใจให้ทำงานมากขึ้น มีความร่วมมือในการทำงานเปน็ ทีมไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพและประสิทธผิ ล การส่ือสารสองทาง (Two-way Communication) คือทางองคก์ รเนน้ ทจี่ ะรับฟงั ความคดิ เหน็ ของพนักงานทุก ระดบั ใหส้ ามารถแสดงความคดิ เห็นด้วย 6. บรรยากาศในงาน บริษทั อินเด็กซค์ รเี อทฟี วิลเลจเนน้ การท้า 5 ส มาเปน็ แนวคดิ การจัดระเบียบเรยี บร้อยในทีท่ ำงาน เพอื่ ก่อใหเ้ กิดสภาพการทำงานท่ดี ี ปลอดภัย มรี ะเบยี บ เรยี บร้อย นำไปสกู่ ารเพ่มิ การคิดสร้างสรรค์ ซึง่ จะทำให้ พนกั งานจะทำงานได้รวดเรว็ ข้นึ มคี วามปลอดภัยในการทำงานมากขน้ึ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมดีขึน้ ความ รว่ มมือ รว่ มใจ จะถกู สร้างใหเ้ กดิ ขึน้ พนกั งานจะรกั หน่วยงานมากขน้ึ พนกั งานจะมรี ะเบียบวินยั มากขึน้ ตระหนักถงึ ผลเสยี ของความไม่เป็นระเบียบในสถานท่ีทำงาน ต่อการเพิ่มผลผลิต และถกู กระตนุ้ ใหป้ รับปรุงระดับความสะอาด ของสถานท่ที ำงานให้ดีขนึ้ พนักงานปฏิบัติตามกฎระเบียบ คูม่ อื ความปลอดภัย และค่มู อื ปฏิบตั งิ าน พนักงานจะมี จิตสำนึกของการปรบั ปรุง ซ่งึ จะนำไปสปู่ ระสิทธิภาพและประสทิ ธผิ ลในการทำงานการไหลเวยี นของวสั ดุ และ work in process จะราบรน่ื ข้นึ สถานทที่ ำงานสะอาด ชว่ ยให้อตั ราของเสียลดลงและเห็นปัญหาเร่ืองคณุ ภาพได้ ชดั เจน 7. องคก์ รแหง่ การเรยี นร/ู้ ความรู้ จากวจิ ยั มกี ารรกั ษาความรู้และความทา้ ทายเอาไว้ โดยการรักษาและสร้างความผกู พนั ของพนักงานให้ เกิดข้ึน องคก์ ารจะต้องสร้างใหเ้ กดิ “ทีมรว่ มสายงาน” เพ่ือใหเ้ กดิ ความหลากหลายทางดา้ นความคิด ความสามารถ ทักษะ ความเชย่ี วชาญและประสบการณ์การท้างาน ขณะเดยี วกนั องค์การตอ้ งมีวฒั นธรรมท่ีเปน็ นางสาวกฤษณภรณ์ กตุ ระแสง เลขท่ี 30 sec.1

กรณีศกึ ษาวธิ คี ิดนโยบาย และวิธกี ารปฏบิ ัตขิ องบริษทั อนิ เด็กซค์ รีเอทีฟวลิ เลจ 7 ค่านิยมร่วมท่ีเน้นความสำเรจ็ ในการทำงาน และการสนับสนนุ ซง่ึ กนั และกนั รวมไปถึงการมีกฎระเบยี บภายใน โครงสรา้ งทส่ี อดคล้องเป็นเหตเุ ปน็ ผลการมีผู้นำที่กล้าเส่ียงและสามารถสรา้ งแรงจูงใจให้กบั ทีมงาน เม่อื องคก์ ารมี วฒั นธรรมทเี่ หมาะสมแล้ว กจ็ ะทำให้เกิดพฤตกิ รรมนวัตกรรมและผลงานทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ 8. การมอบหมายงาน 1. มีการกา้ หนดลักษณะงานทีเ่ ฉพาะเจาะจงในการมอบหมาย ซึ่งใชห้ ลกั ทเ่ี รียกวา่ “SMARTER” มาใช้ได้ โดยงานท่จี ะมอบหมายควรมีคุณสมบัติ ดงั นี้ • Specific: เฉพาะเจาะจง มกี ารระบุขอบเขตการทำงานท่ีชัดเจน • Measurable: วดั ผลได้ โดยมกี ารกา้ หนดตวั ช้วี ัดความคืบหนา้ หรือความสำเรจ็ ของงานได้ • Agreed: ยอมรบั งานท่ีจะมอบหมายน้นั ควรไดร้ ับการยอมรบั จากผ้รู ับมอบหมาย • Realistic: เปน็ งานทสี่ ามารถบรรลุผลได้จรงิ ในทางปฏบิ ัติ ไม่ใช่งานทีย่ ากเกินที่จะทำได้ • Time bound: มีการกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนในการทำ • Ethical: ต้องเปน็ งานทถี่ ูกตอ้ งตามหลกั จริยธรรม ศีลธรรม • Recorded: สามารถบนั ทึกรวบรวมขอ้ มลู ในการทา้ งานไดอ้ ยา่ งชัดเจนและเป็นระบบ 2. การระบถุ ึงประสบการณ์ ความรู้ และทักษะต่างๆ ท่ีจำเป็น 3. คำนึงถึงวธิ กี ารหรือแนวทางที่จะทำใหก้ ารทำงานเกดิ ผลลพั ธต์ ามต้องการ 4. ภาระงานทผ่ี ู้รบั มอบหมายมีอยใู่ นปจั จุบัน เพื่อใหส้ ามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภิ าพ 5. ระยะเวลาและกำหนดแลว้ เสร็จของงานที่ต้องการ 6. จัดเตรียมทรพั ยากรทจ่ี ำเป็นเพื่อใหง้ านสำเร็จ 7. ความคาดหวังหรอื เปา้ หมายของงาน 8. บทบาทหน้าที่ของผู้มอบหมายงาน เพ่ือช่วยในการสนับสนุนเพือ่ ใหง้ านสำเรจ็ ลุล่วงองคก์ รจะตอ้ งใชค้ น หรือมอบหมายงานใหเ้ หมาะกบั ลกั ษณะของแต่ละบุคคลโดยมีความพอดี เพอ่ื ให้เกิดความพึงพอใจในการทำงาน และช่วยใหพ้ นกั งานผู้นั้นสามารถปฏบิ ัติงานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพเกิดประโยชน์ต่อองคก์ รใหไ้ ดม้ ากท่สี ุด 9. การใหอ้ ำนาจ บรษิ ัทอินเดก็ ซค์ รีเอทีฟวลิ เลจได้มีการให้อำนาจในการปฏิบตั งิ านคือ 1. เคารพการตัดสินใจคือใหอ้ ำนาจตัดสินใจกบั พนกั งาน นางสาวกฤษณภรณ์ กตุ ระแสง เลขท่ี 30 sec.1

กรณศี กึ ษาวิธีคิดนโยบาย และวิธีการปฏบิ ัติของบรษิ ทั อินเดก็ ซค์ รเี อทีฟวิลเลจ 8 2. ใชก้ ารระดมสมอง (Brainstorming) ซึง่ การระดมสมองเปน็ เทคนิคที่สนบั สนุนใหแ้ สดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ปญั หา โดยไมม่ กี ารประเมินวา่ ความคิดเห็นของใครวา่ ดหี รือไมด่ ี ความคิดเหน็ ของทุกคนจะถูกรวบรวม และนำเสนอใหส้ มาชิกทุกคนไดท้ ราบ พรอ้ มท้งั สนบั สนนุ ใหส้ มาชกิ เสนอความคิดเหน็ ตอ่ เติมหรือเสรมิ ของกันและ กนั ได้ การระดมสมองถือว่าเปน็ วิธีแรกทีเ่ ป็นเคร่อื งมือทลี่ ดการขดั ขวาง และสนบั สนุนการแสดงความคิดเห็นของ สมาชกิ โดยการไมม่ ีการประเมนิ ความคิดเห็นท่แี สดงของสมาชิก ลดการมีอทิ ธพิ ลของสมาชกิ คนใดคนหนงึ่ โดย การมีวธิ ีสนับสนนุ ให้สมาชกิ ทกุ คนไดม้ ี โอกาสตอบให้ความคดิ เหน็ ของสมาชิกคนอืน่ อยา่ งส้นั ๆ นอกจากน้นั ยัง สง่ เสริมการสร้างสรรคค์ วามคดิ เห็นและบรรยากาศของการยอมรับสำหรับความคิดเห็นทุกชนิด การระดมสมอง เปน็ สว่ นหนึ่งท่ีจะสรา้ งความสำเรจ็ ได้ ในการท่จี ะปรับปรงุ การแสดงความคิดเห็น โดยการเปรยี บเทียบกับการ แก้ปญั หาโดยกลุ่ม ในลักษณะธรรมดาทว่ั ๆ ไป อย่างไรกต็ ามการขัดขวางการแสดงความคิดเห็นของการระดม สมองจะเกิดขึ้นได้ ถ้าการเสนอหรือรเิ ร่มิ ความคิดเหน็ เปน็ การผจญหน้าระหว่างกนั และกนั ดว้ ยอารมณ์ 3. เลอื กคนทเ่ี หมาะสมกับงานและตำแหน่ง แนวทางการบรหิ ารบคุ ลากรเชิงสรา้ งสรรค์เพือ่ ใหเ้ กิดอุตสาหกรรมเชงิ สรา้ งสรรค์เปน็ แนวคิดการพัฒนา เศรษฐกิจที่อาศยั ทักษะและความสามารถของบุคคลในการผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรม คุณค่าเชิงสัญลกั ษณ์ ทางสุนทรียศาสตร์ การจัดการสมยั ใหม่ และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยเี ข้าดว้ ยกัน ทำให้เกดิ เปน็ ธุรกิจหรือ อุตสาหกรรมทสี่ รา้ งสรรคม์ ูลค่า (value creation) และมคี วามโดดเดน่ เฉพาะตัว (uniqueness) นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขท่ี 30 sec.1

กรณศี ึกษาวิธคี ิดนโยบาย และวิธกี ารปฏบิ ัติของบริษัท อินเดก็ ซค์ รีเอทีฟวลิ เลจ 9 ภาพประกอบ นายเกรียงไกร กาญจนะโภคนิ ผ้กู ่อตงั้ บรษิ ทั อนิ เด็กซ์ ครีเอที ฟวิลเลจ จำกัด (มหาชน) แนวความคดิ ในการบรหิ ารของผู้บรหิ ารบริษทั อินเดก็ ซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณศี กึ ษาวิธีคิดนโยบาย และวธิ ีการปฏิบัตขิ องบริษทั อนิ เดก็ ซค์ รเี อทีฟวลิ เลจ 10 ภาพถ่ายออฟฟิศ บรษิ ทั อนิ เด็กซ์ ครเี อทฟี วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ภาพถา่ ยออฟฟิศ บริษทั อินเด็กซ์ ครเี อทฟี วิลเลจ จำกดั (มหาชน) นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขที่ 30 sec.1

กรณศี ึกษาวธิ ีคิดนโยบาย และวธิ กี ารปฏบิ ัตขิ องบรษิ ัท อนิ เด็กซ์ครเี อทีฟวิลเลจ 11 บรษิ ทั อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกดั (มหาชน) จดั กิจกรรมเพือ่ รบั สมคั รนิสิตนกั ศกึ ษาฝกึ งาน การอบรมเพื่อพัฒนาบคุ ลกากรของบรษิ ัท อนิ เดก็ ซ์ ครเี อทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) นางสาวกฤษณภรณ์ กุตระแสง เลขท่ี 30 sec.1