ความสาคัญของการดแู ลรกั ษาเสอ้ื ผ้า หลักการดแู ลรักษาเสื้อผา้ สญั ลักษณ์ในการดแู ลรกั ษาเสือ้ ผา้ การขจัดรอยเปื้อน / การซักผ้า การตากผา้ / การรดี ผ้า / การจัดเกบ็ เสื้อผา้
การสวมใส่เสอ้ื ผา้ ที่สะอาด มสี ว่ นชว่ ยในการเสรมิ สร้าง บคุ ลกิ ภาพใหแ้ ก่ตนเองไดอ้ ย่างไร
ความสาคญั ของการดแู ลรกั ษาเสือ้ ผา้ ถนอมเน้ือผา้ ให้คงทน ประหยัดคา่ ใชจ้ ่ายในครอบครวั ไมเ่ สือ่ มสภาพง่าย มอี ายุการใชง้ านยาวนาน ลดค่าใชจ้ ่ายท่ีไม่จาเปน็ มีเงินเกบ็ เพิม่ ข้ึน ไดส้ วมใสเ่ สอ้ื ผ้าท่สี ะอาด เกดิ ความมน่ั ใจในตนเอง ปราศจากคราบส่งิ สกปรก กลนิ่ ไม่เหมน็ เกดิ ความภาคภมู ใิ จทีไ่ ดด้ ูแลเส้ือผา้ ด้วยตนเอง ปลูกฝังลักษณะนสิ ยั ทดี่ ี ปอ้ งกันไม่ใหเ้ กิดโรคผิวหนัง เช่น การรักษาความสะอาด มีระเบยี บวนิ ัย เช่น ผิวหนังอกั เสบจากเช้อื รา กลาก เกลอื้ น
หลกั การดแู ลรกั ษาเส้อื ผา้ ระวังเปื้อนส่ิงสกปรก ซักถุงเทา้ ทุกครั้งหลงั ใส่ หรอื ถูกของมีคมเกยี่ วจนขาด เพ่อื ปอ้ งกันการเกดิ โรคผิวหนัง แขวนเสอ้ื ท่ีถอดแล้วกับไม้แขวนเสอ้ื ซ่อมแซมเส้ือผ้าทชี่ ารดุ หา้ มแขวนกบั ตะปู หรือตะขอ ใหเ้ รยี บรอ้ ย กอ่ นนามาซัก หากเสอื้ ผ้าเป้ือนสิง่ สกปรก พับ หรือแขวนเสอื้ ผ้าในตทู้ ่ีไม่มคี วามชน้ื ควรทาความสะอาดทนั ที เพื่อป้องกนั การเกิดเชื้อราและกล่นิ อับ แยกผา้ สีและผ้าขาวกอ่ นซัก ห้ามใสข่ องหนักในกระเปา๋ เสอ้ื หรือแยกตามความสกปรก เพราะอาจทาใหก้ ระเปา๋ เส้อื ฉกี ขาดได้ ผ่ึงเสอื้ ผา้ ทเ่ี ปียกเหงื่อใหแ้ หง้ ผา้ ทีซ่ กั สะอาดแลว้ ตอ้ งนาไปผงึ่ แดด ในทีล่ มโกรกก่อนใสล่ งในตะกร้า ใหแ้ หง้ สนทิ กอ่ นนาไปรดี
สัญลกั ษณใ์ นการดูแลรักษาเส้ือผา้ การซักแห้ง สามารถ หา้ มซกั แห้ง การซักผ้า ซกั ผา้ ด้วยเครอื ง ห้ามซักเครือง การรีดผ้า รีดในอณุ หภูมิ รดี ในอณุ หภมู ิ Dry-clean ส่งซักแหง้ ได้ เดด็ ขาด Wash ควรซกั ดว้ ยมอื เท่าน้ัน Iron ตา่ ปานกลาง ควรซักแห้งดว้ ยสาร ควรซักแห้งด้วยสาร ซกั ด้วยน้า่ อณุ หภมู ิ หา้ มซกั เด็ดขาด สามารถรดี ห้ามรดี ด้วยเตารีด ไฮโครคารบ์ อนโซเวนเท่านน้ั เตตระคลอโรเอทลิ ีนเทา่ นน้ั ในอุณหภมู สิ งู ได้ เดด็ ขาด 30 องศา หรือต่ากว่า แสดงวา่ เส้ือผา้ ช้นิ นซี้ ักไม่ได้ การอบ สามารถ อบแหง้ ได้ แต่ตอ้ ง การฟอก สามารถใชส้ าร สามารถใชส้ ารฟอกขาว Dry อบแหง้ ได้ อยใู่ นอณุ หภูมติ า่ Bleach ฟอกขาวได้ทกุ ชนดิ ทีมคี ลอรีนผสมได้ อบแห้งได้ แตต่ ้อง ห้ามอบแหง้ เดด็ ขาด หา้ มใช้สารทมี คี ลอรีน ห้ามฟอกขาว อย่ใู นอณุ หภูมิปานกลาง เป็นองค์ประกอบ เดด็ ขาด
