หนงั สอื อเี ลก็ ทรอนิกส์ วชิ าคอมพวิ เตอรเ์ พอ่ื การศกึ ษา Introduction To Computer ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ โรงเรียนอนุบาลพยหุ ะครี ี (วดั พระปรางค์เหลือง)
คำนำ กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้ประกาศใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และไดก้ าหนดมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระ การเรียนรู้ต่างๆ เพ่ือให้สถานศึกษานาไปใช้เป็ นกรอบทิศทางในการพัฒ นา หลกั สตู รสถานศกึ ษา วางแผนจดั การเรยี นการสอนและจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้เพ่อื พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ต าม มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ทก่ี าหนดให้ พรอ้ มทงั้ ดาเนินการวัดประเมนิ ผลการ เรยี นรขู้ องผเู้ รยี นใหม้ คี ุณภาพตามหลกั การของหลกั สตู ร เพ่อื ใหเ้ กิดผลสาเรจ็ ตาม เจตนารมณ์ของการปฏริ ปู การศกึ ษาไทย ดงั นนั้ ขนั้ ตอนการนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา ไปปฏบิ ตั จิ รงิ ในชนั้ เรยี นของครผู สู้ อน จงึ จดั เป็นหวั ใจสาคญั ของการพฒั นาคุณภาพ ผเู้ รยี นใหบ้ รรลตุ ามเป้าหมายของหลกั สตู ร ขา้ พเจา้ จงึ สรา้ งบทเรยี น โดยใชห้ นงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) ใช้ เป็นส่อื การเรยี นการสอนท่สี นับสนุนการเรยี นใหผ้ ูเ้ รยี นเกดิ พฒั นาการเรยี นรูแ้ ละ เขา้ ใจเน้ือหาวชิ าไดเ้ รว็ และดขี น้ึ เพ่อื ใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าคอมพวิ เตอร์ เพ่ือการศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เพ่ือพฒั นาผู้เรียนให้เรียนรู้ได้อย่างเต็ม ศกั ยภาพสามารถศกึ ษาเรยี นรูไ้ ดท้ ุกท่ี ทุกเวลา ตามความต้องการการเรียนรู้ ซ่งึ เป็นการตอบสนองตามแนวทางการปฏริ ปู การศกึ ษา และสนองตามหลกั การของ หลกั สตู รการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
บทที่1 เรื่อง คอมพิวเตอรใ์ นชีวิตประจำวนั สำรบญั 1. ควำมหมำยและรปู แบบของคอมพิวเตอร์ หน้ำ 2. ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ 3.บทบำทของคอมพิวเตอร์ 1 4.ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ 1 3 บทท่ี 2 เรอ่ื ง กำรทำงำนของคอมพิวเตอร์ 6 14 1. หลกั กำรทำงำนของคอมพิวเตอร์ 2. หน่วยรบั ข้อมลู 16 3. หน่วยประมวลผลกลำง 17 4. หน่วยควำมจำหลกั 18 5. หน่วยควำมจำรอง 19 6. หน่วยแสดงผล 20 23 วีดีโอ 26 หนังสืออ้ำงอิง 30 31
คอมพิวเตอรใ์ นชีวิตประจำวนั ปั จ จุ บัน ค อ ม พิ ว เ ต อ ร์ ไ ด้เ ข้า ม า มี ส่ ว น เ ก่ี ย ว ข้อ ง กับ ก า ร ด า เ นิ น ชีวิตประจาวนั ของมนุษยเ์ ป็นอยา่ งมาก ท้งั ช่วยเอ้ืออานวยความสะดวกสบายและ ช่วยให้มีชีวิตความเป็ นอยู่ท่ีดีข้ึน ไม่ว่าในสังคมเมือง สังคมชนบท หน่วยงาน ภาครัฐและภาคเอกชนล้วนใช้คอมพิวเตอร์เพื่ออานวยความสะดวกในการ ปฏิบัติงานและตอบสนองความต้องการของตนเองด้วยกันท้งั สิ้น เน่ืองจาก คอมพิวเตอร์สามารถจดั เก็บขอ้ มูลไดเ้ ป็ นจานวนมาก ทางานไดร้ วดเร็ว ถูกตอ้ ง และแม่นยา จึงถือวา่ เป็นเคร่ืองมือท่ีมีความสาคญั และมีบทบาทต่อการดาเนินชีวิต ของมนุษยเ์ ป็นอยา่ งยง่ิ และมีแนวโนม้ ขยายตวั เพ่ิมข้ึนอยา่ งต่อเน่ือง 1
ควำมหมำยและรปู แบบของคอมพิวเตอร์ ความหมายของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ หมายถึง เคร่ืองมือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ท่ีถูก สร้างข้ึน เพ่ือใช้ทางานแทนมนุษยใ์ นการคานวณและจาขอ้ มูลท้งั ตวั เลขและ ตวั อกั ษรไดอ้ ตั โนมตั ิตามคาสัง่ ผ่านอุปกรณ์รับขอ้ มูล (input) แลว้ นาขอ้ มูลและ คาสงั่ น้นั ไปประมวลผล (process) ดว้ ยหน่วยประมวลผล เพ่ือให้ไดผ้ ลลพั ธ์ตาม ตอ้ งการ ซ่ึงอาจเป็ นตัวเลข รูปภาพ ข้อความเสียง เป็ นตน้ และแสดงผลผ่าน อุปกรณ์แสดงผล (output) ตลอดจนสามารถบนั ทึกรายการต่าง ๆ โดยอุปกรณ์ บนั ทึกขอ้ มูลสารอง เพื่อเกบ็ ไวใ้ ชง้ านคร้ังต่อ ๆ ไปได้ ปัจจุบนั จะพบว่าคอมพิวเตอร์ถูกพฒั นาข้ึนอย่างต่อเนื่อง ทาให้มี เครื่องคอมพิวเตอร์หลากหลายรูปแบบ ซ่ึงถูกออกแบบให้ใชง้ านง่ายและราคาไม่ แพงนกั จึงทาให้ไดร้ ับความนิยมใชง้ าน นิยมใชง้ านกนั อยา่ งแพร่หลาย ไม่ว่าจะ เป็นคอมพิวเตอร์ขนาดพกพา คอมพิวเตอร์แบบต้งั โต๊ะ คอมพิวเตอร์แบบกระเป๋ า หิ้ว คอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ เป็นตน้ 2
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ไดถ้ ูกพฒั นาและมีความกา้ วหนา้ ไปอย่างรวดเร็ว ทาให้มีขนาดและ ราคาลดลง แต่มีประสิทธิภาพการทางานสูงข้ึน ส่งผลใหห้ น่วยงานราชการและเอกชนนา คอมพวิ เตอร์มาใชง้ านกนั อยา่ งกวา้ งขวาง เพราะคอมพิวเตอร์มีความสามารถในดา้ นต่าง ๆ มาก เช่น การพิมพเ์ อกสาร รายงาน หนงั สือ การ์ดอวยพร วารสาร นิตยสาร หนงั สือพิมพ์ เป็นตน้ ซ่ึงสามารถออกแบบไดส้ วยงามและประหยดั ค่าใชจ้ ่าย การออกแบบและสร้างงาน ศิลปะ เช่นการวาดรูปการ์ตูน การออกแบบอาคาร การสร้างภาพกราฟิ ก หรือการตกแต่ง ภาพในคอมพวิ เตอร์ การเล่นเกม การดูภาพยนตร์ การฟังเพลง การร้องคาราโอเกะ การท่อง อินเทอร์เน็ต การสนทนาออนไลน์ การสร้างบลอ็ กหรือเวบ็ ไซตส์ ่วนตวั การสร้างงาน อะนิ เมชนั หรือแมแ้ ต่เวลาที่นกั เรียนไปซ้ือสินคา้ ในร้านมินิมาร์ท นกั เรียนจะเห็นพนกั งานเก็บ เงินของร้านใชเ้ คร่ืองคานวณราคาสินคา้ รวมเงินค่าสินคา้ และคิดเงินทอนให้อยา่ งรวดเร็ว โดยใชค้ อมพวิ เตอร์ เป็นตน้ การทาการ์ดอวยพร ออกแบบอาคาร รวมท้งั งาน อะนิเมชนั เป็นตวั อยา่ งที่นา คอมพิวเตอร์มาช่วยในการ สร้างสรรคง์ าน 3
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ การใชง้ านคอมพิวเตอร์ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทาใหเ้ สมือนไดท้ ่องโลกกวา้ งเพยี ง ปลายนิ้วสมั ผสั การใชง้ านคอมพิวเตอร์อีกรูปแบบหน่ึงท่ีกาลงั เป็นท่ีนิยมกนั อยา่ งกวา้ งขวาง กค็ ือการ ใชง้ านคอมพวิ เตอร์ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต็ ซ่ึงสามารถเชื่อมโยงขอ้ มูลจากท่ีหน่ึงไปยงั อีก ท่ีหน่ึงไดเ้ พียงปลายนิ้วสัมผสั โดยไม่จากดั ระยะเวลาและสถานที่จากคุณสมบตั ิต่าง ๆ ของ คอมพิวเตอร์จึงทาใหค้ อมพิวเตอร์มีความสาคญั ในการทางานของหลายหน่วยงาน และเขา้ มาเป็ นส่วนหน่ึงในชีวิตประจาวันของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากน้ียังมีการ ประยกุ ตใ์ ชง้ านคอมพิวเตอร์ในดา้ นต่าง ๆ ดงั ต่อไปน้ี 1) การสื่อสาร (communication) ในยุคปัจจุบันเรียกว่าเป็ นยุคแห่งการสื่อสารแบบไร้พรมแดน มีการสื่อสารใน รูปแบบต่าง ๆ คอมพิวเตอร์สามารถช่วยในการติดต่อส่ือสารกบั ทุกคนไดท้ ุกมุมโลกได้ อยา่ งสะดวกรวดเร็วและประหยดั ค่าใชจ้ ่ายมาก ไม่ว่าจะเป็นการส่งจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (e-mail) การพูดคุยและส่งขอ้ ความทางอินเทอร์เน็ต อีกท้งั ยงั สามารถสร้างเวบ็ เพจส่วน บุคคลใหเ้ พอ่ื นๆ หรือครอบครัวเขา้ มาชมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นไดอ้ ยา่ งอิสระ 4
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ การสื่อสารผา่ นทางอินเทอร์เน็ต ไม่วา่ จะเป็นการส่งจดหมายอเลก็ ทรอนิกส์หรือการ พูดคุย และส่งขอ้ ความทางอินเทอร์เนต็ ช่วยใหก้ ารติดต่อส่ือสารเป็นไปอยา่ งสะดวก รวดเร็วและประหยดั ค่าใชจ้ ่าย 2) การเลือกซื้อสินค้า (shopping) การเยยี่ มชมร้านคา้ ต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า ไซเบอร์มอลล์ (cybermall) เพ่ือ เลือกชมสินคา้ และสามารถสั่งซ้ือสินคา้ ผ่านระบบการบริการทางอินเทอร์เนต็ ทาให้ ประหยดั เวลาและค่าใชจ้ ่ายได้ 5
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ 3) การสืบค้นข้อมูล (searching) การสืบคน้ ขอ้ มูลต่าง ๆ ผา่ นเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถทาไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว โดยมี เคร่ืองมือหรือโปรแกรมในการคน้ หาเวบ็ ไซต์ ที่เรียกวา่ “search engine” เช่น www.sanook.com, www.bingandgoogle.com และ www.google.co.th เป็นตน้ เพือ่ คน้ หา บทความ เอกสาร ข่าวทอ้ งถ่ิน ข่าวภายในประเทศหรือต่างประเทศ รูปภาพต่าง ๆ ตามความ สนใจไดซ้ ่ึงในปัจจุบนั จะมีลกั ษณะเป็นส่ือมลั ติมีเดีย เช่น ภาพ เสียงคลิปวดิ ีโอ เป็นตน้ ท่ี สมั พนั ธ์กบั เน้ือหาใหเ้ ลือกชมมากมาย การสืบคน้ ขอ้ มูลผา่ นทางอินเทอร์เน็ต ทาใหไ้ ดข้ อ้ มูลที่หลากหลาย เป็นสากล และช่วย ใหก้ ารสืบคน้ ขอ้ มูลทาไดง้ ่ายและรวดเร็ว 6
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ 4) ด้านความบนั เทงิ (entertainment) สามารถอ่านหนงั สือ ฟังเพลงชมรายการต่าง ๆ ของสถานีโทรทศั น์ และเล่นเกม ผา่ นคอมพิวเตอร์ เพื่อศึกษาหาความรู้ ฝึ กทกั ษะในดา้ นต่าง ๆ และผ่อนคลายความเครียด โดยการเช่ือมต่ออินเทอร์เนต็ หรือไม่ตอ้ งเช่ือมต่อกบั อินเทอร์เนต็ กไ็ ด้ เราสามารถใชค้ อมพิวเตอร์เพื่อความบนั เทิง เช่น การดูหนงั ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่ ท้งั น้ีกค็ วรแบ่งเวลาใหเ้ ป็นและไม่ใชเ้ วลาส่วนใหญ่ไปกบั ความบนั เทิง โดยเฉพาะเดก็ ในวยั เรียน 7
ควำมสำคญั ของคอมพิวเตอร์ 5) ด้านการศึกษา (education) เช่น การนาคอมพิวเตอร์มาใช้เพ่ือพิมพร์ ายงาน นาเสนอผลงาน ทาสื่อการเรียน การสอน ทางานหรือทาการบา้ นส่งอาจารย์ รวมถึงการเรียนผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ (e-learning) ท่ีเป็ นโปรแกรมประยุกต์ทางเวบ็ ไซตท์ ่ีเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยผูท้ ่ีสนใจ สามารถเขา้ เรียนวชิ าต่าง ๆ ได้ โดยมีหลกั สูตรหรือวชิ าต่าง ๆ ใหเ้ ลือกมากมาย ในทุก ๆ ระดบั ช้นั บางหลกั สูตรเรียนฟรี แต่ในบางหลกั สูตรอาจจะตอ้ งเสียค่าใชจ้ ่ายในการเรียน เพ่ิมเติม เวบ็ ไซต์ NOLP e-Learning World (http://www.thai2learn.com/index.php) เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการเกี่ยวกบั e-learning และรวบรวมเว็บไซต์ท่ีเกยี่ วอ้กักบั e-learning มากมาย 8
บทบำทของคอมพิวเตอร์ ประวตั คิ อมพวิ เตอร์ ปี ค.ศ. 1832 (พ.ศ. 2336) นักคณิตศาสตร์ชาวอังกฤษชื่อ ชาลส์ แบบเบจ (Charles Babbage) ไดป้ ระดิษฐ์เครื่อง ผลต่าง (difference engine) ที่มีฟังกช์ นั ทาง ตรีโกณมิติต่าง ๆ โดยอาศยั หลกั การทางคณิตศาสตร์ ต่อมาในปี ค.ศ. 1833 (พ.ศ.2376) ไดอ้ อกแบบเครื่องวิเคราะห์ (analytical engine) ซ่ึงมีหลกั การทางานคลา้ ย คอมพิวเตอร์ทว่ั ไปในปัจจุบนั การทางานของเครื่องน้ีแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนเก็บขอ้ มูล ส่วนคานวณ และส่วนควบคุมใชร้ ะบบเครื่องยนตไ์ อน้าหมุน ฟันเฟื อง มีขอ้ มูลอยู่ในบตั รเจาะรู สามารถคานวณไดโ้ ดยอตั โนมตั ิ และเก็บผลลพั ธ์ใน หน่วยความจาก่อนจะพมิ พอ์ อกมาทางกระดาษ จากแนวคิดเก่ียวกบั การสร้างเครื่องผลต่างและออกแบบเครื่องวิเคราะห์ เป็ น ประโยชน์ต่อวงการคอมพิวเตอร์ในยคุ ต่อมาเป็นอยา่ งมาก ชาลส์ แบบเบจ จึงไดร้ ับการ ยกยอ่ งวา่ เป็น \"บิดาแห่งคอมพิวเตอร์\" เครื่องผลตา่ ง เครื่องวเิ คราะห์ ชาลล์ แบบเบจ (difference engine) (analytical engine) (Charles Babbage : ค.ศ. 1792-1871) 9 บิดาแห่งคอมพิวเตอร์
บทบำทของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์เขา้ มามีบทบาทและเก่ียวขอ้ งกบั ชีวิตประจาวนั ของเราทุกคน ท้งั หน่วยงานราชการและเอกชน ต่างก็มีคอมพิวเตอร์เขา้ มาเป็ นส่วนหน่ึงในระบบการ ทางาน ซ่ึงถือเป็ นส่วนสาคญั ในการสร้างงานต่าง ๆ กล่าวไดว้ ่าคอมพิวเตอร์เขา้ มามี บทบาทและเป็นส่วนสาคญั ในดา้ นต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในหน่วยงานต่าง ๆ เน่ืองจาก คอมพิวเตอร์มี ความสามารถหลายดา้ น ท้งั การเกบ็ ขอ้ มูล คานวณวิเคราะห์ ตลอดจนการออกแบบ สร้างสรรค์ 10
บทบำทของคอมพิวเตอร์ 1. ด้านงานราชการ (government) หน่วยงานราชการเป็ นหน่วยงานที่นาคอมพิวเตอร์มาใชง้ านในการใหบ้ ริการดา้ น ต่าง ๆ ตามบทบาทและหนา้ ท่ีของหน่วยงานน้นั เช่น กรมสรรพากรวางระบบบนเวบ็ ไซต์ สาหรับใหบ้ ริการคานวณภาษี เสียภาษี และรายการต่าง ๆ ท่ีวา่ การอาเภอใชค้ อมพิวเตอร์ จดั เกบ็ ขอ้ มูลการแจง้ เกิด แจง้ ตาย ยา้ ยท่ีอยู่ หรือทาบตั รประชาชน สานกั งานสถิติแห่งชาติ ใชเ้ กบ็ ขอ้ มูลสถิติ สามะโนประชากร หรือวเิ คราะหข์ อ้ มูลสถิติ เป็นตน้ เวบ็ ไซตข์ องหน่วยงานราชการ เช่น http://www.rd.go.th เวบ็ ไซตข์ องกรมสรรพากรที่ ใหบ้ ริการเก่ียวกบั ภาษี http:// www.nso.go.th เวบ็ ไซตข์ องสานกั งานสถิติแห่งชาติ ใหบ้ ริการขอ้ มูลสถิติต่าง ๆ เป็นตน้ 11
บทบำทของคอมพิวเตอร์ 2. ด้านงานธุรกจิ (business) ปัจจุบนั ธุรกิจการคา้ ต่าง ๆ มกั นาคอมพิวเตอร์มาใช้ คานวณราคาสินคา้ เพือ่ ช่วยให้ การบริการมีความสะดวก รวดเร็ว คอมพวิ เตอร์ถูกนามาใชก้ บั งานดา้ นธุรกิจ ท้งั การจดั ทาเอกสาร นาเสนองาน โดยนา โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่นิยมใชก้ นั ทว่ั ไป เช่น Microsoft office มาใชก้ นั อยา่ งแพร่หลาย และเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการของลูกคา้ เช่น หา้ งสรรพสินคา้ ใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการทา ระบบบญั ชีสาเร็จรูป เพื่อทารายการซ้ือและขายสินคา้ การตรวจสอบยอดคงเหลอื ของ สินคา้ ทาธุรกิจออนไลน์นาคอมพิวเตอร์มาใชง้ านในรูปแบบของการซ้ือและขายสินคา้ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต (e-commerce) การธุรกิจในการรับชาระเงินค่าเช่าซ้ือสินคา้ และค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ที่มีการออนไลน์ขอ้ มูลกบั หน่วยงานหลกั เพ่ือทาการตดั ยอด บญั ชีโดยอตั โนมตั ิ งานธนาคารท่ีบริการฝากเงินการถอนเงิน การ โอนเงิน การกยูืมเงิน การคิดดอกเบ้ีย รวมถึงการทา ธุรกรรมผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ (e-banking) หรือการ ทาธุรกรรมต่าง ๆ โดยใช้โทรศัพท์มือถือผ่าน เครือข่ายโทรศพั ท์ (m-Banking) ท่ีมีความสามารถเท่า เทียมกับคอมพิวเตอร์แบบพกพา นอกจากน้ียัง สามารถชาระค่าบริการและค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ค่าน้า ค่าไฟ ค่าโทรศพั ท์ ค่าบริการผ่อนชาระ สินคา้ ผ่านบตั รเครดิต การเติมเงินมือถือ การซ้ือขาย หุน้ เป็นตน้ การใชค้ อมพิวเตอร์ ในธุรกิจธนาคาร ซ่ึง ให้บริ การทางด้าน ก า ร เ งิ น ต ล อ ด จ น ธุรกรรมต่าง ๆ 12
บทบำทของคอมพิวเตอร์ 3. ด้านงานส่ือสารโทรคมนาคม (telecommunication) งานคมนาคม เช่น รถไฟ รถไฟฟ้า รถประจาทาง เครื่ องบิน ได้นา คอมพิวเตอร์เขา้ มาใช้ในส่วนการเดินทาง เช่น การสารองที่น่ัง ออกบตั รโดยสาร การ ตรวจสอบตารางเดินทาง เป็นตน้ ซ่ึงสามารถเชื่อมโยงไปยงั สถานีต่าง ๆ ไดท้ าใหส้ ะดวก และไม่ตอ้ งเสียเวลาในการเดินทาง นอกจากน้ียงั ใชค้ อมพิวเตอร์ในการควบคุมระบบการจราจรทางบกและทางอากาศที่ จะช่วยอานวยความสะดวกในการจดั ระเบียบของเส้นทางการจราจรให้เป็นไปดว้ ยความ เรียบร้อย รวมถึงใชใ้ นระบบจาลองการบินใหก้ บั นกั บินฝึ กหดั โดยการจาลองทุกอยา่ งให้ เสมือนกบั การขบั เคร่ืองบินจริงทุกประการ ทาใหป้ ระหยดั ท้งั เวลา ค่าใชจ้ า่ ย และเพ่ือความ ปลอดภยั ของนกั บินดว้ ย การใชค้ อมพวิ เตอร์เขา้ มาควบคุมระบบสญั ญาณไฟ จราจร ช่วยทาใหก้ ารจราจรเป็น ระเบียบเรียบร้อย 13
บทบำทของคอมพิวเตอร์ การนาคอมพวิ เตอร์เขา้ มาใชใ้ นงานคมนาคม เช่น การสารองท่ีนงั่ การออกบตั รโดยสาร ตลอดจนใช้ จาลองการบินของนกั บิน จะช่วยอานวยความสะดวก และประหยดั ท้งั เวลาและค่าใชจ้ ่าย 4. ด้านงานการศึกษา (education) สถาบนั การศกึ ษาในปัจจุบนั น้ีมีการนาคอมพวิ เตอร์มาใชใ้ นการเรียนการสอน โดยการใชอ้ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (CAI) โดยส่ือน้ีจะนารูปแบบของภาพ เสียง ตวั อกั ษร และเทคนิคการนาเสนอต่าง ๆ ท่ีน่าสนใจ เพื่อช่วยใหผ้ ูเ้ รียนสามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเอง และ สามารถทบทวนไดต้ ลอดเวลา และการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต (e-learning) สร้าง บทเรียนออนไลนผ์ า่ นเครือข่ายอินเทอร์เนต็ เพ่ือช่วยใหผ้ เู้ รียนท่ีอยหู่ ่างไกลและไม่สะดวกเขา้ ช้นั เรียนสามารถเรียนรู้ผ่านระบบไดด้ ว้ ยตนเอง รวมถึงใชใ้ นการบริหารโรงเรียน เช่น งาน ทะเบียน งานวดั ผลการเรียน การยมื และคืนหนงั สือหอ้ งสมุด เป็นตน้ สื่อคอมพวิ เตอร์ช่วยสอน (CAI)ใชเ้ ทคนิค การนาเสนอท่ีน่าสนใจ และง่ายต่อการทา ความเขา้ ใจ ช่วยให้ผูเ้ รียนสามารถเรียนรู้ ดว้ ยตนเอง 14
บทบำทของคอมพิวเตอร์ 5. ด้านงานวทิ ยาศาสตร์และการแพทย์ (science and medical) นกั วิทยาศาสตร์และแพทยไ์ ดน้ าคอมพิวเตอร์มาช่วยในการศึกษา คานวณ คน้ ควา้ วิจยั รวมท้งั จาลองสิ่งต่าง ๆ ในทางวิทยาศาสตร์ให้อย่ใู นรูปแบบท่ีเขา้ ใจไดง้ ่ายข้ึน และ สร้างผลงานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ๆ เช่น การจาลองรหัสพนั ธุกรรม การพยากรณ์อากาศ การสารวจการขุดเจาะทรัพยากรธรณี การเตือนแผ่นดินไหว การทาแผนที่จากภาพถ่าย ดาวเทียม การสารวจอวกาศขององคก์ ารนาซา เป็นตน้ เคร่ืองเอก็ ซเรยค์ อมพวิ เตอร์ สามารถสร้างภาพสามมิติของอวยั วะภายใน ช่วยใหก้ าร วนิ ิจฉยั และรักษาโรคทาไดง้ ่ายข้ึน อีกท้งั ยงั มีการนาคอมพวิ เตอร์มาใชง้ านร่วมกบั เครื่องมือและอุปกรณ์สมยั ใหม่ในการ วินิจฉยั โรคและตรวจสอบอาการของคนไข้ เช่น เครื่องตรวจวดั คล่ืนหัวใจ เคร่ืองตรวจวดั คล่ืนสมอง เคร่ืองเอกซเรยค์ อมพวิ เตอร์ที่สามารถสร้างภาพสามมิติของอวยั วะภายใน ช่วยให้ แพทยส์ ามารถรักษาและวนิ ิจฉยั โรคต่าง ๆ ไดง้ ่ายข้ึน นอกจากน้ียงั ใชใ้ นระบบการเงิน สถิติ ขอ้ มูลของคนไข้ โดยโรงพยาบาลบางแห่งมี การเชื่อมโยงประวตั ิขอ้ มูลของคนไข้ เมื่อมาพบแพทยอ์ ีกคร้ังก็สามารถเรียกดปู ระวตั ิของ คนไขว้ ่าเคยแพย้ าชนิดใด มีโรคประจาตวั หรือไม่ มีกรุ๊ปเลือดอะไร เพื่อใหแ้ พทยส์ ามารถ ทราบขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เพ่ือใหส้ ามารถวนิ ิจฉยั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและรวดเร็ว 15
บทบำทของคอมพิวเตอร์ 6. ด้านงานวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม (engineering and architecture) วศิ วกรและสถาปนิกนาคอมพิวเตอร์มาช่วยในการออกแบบ เขียนแบบ หรือจาลอง โครงสร้างของงานต่าง ๆ เช่น การออกแบบอาคารพาณิชย์ การสร้างเขื่อนเพ่ือรองรับน้าฝน การสร้างสะพานขา้ มแม่น้า โดยคอมพิวเตอร์จะช่วยคานวณที่ซับซ้อน และแสดงผลถึง ประสิทธิภาพของงานท่ีออกแบบ เพ่ือใหไ้ ดผ้ ลลพั ธ์การคานวณท่ีถูกตอ้ งและรวดเร็ว เช่น การคานวณวงโคจรของดาวเทียม เพ่ือใชใ้ นการรับและส่งสญั ญาณดาวเทียม เป็นตน้ การใชค้ อมพวิ เตอร์ในงานดา้ นสถาปนิก การออกแบบ เขียนแบบโครงสร้างอาคาร ซ่ึงช่วยในดา้ นการคานวณที่ซบั ซอ้ น 16
บทบำทของคอมพิวเตอร์ ๗. งานอ่ืน ๆ นอกจากที่กล่าวมาแลว้ คอมพวิ เตอร์ยงั มีบทบาทดา้ นอื่น ๆ หลายดา้ น เช่น งานละคร งานโฆษณา งานโรงแรม การนาเขา้ สินคา้ การส่งออกสินคา้ การประชุมทางไกล การ วเิ คราะหต์ ลาดหุน้ เป็นตน้ โดยคอมพวิ เตอร์จะช่วยออกแบบ ลงทะเบียน ตรวจสอบ บนั ทึก และเผยแพร่ขอ้ มูลต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งสะดวกและรวดเร็ว การประชุมทางไกลผา่ นเครือข่าย (Video Conference System) เป็นการประชุมของผทู้ ่ี อยหู่ ่างไกล โดยระบบคอมพวิ เตอร์จะทาใหส้ ามารถประชุมปรึกษาหารือกนั ไดเ้ สมือน อยใู่ นหอ้ งประชุมเดียวกนั 17
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์มีความสาคญั และมีประโยชน์ต่อมนุษยท์ ้งั ทางตรงและทางออ้ ม ประโยชนท์ างตรงคือคอมพิวเตอร์ทางานไดอ้ ยา่ งเท่ียงตรง รวดเร็ว ซ่ึงช่วยแบ่งเบาภาระ ผใู้ ชง้ านไดเ้ ป็นอยา่ งดีและมีประสิทธิภาพเป็นอยา่ งมาก ประโยชน์ทางออ้ มคือช่วยพฒั นา คุณภาพชีวติ ของมนุษยใ์ หม้ ีส่ิงอานวยความสะดวกต่าง ๆ มีชีวติ ความเป็ นอยทู่ ี่ดีข้ึน ช่วย เพม่ิ พูนความรู้ และสามารถเรียนรู้ไดอ้ ยา่ งง่ายดาย รวมท้งั ช่วยพฒั นาระบบงานในดา้ น ต่าง ๆ ท้งั ทางดา้ นเทคนิคและเทคโนโลยีของระบบงานท่ีทนั สมยั ซ่ึงจะส่งผลให้ชีวิต ความเป็นอยขู่ องมนุษยด์ ีข้ึนอยา่ งต่อเนื่อง ซ่ึงสามารถสรุปประโยชนข์ องคอมพิวเตอร์ได้ ดงั ต่อไปน้ี ๑) ช่วยสร้างงาน เช่น เอกสาร รายงาน รูปภาพ งานศิลปะ แบบจาลองโครงสร้าง เป็นตน้ ซ่ึงสามารถสร้างชิ้นงานไดถ้ ูกตอ้ ง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเป็นอยา่ งมาก ๒) ช่วยสร้างความบันเทิง เช่น ดูหนงั ฟังเพลง เล่นเกม เป็นตน้ ทาให้ผ่อนคลาย ความเครียด ไดร้ ับความสนุกสนาน และใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ ๓) ช่วยตดิ ต่อสื่อสาร ไม่วา่ จะอยใู่ กลห้ รือไกลกนั คอมพวิ เตอร์สามารถรับส่งขอ้ มูล ข่าวสารไดภ้ ายในระยะเวลาอนั ส้ัน ทาให้ ประหยดั เวลาและค่าใชจ้ ่ายเป็นอยา่ งมาก ๔) ช่วยสืบค้นข้อมูล คอมพิวเตอร์เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดี สาหรับคน้ ควา้ หาความรู้ ต่าง ๆ ทาให้ไดร้ ับขอ้ มูลตามความตอ้ งการซ่ึงนบั ว่าช่วยอานวยความสะดวกแก่ผูใ้ ช้ได้ เป็นอยา่ งดี ซ่ึงการสืบคน้ ขอ้ มูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะไดข้ อ้ มูลท่ีหลากหลาย และ เป็ นสากล ๕) ช่วยแก้ไขปัญหาทางด้านสังคมและประเทศ คอมพิวเตอร์ช่วยวางแผนการ ทางานประเมินสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไดอ้ ยา่ งเป็ นระบบทาการคา้ นาเขา้ และส่งออก สินคา้ ได้ ทาให้สังคมและประเทศมีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเน่ือง มีส่วนในการ ขบั เคล่ือนเศรษฐกิจของสังคมใหเ้ จริญกา้ วหนา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว 18
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์ จากลักษณะความสาคัญ และบทบาทของคอมพิวเตอร์ใน ดา้ นต่าง ๆ ที่ได้กล่าวมาจะเห็นได้ ว่าการนาคอมพิวเตอร์มาใช้งานน น้ันมีส่วนเกี่ยวข้องกบั การดาเนิน ชี วิ ต ป ร ะ จ า วัน ข อ ง เ ร า ม า ก ข้ึ น เ ร่ื อ ย ๆ เ นื่ อ ง จ า ก ก า ร พัฒ น า เทคโนโลยที างคอมพิวเตอร์มีความ เจริญกา้ วหน้าอย่างรวดเร็วและมี การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทาให้ สามารถใช้งานไดส้ ะดวกมากข้ึน ดงั น้นั คอมพิวเตอร์จึงถูกนาไปใช้ งานในดา้ นต่าง ๆ อย่างกวา้ งขวาง ซ่ึงมีความทันสมัย และรองรับ ความตอ้ งการของผใู้ ชท้ ่ีเพิ่มมากข้ึน ไดต้ ลอดเวลา 19
กำรทำงำนของคอมพิวเตอร์ 20
หลกั กำรทำงำนของคอมพิวเตอร์ หลกั การทางานของคอมพวิ เตอร์ มีส่วนประกอบสาคญั ข้นั พ้นื ฐาน 5 หน่วย ซ่ึงแต่ละหน่วยจะมีหลกั การทางาน ดงั น้ี 1) หน่วยรับขอ้ มูล (Input unit) 2) หน่วยประมวลผลกลาง (Central processing unit) 3) หน่วยความจาหลกั (Main memory) 4) หน่วยแสดงผล (Output unit) 5) หน่วยความจาสารอง (Secondary storage) 21
หน่วยรบั ข้อมลู หน่วยรับข้อมูล (Input unit) ทาหนา้ ท่ีรับขอ้ มูลจากผใู้ ชเ้ ขา้ สู่คอมพิวเตอร์ เช่น ตวั อกั ษร ตวั เลข สญั ลกั ษณ์ เป็นตน้ โดยจะแปลงขอ้ มูลใหไ้ ปอยใู่ นรูปของ สญั ญาณไฟฟ้าที่คอมพิวเตอร์เขา้ ใจ ตวั อยา่ งอุปกรณ์หน่วยรับขอ้ มูล เช่น 1) แป้นพิมพ์ รับขอ้ มูลตวั อกั ษร 2) เมาส์ รับขอ้ มูลในลกั ษณะการช้ีและการคลิกเลือกคาสง่ั ท่ีหนา้ จอ 3) ไมโครโฟน รับขอ้ มูลเสียง 4) สแกนเนอร์ รับขอ้ มูลภาพนิ่ง 5) กลอ้ ง รับขอ้ มูลภาพเคล่ือนไหว 22
หน่วยประมวลผลกลำง หน่วยประมวลผลกลาง (Central processing unit) เรียกอีกอยา่ งหน่ึงวา่ ซีพียู (CPU) เปรียบเสมือนสมองของคอมพิวเตอร์ ที่มีการประมวลผล เช่นการคานวณ การเปรียบเทียบ การวเิ คราะห์หาผลลพั ธท์ ่ีตอ้ งการได้ ซ่ึงซีพียจู ะถูกบรรจุในชิป ที่เรียกวา่ ไมโครโปรเซสเซอร์ (Microprocessor) ซีพียปู ระมวลผลขอ้ มูลท่ีไดร้ ับจากอุปกรณ์รับขอ้ มูล (input device) แลว้ ส่งต่อไป ยงั อุปกรณ์แสดงผล (output device) ซีพียู ยง่ิ มีความเร็วมากจะยงิ่ ประมวลผลไดเ้ ร็ว หน่วยวดั ความเร็วของซีพียู เรียกวา่ เฮิร์ตซ์ (Hertz : Hz) ซ่ึงเท่ากบั 1 คร้ังต่อวนิ าที การเลือกความเร็วของซีพียทู ี่เหมาะสมกบั งานต่าง ๆ ดงั น้ี 1) งานพิมพเ์ อกสาร ดูหนงั ฟังเพลง และเล่นอินเทอร์เน็ต ควรมีความเร็วของ ซีพียู 700 – 1,300 MHz 2) งานกราฟิ ก ตกแต่งภาพความละเอียดสูง ควรมีความเร็วของซีพียู 1.3 – 2.0 GHz 3) งานสร้างมลั ติมีเดีย ตดั ต่อเสียง และวิดีโอ ควรมีความเร็วของซีพีย2ู .0 GHz ข้ึนไป 23
หน่วยควำมจำหลกั หน่วยความจาหลกั (main memory) เป็นอุปกรณ์ที่ใชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูล และคาสงั่ ท่ีอยรู่ ะหวา่ งการประมวลผลของคอมพิวเตอร์หรือในขณะท่ีเปิ ดเคร่ือง คอมพิวเตอร์ใชง้ าน บางคร้ังเรียกวา่ หน่วยเกบ็ ขอ้ มูลหลกั (primary storage) ขนาดของการวดั ความจุคอมพวิ เตอร์ บิต 1 Byte (ไบต)์ = 8 bit (บิต) 1 KB (กิโลไบต)์ = 1024 Byte (ไบต)์ 1 MB (เมกกะไบต)์ = 1024 KB (กิโลไบต)์ 1 GB (กิกะไบต)์ = 1024 MB (เมกกะไบต)์ 1 TB (เทราไบต)์ = 1024 GB(กิกะไบต)์ ปัจจุบนั หน่วยความจาแรมมีขนาดความจุต้งั แต่ 256 MB, 512 MB, 1 GB, 2 GB, 4 GB, 8GB, 16 GB และ 32 GB การเลือกซ้ือแรม 1.เลือกขนาด 128-256 MB สาหรับเคร่ืองท่ีทางานดา้ นมลั ติมีเดีย เกม และกราฟิ ก ระดบั สูงควรใชแ้ รมขนาด 512 MB ข้ึนไป 2.ควรเลือกแรมที่มีความเร็วในการทางานท่ีรองรับกบั ซีพียทู ี่เราใชง้ าน 24
หน่วยควำมจำหลกั หน่วยความจาหลกั แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ดงั นี้ 1 หน่วยความจาแรม (Random Access Memory : RAM) เป็น หน่วยความจาที่จดั เกบ็ ขอ้ มูลในขณะเปิ ดเคร่ืองคอมพิวเตอร์ อาศยั กระแสไฟฟ้า ในการทางานเพื่อไม่ให้ข้อมูลสูญหาย ซ่ึงหากเกิดไฟฟ้าดับ ข้อมูลที่อยู่ใน หน่วยความจาจะหายไป ซ่ึงหากผูใ้ ช้ตอ้ งการใช้ขอ้ มูลภายหลงั ผูใ้ ช้ตอ้ งยา้ ย ขอ้ มูลออกจากแรมไปเกบ็ ไวท้ ี่หน่วยความจาสารอง เช่น ฮาร์ดดิสก์ 25
หน่วยควำมจำหลกั หน่วยความจาหลกั แบ่งออกเป็ น 2 ประเภท ดงั นี้ 2 หน่วยความจารอม (Read Only Memory : ROM) เป็นชุดคาสงั่ ท่ีใชใ้ นการเร่ิมตน้ การทางานของระบบคอมพิวเตอร์ โดยมีคุณสมบตั ิในการเกบ็ ขอ้ มูลไวโ้ ดยไม่ตอ้ งใชไ้ ฟฟ้าเล้ียง คือ เม่ือปิ ดเครื่องคอมพิวเตอร์ แลว้ เปิ ดข้ึนมา ใหม่ขอ้ มูลในรอมกจ็ ะไม่สูญหาย 26
หน่วยควำมจำรอง หน่วยความจาสารอง (Secondary storage) เป็นหน่วยเก็บขอ้ มูลถาวรท่ี ผูใ้ ชส้ ามารถยา้ ยขอ้ มูลขณะท่ีเคร่ืองคอมพิวเตอร์ทางานมาจดั เก็บไว้ สามารถ เรียกใชข้ อ้ มูลมาใชภ้ ายหลงั ได้ อุปกรณ์หน่วยความจาสารองท่ีนิยมในปัจจุบนั มีดงั น้ี ฮาร์ดดิสก์ (Hard disk) เป็นอุปกรณ์ที่เก็บขอ้ มูลไดม้ าก ฮาร์ดดิสกท์ า จากแผน่ จานแม่เหลก็ (Platter) วางซอ้ นกนั หลายๆ แผน่ โดยท่ีทุกแทรก (track) และเซกเตอร์ (sector) ที่มีตาแหน่งตรงกนั เรียกวา่ ไซลินเดอร์ (cylinder) 27
หน่วยควำมจำรอง 2 ออปตคิ ลั ดสิ ก์ (Optical disk) มีดงั นี้ 1) ซีดีรอม (CD-ROM) บนั ทึกไดเ้ พียงคร้ังเดียว ไม่สามารถเปล่ียนแปลงขอ้ มูลได้ 2) ซีดีอาร์ (CD-R) สามารถบนั ทึกไดห้ ลายคร้ังจนแผน่ เต็ม แต่ไม่สามารถแกไ้ ข ขอ้ มูลได้ 3) ซีดีอาร์ดบั บลิว (CD-RW) สามารถเขียนขอ้ มูลใหม่ทบั ลงในแผน่ เดิมได้ และ สามารถแกไ้ ขขอ้ มูลในแผน่ ได้ 4) ดีวีดี (DVD) ดีวีดี 1 แผน่ สามารถเกบ็ ขอ้ มูลไดต้ ้งั แต่ 4.7 กิกะไบต์ ถึง 17 กิกะไบต์ นิยมใชบ้ นั ทึกภาพยนตร์ 5) บลูเรยด์ ิสก์ (Blue Ray Disk) สามารถบนั ทึกขอ้ มูลไดส้ ูงถึง 100 กิกะไบต์ 28
หน่วยควำมจำรอง 3 อุปกรณ์หน่วยความจาแบบแฟลช (flash memory device) แฟลชไดร์ฟ (flash drive) ธมั ไดร์ฟ (thumb drive) หรือ แฮนด้ีไดร์ฟ (handy drive) สามารถเก็บขอ้ มูลไดเ้ หมือนฮาร์ดดิสก์ คือ สามารถเขียนและลบขอ้ มูลไดต้ าม ตอ้ งการ มีน้าหนกั เลก็ พกพาสะดวก 3 อปุ กรณ์หน่วยความจาแบบแฟลช (flash memory device) แฟลชไดร์ฟ (flash drive) ธมั ไดร์ฟ (thumb drive) หรือ แฮนด้ีไดร์ฟ (handy drive) สามารถเกบ็ ขอ้ มูลไดเ้ หมือนฮาร์ดดิสก์ คือ สามารถเขียนและลบ ขอ้ มูลไดต้ ามตอ้ งการ มีน้าหนกั เลก็ พกพาสะดวก 29
หน่วยแสดงผล หน่วยแสดงผล (Output Unit) เป็นอุปกรณ์ที่ใชแ้ สดงผลลพั ธ์ โดยจะแปลง ผลลพั ธ์จากสญั ญาณไฟฟ้าของเคร่ืองคอมพิวเตอร์ใหเ้ ป็นรูปแบบที่มนุษยเ์ ขา้ ใจ เช่น ตวั อกั ษร ตวั เลข รูปภาพ ภาพเคล่ือนไหว และเสียง เป็นตน้ อุปกรณ์หน่วย แสดงผลที่นิยมใชใ้ นปัจจุบนั มีดงั น้ี 1 จอภาพ (monitor) มหี ลายชนิด ดงั นี้ จอซีอาร์ที (CRT) จอแอลซีดี (LCD) เป็ นจอที่ประหยดั พลงั งานไฟฟ้าและแสง ท่ีส่งมายงั ตาผู้ใช้น้อย จงึ ถนอมสายตา) 30
หน่วยแสดงผล 1 จอภาพ (monitor) มหี ลายชนิด ดงั นี้ จอพลาสมา (Plasma monitor) เหมาะกบั การใช้ชม ภาพยนตร์และกฬี าเป็ นอย่างมาก การเลือกซ้ือจอภาพ 1. หากตอ้ งใชค้ อมพวิ เตอร์ติดต่อกนั เป็นเวลานานประมาณ 4-8 ชว่ั โมง ควรเลือกจอภาพ แอลซีดี (LCD) 2. ควรเลือกซ้ือจอภาพที่มีความเหมาะสมกบั การใชง้ าน 31
หน่วยแสดงผล เครื่องพมิ พ์ (Printer) เป็น อุปกรณ์ท่ีแสดงผลลพั ธใ์ นรูปขอ้ มูล รายงาน รูปภาพบนกระดาษ เครื่องพิมพม์ ีหลายชนิด ดงั น้ี เคร่ืองพมิ พฉ์ ีดหมึก (Inkjet) เคร่ืองพมิ พเ์ ลเซอร์ (Laser ) 32
หน่วยแสดงผล ลาโพง (Speaker) เป็นอุปกรณ์ที่แสดงผลลพั ธ์ รูปแบบเสียง เครื่องพมิ พเ์ ลเซอร์ (Laser ) 33
รบั ชมวีดีโอ 34
จดั ทำโดย นางสาวสภุ าวดี ฤทธิ์หมี ตาแหนง่ ครู คศ.๑ โรงเรียนอนุบาลพยุหะครี ี(วดั พระปรางค์เหลือง)
Search
Read the Text Version
- 1 - 38
Pages: