¤ÁÙ Í× µ´Ô µÍ ÃÒª¡ÒÃÈÒÅ ©ºÑº»ÃЪҪ¹ จัดทําโดย : สวนบรกิ ารประชาชนและประชาสัมพันธ ศาลจงั หวดั สระแกว https://sakc.coj.go.th ติดตอ สอบถาม โทร 0 3742 5096-7 ตอ 105
สารบญั หนา้ เรอื ง 1. ขอ้ ควรรู้เกยี วกบั กฎหมายทวั ไป 2. การคุ้มครองสทิ ธเิสรภี าพในคดอี าญา 3. การปลอ่ ยชวั คราวและการบงั คบั คดผี ูป้ ระกนั 4. การไกลเ่ กลยี และการระงบั ขอ้ พพิ าท 5. ระบบสารสนเทศและการให้บรกิ ารประชาชน
¢Í ¤ÇÃÃÙà¡ÂÕè Ç¡ºÑ ¡®ËÁÒ·èÇÑ ä» ¤´ÕÍÒÒ ¤Í× ¤´Õ·èàÕ ¡´Ô ¢éÖ¹¨Ò¡¡ÒáÃзÒí ½Ò ½¹ ¢Í ËÒÁ¢Í§¡®ËÁÒ·պè ÑѵÔÇÒ ¡Òà ¡ÃзÒí ´Ñ§¡ÅÒǹéѹ໹ ¤ÇÒÁ¼Ô´áÅÐÁºÕ ·Å§â·É ·Ò§ÍÒÒà¡èÂÕ Ç¡Ñº¤ÇÒÁ¼Ô´áÅÐâ·É «§èÖ ¡íÒ˹´äÇã ¹»ÃÐÁÇÅ¡®ËÁÒÂÍÒÒáÅС®ËÁÒÂÍ×¹è «§Öè â·É ·Ò§ÍÒÒÁÍÕ ÂÙ 5 »ÃСÒäÍ× »ÃÐËÒêÇÕ Ôµ ¨Òí ¤¡Ø ¡¡Ñ ¢Ñ§ »ÃѺ áÅÐÃÔº·ÃѾÂÊ¹Ô â´Â¤´ÍÕ ÒÒầ໹ 2 »ÃÐàÀ· ¤×Í (1) ¤´ÕÍÒÒ·èÕÂÍÁ¤ÇÒÁäÁä´Ë ÃÍ× ¤´ÍÕ ÒÒá¼¹´Ô¹ હ ¤´ÅÕ ¡Ñ ·ÃѾ ¤´©Õ Íâ¡§»ÃЪҪ¹ ໹µ¹ (2) ¤´ÕÍÒÒ·èÕÂÍÁ¤ÇÒÁä´Ë Ã×ͤ´ÍÕ ÒÒ¤ÇÒÁ¼´Ô µÍÊÇ ¹µÇÑ àª¹ ¤´ÂÕ Ñ¡ÂÍ¡·ÃѾ ¤´©Õ Í â¡§ ໹µ¹
â·É·âÒ·§ÍÉÒ·ÒÒ§ÁÍÕ 5ÒʶÒÒ¹ ä´á¡ 1. »ÃÐËÒêÕÇÔµ â´Â¨íÒàŨж١´íÒà¹Ô¹¡ÒôÇ¡ÒéմÂÒËÃ×Í ÊÒþÉÔ ã˵ Ò 2. ¨íÒ¤¡Ø â´Â¨íÒàŨж١¨Í§¨Òí äÇã¹àÃÍ× ¹¨íÒ ¡ÒäíҹdzÃÐÂÐàÇÅÒ ¨íҤء¨Ð¹ÑºÇѹàÃèÔÁ¨íҤءÃÇÁà¢Ò´Ç áÅйѺ໹ 1 ÇѹàµçÁ â´ÂäÁ ¤Òí ¹Ö§¶Ö§¨íҹǹªèÑÇâÁ§ ¶ÒÃÐÂÐàÇÅÒ¨íҤء¡íÒ˹´à»¹à´×͹ ¡ç¹Ñº 30 Çѹ໹ 1 à´×͹ ¶Ò¡íÒ˹´à»¹»¡ç¤íҹdzµÒÁ»»¯Ô·Ô¹ 㹡óշèÕ ¨íÒàŶ١µÍ§¢Ñ§ÍÂ١͹Çѹ·èÕÈÒÅÁÕ¤íÒ¾Ô¾Ò¡ÉÒ ã˹íÒÁÒËÑ¡ÍÍ¡¨Ò¡ â·É¨íҤء´Ç  3. ¡Ñ¡¢Ñ§ ¨íÒàŨж١¡Ñ¡¢Ñ§äÇã¹Ê¶Ò¹·èÕ¡Ñ¡¢Ñ§«èÖ§¡íÒ˹´äÇ áµäÁ㪠àÃ×͹¨íÒ 4. »ÃºÑ ¨íÒàŨеͧ¹íÒà§Ô¹ÁÒªíÒÃÐ¤Ò»ÃºÑ µÒÁ¤íÒ¾Ô¾Ò¡ÉҢͧÈÒÅ ËÒ¡¨íÒàÅÂäÁªíÒÃФһÃѺµÒÁ¤íÒ¾Ô¾Ò¡ÉҨж١¡Ñ¡¢Ñ§á·¹¤Ò»ÃѺ â´Â¡Òáѡ¢Ñ§á·¹¤Ò»ÃѺ¨Ð¶×ÍÍѵÃÒ 500 ºÒ· µÍÇѹ áÅÐËÒ¡ ¨íÒàÅÂà¤Â¶¡Ù ¤ØÁ¢§Ñ Áҡ͹äÁÇ Ò ¨Ð໹ª¹Ñé ÊͺÊǹËÃ×Í¢éѹÈÒÅ ÈÒÅ ¨Ð¹Òí Çѹ·è¨Õ íÒàŶ¡Ù ¤ÁØ ¢Ñ§ÁÒËÑ¡ÍÍ¡´Ç  5. ÃºÔ ·ÃѾ ໹ â·É·¡Õè ÃзíÒá¡·ÃѾ· èÕ¶¡Ù ÂÖ´äÇà »¹ ¢Í§¡ÅÒ§
¤´áÕ ¾§ ¤×ͤ´Õ·èÕÁÕ¡ÒÃâµá§ÊÔ·¸Ô ËÃ×Í˹ҷÕè¢Í§ºØ¤¤ÅµÒÁ ¡®ËÁÒÂá¾§ હ ¡Òÿͧã˼١٪íÒÃÐà§Ô¹µÒÁÊÑÒ¡Ù ËÃ×Í ¡Òÿͧã˼ٷíÒÅÐàÁÔ´ª´ãª¤ÒàÊÕÂËÒÂ໹µ¹ ¨ÐàËç¹ä´ÇÒ Çѵ¶Ø»ÃÐʧ¤¢Í§¡Òÿͧ¤´Õá¾§Áاã˨íÒàŪíÒÃÐà§Ô¹ËÃ×Í ª´ãª¤ Ò àÊÕÂËÒ ÁäÔ ´Á§Ø ¨Ðã˨ íÒàÅÂµÍ §¶¡Ù ŧâ·É હ ¨Òí ¤¡Ø µÒÁ¡®ËÁÒÂÍÒÒ ¤´Õá¾§ ¹Í¡¨Ò¡à»¹àÃ×èͧ¾Ô¾Ò·¡Ñ¹´Ñ§¡ÅÒÇáÅÇ ÍÒ¨ ໹àÃ×èͧ·èÕ¡®ËÁÒ¡íÒ˹´ã˺ؤ¤ÅãªÊÔ·¸Ô·Ò§ÈÒÅà¾è×ÍÃѺÃͧ ¤ØÁ¤ÃͧÊÔ·¸Ô¢Í§µ¹ હ ¡ÒÃÃͧ¢ÍãËÈÒÅÁÕ¤íÒÊèѧáÊ´§ ¡ÃÃÁÊÔ·¸Ôìã¹·Õè´Ô¹ â´Â¡ÒäÃͺ¤Ãͧ»Ã»¡É«Öè§¶Í× à»¹¤´ÕäÁÁÕ ¢Í ¾¾Ô Ò·
สทิ ธขิ องจาํ เลยเม่อื ถูกฟอ งคดตี อ ศาล 1. แตง ต้ังทนายความเพ่ือแกต างในชั้นไตสวนมลู ฟอง หรอื พิจารณาในศาลชน้ั ตน 2. ปรกึ ษาทนายความหรอื ผูทีจ่ ะเปนทนายความเปน การเฉพาะตวั 3. ตรวจดูสํานวนการไตส วนมลู ฟองหรอื พิจารณาของ ศาล คดั สาํ เนาหรอื ขอสาํ เนาท่ีมกี ารรบั รองวาถูกตอ ง โดยเสยี คา ธรรมเนียม 4. ตรวจดสู งิ่ ท่ยี นื่ เปนพยานหลักฐาน คัดสําเนาหรือ ถา ยรปู สิง่ นัน้ ๆ 5. ตรวจหรอื คดั สาํ เนาคาํ ใหก ารของตนในชั้นสอบสวน หรอื เอกสารประกอบคําใหการของตน 6. ย่นื คาํ รองขอปลอยช่วั คราวตอ ศาล 6. คดั คา นองคค ณะผูพ พิ ากษา
การเตรยี มตวั ไปศาลในฐานะจําเลยคดอี าญา 1. นาํ หมายนดั หรือหมายเรียก และสําเนาคาํ ฟอ งไปดวย 2. เตรียมสาํ เนาทะเบยี นบานและบัตรประจาํ ตวั ประชาชน 3. เตรยี มหลกั ทรพั ยเ พอ่ื ประกนั ตัว โดยใหสอบถาม ราคามาตรฐานกลางในการประกนั ตัวตอศาลน้ัน ๆ ไปกอ น 4. แตง กายใหส ุภาพเรียบรอย หมายเหตุ ควรปรึกษาและแตงต้ังทนายความ หากตอ งการจะตอสคู ดี
ขอ ควรปฏบิ ตั เิ มอื่ ถกู ฟองในคดอี าญา 1. เมอ่ื ถูกฟองเปน จําเลย ควรปรกึ ษาทนายความและแตงตั้งทนายความ เพ่อื วาความและดําเนินการทางศาลแทน 2. เมอ่ื จําเลยไดรับหมายเรยี กใหยน่ื คาํ ใหก าร จะตอ งยน่ื ใหก ารภาย กาํ หนดตามทีร่ ะบไุ วในหมายเรียก 3.การนบั ระยะเวลาย่ืนคาํ ใหก าร จะเร่มิ นับต้ังแตว นั ท่จี ําเลย ไดร บั หมายเรยี กและสําเนาคาํ ฟอ ง หรอื บุคคลอ่ืนท่ีอายเุ กิน 20 ป ซ่ึงอยใู นบา นหรือท่ีทาํ งานเดียวกบั จําเลย รบั หมายเรียกและสาํ เนา คาํ ฟอ งใหแกจาํ เลยดว ยการปด หมายเรียกและสาํ เนาคําฟอ งไว ท่ีบา นหรือที่ทํางานของจาํ เลย หรอื ประกาศโฆษณาทาง หนงั สือพมิ พ การนับระยะเวลาจะเร่ิมนบั เม่ือพน 15 วัน นบั แตว ัน ปดหรือวันประกาศโฆษณา ซ่ึงถาจําเลยไมส ามารถยนื่ คําใหการได โดยตอ งมเี หตุผลพเิ ศษอางเหตุท่ีขอขยายระยะเวลาน้ัน จากนัน้ จึง เปน ดลุ พินิจของศาลทีจ่ ะอนญุ าตหรือไมอ นญุ าต
4. เตรยี มหลกั ประกนั เพอื่ ย่นื คํารอ งขอปลอ ยช่ัวคราวตอศาล 5.จะตองมาศาลตามกําหนดนัด หากไมมาตามหมายเรียกหรือ หมายนดั โดยไมมีขอ แกต ัวอนั สมควรเปน เหตุใหศาลออกหมายจับได 6.หากมีขอสงสัยประการใดใหโทรศัพทสอบถามเจาหนาที่ของ ศาลทจี่ ําเลยถกู ฟองกอนไปศาล
เม่อื อยใู นหองพจิ ารณาคดี ตอ งปฏบิ ัตติ นอยางไร การปฏบิ ัติตนเม่ือเขาไปในหองพจิ ารณาคดี ควรปฏบิ ัตติ นดงั น้ี 1.เมอื่ ผูพ พิ ากษาออกน่ังบนบัลลงั ก ผทู ี่อยูใ นหอ งพิจารณา คดีตอ งลุกขนึ้ ยืนคาํ ความเคารพ 2.ขณะน่ังฟง การพิจารณาคดีตอ งไมพ ูดคุยกัน ไมน ั่งหลับ ไม สวมแวนตาดํา ไมน่ังไขวหาง ไมส ูบบหุ ร่ี ไมอานหนังสอื พิมพ ไม รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ไมพูดคุยโทรศัพท ไมถายรูป หรือแสดงกิริยาท่ีเปนการรบกวนการพิจารณาคดีของศาล หาก บุคคลใดมีขอความจะแถลงตอศาลตองขออนุญาตศาลและลุก ขน้ึ ยืนพดู หามน่งั พดู โดยเด็ดขาด 3.เมื่อเขามาในหอ งพิจารณาคดีตอ งปดเสียงโทรศัพทมือถือ และอุปกรณอ เิ ล็กทรอนกิ สท กุ ประเภท เพ่ือมิใหเกิดเสียงรบกวน ขณะศาลพจิ ารณาคดี 4.เมื่อศาลอานรายงานกระบวนการพิจารณาคดีใด ผูท่ี เกี่ยวของคดีนั้นตองลุกข้ึนยืนฟงศาลอานรายงานกระบวน พิจารณา
การเบิกความ คืออะไร การท่ีบุคคลไปใหขอมูลแกศาลในการดําเนินกระบวน พิจารณาคดีเพ่ือใหศาลใชขอมูลท่ีไดรับประกอบการพิจารณา พพิ ากษาคดนี ้ัน โดยการใหขอ มูลดงั กลา วจะทาํ ดวยการใหบุคคล ที่ไปเบกิ ความตอบคําถามของศาลหรือของคูความแตล ะฝาย พยานควรเบิกความเฉพาะเทาท่ีตนไดเห็น ไดยิน หรือได ทราบโดยตรงเทาน้ัน และตองเบิกความดวยวาจา และหาม พยานอานขอ ความทีจ่ ดหรอื เขียนมา เวน แตจะไดรบั อนญุ าตจาก ศาล หากเกิดเหตุการณที่พยานไมแนใจหรือจําไมได ใหตอบไป ตรงๆ วาพยานไมแนใจหรือจําไมได ถาพยานฟงคําถามของ คูความหรือทนายความไมชัดเจน พยานอาจขอใหคูความหรือ ทนายความทวนคาํ ถามใหมได เมือเบิกความเสร็จแลวศาลจะอานคําเบิกความท่ีบันทึก ใหแกพยานฟง ถาพยานเห็นวามีขอความใดไมตรงกับที่ไดเบิก ความไวพ ยานก็สามารถทักทวงขอแกไ ขไดหากขอความดังกลาว ถูกตองทั้งหมดแลวศาลจะใหพยานลงลายมือช่ือไวทายคําเบิก ความและเปน อันเสรจ็ ส้นิ การเปนพยาน
ทําอยา งไร เมอ่ื ไดร ับหมายเรยี กใหไปเบกิ ความ 1.เม่ือไดรับหมายเรยี ก ควรดูอยางรอบคอบวา เปน หมาย ของศาลใดศาลน้ันต้ังอยูที่ใด ตองเบิกความในวันและเวลาใด หากมีขอสงสัยควรโทรศัพทสอบถามไปยังศาลตามหมายเลข โทรศพั ทและทอ่ี ยดู านลางของหมายเรียก 2.ไปศาลตามวันและเวลานัด แตหากมีความจําเปนไม อาจไปศาลตามกาํ หนดได ตองรีบแจง ใหศ าลทราบกอ นวนั นัด เพราะการขัดขืนไมไปศาลอาจถูกศาลออกหมายจับเพ่ือเอา ตัวกักขงั ไวจ นกวา จะเบิกความและยงั ถือวาเปนความผิด ตอง ระวางโทษจาํ คุกไมเกิน 6 เดือน หรือปรับไมเกิน 1,000 บาท หรือทง้ั จําทง้ั ปรับ 3.ตรวจหมายเลขหองพจิ ารณาคดีและรอการเบิกความ ท่ีหองพิจารณาคดี ควรนําหมายเรียกติดตัวไปศาลดวย เพ่ือ ความสะดวกในการตดิ ตอสอบถาม และเม่ือมาถงึ ศาลแลวให ตรวจสอบบัญชีนัดความของศาลหรือสอบถามจากพนักงาน ตอ นรับประจาํ ศาล
4. หากมาเปนพยานกอนเบิกความพยามตองสาบานตน ตามลัทธิศาสนาที่ตนเองนับถือหรือปฏิญาณวาจะใหการตาม ความสัตยจริงเสียกอ นยกเวน บุคคลที่มีอายตุ ่ํากวา 15 ป หรือ บุคคลท่ีศาลเห็นวา หยอนความรูสึกผิดชอบ หรือพระภิกษุหรือ สามเณรในพทุ ธศาสนา ผทู ่ขี ัดขนื คําสง่ั ของศาลท่ีใหสาบานตน จะมีความผิดระวางโทษจําคุกไมเกิน 6 เดือนหรือปรับไมเกิน 1,000 บาท หรือท้ังจาํ ทง้ั ปรบั
กรณถี กู ออกหมายจบั โดยศาล จะตอ งทาํ อยางไร การจบั บคุ คลใดตอ งมหี มายจับท่ีออกโดยศาล ยกเวน กรณดี งั นี้ 1.บคุ คลนน้ั กระทําความผดิ ซึง่ หนา 2.มพี ฤติกรรมอนั ควรสงสัยวาบุคคลน้ันนา จะกอเหตรุ ายให เกิดภยันตรายแกบุคคลหรือทรัพยสินของผูอ่ืน โดยมีเครื่องมือ อาวธุ วตั ถอุ ยางอน่ื ท่ีสามารถใชก ระทาํ ผิด 3.มเี หตทุ จ่ี ะออกหมายจับบุคคลนน้ั แตมีความจําเปน เรงดวนทไ่ี มอ าจขอใหศ าลออกหมายจับบคุ คลนั้นได 4.เปนการจบั ผูตอ งหาหรอื จําเลยทีห่ นีหรอื จะหลบหนี
เมอ่ื ถูกจบั กุมตวั ตองตรวจดูหมายจบั โดยควรตรวจสอบดงั น้ี 1.สถานทอี่ อกหมายจับ ตอ งออกโดยศาล 2.วัน เดอื น ปท่ีออกหมายจบั 3.เหตทุ ีต่ อ งออกหมายจบั 4.ชื่อ และรปู พรรณของบคุ คลทจ่ี ะจบั 5.ความผิดที่ระบุในหมายจบั 6.ลายมอื ช่อื ผูพพิ ากษา และตราประทับของศาล แมจ ะมหี มายจับ เจา พนกั งานตามหมายจบั จะไปจบั ตัวในทีร่ โหฐาน (ทีส่ ว นตวั ) ไมได เวนแต จะมหี มายคน หรอื มเี หตุตามกฎหมายทเ่ี จาพนักงานตามกฎหมายมี สทิ ธิเขา ไปในท่ีรโหฐานได
การคมุ ครองสทิ ธแิ ละ เสรภี าพ ในคดอี าญา
ผตู อ งหา : บคุ คลผถู กู กลา วหาวา ได กระทําความผิด แตยงั มไิ ดถกู ฟองตอศาล สิทธผิ ตู อ งหาตามกฎหมาย 1.สทิ ธเิ กย่ี วกบั ระยะเวลาในการควบคมุ ตัวผตู องหา ( ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 87 ) 2.สทิ ธใิ นการขอคดั คานการผดั ฟอ งหรอื ฝากขงั ( ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 ) 3.สทิ ธิในการขอปลอ ยชั่วคราว ( ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา มาตรา 106 ) 4.สทิ ธิในการอุทธรณค ําสัง่ ไมอ นญุ าตใหปลอยชั่วคราว ( ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 106 ) 5.สทิ ธิในการแตงต้ังทนายความ ( ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.87,134/1)
จําเลย : บคุ คลซง่ึ ถูกฟองตอ ศาล แลว โดยขอ หาวากระทาํ ความผดิ สิทธขิ องจําเลยตามกฎหมาย 1.สิทธิทจ่ี ะไดร บั การอา นและอธบิ ายฟอ งใหฟ ง (ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 165,172) 2.สทิ ธทิ ี่จะขอใหศาลตง้ั ทนายความ (ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 8,173) 3.สิทธทิ จ่ี ะรองขอใหศ าลปลอ ยช่ัวคราว (ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา มาตรา 8,173) 4.สทิ ธิอุทธรณหรอื ฎีกาคาํ พพิ ากษาหรือคาํ สัง่ ของศาล (ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 193,216) 5.เหตเุ พ่ิมโทษ ลดโทษ บวกโทษ นับโทษตอ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 51-58)
6.สทิ ธทิ ่ีจะไดร บั การบรรเทาโทษ เชน มกี ารชดใช คาเสยี หาย การชาํ ระหนี้บางสว นการกระทาํ ดวยประการ อ่ืนใดเพอ่ื เปนการบรรเทาผลรายจากการกระทาํ ของ จาํ เลย การรอการกาํ หนดโทษ และการรอการลงโทษ (ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 51-58) 7.สทิ ธทิ จี่ ะทราบระยะเวลาในการดาํ เนินคดขี ้ันตอนการ ดาํ เนนิ คดตี ้งั แตก ารส่ังฟองของพนกั งานอัยการ 8.สิทธิท่ีจะทราบอตั ราโทษทกี่ ฎหมายกาํ หนดไวสําหรับ ความผดิ น้ัน 9.สิทธทิ จี่ ะทราบถงึ พฤตกิ ารณที่มีสว นในการกําหนดโทษ 10. สทิ ธขิ องนักโทษเด็ดขาดในกรณีคดีถงึ ท่สี ดุ ตาม พระราชบญั ญัติราชทัณฑ พ.ศ.2479
ผูเ สยี หาย บคุ คลผไู ดร บั ความเสยี หาย เนือ่ งจากการกระทํา ผดิ ฐานใดฐานหน่ึง รวมทง้ั บุคคลอ่ืนที่มีอํานาจ จัดการแทน เชน ผูแทนนติ บิ คุ คล ผูแทนโดย ชอบธรรมของผเู ยาว เปนตน สทิ ธขิ องผูเสียหายตามกฎหมาย 1.สิทธใิ นการรอ งทุกขแ ละถอนคาํ รองทุกข (ประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา มาตรา 3, 124, 126) 2.สิทธใิ นการเปน โจทกฟองคดีอาญาไดด ว ยตนเอง และถอนฟองคดีอาญา (ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา 3 และ 35)
3. สทิ ธิในการเปนโจทกฟอ งและถอนฟอ งคดแี พง เกยี่ วเนื่องกบั คดอี าญา (ประมวลกฎหมายวธิ ีพิจารณาความอาญา ม. 3, 40 ม.15 ประกอบประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความแพง ม.175) 4.สทิ ธใิ นการเขาเปน โจทกร ว มกบั พนักงานอัยการ (ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา ม. 30) 5.สทิ ธทิ ่ีจะยื่นคํารอ งในคดอี าญาที่พนักงานอยั การ เปนโจทกโ ดยขอใหบ งั คับจาํ เลยชดใชคา สนิ ไหม ทดแทนได (ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา ม. 44/1) 6. ในกรณที ่ผี เู สียหายย่นื คํารองตามมาตรา 44/1 แลว เม่อื ศาลชน้ั ตน นัดฟงคําพิพากษาใหสง หมาย นดั ฟง คาํ พพิ ากษาไปยงั ผเู สยี หายดวย และหาก ศาลพพิ ากษายกฟองคดีอาญาหรือพพิ ากษาให คา เสียหายไมเ ต็มตามคาํ ขอใหแจง สทิ ธใิ นการ อทุ ธรณคาํ รองในสวนแพงดวย
7.สทิ ธทิ ่ีจะไมตองตอบคําถามซึง่ โดยตรงหรอื โดยออ ม อาจจะทาํ ใหผ เู สยี หายในฐานะพยานถูกฟอ งคดีอาญา (ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 234) 8.สิทธิใหจัดหาลา มหรือลามภาษามือ (ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 13) 9.ผเู สยี หายท่เี ปนโจทกห รือเปนโจทกรวมกับ พนักงานอยั การมสี ทิ ธอิ ุทธรณหรอื ฎกี าได (ประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา ม. 193, 216) 10.สิทธติ รวจหรือคดั สําเนาคําใหการของตนในชัน้ สอบสวน หรอื เอกสารประกอบคําใหการของตนเม่ือพนักงานอยั การ ย่ืนฟองคดีตอศาลแลว (ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 8) 11.สิทธคิ ดั คา นการปลอยช่วั คราวผูต องหาหรอื จําเลย (ประมวลกฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา 108/2)
การขอปลอยชว่ั คราวตอศาล (การขอประกนั ตวั ) การขอปลอยชั่วคราว คือ การยื่นคํารอ งตอศาล เพ่อื ขอใหพ ิจารณาปลอ ยผูตอ งหาหรอื จาํ เลยชว่ั คราว โดยไมตอ งมีประกัน หรือมีประกัน หรือมปี ระกนั และ หลักประกัน ภายในระยะเวลาทีก่ ําหนด
ผูป้ ระกนั หรือนายประกนั หมายถึง บคุ คลทีนํา ทรพั ยส์ ินของตนซึงเรียกว่า หลกั ประกนั มาวางไวต้ ่อ ศาล เพือเป็ นหลกั ประกนั ว่าหากมีกรณีผิดสญั ญา ประกนั ตวั ผตู้ อ้ งหาหรือจาํ เลยจะยอมชําระค่าปรบั ตาม สญั ญาประกนั ต่อศาล
ชั้นฝากขงั ... เมอ่ื ผตู อ งหาถกู เจา หนาท่ีตาํ รวจหรอื พนกั งานอัยการ นาํ ตวั มาขออนุญาตศาลฝากขงั ระหวางทย่ี ังสอบสวนไม เสร็จ ชั้นพจิ ารณาคดีของศาลชน้ั ตน... เมอ่ื ผตู องหาถูกพนกั งานอยั การฟอ งตอศาลแลว ก็จะ เปลีย่ นฐานะจากผตู อ งหาเปน จาํ เลย จงึ มีสิทธขิ อ ปลอยชว่ั คราวตอศาลได หรอื ในคดีทรี่ าษฎรเปนโจทก เมือ่ ศาลประทบั ฟอ งแลว จะขอปลอยชว่ั คราวกอนวัน นดั ในวันนดั หรือหลังจากวนั นัดทร่ี ะบุในหมายเรยี กให มาแกค ดีกไ็ ด ชนั้ อทุ ธรณหรือฎกี า... กรณีทีจ่ าํ เลยถกู ขังหรอื จาํ คุกโดยผลของคาํ พิพากษา ศาลช้นั ตน ศาลอุทธรณ หรือศาลอทุ ธรณภ าค จะขอ ปลอยช่ัวคราวกอนท่ีจะย่ืนอุทธรณหรือยื่นฎีกา พรอมกนั หรอื หลังจากท่ียื่นอุทธรณห รือยนื่ ฎีกาก็ได
หลักประกันใดบางท่สี ามารถใชประกนั ตัวได? เงนิ สด กรมธรรม โฉนดท่ดี นิ , น.ส.3ก, ประกนั ภัย กรรมสทิ ธ์ิหองชดุ บคุ คล บญั ชเี งนิ ฝากประจาํ ทรพั ยสนิ สลากธนาคาร พนั ธบตั รรฐั บาล
ใครบางมสี ิทธยิ น่ื ขอประกันตัวได? บุพการี ผูส บื สันดาน สามี ภรรยา ญาตพิ ีน่ อง นายจา ง ผบู งั คับบญั ชา หรือนิติบคุ คล
การเตรียมเอกสารเบืองตน้ ... ในการยืนขอปล่อยชวั คราวต่อศาล 1. สําเนาบตั รประจําตัวประชาชน หรือสําเนาบัตรประจาํ ตวั เจา หนาที่ของรัฐ 2. สาํ เนาทะเบียนบา น 3. กรณีผูประกนั มคี สู มรสจะตอ งแสดงเอกสารเพิ่มเติม ไดแก 3.1 สาํ เนาบตั รประจําตวั ประชาชน และสําเนาทะเบียนบาน พรอ มรบั รองสําเนาถกู ตอง 3.2 สาํ เนาใบสําคญั การสมรส 3.3 หนังสือใหความยินยอมของคูสมรส และมีพยานอยา ง นอย 2 คน ลงลายมือชอื่ รับรอง 4. กรณีช่อื /สกลุ เจา ของหลักทรัพยไมตรงกบั ทปี่ รากฏใน หลักทรพั ยจะตองแสดงเอกสารเพม่ิ เตมิ ไดแ ก 4.1 หลักฐานการเปลย่ี นชื่อตัวหรอื ช่อื สกุล 4.2 ใบสําคัญการสมรส 5. กรณผี ตู องหาหรอื จําเลยเปนชาวตา งประเทศ หากมหี นงั สือ เดินทาง (Passport) ตองนาํ มาแสดงดว ย
ประมวลกฎหมายวธิ พี จิ ารณาความอาญา มาตรา 108 ไดบ ญั ญตั ิ ใหศ าลพิจารณาจากหลกั เกณฑต าง ๆ ดงั นี้ ความหนกั เบาแหงขอหา พยานหลักฐานที่ปรากฏแลว มเี พียงใด พฤตกิ ารณแหง คดเี ปนอยางไร เชอื่ ถือผูขอประกนั หรอื หลักประกันไดเ พียงใด ผตู อ งหาหรือจําเลยนา จะหลบหนีหรอื ไม ภยั อันตรายหรือความเสยี หายที่จะเกิดจากการอนญุ าต ใหประกันตวั มเี พยี งใดหรือไม คําคดั คา นของพนกั งานสอบสวน พนักงานอัยการ โจทกห รอื ผูเสยี หาย แลว แตก รณี ขอ เทจ็ จริงหรือรายงานหรือความเห็นของเจา พนักงาน ซงึ่ กฎหมายกาํ หนดใหมีอํานาจหนาที่ทเ่ี ก่ียวกับการนน้ั
ศาลจะสั่งไมอนญุ าตใหป ลอยช่วั คราว เพราะเหตุใดบา ง??? ผตู อ งหาหรอื จาํ เลยจะ หลบหนี ผูต้ อ้ งหาหรือ ผูต้ อ้ งหา จําเลยจะไปยุ่ง หรือจําเลย เหยิงกบั พยาน จะไปก่อเหตุ หลกั ฐาน อนั ตราย ประการอืน การอนุญาตใหป้ ล่อยชวั คราว ผูร้ อ้ งขอ จะเป็ นอปุ สรรคหรือก่อใหเ้ กิด ประกนั หรือ ความเสียหายต่อการสอบสวน หลกั ประกนั ของเจา้ พนกั งานหรือการดาํ เนิน ไม่น่าเชือถือ คดีในศาล **ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 108/1
นายประกันยงั คงมีหนา ท่ใี นการนาํ ตัวผูตองหาหรือจําเลย มาสงศาลในคดีท่ตี นเปนนายประกนั ตามกําหนดนดั แต หากผตู องหาหรอื จําเลยถกู ควบคุมตวั ในคดีอ่นื นายประกนั อาจย่นื คํารอ งแถลงใหศาลทราบเพ่ือเบิกตัวผูตองหาหรือ จาํ เลยมาสอบถามวา เปน บุคคลเดียวกันหรือไม หากใช และนายประกนั ประสงคท ี่จะถอนประกนั กส็ ามารถทําได หลังจากที่มีการสอบถามแลว
ผขู อประกนั อาจถอนสัญญาประกนั หรอื ขอถอนหลกั ประกันตอ ศาลไดเสมอ โดย ตอ งสงตวั ผูตอ งหาหรือจาํ เลยคืนตอศาล เมอื่ ศาลอนญุ าตแลว ความรับผดิ ชอบ ตามสญั ญาประกันเปน อันสิน้ สุดลง
ศาลมีคาํ สงั ปรับผปู้ ระกนั เตม็ ตามสัญญา ประกนั เนืองจากผปู้ ระกนั ไมส่ ามารถส่ง ตวั ผตู้ อ้ งหาหรือจาํ เลยต่อศาลได้ โดยไม่มี เหตุสมควร จึงถือวา่ ผดิ สญั ญาประกนั แลว้ ...จะทาํ อะไรไดบ้ า้ ง?
ขอ้ ..ไมต่ ้องรอ..เมอื ศาลสงั ปรบั ผูป้ ระกนั !! นายประกันจะตองนาํ เงนิ มาชําระคาปรบั ตอ ศาลภายใน ระยะเวลาท่ศี าลกําหนด มิฉะนน้ั ศาลจะสั่งยดึ หลกั ประกนั ขายทอดตลาดเพือ่ นาํ เงินมาชําระคาปรบั ขอใหเจาพนักงานฝายปกครองหรอื ตาํ รวจที่ใกลท ี่สุด ชว ยจับตวั ผูตองหาหรอื จาํ เลยท่ีหลบหนี หรือนายประกนั สามารถจบั ผตู องหาหรอื จําเลยนัน้ ไดเอง มาสง ตัวตอ ศาล เมือ่ ศาลชัน้ ตนสั่งประการใดแลว นายประกนั หรอื พนกั งานอยั การมสี ทิ ธยิ น่ื อุทธรณค ําสงั่ ศาลชัน้ ตน นั้น ภายในกําหนด 1 เดือน นบั แตว นั อานคําส่ัง เมอื่ จบั ตวั ผตู อ งหาหรอื จาํ เลยมาสงตวั ตอ ศาลแลว ใหย นื่ คาํ รอ งขอลดคา ปรับตอ ศาลได
เมือคดีถึงทีสุดหรือศาลมีคาํ สงั อนุญาตใหถ้ อน ประกนั หรื อสญั ญาประกนั สินสุดลงดว้ ยเหตุ ค ว า ม รั บ ผิ ด ต า ม สัญ ญ า ป ร ะ กัน สิ น สุ ด ล ง ผูป้ ระกนั สามารถขอรับหลกั ประกนั คืนไดท้ นั ที โดยใหย้ ืนคาํ รอ้ งตอ่ และแนบหลกั ฐานคือ ใบรบั หลกั ฐาน หรือใบรบั เงินทีศาลออกใหเ้ มือครงั มายืนขอประกนั ตวั หาก ใบรับหลกั ฐานหรือใบรับเงิน สูญหายตอ้ งแจง้ ความตอ่ เจา้ พนักงานตาํ รวจและนําใบ แจง้ ความมาแสดงตอ่ ศาล กรณีทีผูป้ ระกนั ไมส่ ามารถมารบั ไดด้ ว้ ยตนเอง สามารถมอบฉันทะใหผ้ ูอ้ ืนมารับหลกั ทรพั ยแ์ ทนได้ โดยขอ ใบมอบฉันทะจากเจา้ หนา้ ทีศาล
ไดแ้ ก่ ผตู้ อ้ งหาหรอื จาํ เลย หรอื ผปู้ ระกนั ตายกอ่ นผิดสญั ญา ประกนั สญั ญาประกนั ยอ่ มเป็ นอนั ระงบั หรอื กรณีทีผตู้ อ้ งหาหรอื จําเลยถกู จบั หรอื คมุ ขงั ในคดีอืนอยกู่ อ่ นทีจะถึงวนั นดั
หากท่านพบบคุ คลทีแอบอา้ งว่า สามารถติดต่อวิงเตน้ ใหช้ นะคดี หรอื ช่วยใหไ้ ดร้ บั การประกนั ตวั โดยเรียกรอ้ งเอาทรพั ยส์ ินเงินทอง เป็ นการตอบแทน แสดงว่า “ท่าน กาํ ลงั ถกู หลอกลวง” ใหร้ บี แจง้ เจา้ หนา้ ทีศาลโดยเรว็
หากผตู้ อ้ งหาหรอื จาํ เลยไม่สามารถ มาศาลได้ เพราะเสียชีวิต นายประกนั ควรยนื คํารอ้ งและแนบใบมรณบตั ร ของผตู้ อ้ งหาหรอื จาํ เลยตอ่ ศาล เพือทีศาลจะพิจารณาสงั ต่อไป
อศาํ านลาจ สงั บงั คบั คดีตามสญั ญาประกนั หรือ ตามทีเห็นสมควร สงั งดการบงั คบั คดี สงั ลดจํานวนเงินค่าปรบั
สถานะของเงินสดหรือหลกั ทรพั ยท์ ีอาจเป็ นประกนั ต่อศาล ไม่อยู่ในข่ายทีจะถกู ยึดหรือ เวน้ แต่ ศาลเห็นว่าหนี อายดั ชาํ ระหนีแก่เจา้ หนีอืน ของเจา้ หนีนนั มิไดเ้ กิดจาก จนกว่าความรบั ผิดตาม กลฉอ้ ฉล และมีคําสงั สญั ญาประกนั จะระงบั ใหป้ ล่อยทรพั ย์ หลกั ประกนั ทีอย่รู ะหว่างการขายทอดตลาดเจา้ หนีอืน ของผูป้ ระกนั มีสิทธิขอเฉลียหนีจากหลกั ประกนั ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพง่ มาตรา 290 ไม่ตอ้ งหา้ ม ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 119 วรรคสอง เนืองจากไม่ได้ เป็ นการยึดหรืออายดั
เจ้าหนีตามคาํ พพิ ากษาของผูป้ ระกัน เจ้าพนกั งานพทิ ักษ์ทรัพย์ของผูป้ ระกัน ในกรณีผูป้ ระกันเป็ นบคุ คลล้มละลาย หน่วยงานของรัฐทีมีอาํ นาจยึดอายัดทรัพย์สิน เพอื ชาํ ระหนีได้เอง โดยไม่ต้องฟ้ อง
ผูม้ ีอาํ นาจในการ บงั คบั คดี (มาตรา 119 วรรคสาม) เจา้ พนกั งานศาล พนกั งานอยั การ ทีไดร้ บั การแต่งตงั พ.ร.บ.องคก์ รอยั การ ไดร้ บั การแต่งตงั จาก และพนกั งานอยั การ ศาลใหด้ าํ เนนิ การบงั คบั พ.ศ.2553 มาตรา 14 ตามสญั ญาประกนั
Search