Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฉลย บฝ. วิทยาการคำนวณ ม.1

เฉลย บฝ. วิทยาการคำนวณ ม.1

Published by สุภาวดี ฤทธิ์หมี, 2021-07-29 09:35:39

Description: เฉลย บฝ. วิทยาการคำนวณ ม.1

Search

Read the Text Version

แบบฝกึ หดั รายวิชาพืน้ ฐานวทิ ยาศาสตร์ ม.1 เทคโนโลยี เฉฉบลบั ย (วทิ ยาการคํานวณ) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ผูเรยี บเรียง ทีมวชิ าการ อจท. ผูตรวจ ผศ.ดร. นํ้าคาง ศรวี ฒั นาโรทัย นางสาววีณา เนาวประทปี บรรณาธกิ าร นายยทุ ธคม ภมรสพุ รวิชติ นายปรัชญา เปรมมะ สงวนลขิ สทิ ธิต์ ามพระราชบัญญตั ิ ปท พ่ี มิ พ 2561 พมิ พค ร้ังที่ 1 รหัสสนิ คา 2138067 รหัสสินคา 2148030









































6. คํานวณผลตางระหวางจํานวนแรกและจํานวนท่ีสอง เขียนอัลกอริทึมดวยรหัสจําลองได ตรงกบั ขอใด 1. COMPUTE area = width x length 2. COMPUTE area = 0.5 x high x base 3. COMPUTE difference = number1 + number2 4. COMPUTE difference = number1 - number2 7. การเขียนผังงานจะตองอา งอิงจากกระบวนการทางคอมพิวเตอรต รงตามขอ ใด 1. รับขอ มลู การประมวลผล การแสดงผลลัพธ 2. การแสดงผลลัพธ รบั ขอ มูล การประมวลผล 3. การประมวลผล การแสดงผลลพั ธ รบั ขอ มูล 4. การนําขอ มูลเขา การประมวลผล การนาํ ขอ มูลออก 8. สัญลักษณในขอใดท่ีใชเขียนผังงานในลักษณะที่นําขอมูลไปเปรียบเทียบเพ่ือเลือกกระทํา อยา งใดอยางหน่งึ เฉฉบลบั ย 1. 2. 3. 4. 9. การตรวจสอบผลรวมของนาํ้ หนักของผลไม 2 ชนดิ มากกวาหรือเทา กบั 10 กิโลกรัม ซึง่ เขยี นอลั กอริทมึ ดวยรหัสจําลองไดตรงกับขอ ใด 1. INPUT fruit1 2. OUTPUT totalweight 3. IF totalweight > = 10 THEN 4. COMPUTE totalweight = fruit1 + fruit2 10. ขอ ใดไมใชป ระโยชนข องการเขยี นผงั งาน 1. ไมคอ ยมีขอผดิ พลาด 2. แยกแยะปญ หาไดง า ย 3. ทาํ ความเขาใจโปรแกรมไดงาย 4. แสดงลาํ ดับข้นั ตอนการทํางานชัดเจน 18 แบบฝก หัด

µÍ¹·èÕ 2 อา นสถานการณท กี่ ําหนด แลว เขียนผังงาน 10คทะแ่ไี นดน คเะตแม็นน นทอี า นฉลากยานํา้ ชนิดหนงึ่ ซ่ึงมกี ารแบงขนาดการรับประทานตามอายุ ดงั น้ี เดก็ แรกเกิด หามรบั ประทาน อายุมากกวา 1 ป รบั ประทานครง่ึ ชอนชา อายมุ ากกวา 6 ป รบั ประทาน 1 ชอ นชา อายุมากกวา 10 ป รบั ประทาน 2 ชอ นชา เรมิ่ ตน อายุ > 10 ป จรงิ รบั ประทาน 2 ชอนชา รับประทาน 1 ชอ นชา เท็จ จริง รบั ประทานคร่งึ ชอ นชา อายุ > 6 ป เท็จ จริง เฉฉบลับย อายุ > 1 ป เทจ็ เดก็ แรกเกิดหา มรับประทาน จบงาน เขียนอลั กอรทิ ึมไดถ กู ตองและครบถว น คะแนน เรยี งลาํ ดับการเขียนอัลกอริทมึ ไดถกู ตอ ง เกณฑการใหค ะแนน 37 การเขยี นอลั กอริทึมดว ยผังงาน (10 คะแนน มี 1 ขอ ขอละ 10 คะแนน) ตารางบนั ทึกคะแนน ประจําหนว ยการเรยี นรูท่ี 1 หนว ยที่ มาตรฐานการ เครื่องมือวัดและผลคะแนน เรยี นรู / ตวั ช้ีวัด เคร่อื งมือวัดผล คะแนนท่ีได คะแนนเต็ม หนวยการเรยี นรทู ี่ 1 ว 4.2 ม.1/1, Exercise 150 การออกแบบและการเขยี นอลั กอรทิ มึ ว 4.2 ม.1/2 Activity 10 Unit Test 20 รวม 180 แบบฝก หัด 19

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 การออกแบบและการเขยี นโปรแกรมเบอื้ งตน ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม.1/2 Overview จากอดีตจนถึงปจจุบันมนุษยตองการความสะดวกสบายในดานตาง ๆ เพิ่มมากข้ึน จึงไดมีการใช คอมพิวเตอรเขียนโปรแกรมตาง ๆ เพ่ือตอบสนองความตองการของมนุษย ดังนั้น การเรียนรู การออกแบบและเขยี นโปรแกรม จะชว ยฝก ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห ทกั ษะการแกป ญ หา และเปน สว นหนงึ่ ในการพัฒนาโปรแกรมในอนาคตตอไป โปรแกรมคอมพิวเตอร ชุดคําสั่งทีส่ ่งั ใหค อมพวิ เตอรสามารถทํางานไดต รงตาม เฉฉบลับย ความตองการและถกู ตอ ง ตวั อยางโปรแกรมคอมพิวเตอร การเขียน • โปรแกรมคาํ นวณดอกเบ้ียเงินฝาก โปรแกรม • โปรแกรมวาดภาพ และแตงภาพ เบ้ืองตน หลกั การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรเบื้องตน 1. การกาํ หนด / วเิ คราะหป ญ หา 2. การออกแบบโปรแกรม 3. การเขยี นโปรแกรม 4. การทดสอบโปรแกรม ซอฟตแวร โปรแกรม Editor ทค่ีใชอโปใมนรพกแิวากรเรตเมขอียรน ซอฟตแวรท่ีมุงเนนการพิมพขอความ หรือการเขียน ชุดคําส่งั ภาษาโปรแกรมเปน หลกั โปรแกรม IDE Editor ซอฟตแวรที่รวมเคร่ืองมืออํานวยความสะดวกตาง ๆ ใน การเขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร การเขียนโปรแกรม การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรจากการเขียนอลั กอรทิ มึ คอมพิวเตอร การฝกเขียนโปรแกรมเบ้ืองตน มีการเขียนอัลกอริทึม จาก ดวยภาษาธรรมชาติ อัลกอริทึมดวยรหัสจําลอง และ อัลกอริทึม อลั กอรทิ มึ ดว ยผงั งานกอ นที่จะลงมือเขียนโปรแกรม 20 แบบฝก หดั

Exercise 7 3คเะตแ็มนน เร่ือง การเขยี นโปรแกรมเบอื้ งตน 1. ตอบคาํ ถามตอไปนี้ (15 คะแนน) เฉฉบลบั ย 1) การเขียนโปรแกรม คอื อะไร จงอธบิ าย การเขียนชดุ คาํ ส่ังดว ยภาษาโปรแกรมทส่ี งั่ ใหคอมพวิ เตอรสามารถทาํ งานไดต รงตาม...................................................................................................................................................................................................................................... ความตองการ และสามารถทาํ งานไดอยา งถกู ตอง ซ่งึ เปน การกําหนดข้ันตอนใหกบั...................................................................................................................................................................................................................................... คอมพิวเตอรท าํ งานตามลาํ ดับและรปู แบบท่กี าํ หนดไว...................................................................................................................................................................................................................................... 2) ผูเ ขยี นโปรแกรมจะตอ งใชห ลักการใดบา งในการเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร 1. การกําหนด / วิเคราะหปญ หา 2. การออกแบบโปรแกรม...................................................................................................................................................................................................................................... 3. การเขยี นโปรแกรม 4. การทดสอบโปรแกรม...................................................................................................................................................................................................................................... 3) สุชาติตองการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรสําหรับคํานวณหาพื้นท่ีของรูปสามเหลี่ยม มุมฉาก ใหน กั เรียนวเิ คราะหปญหาทก่ี ําหนด แลว เขียนองคประกอบท่ีสําคญั ของปญ หา ขนั้ ตอนที่ 1 กําหนดวตั ถุประสงค เพอ่ื คาํ นวณหาพื้นทขี่ องรปู สามเหล่ยี มมมุ ฉาก...................................................................................................................................................................................................................................... ขน้ั ตอนที่ 2 กําหนดลักษณะขอมูลนาํ เขา 1. ขอ มลู ความยาวของฐานรปู สามเหลย่ี มมมุ ฉาก เปน ประเภทเลขจาํ นวนเตม็ และขอ มลู...................................................................................................................................................................................................................................... ความสงู ของรูปสามเหลย่ี มมุมฉากเปน ประเภทเลขจาํ นวนเต็ม...................................................................................................................................................................................................................................... 2. กําหนดขอมูลนําเขาเปนตัวแปรได คือ base แทนขอมูลความยาวของฐานของ...................................................................................................................................................................................................................................... รูปสามเหลี่ยมมมุ ฉาก และ high แทนขอมูลความสงู ของรูปสามเหล่ยี มมุมฉาก...................................................................................................................................................................................................................................... ขน้ั ตอนที่ 3 กาํ หนดลกั ษณะขอ มูลนาํ ออก 1. ขอ มูลพนื้ ที่ของรปู สามเหล่ยี มมมุ ฉาก เปน ประเภทเลขจาํ นวนเตม็...................................................................................................................................................................................................................................... 2. กําหนดขอมูลนําออกเปนตัวแปร คือ area แทนขอมูลพื้นท่ีของรูปสามเหลี่ยม...................................................................................................................................................................................................................................... มุมฉาก...................................................................................................................................................................................................................................... ข้ันตอนที่ 4 กําหนดวิธีการประมวลผล 1. พืน้ ท่ีของรูปสามเหลีย่ มมุมฉาก = 0.5 x ฐาน x สงู...................................................................................................................................................................................................................................... 2. กําหนดวิธกี ารประมวลผลสมการ คือ area = 0.5 * base * high...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... แบบฝก หดั 21

2. เติมขอความในชอ งวางใหสมบูรณ (10 คะแนน) 1) โครงสรา งเบือ้ งตน ของภาษา C ประกอบดวย • preprocessor directives เ..ป....น.....ค.....าํ...ส....ง.ั่ ...ท.....จ่ี ....ะ..ถ.....กู ....แ...ป.....ล....ภ....า...ษ.....า...เ..ป....น.....ล.....าํ ...ด....บั.....แ...ร....ก.......โ...ด.....ย...ใ...ช....ส ....าํ...ห.....ร...บ.ั ....เ..ร....ยี....ก....ใ...ช...ค.....าํ...ส.....ง่ั ...ม....า...ต....ร....ฐ....า...น.....ท....่ี ติดต้งั อยูในภาษา C อยแู ลว............................................................................................................................................................................................................................. • gobal declaration ใชส าํ หรบั ประกาศตัวแปร หรอื ฟงกช ัน ท่สี ามารถถูกเรียกใชไ ดจากทุกสวนของ............................................................................................................................................................................................................................. โปรแกรม............................................................................................................................................................................................................................. • main function เปน สว นทมี่ คี วามสาํ คญั และจาํ เปน ตอ งมี เนอ่ื งจากเปน สว นการทาํ งานหลกั และ............................................................................................................................................................................................................................. เปนจดุ เรมิ่ ตน การทํางานของโปรแกรม............................................................................................................................................................................................................................. • user-defined function เปน สวนของการเขยี นคําสง่ั หรือฟงกช นั ตาง ๆ สาํ หรบั ใชใ นโปรแกรม ซึง่ เขียน............................................................................................................................................................................................................................. โดยผเู ขียนโปรแกรมเอง............................................................................................................................................................................................................................. เฉฉบลบั ย 2. การเขยี นคาํ สงั่ การรบั คา คาํ สงั่ การประมวลผล และคาํ สงั่ การแสดงผลดว ยภาษา C เพอ่ื สรา ง โปรแกรมคอมพวิ เตอรสําหรบั คํานวณหาพ้ืนท่ที รงกระบอก มดี งั นี้ การประกาศตัวแปร int width, length, high, area;...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... คาํ สง่ั การรับคา printf(″Enter width : ″);...................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &width);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter length : ″);...................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &length);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter high : ″);...................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &high);...................................................................................................................................................................................................................................... คําสง่ั การประมวลผล area = width*length*high;...................................................................................................................................................................................................................................... คําส่งั การแสดงผล printf(″Area of a Cylinder is : %d\\n″, area);...................................................................................................................................................................................................................................... 22 แบบฝก หดั

3. จบั คูขอ ความทีม่ ีความสมั พันธก นั ตอ ไปนี้ (8 คะแนน) ก. การสงั่ ใหโ ปรเจกตเ รมิ่ ทาํ งาน ข. เวที ค. คําส่ังการรบั คา ง. ตวั ละคร จ. สครปิ ต ฉ. การสงั่ ใหโปรเจกตหยุดทํางาน ช. โปรแกรมคอมพิวเตอรใ นรปู แบบของกราฟก ซ. คําสัง่ ประมวลผล ช.............1) โปรแกรมภาษา Scratch เฉฉบลับย ข.............2) สถานท่ใี หต วั ละครแสดง มีฉากหลังเปล่ียนแปลงได และขอบเขตที่แนนอน ง.............3) ขอมูลของหนูนอ ยหมวกแดงในโปรเจกตในปา ใหญ จ.............4) ชุดคําสัง่ สําหรบั ตวั ละครหรอื เวที เพ่ือสัง่ ใหต วั ละครหรือเวทที ํางานตามวตั ถุประสงค ท่ตี อ งการ ก............. 5) การคลกิ ท่ีไอคอน ฉ............. 6) การคลิกท่ไี อคอน ซ.............7) set answer to number1 + number2 ค.............8) ask What is number1? And wait 4. เขยี นคําสัง่ การรบั คา คําสงั่ การประมวลผล และคําส่งั การแสดงผล ดวยภาษาไพทอน จากสถานการณต อ ไปน้ี (15 คะแนน) 1) จงคํานวณหาพน้ื ท่ีแรเงา สูตรพืน้ ที่  ดา นขนาน = ฐาน × สงู คําสั่งการรับคา base = float(input( Enter base: )).........................................................‘.......................................‘...................................................................................................................................... high = float(input( Enter high: ))........................................................‘......................................‘........................................................................................................................................ คําส่งั การประมวลผล area = base * high...................................................................................................................................................................................................................................... คําสั่งการแสดงผล print(″\\n Area of a Parallelogram is: %.2f″%area);...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... แบบฝก หัด 23

2) โรงงานผลิตนํ้าปลามีการช่ังน้ําหนักสินคากอน จาํ หนาย หากสนิ คา มีนาํ้ หนกั มากกวา หรอื เทา กบั น้ำปลา 500 กรมั แสดงวา ผา นเกณฑ หากสนิ คา มนี า้ํ หนกั นอยกวา 500 กรัม แสดงวา ไมผานเกณฑ (ใชค าํ ส่งั if) เฉฉบลับย คาํ ส่งั การรบั คา weight = int(input( Enter weight: ))..........................................................‘.................................................‘........................................................................................................................... คําสง่ั การประมวลผล และการแสดงผล If weight >= 500:...................................................................................................................................................................................................................................... print( ผานเกณฑ )..........................‘...............................‘............................................................................................................................................................................. else:...................................................................................................................................................................................................................................... print( ไมผ า นเกณฑ )..........................‘.....................................‘....................................................................................................................................................................... 3) คํานวณสูตรคูณแม 5 ดวยการเขียนชุดคําส่ังใน ลักษณะการทําซ้าํ (ใชคาํ ส่ัง while) คําส่งั การประมวลผล counter = 1...................................................................................................................................................................................................................................... While (counter <= 12):...................................................................................................................................................................................................................................... print( 5 x ,counter , = ,5*counter)..........................‘...............‘..................................‘............‘............................................................................................................................................... counter = counter +1...................................................................................................................................................................................................................................... 5. ตอบคําถามตอ ไปน้ี (15 คะแนน) 1) จงอธบิ ายโครงสรา งของโปรแกรมภาษาจาวาเบือ้ งตน โปรแกรมภาษาจาวาเบือ้ งตน มโี ครงสราง ดงั นี้...................................................................................................................................................................................................................................... 1. import เปนสว นของการเรียกใชง านคลาสสท่ีอยูตางจากแพก็ เกจ...................................................................................................................................................................................................................................... 2. package เปนสว นการระบุตําแหนง หรอื ทอ่ี ยูของคลาสส...................................................................................................................................................................................................................................... 3. class เปน สว นของการเขยี นคําส่งั การทํางานของโปรแกรม...................................................................................................................................................................................................................................... 24 แบบฝกหัด

