greeting&introduction

2017GREETING AND INTRODUCTION SUKANYA SAENGCHUN วทิ ยาลยั การอาชีพบ้านตาก 6/27/2017

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 หน่วยท่ี 1 ชอื่ วิชา English Listening and Speaking 1 เวลาเรยี นรวม 36 คาบ ชอื่ หน่วย Greeting & Introduction สอนคร้ังที่ 1–2/18ชอ่ื เรอื่ ง Greeting & Introduction จานวน 4 คาบหัวขอ้ เรื่อง หวั ขอ้ เรอ่ื งของหนว่ ยที่ 1 ดังน้ี 1. การทักทายและการตอบรับ 2. การแนะนาตนเอง (Self introduction) 3. การแนะนาบุคคลอืน่ (Introducing others)สาระสาคัญ/แนวคดิ สาคัญ การทักทายเป็นสงิ่ สาคัญในการผูกมติ รกบั บุคคลอ่นื เปน็ การแสดงออกถึงความเป็นมติ รและความจรงิ ใจ เปรียบเสมือนประตทู ่เี ปิดต้อนรับแขกทมี่ าเยือน เม่อื พบกันก็ทักทายกอ่ นทจี่ ะสนทนาในเรื่องอืน่ต่อไป หรอื แม้แตบ่ ุคคลทเ่ี ราไมร่ ู้จกั เมื่อพบกันคร้ังแรกก็ต้องมีการทักทายก่อน และเม่ือถูกแนะนาใหร้ ้จู กั เราตอ้ งพูดทกั ทายอยา่ งไรเพื่อให้เขาเกดิ ความประทับใจ อยากผกู มติ รกับเราต่อไปสมรรถนะ แสดงความรดู้ า้ นคาศัพท์ สานวนเกีย่ วกับการทักทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผูอ้ ื่นจุดประสงค์การปฏิบัติ - อ่านออกเสียงคาศัพท์ สานวนเก่ยี วกับการทกั ทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนา ผอู้ น่ื - ฟังสานวนเกย่ี วกับการทักทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผูอ้ นื่ - สนทนาเกีย่ วกบั การทักทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผอู้ ่ืน - แสดงบทบาทสมมติเกีย่ วกับการทักทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผู้อนื่ - มคี วามตะหนกั ในเร่อื ง 3D คือ สง่ เสริมระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(Democracy) มีจิตสานึกและรังเกียจการซื้อสิทธิ์ขายเสียง การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม (Decency)หา่ งไกลยาเสพติด (Drug) - บูรณาการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 3 ห่วง คือ หลักความพอประมาณ หลักความมีเหตุผลหลักภูมิคุ้มกัน 2 เงื่อนไข คือ เงื่อนไขความรู้ เง่ือนไขคุณธรรม เช่ือมโยงสู่ 4 มิติ คือ มิติสังคม มิติเศรษฐกิจมิตวิ ัฒนธรรม มิติสิ่งแวดล้อม

จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. พทุ ธิพิสยั - สามารถบอกคาศัพทท์ ่ีเก่ยี วกบั การทักทาย การแนะนาตนเอง การแนะนาผู้อ่นื - อธิบายคาศพั ท์การทักทาย การแนะนาตนเอง การแนะนาผอู้ ่ืนได้ 2. ทักษะพิสยั - กาหนดคาตอบในการหาคาศพั ทท์ ปี่ รากฏอยู่ในสื่อได้ - อธบิ ายคาศพั ทแ์ ละความหมายของคาไดโ้ ดยใชส้ อ่ื เทคโนโลยี 3. จติ พสิ ยั - เข้าเรียนตรงต่อเวลาและแต่งกายถกู ต้องตามระเบยี บการวิเคราะห์ตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งหลกั ความพอประมาณ - เหมาะสมกบั การดาเนนิ ชวี ิตประจาวนัหลกั ความมีเหตุผล - การทกั ทายในสถานการณ์ตา่ ง ๆ การแนะนาตนเอง การแนะนาผู้อ่นืหลกั ภมู ิคมุ้ กนั - สามารถฟงั พดู สือ่ สารตามสถานการณ์ตา่ ง ๆในชีวติ ประจาวนัเงื่อนไขคณุ ธรรม - ความรับผิดชอบเงอ่ื นไขความรู้ - ตระหนักถงึ ความสาคัญของการทกั ทายและการตอบรบั การเชือ่ มโยงสู่ 4 มิติมติ ิสงั คม - มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกย่ี วกับการใช้คาศพั ทใ์ นการอา่ น ดารงชีวิตในสงั คม อยา่ งมีความสุขมติ เิ ศรษฐกิจ - นักเรยี นเห็นความสาคัญใช้เทคโนโลยีเพ่อื ศกึ ษาหาความรู้ และฝกึ ทักษะเพม่ิ เติมดว้ ยตนเองมติ ิวัฒนธรรม - การทักทายเป็นส่ิงท่ีบุคคลปฏิบัติในการพบกับบุคคลอ่ืนครั้งแรกหรือเคยพบกันมาแล้ว ซ่ึงถือเป็นมารยาททดี่ ใี นสงั คมมิติส่ิงแวดล้อม -

เนือ้ หาสาระ เนือ้ หาสาระของหน่วยที่ 1 ดังน้ี 1.1 ด้านความรู้ ศกึ ษาคาศพั ท์ สานวนเก่ยี วกับการทักทาย (Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผ้อู ื่น 2.2 ด้านทกั ษะ ฝึกทักษะตามกิจกรรม 1-5 และ Self study

เน้อื หาสาระ : Greeting and introduce oneself and others(การทกั ทายและการแนะนาตนเองและบุคคลอนื่ )1. Greeting (การทกั ทาย)1.1 Informal greetings (การทกั ทายอยา่ งไม่เปน็ ทางการ) (Informal greeting) (Informal response)การทักทายอย่างไม่เปน็ ทางการ การตอบรบั อย่างไมเ่ ป็นทางการHi, Hello Hi, HelloHow are you? Fine, thank you. And you?How are you doing? I’m very well, thanks.How’s everything? (How’re things?) All right. OK. Very well, thank you.ExampleA : Hi, Gordon. How are you?B : Hi, Frank. Fine, thanks and you?A : Good. Thanks. 1.2 Formal greeting (การทกั ทายอย่างเป็นทางการ) Formal greeting Formal response การทกั ทายอยา่ งเป็นทางการ การตอบรับอย่างเปน็ ทางการGood morning / afternoon / evening Good morning / afternoon / eveningHow do you do? How do you do?And How are you? I’m fine, thank you. And you?Example A : Good morning Miss Susan? How do you do? B: Good morning Mr.John. How do you do? 1.3 Good morning is used from 05.00 a.m.- 12.00 (noon) สวัสดตี อนเช้าใชต้ ั้งแต่เวลา 05.00-10.00 1.4 Good afternoon is used from 1.00 - 04.00 p.m. สวสั ดีตอนบ่ายใช้ต้ังแต่ 13.00 – 16.00 น

1.5 Good evening is used from 5 p.m. onwards (or afterwards) Hello. สวัสดีตอนเยน็ ใช้ต้ังแต่ 17.00 น. เปน็ ตน้ ไป1.6. Good night is only used for saying goodbye, never for saying ราตรีสวสั ดิ์ใชเ้ ฉพาะในการกลา่ วอาลา ไม่ใชใ้ นการกลา่ วทกั ทาย2. Introducing oneself and others (การแนะนาตนเองและบุคคลอ่นื ) Informal Self Introductions Responses (การแนะนาตนเองอย่างไม่เป็นทางการ) (การกลา่ วตอบ)Hi, My name is Robert.Hi, I’m Pat Winston. What’s your name? Hi, I’m Edith.Hello. My name is Paul. My name is Connie Francis.My name is Paul Simon. I’m glad to meet you. I’m Clare. Pleased to meet you. I’m Clare. Formal Self Introductions Nice to meet you. (การแนะนาตนเองอย่างเปน็ ทางการ) Responses (การกล่าวตอบ)I’d like to introduce myself. How are you Mr…?I’m Clark Peterson. (Name / job) How do you do Mr….?May I introduce myself? My name is John It’s a pleasure to meet you. Mr….Smith. It’s very nice to meet you.Let me introduce myself. John Smith, I’m (very) glad to meet you.sales manager. I’m delighted / pleased /First, let me introduce myself. happy to meet you.I’m John Smith from London.Example 1. A : Hello. I’m Morris Kelly. B : Hi. I’m Clare Taylor. Glad to meet you. A : I’m glad to meet you, too. 2. A : Let me introduce myself. I’m Sally Roger. B : How are you Miss Roger. I’m Mark Jacob. It’s pleasure to meet you. A : Nice to meet you too. 3. A : Uncle Tom. May I introduce David. David is an accountant at the bank.

B : How do you do? I’m glad to meet you.A : How do you do? I’m glad to meet you, too.Language Use1. คาถามที่ควรถาม หลังจากที่ไดร้ บั การแนะนาใหร้ จู้ ักแล้ว ไดแ้ ก่ * Where are you from? * What do you do? * What is your job?2. การแนะนาให้บุคคลรูจ้ กั กัน ควรบอกช่อื อาชีพ หรือประเทศ / บรษิ ัททมี่ าจาก ได้แก่ * This is Susan. She’s from Australia. * This is Mr. Steve. He’s a famous journalist from the Bangkok Post.3. เมื่อไดร้ บั การแนะนาให้รู้จักบคุ คลใดๆ ควรกลา่ วแสดงความยินดีท่ีไดร้ ูจ้ ัก ดังนี้ * It’s nice to meet you. * It’s nice meeting you. * I’m very pleased to meet you. * I’m very pleased to have met you. * I’m very pleased to have the opportunity of meeting you.4. เมือ่ ตอ้ งการให้บุคคลทีเ่ พ่ิงรู้จักหลงั การแนะนา เรยี กชื่อของตนเองให้ถกู ต้อง ให้ใช้สานวน ดงั นี้ * My name is Robert Jansen. * You can call me Bob. * Please call me Bob. Questions (คาถาม) Responses (การตอบ)1. What is your name, please? = 1. I’m Nadia. = ฉนั ชอ่ื นาเดยี คณุ ชื่ออะไร กรณุ า(บอกฉนั ด้วย)? 2.My last name is Atwood. =2. What’s your last name? = นามสกลุ ของฉนั คือแอทวดู 3. Yes, it is. = ใช่ ชือ่ นามสกุลของคุณคืออะไร?3. Is that your first name? = No, it is not. = ไม่ใช่ 4.Nice to meet you too. = น่นั คือช่ือแรกของคณุ ใชไ่ หม? ยนิ ดที ไ่ี ด้พบคณุ เชน่ กัน4. Nice to meet you. = 5.13 Building road. = เลขที่ 13 ถนนบิวดง้ิ ยินดที ี่ได้พบคุณ5. What’s your address? = 6. It is 30. = มนั คือเลข 30 7. You’re welcome. = ด้วยความยนิ ดี ที่อยู่ของคุณคืออะไร?6.Is that 30 or 13? = เลข 30 หรอื เลข 13?6. Thank you. = ขอบคุณ

8. Spell your name, please. = 8. J-E-N-I-F-E-R กรณุ าสะกดช่ือของคณุ ด้วย 9. Yes, it is. = ใช่9. Maria. Is that m-a-r-i-a?มาเรยี สะกด m-a-r-i-a ใช่ใหม? 10. 056-72145610. What’s your telephone number? = (zero-five-six-seven-two-one-เบอร์โทรศพั ท์ของคุณคืออะไร? four- five – six)สอ่ื การเรยี นรู้ 1. รปู ภาพเก่ียวกับการทักทาย(Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผู้อ่ืน 2. บตั รคาศัพท์เก่ียวกบั การทกั ทาย(Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนาผ้อู นื่ 3. ส่ือของจรงิ เชน่ บุคคล สิง่ ของ 4. วซี ีดี , เว็บไซด์, เพลง, ภาพยนตร์การบรู ณาการเช่ือมโยง สาระการเรียนรู้ การทักทายเป็นสิ่งสาคญั ในการผูกมิตรกับบคุ คลอ่ืน เป็นการแสดงออกถงึ ความเป็นมิตรและความจรงิ ใจ เปรียบเสมอื นประตทู ี่เปิดต้อนรับแขกทม่ี าเยือน เมอ่ื พบกันก็ทักทายก่อนทจ่ี ะสนทนาในเร่อื งอ่ืนต่อไป หรือแมแ้ ต่บุคคลที่เราไม่ร้จู ัก เม่ือพบกันคร้ังแรกกต็ ้องมีการทักทายก่อน และเมื่อถกู แนะนาให้รู้จักเราตอ้ งพูดทกั ทายอยา่ งไรเพ่ือให้เขาเกิดความประทับใจ อยากผกู มติ รกบั เราต่อไป การบูรณาการ มนุษยสัมพันธ์ = นักเรียนสามารถนาความรู้ท่ีได้ไปทักทายกับบุคคลอ่ืนท่ีอยากผูกมิตรกับเราต่อไป สงั คม = นักเรยี นสามารถใชเ้ วลานอก ศึกษาคน้ ควา้ หาความร้แู ละฝกึ ทกั ษะ เพ่ิมเติม ทาให้ความรเู้ พ่ิมมากขน้ึ ว่าในสงั คมแต่ละสังคมมีความแตกตา่ งกนั อยา่ งไร กิจกรรม แลกเปลี่ยนความคิด นักเรียนสามารถแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นกบั เพ่อื นกั ศึกษาด้วยกันได้ รวมท้ัง ครผู ู้สอน การทางานเป็นกลมุ่ นักเรียนทางานเป็นกลุ่ม ทาใหเ้ กดิ ความสามัคคกี ันในหมคู่ ณะ

กิจกรรมการเรียนรู้ (สัปดาหท์ ่ี 1,2) กระบวนการ เวลา กจิ กรรมครู กจิ กรรมนกั เรยี น ส่ือเตรยี มความพร้อมทดสอบกอ่ นเรยี น (นาท)ีขน้ั นาขั้นสอน 10 - อบรมหนา้ แถวหน้าชัน้ - เขา้ เรยี นตรงเวลา -สมดุ บันทกึ เวลาเรยี นข้นั สรุป เรียนและขานชื่อผูเ้ รยี นทดสอบหลังเรยี น 10 - ใหน้ กั เรยี นทาแบบทดสอบ - ทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน - แบบทดสอบก่อน รวม ก่อนเรียน เรียน 10 - แจง้ หวั ข้อ/จดุ ประสงค์ - แสดงความคดิ เหน็ อย่าง - กระดาษคาตอบ - ถาม-ตอบ มีเหตผุ ล 60 - บรรยาย/ถาม-ตอบ/ - แสดงความคิดเห็นอยา่ ง -เน้ือหา หนว่ ยที่1 อภิปราย มีเหตผุ ล 20 - ให้ทาแบบฝึกหดั - ทาแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั - สรุปผล - อภิปรายและสรุปรว่ มกนั - กิ จ ก ร ร ม self- - มอบหมายงาน - ทาแบบทดสอบหลงั เรียน study 10 - ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบ หลังเรียน - แบบทดสอบหลัง เรยี น 120 นาทีการวดั ผลและประเมนิ ผล ก่อนเรียน 1) ใชส้ มุดบนั ทึกเวลาเรยี นฯ ขานช่อื ผู้เรยี นและตรวจการตรงต่อเวลา 2) ทดสอบก่อนเรียน ขณะเรยี น 1) ใช้แบบสงั เกตพฤติกรรม สังเกตการตอบคาถาม ความสนใจใฝ่รู้ ความรับผิดชอบ ตอ่ งานท่ีมอบหมาย การรว่ มกิจกรรม หลังเรียน 1) ทดสอบหลงั เรยี น ใช้เกณฑผ์ ่าน 50 %งานทีม่ อบหมาย Self studying Study about greeting and introducing from movie, song, website and othermedias Role play : Make situation and dialogs about greeting and introducing, show itto your class.ผลงาน/ชน้ิ งาน/ความสาเรจ็ ของผู้เรียน 1. ผลการปฏบิ ัติกิจกรรมที่ 1-5 2. ผลการแสดงบทบาทสมมตเิ ก่ียวกบั การทักทาย(Greeting) และการแนะนาตนเองและแนะนา ผอู้ ืน่ 3. ผลการศกึ ษาคน้ คว้าดว้ ยตนเอง (Self studying) 4. ผลการทาแบบทดสอบท้ายบทเรียนของผูเ้ รยี น