ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้แนวทางการดำรงอยู่และการปฏิบัติตนเองของประชาชนทุกระดับตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ชมุ ชน รฐั ทง้ั ในการพฒั นาและการบรหิ ารประเทศใหด้ ำเนนิ ไปใน ทางสายกลาง ความพอเพยี ง หมายถงึความพอประมาณ ความมเี หตมุ ผี ล รวมทงั้ ความจำเปน็ ทจ่ี ะตอ้ งมรี ะบบภมู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี พี อสมควร ตอ่ การมผี ลกระทบใด ๆอนั เกดิ จากการเปลยี่ นแปลงทง้ั ภายในและภายนอก ทงั้ นี้ จะตอ้ งอาศยั ความรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อยา่ งยงิ่ในการนำวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและดำเนินการทุกข้ันตอน ขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรัฐ นักทฤษฎี นักธุรกิจทุกระดับ ให้มีสำนึกในความซ่ือสัตย์ สุจริตให้มีความรอบรู้ท่ีเหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน มีความเพียร มีสติปัญญาและความรอบคอบ เพื่อความสมดุลและพรอ้ มตอ่ การรองรบั การเปลย่ี นแปลงอยา่ งรวดเรว็ และกวา้ งขวาง ทง้ั งานวตั ถทุ างสงั คม สง่ิ แวดลอ้ มและวฒั นธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอยา่ งดี ก
จากใจนายก อบจ.กาฬสนิ ธุ์ ตามที่ ดฉิ นั นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุไดแ้ ถลงนโยบายในการบรหิ ารต่อสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ไปเมื่อวันท่ี 3 มิถุนายน 2551 โดยมีรายละเอียดในยุทธศาสตร์การพัฒนา 5 ด้านคอื 1. การพัฒนาเกษตรและอุตสาหกรรม 2. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพ่ือสร้างอาชีพและรายได้3. การพฒั นาองคก์ รและการศกึ ษาระดบั จงั หวดั 4. การพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วและ 5. การพฒั นาเมอื งและชนบทอย่างยงั่ ยืน ไปน้นั ในปีงบประมาณ 2553 ดฉิ ัน และคณะผู้บรหิ ารขององค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดกาฬสนิ ธ์ ุ มคี วามตงั้ ใจแนว่ แนท่ จ่ี ะพฒั นาทอ้ งถน่ิ ใหป้ ระชาชนคนกาฬสนิ ธุ์ มชี วี ติ ความเปน็ อยทู่ ดี่ ขี นึ้ จงึ ไดน้ ำเอาโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนโดยส่วนรวมท้ังจังหวัด และเป็นโครงการที่สอดคล้องกับนโยบายที่ได้แถลงไว้ต่อสภาฯ ข้างตน้ มาบรรจเุ ข้าไว้ในแผนพัฒนาประจำปี หรือขอ้ บัญญัตงิ บประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ จำนวนร้อยกว่าโครงการ ซ่ึงได้นำไปดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยแตล่ ะโครงการสามารถท่ีจะแก้ไขปญั หาความเดอื ดร้อน สนองตอบต่อความตอ้ งการของประชาชนได้เป็นอย่างดี และยงั ไดน้ ำเอาผลสำเรจ็ ของบางโครงการไปตอ่ ยอดเพ่ือเพิ่มประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลให้ดยี ่ิงขึ้น การพฒั นาทอ้ งถน่ิ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ในแตล่ ะปจี ะมปี ญั หาหลกั ๆ ของการพฒั นา คอื เมด็ เงนิ งบประมาณที่มจี ำนวนนอ้ ย ไมส่ มดลุ กบั ปญั หาความตอ้ งการของประชาชนในทอ้ งถน่ิ ดงั นนั้ ในการจดั สรรงบประมาณในแตล่ ะโครงการ ผูบ้ ริหารขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ จะตอ้ งทำการวเิ คราะห์ พิจารณา ถึงผลดี ผลเสียและผลของความคุ้มคา่ ในภารกจิ ภาครฐั ซงึ่ จะตอ้ งเปน็ โครงการท่ีมคี วามจำเปน็ เร่งดว่ นและสรา้ งประโยชน์ต่อประชาชนโดยสว่ นรวมจรงิ ๆ ในปงี บประมาณ 2553 ไดต้ งั้ งบประมาณรายจา่ ยไวท้ ง้ั สนิ้ จำนวน 292,040,273 บาท ซง่ึ ได้รายงานรายละเอยี ดตามยทุ ธศาสตร์การพัฒนาแต่ละด้านเรยี งตามลำดบั ไป ในโอกาสนี้ ดฉิ นั ในนามผบู้ รหิ ารขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ พรอ้ มดว้ ยสมาชกิ สภาองคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั ข้าราชการและพนักงานทกุ คน ขอขอบพระคณุ หนว่ ยงานทงั้ ภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนทุกภาคส่วนท่ีได้ให้ความร่วมมือในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ด้วยดีเสมอมา และหวังเป็นอย่างย่ิงวา่ จะได้ร่วมกนั พฒั นาและแก้ไขปญั หาของประชาชน นำมาซึ่งความเจรญิ ของจงั หวดั กาฬสนิ ธต์ุ อ่ ไป บัดน้ี ดิฉันได้ปฏิบัติหน้าท่ีมาครบรอบอีกหน่ึงปีแล้ว จึงขอนำเสนอผลการดำเนินงานในรอบปีงบประมาณ 2553 ต่อสาธารณชนให้ไดร้ บั ทราบโดยทัว่ กนั (นางชะมอ้ ย วรามิตร) นายกองคก์ ารบริหารส่วนจงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุข
คำนำ ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 287 วรรค 3บญั ญตั ใิ หอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ตอ้ งรายงานการดำเนนิ งานตอ่ ประชาชนในเรอื่ งการจดั ทำงบประมาณ การใช้จ่ายงบประมาณ และผลการดำเนินงาน เพ่ือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและกำกบั การบรหิ ารจดั การขององคก์ รปกครอง สว่ นทอ้ งถน่ิ และพระราชบญั ญตั ิองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ พ.ศ. 2540 ฉบบั แก้ไขเพมิ่ เตมิ พ.ศ. 2550 มาตรา 35/4 วรรค 5 บัญญัติให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด จัดทำรายงานแสดงผลการปฏิบัติงานตามนโยบายท่ีได้แถลงไวต้ อ่ สภาองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัด เป็นประจำทุกปี นัน้ เพ่ือให้การปฏิบัติเป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 และพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 ดังกล่าว องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธจ์ุ งึ ไดจ้ ดั ทำรายงานผลการปฏบิ ตั งิ านประจำปงี บประมาณ2553 เพือ่ เผยแพร่ใหส้ าธารณชนได้รับทราบโดยทว่ั กัน องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ หวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ รายงานผลการปฏบิ ตั งิ านฉบบั น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ทกุ ภาคสว่ นทเ่ี กยี่ วขอ้ ง รวมทงั้ ภาครฐั ภาคเอกชนและประชาชนโดยทวั่ ไป คณะผ้จู ัดทำ ค
Annual report Kalasin Provincial Administrative OganizationK P A Oalasin rovincial dministrative ganization สารบัญ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ก จากใจนายก อบจ. ข ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาการเกษตรและอุตสาหกรรม 1 ยทุ ธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรมนุษยเ์ พ่อื สร้างอาชพี และรายได ้ 9 ยุทธศาสตร์การพฒั นาองคก์ รและการศึกษาระดบั จังหวดั 22 ยทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาการทอ่ งเท่ยี ว 57 ยทุ ธศาสตรก์ ารพัฒนาเมอื งและชนบทอย่างยัง่ ยืน 60 การพัฒนาทอ้ งถนิ่ โดยเครือ่ งจกั รกล อบจ. 64 การจัดทำงบประมาณ ปี 2553 73 การใชจ้ า่ ยงบประมาณ ปี 2553 74 การพัฒนาตามแผนปี (2551- 2553) ที่ผา่ นมา 75 การวางแผนพัฒนาในอนาคต ปี (2554-2556) 76 ตาราง แสดงโครงการท่ีดำเนินการตามแผนงานอุตสาหกรรม และโยธา ประจำป ี 2553 77 ง
1.ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาเกษตรและอุตสาหกรรมโครงการส่งเสริมเพ่ิมประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตข้าวด้วยระบบอินทรยี ์วิถีพอเพยี ง ปี 2553 จากการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ ออกพื้นท่ีทำการฝึกอบรมการทำนำโดย คุณภัทรา วรามิตร รองนายกองค์การบริหาร ปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพให้กับกลุ่มเกษตรกรในอำเภอต่าง ๆส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้นำเกษตรกรต้นแบบจากหลายๆ พร้อมทั้งยังได้สนับสนุนวัตถุดิบที่ใช้ ในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์หมบู่ า้ น ในหลายอำเภอ ของจังหวัดกาฬสนิ ธุ์ ไปฝึกอบรม เช่น สารหัวเช้ืออินทรีย์ รำละเอียด ใบไผ่แห้ง มูลสัตว์การทำเกษตรแบบพอเพยี งโดยใชป้ ยุ๋ อนิ ทรยี เ์ ปน็ หลกั ในการ ในชว่ งเดือนมิถนุ ายน- กรกฎาคม ท่ผี ่านมาทำนาข้าวอยู่ท่ีศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ อำเภอศรีประจันทร์จงั หวัดสุพรรณบรุ ี จำนวน 2 รุน่ ๆ 50 คน เพอ่ื ฝึกปฏบิ ัติในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพหรือการนำเอาเช้ือราจากป่าลึก(เขาใหญ่) มาทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์จากธรรมชาติและการผลิตปุ๋ยและขยายหัวเช้ือจุลินทรีย์และการทำน้ำหมักจากมูลสุกร และเกษตรกรต้นแบบ รุ่นที่ 3 จำนวน60 คน เดินทางไปยังสวนอินดี ต.สะตอ อ.เขาสมิงจังหวัดตราด เม่ือช่วงเดือนพฤษภาคม 2553 ที่ผ่านหลงั จากการอบรมเสรจ็ สนิ้ เกษตรกรตน้ แบบทมี่ ปี ระสบการณ์ได้จัดตั้งกลุ่มเครือข่ายของตนเองขึ้นขยายออกเป็นกลุ่มละ10 คน และมีการฝึกปฏิบัติการทำปุ๋ยอินทรีย์ให้กับสมาชิกใ น ก ลุ่ ม ใ ห้ ทุ ก ค น ไ ด้ มี ค ว า ม รู้ ใ น เ ร่ื อ ง ก า ร ท ำ ปุ๋ ย อิ น ท รี ย์เกษตรพอเพียง โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ 1
การรวมกลุ่มและสร้างเครือข่ายในการผลิตอ้อยและจัดต้ัง กองทุนปจั จัยการผลติ หมนุ เวยี น เพอื่ ใหเ้ กดิ การขยายผลและ มคี วามตอ่ เนอื่ งเกดิ ความยง่ั ยนื พรอ้ มทง้ั ใหเ้ กษตรกรทเ่ี ขา้ รว่ ม โครงการพ่ึงพาตนเอง มีความรู้เรื่องบริหารจัดการแบบ ผสมผสานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและขบวนการ ผลิตท่ีลดตน้ ทนุ สามารถท่จี ะนำไปปฏิบัติเพื่อขยายผลตอ่ ยอด ในการทำเกษตรอนื่ ๆ ได้ โครงการส่งเสรมิ เพ่ิมศักยภาพการผลิตออ้ ยตอแกช่ าวไร่อ้อย เนื่องจาก ในปัจจุบันมีเกษตรกรที่ปลูกอ้อยในเขตจังหวัดกาฬสินธ์ุ ประมาณสามแสนกว่าไร่ ประกอบกับนำ้ ตาลในตลาดโลกมรี าคาสงู ซงึ่ เปน็ ผลใหต้ น้ ออ้ ยทเี่ ปน็ วตั ถดุ บิกม็ รี าคาสงู ตามไปดว้ ย ดังนน้ั เพื่อที่จะทำใหพ้ นี่ อ้ งเกษตรกรชาวไร่อ้อยของจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่เสียโอกาสในช่วงนี้และยงั เปน็ การเพม่ิ รายได้ใหก้ บั ครอบครวั ใหม้ คี วามเปน็ อยทู่ ดี่ ขี น้ึ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ไดท้ ำพธิ ลี งบนั ทกึขอ้ ตกลงรว่ มกบั บรษิ ทั นำ้ ตาลมติ รกาฬสนิ ธ์ุ จำกดั และตวั แทนกลมุ่ เกษตรกรชาวไรอ่ อ้ ย เพอ่ื ทจ่ี ะสง่ เสรมิ การปลกู ออ้ ยให้ได้ผลผลิต 10 ตันต่อไร่ ในรูปแบบความร่วมมือไตรภาคีและรูปแบบโรงเรียนเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยมีเกษตรกรชาวไร่ออ้ ย จาก 25 ตำบลๆ ละ 10 คน ใน 7 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 250 เข้าร่วมโครงการ เพื่อสร้างเกษตรกรต้นแบบในการเพ่ิมผลผลิตอ้อยตอ ส่งเสริม 2
สง่ เสรมิ พง่ึ พาตนเอง มคี วามรเู้ รอ่ื งการบรหิ ารจดั การแบบผสมผสาน การปลกู มนั สำปะหลงั ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ขบวนการผลิตท่ีลด ต้นทุนด้วยการปลูกมันสำปะหลังระบบเกษตรอินทรีย์ ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ส่วนใหญ่ประกอบ หรอื มนั สำปะหลงั อนิ ทรยี ์ ใหม้ ผี ลผลติ 7 ตนั ตอ่ ไร ่ รวมกลมุ่อาชพี เกษตรกรรม มสี ภาพพนื้ ทแี่ ละปจั จยั สภาพแวดลอ้ มที่ และสร้างเครือข่ายการผลิตในรูปแบบโรงเรียนเกษตรกร เออื้ อำนวยในการทำการเกษตร ผบู้ รหิ ารขององคก์ ารบรหิ าร จัดระบบการผลิตให้สอดคล้องกับการตลาด พัฒนากลุ่มส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ จึงได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการบริหาร เกษตรกรและเพิ่มช่องทางการตลาดและรองรับการผลิตในข้อหนึ่งท่ีว่า “เป็นเลิศเกษตรกรรม” ท่ีสอดคล้องกับ รวมทงั้ สรา้ งอำนาจการตอ่ รองในการขายหวั มนั สำปะหลงั สดยทุ ธศาสตรพ์ ฒั นาจงั หวดั กาฬสนิ ธแุ์ ละแผนพฒั นาเศรษฐกจิ สว่ นเปา้ หมายจะทำการสง่ เสรมิ เพม่ิ ศกั ยภาพใหแ้ กเ่ กษตรกรและสงั คมแหง่ ชาติ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ จงึ ได้ ผู้ผลิตมันสำปะหลังในเขตพ้ืนท่ี อำเภอเมืองกาฬสินธุ์รว่ มกบั สำนกั งานเกษตรจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ บรษิ ทั เอเชยี โมดไิ ฟด์ อำเภอยางตลาด อำเภอห้วยเม็ก อำเภอหนองกุงศรีจำกัด และเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง จัดทำโครงการ อำเภอทา่ คนั โท อำเภอสามชยั อำเภอสมเด็จ อำเภอคำม่วงส่งเสริมเพ่ิมศักยภาพและลดต้นทุนการผลิตมันสำปะหลัง อำเภอสหัสขันธ์และอำเภอดอนจาน รวม 10 อำเภอ 40ปี 2552 ขนึ้ โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ใหเ้ กษตรทเี่ ขา้ รว่ มโครงการ ตำบล 40 หมบู่ า้ น ๆ ละ หนง่ึ แปลงสาธติ หรอื หนง่ึ กลมุ่ โรงเรยี น ชาวไร่มันสำปะหลัง โดยหนึ่งกลุ่มมีสมาชิก 10 คน แบง่ ยอ่ ยเปน็ 2 กลมุ่ ๆ ละ 5 คน ใหท้ ำการคดั เลอื กพน้ื ทขี่ อง สมาชิกคนใดคนหน่ึง จำนวน 5 ไร่ เข้าร่วมโครงการเพ่ือ ทำเปน็ แปลงสาธติ และใหห้ มนุ เวยี นในฤดกู ารผลติ ในปตี อ่ ๆ ไปจนครบ 5 คน รวมเปน็ 400 ไร ่ 3
อบรมเกษตรกรตน้ แบบ อ.คำม่วง อ.สามชัย อ.ท่าคันโท อ.หนองกุงศรี และ อ.หว้ ยเมก็ จำนวน 65 คน ณ เดนิ ทางไปอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารด้วยระบบเกษตรอนิ ทรีย์ ณ สถาบันมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ จังหวัดสุพรรณบุรี สำหรับในรุ่นท่ี 3 คัดเลือกเกษตรกร 65 คน จาก 6 อำเภอ ได้แก่ อ.เขาวง อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.เมือง อ.กมลาไสย และ อ.ฆ้องชัย ไปฝึกอบรม ณ สวนอินดี ต.สะตอ อ.เขาสมิง จังหวัดตราด เกษตรกรต้นแบบ ได้รับการฝึกอบรมการทำปุ๋ยอินทรีย์อะตอมมิคนาโน เรยี นรกู้ ารทำนาโยน การทำสารไลย่ งุ และแมลงอนื่ ๆ หลงั จาก การอบรมเสร็จเกษตรกรต้นแบบจะกลับไปรวมกับเกษตรกร อ่ืน ๆ ในหมบู่ า้ นเพือ่ ตง้ั เปน็ กลุ่มเกษตรกร กลุ่มละ 10 คน จากนั้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์จะได้สนับสนุน ปัจจัยในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพให้กับกลุ่มในการผลิต เพื่อใช้ในการแปลงนาของกลุม่ ตอ่ ไป องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ โดยนางสาวภทั รา วรามิตร รองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ จัดทำโครงการส่งเสริมเพ่ิมประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตข้าวด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ วิถีพอเพียง ปี 2553 ขึ้นเพื่อตอบสนองต่อยุทธศาสตร์การพัฒนาของจังหวัดและวิสัยทัศน์ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ แลว้ ยงั จะทำใหเ้ กษตรมีรายได้เพม่ิ ข้ึน ส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวติ ของชาวนาเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมด้วย และปรับเปล่ียนพฤติกรรมของเกษตรให้หันมาใช้วัตถุอินทรีย์ชีวะวิถีในการทำนาซึ่งจะนำสู่การอนุรักษ์ดิน น้ำและรักษาสมดุลของระบบนิเวศการอบรมเกษตรกรแบง่ ออกเป็น 3 รุน่ โดยคัดเลอื กเกษตรจาก 27 ตำบลใน 8 อำเภอ ไดแ้ ก่ อำเภอเมือง อ.ร่องคำ อ.สหัสขันธ์ อ.นาคู อ.กุฉินารายณ์ อ.ห้วยผึ้ง อ.นามนและ อ.ดอนจาน จำนวน 65 คน และรุ่นท่ี 2 คดั เลือกจาก27 ตำบล ใน 8 อำเภอ ได้แก่อำเภอยางตลาด อ.สมเด็จ4
รวมพล และลดปญั หาการวา่ งงานจากภาคอตุ สาหกรรมทซ่ี บเซาลง คนพอเพียง ประชาชนสามารถลดหนส้ี นิ ได้ มเี งนิ เกบ็ ออม เพอื่ พฒั นา คณุ ภาพชวี ติ และความเปน็ อยู่ใหด้ ขี นึ้ และสามารถพง่ึ พา ด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ชว่ ยเหลอื ตนเองได ้ ซง่ึ มเี กษตรทผี่ า่ นการคดั เลอื กเขา้ รว่ มเป็นองค์กรหน่ึงในภาคีเครือข่ายของจังหวัดกาฬสินธุ์ โครงการทง้ั หมด จำนวน 1,506 คน จาก 1,124 หมบู่ า้ นที่เป็นหน่วยงาน ท่ีช่วยกันขับเคล่ือนยุทธศาสตร์ 112 ตำบล ใน 18 อำเภอของจังหวัดกาฬสินธุ์ เม่ือเศรษฐกิจพอเพียงของจังหวัดกาฬสินธ์ุ ให้เดินหน้าต่อไป เกษตรกรท่ีเข้าร่วมโครงการได้ผ่านการอบรมแล้วคาดว่าอ ย่ า ง เ ป็ น รู ป ธ ร ร ม แ ล ะ บ ร ร ลุ เ ป้ า ห ม า ย ที่ ก ำ ห น ด ไ ว้ จะเกดิ การพฒั นาดา้ นการเกษตรในระดบั ครวั เรอื น เกดิ องค์อบจ.กาฬสนิ ธ์ุ จงึ ไดร้ ว่ มกบั จงั หวดั กาฬสนิ ธแุ์ ละสำนกั งาน ความรู้ในรปู แบบเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรแบบผสมผสานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดจัดทำโครงการรวมพลคน ที่ยั่งยนืพอเพยี ง ฮกั แพง แบ่งปนั 1 ไร่ ไมย่ าก ไม่จน ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว เริ่มจากปี2553-2555 วัตถุประสงค์ของโครงการ เพ่ือให้เกษตรชาวจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดก้ ลบั มาทำมาหากนิ ในพน้ื ท่ีไรน่ าของตนเองตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื ใหเ้ กดิ การบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐและประชาชนให้เกิดผลเปน็ รปู ธรรม เปน็ การเพม่ิ ศกั ยภาพของเครอื ขา่ ยปราชญ์ชาวบา้ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ รบั รองวกิ ฤตทางดา้ นเศรษฐกจิ 5
โครงการอบรมเกษตรกรปลกู พชื ผกั ปลอดสารพษิ อาหารเปน็ หนง่ึ ในปจั จยั สท่ี ม่ี คี วามจำเปน็ ในการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากเราสามารถพัฒนาและสร้างกระบวนการผลติ อาหารทม่ี คี ณุ ภาพสะอาดและปลอดจากสารพษิ ตา่ ง ๆ ซงึ่ เปน็ อาหารปลอดภยั (Food Saefty ) กย็ อ่ มทจ่ี ะสง่ ผลดีต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน อีกท้ังยังมีส่วนช่วยในการลดความเส่ยี งในด้านปญั หาสขุ ภาพอีกทางหนึง่ ด้วย องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ จงึ ไดร้ ว่ มกบั เครอื ขา่ ยเกษตรกรผปู้ ลกู ผกั อาหารในจงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ ดำเนนิ งานโครงการอบรมเกษตรกรผลิตพืชผักปลอดสารพิษ สู่ร้าน Q – shop ข้ึนโดยการคดั เลือกเกษตร จำนวน 276 คน ในพ้นื ท่ี 7 อำเภอ19 ตำบลเขา้ รว่ มโครงการ พรอ้ มทง้ั จดั ตงั้ และสรา้ งเครอื ขา่ ยร้าน Q-Shop เพื่อส่งเสริมการตลาดโดยทำหน้าที่กระจายสินคา้ พชื อาหารปลอดสารพิษสผู่ ูบ้ ริโภค เพอ่ื ส่งเสรมิ ระบบการผลติ พชื อาหารของกลมุ่ เกษตรกรใหเ้ ปน็ พชื อาหารปลอดภยัจากสารพิษ โดยการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่เหมาะสมสนบั สนนุ ปจั จยั การผลติ ทถ่ี กู ตอ้ งและไดค้ ณุ ภาพตามหลกั วชิ าการเกษตร สง่ เสรมิ ใหเ้ กษตรกรผลติ พชื ผกั อาหารปลอดสารพษิแล้วยังจัดหาตลาดจำหน่ายให้ด้วย และที่สำคัญที่สุดคือให้ประชาชนในจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีโอกาสบริโภคอาหารที่สะอาดและปลอดภัยจากสารพิษอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลครัวไทยสู่ครัวโลก และเพ่ือให้บรรลุวิสัยทัศน์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุทไ่ี ดก้ ำหนดไวว้ า่ “เปน็ เลศิ เกษตรกรรม” อกี ดว้ ย เมอื่ ผผู้ ลติ เองมจี ติ สำนกึ ผลติ อาหารปลอดภยั ผขู้ ายกข็ ายสนิ คา้ ทมี่ คี ณุ ภาพ ส่งิ ที่ชาวกาฬสนิ ธ์ุจะได้รับคือสุขภาพอนามัยท่ีด ี ซึ่งเกิดจากการได้บริโภคอาหารดี ๆ ที่มีคุณภาพและสามารถเข้าถึงผักปลอดภัยจากสารพษิ อย่างตอ่ เนอ่ื งและตลอดไป 6
ปลกู ป่า พระเกยี รตเิ นอื่ งในโอกาสมหามงคลเฉลมิ พระชนมพรรษา 77 เฉลิมพระเกยี รติแม่ของแผ่นดนิ พรรษา ในวนั ที่ 12 สงิ หาคม 2553 พรอ้ มทง้ั เปน็ การรณรงค์ ปลกู จติ สำนกึ และสรา้ งความตระหนกั ใหป้ ระชาชนทกุ หมเู่ หลา่ จังหวัดกาฬสินธ์ุ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด ได้มีส่วนในการฟ้ืนฟูอนุรักษ์และบำรุงรักษาทรัพยากรป่าไม้กาฬสนิ ธ์ุ รว่ มกบั สว่ นราชการ อำเภอยางตลาด จดั ทำโครงการ และส่ิงแวดล้อม และเพ่ือพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวทางเฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดิน แม่ท้ังประเทศปลูกต้นไม้ ธรรมชาติของจงั หวดั กาฬสินธอ์ุ ีกแหง่ หนึง่ ดว้ ยถวาย 77 แสนตน้ ในเขตปา่ เสือ่ มโทรม ดงระแนง ซึง่ เดิมปา่ ดงระแนงเปน็ พน้ื ทที่ มี่ คี วามอดุ มสมบรู ณก์ วา่ 180,000 ไร ่ แต่ในปัจจบุ นั เหลือพนื้ ทีอ่ ยู่เพียง 56,000 ไร่ และสว่ นมากมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม ที่จะต้องมีการฟื้นฟูทำให้ป่ามีความอุดมสมบูรณ์กลับมาด่ังเดิม โดยการร่วมกันปลูกป่าชว่ ยกันอนรุ ักษ ์ บำรุงดแู ลรักษา และใหช้ มุ ชนทอี่ าศยั รอบปา่ ได้มสี ว่ นรว่ มในทกุ ขั้นตอนของการฟ้ืนฟู ซ่ึงเม่ือวันท่ี 28 พ.ค. 2553 เวลา 09.30 น.นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นประธานเปิดโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติฯ โดยนางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการและพนักงานขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ พร้อมทั้งมีพระภกิ ษสุ งฆจ์ ากวดั ตา่ ง ๆ ในอำเภอยางตลาด พน่ี อ้ งประชาชนจากตำบลเขาพระนอนและหมู่บ้านใกล้เคียงจำนวน5 พันกว่าคน ได้ร่วมกันปลูกป่าตามโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติแม่ของแผ่นดินแม่ทั้งประเทศปลูกต้นไม้ถวาย77 แสนตน้ พน้ื ที่ 250 ไร่ ณ บรเิ วณปา่ เสอื่ มโทรมดงระแนง(สวนธรรมโชตปิ ญั ญาราม) บา้ นหนองกงุ ตำบลเขาพระนอนอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูและเพิ่มพ้ืนที่ป่าให้มีความสมบูรณ์ เพื่อพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ในท้องถิ่นชุมชน สนองพระราชเสาวนีย์ด้านการฟ้ืนฟูและรักษาทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อมเพ่ือให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมปลูกต้นไม้เพ่ือเฉลิม 7
โครงการ รกั ษ์น้ำรกั ษป์ า่ ถวายแมฟ่ ้าหลวง 2ปร5ะจ5ำ3ปี องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับส่วน ราชการในจังหวัดกาฬสินธ์ุ จัดทำโครงการรักษ์น้ำ รักษ์ป่า ถวายแม่ฟ้าหลวง เน่ืองในวโรกาสวันแม่แห่งชาติ ที่ศูนย์ พัฒนากีฬาและนันทนาการ บึงอร่าม อำเภอยางตลาด จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ในวนั ท่ี 11 สงิ หาคม 2553 ซง่ึ มสี ว่ นราชการ และโรงเรียนต่าง ๆ ในเขตพ้ืนที่ใกล้เคียงเข้าร่วมโครงการประมาณ หนึ่งพันคน โดยมีการปลูกต้นไม้ขนาดสูง5 เมตร จำนวน 4 ต้น คือต้นมะหาด ท่ีเป็นต้นไม้ประจำจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จำนวน 2 ต้น โดย นายวิโรจน์ จวิ ะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และปลูกต้นดอกพะยอมซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดกาฬสินธ์ุ จำนวน 2 ต้น โ ด ย น า ง ช ะ ม้ อ ย ว ร า มิ ต ร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด กาฬสินธ์ุ และ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ นอกจากน้ันในบริเวณศูนย์กีฬา บึ ง อ ร่ า ม ยั ง มี ก า ร ป ลู ก ต้ น ไ ม้ หลายสายพันธ์ุ เช่น ต้นยางนา ตีนเป็ด ประดู่ กฐินณรงค์ ปาล์ม และหญ้าแฝกกันตลิ่งพัง จำนวน 2 หมื่นกล้า ปล่อยปลา ลงในบงึ อรา่ ม จำนวน 1 หมนื่ ตวั เพ่ือเป็นการแสดงออกถึงความ จงรกั ภกั ดีในวนั แมแ่ หง่ ชาติ เพอ่ื เปน็ การปรบั ปรงุ ภมู ทิ ศั นล์ ดภาวะ โลกร้อน สร้างจิตสำนึกให้ ประชาชนรักต้นไม้และคืนความ สมดลุ สธู่ รรมชาติ 8
2.ยุทธศาสตรก์ ารพัฒนาทรัพยากรมนุษยเ์ พ่ือสรา้ งอาชีพและรายได้อบรม คนไข้และงานสาธารณสุข งานพัฒนาสุขภาพของ อสม. ประจำ ศสมช.ปี 53 ประชาชนในแต่ละหมู่บ้านต่อไป องค์การบริหารส่วน จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ นำโดย นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ าร องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับ บริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ พร้อมทั้งรองนายกฯ ท้ังสำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จดั ทำโครงการอบรม สองทา่ นคอื นายชาญณรงค์ หวงั มนตรี และนางสาวภทั ราอสม. ตามหลักสูตรมาตรฐาน อสม.จังหวัดกาฬสินธุ์ วรามิตร ได้ออกพื้นที่เพ่ือเปิดโครงการอบรม อสม.โ ด ย อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จั ง ห วั ด ก า ฬ สิ น ธุ์ ไ ด้ ส นั บ ส นุ น ในแต่ละรุ่นและพบปะกับพี่น้อง อสม. ในแต่ละอำเภองบประมาณในการดำเนินการฝึกอบรม อสม. ในปนี จี้ ำนวน พรอ้ มทง้ั รบั ทราบปญั หาทางดา้ นสาธารณสขุ ของแตล่ ะพน้ื ท่ี5,000,000 บาท ได้จำนวน 30 รุน่ เพอ่ื ทจ่ี ะให้ อสม. นำมากำหนดเป็นนโยบาย หาแนวทางในการพัฒนาและท่ีเข้าอบรมมีความรู้ ความสามารถในการส่งเสริมสุขภาพ ชว่ ยเหลือตอ่ ไปการรักษาพยาบาลเบ้ืองต้น การป้องกันโรคและการฟ้ืนฟูสภาพผู้ป่วย ซึ่งหลักสูตรการฝึกอบรม ประกอบด้วยการประเมินอาการเจ็บป่วย การรักษาพยาบาลเบื้องต้นโรคเหงือกและฟัน การใช้ยาสามัญประจำบ้าน การปฐมพยาบาล การสง่ ตอ่ ผปู้ ว่ ยฉกุ เฉนิ การตรวจสญั ญาณชพี และการฟน้ื คืนชพี เปน็ ตน้ ซ่งึ อสม.ทีผ่ ่านหลักสตู รการอบรมจะไปทำงานประจำอยู่ท่ีศูนย์สุขศาลา (ศสมช.) ของแต่ละหมู่บ้าน เพื่อเป็นผู้ช่วยหมอและพยาบาลในการรักษา 9
โครงการ ข้ึน เพ่ือที่จะนำเอาพืชในธรรมชาติ พืชโตเร็ว พืชอายุสั้น และวัชพืชบางประเภทท่ีมีอยู่ในท้องถ่ินมาเป็นมาเป็นฝึกอบรมการใช้สยี ้อมผา้ จากวสั ดุธรรมชาติ วตั ถดุ บิ ในการทำสยี อ้ ม พรอ้ มทง้ั ไดเ้ รยี นรู้โครงสรา้ งทางเคมี และกระบวนการย้อมสีที่มีมาตรฐานในการผลิต ส่งเสริม การผลิตสินค้าOTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชนประเภท ความรู้ให้กับกลุ่มอาชีพผู้ผลิตสิ่งทอ หัตถกรรม จักสานสิ่งทอและเครื่องจักสานในจังหวัดกาฬสินธ์ุส่วนมาก และผลติ ภณั ฑอ์ น่ื ๆ รวมทง้ั เปน็ การเพม่ิ มลู คา่ ในผลติ ภณั ฑ์จะใชส้ เี คมซี ่ึงเป็นสีสังเคราะห์ในการย้อม ภูมปิ ญั ญาการ ลดต้นทุนการผลิต เพ่ิมรายได้ให้กับกลุ่มอาชีพ ลดการใช้สีจากธรรมชาติซ่ึงเป็นสีท่ีได้จากพืชสัตว์และแร่ธาตุ ใช้สารเคมีในการย้อมซ่ึงเป็นอันตรายต่อสุขภาพและย้อมเส้นไหม เส้นฝ้าย ท่ีสืบทอดกันมายาวนานเหลืออยู่ ส่ิงแวดล้อม และเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีขีดความน้อยมากหรือในบางหมู่บ้านได้หาย สามารถด้านการแข่งขันในตลาดและมีการผลิตที่มีการไปเลย เน่ืองจากสีเคมีสังเคราะห์มี พัฒนาอย่างยั่งยืน ได้เชิญกลุ่มอาชีพผลิตภัณฑ์ชุมชนขั้นตอนการย้อมที่ง่ายและรวดเร็ว ประเภทหัตถกรรมส่ิงทอและจักสาน จากอำเภอคำม่วงย้อมติดเส้นใยดี สีท่ีได้มีความสด อำเภอกฉุ นิ ารายณ์ และอำเภอหนองกงุ ศรี เขา้ รว่ มฝกึ อบรมใ ส สี ไ ม่ เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง ห รื อ ซี ด จ า ง จำนวน 164 คน ไดม้ ีการฝกึ การย้อมสจี ากพชื ในธรรมชาติทนตอ่ การซกั และแสงแดด แตอ่ ยา่ งไรก็ตามการใช้สีเคมีก็มีปัญหาตามมา เช่นสีดำและสีน้ำตาลได้จากใบเพราะสีเคมีส่วนใหญ่มีโลหะหนักเป็น หกู วาง สเี หลอื งไดจ้ ากขมน้ิ ชนัองค์ประกอบ ทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ย้อม สีเหลืองครีมได้จากไม้อะลางจากการสูดดมไอสารพษิ หรอื การสัมผัสโดยตรง ทำใหเ้ กิด สแี ดง นำ้ ตาลดำไดจ้ ากไมป้ ระดู่การเจบ็ ปว่ ยตอ้ งเสยี คา่ ใชจ้ า่ ยในการรกั ษาพยาบาล นำ้ ยอ้ ม และเปลือกต้นแดง สีเขียวทเี่ หลอื ทมี่ โี ลหะหนกั และสารเคมตี กคา้ งถกู เททงิ้ ลงสแู่ หลง่ ได้จากข้ีเหล็กบ้านสีชมพูได้จากน้ำสาธารณะหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำลายส่ิงแวดล้อม ฝางแดง สเี หลือง เขียวได้จากทำลายสขุ ภาพประชาชนทว่ั ไปทตี่ อ้ งอาศยั แหลง่ นำ้ นนั้ เพอื่ แก่นขนุน สีครีมเขียว ได้จากการอุปโภคบริโภคในชุมชน องค์การบริหารส่วนจังหวัด กระบก เปน็ ตน้ ส่วนวัสดุ และอปุ กรณ์ในการฝกึ อบรม ได้กาฬสนิ ธ์ุ ในฐานะผทู้ ส่ี ง่ เสรมิ สนบั สนนุ การผลติ สนิ คา้ ชมุ ชน รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจงั หวัดกาฬสินธุ์ได้ ให้ความสำคัญโดยเฉพาะการผลิตสินค้าท่ีเป็นมิตรกับสง่ิ แวดลอ้ ม และใช้ภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ เปน็ หลักในการผลิต การย้อมผ้าทอด้วยสีจากธรรมชาติ จึงได้จัดทำโครงการศึกษาฝึกอบรมการใช้วัสดุธรรมชาติเป็นสีย้อมเพื่อส่งเสริมเพ่ิมมูลค่าผลิตภัณฑ์กลุ่มอาชีพและสินค้าโอท้อป10
โครงการสายใยรกั แห่งครอบครวั เ ป็ น โ ค ร ง ก า ร ที่ ส่ ง เ ส ริ ม ความรักของบุคคลในครอบครัวให้มี ชีวิตดีข้ึน ลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน โ ด ย อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จั ง ห วั ด กาฬสินธ์ุ ได้อุดหนุนเงินงบประมาณ ให้กับสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด กาฬสินธุ์ จำนวน 1,000,000 บาท ไ ป ด ำ เ นิ น ก า ร ป ร ะ ก ว ด / คั ด เ ลื อ ก หมู่บ้าน/ชุมชนและองค์กรปกครองใน ท้องถ่ินท่ีมีผลงานดีเด่นตามโครงการ สายใยรักแห่งครอบครัว ปี 2553 ภ า ย ใ ต้ แ ผ น บู ร ณ า ก า ร ขั บ เ ค ล่ื อ น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงด้วยสายใย รักแห่งครอบครัว เพื่อขจัดความยากจน ปี 2553 เม่ือวันท่ี 11 สิงหาคม 2553 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้มีพิธีมอบเงินรางวัล แ ก่ ห มู่ บ้ า น / ชุ ม ช น แ ล ะ อ ป ท . ท่ีมีผลงานดีเด่น โดยนายวิโรจน์ จวิ ะรงั สรรค์ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ มอบโล่เกียรติคุณให้กับ นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ในฐานะหน่วยงานผู้ ให้การสนับสนุน สำหรับหมู่บ้านท่ี ได้รับรางวัลหมู่บ้านสายใยรักแห่งครอบครัวดีเด่นปี 2553 คือบ้านโนนค้อ ต.นาทัน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธ์ุ เงินรางวัล 100,000บาท พร้อมประกาศเกียรติบัตร ประเภทองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินที่มีผลงานดีเด่น ขับเคล่ือนเศรษฐกิจพอเพียงคือ เทศบาลตำบลนาทัน อำเภอคำม่วง เงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมประกาศ เกียรตบิ ัตร 11
โครงการ ฝึกอบรมพฒั นาศักยภาพผู้นำ ตามทอี่ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดจ้ ดั ตง้ั บริหารส่วนจังหวัดจัดทำเวทีสาธารณะเพ่ือรับฟังปัญหาศนู ยเ์ ครอื ขา่ ยเพอ่ื แก้ไขปญั หาและสง่ เสรมิ การมสี ว่ นรว่ มใน ความคิดเห็นของผู้นำ จากการประเมินจะเห็นได้ว่ามีผู้นำการพฒั นาทอ้ งถนิ่ หรอื Clinic Center โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์ จำนวนมากยงั ขาดความรู้ ความเขา้ ใจในการนำเสนอปญั หาเพ่ือเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรปกครองส่วน ของทอ้ งถนิ่ ตนเอง ดงั นน้ั เพอ่ื เปน็ การสง่ เสรมิ องคค์ วามรู้ท้องถิ่น เน้นการเรียนรู้ร่วมกันและแบ่งปันความรู้ซึ่งกัน ให้ผู้นำชุมชนสามารถขับเคล่ือนยุทธศาสตร์และภารกิจและกนั ระหว่างส่วนราชการ สถานศึกษา องค์กรปกครอง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดในการท่ีจะพัฒนาหมู่บ้านส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชนในพ้ืนที่ เปน็ ศูนย์ ชุมชนให้เข้มแข็ง จึงได้จัดทำโครงการฝึกอบรมพัฒนากลางในการแก้ไขปัญหาในท้องถ่ิน ซ่ึงจากการท่ีองค์การ ศักยภาพผู้นำขึ้น โดยทำการอบรมกำนัน ผู้ ใหญ่บ้าน ในเขตจังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ จำนวน 635 คน แบ่งออกเป็น 3 รนุ่ ๆละ 200 กวา่ คน ทหี่ อประชมุ เฉลมิ พระเกยี รติ 80 พรรษา และศึกษาดูงานท่ีศูนย์เรียนรู้การเกษตรพอเพียงพร้อมกับ พบปะกับปราชญช์ าวบ้าน12
อบจ.สนับสนุนงบช่วยเหลอื ผปู้ ่วยโรคไตวายระยะสดุ ท้าย โรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายเป็นโรคที่สร้างความ กองทุนพัฒนาสุขภาพจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดต้ังข้ึนเพ่ือทกุ ขท์ รมานใหก้ บั ผปู้ ว่ ย และทำใหผ้ ปู้ ว่ ยเสยี ชวี ติ ไดเ้ นอื่ งจาก วตั ถปุ ระสงค์ เพอื่ สง่ เสรมิ และฟน้ื ฟสู ขุ ภาพของประชาชนในผู้ป่วยเหล่าน้ีเป็นโรคท่ีไตไม่สามารถทำการกำจัดของเสีย จงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ ใหม้ คี ณุ ภาพชวี ติ ทด่ี ขี น้ึ มองเหน็ ความสำคญัออกจากร่างกายได้เพียงพอ ผู้ป่วยไม่อาจจะมีชีวิตรอด ของการเข้ามามีส่วนช่วยเหลือประชาชน แบ่งเบาภาระท่ีต่อไปได้นอกจากจะมีการช่วยขจัดของเสียออกจากร่างกาย ตอ้ งจา่ ยในแตล่ ะครงั้ ของการฟอกไต จงึ ไดจ้ ดั ทำโครงการ แทนไต โดยการลา้ งไตผา่ นชอ่ งทอ้ ง (Peritoneal Dialysis) “โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตวายเร้ือรังระยะสุดท้าย” และการฟอกเลือดโดยใช้เคร่ืองไตเทียม (Hemodialysis) โดยขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารซ่ึงการกระทำทั้ง 2 วิธี ต้องทำเป็นประจำไม่มีโอกาสหยุด สว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จำนวน 500,000 บาท เพอื่ สนับสนุนทำได้ ทำให้ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการล้างไต ช่วยเหลอื ค่ารักษาพยาบาล ค่าเวชภัณฑ ์ ใหแ้ ก่ผู้ป่วยโรคฟอกเลือดเป็นระยะ ๆ ยิ่งไปกว่านั้นผู้ป่วยจะต้องเสีย ไตวายเรอ้ื รงั ระยะสดุ ทา้ ย ทม่ี ฐี านะยากจนในจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุค่าใช้จ่ายในการรักษาโดยวิธีการเหล่านี้อย่างมหาศาล แต่มีภาระจำเป็นต้องจ่ายเพ่ือรักษาพยาบาลตนเองให้มีชีวิตในจังหวัดกาฬสินธ์ุ มีผู้ป่วยท่ีเป็นโรคไตวายเร้ือรังระยะ รอดตอ่ ไปสุดท้าย จำนวนไม่น้อยที่ต้องสูญเสียทรัพย์สิน เงินทองเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาตนเอง เนื่องจากการฟอกเลือดแต่ละครั้ง จะมีค่าใช้จ่ายท่ีเกินจากสิทธิระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า กำหนด บางรายมีฐานะยากจนตอ้ งกหู้ นย้ี มื สนิ ขายเรอื กสวนไรน่ าทท่ี ำกนิ ของตน เพอื่ ใหม้ ีเงินมารักษาตนเอง บางคนเป็นเสาหลักของครอบครัวต้องหมดเนื้อหมดตัวไปกม็ ี 13
สืบเน่ืองจากที่จังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้ขอถอนสภาพ มอบสัญญาท่ีดินสาธารณประโยชน์ 4 แปลง ที่อำเภอกมลาไสย คือที่ดินดงปากน้ำ ดงน้ำจ้ัน ดงบ้านอ้น และดงเหล่าแขม เช่าทด่ี ินดงปากน้ำอ.กมลาไสยซง่ึ มเี นอื้ ทรี่ วมทงั้ หมด 4,491 ไร่ 64 ตารางวา เพอ่ื มอบให้องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ นำไปจดั หาผลประโยชน์โดยการให้ราษฎรครอบครองทำประโยชน์โดยการเช่าซื้อ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ จึงได้จัดให้มีพิธีมอบสัญญาเช่าซ้ือที่ดินของรัฐ แปลงดงปากน้ำให้กับประชาชนผมู้ สี ทิ ธิ จำนวน 266 คน โดยนางชะมอ้ ย วรามติ รนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นประธานในการมอบสัญญาเช่าซ้ือที่ดิน เพื่อท่ีจะให้ราษฎรได้มีกรรมสทิ ธใ์ิ นทด่ี นิ ทเ่ี ชา่ ซอ้ื เปน็ ของตนเอง โดยผเู้ ชา่ ซอื้ จะตอ้ งผอ่ นชำระเปน็ รายปี มรี ะยะการชำระไมเ่ กนิ 20 ปี เมอ่ื ชำระจนครบตามสญั ญาแลว้ กจ็ ะไดร้ บั โอนกรรมสทิ ธใ์ิ นทด่ี นิ เปน็ของตนเองและนำทด่ี นิ ไปสรา้ งมลู คา่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุตอ่ ตนเองและครอบครัวต่อไป 14
อบจ.มอบอาคารตลาดสดใหเ้ ทศบาลโนนบุรี นายชาญณรงค์ หวงั มนตรี รองนายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสินธ์ุ เป็นประธานในพิธีส่งมอบอาคารตลาดสดให้กับ เทศบาลโนนบุรี นำไปบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์กับ ประชาชนในพื้นที่ท้ังกับผู้ชื้อและผู้ขาย ซึ่งในพิธีเปิดได้มี เจา้ หนา้ ทจ่ี ากเทศบาลโนนบรุ แี ละผคู้ า้ ขายในตลาดจำนวนหนงึ่ เขา้ รว่ มในพธิ ที า่ มกลางอากาศยามบา่ ยทร่ี อ้ นมาก วตั ถปุ ระสงค์ ในการกอ่ สรา้ งอาคารตลาดสดหลังน้ี เพอื่ ใชป้ ระโยชน์ในการ เป็นสถานท่ีซื้อขายแลกเปล่ียนสินค้า อาหารทั้งสดและแห้ง สง่ เสรมิ ฐานะทางเศรษฐกจิ ของประชาชนของพน่ี อ้ งประชาชน ในเขตอำเภอสหสั ขนั ธ์ได้ใชป้ ระโยชนร์ ว่ มกนั ตอ่ ไป การสง่ มอบ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้รับการร้อง ครง้ั น้ีไดร้ บั คำขอบพระคณุ จากพอ่ คา้ แมค่ า้ ในฐานะผู้ไดร้ บั ผลขอให้มีการก่อสร้างอาคารตลาดสดจากพ่ีน้องในเขตเทศบาล ประโยชน์โดยตรงและพ่ีน้องในเขตเทศบาลโนนบุรีและยังได้โนนบุรี ผ่านสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ สญั ญาว่า จะใชป้ ระโยชนอ์ ย่างเต็มที่ จะทะนุบำรงุ รกั ษาไว้เน่ืองจากสภาพเดิมของตลาดเป็นอาคารไม้เก่าที่มีอายุการ เพอ่ื ประโยชนส์ าธารณชนร่วมกันให้ได้นานท่ีสุดใช้งานมานานกว่าหกสิบปี และการจัดการเร่ืองสุขอนามัยในตลาดยงั ไมไ่ ดม้ าตรฐาน อันเนือ่ งมาจากอาคารสถานทเ่ี ดมิไมเ่ ออ้ื ตอ่ การปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลง ดงั นนั้ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาฬสินธ์ุ จึงได้จัดสรรงบประมาณในการก่อสร้างอาคารตลาดสด ทมี่ ขี นาดความกวา้ ง 11 เมตร ยาว 24 เมตร ใชง้ บประมาณในการกอ่ สรา้ ง 1,190,000 บาท และไดก้ อ่ สรา้ งเสรจ็ ไปเมื่อเดือนมกราคม 2553 ทผ่ี า่ นมา 15
อบจ. มอบอาคารศูนย์โอทอ้ ปใหก้ บั เทศบาลเมอื งฯ อาคารจำหน่ายสินค้า หน่ึงตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ และได้รับเกียรติจาก นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการOTOP เป็นอาคารที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนไดก้ อ่ สรา้ งขน้ึ จำนวน 3 หลงั ในปี 2549 ใชงบประมาณทง้ั สน้ิ ราชการประจำจังหวัด พ่อค้าประชาชนจำนวนมาก ร่วมเป็น3,936,947 บาท โดยขออนญุ าตกอ่ สรา้ งในพน้ื ทขี่ องเทศบาล สกั ขีพยานเมืองกาฬสินธ์ุ เพ่ือเป็นสถานท่ีจำหน่ายสินค้า หน่ึงตำบลหน่งึ ผลติ ภณั ฑ์ ของจังหวัดกาฬสนิ ธ ์ุ ต่อมาองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ เห็นว่าอาคารแห่งน้ีตั้งอยู่ในพื้นท่ีของเทศบาลเมอื งกาฬสนิ ธ ์ุ หากมอบอาคารดงั กลา่ วใหก้ บั เทศบาลเมอื งกาฬสนิ ธุ์ ไปดำเนนิ การจะเกดิ ความคลอ่ งตวั ในการดแู ลรกั ษา เกดิ ประโยชนแ์ กป่ ระชาชนในเขตเทศบาลและประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงอย่างสูงสุด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้มอบอาคารจำหน่ายสินค้า โอท้อป ให้เป็นทรพั ยส์ นิ ของเทศบาลเมอื งกาฬสนิ ธุ์ เพอ่ื ทจ่ี ะไดด้ ำเนนิ การตามวัตถุประสงค์ ของทางเทศบาล คือ จัดทำเป็นศูนย์จำหน่ายสินค้าโอท้อป ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถานที่ออกกำลังกายและหอ้ งสมดุ 29 ม.ค. 2553 เวลา 10.00 น. ณ สวนสาธารณะแกง่ ดอนกลาง หรอื สวนเฉลมิ พระเกยี รตทิ รงครองสริ ริ าชสมบตั ิครบ 60 ปี ต้ังอยู่ติดกับเรือนจำจังหวัดกาฬสินธ์ุทางออกไปอำเภอสหัสขันธ์ ได้มีพิธีรับมอบอาคารจำหน่ายสินค้า หนึ่งตำบล หนง่ึ ผลิตภณั ฑ์ (OTOP) โดยนางชะมอ้ ย วรามติ รนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มอบให้กับนายภญิ โญ รตั นศาสตร์ นายกเทศมนตรเี ทศบาลเมอื งกาฬสนิ ธ์ุ 16
อบจ.มอบเงินค่าป่วยการอสม. ตามที่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้โอน สนองนโยบายของรฐั บาล องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 นำโดยนางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดัแผนงานเสรมิ สรา้ งรายไดพ้ ฒั นาคณุ ภาพชวี ติ และความมน่ั คง ได้จัดทำโครงการจ่ายค่าป่วยการแก่ อสม. ในเขตจังหวัดด้านสงั คม ประเภทเงนิ อดุ หนนุ เฉพาะกิจ ค่าใช้จา่ ยสนับสนุน กาฬสินธุ์ ซ่ึงองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้รับการการดำเนินงานของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน จัดสรรงบประมาณในการนี้จำนวน 129,823,200 บาท (อสม.) ตามนโยบายของรัฐบาล ในการปฏิบัติงานเชิงรุก เพ่ือจ่ายให้กับ อสม.จำนวน 18,031 คน ๆ ละ 600 บาทส่งเสรมิ สขุ ภาพในท้องถนิ่ และชมุ ชน การดูแลเดก็ ผูส้ งู อายุ ตอ่ เดอื น ในปงี บประมาณ 2553 เพอื่ ใหก้ ารดำเนนิ การดงั กลา่ วคนพกิ าร การดแู ลผู้ปว่ ยในโรงพยาบาลและการเฝ้าระวังโรค ทนั กบั ระยะเวลา การมอบคา่ ปว่ ยการใหก้ บั อสม.ในครง้ั แรกในชมุ ชน ซง่ึ เปน็ การสรา้ งแรงจงู ใจหนนุ เสรมิ ในการปฏบิ ตั งิ าน นี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะได้รับความร่วมมือจากไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตวั อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ของ อสม. และเพอื่ ให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธ์ุ โรงพยาบาลการดำเนนิ ตามนโยบายของรฐั บาล โครงการสง่ เสรมิ อาสาสมคั ร ประจำอำเภอ สาธารณสขุ อำเภอ ทกุ อำเภอ สถานอี นามยัสาธารณสขุ ประจำหมบู่ า้ น (อสม.) เชงิ รกุ ประจำปี พ.ศ.2553 ทุกตำบล พร้อมด้วยเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข และ อสม.เปน็ ไปดว้ ยความเรยี บรอ้ ย รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ทกุ ทา่ นได้ โปรดเห็นชอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นหน่วยงานดำเนนิ การสนบั สนนุ การดำเนนิ งานของ อสม. เพอื่ เปน็ การ 17
แจกผ้าหม่ ต้านภยั หนาวชาวกาฬสนิ ธ์ุ ดว้ ยไดเ้ กดิ เหตภุ ยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ โดยเกดิ เหตภุ ยั หนาวในพ้นื ท่จี ังหวดั กาฬสนิ ธุ์ท้งั จงั หวัด นายวโิ รจน์ จวิ ะรังสรรค์ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธ์ุ จึง ได้ประกาศให้พ้ืนที่ใน 18อำเภอของจังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติภัยหนาวเมื่อวันท่ี 23 พฤศจิกายน 2552 ซ่ึงจำเป็นต้องรีบป้องกันและแก้ไขเหตกุ ารณเ์ ฉพาะหนา้ หรอื ลดอนั ตรายจากภยั พบิ ตั ทิ ี่จะเกดิ กบั ราษฎรโดยพลนั เพอื่ เปน็ การชว่ ยเหลอื บรรเทาทกุ ข์แกพ่ น่ี อ้ งประชาชนในเขตจงั หวดั กาฬสนิ ธทุ์ ปี่ ระสบกบั สภาวะภัยหนาวให้ทันท่วงที องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์นำโดย นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดักาฬสนิ ธุ์ ไดป้ ระสานขอ้ มลู กบั องค์การบริหารสว่ นตำบลและเทศบาลในเขตจังหวดั กาฬสนิ ธท์ุ ุกแห่ง เพื่อขอรายชอ่ื ราษฎรผขู้ อรบั ผา้ หม่ ทปี่ ระสบภยั หนาว เมอ่ื ไดร้ บั ขอ้ มลู แลว้ องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุจึงได้จัดสรรงบประมาณในการจัดซอ้ื ผา้ ห่มกนั หนาว จำนวน 42,000 ผืน และได้นำทมี งานฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าท่ีขององค์การบริหารส่วนจังหวัด ออกพ้ืนท่ีแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุและผู้ยากไร้ท่ีประสบภัยหนาว ในเขตอำเภอต่างๆ ทั้ง 18อำเภอของจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ โดยกำหนดจดุ แจกจา่ ยเปน็ ตำบลละจุด รวม 171 จดุ 18
นายก อบจ.ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบอัคคีภัย ด้วยเมื่อวันท่ี 21 ก.พ. 2553 เวลา 09.00 น. ได้เกิดเหตุไฟไหม้ บ้านราษฎร หมู่ท่ี 11 บ้านหนองบัวโดน ตำบลสมเด็จ อำเภอสมเด็จ จำนวน 4 หลังคาเรือน ประกอบด้วยบ้านของ นายสงค์ แกมนิรัตน์ อยู่บ้านเลขที่ 89 ทม่ี ผี อู้ ยอู่ าศยั จำนวน 7 คน ไดถ้ กู ไฟไหมเ้ สยี หายทงั้ หลงั หลังที่สองเป็นบ้านของ นางสง่า หัดรัดชัย เลขที่ 88 ซ่ึงมีผู้อาศัย 9 คนเสียหายท้ังหลังหลังที่สามเป็นบ้านของ นางหลุน ชนะโชติ อยู่เลขที่ 90 มีผู้อยู่อาศัย 6 คน เสียหายบางสว่ น หลังท่สี ่เี ป็นบา้ นของ นายไพทรู ย์ ชนะโชติ เลขท่ี 270 ผู้อาศัย 2 คน เสียหายบางส่วน มูลค่า ความเสียหายรวม 892,800 บาท จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ความว่าต้น เพลิงได้เกิดอยู่ท่ีบ้านเลขท่ี 89 ซ่ึงเป็นบ้านของ นายสงค์ แกมนิรัตน์ และไฟได้ไหม้ลุกลามไปยังบ้านที่อยู่ข้างเคียงท้ัง สามหลงั คาเรอื นทำใหบ้ า้ นไดถ้ กู ไฟไหมเ้ สยี หายไปทงั้ หลงั และ เสียหายบางสว่ น เพลิงสงบลงไดเ้ พราะไดร้ ับความช่วยเหลือ จากรถดบั เพลงิ ของทางเทศบาลตำบลสมเดจ็ และ อบต.สมเดจ็ ช่วยกนั สกดั ไฟไม่ให้ลุกลามยังบ้านใกล้เคียงหลังตอ่ ไป หลัง เพลิงสงบเจ้าหน้าท่ีตำรวจวิทยาการได้เข้าตรวจสอบพิสูจน์ หลกั ฐานแลว้ สรปุ ความเห็นว่าสาเหตมุ าจากไฟฟา้ ลัดวงจร นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วน จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ หลงั จากที่ไดร้ บั ทราบเรอ่ื งก็ไดน้ ำเอาขา้ วสาร จำนวน 4 กระสอบ และเงินจำนวนหนึ่งไปมอบให้กับ ผปู้ ระสบอคั คภี ยั ในครงั้ นี้ เพอื่ เปน็ การบรรเทาทกุ ข์ในเบอื้ งตน้ สว่ นทอี่ ยอู่ าศยั ของผปู้ ระสบภยั ทาง อบต.สมเดจ็ ก็ได้ใหค้ วาม ชว่ ยเหลือจดั หาทีอ่ ยู่ช่ัวคราวใหอ้ าศยั อยูไ่ ปกอ่ น 19
นายก อบจ. ช่วยเหลอื ผปู้ ระสบวาตภยั เมอ่ื วนั ที่ 16 พ.ค. 2553 ไดเ้ กดิ ลมพายหุ มนุ อยา่ งรนุ แรง อำเภอฆ้องชัย และอำเภอร่องคำ องค์การบริหารส่วนจังหวัดพั ด ถ ล่ ม บ้ า น เ รื อ น ป ร ะ ช า ช น เ ข ต ต ำ บ ล โ ค ก ส ม บู ร ณ์ กาฬสนิ ธ์ุ ไดน้ ำถงุ ยงั ชพี ออกไปแจกจา่ ยเพอื่ บรรเทาความเดอื ดรอ้ นอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เสียหายจำนวนมาก ของพี่นอ้ งประชาชนในเบ้ืองตน้ จำนวน 2,500 ถุง สรา้ งความโดยเฉพาะที่บ้านหนองอีกุ้ม หมู่ที่7 ถูกลมพายุพัดเสียหาย ต้ืนตันใจให้กับผู้ประสบภัยท่ีได้รับแจกถุงยังชีพ เป็นอย่างมากมากท่ีสุดเกือบจะท้ังหมู่บ้านบ้านลาดสำราญ หมู่ท่ี 8 ที่หน่วยงานส่วนราชการต่าง ๆ ไม่ได้ทอดท้ิงเขาในยามทุกข์ยากบ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 6 และหมู่ท่ี 9 บ้านคำโพนทอง ลำบาก เสยี หาย รวมทงั้ ตำบล โคกสมบรู ณ์ เสยี หาย 286 หลงั คาเรอื น และยังมีฝนตกหนกั ร่วมดว้ ย บ้านเรอื นส่วนใหญ่จะถูกลมพายุพดั เอาหลงั คาออกไปโดยเฉพาะหลงั คาทม่ี งุ ดว้ ยสงั กะสี และมีบางหลงั คาเรอื นทเี่ ปน็ บา้ นสองชนั้ ครง่ึ ปนู ครงึ่ ไมถ้ กู ลมพดั เอาชั้นบนไปทั้งหมด ฝ้าเพดานรวมท้ังทรัพย์สินซึ่งส่วนใหญ่เสื้อผ้าเครื่องนอนเครื่องนุ่งห่มเปียกและเอกสารได้รับความเสยี หาย ทำใหร้ าษฎรจำนวนมากไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นไมม่ ที อี่ ยู่อาศยั และบางสว่ นก็ไปอาศยั บา้ นญาตแิ ละบา้ นใกลเ้ คยี งไปกอ่ นขณะเดียวกัน นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปที่หมู่บ้านดังกล่าวเพ่ือปลอบขวญั ใหก้ ำลงั ใจและมอบเงนิ สว่ นตวั ชว่ ยเหลอื ในเบอ้ื งตน้แก่ผู้ประสบวาตภัยตามหมู่บ้านต่าง ๆ ดังน้ี บ้านหนองอีกุ้มหมู่ที่ 7 มอบเงินจำนวน 60,000 บาท บ้านลาดสำราญหมูท่ ่ี 8 มอบให้ 13,00 บาท บ้านหนองไผ่ หมทู่ ี่ 6, 9 มอบให้20,000 บาท บา้ นคำโพนทอง หมู่ที่ 5 มอบให้ 5,000 บาท เพ่ือนำไปใช้ในการจัดซื้อ สังกะสี ตะปู กระเบื้องมุงหลังคาและไม้เคร่ืองเรือน ในการซ่อมแซมบ้านเรือนเพื่อให้เข้าอยู่อาศัยได้ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบอุทกภยั ในเขตจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ไดเ้ กดิ อบุ ตั ภิ ยั กบั พนี่ อ้ งประชาชนจำนวนหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งก็สร้างความเสียหายให้กับชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก ประชาชนได้รับความเดือดร้อนขาดซง่ึ ปจั จยั สใี่ นการดำรงชวี ติ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุถือเป็นหน้าท่ีท่ีจะต้องเข้าช่วยเหลือพ่ีน้องประชาชนผู้ได้รับความเดอื ดรอ้ นอยา่ งเรง่ ดว่ น เชน่ ภยั ทเี่ กดิ จากนำ้ ทว่ ม ซงึ่ สว่ นมากจะเกดิ ในเขตพนื้ ทท่ี อ่ี ยตู่ ดิ กบั ลำนำ้ ชี ลำนำ้ ปาว ในเขตอำเภอกมลาไสย20
นายก อบจ.มอบแวน่ ตาโดยไม่ใชง้ บฯ ทางราชการ ทางราชการแตอ่ ยา่ งใด นางชะม้อย วรามติ ร นายก อบจ. กาฬสนิ ธุ์ ขอขอบพระคณุ สว่ นราชการตา่ ง ๆ ท่ีไดอ้ ำนวยความ สะดวกและใหค้ วามรว่ มมอื ในการมอบแวน่ สายตาเปน็ ไปดว้ ย ความราบรื่น โดยเฉพาะสาธารณาสุขแต่ละอำเภอได้จัดส่ง เจ้าหน้าท่ีมา เตรียมสถานที่ พร้อมท้ังจัดระบบการแจกแว่น ให้ตรงกบั ผูร้ บั อยา่ งถกู ต้องและครบถ้วน ตามทจี่ งั หวดั กาฬสนิ ธุ์ มโี ครงการแจกแวน่ สายตาแกผ่ สู้ งู อายแุ ละผมู้ ปี ญั หาดา้ นสายตาในเขตจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ โดยสั่งการให้ทางสาธารณสุขจังหวดั กาฬสินธ์ุเป็นผู้ดำเนินการสำรวจจดั หาขอ้ มลู จากการตรวจวดั สายตาของเจา้ หนา้ ท่ีสถานีอนามัยทุกแห่งในจังหวัดปรากฏว่า มีประชาชนที่มีอายุต้ังแต่สี่สิบห้าปีข้ึนไปมีความผิดปกติทางสายตาสว่ นมากจะเปน็ สายตายาว รวมทง้ั สนิ้ 42,000 ราย ซง่ึ จำนวนดังกล่าวมีมากเกินกว่างบประมาณที่จังหวัดจะช่วยเหลือไดท้ ง้ั หมด ดังน้ันผูว้ า่ ราชการจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุจงึ ได้ขอให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธ์ุ จัดหางบประมาณมาช่วยเหลือ จำนวน 7,017 ราย และส่วนท่ีเหลือก็ได้ขอความรว่ มมอื มายงั นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ช่วยจัดหาให้อีก จำนวน22,247 ราย ซ่ึงการจัดซ้ือจัดหาแว่นสายตาพร้อมกล่องใสแ่ วน่ ตาจำนวนดงั กลา่ ว นางชะมอ้ ย วรามติ ร ใชท้ รพั ยส์ นิส่วนตัวท้ังหมดในการจัดซ้ือ โดยไม่ได้ใช้งบประมาณของ 21
3.ยุทธศาสตรก์ ารพฒั นาองคก์ รและการศึกษาระดบั จังหวดักิจกรรม 5 ส. โรงเรยี น ในสงั กัด อบจ.กาฬสินธุ์ เม่ือปี 2552 ที่ผ่านมา มีอบรมวชิ าการเกย่ี วกบั กิจกรรม 5 ส. จากวทิ ยากรมอื อาชีพ อ ง ค์ ก า ร บ ริ ห า ร ส่ ว น จั ง ห วั ด ชุดเดียวกันกับฝึกอบรมให้กับข้าราชการองค์การบริหารส่วน กาฬสินธุ์ได้จัดทำกิจกรรมการ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ทำกจิ กรรม 5 ส. สำเรจ็ มาแลว้ แตล่ ะโรงเรยี น ปฏบิ ตั ิตามกิจกรรม 5 ส. ท่วั ทั้ง เป็นการทำกิจกรรมวันพัฒนาองค์การแบบมีส่วนร่วม องค์กรจนได้รับป้ายทองระดับ BigCleaning Day เป็นการเปิดตัวของแต่ละโรงเรียนที่ ห้าดาว จากสถานบันพัฒนา ผา่ นการฝกึ อบรมและไดป้ ระกาศใหส้ าธารณชนไดท้ ราบวา่ ตง้ั แต่คุณภาพข้ันพื้นฐาน สร้างความภาคภูมิใจให้กับบุคลากรของ น้ีต่อไป โรงเรียนของตนเองจะปฏิบัติตามกิจกรรม 5 ส.หนว่ ยงานและสรา้ งความประทบั ใจใหก้ บั ประชาชนผมู้ าตดิ ตอ่ ใช้ ให้ประสบผลสำเร็จ มีทีมวิทยากรและคณะกรรมการติดตามบรกิ ารทอ่ี งคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ในการรบั บรกิ าร ประเมินผลลงพื้นท่ี เพ่ือประเมินผลของการปฏิบัติว่าเป็นไปไดร้ บั ความสะดวก สถานทส่ี ะอาดนา่ อยนู่ า่ ใชบ้ รกิ ารบรรยากาศ ตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกำหนดไว้หรอื ไม่ ถา้ ผ่านก็จะไดร้ บั การยิ้มแย้มแจ่มใสดุจญาติมิตร ส่วนในปีงบประมาณ 2553 ประกาศเปน็ โรงเรยี นทป่ี ฏบิ ตั ติ ามกจิ กรรม 5 ส. ไดส้ ำเรจ็ ตอ่ ไปผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ มีนโยบายท่ีจะพัฒนาโรงเรียนที่อยู่ในสังกัด อบจ. ท้ัง 12 โรงเรียนให้ได้มีการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ท้ัง ครูและนักเรียนและเจ้าหน้าท่ีของโรงเรียน ให้มีคุณภาพมากขึ้นในด้านการปฏิบัติตามกิจกรรม 5 ส. คือการสะสาง สะดวก สะอาดสขุ ลกั ษณะและสรา้ งนสิ ยั ใหเ้ กดิ เปน็ รปู ธรรมในโรงเรยี น ดง้ั นนั้อบจ.กาฬสนิ ธจ์ุ งึ ไดจ้ ดั ทำโครงการอบรมเทคนคิ การจดั ทำกจิ กรรม5 ส. ในโรงเรียนข้นึ การฝึกอบรมโครงการน้ี มีบุคลากรที่เข้ารับการฝึกอบรมในครั้งน้ีรวมจำนวน 3,867 คน การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างพลังในการพัฒนางาน 5 ส.ผสมผสานเทคนิคกิจกรรม 5 ส. สู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน 22
บันทกึข้อตกลงคา่ รักษาพยาบาล สวสั ดิการรกั ษาพยาบาลของข้าราชการ และลูกจ้าง จากการแลกเปลยี่ นสภาพปญั หากบั อบจ. อนื่ ๆ ทำให้และครอบครัวขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ทราบวา่ อบจ.ไดป้ ระสานกบั สาธารณสขุ จงั หวดั ทำความรว่ มมอืเดมิ เมอื่ ไปรบั การรกั ษาทโี่ รงพยาบาลหรอื สถานพยาบาลตา่ ง ๆ ในการใหบ้ รกิ ารแกผ่ ปู้ ว่ ยทเ่ี ปน็ บคุ ลากรของ อบจ. ซง่ึ สามารถกจ็ ะนำเอาใบเสรจ็ รบั เงนิ มาขอเบกิ เงนิ คนื จากกองคลงั องคก์ าร ที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องดังกล่าวได้ อบจ.กาฬสินธุ์ จึงได้บรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ซง่ึ ไมเ่ ปน็ ปญั หามากนกั ตอ่ มาเมอ่ื นำมาเป็นต้นแบบในการดำเนินจัดทำบันทึกข้อตกลงความปี 2549 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดร้ บั การถา่ ยโอน รว่ มมอื การจา่ ยตรงคา่ รกั ษาพยาบาลกบั สำนกั งานสาธารณสขุโรงเรียนจากสำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาจังหวัดกาฬสินธ์ุ จงั หวัดกาฬสินธ์ุเข้ามาอยู่ในสังกัด ข้าราชการครู ลูกจ้างประจำมาพร้อม อบจ.กาฬสินธุ์ ได้จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการถา่ ยโอน ซง่ึ บคุ ลากรดงั กลา่ วเคยใชส้ ทิ ธกิ ารรกั ษาพยาบาล การจา่ ยตรงคา่ รกั ษาพยาบาล กบั สำนกั งานสาธารณสขุ จงั หวดัโดยจ่ายตรงกับกรมบัญชีกลาง ซึ่งมีความสะดวกสบาย กาฬสนิ ธ์ุ โดยนางชะมอ้ ย วรามิตร นายกองค์การบริหารเม่ือมาสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีต้องใช้กฎหมาย สว่ นจังหวดั กาฬสนิ ธ์ุและนายพิสิทธิ์ เอื้อวงศก์ ุล นายแพทย์ระเบยี บปฏบิ ตั ใิ หม่ ทำใหก้ ารใชส้ ทิ ธไิ มต่ อ่ เนอ่ื งและเกดิ ปญั หา สาธารณสุขจังหวดั กาฬสนิ ธ์ุ โดยมี นายวิโรจน ์ จิวะรงั สรรค์ตดิ ขัดมาโดยตลอด อบจ.กาฬสินธุแ์ กป้ ัญหาในเบ้ืองต้นโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธ์ุ ร่วมเป็นพยายานในการจัดทำสำรองเงนิ ยมื ใหก้ อ่ น แตย่ งั ไมส่ ะดวกเพราะผปู้ ว่ ยบางรายตอ้ ง ขอ้ บันทึกดังกลา่ วใชเ้ งินรักษาตอ่ เนื่องจำนวนมาก 23
โครงการกอ่ สรา้ งอาคารเรยี น ปีงบประมาณ 2553 องค์การบริหารส่วนจังหวัด กาฬสินธุ์ ได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริม การปกครองทอ้ งถนิ่ จำนวน 18,589,000 บาท เพ่อื ก่อสร้าง อาคารเรียน 4 ชน้ั ขนาด 12 หอ้ งเรยี น ในโรงเรียนสงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธค์ุ อื ทโี่ รงเรยี นหนองชมุ แสง วิทยาคม อำเภอหนองกุงศรีและโรงเรียนเนินยางประชา สามัคคี อำเภอคำมว่ ง อยู่ในช่วงกำลงั ก่อสรา้ งโครงการ ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ ปีงบประมาณ 2553 องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมการปกครองทอ้ งถน่ิ จำนวน 6,500,000 บาท เพอื่ กอ่ สรา้ งอาคารอเนกประสงค์ (หอประชุม) ในโรงเรยี นสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่โรงเรียนเมืองสมเด็จ อำเภอสมเด็จซงึ่ ไดด้ ำเนนิ การเสรจ็ สน้ิ และมพี ธิ เี ปดิ อาคารอยา่ งเปน็ ทางการจาก นางชะม้อย วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธ์ุไปแล้วเม่ือเดอื นพฤษภาคม 2553 ทผ่ี า่ นมา 24
โครงการ กอ่ สร้างถนน และลานอเนกประสงค์ คอนกรีตเสรมิ เหล็กในโรงเรยี น ❖ โรงเรยี น ทรายมลู พทิ ยาคม อ.หว้ ยเมก็ ถนน คสล. เชอื่ มหนา้ อาคาร และลานกฬี า คสล.อเนกประสงค์ พน้ื ทรี่ วม3,906 ตารางเมตร ❖ โรงเรยี นเมืองสมเดจ็ อ.สมเด็จ ลาน คสล.หน้าเสาธง พน้ื ทรี่ วม 920 ตารางเมตร ❖ โรงเรยี นดงมลู วทิ ยาคม อ.หนองกงุ ศรี ถนน คสล.ทางเขา้ โรงเรยี น กวา้ ง 10 เมตร ยาว 20 เมตร พน้ื ทร่ี วม 200ตารางเมตร ❖ โรงเรียนจุมจังพลังราษฎร์ อ.กุฉินารายณ์ ถนน คสล. กว้าง 4 เมตร ยาว 96 เมตร พื้นที่รวม 384ตารางเมตร ❖ โรงเรียนคลองขามวิทยาคาร อ.ยางตลาด ถนน คสล.กว้าง 6 เมตร ยาว 198 เมตร พื้นที่รวม 1,188ตารางเมตรโครงการ ก่อสรา้ งปรับปรงุ หอ้ งน้ำห้องส้วมโรงเรยี น ❖ โรงเรียนบวั ขาว อ.กุฉินารายณ์ งบ 344,200 บาท ❖ โรงเรียนนาเชือกวทิ ยาคม อ.ยางตลาด งบ 531,000 บาท ❖ โรงเรียนเนนิ ยางประชาสามคั คี อ.คำมว่ ง งบ 355,000 บาท ❖ โรงเรียนขมิ้นพิทยาสรรพ์ อ.เมอื งฯ งบ 524,000 บาท 25
โครงการปรบั ปรงุ อาคารเรียนและอาคารอนื่ ๆ เนื่องจากโรงเรียนท่ีสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ มีการก่อสร้างอาคารเรียนมานานหลายปี ทำให้อาคารบางหลังเกิดการชำรุดเสียหายในบางส่วน ซึ่งสามารถที่จะดำเนินการปรับปรุงอาคารให้มีความสะดวกปลอดภัยกับนักเรียน และให้มีสภาพของห้องเรียนที่เอ้ืออำนวยต่อการเรียนในกลมุ่ วิชาตา่ ง ๆ องค์การบรหิ ารส่วนจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดจ้ ัดสรรงบประมาณในการปรับปรุงอาคารตา่ ง ๆ ดงั นี้ ❖ โรงเรยี นบัวขาว อ.กฉุ ินารายณ์ งบ 250,000 บาท ❖ โรงเรยี นหนองชมุ แสงวทิ ยาคม อ.หว้ ยเมก็ งบ 87,000 บาท ❖ โรงเรียนทรายมลู พิทยาคม งบ 304,700 บาท ❖ โรงเรยี นเนนิ ยางประชาสามคั คี อ.คำมว่ ง งบ 100,000 บาท ❖ โรงเรียนลำปาววทิ ยาคม อ.ยางตลาด งบ 37,000 บาท ❖ โรงเรยี นดงมลู วทิ ยาคม อ.หนองกงุ ศรี งบ 330,000 บาท ❖ โรงเรยี นจมุ จงั พลงั ราษฎร์ อ.กฉุ นิ ารายณ์ งบ 200,000 บาท ❖ โรงเรยี นหนองหา้ งพทิ ยา อ.กฉุ นิ ารายณ์ งบ 763,000 บาท ❖ โรงเรยี นขมน้ิ พิทยาสรรพ์ อ.เมืองฯ งบ 531,000 บาท 26
โครงการปรบั ปรงุ ห้องปฏิบัตกิ าร ระบบการเรยี นการสอนของโรงเรยี นในสงั กดั องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ในปัจจุบันนับได้ว่ามีการพัฒนาจากเดิมเป็นอันมาก ซึ่งแต่ก่อนบางโรงเรียน ยังไม่มีห้องปฏิบัติการต่าง ๆ สำหรับการเรียนการสอน ผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ มีนโยบายในการพฒั นาการศกึ ษาเพอื่ ใหเ้ ปน็ โรงเรยี นตน้ แบบของทอ้ งถน่ิ ตลอดทั้งการส่งเสริมให้ได้รับการศึกษาและพัฒนาความรู้ ความสามารถสรู่ ะดับสากล จึงได้อนุมตั ิงบประมาณในการปรบั ปรงุห้องปฏิบตั ิการตา่ ง ๆ ดังน้ี ห้องโสตทศั นศกึ ษา ห้องปฏบิ ัตกิ ารคอมพวิ เตอร์ หอ้ งปฏิบัติการทางภาษา หอ้ งพยาบาล ห้องสมดุ ห้องจริยธรรม ห้องสหกรณ์ ห้องวิทยาศาสตร์ใน โรงเรยี นนาเชอื กวทิ ยาคม อ.ยางตลาด และโรงเรยี น เนินยางประชาสามคั คี อ.คำม่วง จังหวดั กาฬสนิ ธุ์ 27
มหกรรมการศกึ ษา โรงเรียน อบจ. นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วน จังหวัดกาฬสินธ์ุ เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรม การศึกษาท้องถ่ินของโรงเรียนในสังกัดขององค์การบริหาร ส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ทั้ง 12 โรงเรียน วัตถุประสงค์ของ โครงการมหกรรมการศกึ ษาทส่ี ำคญั คอื เพอ่ื คดั เลอื กนกั เรยี น และครโู รงเรยี นในสงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ เขา้ รว่ มแขง่ ขนั ทกั ษะวชิ าการในงานมหกรรมการศกึ ษาทอ้ งถนิ่ ระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือประจำปี 2553 ครั้งท่ี 18 ทจ่ี งั หวดั ศรสี ะเกษ จากนนั้ ผทู้ ช่ี นะผา่ นการคดั เลอื กระดบั ภาค เข้าแขง่ ขันในระดบั ประเทศท่ีเมืองทองธานี สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการในคร้ังนี้ประกอบด้วย นักเรยี นจำนวน 1,554 คน ครู 364 คน คณะกรรมการ 319 คน รวมทง้ั สนิ้ 2,237 คน มกี จิ กรรมการแขง่ ขนั ทกั ษะ ทางวชิ าการใน 8 กลมุ่ สาระการเรยี นร ู้ ประกอบดว้ ยกจิ กรรม จำนวน 104 กจิ กรรม และรายการแขง่ ขนั จำนวน 182 รายการ เช่นการแข่งขันกลุ่มสาระภาษาต่างประเทศ แข่งขันเดี่ยว ดนตรี โฟลค์ ซอง แขง่ ขัน B-boy Cover dance แข่งขนั พลศกึ ษา กลมุ่ สาระงานอาชพี โครงการงานวทิ ย์ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ สังคม สขุ ภาพ สรภณั ญะ คอมพิวเตอร์ ศลิ ป์ แขง่ ขนั รอ้ งเพลงลกู ทงุ่ ประกอบหางเครอ่ื ง เพลงพระราชนพิ นธ์ และการแข่งขันการขับร้องเพลงไทยสากล เปน็ ตน้ ผลจาก การผ่านเข้าแข่งขันในระดับประเทศปรากฏว่าโรงเรียนใน สงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดร้ บั รางวลั โครงงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ระดับ ม.ตน้ และระดบั ม.ปลาย ชนะเลศิ การวาดภาพระบายสี ระดบั ม.ตน้ รองชนะเลศิ อนั ดบั 1 และวาดภาพระบายสี ระดับ ม.ปลาย การแข่งขันระดับประเทศ ชนะเลิศ, โครงงานกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ระดับ ม.ปลาย คือโรงเรียนบัวขาว เป็นการสร้างช่ือเสียงให้กับจังหวัด กาฬสินธุ์ เปน็ อย่างมาก28
อบรม Onet Anet ม.6 นกั เรยี น อบจ. การจดั การศกึ ษาเปน็ ภารกจิ หนง่ึ ขององคก์ รปกครอง ประชาชนทวั่ ไป โดยได้จัดจา้ งทมี วิทยากรระดับมอื อาชีพจากสว่ นทอ้ งถนิ่ ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขน้ั ตอนการกระจาย สถาบัน ติวเตอร์ที่ติดอันดับในกรุงเทพฯ มาอบรมให้ความรู้อำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 และ แยกเป็นรายวิชาหลัก ๆ คือ วิชาวิทยาศาสตร์ (เคมี/พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซ่ึง อบจ.กาฬสินธุ์ ชวี วทิ ยา/ฟสิ กิ ส/์ ดาราศาสตร)์ วชิ าภาษาองั กฤษ วชิ าภาษาไทยได้รับการถา่ ยโอนภารกิจด้านการศึกษามาตั้งแต่ ปี 2550 มี วชิ าสงั คมศกึ ษา และวชิ าคณติ ศาสตร์ โดยอาจารยผ์ เู้ ชย่ี วชาญโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสังกัด จำนวน 12 แห่ง เพื่อ ในแต่ละสาขาวิชาโดยเฉพาะเป็นการยกระดับการศึกษาและเป็นการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู ้ อบจ.กาฬสนิ ธ์ุ จงึ ไดจ้ ัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุข้ึนมผี เู้ ขา้ รว่ มโครงการ ประกอบดว้ ย นกั เรยี นชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6จากโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์จำนวน 400 คน ครู 24 คน โดย มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เปน็ การทบทวนความรู้รวบยอดของนักเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ให้เป็นระบบและสอดคล้องกับมาตรฐานการจดั การศกึ ษา โดยสอดแทรกหลกั การดำเนนิ ชวี ติทั้งเร่ืองปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ด้านคุณธรรม จริยธรรมต่างๆ ทั้ง 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ เพ่ือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ความรู้กับนักเรียนในสังกัดมีความพร้อมท้ังทักษะทางด้านความคิด จิตใจ และสติปัญญาในการท่ีจะกา้ วเขา้ ศกึ ษาในระดบั อดุ มศกึ ษา พรอ้ มทงั้ เปน็ การสรา้ งความเช่ือมั่นในการจัดการศึกษาให้กับนักเรียนผู้ปกครองและ 29
อบรม ภาษาจนี กลางครู อบจ. ในปจั จบุ นั ประเทศจนี เปน็ ประเทศทม่ี บี ทบาทในภมู ภิ าค เอเชียอาคเนย์และภูมิภาคอื่น ๆของโลก มีการขยายตัวทาง เศรษฐกิจสูงท่ีสุดในโลก และองค์การสหประชาชาติได้จัดให้ ภาษาจนี กลางเปน็ หนงึ่ ใน 5 ภาษาหลกั ทใ่ี ช้ในการตดิ ตอ่ สอื่ สาร ขององคก์ ารสหประชาชาต ิ ภาษาจนี จงึ เปน็ ภาษาในอนั ดบั ตน้ ๆ ที่ได้รับความสนใจจากผู้เรียนภาษาในหลายประเทศทั่วโลก และภาษาจนี กลางยงั ไดเ้ ขา้ มามบี ทบาทตอ่ ตลาดแรงงานของ ไทยในทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเร่ืองของธุรกิจ อุตสาหกรรม การทอ่ งเทย่ี ว การตดิ ตอ่ ทำธรุ กจิ คา้ ขาย ทำใหม้ คี วามตอ้ งการ บุคลากรที่มีความรู้ในการใช้ภาษาจีนกลางเพ่ิมมากขึ้น และ สถานการณ์โดยรวมของการเรียนการสอนภาษจีนกลางใน ประเทศไทย ยงั ไมส่ ามารถประสบความสำเรจ็ เทา่ ใดนกั เพราะ ยงั ขาดครผู สู้ อนทม่ี คี วามเชย่ี วชาญ ขาดหลกั สตู รและนโยบาย ในการจัดการเรยี นการสอนภาษาจีนกลางทช่ี ดั เจน ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้ ตระหนักและเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้จัดทำ โครงการสง่ เสรมิ ทกั ษะพฒั นาภาษาจนี กลางขนึ้ เปน็ โครงการ ท่ีองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ร่วมกับสถาบันขงจื้อ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ได้จัดทำขึ้นในชื่อว่า โครงการ ส่งเสริมทักษะพัฒนาภาษาจีนกลางให้กับครูของโรงเรียนใน สังกัด อบจ.กาฬสินธ์ุ ผู้เข้าร่วมอบรมจากครูอาสาสมัครของ โรงเรยี นบวั ขาว โรงเรยี นเมอื งสมเดจ็ โรงเรยี นลำปาววทิ ยาคม จำนวน 30 คน เพื่อให้ครมู ีพื้นฐานและมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ ในภาษาจนี กลางเบอ้ื งตน้ สามารถนำไปถา่ ยทอดใหก้ บั นกั เรยี น และบุคลที่สนใจได้ นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ สร้างความ สมั พนั ธ์อันดรี ะหวา่ งไทยและจนี30
โครงการสอนภาษาองั กฤษโรงเรยี นในสงั กัด อบจ. องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้พัฒนาการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ท้ัง 12 โรงเรียน โดยการจัดจ้างครูผู้สอนภาษาอังกฤษ จากต่างชาติ มาทำการสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียน เพ่ือพัฒนาการศึกษาส่งเสริมให้การเรียนการสอนเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อให้นักเรียนในสังกัดได้พัฒนาองค์ความรู้ด้านภาษาอังกฤษ และเป็นการส่งเสริมพัฒนาเด็กเยาวชนที่มีฐานะยากจนได้มีโอกาสศึกษาไดเ้ สรมิ องคค์ วามรู้เพิ่มมากข้นึคา่ ยครอู าสาตา้ นยาเสพติด องค์การบริหารส่วนจังหวัด ผนู้ ำทางสงั คม เปน็ ตวั กระตนุ้ ใหค้ วามดคี วามงามเกดิ ขน้ึ ในตวั เดก็ กาฬสนิ ธุ์ ไดม้ องเหน็ ปญั หายาเสพตดิ และเยาวชนเพ่ือเป็นเกราะป้องกันภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะภัย ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและใน จากยาเสพติด ด้วยเหตุน้ี องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ พื้นที่ประเทศไทย ท่ีมีการลักลอบ ได้จัดทำโครงการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ค่ายครูอาสา นำเข้าจากต่างประเทศและประเทศ โรงเรียนในสังกัด อบจ. กาฬสนิ ธุ์ โดยมีวตั ถปุ ระสงคเ์ พื่อทบทวน เพอื่ นบา้ นเขตชายแดนในหลาย ๆ จดุ บทบาทของครูเกี่ยวกับการเปล่ียนแปลงของสังคมในปัจจุบัน ทำให้ยาเสพติดได้ระบาดเข้าไป เปน็ การแลกเปลยี่ นประสบการณข์ องครใู นดา้ นความกา้ วหนา้ ทางยงั สถานศกึ ษา ทำใหน้ กั เรยี นเยาวชน ตดิ ยาเสพตดิ และมกี ารเสพ เทคโนโลยกี ารสอน การจดั กิจกรรมชว่ ยเหลือเด็กอยา่ งเปน็ ระบบกันเป็นจำนวนมาก ดังน้ันการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ใหค้ วามรู้ในดา้ นการใหค้ ำปรกึ ษาแก่เด็กนักเรียน การดำเนนิ การในสถานศกึ ษาตอ้ งทำแบบครบวงจร ทง้ั การแก้ไขทตี่ วั เดก็ นกั เรยี น ด้านข้อมูลของเด็กนักเรียนเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอย่างโดยการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม กระตุ้นให้เด็กเกิด ครบวงจร มีครูแกนนำที่คัดเลือกจากโรงเรียนในสังกัดองค์การค่านิยมในการรักสถาบันหลักของชาติ เห็นคุณค่าในตัวเอง บรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ 12 โรงเรยี น โรงเรยี นละ 2 คนรวมปฏเิ สธการใชย้ าเสพตดิ อกี ทงั้ การแกไ้ ขปญั หาปจั จยั แวดลอ้ มตา่ ง ๆ 24 คน เข้าร่วม โดยนางชะม้อย วรามิตร นายก อบจ.กาฬสินธ์ุทเ่ี ออื้ ตอ่ การทเ่ี ดก็ จะไปเสพยาดว้ ย แตก่ ารทจ่ี ะสรา้ งความยง่ั ยนื เป็นประธานในพิธเี ปดิ โครงการในครั้งน ้ี ตอ่ ไป จะตอ้ งพฒั นาระบบโรงเรยี นใหเ้ ออื้ ตอ่ การปอ้ งกนั ยาเสพตดิโดยให้สถานศึกษาแต่ละแห่ง มีการมอบหมายครูจำนวนหน่ึง 31ท่ีมีความต้ังใจ เต็มใจท่ีจะปฏิบัติงาน ทำหน้าท่ีดูแลให้กำลังใจนักเรียนท่ีกำลังปรับปรุงตนเอง ซ่ึงบทบาทและฐานะของครูในปจั จบุ นั จะตอ้ งเปน็ ผพู้ ฒั นาคณุ ภาพของคนในสงั คม ไมว่ า่ สงั คมจะมีปัญหาอย่างไรก็ตาม ครูจึงเป็นผู้สร้างบุคคลอาชีพต่างๆให้สังคม ครูไม่ได้เป็นผู้นำทางวิชาการเท่านั้นแต่จะต้องเป็น
โครงการอบรมเชิงปฏบิ ตั กิ ารเพอื่ พัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ ไดจ้ ดั ทำโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพ่ือเสริมสร้างสัมพันธภาพในการทำงานสกู่ ารทำงานเปน็ ทมี ของผบู้ รหิ าร ครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา กบั ผบู้ รหิ ารและเจา้ หนา้ ที่ในองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุขนึ้ เพอ่ื ใหบ้ คุ ลากรมที กั ษะ มคี วามรู้ มคี วามตน้ื ตวั และมคี วามพร้อมในการให้บริการอยู่เสมอ รวมท้ังเกิดความทุ่มเทและเอาใจใส่ในการทำงาน มที ศั นะคตทิ ดี่ ตี อ่ หนว่ ยงานและผบู้ งั คบับญั ชา เพอ่ื ยกระดบั คณุ ภาพของบคุ ลากรและองคก์ ร ใหเ้ กดิประสิทธิผลในการบรกิ ารด้านการศกึ ษา การจัดอบรมท้ัง 2 รุ่นได้รับเกียรติจาก น.ส.ภัทราวรามติ ร รองนายกฯ อบจ. เปน็ ประธาน ในพธิ เี ปดิ การอบรมครง้ั นมี้ ผี ้เู ข้าร่วมทัง้ สน้ิ 424 คน จาก 12 โรงเรียนในสงั กัดและเจา้ หนา้ ทอี่ งคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ พรอ้ มดว้ ยวิทยากร อาจารย์ชัชวัสส์ รัตนศิลปากร และทีมงานกจิ กรรมในภาคเชา้ มดี ว้ ยกนั 3 กจิ กรรม คอื “กลมุ่ สมั พนั ธ”์ ,“บอกรัก...ทักทาย”, “พลังใจ...พลังทีม” แต่ละกิจกรรมสรา้ งความสนกุ สนานใหก้ บั ผเู้ ขา้ รว่ มอบรมไดอ้ ยา่ งด ี ตอ่ ดว้ ยกจิ กรรม work shop 1 ดว้ ยเทคนคิ การเรยี นปนเลน่ เนน้ การมีสว่ นรว่ ม และ “ครมู อื อาชพี ” หรอื “อาชพี คร”ู หลงั จากนนั้วิทยากรสรปุ เสนอแนะเพ่ิมเติม 32
ทุน อบจ.เรยี น ป.ตรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดต้ัง ซ่ึงได้เปิดรับสมัครในระหว่างวันท่ี 16-31 มีนาคม 2553 งบประมาณรายจา่ ยทวั่ ไป ประจำปี 2553 เพอื่ มอบทนุ การศกึ ษา ปรากฏว่ามีผู้สนใจสมัครรับทุนฯ ครั้งน้ี จำนวน 65 คนตลอดหลกั สตู ร ในระดบั ปรญิ ญาตรี ใหแ้ ก่ นกั เรยี น นกั ศกึ ษา ผลการการคัดเลือกของคณะกรรมการฯ มีนักเรียนนักศึกษาและผดู้ อ้ ยโอกาสซงึ่ เป็นนกั เรยี นในสงั กดั องค์การบรหิ ารสว่ น และผู้ด้อยโอกาสของโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสนิ ธุ์ จาก 12 โรงเรียน คือ โรงเรียนเมืองสมเด็จ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไดร้ บั ทนุ จำนวน 30 คน ซง่ึ นางชะมอ้ ย วรามติ รโรงเรยี นบวั ขาว โรงเรยี นจมุ จงั พลงั ราษฎร ์ โรงเรยี นคลองขาม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ทำพิธีมอบให้วทิ ยาคาร โรงเรยี นนาเชอื กวทิ ยาคม โรงเรยี นลำปาววทิ ยาคม เมอื่ วนั ท่ี 21 พ.ค. 2553 ทผี่ า่ นมา สำหรบั ผทู้ ่ีไดร้ บั ทนุ การศกึ ษาโรงเรียนเนนิ ยางประชาสามคั ค ี โรงเรียนทรายมลู พทิ ยาคม จำนวน 30 คน ดังกล่าวจะต้องทำสัญญากับองค์การบริหารโรงเรยี นดงมูลวิทยาคม โรงเรียนขมิ้นพิทยาสรรพ์ โรงเรียน ส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ตามแบบที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองห้างพิทยา และโรงเรียนหนองชุมแสงวิทยาคม กาฬสินธุ์กำหนด โดยไม่มีเง่ือนไขว่าจะหางานทำรับรองให้ที่ “ขาดแคลนทุนทรัพย์ เรียนดี ประพฤติดี และมีความ และผรู้ บั ทนุ ฯ หลงั จากสำเรจ็ การศกึ ษา หรอื ระหวา่ งการศกึ ษาสามารถ” (รนุ่ ท่ี 3) จำนวน 30 ทนุ ท่ีไดส้ อบผา่ นการคดั เลอื ก ตามแตท่ ่ีไดต้ กลงกนั จะตอ้ งอทุ ศิ เวลาในกจิ กรรมการเรยี นการเข้าเรียนภาคปกติในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ของรัฐบาล สอนใหก้ บั โรงเรยี นในสงั กดั หรอื โรงเรยี นอนื่ ในเขตพน้ื ทจ่ี งั หวดัโดยให้ทุนการศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการศึกษา กาฬสนิ ธุ์ ตามชวั่ โมงการสอนทก่ี ำหนด หรอื ตามความเหมาะสมและเบกิ จา่ ยไดเ้ ฉพาะคา่ เลา่ เรยี น หรอื คา่ ธรรมเนยี มการศกึ ษา ท่ีจะไม่กระทบกระเทือนการเรียนการสอนของผู้รับทุนเพื่อเป็นคา่ บำรงุ หรอื คา่ หนว่ ยกติ ตามอตั ราทสี่ ถาบนั การศกึ ษานนั้ กำหนด ประโยชน์ในการพฒั นาท้องถ่นิ จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ 33
ทุนพยาบาล ตามท่ี บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราช จากการสอบคดั เลอื กฯ ไดน้ กั เรยี นทผี่ า่ นเกณฑเ์ พอ่ื รบั ทนุ ของอาณาจักรไทย มาตรา 290 ได้บัญญัติไว้ว่าองค์กรปกครอง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ เข้าศึกษาต่อหลักสูตรส่วนท้องถิ่น มีอำนาจหน้าที่เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการ พยาบาลศาสตร์ รนุ่ ที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2549-2552 จำนวน 10 คนและกิจกรรมท่ีมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ในปัจจุบนั ผ้รู บั ทนุ ทัง้ 10 คนดงั กลา่ วได้สำเรจ็ การศึกษาตามประกอบกบั ในปจั จบุ นั สถานบี รกิ ารสาธารณสขุ ในทกุ ระดบั ได้ หลกั สตู รพยาบาลศาสตร์ของมหาวทิ ยาลยั มหาสารคามเป็นที่รบั งบประมาณจากภาครฐั ในจำนวนจำกดั ในแตล่ ะปไี มเ่ พยี งพอ เรียบร้อยแล้ว ซ่ึงตามวัตถุประสงค์ของโครงการได้ระบุไว้ว่าตอ่ การใหบ้ รกิ ารสาธารณสขุ แกป่ ระชาชน พรอ้ มทงั้ ยงั ขาดแคลน เพื่อแก้ไขปัญหาบุคลากรสาธารณสุขที่ขาดแคลนในจังหวัดบคุ ลากรทางดา้ นสาธารณสขุ อยจู่ ำนวนมาก เพอื่ เปน็ การแกไ้ ข กาฬสนิ ธ์ุ เพอ่ื ใหผ้ ไู้ ดร้ บั ทนุ ฯ กลบั มาทำงานบรกิ ารดา้ นสาธารณสขุปัญหาระบบการให้บริการด้านสุขภาพ โดยให้มีบุคลากรทาง แก่พีน่ อ้ งประชาชนในทอ้ งถน่ิ ของตนเอง ดงั น้ัน องคก์ ารการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ อยา่ งเพยี งพอ องคก์ ารบรหิ ารสว่ น บริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ จงึ ไดจ้ ดั ทำโครงการสง่ เสรมิ การผลติ บคุ ลากร จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้จัดเตรียมแผนรองรับบุคลากรดังกล่าวทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข ข้ึน ซึ่งเริ่มตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2549 เข้าปฏิบัติงานในสถานพยาบาลและสถานีอนามัยในเขตเปน็ ตน้ มา โดยการจดั ตงั้ เปน็ กองทนุ สขุ ภาพของจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ไวเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ โดยใหผ้ รู้ บั ทนุ ฯ มารายงานตวัใหท้ นุ การศกึ ษาแกน่ กั เรยี นชน้ั ม.6 ทผ่ี า่ นการสอบคดั เลอื กและ กบั เจา้ หน้าท่ีในวนั ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553 ณ สำนักงานผา่ นการสอบแขง่ ขนั ของคณะกรรมการ เขา้ ศกึ ษาตอ่ หลกั สตู ร สาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ในเวลาราชการ พยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หลกั สตู ร 4 ปี 34
พฒั นา การศกึ ษาตามกรอบมาตรฐาน กองการศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม องคก์ ารบรหิ าร ศนู ยพ์ ฒั นาวชิ าชพี และบคุ ลากรทางการศกึ ษา คณะศกึ ษาศาสตร์ส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดทำ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในเรื่องแนวทางการจัดทำกรอบโครงการฝึกอบรมการจัดทำกรอบมาตรฐานด้านการวัดผล หลกั สตู รระดบั ทอ้ งถน่ิ การจดั ทำจดุ เนน้ ในการจดั การศกึ ษาของประเมนิ และสาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ ณ หอ้ งประชมุ สภาองคก์ าร องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาฬสินธุ์บริหารสว่ นจังหวดั โดย นางสาวภทั รา วรามติ ร รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานในพิธีเปิดผเู้ ขา้ รว่ มอบรมในครงั้ นี้ ประกอบดว้ ย ผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษารองผอู้ ำนวยการสถานศกึ ษาดา้ นวชิ าการ และขา้ ราชการครทู ี่รบั ผดิ ชอบดา้ นวดั ผลของโรงเรยี นในสงั กดั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ รวมจำนวน 50 คน โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ืใหผ้ บู้ รหิ ารโรงเรยี น ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาของโรงเรียนในสังกัด ตลอดทั้งบุคลากรในกองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ได้มีความรู้ความเข้าใจและสามารถจัดทำกรอบมาตรฐานการวัดผลประเมินและสาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ ได้ เพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปในแนวทางและเปา้ หมายอนั เดยี วกนัทัง้ 12 โรงเรียน การอบรมในครั้งนี้ใช้เวลา 2 วนั คอื วนั ที่28-29 มี.ค. 2553 โดย ผศ.ดร.ธีรชัย เนตรถนอมศักด์ิและดร.องั คณา ตุงคะสมิต ทมี งานวทิ ยากร คณาจารย์ จาก 35
พฒั นาโรงเรียนสง่ เสรมิ สขุ ภาพ นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสินธุ์ กล่าวรายงาน ต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ในโครงการพัฒนาโรงเรียน สง่ เสรมิ สขุ ภาพ และ รศ.นพ.กำจร ตติ ยิ กวี ประธานกรรมการ บริหารสำนักเปิดรับทั่วไป สสส. ร.ศ.วดี เขียวอุไร นายก สมาคมผู้บำเพ็ญประโยชน์แห่งประเทศไทย ใน พระบรม ราชินูปถัมภ์และคณะ พร้อมด้วยนักเรียนจาก 15 โรงเรียน เนื่องจากว่าในปัจจุบันสังคมไทยมีการเปล่ียนแปลงทางด้าน เทคโนโลยอี ยา่ งรวดเรว็ กอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ ง ๆตามมามากมาย ซงึ่ มผี ลกระทบกบั เดก็ โดยตรง เดก็ เยาวชนสว่ นใหญอ่ ยกู่ บั เพอื่ นคุยโทรศัพท์ เล่นเกมส์ ขณะที่พ่อแมบ่ างคนกร็ ู้ไม่เท่าทนั ลกู พื้นทร่ี อบ ๆ โรงเรยี นเต็มไปด้วยรา้ นเกมสแ์ หล่งอบายมขุ มากมายส่วนพ้ืนที่ดี ๆ เช่น ลานกีฬา สวนสาธารณะจะมีน้อย อยู่ไกลจากแหล่งท่ีอยู่ของเด็ก ทำให้เด็กขาดพ้ืนที่สร้างสรรค์ในการทำกจิ กรรม กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาโรงเรียนส่งเสริมสขุ ภาพและไดส้ ่งโรงเรียนท่อี ยู่ในสังกดั จำนวน 12 โรงเรยี น เขา้ รว่ มโครงการ เพ่อื ให้สถานศึกษาในสังกดั สามารถเข้าสู่มาตรฐานการศึกษา อันจะส่งผลให้เกิดประโยชน์กับนักเรียน ครู ตลอดท้ังชุมชนมีสิ่งแวดล้อมของแต่ละโรงเรียนท่ีเอ้ือสขุ ภาพ สรา้ งบรรยากาศใหน้ า่ อยู่ นา่ เรยี น เปน็ โรงเรยี นแหง่ การเรยี นรแู้ ละเปน็ ตน้ แบบทด่ี ขี ององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ตอ่ ไป 36
โครงการแขง่ ขันกฬี า อบจ.ภาคอสี าน ผู้บริหารขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นำโดย นางชะม้อย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้จัดส่งทีมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จังหวัดร้อยเอ็ดหลายประเภทกีฬา เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล ตะกร้อ เปตอง และ ฟุตซอล โดยในปี 2553 นี้ องค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ข้ึนในระหว่างวันท่ี 2-10 มิถุนายน 2553 เพื่อเช่ือมความรัก สามัคคีการแลกเปลยี่ นประสบการณ์ ระหวา่ งองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั ทงั้ 19 จงั หวดั ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เพอื่ สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพอนามัยของบุคลากรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดให้มีความแข็งแรงท้ังด้านร่างกายและมีน้ำใจนักกีฬารู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยและรูร้ ักสามัคคี 37
โครงการแข่งขันกฬี านกั เรยี นองค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ กองการศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ จัดการแขง่ ขันกฬี าโรงเรียนในสงั กัดขององคก์ ารบรหิ ารส่วนจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ โดย ปกี ารศกึ ษา 2553 องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ จดั ทำโครงการแขง่ ขนั กฬี าโรงเรยี นในสงั กดั ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ 12 โรงเรยี น ขนึ้ ในวนั ที่ 20 สงิ หาคม 2553 ณ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลอสี าน จงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ โดยจัดให้มีการแข่งขันกีฬาหลายประเภท เช่น ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล วอลเลย์บอลชายหาด เทเบิลเทนนิสเซปกั ตะกร้อ เปตอง แบตมินตนั กรฑี า และกีฬาสาธิตอีก 4 ประเภท โดยมวี ตั ถปุ ระสงค์เพ่อื เป็นการส่งเสรมิ ให้นกั เรียนมสี ขุ ภาพสมบรู ณแ์ ขง็ แรง สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมอี ปุ นสิ ยั นำ้ ใจเปน็ นกั กฬี า รแู้ พ้ รชู้ นะ รอู้ ภยั สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นมที กั ษะดา้ นกฬี าสร้างสัมพันธภาพท่ีดีระหว่างนักเรียนและบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน โดยทำการคัดเลือกตัวแทนนักกีฬาแต่ละประเภทเขา้ แข่งขนั ในระดบั ภาคและระดับประเทศตอ่ ไป 38
การแขง่ ขันฟตุ บอลเยาวชน ระดับภาคฯ องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุร่วมกับศูนย์ การกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดกาฬสินธ์ุได้จัดการแข่งขัน ฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี ระดับภาคตะวนั ออก เฉียงเหนือ วนั ที ่ 1 – 7 ตุลาคม 2552 โดยนางชะมอ้ ย วรามิตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธานใน พธิ เี ปดิ การแขง่ ขนั เพอื่ พฒั นาฝกึ ฝนกฬี าฟตุ บอลและสง่ เสรมิ ให้เยาวชนมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในระดับ มาตรฐานสากล ใหก้ ับเยาวชนจังหวัดขอนแกน่ สกลนคร นครพนม อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย มุกดาหาร มหาสารคามและกาฬสินธุ์ ฟุตบอลคู่พิเศษเปิดสนามระหว่างทมี นักกีฬาอาวโุ สวีไอพี กาฬสนิ ธ์ุ พบกบั ทมี ดารากนั ตนาสุวรรณภูมิ ผลการแขง่ ขนั ทีมนกั กฬี าอาวุโสวไี อพี กาฬสินธ์ุเอาชนะ ทมี ดารากนั ตนาสวุ รรณภมู ไิ ปดว้ ยสกอล์ 1-0 และ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ยงั ไดจ้ ดั เลยี้ งตอ้ นรบั นกั กฬี าตลอดจนเจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องทุกคน ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชา ในช่วงค่ำของวันแข่งขันอีกด้วยและในรอบชงิ ชนะเลศิ ณ สนามกฬี ากลางจงั หวดั กาฬสนิ ธเุ์ ปน็ การพบกนั ระหวา่ งทมี จากขอนแกน่ พบกบั ทมี หนองบวั ลำภู ผลการแขง่ ขนั ปรากฏวา่ ทมี ขอนแกน่ เอาชนะไป 3 ตอ่ 2 ประตู โดยนางชะมอ้ ย วรามติ ร นายก อบจ.กาฬสนิ ธุ์ และไดม้ อบถว้ ยโคก๊ คพัพรอ้ มกับมอบของทีร่ ะลกึ แกน่ ักกีฬาทง้ั สองทีม ซงึ่ ทมี ท่ชี นะเลศิ ของกลมุ่ ท่ี 3 ในครัง้ น้ี ซึง่ จะเป็นตัวแทนเข้าไปแขง่ ขันในระดบัประเทศต่อไป 39
สนับสนุนงบฯกฬี าคนตาบอด องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สนับสนุนงบประมาณจำนวน 50,000 บาท ในการจัดแข่งขันกีฬาคนตาบอดภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนกลางประจำปี 2552หรือ “กาฬสินธ์ุเกมส์” ให้กับ นายกสมาคมส่งเสริมอาชีพคนตาบอดจังหวัดกาฬสินธ์ุ เพ่ือใช้เป็นงบประมาณในการจดั การแขง่ ขนั ซึง่ มที มี นกั กีฬาคนตาบอดทม่ี าจากภาคอสี านตอนกลาง ไดแ้ กจ่ งั หวดั มกุ ดาหาร สกลนคร นครพนม รอ้ ยเอด็ยโสธร อำนาจเจรญิ และจงั หวดั อบุ ลราชธาน ี จำนวนประมาณ200 คน เข้าร่วมแข่งขัน โดยจัดให้มีการแข่งขันกีฬาโกบอลและกีฬาอื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนตาบอดเน้นศักยภาพให้คนพิการทางสายตามีสุขภาพร่างกายแข็งแรง พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ความคิดเห็นระหว่างกันตลอดท้ังการสร้างความรกั ความสามคั คขี องคนในสงั คม และเพ่ือเปน็ การคดั เลอื กนักกีฬาคนตาบอดในกลุ่มภาคอีสานตอนกลางเป็นตัวแทนนักกฬี าไปแขง่ ขนั ในระดับประเทศตอ่ ไป 40
ฟุตบอล ลกี ภมู ภิ าค ดิวิช่ัน 2 ปี 2010 นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสินธ์ุ ได้อนุมัติให้กองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เปน็ เจา้ ภาพในการจดั การแขง่ ขนั ฟตุ บอลลกี ภมู ภิ าค ดวิ ชิ นั่ 2 ปี 2010 โดย ระหว่างทีมฟุตบอล กาฬสินธ์ุ เอฟซี ทีมเหย้าฟาดแข้งกับ ทีมบุรีรัมย์ เอฟซี ทีมเยือน ที่สนาม กีฬากลางจังหวัดกาฬสินธ์ุ จัดให้มีการแสดงการฟ้อนรำของ วงโปงลางจากวิทยาลัยนาฏศิลป์กาฬสินธ์ุ ต้อนรับในช่วงพัก คร่ึงเวลาเพ่ือผ่อนคลาย เมื่อหมดเวลาการแข่งขัน 90 นาที ปรากฏว่าทีมกาฬสินธุ์ เอฟซี เอาชนะ ทีมบุรีรัมย์ เอฟซี ไปดว้ ยสกอร์ 3 ตอ่ 1 ซงึ่ การแขง่ ขนั ในครงั้ กอ่ นทที่ มี กาฬสนิ ธุ์ เอฟซี ไปเยอื นถงึ บา้ น บรุ รี มั ย์ เอฟซ ี ผลกาฬสนิ ธพ์ุ า่ ย 3 ตอ่ 1 ประตู เชน่ กนั เกมส์ในแมทซน์ ถ้ี อื เปน็ เกมสล์ า้ งตาในบา้ น ตนเองของทีมกาฬสินธ์ุ เอฟซี ได้สำเร็จ ส่ิงที่ทำให้ ทีมกาฬสินธุ์ เอฟซี เอาชนะ ทีมบุรีรัมย์ เอฟซี ได้ในครงั้ น้ี คงมาจากเสียงเชียร์ให้กำลังใจของแฟนบอลชาวกาฬสินธ์ุ โดยเฉพาะ นางชะม้อย วรามติ ร นายก อบจ.กาฬสนิ ธุ ์ ได้ กล่าวอัดฉดี ลูกละหน่ึงหมื่นบาท ผลการแขง่ ขันจึงเปน็ ไปตาม ที่ชาวกาฬสินธ์ุตอ้ งการ 41
ป่ันจกั รยาน เฉลิมพระเกยี รติ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ ใหก้ ารสนบั สนนุ ความว่า “กิจกรรมการป่ันจักรยานเฉลิมพระเกียรติในครั้งนี้โครงการปนั่ จกั รยาน 73 จังหวดั 179 วนั 8,666 กิโลเมตร ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากชมรมจักรยานไดโนไบด์“ฉนั รกั ประเทศไทย” ของทมี นกั ปนั่ จกั รยานจากกรงุ เทพมหานคร จงั หวัดกาฬสนิ ธ์ุ หนว่ ยงานภาครัฐ เอกชน โรงเรยี น วดั และโดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื จดั กจิ กรรมปนั่ จกั รยานเฉลมิ พระเกยี รติ ส่วนท้องถ่ินร่วมใจกันเป็นหนึ่ง เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รณรงค์การใช้จักรยานให้กับ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั นอกจากนยี้ งั ไดจ้ ดั ใหม้ กี จิ กรรมประชาชนและดำเนินการตามนโยบายฉันรักประเทศไทยของ ปน่ั จกั รยานระยะทาง 10 กโิ ลเมตร เรม่ิ จากศาลากลางจงั หวดัรฐั บาล โดย นางชะมอ้ ย วรามติ ร นายกองค์การบริหาร ไปรอบเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และในช่วงบ่ายมีการส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้กล่าวต้อนรับทีมนักป่ันจักรยานจาก บรรยายเรอ่ื งการปน่ั จกั รยานไดป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร ณ โรงเรยี นกรงุ เทพมหานคร และทมี ไดโนไบดจ์ งั หวดั กาฬสนิ ธุ์ และกลา่ ว กาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ก่อนท่ีจะส่งทีมนักปั่นจากกรุงเทพรายงานถงึ วตั ถปุ ระสงคข์ องโครงการปน่ั จกั รยานเฉลมิ พระเกยี รติ มหานครไปยงั จงั หวดั มหาสารคามตอ่ ไปต่อ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธ์ุ42
มหกรรมสง่ เสริมศาสนาศลิ ปวัฒนธรรม จารตี ประเพณี งานวิจติ รแพรวา ราชนิ ีแห่งไหม ปี 2553 การจัดงาน มหกรรมวิจิตรแพรวาข้ึนในช่วงระหว่าง วันท่ี 11 – 17 สิงหาคม 2553 และได้กำหนดใหม้ กี ารจัด กจิ กรรมตา่ ง ๆ ขน้ึ ในวนั จดั งาน เชน่ จดั ใหม้ กี ารจดั แสดงผา้ ไหม แพรวาท่ีไดร้ บั รางวลั ประเภทตา่ ง ๆ การจดั จำหนา่ ยผา้ ชนดิ ตา่ ง ๆ และสินค้าโอท้อป การแสดงการเดินแบบผ้าไหมแพรวา การ ประกวดธิดาแพรวา การแสดงดนตรีพ้ืนบ้าน การแสดงดนตรี นาฏศิลป์วงดนตรีลูกทุ่ง การแสดงศิลปวัฒนธรรมสี่ภาค การประกวดหางเครอื่ ง การประกวดวงดนตรสี ตรงิ การประกวด กลองยาว ประกวดสาวน้อยประเภทสอง ประกวดส้มตำลีลา และประกวดสามล้อเคร่ืองบริการนักท่องเท่ียว ซ่ึงในปีนี้มี ชาวต่างชาติร่วมเดินแบบด้วย โดยงานมหกรรมวิจิตรแพรวา ราชนิ แี หง่ ไหมในครง้ั นจี้ ะจดั การเดนิ แบบและการแสดงบางสว่ น อยูท่ ่หี อประชมุ เฉลมิ พระเกียรติ 80 พรรษา และประกวดต่าง อยู่ที่เวทีกลางหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ และเวทีหน้าท่ีวา่ การอำเภอเมอื งฯ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั งาน เพอื่ เปน็ การแสดงความจงรกั ภกั ดีถวายเปน็ ราชสกั การะ เนอ่ื งในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาของสมเดจ็ พระนางเจา้ ฯพระบรมราชินีนาถ และเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เรื่องราวความมีชื่อเสียงทางด้านการผลิตผ้าไหมแพรวา ซ่ึงเป็นเอกลักษณ์อย่างหน่ึงของจังหวัดกาฬสินธุ์ใหเ้ ปน็ ทร่ี จู้ กั ของคนทว่ั ไปมากยง่ิ ขนึ้ เปน็ การสง่ เสรมิ การทอ่ งเทยี่ วของจงั หวดั พรอ้ มทง้ั ยงั เปน็ การสง่ เสรมิ อาชพี และรายได้ใหก้ บั กลมุ่ อาชพี ผทู้ อผา้ ไหมแพรวาและกลมุ่ อาชพี ผลติ ภณั ฑพ์ นื้ เมอื ง และการจดั งานมหกรรมวจิ ติ รแพรวา ราชนิ แี หง่ ไหม ประจำปี2553 ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดงานจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธ์ุในทุก ๆ ปๆี ละ 200,000 บาท 43
สนับสนุนงบฯ จัดงานโปงลางแพรวาและงานกาชาด การจดั งานโปงลางแพรวาและงานกาชาดจงั หวดั ประเภท ค ชงิ เงนิ รางวลั 5 หมน่ื บาท พรอ้ มถว้ ยของผวู้ า่ ราชการกาฬสินธ์ุ ประจำปี 2553 ทางองค์การบริหารส่วน จังหวัดกาฬสินธ์ุ และการแข่งขันดนตรีโปงลางในปีน้ี จังหวัดจังหวัดกาฬสินธ์ุ ได้เข้ามามีส่วนร่วมในหลายส่วน อาทิ ได้เชิญคณะวงดนตรีโปงลางจากจังหวัดหนองคาย อุบลราชธานีนางชะม้อย วรามิตร นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวัด ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และ หลายจังหวัดเข้าร่วมแข่งขันด้วยพร้อมด้วยผู้บริหาร ประธานสภาฯ และข้าราชการของ นอกจากนนั้ ในงานมหกรรมแพรวาฯ ยงั ไดม้ กี ารจดั กจิ กรรมตา่ ง ๆองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ ไดน้ ำรถจกั รยานยนต์ เหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็น การออกร้านมัจฉากาชาดขนาด 110 ซีซี มอบใหก้ บั เหลา่ กาชาดจงั หวัดกาฬสนิ ธ ์ุ ชงิ รางวลั การกศุ ล การแขง่ ขนั กจิ กรรมของเยาวชน การแขง่ ขนั กฬี า โดยมนี ายวโิ รจน ์ จวิ ะรงั สรรค์ ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั กาฬสนิ ธ ุ์ การออกรา้ นนทิ รรศการของสว่ นราชการและเอกชน การจำหนา่ ยนางวณ ี จวิ ะรงั สรรค ์ นายกเหลา่ กาชาดจงั หวดั กาฬสนิ ธ์ุ สนิ คา้ ของหา้ งรา้ นเอกชนและมีวงดนตรหี มอลำให้ชมทกุ คนืพร้อมด้วยสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดเป็นผู้รับมอบเพ่ือนำไปใช้ในการออกรางวัลกาชาด หารายได้นำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ประสบกับภัยพิบัติต่าง ๆ และยังได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงาน จำนวน 200,000 บาทซึ่งจัดขน้ึ ในวันที่ 26 ก.พ.-7 ม.ี ค. 2553 ในงานมกี ารออกร้านจำหน่ายสินค้าจากผ้าไหม การแสดงนิทรรศการผ้าไหมแพรวาการจำหน่ายสินค้าโอท้อป จากผู้ผลิตพบกับผู้ซื้อในราคาเป็นการแขง่ ขนั วงดนตรโี ปงลาง แบง่ เปน็ 3 ประเภท โดยประเภท กชิงเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประเภท ขชิงเงินรางวัล 7 หมื่นบาท พร้อมถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และ44
แขง่ เรือยาวประเพณแี ละเส็งกลองกิ่ง จงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ การจัดแข่งขันเรือยาวประเภท 55 ฝีพาย ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารและประเภท 40 ฝพี าย ชงิ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี แขง่ ขนั เสง็ กลองกง่ิ ชงิ ถว้ ยประทานพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาต ุ ในระหว่าง วันที่ 23-26 กันยายน 2553 ณ สนามลำน้ำปาวข้างท่วี า่ การอำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธ์ุ ประเภทเรือยาวใหญ่ 55 ฝีพาย ชิงเงินรางวัล1 แสนบาท จำนวน 4 ลำท่ีจะเริ่มชิงชัยกันในวันท่ี26 ก.ย. 53คอื เรอื เอกชยั นาวา จาก อ.เมอื ง จ.หนองคาย เรอื เจา้ แมบ่ วั ลอยจาก อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย เรือคำปลิว จาก อ.วารินชำราบจ.อุบลราชธานี และเรือกำพร้าผีน้อย จากแขวงสะหวันนะเขตสปป.ลาว ประเภทเรือยาวกลางท่ัวไป 40 ฝีพาย ชิงเงินรางวัล30,000 บาท โดยเรม่ิ แขง่ ขนั กนั ตงั้ แตว่ นั ท่ี 25 ก.ย.53 เปน็ ตน้ ไปมี 8 ลำ คือ เรือสมภาคสมสะอาด จาก อ.เมือง จ.ยโสธรเรอื ขนุ ศกึ อโยธยา อ.หวา่ นใหญ่ จ.มกุ ดาหาร เรอื คำเครอื จากอ.เมอื ง จ.มหาสารคาม เรอื เทพประทมุ ทอง จาก อ.ทา่ ตมู จ.สรุ นิ ทร์เรอื่ เพชรวารนิ ทร์ จาก อ.ทา่ ตูม จ.สุรนิ ทร์ เรอื เทพพานทอง จากอ.กมลาไสย จ.กาฬสนิ ธ์ุ เรอื แมม่ ทั รี จาก อ.หนองเรอื จ.ขอนแกน่และเรือเทพหงสค์ ำ จาก อ.กุมภวาปี จ.อดุ รธานี ประเภทเรอื ยาวกลางทอ้ งถิ่น 40 ฝพี าย ชิงเงินรางวลั การส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมการแข่งขันเรือยาวของท้องถ่ิน20,000 บาท เรม่ิ แขง่ ขนั กนั ตง้ั แตว่ นั ท่ี 24 ก.ย. 2553 เปน็ ตน้ ไป มี สรา้ งความสมานสามคั คขี องประชาชนในจงั หวดั กาฬสนิ ธุ์ รวมถงึ8 ลำ เปน็ เรอื ทอี่ ยู่ในพ้ืนทีจ่ ังหวัดกาฬสินธุท์ ัง้ หมด ส่งเสริมการท่องเท่ียวและเป็นการสร้างรายได้ ให้กับประชาชน ประเภทเรอื เล็กท่ัวไป ไมเ่ กิน 10 ฝพี าย ชิงเงินรางวลั ของจังหวัดกาฬสนิ ธ์ุ10,000 บาท เริ่มทำการแข่งขันกันต้ังแต่วันที่ 24 กันยายน2553 เปน็ ตน้ ไปมเี รอื เขา้ ชงิ ชยั ในปนี ถ้ี งึ 16 ลำ เปน็ เรอื ทอี่ ยู่ในพื้นทจ่ี ังหวดั กาฬสนิ ธท์ุ ง้ั หมด การแข่งขันเส็งกลองก่ิง ทำการแข่งขันในวันท่ี 24กนั ยายน 2553 ชิงเงินรางวัล 3,500 บาท มีทีมที่สง่ เขา้ แข่งขันจำนวน 24 ทีม เป็นทีมที่มาจาก อำเภอกมลาไสย อำเภอร่องคำจังหวัดกาฬสินธุ์ และทีมจากอำเภอโพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด เพ่ือเป็น 45
อุดหนุน งบฯ ลอยกระทง องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั กาฬสนิ ธ ์ุ อดุ หนนุ งบประมาณจำนวน 250,000 บาท ในการจดั งานลอยกระทงนาคฟู น้ื ฟสู นามบนิเสรีไทย ท่ีโรงเรียนบ้านนาคูพัฒนา กรป.กลางอุปถัมภ์อำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธ์ุ ซึ่งถือเป็นงานในระดับจังหวัดโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์วัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถ่ินให้สืบทอดไปในอนาคตและเป็นการรำลึกถึงสนามบินเสรีไทยของอำเภอนาคูในสมัยสงครามโลกครงั้ ที่ 2 ซงึ่ การจดั กจิ กรรมในงานไดแ้ บง่ ออกเปน็ สองช่วงเวลา โดยในภาคกลางวันเป็นพิธีเปิดและการประกวดขบวนแห่ของส่วนราชการและขบวนแห่จากตำบลและหมู่บ้านต่างๆในอำเภอนาคู จำนวน 8 ขบวน ซง่ึ แตล่ ะขบวนจะมกี ารตกแตง่ รถและกระทงอยา่ งสวยงาม และมกี ารแสดงของขบวนนางรำ จำนวนพนั กวา่ คน แสดงการฟอ้ นรำในจงั หวะเซง้ิ และรำแบบภไู ท ใหแ้ ขกผมู้ เี กยี รตแิ ละผทู้ มี่ ารว่ มงานไดร้ บั ชม กนั อยา่ งสวยงามตระการตา ในภาคกลางคืน ณ เวทีกลางข้างอ่างเก็บน้ำห้วยมะโน เป็นการแสดงแสง สี เสยี ง เล่าเร่ืองประวัตคิ วามเปน็ มาของอำเภอนาคูและสนามบนิ เสรไี ทย ของนกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นนาคพู ฒั นา กรป.กลางอปุ ถัมภ์ ต่อด้วยการประกวดนางนพมาศ และชมการแสดงของโรงเรยี นตา่ ง ๆ ในอำเภอนาคูเพอื่ คนั่ รายการประกวด และมีการมอบเงินรางวัลและสายสะพายแก่ผู้เข้าประกวดที่ได้รับการคดั เลอื กเปน็ นางนพมาศประจำปี ของอำเภอนาคู 46
Search