คาํ นาํ คมู อื ประกอบการอบรมรถจักรยานยนตร ุน Wave125-I ใหมน่จี ดั ทาํ ข้ึนเพื่อใหน ายชา งประจํา ศนู ยบรกิ ารรถจักรยานยนตฮอนดา ไดใชในการศึกษาเรยี นรูระบบการทํางานตา งๆของเคร่อื งยนตระบบหัวฉีดซง่ึ ในรถรุน Wave125-I ใหมนี้เปน รุน ทสี่ องของฮอนดาแลวที่ไดม ีการตดิ ต้งั ระบบการจายนาํ้ มนั เช้ือเพลงิ แบบ ใชหวั ฉีดระบบ PGM-FI ซงึ่ ถือไดวา เปนเทคโนโลยใี หมล าสดุ ของรถจกั รยานยนตฮอนดาในขณะนี้ คณะผูจดั ทําหวังเปน อยา งย่ิงวา คูมือประกอบการอบรมเลม นจี้ ะเปนประโยชนกบั นายชางทุกคน ฝายบริการหลังการขาย บรษิ ัท เอ.พ.ี ฮอนดา จาํ กดั
สารบัญ 1 5 1. ขอมลู ทางเทคนคิ 6 2. ขอแตกตางระหวางรนุ เกา กับรุน ใหม 9 3. หลกั การเบื้องตนของระบบฉีดเชื้อเพลิง 10 4. ตําแหนงอุปกรณข องระบบ 11 5. แผนผงั ระบบ PGM-FI 12 6. ระบบควบคุมอเิ ล็กทรอนิกส 18 7. ตวั ตรวจจับสญั ญาณ 21 8. ระบบเช้อื เพลิง 24 9. ระบบประจุอากาศ 25 29 10. ECM 30 32 11. ระบบวินจิ ฉัยขอขัดของดว ยตวั เอง 34 12. การเรยี กดรู ายการปญหา 36 13. การลบขอ มูล 37 14. การปรับต้งั ตัวตรวจจบั ตําแหนง ลนิ้ เรง 43 15. การถอดทอนํ้ามนั แรงดนั สูง 16. การประกอบทอ นํ้ามนั แรงดันสูง 17. ปญหาขอ ขัดของ 18. วงจรไฟ
ขอมลู ทางเทคนคิ WAVE 125 i หวั ขอ รายการ คา มาตรฐาน ขนาด ตังถัง ความยาวตัวรถ 1,881 มม. ( 74.1 น้ิว ) เครอื่ งยนต ความกวางตัวรถ 706 มม. ( 27.81 น้ิว ) ความสงู ตัวรถ 1,082 มม. ( 42.6 น้ิว) ระยะหางลอหนา - ลอ หลงั 1,239 มม. ( 48.8 น้ิว ) ความสงู ของเบาะนั่ง 761 มม. ( 30.0 นวิ้ ) ความสงู ของพักเทา 266 มม. ( 10.5 นิ้ว ) ระยะหางจากพื้น 130 มม. ( 5 .11 น้ิว ) นํ้าหนกั สทุ ธิ 97 กก. ( 213.8 ปอนด )< NF125> 99 กก. ( 218.3 ปอนด )< NF125M> แบบตวั ถัง แบบแบคโบน ( BACK BONE) ระบบกนั สะเทือนหนา / ระยะยุบ แบบเทเลสโคปค / 80.5 มม. ( 3.17 นวิ้ ) ระบบกันสะเทอื นหลงั / ระยะยุบ แบบสวงิ อารม / 81.8 มม. ( 3.22 น้วิ ) ขนาดยางหนา 60/100 - 17 M/C 33 P ขนาดยางหลัง 70/90 - 17 M/C 43 P เบรคหนา แบบดสิ กเบรค / ไฮดรอลิค เบรคหลัง แบบดรมั เบรค มุมแคสเตอร / ระยะเทรล 26° 30' / 68 มม. ( 2.7 นว้ิ ) ความจุถงั นา้ํ มนั เชือ้ เพลิง 4 ลิตร กระบอกสูบ X ระยะชัก 52.4 X 57.9 มม. ( 2.06 X 2.28 นวิ้ ) ปริมาตรกระบอกสูบ 124.8 ซม.3 ( 7.61 น้ิว ) อตั ราสว นการอัด 9.3 : 1 ความจนุ ้ํามันเครื่อง หลงั เปล่ยี นถาย 0.7 ลติ ร ( 700 ซีซี. ) หลงั ประกอบเครื่องยนต 0.9 ลิตร ( 900 ซซี ี. ) ระบบขับเคล่ือนวาลว โซราวลิน้ แบบซบั เสยี ง วาลวไอดี เปด ท่ี 1 มม. 5 ° กอ นศูนยตายบน ปด (0.04 น้วิ ) 22° หลังศนู ยตายลาง วาลวไอเสยี เปด 37° กอ นศนู ยตายลาง ปด -3° หลังศูนยต ายบน ระยะหางวาลว ( ขณะเย็น ) วาลวไอดี 0.05 ± 0.02 มม. ( 0.002 น้ิว ) วาลวไอเสยี 0.05 ± 0.02 มม. ( 0.002 นวิ้ ) ระบบหลอ ลนื่ ใชแรงดัน / แบบอา งเปยก ปม น้าํ มนั เคร่ือง แบบหมนุ
2 หวั ขอ รายการ คามาตรฐาน เครอื่ งยนต ระบบระบายความรอน ระบายความรอนดวยอากาศ ไสกรองอากาศ แบบกระดาษ เพลาขอ เหวยี่ ง แบบแยกสวน การวางเครื่องยนต สบู เดียววางเอียง 80° จากแนวดิ่ง นํ้าหนกั เครื่องยนตข ณะยังไมเติม NF125 22.3 กก. ( 49.2 ปอนด ) นาํ้ มัน NF125M 24.2 กก. ( 53.4 ปอนด ) ระบบจา ยนํา้ มัน PGM-FI [PROGRAMMED FUEL INJECTION ] ระบบจา ย ขนาดของคอคอด นํ้ามนั เชือ้ เพลิง แบบปม แรงดันสงู 22 มม. [0.9 in ] อัตราการไหล แบบใบพดั ( TURBINE PUMP ) ระบบสง กําลัง หวั ฉดี อยางนอ ย 13.9 cc./ 10 วินาที ทแ่ี บตเตอร1ี่ 2 โวลท ความตานของหวั ฉดี แบบรู (ที่ 20oC/68oF) ตัวควบคมุ แรงดัน 10.2-11.4 โอหม ความเรว็ รอบเดินเบา ระบบคลัทช 294 kpa (3.0 kgh/cm2,43 psi) ระบบการทาํ งานของคลทั ช 1,400 + 100 รอบตอนาที ระบบสงกาํ ลัง แบบเปย กหลายแผน ซอนกนั อตั ราทดขน้ั ตน แรงเหวี่ยงหนีศูนยกลาง อตั ราทดข้ัสุดทาย 4 เกียร แบบขบกนั ตลอด อัตราทด เกียร 1 3.350 ( 67 / 20 ) เกยี ร 2 เกยี ร 3 2.428 ( 34 / 14 ) เกยี ร 4 การเปล่ียนเกยี ร 2.500 ( 35 / 14 ) ระบบจดุ ระเบดิ 1.550 ( 31 / 20 ) ระบบสตารท เครื่องยนต 1.150 ( 23 / 20 ) ระบบไฟฟา หวั เทียน มาตรฐาน 0.923 ( 24 / 26 ) สาํ หรับขับขีด่ ว ยความเรว็ สูง ระยะหางเขีย้ วหัวเทยี น N - 1 - 2 - 3 - 4 (– N) ( เกยี รว นขณะรถหยดุ นิง่ ) ดิจิตอลทรานซีสเตอรเต็มรูปแบบ NF125 สตารท เทา NF125M มอเตอรส ตารท / สตารท เทา CPR6EA-9 (NGK) หรอื U20EPR9 (DENSO) CPR7EA-9 (NGK) หรือ U22EPR9 (DENSO) 0.80 - 0.90 มม. (0.031 - 0.035 น้ิว)
3 หัวขอ รายการ คา มาตรฐาน ระบบไฟฟา ระบบไฟชารจ เฟสเดียวจากอัลเทอรเนเตอร เรคกูเลเตอร / เรคตไิ ฟเออร SCR เฟสเดียวเรยี งกระแสครงึ่ คร่ืน ระบบแสงสวาง อัลเทอรเนเตอร องศาการจดุ ระเบิด 10o กอ นศนู ยตายบน ท่ี 1,400รอบ/นาที แบตเตอรี่ 125C, 125MC ฟวสหลัก / ฟวสรอง YTZ3,YTZ5S ( YUASA ) 15 / 10 A
4 KPHX : Fuel Injection System Step 2 รถจกั รยานยนต รุน Wave 125i ใหมไดมีการพัฒนาระบบการจา ยนาํ้ มนั เชือ้ เพลิงแบบ PGM-FI Step 2 เขา มาใชซึ่งเปน ระบบทพ่ี ัฒนามาจากระบบ PGM-FI Step 1 โดยการออกแบบใหง ายตอการตรวจเช็คซอ มและการ บํารุงรกั ษาตางๆ ไดม ีการแยกอุปกรณควบคุม(กลองECM) ออกจากเรอื นลิ้นเรงและเซนเซอรทัง้ สามตัวไดแ ก เซนเซอร ตรวจจบั อณุ หภูมิอากาศ,เซนเซอรต รวจจับตําแหนงลิน้ เรง, เซนเซอรต รวจจบั ความดันในทอ ไอดี ซ่งึ จากการออกแบบ ดงั กลาวทําใหสามารถตรวจเช็คและเปล่ยี นเซนเซอรต างๆ ไดในกรณที ีเ่ กดิ ความเสียหาย นอกจากน้ันยังมกี ารเปลย่ี น ตําแหนงการตดิ ต้ังตวั ควบคมุ แรงดันของนา้ํ มันในระบบโดยยายไปอยใู นถังน้าํ มันเชอ้ื เพลิงซ่ึงตดิ ตงั้ เปนชุดเดียวกันกบั ปม นาํ้ มันเช้อื เพลงิ ทาํ ใหไมจาํ เปนตองมที อน้าํ มันไหลกลบั เหมือนกบั PGM-FI Step1 ซึง่ จากการเปลย่ี นแปลงน้ีทําให ความดันของน้ํามันในระบบคงท่อี ยูตลอดเวลาท่คี วามดัน 294 Kpa ในทกุ สภาพการทํางานของเคร่ืองยนต
ขอแตกตางของ KPHL กบั KPHX 5 STEP 1 KPHL STEP 2 KPHX THB ECM เรือนลิ้นเรง และ ECM ยดึ ติดเปนชดุ เดยี วกนั เรือนลิ้นเรง กบั กลอ ง ECM แยกออกจากกนั หัวฉีดแบบ DN-C3 หัวฉีดแบบ KN-7 INJ เซนเซอรมมุ เอียง เซนเซอรม มุ เอียง มที อทางนํ้ามันไหลกลบั ไมมีทอทางนํ้ามันไหลกลบั มตี ัวควบคมุ แรงดัน นาํ้ มันตดิ ตั้งเปนชดุ เดยี วกันกับปม FPM
6 หลักการทํางานเบ้ืองตนของระบบฉดี นาํ้ มนั เชือ้ เพลิงในรนุ KPHX นํ้ามนั เช้ือเพลิงในถังจะถูกสง ผานกรองน้ํามนั ไปยังหัวฉีด ( Injector ) ซึง่ ติดต้ังอยบู รเิ วณทอ ไอดีโดยใช ปม นํ้ามันเชอ้ื เพลิงแบบไฟฟา ซงึ่ ติดตงั้ อยูภายในถังน้ํามันพรอ มกับตัวควบคุมแรงดันน้ํามันเชอ้ื เพลิง ซึ่งยึดติดเปนชุด เดยี วกนั กบั ปม น้ํามนั เชอื้ เพลิง ซ่งึ จะทําหนาทีค่ วบคมุ แรงดันน้ํามนั เช้ือเพลงิ ในระบบใหคงทีอ่ ยูตลอดเวลาในทุกสภาพการ ทาํ งานของเคร่อื งยนต ทคี่ วามดัน 294 Kpa สง ไปยังหวั ฉีด เม่ือกลอง ECM ตอวงจรไฟฟา ของชุดหัวฉีดลงกราวด เข็มหวั ฉดี จะยกตัวขึ้น ทาํ ใหนํ้ามันเชื้อเพลิงที่มีแรงดนั สงู ถกู ฉดี เขา ไปผสมกับอากาศภายในทอไอดีเพื่อบรรจุเขา กระบอก สบู ปริมาณน้ํามันเชื้อเพลงิ ทถ่ี ูกฉีดออกมาจะมีปรมิ าณมากหรอื นอย ขึ้นอยกู ับระยะเวลาทก่ี ลอง ECM ตอวงจรไฟฟาของ ชดุ หัวฉีดลงกราวด กลาวคือ ถาตองจรไฟฟาของชุดหัวฉีดลงกราวดนาน จะทาํ ใหเ ข็มของหัวฉดี เปด นาน สง ผลใหป รมิ าณ ของนา้ํ มันเช้ือเพลงิ ทีฉ่ ดี ออกมามีปริมาณมากตามไปดวย ระบบฉดี น้ํามันเชื้อเพลิง PGM-FI แบบ D-Jetronic เปน ระบบท่มี ีการควบคุมระยะเวลาการฉดี นาํ้ มันเชื้อเพลิงของหวั ฉดี โดยวธิ กี ารวดั แรงดันของอากาศในทอ ไอดี ดว ยตัวจับความดนั ในทอ ไอดี แลวเปล่ียนเปนสัญญาณไฟฟาสงเขา กลอ ง ECM เพื่อกําหนดระยะเวลาในการฉดี นํา้ มัน เชอ้ื เพลิงของหัวฉีดใหเหมาะสมกับปริมาณอากาศทีเ่ ขากระบอกสูบ หลกั การทํางาน ขณะทเี่ คร่อื งยนตม ีความเร็วรอบตํ่า ลน้ิ เรง จะเปดใหอ ากาศไหลเขา กระบอกสูบนอยเปน ผลใหความดันในทอไอดี ตา่ํ ตัวตรวจจบั ความดันในทอไอดี จะสงสัญญาณไฟฟาทีส่ ัมพันธกบั ความดันอากาศในทอ ไอดใี นขณะนั้น เขาไปทกี่ ลอ ง ECM ในสภาวะแบบน้ีกลอ ง ECM จะสัง่ จายน้าํ มันเชอ้ื เพลิงนอ ย และในทางกลับกันหากบิดคนั เรง มากขึน้ จะทาํ ใหมี อากาศไหลเขา กระบอกสูบมากข้ึน เปนผลใหค วามดันในทอ ไอดีสงู ขนึ้ ในสภาวะแบบนก้ี ลอ ง ECM จะส่ังจา ยน้ํามัน เชอ้ื เพลิงมากขนึ้
7 การควบคุมระยะเวลาในการฉีดนาํ้ มนั เชอื้ เพลิง ระบบจะมีการควบคมุ ระยะเวลาในการฉดี นา้ํ มันเช้ือเพลิง ออกเปน 2 สว นดว ยกัน คือ การควบคุมระยะเวลาการ ฉีดพ้ืนฐาน และการเพิ่มระยะเวลาในการฉีดตามสภาวะการทํางานของเครือ่ งยนต โดยมีรายละเอยี ดการควบคมุ ดงั นี้ การควบคุมระยะเวลาในการฉีดพนื้ ฐาน กลอง ECM จะไดรบั สญั ญาณไฟฟาจากตวั ตรวจจบั ความดันในทอไอดี และสัญญาณความเร็วรอบของ เครื่องยนต สัญญาณไฟฟา ท้งั สองจะเปนสญั ญาณท่ใี ชสําหรับ กําหนดระยะเวลาในการฉีดนาํ้ มันเชื้อเพลิงของหัวฉดี ระยะเวลาในการฉดี ที่ไดจากสัญญาณทั้งสองนจ้ี ะเรียกวา ระยะเวลาในการฉีดพื้นฐาน อากาศ ตวั ตรวจจบั ความดนั ใน ทอ ไอดี หัวฉดี ตวั ควบคุมความดนั ทอไอดี ปม นาํ้ มนั กรองนา้ํ มัน สัญญาณความดนั ในทอ ไอดี ถงั นาํ้ มันเชื้อเพลงิ ECM เคร่อื งยนต สัญญาณความเรว็ รอบเคร่ืองยนต สัญญาณการฉดี ไดอะแกรมการควบคุมระยะเวลาในการฉีดพนื้ ฐาน หมายเหตุ สญั ญาณความเร็วรอบของเคร่อื งยนตจ ะใชเปนขอมลู ในการคาํ นวณหาปรมิ าณอากาศตอรอบการทาํ งานของ เครอ่ื งยนต พรอมทั้งเปนตัวกําหนดจังหวะการจุดระเบิด และจงั หวะเริ่มตนการฉีดนํ้ามันเชอ้ื เพลงิ ของหัวฉีด
8 การเพม่ิ ระยะเวลาในการฉีดนํา้ มันเชอ้ื เพลิง เน่ืองจากเครือ่ งยนตตองทํางานภายใตสภาวะตา งๆ ทม่ี ีการเปลี่ยนแปลงอยตู ลอดเวลาจึงทาํ ใหอ ตั ราสว นผสมท่ีได จากสญั ญาณการฉดี พ้นื ฐานไมส ามารถตอบสนองตอความตอ งการของเครือ่ งยนตในทุกสภาวะการทํางานได ดังน้ันจึงตอ ง มีตัวตรวจจบั สภาวะการทํางานของเครอ่ื งยนต ( Sensor ) เปน ตัวสง ขอมลู สภาวะการทํางานตางๆของเคร่ืองยนตใหก ลอง ECM ทราบ เพือ่ ทีก่ ลอ ง ECM จะไดนําขอ มูลเหลา นั้นไปประมวลผลคํานวณหาปรมิ าณเชอ้ื เพลงิ ท่เี ครอื่ งยนตต องการ ในสภาวะน้นั ๆ แลวส่ังใหห ัวฉดี ฉีดนํา้ มันออกมาผสมกับอากาศใหไ ดส ว นผสมท่ีพอเหมาะทสี่ ดุ TA ตัวตรวจจับอณุ หภูมิอากาศ อากาศ THR ตัวตรวจจบั ตาํ แหนงล้นิ เรง ตัวตรวจจบั ความดนั ทอไอดี หวั ฉดี ตวั ควบคมุ ความดนั ในทอไอดี ปม นํ้ามัน กรองน้าํ มัน สัญญาณความดนั ในทอไอดี สัญญาณอณุ หภมู นิ ้าํ มันเคร่อื ง ECM เคร่ืองยนต สญั ญาณความเรว็ รอบเครอื่ งยนต ถงั นาํ้ มัน สญั ญาณการฉดี ไดอะแกรมเพ่ิมระยะเวลาในการฉดี นาํ้ มันเชือ้ เพลงิ สว นประกอบของระบบ - ตัวตรวจจับสญั ญาณ ( SENSOR ) - ปม นาํ้ มันเชื้อเพลงิ ( FUEL PUMP ) - ทอทางน้าํ มันเช้ือเพลิง ( FUEL HOSE ) - กลองควบคุม ( ENGINE CONTROL MODULE ) - หัวฉดี ( INJECTOR ) - หลอดไฟเชค็ เครือ่ งยนต ( FI-INDICATOR )
9 ตําแหนง ของอปุ กรณร ะบบ PGM-FI ใชร ปู กับคูมือซอม ตัวตรวจจบั การเอยี งของรถ กลอ ง ECM ตัวตรวจจับอณุ หภูมิ น้าํ มนั เครื่อง ตวั เรอื นหัวฉดี หัวฉีด เรกกเู ลเตอร/ เรกตไิ ฟเออร ทอทางเดนิ นา้ํ มนั ถังนํา้ มนั เชอ้ื เพลิง ปม นาํ้ มันเช้อื เพลงิ และตัวควบคมุ แรงดนั
10 แผนผงั ระบบ PGM - FI ใชร ูปกับคูมอื ซอม 1.สวทิ ชจ ดุ ระเบิด 12.คอยลจุดระเบดิ 2.ฟวสห ลกั (15 A) 13.ตัวตรวจจบั อุณหภมู ิอากาศ 3.ฟว สรอง (10 A) 14.ตวั ตรวจจบั ตําแหนงลน้ิ เรง 4.แบตเตอร่ี 15.ตัวตรวจจบั ความดันในทอ ไอดี 5.เรกกูเลเตอร/ เรกติไฟเออร 16.หวั ฉีด 6.เกจวดั ระดบั น้ํามนั เชอ้ื เพลิง 17.หวั เทียน 7.หลอดไฟแสดงความผิดปกติ 18.สวทิ ชไฟเกียรว าง 8.หลอดไฟเกยี รว าง 19.พลั ซเซอรค อยล 9.ตัวตรวจจบั การเอียงของรถ 20.ตวั ตรวจจบั อณุ หภมู นิ ้ํามนั เครอื่ ง 10.ข้ัวตรวจสอบ 21.อัลเทอรเ นเตอร 11.ปม นาํ้ มันเชื้อเพลิง
11 ระบบควบคุมอเิ ล็กทรอนกิ ส ระบบควบคุมอิเลก็ ทรอนิกสประกอบดวย ECM, ตัวตรวจจับสญั ญาณ, และอปุ กรณทํางาน ECM จะรับ สัญญาณไฟฟาจากตัวตรวจจับสัญญาณ และควบคุมการทํางานตางๆ เชน หวั ฉีดและปมนํา้ มันเชือ้ เพลงิ หนวยตรวจสอบ หนว ยควบคมุ อุปกรณทาํ งาน ตัวตรวจจับตําแหนง ล้ินเรง ควบคมุ การฉดี นํ้ามันเช้อื เพลิง หัวฉดี ตัวตรวจจบั ความดนั ในทอ ไอดี ควบคมุ การทํางานของ ปม นาํ้ มันเช้ือเพลงิ ตัวตรวจจบั อุณหภมู อิ ากาศ ปมน้ํามันเช้อื เพลิง ตัวตรวจจับอุณหภูมิน้าํ มันเครือ่ ง คอยลจุดระเบดิ ตวั ตรวจจบั ความเรว็ รอบเครอื่ งยนต ควบคมุ การทาํ งานของ ระบบจดุ ระเบิด หลอดไฟวิเคราะห ตัวตรวจจบั มมุ เอียงของรถ ปญ หา(FI) ขว้ั ตรวจสอบ ควบคุมการทาํ งานของหลอดไฟ แสดงความผิดปกติระบบวนิ จิ ฉัย ขอ ขดั ขอ งดว ยตัวเอง วงจรจา ยพลังงาน ( POWER SUPPLY CIRCUIT ) แหลง จายพลังงานในรถจักรยานยนตรุน ใหม มีอยูด วยกัน 2 แหงดว ยกนั คอื 1. แบตเตอรี่ 2. อลั เทอรเนเตอร ซ่งึ ระบบจายพลังงานสามารถแยกการทํางานออกเปน 2 กรณีคอื แบบปกตแิ ละแบบฉกุ เฉิน ซ่ึงมีหลักการทํางาน ดงั นี้ 1. การทํางานแบบปกติ (แบตเตอรี่อยูในสภาพพรอมใชงาน) เม่ือเปดสวิทชจ ุดระเบดิ แบตเตอรีจ่ ะจา ยพลังงานออกมาเล้ยี งระบบตางๆทั้งหมดจนกวาจะสตารท เครื่องยนต และเคร่อื งยนตต ิด ถา เครอื่ งยนตสามารถผลิตไฟฟา ไดม ากกวาแรงเคล่อื นของแบตเตอรเ่ี ม่ือไหรอัลเทอรเนเตอรกจ็ ะเปนตวั จา ยไฟเลยี งระบบแทนแบตเตอร่ีและจา ยไฟไปประจุทีแ่ บตเตอร่ี 2. การทํางานแบบฉุกเฉนิ (แบตเตอรี่อยูไมอยูในสภาพทีพ่ รอมใชงาน) อัลเทอรเนเตอรจะเปนตัวจายพลังงานไฟฟา ออกมาเลย้ี งระบบท้ังหมดโดยไดพลังงานไฟฟามาจากการสตารท เครอื่ งยนต ซ่ึงรนุ นี้ไดม ีการออกแบบชุดเรคติไฟเออรใหมใ หมีความสามารถในการจายกระแสไฟไปออกมาเล้ียงระบบได มากขึ้นโดยท่ีเรคกเู รเตอร-เรคติไฟเออร จะมีตัวเกบ็ ประจุอยูภายในซ่ึงจะชวยทําใหแ รงเคลื่อนท่จี ายออกมาจาก อลั เทอรเ นเตอรใ นระหวางการสตารทดวยคนั สตารทมคี วามคงที่และเพยี งพอในการติดเครอ่ื งยนต
15A 10A 12 TO STARTER. SW. STARTERRELAY TO BAT2 V02 DIMMER .SW. BAT1 VO1 FUELPUMP BANKANGLESENSOR ALTERNATOR วงจรจายพลงั งาน ตัวตรวจจบั สญั ญาณ ( SENSOR ) มีหนา ทต่ี รวจจับความเปล่ียนแปลงตางๆ แลวสง ขอ มลู เขา ไปทก่ี ลอง ECM แลว นาํ ขอมูลเหลานั้นไป ประมวลผล เพื่อหาปรมิ าณการฉดี และจงั หวะในการจดุ ระเบดิ ท่ีเหมาะสมทสี่ ดุ ในรถรุนนี้ ไดมกี ารติดตั้งตัวตรวจจับ สญั ญาณตางๆ ดังน้ี 1.ตัวตรวจจบั อุณหภูมอิ ากาศ 2.ตวั ตรวจจับความดันในทอไอดี 3.ตวั ตรวจจบั อุณหภูมนิ ํ้ามนั เครื่อง 4.ตวั ตรวจจบั ตําแหนงลิ้นเรง 5.ตวั ตรวจจับความเร็วรอบเครื่องยนต 6.ตวั ตรวจจบั มุมเอียงของรถ ใชรปู กับคูมือซอม
13 ตวั ตรวจจบั อณุ หภูมอิ ากาศในทอ ไอดี ( Intake Air Temperature Sensor : IAT ) เปนอุปกรณท ี่ใชสําหรับตรวจจบั อุณหภมู ขิ องอากาศที่บรรจเุ ขากระบอกสูบ และเปล่ยี นเปน สัญญาณไฟฟา สงเขา กลอ ง ECM เพื่อปรับเปล่ยี นระยะเวลาในการฉีดเช้ือเพลิงใหเหมาะสมกับอณุ หภมู ขิ องอากาศที่เปลยี่ นแปลงไป ตัวตรวจจบั อณุ หภูมอิ ากาศเปนเทอรม ิสเตอรท ่สี ามารถตรวจจับการเปล่ียนแปลงอุณหภมู ขิ องอากาศไดถ งึ แมจะ เปน เพียงความรอนแคเล็กนอ ย ซงึ่ ติดตั้งอยูด านหนา ของลิ้นปก ผเี สอ้ื เพือ่ ตรวจสอบอุณหภมู ิของอากาศทจ่ี ะบรรจุเขา กระบอกสบู โดยตวั ตรวจจบั อุณหภูมิอากาศจะประกอบเปน ชดุ เดียวกันกบั ตัวเรือนล้นิ เรง คาความตานทาน (K Ω ) ตัวตรวจจับอุณหภูมอิ ากาศ -20 0 20 40 60 80 1 อุณหภูมอิ ากาศ oC จากหลักการของระบบ ปริมาณอากาศที่บรรจุเขากระบอกสูบจะเปน ขอ มูลใหก ลอง ECM คํานวณหาระยะเวลา ในการฉดี นํ้ามันเช้ือเพลิงใหไ ดสวนผสมระหวางอากาศกับนาํ้ มันเช้ือเพลิงตามทฤษฎี แตด วยเหตุท่ีอณุ หภมู ิของอากาศไม คงท่จี งึ ทาํ ใหความหนาแนน ของอากาศเปลี่ยนแปลงไป คอื ถา อุณหภมู ขิ องอากาศสงู ขึ้นความหนาแนนจะนอ ยลง จากการท่ี ความหนาแนนของอากาศเปลีย่ นแปลงไปจะทําใหการจา ยสว นผสมผดิ พลาดได ดังนั้นจึงจําเปนตอ งมีตวั ตรวจจับอณุ หภมู ิ ของอากาศกอ นที่จะเขา เครือ่ งยนต ตรวจจบั อณุ หภูมขิ องอากาศแลว สง ขอ มลู ใหกับกลอง ECM เพ่อื ทีจ่ ะนําขอ มูลทไี่ ดไ ป คํานวณหาปรมิ าณอากาศทแ่ี ทจรงิ แลว สง่ั จายเชือ้ เพลิงในปริมาณทีเ่ หมาะสมกับปรมิ าณอากาศในขณะนั้น กลาวคอื ถา อุณหภมู ิของอากาศต่าํ หมายความวาความหนาแนน ของอากาศจะมากดว ยกลอ ง ECM จะส่ังจาย น้ํามนั เช้อื เพลิงมาก ( หัวฉดี เปด นาน ) ในทางกลับกัน ถาอุณหภมู ิของอากาศสูง หมายความวาความหนาแนน ของอากาศจะ นอ ยกลอง ECM จะส่งั จายนํ้ามนั เชอื้ เพลิงนอ ย ( หัวฉดี ปดเร็ว )
14 ตวั ตรวจจับความดนั ในทอ ไอดี ( Manifold Absolute Pressure Sensor : MAP ) ทาํ หนาที่ตรวจวัดปรมิ าณอากาศดว ยการตรวจจบั ความดันภายในทอไอดี แลวเปลยี่ นเปนสัญญาณไฟฟา สง เขา กลอ ง ECM เพ่ือกาํ หนดระยะเวลาในการฉดี พ้ืนฐานของหวั ฉีด ตัวตรวจจบั ความดนั ในทอ ไอดี เปนความตานทานทเ่ี ปลย่ี นแปลงไดแ บบ สารกึ่งตัวนาํ ซง่ึ จะเปลี่ยนความดนั ให เปน สญั ญาณไฟฟาสง ไปท่ีกลอง ECM กลอง ECM จะรับขอมูลความดันสมบูรณภ ายในทอ ไอดี จากสัญญาณทสี่ ง มาจากตวั ตรวจจับความดันใน ทอไอดี และสัญญาณความเร็วรอบของเคร่ืองยนต ซง่ึ จะเปนขอมลู ในการส่งั จายน้ํามันเชื้อเพลิงข้นั พืน้ ฐานใหม ีความ เหมาะสมกับความตองการของเครื่องยนต กลา วคอื ถาความดนั ภายในทอไอดสี งู กลองควบคุม ( ECM ) จะส่งั จายนํ้ามันเชอื้ เพลงิ มาก เพราะมีปรมิ าณ อากาศมาก ในทางกลบั กัน ถา ความดันในทอ ไอดตี าํ่ กลอ งควบคุม ( ECM ) จะส่งั จายนาํ้ มันเชื้อเพลิงนอยเพราะปรมิ าณ อากาศนอ ย ตัวตรวจจับความดนั จะติดต้ังอยูดานหลังของล้ินปกผเี สื้อ เพื่อตรวจจับความดันของอากาศกอนที่จะเขาเครือ่ งยนต โดยตวั ตรวจจบั ความดันจะประกอบเปน ชุดเดยี วกันกับตัวเรือนลิ้นเรง ตัวตรวจจับความดนั ในทอไอดี ตัวตรวจจบั ความดันในทอไอดี ตวั ตรวจจบั ตําแหนงลนิ้ เรง ( Throttle Position Sensor : TPS ) ทําหนา ที่ตรวจจับตาํ แหนงการเปดของล้นิ เรงแลวสงเปนสัญญาณไฟฟาเขา กลอง ECM เพือ่ เปน ขอมูลในการ สั่งจายนาํ้ มันเชื้อเพลิงใหม คี วามเหมาะสมกับความตองการของเคร่อื งยนตใ นขณะนัน้ และเปน ขอ มูลในการส่งั ตัดการจา ย น้ํามันเช้ือเพลิงเมือ่ ผอ นคันเรง โดยการเปรียบเทยี บสัญญาณกับสัญญาณความเร็วรอบของเครือ่ งยนตและสญั ญาณอณุ หภูมิ ของนาํ้ มันเครื่อง ตวั ตรวจจบั ตําแหนงล้นิ เรง จะบอกการเปด ของลิ้นเรงออกมาเปนสญั ญาณทางไฟฟา ซึ่งเกิดจากความตานทานท่ี เปลีย่ นแปลงไดทต่ี ดิ ตั้งอยูท ่ีสว นปลายของเพลาลน้ิ เรง แลวสง สญั ญาณไฟฟาดังกลาวไปท่กี ลอ งECM
15 เซนเซอรล้นิ เรง ตวั ตรวจจับตาํ แหนง ลนิ้ เรง การทํางาน ที่ตําแหนงลิ้นเรงปดสดุ ชุดหนาสมั ผสั สญั ญาณการเปดลิ้นเรง จะตอท่สี ว นปลายของแผนความตานทานใน ตาํ แหนงนค้ี วามตา นทานจะมาก ทาํ ใหไฟท่จี า ยมาจากขั้ว VCC 5 โวลท ไหลผา นความตา นทานมากจงึ ทําใหไ ฟไหล กลบั ไปทีก่ ลอง ECM ทขี่ ้วั THR นอ ย ( 0.5 โวลท ) ในตาํ แหนง นกี้ ลอง ECM จะส่งั ใหหวั ฉีดจา ยนํ้ามันเชอ้ื เพลิง นอยเมอ่ื บิดคนั เรง มากขนึ้ ชดุ หนาสัมผัสสัญญาณการเปดล้ินเรง จะเคลื่อนทเี่ ขา หาข้วั VCC มากขึ้น ทาํ ใหคาความ ตานทานระหวา งขัว้ VCC กับขวั้ THR ลดลงยอมใหก ระแสไฟไหลกลบั ไปที่กลอง ECM ท่ขี ว้ั THR มากขึ้น เปน ผลใหกลอง ECM สงั่ จา ยนา้ํ มันมากขน้ึ จนล้ินเรง เปด สดุ ความตานทานจะนอ ยท่ีสดุ ทาํ ใหไ ฟไหลกลบั ไปทก่ี ลอง ECM ไดมากท่ีสดุ ( 4.47 โวลท ) ตัวตรวจจบั ตําแหนงล้ินเรงจะประกอบเปนชดุ เดียวกันกับตัวเรือนลน้ิ เรง โดยจะเชื่อมตอ อยกู บั แกนหมนุ ของ ลิน้ ปกผเี สือ้ ซ่งึ ติดตั้งอยูที่ทอ ไอดี
16 ตัวตรวจจบั อุณหภูมินํ้ามนั เคร่ือง ( Engine Oil Temperature Sensor : EOT ) ทําหนา ท่ีตรวจจับอุณหภูมิของน้ํามันเคร่อื ง แลวเปล่ยี นเปนสญั ญาณไฟฟา สงเขา กลอง ECM เพื่อเพมิ่ หรอื ลด ปริมาณการฉีดนํ้ามนั เช้อื เพลิง กลา วคอื ถานํ้ามันเครอ่ื งมอี ุณหภูมิต่ํากลอง ECM จะส่ังจายนํ้ามันเชือ้ เพลิงมากข้ึน คา ความตานทาน กโิ ลโอม 7.000 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 6.000 5.000 4.000 3.000 2.000 1.000 0.000 0 อณุ หภมู ินา้ํ มนั เคร่อื ง ( องศาเซลเซยี ส ) ตวั ตรวจจบั อุณหภมู ิน้ํามันเครอ่ื ง อณุ หภมู ิ 20oC 100oC คา ความตานทาน 2.5-2.8 KΩ 0.21-0.22 KΩ ตัวตรวจจบั อณุ หภูมิของน้ํามันเคร่ืองตดิ ตั้งอยทู ี่ดานลางของเสือ้ สบู ภายในประกอบดวยความตานทานแบบมีคา สมั ประสทิ ธ์ทิ างอุณหภูมเิ ปนลบ ซ่งึ จะมคี าความตา นทานลดลงเมอ่ื อณุ หภูมสิ ูงขน้ึ จากคุณสมบัติดงั กลาวจะถกู นาํ ไปใช เปล่ียนเปน แรงดันไฟฟาสง เขา กลอ ง ECM เพอ่ื เปน ขอมูลในการคํานวณหาปรมิ าณนา้ํ มนั เชอ้ื เพลิงท่ีเหมาะสมกบั อณุ หภูมขิ องเครอ่ื งยนตขณะน้ัน ถา เคร่อื งยนตเ ยน็ ความตา นทานจะมาก เปน เหตุใหแรงดันไฟฟาตกครอมทตี่ วั ตรวจจบั อุณหภมู นิ ํ้ามนั เครอ่ื งมาก กลอ ง ECM จะส่ังจา ยนํ้ามนั เชื้อเพลิงมาก และเมื่อเครื่องยนตทํางานจนอณุ หภูมิสูงข้ึน ความ ตานทานจะลดลงเปน เหตใุ หไ ฟฟาสามารถผานตัวตรวจจับอณุ หภูมิของนํ้ามันเครือ่ งไปเขากลอ ง ECM ไดมากกลอ ง ECM ก็จะสัง่ จา ยนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ ใหนอ ยลง ท้ังนกี้ ็เพอ่ื ความเหมาะสมกับสภาวะการทํางานของเคร่อื งยนต
17 ตวั ตรวจจบั ความเร็วรอบเครอ่ื งยนต ( Engine Speed Sensor ) ทาํ หนาที่ตรวจจับความเรว็ รอบเครอ่ื งยนต แลวสงเปนสญั ญาณไฟฟาเขา กลอง ECM เพอื่ เปนขอ มูลพ้ืนฐานใน การคํานวณจังหวะและอัตราการฉดี น้าํ มนั เช้ือเพลิงใหเ หมาะสมกับความเร็วรอบของเครือ่ งยนต และกลอง ECM ยงั ใช สญั ญาณนีไ้ ปคํานวณหาจังหวะจุดระเบดิ ทีเ่ หมาะสมทีส่ ุดสําหรับแตล ะสภาวะการทาํ งานของเครื่องยนต ลอ แมเ หล็ก จดุ ตัดบอกตาํ แหนง องศา พัลเซอรคอยล เพลาขอ เหว่ยี ง ตวั ตรวจจับการเอียงของรถ ( Bank Angle Sensor ) ทาํ หนา ท่ีตรวจจับการเอยี งของรถ เพอ่ื ใหเ กดิ ความปลอดภัยในกรณีรถลม โดยตวั ตรวจจบั การเอยี งของรถจะสง กระแสไฟฟาประมาณ 1 โวลท ไปยังชุดกลอง ECM เมือ่ องศาการเอียงถึงจุดท่กี ําหนดไว เพ่ือแจงใหทราบวาขณะนี้รถ อยูในลกั ษณะเอียง กลอ ง ECM กจ็ ะสงั่ ใหร ะบบ PGM-FI หยดุ ทํางานเปนการปอ งกันไฟใหมใ นกรณีรถเกดิ อบุ ัติเหตุ ลม โดยตวั ตรวจจบั การเอยี งของรถ จะสง่ั ใหก ลอ ง ECM ตดั การทํางานของชดุ ไฟจดุ ระเบิดและหัวฉีด เมอ่ื รถจกั รยานยนตเ อยี งเปนมุมมากวา 55o + 5o ภายในระยะเวลา 4 + 0.5 วินาที โดยการตัดวงจรนจี้ ะเปน การตัดแบบถาวร ถึงแมว ารถจะต้ังข้ึนมาแลว กต็ าม ECM ส่ังใหระบบจดุ ระเบดิ ทํางานอีกคร้งั เม่ือมีการปด-เปดสวิทชจ ดุ ระเบิดใหม ระบบ จึงจะทํางานเปน ปกติ ( ปม นา้ํ มันเชือ้ เพลิงยังคงทํางานตามไดตามเงือ่ นไขเดิม ) 55+5o 55+5o 55o+5 55o+5 ตาํ แหนงติดต้ัง Bank Angle Sensor
18 ระบบฉดี นํา้ มนั เช้อื เพลงิ ในรถจักยานยนตร ุน KPHX สามารถแบง ระบบการทาํ งานไดด ังนี้ 1. ระบบเช้ือเพลิง ทาํ หนา ท่จี ายนาํ้ มนั เชอื้ เพลิงใหกบั เครือ่ งยนตในปรมิ าณท่เี พียงพอตอ ความตองการในทกุ สภาวะการทาํ งานของเครอ่ื งยนต ดวยความดนั คงที่ 294 Kpa ตลอดเวลา ประกอบดวย ถงั นํา้ มันเช้อื เพลิง ปม นํา้ มัน เช้อื เพลิง ตัวควบคมุ แรงดนั นา้ํ มันเช้อื เพลิง ทอ จายน้าํ มันเชอ้ื เพลิง (ทอแรงดนั สงู ) หัวฉีด หัวฉีด ทอ นาํ้ มัน ถงั น้ํามันเชื้อเพลิง ระบบนา้ํ มันเชื้อเพลิง - ปม น้าํ มนั เชื้อเพลิง (Fuel Pump) ทําหนาทีส่ รางแรงดันนาํ้ มันเชื้อเพลิงจากถังสง ไปยังหัวฉีดในปริมาณที่ เพยี งพอตอ ความตองการของเคร่ืองยนตโดยปม น้ํามันเชื้อเพลิงจะตดิ ต้ังอยูภายในถงั น้ํามันเช้อื เพลงิ เปน ปมแบบใบพดั ( Turbine Pump) ขบั ดวยมอเตอร 12 VDC.จายนํ้ามนั เช้อื เพลงิ ดวยอัตราการไหลคงท่ี ท่ีแรงดนั 294 Kpa หรอื 3.0 Kgf/cm2 โดยทอ ดดู ของปม ติดตั้งอยูในตําแหนง ตํ่าสดุ ของถังนํา้ มนั และจะมกี รองตาขายอยดู า นลา งเพ่ือกรองสิ่งสกปรกท่ี มีขนาดตั้งแต 10 ไมครอนขึน้ ไป มอเตอรปมจะถกู สัง่ งานโดยกลอง ECM ลิ้นกันกลับ ตวั ควบคุมแรงดันนาํ้ มันเชือ้ เพลิง กรองนา้ํ มันดานดูด
19 จากการที่ปม นํ้ามันเชือ้ เพลิงจา ยนํ้ามนั ดวยอัตราการไหลคงท่ีตลอดเวลา แตเคร่ืองยนตตองการปรมิ าณนํ้ามันที่ไม คงท่ี ดังนัน้ จึงตองมกี ารควบคุมแรงดันน้ํามันอกี คร้ังโดยตัวควบคุมแรงดันทต่ี ิดตั้งอยกู ับปมน้ํามันเชือ้ เพลงิ ภายในถงั กอ นท่ี จะสงไปยังหัวฉีด ทําใหไมม ีน้ํามันสว นเกินสง ไปยงั หวั ฉีด จึงไมต อ งมที อน้ํามันไหลกลบั เหมือนที่ใชในรนุ KPHL สวนประกอบของปม นา้ํ มนั เชอ้ื เพลงิ ขดลวดอาเมเจอร เรือนปม ใบพัด ทอ ทางจา ย หองปม น้ํามนั ล้นิ กันกลบั มอเตอร ปม นํ้ามนั เช้อื เพลิง ทางจา ย ทางดดู รองของใบพัด ใบพัด รองของใบพัด เรอื นปม ปมนํา้ มันประกอบดวย ขดลวดอาเมเจอร ชุดปม ล้ินกนั กลับ มอเตอร ใบพดั หองปม ทอ ทางดูดทอทางสง และ เรือนปม ปมน้ํามนั จะทาํ งานทุกคร้งั ที่เปดสวิทชกญุ แจโดยกลอง ECM จะเปนตวั สงั่ ใหปม ทาํ งานเปน เวลา 2 วนิ าที แลว ดบั หลงั จากน้นั จะทํางานอีกเมื่อเครื่องยนตตดิ โดยปม น้ํามนั จะทํางานตลอดเวลาถา มสี ัญญาณความเร็วรอบของเครื่องยนต สงมาท่กี ลอง ECM ปมน้าํ มนั เชื้อเพลิงจะหยดุ การทาํ งานอตั โนมตั ิเม่อื ไมมสี ัญญาณความเร็วรอบของเครอ่ื งยนตส ง มาที่ ECM เม่อื ปม หยุดทาํ งานลิ้นกันกลบั จะปดเพื่อรักษาแรงดนั นา้ํ มันในระบบไว
20 หวั ฉีด ( Injector ) ทาํ หนาท่ฉี ีดนํ้ามันเช้อื เพลิงใหเปนฝอยละออง เพ่ือคลกุ เคลากับอากาศบริเวณทอไอดีกอนผานวาลว ไอดีเขา สู กระบอกสบู หัวฉีดที่ใชเปนแบบบงั คับการเปด ของหัวฉีดโดยโซลนิ อยดไฟฟา และปดโดยแรงดันสปรงิ โดยมีโครงสราง ดงั น้ี KPHX (KN-7 Type) หลักการทํางาน นาํ้ มันจากทอ สงไหลเขาหวั ฉีดโดยผา นกรองละเอยี ดทช่ี องทางเขา ผานลงไปยังเขม็ หวั ฉดี ทีป่ ลายดา นลางของ หวั ฉีด ในขณะท่ีหัวฉีดยังไมทํางาน เขม็ หัวฉดี จะถกู สปริงดนั ใหแ นบสนิทอยกู ับบา ของเข็มหวั ฉีดจังหวะน้ีจะไมมีการฉีด นาํ้ มนั เม่อื กลอง ECM สง่ั ใหไ ฟฟา ที่มาจากหวั ฉดี ลงกราวดจะทําใหเกิดสนามแมเ หล็กข้ึนทขี่ ดลวด เสน แรงแมเหล็กที่ เกดิ ขนึ้ จะดูดใหพลังเยอรทอ่ี ยตู รงกลางยกขึ้น เข็มหวั ฉีดทตี่ ิดกับพลังเยอรกจ็ ะยกตวั ขนึ้ จากบาของเขม็ หัวฉดี ทําใหน าํ้ มนั ทีม่ ี แรงดนั ประมาณ 294 Kpa ถกู ฉดี ออกมาจากหวั ฉดี ในลักษณะเปน ฝอยละออง สําหรบั ปรมิ าณน้ํามนั ที่ฉีดออกมาจะมาก หรอื นอยข้นึ อยกู บั ระยะเวลาในการเปด ของหัวฉีด ถา หัวฉดี เปดนานปรมิ าณนํ้ามันท่ฉี ีดออกมากจ็ ะมาก สาํ หรบั หวั ฉีดรนุ น้ี (KN7) เปนหวั ฉดี ทีถ่ ูกพัฒนาข้ึนมาสาํ หรับใชใ นรถรนุ KPHX นี้โดยเฉพาะ มีขนาดเล็ก กระทัดรัดเสียงเบา
21 ตัวควบคุมแรงดนั ( Pressure Regulator ) ติดตั้งอยกู ับปม นา้ํ มันเชือ้ เพลิงในถงั นํ้ามนั มีหนา ท่ีในการรกั ษาแรงดนั น้ํามนั เชื้อเพลงิ ในระบบใหค งที่294 Kpa ตลอดเวลา โดยการระบายแรงดันนา้ํ มันสวนเกนิ กลบั ลงไปในถังนํา้ มนั เชอื้ เพลิงตามเดิม ไปทอ สง จายนาํ้ มนั ไปทอสงจา ยน้าํ มนั ตวั ควบคมุ แรงดนั ตวั ควบคมุ แรงดนั กลับลงถงั นํ้ามัน แรงดันนาํ้ มนั เชอื้ เพลิงปกติ แรงดนั นา้ํ มนั เช้อื เพลิงสูงกวาปกติ ตัวควบคุมแรงดนั กลับลงถังนํ้ามนั 2.ระบบประจอุ ากาศ ทําหนา ที่ประจุอากาศใหก บั เครือ่ งยนตป ระกอบดวย กรองอากาศ เรือนล้ินเรง และทอ ไอดี กรองอากาศ ( Air Cleaner ) ทําหนา ที่กรองสิ่งสกปรกออกจากอากาศทจ่ี ะบรรจเุ ขากระบอกสูบกรองอากาศจะตองมกี ารตรวจเช็คทําความ สะอาดอยเู สมอ และควรเปลีย่ นเม่อื ถึงระยะเวลาท่กี ําหนด เพือ่ ประสิทธิภาพของเคร่อื งยนต เพราะหากกรองอากาศอดุ ตัน จะเปน สาเหตใุ หเครือ่ งยนตส ตารทติดยาก เดินเบาไมเ รียบ หรอื อาจจะสตารท ไมติด และจะสง ผลตอ การทํางานของระบบ อกี ดวย
เรือนลน้ิ เรง ( THROTTLE BODY ) 22 เรอื นล้นิ เรง ชุดเซนเซอร สกรูปรบั รอบเดนิ เบา ท่ตี วั เรือนลิ้นเรงจะประกอบไปดวยอุปกรณท ส่ี ําคัญหลายช้ิน คือ ลิน้ เรง ( Throttle Valve ) สกรูปรบั รอบเดนิ เบา ( Throttle Stop Screw ) ชอ งทางอากาศรอบเดนิ เบา ( Idle Air Passage ) ตวั ตรวจจับตําแหนงลนิ้ เรง ( Throttle Position Sensor : TPS ) ตวั ตรวจจบั อณุ หภูมอิ ากาศ ( Intake Air Temperature Sensor : IAT ) ตัวตรวจจับความดนั ในทอ ไอดี ( Manifold Absolute Pressure Sensor : MAP )
23 ล้ินเรง ( Throttle Valve ) มหี นา ท่คี วบคมุ ปรมิ าณอากาศท่ีไหลเขากระบอกสบู ซงึ่ เปน การควบคมุ ความเร็วรอบของเคร่อื งยนต สกรูปรบั รอบเดินเบา ( Throttle Stop Screw ) สกรปู รับรอบเดนิ เบาจะทําหนาที่เปดชอ งทางใหอากาศไหลเขากระบอกสูบไดโดยไมผ านลนิ้ เรงเน่ืองจากขณะ เคร่ืองยนตเ ดนิ เบาล้ินเรงปดดังนน้ั จงึ ตองมีชองทาง Bypass ใหอากาศผานเขากระบอกสูบ เพ่ือใหเ ครือ่ งยนตเดนิ เบาอยู ไดโ ดยไมด บั ถาปรบั สกรใู หอากาศไหลผา นไดมากจะทําใหค วามเรว็ รอบเดนิ เบาสงู ข้นึ ชอ งทางอากาศเดินเบา สกรูปรบั รอบ Slow Line เดินเบา Main Line หวั ฉดี ลนิ้ เรง สกรูปรับรอบเดินเบา ตัวตรวจจบั อณุ หภูมิอากาศ ตัวตรวจจบั ความดนั ในทอไอดี ตัวตรวจจับตําแหนง ล้นิ เรง
24 ECM : Engine Control Module กลอ งควบคมุ (ECM) ถอื ไดว าเปนสมองกลของระบบฉดี น้ํามันเชอ้ื เพลิงแบบ PGM-FI เปน ไมโครคอมพวิ เตอรท ีป่ ระกอบขึ้นมาจากอปุ กรณทางอเิ ล็กทรอนิกส มหี นาทร่ี ับสัญญาณตา งๆ จากตัวตรวจจบั สญั ญาณ แลว นําไปประมวลผลเพ่ือสั่งจา ยนํ้ามันเชอื้ เพลิงและกําหนดจังหวะในการจุดระเบิดใหม ีความเหมาะสมในทุกสภาวะการ ทํางานของเครื่องยนตเพ่ือการเผาไหมทส่ี มบูรณ โดยกลอ ง ECM จะแยกติดต้ังอยูบริเวณบงั โคลนหลังดานซา ยของตัวรถ เพื่อปอ งกันปญหาเรื่องความรอนท่ี ออกจากเครอื่ งยนต เร่อื งนา้ํ ที่กระเดน็ เขา ทางดานหนา และใหงายตอการบาํ รงุ รักษาหรือถอดเปลี่ยน การตดั การฉดี นาํ้ มันเช้ือเพลงิ กลอง ECM จะตัดการฉดี น้าํ มันเชอ้ื เพลงิ ของหัวฉีด ในบางสภาวะการทํางานของเครื่องยนต เพอื่ ความ ประหยดั และเปนการปอ งกันการสกึ หรอของเคร่ืองยนต คอื 1. ขณะลดความเรว็ รอบของเครอื่ งยนตอ ยางทันทีทันใด เชน ขณะทําการเบรกหรือขบั รถลงจากท่สี งู ซง่ึ เปนภาวะท่ีเครอื่ งยนตไ มตอ งการน้ํามนั เช้อื เพลิงกลองECM จะทาํ การตัดการฉีดนํ้ามันของหัวฉีด โดยกลอง ECM จะไดรับสัญญาณจากตวั ตรวจจับตาํ แหนงล้นิ เรงเปนตาํ แหนงเดินเบา และสญั ญาณความเร็วรอบเครอ่ื งยนต มาเปรยี บเทียบกัน ถา ลิ้นเรงอยใู นตําแหนงเดนิ เบาแตเคร่อื งยนตม ีความเร็วรอบสูง กลอ ง ECM จะตดั การฉีดน้ํามันของหวั ฉดี สวนความเร็วรอบในการตดั จะขึน้ อยกู ับอุณหภมู ิของนาํ้ มนั หลอ ล่ืนที่สง มา จากตัวตรวจจับอุณหภมู นิ ้ํามันหลอ ล่นื โดยมีเงอ่ื นไขดงั นี้ ถาอุณหภูมิของนํ้ามนั เครอื่ งตํา่ ความเร็วรอบในการตดั การฉดี นํ้ามนั เชื้อเพลิงจะสงู ถาอุณหภูมิของนํา้ มนั เครอ่ื งสูง ความเรว็ รอบในการตัดการฉดี นํ้ามันเชือ้ เพลิงจะต่าํ ลง ในการตดั การฉีดนํา้ มนั เช้ือเพลิงจะเปน การตดั เพียงช่ัวขณะเทาน้ัน หลังจากความเรว็ รอบของเครอ่ื งยนตลดลงถึง คาทก่ี ําหนดกลอง ECM จะสั่งใหหวั ฉีด ฉีดน้ํามันตามปกตเิ พื่อไมใ หเครือ่ งยนตด บั
25 2.เมื่อความเรว็ รอบของเครื่องยนตสงู เกินคาท่กี ําหนด กลอ ง ECM จะทาํ การเปรียบเทยี บความเร็วรอบของเคร่ืองยนตท ่สี งมาจากตัวตรวจจับความเร็วรอบของ เคร่ืองยนตกับความเร็วสูงสุดที่ถูกกาํ หนดไวในหนว ยความจาํ หากพบวาความเร็วรอบของเคร่อื งยนตสูงเกนิ คา ที่กําหนดไว กลอ ง ECM จะตดั การฉีดของนํ้ามันของหัวฉีด เพ่อื เปน การปองกนั เคร่อื งยนตเสียหายจากการท่ีความเรว็ รอบสงู เกินไป และเมอ่ื ความเร็วรอบลดต่ําลงกวาคาที่กําหนด กลอง ECM จะสั่งใหห วั ฉีดฉีดนํ้ามนั ตามปกติเพื่อใหเ ครือ่ งยนตทํางาน ตอไปได ระบบวนิ ิจฉยั ขอ ขดั ขอ งดว ยตวั เอง เปนระบบทตี่ ิดต้ังเขา มาเพอ่ื เปน การอาํ นวยความสะดวกกับนายชา ง โดยทร่ี ะบบนี้จะคอยตรวจสอบการทํางานของ เซนเซอรอยตู ลอดเวลาถา เมอ่ื ใดระบบตรวจพบความผดิ ปกตเิ กดิ ขึ้นกับเซนเซอร ระบบก็จะแสดงผลออกมาทางหลอดไฟ FI ซ่งึ ตดิ ต้ังอยูท่ีหนา ปท มเ รอื นไมล โดยการกะพริบของหลอดไฟ FI ใชรปู กบั คูมอื ซอ ม รหสั ขอขัดขอ ง เมอ่ื เปดสวิทชจุดระเบิดไปที่ตําแหนง \" ON \" หลอดไฟจะติดขึ้นมา 2 วินาทีแลวดับลง ถาระบบวนิ ิจฉยั ขอขัดขอ งดว ยตัวเอง ตรวจพบความผิดปกตขิ องอุปกรณ หลอดไฟ \" FI \" จะกะพริบเปนรหัสเพ่ือแจง ปญหาใหทราบ โดย หลอดไฟจะกะพรบิ เมือ่ สวทิ ชอ ยใู นตําแหนง \" ON \" และเครื่องยนตมีความเร็วรอบไมเ กนิ 2000 รอบตอนาที ถา ความเร็วรอบของเคร่อื งยนตสงู กวานี้ หลอดไฟจะติดตลอดและจะกะพริบอีกคร้งั เม่อื ความเร็วรอบของเครอื่ งยนตลดลงตํ่า กวา 2000 รอบตอ นาที ระบบจะตรวจสอบเฉพาะปญหาทีเ่ กิดจากการเปดของวงจรหรอื ปญหาทเ่ี กิดจากการรดั วงจรเทา นัน้ ขอมูลความผิดปกตทิ ่เี กิดขน้ึ จะถูกบันทกึ ไวในกลอง ECM ตลอดไปจนกวา จะมีการแกไขปญหาลบขอมูลโดยการตัด ไฟเล้ยี งกลอง ECM โดยการปดสวทิ ชจ ุดระเบิด
26 รหัสวนิ จิ ฉัยขอขดั ขอ งที่ใชในรถรนุ KPHX จะมีอยู 2 แบบคอื แบบรหัสเดี่ยว และแบบรหสั คู แบบรหสั เด่ียว เปน การแสดงรหสั ขอ ขัดของ 1 รหสั โดยการกะพรบิ ของหลอดไฟ FI ตามจํานวนครงั้ ของรหสั ดว ยความถ่ที ี่ เทา กนั เชน รหัส 3 ก็จะกะพริบ 3 ครัง้ รหสั 7 กจ็ ะกะพรบิ 7 คร้งั วินาที วนิ าที แบบรหสั คู วินาที เปนการแสดงรหสั ขอขดั ขอ ง 2 รหสั โดยการกะพรบิ ของหลอดไฟ FI ตามจํานวนครั้งของรหสั ดวยความถ่ีที่ แตกตางกันเชน รหัส 11 กจ็ ะกะพริบยาว 1 คร้งั สั้น 1 ครง้ั รหัส 12 ก็จะกะพรบิ ยาว 1 ครัง้ ส้ัน 2 คร้งั วินาที วนิ าที
27 ตารางการวินจิ ฉยั ขอ ขัดขอ งดวยตวั เอง จาํ นวนครัง้ การกะพรบิ ของหลอดไฟ FI จะแสดงออกมาเปน รหัสของปญ หาที่เกดิ ข้ึนกบั ระบบ รหสั ปญหา จดุ ท่ีเกดิ ปญ หา สาเหตุ อาการปญหา ไมก ะพริบ ขดลวดพัลซเ ซอร ไมม ีสัญญาณไฟจาก เครอื่ งยนตส ตารทไมต ิด ไมกะพรบิ หวั ฉดี นํ้ามนั เชือ้ เพลงิ ขดลวดพลั ซเ ซอร เคร่ืองยนตส ตารทไมต ดิ ไมก ะพรบิ 1.กรองเช้ือเพลิงอุดตัน เครอื่ งยนตสตารทไมตดิ ไมกะพรบิ ECM 2.เข็มหวั ฉีดติดตาย เครื่องยนตสตารทไมต ดิ ECM ผดิ ปกติ ไมกะพริบ ระบบไฟเลย้ี งหรือกราวด 1.ฟวส 15A ขาด เครอ่ื งยนตทํางานไดเ ปนปกติ ตดิ ตอ เนือ่ ง ของ ECM 2.วงจรเปด ท่สี ายไฟเล้ยี ง กลอ ง ECM เครื่องยนตท ํางานไดเปน ปกติ รหสั 1,8,9 วงจรหลอดไฟ “FI” 3.สวิทชจดุ ระเบิดเสีย 1.ECM ผิดปกติ เครือ่ งยนตติดไดแตเ รงแลวดับ รหัส 1 ขว้ั ตรวจสอบหรือวงจร 2.มกี ารขาดหรือรดั วงจร รหัส 7 ของระบบไฟ “FI” เครอ่ื งยนตท ํางานไดเ ปน ปกติ เซนเซอรทีเ่ รอื นล้นิ เรง 1.มกี ารรัดวงจรที่ข้วั เครือ่ งยนตส ตารทตดิ ยากท่ี ตรวจสอบ อณุ หภูมิตํ่า ตวั ตรวจจบั ความดนั ในทอ 2.มีการรดั วงจรของสาย ไอดี ข้วั ตรวจสอบMIL ตวั ตรวจจบั อณุ หภมู ิ 3.ECM ผิดปกติ นํา้ มนั เคร่ือง 1.ขว้ั ตอของเซนเซอร หลวมหรือไมด ี 2.สายไฟของวงจรขาด หรือรัดวงจร 3.ตัวตรวจจบั เสีย ตัวตรวจจบั ความดนั ใน ทอไอดีเสยี 1.ขัว้ ตอ ของเซนเซอร หลวมหรือไมด ี 2.สายไฟของวงจรขาด หรือรัดวงจร 3.ตัวตรวจจับอุณหภมู ิ นาํ้ มนั เครอ่ื งเสยี
28 รหสั ปญหา จดุ ทเ่ี กิดปญหา สาเหตุ อาการปญ หา รหสั 8 ตัวตรวจจับตําแหนง ลน้ิ เรง 1.ขว้ั ตอของเซนเซอร เครื่องยนตมีการตอบสนองไมด ี หลวมหรอื ไมด ี ในขณะบิดคันเรงทันทที ันใด รหสั 9 ตวั ตรวจจบั อุณหภมู อิ ากาศ 2.สายไฟของวงจรขาด รหสั 12 หัวฉีดนํ้ามันเชอ้ื เพลิง หรือรดั วงจร รหัส 33 EP-ROM ใน ECM 3.ตวั ตรวจจับตําแหนงลน้ิ รหัส 54 ตวั ตรวจจบั การเอยี งของรถ เรงเสีย 1.ขั้วตอของเซนเซอร เครอื่ งยนตทํางานไดเปนปกติ หลวมหรอื ไมดี 2.สายไฟของวงจรขาด หรอื รัดวงจร 3.ตัวตรวจจับอุณหภูมิ อากาศเสีย 1.ขว้ั ตอ สายของหัวฉีด เคร่อื งยนตส ตารทไมต ิด หลวมหรอื ไมดี 2.สายไฟของวงจรหัวฉดี ขาดหรอื รัดวงจร 3.หัวฉีดเสีย ECM ผดิ ปกติ เครื่องยนตท ํางานไดเปนปกติ แตไมส ามารถวเิ คราะหป ญหา ได 1.ข้ัวตอ ของเซนเซอร เคร่ืองยนตทํางานไดเปนปกติ หลวมหรอื ไมด ี 2.สายไฟของวงจรขาด หรอื รดั วงจร 3.ตวั ตรวจจับการเอียง ของรถเสีย
29 การเรียกดูรายการปญ หาทเี่ คยเกดิ ขนึ้ ในอดตี ถาตองการเรยี กดูความผิดพลาดทเ่ี คยเกิดขนึ้ ในหนวยความจาํ ใหท ําตามข้ันตอน ดังนี้ วธิ กี ารเรยี กดูปญหาในหนว ยความจาํ ใชร ูปกบั คูมอื ซอ ม 1. ปด สวิทชกุญแจไปท่ตี ําแหนง “OFF” 2. ถอดฝาครอบดานหนา 3. ถอดฝาครอบขว้ั ตรวจสอบออก ( DLC ) 4. ตอเคร่อื งมอื พิเศษเขา กบั ข้ัวตรวจสอบ 5. เปดสวทิ ชไ ปท่ีตาํ แหนง “ON” ถา ECM ไมมขี อ มูลในระบบวิเคราะหป ญ หาหลอด FI จะติดคางตามรูปแบบดังภาพ รปู แสดงรหสั ขอ มูลทไ่ี มม คี วามผิดปกติ
30 ถา ECM มขี อมลู ในระบบวเิ คราะหป ญหาหลอด FI จะกะพริบแสดงรายการปญหาโดยจะแสดงรหัสเดย่ี วกอ น รหัสคเู สมอ โดยเร่ิมจากรหัสนอยไปหามากและจะวนมาแสดงปญหาเดิมเมอื่ แสดงรายการปญ หาครบแลวจะเปนอยา งนี้ จนกวาจะปดสวิทชจดุ ระเบดิ ดงั ตวั อยาง รปู แสดงรหสั ขอ มูลที่มีความผดิ ปกติ ขน้ั ตอนการลบขอ มูลในหนว ยความจาํ ของระบบวินจิ ฉยั ขอ ขัดของดว ยตัวเอง 1. ปด สวิทชกุญแจไปทตี่ ําแหนง “OFF” ใชรปู กับคูมอื ซอ ม 2. ถอดฝาครอบดา นหนา 3. ถอดฝาครอบขั้วตรวจสอบออก ( DLC ) 4. ตอ เคร่อื งมือพิเศษเขา กับขั้วตรวจสอบ 5. เปดสวทิ ชไ ปที่ตาํ แหนง “ON” 6. ถอดเครื่องมือพเิ ศษออกจากข้วั ตรวจสอบ 7. ตอเคร่ืองมือพิเศษเขา กบั ข้ัวตรวจสอบอีกครง้ั ภายใน 5 วินาที ถาหลอดไฟ FI ดบั และเริ่มกระพริบ แสดงวา ขอ มูลในหนวยความจาํ ของระบบวิเคราะหปญ หาดว ยตัวเองถูกลบสําเร็จ ถาปดสวิทชแลวเปดใหมอ กี คร้ังหลอดไฟ FI จะตองติดตลอด
31 ใชรปู กับคูมือซอม รูปแบบของการลบขอมูลท่ีประสบความสาํ เรจ็ ถาตอ ข้ัวตรวจสอบไมท นั ภายใน 5 วินาที แลว หลอดไฟ FI ดบั และตดิ ข้ึนมาใหมโ ดยไมก ะพรบิ แสดงวาการ ลบขอมูลไมสาํ เรจ็ ใชรูปกบั คูมอื ซอม รปู แบบของการลบขอ มลู ท่ไี มประสบความสาํ เร็จ ถา ปดสวทิ ชแ ลวเปด ใหมหลอดไฟ “FI” จะกะพรบิ ตามรหสั ปญหาทเี่ กิดข้ึน ใหย อนกลบั ไปเริ่มตน ใหมที่ ขั้นตอนที่ 4
32 ขนั้ ตอนการ ปรับตงั้ ตัวตรวจจับตาํ แหนงลิน้ เรง ใชรูปกบั คูมือซอ ม 1. ปด สวทิ ชไปทีต่ ําแหนง “OFF” 2. ถอดฝาครอบของข้ัวตรวจสอบออก 3. ตอเครือ่ งมือพเิ ศษเขากับขัวตรวจสอบ 4. ถอดขว้ั ตอของตัวตรวจจบั อุณหภูมิน้าํ มันเครอ่ื ง แลวชอ ตขั้วสายไฟดังรปู ตําแหนง : สายสเี หลอื ง/น้ําเงนิ กับ สายสีเขียว/สม 5. เปดสวิทซจดุ ระเบดิ ไปที่ตําแหนง “ON” ยกเลกิ การชอ ตข้ัวสายดังกลาวภายในระยะเวลา 10 วนิ าที ถาการปรับต้ังสาํ เร็จการกะพรบิ ของหลอดไฟจะมีรปู แบบดังภาพ ใชรูปกบั คูมอื ซอม รปู แบบของการปรับตงั้ ทปี่ ระสบความสําเร็จ
33 ถายกเลิกการชอ ตสายดงั กลาวไมทนั ในเวลา 10 วินาทหี ลอดไฟจะติดตลอดดงั ภาพดานลาง แสดงวา การปรับต้ัง ไมสําเร็จ ใชรปู กบั คูมอื ซอม รปู แบบการปรับตงั้ ทไ่ี มป ระสบความสาํ เร็จ ถา การปรับตั้งไมสาํ เร็จใหกลบั ไปเรม่ิ ตน ใหมท ี่ขั้นตอนที่ 4 ใชรปู กับคูมอื ซอ ม ถาการปรับต้ังสําเรจ็ ใหทาํ ขัน้ ตอนตอไป 6. ปดสวิทชจดุ ระเบดิ ไปท่ีตาํ แหนง \"OFF\" 7. ตอข้วั ตอเขา กับตัวตรวจจบั อุณหภมู นิ ํ้ามนั เคร่ือง 8. ถอดเคร่ืองมอื พเิ ศษออกจากขั้วตรวจสอบ 9. ประกอบฝาครอบข้วั ตรวจสอบกลบั คืน 10. ตง้ั รถดวยขาตง้ั กลางเขา เกียรว าง อุน เครอ่ื งยนตเปนเวลา 10 นาที ตรวจสอบความเรว็ รอบเดินเบา มาตรฐาน : 1,4000 + 100 รอบตอ นาที
34 การถอดทอนํา้ มันแรงดนั สูง ขั้นตอน 1. ลดแรงดนั นํ้ามันในระบบโดยการถอดปล๊ักไฟทเี่ ขาปม นาํ้ มันเช้ือเพลิงออกแลวสตารท เคร่อื งยนตรอจน เคร่อื งยนตดับไปเอง 2. ปลดยางรองขอตอ ทอ นา้ํ มันโดยการดึงใหหลุดออกจากขอ ตอดังภาพ ยางรองทอน้ํามัน 3. ปลดลอ กขอตอ ทอ นา้ํ มันโดยการกดท่ปี มุ ปลดลอกจนเขี้ยวลอ กหบุ เขา ไปแลวดึงขอตอออกตามทศิ ทางของหัว ลูกศร ปุมปลดลอ ก กด กด เขีย้ วลอก
35 4. ใชถุงพลาสติกหมุ ทขี่ อตอทง้ั สองดา นเพอ่ื ปอ งกันสิง่ สกปรกเขา ไป หมายเหตุ กอ นทาํ การถอดทอ น้ํามันใหทําการลดแรงดันน้ํามันในระบบกอนทุกครงั้ ข้นั ตอนการประกอบทอ นํา้ มัน 1. ใสตวั ลอกเขาไปในขอ ตอ โดยใหเขย้ี วลอ กอยูตรงกับชองลอกท่ขี อ ตอดงั ภาพ ขอ ตอ เขีย้ วลอ ก ชอ งลอ ก ปมุ ปลดลอ ก
36 3. จัดยางรองขอ ตอ ทอน้ํามนั ใหเขา ท่ีแลวเสยี บขอตอเขากับทอน้ํามันทตี่ วั ปมน้าํ มนั เช้ือเพลิงเขาไปให สุด จนไดยินเสียงดงั “คลก๊ิ ” ตามภาพ ทอนา้ํ มันเช้ือเพลิงที่ปม นาํ้ มัน ยางรองขอ ตอทอ นํา้ มัน ขอตอ ทอ น้ํามัน 4. ทดสอบความแนน โดยการดงึ เขาออกตามภาพ การประกอบทอนาํ้ มนั ดา นหวั ฉดี 1. ใสต ัวลอ กเขาไปในขอตอ โดยใหเข้ยี วลอกอยูตรงกับชอ งลอกที่ขอตอดังภาพ ขอ ตอ เข้ยี วลอ ก ชอ งลอ ก ปมุ ปลดลอก
37 2. จัดยางรองขอตอทอ นํ้ามนั เขา ทีแ่ ลวเสยี บขั้อตอ เขา ไปโดยใหปมุ ปลดลอ กท่ีขอตอ ตรงกับปมุ ลอกทย่ี างรองขอ ตอใหสุด จนไดยนิ เสยี งดัง “คล๊กิ ”ตามภาพ ปุมลอ ก ยางรองขอตอทอ นา้ํ มนั ขอตอทอ นาํ้ มัน ปญ หาขอ ขัดขอ ง ผิดปกติ สาเหตุที่เปนไปได ผิดปกติ เคร่ืองยนตสตารทไมตดิ หรือตดิ ยาก ไมไ ดยนิ เสียง 1.แบตเตอรบี่ กพรอ ง 1.ตรวจสอบระบบไฟชารจ ผดิ ปกติ 2.ระบบไฟชารจบกพรอ ง ปกติ 1.กลอ ง ECM บกพรอ ง 2.ตรวจสอบระบบ PGM-FI ปกติ 1.ขว้ั ตอ ปม นํ้ามันเช้อื เพลิงหลวม หรอื หลดุ 3.ตรวจสอบเสยี งการทํางานของ 2.สายไฟปม น้ํามนั เช้ือเพลงิ ปม นํา้ มันเชอ้ื เพลงิ ลัดวงจรขาดหรอื ลัดวงจร 3.ปม น้าํ มันเช้ือเพลิงบกพรอ ง ไดย นิ เสยี ง 1.ปม น้าํ มันเชอ้ื เพลิงบกพรอง 4.ตรวจสอบแรงดันและอตั ราการ 2.กลอง ECM บกพรอ ง ไหลของน้าํ มันเชอื้ เพลิง ปกติ
38 5.ทดสอบประกายไฟทห่ี ัวเทยี น ไฟออ นหรอื ไมมีประกายไฟ 1.หัวเทียนบกพรอง ประกายไฟดี กาํ ลังอดั ต่ํา 2.หวั เทยี นสกปรก 3.สายหัวเทยี นขาดหรอื ลัดวงจร 6.ทดสอบกําลังอัดในกระบอก 4.ขดลวดพัลซเ ซอรบกพรอ ง สูบ 5.สายไฟระบบจุดระเบดิ หลวม กําลังอัดปกติ หรือหลดุ 1.วาลวเปด คาง 2.เสอ้ื สบู และแหวนลูกสบู สกึ หรอ 3.ปะเก็นฝาสูบเสียหาย 4.จังหวะเปด -ปดวาลว ผิด 7.สตารท เครอื่ งยนตตามปกติ เครอ่ื งยนตติดแตดับ 1.ทอ ไอดีรว่ั เครือ่ งยนตไ มตดิ 2.จงั หวะจุดระเบิดผิด(ขดลวด 8.ถอดหัวเทยี นและตรวจสอบ หัวเทยี นเปย ก พัลซเ ซอรผดิ ปกต)ิ หัวเทียนแหง 3.น้าํ มนั สกปรก 1.ไสกรองอากาศอุดตนั 2.กลอ ง CEM บกพรอ ง 1.หวั ฉดี บกพรอง
39 เครื่องยนตไ มม กี ําลงั หมนุ ไมค ลอ ง สาเหตุท่ีเปนไปได 1.ใหพ น พ้ืนแลวยกลอ ขนึ้ แลวใช 1.เบรกติด มือหมุน 2.ลกู ปนลอ สกึ หรอหรอื เสยี ลอหมนุ ไดอยางอิสระ 2.ตรวจแรงดันลมยาง ลมยางออ น 1.จุดลมยางเสยี ปกติ 2.ยางรว่ั 3.เรง เครอ่ื งทันทจี ากเกยี รตา่ํ ไป ความเรว็ ไมเ ปล่ียน 1.คลัทชล น่ื เกียร 2 เมอื่ เปลยี่ นเกยี ร 2.แผน ผา คลทั ช/ แผน เหล็กคลทั ช ความเร็วลดลงเม่ือเปลยี่ นเกยี ร ความเรว็ ไมเ พม่ิ ข้ึน สึกหรอ ไมถ กู ตอง 3.แผน ผา คลัทช/แผนเหล็กคลทั ช 4.คอ ยๆเรงเคร่ืองยนต ความเรว็ เพมิ่ ข้ึน โกงงอ 4.สปริงคลทั ชอ อน 5.ตรวจสอบจังหวะจดุ ระเบิด 5.นาํ้ มนั เคร่อื งสกปรก ถกู ตอ ง 1.ไสก รองอากาศสกปรก 2.น้ํามนั เชอื้ เพลิงไหลลงไมท นั 3.ทอ ไอเสียอุดตัน 4.ทอ ระบายถังนาํ้ มนั เชื้อเพลิงถูก กดทบั 1.กลอ ง ECM บกพรอง 2.ขดลวดพลั ซเซอรบ กพรอ ง 6.ทดสอบกําลงั อดั ภายใน ไมถ ูกตอ ง 1.วาลวเปดคาง กระบอกสบู 2.เสือ้ สบู และแหวนลกู สูบสึกหรอ 3.ปะเก็นฝาสบู รั่ว ปกติ 4.จังหวะเปดปด วาลวผิด
40 7.ตรวจสอบแรงดันและอตั ราการ ไหลของนํ้ามันเช้ือเพลิง ปกติ 1.ปม นา้ํ มันเช้อื เพลงิ บกพรอ ง ปกติ 2.กลอง ECM บกพรอง 8. ถอดหัวเทยี น หัวเทยี นสกปรกหรือเปลย่ี นสี หัวเทียนสะอาดหรอื ไมเปลี่ยนสี 1.หวั เทยี นบกพรอ ง 9.ตรวจเช็คระดับนํา้ มันและ ไมถูกตอง 1. นาํ้ มนั เชอ้ื เพลงิ มากเกนิ ไป สภาพของนํา้ มนั 2. น้าํ มนั เชื้อเพลงิ นอยเกนิ ไป กลไกวาลวไดรบั การ 3. น้ํามนั เช้อื เพลงิ สกปรก ถกู ตอง หลอ ล่ืนไมสมบรู ณ 1. ทางเดินน้ํามันอดุ ตัน 10.ถอดฝาครอบฝาสูบและเช็ค 2. รนู ํ้ามันอดุ คัน การหลอลืน่ กลไกวาลวไดร ับการหลอล่ืน สมบูรณ 11.เช็คความรอ นเคร่ืองยนต รอ นมากไป 1.มเี ขมาในหอ งเผาไหมม ากเกินไป ไมร อ น เครื่องยนตน อ ก 2.ใชน ้ํามนั ท่มี คี ุณภาพตํ่า 3.ใชน้ํามันผิดประเภท 12.เรง เครอ่ื งยนตทนั ทหี รือว่ิงท่ี 4.คลัตชล ่ืน ความเรว็ สูง 1.ลูกสบู และเสื้อสบู สึกหรอ 2.ใชน ํ้ามนั ผิดประเภท เครอ่ื งยนตไมนอ็ ก 3.มเี ขมา ในหอ งเผาไหมมากเกินไป 4.จุดระเบดิ ลวงหนา (กลอ ง ECM บกพรอ ง ) 5.สว นผสมน้ํามันกบั อากาศบางเกินไป ( หัวฉดี บกพรอง )
41 เคร่ืองยนตไ มม ีกําลงั ท่คี วามเร็วต่ําและรอบเดนิ เบา สาเหตุท่เี ปน ไปได 1.ตรวจสอบจงั หวะจุดระเบดิ ไมถูกตอง 1.จงั หวะจุดระเบิดไมถ ูกตอ ง ถูกตอ ง 2.(ขดลวดพลั ซเซอรบ กพรอ ง) 2.ตรวจสอบแรงดนั และอัตราการ ผิดปกติ 1.ปม นํ้ามันเชื้อเพลงิ บกพรอ ง ไหลของนาํ้ มันเชอื้ เพลิง 2.กลอง ECM บกพรอง รว่ั ปกติ 1.โบลทย ึดหรือเขม็ ขดั รัดทอไอดี ออ นหรือมี หลวม 3.ตรวจสอบการรว่ั ของทอ ไอดี เปนชวง ๆ ไมร่วั 2.ทอ ไอดเี สียหาย 4.ทดสอบหัวเทียน 1.หวั เทยี นบกพรอ ง 2.หวั เทียนมเี ขมาหรอื เปย ก ดี 3.กลอง ECM บกพรอ ง 4.คอยลจดุ ระเบิดบกพรอ ง 5.สายหวั เทียนลัดวงจรหรือขาด 6.ขดลวดพลั ซเซอรบกพรอง 7.สวิตซจ ุดระเบิดบกพรอง 8.สายไฟระบบจุดระเบิดหลวม หรอื หลุด 9.หัวฉดี บกพรอ ง
42 เครอื่ งยนตไ มม กี ําลังท่ีความเร็วสงู ไมถูกตอ ง สาเหตุทีเ่ ปน ไปได 1.ตรวจสอบจังหวะจุดระเบดิ 1.กลอ ง ECM บกพรอง ถูกตอ ง 2.ตรวจสอบแรงดนั และอตั รา ผดิ ปกติ 1.ปมนา้ํ มนั เชอื้ เพลงิ บกพรอ ง การไหลของนา้ํ มันเชื้อเพลิง ไมถกู ตอง 2.กลอง ECM บกพรอ ง ปกติ สปริงออ น 1.ประกอบเพลาลูกเบย้ี วไมถกู ตอง 3.ตรวจสอบจงั หวะเปดปด วาลว 1.สปริงวาลวบกพรอง ถกู ตอง 2.หัวฉีดบกพรอง 4.ตรวจสอบสปรงิ วาลว สปรงิ ไมออน
วงจรสตารท R R/W 43 B/L Y/R 15 A MOTOR Bat1 V01 B/L G1 R Bat2 V02 Y/R G1 R/L ECM G1
วงจรควบคมุ หัวฉีด B/L 44 15 A ECM R Bat1 V01 Bat2 V02 G1 Bat1 V01 B/L ECM Bat2 V02 วงจรจดุ ระเบดิ 15 A R G1
วงจรควบคมุ ปมนํ้ามนั เชื้อเพลิง 45 Bat1 V01 B/L ECM Bat2 V02 15 A R G1 Bat1 V01 B/L ECM Bat2 V02 วงจรไฟเลี้ยงเรือนไมล SP METER 15 A G1 R G1
ระบบไฟสญั ญาณ Bat1 V01 B/L 46 Bat2 V02 10A ECM 15A R G1
ระบบไฟแสงสวาง 47 ECM Bat1 V01 B/L Bat2 V02 15 A R G1
Search