Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลยแบบฝึกหัด ม.3

เฉลยแบบฝึกหัด ม.3

Published by Thanyarat Chaiprasertsiri, 2021-09-29 07:53:44

Description: เฉลยแบบฝึกหัด ม.3

Search

Read the Text Version

เฉลยแบบฝึ กหัด วชิ าการงานอาชีพ ม.3

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. การทำงานร่วมกันมีหลักในการทำงานอย่างไร 6. นำ้ ใสไมส่ ามารถทำงานเสร็จตามระยะเวลาทกี่ ำหนดได้ น้ำใสควร ก. รว่ มกันวางแผนการทำงาน เสรมิ สร้างทกั ษะการจดั การในเร่ืองใด ข. มงุ่ ทำแต่งานของตนเองเทา่ นั้น ก. การบริหารเวลา ค. เช่ือและม่ันใจในความคดิ ของตนเอง ข. การแกไ้ ขปัญหา ง. ทำงานโดยไม่คำนงึ ถงึ ระยะเวลาที่กำหนด ค. การคดิ วิเคราะห์ ง. การจดั การความรู้ 2. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งทำงานด้วยความมุ่งมัน่ และต้ังใจ ก. หวั หนา้ กลุ่มจะได้ชนื่ ชมและให้คำชมเชย 7. ข้อใดแสดงให้เหน็ วา่ มีคณุ ธรรมและจริยธรรมในการทำงาน ข. เม่ือทำงานอ่นื ตอ่ ไปจะได้ทำอย่างคล่องแคล่ว ก. พดู จาไมด่ ีกับเพ่อื นร่วมงานเพราะทำงานล่าช้า ค. งานจะได้บรรลุเป้าหมายและประสบผลสำเรจ็ ข. เม่อื ทำงานผิดพลาดก็ไม่ยอมรบั ข้อผิดพลาดน้นั ง. เพอ่ื นในกลุ่มจะได้เห็นความสามารถของตนเอง ค. เม่อื เกดิ ปัญหาขน้ึ ภายในกลมุ่ ก็จะช่วยกนั แก้ไขปญั หา ง. ปฏบิ ตั งิ านตามคำสั่งโดยไมส่ ามารถเสนอความคดิ เหน็ ได้ 3. หากต้องร่วมงานกับเพ่ือนกลุม่ ใหม่ท่ไี ม่เคยรจู้ กั กันมากอ่ น ควร เสรมิ สรา้ งทกั ษะการทำงานร่วมกันอย่างไร 8. บุคคลใดสามารถนำหลกั คุณธรรมและจรยิ ธรรมมาใช้ในการทำงาน ก. มีความซื่อสัตย์และเชอื่ ฟงั เพ่อื น ได้อยา่ งเหมาะสม ข. แสดงความสามารถของตนเองให้เพอ่ื นได้รบั รู้ ก. ปยุ้ ทำงานด้วยความม่งุ มั่น ต้ังใจ เพื่อหวังใหง้ านสำเรจ็ ดว้ ยดี ค. ทำงานแทนเพื่อน เพอ่ื เพื่อนจะได้สนิทกับเรามากข้ึน ข. ดาวซ้อื วัสดุ อุปกรณท์ ่ีต้องใชใ้ นการทำงานมาเปน็ จำนวนมาก ง. ศกึ ษาลักษณะนิสยั ของเพ่อื นและปรับตวั ใหเ้ ข้ากบั เพื่อน ค. น่นุ แสดงกริ ยิ าทา่ ทางทไ่ี ม่ดีตอ่ เพ่อื นร่วมงานเม่ือรสู้ กึ ไม่พอใจ ง. กุ๊กโกรธเพื่อนในกลุ่มทไี่ มส่ ามารถทำงานได้ตามเวลาที่กำหนด 4. การจัดการงานทดี่ ีเม่ือทำงานกลมุ่ ควรเริม่ ต้นจากสง่ิ ใด ก. วางแผนการทำงานรว่ มกนั 9. ขอ้ ใดเป็นการใช้ทรพั ยากรในการปฏิบัติงานอย่างคุ้มคา่ ข. แบง่ งานใหก้ ับสมาชกิ ในกลุม่ ก. ใช้กระดาษเพียงหนา้ เดียวแล้วทิง้ ค. ร่วมกนั แก้ไขปัญหาระหว่างการทำงาน ข. นำถงุ หิว้ พลาสติกมาใสเ่ อกสารสำคัญตา่ ง ๆ ง. โนม้ นา้ วใจให้สมาชกิ ในกลมุ่ มีกำลังใจในการทำงาน ค. ไม่เก็บวัสดุ อุปกรณเ์ ม่ือใชเ้ สรจ็ เรยี บร้อยแล้ว ง. ซอ่ มแซมเครอ่ื งมืองานช่างท่ีชำรุดให้นำกลบั มาใช้งานไดใ้ หม่ 5. เพราะเหตุใดจงึ ต้องมกี ารตดิ ตามผลการปฏิบัติงาน ก. เพราะจะไดเ้ ป็นไปตามหลักของการจดั การ 10. การวางแผนการใช้ทรัพยากรส่งผลดีต่อการทำงานอยา่ งไร ข. เพื่อนำผลการปฏบิ ัติงานไปรายงานให้กบั หวั หน้ากลุ่ม ก. ทำใหไ้ ม่ต้องสิน้ เปลอื งทรพั ยากร หรือลดการใช้ทรัพยากรลง ค. เพราะหวั หน้ากล่มุ จะได้วางแผนการทำงานไดอ้ ย่างถกู ต้อง ข. ทำให้ไม่ต้องมีทรพั ยากรคนเปน็ จำนวนมาก ง. เพ่ือจะได้รู้ว่าต้องปรับปรงุ แก้ไข หรอื พฒั นางานใหด้ ขี ้ึนอย่างไร ค. ทำให้ไมต่ ้องซอ้ื ทรัพยากรการผลติ เพิ่มข้นึ ง. ทำให้งานทที่ ำดูมีคณุ ค่ามากยิง่ ข้ึน เฉลย 1. ก. 2. ค. 3. ง. 4. ก. 5. ง. 6. ก. 7. ค. 8. ก. 9. ง. 10. ก.

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. เพราะเหตใุ ดจงึ ต้องมีการติดตามผลการปฏิบตั งิ าน 6. การวางแผนการใช้ทรพั ยากรส่งผลดตี อ่ การทำงานอย่างไร ก. เพราะจะไดเ้ ป็นไปตามหลกั ของการจดั การ ก. ทำใหไ้ มต่ ้องสน้ิ เปลืองทรัพยากร หรือลดการใช้ทรพั ยากรลง ข. เพอ่ื นำผลการปฏบิ ตั งิ านไปรายงานใหก้ ับหัวหนา้ กลมุ่ ข. ทำใหไ้ ม่ต้องมที รพั ยากรคนเปน็ จำนวนมาก ค. เพราะหวั หน้ากลมุ่ จะได้วางแผนการทำงานได้อย่างถกู ตอ้ ง ค. ทำให้ไมต่ อ้ งซอ้ื ทรัพยากรการผลติ เพมิ่ ข้นึ ง. เพอื่ จะไดร้ ูว้ า่ ต้องปรับปรงุ แกไ้ ข หรือพัฒนางานให้ดขี น้ึ อยา่ งไร ง. ทำใหง้ านท่ีทำดูมคี ณุ คา่ มากยิ่งข้ึน 2. การจัดการงานที่ดเี ม่ือทำงานกลุ่มควรเริม่ ต้นจากสงิ่ ใด 7. ข้อใดเป็นการใช้ทรัพยากรในการปฏิบตั งิ านอยา่ งคุ้มคา่ ก. วางแผนการทำงานร่วมกนั ก. ใช้กระดาษเพยี งหน้าเดียวแล้วท้ิง ข. แบง่ งานใหก้ บั สมาชิกในกลุ่ม ข. นำถงุ หว้ิ พลาสตกิ มาใสเ่ อกสารสำคัญตา่ ง ๆ ค. ร่วมกันแกไ้ ขปญั หาระหว่างการทำงาน ค. ไม่เก็บวัสดุ อุปกรณเ์ ม่อื ใชเ้ สร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว ง. โนม้ น้าวใจให้สมาชิกในกลุ่มมีกำลังใจในการทำงาน ง. ซอ่ มแซมเครอื่ งมืองานช่างทีช่ ำรดุ ใหน้ ำกลับมาใช้งานไดใ้ หม่ 3. หากตอ้ งรว่ มงานกับเพ่ือนกลมุ่ ใหมท่ ไี่ มเ่ คยรู้จกั กันมากอ่ น ควร 8. บุคคลใดสามารถนำหลักคณุ ธรรมและจริยธรรมมาใช้ในการทำงาน เสริมสร้างทกั ษะการทำงานรว่ มกันอยา่ งไร ได้อย่างเหมาะสม ก. มีความซื่อสัตย์และเช่ือฟังเพือ่ น ก. ปุ้ยทำงานดว้ ยความมุ่งมน่ั ต้ังใจ เพ่อื หวงั ใหง้ านสำเร็จดว้ ยดี ข. แสดงความสามารถของตนเองใหเ้ พอ่ื นได้รบั รู้ ข. ดาวซือ้ วสั ดุ อุปกรณ์ทตี่ ้องใชใ้ นการทำงานมาเป็นจำนวนมาก ค. ทำงานแทนเพ่อื น เพือ่ เพอ่ื นจะได้สนิทกบั เรามากข้ึน ค. นุ่นแสดงกิริยาทา่ ทางที่ไม่ดีตอ่ เพ่อื นรว่ มงานเมื่อรสู้ กึ ไม่พอใจ ง. ศึกษาลักษณะนสิ ยั ของเพอื่ นและปรบั ตวั ให้เข้ากับเพื่อน ง. กกุ๊ โกรธเพื่อนในกลุ่มทไี่ มส่ ามารถทำงานได้ตามเวลาท่ีกำหนด 4. เพราะเหตุใดจึงตอ้ งทำงานดว้ ยความมุ่งมนั่ และตัง้ ใจ 9. ข้อใดแสดงให้เหน็ ว่ามคี ณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการทำงาน ก. หัวหน้ากลุ่มจะไดช้ นื่ ชมและให้คำชมเชย ก. พดู จาไมด่ ีกับเพ่ือนรว่ มงานเพราะทำงานลา่ ชา้ ข. เม่ือทำงานอ่ืนตอ่ ไปจะได้ทำอยา่ งคลอ่ งแคล่ว ข. เมอื่ ทำงานผดิ พลาดก็ไมย่ อมรับข้อผดิ พลาดนัน้ ค. งานจะได้บรรลเุ ป้าหมายและประสบผลสำเร็จ ค. เม่ือเกิดปัญหาข้ึนภายในกลุ่มก็จะช่วยกันแกไ้ ขปญั หา ง. เพอ่ื นในกลุ่มจะได้เห็นความสามารถของตนเอง ง. ปฏบิ ตั ิงานตามคำสั่งโดยไม่สามารถเสนอความคดิ เห็นได้ 5. การทำงานรว่ มกันมหี ลกั ในการทำงานอย่างไร 10. น้ำใสไม่สามารถทำงานเสรจ็ ตามระยะเวลาที่กำหนดได้ น้ำใสควร ก. รว่ มกนั วางแผนการทำงาน เสริมสรา้ งทกั ษะการจดั การในเรือ่ งใด ข. ม่งุ ทำแตง่ านของตนเองเท่าน้นั ก. การบรหิ ารเวลา ค. เชอ่ื และม่นั ใจในความคิดของตนเอง ข. การแกไ้ ขปญั หา ง. ทำงานโดยไมค่ ำนึงถึงระยะเวลาท่ีกำหนด ค. การคิดวเิ คราะห์ ง. การจัดการความรู้ เฉลย 1. ก. 2. ก. 3. ง. 4. ค. 5. ง. 6. ก. 7. ง. 8. ก. 9. ค. 10. ก.

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 คำชี้แจง : ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การดูแลรกั ษาเสือ้ ผ้ามคี วามสำคญั มากทสี่ ดุ อย่างไร 6. หากกางเกงขาดเป็นช่องโหว่ นักเรียนจะซ่อมแซมดว้ ยวธิ ีใด ก. ไม่ต้องซื้อเส้ือผ้าใหมบ่ ่อย ๆ ก. การปะ ข. ถนอมเน้อื ผ้าให้มีอายกุ ารใช้งานยาวนาน ข. การเนา ค. ผูอ้ น่ื จะไดช้ ื่นชมเมอ่ื สวมใสเ่ สื้อผ้าทส่ี วยงาม ค. การสอย ง. ไมเ่ สยี เวลาในการตกแตง่ หรือดดั แปลงเสือ้ ผ้า ง. การเย็บตะเข็บ 2. ข้อใดคือวิธีการดูแลรกั ษาเสือ้ ผ้าอย่างถกู ตอ้ ง 7. ข้อใดไม่ใชว่ ธิ ีการตกแต่งเสือ้ ผา้ ก. ซกั ผา้ สแี ละผา้ ขาวรวมกัน ก. นำเสือ้ สีขาวมาปักเป็นลายดอกไม้หลากสสี ัน ข. เส้ือท่ีมรี อยเปอ้ื นโคลน ใหร้ บี นำไปซกั ทนั ที ข. นำผา้ เฉลียงมาเย็บมุมกระเปา๋ เพ่อื ให้เกิดลวดลาย ค. เส้ือท่ีเปยี กเหง่อื ควรผงึ่ ใหแ้ ห้งก่อนใสต่ ะกรา้ ค. นำเศษผ้ามาตัดเยบ็ เป็นสงิ่ ของเคร่ืองใช้ภายในบา้ น ง. แขวนเสอ้ื ในตทู้ ่ีมีความช้นื เม่อื สวมใสจ่ ะได้รู้สึกเย็น ง. นำผา้ หรอื วัสดุอื่นมาเย็บให้มลี วดลายบนกระเปา๋ กางเกง 3. หากต้องการใหเ้ ส้อื ผา้ มสี ีขาว ไม่ซีด ควรเลอื กใชผ้ ลติ ภณั ฑใ์ นการ 8. บุคคลใดควรดดั แปลงเส้อื ผ้าของตนเอง ดูแลรกั ษาเส้ือผ้าชนิดใด ก. นุ่นสอยชายกระโปรงที่หลุดลุ่ย ก. สารปรบั ผ้านมุ่ ข. จมุ๋ นำลูกปัดมาเยบ็ ตกแตง่ ที่ปกเสอื้ ข. สารฆา่ เชอื้ โรค ค. นพใส่เส้ือทพ่ี อดีมากเกินไป จงึ ทำใหร้ ู้สึกอึดอดั ค. สารเพ่มิ ความขาว ง. มดตัดเย็บผ้ากนั เป้อื นใหม่ เพราะผนื เกา่ สีเร่ิมซดี แลว้ ง. สารตกแตง่ ผา้ ใหแ้ ขง็ 9. ผู้ที่จะปฏบิ ัติการตัดเยบ็ ได้จะต้องมพี ้ืนฐานในเร่ืองใดกอ่ น 4. หลังจากสวมใสร่ องเท้าแลว้ ควรเก็บรกั ษาอย่างไร ก. มีงบประมาณเพียงพอมี ก. วางผงึ่ ไวก้ ่อน แลว้ นำเก็บเข้าตูร้ องเทา้ ข. มีความรู้เร่อื งการตัดเย็บข้ันพ้นื ฐาน ข. เกบ็ ใสต่ ู้รองเทา้ ทันที เพอ่ื ป้องกันรอยขีดข่วน ค. กำหนดระยะเวลาท่ีใช้ในการตดั เยบ็ ค. ซักให้สะอาดทุกครง้ั หลงั สวมใส่ เพือ่ ความสะอาด ง. มีอปุ กรณ์ท่ีเพียงพอ หรอื ครบถ้วนหรอื ไม่ ง. ใชแ้ ปรงปัดฝนุ่ และขดั ดว้ ยน้ำยาขัด กอ่ นเก็บเข้าตู้รองเทา้ 10. หากตอ้ งการตัดเยบ็ กล่องใสก่ ระดาษทชิ ชู สงิ่ แรกทีค่ วรปฏิบตั ิคือ 5. นำ้ ยาขดั เคร่ืองหนังเหมาะกับผลติ ภัณฑ์ในขอ้ ใด ขอ้ ใด ก. แว่นตาที่มีคราบมัน ก. สร้างแบบ ข. รองเทา้ ทีเ่ ลอะคราบโคลน ข. วางแบบตดั ค. เข็มขดั เงนิ ทมี่ ีคราบสกปรก ค. เลอื กชนิดของผ้า ง. กระเป๋าหนงั ที่ขาดความเงางาม ง. วัดขนาดของตัวกล่อง เฉลย 1. ข. 2. ค. 3. ค. 4. ก. 5. ง. 6. ก. 7. ค. 8. ค. 9. ข. 10. ง.

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. น้ำยาขดั เครื่องหนังเหมาะกับผลติ ภณั ฑใ์ นขอ้ ใด 6. หากต้องการตัดเย็บกล่องใสก่ ระดาษทิชชู ส่งิ แรกท่คี วรปฏบิ ัติคือ ก. แว่นตาที่มีคราบมัน ข้อใด ข. รองเทา้ ท่ีเลอะคราบโคลน ก. สรา้ งแบบ ค. เขม็ ขดั เงนิ ท่มี คี ราบสกปรก ข. วางแบบตดั ง. กระเปา๋ หนังทข่ี าดความเงางาม ค. เลือกชนิดของผา้ ง. วดั ขนาดของตัวกล่อง 2. หลงั จากสวมใส่รองเท้าแล้ว ควรเกบ็ รกั ษาอยา่ งไร ก. วางผ่ึงไวก้ ่อน แล้วนำเกบ็ เข้าตู้รองเทา้ 7. ผู้ที่จะปฏิบัตกิ ารตดั เยบ็ ไดจ้ ะต้องมีพ้ืนฐานในเรอ่ื งใดกอ่ น ข. เกบ็ ใสต่ ู้รองเทา้ ทันที เพอ่ื ป้องกันรอยขดี ข่วน ก. มงี บประมาณเพยี งพอมี ค. ซักให้สะอาดทกุ ครัง้ หลังสวมใส่ เพื่อความสะอาด ข. มีความรู้เรอ่ื งการตดั เย็บขั้นพนื้ ฐาน ง. ใช้แปรงปดั ฝ่นุ และขัดดว้ ยน้ำยาขดั ก่อนเกบ็ เขา้ ตู้รองเทา้ ค. กำหนดระยะเวลาที่ใช้ในการตัดเยบ็ ง. มีอุปกรณ์ทีเ่ พียงพอ หรือครบถ้วนหรือไม่ 3. หากต้องการให้เส้อื ผา้ มีสขี าว ไม่ซีด ควรเลอื กใช้ผลติ ภัณฑใ์ นการ ดูแลรักษาเสือ้ ผา้ ชนิดใด 8. บคุ คลใดควรดดั แปลงเสื้อผ้าของตนเอง ก. สารปรบั ผ้านมุ่ ก. น่นุ สอยชายกระโปรงที่หลดุ ลุย่ ข. สารฆ่าเชอ้ื โรค ข. จุม๋ นำลกู ปัดมาเยบ็ ตกแตง่ ท่ีปกเสื้อ ค. สารเพิม่ ความขาว ค. นพใส่เส้ือท่ีพอดีมากเกินไป จึงทำให้รู้สึกอึดอัด ง. สารตกแต่งผ้าให้แขง็ ง. มดตัดเยบ็ ผ้ากนั เป้อื นใหม่ เพราะผนื เกา่ สเี ริ่มซดี แลว้ 4. ขอ้ ใดคือวิธีการดแู ลรกั ษาเสอ้ื ผ้าอย่างถูกตอ้ ง 9. ขอ้ ใดไม่ใชว่ ิธีการตกแต่งเสือ้ ผ้า ก. ซกั ผา้ สีและผา้ ขาวรวมกนั ก. นำเสอ้ื สขี าวมาปักเปน็ ลายดอกไม้หลากสีสัน ข. เส้อื ท่ีมรี อยเปือ้ นโคลน ให้รบี นำไปซักทนั ที ข. นำผ้าเฉลียงมาเย็บมุมกระเปา๋ เพอื่ ใหเ้ กดิ ลวดลาย ค. เสื้อทเ่ี ปียกเหงอ่ื ควรผ่งึ ใหแ้ ห้งก่อนใส่ตะกร้า ค. นำเศษผา้ มาตัดเยบ็ เปน็ สง่ิ ของเคร่อื งใชภ้ ายในบ้าน ง. แขวนเส้ือในตู้ท่ีมคี วามช้นื เมื่อสวมใส่จะได้รู้สกึ เยน็ ง. นำผา้ หรอื วัสดุอนื่ มาเย็บให้มีลวดลายบนกระเป๋ากางเกง 5. การดูแลรักษาเสื้อผา้ มคี วามสำคญั มากท่สี ดุ อยา่ งไร 10. หากกางเกงขาดเปน็ ชอ่ งโหว่ นกั เรยี นจะซ่อมแซมด้วยวธิ ีใด ก. ไม่ต้องซอื้ เสอ้ื ผา้ ใหม่บ่อย ๆ ก. การปะ ข. ถนอมเน้อื ผ้าใหม้ อี ายุการใช้งานยาวนาน ข. การเนา ค. ผู้อ่ืนจะได้ชื่นชมเม่อื สวมใส่เส้ือผา้ ท่ีสวยงาม ค. การสอย ง. ไมเ่ สยี เวลาในการตกแตง่ หรอื ดดั แปลงเส้อื ผ้า ง. การเย็บตะเขบ็ เฉลย 1. ง. 2. ก. 3. ค. 4. ค. 5. ข. 6. ง. 7. ข. 8. ค. 9. ค. 10. ก.

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 คำชแ้ี จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. อาหารประเภทสำรับมคี วามสำคัญอย่างไร 6. ข้อใดคือวัตถุประสงค์หลกั ของการจัดและตกแต่งอาหารประเภท ก. สามารถนำไปขายใหก้ ับชาวต่างชาตไิ ด้ สำรบั ข. สะท้อนให้เห็นถงึ ภาวะเศรษฐกิจของไทย ก. เพอ่ื ให้ชาวต่างชาติรู้จกั อาหารไทยมากขนึ้ ค. สะดวกตอ่ การรบั ประทานเนอื่ งจากจัดไว้เปน็ ชุดใหแ้ ลว้ ข. เพื่อใหอ้ าหารมีความสวยงามและนา่ รับประทาน ง. ไดบ้ รโิ ภคอาหารท่ีหลากหลายและไดร้ ับสารอาหารครบถว้ น ค. เพื่อให้คนไทยเห็นคณุ คา่ ของอาหารประเภทสำรับ ง. เพ่ือให้ผบู้ ริโภครบั ประทานอาหารประเภทสำรบั มากขนึ้ 2. การเตรยี มและประกอบอาหารประเภทสำรบั ควรคำนึงถึงสิ่งใด มากทส่ี ุด 7. ข้อใดใช้หลักการจัดและตกแตง่ อาหารประเภทสำรับได้เหมาะสม ก. งบประมาณ ก. จัดจานอาหารใหม้ สี สี ันสวยงาม ข. ชนิดของอาหาร ข. จัดวางอาหารใหอ้ ยู่เป็นกลุ่มเดียวกนั ค. ฤดกู าลของอาหาร ค. ใช้วสั ดตุ กแตง่ อาหารทสี่ วยงามและมีราคาแพง ง. คณุ คา่ ทางโภชนาการ ง. จดั และตกแต่งอาหารตามความต้องการของผู้บรโิ ภค 3. อาหารคาวของไทยประกอบดว้ ยรสชาติหลกั ใดบา้ ง 8. การตกแตง่ อาหารใหม้ ีสว่ นใดส่วนหน่ึงเดน่ ขน้ึ เพ่ือใหส้ ะดุดตา เปน็ ก. เคม็ เปร้ยี ว มนั และจืด การนำหลกั การจัดองคป์ ระกอบศลิ ปเ์ ร่อื งใดมาใช้ ข. หวาน เคม็ เผ็ด และมนั ก. จงั หวะ ค. เคม็ หวาน เปร้ยี ว และเผด็ ข. ความสมดุล ง. หวาน เปร้ียว เผ็ด เค็ม และขม ค. ความกลมกลนื ง. การเน้น หรือจดุ สนใจ 4. การจดั รายการอาหารสำรบั ไทยแตล่ ะม้ือควรจัดอยา่ งไร ก. จดั อาหารที่ขึน้ ชื่อของแตล่ ะภูมิภาคของไทย 9. ขอ้ ใดไม่ใช่การเลือกภาชนะสำหรับบรรจอุ าหารทเ่ี หมาะสม ข. จดั อาหารที่คล้ายกันและมรี สชาตใิ กล้เคยี งกนั ก. เลือกท่เี หมือนกันท้ังชุด ค. จัดอาหารใหห้ ลากหลายและมรี สชาติแตกต่างกนั ข. เลือกลวดลายทเี่ หมอื นกนั ท้ังชดุ ง. จัดอาหารตามความพงึ พอใจของผ้ปู ระกอบอาหาร ค. เลือกท่มี ีสสี ันและลวดลายสวยงาม ง. เลือกทมี่ รี ูปทรงคลา้ ยกันและลวดลายแตกต่างกัน 5. ข้อใดเหมาะสมทจี่ ะเป็นอาหารม้ือเชา้ ก. ข้าวตม้ ไก่และนมสด 10. อาหารประเภทสำรับในข้อใดจัดรายการอาหารได้อยา่ งเหมาะสม ข. ยำเหด็ และมะละกอสกุ ก. ข้าวสวย แกงจืดฟัก แกงจดื เตา้ หู้ มนั ต้มขงิ ฝร่ัง ค. นมสดและนมถั่วเหลือง ข. ขนมจนี แกงไตปลา ผัดเปรี้ยวหวาน บวั ลอยไข่หวาน ชมพู่ ง. ขนมป้นั สิบและน้ำสม้ คัน้ ค. ข้าวเหนียว ปลาทอด ผดั คะนา้ หมกู รอบ เผือกกวน มะละกอ ง. ขา้ วสวย แกงเผด็ เปด็ ย่าง ผัดผักรวมกุง้ ลอดช่องนำ้ กะทิ แตงโม เฉลย 1. ง. 2. ง. 3. ค. 4. ค. 5. ก. 6. ข. 7. ก. 8. ง. 9. ง. 10. ง.

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 3 คำช้แี จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดเหมาะสมทจี่ ะเปน็ อาหารม้อื เช้า 6. อาหารประเภทสำรับในข้อใดจดั รายการอาหารได้อย่างเหมาะสม ก. ขา้ วตม้ ไกแ่ ละนมสด ก. ข้าวสวย แกงจดื ฟกั แกงจดื เต้าหู้ มันต้มขิง ฝร่ัง ข. ยำเหด็ และมะละกอสุก ข. ขนมจนี แกงไตปลา ผดั เปร้ียวหวาน บัวลอยไขห่ วาน ชมพู่ ค. นมสดและนมถ่ัวเหลือง ค. ขา้ วเหนยี ว ปลาทอด ผดั คะน้าหมูกรอบ เผอื กกวน มะละกอ ง. ขนมปั้นสบิ และน้ำส้มคั้น ง. ขา้ วสวย แกงเผด็ เป็ดย่าง ผัดผกั รวมกงุ้ ลอดช่องนำ้ กะทิ แตงโม 2. การจัดรายการอาหารสำรบั ไทยแตล่ ะม้อื ควรจัดอย่างไร 7. ขอ้ ใดไม่ใช่การเลอื กภาชนะสำหรับบรรจุอาหารท่เี หมาะสม ก. จัดอาหารท่ีขึน้ ช่ือของแต่ละภมู ภิ าคของไทย ก. เลือกที่เหมือนกนั ทั้งชุด ข. จัดอาหารที่คล้ายกนั และมีรสชาติใกลเ้ คียงกนั ข. เลอื กลวดลายที่เหมือนกนั ทั้งชุด ค. จดั อาหารใหห้ ลากหลายและมีรสชาตแิ ตกต่างกัน ค. เลือกทม่ี สี ีสันและลวดลายสวยงาม ง. จัดอาหารตามความพงึ พอใจของผู้ประกอบอาหาร ง. เลอื กทีม่ รี ูปทรงคลา้ ยกนั และลวดลายแตกต่างกัน 3. อาหารคาวของไทยประกอบดว้ ยรสชาติหลักใดบา้ ง 8. การตกแต่งอาหารใหม้ สี ่วนใดส่วนหนึ่งเด่นข้ึน เพือ่ ให้สะดุดตา เปน็ ก. เค็ม เปร้ียว มัน และจืด การนำหลกั การจดั องค์ประกอบศลิ ปเ์ ร่ืองใดมาใช้ ข. หวาน เค็ม เผด็ และมนั ก. จงั หวะ ค. เคม็ หวาน เปรยี้ ว และเผด็ ข. ความสมดุล ง. หวาน เปรี้ยว เผด็ เคม็ และขม ค. ความกลมกลืน ง. การเน้น หรือจุดสนใจ 4. การเตรียมและประกอบอาหารประเภทสำรบั ควรคำนงึ ถงึ ส่ิงใด มากทสี่ ดุ 9. ขอ้ ใดใช้หลกั การจัดและตกแตง่ อาหารประเภทสำรับไดเ้ หมาะสม ก. งบประมาณ ก. จดั จานอาหารให้มีสสี ันสวยงาม ข. ชนดิ ของอาหาร ข. จัดวางอาหารใหอ้ ยูเ่ ปน็ กลุ่มเดยี วกัน ค. ฤดกู าลของอาหาร ค. ใช้วสั ดตุ กแต่งอาหารที่สวยงามและมีราคาแพง ง. คณุ คา่ ทางโภชนาการ ง. จัดและตกแตง่ อาหารตามความต้องการของผบู้ ริโภค 5. อาหารประเภทสำรบั มีความสำคัญอย่างไร 10. ข้อใดคอื วตั ถุประสงคห์ ลกั ของการจัดและตกแต่งอาหารประเภท ก. สามารถนำไปขายให้กบั ชาวตา่ งชาตไิ ด้ สำรบั ข. สะท้อนใหเ้ ห็นถึงภาวะเศรษฐกจิ ของไทย ก. เพือ่ ใหช้ าวตา่ งชาตริ ู้จกั อาหารไทยมากข้นึ ค. สะดวกต่อการรับประทานเนื่องจากจัดไว้เปน็ ชดุ ให้แล้ว ข. เพอื่ ใหอ้ าหารมคี วามสวยงามและน่ารบั ประทาน ง. ได้บริโภคอาหารทีห่ ลากหลายและไดร้ ับสารอาหารครบถว้ น ค. เพือ่ ใหค้ นไทยเห็นคุณค่าของอาหารประเภทสำรบั ง. เพอื่ ให้ผ้บู ริโภครับประทานอาหารประเภทสำรับมากข้ึน เฉลย 1. ก. 2. ค. 3. ค. 4. ง. 5. ง. 6. ง. 7. ง. 8. ง. 9. ก. 10. ข.

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 คำชีแ้ จง : ใหน้ ักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. เพราะเหตุใดผู้ปฏิบัติงานช่างในบ้านจึงต้องมีความรู้ 6. ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติงานช่างในบ้านคือข้อใด ความเข้าใจเกี่ยวกับงานช่างแต่ละสาขา ก. นำไปประกอบเป็นอาชีพในอนาคต ก. ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อม ข. เกดิ ความปลอดภยั ในขณะปฏบิ ตั งิ าน ค. สามารถซ่อมแซมสิ่งของ เคร่ืองใช้ภายในบ้านได้ ข. เสริมสร้างลักษณะนิสัยเร่ืองความตระหน่ี ง. ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านงานช่างแต่ละสาขาไว้ด้วยกัน ค. เพิ่มการใช้ทรัพยากรท่ีมีอย่างจำกัด 2. ข้อใดจัดเปน็ จุดประสงค์สำคัญของการปฏิบัติงานช่างในบ้าน ก. ตอบสนองความตอ้ งการในการดำเนนิ กจิ กรรมใน ง. สรา้ งรายไดห้ ลกั ระหวา่ งเรยี น ชีวติ ประจำวัน ข. ช่วยลดรายจ่ายและสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว 7. หัวใจสำคัญของการติดต้ังและประกอบผลิตภัณฑ์คือส่ิงใด ค. เป็นรากฐานของการประกอบอาชีพที่สุจริต ง. เป็นพ้ืนฐานการศึกษาต่อในระดับสูง ก. ความนิยมของผู้คนในสังคม 3. บุคคลในข้อใดปฏิบัติงานช่างในบ้านได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ข. ความแปลกใหม่ของรูปทรง ก. นิวเลือกใช้อุปกรณ์ เคร่ืองมือช่างท่ีมีราคาแพง ข. นาววิเคราะห์ชิ้นงานหลังจากสร้างชิ้นงานสำเร็จแล้ว ค. ความแข็งแรงของอุปกรณ์ ค. เนยตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานเสมอ ทุกคร้ัง ง. ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ ง. น่มุ ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานใหแ้ ตกตา่ งไปจากแผนทว่ี างไว้ 8. “ผักบุ้งตรวจสอบความแข็งแรงของชั้นวางของที่ทำข้ึน” จาก 4. “โอ๊ตต้องการปูพ้ืนกระเบ้ืองห้องน้ำใหม่” จากข้อความน้ี โอ๊ต ต้องการปฏิบัติงานช่างในบ้านตามข้อใด ขอ้ ความนี้ เป็นกระบวนการปฏิบัติงานช่างในบ้านข้อใด ก. การติดตั้งผลิตภัณฑ์ ข. การซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ ก. การปฏบิ ัตงิ าน ข. การประเมินผล ค. การประกอบผลิตภัณฑ์ ง. การบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ ค. การวิเคราะห์งาน ง. การวางแผนการปฏิบัติงาน 5. ข้อใดไม่ใช่ส่ิงที่ควรคำนึงถึงในการปฏิบัติงานช่างในบ้าน 9. บุคคลในข้อใดติดต้ังและประกอบผลิตภัณฑ์เคร่ืองใช้ภายใน ก. ชว่ ยประหยัดเวลาในการทำงาน ข. ปรับปรุงให้แตกต่างไปจากที่วางแผนไว้ บ้านได้ถูกต้อง ค. มีความเช่ือม่ันในตนเองขณะปฏิบัติงาน ง. ใช้แรงงานในขณะปฏิบตั ิงานให้น้อยที่สุด ก. แก่นศกึ ษาข้ันตอนการตดิ ตั้งผลิตภัณฑ์ตามรูปแบบ ท่กี ำหนด แล้วจงึ ดัดแปลงใหมต่ ามความคดิ ของตนเอง ข. โก้ลงมือประกอบผลิตภณั ฑต์ ามความคาดเดาของตนเอง ค. ไก่วางแผนการติดต้ังผลิตภณั ฑ์ตามท่ีแก้วบอก ง. ก๊ิกศึกษาคมู่ อื การใชง้ านกอ่ นติดต้ังผลิตภณั ฑ์ 10. การปฏิบัติตนในขณะปฏิบัติงานช่างในบ้านข้อใดเกิดความ ปลอดภัยมากที่สุด ก. ตรวจสอบสภาพของอปุ กรณ์ เคร่อื งมอื ช่างก่อนใช้งาน ข. ทำความสะอาดสถานท่ปี ฏิบัติงานทงั้ ก่อนและหลัง ค. สวมผา้ ปิดจมูกทุกครั้ง เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ง. มสี มาธิและปฏบิ ัตงิ านดว้ ยความระมดั ระวงั เฉลย 1. ง. 2. ก. 3. ค. 4. ก. 5. ข. 6. ก. 7. ค. 8. ข. 9. ง. 10. ง.

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 คำชีแ้ จง : ใหน้ กั เรยี นเลือกคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. “โอต๊ ต้องการปูพื้นกระเบ้ืองห้องน้ำใหม่” จากข้อความน้ี โอ๊ต 6. หัวใจสำคัญของการติดตั้งและประกอบผลิตภัณฑ์คือส่ิงใด ต้องการปฏิบัติงานช่างในบ้านตามข้อใด ก. ความนิยมของผู้คนในสังคม ก. การติดตั้งผลิตภัณฑ์ ข. ความแปลกใหม่ของรูปทรง ข. การซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ ค. ความแข็งแรงของอุปกรณ์ ค. การประกอบผลิตภัณฑ์ ง. ความสวยงามของผลิตภัณฑ์ ง. การบำรุงรักษาผลิตภัณฑ์ 7. บุคคลในขอ้ ใดปฏิบัติงานช่างในบ้านได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2. การปฏิบัติตนในขณะปฏิบัติงานช่างในบ้านข้อใดเกิดความ ก. นิวเลือกใช้อุปกรณ์ เคร่ืองมือช่างท่ีมีราคาแพง ปลอดภัยมากที่สุด ข. นาววิเคราะห์ชิ้นงานหลังจากสร้างช้ินงานสำเร็จแล้ว ค. เนยตระหนักถึงความปลอดภัยในขณะปฏิบัติงานเสมอ ก. ตรวจสอบสภาพของอปุ กรณ์ เคร่อื งมอื ชา่ งก่อนใช้งาน ทุกคร้ัง ข. ทำความสะอาดสถานทปี่ ฏิบตั ิงานทั้งกอ่ นและหลัง ง. นุ่มปรับเปล่ยี นวิธกี ารทำงานให้แตกต่างไปจากแผนทวี่ างไว้ ค. สวมผ้าปิดจมกู ทกุ คร้งั เพือ่ ปอ้ งกันฝุ่นละออง 8. บุคคลในข้อใดติดต้ังและประกอบผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ภายใน ง. มสี มาธิและปฏบิ ัติงานดว้ ยความระมัดระวัง บ้านได้ถูกต้อง 3. ขอ้ ใดจัดเปน็ จุดประสงค์สำคัญของการปฏิบัติงานช่างในบ้าน ก. แกน่ ศกึ ษาข้ันตอนการตดิ ตงั้ ผลิตภณั ฑ์ตามรปู แบบ ก. ตอบสนองความต้องการในการดำเนินกจิ กรรมใน ที่กำหนด แล้วจงึ ดัดแปลงใหม่ตามความคดิ ของตนเอง ชวี ติ ประจำวนั ข. โกล้ งมอื ประกอบผลิตภณั ฑ์ตามความคาดเดาของตนเอง ข. ชว่ ยลดรายจ่ายและสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว ค. ไกว่ างแผนการตดิ ต้ังผลติ ภัณฑ์ตามทแี่ กว้ บอก ค. เป็นรากฐานของการประกอบอาชีพที่สุจริต ง. กกิ๊ ศกึ ษาคมู่ ือการใช้งานกอ่ นตดิ ตงั้ ผลติ ภัณฑ์ ง. เป็นพื้นฐานการศึกษาต่อในระดับสูง 9. เพราะเหตุใดผู้ปฏิบัติงานช่างในบ้านจึงต้องมีความรู้ 4. ข้อใดไม่ใช่ส่ิงที่ควรคำนึงถึงในการปฏิบัติงานช่างในบ้าน ความเข้าใจเกี่ยวกับงานช่างแต่ละสาขา ก. นำไปประกอบเป็นอาชีพในอนาคต ก. ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ข. เกดิ ความปลอดภัยในขณะปฏิบตั ิงาน ค. สามารถซ่อมแซมส่ิงของ เคร่ืองใช้ภายในบ้านได้ ข. ปรับปรุงให้แตกต่างไปจากท่ีวางแผนไว้ ง. ประยุกต์ใช้ความรู้ด้านงานช่างแต่ละสาขาไว้ด้วยกัน ค. มีความเช่ือม่ันในตนเองขณะปฏิบัติงาน 10. ประโยชน์ท่ีได้รับจากการปฏิบัติงานช่างในบ้านคือข้อใด ก. ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ง. ใชแ้ รงงานในขณะปฏบิ ัตงิ านใหน้ ้อยทสี่ ดุ ข. เสริมสร้างลักษณะนิสัยเรื่องความตระหน่ี ค. เพ่ิมการใช้ทรัพยากรที่มีอย่างจำกัด 5. “ผักบุ้งตรวจสอบความแข็งแรงของชั้นวางของท่ีทำข้ึน” จาก ง. สร้างรายไดห้ ลกั ระหวา่ งเรยี น ข้อความน้ี เป็นกระบวนการปฏิบัติงานช่างในบ้านข้อใด ก. การปฏบิ ตั งิ าน ข. การประเมินผล ค. การวิเคราะห์งาน ง. การวางแผนการปฏิบัติงาน เฉลย 1. ก. 2. ง. 3. ก. 4. ข. 5. ข. 6. ค. 7. ค. 8. ง. 9. ง. 10. ก.


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook