แนวข้อสอบสมรรถนะด้านกม.ระเบียบสายบริหารห

หน้า 1 แนวข้อสอบสมรรถนะดา้ นกฎหมายและระเบียบสำหรบั สายบริหารทอ้ งถิ่นหรืออำนวยการท้องถิ่น (ชุดท่ี 1) 001 การจัดตงั้ องค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ แต่ละรูปแบบนอกจากต้องคำนงึ ถึงเจตนารมณ์ของประชาชนใน ทอ้ งถิ่นแล้ว จะตอ้ งคำนึงถงึ ความสามารถตอ่ ไปน้ีด้วย ยกเว้นข้อใดที่ไมต่ ้องคำนงึ ถึง ก.ด้านรายได้ ข.จำนวนความหนาแนน่ ของประชากร ค.พื้นท่แี ละการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ง.พื้นทท่ี ่รี ับผิดชอบ ตอบ ค. พื้นทแ่ี ละการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ อธบิ ายตาม รฐน.พ.ศ. 2560 มาตรา 249 ภายใตบ้ ังคบั มาตรา 1 ใหม้ ีการจดั การปกครองสว่ นท้องถนิ่ ตามหลักแห่ง การปกครองตนเองตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น ทั้งนี้ ตามวิธีการและรูปแบบองค์กร ปกครองส่วน ท้องถนิ่ ท่ีกฎหมายบัญญัติ การจัดตงั้ องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ในรูปแบบใดให้คำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชน ในท้องถิ่น และความสามารถในการปกครองตนเองในด้านรายได้ จำนวนและความหนาแน่นของประชากรและ พ้นื ท่ที ี่ตอ้ งรับผดิ ชอบประกอบกัน 002 กฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของหน่วยงานของรัฐ รัฐธรรมนูญบัญญัติว่าให้เป็นไปตาม ระบบคุณธรรม ซงึ่ อย่างน้อยตอ้ งมีมาตราการตามข้อใด ก. ปอ้ งกันการทุจริต ข. ป้องกนั การใชอ้ ำนาจแทรกแซง ค. ป้องกนั การเลอื กปฏบิ ัติ ง. ป้องกนั มิใหเ้ กิดการกลนั่ แกล้ง ตอบ ข. ป้องกันการใช้อำนาจแทรกแซง อธิบายตาม รฐน.พ.ศ. 2560 มาตรา 76 รัฐพึงพัฒนาระบบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งราชการส่วนกลาง ส่วน ภูมภิ าค ส่วนท้องถน่ิ และงานของรัฐอย่างอ่ืน ให้เปน็ ไปตามหลกั การบรหิ ารกิจการบา้ นเมืองทด่ี ี โดยหนว่ ยงานของ รัฐ ต้องรว่ มมือและชว่ ยเหลอื กนั ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ เพอื่ ให้การบริหารราชการแผ่นดนิ การจัดทำบรกิ ารสาธารณะ และการใช้จ่ายเงินงบประมาณมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน รวมตลอดทั้งพัฒนา เจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีทัศนคติเป็นผู้ให้บริการประชาชนให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว ไม่ เลือกปฏิบัติ และปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ /รัฐพึงดำเนินการให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ของหน่วยงานของรัฐ ให้เป็นไป ตามระบบคุณธรรม โดยกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีมาตรการป้องกันมิให้ ผู้ใดใช้อำนาจ หรือกระทำการ โดยมิชอบที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ หรือกระบวนการ แตง่ ตั้งหรอื การพจิ ารณาความดีความชอบของเจา้ หน้าที่ของรฐั กลุม่ สิงห์ทอง ทอ้ งถิน่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 2 003 รัฐธรรมนูญบัญญัติหน้าที่ของบุคคลไว้ในหมวด 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของ บุคคลตามบทบญั ญัติดงั กลา่ ว ก. เข้ารบั การศกึ ษาอบรมในการศกึ ษาภาคบงั คับ ข. รว่ มมอื และสนบั สนุนการอนุรักษแ์ ละคุ้มครองสง่ิ แวดลอ้ มทรพั ยากรธรรมชาติ ค.ไม่ร่วมมอื หรือสนับสนนุ การทจุ รติ และประพฤติมชิ อบทุกรปู แบบ ง.เสนอเร่อื งราวร้องทกุ ขต์ อ่ หน่วยงานของรฐั และได้รบั แจ้งผลการพจิ ารณาโดยรวดเร็ว ตอบ ง.เสนอเรื่องราวรอ้ งทกุ ข์ต่อหน่วยงานของรฐั และได้รบั แจ้งผลการพิจารณาโดยรวดเร็ว อธิบายตาม รฐน.พ.ศ. 2560 มาตรา 41 บคุ คลและชมุ ชนย่อมมีสิทธิ (1) ไดร้ บั ทราบและเขา้ ถงึ ข้อมูลหรือข่าวสาร สาธารณะในครอบครองของหนว่ ยงานของรัฐ ตามท่ีกฎหมายบัญญัติ (2) เสนอเรือ่ งราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานของ รัฐและได้รับแจง้ ผลการพิจารณาโดยรวดเรว็ (3) ฟ้องหนว่ ยงานของรัฐใหร้ ับผิดเนื่องจากการกระทำหรือการละเว้น การกระทำของข้าราชการ พนกั งาน หรือลูกจา้ งของหน่วยงานของรัฐ เป็นสิทธิ ส่วนข้อ ก . ข. และ ค. เปน็ หน้าท่ี ของบุคคลตาม มาตรา 50 บุคคลมีหน้าที่ ดังต่อไปน้ี (1) พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (2) ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิ ผลประโยชน์ของชาติ และสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภยั (3) ปฏบิ ัติตามกฎหมายอยา่ งเคร่งครัด (4) เข้ารบั การศกึ ษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ (5) รับราชการทหาร ตามที่กฎหมายบัญญัติ (6) เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจ ก่อให้เกิด ความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม (7) ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระโดยคำนึงถึง ประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เป็นสำคัญ (8) ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ความหลากหลาย ทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม (9) เสียภาษีอากรตามที่กฎหมาย บญั ญัติ (10) ไมร่ ว่ มมือหรอื สนบั สนนุ การทุจรติ และประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ 004 ตำแหน่งในข้อใดเป็นประธานรฐั สภา ก. ประธานวุฒิสภา ข. ประธานสภานติ ิบัญญตั ิแหง่ ชาติ ค. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร ง. สมาชิกรฐั สภาทไ่ี ด้รับเลือกจากรัฐสภา ตอบ ค. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร อธิบายตาม รฐน.พ.ศ. 2560 มาตรา 80ประธานสภาผ้แู ทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา ประธานวุฒิสภาเป็นรอง ประธานรัฐสภา /ในกรณีที่ไม่มีประธานสภาผู้แทนราษฎร หรือประธานสภาผู้แทนราษฎรไม่อยู่หรือไม่สามารถ ปฏิบัติหน้าที่ประธานรัฐสภาได้ ให้ประธานวุฒิสภาทำหน้าที่ประธานรัฐสภาแทน /ในระหว่างที่ประธานวุฒิสภา ต้องทำหน้าที่ประธานรัฐสภาตามวรรคสอง แต่ไม่มีประธานวุฒิสภา และเป็นกรณีที่เกิดขึ้นในระหว่างไม่มีสภา ผู้แทนราษฎร ให้รองประธานวุฒิสภาทำหน้าทีป่ ระธานรัฐสภา ถ้าไม่มีรองประธานวฒุ สิ ภา ให้สมาชิกวุฒิสภาซ่งึ มี อายุมากทส่ี ุดในขณะน้นั ทำหน้าทีป่ ระธานรฐั สภา และใหด้ ำเนินการเลอื กประธานวฒุ ิสภาโดยเร็ว /ประธานรัฐสภา มหี น้าทแ่ี ละอำนาจตามรัฐธรรมนญู และดำเนินกิจการของรัฐสภา /ในกรณี ประชุมร่วมกันให้เป็นไปตามข้อบังคับ กล่มุ สิงห์ทอง ทอ้ งถน่ิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 3 ประธานรัฐสภาและผ้ทู ำหน้าท่ีแทนประธานรัฐสภาต้องวางตนเป็นกลางในการปฏิบัติหนา้ ที่ /รองประธานรฐั สภามี หนา้ ท่แี ละอำนาจตามรฐั ธรรมนญู และตามทป่ี ระธานรัฐสภามอบหมาย 005 สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรทม่ี าจากการเลอื กต้งั แบบแบง่ เขตเลอื กต้งั มจี ำนวนก่ีคน ก. 150 คน ข. 200 คน ค. 350 คน ง. 500 คน ตอบ ค. 350 คน อธิบายตาม รฐน.พ.ศ. 2560 มาตรา 83 สภาผู้แทนราษฎรประกอบด้วยสมาชิกจำนวนห้าร้อยคน ดังน้ี (1) สมาชิกซ่งึ มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกต้ังจำนวนสามร้อยห้าสิบคน (2) สมาชิกซ่ึงมาจากบัญชีรายชื่อของ พรรคการเมืองจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบคน /ในกรณีที่ตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรว่างลงไม่วา่ ด้วยเหตุใด และ ยังไม่มีการเลือกตั้ง หรือประกาศชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขึ้นแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรเท่าที่มีอยู่ /ในกรณีมีเหตุใด ๆ ที่ทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชี รายชอื่ มี จำนวนไมถ่ งึ หน่ึงร้อยห้าสบิ คน ให้สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชรี ายชื่อประกอบด้วยสมาชิกเท่าที่มี อยู่ ส่วนข้อ ก. 150 จำนวน สส บัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง ข. 200 คน คือ จำนวน สว ตามมาตรา 107 ง. 500 คน คือจำนวน สส ท้งั หมด 006 สมัยประชุมสมัยสามญั ของสภาผแู้ ทนราษฎรกำหนดปหี นึง่ มีกี่สมัยระยะเวลาสมัยละก่ีวัน ก. 1 สมยั สมยั ละ 180 วัน ข. 2 สมัย สมยั ละ 120 วัน ค. 3 สมยั สมยั ละ 120 วัน ง. 4 สมัย สมยั ละ 90 วนั ตอบ ข. 2 สมยั สมยั ละ 120 วนั อธิบายตาม รฐน. พ.ศ. 2560 มาตรา 121 ภายในสิบห้าวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎร อันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้มีการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อใหส้ มาชิกไดม้ าประชุมเป็นครั้งแรก (ระยะเวลา เหมือนสภาท้องถิ่น)/ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามญั ของรัฐสภาสองสมัย ๆ หนึ่งให้มีกำหนดเวลาหนึ่งร้อยย่สี ิบวนั แต่พระมหากษัตริย์จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ขยายเวลาออกไปก็ได้ การปิดสมัยประชุมสามัญประจำปีก่อน ครบกำหนดเวลาหนึ่งร้อยยี่สิบวัน จะกระทำได้ก็แต่ โดยความเห็นชอบของรัฐสภา /วันประชุมครั้งแรกตามวรรค หนึ่ง ให้ถือเป็นวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง ส่วนวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง ให้ เป็นไปตามที่สภาผู้แทนราษฎรกำหนด แต่ในกรณีที่ การประชุมครั้งแรกตามวรรคหนึ่งมีเวลาจนถึงสิ้นปีปฏิทินไม่ เพียงพอทจี่ ะจัดใหม้ ีการประชุมสมยั ประชุมสามัญ ประจำปีครั้งทส่ี อง จะไม่มกี ารประชุมสมัยสามัญประจำปีครั้งที่ สองสำหรบั ปีน้ันกไ็ ด้ กลุ่มสิงห์ทอง ทอ้ งถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 4 007 ส่วนราชการใดมีฐานะเปน็ กระทรวงและเป็นนติ บิ ุคคล ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ข. สำนกั งานปลัดกระทรวง ค. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ง. สำนักงานรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ตอบ ก. สำนักนายกรัฐมนตรี อธิบายตาม มาตรา 7 ให้จัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ดังนี้ (1) สำนักนายกรัฐมนตรี (2) กระทรวง หรือ ทบวงซึ่งมีฐานะเทียบเทา่ กระทรวง (3) ทบวง ซ่ึงสงั กัดสำนกั นายกรฐั มนตรีหรอื กระทรวง(4) กรม หรือสว่ นราชการ ที่เรียกช่อื อย่างอื่นและมีฐานะเป็นกรม ซึง่ สังกดั หรอื ไม่สังกดั สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรอื ทบวง สำนักนายกรัฐมนตรีมฐี านะเป็นกระทรวง /สว่ นราชการตาม (1) (2) (3) และ (4) มฐี านะเปน็ นติ ิบคุ คล 008 การดำเนนิ การกับสว่ นราชการในข้อใดต้องตราเป็นพระราชบัญญัติ ก.การตั้งจงั หวัด ข.การยบุ กระทรวง ค.การเปลย่ี นชอื่ กรม ง.การโอนสว่ นราชการ ตอบ ก. การตง้ั จังหวดั อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 52 ให้รวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอตั้งขึ้นเป็น จังหวัดมีฐานะเป็นนิตบิ ุคคล /การตั้ง ยุบ และเปลี่ยนแปลงเขตจังหวดั ให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ /เพื่อประโยชน์ ในการบรหิ ารงานแบบบูรณาการในจังหวดั หรือกลุ่มจังหวัด ใหจ้ งั หวัดหรือกลุ่มจังหวัดยื่น คำขอจัดต้ังงบประมาณ ได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา ในกรณีนี้ ให้ถือว่าจังหวัดหรือกลุ่ ม จงั หวดั เป็นสว่ นราชการตามกฎหมายวา่ ด้วยวธิ กี ารงบประมาณ 009 คณะกรมการจงั หวัดซึง่ ประกอบด้วยอยั การจังหวัด ตำรวจภธู รจังหวดั และหวั หน้าส่วนราชการประจำ จังหวดั จากกระทรวงและทบวงต่าง ๆ ผู้ใดเป็นประธานคณะกรมการจังหวัด ก อัยการจังหวัด ข ผู้บงั คบั การตำรวจภธู รจังหวัด ค ผู้ว่าราชการจงั หวัด ง หวั หน้าสำนกั งานจงั หวดั ตอบ ค ผู้วา่ ราชการจังหวดั อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 53 ในจงั หวัดหนึ่งให้มีคณะกรมการจังหวัด ทำหนา้ ท่ีเปน็ ทป่ี รึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดในการบริหารราชการแผ่นดินในจงั หวัดน้ัน กบั ปฏิบตั ิหนา้ ท่อี ่นื ตามท่ี กฎหมายหรือมติของคณะรัฐมนตรีกำหนด /คณะกรมการจังหวัดประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน รองผูว้ ่าราชการจงั หวดั หนึ่งคน ตามที่ผวู้ ่าราชการจังหวัดมอบหมาย ปลดั จงั หวดั อยั การจงั หวัดซึ่งเป็นหวั หน้าท่ีทำ การอัยการจังหวัด ผู้บังคบั การ ตำรวจภูธรจังหวดั และหัวหน้าส่วนราชการประจำจงั หวัดจากกระทรวงและทบวง กล่มุ สิงห์ทอง ท้องถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 5 ตา่ ง ๆ เวน้ แต่ กระทรวงมหาดไทยซึ่งประจำอยู่ในจงั หวัด กระทรวง หรอื ทบวงละหน่ึงคน เป็นกรมการจังหวัดและ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดเป็นกรมการจังหวัดและเลขานุการ/ถ้ากระทรวงหรือทบวงมีหัวหน้าส่วนราชการประจำ จังหวัดซึ่งกรมต่าง ๆ ในกระทรวงหรือทบวงนั้นส่งมา ประจำอยู่ในจังหวัดมากกว่าหนึ่งคน ให้ปลัดกระทรวงหรือ ปลัดทบวงกำหนดใหห้ วั หนา้ ส่วนราชการประจำจังหวัด หนง่ึ คนเปน็ ผูแ้ ทนของกระทรวงหรือทบวงในคณะกรมการ จังหวัด /ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นสมควรจะแต่งตั้งให้หัวหน้าส่วนราชการ ประจำจังหวัดซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในราชการส่วนภูมิภาคคนหนึ่งหรือหลายคนเป็นกรมการจังหวัดเพิ่มขึ้นเฉพาะการ ปฏบิ ตั หิ น้าทใ่ี ดหน้าท่ีหนึ่งกไ็ ด้ 010 ผู้วา่ ราชการจังหวดั รองผ้วู ่าราชการจงั หวัดและผชู้ ่วยผวู้ า่ ราชการจังหวัดสังกดั ส่วนราชการใด ก. กรมการปกครอง ข สำนักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย ค กระทรวงมหาดไทย ง ถกู หมดทุกข้อ ตอบ ค กระทรวงมหาดไทย อธิบายตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 54 ในจังหวัดหนึ่ง ให้มีผู้ว่าราชการจังหวดั คนหนง่ึ เป็นผรู้ ับนโยบายและคำสั่งจาก นายกรัฐมนตรใี นฐานะหวั หน้ารัฐบาล คณะรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง กรม มาปฏิบัติการให้เหมาะสมกับท้องที่และ ประชาชน และเป็นหัวหน้าบังคับบญั ชาบรรดาข้าราชการฝ่ายบริหาร ซึ่ง ปฏิบัติหน้าที่ในราชการส่วนภูมิภาคในเขต จังหวัด และรับผิดชอบในราชการจังหวัดและอำเภอ และจะให้มีรอง ผ้วู ่าราชการจงั หวดั หรือผู้ชว่ ยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือท้งั รองผู้วา่ ราชการจงั หวัดและผู้ช่วยผ้วู ่าราชการจังหวัดเป็น ผ้ชู ่วยสั่งและปฏิบัติราชการแทนผวู้ ่าราชการจงั หวัดกไ็ ด้ /รองผวู้ ่าราชการจังหวดั หรือผชู้ ่วยผวู้ ่าราชการจังหวัดเป็น ผู้บังคับบัญชาข้าราชการฝ่ายบริหารส่วนภูมิภาคในเขตจังหวัดและรับผิดชอบในราชการรองจากผู้ว่าราชการ จังหวัด /ผ้วู า่ ราชการจงั หวัด รองผู้ว่าราชการจงั หวัด และผ้ชู ่วยผวู้ า่ ราชการจังหวดั สงั กัดกระทรวงมหาดไทย 011 กรณีจะกำหนดให้ข้าราชการของส่วนราชการใดมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เช่นเดียวกบั ผวู้ ่าราชการจังหวดั จะต้องตราเปน็ กฎหมายใด ก. พระราชบญั ญตั ิ ข. พระราชกำหนด ค. พระราชกฤษฎีกา ง. กฎกระทรวง ตอบ ก. พระราชบญั ญัติ อธิบายตาม พรบ.ระเบยี บบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 58 การยกเว้น จำกัด หรือตัดทอน อำนาจ หน้าท่ีของผูว้ า่ ราชการจังหวัดในการบริหารราชการในจังหวัด หรือใหข้ า้ ราชการของส่วนราชการใดมีอำนาจหน้าท่ี ในการบรหิ ารราชการส่วนภมู ภิ าคเชน่ เดียวกับผวู้ า่ ราชการจังหวัดจะกระทำไดโ้ ดยตราเปน็ พระราชบญั ญตั ิ กลุ่มสิงหท์ อง ท้องถน่ิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 6 012 หน่วยราชการในขอ้ ใดไมม่ ีฐานะเป็นนติ บิ ุคคล ก. สภาตำบล ข. องค์การบริหารสว่ นตำบล ค. อำเภอ ง. จังหวดั ตอบ ค. อำเภอ อธบิ ายตาม พรบ.ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 61 ในจังหวัดหนงึ่ ให้มหี นว่ ยราชการบริหาร รองจากจงั หวดั เรียกว่าอำเภอ /การตงั้ ยุบ และเปล่ียนเขตอำเภอ ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา ก. สภาตำบล เป็น นติ บิ คุ คลตามมาตรา 6 แหง่ พรบ.สภาตำบลฯ 2537 ข. องคก์ ารบริหารส่วนตำบล เปน็ นติ ิบคุ คล ตามมาตรา 43 แหง่ พรบ.สภาตำบลฯ 2537/ง. จงั หวัด เปน็ นิติบคุ คลตามมาตรา 52 แห่ง พรบ.ระเบยี บบริหารราชการแผ่นดินฯ 2534 013 ข้อใดมิใช่การจดั ระเบยี บบริหารราชการแผ่นดนิ ก. ราชการสว่ นท้องที่ ข. ราชการสว่ นทอ้ งถน่ิ ค. ราชการสว่ นภมู ภิ าค ง. ราชการส่วนกลาง ตอบ ก. ราชการสว่ นทอ้ งท่ี อธิบายตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ให้จัดระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ดังนี้ (1) ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง(2) ระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค (3) ระเบียบบริหารราชการ ส่วนท้องถิ่น ส่วน ข้อ ก. “ราชการส่วนท้องที่” มิได้มีบัญญัติในกฎหมายจึงมิใช่การจัดระเบียบบริหาราชการ แผน่ ดิน แต่คำวา่ ”ทอ้ งท่ี”ปรากฏตาม พรบ.ลักษณะปกครองทอ้ งท่ี พระพุทธศักราช 2457 ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ มาแล้ว ถงึ 12 ฉบบั (พ.ศ. 2552) 014 บุคคลใดเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และ ผลสมั ฤทธ์ิของงานในสำนกั นายกรฐั มนตรี ก. รองนายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรฐั มนตรี ค. นายกรฐั มนตรี ง. รองนายกรัฐมนตรีท่ีนายกรัฐมนตรมี อบหมาย ตอบ ค. นายกรัฐมนตรี อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 10 สำนักนายกรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าท่ี ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าดว้ ยการปรบั ปรุง กระทรวง ทบวง กรม /สำนักนายกรัฐมนตรีมนี ายกรัฐมนตรีเป็น ผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในสำนัก นายกรัฐมนตรีให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือที่คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ กลุม่ สิงหท์ อง ท้องถ่นิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 7 โดยจะให้มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเป็น ผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการก็ได้ /ใน กรณีที่มีรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีหรือมีทั้งรองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี การสั่งและการปฏิบัติราชการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนัก นายกรัฐมนตรีให้เป็นไปตามทนี่ ายกรัฐมนตรีมอบหมาย /ในระหวา่ งท่ีคณะรฐั มนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติ หน้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่เพราะนายกรัฐมนตรีตาย ขาดคุณสมบัติ ต้องคำ พิพากษาให้จำคุก สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่ไว้วางใจ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของ นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หรือวุฒิสภามีมติให้ถอดถอนจากตำแหน่ง ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รอง นายกรฐั มนตรคี นใดคนหนง่ึ เป็นผ้ปู ฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ถ้าไม่มีผดู้ ำรง ตำแหน่งรองนายกรฐั มนตรีหรือมี แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่ง เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน / ใน ระหว่างทีค่ ณะรัฐมนตรีต้องอยู่ในตำแหน่งเพือ่ ปฏิบัตหิ น้าที่ต่อไปจนกว่าคณะรัฐมนตรที ี่ต้ังขึ้นใหมจ่ ะเข้ารับหนา้ ท่ี ให้คณะรัฐมนตรีดังกล่าวอำนวยความสะดวกให้หัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ดำเนินการใด ๆ เท่าที่จำเป็น เพื่อรับ แนวทางการบรหิ ารราชการแผ่นดินจากนายกรฐั มนตรคี นใหม่มาเตรียมการดำเนินการได้ 015 ในกรณีจังหวัดหนึ่งไม่มีทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการ จังหวัด และ ปลัดจงั หวัด ข้อใดกล่าวถกู ตอ้ ง ก.รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งต้งั หวั หน้าส่วนราชการคนหน่ึงปฏบิ ัตริ าชการแทน ข.ปลัดกระทรวงมหาดไทยแต่งต้งั ผู้ว่าราชการจังหวดั ท่ีมีเขตติดต่อกันรักษาราชการแทน ค.ปลดั กระทรวงมหาดไทยแต่งตง้ั หวั หนา้ ส่วนราชการที่มีตำแหน่งทางบรหิ ารปฏบิ ตั ริ าชการแทน ง.หัวหนา้ สว่ นราชการประจำจงั หวัดซง่ึ มอี าวโุ สตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็นผู้รกั ษาราชการแทน ตอบ ง. หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดซึ่งมีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็นผู้รักษา ราชการแทน อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 56 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่า ราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รักษา ราชการแทน ถา้ ไม่มผี ู้ดำรงตำแหน่งผชู้ ่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบตั ิราชการได้ให้ปลัดจังหวัดเป็น ผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด หรือปลัดจังหวัดหลายคน ให้ ปลดั กระทรวงแตง่ ตง้ั รองผวู้ ่าราชการจังหวัด ผูช้ ว่ ยผูว้ ่าราชการ จงั หวดั หรือปลัดจังหวัดคนใดคนหน่งึ แลว้ แต่กรณี เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีทั้งผู้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ช่วยผู้ว่าราชการจังหวัด และปลัด จังหวัด หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดซึ่งมีอาวุโสตามระเบียบแบบแผน ของทางราชการเป็นผรู้ กั ษาราชการแทน 016 ในการมอบอำนาจผมู้ อบอำนาจนอกจากจะต้องพิจารณาถงึ การอำนวยความสะดวกแกป่ ระชาชนและ ความรวดเร็วในการปฏิบตั ริ าชการแล้ว ผู้มอบอำนาจจะต้องคำนึงข้อใดอีกด้วย ก.การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพของตำแหนง่ ของผรู้ ับมอบอำนาจ ข.การกระจายอำนาจการบริหารใหม้ ีความสมดลุ กับตำแหน่งของผู้มอบอำนาจ กลมุ่ สิงหท์ อง ทอ้ งถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 8 ค.การแบง่ อำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของสายการบังคบั บญั ชา ง.ระดับตำแหน่งของผู้ทจี่ ะรบั มอบอำนาจที่จะมอบอำนาจให้ปฏบิ ัติราชการ ตอบ ก.การกระจายความรับผิดชอบตามสภาพของตำแหนง่ ของผรู้ บั มอบอำนาจ อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 40 ในการมอบอำนาจ ให้ผู้มอบอำนาจ พจิ ารณาถงึ การอำนวยความสะดวกแกป่ ระชาชน ความรวดเร็วในการปฏบิ ัติราชการ การกระจายความรับผิดชอบ ตามสภาพของตำแหน่งของผู้รับมอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจต้องปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจตาม วัตถุประสงค์ของการมอบอำนาจดังกล่าว เมื่อได้มอบอำนาจแล้วผู้มอบอำนาจมีหน้าที่กำกับดูแลและติดตามผล การปฏบิ ัตริ าชการของผรู้ บั มอบอำนาจ และใหม้ ีอำนาจแนะนำหรอื แกไ้ ขการปฏิบตั ิราชการของผ้รู บั มอบอำนาจได้ 017 พระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ หมวดการรกั ษาราชการแทนมีข้อห้ามมิใหใ้ ช้บังคับแก่ ราชการในข้อใด ก.ราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ ข.ราชการในต่างประเทศ ค.ราชการเก่ยี วกบั การศกึ ษา ง.ราชการในกระทรวงทเ่ี ก่ยี วกับทหาร ตอบ ง.ราชการในกระทรวงท่ีเก่ยี วกบั ทหาร อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบรหิ ารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 หมวด 6 การรักษาราชการแทน มาตรา 50 ความ ในหมวดน้ีมิให้ใชบ้ ังคบั แก่ราชการในกระทรวงทเ่ี ก่ียวกบั ทหาร 018 กรณีจังหวัดหนึ่งจะมีการแยกอำเภอซ่ึงมีเขตติดต่อกันเพื่อไปตั้งเป็นอำเภอขึ้นใหม่จะต้องตราเป็น กฎหมายใด ก.พระราชบัญญตั ิ ข.พระราชกำหนด ค.พระราชกฤษฎกี า ง.ประกาศกระทรวงมหาดไทย ตอบ ค.พระราชกฤษฎีกา อธิบายตาม พรบ.ระเบยี บบรหิ ารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 61 ในจงั หวัดหนง่ึ ให้มีหนว่ ยราชการบริหาร รองจากจงั หวดั เรยี กวา่ อำเภอ การต้ัง ยุบ และเปลีย่ นเขตอำเภอ ใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎีกา 019 กรณีอำเภอหนึ่งตั้งขึ้นใหม่มีนายอำเภอคนหนึ่งแต่นายอำเภอนั้นไม่อาจปฏิบัติราชการได้ประกอบกบั ยงั ไมม่ ปี ลดั อำเภออีกด้วยแต่มหี ัวหนา้ ส่วนราชการประจำอำเภอปฏบิ ัติราชการอยู่ ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทยแตง่ ตั้งนายอำเภอทมี่ เี ขตติดกนั มาปฏบิ ัติราชการแทน ข. ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งข้าราชการระดับหัวหน้าส่วนราชการมีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ ในจงั หวดั นั้นรักษาราชการแทน ค. ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ เป็นผู้รักษาราชการแทน กลุม่ สิงห์ทอง ทอ้ งถน่ิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 9 ง. นายอำเภอแต่งตัง้ หวั หนา้ ส่วนราชการประจำอำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการเป็นผู้รักษา ราชการแทน ตอบ ง. นายอำเภอแตง่ ตั้งหัวหน้าสว่ นราชการประจำอำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ เป็นผรู้ ักษาราชการแทน อธิบายตามพรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 64 ในกรณที ี่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งปลัดอำเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผน ของทางราชการเป็นผู้รักษาราชการแทน /ถ้ามีผู้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอ แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ นายอำเภอแต่งตั้งปลัดอำเภอ หรือหัวหน้าส่วนราชการประจำอำเภอผู้มีอาวุโสตามระเบียบแบบแผนของทาง ราชการเป็นผู้รักษาราชการแทน /ในกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหรือนายอำเภอมิได้แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนไว้ ตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้ปลัดอำเภอหรือหัวหน้าสว่ นราชการประจำอำเภอผูม้ ีอาวโุ สตามระเบียบแบบแผน ของทางราชการเป็นผู้รกั ษาราชการแทน 020 ข้อใดไม่ใช่เปน็ การจดั ระเบียบบริหารราชการส่วนทอ้ งถิ่น ก. องค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั ข. เทศบาล ค. เทศาภบิ าล ง. สุขาภิบาล ตอบ ค. เทศาภบิ าล อธบิ ายตาม พรบ.ระเบยี บบรหิ ารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 70 ให้จัดระเบยี บบริหารราชการส่วนทอ้ งถ่ิน ดังนี้ (1) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (2) เทศบาล (3) สุขาภิบาล (4) ราชการส่วนท้องถิ่นอื่นตามที่มีกฎหมาย กำหนด/ตามพรบ.ลักษณะปกครองท้องที่ พระพุทธศักราช 2457 ปรากฏคำว่า“เทศาภิบาล” หมายถึงตำแหน่ง ผู้สำเร็จราชการมณฑล ต่อมาเรียกว่า “สมุหเทศาภิบาล” การปกครองหัวเมืองที่จัดเป็นมณฑล โดยโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทำหน้าที่ปกครองในแต่ละมณฑล เรียกว่า ข้าหลวงเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑล เว้นแต่มณฑลชายแดนบางมณฑล เรียกว่า ข้าหลวงต่างพระองค์สำเร็จราชการมณฑล ภายหลังเรียกว่า สมุหเทศาภบิ าลมณฑล หรอื สมหุ เทศาภบิ าล. 021 ในสำนักเลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรีมที ้ังขา้ ราชการการเมืองและขา้ ราชการพลเรือน ข้อใดต่อไปนี้กล่าว ไม่ถูกต้อง ก.เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรขี น้ึ ตรงต่อนายกรฐั มนตรี ข.รองเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรีฝา่ ยบรหิ ารเปน็ ขา้ ราชการการเมอื ง ค.รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองเปน็ ขา้ ราชการการเมือง ง.ผ้ชู ่วยเลขาธิการนายกรฐั มนตรเี ปน็ ขา้ ราชการพลเรือน ตอบ ข.รองเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรีฝ่ายบริหารเปน็ ขา้ ราชการการเมอื ง อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 13 สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มี อำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการทางการเมือง มีเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ และ กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถ่ิน (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 10 รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี และให้มีรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองและ รองเลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรฝี า่ ยบรหิ าร เปน็ ผู้ช่วยสั่งและปฏบิ ัติราชการและจะใหม้ ผี ้ชู ว่ ยเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี เป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติราชการด้วยก็ได้ /ให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่าย การเมือง เป็นข้าราชการการเมือง และให้รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร และผู้ช่วยเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี เปน็ ข้าราชการพลเรอื น 022 การจัดทำแผนพฒั นาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดนอกจากต้องสอดคล้องกบั แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ และสงั คมระดบั ชาตแิ ล้วจะตอ้ งให้สอดคลอ้ งกับข้อใดด้วย ก.ทศิ ทางและแนวโน้มการพัฒนาจงั หวดั ข.แผนพฒั นาท้องถิน่ ทกุ ระดับ ค.ความตอ้ งการของประชาชนในทอ้ งถนิ่ ง.ความต้องการของภาคเอกชนและภาคธรุ กจิ ตอบ ค.ความตอ้ งการของประชาชนในท้องถ่ิน อธบิ ายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 53/1 ใหจ้ ังหวัดจดั ทำแผนพัฒนาจังหวัดให้ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมในระดับชาติ และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นใน จังหวัด /ในการจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดจัดให้มีการประชุมปรึกษาหารือ ร่วมกันระหว่างหวั หน้าส่วนราชการที่มีสถานที่ตั้งทำการอยู่ในจังหวดั ไม่ว่าจะเป็นราชการบริหารส่วนภูมิภาคหรอื ราชการบริหารสว่ นกลางและผ้บู ริหารองคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ ทงั้ หมดในจังหวัด รวมทง้ั ผูแ้ ทนภาคประชาสังคม และผู้แทนภาคธุรกิจเอกชน/การจัดทำแผนพัฒนาจังหวัดตามวรรคหนึ่ง จำนวนและวิธีการสรรหาผู้แทนภาค ประชาสังคม และผู้แทน ภาคธุรกิจเอกชนตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในพระราช กฤษฎีกา /เมื่อประกาศใช้แผนพัฒนาจังหวัดแล้ว การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และการดำเนินกิจการของส่วนราชการและหน่วยงานอื่นของรัฐทั้งปวงที่กระทำในพื้นที่จังหวัดต้องสอดคล้องกับ แผนพฒั นาจงั หวดั ดังกล่าว 023 สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเป็นส่วนราชการในข้อใด ก. สำนักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ข. สำนกั นายกรัฐมนตรี ค. สำนักงานรัฐมนตรี ง. สำนักงานปลดั กระทรวง ตอบ ข.สำนักนายกรัฐมนตรี อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดนิ พ.ศ. 2534 มาตรา 71/9 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการพัฒนา ระบบราชการ เป็นส่วนราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการของ ก.พ.ร. และหน้าที่อื่น ตามที่กฎหมายหรือ ก.พ.ร. กำหนด โดยมี เลขาธิการ ก.พ.ร. ซึ่งเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญเป็นผู้บังคับบัญชา ข้าราชการและลูกจ้างของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ และรับผิดชอบการปฏิบตั ิราชการขึ้นตรง ตอ่ นายกรัฐมนตรี กลุ่มสิงหท์ อง ทอ้ งถ่ิน (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 11 024 ภายในระยะเวลาตามข้อใดนับแต่วันที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการ บา้ นเมืองทด่ี ี (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ. 2562 ใช้บังคบั ต้องจัดให้มีแพลตฟอรม์ ดจิ ิทัลกลาง ก. 60 วัน ข. 90 วัน ค. 180 วัน ง. 2 ปี ตอบ ข. 90 วัน อธิบายตาม พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 256 2 มาตรา 10 ในวาระเรม่ิ แรก ให้สำนกั งานพัฒนารัฐบาลดจิ ทิ ลั (องคก์ ารมหาชน) จัดให้มี แพลตฟอร์มดิจิทัลกลาง เพอื่ ใหส้ ่วนราชการใช้ในการบริการประชาชนและการติดต่อประสานงานระหวา่ งกนั ได้ภายในเกา้ สิบวนั นับแต่วันที่ พระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับ /ให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าส่วนราชการที่จะต้องดำเนินการให้การบริการประชาชน และการติดต่อ ประสานงานระหว่างส่วนราชการด้วยกัน โดยการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลกลางให้แล้วเสร็จภายใน สองปี นับแต่พ้นกำหนดเวลาตามวรรคหน่ึง ในกรณีที่ส่วนราชการใดมีเหตุผลความจำเป็นที่ไม่สามารถดำเนินการ ใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลกลางได้ ภายในระยะเวลาที่กำหนดในวรรคสอง ให้หัวหน้าส่วนราชการนั้นเสนอ ก.พ.ร. เพ่อื พิจารณาขยายระยะเวลาดงั กลา่ วได้ 025 ตำแหน่งใดมิได้รักษาการตามพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน พ.ศ. 2542 ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงการคลัง ค. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ง. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ตอบ ง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อธิบายตาม พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี ท้ังนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของตนและมีอำนาจออกกฎกระทรวง และระเบียบเพ่อื ปฏบิ ัตกิ ารตามพระราชบัญญตั นิ ้ี 026 สำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ อย่ใู นส่วนราชการใด ก. สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ข. สำนกั งานปลดั สำนักนายกรัฐมนตรี ค. สำนกั นายกรัฐมนตรี ง. สำนกั งานรฐั มนตรี ตอบ ข.สำนกั งานปลัดสำนกั นายกรัฐมนตรี กลมุ่ สิงห์ทอง ท้องถิน่ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 12 อธิบายตาม พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 15 ให้มีสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีอำนาจและหน้าที่ดังต่อไปน้ี (1) รับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ(2) รวบรวม ขอ้ มูล ศึกษา และวิเคราะหเ์ กยี่ วกบั การกระจายอำนาจให้แก่องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่นิ และข้อมลู ตา่ ง ๆ เกี่ยวกับ งานของคณะกรรมการ(3)รว่ มมือและประสานงานกับราชการส่วนกลาง ราชการสว่ นภูมิภาค องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ เพื่อดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติน้ี(4)ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติตาม แผนตามที่คณะกรรมการมอบหมาย(5)ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นหน้าที่ของสำนักงาน คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น หรอื ตามที่คณะกรรมการมอบหมาย 027 ตำแหน่งในข้อใดเป็นประธานของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ทอ้ งถน่ิ ก. นายกรฐั มนตรี ข. รองนายกรัฐมนตรี ค. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงการคลงั ง. รฐั มนตรีทน่ี ายกรัฐมนตรีมอบหมาย ตอบ ก.นายกรัฐมนตรี อธิบายตาม พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 6 (1) มาตรา 6ใหม้ คี ณะกรรมการคณะหน่ึงเรยี กว่า “คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น” ประกอบด้วย(1)นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็น ประธาน(2)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัด กระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และอธิบดกี รมส่งเสริมการปกครองท้องถน่ิ * (3)ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนสิบสองคน ประกอบด้วย ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสองคน ผู้บริหารเทศบาลสามคน ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลห้าคน และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเมืองพัทยาหรือผู้บริหารองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นทีม่ ีกฎหมายจัดตง้ั ขึ้นรวมสองคน ทั้งนี้ โดยให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทเลือกกันเองตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่นายกรัฐมนตรีกำหนด (4)ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนสิบสองคน ประกอบด้วยบุคคลซึง่ มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในดา้ นการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านการพฒั นาท้องถ่ิน ดา้ นเศรษฐศาสตร์ ดา้ นการปกครองส่วนท้องถน่ิ ในสาขา รัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ และด้านกฎหมาย ทั้งนี้ การสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และ วิธีการที่นายกรัฐมนตรีกำหนด/ให้หัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นเปน็ เลขานุการคณะกรรมการ 028 กรณีที่กฎหมายบัญญัติให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับการให้บริการ สาธารณะอย่างเดียวกันหรอื คล้ายคลงึ กนั ผ้ใู ดมอี ำนาจกำหนดอำนาจและหน้าที่รับใหใ้ นส่วนใด ก. คณะกรรมการกระจายอำนาจใหแ้ ก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ กลมุ่ สิงห์ทอง ท้องถน่ิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 13 ข. คณะกรรมการการกระจายอำนาจใหแ้ ก่องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ค. คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และสภาท้องถิ่นทเี่ ก่ยี วข้องท้ังหมด ง. ประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ตอบ ข.คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แกอ่ งค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่น อธบิ ายตาม พรบ.กำหนดแผนและขัน้ ตอนฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 20 ในกรณีที่กฎหมายบัญญัติให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจและหน้าที่เกี่ยวกับการให้บริการสา ธารณะอย่างเดียวกันหรือคล้ายคลึงกันให้ คณะกรรมการมอี ำนาจกำหนดวา่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจและหนา้ ที่รับผดิ ชอบในสว่ นใด 029 จุดมุ่งหมายที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีรายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเท่าไหร่เมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อ รายได้สทุ ธขิ องรัฐบาล ก.ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 25 ข.ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 30 ค.ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 35 ง.ถกู หมดทกุ ขอ้ ตอบ ค.ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 35 อธิบายตาม พรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 30 “(4) กำหนดการจัดสรรภาษีและอากร เงิน อดุ หนุน และรายได้อนื่ ให้แก่องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นเพื่อใหส้ อดคล้องกับการดำเนินการตามอำนาจและหน้าท่ี ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละประเภทอย่างเหมาะสม โดยตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2550 เป็นต้นไป ให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้คิดเปน็ สดั ส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลไม่น้อยกว่ารอ้ ยละยี่สิบห้า และโดยมี จุดมุ่งหมายที่จะใหอ้ งค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมรี ายได้เพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วนต่อรายได้สุทธิของรัฐบาลในอัตราไม่ น้อยกว่าร้อยละสามสิบห้า โดยการจัดสรรสัดส่วนที่เป็นธรรมแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคำนึงถึงรายได้ ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นนน้ั ด้วย 030 ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วน ท้องถน่ิ มที ่มี าอย่างไร ก.คณะรัฐมนตรีเป็นผ้สู รรหา ข.นายกรัฐมนตรเี ปน็ ผูส้ รรหา ค.เลือกกันเองตามทน่ี ายกรฐั มนตรีกำหนด ง.รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยสรรหา ตอบ ค.เลอื กกันเองตามทนี่ ายกรัฐมนตรีกำหนด อธิบายตาม พรบ.กำหนดแผนและขั้นตอนฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 6 (3) มาตรา 6ให้มีคณะกรรมการคณะหน่ึง เรียกว่า “คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ประกอบด้วย(1)นายกรัฐมนตรี ห รือรองนายกรัฐ มนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบห มายเป็นประธาน (2)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงศึกษาธิกา ร ปลดั กระทรวงสาธารณสุข เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการ ก.พ. เลขาธกิ ารคณะกรรมการพฒั นาการ กลุ่มสิงห์ทอง ท้องถิ่น (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 14 เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผ้อู ำนวยการสำนักงบประมาณ และอธบิ ดีกรมสง่ เสริมการปกครองท้องถิ่น*(3)ผู้แทน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวนสิบสองคน ประกอบด้วยผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสองคน ผู้บริหาร เทศบาลสามคน ผู้บรหิ ารองค์การบริหารส่วนตำบลห้าคน และผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารเมืองพัทยาหรือ ผบู้ รหิ ารองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ อนื่ ทีม่ ีกฎหมายจัดตั้งขน้ึ รวมสองคน ทัง้ นี้ โดยใหผ้ บู้ รหิ ารองค์กรปกครองส่วน ท้องถนิ่ แต่ละประเภทเลือกกันเองตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่นายกรัฐมนตรีกำหนด(4)ผู้ทรงคณุ วฒุ ิจำนวนสิบสอง คน ประกอบดว้ ยบุคคลซ่ึงมีความรู้ความเชย่ี วชาญในด้านการบรหิ ารราชการแผ่นดิน ด้านการพัฒนาท้องถ่ิน ด้าน เศรษฐศาสตร์ ด้านการปกครองส่วนท้องถิ่นในสาขารัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ และด้านกฎหมาย ทั้งน้ี การสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่นายกรัฐมนตรีกำหนด /ให้หัวหน้าสำนักงาน คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ เปน็ เลขานกุ ารคณะกรรมการ 031 ปัจจุบันในการซื้อหรือจ้างพัสดุของหน่วยงานของรัฐมีวิธีการซื้อหรือจ้างวิธีตามข้อต่อไปนี้ ข้อใดไม่ ถูกตอ้ ง ก.ประกวดราคา ข.ประกาศเชิญชวนท่ัวไป ค.คัดเลอื ก ง.เฉพาะเจาะจง ตอบ ก.ประกวดราคา อธิบายตาม รบ.กค. ว่าด้วยการจัดซื้อฯ พ.ศ. 2560 วิธีการซื้อหรือจ้าง ข้อ 28 การซื้อหรือจ้างกระทำได้ 3 วิธี ดังนี้ (1) วธิ ปี ระกาศเชิญชวนทวั่ ไป (2) วิธีคัดเลอื ก (3) วธิ เี ฉพาะเจาะจง 032 ขอ้ ใดมใิ ชก่ ารซอ้ื หรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ก.วธิ ีตลาดอิเลก็ ทรอนิกส์ ข.วธิ ปี ระกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ ค.วิธสี อบราคา ง.วิธีคัดเลอื ก ตอบ ง.วิธคี ัดเลอื ก อธิบายตาม รบ.กค. ว่าด้วยการจัดซื้อฯ พ.ศ. 2560 วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ข้อ 29 การซื้อหรือจ้างโดยวิธี ประกาศเชิญชวนทั่วไป กระทำได้ 3 วิธี ดังนี้ (1) วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (2) วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (3) วธิ ีสอบราคา 033 พระราชบญั ญตั ิวิธีปฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 กำหนดมีผลให้ใชบ้ ังคบั ตามข้อใด ก.ตงั้ แตว่ ันประกาศในราชกจิ จาบเุ บกษา ข.วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จาบุเบกษา ค.เมอ่ื พน้ กำหนด 90 วนั นบั วนั ถดั จากวันประกาศในราชกจิ จาบุเบกษา ง.เม่ือพน้ กำหนด 180 วันนับวันถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจาบเุ บกษา ตอบ ง.เมือ่ พน้ กำหนด 180 วนั นบั วนั ถดั จากวนั ประกาศในราชกิจจาบเุ บกษา กลมุ่ สิงหท์ อง ท้องถิน่ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 15 อธิบายตาม พระราชบญั ญตั ิวิธีปฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา ๒*พระราชบัญญัตนิ ้ีให้ใช้บังคับเมื่อ พ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป* รก.๒๕๓๙/๖๐ก/๑/ ๑๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๙ (เรม่ิ นับ 15 พ.ย.2539 จนครบ 180 วนั ) 034 พระราชบญั ญัติวิธปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ในขอ้ ตอ่ ไปนี้ให้ใชบ้ งั คบั แก่กรณใี ด ก. การดำเนินงานตามกระบวนการยุตธิ รรมทางอาญา ข. การดำเนนิ กจิ การขององค์การทางศาสนา ค. การดำเนินงานเก่ยี วกับนโยบายการต่างประเทศ ง. การอนุญาตใหก้ อ่ สร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร รือ้ ถอนอาคาร ตอบ ง.การอนญุ าตให้ก่อสร้างอาคาร ดดั แปลงอาคาร รอ้ื ถอนอาคาร อธิบายตาม พระราชบญั ญตั วิ ธิ ีปฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ขอ้ นถี้ ามวา่ ใหใ้ ชบ้ ังคับ....คำตอบคือ ข้อ ง ใช้บังคับ ส่วน ก. ข. และ ค. ต้องตามมาตรา 4 พระราชบัญญัตินี้มิให้ใช้บังคับแก่ (1)รัฐสภาและ คณะรัฐมนตรี(2)องค์กรที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะ(3)การพิจารณาของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีใน งานทางนโยบายโดยตรง(4)การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลและการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในกร ะบวนการ พิจารณาคดี การบังคับคดี และการวางทรัพย์(5)การพิจารณาวนิ จิ ฉัยเรื่องร้องทุกข์และการส่ังการตามกฎหมายว่า ด้วยคณะกรรมการกฤษฎีกา(6)การดำเนนิ งานเก่ียวกับนโยบายการตา่ งประเทศ(7)การดำเนินงานเกี่ยวกับราชการ ทหารหรือเจ้าหน้าท่ีซึ่งปฏิบัติหน้าทีท่ างยุทธการร่วมกับทหารในการป้องกันและรักษาความม่ันคงของราชอาณาจักร จากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ(8)การดำเนินงานตามกระบวนการยุติธรรมทางอาญา(9)การดำเนิน กิจการขององค์การทางศาสนา/การยกเว้นไม่ให้นำบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับแก่การดำเนิน กิจการใดหรือกับหน่วยงานใดนอกจากที่กำหนดไว้ในวรรคหนึ่ง ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกาตามข้อเสนอของ คณะกรรมการวธิ ปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง 035 ในพระราชบญั ญัติสภาตำบลและองค์การบริหารสว่ นตำบล พ.ศ. 2537 ข้อใดมิใช่ความหมายของคำ ว่าหนว่ ยการบริหารราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ ก. องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวดั ข. เทศบาล ค. สุขาภิบาล ง. เมืองพทั ยา ตอบ ก. องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัด อธิบายตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัติ นี้“หน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า เทศบาล สุขาภิบาล และราชการส่วนท้องถิ่นอื่นที่มี กฎหมายจัดตั้งขึ้น แต่ไม่รวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด“นายอำเภอ” หมายความรวมถึงปลัดอำเภอผู้เป็น หัวหน้าประจำกิ่งอำเภอด้วย“ตำบล” หมายความว่า ตำบลตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ที่อยู่นอก เขตหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น และในกรณีที่ตำบลใดมีพื้นที่อยู่ทั้งในและนอกเขตหน่วยการบริหาร ราชการส่วนท้องถน่ิ ให้หมายความถงึ เฉพาะพนื้ ท่ที ่อี ยนู่ อกเขตหนว่ ยการบริหารราชการส่วนท้องถ่ิน กลุม่ สิงห์ทอง ท้องถ่นิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 16 036 เมอ่ื สมาชกิ สภาตำบลที่มาจากการเลือกต้งั วา่ งลงเพราะครบวาระต้องเลือกตัง้ ภายในกว่ี นั ก. 15 วนั ข. 30 วัน ค. 45 วนั ง. 60 วัน ตอบ ค. 45 วัน อธบิ ายตาม พระราชบญั ญัตสิ ภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 13 เมื่อตำแหน่งสมาชิก สภาตำบลซึง่ ได้รบั เลือกตั้งว่างลงเพราะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ให้มีการเลือกตัง้ ภายในสีส่ บิ ห้าวันนับแต่วันที่ ครบวาระ 037 ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 ข้อใดกล่าวถูกต้อง เกยี่ วกับสภาตำบล ก. มีฐานะเปน็ นติ ิบุคคล ข. เปน็ ราชการส่วนท้องถน่ิ ค. เปน็ ทบวงการเมอื ง ง. นายกสภาตำบลเป็นผูบ้ รหิ าร ตอบ ก.สภาตำบลมีฐานะเปน็ นิตบิ คุ คล อธิบายตาม พระราชบัญญัตสิ ภาตำบลและองคก์ ารบริหารสว่ นตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา ๖ ในตำบลหนึ่งให้มี สภาตำบลสภาหนึ่งมีอำนาจหน้าทตี่ ามพระราชบญั ญตั ินี้ ให้สภาตำบลมฐี านะเปน็ นติ ิบุคคล 038 กรณีใดที่สภาตำบลและองค์การบริหารสว่ นตำบลจะถูกยุบไปรวมกับองค์การบริหารส่วนตำบลหรือ หน่วยการบริหารราชการส่วนทอ้ งถ่ินทมี่ เี ขตตดิ ต่อกนั ภายในเขตอำเภอเดียวกนั ก. เป็นไปตามขอ้ ตกลงระหวา่ งผู้บรหิ าร ข. มจี ำนวนประชากรไมถ่ งึ 2,000 คน ค. มสี ภาพพนื้ ที่เป็นเกาะ ง. พนื้ ทส่ี ่วนใหญเ่ ปน็ ป่าไม้และภูเขาสงู ตอบ ข. มีจำนวนประชากรไมถ่ ึง 2,000 คน อธิบายตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 41 จัตวา ให้ กระทรวงมหาดไทยดำเนินการประกาศยุบสภาตำบลท้ังหมดและองค์การบริหารส่วนตำบลใดที่มจี ำนวนประชากร ไม่ถงึ สองพันคน โดยใหร้ วมพ้ืนทเ่ี ขา้ กับองค์การบริหารส่วนตำบลอน่ื หรือหนว่ ยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นที่มี เขตติดต่อกันภายในเขตอำเภอเดียวกันภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่มีเหตุดังกล่าว/การรวมกับองค์การบริหารส่วน ตำบลหรือหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นใดตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชนในเขต ตำบลนนั้ /การสำรวจเจตนารมณ์ของประชาชนตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามท่กี ระทรวงมหาดไทยกำหนด/องค์การ บริหารส่วนตำบลใดมีจำนวนประชากรไม่ถึงสองพันคนแต่มีสภาพพื้นที่เป็นเกาะหรือโดยสภาพทางภูมิศาสตร์ไม่ กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถ่ิน (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 17 สามารถติดต่อกับองค์การบริหารส่วนตำบลหรือหน่วยการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นที่จะไปรวมได้โดยสะดวก กระทรวงมหาดไทยจะไม่ดำเนินการตามวรรคหนึ่งกับองค์การบริหารส่วนตำบลนั้นก็ได้/ให้นำมาตรา 41 และ มาตรา 52 วรรคสองและวรรคสาม มาใชบ้ ังคับการยบุ และรวมตามวรรคหนึ่งโดยอนุโลม 039 กรณีจัดตง้ั องคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบลเปน็ เทศบาลเมืองกระทำได้โดยทำเป็นข้อใด ก.ประกาศของกระทรวงมหาดไทย ข.ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา ค.ประกาศของเทศบาลเมือง ง.ประกาศของกรมสง่ เสริมการปกครองท้องถน่ิ ตอบ ก.ประกาศของกระทรวงมหาดไทย อธิบายตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 42ภายใต้บังคับแห่ง กฎหมายว่าด้วยการเทศบาล อาจจัดตั้งองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นเป็นเทศบาลได้โดยทำเป็นประกาศของ กระทรวงมหาดไทย/องค์การบริหารสว่ นตำบลทีไ่ ด้จัดตั้งเป็นเทศบาลตามวรรคหนึ่ง ให้พ้นจากสภาพแห่งองคก์ าร บริหารส่วนตำบล รวมทั้งให้สมาชิกภาพของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลสิ้นสุดลง และนายกองค์การ บริหารส่วนตำบลพน้ จากตำแหนง่ นับแต่วนั ท่ีไดม้ ีประกาศกระทรวงมหาดไทยจัดต้ังขึ้นเปน็ เทศบาลเป็นตน้ ไป/บรรดา งบประมาณ ทรัพย์สิน สิทธิ สิทธิเรียกร้อง หนี้ พนักงานส่วนตำบลและลูกจ้างขององค์การบริหารส่วนตำบลตาม วรรคหนึ่ง ให้โอนไปเป็นของเทศบาลที่จัดตั้งขึ้นนั้น/บรรดาข้อบัญญัติองค์การบริหารส่วนตำบลที่ได้ใช้บังคับใน เรอื่ งใดอยู่กอ่ นแลว้ ให้ยังคงใชบ้ งั คบั ไดต้ ่อไปเป็นการชัว่ คราว จนกว่าจะไดม้ กี ารตราเทศบญั ญตั ิในเรอื่ งน้ันขึน้ ใหม่ 040 ผใู้ ดมอี ำนาจสง่ั ยบุ สภาองค์การบริหารส่วนตำบล ก.นายกองค์การบรหิ ารสว่ นตำบล ข.นายอำเภอ ค.ผู้วา่ ราชการจังหวดั ง.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ตอบ ค.ผู้วา่ ราชการจงั หวดั อธิบายตาม พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 มาตรา 91 เพื่อคุ้มครอง ประโยชน์ของประชาชนในเขตองค์การบรหิ ารส่วนตำบลหรือประโยชน์ของประเทศเป็นส่วนรวม นายอำเภอจะ รายงานเสนอความเห็นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อ ยุบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลก็ได้/เมื่อมีกรณีตามวรรค หนึ่งหรือกรณีอื่นตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ผู้ว่าราชการจังหวัด มีอำนาจยุบสภาองค์การบริหารส่วน ตำบลและให้แสดงเหตุผลไว้ในคำสั่งด้วย /เมื่อมีการยุบสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหรือถือว่ามีการยุบสภา องค์การบริหารส่วนตำบลตามพระราชบัญญัตินี้ ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลขึ้นใหม่ ภายในสี่สบิ หา้ วัน กลุ่มสิงหท์ อง ทอ้ งถ่นิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 18 041 เมอื งพทั ยามีฐานะเปน็ นิตบิ คุ คลหากจะมีการแกไ้ ขเปล่ียนแปลงเขตเมืองพัทยาต้องตราเป็นกฎหมาย ใด ก.พระราชบัญญัติ ข.พระราชกำหนด ค.พระราชกฤษฎกี า ง.ประกาศกระทรวงมหาดไทย ตอบ ค.พระราชกฤษฎีกา อธิบายตาม พรบ.ระเบียบการบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 7 ให้จัดตั้งเมืองพัทยาเป็นองค์กร ปกครองส่วนท้องถิน่ มีอาณาเขตตามเขตเมืองพทั ยาท่ีมีอยูใ่ นวนั ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บงั คบั ให้เมอื งพัทยามฐี านะเป็นนติ ิบคุ คล การแก้ไขเปล่ยี นแปลงเขตเมืองพทั ยาใหต้ ราเปน็ พระราชกฤษฎกี า 042 สภาเมืองพทั ยามีสมาชกิ จำนวนก่คี น ก. 18 คน ข. 24 คน ค. 30 คน ง. 36 คน ตอบ ข. 24 คน อธบิ ายตาม พรบ.ระเบียบการบรหิ ารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 9 สภาเมืองพัทยาประกอบด้วย สมาชิกจำนวนย่ีสบิ สคี่ น ซง่ึ เลอื กต้ังโดยราษฎรผู้มสี ิทธเิ ลอื กต้ังในเขตเมืองพัทยา 043 สมาชิกสภาเมอื งพทั ยาประสงค์ลาออกต้องยื่นหนงั สอื ลาออกต่อผใู้ ด ก.นายกเมืองพัทยา ข.ประธานสภาเมอื งพัทยา ค.นายอำเภอเมืองชลบุรี ง.ผูว้ ่าราชการจังหวัดชลบรุ ี ตอบ ข.ประธานสภาเมืองพทั ยา อธิบายตาม พรบ.ระเบียบการบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 19สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลง เมื่อ(1)ถึงคราวออกตามอายุของสภาเมืองพัทยาหรือมีการยุบสภาเมืองพัทยา(2)ตาย(3)ลาออก โดยยื่นหนังสือ ลาออกต่อประธานสภาเมอื งพทั ยา (4)กระทำการอันต้องหา้ มตามมาตรา 49 วรรคสาม (5)ขาดคุณสมบัติหรือมี ลักษณะตอ้ งหา้ มตามมาตรา 10 (6)ขาดประชุมสภาเมอื งพทั ยาสามคร้ังติดตอ่ กันโดยไม่มีเหตผุ ลอนั สมควร(7)สภ า เมืองพัทยามีมตใิ หพ้ ้นจากตำแหนง่ เพราะมีความประพฤติในทางท่ีจะนำมาซึง่ ความเส่ือมเสียหรือก่อความไม่สงบ เรียบรอ้ ยแกเ่ มอื งพัทยา หรอื กระทำการอันเส่อื มเสยี ประโยชนข์ องสภาเมืองพัทยา โดยมีสมาชกิ จำนวนไม่น้อยกว่า หน่ึงในสามของจำนวนสมาชิกเทา่ ท่มี ีอยู่เขา้ ช่ือเสนอให้สภาเมืองพัทยาพจิ ารณา และมติดังกลา่ วตอ้ งมคี ะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนสมาชิกเท่าที่มีอยู่ ทั้งนี้ ให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงนับแต่วันที่สภาเมืองพัทยามี กลุ่มสิงห์ทอง ท้องถ่ิน (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 19 มติ(8)ราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเมืองพัทยาได้ลงคะแนนเสียงให้พ้นจากตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยการ ลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น/เมื่อมีกรณีสงสัยว่าสมาชิกภาพของ สมาชิกผู้ใดสิ้นสุดลงตาม (4) (5) หรือ (6) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสอบสวนและวินิจฉัยโดยเร็ว คำวินิจฉัยของ ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ใหเ้ ป็นทส่ี ุด/ในกรณีท่ีสมาชิกภาพของสมาชิกส้ินสุดลงตาม (8) พร้อมกัน ให้ถือว่าเป็นการยุบ สภาเมอื งพัทยา 044 ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ชลบรุ ีแต่งตัง้ รองประธานสภาเมืองพัทยามีจำนวนกีค่ น ก. 1 คน ข. 2 คน ค. 3 คน ง. 4 คน ตอบ ข. 2 คน อธิบายตาม พรบ.ระเบียบการบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 22 ให้สภาเมืองพัทยาเลือก สมาชิกเป็นประธานสภาเมืองพัทยาคนหนึ่งและรองประธานสภาเมืองพัทยาจำนวนสองคน แล้วเสนอผู้ว่า ราชการจังหวัดแตง่ ตัง้ 045 บุคคลในข้อใดขาดคณุ สมบัติทจี่ ะสมคั รรับเลือกตงั้ เปน็ นายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวดั ก.นายชาญชยั อายุ 35 ปี ในวันสมคั รรับเลือกตั้ง และสำเรจ็ การศกึ ษาระดับปรญิ ญาเอกดา้ นรฐั ศาสตร์ ข.นายเอกชยั อายุ 35 ปี ในวันเลอื กต้งั และเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาเทศบาลมาแลว้ ค.นายคมเดช อายุ 45 ปี สำเรจ็ การศกึ ษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและเคยเป็นสมาชกิ สภาจงั หวดั ง.นายรกั ชาติ อายุ 50 ปี และเคยสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรมาหลายสมัย ตอบ ข.นายเอกชยั อายุ 35 ปี ในวันเลือกต้ังและเคยดำรงตำแหน่งสมาชกิ สภาเทศบาลมาแล้ว อธิบายตาม พรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 35/1 บุคคลผู้มีสิทธิสมคั รรับเลือกตั้งเปน็ นายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องมีคุณสมบัตแิ ละไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภา ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ด้วย (1) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีนับถึงวัน เลือกตั้ง (2) สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภา องคก์ ารบริหารส่วนจังหวดั ผบู้ ริหารท้องถ่ิน หรือสมาชกิ รฐั สภา เพิ่มเติม ตวั เลือก ข.นายเอกชัยแม้จะมีอายุ 35 ปี ในวันเลือกตั้งและเคยดำรงตำแหน่งสมาชกิ สภาเทศบาลมาแล้วแต่กฎหมายมาตรา 35/1 (2) บัญญัติเฉพาะเคย เป็นสมาชิกสภาจังหวัด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ข้อ ก. นายชาญชัย มีคุณสมบัติครบ ค.นายคม เดช แม้ว่าจะไม่สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีแต่เคยเคยเป็นสมาชิกสภาจังหวัด ส่วน ง. นายเอกชัย แม้ไม่จบ ปริญญาตรแี ตก่ ็เคยเปน็ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากอ่ นซง่ึ เท่ากบั ว่าเคยเป็นสมาชกิ รฐั สภานนั่ เอง 046 สมัยประชุมของสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปีหนึ่งมี 2 สมัย มีกำหนด 45 วัน หากมีความ จำเปน็ ต้องขยายสมยั ออกไปอกี ผใู้ ดเป็นผูส้ ง่ั ให้ขยายสมยั ประชมุ และคร้งั ละก่ีวนั ก.ผู้ว่าราชการจังหวัด ครง้ั ละไมเ่ กนิ 15 วัน ข.สภาองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ครัง้ ละ 30 วัน กลมุ่ สิงห์ทอง ท้องถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 20 ค.ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ครง้ั ละไมเ่ กิน 15 วนั ง.รฐั มนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ส่ังไดไ้ มจ้ ำกดั จำนวนวนั ตอบ ค.ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัด ครงั้ ละไมเ่ กนิ 15 วนั อธิบายตาม พรบ.องคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 22 ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญสองสมัย/ ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องกำหนดให้สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้มาประชุมสภาองค์การบริหารส่วน จังหวัดครั้งแรกภายในสิบห้าวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์ก ารบริหารส่วนจังหวัด/วันเริ่ม สมัยประชุมสามัญประจำปี ให้สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด/สมัยประชุมสามัญให้มีกำหนดสี่สิบห้าวัน แต่ถ้ามีกรณีจำเป็นให้ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสั่งขยายสมัยประชุมสามัญออกไปอีกได้ตามความ จำเป็นครง้ั ละไมเ่ กินสิบหา้ วนั /การปิดสมัยประชุมสามัญก่อนครบกำหนดเวลาส่สี บิ หา้ วันจะกระทำมไิ ด้/กรณีที่สภา องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดไม่อาจจัดให้มีการประชมุ คร้งั แรกไดต้ ามกำหนดเวลาในวรรคสอง หรือมีการประชุมแต่ ไม่อาจเลือกประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาจเสนอรัฐมนตรีให้มีคำสั่ งยุบสภา องค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด 047 ตำแหนง่ ในข้อใดมใิ ช่องค์ประกอบของคณะกรรมการกลางพนกั งานสว่ นตำบล ก.ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข.อธบิ ดีกรมส่งเสรมิ การปกครองท้องถ่นิ ค.ประธานสภาองค์การบรหิ ารสว่ นตำบล ง.ปลัดองคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล ตอบ ค.ประธานสภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตำบล อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิน่ พ.ศ. 2542 มาตรา 26 เพื่อให้การปฏิบตั ิหน้าท่ีเกี่ยวกับ การบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละแห่งเป็นไปโดยมีมาตรฐานที่สอดคล้องกัน ให้มี คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบลคณะหนึ่ง ประกอบด้วย(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้รับมอบหมาย เป็นประธาน (2) ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ อธิบดีกรมบัญชีกลาง และอธิบดีกรมส่งเสริม การปกครองท้องถิ่น*(3)ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลจำนวนหกคน ซึ่งคัดเลือกจากประธานกรรมการ บริหาร องคก์ ารบริหารสว่ นตำบลจำนวนสามคน และปลดั องค์การบรหิ ารสว่ นตำบลจำนวนสามคน(4)ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน หกคน ซึ่งคัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานท้องถิ่น ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านการบริหารและการจัดการหรือ ด้านอื่นที่จะเป็นประโยชน์แก่การบริหารงานบุคคลของ องค์การบริหารสว่ นตำบล/การคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ิตาม (4) ให้กรรมการตาม (1) และ (2) เสนอรายชื่อ บคุ คลจำนวนเก้าคน และกรรมการตาม (3) เสนอรายชอ่ื บุคคลจำนวนเก้าคน และให้บคุ คลทั้งสิบแปดคนดังกล่าว ประชุมเพื่อคัดเลือกกันเองให้เหลือหกคน/วิธีการคัดเลือกผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลและผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นกำหนด /ให้ ปลดั กระทรวงมหาดไทยมีหน้าที่ดำเนินการจัดให้มีการคัดเลอื กประธานกรรมการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบล หรือปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล แล้วแต่กรณี เป็นผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบล/ให้อธิบดีกรมส่งเสริมการ กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถิน่ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 21 ปกครองท้องถิ่น*แต่งตั้งข้าราชการในกรมการปกครองคนหนึ่งซึง่ ดำรงตำแหนง่ ไมต่ ำ่ กว่ารองอธิบดเี ปน็ เลขานุการ คณะกรรมการกลางพนักงานส่วนตำบล/กรรมการผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบลซึ่งคัดเลือกจากปลัดองค์การ บรหิ ารส่วนตำบลและกรรมการผ้ทู รงคณุ วุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสป่ี ี และอาจไดร้ บั คดั เลือกอีกได้ และ ให้นำความในมาตรา 6 วรรคหน่งึ มาตรา 7 และมาตรา 9 มาใช้บังคับโดยอนุโลม 048 องค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจงั หวัดทีม่ าจากผู้ทรงคุณวุฒจิ ำนวน 4 คนมที ่ีมาอย่างไร ก.ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั เป็นผู้สรรหาและคดั เลอื ก ข.ผ้แู ทนองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวดั เป็นผู้คดั เลือก ค.ได้มาโดยการประกาศรับสมคั รบุคคลท่ีมคี ุณสมบตั ิเป็นการทวั่ ไป ง.บคุ คลที่มีความรแู้ ละเช่ยี วชาญที่ไดร้ ับการเสนอช่ือจำนวน 12 คน ประชุมคัดเลือกกนั เองให้เหลือ 4 คน ตอบ ง.บุคคลผไู้ ดร้ บั การเสนอชือ่ จำนวน 12 คน ประชุมคดั เลือกกนั เองให้เหลือ 4 คน อธิบายตาม พรบ.ระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลส่วนท้องถน่ิ พ.ศ. 2542 มาตรา 5 ในองค์การบริหารส่วนจังหวัดแต่ละ แห่ง ให้มีคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดคณะหนึ่ง ประกอบด้วย(1)ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็น ประธาน(2)หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดจำนวนสามคนจากส่วนราชการในจังหวดั นั้น ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด ประกาศกำหนดว่าเป็นส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็นเพ่ือประโยชน์ในการบริหารงานบุคคล ผู้ว่า ราชการจงั หวดั จะประกาศเปล่ียนแปลงการกำหนดสว่ นราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อใดก็ได้(3)ผู้แทนองค์การบริหารส่วน จงั หวดั จำนวนส่ีคน ประกอบดว้ ย นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด สมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวัดซึ่งสภา องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดคดั เลือกจำนวนหน่ึงคน ปลัดองค์การบริหารส่วนจงั หวดั และผู้แทนข้าราชการองค์การ บริหารส่วนจังหวัดซึ่งคดั เลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน(4)ผูท้ รงคุณวุฒิจำนวนสี่คน ซึ่งคัดเลือกจากบุคคลซึง่ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานท้องถิ่น ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านการบริหารและ การจัดการหรือด้านอื่นที่จะเป็นประโยชน์แก่การบริหารงานบุคคลขององค์การบริหารส่วนจั งหวัด/การคัดเลือก กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตาม (4) ให้กรรมการตาม (1) และ (2)เสนอรายชื่อบุคคลจำนวนหกคน และกรรมการตาม (3) เสนอรายชือ่ บุคคลจำนวนหกคนและให้บคุ คลทั้งสิบสองคนดงั กลา่ วประชมุ เพ่ือคดั เลือกกนั เองให้เหลือสี่คน วธิ ีการคดั เลือกผแู้ ทนขา้ ราชการองคก์ ารบรหิ ารส่วนจังหวดั และผู้ทรงคุณวุฒิใหเ้ ปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละเงื่อนไขท่ี คณะกรรมการกลางข้าราชการองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั กำหนด/ใหผ้ ู้ว่าราชการจังหวดั มหี น้าที่ดำเนินการจัดให้มี การคัดเลือกผู้แทนข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด/ให้ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นเลขานุการ คณะกรรมการข้าราชการองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั 049 การออกคำสั่งของนายกองค์การบริหารส่วนตำบลในเร่ืองใดที่มิต้องขอความเหน็ ชอบคณะกรรมการ พนกั งานองคก์ ารบริหารส่วนตำบล( ก.อบต.จงั หวดั ) ก่อนออกคำส่ัง ก. เลอ่ื นขั้นเงินเดอื นพนกั งานส่วนตำบล ข. ลงโทษทางวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรงปลดออก ค. ให้พนักงานส่วนตำบลออกจากราชการไวก้ ่อน ง. บรรจแุ ละแตง่ ตง้ั พนกั งานสว่ นตำบล กล่มุ สิงห์ทอง ท้องถ่นิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 22 ตอบ ก.เลือ่ นข้ันเงินเดอื นพนกั งานสว่ นตำบล อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 25 วรรคท้าย ให้นำความในมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 มาตรา 13 มาตรา 14 และมาตรา 15 มาใชบ้ ังคับกับการปฏิบตั ิหนา้ ทขี่ องคณะกรรมการ พนักงานส่วนตำบลด้วยโดยอนุโลมทั้งนี้ โดยให้การใช้อำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติดังกล่าวเป็นอำนาจหน้าที่ของ คณะกรรมการกลางพนักงานสว่ นตำบล คณะกรรมการพนักงานสว่ นตำบล หรือประธานกรรมการบริหารองค์การ บริหารส่วนตำบล แล้วแต่กรณี/มาตรา 15 การออกคำสั่งเกี่ยวกับการบรรจุและแต่งตั้ง การย้าย การโอนการ รับโอน การเลื่อนระดับ การเลื่อนขั้นเงินเดือน การสอบสวน การลงโทษทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ หรือการอื่นใดที่เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ให้เป็นอำนาจของนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัด ทัง้ น้ี ตามหลักเกณฑท์ ่ีคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดกำหนด แต่สำหรับ การออกคำสั่งแต่งตั้ง และการให้ข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดพ้นจากตำแหน่ง ต้องได้รับความเห็นชอบ จากคณะกรรมการข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัดก่อน /อำนาจในการดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงาน บุคคลตามวรรคหนึ่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอาจมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในตำแหน่งใดของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งนั้น เป็นผู้ใช้อำนาจแทนนายกองค์การบริหารสว่ นจงั หวัดได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่ คณะกรรมการข้าราชการองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัดกำหนด 050 ข้อใดเป็นเงื่อนไขสำคัญการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการ พนกั งานเมืองพทั ยาซง่ึ มปี ลัดเมืองพทั ยาเปน็ เลขานุการ ก.ต้องให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของนายกเมืองพัทยาและนโยบายทแ่ี ถลงต่อสภาเมืองพัทยา ข.การบรหิ ารงานบคุ คลของคณะกรรมการพนกั งานเมืองพัทยาต้องมีความเหมาะสมของเมอื งพทั ยา ค.ต้องอยภู่ ายใตม้ าตรฐานทวั่ ไปเกีย่ วกับการบรหิ ารงานบคุ คลที่คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลกำหนด ง.ต้องอยู่ภายใตก้ ารบริหารของคณะกรรมการมาตรฐานการบรหิ ารงานบุคคลสว่ นทอ้ งถิ่น ตอบ ค.ต้องอยู่ภายใต้มาตรฐานทั่วไปเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลที่คณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาล กำหนด อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 28เมืองพัทยาให้มีคณะกรรมการ พนักงานเมืองพัทยาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของ พนักงานเมืองพทั ยา ประกอบดว้ ย (1)ผวู้ ่าราชการจังหวดั ชลบุรีเป็นประธาน(2) นายอำเภอหรือหัวหน้าส่วน ราชการในจงั หวัดชลบุรจี ำนวนสามคน ซึ่งผูว้ ่าราชการจงั หวัดชลบุรีประกาศกำหนดวา่ เป็นสว่ นราชการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการบริหารงานบุคคล ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีจะประกาศเปลี่ยนแปลงการ กำหนดส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเมื่อใดก็ได้ ( 3คน)(3)ผู้แทนเมืองพัทยาจำนวนสี่คน ประกอบด้วย 1นายกเมือง พัทยา 2.สมาชิกสภาเมืองพัทยา ซึ่งสภาเมืองพัทยาคัดเลือกจำนวนหนึ่งคน 3.ปลัดเมืองพัทยา และ4.ผู้แทน พนักงานเมอื งพัทยาซ่งึ คดั เลือกกันเองจำนวนหน่งึ คน(4)ผู้ทรงคุณวฒุ ิจำนวนสีค่ น ซ่งึ คดั เลอื กจากบุคคลซ่ึงมีความรู้ ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานท้องถิ่น ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านการบริหารและ การจัดการหรือ ด้านอื่นที่จะเป็นประโยชน์แก่การบริหารงานบุคคลของเมืองพัทยา/การคัดเลือกกรรมการ ผทู้ รงคณุ วฒุ ติ าม (4) ให้กรรมการตาม (1) และ (2) เสนอรายชอ่ื บุคคลจำนวนหกคน และกรรมการตาม (3) เสนอ กล่มุ สิงหท์ อง ท้องถนิ่ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 23 รายชื่อบุคคลจำนวนหกคน และให้บุคคลทั้งสิบสองคนดังกล่าวประชุมเพื่อคัดเลือกกันเองให้เหลือสี่คน /วิธีการ คัดเลือกผู้แทนพนักงานเมืองพัทยาและผู้ทรงคุณวุฒิ ให้นำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกลางพนักงาน เทศบาลกำหนด มาใช้บังคับโดยอนุโลม/ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีมีหน้าที่ดำเนินการจัดให้มีการคัดเลือก พนักงานเมืองพัทยา เป็นผู้แทนพนักงานเมืองพัทยา/ให้ปลัดเมืองพัทยาเป็นเลขานุการคณะกรรมการพนักงาน เมืองพัทยา/กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนพนักงานเมืองพัทยาและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราว ละสี่ปี และอาจได้รับคัดเลือกอีกได้ และให้นำความในมาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ มาใช้บังคับ โดยอนโุ ลม/ให้นำความในมาตรา ๑๐ มาตรา ๑๑ มาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ มาตรา ๑๔ มาตรา ๑๕ มาตรา ๒๐ และ มาตรา ๒๒ มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการพนักงานเมืองพัทยาด้วยโดยอนุโลม ทั้งนี้ โดยให้ การใช้อำนาจหน้าที่ตามบทบัญญัติดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพนักงานเมืองพัทยา หรือนายก เมืองพัทยา แล้วแต่กรณี/การกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของคณะกรรมการพนักงานเมือง พัทยา ให้มีอำนาจกำหนดให้สอดคล้องกับความต้องการและความเหมาะสมของเมืองพัทยา แต่จะต้องอยู่ภายใต้ มาตรฐานทั่วไปเก่ียวกับการบรหิ ารงานบุคคลท่คี ณะกรรมการกลางพนักงานเทศบาลกำหนด 051 พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 ให้ทบทวนการกำหนดอำนาจและหน้าที่และการจัดสรรรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุก ระยะเวลากป่ี ี ก. 2 ปี ข. 4 ปี ค. 5 ปี ง. 10 ปี ตอบ ค. 5 ปี อธิบายตาม พรบ.กำหนดแผนและข้นั ตอนฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 34 ให้คณะกรรมการพิจารณาทบทวนการ กำหนดอำนาจและหน้าที่และการจัดสรรรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายหลังที่ได้ดำเนินการ ตาม แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไปแล้ว โดยต้องพิจารณาทบทวนใหม่ทุกระยะเวลาไม่ เกินห้าปีนับแต่วันที่มีการกำหนดอำนาจและหน้าที่หรือวันที่มีการจัดสรรรายได้ ทั้งนี้ จะต้องพิจารณาถึงความ เหมาะสมของการกำหนดอำนาจและหนา้ ท่แี ละการจัดสรรรายได้ เพ่อื กระจายอำนาจเพ่มิ ข้ึนให้แก่องค์กรปกครอง สว่ นท้องถนิ่ 052 การดำรงตำแหน่งประธานกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบคุ คลสว่ นท้องถ่ิน (ก.ถ.) กรณีการพ้น จากตำแหน่ง ข้อใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ ง ก.อยใู่ นตำแหนง่ คราวละ 4 ปี นบั แต่วันทไี่ ด้รบั การแต่งตั้ง ข.ประสงคล์ าออกให้ย่นื หนงั สอื ลาออกต่อรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ค.เปน็ คนไร้ความสามารถหรอื เสมือนไรค้ วามสามารถ ง.ได้รับโทษจำคุกโดยคำพพิ ากษาถงึ ท่สี ุดใหจ้ ำคุก ตอบ ก.อยูใ่ นตำแหนง่ คราวละ 4 ปี นบั แตว่ นั ท่ีได้รบั การแต่งต้ัง กล่มุ สิงห์ทอง ท้องถิน่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 24 อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มาตรา 32 ให้ประธานกรรมการมาตรฐาน การบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละหกปีนับแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้ง และให้ดำรง ตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว/นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ประธานกรรมการมาตรฐานการบริหารงาน บ ุ ค ค ล ส ่ ว น ท ้ อ ง ถ ิ ่ น พ ้ น จ า ก ต ำ แ ห น ่ ง เ ม ื ่ อ (1) ต า ย (2) ล า อ อ ก โ ด ย ย ื ่ น ห น ั ง ส ื อ ล า อ อ ก ต ่ อ ร ั ฐ ม น ต ร ี ว ่ า ก า ร กระทรวงมหาดไทย(3)รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทยส่งั ให้ออก โดยความเห็นชอบของคณะรฐั มนตรีเน่ืองจาก มีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพรอ่ ง หรอื ไม่สจุ ริตต่อหนา้ ที่(4)ขาดคุณสมบัติตามมาตรา 31 วรรคสอง(5)เป็นบุคคล ล้มละลาย(6)เปน็ คนไร้ความสามารถหรอื เสมอื นไร้ความสามารถ(7)ได้รับโทษจำคกุ โดยคำพิพากษาถึงทส่ี ดุ ใหจ้ ำคุก 053 ตำแหน่งในข้อใดทำหนา้ ที่เปน็ เลขานุการสภาเมืองพัทยา ก.สมาชิกสภาเมอื งพทั ยาคนหน่งึ ที่สภาเมอื งพัทยาเลือก ข.พนักงานเมืองพัทยาคนหนึง่ ที่สภาเมืองพัทยาเลือก ค.ปลดั เมืองพทั ยา ง. เลขานกุ ารประธานสภาเมอื งพทั ยาซ่งึ ประธานสภาแต่งต้ัง ตอบ ค. ปลัดเมืองพทั ยา อธิบายตาม พรบ.ระเบียบบริหารราชการเมืองพัทยา พ.ศ. 2542 มาตรา 28 ให้ปลัดเมืองพัทยาทำหน้าที่ เลขานุการสภาเมืองพัทยา มีหน้าที่รับผิดชอบงานธุรการและการจัดประชุมและงานอื่นใดตามที่สภาเมืองพัทยา มอบหมาย 054 เมื่อมีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะท้องถิ่นใดเป็นเทศบาลเมืองหรอื เทศบาลนครและล่วงพน้ กำหนด 1 ปีแล้ว ตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ตำแหน่งใดต่อไปนี้ไม่ต้องพ้นจากตำแหน่งและ หน้าท่ใี นเขตเทศบาลนั้น ก.กำนนั และสารวตั รกำนัน ข.ผู้ใหญ่บ้าน และผูช้ ว่ ยผู้ใหญบ่ า้ น ค.แพทย์ประจำตำบล ง.ปลัดเทศบาล ตอบ ง.ปลดั เทศบาล อธิบายตาม พรบ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 4 เมื่อพน้ กำหนดหนึง่ ปี นบั แตว่ นั ทีไ่ ด้มปี ระกาศกระทรวงมหาดไทย ยกฐานะท้องถิ่นใดเป็นเทศบาลเมืองหรือเทศบาลนครแล้ว ห้ามมิให้ใช้กฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องท่ี ใน ส่วนที่บัญญัติถึงการแต่งตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันในท้องถิ่นน้นั และให้บรรดาบุคคลที่เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และสารวัตรกำนันพ้นจาก ตำแหน่งและหน้าท่ีเฉพาะในเขตท้องถ่ินน้นั /ในเขตเทศบาลตำบลใด ถา้ หมดความจำเป็นท่ีจะตอ้ งมีตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล หรือสารวัตรกำนัน ให้รัฐมนตรีประกาศยกเลิกตำแหน่ง ดังกล่าวในราชกิจจานเุ บกษา 055 “ท้องถิ่นอันเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด หรือท้องถิ่นชุมนุมชนที่มีราษฎรตั้งแต่ 10,000 คนขึ้นไป” ข้อความน้เี ก่ยี วข้องกับขอ้ ใด กล่มุ สิงห์ทอง ท้องถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 25 ก.เทศบาลตำบล ข.เทศบาลเมือง ค.เทศบาลนคร ง.เมอื งพทั ยา ตอบ ข.เทศบาลเมือง อธิบายตาม พรบ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 9 เทศบาลตำบล ได้แก่ ทอ้ งถ่นิ ซ่งึ มีประกาศกระทรวงมหาดไทยยก ฐานะขึ้นเป็นเทศบาลตำบล ประกาศกระทรวงมหาดไทยนัน้ ให้ระบุชื่อและเขตเทศบาลไว้ด้วย/มาตรา 10เทศบาล เมือง ได้แก่ ท้องถิ่นอันเป็นที่ตั้งศาลากลางจังหวัด หรือท้องถิ่นชุมนุมชนที่มีราษฎรตั้งแต่หนึ่งหมื่นคนขึ้นไป ทั้งมี รายได้พอควรแก่การที่จะปฏิบัติหน้าที่อันต้องทำตามพระราชบัญญัตินี้ และซึ่งมีประกาศกระทรวงมหาดไทยยก ฐานะเปน็ เทศบาลเมือง ประกาศกระทรวงมหาดไทยนั้นให้ระบุช่ือและเขตของเทศบาลไว้ด้วย/มาตรา 11เทศบาล นคร ได้แก่ ท้องถิ่นชุมนุมชนที่มีราษฎรตั้งแต่ห้าหมื่นคนขึน้ ไป ทั้งมีรายได้พอควรแก่การที่จะปฏิบตั ิหน้าท่ีอันต้อง ทำตามพระราชบัญญัติน้ีและซึ่งมีประกาศกระทรวงมหาดไทยยกฐานะเป็นเทศบาลนครประกาศกระทรวง มหาดไทยน้ันใหร้ ะบุช่ือและเขตของเทศบาลไว้ด้วย 056 สภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีเป็นองคป์ ระกอบของข้อใด ก.เทศบาล ข.องคก์ ารเทศบาล ค.สหการเทศบาล ง.สนั นิบาตเทศบาล ตอบ ข.องคก์ ารเทศบาล อธบิ ายตาม พรบ.เทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 14 องค์การเทศบาลประกอบดว้ ยสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี 057 กรณีผลแห่งละเมิดอันเกิดขึ้นจากการปฏิบัติหนา้ ที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐและเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้ฟ้อง กระทรวงการคลัง ข้อใดตอ่ ไปนีเ้ ป็นเหตใุ หต้ ้องฟ้องกระทรวงการคลงั ก.เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ผู้กระทำละเมดิ สังกัดกระทรวงการคลัง ข.เจา้ หน้าทข่ี องรฐั ผ้กู ระทำละเมดิ ไม่ไดส้ ังกดั กระทรวงการคลงั ค.เจ้าหน้าที่ของรฐั ผู้กระทำละเมดิ ไม่ได้สงั หน่วยงานของรัฐแหง่ ใด ง.เจ้าหนา้ ที่ของรฐั ผ้กู ระทำละเมดิ สงั กัดองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ ตอบ ค.เจา้ หน้าที่ของรฐั ผกู้ ระทำละเมดิ ไม่ได้สงั หน่วยงานของรฐั แหง่ ใด อธิบายตาม พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 5หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดต่อ ผู้เสียหายในผลแหง่ ละเมดิ ทีเ่ จ้าหน้าที่ของตนได้กระทำในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ในกรณีนี้ผู้เสียหายอาจฟอ้ งหนว่ ยงาน ของรัฐดังกล่าวได้โดยตรง แต่จะฟ้องเจ้าหน้าที่ไม่ได้/ถ้าการละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐ แหง่ ใดให้ถือว่ากระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานของรัฐทตี่ ้องรบั ผิดตามวรรคหนง่ึ 058 กรณีคดีที่ผู้เสียหายฟ้องหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยเหตุว่าต้องร่วมรับผิดชอบใน ความเสียหายท่ีเกิดขึ้น และศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องมิใช่ผู้ กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถน่ิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 26 ต้องรับผิดอายุความฟ้องร้องผู้ที่ต้องรับผิดซึ่งมิได้ถูกเรียกเข้ามาในคดีออกไป อีกตามข้อใดนับแต่วันที่คำ พพิ ากษานัน้ ถงึ ท่ีสดุ ก. 6 เดือน ข. 1 ปี ค. 2 ปี ง. 10 ปี ตอบ ก. 6 เดือน อธิบายตาม พรบ.ความรับผดิ ทางละเมิดของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. 2539 มาตรา 7ในคดีที่ผเู้ สยี หายฟ้องหน่วยงานของ รัฐ ถ้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดหรือต้องร่วมรับผิด หรือในคดีที่ผู้เสียหายฟ้อง เจ้าหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่เห็นว่าเป็นเรื่องที่หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดหรือต้องร่วมรับผิ ด หน่วยงานของรัฐหรือ เจา้ หนา้ ท่ีดังกลา่ วมสี ทิ ธิขอให้ศาลท่พี ิจารณาคดีนั้นอยู่เรียกเจ้าหน้าทีห่ รือหนว่ ยงานของรัฐแลว้ แตก่ รณี เข้ามาเป็น คู่ความในคดี/ถ้าศาลพิพากษายกฟ้องเพราะเหตุที่หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่ถูกฟ้องมิใช่ผู้ต้องรับผิด ให้ ขยายอายุความฟ้องร้องผู้ที่ต้องรับผิดซึ่งมิได้ถูกเรียกเข้ามาในคดีออกไปถึงหกเดือนนับแต่วันที่คำพิพากษานั้นถึง ทีส่ ุด 059 กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้กระทำละเมิดจะต้องรับผิดแห่งความเสียหายต่อหน่วยงานของรัฐ ตาม ระเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรซี ง่ึ คณะรฐั มนตรีกำหนดใหส้ ามารถผ่อนชำระเงนิ ท่ีต้องรบั ผดิ นน้ั ได้โดยคำนึงถึงข้อ ตอ่ ไปนี้ ยกเวน้ ข้อใด ก.รายได้ ฐานะ ครอบครวั ข.ความรบั ผดิ ชอบ ค.พฤติการณ์แห่งกรณี ง.ระดบั ตำแหนง่ ตอบ ง. ระดบั ตำแหน่ง อธิบายตาม พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 มาตรา 13 ให้คณะรัฐมนตรีจัดให้มีระเบียบ เพ่ือใหเ้ จา้ หนา้ ท่ีซึ่งต้องรับผิดตามมาตรา 8 และมาตรา 10 สามารถผอ่ นชำระเงินทีจ่ ะต้องรับผดิ นนั้ ไดโ้ ดยคำนึงถึง รายได้ ฐานะ ครอบครวั และความรับผดิ ชอบ และพฤติการณแ์ หง่ กรณปี ระกอบด้วย 060 ขอ้ ใดตอ่ ไปนไี้ ม่ใช่คำสัง่ ทางปกครอง ก.คำสั่งเล่อื นข้ันเงนิ เดอื น ข.คำวนิ ิจฉัยอุทธรณ์คำสงั่ ค.ประกาศกระทรวง ง.การออกใบอนญุ าตก่อสร้างอาคาร ตอบ ค.ประกาศกระทรวง อธิบายตาม พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 4 “คำสั่งทางปกครอง” หมายความว่า(1) การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ กลุม่ สิงหท์ อง ท้องถิ่น (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 27 เปล่ยี นแปลง โอน สงวน ระงบั หรอื มีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธหิ รือหนา้ ท่ีของบุคคล ไมว่ ่าจะเป็นการถาวร หรือช่ัวคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ(2)การอื่นที่กำหนดในกฎกระทรวง “กฎ” หมายความว่า พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง ประกาศกระทรวง ข้อบัญญัติท้องถิ่น ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทบัญญัติอื่นที่มีผลบังคับเป็นการ ทว่ั ไป โดยไม่มงุ่ หมายใหใ้ ช้บังคบั แก่กรณีใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะ 061 บคุ คลในขอ้ ใดกระทำการใช้อำนาจทางปกครองเพ่อื ออกคำสั่งทางปกครองไดถ้ กู ต้อง ก.นายคมกรบิ เปน็ อธบิ ดีกรม สงั่ ใหล้ กู ชายอย่เู ฝา้ บ้านและใหภ้ รรยาไปจา่ ยตลาด ข.นายคมสนั เป็นผู้จดั การบริษัทชือ่ ดงั ออกคำส่งั ให้พนักงานบริษทั มาทำงานในวันหยดุ ค.นายคมคาย เปน็ รองนายก อบต.ลงนามใบอนุญาตรื้อถอนอาคารโดยปฏบิ ตั ริ าชการแทนนายก อบต. ง.นายคมมาก เป็นนายกองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัด สง่ั ให้คนขบั รถไปซอื้ ของท่หี ้างในเวลาราชการ ตอบ ค.นายคมคาย เป็นรองนายก อบต.ลงนามใบอนญุ าตรือ้ ถอนอาคารโดยปฏบิ ัติราชการแทนนายก อบต. อธบิ ายตาม พรบ.วิธีปฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 มาตรา 5 “เจ้าหน้าท”่ี หมายความว่า บุคคล คณะ บคุ คล หรอื นิติบคุ คล ซ่ึงใชอ้ ำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างหน่ึงอย่าง ใดตามกฎหมาย ไมว่ า่ จะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจหรอื กจิ การอ่ืนของรัฐหรือไม่ก็ตาม มาตรา 12 คำสงั่ ทางปกครองจะตอ้ งกระทำโดยเจ้าหนา้ ทซ่ี ่ึงมอี ำนาจหน้าทใี่ นเรื่องน้ัน 062 ขอ้ ใดตอ่ ไปนไ้ี มถ่ ือวา่ เปน็ ข้อมลู ขา่ วสารสว่ นบคุ คล ก.ประวตั ิอาชญากรรม ข.บตั รประจำตวั เจ้าหน้าที่ของรัฐ ค.ฐานะการเงิน ง.ตำแหนง่ หน้าทรี่ าชการ ตอบ ง.ตำแหนง่ หนา้ ท่รี าชการ อธิบายตาม พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มาตรา 5 “ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล” หมายความว่า ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งเฉพาะตัวของบุคคล เช่น การศึกษา ฐานะการเงิน ประวัติสุขภาพ ประวัติอาชญากรรม หรือประวตั กิ ารทำงานบรรดาที่มีชื่อของผู้นน้ั หรือมีเลขหมาย รหัส หรอื สง่ิ บอกลักษณะอ่ืนที่ทำให้ร้ตู ัวผู้น้ันได้ เช่น ลายพิมพ์นิ้วมือ แผ่นบันทึกลักษณะเสียงของคนหรือรูปถ่าย และให้หมายความรวมถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับส่ิง เฉพาะตัวของผู้ทถ่ี งึ แกก่ รรมแล้วด้วย 063 การซื้อหรือจ้างพัสดุที่กําหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e - catalog) ครั้งหนึ่งที่มีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไมเ่ กนิ 5,000,000 บาท ใหใ้ ชว้ ิธกี ารใด ก.วิธีประกวดราคาอิเลก็ ทรอนิกส์ (e - bidding) ข.วธิ ีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e - market) ค.วิธีเฉพาะเจาะจง ง.วธิ ใี ดกไ็ ดต้ ามท่หี ัวหนา้ หน่วยงานของรัฐพจิ ารณา ตอบ กาํ หนดไว้ในระบบขอ้ มลู สนิ คา้ (e - catalog) กล่มุ สิงหท์ อง ท้องถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 28 อธิบายตาม รบ.กค.ว่าด้วยการจัดซื้อฯ พ.ศ. 2560 ข้อ 30 วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e - market) คือ การซ้ือ หรือจ้างทมี่ รี ายละเอยี ดคุณลกั ษณะ เฉพาะของพัสดุที่ไมซ่ ับซ้อนหรือเป็นสนิ คา้ หรืองานบริการท่ีมีมาตรฐาน และ ได้กําหนดไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e - catalog) โดยให้ดําเนินการในระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Market : e - market) ตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกําหนด ซึ่งสามารถกระทําได้ 2 ลักษณะ ดังนี้ (1) การ เสนอราคาโดยใบเสนอราคา คือ การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท (2) การเสนอราคาโดยการประมูลอเิ ล็กทรอนกิ ส์ คอื การซอ้ื หรอื จ้างครั้งหนงึ่ ซึง่ มีวงเงนิ เกิน 5,000,000 บาท/ข้อ 31 วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e - bidding) คือ การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซึ่งมี วงเงินเกนิ 500,000 บาท และเป็นสนิ ค้าหรืองานบริการทไ่ี ม่ได้กำหนดรายละเอยี ดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุ ไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e - catalog) โดยให้ดำเนินการในระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Bidding : e - bidding) ตามวิธีการทกี่ รมบัญชกี ลางกำหนด 064 ข้อใดต่อไปน้ีไม่ใช่ความหมายของแผนพัฒนาในระดับพ้ืนที่ ก.แผนพฒั นาท้องถ่นิ ข.แผนพฒั นากลมุ่ อาชพี ค.แผนพัฒนาอำเภอ ง.แผนพฒั นาตำบล ตอบ ข.แผนพฒั นากลมุ่ อาชีพ อธิบายตาม รบ.มท. ว่าด้วยการจัดทำและประสานแผนระดับพื้นที่ฯ พ.ศ. 2562 ข้อ 4 “แผนพัฒนาในระดับ พื้นที่” หมายความว่า แผนพัฒนาหมู่บ้าน แผนชุมชน แผนพัฒนาตำบล แผนพัฒนาท้องถิ่น แผนพัฒนา อำเภอ และแผนพฒั นาของส่วนราชการหรือหน่วยงานอน่ื ท่ดี ำเนนิ การในพื้นท่ีอำเภอ 065 แผนพัฒนาท้องถิ่นของเทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบลและเมืองพัทยาให้จัดทำหรือทบทวนให้ แลว้ เสรจ็ ภายในเวลาตามขอ้ ใด ก.ภายในเดือนตุลาคมก่อนปีงบประมาณ ข.ภายในเดอื นตุลาคมก่อนปงี บประมาณถัดไป ค.ภายในเดือนพฤศจกิ ายนกอ่ นปงี บประมาณ ง.ภายในเดอื นพฤศจกิ ายนกอ่ นปีงบประมาณถัดไป ตอบ ข. ภายในเดอื นตุลาคมกอ่ นปีงบประมาณถดั ไป อธิบายตาม รบ.มท. วา่ ด้วยการจัดทำแผนฯ พ.ศ. 2548 ขอ้ 18 แผนพัฒนาทอ้ งถ่นิ กรณเี ทศบาล องคก์ ารบริหาร ส่วนตำบล เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง ให้จัดทำหรือทบทวนให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนตุลาคมก่อนปีงบประมาณถัดไป /กรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้จัดทำหรือทบทวนให้แล้วเสร็จ ภายในเดือนพฤศจิกายนก่อนปีงบประมาณถัดไป /ให้นายอำเภอมีอำนาจขยายเวลาการจัดทำหรือทบทวน แผนพฒั นาท้องถิน่ ขององค์การบริหารส่วนตำบลนอกจากวรรคสาม/ให้ผู้ว่าราชการจังหวดั มีอำนาจขยายเวลาการ จัดทำหรือทบทวนแผนพฒั นาท้องถ่ิน /ในกรณีเทศบาลตำบลผู้ว่าราชการจังหวัดอาจมอบอำนาจใหน้ ายอำเภอก็ได้ กลุ่มสิงหท์ อง ทอ้ งถน่ิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 29 ในกรณมี กี ารขยายเวลาการจัดทำหรือทบทวนแผนพัฒนาท้องถน่ิ ตามวรรคสาม วรรคสี่และวรรคหา้ แลว้ ให้จังหวัด แจ้งให้กระทรวงมหาดไทยทราบ 066 บุคคลใดเปน็ ผู้พิจารณาอนมุ ตั ิร่างแผนพัฒนาท้องถนิ่ และประกาศใช้แผนพฒั นาท้องถ่นิ ก.สภาทอ้ งถิน่ ข.ผู้บริหารท้องถน่ิ ค.นายอำเภอ ง.ผวู้ า่ ราชการจงั หวัด ตอบ ข.ผู้บริหารทอ้ งถ่ิน อธบิ ายตาม รบ.มท.วา่ ด้วยการจดั ทำแผนฯ พ.ศ. 2548 ขอ้ 17 (4) ผู้บริหารท้องถ่นิ พิจารณาอนุมัติรา่ งแผนพัฒนา ท้องถิ่นและประกาศใช้แผนพัฒนาท้องถิ่น เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยสภาตำบลและองค์การบริหารส่วน ตำบล สำหรับองคก์ ารบริหารสว่ นตำบลให้ผู้บรหิ ารท้องถ่นิ เสนอร่างแผนพัฒนาท้องถนิ่ ต่อสภาองค์การบริหารส่วน ตำบลเพอื่ ให้ความเห็นชอบกอ่ นแลว้ ผบู้ ริหารทอ้ งถน่ิ จึงพจิ ารณาอนุมตั ิ และประกาศใชแ้ ผนพัฒนาท้องถ่นิ ตอ่ ไป ข้อ 24 ให้ผู้บริหารท้องถิ่นประกาศใช้แผนพัฒนาท้องถิ่นที่อนุมัติแล้ว และนำไปปฏิบัติรวมทั้งแจ้งสภาท้องถิ่น คณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ องค์การบริหารส่วนจังหวัด อำเภอ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ ประกาศให้ประชาชนในท้องถิ่นทราบโดยทัว่ กันภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ประกาศใช้และปิดประกาศโดยเปิดเผย ไมน่ อ้ ยกวา่ สามสบิ วนั 067 ข้อใดไม่ใช่ความหมายของผู้บริหารท้องถิ่น ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการ งบประมาณขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ก.นายกองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ข.นายกเทศมนตรี ค.นายกองคก์ ารบริหารสว่ นตำบล ง.นายกเมอื งพทั ยา ตอบ ง. นายกเมอื งพัทยา อธิบายตาม รบ.มท.ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 4 “ผู้บริหาร ทอ้ งถิ่น” หมายความวา่ นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวัด นายกเทศมนตรี และนายกองคก์ ารบริหารส่วนตำบล 068 ร่างงบประมาณรายจา่ ยประจำปีใหผ้ บู้ ริหารท้องถ่นิ นำเสนอต่อสภาท้องถ่นิ ภายในวนั ใด ก. 1 สงิ หาคม ข. 15 สงิ หาคม ค. 30 กันยายน ง. 1 ตุลาคม ตอบ ข. 15 สงิ หาคม อธิบายตาม รบ.มท.ว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ 23 ให้เจ้าหน้าที่ งบประมาณทำการพิจารณาตรวจสอบ วิเคราะห์ และแกไ้ ขงบประมาณ ในชั้นต้น แลว้ เสนอตอ่ ผู้บริหารท้องถิ่น กล่มุ สิงหท์ อง ทอ้ งถ่นิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 30 เมื่อผู้บริหารท้องถิ่น ได้พิจารณาอนุมัติให้ตั้งเงินงบประมาณยอดใดเป็นงบประมาณประจำปีแล้ว ให้เจ้าหน้าท่ี งบประมาณรวบรวมและจัดทำเป็นร่างงบประมาณรายจ่ายเสนอต่อผู้บริหารท้องถิ่นอีกครั้งหนึ่ง เพื่อผู้บริหาร ทอ้ งถิ่นได้นำเสนอตอ่ สภาทอ้ งถ่ินภายในวันที่ 15 สิงหาคม 069 ผ้ใู ดมอี ำนาจให้คำแนะนำนายกองค์การบริหารส่วนจงั หวดั เพอ่ื พิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องในการดูแล รกั ษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ยของบา้ นเมืองในเขตองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ก.ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข.ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ ค.ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ง.อธิบดกี รมสง่ เสรมิ การปกครองท้องถนิ่ ตอบ ก.ปลดั กระทรวงมหาดไทย อธิบายตาม พรบ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 มาตรา 42 ในเขตกรุงเทพมหานครให้เป็นอำนาจของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่จะให้คำแนะนำผูว้ ่าราชการกรุงเทพมหานครเพือ่ พิจารณาแกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง ในการดูแลรกั ษาความสะอาด และความเป็นระเบยี บเรียบร้อยตามที่บญั ญัตไิ วใ้ นพระราชบัญญตั นิ ี้ ในเขตเทศบาล เมืองพัทยา องค์การบริหารส่วนตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ให้เป็นอำนาจของผู้ว่าราชการ จังหวัด และของปลดั กระทรวงมหาดไทยสำหรับในเขตองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวดั 070 การใช้จ่ายทุนสำรองเงินสะสม กรณีที่มียอดเงินทุนสำรองเงินสะสมเกินร้อยละ 15 ของงบประมาณ รายจ่ายประจำปี เมื่อมีความจำเป็นอาจนำเงินทุนสำรองเงินสะสมเฉพาะส่วนที่เกินไปใช้จ่ายได้ ต้องเป็นไป ตามขอ้ ใด ก.ไดร้ ับความเห็นชอบจากสภาท้องถน่ิ ข.ได้รบั อนุมตั จิ ากสภาท้องถ่ิน ค.ได้รับอนมุ ตั ิจากผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ง. ไดร้ บั อนมุ ัตจิ ากปลัดกระทรวงมหาดไทย ตอบ ข.ได้รบั อนมุ ตั จิ ากสภาทอ้ งถ่นิ อธิบายตาม รบ.มท.ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินฯ พ.ศ. 2547 ข้อ 87 วรรค 2 (2) กรณีที่ปีใด องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นมียอดเงินทุนสำรองเงินสะสมเกินร้อยละสิบห้าของงบประมาณรายจ่ายประจำปีนั้น หากมี ความจำเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจนำเงินทุนสำรองเงินสะสมเฉพาะในส่วนที่เกินไปใช้จ่ายได้ภายใต้ เงอ่ื นไขขอ้ 89 (1) โดยไดร้ ับอนุมัติจากสภาทอ้ งถิน่ ” 071 ตำแหน่งใดเป็นผ้รู ักษาการตามพระราชบญั ญตั ิรักษาความสะอาดและความเปน็ ระเบียบเรียบร้อยของ บ้านเมือง พ.ศ. 2535 และมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดอัตรา ค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียม เกยี่ วกับการจัดการสิ่งปฏกิ ูลและมูลฝอยดว้ ย ก.รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสุข ข.รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ค.รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถน่ิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 31 ง.นายรฐั มนตรี ตอบ ข.รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย อธิบายตาม พรบ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ. 2535 “มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนด อตั ราค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตรา ท้ายพระราชบัญญตั นิ ี้ ยกเว้นคา่ ธรรมเนียม และกำหนดกิจการอนื่ เพื่อปฏิบัติการ ตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของแต่ละกระทรวง เว้นแต่การออกกฎกระทรวง กำหนดอัตรา ค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอยให้เป็นอำนาจของ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย /การออกกฎกระทรวงกำหนดอตั ราค่าธรรมเนยี มเกี่ยวกบั การจัดการส่ิงปฏิกูล และมูลฝอย จะกำหนดอัตราคา่ ธรรมเนียมให้แตกต่างกันโดยคำนึงถึงปริมาณสิง่ ปฏิกลู และมลู ฝอย ระยะเวลาการ จัดเก็บ ลักษณะการเก็บ ขน และกำจัดสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย รวมทั้งต้นทุนและความคุ้มค่าในการเก็บ ขน และกำจดั ส่งิ ปฏกิ ลู และมลู ฝอย กไ็ ด้ 072 ข้อใดหมายถึงการประเมินความเสี่ยง ก.ความไมแ่ น่นอนทอี่ าจจะสง่ ผลกระทบต่อวตั ถุประสงค์ ข.กระบวนการระบุความเส่ยี งและการวเิ คราะหเ์ พื่อจัดลำดับความเสยี่ ง ค.สถานะของความเสีย่ งท่ีไดจ้ ากการประเมนิ โอกาส ง.การกำหนดนโยบายโครงสรา้ งและ กระบวนการ ตอบ ข.กระบวนการระบคุ วามเสย่ี งและการวเิ คราะห์เพื่อจดั ลำดับความเสีย่ ง อธิบายตาม 1.ความเสี่ยง (Risk) หมายถึง ความไม่แน่นอนที่อาจจะส่งผลกระทบต่อวัตถุประสงค์ เป้าหมายโดย ผลกระทบดงั กลา่ วทำให้การดำเนินงานเบีย่ งเบนไปจากเป้าหมายหรอื ความคาดหวงั โดยอาจวดั ระดบั ความ รุนแรง ของความเสี่ยงได้จากผลกระทบของเหตุการณ์และโอกาสที่จะเกิด ปัจจัยความเสี่ยง (Risk Factor) หมายถึง สาเหตุหรือที่มาของความเสี่ยงที่จะทำให้ไม่บรรลุ วัตถุประสงค์ตามขั้นตอนการดำเนินงานหลักที่กำหนดไว้ทั้งที่ เปน็ ปัจจยั ภายนอกและปจั จยั ภายในองคก์ ร/2.การประเมินความเสยี่ ง (Risk Assessment) หมายถงึ กระบวนการ ระบคุ วามเสย่ี งและการ วิเคราะห์เพือ่ จัดลำดับความเสีย่ งที่จะมีผลกระทบต่อการบรรลเุ ป้าประสงค์ขององค์กรโดย การประเมนิ จาก 1. โอกาสทจี่ ะเกดิ เหตกุ ารณ์ (Likelihood) หมายถงึ ความถี่หรอื โอกาสท่จี ะเกิดเหตุการณ์ ความ เสี่ยง และ 2. ผลกระทบ (Impact) หมายถึง ขนาดของความรุนแรงความเสียหายที่เกิดขึ้นหากเกิด เหตุการณ์ ความเสี่ยง /3.ระดับของความเสี่ยง (Risk Level) หมายถึง สถานะของความเสี่ยงที่ได้จากการประเมินโอกาส และ ผลกระทบของแต่ละปัจจัยเสี่ยง แบ่งออกเป็น 5 ระดับ คือความเสี่ยงสูงมาก ความเสี่ยงสูง ความเสี่ยง ปาน กลาง ความเสี่ยงน้อย และความเสี่ยงน้อยมาก /4.การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) หมายถึง การ กำหนดนโยบายโครงสร้างและ กระบวนการเพื่อทำให้คณะกรรมการผู้บริหารและบุคลากรนำไปปฏิบัติในการ กำหนดกลยุทธ์และ ปฏิบัติงานทั่วทั้งองค์กร โดยกระบวนการบริหารความเสี่ยงจะสัมฤทธิ์ผลได้ องค์กรจะต้อง สามารถบ่งชี้ เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นประเมินผลกระทบต่อองค์กรและกำหนดวิธีการจัดการที่เหมาะสมให้ความ เส่ยี งอยู่ ในระดับท่ียอมรับได้ ทงั้ น้ี เพือ่ ใหเ้ กิดความเชื่อมนั่ ในระดับหน่ึงวา่ ผลการดำเนินงานตามภารกิจต่างๆ จะ สามารถบรรลวุ ตั ถุประสงค์ท่ี กำหนดไวไ้ ด้ กลมุ่ สิงหท์ อง ทอ้ งถ่ิน (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 32 073 กรอบหลักการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการตามแนวทาง COSO : ERM (Integrated Framework) มีองค์ประกอบหลัก จำนวน 8 องค์ประกอบ ข้อใดหมายถึงการประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) ก.วัฒนธรรมขององคก์ ร นโยบาย ในการบริหารความเสีย่ งและมมุ มองของผ้บู ริหาร ข.การระบุปัจจัยความเส่ียงท่ีอาจเกดิ ขึน้ ทั้งจาก ภายนอกและภายในองคก์ ร ค.การวิเคราะห์พิจารณาจากโอกาสในการ เกดิ ขนึ้ ของความเสีย่ งและผลกระทบทเี่ กิดข้นึ จากความเสี่ยง ง.การวิเคราะหพ์ ิจารณาจากโอกาสในการ เกิดข้นึ ของความเสี่ยงและผลกระทบที่เกดิ ขน้ึ จากความเสย่ี ง ตอบ ค.การวเิ คราะห์พิจารณาจากโอกาสในการ เกิดขึ้นของความเสย่ี งและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความเสี่ยง อธิบายตาม กรอบหลักการบริหารความเสี่ยงแบบบูรณาการตามแนวทาง COSO : ERM (Integrated Framework) ดังกล่าว มีองคป์ ระกอบหลักเพือ่ เปน็ กรอบการบริหารความเส่ียง และการควบคมุ ภายใน ดงั นี้ 1. สภาพแวดล้อมภายในองค์กร (Internal Environment) ได้แก่ วัฒนธรรมขององค์กร นโยบาย ในการบริหาร ความเส่ยี งและมมุ มองของผบู้ ริหาร เปน็ ต้น 2. การกำหนดวัตถุประสงค์ (Objective Setting) เป็นกระบวนการการกำหนดวัตถุประสงค์ใน การบริหารความ เส่ียงขององค์กรโดยสว่ นใหญม่ ีความสอดคลอ้ งกบั ยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ขององค์กร 3. การบ่งช้ีเหตุการณ์ (Event Identification) เป็นการระบุปัจจัยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นทั้งจาก ภายนอกและ ภายในองค์กรโดยพิจารณาถึงสาเหตุของความเส่ียงนัน้ ๆ 4. การประเมินความเส่ียง (Risk Assessment) เป็นการวิเคราะห์พจิ ารณาจากโอกาสในการ เกิดขนึ้ ของความเสี่ยง และผลกระทบท่ีเกิดขน้ึ จากความเสย่ี ง 5. การตอบสนองความเส่ยี ง (Risk Response) เป็นการกำหนดมาตรการทจ่ี ะรองรับและ ตอบสนองตอ่ ความเสี่ยง ได้แก่ การลดโอกาสในการเกิดความเส่ยี ง การถ่ายโอนความเส่ียง การลด ผลกระทบทเ่ี กิดจากความเส่ียง และการ ยอมรบั ความเสย่ี ง เปน็ ตน้ 6. กิจกรรมควบคุม (Control Activities) เป็นการกำหนดนโยบายและวิธีปฏิบัติ เพื่อให้มั่นใจว่า จะมีการ ดำเนนิ การตามมาตรการตอบสนองความเสี่ยงท่ีกำหนดไว้ 7. สารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication) ได้แก่ การเก็บรวบรวม การบันทึกข้อมูล การส่ือสารรูปแบบตา่ งๆ เพอ่ื ให้บคุ ลากรได้รบั รถู้ งึ ข้อมลู ทเี่ กยี่ วข้องในการบรหิ ารความ เสย่ี ง 8. การติดตามผล (Monitoring) เป็นการติดตามผลในการบริหารความเสี่ยงว่าเมื่อดำเนินการบริหารความเสี่ยง ตามมาตรการทก่ี ำหนดไวแ้ ล้วไดม้ ผี ลอย่างไรมีความเส่ยี งตกค้างหลงเหลืออยหู่ รอื ไม่ 074 “...การจะเป็นเสือนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกินน้ัน หมายความวา่ อุ้มชตู วั เองได้ ใหม้ ีพอเพียงกับตนเอง ความพอเพียงน้ีไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวจะต้อง ผลิตอาหารของตัวเอง จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความ พอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไร ไม่ ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก...”เป็นพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัยและ เม่อื ใด กลุม่ สิงห์ทอง ท้องถิ่น (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 33 ก.วันที่ 4 ธันวาคม 2536 ข.วนั ท่ี 4 ธนั วาคม 2538 ค. วนั ที่ 4 ธนั วาคม 2539 ง. วันที่ 4 ธนั วาคม 2541 ตอบ ค. วนั ท่ี 4 ธันวาคม 2539 อธิบายตาม พระราชดำรัส “...การจะเป็นเสือนั้นไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เรามีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน แบบ พอมีพอกินนั้น หมายความว่า อุ้มชูตัวเองได้ ให้มีพอเพียงกับตนเอง ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าทุก ครอบครัวจะต้องผลิตอาหารของตัวเอง จะต้องทอผ้าใส่เอง อย่างนั้นมันเกินไป แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่งบางอย่างผลิตได้มากกว่าความต้องการก็ขายได้ แต่ขายในที่ไม่ห่างไกล เท่าไร ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก...” พระราชดำรัส เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย วนั ที่ 4 ธันวาคม 2539 075 ขอ้ ใดเปน็ แนวพระราชดำริในการดำเนินชวี ติ แบบพอเพียง ก.ยึดความประหยดั ตดั ทอนค่าใชจ้ ่ายในทกุ ดา้ น ลดละความฟมุ่ เฟือยในการใชช้ วี ติ ข.ยึดถือการประกอบอาชีพดว้ ยความถูกต้อง ซือ่ สัตย์สุจริต ค.ละเลิกการแกง่ แย่งผลประโยชนแ์ ละแขง่ ขนั กันในทางการค้าแบบต่อส้กู ันอย่างรุนแรง ง.ถูกหมดทุกข้อ ตอบ ง. ถูกหมดทกุ ข้อ อธิบายตาม ตามแนวพระราชดำริในการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง สรุปได้ดังนี้ 1. ยึดความประหยัด ตัดทอน ค่าใชจ้ า่ ยในทุกดา้ น ลดละความฟมุ่ เฟอื ยในการใช้ชีวติ 2. ยดึ ถือการประกอบอาชพี ด้วยความถูกต้อง ซื่อสัตย์สจุ ริต 3. ละเลิกการแก่งแยง่ ผลประโยชน์และแข่งขันกันในทางการคา้ แบบต่อสู้กนั อย่างรนุ แรง 4. ไม่หยุดน่ิงท่ีจะหาทาง ให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยการขวนขวายใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูนขึ้น จนถึงขั้นพอเพียงเป็น เป้าหมายสำคญั และ 5. ปฏบิ ัตติ นในแนวทางทด่ี ี ลดละสงิ่ ช่วั ประพฤติตนตามหลักศาสนา 076 กรณีที่มีภารกิจตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลหรือกระทรวงมหาดไทยและจำเป็นต้องให้องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ โดยมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วน ท้องถ่ินและงบประมาณดังกล่าวไม่เพียงพอและไม่ต้องด้วยเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินสะสมหรือเงินทุนสำรองเงิน สะสม ผู้ใดมอี ำนาจอนมุ ตั ยิ กเวน้ การจา่ ยเงินสะสมหรือเงนิ ทนุ สำรองเงินสะสม ก. สภาทอ้ งถ่ิน ข. ผู้ว่าราชการจังหวดั ค. ปลดั กระทรวงมหาดไทย ง. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ตอบ ค.ปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบายตาม รบ.มท.ว่าด้วยการรับเงิน การเบิกจ่ายเงินฯ พ.ศ. 2547 “ข้อ 89/1 ในกรณีที่มีภารกิจตามนโยบาย เร่งด่วนของรัฐบาลหรือกระทรวงมหาดไทยและจำเป็นต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ โดยมี กลุม่ สิงหท์ อง ท้องถิน่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 34 ความจำเปน็ ต้องใชจ้ ่ายจากงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ และงบประมาณดงั กลา่ วไม่เพียงพอและไม่ ต้องด้วยเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินสะสมหรือเงินทุนสำรองเงินสะสมตามข้อ 87 และข้อ 89 ปลัดกระทรวงมหาดไทย อาจอนุมัติยกเว้นให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้จ่ายจากเงินสะสมหรือเงินทุนสำรองเงินสะสมได้โดยความ เห็นชอบของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย” 077 เมื่อครบกำหนดเวลาตามที่ระบไุ วใ้ นคู่มอื สำหรับประชาชนผูอ้ นุญาตยังพิจารณาไม่แลว้ เสร็จตอ้ งแจ้ง เหตุแห่งความลา่ ชา้ นนั้ แก่ผขู้ ออนญุ าตระยะเวลาตามข้อใด ก. แจ้งทุก 5 วนั จนกวา่ จะพจิ ารณาแลว้ เสรจ็ ข. แจง้ ทกุ 7 วันจนกวา่ จะพิจารณาแล้วเสร็จ ค. แจ้งทกุ 15 วันจนกวา่ จะพจิ ารณาแลว้ เสรจ็ ง. แจ้งทกุ 30 วนั จนกวา่ จะพจิ ารณาแลว้ เสรจ็ ตอบ ข. แจ้งทุก 7 วนั จนกวา่ จะพิจารณาแล้วเสรจ็ อธิบายตาม พรบ.อำนวยความสะดวกฯ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ผู้อนุญาตต้องดำ เนินการให้แล้วเสร็จภายในกำ หนดเวลาที่ระบุไว้ในคู่มือสำหรับประชาชนตามมาตรา 7 และแจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ พจิ ารณาแล้วเสรจ็ / เมอ่ื ครบกำหนดเวลาตามที่ระบุไว้ในคมู่ อื สำหรับประชาชนตามมาตรา 7 แลว้ หากผอู้ นญุ าตยัง พิจารณาไมแ่ ลว้ เสรจ็ ให้แจ้งเปน็ หนังสอื ใหผ้ ยู้ น่ื คำขอทราบถึงเหตุแห่งความล่าช้าทุกเจ็ดวันจนกวา่ จะพจิ ารณาแล้ว เสร็จ พร้อมทั้งส่งสำเนาการแจ้งดังกล่าวให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการทราบทุกครั้ง/ ในกรณีท่ี คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการเห็นว่าความล่าช้านั้นเกินสมควรแก่เหตุหรือเกิดจากการขาดปร ะสิทธิภาพใน การปฏิบัติราชการของหน่วยงานของผู้อนุญาต ให้คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการรายงานต่อคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งเสนอแนะให้มีการพัฒนาหรือปรับปรุงหน่วยงานหรือระบบการปฏบิ ัติราชการของหน่วยงานนั้น/ในกรณี ไมแ่ จง้ ตามวรรคหน่งึ หรอื วรรคสอง ใหถ้ อื วา่ ผู้อนุญาตกระทำการหรือละเว้นกระทำการเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ ผ้อู ่นื เว้นแตจ่ ะเปน็ เพราะมีเหตสุ ดุ วิสัย 078 ตามหลักเกณฑ์กระทรวงการคลังวา่ ด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏบิ ัติการบริหารจดั การความเส่ียง สำหรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2562 เพ่ือให้บรรลวุ ัตถปุ ระสงคข์ องหน่วยงานของรัฐตอ้ งดำเนนิ การตามขอ้ ใด ก.จัดทำแผนบริหารจัดการความเสย่ี ง ข.จดั ทำแผนพัฒนาทอ้ งถน่ิ ค.จดั ทำแผนบรหิ ารความเส่ียง ง.จัดทำแผนจดั การความเส่ียง ตอบ ก.จดั ทำแผนบรหิ ารจดั การความเสี่ยง อธิบายตาม หลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการบริหารจัดการความเสี่ยง สำหรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2562 ข้อ 6 หน่วยงานของรัฐจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อบรรลุ วัตถปุ ระสงคข์ องหน่วยงาน หลักเกณฑ์กระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏบิ ัติการบริหารจัดการ ความเส่ียงสำหรบั หนว่ ยงานของรฐั พ.ศ. 2562 กลุม่ สิงหท์ อง ทอ้ งถิน่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 35 079 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ( ฉบับ 12) มรี ะยะเวลาตามข้อใด ก. พ.ศ. 2560-2563 ข. พ.ศ. 2560-2564 ค. พ.ศ. 2561-2565 ง. พ.ศ. 2561-2566 ตอบ ข. พ.ศ. 2560-2564 อธบิ ายตาม แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ( ฉบับ 12) พ.ศ. 2560-2564 080 สีเฉพาะสำหรบั ภารชนะรองรบั มูลฝอยแตล่ ะประเภท กรณีสี่เขยี ว คอื มูลฝอยในขอ้ ใด ก.สำหรบั มูลฝอยทว่ั ไป ข.สำหรบั มลู ฝอยอนิ ทรยี ์ ค.สำหรบั มลู ฝอยนำกลับมาใชใ้ หม่ ง.สำหรบั มูลฝอยที่เปน็ พษิ หรืออนั ตรายจากชมุ ชน ตอบ ข. สำหรับมลู ฝอยอินทรยี ์ อธิบายตาม ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ. 2560 ข้อ 8 ภาชนะรองรับมูลฝอยตาม ข้อ 7 ต้องมีลักษณะที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยมีสีเฉพาะ สำหรับรองรับมูลฝอยแต่ละประเภท หรืออาจ กำหนดข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นซ่ึงแสดงถงึ มูลฝอย ประเภทนั้นไว้อย่างชัดแจ้งที่ภาชนะรองรบั มูลฝอยแทนก็ได้ (1) สนี ำ้ เงนิ สำหรบั มลู ฝอยทั่วไป (2) สีเขียว สำหรับมูลฝอยอนิ ทรีย์ (3) สีเหลอื ง สำหรบั มูลฝอยนำกลับมาใช้ใหม่ (4) สีส้ม สำหรับมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน เพื่อความปลอดภัยอาจจัดภาชนะรองรับมูลฝอยตาม วรรคหนึ่งใหม้ ลี กั ษณะโปร่งใสกไ็ ด้ 081 นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดต้องแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภายในก่ีวัน นับแต่วันประกาศผลการเลอื กตง้ั นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ก. 15 วัน ข. 30 วัน ค. 45 วัน ง. 60 วัน ตอบ ข. 30 วนั อธิบายตาม พรบ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 มาตรา 35/4ก่อนนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเข้า รับหน้าที่ ให้ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเรียกประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพื่อให้นายก องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดแถลงนโยบายต่อสภาองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั โดยไมม่ ีการลงมติ ทั้งนี้ ภายในสามสิบ วนั นับแตว่ ันประกาศผลการเลอื กตั้งนายกองค์การบรหิ ารส่วนจังหวดั 082 เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ในระยะ 20 ปคี อื ข้อใด ก.ระบบเศรษฐกิจเป็นชาติการค้า ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริหาร รัฐวิสาหกิจต้องตอบสนองได้ทันต่อการ เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยกี ้าวกระโดด กลุ่มสิงห์ทอง ทอ้ งถิ่น (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 36 ข.เศรษฐกิจ และสังคมไทยมีการพัฒนาอย่างม่นั คง และยงั่ ยนื โดยใช้ยทุ ธศาสตร์เชิงรกุ ค.ประชากรมีคุณภาพ และมศี กั ยภาพในการพฒั นาประเทศ สร้างความเท่าเทียมเพ่ือลดความเล่ือม ล้ำในสังคม ง.เศรษฐกิจ และสังคมพัฒนาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบราชการมีประสิทธิภาพ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นมอี สิ ระมากขน้ึ ตอบ ง.เศรษฐกิจ และสังคมพัฒนาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบราชการมีประสิทธิภาพ องค์กร ปกครองส่วนทอ้ งถิ่นมอี ิสระมากขน้ึ อธบิ ายตาม เปา้ หมาย 5 ปแี รก : เศรษฐกิจ และสงั คมไทยมีการพัฒนาอยา่ งมั่นคง และยั่งยืน โดยใช้ยุทธศาสตร์ เชิงรุก เป้าหมาย 10 ปี : ระบบเศรษฐกิจเป็นชาติการค้า ท้ังภาคเกษตร อุตสาหกรรม บรหิ าร รัฐวิสาหกิจ ต้อง ตอบสนองได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีก้าวกระโดด เป้าหมาย 15 ปี : ประชากรมีคุณภาพ และมี ศักยภาพในการพัฒนาประเทศ สร้างความเท่าเทียมเพื่อลดความเลือ่ มล้ำในสังคม เป้าหมาย 20 ปี : เศรษฐกิจ และสังคมพัฒนาอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ระบบราชการมีประสิทธิภาพ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอิสระ มากขึ้น 083 ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) มีกย่ี ุทธศาสตร์ ก. 6 ยุทธศาสตร์ ข. 8 ยุทธศาสตร์ ค. 10 ยุทธศาสตร์ ง. 20 ยุทธศาสตร์ ตอบ ก. 6 ยทุ ธศาสตร์ อธิบายตาม ประเด็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 1.ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง 2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้าง ความสามารถในการแข่งขัน 3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 4.ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ า้ นการสรา้ งโอกาสและความเสมอภาคทางสงั คม 5.ยทุ ธศาสตรช์ าตดิ ้านการสร้างการเติบโตบน คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6.ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ภาครัฐ 084 การเก็บรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานตามแผนที่มีการกำหนดไว้แล้ว เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการ ตัดสินใจ แก้ไข ปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผน หรือกำหนดวิธีการดำเนินงานให้ เกิดผลดียิ่งข้ึน เป็นการปฏิบตั ิตามข้อใด ก.การตดิ ตาม ข.การตรวจสอบ ค.การประเมนิ ผล ง.การวิเคราะหข์ ้อมูล ตอบ ก.การติดตาม กลมุ่ สิงห์ทอง ทอ้ งถิ่น (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 37 อธิบายตาม การติดตามและประเมินผล มีคำสองคำซึ่งมีความหมายเฉพาะตัวที่แยกจากกันได้ชัดเจน คือ คำว่า \"ติดตาม\" (Monitoring) และคำวา่ \"ประเมินผล\" (Evaluation) ท้งั สองคำดังกล่าวมวี ิธีทำงานที่แตกตา่ งกนั ดงั น้ี 1.การติดตาม เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานตามแผนที่มีการกำหนดไว้แล้ว เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการ ตัดสินใจ แก้ไข ปรับปรุงวิธีการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามแผน หรือกำหนดวิธีการดำเนินงานให้ เกิดผลดียิ่งข้ึน ดังน้นั จุดเนน้ ทส่ี ำคัญของการตดิ ตาม คอื การปฏบิ ตั กิ ารตา่ ง ๆ เพอื่ การตรวจสอบ ควบคุม กำกับ การปฏิบัติงาน ของโครงการ การติดตาม จะเกดิ ขนึ้ ในขณะทโ่ี ครงการกำลงั ดำเนินงานตามแผนที่กำหนดไว้ 2.การประเมนิ ผล เป็นกระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะหข์ ้อมลู อย่างเป็นระบบ และนำผล มาใช้ในการเพ่ิม คณุ ภาพและประสิทธภิ าพของการดำเนนิ โครงการ การประเมนิ ผลจะเกดิ ขึ้นในทุกขน้ั ตอนของ โครงการ นับต้ังแต่ ก่อนตัดสินใจจัดทำโครงการ ในขณะดำเนินงานในช่วงระยะต่าง ๆ และเมื่อโครงการดำเนินงาน เสร็จแล้ว หรือ ประเมินผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ บางมิตินำมาใช้ในการประเมนิ ความสำเร็จของ โครงการการ ว่า บรรลวุ ตั ถุประสงคแ์ ละเปา้ หมายของโครงการที่ต้งั ไว้หรือไม่ มปี ัญหา อุปสรรค อะไรบ้าง 085 กระบวนการติดตามและประเมนิ ผลตามแนวคดิ ของ Robert S. Kaplan และ David P. Norton ได้ เสนอแนวคิด Balanced Scorecard ประกอบด้วยประเดน็ ขอ้ ใด ก.วตั ถุประสงค์ (objective) ข.ตัวช้ีวัด (Performance Indication) ค.เป้าหมาย (Target) ง.ถกู หมดทุกข้อ ตอบ ง.ถูกหมดทุกขอ้ อธบิ ายตาม กระบวนการติดตามและประเมินผลในปัจจุบนั นนั้ ตามแนวคิดของ Robert S. Kaplan และ David P. Norton ได้เสนอแนวคิด Balanced Scorecard เพื่อใช้ในการวัดผลของกิจการที่จะทำให้ผู้บริหาร ระดับสูง เห็นภาพรวมขององค์กรได้ชัดเจนขึ้น ให้ได้ภาพรวมขององค์กรอย่างสมดุลขึ้น โดยการวัดผลนอกจากการวัด ทางด้านการเงินที่เป็นผลของการดำเนินงานที่เกิดขึ้นมาแล้ว ต้องมีการวัดผลด้านกระบวนการบริหารงาน การ สร้างความพอใจให้แก่ลูกค้า ตลอดจนสร้างนวัตกรรมและการเรียนรู้ให้แก่องค์กรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการ แข่งขัน และการสร้างอนาคตให้แก่องค์กรด้วย แนวคิดนี้ผู้บริหารสามารถประเมินศักยภาพโดยรวมขององค์กร และความสามารถในการแข่งขันและอนาคตขององค์กรนั้น ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขอบเขตหรือองค์ประกอบในการ วัดผลตามแนวคิดของ Balanced Scorecard ภายใต้มุมมองแต่ละด้านนั้นจะประกอบด้วยประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ 1. วัตถุประสงค์ (objective) เพื่อเป็นการกำหนดวัตถุประสงค์ของแต่ละมุมมองที่ต้องการจะชี้วัด 2. ตัวชี้วัด (Performance Indication) คือ ตวั ชีว้ ัดนั้นจะแสดงให้เหน็ ว่าองค์กรไดบ้ รรลุถึง วัตถุประสงค์ในแต่ละด้านหรือไม่ 3. เป้าหมาย (Target) คือ เป้าหมายหรือค่าตัวเลขที่ตั้งไว้ เพื่อให้องค์กรบรรลุถึงค่านั้น ๆ 4. แผนงาน โครงการท่ี ต้ังใจ (Initiatives) คอื แผนการปฏิบัตงิ านท่มี กี ารลำดับเปน็ ข้ัน ๆ ในการ จัดทำกิจกรรม กลมุ่ สิงหท์ อง ท้องถ่ิน (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 38 086 “ประเทศไทยมคี วามมนั่ คง มง่ั ค่ัง ยง่ั ยืน เปน็ ประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกจิ พอเพียง” ข้อความนี้คือความหมายของข้อใด ก. วิสัยทัศนย์ ทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี ข. วสิ ยั ทัศนแ์ ผนการศกึ ษาชาติ 20 ปี ค. คติพจนป์ ระจำชาติ 20 ปี ง. คำขวัญประจำชาติของรัฐบาล ตอบ ก. วสิ ยั ทัศนย์ ุทธศาสตรช์ าติ 20 ปี อธบิ ายตาม วิสยั ทัศน์ของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580)“ประเทศไทยมคี วามม่ันคง ม่งั คัง่ ยั่งยืน เป็น ประเทศพัฒนาแลว้ ดว้ ยการพฒั นาตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” 087 เกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ Public Sector Management Quality Award ( PMQA) ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกต้อง ก.การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ ข.การมงุ่ เนน้ ทรัพยากรบคุ คล ค.การจัดการกระบวนการ ง.ผลผลติ การดำเนินการ ตอบ ง. ผลผลติ การดำเนินการ อธิบายตาม ส่วนที่ ๒ เกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นแนวทางในการบริหารจัดการที่ดีของ ส่วนราชการที่เป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เน้นความสอดคล้องเชื่อมโยงและบูรณาการอย่างเป็นระบบ (ที่ คอ่ นข้างเข้าใจยาก) มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อตรวจประเมินการดำเนินการของสว่ นราชการในประเด็นตา่ ง ๆ ตามหมวด ของเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ทำใหเ้ ห็นโอกาสในการปรับปรุงกระบวนการของส่วนราชการ นำไปสู่ การยกระดับคุณภาพการปฏิบัติงานของส่วนราชการต่อไป ประกอบดว้ ย ๗ หมวด (90 คำถาม) ไดแ้ ก่ หมวด 1 การนำองค์กร (วางวิสัยทัศน์ ค่านิยม ทิศทางการทำงาน) หมวด 2 การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และกลยุทธ์ (วางยุทธศาสตร์ การบริหารความเสี่ยง การถ่ายทอดเป้าหมายและตัวชี้วัดขององค์กรไปสู่หน่วยงาน/บุคคล (การ นำยุทธศาสตร์ไปปฏิบัติ))หมวด 3 การให้ความสำคัญกับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้เสีย (การรับฟังความเห็น หรือมีส่วนร่วมจากประชาชน การปรับระบบให้บริการประชาชน การสำรวจความพึงพอใจ)หมวด 4 การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้ (การจัดการสารสนเทศ การจดั การความร้)ู หมวด 5 การมุง่ เนน้ ทรพั ยากร บุคคล (ระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล : HRM และ HRD การปรับกระบวนทัศน์ ค่านิยม ทัศนคติ คุณธรรม จริยธรรม กระบวนการสร้างคุณค่า)หมวด 6 การจัดการกระบวนการ (การลดขั้นตอนการเปลี่ยนแปลง กระบวนงาน) และ หมวด 7 ผลลพั ธ์การดำเนนิ การ (ผลการปฏบิ ตั งิ านตามมติ ิการประเมนิ 4 ดา้ น) กลุ่มสิงห์ทอง ท้องถ่นิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 39 088 วงจรการตดิ ตาม (Monitoring) มีกระบวนการตามข้อใด ก.ปัจจัยนำเข้า (input) การดำเนินงาน (process) ผลการดำเนินงาน (output) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) ข.ปัจจัยนำเข้า (input) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) การดำเนินงาน (process) ผลการดำเนินงาน (output) ค.ปัจจัยนำเข้า (input) การดำเนินงาน (process) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) ผลการดำเนินงาน (output) ง.ผลการดำเนินงาน (output) ปัจจัยนำเข้า (input) การดำเนินงาน (process) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) ตอบ ก.ปัจจัยนำเข้า (input) การดำเนินงาน (process) ผลการดำเนินงาน (output) ข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) อธิบายตาม การติดตาม (Monitoring) โครงการ หมายถึง กระบวนการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับปัจจัยนำเข้า (input) การดำเนินงาน (process) และผลการดำเนินงาน (output) เกี่ยวกับโครงการ เพื่อเป็นข้อมูลย้อนกลับ (Feedback system) สำหรบั การกำกบั ทบทวน และแกป้ ัญหาขณะดำเนินโครงการ 089 ต่อไปนี้เป็นการบรหิ ารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ( New Public Management) เปน็ แนวคดิ พนื้ ฐาน ของเรอื่ งตอ่ ไปนี้ ยกเวน้ ขอ้ ใด ก. การใหบ้ ริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน ข. คำนึงถึงความต้องการของประชาชนเปน็ หลัก ค. รัฐพงึ ทำบทบาทเฉพาะท่ีรัฐทำไดด้ ีเท่าน้ัน ง. การบรหิ ารราชการเพ่ือการลงทุน ตอบ ง. การบรหิ ารราชการเพือ่ การลงทนุ คำอธิบายตาม การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ ( New Public Management) จึงเป็นแนวคิดพื้นฐานของ การบริหารจัดการภาครัฐซึง่ จะนำไปสู่การเปล่ียนแปลงระบบต่าง ๆ ของภาครัฐและยุทธศาสตรด์ ้านต่าง ๆ ที่เป็น รูปธรรม มีแนวทางในการบริหารจัดการดังนี้ 1 การให้บริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน2 คำนึงถึงความต้องการ ของประชาชนเป็นหลกั 3 รฐั พงึ ทำบทบาทเฉพาะทรี่ ฐั ทำไดด้ ีเทา่ นัน้ 090 ภาชนะรองรบั สำหรบั มลู ฝอยนำกลบั มาใช้ใหม่ สีที่ถูกต้องคอื สีอะไร ก. น้ำเงนิ ข. เขยี ว ค. เหลือง ง. สม้ ตอบ ค.เหลือง อธิบายตาม ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ. 2560 ข้อ 8 ภาชนะรองรับมูลฝอยตาม ข้อ 7 ต้องมีลักษณะที่เหมาะสมกับการใช้งาน โดยมีสีเฉพาะ สำหรับรองรับมูลฝอยแต่ละประเภท หรืออาจ กลุ่มสิงหท์ อง ทอ้ งถ่นิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 40 กำหนดข้อความหรือสัญลักษณ์อื่นซ่ึงแสดงถงึ มูลฝอย ประเภทนั้นไว้อย่างชัดแจ้งทีภ่ าชนะรองรับมูลฝอยแทนก็ได้ (1) สนี ำ้ เงนิ สำหรบั มูลฝอยท่วั ไป (2) สีเขียว สำหรบั มลู ฝอยอินทรยี ์ (3) สเี หลือง สำหรับมลู ฝอยนำกลับมาใช้ใหม่ (4) สีส้ม สำหรับมูลฝอยที่เป็นพิษหรืออันตรายจากชุมชน เพื่อความปลอดภัยอาจจัดภาชนะรองรับมูลฝอยตาม วรรคหน่ึงให้มีลกั ษณะโปร่งใสก็ได้ 091 คา่ ธรรมเนยี มและค่าปรับท่ีเปรียบเทียบตามพระราชบัญญัตริ ักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบ เรยี บร้อยของบ้านเมืองใหเ้ ป็นรายได้ของหนว่ ยงานใด ก.ราชการส่วนกลาง ข. ราชการส่วนภมู ภิ าค ค.ราชการส่วนทอ้ งถ่ิน ง.ราชการส่วนท้องที่ ตอบ ค.ราชการสว่ นทอ้ งถ่ิน อธิบายตาม พรบ.รักษาความสะอาด ฯ พ.ศ. 2535 มาตรา 49 ภายใต้บังคับมาตรา 48 วรรคสาม ค่าธรรมเนียม และคา่ ปรับทีเ่ ปรยี บเทียบตามพระราชบัญญตั ินีใ้ หเ้ ปน็ รายได้ของราชการส่วนท้องถน่ิ 092 การกระทำใดของเจ้าหน้าท่ี ที่หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ผู้กระทำละเมิดรับผิดชดใช้ คา่ สินไหมทดแทนแก่หนว่ ยงานของรัฐด้วย ก. การปฏิบตั หิ น้าท่ีตามปกตเิ มอ่ื ไดร้ บั คำสงั่ จากผบู้ ังคบั บญั ชา ข. การปฏบิ ตั หิ น้าทตี่ ามปกติแตไ่ ม่ใชค้ วามระมัดระวงั เกดิ ความประมาทเปน็ ผลใหผ้ ูอ้ นื่ ได้รับความเสียหาย ค. การไมไ่ ด้ปฏิบัติหน้าทแ่ี ตจ่ งใจหรือประมาทเลนิ เลอ่ เป็นผลให้ผูอ้ ืน่ ได้รับความเสียหาย ง. การปฏิบัติหนา้ ท่ีโดยไมใ่ ช้ความระมดั ระวังเปน็ การจงใจหรือประมาทเลนิ เลอ่ อยา่ งรา้ ยแรง ตอบ ง. การปฏิบตั หิ นา้ ที่โดยไมใ่ ชค้ วามระมัดระวังเป็นการจงใจหรือประมาทเลนิ เลอ่ อยา่ งร้ายแรง อธบิ ายตาม พรบ.ความรบั ผิดทางละเมิดฯ พ.ศ. 2539 มาตรา 8 ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐต้องรบั ผดิ ใช้ค่าสินไหม ทดแทนแก่ผู้เสยี หายเพื่อการละเมิดของเจ้าหน้าท่ี ให้หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหนา้ ท่ีผูท้ ำละเมิดชดใช้คา่ สินไหมทดแทนดังกล่าวแก่หน่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจ้าหน้าที่ได้กระทำการนั้นไปด้วยความจงใจหรือประมาท เลินเลอ่ อย่างร้ายแรง 093 ถ้าผู้เสียหายจากการกระทำละเมิดของเจ้าหน้าท่ีเห็นว่าหน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหม ทดแทนและได้ยนื คำขอตอ่ หน่วยงานของรัฐนนั้ ใหพ้ จิ ารณาจะต้องพิจารณาให้แลว้ เสร็จภายในกว่ี นั ก. 60 วนั ข. 90 วัน ค. 120 วนั ง. 180 วนั ตอบ ง. 180 วัน อธิบายตาม พรบ.ความรับผดิ ทางละเมิดฯ พ.ศ. 2539 มาตรา 11 ในกรณที ่ผี เู้ สยี หายเห็นว่า หนว่ ยงานของรัฐต้อง รับผิดตาม มาตรา 5 ผู้เสียหายจะยื่นคำขอต่อหน่วยงานของรัฐให้พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนสำหรับความ กล่มุ สิงหท์ อง ทอ้ งถนิ่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 41 เสยี หายท่ีเกิดแก่ตนก็ได้ ในการนห้ี น่วยงานของรัฐต้องออกใบรบั คำขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพจิ ารณาคำขอนั้นโดย ไม่ชักช้า เมื่อหน่วยงานของรัฐมคี ำสั่งเช่นใดแล้ว หากผู้เสียหายยังไม่พอใจในผลการวินิจฉัยของหนว่ ยงานของรัฐก็ ให้มีสิทธริ อ้ งทุกขต์ ่อคณะกรรมการวินิจฉัยร้องทุกขต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยคณะกรรมการกฤษฎีกา(ปัจจุบันจัดตั้งศาล ปกครองแล้ว)ได้ภายในเกา้ สิบวันนับแต่วนั ท่ตี นได้รบั แจ้งผลการวินิจฉยั /ใหห้ น่วยงานของรัฐพิจารณาคำขอท่ีได้รับ ตามวรรคหนึ่งให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน หากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกำหนดนั้นจะต้อง รายงานปัญหาและอปุ สรรคให้รัฐมนตรีเจา้ สังกัดหรือกำกับหรือควบคุมดูแลหน่วยงานของรัฐแห่งน้ันทราบและขอ อนุมัติขยายระยะเวลาออกไปได้ แต่รัฐมนตรดี ังกล่าวจะพิจารณาอนมุ ัติให้ขยายระยะเวลาให้อีกได้ไมเ่ กินหน่ึงร้อย แปดสิบวัน 094 รัฐธรรมนูญบัญญัติให้การจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะขององค์กรปกครองส่วน ท้องถิน่ แตล่ ะรูปแบบต้องสอดคล้องตามข้อใด ก.รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ข.อำนาจหน้าที่ขององคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน ค.กลไกและข้นั ตอนในการกระจายหนา้ ที่และอำนาจ ง.เก่ียวกบั หน้าทีแ่ ละจำนวนบคุ ลากรขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ตอบ ก. รายได้ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ อธิบายตาม รฐน. พ.ศ. 2560 มาตรา 250 วรรคสอง การจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะใดท่ี สมควรให้เป็นหน้าที่และอำนาจโดยเฉพาะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละรูปแบบ หรือให้องค์กรปกครอง ส่วนทอ้ งถน่ิ เปน็ หน่วยงานหลัก ในการดำเนนิ การใด ใหเ้ ปน็ ไปตามทีก่ ฎหมายบัญญัติ ซ่งึ ต้องสอดคล้องกับรายได้ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตามวรรคสี่ และกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับกลไกและ ขั้นตอนในการกระจายหน้าที่และอำนาจ ตลอดจนงบประมาณและบุคลากรท่ีเกีย่ วกับหน้าทีแ่ ละอำนาจดังกลา่ ว ของสว่ นราชการใหแ้ ก่ องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ ด้วย 095 ถ้าหน่วยงานของรัฐปฏบิ ัตติ ามหลกั เกณฑ์ปฏบิ ัตกิ ารบริหารจัดการความเสีย่ งสำหรับหนว่ ยงานของรัฐ พ.ศ. 2562 ไม่ได้ ให้หนว่ ยงานของรัฐดำเนนิ การตามขอ้ ใด ก.ขอทำความตกลงกบั กระทรวงการคลงั ข.ขอทำความตกลงกบั กรมบญั ชกี ลาง ค.ขอยกเว้นการปฏบิ ัตกิ ับผูว้ ่าราชการจงั หวดั ง. ขอยกเวน้ การปฏิบัตกิ บั กระทรวงการคลัง ตอบ ก.ให้ขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลงั อธิบายตาม หลักเกณฑ์กระทรวงการคลังว่าด้วยมาตรฐานและหลักเกณฑ์ปฏิบัติการบริหารจัดการความเสี่ยง สำหรับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2562 ข้อ 12 หน่วยงานของรัฐไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ปฏิบัติการบริหาร จัดการความเส่ยี งสำหรับหน่วยงานของรฐั ได้ใหข้ อทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง กลุ่มสิงห์ทอง ทอ้ งถน่ิ (อ.พิชญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 42 096 การกระทำละเมิดที่เกิดจากเจ้าหน้าที่หลายคนให้ กรณีที่หน่วยงานของรัฐมีสิทธิเรียกให้เจ้าหน้าที่ ผู้กระทำละเมิดรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแกห่ นว่ ยงานของรฐั ให้ใช้หลกั ตามขอ้ ใดมาบงั คบั ถจงึ จะถูกต้อง ก.หลักเร่อื งลูกหนร้ี ว่ ม ข.รบั ผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะส่วนของตน ค.หลักความรบั ผิดชอบส่วนตัว ง.หลักความรับผิดแต่ละคน ตอบ ข.รบั ผดิ ใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะสว่ นของตน อธิบายตาม พรบ.ความรบั ผิดทางละเมดิ ของเจ้าหน้าท่ี พ.ศ. 2539 มาตรา 8 วรรคส่ี ในกรณีที่การละเมิดเกิด จากเจ้าหน้าที่หลายคน มิให้นำหลักเรื่องลูกหนี้ร่วมมาใช้บังคับและเจ้าหน้าที่แต่ละคนต้องรับผิดใช้ค่าสินไหม ทดแทนเฉพาะส่วนของตนเทา่ นน้ั 097 ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโครติดเชื้อโคโรนา 2019 (COVID-19) รัฐบาลได้มีโครงการเพ่ือ ช่วยเหลอื ค่าครองชีพแก่ประชาชน ข้อใดตอ่ ไปนี้ไม่ใช่โครงการของรฐั บาล ก. หมอชนะ ข. คนละครง่ึ ค. เราชนะ ง. เรารักกนั ตอบ ก.หมอชนะ 098 ข้อใดคือแอปพลิเคชนั่ ทใี่ ชส้ ำหรบั โครงการเพื่อชว่ ยเหลอื ค่าครองชีพให้แก่ประชาชนของรฐั บาล ก. ถลุงเงนิ ข. ถังเงิน ค. เป๋าตัง ง. เป๋าตุง ตอบ ค.เป๋าตงั 099 ข้อใดต่อไปนไี้ ม่ใช่ชอ่ื วัคซนี ป้องกันโควิด 19 ก.SinoVac ข.AstraZeneca ค.Moderna ง.Sinothai ตอบ ง.Sinothai อธิบายตาม วัคซีนโควิด 19 คือ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา และ ซิโน ฟารม์ Pfizer BioNTech Moderna กลุม่ สิงห์ทอง ท้องถน่ิ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)

หน้า 43 100 ข้อใดคือห้วงระยะเวลาในการจัดทำและประสานแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่ง อบจ. ต้องจดั ส่งบัญชีโครงการท่เี กนิ ศกั ยภาพให้คณะกรรมการบริหารงานบูรณาการจงั หวดั (กบจ.) ก. กุมภาพันธ์ 2564 ข. ตุลาคม 2564 ค. พฤศจิกายน 2564 ง. ธนั วาคม 2564 ตอบ ง. ธนั วาคม 2564 อธบิ ายตาม หนังสือกระทรวงมหาดไทย ดว่ นท่สี ุด ท่ี มท0810.3/ว7467 ลงวนั ท่ี 14 ธนั วาคม 2563 กลุม่ สิงหท์ อง ท้องถิน่ (อ.พชิ ญะกฤษฎ์ิ บ่อกลาง)