2) จงบอกขอ ดแี ละขอ เสียของโปรแกรมภาษาจาวา ขอดี ขอจํากัด 1. สนบั สนนุ การเขยี นโปรแกรมเชงิ วตั ถุ 1. ทํางานไดชากวาโปรแกรมที่เขียนดวย............................................................................................................... ............................................................................................................... เฉฉบลบั ย แบบสมบูรณ ภาษาอืน่ ๆ............................................................................................................... ............................................................................................................... 2. โปรแกรมที่เขียนโดยใชภาษาจาวา 2. tool ที่มีในการใชพัฒนาโปรแกรม............................................................................................................... ............................................................................................................... สามารถทาํ งานไดใ นระบบปฏบิ ตั กิ าร จาวา ไมทันสมัย ทําใหหลายอยาง............................................................................................................... ............................................................................................................... ท่ีแตกตาง ไมจําเปนตองดัดแปลง โปรแกรมเมอรจะตองเปนคนทําเอง............................................................................................................... ............................................................................................................... แกไ ขโปรแกรม และตอ งเสยี เวลาทาํ งานในสว นที่ tool............................................................................................................... ............................................................................................................... 3. มคี วามซับซอ นนอ ยกวา ภาษา C++ ทาํ ไมได............................................................................................................... ............................................................................................................... 4. มคี วามปลอดภัยสงู............................................................................................................... ............................................................................................................... 5. มี IDE application sever พรอมทั้ง............................................................................................................... ............................................................................................................... library ตา ง ๆ ซงึ่ ใชง านไดโ ดยไมต อ ง............................................................................................................... ............................................................................................................... เสยี คาใชจา ย............................................................................................................... ............................................................................................................... 3) เขียนคําส่งั การรบั คาของนํ้าหนักและสวนสูงดว ยภาษาจาวา Scanner scanner = new Scanner(System.in);...................................................................................................................................................................................................................................... System.out.printIn(″Enter weight :″);...................................................................................................................................................................................................................................... double weight = scanner.nextDouble();...................................................................................................................................................................................................................................... System.out.printIn(″Enter high :″);...................................................................................................................................................................................................................................... double high = scanner.nextDouble();...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 6. ตอบคําถามตอไปน้ี (10 คะแนน) 1) ปจจัยในการเลอื กภาษาคอมพวิ เตอรมาเขียนโปรแกรมมีอะไรบาง ความเหมาะสมของโปรแกรมกับลักษณะงานที่จะนําไปใช การทํางานรวมกันไดกับ...................................................................................................................................................................................................................................... โปรแกรมอ่ืน ๆ และความถนดั ของผูเขียนโปรแกรมแตละคน...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... แบบฝก หัด 25

2) จงอธบิ ายเกย่ี วกบั รปู แบบการเขยี นโปรแกรมขน้ั ตน โดยใชเ กณฑก ารแบง ตามโครงสรา ง แบบเรยี งลําดับ แบบเลอื กทาํ หรอื มเี งือ่ นไข แบบทาํ ซ้าํ เฉฉบลับย เปนการทํางานเปนลําดับ เปนการทํางานโดยการ เปนการทํางานเดิมซ้ํา ๆ.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ข้ันตอน ไลเรียงลําดับกัน ตัดสินใจ มีทางเลือกให โดยมีเงื่อนไขเพ่ือกําหนด.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ไปเหมือนเสนตรง ไมมี เลอื กกระทาํ โดยแตล ะทาง จํานวนรอบในการทํางาน.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... การขามขั้นตอน ไมมีการ.......................................................................... เ..ล.....อื....ก....จ....ะ...ม...เ.ี .ง....อื่....น.....ไ..ข.......ซ...ง.ึ่ ...จ....ะ...ต....อ....ง... ซ....า.ํ้ .....ซ....ง่ึ....ก....า...ร....ท....าํ...ง....า...น.....แ...บ.....บ....ท.....าํ...ซ....าํ้ .. ยอนกลับไปทํางานเดิมท่ี ผานการตรวจสอบเงื่อนไข มี 3 ประเภท ไดแก.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ทําซ้ําไปแลว หรือไมมีการ น้ัน ๆ กอน จึงจะสามารถ 1. ตามจาํ นวนรอบทีร่ ะบุ.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ตัดสินใจเพื่อเลือกทํางาน ทํางานในทางเลือกน้นั ได 2. ขณะทเี่ งื่อนไขเปนจรงิ.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... ใด ๆ 3. ทาํ ซาํ้ จนเงอ่ื นไขเปน จรงิ.......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... .......................................................................... เกณฑก ารใหค ะแนน คะแนน 1. การตอบคําถาม 5 (15 คะแนน มี 3 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) ตอบคําถามไดถ ูกตองตรงตามประเด็น 5 1 2. การเตมิ ขอ ความ 5 (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) เติมขอ ความไดถกู ตอ งและสมบูรณ 5 5 3. การจบั คู (8 คะแนน มี 8 ขอ ขอ ละ 1 คะแนน) จบั คขู อ ความที่มีความสมั พันธกันถกู ตอง 4. การตอบคาํ ถาม (15 คะแนน มี 3 ขอ ขอละ 5 คะแนน) เขยี นคําส่งั โปรแกรมไดถ ูกตองสมบูรณ 5. การตอบคําถาม (15 คะแนน มี 3 ขอ ขอละ 5 คะแนน) ตอบคาํ ถามไดถ กู ตองตรงตามประเดน็ 6. การตอบคําถาม (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอละ 5 คะแนน) ตอบคําถามไดถ กู ตองตรงตามประเดน็ 26 แบบฝกหัด

Exercise 1 0คเะตแม็นน เร่ือง ซอฟตแวรที่ใชในการเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอร เติมขอ ความในชอ งวางใหสมบรู ณ 1) ซอฟตแ วรท ใ่ี ชเ ขยี นภาษาโปรแกรมเพอ่ื สรา งโปรแกรมคอมพวิ เตอร แบง ออกเปน 2 กลมุ ดังน้ี กลุมที่ 1 โปรแกรม Editor ทวั่ ไป เปน ซอฟตแ วรที่มุงเนนการพิมพข อความ หรอื การเขยี นชดุ...................................................................................................................................................................................................................................... ค.....าํ...ส....ง่ั....ภ....า...ษ.....า...โ..ป....ร....แ....ก....ร....ม....เ.ป.....น .....ห....ล....กั.......แ....ต....ไ...ม...ไ. ..ด....ต.....ดิ....ต....งั้....เ..ค....ร....อ่ื....ง...ม....อื....อ....าํ...น.....ว...ย...ค.....ว...า...ม....ส....ะ...ด.....ว...ก....ใ...น.....ก....า...ร....เ..ข...ยี...น..... โปรแกรมคอมพิวเตอรไว แตเปนเคร่ืองมือสําหรับเขียนภาษาโปรแกรมไดทุกภาษา...................................................................................................................................................................................................................................... ตวั อยา งโปรแกรม Notepad EditPlus...................................................................................................................................................................................................................................... กลุมท่ี 2 โปรแกรม IDE Editor เปนซอฟตแ วรท ่รี วมเครอื่ งมอื อํานวยความสะดวกตาง ๆ ใน...................................................................................................................................................................................................................................... การเขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอร โดยสว นมากโปรแกรม IDE Editor จะใชเ ฉพาะภาษา...................................................................................................................................................................................................................................... โปรแกรมภาษาหน่ึง ๆ หรอื กลุม ภาษาโปรแกรมที่ใกลเ คยี งกันเทา นั้น...................................................................................................................................................................................................................................... เฉฉบลบั ย ตวั อยางโปรแกรม Turbo C++ Scratch python IDLE NetBeansIDE...................................................................................................................................................................................................................................... 2) ซอฟตแวรทีใ่ ชในการเขยี นโปรแกรมที่นกั เรียนรูจ กั มอี ะไรบา ง จงอธบิ าย ซอฟตแ วรท ่ี 1 โปรแกรม Turbo C++...................................................................................................................................................................................................................................... เปน โปรแกรมทใี่ ชเ ขยี นชดุ คาํ สงั่ ภาษา C เบอื้ งตน ซง่ึ สามารถประยกุ ตใ ชง านไดก บั...................................................................................................................................................................................................................................... โปรแกรม MATLAB...................................................................................................................................................................................................................................... ซอฟตแ วรท ่ี 2 โปรแกรม Scratch...................................................................................................................................................................................................................................... เปนโปรแกรมภาษาทส่ี ามารถสรางช้ินงานไดอยา งงาย เชน นิทานทส่ี ามารถโตต อบ...................................................................................................................................................................................................................................... กับผอู านได ภาพเคลื่อนไหว เกม ดนตรี ศิลปะ เปนตน...................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหคะแนน คะแนน การเติมขอความ เตมิ ขอความไดถกู ตอ งและสมบรู ณ 5 (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) แบบฝกหัด 27

Exercise 1 5คเะตแม็นน เร่ือง การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอรจากอลั กอรทิ มึ อานสถานการณท ่ีกาํ หนด แลวตอบคาํ ถาม ภตั ตาคารแหง หน่งึ คิดราคาคา อาหารและ เครื่องด่ืมปกติ ซ่ึงไมรวมภาษีมูลคาเพิ่ม 7% ถา คา อาหารและเครอ่ื งดม่ื ของรชั นใี นราคาปกติ ที่ไมยงั รวมภาษีมูลคาเพมิ่ เปน เงิน 2,000 บาท รัชนีจะตองเสียภาษีมูลคาเพ่ิมเทาไร (เขียน โปรแกรมคอมพิวเตอรเพื่อคํานวณหาภาษี มูลคาเพ่ิม โดยนําเขาขอมูลคาอาหารและ เครื่องดม่ื ราคาปกตจิ ากแปน พมิ พ) เฉฉบลับย 1) วิเคราะหปญหา จากสถานการณท ่กี าํ หนด ขั้นตอนท่ี 1 กําหนดวตั ถุประสงคของโปรแกรมคอมพวิ เตอร เพ่ือคํานวณหาภาษมี ูลคา เพมิ่ ของคา อาหารและเครอ่ื งดม่ื ท้งั หมด...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ขัน้ ตอนท่ี 2 กําหนดลักษณะขอ มลู นําเขา 1. ขอ มลู คา อาหารและเครอ่ื งด่มื ทัง้ หมด เปน เลขจาํ นวนเต็ม...................................................................................................................................................................................................................................... 2. กาํ หนดขอมูลนําเขาเปนตวั แปร คือ price แทนคาอาหารและเคร่ืองดื่มท้ังหมด...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ขั้นตอนที่ 3 กําหนดลกั ษณะขอ มูลนําออก 1. ขอมลู คาภาษมี ลู คาเพม่ิ เปนประเภทเลขจํานวนทศนยิ ม...................................................................................................................................................................................................................................... 2. กําหนดขอ มลู นาํ ออกเปน ตวั แปร คอื tax แทนขอมลู คาภาษีมลู คา เพม่ิ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ข้นั ตอนที่ 4 กาํ หนดวธิ กี ารประมวลผล 1. ผลลพั ธชว่ั คราว = ราคาคาอาหารและเครอ่ื งดืม่ / 100...................................................................................................................................................................................................................................... กําหนดวธิ ปี ระมวลผลเปน สมการ คือ temp = price / 100...................................................................................................................................................................................................................................... 2. คาภาษมี ูลคา เพมิ่ = 7 * ผลลพั ธชว่ั คราว...................................................................................................................................................................................................................................... กําหนดวิธีประมวลผลเปน สมการ คือ tax = 7 * temp...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 28 แบบฝก หัด

2) เขยี นอัลกอริทมึ ดว ยรหสั จําลอง 1. START...................................................................................................................................................................................................................................... 2. INPUT price...................................................................................................................................................................................................................................... 3. COMPUTE temp = price / 100...................................................................................................................................................................................................................................... 4. COMPUTE tax = 7 * temp...................................................................................................................................................................................................................................... 5. OUTPUT tax...................................................................................................................................................................................................................................... 6. STOP...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... เฉฉบลับย 3) เขยี นชดุ คําส่งั โปรแกรมคอมพิวเตอรด วยภาษาซี #include<stdio.h>...................................................................................................................................................................................................................................... #include<conio.h>...................................................................................................................................................................................................................................... void main(){...................................................................................................................................................................................................................................... int price, temp;...................................................................................................................................................................................................................................... float tax;...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″===============\\n″);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Calculate tax Program\\n″);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″===============\\n″);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter price : ″);...................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &price);...................................................................................................................................................................................................................................... temp = price / 100...................................................................................................................................................................................................................................... tax = 7 * temp;...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″===============\\n″);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Tax is : %.2f\\n ″, tax);...................................................................................................................................................................................................................................... printf(″===============\\n″);...................................................................................................................................................................................................................................... }...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหค ะแนน ตอบคาํ ถามไดถ กู ตอ งตรงตามประเดน็ คะแนน การตอบคําถาม 5 (15 คะแนน มี 3 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) แบบฝก หัด 29

Activity เรื่อง รถเมลมหาสนกุ ทักษะการส่ือสาร Applying Creating ทักษะการใชเ ทคโนโลยสี ารสนเทศ Analyzing ทกั ษะการคดิ และการแกป ญ หา Evaluating Understanding อา นสถานการณท ่กี ําหนด แลว ตอบคําถาม Remembering รถโดยสารประจําทางสายหนึ่ง 12คทะแ่ไี นดน คเะตแ็มนน เกบ็ คา โดยสารจากผใู ชบ รกิ าร 10 บาท ตลอดสาย โดยผูโดยสารจะตอง รถประจำทาง ซ้ือต๋ัวจากเคร่ืองจําหนายตั๋วโดยสาร อัตโนมัตกิ อนขน้ึ รถทุกคร้งั เฉฉบลับย เขยี นคาํ สงั่ การรบั คา คาํ สง่ั การประมวลผล และคาํ สง่ั การแสดงผลดว ยภาษาซี เพอ่ื คาํ นวณหา คาโดยสารทีจ่ ะตองจายทัง้ หมด โดยนําเขาขอมลู จํานวนคนจากปมุ กด 1) การประกาศตัวแปร int people, fare;...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2) คาํ สง่ั การรบั คา printf(″Enter people : ″);...................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &people);...................................................................................................................................................................................................................................... 3) คําส่งั การประมวลผล fare = 10* people;...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 4) คาํ สัง่ การแสดงผล printf(″Total fare is : %d\\n″, fare);...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหค ะแนน เขยี นคําสั่งโปรแกรมคอมพิวเตอรไดถูกตองสมบรู ณ คะแนน การตอบคาํ ถาม 3 (12 คะแนน มี 4 ขอ ขอ ละ 3 คะแนน) 30 แบบฝก หัด

Unit test 2 µÍ¹·Õè 1 เลือกคําตอบทถี่ กู ตอ งที่สดุ 10คทะแ่ไี นดน คเะตแ็มนน 1. ขอ ใดไมเก่ียวขอ งกับหลักการเขยี นโปรแกรม 1. โปรแกรมภาษา 2. การทดสอบโปรแกรม 3. การออกแบบโปรแกรม 4. การกาํ หนด / วเิ คราะหปญ หา 2. ขอใดกลา วถงึ การออกแบบอัลกอรทิ มึ ตามลักษณะภาษาธรรมชาติไดถ กู ตอ ง 1. สนิ ีใชแผนภาพสญั ลักษณ เพอ่ื แสดงลําดับขน้ั ตอนการทาํ งาน 2. สริ วิ รรณบอกขน้ั ตอนการทาํ งานของอลั กอริทมึ ทไ่ี มข้ึนอยูกับภาษาใด ๆ 3. นจิ พรใชเ คร่ืองมอื ตาง ๆ ออกแบบการทาํ งานของโปรแกรมคอมพิวเตอร 4. อาํ พลบรรยายขน้ั ตอนการทาํ งานของอลั กอรทิ มึ ใด ๆ โดยอธบิ ายลาํ ดบั ขน้ั ตอนการทาํ งาน ของอลั กอรทิ มึ ตามลําดับกอนหลงั 3. ขอใดเรยี งลําดับการเขียนโปรแกรมไดถกู ตอ ง เฉฉบลบั ย 1. Compile Coding Run Testing 2. Coding Compile Run Testing 3. Coding Run Testing Compile 4. Run Compile Coding Testing 4. ในการเขยี นโปรแกรมภาษา C คาํ ส่ังและไวยากรณพ้นื ฐานตอ งมีองคป ระกอบอะไรบา ง 1. จบคําส่งั ดว ยเครื่องหมาย ; เสมอ 2. คําสั่งการรับตัวแปร โดย %d หมายถึง ชนิดเลขจํานวนเต็ม 3. รูปแบบคําสัง่ เพือ่ ใหข อมูลออกมาทางหนาจอ คอื *%printf″, 4. คําส่ังการเปลยี่ นแปลงโปรแกรม ตวั แปร width เปนตวั แปรประเภทเลขค่ี 5. จุดประสงคข องการเขยี นโปรแกรมภาษา Scratch คอื 1. เพื่อการเขียนคาํ สั่งมาตรฐานท่ใี ชใ นการทาํ งาน 2. เพ่อื การเขียนโปรแกรมคอมพวิ เตอรใ นรูปแบบของกราฟก 3. เพือ่ การเขียนคาํ ส่ังแคเ พยี งครัง้ เดยี ว สามารถรนั ไดทกุ แพลตฟอรม 4. เพ่ือการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุแบบสมบูรณ สําหรับพัฒนาระบบที่ซบั ซอ น แบบฝก หัด 31

6. ขอใดเปน จุดเดน ของโปรแกรมภาษาไพทอน 1. ใชไดก บั ทกุ ระบบปฏบิ ัติการ 2. เขยี นโปรแกรมคอมพวิ เตอรไดทกุ โปรแกรม 3. มีแถบเครอ่ื งมือทีม่ ากกวา โปรแกรมภาษาอน่ื ๆ 4. ไมยึดตดิ กบั แพลตฟอรมทีใ่ ช สามารถพฒั นาโปรแกรมไดอยางอิสระ 7. “Write Once, Run Anywhere” คือโปรแกรมภาษาในขอใด 1. โปรแกรมภาษาซี 2. โปรแกรมภาษาจาวา 3. โปรแกรมภาษาไพทอน 4. โปรแกรมภาษา Scratch 8. ขอใดไมใ ชซ อฟตแ วรทใี่ ชเ ขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร 1. SPSS 2. Notepad 3. Turbo C++ เฉฉบลบั ย 4. Python IDLE 9. ขอใดเปน คาํ สัง่ การประกาศตัวแปรในการเขยี นโปรแกรม 1. #include<stdio.h> 2. area = base * high; 3. printf(″Enter high : ″); 4. int width, length, high, area; 10. ขอ ใดไมใชช ุดคาํ ส่ังโปรแกรมคาํ นวณการแปลงคา เงินสกลุ เยนเปน เงินบาทไทย 1. scanf(″%.2f″, &yenjapan); 2. printf(″Enter yen japan: ″); 3. rate = thaibaht * yenjapan; 4. float yenjapan, thaibaht, rate; 32 แบบฝกหดั

µÍ¹·Õè 2 ตอบคําถามตอไปน้ี 10คทะแี่ไนดน คเะตแม็นน โรงงานผลิตแท็งกน้ําตองการผลิตแท็งกน้ําเปนรูปส่ีเหลี่ยมเพื่อจําหนาย จงเขียนโปรแกรม เฉฉบลับย คอมพิวเตอรคาํ นวณปริมาตรของแท็งกน ้ํา โดยนําเขาขอมลู ความกวา ง ความยาว และความสงู จากแปนพิมพ #include<stdio.h>............................................................................................................................................................................................................................................................... #include<conio.h>............................................................................................................................................................................................................................................................... void main(){............................................................................................................................................................................................................................................................... int width, length, high, volume;............................................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter width : ″);............................................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &width);............................................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter length :″);............................................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &length);............................................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Enter high : ″);............................................................................................................................................................................................................................................................... scanf(″%d″, &high);............................................................................................................................................................................................................................................................... volume = width * length * high;............................................................................................................................................................................................................................................................... printf(″Volume is : %d\\n″, volume);............................................................................................................................................................................................................................................................... }............................................................................................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหค ะแนน เขยี นชุดคําสงั่ โปรแกรมคอมพิวเตอรไดถกู ตองสมบรู ณ คะแนน การตอบคาํ ถาม 10 (10 คะแนน มี 1 ขอ ขอ ละ 10 คะแนน) ตารางบนั ทกึ คะแนน ประจําหนว ยการเรียนรทู ี่ 2 หนว ยท่ี มาตรฐานการ เครอื่ งมือวัดและผลคะแนน เรียนรู / ตวั ช้วี ัด เครือ่ งมอื วดั ผล คะแนนท่ไี ด คะแนนเตม็ หนว ยการเรียนรูท่ี 2 ว 4.2 ม.1/2 Exercise 98 การออกแบบและการเขียนโปรแกรม Activity 12 เบื้องตน Unit Test 20 130 รวม แบบฝก หัด 33

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การจดั การขอ มลู สารสนเทศ ตวั ชวี้ ดั ว 4.2 ม.1/3 Overview ในอดีตถึงปจจุบันมนุษยใหความสนใจเก่ียวกับขอมูลและสารสนเทศเปนอยางมาก มีการเผยแพร ขอมูลและสารสนเทศหลากหลายชองทาง ตั้งแตหนังสือพิมพ วิทยุ โทรทัศน และอินเทอรเน็ต ดังนั้น จึงมีการจัดการเกี่ยวกับขอมูลและสารสนเทศใหเปนระบบมากย่ิงขึ้น เพื่อใหทุกคนสามารถ เขา ถงึ แหลง ขอมลู และสารสนเทศไดตลอดเวลา และใชป ระกอบการตัดสนิ ใจแกไ ขปญ หาตา ง ๆ ได ขอมูล ขอเท็จจริง หรือเหตุการณท่ีเกี่ยวของกับส่ิงตาง ๆ เปน ไดท้ังตัวเลข ขอ ความ ภาพ และเสียง โดยอาจหมายถงึ เฉฉบลบั ย คน สตั ว สง่ิ ของ หรอื เหตกุ ารณต าง ๆ สารสนเทศ ขอมูล การนําขอมูลมาผานระบบการประมวลผล คํานวณ และสารสนเทศ วเิ คราะห และแปลความหมายเปนขอความท่สี ามารถนํา ไปใชประโยชนใ นดา นตา ง ๆ ไดมากมาย การสปาขรรอสะมนมูลเวทลศผล ขั้นตอนการประมวลผลขอมูลใหเ ปนสารเทศ กาซรอเลฟแือลตกะแใชวงรา น 1. ขอ มลู เขา นําเขาขอ มูลท่ีจะประมวลผล 2. ประมวลผล คอมพิวเตอรประมวลผลโดยการเรียง ขอ มูล และจดั กลมุ ขอมูล 3. ขอมูลออก ไดสารสนเทศ และจัดทํารายงานเพื่อ นําเสนอตอ ไป ซอฟตแ วร ชุดคําสั่งหรือโปรแกรมท่ีใชส่ังการคอมพิวเตอร ซ่ึงแบง ออกเปน 2 ประเภท คอื ซอฟตแ วรร ะบบ และซอฟตแ วร ประยุกต การเลือกใชงาน ผูใชงานควรเลือกใชซอฟตแวรที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ และตนเองมีความถนดั 34 แบบฝกหดั

Exercise 7 0คเะตแม็นน เร่ือง ขอ มูลกบั สารสนเทศ 1. ตอบคาํ ถามตอ ไปนี้ (10 คะแนน) 1) ขอมูล คอื อะไร ขอมูล เปนขอเท็จจริง หรือเหตุการณท่ีเก่ียวของกับส่ิงตาง ๆ เปนไดท้ังตัวเลข...................................................................................................................................................................................................................................... ขอความ ภาพ และเสียง โดยอาจหมายถึง คน สตั ว สิ่งของ หรือเหตกุ ารณตา ง ๆ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2) ขอ มลู ปฐมภูมแิ ละขอมลู ทตุ ิยภมู ิแตกตา งกนั อยางไร ข....อ ...ม....ลู.....ป....ฐ....ม....ภ....มู....ิ...เ..ป....น.....ข...อ....ม....ลู.....ท....เี่..ก....บ็.....ร....ว...บ.....ร....ว...ม....ม....า...จ....า...ก....แ....ห....ล....ง....ข...อ....ม....ลู....ท.....ไี่...ด....จ....า...ก....แ....ห....ล.....ง ...ข....อ ...ม....ลู.....โ..ด.....ย....ต....ร....ง... แ....ต....ข....อ....ม....ูล....ท.....ุต....ิย....ภ.....ูม....ิ .....เ..ป.....น.....ข...อ....ม....ูล.....ท....่ีไ...ด.....จ....า...ก....แ....ห.....ล....ง....ท....่ีร....ว....บ....ร....ว....ม....ข...อ....ม....ูล.....ไ..ว....แ...ล.....ว.........ส....า....ม....า...ร....ถ....น.....ํา...ม....า...ใ...ช... อางองิ ไดเ ลย...................................................................................................................................................................................................................................... 2. จากสถานการณท ่กี าํ หนด ใหบอกวธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอมลู ทเี่ หมาะสม พรอมเหตผุ ล เฉฉบลบั ย ประกอบ (15 คะแนน) 1) รุงโรจน ตองการศกึ ษา สภาพการจราจร บริเวณ หนา โรงเรยี นในชวงเชา วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ มูลคอื วธิ ีการสังเกตการณ......................................................................................................................................................... เหตุผล เพราะเปนขอมูลที่ตอ งไดจากการสังเกตโดยตรง................................................................................................................................................................................................................. 2) นจิ พร ตอ งการศึกษา จาํ นวนประชากรจงั หวัดนนทบรุ ี ยอนหลงั 3 ป วิธกี ารเกบ็ รวบรวมขอ มูล คือ ขอขอ มลู จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย...................................................................................................................................................... เหตุผล .เ..พ.....ร....า...ะ...เ..ป....น.....ข...อ....ม....ลู.....ท....ีจ่....ะ...ต....อ....ง....ม....ีค....ว....า...ม....น.....า ...เ..ช...่ือ....ถ....อื.......ไ...ม....ส.....า...ม....า...ร....ถ....เ..ก....บ็.....ร....ว...บ.....ร....ว...ม....ข...อ....ม....ลู....เ..อ....ง....ไ...ด..  จะตอ งใชข อ มูลจากหนว ยงานตาง ๆ อา งองิ...................................................................................................................................................................................................................................... แบบฝก หดั 35

3) อารีย ตอ งการขอ มลู เชงิ ลึกของนักกฬี าแบดมนิ ตนั วิธีการเก็บรวบรวมขอมลู คอื วิธีการสมั ภาษณ...................................................................................................................................................... เหตุผล เพราะเปนขอมูลที่จะตองทราบรายละเอียดของนักกีฬาแบดมินตัน และตอง................................................................................................................................................................................................................. ชแ้ี จงหรืออธบิ ายใหผถู ูกสัมภาษณเ ขา ใจในคาํ ถาม และวัตถปุ ระสงคในการสัมภาษณ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 4) รสรนิ ทร ตองการสาํ รวจน้ําเสียในบรเิ วณลําคลองขา งโรงเรยี น เฉฉบลับย วิธีการเกบ็ รวบรวมขอมลู คอื วิธกี ารทดลอง...................................................................................................................................................... เหตผุ ลเพ.....ร....า...ะ..เ..ป.....น.....ข...อ....ม....ูล....ท.....่ีจ....ะ...ต....อ....ง....ท....าํ...ก.....า...ร....ท....ด.....ล....อ....ง....ท....า...ง....ว...ทิ.....ย....า...ศ....า...ส.....ต....ร..........โ..ด.....ย....ส.....มุ ...เ..ก.....็บ.....ต....วั...อ....ย....า...ง... น้ําจากลาํ คลองมาทดลองทางวทิ ยาศาสตร...................................................................................................................................................................................................................................... 5) นา้ํ ทพิ ย ตองการขอ มลู งานวิจัยเก่ยี วกับพฤติกรรมการใชโทรศพั ทมือถอื วธิ ีการเก็บรวบรวมขอ มูล คือ สืบคน ขอ มูลบนเว็บไซต...................................................................................................................................................... เหตผุ ล เ..พ....ร....า...ะ...เ..ป....น.....ข....อ....ม....ูล....ง....า...น.....ว...จิ....ยั....ท....มี่....ีผ....ูอ....่ืน.....ไ...ด....ศ.....กึ....ษ.....า...แ....ล....ะ...ส.....ร....ุป....ผ....ล....ว...ิจ....ัย....ไ...ว...เ..ร....ยี....บ.....ร....อ....ย...แ....ล....ว........ซ....ึง่... สามารถสืบคนขอ มูลบนเว็บไซตขององคก รตา ง ๆ และมหาวิทยาลัยตา ง ๆ ได...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 36 แบบฝก หัด

3. เตมิ ขอ ความในชองวา งใหสมบรู ณ (10 คะแนน) 1) สารสนเทศ คอื การนําขอมูลมาผานระบบการประมวลผล คํานวณ วิเคราะห และแปลความหมาย...................................................................................................................................................................................................................................... ออกมาเปน ขอความท่ีสามารถนาํ ไปใชป ระโยชนต า ง ๆ ไดมากมาย...................................................................................................................................................................................................................................... 2) สารสนเทศมีความสําคญั ตอ ดานตา ง ๆ ดงั นี้ 1. ดา นการศึกษา ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น ก า ร ส อ น ใ น ป  จ จุ บั น มุ  ง เ น  น ผู  เ รี ย น เ ป  น.............................................................................................................................................................................. 2. ดานสังคม .ศ....นู .....ย....ก .....ล....า...ง........ซ....ึง่ ....ม....ีก....า...ร....ก.....ร...ะ...ต.....ุน.....ใ...ห....ผ....ูเ ..ร....ีย....น.....ไ...ด....ศ ....ึก.....ษ.....า...ค....น.....ห.....า...ค....ว...า...ม....ร....ูด.....ว...ย... 3. ดา นเศรษฐกจิ ตนเอง.............................................................................................................................................................................. สารสนเทศชวยพัฒนาสติปญญาของมนุษย ทําใหเกิดความคิด.............................................................................................................................................................................. สรางสรรค เกิดการประดิษฐค ิดคนเทคโนโลยีใหม ๆ และชวย.............................................................................................................................................................................. .พ....ฒั......น.....า...บ.....คุ....ล.....กิ ....ภ....า...พ.....ส.....ว ...น.....บ....คุ.....ค....ล.....ใ..ห.....อ....ย...ร.ู ...ว...ม....ก.....บั....ผ....อู....นื่.....ไ...ด....อ....ย....า...ง....ม...คี.....ว...า...ม....ส.....ขุ .. ขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคใหมที่เรียกวา เศรษฐกิจบนฐานความ.............................................................................................................................................................................. รู โดยองคก รตา ง ๆ ใหความสาํ คัญกับเรอื่ ง การจดั การความรู.............................................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................................. เฉฉบลบั ย 4. ดา นวฒั นธรรม สารสนเทศเปนรากฐานท่ีจําเปนสําหรับความกาวหนาของ.............................................................................................................................................................................. อารยธรรม สบื ทอดคานยิ ม ทัศนคติ ศลิ ปะ และวัฒนธรรมที่.............................................................................................................................................................................. เปนเอกลักษณของชาติ.............................................................................................................................................................................. 4. เตมิ ขอความในชอ งวางใหสมบรู ณ (5 คะแนน) ลักษณะของสารสนเทศที่ดี มี 5 คุณลักษณะ ดังนี้ 1. มคี วามถูกตอ งแมนยํา โดยสารสนเทศท่ีถกู ตอ งแมน ยาํ จะตอ งเกิดจากการปอ นขอมลู.................................................................................................................................................................................................................................................. และโปรแกรมที่ประมวลผลจะตองถูกตอง.................................................................................................................................................................................................................................................. 2..........ท....นั.....ต.....อ ....เ..ว...ล....า......น.....นั่.....ค.....อื ......ข....อ ...ม....ลู.....ท....ป่ี.....อ ...น.....ใ...ห.....ก ....บั.....เ..ค....ร....อื่....ง....ค....อ....ม....พ....วิ....เ..ต....อ....ร....ต ....อ....ง....ม...ค.ี ....ว...า...ม....เ..ป....น.....ป.....จ ....จ....บุ ....นั.....เ..ส.....ม....อ... หรอื ทันสมัยตลอดเวลา เพือ่ นําไปใชป ระโยชนไดจรงิ.................................................................................................................................................................................................................................................. 3. มีความสมบูรณครบถวน ซึ่งเกิดจากการเก็บขอมูลไดครบ ทําใหไดประโยชนจาก.................................................................................................................................................................................................................................................. สารสนเทศเตม็ ประสทิ ธิภาพ.................................................................................................................................................................................................................................................. 4. มีความสอดคลอ งกบั ความตอ งการของผใู ช นน่ั คอื การเกบ็ ขอมลู ตองมีการสอบถาม.................................................................................................................................................................................................................................................. ผูใชง านวา ตอ งการเรื่องใดบาง.................................................................................................................................................................................................................................................. 5. สามารถพิสจู นได โดยสารสนเทศจะตอ งสามารถตรวจสอบที่มาได.................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................. แบบฝก หดั 37

5. จบั คูความสมั พันธร ะหวางขอความทางดา นซายและขอความทางดานขวา ใหถกู ตอง (10 คะแนน) ฉ.................1) ระบบท่สี ามารถจัดการขอมูลต้ังแตการรวบรวม ก. เทคโนโลยสี ารสนเทศ ......... และตรวจสอบขอ มูล การประมวลผลขอมลู ข. ขอมูล รวมถงึ การดูแลรกั ษาขอ มูล ค. ฮารดแวร ค. 2)................ จอภาพ คยี บ อรด เมาส ง. บคุ ลากร จ. 3)................ MAC OS Windows7 LINUX จ. ซอฟตแ วรระบบ ช. 4)................ Microsoft Word Google Chrome CCleaner ฉ. ระบบสารสนเทศ ง. 5)................ นกั เขียนโปรแกรม นักวิเคราะหระบบ ช. ซอฟตแวรป ระยกุ ต ซ.................6) คูม อื การใชง านสาํ หรบั ผใู ชคอมพวิ เตอร ซ. กระบวนการ ข. 7)................ วดิ ีโอเกยี่ วกบั วชิ าคณติ ศาสตร ม.1 ฌ. ซอฟตแวร ก. 8)................ เครือ่ งเบกิ ถอนเงินอตั โนมตั ิ เครื่องคดิ เงินสด ญ. สารสนเทศ ญ.................9) นาํ ไปใชป ระกอบการตดั สินใจได ฌ.............10) โปรแกรมทส่ี ามารถสง่ั การใหค อมพิวเตอรท าํ งาน เฉฉบลบั ย 6. จงบอกวธิ ีจดั การขอมลู และสารสนเทศตามข้ันตอนเก่ยี วกบั เรอื่ ง คาดัชนีมวลกายของเพ่อื น ในช้นั เรียนของหอ งเรยี นที่ 1 หองเรยี นท่ี 2 และหอ งเรยี นที่ 3 (20 คะแนน) 1) ขัน้ ตอนท่ี 1 การนาํ เขาขอ มูล การรวบรวมขอมลู การตรวจสอบขอ มูล การเตรียมขอ มูล ทาํ การเก็บรวบรวมขอมูล ทําการตรวจสอบขอ มูล ช่อื เตรยี มขอ มูลโดยนาํ ขอ มลู............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ของเพอ่ื นในชั้นเรียน เพศ นา้ํ หนัก และสวนสูง เขาสูระบบคอมพวิ เตอร............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. โดยการสัมภาษณเ พ่ือน วาครบหรือไม และขอ มูล โปรแกรม และจดั เตรียม............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ซึ่งมคี ําถามทป่ี ระกอบดว ย ถกู ตองหรอื ไม ขอ มลู Microsoft Excel............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ชอื่ เพศ นํา้ หนัก และ ซ่งึ มีนํา้ หนักหนว ยเปน............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. สวนสูง กิโลกรัม และมสี วนสูง............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. หนว ยเปน เมตร เพอื่ นําไป............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. คํานวณคาดัชนีมวลกาย............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. 38 แบบฝก หดั

2) ขน้ั ตอนที่ 2 การประมวลขอมลู เฉฉบลับย 1. การจัดกลุม หรอื จําแนกประเภท : มกี ารจดั กลมุ แยกเปน 2 กลุม คือ ชายและ...................................................................................................................................................................................................................................... หญงิ กลมุ หอ งเรยี น 3 กลมุ คอื หอ งเรยี นที่ 1 หอ งเรยี นท่ี 2 และหอ งเรยี นที่ 3...................................................................................................................................................................................................................................... 2..........ก.....า...ร....เ.ร....ยี....ง....ล....าํ...ด.....บั.....ข...อ....ม....ูล........:.....จ....ัด....เ..ร....ยี....ง....ล....ํา...ด.....ับ....ข....อ ....ม....ูล....ต....า....ม...ล.....าํ...ด....ับ.....เ..ล....ข....ป....ร....ะ...จ....าํ...ต....ัว....น.....กั ....เ..ร....ีย....น........เ..พ.....่อื... ใหเ กดิ ความสะดวก...................................................................................................................................................................................................................................... 3. การคาํ นวณ : มกี ารคํานวณคา ดัชนีมวลกายจากสูตรการคํานวณ...................................................................................................................................................................................................................................... คา ดชั นมี วลกาย = น้ําหนัก (กก.) / [สวนสงู (เมตร)]...................................................................................................................................................................2................................................................... 4. การคน คืน : มกี ารเรยี กใชขอมลู ทสี่ นใจ แยกตามเพศ แยกตามหองเรยี น...................................................................................................................................................................................................................................... 5. การสรปุ : มกี ารสรุปแยกกลุม เพอ่ื ประมวลผลของคาดัชนมี วลกาย โดยใชเกณฑ...................................................................................................................................................................................................................................... คา ดัชนีมวลกายจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสขุ ดังนี้...................................................................................................................................................................................................................................... คา ดชั นมี วลกาย นอ ยกวา 18.5 ผอมเกินไป...................................................................................................................................................................................................................................... คาดัชนีมวลกาย อยูระหวา ง 18.5-22.9 อยูในเกณฑเ หมาะสม นํ้าหนักตัวปกติ...................................................................................................................................................................................................................................... คาดัชนีมวลกาย อยูระหวาง 23-24.9 น้ําหนักเกิน แตยงั ไมเ รยี กวาอว น...................................................................................................................................................................................................................................... คาดัชนีมวลกาย อยรู ะหวาง 25-29.9 เรมิ่ อวน...................................................................................................................................................................................................................................... คา ดัชนมี วลกาย มากกวา 30 อวนเกินไป เสีย่ งที่จะเกดิ โรคท่มี าจากความอว น...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 3) ขั้นตอนท่ี 3 การเก็บรกั ษาขอ มลู การจัดเกบ็ ขอ มลู การสาํ เนาขอมลู การปรับปรุงขอมูล การจัดเกบ็ ขอมูลอยูในรปู มีการสาํ เนาไฟลง านลงใน มีการปรบั ปรุงขอ มูลทุก ๆ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ของไฟลงานในฮารด ดสิ ก แผนดีวีดี หนว ยความจํา เดือน โดยการจดั เกบ็ ขอมลู............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. และมีการพมิ พใ สกระดาษ แบบแฟลชไดรฟ ใหม แลว นาํ มาเปรียบเทยี บ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. กบั ขอมลู เดิม เพือ่ ดกู าร............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. เปลย่ี นแปลง............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. ............................................................................. แบบฝกหัด 39

4) ข้ันตอนท่ี 4 การแสดงผล มีการแสดงผลในรูปของรายงาน โดยแสดงผลในรปู ของกราฟแทง เพอื่ ใหเ ห็นการ...................................................................................................................................................................................................................................... เปรยี บเทยี บคา ดชั นมี วลกายของกลมุ นกั เรยี นชายและนกั เรยี นหญงิ และกลมุ หอ งเรยี น...................................................................................................................................................................................................................................... ซ่งึ มีตวั อยางของการแสดงผลในรปู ของกราฟแทง ดงั น้ี...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ยกตัวอยา งการแสดงผล คาดชั นมี วลกาย 30 25 20 เพศชาย 15 เพศหญิง 10 เฉฉบลบั ย 5 หองเรยี น 0 หอ งเรยี นท่ี 1 หองเรียนท่ี 2 หองเรยี นที่ 3 เกณฑการใหคะแนน ตอบคาํ ถามไดถ ูกตอ งตรงตามประเด็น คะแนน บอกวิธีการเก็บรวบรวมขอ มลู ไดถูกตอ ง 1. การตอบคาํ ถาม บอกเหตผุ ลของการใชว ธิ เี กบ็ รวบรวมขอ มลู อยา งเหมาะสม 215 (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอละ 5 คะแนน) 5 เติมขอความไดถูกตองและสมบรู ณ 1 2. การตอบคําถาม เติมขอความไดถูกตองและสมบูรณ 1 (15 คะแนน มี 5 ขอ ขอละ 3 คะแนน) จับคูข อความทม่ี คี วามสมั พนั ธกนั ถกู ตอ ง 5 ตอบคาํ ถามไดถ ูกตอ งตรงตามประเดน็ 3. การเติมขอความ (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอละ 5 คะแนน) 4. การเติมขอความ (5 คะแนน มี 5 ขอ ขอ ละ 1 คะแนน) 5. การจบั คู (10 คะแนน มี 10 ขอ ขอละ 1 คะแนน) 6. การตอบคาํ ถาม (20 คะแนน มี 4 ขอ ขอละ 5 คะแนน) 40 แบบฝก หัด

Exercise 3 0คเะตแ็มนน เร่ือง การประมวลผลขอ มูลสารสนเทศ 1. จงบอกกจิ กรรมในชวี ติ ประจาํ วนั ของนกั เรยี นทใ่ี ชก ารประมวลผลขอ มลู มา 2 กจิ กรรม (10 คะแนน) เฉฉบลับย 1) กจิ กรรมที่ 1 ก.....า...ร....ซ....้ือ....ส.....ิน.....ค....า....จ....า...ก....ร....า...น.....ส.....ะ...ด.....ว...ก.....ซ....ื้อ.........ซ....ึ่ง....ใ...ช...ร....ห.....ัส.....แ...ท.....ง...เ..พ.....่ือ....อ....า...น.....ข....อ....ม....ูล....เ..ก.....ี่ย....ว...ก....ับ.....ส.....ิน.....ค.....า........แ....ล....ะ... ราคาสนิ คา...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2) กจิ กรรมท่ี 2 การทําแบบทดสอบท่ีตองฝนคําตอบดวยดินสอดํา เพื่อตรวจคะแนนโดยใช...................................................................................................................................................................................................................................... เครอ่ื งคอมพิวเตอร...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2. เตมิ ขอ ความในชอ งวา งใหส มบรู ณ (20 คะแนน) 1) การประมวลผลแบบเช่อื มตรง คือ วิธีการนําขอมูลแตละรายการท่ีถูกบันทึกเขามา.......................................................................................................................................... ป.....ร....ะ...ม...ว....ล....ผ....ล....ท.....ัน.....ท....ี.....น.....ิย....ม....ใ...ช...ใ...น.....ง....า...น.....ท.....่ีต....อ....ง....ไ..ด.....ผ....ล....ล.....ัพ....ธ....ใ...ห....ก.....บั ....ผ....ใู...ช....ท....ัน.....ท.....ี .....ห....ร....ือ....ง...า....น.....ท....ข่ี...อ....ม....ูล.....จ....ะ.. ตองทนั สมยั ตลอดเวลา...................................................................................................................................................................................................................................... ตัวอยางเชน การจองตั๋วเคร่ืองบิน การฝาก-ถอนเงินผานตูเอทีเอ็ม การซื้อสินคา................................................................................................................................................................................................... จากรา นสะดวกซอื้ หรอื หางสรรพสินคา...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2) การประมวลผลแบบกลุม คือ การเก็บรวบรวมขอมูลในแตละชวงเวลาหนึ่ง และนํา....................................................................................................................................................... ขอมลู ทไ่ี ดรับในชวงเวลาดงั กลาวมาประมวลผลพรอมกัน...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ตัวอยางเชน การสํารวจความพึงพอใจของผูใชบริการรถโดยสารสาธารณะ การ................................................................................................................................................................................................... คํานวณคา บรกิ ารคาไฟฟา และคาน้ําประปาใน 1 เดือน...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหคะแนน ยกตัวอยางกจิ กรรมไดถกู ตอ งและชดั เจน คะแนน บอกความหมายไดถูกตอ งสมบูรณ 1. การตอบคําถาม ยกตัวอยา งไดถูกตองและชดั เจน 5 (10 คะแนน มี 2 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) 55 2. การเติมขอ ความ (20 คะแนน มี 2 ขอ ขอละ 10 คะแนน) แบบฝกหดั 41

Exercise 2 5คเะตแม็นน เร่ือง ซอฟตแ วรแ ละการเลือกใชง าน 1. ตอบคาํ ถามตอไปน้ี (20 คะแนน) 1) ซอฟตแวรคอื อะไร จงอธิบาย ซอฟตแ วร เปนชุดคาํ สัง่ หรอื โปรแกรมท่ใี ชเครอ่ื งคอมพิวเตอรใ หท าํ งานไดตรงตาม...................................................................................................................................................................................................................................... ความตอ งการและถกู ตอ ง รวมทงั้ ควบคมุ การทาํ งานของอปุ กรณต า ง ๆ เชน CD ROM...................................................................................................................................................................................................................................... Drive จอภาพ เครือ่ งพิมพ เปนตน...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2) ซอฟตแ วรร ะบบท่นี ักเรียนรจู ัก มอี ะไรบาง ระบบปฏิบตั กิ ารไมโครซอฟตว ินโดวส และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 3) จงบอกซอฟตแวรร ะบบทนี่ กั เรยี นอยากเลอื กใชมากทีส่ ดุ พรอมเหตุผลประกอบ ระบบปฏบิ ัตกิ ารไมโครซอฟตวินโดวส เพราะใชง านงา ย ใชงานบอ ยครัง้ มฟี งกชัน...................................................................................................................................................................................................................................... การใชงานหลากหลาย และรองรบั การใชง านโปรแกรมตาง ๆ ไดม ากเฉฉบลับย ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 4) โปรแกรมโอเพนซอรซ ทน่ี ักเรียนรจู กั มีอะไรบาง Google Chrome Mozilla Firefox และ VLC Media Player...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 5) จงบอกโปรแกรมโอเพนซอรซ ทีน่ ักเรียนอยากเลอื กใชมากทสี่ ดุ พรอ มเหตผุ ลประกอบ Google Chrome เพราะใชงานงาย มีการแสดงผลบนหนาจอสวยงาม ไมเสีย...................................................................................................................................................................................................................................... คาใชจ าย ตดิ ตงั้ รวดเรว็ และสามารถเชอื่ มโยงกบั โปรแกรมอ่นื ๆ ไดห ลากหลาย...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 6) ซอฟตแวรร ะบบและซอฟตแ วรประยกุ ตมคี วามแตกตา งกนั อยางไร ซอฟตแ วรร ะบบ เปน ซอฟตแ วรท ถี่ กู สรา งขน้ึ เพอื่ ใชบ รหิ ารจดั การระบบ การจดั สรร...................................................................................................................................................................................................................................... ทรัพยากร และดําเนินงานพ้ืนฐานตาง ๆ ในระบบ สวนซอฟตแวรประยุกต เปน...................................................................................................................................................................................................................................... ซอฟตแวรที่ใชกับงานดานตาง ๆ ตามความตองการของผูใช ที่สามารถนํามาใช...................................................................................................................................................................................................................................... ประโยชนไดโ ดยตรง...................................................................................................................................................................................................................................... 42 แบบฝก หัด

7) ซอฟตแ วรป ระยุกตท ่นี กั เรียนรูจัก มอี ะไรบา ง เฉฉบลบั ย Microsoft Word Microsoft PowerPoint Adobe Photoshop และ Line...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 8) จงบอกซอฟตแ วรป ระยกุ ตท น่ี กั เรยี นใชง านยอ ยมากทส่ี ดุ มา 2 อนั ดบั พรอ มบอกลกั ษณะ การใชง าน อนั ดับที่ 1 คอื Microsoft Word.............................................................................................................................................................................................. ลกั ษณะการใชงาน แกไ ข เพิม่ แทรก ลบ และจดั รูปแบบเอกสาร พมิ พเ อกสาร.................................................................................................................................................................................... อนั ดับที่ 2 คอื Line.............................................................................................................................................................................................. ลกั ษณะการใชงาน การติดตอสอื่ สารระหวา งบคุ คลดวยการโทรหรือสงขอความ.................................................................................................................................................................................... 9) ชุดโปรแกรม OpenOffice เหมอื นกันหรือแตกตา งกนั กบั ชุดโปรแกรม Microsoft Office อยางไร ชดุ โปรแกรม OpenOffice เหมือนกับชุดโปรแกรม Microsoft Office โดยเปน ชุด...................................................................................................................................................................................................................................... โปรแกรมสํานักงานที่มีความสามารถคลายคลึงกัน เชน โปรแกรม OpenOffice...................................................................................................................................................................................................................................... Writer กบั Microsoft Word เปน โปรแกรมดา นการพิมพตัวหนังสือสําหรบั งาน...................................................................................................................................................................................................................................... เอกสารตา ง ๆ เปนตน...................................................................................................................................................................................................................................... 10) โปรแกรม OpenOffice ท่นี กั เรยี นรูจ กั มีอะไรบา ง Writer Calc และ Draw...................................................................................................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................................................................................................... 2. ในชุดโปรแกรม Microsoft Office มีโปรแกรมใดท่สี ามารถสรา งกราฟตาง ๆ เพ่ือจดั ทําเปน รายงานสรปุ ผลได จงอธิบาย (5 คะแนน) โปรแกรม Microsoft Excel สามารถสรา งกราฟตา ง ๆ ได เชน กราฟแทง กราฟเสน.................................................................................................................................................................................................................................................. กราฟวงกลม กราฟโดนัท กราฟเรดาร เปน ตน เพ่ือจดั ทําเปน รายงานสรปุ ผลตอไป.................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................................................................................................. เก...ณ.....ฑ....ก...า...ร...ใ..ห...ค ...ะ..แ...น...น......................................................................................................................................................................................ค...ะ...แ...น...น........... 1. การตอบคําถาม (20 คะแนน มี 10 ขอ ขอ ละ 2 คะแนน) ตอบคาํ ถามไดถกู ตองตรงตามประเดน็ 2 2. การตอบคาํ ถาม 5 (5 คะแนน มี 1 ขอ ขอ ละ 5 คะแนน) ตอบคําถามไดถูกตอ งตรงตามประเดน็ แบบฝก หดั 43

Activity เรื่อง สารสนเทศสรางไดดวยตัวเรา Applying Analyzing ทกั ษะกระบวนการคิดอยางมวี จิ ารณญาณ ทกั ษะการแกป ญ หา Creating ทักษะการใชเทคโนโลยสี ารสนเทศ Evaluating Understanding Remembering 10คทะแ่ีไนดน คเะตแม็นน อานสถานการณท ี่กาํ หนด แลวสรา งกราฟแทงดว ยโปรแกรม Microsoft Excel และสรุปผลที่ได การสอบกลางภาคของภาคภมู แิ ละกนกพรมคี ะแนน 5 วชิ า จากคะแนนเตม็ วชิ าละ 20 คะแนน ดงั นี้ คณติ 15 คะแนน คณิต 18 คะแนน วทิ ย 12 คะแนน วทิ ย 14 คะแนน ไทย 18 คะแนน ไทย 18 คะแนน สงั คม 13 คะแนน สังคม 16 คะแนน องั กฤษ 10 คะแนน องั กฤษ 14 คะแนน เฉฉบลบั ย 1) ตดิ รปู กราฟแทง คะแนน 20 18 16 14 12 10 ภาคภมู ิ 8 กนกพร 6 4 2 0 คณิต วิทย ไทย สงั คม อังกฤษ วิชา 2) การสรุปผล จากกราฟ จะเหน็ วา คะแนนสอบกลางภาคของภาคภมู สิ ว นใหญน อ ยกวา คะแนนสอบ...................................................................................................................................................................................................................................... กลางภาคของกนกพร แตมเี พยี งวิชาภาษาไทยที่มีคะแนนเทากัน...................................................................................................................................................................................................................................... เกณฑก ารใหคะแนน สรา งกราฟแทง ไดส มบรู ณแ ละถูกตอง คะแนน สรปุ ผลไดถ กู ตอ งตรงตามประเด็น การอานสถานการณแ ลวตอบคาํ ถาม 55 (10 คะแนน มี 1 ขอ ขอ ละ 10 คะแนน) 44 แบบฝกหดั

Unit test 3 µÍ¹·Õè 1 เลือกคาํ ตอบท่ถี ูกตอ งทส่ี ุด 10คทะแี่ไนดน คเะตแม็นน 1. สิงหาไดบันทึกผลการทดลองเก่ียวกับการทดสอบสารละลายกรดและสารละลายเบสในชีวิต ประจาํ วัน ซ่ึงขอมูลทส่ี งิ หาบนั ทกึ ไดจ ัดเปนขอ มูลตามขอใด 1. ขอ มูลปฐมภูมิ 2. ขอมลู ทุตยิ ภูมิ 3. ขอมูลขอเทจ็ จริง 4. ขอมลู ผลการทดลอง 2. ฉัตรชัยตองการขอมูลจํานวนรถจักรยานยนตที่ฝาฝนสัญญาณไฟจราจร ณ ส่ีแยกไฟแดง แหงหน่งึ ฉัตรชัยจะตอ งใชวธิ เี ก็บรวบรวมขอมลู ตรงกับขอ ใด 1. การทดลอง 2. การสมั ภาษณ 3. การสังเกตการณ 4. ขอขอ มูลจากหอสมุดแหง ชาติ 3. อโนชาตอ งการขอ มลู เชงิ ลกึ ของเดก็ ตดิ เกม อโนชาจะตอ งใชว ธิ เี กบ็ รวบรวมขอ มลู ตรงกบั ขอ ใด เฉฉบลบั ย 1. การทดลอง 2. การสัมภาษณ 3. การสงั เกตการณ 4. ขอขอมลู จากหอสมดุ แหงชาติ 4. ขอใดไมใชประโยชนของ Search Engines 1. รองรับไดหลากหลายภาษา 2. กรองขอ มลู อันเปนเท็จ 3. รวดเร็วและมปี ระสิทธภิ าพสงู 4. สืบคนขอมูลไดส ะดวกและงาย 5. ขอใดไมใ ชล ักษณะของสารสนเทศทีด่ ี 1. ปรบั ปรงุ สารสนเทศทกุ ๆ 1 เดอื น 2. ปอ นขอ มูลถูกตอ ง ประมวลผลถกู ตอง 3. มที มี่ าของสารสนเทศ ตรวจสอบทม่ี าไดท กุ เมอื่ 4. ลงมือเกบ็ รวบรวมขอ มูลและประมวลผลดว ยตนเอง แบบฝกหดั 45


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook