Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงการ

โครงการ

Published by ปิยะธิดา ฯ., 2021-02-05 06:10:53

Description: โครงการ

Search

Read the Text Version

ภูมิปัญญาทอ้ งถ่นิ “ดนิ สอพอง” ผู้จดั ทำ นางสาวจิราภรณ์ ใบเอยี่ ม 63302010043 นางสาวปิยะธิดา โพธ์ิเปี่ยม 63302010052 นางสาวพิมพ์ผกา ชบู ุญ 63302010057 นางสาวลภสั รดา ทวสี ขุ วทิ ยา 63302010063 นางสาววันวสิ า ทวีบท 63302010069 นางสาวอทิตญาพร กลัดกลีบ 63302010077 เอกสารฉบบั นีเ้ ปน็ สว่ นหนง่ึ ของการศกึ ษาค้นคว้าประกอบการเรียนรายวิชาชีวติ กบั สงั คมไทย วิทยาลยั เทคนคิ ลพบุรี สำกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวะศกึ ษา ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2563

ชื่อเรอ่ื ง : ดินสอพอง ผู้จัดทำ : นางสาวจริ าภรณ์ ใบเอยี่ ม 63302010043 นางสาวปิยะธิดา โพธเิ์ ป่ยี ม 63302010052 นางสาวพมิ พ์ผกา ชูบญุ 63302010057 นางสาวลภัสรดา ทวสี ุขวิทยา 63302010063 นางสาววนั วสิ า ทวบี ท 63302010069 นางสาวอทิตญาพร กลดั กลบี 63302010077 ทีป่ รกึ ษา : ครศู ิริโสภา เรอื งศรี ปีการศกึ ษา : 2563 บทคดั ย่อ ภูมิปัญญาไทยการทำดินสอพอง มีวัตถุประสงค์ 1.เพื่อศึกษาความเป็นมาของดินสอพอง 2.เพื่อศึกษากระบวนการทำดินสอพอง 3.เพื่อศึกษาประโยชน์และการนำไปใช้ของดินสอพอง 4.เพื่อศึกษาการนำดินสอพองมาทำเป็นยารักษาแผนปัจจุบัน 5.เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนเห็นคุณค่า ร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดการทำดินสอพอง รูปแบบของการศึกษาค้นคว้า เราได้ศึกษาค้นคว้าและ เกบ็ รวบรวมข้อมูลทางเวบ็ ไซต์อินเตอรเ์ น็ต ผลจากการศึกษาภูมิปัญญาไทย ดินสอพอง หรือ มาร์ล เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากดินธรรมชาติ โดยการนำดินมาร์ล มาบด ร่อน ผสมน้ำแล้วกรองให้สะอาด หากประชาชนต้องนำดินสอพองมาใช้ กับผิวหน้าหรือผิวกาย ต้องมีการนำไปฆ่าเชื้อ โดยศาสตร์ทางการแพทย์แผนไทยที่เรียกว่า การสะตุ คือ การนำดินสองพองไปเผาไฟซึ่งเป็นการทำให้ดินสอพองปราศจากสิ่งปนเปื้อน โดยใช้กรรมวิธี นำดินสอพองใส่หม้อดิน ปิดฝาหม้อตั้งไวจ้ นดินสอพองร้อนระอุทั่วหม้อแล้ว จึงปิดไฟและทิ้งไว้ให้เย็น จะพบว่า ดินสอพองที่ผ่านการสะตุต้องมีกลิ่นที่ดีตามธรรมชาติ มีลักษณะเป็นผงหรือก้อน มีสีนวล ดินสอพองมีคุณสมบตั ิเป็นยาเย็น สามารถใช้บรรเทาอาการผดผ่ืนคัน รกั ษาสิว ระงับเหงื่อ ดบั พิษร้อน ทำให้รู้สึกเย็นสบาย คลายร้อน อาจจะนำมาผสมกับสมุนไพรที่ใช้กับผิวพรรณสำหรับการขัดผิว ช่วยทำให้ผวิ พรรณเปล่งปลั่ง สดใส ทั้งนี้เพื่อการศึกษาภูมิปัญญาไทยเรื่องดินสอพองเป็นการสืบทอด และอนรุ ักษด์ ินสอพอง

ข กติ ตกิ รรมประกาศ โครงการน้ีสาเร็จลุลวงไดค้ วามกรุณาจากครูศิริโสภา วิศษฏว์ ฒั นะ และคณะคุณครูทกุ ท่าน ท่ีไดใ้ หค้ าปรึกษา คาเสนอแนะ แนวคดิ แนวทางในการทางาน ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ มูลขอ้ บกพร่อง ตา่ งๆ มาโดยตลอด จนโครงการน้ีสาเร็จลลุ ว่ ง ขอขอบคณุ เพอื่ นในกลุ่มทกุ คนท่ีใหค้ วามช่วยเหลือเป็นอยา่ งดี ตลอดจนคาแนะนาที่เป็น ประโยชนใ์ นการทาโครงการ คณะผจู้ ดั ทาขอขอบพระคุณทกุ ทา่ นอยา่ งสูงที่ใหก้ ารสนบั สนุน เอ้ือเฟ้ื อและใหค้ วาม อนุเคราะหช์ ่วยเหลือตลอดจนโครงการน้ีเสร็จสมบูรณ์ คณะผจู้ ดั ทา นางสาวจิราภรณ์ ใบเอี่ยม นางสาวปิ ยะธิดา โพธ์เป่ี ยม นางสาวพมิ ผกา ชูบุญ นางสาวลภสั รดา ทวีสุขวทิ ยา นางสาววนั วิสา ทวบี ท นางสาวอทิตญาพร กลดั กลีบ

ค สารบญั บทคัดย่อ ..............................................................................................................................ก กิตตกิ รรมประกาศ...............................................................................................................ข สารบญั ..............................................................................................................................ค บทท่ี 1 บทนำ.....................................................................................................................1 1. ความเป็นมา ................................................................................................................1 2. วัตถุประสงค์................................................................................................................1 3. ขอบเขต.......................................................................................................................1 4. ประโยชนท์ ่ีได้รบั .........................................................................................................2 บทท่ี 2 ทฤษฎที เี่ กีย่ วข้อง ....................................................................................................3 บทท่ี 3 วิธศี กึ ษาค้นคว้า.......................................................................................................6 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาค้นควา้ ................................................................................................9 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผลและขอ้ เสนอแนะ.......................................................................11 บรรณนกุ รม .......................................................................................................................13 ภาคผนวก ..........................................................................................................................14 ประวัติผู้จัดทำ....................................................................................................................15

สารบัญภาพ ง บทท่ี 3 6 6 ภาพที่ 3.1 6 ภาพท่ี 3.2 7 ภาพท่ี 3.3 7 ภาพที่ 3.4 7 ภาพที่ 3.5 8 ภาพท่ี 3.6 8 ภาพท่ี 3.7 ภาพที่ 3.8

บทที่ 1 บทนำ 1. ความเปน็ มา ดินสอพอง ถือเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน ซึ่งจัดอยู่ในสมุนไพรจำพวกแร่ธาตุ ซึ่งดิน\\pageสอพองมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง เช่น การทำไข่เค็มดินสอพอง ทำสีฝุ่นและ อุตสาหกรรม ยาแผนปัจจุบันที่ใช้ในการรักษาสิว และโรยแผล ดินสอพองจะเริ่มหมดไปจากประเทศ ไทย ด้วยแหล่งวัตถดุ ิบท่ีเกดิ ข้ึนตามธรรมชาติรวมทงั้ คนไทยไมเ่ ห็นคุณค่า หาทางรักษาภูมิปัญญาไทย ที่นำดินสอพองมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง จึงอยากให้ทุกคนช่วยกัน รักษาภูมิปัญญาไทย ฟื้นฟู และดแู ลสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติใหค้ งอย่ตู อ่ ไป 2. วัตถุประสงค์ 1. เพอ่ื ศกึ ษาหาความรู้เกย่ี วกบั ความเป็นมาของดนิ สอพอง 2. เพือ่ ศกึ ษากระบวนการทำดินสอพอง 3. เพื่อศึกษาประโยชนแ์ ละการนำไปใช้ของดนิ สอพอง 4. เพื่อศกึ ษาการนำดนิ สอพองมาทำเปน็ ยารักษาแผนปัจจุบนั 5. เพอ่ื ส่งเสรมิ ใหท้ ุกคนเห็นคุณคา่ ร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดการทำดินสอพอง 3. ขอบเขต 3.1 สถานที่ 69/2 หม่ทู ่ี 1 บา้ นหนิ สองก้อน ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมือง จงั หวัดลพบุรี 15000 3.2 ระยะเวลา - 3.3 ตัวแปรหรอื ประชากรและกลมุ่ ตัวอย่าง 3.3.1 ตวั แปรต้น - 3.3.2 ตวั แปรตาม - 3.3.3 ตัวแปรควบคุม - 3.3.4 ประชากร จากการสำรวจประชากรชุมชนดินสอพอง พบว่ามีครัวเรือนทั้งหมด 1,542 ครัวเรือน ประชากรทั้งหมด 4,404 คน เป็นผชู้ าย 2,125 คน ผ้หู ญงิ 2,279 คน ประชากรท่มี อี าชพี ทำ ดินสอพองประมาณ 76 ครัวเรอื น 3.3.5 กลมุ่ ตัวอยา่ ง –

2 4. ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั 1. ประโยชน์การจากศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของดนิ สอพอง ดินสอพองถือเป็น สมุนไพรที่อยู่คู่เมืองไทยมานาน ซึ่งจัดอยู่ในสมุนไพรจำพวกแร่ธาตุ แต่ถ้าสืบค้นไปก็จะพบว่าดินสอ พองเป็นยาสมุนไพร หรือนำดินสอพองมาใช้ประโยชน์ได้ยากเต็มทีเนื่องจากราคาที่สูงมากขึ้น ตามวัตถุดิบที่นับวันจะลดน้อยลง ซึ่งคนไทยยังไม่เห็นถึงคุณค่า ที่นำดินสอพองมาใช้ประโยชน์อย่าง กวา้ งขวาง 2. ประโยชน์ที่รับจากการศึกษากระบวนการทำดินสอพอง คือ การได้รู้จักวิธีการทำดินสอ พองแบบดงั้ เดิมอย่างถกู ต้อง และไดร้ จู้ ักการทำดนิ สอพองในรปู แบบต่าง ๆ 3. ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากการศกึ ษาประโยชน์และการนำไปใชข้ องดนิ สอพอง คอื ได้รสู้ รรพคุณ ของดินสอพองในด้านต่าง ๆ เชน่ ไข่เค็มดนิ สอพอง ยาแผนปัจจบุ นั ท่ีใชใ้ นการรักษาสวิ และโรยแผล 4. ประโยชน์จากการนำดินสอพองมาทำเป็นยารักษาแผนปัจจบุ ัน คือ ดินสอพองสามารถใช้ รักษาผิวหน้าได้ สรรพคุณ ช่วยขจัดสิวเสี้ยนได้ ลดอาการปวดบวม แก้อักเสบ ช่วยปรับสภาพผิวให้ดี ขึน้ และดินสอพองชว่ ยดับพิษร้อนได้อีกด้วย 5. ประโยชน์จากการส่งเสริมให้ทุกคนเห็นคุณค่าร่วมกันอนุรักษ์และสืบทอดการทำดินสอ พอง คือ ทำให้คนที่ไม่เห็นคุณค่าหรือคนที่ไม่อนุรกั ษ์ไว้กับมาสนใจมากขึน้ แล้วกับมาอนุรักษ์ให้คงอยู่ ต่อไป

3 บทท่ี 2 ทฤษฎที ่เี ก่ียวข้อง ในการศึกษาเรือ่ ง ดนิ สอพอง ผู้จดั ทำไดร้ วบรวมแนวคดิ ทฤษฎีและหลักการตา่ งๆจาก เอกสารท่เี กี่ยวขอ้ งดังต่อไปน้ี 2.1 ความรเู้ กีย่ วกับโครงการท่ีทำ ดินสอพอง หรือ ดินมาร์ล เป็นศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกกันอย่างกว้างขวาง ในทางธรณีวิทยา เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากดินธรรมชาติ ที่มีส่วนประกอบของสารประกอบ ของโลหะต่าง ๆ นำมาผสมกับน้ำ แล้วนำมาตากแดดกลางแจ้ง จึงมีโอกาสเกิดการ ปนเปื้อนของเชื้อจลุ ินทรีย์ และโลหะหนักได้ จึงอาจระคายเคืองต่อผิว การสังเกตลักษณะ ตัวอย่างดินสอพองภายนอก ไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นดินสอพองที่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วย ความร้อนหรือที่เรียกว่าดินสอพองสะตุหรือไม่ และดินสอพองสะตุถ้าเก็บไว้เป็นระยะ เวลานาน สามารถเกิดการปนเป้ือนของเชอ้ื จลุ นิ ทรีย์ได้เชน่ กัน ดงั นั้น เม่ือเราซือ้ ดนิ สอพอง มาจากท้องตลาด ก่อนใช้ก็ให้นำมาบด ๆ แล้วไปคั่วจนมีสีขาว แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง เท่าน้ันก็ช่วยฆ่าเชอื้ โรคทีอ่ าจจะปนเปลอื น มากับดินสอพองไดร้ ะดับหนึง่ 2.2 ทฤษฎที ี่เกย่ี วข้อง ดินสอพอง ได้มาจากดินมาร์ล มีลักษณะสีขาว เป็นวัตถุเนื้อดินที่มีองค์ประกอบที่ แปรผันของแคลเซียมคาร์บอเนต, เคลย์ และตะกอนขนาดทรายแป้ง พบภายใต้ สภาพแวดล้อมแบบนำ้ จดื สมัยโบราณใช้เปน็ เครอ่ื งประทนิ ผิว ทาตวั เดก็ แก้ผน่ื คนั ใชท้ าพื้นทีล่ งรกั ให้เห็นลาย ชดั เจน ดินสอพองทใ่ี ช้ทำยาจะนำไปสะตโุ ดยอบในหมอ้ ดนิ จนแหง้ ดนิ สอพองสะตุใช้ทำยา รักษาแผลกามโรค แผลเรื้อรัง คำว่าสอในดินสอพองนั้นมาจากภาษาเขมรแปลว่าขาว ดนิ สอพองจึงหมายถึงดินสีขาวท่ไี มแ่ ขง็ ตวั ใช้ทำแปง้ ประร่างกายเพือ่ ใหเ้ ยน็ สบาย เมื่อผสม น้ำหอมเข้าไปด้วยกลายเป็นแป้งกระแจะ ใช้ทำยาสีฟัน ปัจจุบันนี้ใช้มากในการแก้ดิน เปรี้ยว ผสมทำธูป ทำปูนซีเมนต์ เพราะเสียค่าขุดและค่าบดต่ำกว่าใช้หินปูนซึ่งมีเนื้อเป็น สารประกอบชนิดเดียวกัน แหล่งใหญ่ในประเทศไทยมีในท้องที่อำเภอบ้านหมอ จังหวัด สระบุรี อำเภอตาคลี จังหวดั นครสวรรค์ และอำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี

4 2.3 งานวิจัยทเี่ กี่ยวข้อง นายราม นายราม ติวารี ผู้อำนวยการสาขาฟิสิกส์ สถาบันส่งเสริมการสอน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(สสวท.)ได้อธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ผ่านกระบวนการ การเรยี นการสอนแบบวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ คณิตศาสตร์ และตำนาน “STEM l” (S : Science + T : Technology + E : Engineering + M : Mathematic + l : legend ) ผ่านดินสอพองในเทศกาลสงกรานต์ โดยได้เล่าดังนี้ ว่าจากตำนาน (l : legend) ดินสองพองมีแหล่งกำเนิดและผลิตที่ใหญ่และคุณภาพดีที่สุดของไทย อยู่ที่หมู่บ้านหินสองก้อน บ้านท่ากระยาง บ้านสะพาน และแหล่งอื่นของจังหวัดลพบุรี เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเหล่าวานร ซึ่งตามตำนานเมืองลพบุรี ที่เล่าสืบต่อกันมา เมื่อครั้งที่พระรามอวตารของพระนารายณ์ปราบทศกัณฐ์แห่งเมืองลงกา (คาดว่าประเทศ ศรีลังกาปัจจุบัน) ได้สำเร็จ พระองค์จึงคิดปูนบำเหน็จให้กับหนุมานทหารเอก โดยการ แผลงศรออกไปและถ้าศรตกลงที่ใด มณฑลที่ตกนั้นก็เป็นของหนุมาน ศรของพระรามเปน็ ศรศักดิ์สิทธิ์ เมื่อแผลงมาตกที่ทุ่งพรหมมาสตร์ (หมายถึงจังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน) ก็ทำให้ แผ่นดินลุกเป็นไฟ หนุมานจึงใช้หางกวาดเปลวไฟให้ดับ โดยดินในบริเวณที่ถูกไฟจึงสุก กลายเป็นสขี าว เรียก “ดินสอพอง” ในปจั จุบนั และเถา้ ดนิ ท่ีถกู หางหนมุ านกวาดออกไปก็ กลายเป็นภเู ขาลอ้ มรอบจังหวดั ลพบุรีนน่ั เอง ด้านวิทยาศาสตร์ (S) ดินสอพอง (ดินขาวพองเมื่อโดนน้ำ) หรือเราเรียกดินมาร์ล มีองค์ประกอบทางเคมีเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต อุดมไปด้วยเนื้อปูนที่มีองค์ประกอบของ แร่เคลย์และอาราโกไนต์ มาร์ลเป็นคำโบราณที่ถูกนำมาใช้เรียกวัตถุที่หลากหลายโดยส่วน ใหญ่เป็นวัตถุเนื้อหลวมๆของดินที่มีองค์ประกอบหลักของเนื้อผสมระหว่างดินเคลย์และ แคลเซียมคาร์บอเนตเกิดขึ้นภายใต้สภาพแวดแวดล้อมที่เป็นน้ำจืดเป็นวัตถุเนื้อดิน ประกอบด้วยแร่เคลย์ร้อยละประมาณ 65 และคาร์บอเนตร้อยละ 35 คำเรียกที่ใช้ใน ปัจจุบันหมายถึงตะกอนที่ตกสะสมตัวในทะเลและในทะเลสาบที่แข็งตัว ซึ่งเพื่อให้ถูกต้อง แล้วต้องเรียกว่า มาร์ลสโตน ซึ่งเป็นหินที่แข็งตัวมีองค์ประกอบเดียวกันกับดินมาร์ลที่อาจ เรียกวา่ หินปนู มีการแตกแบบก่งึ กน้ หอย

5 พจนานุกรมศัพท์ธรณีวิทยา ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2544 ได้ให้นิยาม ดินสอพองว่าเป็นหินปูนเนื้อมาร์ล (marly limestone) ที่เป็นดินที่เนื้อเป็นสารประกอบ แคลเซียมคาร์บอเนตเป็นส่วนใหญ่ เมื่อเอามะนาวบีบใส่ น้ำมะนาวมีกรดซึ่งเม่ือ ทำปฏิกิริยากับแคลเซี่ยมคาร์บอเนตเกิดเป็นแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์เป็นฟองฟู ข้ึน ดูเผนิ ๆ กเ็ หน็ ว่าดินนั้นพองตวั จึงเรยี กกนั ว่า ดนิ สอพอง ปัจจบุ ันมกี ารนำดินสอพองมาใชเ้ ล่นสงกรานต์ โดยนำมาผสมกับสตี ่าง ๆ อาจมีการ ปนเปื้อนจุลินทรีย์ หรือเชื้อก่อโรคอื่น ๆ และหากนำมาเล่นโดยไม่ระมัดระวังอาจเป็น อันตราย ตอ่ รา่ งกายได้ ท้งั น้ี ดนิ สอพองยังสามารถใช้แกด้ นิ เปร้ียวได้ เนอ่ื งจากดินเปร้ียวมี สภาพเป็นกรด มีค่า pH4 เมื่อเติมดินสอพอง ที่มีค่า pH 9.22 – 9.63 มีความเป็นด่าง โดยใช้คณิตศาสตร์ (M) เป็นตัวช่วยในการ หาปริมาณท่ีเหมาะสมก็จะแก้ดินเปรี้ยวได้ ดนิ สอพองที่ใชใ้ นเทศกาลสงกรานตต์ ้องปรับค่า pH ให้เหมาะ กบั ผวิ หนังของเรา คือ มี pH 5.0 – 8.0 โดยใช้สารสกดั จากพืชเปน็ ส่วนผสม การศกึ ษาวจิ ยั เกยี่ วกบั มาตรฐานดนิ สอพองเปน็ แนวทางในการควบคุมคณุ ภาพของ ผลิตภัณฑ์ให้มีความสม่ำเสมอ ซึ่งส่งผลถึงประสิทธิภาพ ความพึงพอใจในการใช้ และเป็น การยืนยันถึงความปลอดภัยจากการตรวจสอบปริมาณสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น ดินสอพองมีฤทธิ์เป็นด่างสามารถใช้ฆ่าเชื้อและลดการอักเสบของผิวได้ จึงนิยมนำมาใช้ รักษาสิว แก้ผดผื่น และ อาการคัน รวมถึงนำมาใช้ขัดผิว เพื่อช่วยให้ผิวเรากระจ่างใส เนียนนุ่ม อีกทั้งดินสอพองยังมีฤทธิ์เย็นไม่ทำให้ร่างกายเหนียวเหนอะหนะแล้ว ยังช่วยลด ความร้อนหรืออุณหภูมิของผิวได้จึงนิยมนำมาใช้ผสมน้ำปะพรมกันในวันสงกรานต์ควร เลือกดินสอพองชนิดที่ผ่านการฆ่าเชื้อแล้วมาใช้ เพราะ ดินสอพองเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้มา จากดินธรรมชาตจิ งึ อาจมเี ชอื้ และจุลนิ ทรีย์ปะปนอยู่

6 บทที่ 3 วธิ ศี ึกษาคน้ คว้า 3.1 ฉดี นำ้ ไปท่กี องดนิ ขาว ใหด้ นิ ละลายไหลลงไปในบ่อดนิ ภาพท่ี 3.1 3.2 สบู น้ำดนิ ขาวผา่ นตะแรงมาใส่บ่อใหมห่ รือบ่อเน้ือ เพ่อื แยกกรวด เศษดนิ เศษหญ้าออก ทิ้งไว้ 1คืน เพื่อให้ดินตกตะกอนจนเป็นเนื้อดินสีขาวข้น แล้วสูบน้ำใสๆหรือตักออกจากบ่อ ดินจนเหลอื แต่เนอื้ ดินขาว นัน้ กค็ ือ ดินสอพอง ภาพท่ี 3.2 ภาพท่ี 3.3

7 3.3 นำผ้ามาปูลองดินขนาดตามที่ต้องการ แล้วนำดินในบ่อเนื้อดินตักใส่รถเข็นดินสอพอง แล้วนำดินสอพองหยอดลงในแม่พิมพ์ดินสอพอง แม่พิมพ์ดินสอพองจะมี 2 แบบ คือ แมพ่ ิมพ์กลม (ดนิ แผ่น) และแม่พิมพด์ ินดอก ภาพที่ 3.4 ภาพที่ 3.5 ภาพท่ี 3.6

8 3.4 ถ้าเป็นดินแผ่น ทิ้งไว้จนเนื้อดินเกาะตัวกันเป็นก้อนพอหมาดแล้วนำมาเก็บตากไว้บน ตะแกรงหรือแค่ ถ้าเป็นดินดอกจะตากทิ้งจนแห้งประมาณ 2-3 วัน แล้วจึงเก็บนำมาใส่ถุง แลว้ ช่งั กิโล ถงุ ละ 10 หรือ 20 กิโล เพอ่ื นนำมาจำหน่าย ภาพที่ 3.7 ภาพที่ 3.8

9 บทท่ี 4 ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ในการจดั โครงการดนิ สอพองผู้จัดทำมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ ภูมิปญั ญาไทยมาศึกษาคุณภาพและ พัฒนาคณุ ภาพของดินสอพอง ศกึ ษาและสังเคราะห์องค์ความรู้จากภมู ปิ ญั ญาการผลติ ดินสอพอง 1. ผลการศึกษาค้นคว้า 1.1 ประวตั คิ วามเป็นมาของดินขาว 1.2 การทำดินสอพอง 1.3 ประโยชนข์ องดนิ สอพอง 1.4 ทกั ษะการถ่ายความรู้และการอนรุ กั ษ์ภมู ปิ ญั ญาไทย 2. ผลการดำเนนิ งาน จากข้อมูลการทำดินสอพองผู้จัดทำได้ศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่างๆ เช่น อินเทอร์เน็ต พบว่าการทำดินสอพองของชาวลพบุรีนั้นมีการขุดดินขาวขึ้นมาทำดินสิพองขายกันเป็นอาชีพ มานมนานกลายเป็นอาชีพหลักของหมูบ้านหินสองก้อน อย่างน้อยนับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 แห่ง กรุงรัตนโกสินทร์ และยังมีประโยชน์ในด้านต่างๆ อีกมากมาย เช่น การนำดินสอพองมารักษาแผน ปัจจบุ ัน พอกไข่เคม็ ดินสอพอง ใชข้ ดั เครอ่ื งเงิน แบบประเมนิ คุณภาพการทำดนิ สอพอง เกณฑ์ที่ใชใ้ นการประเมิน คณุ ภาพท่ปี ระเมนิ ควร พอใช้ ดี ดีมาก ปรับปรุง รปู ทรงของดินสอพอง ดา้ นสุขลักษณะ (ความสะอาด) ดา้ นบรรจภุ ัณฑ์ ประโยชน์จากดนิ สอพอง

10 ผลจากการประเมิน จากการทำแบบประเมนิ ของผู้ทดสอบสรุปได้ดังน้ี รูปทรงของดนิ สอพอง จากผู้ทดสอบ 10 คน ร้อยละ 80 บอกว่ารปู ทรงของดนิ สอพอง และ รอ้ ยละ 20 บอกว่าพอใช้ ดา้ นสุขลกั ษณะ (ความสะอาด) จากผ้ทู ดสอบ 10 คน ร้อยละ 50.3 บอกว่าดา้ นสขุ ลักษณะ (ความสะอาด) ดี อีกร้อยละ 20 บอกพอใช้ และอีกร้อยละ 29.7 บอกวา่ ควรปรบั ปรุง ดา้ นบรรจุภัณฑ์ จากผ้ทู ดสอบ 10 คน รอ้ ยละ60 บอกวา่ ดี และอีกร้อยละ 40 บอกวา่ พอใช้ ประโยชนจ์ ากดนิ สอพอง จากผ้ทู ดสอบ 10 คน ร้อยละ 88.6 บอกว่าดีมาก และอีกร้อยละ 11.4 บอกว่าดี

11 บทท่ี 5 สรปุ อภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ 5.1 สรปู ผลทดลอง ในการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายให้การศึกษาชุมชนท้องถิ่น โดยท้องถิ่นเป็นแหล่งการเรียนรู้ ผลลพั ธ์ที่คาดหวังคือ ชุมชนทอ้ งถนิ่ จะไม่ถูกทอดทงิ้ บคุ ลากรในสถานศกึ ษาได้แก่ครูอาจารย์ นักเรียน นกั ศกึ ษาจะสมั ผสั ชุมชน ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ินจะไดร้ ับการพัฒนาด้วยวทิ ยาการสากล 1. วัตถุประสงคก์ ารวิจัย 1.1 เพ่ือศกึ ษาบริบทและศักยภาพในการผลิดดินสอพองของชุมชนบนหนิ สองก้อน 1.2 เพื่อศึกษาและสังเคราะห์องค์ความรู้จากภูมิปัญญาการผลิตดินสอพองด้วยกระบานการ ทางวทิ ยาศาสตร์ 1.3 เพื่อศึกษาคุณภาพดินสอพองในด้านจุลินทรีย์และความเป็นกรด-ด่างที่หมาะสมสำหรับ ผวิ กายตามมาตรฐานผลติ ภัณฑช์ มุ ชน 2. วธิ ดี ำเนนิ การวจิ ัย คณะผ้วู จิ ัยไดต้ ำเนินการตามข้นั ตอน ดงั น้ี กำหนดประเภทการวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมของ นักศึกษา ในวิทยาลยั เทคนคิ ลพบุรีกบั ชมุ ชนผู้ผลติ ดินสอพองบนหินสองก้อน อำภอเมือง จังหวดั ลพบุรี มีการใช้ กระบวนการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลายในการสบื เสาะหาความรู้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ดนิ สอพองจากแหล่งผลิต 5.2 ปญั หาเเละอปุ สรรคในการศกึ ษาค้นควา้ -ดา้ นสขุ ลกั ษณะ บริเวณท่ผี ลิตดินสอพองอยู่ในบริเวณใกล้กับที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ไม่มีร้ัว รอบขอบชดิ จงึ ส่งผลตอ่ ความสะอาดปลอดภัยในกระบานการผลติ ดินสอพอง - ชมุ ชนผูผ้ ลติ ดนิ สอพองยังไม่สามารถรวมกลุ่มกัน จงึ ไมเ่ ข้มแขง็ พอท่ีจะร่วมกำหนดราคาซื้อ- ขายหรือร่วมกนั พฒั นาในดา้ นตา่ ง ๆ เช่นคุณภาพผลิตภัณฑ์ การแปรรปู ผลติ ภณั ฑ์

12 -การผลิตดินสอพองของจังหวดั ลพบุรีมีประวัตินับรอ้ ยปี แต่ยังไม่มีผู้มีความรูใ้ นศาสตร์สากล หรือสถาบันการศึกบาระดับสูงที่เข้าไปร่ามมือช่วยหลือผู้ผลิตอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการพัฒนา คุณภาพด้านกระบวนการผลิต การตราจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์ การแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นต้น ชาวบา้ นจงึ ยงั คงยึดวถิ เี ดิม ๆ ทส่ี ืบทอดกันมา ขายสนิ ค้าตวั เดิมและมีชวี ติ ความเปน็ อยู่เเบบเดิม 5.3 อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 1. ดินสอพองเป็นสินค้ำสำคัญของจังหวัดลพบุรี มีการผลิตอย่างต่อเนื่องเรื่อยมานับร้อยปีที่ เป็นเช่นนี้ ผู้วิจัยอธิบายได้ว่าเนื่องจากลพบุรีมีวัตถุดิบ (ดินมาร์ล) ที่มีทั้งคุณภาพและปริมาณ และ กรรมวิธีการผลิตขลงทุนต่ำ มีการทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน จึงถ่ายทอดกันรุ่นต่อรุ่นข้อ สำคัญคือได้มีการนำคืนสอพองไปทำประโยชน์หลายทาง เช่น ยา เครื่องสำอาง หรือ ใช้ในกาน ก่อสร้าง งานพธิ ีกรตา่ ง ๆ ดินสอพองทำมาจากดินมารล์ 2. จากการศึกษาบริบทางชุมชนบ้านหินสองก้อน ผู้วิจัยได้สัมผสั ชีวิตความเป็นอยู่ของชมุ ชน ได้ค้นพบองค์ความรู้การทำดินสอพองจากภูมิปัญญาท้องถิ่นและปรัชญาชุมชน สามารถนำมาสร้าง เปน็ บทเรียนวทิ ยาศาสตรท์ ้องถนิ่ การพฒั นาคุณภาพดินสอพอง 4 บทเรยี น สำหรับระดับการศึกษาขั้น พื้นฐาน ระดับอุดมศึกษา และระดับชุมชน บทเรียนที่สร้างขึ้นพยายามจัดให้ผู้เรียนใช้กระบวนการ เรียนรู้และทักษะที่หลากหลาย ในการค้นหาความรู้และความจริงเกี่ยวกับดินสอพองจากชุมชนผลิต ดินสอพองบา้ นหินสองกอ้ น

13 บรรณนกุ รม อา้ งองิ จากเวบ็ ไซต์ (1)https://www.google.com/imgres?imgurl=https://i.ytimg.com/vi/iHuSa_jnYMk/maxres default.jpg&imgrefurl=https://www.lopburi.org (2)https://th.wikipedia.org/wiki (3)https://www.siamchemi.com

14 ภาคผนวก

15 ประวัติผจู้ ดั ทำ เร่อื ง ดินสอพอง 1. นางสาวจริ าภรณ์ ใบเอย่ี ม ประวัตสิ ว่ นตวั เกิดวนั ท่ี 26 มกราคม 2545 อายุ 19 ปี ทอี่ ยู่ บา้ นเลขที่ 24/2 หมู่ 2 ตำบลท่าแค อำเภอเมอื งลพบุรี จงั หวัดลพบุรี15000 ประวตั ิการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรยี นบ้านหนองแขม ปี พ.ศ. 2560 ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 โรงเรยี นโคกกระเทียมวิทยาลยั ปี พ.ศ. 2563 ชนั้ ปวช.3 วทิ ยาลัยเทคนิคลพบุรี ปัจจบุ นั กำลงั ศกึ ษาอยู่ชั้นปวส.ปีที่ 1 วิทยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี 2. นางสาวปิยะธิดา โพธ์เิ ปี่ยม ประวตั สิ ว่ นตัว เกิดวนั ท่ี 10 มิถุนายน 2544 อายุ 19 ปี ที่อยู่ บ้านเลขท่ี 102/188 หมู่ 2 ตำบลทา่ ศาลา อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบรุ ี 15000 ประวตั กิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นไทยรัฐวิทยา 1 (บ้านหัวชา้ ง) ปี พ.ศ. 2560 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบรุ ี (วัด เมอื งใหม)่ ปี พ.ศ. 2563 ชัน้ ปวช.3 วทิ ยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปัจจุบนั กำลังศกึ ษาอยชู่ ั้นปวส.ปีที่ 1 วทิ ยาลัยเทคนิคลพบรุ ี

16 3. นางสาวพมิ พ์ผกา ชบู ุญ ประวตั สิ ว่ นตัว เกิดวันที่ 16 มีนาคม 2545 อายุ 18 ปี ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี 31 หมู่ 10 ตำบลโพธเิ์ กา้ ต้น อำเภอเมืองลพบุรี จงั หวัดลพบุรี 15000 ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นวัดโคกหมอ้ ปี พ.ศ. 2560 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 ดรงเรียนเทศบาล 4 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ปวช. 3 วิทยาลัยเทคนิคลพบรุ ี ปจั จบุ ันกำลงั ศกึ ษาอยชู่ ั้นปวส.ปที่ ่ี 1 วทิ ยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี 4. นางสาวลภัสรดา ทวีสุขวิทยา ประวัตสิ ่วนตัว เกดิ วนั ท่ี 20 มิถนุ ายน 2544 อายุ 19 ปี ท่ีอยู่ บา้ นเลขท่ี 27/1 หมู่ 1 ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบรุ ี จงั หวดั ลพบุรี 15000 ประวัตกิ ารศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนเทศบาล 3 ระบบสาธติ เทศบาลเมอื งลพบุรี ปี พ.ศ. 2560 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนเทศบาล 3 ระบบสาธิตเทศบาลเมืองลพบุรี ปี พ.ศ. 2563 ชน้ั ปวช.3 วิทยาลัยเทคนคิ ลพบุรี ปัจจุบนั กำลงั ศกึ ษาอยู่ชน้ั ปวส. 1 วทิ ยาลัยเทคนิคลพบุรี

17 5. นางสาววันวิสา ทวีบท ประวตั สิ ว่ นตัว เกดิ วันท่ี 25 กุมภาพันธ์ 2545 อายุ 18 ปี ท่อี ยู่ บา้ นเลขที่ 123 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบรุ ี จงั หวัดลพบรุ ี 15000 ประวัติการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 6 โรงเรยี นเทศบาล 3 ระบบสาธติ เทศบาลเมอื งลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2560 ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรยี นเทศบาล 3 ระบบสาธติ เทศบาลเมืองลพบรุ ี ปี พ.ศ. 2563 ชน้ั ปวช.3 วิทยาลยั เทคนิคลพบรุ ี ปจั จุบันกำลงั ศกึ ษาอยู่ชนั้ ปวส.ปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคลพบุรี 6. นางสาวอทติ ญาพร กลัดกลีบ ประวัติสว่ นตัว เกดิ วนั ท่ี 04 สงิ หาคม 2545 อายุ 18 ปี ทีอ่ ยู่ บ้านเลขท่ี 59 หมู่ 5 ตำบลดอนโพธ์ิ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000 ประวัติการศึกษา ปี พ.ศ. 2557 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ดรงเรียนวดั ใหญ่ ปี พ.ศ. 2560 ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นวดั ใดใหญ่ ปี พ.ศ. 2563 ช้นั ปวช.3 วิทยาลัยเทคนคิ ลพบรุ ี ปัจจุบันกำลงั ศึกษาอยู่ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 วิทยาลยั เทคนคิ ลพบรุ ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook