สถานการณ์ : โทรศพั ท์ ชุดคำ�ถามท่ี 1 : กระบวนการทางคณติ ศาสตร ์ ใชห้ ลักการและกระบวนการทางคณิตศาสตรแ์ ก้ปัญหา เจตนาของชุดคำ�ถาม อ่านและเชอ่ื มโยงข้อมลู และนำ�มาใชใ้ นการแกป้ ญั หา แนวคดิ การหาคำ�ตอบ หาพนื้ ทว่ี ่างของหน่วยความจำ�ในตวั เคร่อื ง และ SD Card เพ่ือเปรยี บเทยี บกับพนื้ ท่ี ที่ตอ้ งการในการเก็บ File ภาพยนตร์ คำ�ตอบ 1.1 7.55 GB 1.2 8 GB 1.3 พน้ื ทใ่ี นการเก็บ File ภาพยนตร์ ต้องมากกวา่ 7.05 GB พน้ื ทหี่ นว่ ยความจำ�ในตวั เครื่องเหลือ 7.55 GB ซง่ึ มากกวา่ พื้นทีท่ ี่ตอ้ งการพนื้ ท่ี หนว่ ยความจำ�ของ SD Card เหลือ 3.65 GB ดงั นั้น ควรเก็บลงในหน่วยความจำ� ของเคร่ือง ซึ่งมีพื้นที่เหลือเพียงพอ 1.4 ตวั อย่างการนำ�เสนอข้อมลู หลงั จากลงไฟล์ภาพยนตร ์ ในตวั เคร่อื ง สถานการณ์ : วงล้อรางวัล ชดุ คำ�ถามท่ี 1 : กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ตีความและประเมนิ ผลลัพธท์ างคณติ ศาสตร์ เจตนาของชุดคำ�ถาม ใชแ้ นวคิดของความน่าจะเป็นและสัดสว่ นพืน้ ทใ่ี นการตคี วามและประเมนิ ข้อความ แนวคิดการหาคำ�ตอบ พจิ ารณาข้อความเชือ่ มโยงกบั เง่ือนไขงานเล่น 1.1 หมุนแบบทหี่ นึ่ง 1 ครั้ง จะได้เลน่ 2 รอบ แตล่ ะรอบมโี อกาสได้เงนิ รางวลั น้อยที่สุด 10 บาท ดงั นัน้ ในการเล่น 1 คร้ัง มีโอกาสได้เงินอย่างนอ้ ยทสี่ ดุ 20 แน่นอน 1.2 หมนุ แบบท่ีสอง 1 ครงั้ จะได้เล่น 2 รอบ แตล่ ะรอบมีโอกาสไดก้ ำ�ไรและขาดทุน เท่า ๆ กนั คมู่ ือการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมินของ 45
1.3 ในการเล่น 1 ครัง้ และหมุนทง้ั แบบทหี่ นึ่งและแบบทส่ี อง โอกาสท่ีจะได้กำ�ไร จากการหมุนแบบที่หน่ึงเทา่ กับ และสอง โอกาสทจ่ี ะได้กำ�ไรจากการหมุนแบบทห่ี น่ึง เทา่ กบั ดังนั้น ในการเลน่ 1 คร้ัง โอกาสขาดทนุ มากกวา่ ไดก้ ำ�ไร คำ�ตอบ ใช่ ไมใ่ ช่ ไมใ่ ช่ ชดุ คำ�ถามที่ 2 : กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ตคี วามและประเมินผลลพั ธ์ทางคณติ ศาสตร์ เจตนาของชดุ คำ�ถาม ใช้แนวคดิ ของความน่าจะเป็นและสดั สว่ นพ้ืนที่ในการตีความและประเมินขอ้ ความ แนวคดิ การหาคำ�ตอบ การได้รางวลั หมายถึง การท่ลี ูกศรหยุดบริเวณทีม่ ีตัวเลขรางวัลปรากฏอยู่ ดังน้ัน - แบบท่ี 1 มโี อกาสไดร้ บั รางวัลแน่นอน - แบบท่ี 2 วงกลมแบบออกเป็น 8 ส่วนเท่ากนั มี 2 สว่ นทไ่ี ม่ปรากฏตวั เลขรางวัล และ 6 ส่วนมตี วั เลขรางวัล ดงั นน้ั มีโอกาสได้รับรางวัลรอ้ ยละ 75 คำ�ตอบ ไม่เห็นด้วย เพราะ การหมนุ แบบที่ 1 มโี อกาสได้รบั รางวลั แนน่ อน ส่วนการ แบบที่ 2 มีโอกาสไดร้ ับรางวลั รอ้ ยละ 75 ซง่ึ น้อยกวา่ การหมนุ แบบท่ี 1 ชุดคำ�ถามท่ี 3 : กระบวนการทางคณิตศาสตร ์ ตีความและประเมินผลลัพธ์ทางคณติ ศาสตร์ เจตนาของชุดคำ�ถาม ใชแ้ นวคดิ ของความน่าจะเป็นและสัดส่วนพ้นื ที่ในการตีความและประเมินข้อความ แนวคดิ การหาคำ�ตอบ หาความนา่ จะเป็นทจี่ ะได้เงินรางวลั จากการเล่น 1 คร้ัง เป็นเงิน 120 บาท ของการหมุนทง้ั 3 แบบที่กำ�หนด จากตวั เลขรางวัลท่จี ะทำ�ให้การเล่นรอบท่ี 1 และรอบที่ 2 รวมกันได้ 120 คอื 80 และ 40 คำ�ตอบ ไมเ่ ห็นดว้ ย เน่อื งจากวธิ ีที่ 2 ไมม่ ีโอกาสไดเ้ งินรางวลั จากการหมนุ 2 รอบ เพราะไม่มี ตัวเลขรางวัลใดรวมกนั ได้ 120 บาท สว่ นวธิ ที ี่ 1 และ 3 มีโอกาสไดร้ บั รางวัลรวมเปน็ 120 บาท เมอ่ื การหมนุ รอบที่ 1 ลกู ศรหยดุ ท่ี 80 หรือ 40 และการหมุนรอบท่ี 2 ลกู ศรหยุดที่ 40 หรอื 80 46 คู่มือการใช้แบบฝึกพฒั นาทกั ษะการแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมินของ
แนวการตอบ : การรู้เรือ่ งวทิ ยาศาสตร์ สถานการณ์ : อาหารขยะ ชุดคำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาคำ�ตอบ คำ�ตอบของนักเรียนต้องบอกเพศ อายุ และเปรียบเทยี บกบั ตาราง แล้วจงึ เลอื ก ตวั อย่างคำ�ตอบ อาหารท่เี หมาะสมกับนักเรยี น โดยนกั เรยี นสามารถเลือกรายการอาหารไดม้ ากกว่า 1 รายการ นกั เรยี นเปน็ ผ้หู ญิงและมอี ายุ 15 ปี รบั ประทานอาหาร C จำ�นวน 1 หน่วยบริโภค เปน็ หลกั และรับประทานอาหารเพอ่ื เพ่มิ เตมิ สารอาหารประเภทอื่นเพ่มิ เตมิ ชุดคำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใชค้ วามรูด้ า้ นการออกแบบการทดลอง ดา้ นการก�ำหนดตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม ตวั อยา่ งคำ� ตอบ และตัวแปรควบคมุ ในการพิจารณาวา่ ตวั แปรทก่ี ำ� หนดเก่ยี วข้องกบั การทดลอง เพื่อหาคำ� ตอบของสมมติฐานที่กำ� หนดหรอื ไม่ 2.1 ขอ้ มูลทกุ ตวั ที่ก�ำหนดใหเ้ กย่ี วข้องกับการทดลอง 2.2 - ตวั แปรตน้ ได้แก่ น�้ำหนักของนักเรียนชายแต่ละคน - ตวั แปรตาม ได้แก่ ปรมิ าณอาหารทีต่ อ้ งการในแตล่ ะมื้อ และระยะเวลา ท่ีตอ้ งการอาหารในแต่ละมื้อ - ตัวแปรควบคมุ ไดแ้ ก่ อายุของนักเรยี นชาย ประเภทของอาหารทีใ่ ห้ รบั ประทาน ความสูงของนกั เรยี นชายแตล่ ะคน และกจิ กรรมปฏิบตั ใิ นแตล่ ะวนั 2.3 ตัวอย่างสมมตฐิ าน - นักเรียนชายอายุ 15 ปีท่ีมีนำ้� หนกั แตกต่างกนั ต้องการปริมาณอาหารในแตล่ ะมื้อ แตกตา่ งกนั - นักเรยี นชายอายุ 15 ปที ่ีมนี ำ�้ หนกั แตกต่างกนั มรี ะยะเวลาที่ต้องการอาหาร ในแต่ละมอ้ื แตกต่างกัน ชุดคำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใช้ความรู้เกีย่ วกับการได้มาของความรู้ในการลงข้อสรปุ ทางวทิ ยาศาสตรจ์ ากข้อมลู ตวั อย่างค�ำตอบ ผลการสังเกตทีก่ ำ� หนด และน�ำความร้ทู ี่เกย่ี วข้องมาใชใ้ นการอธบิ ายประกอบการตอบ 3.1 นำ้� หนกั และส่วนสงู โดยเด็กผชู้ ายอายุ 10 - 12 ปที ี่มีน้ำ� หนักและสว่ นสงู มากกวา่ มีความตอ้ งการพลังงานในแต่ละวันมากกวา่ 3.2 (1) กจิ กรรมประจำ� วัน เดก็ ผู้ชายและหญิงอายุ 10 - 12 ปี เปน็ ช่วงวัยรนุ่ กิจกรรม ของเดก็ ชายสว่ นใหญใ่ ช้พลงั งานมากกว่า (2) สภาพร่างกายคนทอี่ ้วนและคนผอม มีความต้องการพลังงานท่ีแตกตา่ งกนั ในแต่ละวัน คู่มือการใชแ้ บบฝกึ พฒั นาทกั ษะการแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมินของ 47
สถานการณ์ : สารอาหารจากแมลง ชดุ คำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชแ้ นวคดิ ทางวทิ ยาศาสตร์เกีย่ วกับสารอาหารทใี่ หพ้ ลังงาน ไดแ้ ก่ โปรตีน ตวั อยา่ งค�ำตอบ คารโ์ บไฮเดรต และไขมัน เชือ่ มโยงกบั ขอ้ มลู ในตาราง ซ่ึงแสดงเฉพาะสารอาหาร ประเภทโปรตีนและพลงั งานทั้งหมด แล้วอธบิ ายให้เห็นว่าพลังงานส่วนทเี่ หลอื อาจมาจากพลังงานจากสารอาหารประเภทคารโ์ บไฮเดรตและไขมัน สารอาหารท่ใี ห้พลังงานประกอบดว้ ย โปรตีน ไขมัน และคารโ์ บไฮเดรต ซงึ่ ในตาราง ปรากฏขอ้ มูลโปรตนี เพียงอย่างเดยี ว ดังน้นั พลงั งานจากแมลงตบั เต่าอาจมาจาก ไขมนั และคาร์โบไฮเดรตมากกวา่ จากโปรตีน ชดุ คำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชค้ วามรู้เกยี่ วกับการตง้ั ค�ำถามหรอื สมมติฐานในการพิจารณาว่าคำ� ถามท่กี �ำหนดให้ ตัวอยา่ งค�ำตอบ สามารถตรวจสอบได้ดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ หรือไม่ 2.1 ใช่ เพราะสามารถตรวจสอบได้ดว้ ยวิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยตรวจสอบ ปรมิ าณของโปรตีนในห้องปฏิบตั ิการวิทยาศาสตร ์ 2.2 ไม่ใช่ เพราะสามารถสืบค้นแลว้ ตอบคำ� ถามไดท้ นั ทีจากความรูเ้ ดิมโดยไม่ตอ้ งใช้ วธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ ชุดคำ�ถามที่ 3 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกบั การทดสอบสารอาหารมาใชใ้ นการตอบคำ� ถาม ตวั อย่างค�ำตอบ ชนิดของสารอาหาร วธิ ีการสำ� รวจตรวจสอบ 1. โปรตีน ทดสอบโดยใชไ้ บยเู รต 2. ไขมัน ทดสอบด้วยกระดาษขม้นิ 3. คารโ์ บไฮเดรต ทดสอบด้วยสารละลายเบเนดิกซ์ หรือทดสอบด้วยการ เปลี่ยนสีของสารละลายไอโอดนี ชุดคำ�ถามท่ี 4 : แนวทางการหาคำ� ตอบ คนท่คี วบคมุ นำ�้ หนักต้องรบั ประทานอาหารท่ีใหพ้ ลังงานจากไขมันนอ้ ยกวา่ ตัวอยา่ งคำ� ตอบ สารอาหารอ่นื ๆ ดังนั้น คำ� ตอบตอ้ งไดจ้ ากการเปรยี บเทียบข้อมูลดา้ นพลังงาน ของแมลงแตล่ ะชนิด และเลอื กตอบแมลงที่ใหพ้ ลังงานประเภทไขมนั น้อยทส่ี ุด แมลงกินนู เพราะ แมลงกนิ ูนมโี ปรตนี สงู ปริมาณไขมันต�่ำกวา่ แมลงอื่น ๆ และ มคี าร์โบไฮเดรตในปรมิ าณน้อย 48 คมู่ ือการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมินของ
สถานการณ์ : วกิ ฤตขิ ยะในทะเลไทย ชดุ คำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใชค้ วามรทู้ างวทิ ยาศาสตรเ์ ก่ียวกับสมบัตขิ องถงุ พลาสติกทีย่ ่อยสลายยาก และ ตวั อยา่ งค�ำตอบ เกิดการสะสม ถุงพลาสตกิ ใชเ้ วลาหลายปใี นการยอ่ ยสลาย เมื่อมีการทิง้ ลงสแู่ มน่ ้�ำหรือบนบก การยอ่ ยสลายโดยธรรมชาตติ อ้ งใช้เวลานาน จงึ เกดิ การสะสมท�ำใหพ้ บในปรมิ าณ มากกว่าขยะอน่ื ๆ ชุดคำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชค้ วามรูท้ างวิทยาศาสตรก์ ายภาพเกี่ยวกับวตั ถมุ าใชใ้ นการกำ� หนดเกณฑ์ในการ จ�ำแนก พรอ้ มทง้ั จำ� แนกขยะตามเกณฑ์ทก่ี �ำหนด ตวั อยา่ งคำ� ตอบ ค�ำตอบตามแนวคดิ ของนกั เรียน เช่น - จ�ำแนกตามความหนาแน่นของวัตถทุ ี่ท�ำใหล้ อย/จม ได้ 2 ประเภท คอื ลอยน�้ำ ได้แก่ ถุงพลาสตกิ หลอด/ทค่ี นเครื่องดื่ม ฝา/จุก เชือก บุหร่/ี ก้นกรองบหุ ร่ี ถ้วยโฟม/ กลอ่ งโฟม ขวดเคร่ืองด่ืมพลาสตกิ และจมน้�ำ ได้แก่ ขวดเครอ่ื งดมื่ แก้ว ถา่ นไฟฉาย หลอดไฟ ถ้วย จาน ช้อน สอ้ ม มดี - หรือคำ� ตอบอน่ื ๆ ท่นี ักเรียนใชค้ วามรเู้ ก่ยี วกับวทิ ยาศาสตรม์ าใช้ในการอธบิ าย ชดุ คำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชค้ วามรู้เกยี่ วกบั การไดม้ าซ่ึงความรูว้ ทิ ยาศาสตร์ในการกำ� หนดกลมุ่ ตวั อยา่ ง การวิเคราะห์ แปลความหมาย และลงขอ้ สรุปจากขอ้ มลู ท่ไี ด้จากการทดลอง เพือ่ ประเมินการทดลอง และลงข้อสรปุ จากผลการทดลอง ตวั อยา่ งคำ� ตอบ 3.1 ไมเ่ หมาะสม เนอื่ งจากพ้ืนที่ในการเก็บขอ้ มูลเป็นบริเวณเดยี วกัน อาจไมส่ ามารถ ใชเ้ พือ่ อนมุ านปรมิ าณขยะในพืน้ ที่ท้ังหมดไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ 3.2 (1) จ�ำนวน 4 ช้ิน ต่อ ตารางเมตร (2) โดยประมาณ 160 ชิ้น ชดุ คำ�ถามที่ 4 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชค้ วามสามารถในการตคี วาม แปลความ และลงขอ้ สรปุ จากข้อมูลหรอื หลักฐาน ตวั อยา่ งคำ� ตอบ ทางวิทยาศาสตร์ - ปี 2557 และปี 2558 ในทะเลไทยพบขยะพลาสติกมากกวา่ ขยะประเภทอน่ื - ปี 2558 พบขยะพลาสตกิ ในทะเลไทยมากกว่าปี 2557 ร้อยละ 5.83 - อ่ืน ๆ ทีเ่ ปน็ ข้อสรปุ ของนักเรยี นท่เี ปน็ ข้อสรปุ จากภาพทีก่ ำ� หนดให้ และถูกตอ้ ง คมู่ ือการใช้แบบฝึกพัฒนาทกั ษะการแกป้ ัญหาตามแนวทางการประเมนิ ของ 49
สถานการณ์ : แผน่ ดนิ ไหว ชุดคำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ พิจารณาข้อมูลจากกราฟมีแผน่ ดนิ ไหวทง้ั หมด 6 ครั้ง อาจอธิบายหรือจดั ล�ำดบั ตัวอย่างค�ำตอบ ความรุนแรงของแผ่นดนิ ไหวที่เกดิ ขึ้น มีแผน่ ดินไหวเกดิ ขึ้นทัง้ สนิ้ 6 ครั้ง โดยมีความรนุ แรงตง้ั แต่ 3.5 - 6.1 แมกนิจดู ซงึ่ เปน็ ระดบั ที่มนษุ ย์รสู้ ึกได้ ชดุ คำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ นกั เรียนน�ำความรเู้ รอ่ื งระดบั ความรนุ แรงของแผน่ ดินไหวมาอธบิ ายให้สอดคลอ้ งกบั เหตแุ ผ่นดินไหวทง้ั 6 ครงั้ ตวั อย่างคำ� ตอบ - ครงั้ ที่ 1 และ 2 เรยี กว่า ฟอร์ชอ็ ค - ครัง้ ท่ี 3 เรยี กว่า เมนช็อค - คร้งั ที่ 4 5 และ 6 เรยี กวา่ อาฟเตอร์ชอ็ ค ชุดคำ�ถามที่ 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใช้แนวคดิ วิทยาศาสตร์เก่ยี วกบั โลกและการเปลย่ี นแปลงท่ีท�ำให้เกดิ แผน่ ดินไหว และ ตัวอย่างค�ำตอบ ความสมั พันธ์ของการรับรูถ้ ึงแรงสั่นสะเทือนของพ้ืนท่ที ่มี ีระยะหา่ งจากจุดศูนย์กลาง ของการเกิดผ่านดนิ ไหวต่างกนั สถานี ก จะตรวจวัดได้ก่อน และมคี วามรนุ แรงมากกวา่ สถานี ข เพราะอยู่ใกล้ จุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวมากกวา่ สถานี ข ทำ� ใหพ้ ลงั งานที่สง่ มาตามตัวกลาง มคี วามรุนแรงมากกวา่ สถานการณ์ : กนิ ไขเ่ พ่มิ คอเลสเตอรอลจริงหรอื ชดุ คำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ นำ� ความรเู้ ร่อื งการได้รับคอเลสเตอรอลในปรมิ าณมากเกนิ ความตอ้ งการของร่างกาย ตัวอย่างค�ำตอบ คอเลสเตอรอลจะอดุ ตนั ในเส้นเลือดซงึ่ อาจเปน็ หลอดเลือดเล้ียงหัวใจ สง่ ผลให้ กล้ามเน้อื หวั ใจขาดเลือด ท�ำให้มคี วามเส่ยี งต่อภาวะหัวใจล้มเหลว นอกจากนหี้ ากอดุ ตนั ทอ่ี วัยวะอืน่ ก็จะทำ� ให้อวัยวะน้นั ขาดเลอื ดจนทำ� งานผิดปกตหิ รอื ไม่สามารถทำ� งานได้ ชุดคำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชค้ วามรู้วิทยาศาสตรเ์ กี่ยวกับการออกแบบกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ทางวทิ ยาศาสตร์ เกี่ยวกับกระบวนการทดลองเพื่อประเมนิ และปรบั ปรงุ กระบวนการ ทดลองใหม้ ีความถกู ตอ้ งและน่าเช่อื ถือ 50 คมู่ ือการใช้แบบฝกึ พัฒนาทกั ษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมินของ
ตัวอยา่ งคำ� ตอบ สามารถเพ่ิมเตมิ ข้อมูลการควบคมุ ตัวแปรต่าง ๆ เช่น ระยะเวลา กิจกรรม ในชวี ิตประจ�ำวนั สว่ นประกอบของอาหารกลางวนั ปกติ เพอื่ ความสมบูรณ ์ ในการออกแบบการทดลอง ชุดคำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใช้ความรูว้ ทิ ยาศาสตร์เกี่ยวกบั การออกแบบกระบวนการสบื เสาะหาความรู้ ตัวอยา่ งค�ำตอบ ทางวทิ ยาศาสตร์ เก่ียวกบั กระบวนการทดลอง กำ� หนดตวั แปรตน้ และตัวแปรตามทีศ่ ึกษา 3.1 ประเภทของอาหารท่รี ับประทาน ไดแ้ ก่ อาหารปกติ/อาหารปกติ + ไข่ และรับประทานไขเ่ สริมสปั ดาห์ละ 1 - 2 ฟอง 3.2 ปรมิ าณคอเลสเตอรอล ชนดิ LDL-C และ HDL-C ในเลอื ด 3.3 การรบั ประทานไขส่ ัปดาห์ละ 1 - 2 ฟองเพ่มิ จากอาหารปกติ เป็นเวลา 12 สปั ดาห์ ส่งผลใหป้ ริมาณคอเลสเตอรอล LDL-C มีแนวโนม้ ลดลง 3.4 ปริมาณ HDL-C มแี นวโน้มคงที/่ เพิ่มขน้ึ เลก็ นอ้ ย หลังจากรบั ประทานไข่ สัปดาหล์ ะ 1 - 2 ฟองเพ่ิมจากอาหารปกติ เปน็ เวลา 12 สัปดาห์ 3.5 หลงั จากรบั ประทานไข่สัปดาห์ละ 1 - 2 ฟองเพ่มิ จากอาหารปกติ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ ปริมาณ LDL-C มีแนวโน้มลดลง และ HDL-C สงู ขน้ึ สถานการณ์ : เห็ดระโงก ชุดคำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชเ้ น้อื หาความร้วู ทิ ยาศาสตร์เกยี่ วกบั ความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตในระบบนเิ วศ เพื่ออธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างเห็ดระโงกกบั ไม้วงศ์ยาง ตวั อย่างค�ำตอบ 1.1 พง่ึ พากนั 1.2 ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ ใช่ ใช่ ชดุ คำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ การตง้ั สมมติฐานเพอื่ การทดลอง ตวั อยา่ งค�ำตอบ 2.1 ตน้ กลา้ ของไม้วงศ์ยางท่ีปลกู พรอ้ มเห็ดระโงกกบั ตน้ กล้าของไมว้ งศ์ยางทีไ่ ม่ม ี เหด็ ระโงกมีการเจรญิ เตบิ โตต่างกัน 2.2 ตวั แปรตน้ : การปลกู ตน้ กลา้ ไมว้ งศ์ยางพร้อมเห็ดระโงกและไม่มเี หด็ ระโงก ตวั แปรตาม : การเจรญิ เตบิ โตของไมว้ งศ์ยาง ตวั แปรควบคุม : ปจั จัยทีส่ ่งผลตอ่ การเจริญเตบิ โตของไม้วงศย์ าง เชน่ อณุ หภมู ิ ความช้ืน อาหาร คมู่ อื การใช้แบบฝกึ พัฒนาทักษะการแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมินของ 51
2.3 การทดลองของ A 2.4 การทดลองของ A เพราะ การเพาะเห็ดระโงกของการะเกดได้ผลผลติ ดกี วา่ เพราะการน�ำดอกแก่มาขยแ้ี ละผสมกบั น้�ำเปลา่ แล้วน�ำไปรดบรเิ วณโคนตน้ ยาง ส่งผลให้พืน้ ผิวดนิ มีความชุม่ ชื้นกว่า จึงเป็นปจั จยั ส่งผลต่อการเจรญิ เติบโตของ เหด็ ระโงกได้ดีกวา่ ชุดคำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ ความรวู้ ิทยาศาสตร์ ความหลากหลายทางชีวภาพ และระบบนเิ วศ ขอ้ มูลจากตาราง จะพบปัจจยั ท่ีเหมาะสมกบั การเจริญเติบโตของเห็ดระโงกกบั ไม้วงศย์ าง และหากจะ ต้องปลกู ในฤดรู ้อนและฤดหู นาวจะมวี ิธีการใดบา้ งทจ่ี ะควบคุมอุณหภมู ิ ความชืน้ การโดนแสง เป็นต้น ซง่ึ ทัง้ สองฤดูนี้มวี ธิ ที ่แี ตกตา่ งกัน ตวั อยา่ งค�ำตอบ เหตุผลประกอบ เนอ่ื งจากฤดรู อ้ นอณุ หภมู ขิ องอากาศสูง ฤดู วธิ กี ารจดั สภาพแวดลอ้ ม แดดรอ้ นจดั พ้นื ผวิ ดินจงึ แห้ง เพ่ิมความช้ืนในดนิ ความช้ืนของอากาศ และลดอุณหภมู ขิ องอากาศ เน่ืองจากฤดูหนาวอุณหภมู จิ ะเย็น อากาศแหง้ ฤดรู ้อน ให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมตอ่ การเกดิ เหด็ ระโงกโดยรดนำ้� อยา่ งสมำ�่ เสมอ ท�ำรม่ เงาใตโ้ คนตน้ ไมว้ งศย์ างติดเครอ่ื งพ่นฝอยนำ้� บรเิ วณรอบ ๆ โคนตน้ รักษาความชืน้ และอณุ หภมู ผิ วิ ดนิ ให้สภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการเกิด ฤดหู นาว เห็ดระโงกโดยรดนำ�้ อยา่ งสมำ่� เสมอ น�ำวัสดมุ าคลุมดนิ เช่น ฟางหรอื หญา้ แห้ง สถานการณ์ : “ฝุ่นมลพษิ พีเอ็ม 2.5” ชดุ คำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ ผลกระทบของพีเอ็ม 2.5 ต่อสง่ิ มีชวี ติ ตวั อย่างค�ำตอบ 1.1 มนษุ ย์/สัตว์ : ฝุน่ ละอองขนาดเล็กทีส่ ามารถเขา้ สรู่ า่ งกายผา่ นระบบ ทางเดินหายใจ ซง่ึ เม่ือลงไปสถู่ ุงลมปอดจะสามารถซึมผา่ นเขา้ สกู่ ระแสเลอื ดไปสะสม ตามบริเวณตา่ ง ๆ ของร่างกายได้ ทำ� ใหเ้ กิดโรคตา่ ง ๆ ตามอวยั วะทีส่ ะสม พืช : ปิดกนั้ การหายใจของพืช 1.2 ปริมาณพเี อ็ม 2.5 เข้าสู่รา่ งกายไดม้ ากขึ้น จนท�ำให้เกดิ ปัญหากับอวัยวะต่าง ๆ ที่สะสมเมอื่ มปี รมิ าณมากเกนิ ไป 1.3 หน้ากากอนามัยตามทอ้ งตลาดหลายเคร่อื งหมายการค้า ไม่สามารถกรอง พเี อ็ม 2.5 ไดเ้ นือ่ งจากขนาดของรูบนหน้ากากใหญเ่ กินไป แตส่ ามารถลดโอกาส ในการเข้าสู่ร่างกายของพีเอ็ม 2.5 ไดม้ ากกว่าการหายใจเขา้ โดยตรง 1.4 คำ� ตอบทแี่ สดงถงึ การใช้ความรูเ้ ชงิ วทิ ยาศาสตร์เก่ยี วกบั การป้องกันพีเอ็ม 2.5 เขา้ สรู่ ่างกาย 52 คมู่ อื การใชแ้ บบฝึกพัฒนาทกั ษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมนิ ของ
ชุดคำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ นำ� ความร้เู กย่ี วกับการป้องกนั ตัวเองจากมลพษิ ทางอากาศมาประยุกตใ์ นค�ำตอบ ตวั อย่างค�ำตอบ ให้เหมาะสม 2.1 จังหวดั สระบรุ ี 2.2 จังหวดั สระบุรี มีสภาพอากาศแห้งแล้ง และมีการระเบดิ หินเพื่อผลิตปูนซเี มนต์ ดังนนั้ ค�ำตอบของนักเรยี นควรเป็นวธิ กี ารลดพเี อ็ม 2.5 ตามบริบทของจังหวัดสระบุรี (คำ� ตอบตามแนวคดิ ของนกั เรยี น) เชน่ - ใชร้ ะบบสปริงเกิล หรอื ปลกู ตน้ ไม้เพิม่ เติม เพือ่ ลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ - รณรงคใ์ ห้ชมุ ชนลดการเผาไหม้เพือ่ ลดปริมาณการสร้างพเี อ็ม 2.5 ภายในชมุ ชน - ก�ำหนดชว่ งเวลาในการการระเบดิ หินเปน็ ตอนเช้าท่ีมคี วามชืน้ สงู เพื่อลดการฟุ้งของ พเี อม็ 2.5 สถานการณ์ : ดาวเคราะห์ ชุดคำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใชว้ ธิ ีการแปลความหมายของขอ้ มลู จากกราฟ ตัวอย่างคำ� ตอบ 1.1 เส้นสนี �ำ้ เงนิ ที่แสดงความรอ้ นของวัตถุ A เมื่อเวลาผ่านไปทุก ๆ 10 นาที อณุ หภมู ิกจ็ ะเพิม่ ขึ้น 1.2 อยู่ใกลแ้ หลง่ ความรอ้ น ชุดคำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ อ่านและแปลความ ตคี วามจากกราฟ ตวั อยา่ งคำ� ตอบ 2.1 จากกราฟเส้นทแี่ สดงความสัมพันธร์ ะหวา่ งเวลากับอุณหภูมวิ ัตถุ B กบั C ไม่ตา่ งกนั ซง่ึ B อยูห่ า่ งจากหลอดไฟ 100 เซนติเมตร ส่วน C อยู่ห่างจากหลอดไฟ 150 เซนตเิ มตร 2.2 (1) ระยะห่างระหวา่ งแหล่งกำ� เนิดความร้อนของทง้ั 3 วตั ถตุ อ้ งไม่เทา่ กนั (2) วตั ถตุ อ้ งไม่อยใู่ นระนาบเดียวกนั สถานการณ์ : เต่าทะเล ชดุ คำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ พิจารณาจากบทความมกี ารกล่าวถงึ อุณหภมู ิทีส่ มั พันธต์ ่อการเกดิ เพศ ตวั อย่างค�ำตอบ อณุ หภมู ิตำ่� กวา่ 27.7 ํC เป็นเต่าจะฟกั ออกมาเปน็ ตวั ผู้ อณุ หภมู ิมากกวา่ 31 องศาเปน็ เพศเมีย อุณหภูมริ ะหว่าง 28 - 31 ํC ทง้ั 2 เพศสัดสว่ นใกล้เคียงกนั คู่มอื การใชแ้ บบฝึกพฒั นาทักษะการแก้ปญั หาตามแนวทางการประเมนิ ของ 53
ชดุ คำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ พิจารณาจากข้อความขา้ งตน้ น�ำค�ำตอบให้สัมพันธก์ บั ค�ำถาม ตวั อย่างคำ� ตอบ เพื่อลดอุณหภูมิชายหาด อตั ราการฟกั ออกเป็นเต่าตวั ผจู้ ะมีมากขนึ้ ชุดคำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใช้ความร้เู ก่ยี วกบั ความสมั พันธ์ระหวา่ งอณุ หภูมิกับการฟกั ออกเปน็ เพศผู้และเมยี ของเตา่ ตัวอย่างคำ� ตอบ 3.1 อณุ หภูมิประมาณ 31 - 33 ํC หรอื มากกว่า 31 ํC 3.2 อาจสูญพนั ธ์ุเพราะไม่มเี พศผู้ สถานการณ์ : การนอนเพือ่ สขุ ภาพ ชดุ คำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใช้ความรู้เกยี่ วกบั การนอนหลบั พักผอ่ นทเ่ี พยี งพออธิบายเช่อื มโยงกบั ประสิทธภิ าพ การทำ� งานของสมอง ตวั อยา่ งคำ� ตอบ สมองมีหน้าทีค่ วบคมุ สั่งการระบบการท�ำงานและอวัยวะต่าง ๆ ขณะทนี่ อนหลบั สมองจะไดห้ ยดุ และพักการท�ำงาน การนอนหลับอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพจะส่งผลให้ สมองหยดุ การทำ� งาน เมื่อตน่ื ขึน้ ดว้ ยความสดชนื่ จะท�ำให้สมองท�ำงานดว้ ยความ กระตอื รือร้น ชดุ คำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใช้ความร้วู ทิ ยาศาสตรด์ า้ นการออกแบบการทดลองในการกำ� หนดตัวแปรตน้ ตวั อย่างคำ� ตอบ ตวั แปรตาม และตัวแปรควบคุม เพอ่ื ทำ� การศึกษาทดลองด้วยวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ 2.1 ตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม ตัวแปรความคุม จำ� นวนชั่วโมง น�ำ้ หนักตัว เพศ การนอนหลบั การรบั ประทานอาหารชนดิ อาหาร การออกกำ� ลงั กายอน่ื ๆ ทม่ี ผี ลต่อ การนอนหลบั 2.2 เพศ จำ� เป็น เพราะเปน็ ตวั แปรควบคมุ เพศต่างกนั อาจมผี ลตอ่ การนอนหลบั นำ�้ หนกั ตัว จำ� เปน็ เพราะเป็นตวั แปรตามท่ตี อ้ งการศึกษา จ�ำนวนม้ืออาหาร จ�ำเป็น เพราะเป็นตวั แปรควบคุม จำ� นวนชวั่ โมงการนอนหลบั จำ� เปน็ เพราะเปน็ ตวั แปรตน้ จ�ำนวนสมาชิกในห้องเรียน ไมจ่ �ำเปน็ เพราะไม่มคี วามเก่ยี วขอ้ งกบั การนอน 54 คมู่ ือการใชแ้ บบฝกึ พัฒนาทกั ษะการแก้ปญั หาตามแนวทางการประเมนิ ของ
สถานการณ์ : อนั ตรายน�้ำมันทอดซำ�้ ชดุ คำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใชค้ วามรู้เชิงวทิ ยาศาสตรเ์ กีย่ วกับนำ�้ มันทใ่ี ช้ในการปรงุ อาหาร ซึง่ เมือ่ ไดร้ ับความร้อน ตัวอยา่ งคำ� ตอบ จะทำ� ให้เกดิ การเปล่ียนแปลงโครงสร้างทางกายภาพและเส่ือมสภาพเกิดเปน็ สารโพลาร์ ซ่งึ เป็นสาเหตขุ องการเกดิ โรคตา่ ง ๆ - การกนิ อาหารทปี่ รงุ ด้วยน้ำ� มนั ทอดซ้�ำเปน็ การกนิ น�้ำมนั เสอ่ื มสภาพทม่ี สี ารโพลาร ์ เข้าสรู่ ่างกายจึงเปน็ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ - เปน็ การกินสารโพลารท์ เ่ี ป็นสาเหตุของการเกิดโรค - คำ� ตอบอ่ืน ๆ ท่ีสอดคล้องกบั แนวทางการหาคำ� ตอบ ชดุ คำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใชค้ วามรูเ้ ก่ียวกบั การได้มาซึง่ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างคำ� ตอบ การใชน้ ้ำ� มันทอดอาหารเกิน 1 คร้ัง เป็นปัจจัยท่ที ำ� ใหเ้ กิดสารโพลาร์ ซ่ึงจากการทดลอง จะเหน็ ว่าพบสารโพลาร์ในนำ้� มันทใี่ ชเ้ กิน 1 คร้ัง ถึงรอ้ ยละ 25 โดยน�ำ้ หนัก ชุดคำ�ถามที่ 3 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ใช้ความรู้เกย่ี วกบั การสรุปความร้ทู างวทิ ยาศาสตรท์ ี่ตอ้ งไดม้ าจากการทดลองหรือ มีหลักฐานในการยืนยันข้อสรุป ตวั อยา่ งคำ� ตอบ ไม่สามารถสรปุ ได้ เพราะอาจเปน็ กลิ่นทม่ี าจากส่วนผสมอยา่ งอน่ื ของปาทอ่ งโก๋ สถานการณ์ : ไฮโดรพอนกิ ส์ (Hydroponics) ชดุ คำ�ถามท่ี 1 : แนวทางการหาค�ำตอบ ใช้ความรู้เนื้อหาวทิ ยาศาสตร์เกีย่ วกบั การลำ� เลียงอาหารและแร่ธาตุของพืช ตัวอย่างคำ� ตอบ สารไนเตรตทีพ่ บในพชื สามารถเขา้ สพู่ ืชผ่านกระบวนการดูดน�้ำและแร่ธาตุของราก แล้วสะสมในส่วนต่าง ๆ ของพชื ชุดคำ�ถามท่ี 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ พิจารณาจากขอ้ ความแสดงให้เหน็ ถงึ ความสัมพันธค์ วามเข้มแสงกบั การปรมิ าณปยุ๋ ตัวอยา่ งค�ำตอบ ไนโตรเจนที่เหมาะสมในช่วงฤดรู อ้ นและฤดหู นาว ในฤดูหนาวซ่งึ เปน็ สภาพทค่ี วามเขม้ แสงนอ้ ยควรใส่ปุ๋ยไนเตรตนอ้ ยกวา่ ฤดรู อ้ น เพื่อลดการสะสมของไนเตรต คมู่ อื การใช้แบบฝกึ พัฒนาทกั ษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมินของ 55
ชดุ คำ�ถามท่ี 3 : แนวทางการหาค�ำตอบ พจิ ารณาจากข้อความในชุดค�ำถามที่ 2 ท่ีแสดงให้เหน็ ถึงความสมั พนั ธ์ระหว่าง ความเขม้ แสงกบั ปรมิ าณปุ๋ยไนโตรเจนทีเ่ หมาะสม ในชว่ งฤดูร้อนและฤดหู นาว แต่ในชดุ ค�ำถามที่ 3 อยู่ในสถานทีเ่ ดียวกันคืออยูใ่ นสภาพปิดภายในโรงเรือน จึงไดร้ บั แสงในปริมาณท่ีเทา่ กนั จึงสง่ ผลถงึ ปรมิ าณทตี่ อ้ งใส่ปุย๋ ไนเตรต ตวั อย่างคำ� ตอบ ไม่แตกต่างกนั เนอื่ งจากในโรงเรยี นมหี ลอดไฟเปน็ แหล่งกำ� เนิดแสง ซง่ึ ไมม่ ีความ แตกต่างกันในฤดูร้อนและฤดูหนาว ดงั นนั้ จงึ ใสป่ ยุ๋ ไนเตรตได้ในปรมิ าณทเี่ ทา่ กัน ทง้ั สองฤดู สถานการณ์ : สารกนั บดู ในเสน้ ก๋วยเตยี๋ ว ชุดคำ�ถามที่ 1 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ความรวู้ ิทยาศาสตรเ์ กีย่ วกบั การถนอมอาหาร/วิธีการท�ำงานของกรดเบนโซอกิ ที่อย่ใู น ตัวอย่างค�ำตอบ สารกนั บูด กรดเบนโซอกิ ถนอมอาหารด้วยการยับยง้ั จลุ นิ ทรีย์ในสารอาหาร ชุดคำ�ถามที่ 2 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ความร้เู ก่ยี วกบั การลงข้อสรปุ ความร้วู ทิ ยาศาสตรจ์ ากข้อมลู ทางวทิ ยาศาสตร์ ตัวอยา่ งคำ� ตอบ 2.1 พบสารกันบูดในเส้นก๋วยเตย๋ี วท่ีมีวัตถุดบิ หลกั ในการผลิตเสน้ เปน็ แป้งข้าวเจ้า 2.2 ใช่ ไมใ่ ช่ ไม่ใช่ 2.3 มขี นาดของเสน้ ใหญแ่ ละต้องการเก็บไวเ้ ปน็ ระยะเวลานานกว่า ชดุ คำ�ถามที่ 3 : แนวทางการหาคำ� ตอบ ความร้เู กี่ยวกบั การออกแบบการทดลองด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ตวั อยา่ งคำ� ตอบ ตวั แปรควบคมุ ตวั แปรควบคมุ ตัวแปรควบคมุ ตัวแปรตน้ ตวั แปรตาม ตัวแปรควบคุม ตามล�ำดับ 56 ค่มู ือการใช้แบบฝกึ พฒั นาทักษะการแก้ปัญหาตามแนวทางการประเมนิ ของ
เอกสารอ้างองิ สุนีย์ คล้ายนิล. (2547). ความรู้และทักษะของเยาวชนไทยส�ำหรับโลกวันพรุ่งนี้ : รายงานการวิจัยโครงการ ประเมินผลนักเรียนนานาชาติ PISA 2000 และ PISA Plus. กรงุ เทพมหานคร : บริษทั เซเวน่ พริน้ ติง้ กรุ๊ป จำ� กัด. PISA Thailand สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2550). รายงานผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล เบื้องต้น โครงการ PISA 2006. กรุงเทพมหานคร : สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลย.ี PISA Thailand. (2554). ผลการประเมนิ PISA 2009 การอา่ น คณติ ศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร.์ กรงุ เทพมหานคร : ห้างหนุ้ ส่วนจำ� กดั อรุณการพมิ พ์. PISA Thailand. (2555). ตัวอยา่ งข้อสอบประเมินผลนกั เรียนนานาชาติ : การอา่ น. กรุงเทพมหานคร : สถาบัน สง่ เสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี PISA Thailand. (2555). ตัวอย่างข้อสอบการประเมินนานาชาติ PISA และ TIMSS. กรุงเทพมหานคร : สถาบนั ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี. PISA Thailand. (2556). ผลการประเมิน PISA 2012 คณิตศาสตร์ การอา่ น และวิทยาศาสตร์ นักเรยี นรอู้ ะไร และทำ� อะไรได.้ กรุงเทพมหานคร : ห้างหุ้นส่วนจำ� กดั อรุณการพิมพ.์ PISA Thailand. (2557). ตัวอย่างข้อสอบคณิตศาสตร์ PISA 2012. กรุงเทพมหานคร : สถาบันส่งเสริม การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย.ี PISA Thailand. (2561). ผลการประเมิน PISA 2015 วิทยาศาสตร์ การอา่ น และคณติ ศาสตร์ ความเปน็ เลิศ และความเทา่ เทยี มทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ัท ซัคเซส พบั ลเิ คชน่ั จ�ำกัด. ค่มู ือการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการแกป้ ัญหาตามแนวทางการประเมินของ 57
คณะท�ำ งาน ทปี่ รึกษา 1. ดร.บุญรกั ษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. นางสุกัญญา งามบรรจง รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 3. ดร.วิษณุ ทรพั ย์สมบตั ิ ผู้อ�ำนวยการสำ� นักทดสอบทางการศึกษา ผรู้ บั ผดิ ชอบโครงการ 1. ดร.ณฐั า เพชรธน ู ผอู้ ำ� นวยการศนู ย์ PISA สพฐ. 2. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง รองผูอ้ ำ� นวยการศูนย์ PISA สพฐ. เจ้าหนา้ ที่ศูนย์ PISA สพฐ. สำ�นกั ทดสอบทางการศกึ ษา 1. นางสาวสุดารตั น์ เวชพนั ธ์ นกั วชิ าการศกึ ษา 2. นางสาวพิณพโิ ส เสียงดัง นกั วชิ าการศกึ ษา 3. นางสาวณัฐพร เผือดจันทกึ นกั วชิ าการศึกษา 4. นางสาววาทนิ ี ศรีวิชยั นักวชิ าการศึกษา 5. นางสาวขวญั จริ า ด�ำเนนิ งาม นกั วิชาการศึกษา 6. นางสาวอญั ชลกี ร เสยี งดัง นกั วิชาการศกึ ษา 7. นางสาวกุลพัชร คล้ายจนิ ดา นักวิชาการศึกษา ผเู้ ขียน 1. นางพรรณภา พลู บวั ขา้ ราชการบ�ำนาญ 2. นายเอกสิทธิ ปยิ ะแสงทอง นกั วชิ าการศกึ ษา สำ� นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา 3. นางสาวไลรัตน์ ใจนอ้ ม ครูโรงเรียนหนองจอกพิทยานุสรณ์ สำ� นกั งานเขตหนองจอก กรงุ เทพมหานคร 4. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง รองผ้อู �ำนวยการศนู ย์ PISA สพฐ. คณะบรรณาธิการกิจ 1. ดร.ณฐั า เพชรธนู ผู้อ�ำนวยการศนู ย์ PISA สพฐ. 2. นางสาวจรูญศรี แจบไธสง รองผ้อู �ำนวยการศูนย์ PISA สพฐ. 58 คู่มือการใชแ้ บบฝกึ พัฒนาทักษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมนิ ของ
คูม่ ือการใชแ้ บบฝกึ พฒั นาทกั ษะการแกป้ ญั หาตามแนวทางการประเมนิ ของ 59
Search