การขจดั รอยเปือ้ น สนิม นาผา้ ทเี่ ปือ้ นสนมิ บีบมะนาวลงไป นาไปซักให้สะอาดดว้ ยมอื มาชุบนา้ ให้เปียก บนรอยเป้อื นทงิ้ ไวส้ ักพกั หรอื เครื่องซกั ผ้า กาว ใชน้ ้าสม้ สายชเู ชด็ นาผ้าทเ่ี ปอ้ื นมาแช่ลงใน นาไปซักให้สะอาดดว้ ยมอื บริเวณท่เี กดิ รอยเปื้อน นา้ เยน็ ท้งิ ไวส้ ักพัก หรือเครื่องซักผ้า
การขจัดรอยเป้อื น ชอล์กเขยี นผ้า แช่ในนา้ สบอู่ อ่ น ๆ ขย้ตี ามแนว นาไปซักให้สะอาดด้วยมอื ผสมสารซกั ฟอก รอยเปื้อน หรอื เคร่อื งซกั ผ้า คราบจากเตารีดไหม้ ผ่าครง่ึ หัวหอม ทงิ้ ไว้สักพัก แลว้ จงึ นาไปซักให้สะอาดดว้ ยมือ นาไปถบู รเิ วณท่ีเป้อื น ลา้ งด้วยน้าสะอาด หรอื เคร่อื งซกั ผา้
1 กอ่ นซกั การซกั ผ้า 3 แชผ่ ้า 2 คัดแยก น่าสงิ ของ หรอื วัสดุตา่ งๆ ทีอยูใ่ นกระเป๋าเสือ้ แยกผา้ ขาวและผ้าสีออกจากกนั จากน้ันแยกถุงเท้า ใชน้ ่้าเปล่าผสมสารซักฟอก แช่ผ้าทง้ิ ไว้ 15-20 นาที หรอื กระเปา๋ กางเกงออกใหห้ มด เส้อื ชั้นใน กางเกงชน้ั ในออก แลว้ จงึ แยกซัก เพอื รอใหน้ า้่ ผสมสารซักฟอกซึมเข้าในเนอ้ื ผ้า หากพบวา่ ชา่ รุดให้รีบซอ่ มแซมก่อนนา่ ไปซกั ตามประเภทของผา้ หา้ มน่ามาซักรวมกนั และใยผ้า เพือคายความสกปรกออกมา 4 ขย้ี หรือแปรงผา้ 5 วธิ กี ารซัก : การซกั ด้วยมือ การซกั ด้วยเคร่ืองซกั ผ้า ขย้ี หรอื แปรงผา้ ให้ทวั ในบรเิ วณทสี กปรกมาก เชน่ • แปรงผา้ ในบริเวณทมี คี ราบสกปรกมาก ๆ • ใส่สารซกั ฟอก เปิดเครอื ง เลอื กโปรแกรมการซกั ปกคอเสอื้ โดยใช้สบขู่ จัดคราบ หรือน้า่ ยาขจดั คราบ • แชผ่ า้ ทิ้งไวน้ าน 15-20 นาที จากน้ันจงึ น่า • หากผ้าทีซักสกปรกมาก ให้ต้ังโปรแกรมแช่ผ้า ทา แล้วขยี้ หรอื แปรงจนสะอาด ไปซกั ตามปกติ ทิ้งไว้ จะชว่ ยใหผ้ า้ สะอาดมากยงิ ขน้ึ
เลอื กสารซกั ฟอกอย่างไรใหเ้ หมาะกบั การซกั ผา้ เสน้ ใยผา้ สีของสารซกั ฟอก สังเกตข้อมลู ต่างๆ ทีระบุบนบรรจุภัณฑ์ เชน่ เลอื กทมี ีสอี อ่ น เช่น ขาว หากมีสอี นื ผสมอยู่ หากใชซ้ ักผา้ ขาว บนบรรจุภณั ฑ์ เมือละลายสารซักฟอกไมห่ มด เม็ดสีทผี สมอยู่ จะระบุวา่ “สาหรับผา้ ขาว” จะทา่ ใหผ้ า้ เกดิ รอยคราบสนี ั้น ๆ วธิ ซี ัก เคร่ืองซกั ผา้ เลอื กจากวิธซี กั โดยสงั เกตบนบรรจภุ ัณฑ์ ดวู า่ ใช้เครอื งซกั ผา้ แบบใด หากใช้ฝาหนา้ ให้ เช่น รปู มือซกั ขอ้ ความระบุว่าเปน็ น่า้ ยาซกั สงั เกตบนบรรจภุ ัณฑ์ จะเป็นรปู เครอื งซักผา้ ด้วยมือ จะเหมาะสมกับการซักมอื ฝาหน้า คณุ สมบตั สิ ่าคญั คอื มฟี องนอ้ ย
เลอื กสารซักฟอกอยา่ งไรใหเ้ หมาะกบั การซกั ผ้า ส่วนประกอบ เม็ดสี ไม่มีการเจอื ปนของสารอืน ๆ ในผลิตภณั ฑ์ ไม่มสี ่วนผสมของเม็ดสี เช่น ฟา้ ส้ม เขยี ว เชน่ แป้ง ปนู ขาว ซังขา้ วโพดบด เพราะจะละลายนา้่ ไดช้ ้า เมอื สมั ผัสกับ แม้จะมรี าคาถูก แตจ่ ะขาดคุณภาพ ผ้าสีออ่ น อาจท่าให้ผ้าเกดิ รอยดา่ งได้ง่าย น้ายาซักผ้า กลิน่ เป็นสารซักฟอกชนดิ หนึงทสี ะดวกต่อการ ควรเลอื กใชแ้ บบไมม่ กี ลิน เพราะกลินของ ใชง้ าน ละลายนา่้ ไดง้ ่าย เมือน่าไปใช้ สารซกั ฟอกอาจตีกบั กลินของสารปรับผ้านมุ่ สารละลายจะซึมเข้าเส้นใยผ้าไดด้ กี ว่า หรือน้า่ หอมได้
การตากผา้ กอ่ นตาก บบี น้าออก (ซักดว้ ยมือ) ตากผ้าสี กลับผ้าทุกช้ิน กลับเอาด้านในออกด้านนอก บีบน้่าออกจากผ้าก่อนตากแทนการบิด จะ ควรตากในบริเวณทีโล่ง มีลมโกรก หรือมีลม จะช่วยป้องกันการเสือมสภาพของสีผ้า ช่วยให้ผ้าไม่เกิดรอยยับ หรือเกิดรอยยับน้อย พัดผ่าน แสงแดดร่าไร ไม่ควรตากบริเวณทีมี เพือไม่ให้สซี ดี จางจากความรอ้ นของแสงแดด เส้นใยไมเ่ สือมสภาพและไม่เสยี รปู ทรงไดง้ ่าย แสงแดดจดั เพราะจะทา่ ใหผ้ ้าสีซีดเร็ว
การตากผา้ ตากผ้าขาว ตากบนราวตากผ้า ใชไ้ ม้แขวนเส้อื ควรตากในบริเวณทีโล่ง มีลมโกรก หรือมีลม ควรตากในปริมาณทีเหมาะสม ไม่มากเกินไป ใช้มือจัดทรงของเส้ือผ้าให้เรียบ โดยดึงเบา ๆ เพือให้เกิดรอยยับน้อยทีสุด ไม่เสียรูปทรง พัดผ่าน แสงแดดร่าไร ไม่ควรตากแดดนาน เพราะผ้าจะไม่แห้ง แห้งช้า และเกิดกลินอับ และชว่ ยประหยดั เวลาในการรีด เกนิ ไป เพราะจะทา่ ให้ผา้ เปลียนเปน็ สีเหลอื ง กระจายผา้ ออกจากกัน ช่วยใหผ้ ้าแห้งเรว็ ขน้ึ
กลบั ผ้าทุกช้ินก่อนรีด การรีดผ้า ผา้ ชนดิ ใดรีดดา้ นในแลว้ ปรบั อณุ หภูมใิ หเ้ หมาะสมกับชนิด เรยี บถึงด้านนอก ใหร้ ีด การกลับผ้า ปรับอณุ หภูมิ ของผา้ เช่น ผา้ เนอ้ื หนา ดา้ นใน จะช่วยใหเ้ น้ือผา้ เตารีด ใหร้ ีดดว้ ยความรอ้ นสงู ผา้ เนอ้ื บางปานกลาง ไม่สกึ หรอ สีไม่ซีด ปอ้ งกัน ให้รดี ดว้ ยความรอ้ นปานกลาง การเกิดรอยมนั ตามแนวตะเขบ็ เตรียมอปุ กรณ์ เช่น เตารีด เสอ้ื ให้รดี ปก แขน บ่า ตัวเสือ้ ดา้ นหนา้ –หลัง กางเกงใหร้ ีด ทรี องรดี ไม้แขวนเสอื้ ขอบเอว ถงุ กระเปา๋ ขา รวมถงึ เสือ้ ผา้ ทีตอ้ งการ ก่อนรดี วิธกี ารรดี ตวั กางเกงดา้ นหน้า–หลัง พรมนา้่ แล้วม้วนท้ิงไว้ กระโปรงให้รดี ซับใน จะไดไ้ มเ่ สยี เวลาขณะรดี ขอบตะเข็บ ตวั กระโปรง ดา้ นหนา้ -หลงั
การเลือกเตารดี ใหเ้ หมาะสมกับผา้ ➢ เตารีดแหง้ เหมาะส่าหรับผ้าใยธรรมชาติทีต้องการความร้อนสูง เช่น ผ้าไหม ผา้ ฝา้ ย ➢ เตารีดไอน้า เหมาะส่าหรับผ้าใยสังเคราะห์และผ้าทีต้องการ การดแู ลเปน็ พเิ ศษ ➢ เตารีดแบบทับ เหมาะส่าหรับผ้าทีต้องการรีดในบริเวณกว้าง และตอ้ งการความรวดเร็วในการรดี เช่น ผ้าปทู นี อน ปลอกหมอน ➢ เครื่องพ่นผ้า เหมาะส่าหรับแต่งรอยยับของผ้า นิยมน่ามาใช้ กบั เสอ้ื สทู
การจดั เก็บเสื้อผ้า แยกสแี ละประเภท วิธกี ารแขวน การจัดเก็บ ❑ คัดแยกสี ไล่ระดับสี และคัดแยก ❑ แขวนเส้ือด้วยไม้แขวนเส้ือ พร้อมทั้งจัดทรง ❑ เก็บให้พ้นจากแสงแดด เพือป้องกันสีซีด ประเภทของเส้ือผา้ เสื้อให้เรยี บรอ้ ย จางและใยผ้าแหง้ กรอบ ❑ หากเป็นเส้ือผ้าทีไม่ต้องรีด ควรพับ ❑ แขวนกระโปรง โดยใช้ไม้หนีบหนีบทีขอบ ❑ ตู้เสื้อผ้าควรมีลักษณะปิดทึบ ซึงจะช่วย เก็บให้เรียบร้อย ❑ หากเป็นเส้ือผ้าทีจะต้องรีด เมือรีด กระโปรง หรอื ใชไ้ ม้แขวนส่าหรับกระโปรง ป้องกนั ฝุน่ ละอองไดด้ ี เสร็จใหเ้ ก็บใสต่ ้เู สือ้ ผา้ ใหเ้ รียบร้อย ❑ แขวนกางเกง พับไปกับไม้แขวนเส้ือ ห้ามใช้ ❑ ไม่แขวนเส้ือผ้าจนแน่นตู้ เพราะจะท่าให้ ไม้หนบี หนบี เพราะจะท่าใหเ้ กดิ รอยได้ เสื้อผา้ เสียรปู ทรงไดง้ ่าย
ตวั อย่าง : ผลติ ภัณฑ์ที่ใช้ในการดแู ลรกั ษาเส้อื ผ้า สารซักฟอก สารเพิม่ ความขาว ใชส้ า่ หรบั ซกั ผ้า ท่าความสะอาดผา้ ใช้เพมิ ความสดใสใหก้ บั ผ้า ส่วนมาก มีท้ังชนดิ ผงและชนดิ นา่้ สารชนดิ นจี้ ะถกู ผสมอยูใ่ นสารซักฟอก สารปรับผ้านมุ่ สารตกแตง่ ผา้ ใหแ้ ขง็ ใชเ้ คลือบผา้ เพอื ลดความกระด้าง ใช้กบั ผา้ ทีต้องการความคงรปู เชน่ และลดการดูดซมึ ของน่้า ผา้ ฝา้ ย ผา้ ไหม สารฆา่ เชอื้ โรค สารกาจัดรอยเป้ือน ใช้ทา่ ความสะอาดเส้ือผา้ มีหลายชนิด ใช้กา่ จัดรอยเป้ือน ต้องใชอ้ ย่าง เชน่ นา่้ มนั สน สารฟอกขาว คลอรนี ระมัดระวงั เพราะอาจท่าลายเนือ้ ผ้าได้
ให้นักเรียนบอกหลักการดแู ลรักษาเสอื้ ผา้ มาอยา่ งละเอียด .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. .................................................................................................................................. ..................................................................................................................................
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: