ทำเนียบแหล่งเรียนรู้อำเภอนาวังเดือนพฤษาคม

ทำเนยี บแหล่งเรยี นรอู้ ำเภอนำวงั ประจำเดอื นพฤษภำคม 2563 ศนู ยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศยั อำเภอนำวงั สำนักงำน กศน. จังหวดั หนองบัวลำภู กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร

คำนำ \"แหล่งเรียนรู้\" หมายถึง แหล่งข้อมูลข่าวสาร สารสนเทศ และประสบการณ์ ที่สนับสนุนส่งเสริมให้ ผู้เรียนใฝ่เรียน ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้และเรียนรู้ด้วยตนเองตามอัธยาศัย อย่างกว้างขวางและต่อเน่ือง เพื่อ เสริมสร้างให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ และเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ เป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ท่ี ประชาชนสามารถหาความรู้ได้ด้วยตนเอง แหล่งเรียนรู้เล่มน้ี จัดทาข้ึนเพ่ือส่งเสริมให้ชุมชนและสังคม มี แหล่งการเรียนรู้เพอ่ื การศึกษาท่ีหลากหลาย สามาเรียนรู้ไดไ้ ด้ตลอดชีวติ เป็นเคร่ืองมอื ท่สี าคัญของบุคคลแห่ง การเรียนรู้ ในการหาความรูเ้ พอ่ื พฒั นาตนเอง ทง้ั ๕ ตาบลในอาเภอนาวงั ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอนาวัง จึงได้จัดทาทาเนียบแหล่งเรียนรู้ ของอาเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลาภู ซ่ึงเป็นแหล่งข้อมูลที่รวบรวมภูมิปัญญาท้องถ่ิน ทั้ง ๙ ด้านซ่ึง ประกอบด้วย ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ดา้ นการแพทย์แผนไทย ด้านการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดล้อม ดา้ นกองทุนและธุรกิจชุมชน ด้านศิลปกรรม ด้านภาษาและวรรณกรรม ด้านปรัชญา ศาสนาและประเพณี ด้านโภชนาการ ทั้ง ๙ ด้านน้ี พร้อมให้ผู้ท่ีสนใจศึกษา ค้นคว้า ด้วย กระบวนการจัดการเรยี นรู้ทีแ่ ตกตา่ งกัน ปลูกฝังให้ผูท้ ่มี าศึกษาได้รูแ้ ละรักและเหน็ คุณค่าในทอ้ งถ่ินของตนเอง การรวบรวมจัดทาเอกสารเก่ียวกับแหล่งเรียนรู้เล่มนี้ ได้รับความร่วมมือจากองค์กรในพื้นที่ รวมท้ัง ผอู้ านวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอนาวัง ทไี่ ด้ใหข้ อ้ คดิ เหน็ ขอ้ เสนอแนะ และแนวทางในการปฏิบัติงานให้มีความชดั เจนในการปฏิบตั งิ านมากย่งิ ข้ึน จงึ ขอขอบพระคุณทุกท่านท่ีมสี ว่ นเกี่ยวข้อง ณ โอกาสนี้ ซึงหวังว่าเอกสารเล่มนจ้ี ะเป็นประโยชนใ์ น การนาไปเป็นข้อมูลพ้ืนฐานในการพัฒนางานให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายและสามารถ ดาเนินการได้อยา่ งมปี ระสิทธผิ ลยงิ่ ขน้ึ กล่มุ งานการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอนาวัง ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอนาวงั

สำรบัญ เรื่อง หนำ้ แหล่งเรียนรู้ / ภูมิปญั ญำท้องถน่ิ ตำบลวังปลำป้อม - ด้านการแพทย์แผนไทย สาขาสุขภาพจติ ในชมุ ชน…………………………………………………………. 1 แหลง่ เรยี นรู้ / ภูมปิ ญั ญำท้องถ่นิ ตำบลเทพศรี ี - ดา้ นเกษตรกรรม สาขาการเล้ียงกบในบอ่ ซเี มนต์……………………………………………………………… 5 แหลง่ เรยี นรู้ / ภูมปิ ญั ญำท้องถ่นิ ตำบลนำเหลำ่ - ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม สาขา การทอผ้าพ้นื เมอื ง…………………………………………………9 แหลง่ เรยี นรู้ / ภมู ิปัญญำท้องถ่นิ ตำบลนำแก - ด้านดา้ นการท่องเทยี่ ว สาขา วดั ถ้าผาเวยี ง………………………………………………………………………11 แหลง่ เรยี นรู้ / ภมู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่นิ ตำบลวงั ทอง - ด้านปรชั ญา ศาสนาและประเพณี สาขา ศาสนา…………………………………………………………… 13

1 ประวตั แิ ละผลงำนครภู ูมิปญั ญำท้องถิน่ จังหวัดหนองบวั ลำภู ด้ำนกำรแพทยแ์ ผนไทย แหลง่ เรียนรู้ / ภมู ปิ ัญญำทอ้ งถิ่น ตำบลวงั ปลำปอ้ ม อำสำสมคั รสำธำรณสขุ ประจำหมู่บำ้ นดเี ด่น (อสม.) ประจำปี 2563 สำขำ สุขภำพจิตในชมุ ชน นำงเสำวลกั ษณ์ แบ่งคอนสำร ประวัติและผลงำนครูภูมิปัญญำท้องถน่ิ จงั หวดั หนองบัวลำภู ด้ำนกำรแพทยแ์ ผนไทย อำสำสมัครสำธำรณสุขประจำหมบู่ ้ำนดีเดน่ (อสม.) ประจำปี 2563 สำขำ สุขภำพจิตในชุมชน

2 1. ประวตั แิ ละผลงำน นางเสาวลักษณ์ แบง่ คอนสาร 56/1 ปัจจุบันอยู่ บ้านโคกเจริญ หมู่ 2 ตาบลวังปลา ปอ้ ม อาเภอนาวัง จังหวัดหนองบวั ลาภู 39170 การศกึ ษา ระดับปรญิ ญาตรี นางเสาวลกั ษณ์ แบง่ คอนสาร เป็นบคุ คลทน่ี ่ายกยอ่ ง ดารงตาแหน่ง ครูภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ทางดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย สาขา สุขภาพจิตในชุมชน มีหนว่ ยงานต่างๆ ใหค้ วามสนใจเข้ามาศึกษา ค้นควา้ กบั ครูภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ อย่างมากมาย เช่น เป็นวทิ ยากรใหก้ บั กล่มุ สนใจของ กศน. พัฒนาชมุ ชนและกรม พัฒนาฝมี อื แรงงานจงั หวัดหนองบวั ลาภู 2. องค์ควำมรูแ้ ละควำมชำนำญ นางเสาวลกั ษณ์ แบง่ คอนสาร มีความรู้ด้านทางด้านการแพทย์แผนไทย สาขา สุขภาพจติ ในชมุ ชน 3. กำรถ่ำยทอดควำมรแู้ ละควำมเชีย่ วชำญ นางเสาวลักษณ์ แบ่งคอนสำร มีความรู้ทางดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย สาขา สุขภาพจิตในชมุ ชน 4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสร้ำงเครือข่ำย มีหนว่ ยงานของรฐั เอกชนและกลุม่ สนใจจากส่วนราชการตา่ ง ๆ ใหค้ วามสนใจ และเปน็ แหลง่ ศึกษา คน้ คว้าหาความรู้ให้กับนักเรียน นกั ศึกษาและประชาชนท่วั ไปท่สี นใจศกึ ษา ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอนาวัง ได้นานกั ศกึ ษาศกึ ษา เรยี นรู้ ทางดา้ นการแพทย์แผนไทย สาขา สุขภาพจิต ในชมุ ชน จาก อาสาสมัครสาธารณสขุ ประจาหมู่บ้าน บา้ นโคกเจริญ หมู่ท่ี 2 ต.วังปลาป้อม อ.นาวัง จ. หนองบวั ลาภู 5. ผลงำนท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อชุมชนและสังคม ชว่ ยเป็นวิทยากร ให้กับ กศน. ในด้านสุขภาวะอนามยั ในชมุ ชน และกลมุ่ ผทู้ ี่สนใจในงานด้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมบู่ า้ น ชมุ ชนสาขาสขุ ภาพจิตในชุมชน 6. รำงวลั หรือเกยี รติคณุ ที่ได้รบั ไดร้ ับการยกยอ่ งใหเ้ ปน็ บุคคลทม่ี คี วามรู้ ความสามารถในหลายๆด้าน และได้รับรางวลั ในดา้ นต่างๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี -รางวัลประจาปี 2560 รางวัลองค์กรอาสาพัฒนาชมุ ชนชนะเลศิ อันดบั ที่ 1 -รางวัลประจาปี 2562 รางวัลชนะเลิศประกวด อสม.ระดับเขต เขต 8 จังหวัดขอนแกน่

3 เข้ารบั รางวลั อาสาสมัครสาธารณสขุ ประจาหมู่บ้านดเี ดน่ (อสม.) ประจาปี 2563

4

5 ประวัตแิ ละผลงำนครภู มู ิปญั ญำทอ้ งถ่นิ กศน.ตำบลเทพครี ี ดำ้ นเกษตรกรรม สำขำ กำรเลย้ี งกบในบ่อซีเมนต์ นำงบัวรนิ จมู้ กระโทก เบอรโ์ ทรศพั ท์ 081-2623775 ต.เทพครี ี อ.นำวงั จ.หนองบัวลำภู

6 นำงบัวรนิ จู้มกระโทก ประวตั ิและผลงำนครภู มู ิปญั ญำท้องถ่ินจงั หวัดหนองบัวลำภู ด้ำนเกษตรกรรม สำขำ กำรเล้ียงกบในบอ่ ซีเมนต์ 1. ประวตั ิและผลงำน นางบวั ริน จมู้ กระโทก เกิดเม่อื วันที่ 28 กมุ ภาพันธ์ 2502 อายุ 61 ปี เกดิ ที่บา้ นวงั โปร่ง หมู่ท่ี 4 ตาบลเทพคีรี อาเภอนาวงั จังหวัดหนองบวั ลาภู บดิ า ชอื่ นายกลา้ นามวงศ์ มารดา ช่ือ นางจาปา นามวงศ์ อยบู่ า้ นเลขที่ 237 หมทู่ ่ี 4 ตาบลเทพคีรี อาเภอนาวัง จังหวดั หนองบัวลาภู นางบัวริน จ้มู กระโทก เกดิ ในตระกูลชาวนา เรยี นจบมธั ยมศึกษาตอนปลาย มีผลงานในการเลี้ยงกบ ในบ่อซีเมนต์ ต้ังแต่ พ.ศ.2550 จนถงึ ปจั จบุ ัน รวม 8 ปี และได้อุทศิ ตนเพือ่ สงั คมมาโดยตลอด เปน็ วิทยากรการ เล้ยี งกบในบ่อซเี มนต์ ใหก้ บั ประชาชนในพนื้ ที่มาโดยตลอด เช่น สานักงานพฒั นาชมุ ชน ศูนยก์ ารศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั อาเภอนาวัง 2. องคค์ วำมรู้และควำมชำนำญ นางบวั รนิ จมู้ กระโทก มอี งคค์ วามรูแ้ ละความเช่ียวชาญที่นาไปถ่ายทอดให้แกผ่ ู้เรยี นและผู้สนใจองค์ ความรปู้ ระกอบด้วย - การเพาะเล้ียงลกู ออ๊ ด - การเลี้ยงกบ - การเพาะเลีย้ งพอ่ แมพ่ ันธกุ์ บ จดุ เด่น คือมีการเพาะเล้ียงกบไวเ้ ปน็ อาหารเพือ่ บรโิ ภคในครัวเรือนได้ตลอดเวลา และทาใหไ้ ด้ ผลิตภัณฑท์ ี่มคี ุณภาพในการก่อไปประกอบอาหารได้เป็นอยา่ งดี เป็นวทิ ยากรถา่ ยทอดความรู้ใหก้ ับประชาชน ในพนื้ ที่ จานวน 25 คน 3. กำรถ่ำยทอดควำมร้แู ละควำมเชี่ยวชำญ นางบวั รนิ จู้มกระโทก มเี ครือขา่ ยและมีวิธีการสรา้ งเครือข่าย ดังน้ี -ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอนาวัง -สานกั งานพัฒนาชุมชนอาเภอนาวงั -องค์การบรหิ ารสว่ นตาบลเทพคีรี -กลุ่มเกษตรกรตาบลเทพครี ี

7 4. ลกั ษณะของเครือข่ำยและกำรสรำ้ งเครือข่ำย นางบัวรนิ จู้มกระโทก มีการสร้างเครือขา่ ยโยการไปเป็นวิทยากรการเลีย้ งกบในบอ่ ซเี มนต์ ตาม หมบู่ ้านและหนว่ ยงานต่างๆ ที่ใหค้ วามสนใจ และใชบ้ า้ นตนเองเปน็ แหล่งเรียนรูใ้ นการเลี้ยงกบและจาหน่าย ให้กับประขาชนในพืน้ ทีอ่ าเภอนาวังท่ีสนใจ และได้เพาะเล้ยี งไว้จาหนา่ ยให้กับแม่ค้าเพอ่ื จาหนา่ ยตามตลาดนดั คลองถม 5. ผลงำนท่ีเปน็ ประโยชนต์ อ่ ชุมชนและสงั คม นางบวั รนิ จู้มกระโทก มีผลงานทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อชุมชน/สงั คม ดงั น้ี ไดอ้ ทุ ิศตนในการเปน็ วทิ ยากร การเลี้ยงกบให้แกบ่ ุคคลในชุมชนและเปน็ วิทยากรใหแ้ ก่ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาเภอนาวัง ปลี ะไม่น้อยกว่า 25 คน 6. รำงวลั หรอื เกยี รติคณุ ทไี่ ด้รบั พ.ศ.2560 เป็นวิทยากรวชิ าชพี ระยะส้นั จาก กศน.อาเภอนาวงั พ.ศ.2562 เปน็ ปราชญ/์ ภูมิปญั ญาท้องถิ่น ใหก้ บั โรงเรยี นชมุ ชนโปรง่ วงั ม่วง

8

9 ประวัตแิ ละผลงำนครภู มู ปิ ญั ญำท้องถ่ินจังหวดั หนองบวั ลำภู กศน.ตำบลนำเหลำ่ ด้ำนอุตสำหกรรมและหัตถกรรม สำขำ กำรทอผำ้ พื้นเมือง นำงฉลำด หลอดแกว้ เบอร์โทรศัพท์ 086-7576877 ต.นำเหล่ำ อ.นำวงั จ.หนองบัวลำภู

10 ประวตั แิ ละผลงำนครภู ูมิปญั ญำท้องถ่นิ จงั หวดั หนองบวั ลำภู ดำ้ นอุตสำหกรรมและหตั ถกรรม สำขำ กำรทอผ้ำพน้ื เมือง 1. ประวัติและผลงำน นางฉลาด หลอดแก้ว ปัจจบุ ันอย่บู า้ นเลขที่ 208 หมู่ที่ 7 บ้านนากลาง ตาบลวังนาเหล่า อาเภอ นาวัง จงั หวดั หนองบัวลาภู 39170 การศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น นางฉลาด หลอดแก้ว เป็นบุคคลที่นา่ ยกย่อง ดารงตาแหนง่ ครภู มู ปิ ญั ญาทอ้ งถ่นิ ทางด้านการทอ ผา้ พ้ืนเมอื ง การแปรรูปผ้าขาวม้า มีหน่วยงานต่างๆ ใหค้ วามสนใจเขา้ มาศกึ ษา คน้ ควา้ กบั ครภู ูมปิ ัญญา ทอ้ งถ่นิ อยา่ งมากมาย เชน่ เปน็ วิทยากรให้กับกลุม่ สนใจของ กศน. พัฒนาชมุ ชนและกรมพฒั นาฝมี อื แรงงาน จงั หวดั หนองบัวลาภู 2. องค์ควำมรแู้ ละควำมชำนำญ นำงฉลำด หลอดแก้ว มคี วำมรู้ด้ำนกำรทอผ้ำพื้นเมืองลวดลำยต่ำงๆ และกำรแปรรูปผ้ำขำวมำ้ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรู้และควำมเช่ยี วชำญ นำงฉลำด หลอดแกว้ มคี วามเชีย่ วชาญดา้ นการทอผา้ และแปรรูปผ้า 4. ลักษณะของเครือข่ำยและกำรสรำ้ งเครอื ข่ำย มหี นว่ ยงานของรัฐ เอกชนและกลมุ่ สนใจจากสว่ นราชการตา่ ง ๆ ให้ความสนใจ และเปน็ แหล่งศกึ ษา คน้ คว้าหาความรู้ใหก้ บั นกั เรยี น นักศกึ ษาและประชาชนทว่ั ไปทส่ี นใจเข้าฝึกทอผ้าขาวม้าและแปรรูปผา้ ขาวม้า ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอนาวัง ได้นานักศกึ ษาศึกษาดงู านในหลกั สตู รการทอ ผ้าขาวมา้ โดยกลุ่มทอผ้าขาวมา้ บ้านนากลาง หมู่ที่ 7 ต.นาเหลา่ อ.นาวัง จ.หนองบวั ลาภู 5. ผลงำนที่เป็นประโยชนต์ ่อชมุ ชนและสงั คม ชว่ ยเป็นวิทยากรในชมุ ชนให้กบั กล่มุ ผู้ที่สนใจในหลกั สตู รการทอผ้าขาวม้า และการแปรรูปผา้ ขาวม้า 6. รำงวลั หรือเกยี รติคุณทไ่ี ด้รบั ได้รบั การยกยอ่ งใหเ้ ป็นบุคคลท่ีมคี วามรู้ ความสามารถในดา้ นการทอผา้ และแปรรูปผา้ ทุกประเภท และไดเ้ ป็นวทิ ยากรให้ความร้เู กีย่ วกับการทอผา้ ทุกประเภท

11

12 แหล่งเรียนรู้ / ภมู ปิ ัญญำท้องถิน่ ตำบลนำแก ดำ้ นกำรท่องเทย่ี ว สำขำ วัดถ้ำผำเวียง รำยละเอยี ด วัดถ้าผาเวียงอยู่ในเขตบ้านผาเวียง ตาบลนาแก อาเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลาภู ภายในบริเวณวัด จะมีถา้ ผาเวยี งและมถี ้าขนาดใหญ่ทเ่ี รยี กวา่ \"ถ้าผากลาง\"มีบนั ใดคอนกรตี ขน้ึ ถึง ปากถา้ ถายในถ้ามีหินงอกหิน ย้อยสวยงามมาก และยังมีถา้ ธรรมมาสน์ ถ้าประทุนถ้าเพยี งดิน ถ้าคอกเน้ือใหญ่ ถ้าคอกเน้อื น้อยและมถี ้าเล็ก ถ้านอ้ ยกว่าอกี ๔๐ ถา้ ผาเวียงมีตานานเลา่ ขานถึงความเป็นมา ที่ได้ช่ือว่าผาเวยี ง ว่า สมัยก่อนมีพญานาคท่ีมา จากนครเวียงจันทน์ ชอื่ วา่ อ้ายโกย่ ซึ่งอ้ายโกย่ จะมีศัตรชู ่ือพญานาคเหล็กชีดา้ มแตก ซึง่ พญานาคท้งั สองไดส้ ู้รบ กันมาตลอดจนอ้ายโก่ยคิดจะยอมแพ้เหล็กชีด้ามแตก โดยจะมอบแม่น้าโขงให้เป็นทาง สัญจรของเหลก็ ชีด้าม แตก แตย่ ังไม่ทันทอี่ ้ายโก่ยจะยอมแพ้ กไ็ ด้พบชายชราผหู้ น่ึงซ่ึงชายชราผู้นั้นไดบ้ อกกับอ้ายโก่ยวา่ จะชว่ ยเหลือ จนกระท่ังท้ังสองกาลังสรู้ บกนั อยู่บนหน้าผาแหง่ หน่งึ ชายชราก็ไดช้ ว่ ยเหลอื อา้ ยโก่ยโดยการใชห้ น้าไม้ยงิ หนา้ ไม้ ไปท่ีตาของพญานาค เหล็กชีด้ามแตก จนพ่ายแพไ้ ป หลังจากนัน้ อ้ายโกย่ จึงไดเ้ ห็นสถานที่ที่ตนเองรบชนะ ก็คือ ผาเวียงในปจั จุบนั จงึ ได้สรา้ งถ้าเป็นที่อยู่อาศัยอีกหลายๆ ถา้ จงึ กลายเป็นถ้าต่าง ๆ ทอ่ี ยู่ในบริเวณผาเวียงอีก มากมาย และได้ต้ังชื่อผาแห่งน้ีว่า “ผาอ้ายโก่ยเวียงจันทน์” ซ่ึงได้กลายมาเป็น “ผาเวียง” ในปัจจุบันการ เดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข ๒๑๐ (หนองบัวลาภู –เลย ) ถึงบ้านเทพคีรี แยกขวาเข้าไปอีกประมาณ ๑๕ กิโลเมตร รวมหา่ งจากตัวเมอื ง หนองบัวลาภู ประมาณ ๕๕ กิโลเมตร ลกั ษณะเดน่ -มีถา้ ผากลางทใี่ หญ่และงดงาม - มีหนิ งอกหนิ ย้อย ประวตั ิ ถ้าผาเวียง อย่หู ม่ทู ่ี 9 ในเขตบา้ นผาเวยี ง ตาบลนาแก มลี กั ษณะเป็นทวิ เขาที่มีทศั นยี ภาพงดงามมาก ชาวบ้านเรยี กกันว่าภผู าเวียง และยังเป็นท่ตี ัง้ ของวดั ถา้ ผาเวียง ภายในถา้ ประดับประดาดว้ ยหนิ งอกหนิ ยอ้ ย งดงามมาก นอกจากน้ยี งั มีถา้ อน่ื ๆ บรเิ วณใกลเ้ คียงอกี เช่น ถา้ ผากลาง ถ้าธรรมมาสน์ ถา้ ประทุน ถา้ คอกเนื้อ ใหญ่ ถ้าค้างคาว เปน็ ตน้ การเดินทาง ตามทางหลวงหมายเลข 210 (หนองบวั -ลาภู-เลย) ห่างจากตัวเมือง หนองบัวลาภู 55 กิโลเมตร

13 ประวัติและผลงำนครภู มู ปิ ญั ญำทอ้ งถ่ินจังหวัดหนองบัวลำภู แหลง่ เรยี นรู้ / ภมู ิปญั ญำท้องถ่นิ ตำบลวังทอง ด้ำนปรัชญำ ศำสนำและประเพณี สำขำ ศำสนำ 1. ประวัติและผลงำน วดั ทรงธรรรมบรรพต ตัง้ อยู่บา้ นวงั สาราญ หมู่ 2 ตาบลวังทอง อาเภอนาวัง จังหวัดหนองบวั ลาภู วัดทรงธรรมบรรพต เปน็ วดั ราษฎร์ สังกัดคณะสงฆฝ์ า่ ยมหานกิ าย สานกั ปฏบิ ัตธิ รรมประจาจังหวดั หนองบัวลาภู แห่งที่ 20 มีคาขวัญว่า “ดินแดนแห่งตอไมใ้ หญ่ สดใสดว้ ยพุทธรรม เลศิ ลา้ ด้วยหินเป็ด 800 ล้านปี ประเพณบี ญุ คูนลาน หมู่บ้านส่งเสรมิ วฒั นธรรมอีสาน” ไหวพ้ ระ แกว้ ศักดส์ิ ิทธิใ์ นอุโบสถ และฟงั ธรรม โอวาทจากพระคุณเจ้า เยี่ยมชมศนู ยว์ ฒั นธรรมไทยสายใยชุมชนตาบลวังทอง กลุ่มและภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ คน อีสานภายในชมุ ชน 2. องคค์ วำมรู้และควำมชำนำญ วัดทรงธรรมบรรพต เป็นศนู ยว์ ัฒนธรรมไทยสายใยชมุ ชนวัดทรงธรรมบรรพต เป็นสถานที่ จัดตง้ั โครงการวฒั นธรรมไทยสายใยชุมชน ตาบลวงั ทองโดยได้จัดตง้ั โครงการขนึ้ เม่ือ วนั ที่ 26 กนั ยายน 2551 และ ได้รับการคัดเลอื กให้เปน็ โครงการวฒั นธรรมไทยสายใยชุมชนระดับดเี ด่นของจงั หวดั และในปี 2554 ไดร้ ับ คัดเลอื กให้เปน็ โครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน ระดับ 4 ได้รับโล่จากกรมส่งเสรมิ วัฒนธรรม กระทรวง วัฒนธรรม โดยมี พระครปู ระทปี ธรรมธร เป็นเจา้ อาวาส และประธานโครงการ 3. กำรถ่ำยทอดควำมรูแ้ ละควำมเชย่ี วชำญ วัดทรงธรรมบรรพต เป็นศูนย์วฒั นธรรมไทยสายใยชุมชนวดั ทรงธรรมบรรพต เป็นสถานท่ี จัดต้ัง โครงการวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชน 4. ลักษณะของเครือขำ่ ยและกำรสรำ้ งเครือข่ำย มีหนว่ ยงานของรฐั เอกชนและกลุม่ สนใจต่าง ๆ ให้ความสนใจ และเขา้ มาปฏิบัตธิ รรมในวดั แหง่ นี้ 5. ผลงำนท่เี ปน็ ประโยชน์ต่อชมุ ชนและสังคม เป็นศนู ยว์ ฒั นธรรมไทยสายใยชุมชนวดั ทรงธรรมบรรพต 6. รำงวลั หรอื เกยี รติคณุ ทีไ่ ด้รบั ไดร้ ับการยกย่องให้เปน็ สถานท่ีทีใ่ ห้ความรู้ และสถานทป่ี ฏิบัติธรรม

14