Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภัยร้ายของยาเสพติด

ภัยร้ายของยาเสพติด

Published by นุชจรี ชุ่มชื่น, 2019-12-26 01:39:30

Description: ภัยร้ายของยาเสพติด

Search

Read the Text Version

นางสาวนชุ จรี ชมุ่ ช่ืน เลขท่ี 2 นางสาวรัฐวดี โกศลเมธี เลขท่ี 5 ระดบั ช้ันประกาศนียบัตรวชิ าชีพข้นั สูงปี ที่ 2 ห้อง 2 สาขาการจัดการสานักงาน แผนกวชิ าการเลขานุการ วทิ ยาลยั อาชีวศึกษาชุมพร

ปัญหายาเสพติดเป็ นปัญหาสาคัญประการหน่ึงของประเทศ ซึ่ง บ่อนทาลายทรัพยากรและความมน่ั คงของประเทศชาตแิ ละสงั คมเป็ นอย่างมาก ได้ มีการดาเนินงานในทกุ วิถีทางที่จะป้ องกนั และปราบปามมิให้มีการเสพ การซือ้ ขาย และการผลิตยาเสพติด แต่เนื่องจากปัญหายาเสพติดเป็ นปัญหาใหม่ท่ีมีความ ยุ่งยากและสลับซับซ้อต่อการดาเนินการ และไม่ได้มีแต่ประเทศไทยแห่งเดียว เท่านนั้ ประเทศอื่นๆก็มีการเสพ การซือ้ ขาย และการผลิตยาเสพติดอย่ตู ลอดเวลา ปัจจุบนั นี ้ยาเสพติดได้เข้ามาแพร่หลายในสงั คมเราเป็ นอย่างมาก ไมว่ า่ จะเป็ นเฮโรอีน มอร์ฟี น และอ่ืนๆ อีกมากมาย ซง่ึ นอกจากผ้ใู หญ่จะติดยาเสพ ติดแล้ว ก็ยงั มีเยาวชนไทยอายนุ ้อยๆลงไปตดิ ยาเสพตดิ เหลา่ นีอ้ ีกด้วย ซงึ่ นบั ว่าเป็ น การสญู เสียทงั้ ทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม และการปกครอง เพราะนอกจากผ้เู สพยา เสพติดทงั้ หลายนี ้จะได้สามารถประกอบอาชีพทาการงานต่างๆไม่ได้แล้ว ยังก่อ อาชญากรรม ทาให้เกิดปัญหาตอ่ สงั คม กระทบกระเทือนต่อประชาชนผ้ไู ม่ได้เสพ ยาเสพตดิ อีกด้วย ดงั นนั้ ผ้จู ดั ทาจึงได้จดั ทาโครงงานเล่มนีข้ ึน้ มาเพ่ือเผยแพร่เก่ียวกบั เรื่องยาเสพตดิ

เรื่อง หน้า • ความหมายของสารเสพตดิ 5 • ประเภทของยาเสพติด 6 • ยาเสพตดิ ที่แพร่ระบาดในประเทศไทย 9 • สาเหตกุ ารติดยาเสพตดิ 16 • เส้นทางการติดยา 18 • โทษของยาเสพติด 19 • การแก้ไขปัญหายาเสพติด 21 • สิง่ ท่ีผ้ปู กครองควรทาเม่ือมีการใช้ยาเสพติดในวยั รุ่น 24

ยาเสพตดิ หมายถงึ สารใดกต็ ามท่ีเกดิ ขนึ้ ตามธรรมชาติ หรือสารที่สังเคราะห์ขนึ้ เมือ่ นาเข้าสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะโดยวธิ ีรับประทาน ดม สูบ ฉีด หรือด้วยวธิ ีการใด ๆ แล้ว ทาให้เกดิ ผลต่อร่างกายและจิตใจนอกจากนีย้ ังจะทาให้เกดิ การเสพติดได้หากใช้ สารน้ันเป็ นประจาทุกวนั หรือวนั ละหลาย ๆ คร้ัง

1. จาแนกตามการออกฤทธ์ิต่อระบบประสาท แบ่งเป็ น 4 ประเภท 1. ประเภทกดประสาท ไดแ้ ก่ ฝิ่ น มอร์ฟี น เฮโรอีน ยานอนหลบั ยาระงบั ประสาท ยากล่อม ประสาทเครื่องด่ืมมึนเมา ทุกชนิด รวมท้งั สารระเหย เช่น ทินเนอร์ แลก็ เกอร์ น้ามนั เบนซิน กาว เป็นตน้ มกั พบวา่ ผเู้ สพติดมี ร่างกายซูบซีด ผอมเหลือง อ่อนเพลีย ฟ้ ุงซ่าน อารมณ์ เปล่ียนแปลงง่าย 2. ประเภทกระตุ้นประสาท ไดแ้ ก่ ยาบา้ ยาอี กระท่อม โคเคน มกั พบวา่ ผเู้ สพติดจะมีอาการ หงุดหงิด กระวนกระวาย จิตสับสนหวาดระแวง บางคร้ังมีอาการคลุม้ คลง่ั หรือทาในส่ิงท่ีคนปกติ ไม่กลา้ ทา เช่น ทาร้ายตนเอง หรือฆ่าผอู้ ื่น เป็นตน้ 3. ประเภทหลอนประสาท ไดแ้ ก่ แอลเอสดี และ เห็ดข้ีควาย เป็นตน้ ผเู้ สพติดจะมีอาการประสาท หลอน ฝันเฟื่ องเห็นแสงสีวจิ ิตรพสิ ดาร หูแวว่ ไดย้ นิ เสียง ประหลาดหรือเห็นภาพหลอนที่น่าเกลียด น่ากลวั ควบคุมตนเองไม่ได้ ในท่ีสุดมกั ป่ วยเป็น โรคจิต 4. ประเภทออกฤทธ์ผิ สมผสาน คือท้งั กระตุน้ กดและหลอนประสาทร่วมกนั ไดแ้ ก่ ผเู้ สพติดมกั มี อาการหวาดระแวง ความคิดสบั สนเห็นภาพลวงตา หูแวว่ ควบคุมตนเองไม่ไดแ้ ละป่ วยเป็นโรคจิต ได้

2. แบ่งตามแหล่งทเ่ี กดิ ซึ่งจะแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท คือ 1. ยาเสพตดิ ธรรมชาติ (Natural Drugs) คือ ยาเสพติดท่ีผลิตมาจากพืช เช่น ฝิ่น มอร์ฟี น กระท่อม กญั ชา เป็นตน้ 2. ยาเสพตดิ สังเคราะห์ (Synthetic Drugs) คือ ยาเสพติดที่ผลิตข้ึนดว้ ยกรรมวธิ ี ทางเคมี เช่น เฮโรอีน แอมเฟตามีน ยาอี เอค็ ตาซี เป็นตน้

3. แบ่งตามกฎหมาย แบ่งตามพระราชบญั ญตั ิยาเสพติดใหโ้ ทษ พ.ศ.2522 ซ่ึงจะแบ่งออกเป็น 5 ประเภท ประเภทที่ 1 ไดแ้ ก่ เฮโรอีน แอลเอสดี แอมเฟตามีน หรือ ยาบา้ ยาอี หรือ ยาเลิฟ ประเภทที่ 2 ยาเสพติดประเภทน้ีสามารถนามาใชเ้ พ่อื ประโยชนท์ างการแพทยไ์ ด้ แต่ตอ้ งใชภ้ ายใต้ การควบคุมของแพทย์ และใชเ้ ฉพาะกรณีท่ีจาเป็นเท่าน้นั ไดแ้ ก่ ฝิ่ น มอร์ฟี น โคเคน หรือ โคคาอีน โคเคอีน และเมทาโดน ประเภทที่ 3 ยาเสพติดประเภทน้ี เป็นยาเสพติดใหโ้ ทษที่มียาเสพติดประเภทที่ 2 ผสมอยดู่ ว้ ย มีประโยชนท์ างการแพทย์ การนาไปใชเ้ พ่อื จุดประสงคอ์ ื่น หรือเพ่อื เสพติด จะมีบทลงโทษกากบั ไว้ ยาเสพติดประเภทน้ี ไดแ้ ก่ ยาแกไ้ อ ท่ีมีตวั ยาโคเคอีน ยาแกท้ อ้ งเสีย ท่ีมีฝ่ินผสมอยดู่ ว้ ย ยาฉีดระงบั ปวดต่าง ๆ เช่น มอร์ฟี น เพทิดีน ซ่ึงสกดั มาจากฝ่ิ น ประเภทที่ 4 คือสารเคมีที่ใชใ้ นการผลิตยาเสพติดใหโ้ ทษ ประเภทท่ี 1 หรือประเภทที่ 2 ยาเสพติด ประเภทน้ีไม่มีการนามาใชป้ ระโยชนใ์ นการบาบดั โรคแต่อยา่ งใด และมีบทลงโทษกากบั ไวด้ ว้ ย ไดแ้ ก่น้ายาอะเซติคแอนไฮไดรย์ และ อะเซติลคลอไรด์ ซ่ึงใชใ้ นการเปลี่ยน มอร์ฟี น เป็น เฮโรอีน สารคลอซูไดอีเฟครีน สามารถใชใ้ นการผลิต ยาบา้ ได้ และวตั ถุออกฤทธ์ิต่อจิตประสาทอีก 12 ชนิด ที่สามารถนามาผลิตยาอีและยาบา้ ได้ ประเภทท่ี 5 เป็นยาเสพติดใหโ้ ทษท่ีมิไดเ้ ขา้ ข่ายอยใู่ นยาเสพติดประเภทท่ี 1 ถึง 4 ไดแ้ ก่ ทุกส่วนของ พชื กญั ชา ทุกส่วนของพืช กระท่อม เห็ดข้ีควาย เป็นตน้

• เฮโรอีนเป็นยาเสพตดิ ท่ีได้จากการสงั เคราะห์ทางเคมี จากปฏกิ ิริยาระหว่างมอร์ฟีนกบั สารเคมี • บางชนดิ เช่น อาเซ-ตคิ แอนไฮไดรด์ (Aceticanhydride) หรือ อาเซติลคลอไรด์ (Acetylchloride) หรือเอทิลิดีนไดอาเซเตท(Ethylidinediacetate) • เฮโรอีนออกฤทธ์ิแรงกว่ามอร์ฟี นประมาณ 4-8 เทา่ และออกฤทธิ์แรงกวา่ ฝิ่ น ประมาณ 30-90 เทา่ • โดยทวั่ ไปเฮโรอีนจะมีลกั ษณะเป็นผงสีขาว สีนวล หรือสีครีม มีรสขม ไมม่ ีกล่ิน

• ยาบา้ เป็นชื่อที่ใชเ้ รียกยาเสพติดท่ีมีส่วนผสมของสารเคมี ประเภทแอมเฟตามีน (Amphetamine) • ยาบา้ จดั อยใู่ นกลุ่มยาเสพติดที่ออกฤทธ์ิกระตุน้ ประสาท มีลกั ษณะเป็นยาเมด็ กลมแบน ขนาดเลก็ มีสีต่างๆ กนั เช่น สีสม้ สีน้าตาล • มีสญั ลกั ษณ์ที่ปรากฏบนเมด็ ยา เช่น ฬ, M, PG, WY สญั ลกั ษณ์รูปดาว เป็นตน้

• ยาอี ยาเลิฟ เอค็ ซต์ าซี (Ecstasy) เป็นยาเสพติดกลุ่มเดียวกนั จะแตกต่างกนั บา้ งในดา้ น โครงสร้างทางเคมี • ลกั ษณะของยาอี มีท้งั ท่ีเป็นแคปซูลและเป็นเมด็ ยาสีต่าง ๆ แต่ที่พบในประเทศไทย ส่วน ใหญ่มีลกั ษณะเป็นเมด็ กลมแบน ผวิ เรียบ และปรากฏสญั ลกั ษณ์บนเมด็ ยาเป็นรูปต่าง ๆ เช่น หนา้ ยมิ้ ฯลฯ

• โคเคน หรือ โคคาอีนเป็นยาเสพติด ท่ีสกดั ไดจ้ ากใบของตน้ โคคา ซ่ึงเป็นตน้ ไมท้ ่ีลกั ลอบ ปลกู มากในประเทศแถบอเมริกาใต้ เช่น เปรู โบลิเวยี และโคลมั เบีย เป็นตน้ • โคเคนมีชื่อเรียกในกลุ่ม ผเู้ สพวา่ COKE, Snow, Speed Ball, Crack • โคเคนที่พบในประเทศไทย มี 2 ชนิด ไดแ้ ก่ 1. โคเคนชนิดผง มีลกั ษณะเป็นผงละเอียดสี ขาว รสขม ไม่มีกล่ิน 2. โคเคนรูปผลึกเป็นกอ้ น (Free base, Crack)

• ฝ่ินเป็นสารประกอบชนิดหน่ึง ซ่ึงไดจ้ ากยางของผลฝิ่ น ในเน้ือฝ่ิ นมีสารเคมีผสมอยมู่ ากมาย ซ่ึง ประกอบดว้ ย โปรตีน เกลือแร่ ยางและกรดอินทรียเ์ ป็นแอลคะลอยด์ (Alkaloid) ซ่ึงเป็นตวั การ สาคญั ที่ทาใหฝ้ ิ่ นกลายเป็นสารเสพติดใหโ้ ทษท่ีร้ายแรง และเป็นยาเสพติดท่ีเป็นตน้ ตอของยาเสพ ติดร้ายแรง เช่น มอร์ฟี น เฮโรอีน และโคเคอีน มีการลกั ลอบปลกู ฝิ่ น มากทางภาคเหนือของประเทศ ไทยบริเวณแนวพรมแดน ท่ีเรียกวา่ “สามเหล่ียมทองคา”

• กญั ชา มีลกั ษณะใบจะแยกออกเป็นแฉกประมาณ 5-8 แฉกคลา้ ยใบมนั สาปะหลงั ท่ีขอบใบ ทุกใบจะมีรอยหยกั ออกดอกเป็นช่อเลก็ ๆ ตามง่ามของก่ิงและกา้ น ส่วนที่คนนามาเสพ ไดแ้ ก่ส่วนของกิ่ง กา้ น ใบ และยอดช่อดอกกญั ชา • โดยนามาตากหรืออบแหง้ แลว้ บดหรือหน่ั ใหเ้ ป็นผงหยาบๆ จากน้นั จึงนามายดั ไสบ้ ุหร่ี สูบ ยงั อาจพบในรูปของ น้ามนั กญั ชา (Hashish Oil) ซ่ึงมีลกั ษณะเป็นของเหลวสี น้าตาลเขม้ หรือสีดา

• กระท่อม เป็นพืชเสพติดชนิดหน่ึง ส่วนมากพบในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในประเทศอินเดีย และในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศไทย ลกั ษณะเป็น ตน้ ไมย้ นื ตน้ ขนาดกลางมีแก่นเป็นเน้ือไมแ้ ขง็ ใชส้ ่วนของใบเป็นส่ิงเสพติด ลกั ษณะใบ คลา้ ยกระดงั งาหรือใบฝร่ังตน้ หนาทึบ ตน้ กระท่อมมี 2 ชนิด คือ กา้ นเขียวและกา้ นแดง

☻ ตวั สารและฤทธ์ิของสาร สารที่ก่อให้เกดิ การเสพตดิ เป็ นสารทอี่ อกฤทธ์ิต่อระบบประสาท เช่น เมทแอมเฟตามีน (ยาบ้า) เฮโรอีน เป็ นต้น เม่ือผู้เสพเร่ิมทดลองใช้ และได้รับฤทธ์ิของยาเสพตดิ แล้วพงึ พอใจกจ็ ะเสพ ซ้าจนเกดิ การตดิ ยาได้ ☻ ตัวผู้เสพ การทผ่ี ู้เสพหันไปเสพยาเสพติดน้ัน อาจมสี าเหตุมาจาก - สภาพร่ างกาย เช่ น ผู้ที่มีอาการป่ วยซึ่งต้ องใช้ ยาเสพติดในการ บาบดั รักษา จนนาไปสู่การติดยา เสพตดิ น้ัน เป็ นต้น - สภาพจติ ใจ ผู้ทม่ี อี ารมณ์วู่วาม เปล่ยี นแปลงเร็ว ขาดความม่ันใจ มกั จะ หันเข้าหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็ น ส่ิงยดึ เหนี่ยว ส่วนผู้ทม่ี สี ุขภาพจิตรวนเรามี ความวติ กกงั วลตลอดเวลา กจ็ ะถูกชักจูงให้เสพยาเสพตดิ ได้ง่าย และผู้ที่ ขาดความอบอุ่น หรือมีปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาเศรษฐกิจ การงาน ก็จะ ใช้สิ่งเสพติดเป็ นเครื่องปลอบใจดบั ความ ว้าวุ่นทางจิตใจให้น้อยลง

☻ สิ่งแวดล้อม ส่ิงแวดล้อมมสี ่วนสาคญั ทจี่ ะกระตุ้นหรือชักนาให้หันไปเสพยา เสพติด เช่น อาจเกดิ จากการอยากทดลองเน่ืองจากเพอ่ื นหรือผู้ใกล้ชิดเสพ และชักชวนให้เสพ หรือเกดิ จากการคกึ คะนองในช่วงวยั รุ่น และส่วนใหญ่ เกดิ จากสภาพครอบครัวที่มปี ัญหา

เสน้ ทางการติดยาต้งั แตเ่ ร่ิมเสพจนกระทงั่ ติดสามารถแบ่งได้ เป็น 4 ระยะ ไดแ้ ก่ 1. เร่ิมทดลองอยากรู้อยากเหน็ (Experiment and first-time use) เม่ือมีคนแนะนาใหท้ ดลอง ร่วมกบั ความรู้สึกอยากลอง หรือใช้ gateway drug อยแู่ ลว้ เช่น บุหรี่ เหลา้ ซ่ึงสารเหล่าน้ีทาใหเ้ กิดการเรียนรู้วา่ สารทาใหเ้ กิดความพึงพอใจ สบายไดม้ ากกวา่ ที่เป็นอยู่ หรือเพิ่มพละกาลงั ในการทางาน 2. ใช้เป็ นคร้ังคราว (Occasional use) เกิดความติดใจในผลของสารเสพติด เรียนรู้วา่ หากใชป้ ริมาณมากข้ึนกจ็ ะไดร้ ับผลความรู้สึกดีมากข้ึน เกิดความรู้สึกเป็น มีความสุขอยา่ งมาก 3. ใช้สมา่ เสมอใช้อย่างพร่าเพรื่อ (Regular use) หมกมุ่นกบั การหาสารมาเสพ มีอาการเมายา การทางาน การเรียนแยล่ ง สมั พนั ธภาพกบั คนรอบขา้ งไม่ดี ใชจ้ ่ายเงินเปลือง อาจถูกจบั เนื่องจากเสพหรือคา้ 4. เกดิ ภาวะพงึ่ พาสุรายาเสพตดิ (Dependence) ใชส้ ารมาอยา่ งต่อเน่ือง ยาวนาน จนเกิดอาการทนต่อยา (Tolerance) และภาวะถอนยา (Withdraw) หรือ มีการใชเ้ กินขนาด (Drug Overdose) โดยไม่ต้งั ใจ

☻ ผลต่อผู้เสพ ยาเสพติดทาให้ สุ ขภาพของผู้เสพติดเส่ื อมโทรมอย่ าง รวดเร็ว ความต้านทานโรค น้อยกว่าปกติ ทาให้ติดเชื้อได้ง่าย ส่วนมากมักจะเป็ นโรคผิวหนัง โรคทางเดินอาหาร วัณโรค อารมณ์ แปรปรวนง่าย ซึมเศร้า วติ กกงั วล บุคลกิ ภาพสูญเสีย

☻ ผลต่อเศรษฐกจิ และสังคม การท่ีมียาเสพติดแพร่ ระบาดในประเทศ ทาให้ รัฐต้อง สูญเสีย งบประมาณและเจ้าหน้าที่จานวนมากในการป้ องกันและ ปราบปรามยาเสพติด และตัวผู้เสพก็มีพฤติกรรมท่ีก่อให้เกิด ปัญหา สังคมด้วยการก่ออาชญากรรม ลกั เลก็ ขโมยน้อย หรือทาให้เกิดอุบตั ิเหตุ ต่าง ๆ ซ่ึงผลกระทบของปัญหาเหล่านี้ อาจมีความรุนแรงจนนาไปสู่ ปัญหาเกย่ี วกบั ความมนั่ คงของชาติได้

การป้ องกนั อาจทาได้หลายวธิ ี ได้แก่ • การสร้างภูมคิ ุ้มกนั ทางปัญญา คอื การให้ความรู้เกยี่ วกบั ยาเสพตดิ ให้โทษ เช่น โทษและอนั ตราย ของยาเสพตดิ รูปลกั ษณะของยาเสพติด การป้ องกนั ตนเองให้พ้นจากยาเสพตดิ เป็ นต้น • การส่งเสริมสถาบันครอบครัว คอื การส่งเสริมและสนับสนุนให้ทกุ คนเห็นความสาคญั ของสถาบัน ครอบครัว ความรัก ความอบอ่นุ และความเอาใจใส่ของคนในครอบครัวจะมสี ่วนช่วยป้ องกนั ไม่ให้เกดิ การ เสพยาเสพ • ตดิ ได้เป็ นอย่างมาก และควรสนับสนุนให้สมาชิกในครอบครัวหันไปสนใจในเรื่องกฬี าและออกกาลงั กายในยามว่าง • จะได้มสี ุขภาพดี อารมณ์แจ่มใส และไม่ไปสนใจกบั ยาเสพติด • การป้ องกนั มใิ ห้มกี ารลกั ลอบผลติ และจาหน่ายยาเสพตดิ คอื การควบคุมสารสาคญั และ สารประกอบทใี่ ช้ในการผลติ ยาเสพตดิ ให้โทษอย่างเข้มงวด มกี ารก าหนดบทลงโทษแก่ผู้กระทาผดิ อย่าง รุนแรง

การปราบปรามผู้ทล่ี กั ลอบผลติ นาเข้าและจาหน่ายยาเสพ ตดิ อย่างจริงจังและต่อเนื่อง การต้ังสินบนรางวลั นาจบั แก่ผู้ให้ เบาะแสและผู้จบั กมุ ผู้กระทาผดิ และมกี ารลงโทษแก่ผู้กระทาผดิ อย่าง รุนแรง

ผู้ทเี่ สพยาเสพตดิ ทตี่ ้องการจะเลกิ เสพยา ทางการแพทย์และทาง ราชการให้ถือว่าบุคคลเหล่าน้ันเป็ นผู้ป่ วย สามารถเข้ารับการบาบดั รักษาใน สถานพยาบาลรักษาผู้ตดิ ยาเสพติดท้งั ภาครัฐและเอกชนทม่ี อี ยู่ทว่ั ประเทศ ซ่ึงเมอ่ื บาบดั รักษาและฟื้ นฟูสมรรถภาพจนหายแล้ว กจ็ ะสามารถกลบั ไป ดาเนินชีวติ ได้ตามปกติ และเป็ นคนดขี องสังคมต่อไป

เม่ือผปู้ กครองทราบถึงการใช้ยาเสพติดของวยั แลว้ ควรหาวิธี ในการรับมืออยา่ งเหมาะสม โดยอาจทาได้ ดงั น้ี  สอบถามถึงปัญหาที่เกิด และพดู คุยอยา่ งใจเยน็ ใชเ้ หตุผล และ ควรช้ีใหเ้ ห็นถึงโทษและผลกระทบของยาเสพติด ใชว้ ธิ ีท่ีสร้างสรรค์ ที่ไม่ก่อใหเ้ กิดความรุนแรงท้งั ทางร่างกายและจิตใจ  ทาความเขา้ ใจในตวั เดก็ วยั รุ่น เพราะถึงแมว้ า่ ยาเสพติดจะเป็นสิ่งท่ี อนั ตรายแต่นน่ั ไม่ไดห้ มายความวา่ เดก็ คนน้นั จะตอ้ งเป็นคนไม่ดีเสมอไป  เขา้ รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ โนม้ นา้ วและใหก้ าลงั ใจเขา อยเู่ สมอ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook