นําเสนอ อ.เขมวนั ต์ กระดงั งา
ในสมยั พทุ ธกาลองค์พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้าได้ทรงประทบั อยู่ ณ พระเชตะวนั มหาวหิ ารเผยแผ่ธรรมะคาํ สอนให้แก่เหล่าพทุ ธ สาวกได้ซึมซับในพระธรรมคาํ สอน ด้วยพระปัญญาบารมขี อง พระองค์ได้ทาํ ให้เหล่าภกิ ษุในพระเชตวนั ต่างรู้สึกเลNือมใสและ เคารพนับถือเป็ นยงNิ นัก ด้วยพระปัญญาบารมขี องพระองค์ นNีเองททีN าํ ให้เหล่าภกิ ษุรู้สึกเลืNอมใส
และนํามาเป็ นหวั ข้อในการสนทนากันในธรรมสภา “พวกท่านเหน็ ด้วยกับเราไหมว่าพระศาสดานันA ชCัง เป็ นผู้ทCมี ีพระปัญญาเฉียบแหลมน่าเลCือมใสจริงๆ” “ใช่ๆๆ” “ไม่เพยี งแต่เท่านันA นะ นอกจากจะมีพระ ปัญญาทCเี ฉียบแหลมแล้วพระศาสดายงั มีคาํ สอนทCี สCังสอนผู้คนมากมายมานักต่อนัก จนแม้แต่โจร อย่างองคุลีมานยังต้องกลับใจเลย คดิ ดแู ล้วกัน”
“เราเองก็ได้ยินเร0ืองที0ทา่ นสอนสงั0 พราหมณ์กฏู ทนั ตะ พราหมณ์หรือแม้แตเ่ หลา่ ยกั ษ์ พวกอาสวกั ยกั ษ์รวมไปถงึ ท้าวสกั วเทวราช ก็ล้วนแตเ่ คยถกู พระศาสดาอบรมสง0ั สอน มาแล้วทงัK สนิ K ” “นน0ั ไงละ่ พระศาสดาทา่ นทรงมีปัญญา เฉียบแหลมจริงๆ” พระศาสดาเมื0อเหน็ เหลา่ ภิกษุจบั กลมุ่ สนทนากนั อยใู่ นธรรมสภา จงึ ตรัสถามภิกษุเหลา่ นนัK วา่
ดกู ่อนภิกษุทงั- หลายพวกเธอกําลงั สนทนากนั ถงึ เรื=องอะไรรึ” “อ้อ..พวกกระผมกําลงั สนทนากนั ถงึ เร=ืององค์พระศาสดานะ่ ...ขอรับ” “ใชข่ อรับ..พวกเรา รู้สกึ เลอ=ื มใสและก็ทง=ึ ในพระปัญญาของพระองค์ยิ=ง นกั ” “ดกู ่อนภิกษุทงั- หลาย มิใชแ่ ตใ่ นการนีเ-ทา่ นนั- หรอกนะ..ท=ีเรามีปัญญาเฉียบแหลมแม้ในอดีตกาล สมยั ครัง- เมื=อญาณของเรายงั ไมแ่ ก่กล้า
เราก็เป็นผ้มู ีปัญญาเฉียบแหลมเหมือนกนั ” เม9ือทราบดงั นนั= เหลา่ ภิกษุได้กราบทลู วงิ วรให้ทรงประกาศบรู พกิริยาได้ทรง ระลกึ ชาตดิ ้วยบพุ เพนิวาสานสุ ตญิ าณนําชาดกเรื9องตนิ ทกุ ชาดกมาตรัสเลา่ ดงั นี =“กาลครัง= หนง9ึ นานมาแล้ว ณ ป่าแหง่ หนงึ9 อนั อดุ มสมบรู ณ์ในหิมวนั ตประเทศ พระโพธิสตั ว์ได้ กําเนิดอบุ ตั เิ ป็นพญาวานร มีบริวารเป็นฝงู วานรมากมายถงึ V หมื9นตวั
ใกล้หิมวนั ตประเทศนนั2 เอง มีหมบู่ ้านชายแดนอยหู่ มบู่ ้าน หนง?ึ หมบู่ ้านนีบ2 างครัง2 ก็มีคนอาศยั อยู่ บางครัง2 ก็ไมม่ ี โดย ในลานกลางหมบู่ ้านนนั2 มีต้นมะพลบั อยตู่ ้นหนง?ึ มีก?ิง ก้านสมบรู ณ์มีผลอร่อย เหลา่ ฝงู ลงิ มกั จะมากินผล มะพลบั นนั2 ในยามท?ีไมม่ ีคนอาศยั อยใู่ นหมบู่ ้าน “เจLียกๆๆๆ มะพลบั เน?ีย มนั ชา่ งอร่อยจนหยดุ กินไมไ่ ด้เลย จริงๆ แหมๆๆๆ ฮมั ๆๆ
โอกาสทองตอนท+ีพวกมนษุ ย์ไมอ่ ยแู่ บบนี 8 พวกเราต้อง หมํ+าให้พงุ กางไปเลย” “รีบๆ กินกนั เถอะเดีIยวพวก มนษุ ย์มา เราจะซวยกนั ซะก่อน” ครัน8 ตอ่ มาเม+ือถงึ คราว ที+ต้นมะพลบั ออกผล หมบู่ ้านนนั8 ก็กลบั มีมนษุ ย์มา อาศยั อยอู่ ีก พวกมนษุ ย์ได้ทําการสร้างบ้านเรือนและ ปลกู ต้นอ้อขนึ 8 เป็นจํานวนมาก เหลา่ ฝงู ลงิ นนั8 หลงั จาก ไมไ่ ด้กินผลมะพลบั มาพกั ใหญ่
ก็บงั เกิดความอยากขนึ 1 แตก่ ็ไมแ่ นใ่ จวา่ หมบู่ ้านนนั1 มี มนษุ ย์กลบั เข้ามาพกั อาศยั อยหู่ รือยงั “เอ้..แตจ่ ะวา่ ไปนIี มนั ก็คงเป็นชว่ งทีIมะพลบั ออกผลดกแล้วนะ่ หือ..พดู แล้ว ก็ชกั เปรีย1 วปาก อยากจะกลบั เข้าไปในหมบู่ ้านเดด็ กินซะ จริงๆ” “ซีซ1 วั นะ่ กลบั เข้าไป เดPียวก็ไปเจอกบั พวกมนษุ ย์ เรามีหวงั ซวยแนๆ่ เอางีด1 ีกวา่ ข้าวา่ เราสง่ สายสบื เข้าไป ดกู ่อนดีกวา่
วา่ ตอนนีใ( นหมบู่ ้านนนั( นะมีคนมาอาศยั อยหู่ รือ เปลา่ ” “อืม....ดีเหมือนกนั เดี>ยวข้าเข้าไปดเู อง ในฝงู เรานะ ข้าวิDงเร็วทDีสดุ เอาตวั รอดได้อยแู่ ล้ว พวกเรา เฝา้ อยทู่ DีนีDแล้วกนั ” “งนั( ฝากเจ้าด้วยแล้วกนั ” เมืDอลงิ ตวั นนั( มาถงึ หมบู ้านก็พบวา่ ผลมะพลบั ออกผลเตม็ ต้นเตม็ ต้นจริงดงั ทDีพวกตนคาดการณ์ไว้ แตป่ ัญหาก็ คือหมบู่ ้านร้างทีDพวกตนเคยมาเดด็ กินอยา่ งสขุ ใจนนั(
บดั นีก& ลบั มีมนษุ ย์มาอาศยั อยเู่ ตม็ ไปหมด “โธ่เอย๋ !...บ้า ทAีสดุ พวกมนษุ ย์มนั ดนั กลบั มาอาศยั กนั ตอนนีซ& ะได้ ฮยึ !.. เดIียวเผาไลท่ Aีซะเลย” เมืAอเจ้าลงิ สายสบื กลบั มาถงึ ฝงู ก็รีบ รายงานให้พรรคพวกวานรทราบโดยทนั ที เหลา่ ฝงู วานรได้ ฟังดงั นนั& ก็เกิดความเสยี ดายทีAไมไ่ ด้เข้าไปเดด็ กินผลลกู มะพลบั ได้ ทงั& ๆ ทีลกู มะพลบั กําลงั ออกผลเตม็ ต้น
ปัดโธ่เว้ย..เซง็ เป็ดจริงๆ อยา่ งงีเ6ราจะทํายงั ไงกนั ดีละเนี>ย ถ้าปลอ่ ยให้ลกู มะพลบั เนา่ คาต้นโดยไมท่ ําอะไรไมไ่ ด้หรือไง ไมส่ นละ ตายเป็นตาย ข้าวา่ พวกเราแอบไปกินกนั ดีกวา่ ” “เฮ้ย..เจ้าอยา่ หงนุ หนั ซี เอางีด6 ีกวา่ เราไปปรึกษาทา่ นพญา วานรกนั ดีกวา่ ไหม๊.วา่ ควรจะทําอยา่ งไรกนั ดี” พญาวานร นนั6 เป>ียมด้วยสตปิ ัญญา
เมื$อได้ฟังดงั นนั- จงึ คอ่ ยๆ คดิ พินิจก่อนจะถามลงิ สายสบื วา่ “ตอนที$เจ้าไปดนู นั- ที$หมบู่ ้านนนั- มีคนอยหู่ รือไม”่ “มีจ๊ะ ทา่ นพญาวานร” “อยา่ งงนั- รึ เอาอยา่ งนีก- ็แล้วกนั ข้าวา่ พวกเราอยา่ เพ$ิงไปกนั เลย พวกมนษุ ย์นนั- นะ เจ้าเลห่ ์เป็น อยา่ งมาก ขืนไปอยา่ งนีจ- ะเป็นอนั ตรายตอ่ พวกเราได้” “เอาอยา่ งนีไ- หม๊ ทา่ นพญาวานร เราแอบไปกินตอนที$พวก มนษุ ย์หลบั จะดีไหม๊”
“ข้าก็เหน็ เป็นเชน่ นนั. เหมือนกนั คืนนีย. ามที6พวกมนษุ ย์ หลบั กนั หมดแล้ว พวกเราคอ่ ยถือโอกาสเข้าไปในหมบู่ ้าน กินลกู มะพลบั กนั ก็แล้วกนั ” เหลา่ ฝงู ลงิ ตกลงทําตามที6 พญาวานรแนะนํา พวกมนั ตา่ งพากนั ลงจากป่าหิมพานต์ มาดกั คอยอยบู่ นแทน่ หินใหญ่ไมไ่ กลจากหมบู่ ้านเทา่ ใด นกั เพ6ือเฝา้ รอคอยเวลาที6พวกมนษุ ย์จะหลบั
“พวกเรารออยตู่ รงนีแ0 หละ รอให้พวกมนษุ ย์หลบั แล้วคอ่ ย ยอ่ งลงไปเดด็ ลกู มะพลบั กินกนั “โอ๊ย...หิวจนไส้จะขาดอยู่ แล้ว เมืJอไหร่จะนอนๆ กนั ซกั ทีเนJีย พวกมนษุ ย์เนีJยนอนดกึ กนั จริงๆ ไมก่ ลวั ตาโหลกนั หรือไงเนีJย” หลกั จากคอยจน ตะวนั ลบั ขอ“บฟา้ เมืJอมนJั ใจวา่ พวกมนษุ ย์ตา่ งพากนั เข้า นอนหมดแล้ว พญาวานรจงึ อนญุ าตให้ฝงู ลงิ กรูกนั ไปเดด็ ลกู มะพลบั กินได้
ฝงู ลงิ พากนั กินผลมะพลบั อยา่ งอะเร็ดอร่อยเพื7อให้สม กบั ท7ีรอคอยมาทงั? วนั รอคอยมาทงั? วนั “อร่อยจริงๆ อร่อย อยา่ งนีต? ้องหอ่ กลบั ไปกินที7ป่าซะหนอ่ ย ฮมั ๆๆๆ” “ไอ้เจ้า นี7มนั ลงิ หรือหมเู นี7ย..ตระกละตะกรามเหลือเกิน” แต่ เหตกุ ารณ์ไมค่ าดฝันก็เกิดขนึ ? ขณะที7พวกฝงู ลงิ กําลงั เดด็ กินลกู มะพลบั กนั อยา่ งอะเร็ดอร่อยนนั?
ก็ได้มีมนษุ ย์คนหนงึ0 ออกจากบ้านมาหามมุ เหมาะเพ0ือจะ ถ่ายอจุ จาระ โดยท0ีพวกฝงู ลงิ มิทนั ได้รู้เลยวา่ มีมนษุ ย์คน หนงึ0 เดนิ ออกจากบ้านมาแล้ว เพราะมวั แตก่ ินลกู มะพลบั จนไมส่ นใจอะไร “อยู ..มาปวดอะไรกลางดกึ แบบนี L วนั เน0ีย ยิ0งกลวั ๆ ผีอยู่ โอ้ย..เอาวะ่ เอามนั มมุ นีแL หละ มมุ สบายๆ ถ่ายสะดวก” ทนั ใดนนัL เองชาวบ้านผ้นู นัL ก็เหน็ ฝงู ลงิ จํานวน มากกําลงั เดด็ กินลกู มะพลบั เตม็ ต้นไปหมด
“เฮ้ย..นี)มนั ลงิ น)ีหวา่ ..โห้..ลงิ เป็นหมื)นๆ ตวั เลย นี)มนั มาแอบ ปีนต้นมะพลบั กินกนั หรือเน)ีย หนอยแนะ่ บงั อาจมาก..พวก เราๆๆ ต)ืนเร็ว มีลงิ แอบมาขโมยกินลกู มะพลบั เราแล้ว ตื)น เร็วๆ” “ซวยละซิ มีคนมาเหน็ แล้ว แยแ่ นๆ่ เลยพวกเรา” “ทํา ยงั ไงดีละทีนี J พวกเราไมร่ อดแนๆ่ เลย” “ฮมั ๆๆ อร่อยจริงๆ เลย” “สดุ ยอดจริงๆ เลยนะเจ้า กําลงั จะตายอยแู่ ล้ว ยงั กินได้ เหมือนไมม่ ีอะไรเกิดขนึ J เฮ้อ..”
จากนนั& ไมน่ านพวกชาวบ้านท1ีได้ยินเสยี งก็รีบตื1นขนึ & ตา่ ง หยิบฉวยอาวธุ ตดิ มือมาทงั& ธนู ลกู ศร ไม้และก้อนหินตา่ งๆ แล้วแตใ่ ครหยิบฉวยอะไรได้ แล้วพากนั ยืนล้อมรอบอยู่ รอบๆ ต้นมะพลบั หมายมน1ั จะเลน่ งานฝงู ลงิ ที1บงั อาจมา แอบกินลกู มะพลบั ยามดกึ “หนอย..มากนั ยกฝงู เลยนะ ลง มาเดOียวนีน& ะเจ้าลงิ พอ่ จะจบั เฉือนเรียงตวั เลยเชียว..ฮ”ึ
“จะเฉือนได้ยงั ไง..เจ้าถือก้อนหินมานะ ไมไ่ ด้ถือมีด แล้วมนั จะเฉือนได้ยงั ไง” “ข้าแคพ่ ดู เปรียบเปรยเฉยๆ เข้าใจมยัE พดู เปรียบเปรย เซง็ เป็ดจริงๆ เลย” เหลา่ ฝงู ลงิ กวา่ I หมJืนตวั ในตอนนีตL า่ งก็อกสนJั ขวญั แขวนด้วยความกลวั ตายจนลน ลานทําอะไรไมถ่ กู “แยแ่ ล้วๆๆ ทําไงดีเนีJยเรา เราต้องตาย กนั แนๆ่ เลย” “นนัL นะสิ โถ..ไมเ่ ลยพวกเรา ไมน่ า่ กินกนั เพลนิ เลย โถๆๆ”
พญาวานรเม*ือเหน็ ฝงู ลงิ อกสน*ั ขวญั แขวนเชน่ นนั: ก็หาคดิ วธิ ีปลอบประโลมฝงู ลงิ มิให้ตกอยใู่ นอาการตกอกตกใจ มากเกินไป ด้วยความกลวั วา่ ฝงู ลงิ จะหวั ใจวายตายกนั หมดเสยี ก่อน “อยา่ เพ*ิงกลวั ไปเลยพวกเรา พวกมนษุ ย์นนั: นะ มีอะไรให้ทําอีกเยอะแยะ ปลอ่ ยให้เขายืนรอพวกเรา อยา่ งงนั: ไปเร*ือยๆ ถ้าเราไมล่ งไปซะอยา่ ง
พวกเขาก็ขนึ ) มาไมไ่ ด้หรอก ตอนนีเ)ก็บผลไม้กินกนั ตอ่ ไป เถอะ รอไปสกั พกั เดี>ยวพวกมนษุ ย์ก็ไปทําอยา่ งอGืนเองนนั) แหละ” เมGือเหน็ วา่ สภาพจิตใจของเหลา่ ฝงู ลงิ ดีขนึ ) พญา วานรก็สงGั ให้เหลา่ ฝงู ลงิ นบั จํานวนลงิ ในฝงู วา่ ยงั อยกู่ นั ครบถ้วนดีหรือไม่ แตเ่ มืGอนนั ไปนบั มา ปารกฎวา่ มีลงิ ตวั หนงGึ หายไปจากฝงู “แอะ..นGีพวกเราหายไปตวั หนงึ นGีนา่ เจ้าเสน กะ ไง มนั หายไปไหนเนGีย?”
“ห๊า เจ้าเสนกะ หลานของทา่ นพญาวานรนะหรือหายไป ไหนเนี;ย?” “หรือวา่ หรือ หรือ เสนกะจะเผลอถกู พวก มนษุ ย์จบั ตวั ไป ฮมั ๆๆๆ อร่อยจริงๆ” “หว่ งไปกินไป ข้าละ ซงึ M จริงๆ” แตพ่ ญาวานรนนัM ทราบดีวา่ การท;ีเสนกะหายไป นนัM มิได้เกิดจากการท;ีเสนกะถกู จบั ตวั ไป พญาวานรเชื;อ วา่ อีกไมน่ านเสนกะจะต้องหาวิธีมาชว่ ยพวกตนจนได้
“พวกเจ้าไม้ต้องกลวั ไปหรอก การที5เสนกะไมอ่ ยู่ ข้าเช5ือวา่ ไมไ่ ด้หมายความวา่ เขาจะถกู จบั ไป พวกเรารอกนั สกั พกั ข้า วา่ เสนกะต้องหาทางชว่ ยพวกเราได้แนๆ่ ” “จริงหรือทา่ น พญาวานร ข้ากลวั จนทําอะไรไมถ่ กู แล้วเนี5ย ฮมั ๆๆ พดู ไป อร่อยไป” “น5ีกลวั แล้วรึเน5ีย กินจนลกู มะพลบั จะหมดต้นอยู่ แล้วเจ้านะ่ ” เสนกะ หลานของพญาวานรนนัK หาได้เดนิ ทาง มากบั ฝงู ลงิ เหลา่ นีดK ้วยไม่
แท้จริงแล้วเสนกะกําลงั หลบั อยใู่ นขณะท<ีฝงู ลงิ เดนิ ทาง มายงั หมบู่ ้าน เสนกะตื<นขนึ C มาก็ต้องแปลกใจเมื<อไมพ่ บ ลงิ ตวั อื<นๆ ในป่าเลย “อ้าว..นี<ลงิ ตวั อื<นไปไหนกนั หมดเน<ีย ทําไมป่าหิมพานต์วนั นีมC นั เงียบอยา่ งนี C นีมC นั เกิดอะไรขนึ C เน<ีย..” เสนกะพยายามมองหาเบาะแสเพื<อนลงิ วา่ หายไป ไหน จนในท<ีสดุ ก็พบเหน็ รอยเท้าฝงู ลงิ จํานวนมาก
ทิง# รอยเท้ามงุ่ หน้าไปยงั หมบู่ ้านร้าง เสนกะทราบโดยทนั ที วา่ ฝงู ลงิ ต้องมงุ่ หน้าไปกินลกู มะพลบั กินเป็นแน่ “ดจู าก รอยเท้าแล้ว สงสยั พวกเราจะไปกินมะพลบั ทDีต้นมะพลบั ใน หมบู่ ้าน รีบตามไปแจมดีกวา่ มวั แตน่ อนเพลนิ ป่านนีห# มด ต้นหรือยงั ก็ไมร่ ู้” เสนกะเดนิ ตามรอยเท้ามาเรDือยๆ จนถงึ หมบู่ ้าน เมืDอเหน็ ชาวบ้านจํานวนมากถืออาวธุ ยืนเรียงราย ล้อมรอบต้นมะพลบั
ก็รู้ได้ทนั ทีวา่ ต้องเกิดเหตรุ ้ายขนึ 9 กบั ฝงู ลงิ พวกของตนเป็น แน่ “ไมไ่ ด้การละ ขืนปลอ่ ยไว้อยา่ งนี 9 พวกเราต้องเสร็จ พวกมนษุ ย์แนๆ่ อยา่ งนีต9 ้องหาวิธีเบีJยงเบนความสนใจ พวกมนษุ ย์ เพJือให้พวกเราบนต้นมะพลบั หนีลงมาได้ เอางีด9 ีกวา่ ” เสนกะคว้าชดุ เดก็ แถวนนั9 เอามาสวมใสแ่ ล้ว ปลอมเป็นเดก็ ชาวบ้านเดนิ เข้าไปในเรือนหลงั หนงJึ ซงJึ มี หญิงแก่กําลงั นงJั กรอด้ายอยู่
“ยายครับ ข้างนอกมืดเป็นบ้าเลย ผมอยากไปเข้าสวมนะ ครับ ผมขอยืมคบไฟของยายหนอ่ ยได้ไหมครับ?” “เอาสไิ อ้ หนู โนน่ แนะหยิบไปได้เลย แล้วคอ่ ยมาคืนยายตอนหลงั ก็ ได้” เมDือได้คบไฟมาแล้ว เสนกะก็รีบวDิงไปทีDบ้านทีDอยตู่ ้น ลม แล้วก็นําคบไฟสมุ บนหลงั คาเผาบ้านหลงั นนัI แรงลม พดั กระพือสง่ ให้ไฟลกุ โชนจนเผาบ้านลกุ โชตชิ ว่ งอยา่ ง รวดเร็ว
ชาวบ้านท)ียืนล้อมอยรู่ อบๆ ต้นมะพลบั เหน็ ดงั นนั< ก็รีบผละ จากฝงู ลงิ รีบวิ)งมาชว่ ยดบั ไฟโดยทนั ที “เฮ้ย..เร็วพวกเรา รีบๆ มาชว่ ยกนั ดบั ไฟเร็วประเดีIยวมนั จะลามเผาไหม้กนั ทงั< หมบู่ ้านกนั ซะก่อน ชง)ั พวกลงิ มนั ก่อน มา มา มะ มาชว่ ยกนั ดบั ไฟเร็ว” เมื)อพวกมนษุ ย์วิ)งไปดบั ไฟกนั หมด ฝงู ลงิ จงึ รีบ ฉวยโอกาสนีห< นีลงมาจากต้นมะพลบั แตท่ กุ ตวั ก็ไมล่ มื ท)ีจะ หยิบลกู มะพลบั ตดิ ตวั มาตวั ละ S ลกู
เพ$ือมาฝากให้กบั เสนกะท$ีมาชว่ ยเหลอื พวกตนด้วย “เร็วๆ เข้าพวกเรารีบหนีกนั เร็ว ก่อนท$ีพวกมนษุ ย์จะดบั ไปเสร็จ” “งานนีตH ้องขอบใจเสนกะ จริงๆ อยา่ งนีตH ้อง หยิบลกู มะพลบั ตดิ ไม้ตดิ มือไปฝากซะหนอ่ ย” “นี$ๆๆ กิน ให้หมดกนั ก่อนก็ได้แล้วคอ่ ยพดู จริงๆ เลยเจ้านี$ กินจน พงุ กางแล้วยงั ไมห่ ยดุ กินอีก เฮ้อ..” พระศาสดาหลงั จาก นําพระธรรมเทศนาเรื$องนีมH าชีแH จงแล้วก็ทรงประชมุ ชาด กวา่
สมาชิกผ้จู ดั ทํา ด.ญ.ณฐั วรรณ วรรณโภคนิ เลขที= 11 ด.ญ.ศริ ิยากร นิ=มนวล เลขที= 14 ด.ญ.เอมิกา สมุ่ มาตย์ เลขท=ี 31
Search
Read the Text Version
- 1 - 31
Pages: