แผนภาพ

POLYMER จัดทำโดย นางสาวลลิดา สอนวงค์ เลขที่ 24 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/1

POLYMRE คืออะใร????

1 พอลิเมอร์(POLYMER) จำแนกตามลักษณะการเกิด ได้ 2 ชนิดดังนี้ เป็นสารโมเลกุลขนาดใหญ่ 1. พอลิเมอร์ธรรมชาติ(Natural (Macromolecule) พอลิเมอร์จะ polymers)เป็นพอลิเมอร์ที่เกิดขึ้น ประกอบไปด้วยหน่วยซ้ำกัน เองตามธรรมชาติ (repeating unit) ของมอนอเม อร์ (Monomer) หลาย ๆ หน่วยมา 2.พอลิเมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์ ทำปฏิกิริยากัน มอนอเมอร์นี้จัดเป็น (Synthetic polymers)เป็นพอลิ สารไมโครโมเลกุล เมอร์ที่เกิดจากการสังเคราะห์โดย ปฏิกิริยาเคมี

2 จำแนกตามชนิดของมอนอเมอร์ที่ โครงสร้างของพอลิเมอร์ เป็นองค์ประกอบได้ 2 แบบ ดังนี้ 1. พอลิเมอร์แบบเส้น (Chain length polymer) เป็ นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์สร้างพันธะต่อ 1.โฮโมพอลิเมอร์ ( Homopolymers ) เป็น กันเป็นสายยาว โซ่พอลิเมอร์เรียงชิดกันมากว่า โครงสร้างแบบอื่นๆ จึงมีความหนาแน่น และ พอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ชนิดเดียวกัน จุดหลอมเหลวสูง มีลักษณะแข็ง ขุ่นเหนียวกว่าโครง สร้างอื่นๆ ตัวอย่าง PVC พอลิสไตรีน พอลิเอทิลีน มาเชื่อมต่อกัน 2.โคพอลิเมอร์ ( Co - polymer ) เป็นพอลิ เมอร์ที่เกิดจากด้วยมอนอเมอร์มากกว่า 1 ชนิด มาเชื่อมต่อกัน

2.พอลิเมอร์แบบกิ่ง (Branched polymer) 3 เป็ นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ยึดกัน แตกกิ่งก้านสาขา มีทั้งโซ่สั้นและโซ่ยาว กิ่งที่แตก 3.พอลิเมอร์แบบร่างแห (Croos -linking จาก พอลิเมอร์ของโซ่หลัก ทำให้ไม่สามารถจัด polymer) เรียงโซ่พอลิเมอร์ให้ชิดกันได้มาก จึงมีความหนา แน่นและจุดหลอมเหลวต่ำยืดหยุ่นได้ ความ เป็ นพอลิเมอร์ที่เกิดจากมอนอเมอร์ต่อเชื่ อมกัน เป็นร่างแห พอลิเมอร์ชนิดนี้มีความแข็งแกร่ง เหนียวต่ำ โครงสร้างเปลี่ยนรูปได้ง่ายเมื่ออุณหภูมิ เพิ่มขึ้น ตัวอย่าง พอลิเอทิลีนชนิดความหนาแน่น และเปราะหักง่าย ตัวอย่างเบกาไลต์ เมลามีนใช้ ต่ำ ทำถ้วยชาม

ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 4 1.พลาสติก คือ สารที่ทำให้เป็นรูปต่างๆ ได้ด้วยความร้อน พลาสติเป็อนพอลิเมอร์ขนาดใหญ่มาก โมเลกุลมาก สมบัติทั่วไปของพลาสติก เสถียร สลายตัวยาก มีมวลน้ อย เบา เป็นฉนวนความร้อน และไฟฟ้ าที่ดี ส่วนมากอ่อนตัวและหลอมเหลวเมื่อได้รับ ความร้อน จึงเปลี่ยนเป็นรูปต่างๆ ได้ตามประสงค์

ประเภทของพลาสติก������ 5 1.เทอร์โมพลาสติก เทอร์โมพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีจุดหลอมเหลว และมีจุดอ่อนตัว มีโครงสร้างแบบสายยาว หรือแบบสาขาสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก เทอร์โมพลาสติกจะเกิดการอ่อนตัวและ หลอมเหลวเมื่อได้รับความร้อน และจะเกิดแข็งตัวเมื่อทำให้เย็นลง พลาสติกที่แข็งตัวแล้ว สามารถนำมาหลอมซ้ำได้ 2.เทอร์โมเซตติ้งพลาสติก เทอร์โมเซตติงพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีสมบัติพิเศษ คือทนทานต่อการเปลี่ยนแปลง อุณหภูมิและทนปฏิกิริยาเคมีได้ดี เกิดคราบและรอยเปื้ อนได้ยาก คงรูปหลังการผ่านความ ร้อนหรือแรงดันเพียงครั้งเดียว เมื่อเย็นลงจะแข็งมาก ทนความร้อนและความดัน ไม่อ่อน ตัวและเปลี่ยนรูปร่างไม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงก็จะแตกและไหม้เป็นขี้เถ้าสีดำ

พลาสติก 7 ประเภทที่รีไซเคิลได้ 6 1 . พอลิเอทธิลีนเทเรฟธาเลท 2 . พอลิเอธิลีนความหนาแน่นสูง หรือที่รู้จักกันดีว่า เพ็ท เป็นพลาสติกใส หรือที่เรียกแบบย่อว่า เอชดีพีอี เป็นพลาสติกที่ แข็ง ทนแรงกระแทกดี ไม่เปราะแตกง่าย เหนียวและแตกยาก ค่อนข้างแข็งแต่ยืดได้มาก และกันแก๊สซึมผ่านดี ใช้ทำขวดบรรจุน้ำ ทนทานต่อสารเคมีและสามารถขึ้นรูปทรงต่างๆ ได้ ดื่ม ขวดน้ำมันพืช เป็นต้น สามารถนำมา ง่าย ใช้ทำขวดนม ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับ รีไซเคิลเป็นเส้นใย สำหรับทำเสื้อกัน น้ำยาทำความสะอาด ยาสระผม เป็นต้น สามารถ หนาว พรม และใยสังเคราะห์สำหรับยัด นำมารีไซเคิลเป็น ขวดน้ำมันเครื่อง ท่อ ลัง หมอน เป็นต้น พลาสติก ไม้เทียม เป็นต้น 3.พอลิไวนิลคลอไรด์ 4.พอลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำ หรือที่รู้จักกันดีว่า พีวีซี ใช้ทำท่อน้ำประปา สาย สามารถเรียกแบบย่อว่า แอลดีพีอี เป็นพลาสติกที่ ยางใส แผ่นฟิล์มสำหรับห่ออาหาร แผ่นพลาสติก มีความนิ่ม เหนียว ยืดตัวได้มาก ใส ทนทาน แต่ สำหรับทำประตู หน้ าต่าง และหนังเทียม เป็นต้น ไม่ค่อยทนต่อความร้อน ใช้ทำฟิล์มห่ออาหารและ สามารถนำมารีไซเคิลเป็ นท่อน้ำประปาหรือรางน้ำ ห่อของ ถุงใส่ขนมปัง ถุงเย็นสำหรับบรรจุอาหาร สำหรับการเกษตร กรวยจราจร เฟอร์นิเจอร์ ม้า สามารถนำมารีไซเคิลเป็นถุงดำสำหรับใส่ขยะ ถุง นั่งพลาสติก ตลับเทป เคเบิล แผ่นไม้เทียม หูหิ้ว ถังขยะ กระเบื้องปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ แท่งไม้ เป็ นต้น เทียม เป็นต้น

พลาสติก 7 ประเภทที่รีไซเคิลได้ 7 5.พอลิโพรพิลีน 6.พอลิสไตรีน เรียกโดยย่อว่า พีพี (PP) เป็นพลาสติกที่มีความ ใส ทนทานต่อ หรือที่เรียกโดยย่อว่า พีเอส (PS) เป็นพลาสติกที่มี ความร้อน คงรูป เหนียว และทนแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยัง ความใส แต่เปราะและแตกง่าย ใช้ทำภาชนะบรรจุ ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน ใช้ทำภาชนะบรรจุอาหาร เช่น กล่อง ชาม ของใช้ต่างๆ หรือโฟมใส่อาหาร เป็นต้น สามารถนำ จาน ถัง ตะกร้า กระบอกใส่น้ำแช่เย็น ขวดซอส แก้วโยเกิร์ต ขวด มารีไซเคิลเป็นไม้แขวนเสื้อ กล่องวิดีโอ ไม้บรรทัด บรรจุยา สามารถนำมารีไซเคิลเป็นกล่องแบตเตอรี่ในรถยนต์ ชิ้น กระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ แผงสวิตช์ไฟ ฉนวนความ ส่วนรถยนต์ เช่น กันชนและ กรวยสำหรับน้ำมัน ไฟท้าย ไม้กวาด ร้อน ถาดใส่ไข่ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ได้ พลาสติก แปรง เป็นต้น 7.นั้นมิได้มีการระบุชื่อจำเพาะ แต่ไม่ใช่พลาสติกชนิดใดชนิดหนึ่ งใน 6 ที่ได้กล่าวไปในข้างต้น แต่เป็น พลาสติกที่นำมา หลอมใหม่ได้

ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 8 2.ยาง คือ วัสดุพอลิเมอร์ที่ประกอบด้วยไฮโดรเจนและคาร์บอน ยางเป็นวัสดุที่มีความยืดหยุ่น สูง สมบัติทั่วไปของยาง สมบัติดีเยี่ยมในด้านการเหนียวติดกัน มีค่าความทนทานต่อ แรงดึงสูงมากโดยไม่ต้องเติมสารเสริมแรง มีความทนต่อการ ฉีกขาดสูงมากทั้งที่อุณหภูมิ ห้องและอุณหภูมิสูง มีความตาน ทานต่อการล้าสูง มีความต้านทานต่อการขัดถูสูง มีความเป็น ฉนวนไฟฟ้ าสูงมาก ยางดิบละลายได้ดีในตัวทำลายที่ไม่มีขั้ว

ประเภทของยาง������ 9 1. ยางธรรมชาติ (NR) ยางธรรมชาติ (NR) คือ ยางที่มาจากต้นยางพาราโดยตรง ไม่ผ่านกรรมวิธีการใด ๆ 2.ยางสังเคราะห์ ยางสังเคราะห์ คือ ยางวิทยาศาสตร์เป็นยางที่มนุษย์ผสมขึ้นมาเองได้แก่ ยาง NBR, SR, EPDM, SILICONE, VITON, HYPALON, CR, NEOPRENE, THERMOPLASTIC POIYURTEHANES และ URETHANE

ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ 10 3.เส้นใย คือ พอลิเมอร์ชนิดหนึ่งที่มีโครงสร้างของโมเลกุลสามารถนำมาเป็นเส้นด้าย เส้นใย เส้นใยธรรมชาติ สมบัติทั่วไปของเส้นใย สมบัติซึ่งมีผลโดยตรงต่อสมบัติของผ้าที่ทำขึ้นจากเส้นใย นั้นๆ เส้นใยโดยทั่วไปควรมีคุณสมบัติดังนี้คือ มีความแข็ง แรง และทนทาน สามารถปั่นได้ มีความสามารถในการดูด ซับดี

ประเภทของเส้นใย������ 11 1. ใยธรรมชาติ (Natural Fiber) ได้แก่ ฝ้ าย ลินิน ไหม ขนสัตว์ ใยหินและอื่น ๆ เช่น ใย สัปรด ใยกันชง ใยกล้วย 2. ใยสังเคราะห์จากสารเคมี (Chemical Synthetic Fiber) มีมากกว่า 30 ชนิด ที่ใช้มากในวงการสิ่งทอ ได้แก่ ไนลอน โพลิเอสเตอร์ อไครลิค โมดาไครลิค และสแปนเด๊กซ์ 3. ใยสังเคราะห์จากวัตถุธรรมชาติ (Natural Synthetic Fiber) ได้แก่ เรยอน และอซิเตท

ผลกระทบที่เกิดจากการใช้เเละกำจัดผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ 12 สืบเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการใช้พอลิเมอร์โดยเฉพาะพลาสติกอย่างก้าวกระโดด จึงเกิดปัญหาต่อสิ่ง แวดล้อมตามมา คือ ปัญหาขยะพลาสติกและการกำจัด เนื่องจากสมบัติที่ดีของพอลิเมอร์มีความคงทนต่อสภาวะ แวดล้อมต่างๆ เมื่ออัตราการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล การกำจัดขยะพลาสติกจึงทำได้ยาก หากจะทิ้งให้ย่อยสลาย ก็ใช้เวลานานหลายสิบปี หรือบางชนิดก็ไม่ย่อยสลายเลย นอกจากนี้เมื่อทำพอลิเมอร์มาเผายังทำให้เกิดก๊าซพิษ ที่ สงผลต่อปัญหามลภาวะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อมองในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้ผลิตพลาสติก คือ ปิโตรเคมีที่ได้จากเชื้อเพลิง ฟอสซิล (fossil fuel) พบว่ามีปริมาณลดลงอย่างมาก เพราะอัตราการเกิดขึ้นทดแทนเกิดได้ช้ามาก ใช้เวลาหลาย ร้อยปี แต่มีการขุดมาใช้อย่างมาก จากผลการศึกษาพบว่าหากเรายังบริโภคเชื้อเพลิงฟอสซิลด้วยอัตรานี้ต่อไป อีก ไม่เกิน 100 ปีข้างหน้ าเชื้อเพลิงชนิดนี้ก็จะหมดไป ตามหลักอุปสงค์-อุปทาน จึงทำให้มีราคาของเชื้อเพลิงฟอสซิล ตลอดจนปิโตรเคมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาพอลิเมอร์เพิ่มสูงขึ้นด้วย

แนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดจากพอลิเมอร์ 13 การรีไซเคิลพอลิเมอร์โดยเฉพาะพลาสติก สามารถทำได้เฉพาะพอลิเมอร์ชนิดเทอร์โมพลาสติกเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเทอร์โมเซ็ตได้ โดยการนำพลาสติกมาหลอมแล้วขึ้นรูปใหม่ ซึ่งอาจส่งผลให้ ประสิทธิภาพของพลาสติกที่ได้ลดลง เนื่องจากอาจเกิดการสลายตัวของสายโซ่เนื่องจากความร้อนใน กระบวนการขึ้นรูป หรือได้ชิ้นงานที่สีไม่สดใส 1. PETE ใช้ผลิตขวดบรรจุน้ำอัดลม ภาชนะบรรจุขนม พรม เป็นต้น 2. HDPE นำกลับมาผลิตเป็นขวดบรรจุผลิตภัณฑ์ซักผ้า ฝาขวดน้ำอัดลม ถังขยะ เครื่องเล่นในสนาม เด็กเล่น 3. V นำกลับมาผลิตเป็นท่อ รั้ว หรือผลิิตภัณฑ์อื่นที่ไม่สัมผัสกับอาหา 4. LDPE นำกลับมาผลิตเป็นถุงชนิดต่างๆ 5. PP นำกลับมาผลิตเป็นชิ้นส่วนยานยนต์ 6. PS นำกลับมาผลิตเป็นตุ๊กตาเด็กเล่น ถาดใส่อาหาร ฉนวน เป็นต้น 7. อื่นๆผสมๆรวมๆกัน