Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book การผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อนการศึกษา

e-book การผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อนการศึกษา

Published by Thanaporn Khwanmueng, 2019-03-26 16:21:13

Description: e-book การผลิตรายการวิทยุและโทรทัศน์เพื่อนการศึกษา

Search

Read the Text Version

หนงั สอื เปนสอ่ื การสอนทอ่ี ยคู กู บั การศึกษามายาวนาน หนงั สอื ทใ่ี ชใน การเรยี นการสอนมหี ลากหลาย ไดแ ก หนังสอื แบบเรียนหรือตําราเรียน คูมอื ปฏิบตั ิการ หนังสืออางอิง พจนานกุ รมปทานุกรม ฯลฯ เปนตน เปา หมายของ หนงั สือ คอื ใชเ ปน แนวทางสาํ หรับการเรยี นการสอนสําหรบั ครูและนกั เรยี น หนังสือเลม น้จี ะอธบิ ายถึงรายละเอยี ดเกยี่ วกับการผลิตรายการวิทยุ โทรทัศน์เพ่อื การศึกษา ประกอบดวยเน้ือหา เกยี่ วกบั ประวตั ิความเป็นมาของวทิ ยุโทรทศั น์ ระบบส่งสัญญาณวิทยโุ ทรทัศน์ วทิ ยโุ ทรทัศน์กับการศึกษา การผลติ รายการโทรทัศน์ การเขยี นบทโทรทศั น์ การใช้กล้องโทรทัศน์ องคป์ ระกอบของภาพ ระบบเสียงโทรทัศน์ เรียนรู้ระบบแสงสวา่ ง การตดั ตอ่ รายการโทรทศั น์ การทำ�เทคนคิ ภาพพิเศษ ระบบสง่ สัญญาณโทรทศั นผ์ ่านดาวเทยี ม ระบบดิจทิ ลั การใชก้ ล้องดิจทิ ัลสำ�หรับทวี ี โดยเนอื้ หาท่ีกลาวมานีเ้ พือ่ ใช เปน แนวทางในการผลิตรายการวทิ ยโุ ทรทัศนใ์ ห้พฒั นาในอนาคตตอ ไป เนื้อหาสาระดงั กลา วจะเปน ประโยชนสาํ หรบั ครูผสู อนและผผู ลิตหนงั สือ เรยี นใน รปู แบบตา ง ๆ เพอ่ื ใชใ นการเรยี นสําหรับนกั เรยี น ธนาพร ขวญั เมือง ผูจ้ ดั ทำ�

บทท่ี1 ประวัตคิ วามเปน็ มาของวิทยุโทรทัศน์ 1.1 ความหมายของวทิ ยโุ ทรทัศน์ 1.2 ระบบโทรทศั น์ 1.3 วทิ ยุโทรทัศน์ในประเทศไทย 1.4 สถานวี ิทยโุ ทรทศั นเ์ พอื่ การศึกษา 15 การแพร่ภาพผ่านดาวเทียม บทที่2 ระบบสง่ สัญญาณวทิ ยุโทรทศั น์ 2.1 การเกดิ สัญญาณภาพ 2.2 การเกดิ ภาพในหลอดภาพโทรทศั น์ 2.3 การกวาดภาพ ( Scanning ) 2.4 ระบบการส่งออกอากาศของวิทยโุ ทรทศั น์ 2.5 หลักการทำ�งานของ HDTV บทที่3 วิทยุโทรทศั น์กับการศึกษา 3.1 การติดตงั้ เครอื ่งรับโทรทัศน์ 3.2 การประเมนิ ผลรายการโทรทัศน์ บทที่4 การผลิตรายการโทรทัศน์ 4.1 รปู แบบการผลติ รายการวทิ ยุโทรทศั น์ 4.2 ขนั้ ตอนการผลติ รายการวิทยุโทรทศั น์ 4.3 บุคลากรผู้ผลิตรายการวทิ ยโุ ทรทศั น์ 4.4 สถานทีส่ ตูดิโอผลิตรายการวทิ ยุโทรทศั น์ 4.5 คำ�ศัพทเ์ ก่ียวกบั มุมกลอ้ ง

บทท5่ี การเขียนบทโทรทัศน์ 5.1 องค์ประกอบของบทโทรทศี น์ 5.2 ขัน้ ตอนการเขยี นบท 5.2.1 บทแบบสมบูรณ์ 5.2.2 บทแบบเปดิ ( Open Script ) บทท6ี่ กลอ้ งโทรทัศน์ 6.1 สว่ นประกอบของกล้องโทรทศั น์ 6.2 การท�ำ งานของกล้องโทรทัศน์ 6.3 คณุ ลักษณะของเลนส์และการใชง้ าน บทท7ี่ องคป์ ระกอบของภาพ 7.1 ระยะการถ่ายภาพหรอื มมุ ภาพ 7.2 ฉากกหลงั ภาพ 7.3 การจดั องคป์ ระกอบภาพ บทท8่ี ระบบเสียงโทรทศั น์ 8.1 ชนดิ ของเสียงในรายการฌทรทศี น์ 8.2 การใชเ้ สยี งในรายการโทรทัศน์ บทท่9ี ระบบแสงสว่าง 9.1 ชนดิ ของแสง บทท1ี่ 0 การตดั ตอ่ รายการโทรทศั น์ 10.1 หลกั การเบ้อื งตน้ ของการตัดตอ่ 10.2 ระบบการตดั ต่อ 10.3 โหมดการตัดตอ่ 10.4 เทคนคิ การตดั ต่อ 10.5 4หลัการตดั ตอ่

บทท1ี่ 1 การทำ�เทคนคิ ภาพพเิ ศษ 11.1 การทำ�ภาพพิเศษดว้ ยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ 11.2 การทำ�ภาพพิเศษด้วยระบบคอมพิวเตอร์ บทที่12 ระะบบส่งสัญญาณโทรทัศนผ์ ่านดาวเทียม 12.1 สว่ นประกอบบของระบบดาวเทยี ม 12.2 การสง่ ดาวเทยี มข้ึนสูอ่ ากาศ บทท1ี่ 3 ระบบดิจทิ ลั 13.1 มาตรฐานของโทรทศั นร์ ะบบดิจติ อล 13.2 ประโยชน์ของทวี ดี ิจิตอล บทที่14 กลอ้ งดจิ ทิ ลั สำ�หรบั ทีวี 14.1 วธิ ีการใชก้ ล้องดจิ ทิ ลั 14.2 เปรยี บเทยี บขอ้ มูลเบอ้ื งตน้ หากต้องการซ้ือ“กลอ้ งทวี ดี ิจทิ ลั ” 14.3 ตารางเปรยี บเทยี บคณุ สมบตั กิ ลอ้ งทีวีดจิ ิทัล



บทท่ี 1 ประวตั ิความเปน็ มาของวิทยโุ ทรทัศน์ ความหมายของวิทยโุ ทรทัศน์ วทิ ยโุ ทรทศั น์ “TELEVISION” มาจากคำ�ภาษากรีกและลาตนิ ค�ำ วา่ “TELE” มา จากภาษากรีก แปลว่า “ไกล” ส่วนค�ำ วา่ “VISION” มาจากภาษาลาตนิ วา่ ‘VIDERE’ หมายความว่า การเหน็ เมือ่ รวมคำ�สองคำ�เขา้ ด้วยกัน แปลวา่ “การเหน็ ระยะไกล” (to see far) นับวา่ เป็นความหมายท่ตี รง เนอ่ื งจากเราต้องการสง่ ภาพกับเสียงจากท่หี น่งึ ไปยังทอี่ ีก แห่งหนึ่งโดยทเ่ี คร่ืองสง่ กับเคร่อื งรับอยู่ห่างไกลกัน วทิ ยุโทรทศั น(์ Television) หมายถึง การส่งและการรับภาพและเสยี งโดยเครอื่ งสง่ และเครื่องรบั อเิ ล็คทรอนคิ ส์ ออกอากาศดว้ ยกระแสคลน่ื วิทยุ (Radio Frequency) วทิ ยโุ ทรทัศน์ หมายถงึ การสง่ ผ่านสญั ญาณทางอิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic trans- mission) ของภาพทเ่ี คลอ่ื นไหวกบั เสยี งใหไ้ ปดว้ ยกนั และในเวลาเดยี วกนั อีกด้วย “วีดิทัศน์” หรือ “วดิ ีโอ” (VIDEO) คำ�น้ีมาจากภาษาลาตินว่า “VIDERE” เช่นกัน ค�ำ วา่ วีดิโอเรามกั จะใช้กับการผลติ รายการวีดทิ ศั น์ หรอื เทปวดี ทิ ศั น์ ทีเ่ รายงั ไม่ตอ้ งแพร่ภาพออก อากาศหรือมกั จะมคี วามหมายรวมไปถงึ อุปกรณเ์ ทปโทรทัศน์ ทใ่ี ชใ้ นหน่วยงานราชการและ สถานโี ทรทศั น์ต่างๆ กอ่ นทจี่ ะเปลย่ี นมาใชร้ ะบบดิจิตอล หรืออปุ กรณว์ ีดิโอเทปทีใ่ ชก้ นั ตาม บ้านทว่ั ไป วตั ถปุ ระสงคห์ ลักของวิทยุโทรทัศน์ กเ็ พ่อื สรา้ งสมั ผสั การเห็นดว้ ยตาและการไดย้ นิ ดว้ ยหขู องคนเราในสง่ิ ต่างๆ ท่ีอย่หู า่ งไกล จงึ พยายามออกแบบสรา้ งให้วทิ ยแุ ละโทรทัศน์ ท�ำ ในส่งิ ทตี่ าและหูทำ�ได ้ กล่าวคือ สง่ิ ทีต่ ามองเหน็ ไดแ้ ก่ความสว่าง แสง สี รายละเอียด ขนาด รูปร่าง และต�ำ แหนง่ ของวัตถ ุ ส่วนหจู ะไดย้ นิ เสียงและสามารถแยกแยะไดว้ า่ เป็น ระดับเสยี งสงู หรือตำ�่ เสยี งดงั หรือค่อย นอกจากน้ียงั จะต้องออกแบบใหว้ ิทยุโทรทศั น์ สามารถส่งผา่ นภาพและเสียงไปยังเครอ่ื งรบั โดยให้ได้คุณภาพของภาพกบั เสยี งท่ีสง่ ไปยงั เครอ่ื งรบั โดยใหไ้ ด้คุณภาพของภาพกบั เสยี งเหมอื นเดิม นั่นคอื จะต้องท�ำ ใหส้ ิ่งท่จี ะมารบกวน การสง่ ผ่านสัญญาณเกิดขึ้นนอ้ ยทส่ี ดุ 11

ในเรื่องของการส่งผา่ นสญั ญาณภาพของสงิ่ ตา่ งๆทปี่ รากฏในฉากจะตอ้ งแปลงให้ เป็นสัญญาณทางไฟฟา้ แล้วส่งผา่ นสัญญาณนนั้ ไปยังตวั กลาง ไม่ว่าจะเปน็ สายเคเบ้ลิ หรอื แพร่ภาพออกอากาศไปยังเครื่องรบั เพอื่ ใหเ้ ครื่องรบั แปลงสัญญาณไฟฟา้ กลับมาเปน็ ภาพ ปรากฏใหเ้ ราเหน็ ทางหน้าจอเหมอื นวัตถจุ รงิ ทุกประการ เสียงกจ็ ะใชก้ ระบวนการในทำ�นอง เดยี วกนั กบั ภาพ กวา่ นักวทิ ยาศาสตรจ์ ะทำ�การคน้ คว้าทดลอง จนได้เปน็ อปุ กรณว์ ิทยุโทรทศั นต์ าม หลกั การดงั กลา่ วแล้ว และกลายมาเปน็ อุปกรณส์ อ่ื สารมวลชนซ่ึงเข้ามามบี ทบาทและอิทธพิ ล เป็นอย่างมากต่อวงการสื่อสาร การบนั เทิง การค้า และการศึกษาของโลกในปัจจบุ นั กต็ ้อง ใชเ้ วลานานพอสมควร จึงขอลำ�ดบั เหตุการณ์ซงึ่ เป็นเรอื่ งราวเกี่ยวกบั วิวัฒนาการของวทิ ยุ โทรทัศน์พอสังเขป ดงั นี้ ประวตั ิการวิทยุโทรทศั น์ ปี 1873 ชายหนมุ่ ผคู้ วบคมุ ระบบสือ่ สารโทรเลขชาวไอริชโจเซฟ เมย์ (Joseph May) ไดค้ น้ พบ photo electric cells และ selenium bars เขาพบวา่ เซเลเนยี มสัมผัสกบั แสงดวงอาทิตยจ์ ะแสดงการเปลย่ี นแปลงความเขม้ ของแสงและสามารถเปลย่ี นเปน็ สัญญาณ ไฟฟา้ ได้ หมายความวา่ ข้อมลู นีจ้ ะถกู ส่งผา่ นได้ ในปี 1875 บอสตนั สหรัฐอเมรกิ า จอร์จ แคร่ี (George Carey) เสนอระบบการสำ�รวจของจุด ภาพ photoelectric cells รปู ที่ 1 photoelectric cells โฟโต้อเิ ลก็ ทรกิ ส์เซล เป็นจดุ ส�ำ คัญทจี่ ะก่อกำ�เนิดระบบการส่งภาพโทรทศั นใ์ นทาง ปฏบิ ัติและปี 1884 โดยพอล Nipkow ไดจ้ ดสทิ ธิบตั รในเยอรมนขี องระบบโทรทศั น์ที่สมบรู ณ์ คุณลักษณะท่โี ดดเดน่ ของระบบ Nipkow เปน็ ดสิ ก์หมนุ aperture 2

เกลียวทใ่ี หท้ ง้ั การสง่ และรับเปน็ วิธีการท่งี ่ายและมีประสทิ ธิภาพในการกวาดสแกนภาพตาม วิธกี ารของเขา จนกระท่ังการการสแกนอเิ ลก็ ทรอนิกส์ทุกระบบการถ่ายภาพโทรทัศน์ รูปที่ 2 ภาพแนวคิดการสแกนภาพ ในปี 1908 ชาวสกอตแลนด์ แคมเบลล์ สวินดนั (A.A. Campbell Swinton) ได้ ออกแบบระบบคาร์โทดเรย์ (system of cathode ray tubes) ในปี 1925 วศิ วกรไฟฟ้าจากสกอตแลนด์ John Logie Baired ประสบความส�ำ เรจ็ ในการสาธิตกระบวนการการสแกนกวาดภาพและการสง่ ภาพหนา้ บคุ คล วธิ ขี องเขาใช้จาน 2 แผน่ บนแกนเดียวกัน ในปี 1926 เขาสง่ ภาพบคุ คลทีผ่ า่ นการถ่ายสแกนกวาดภาพท่ี 20 เสน้ ได้ 5 ภาพใน ทกุ ๆ วนิ าที รปู ที่ 3 การสาธติ การส่งภาพของ John Logie Baired 3

การแพร่ภาพออกอาการเกิดขึ้นครง้ั แรกในปี March 1935 การบนั ทกึ และถา่ ยทอด ภาพใชร้ ะบบฟิลม์ ในปี 1936 Berlin Olympic Games ในการแข่งขันกฬี าโอลิปิกเกมส์ที่กรงุ เบอรล์ ิน เยอรมันเป็นเจ้าภาพ ได้มีการถ่ายทอดสดโดยการใชก้ ล้องถ่ายทอดสดสัญญาณโทรทศั น์ electronic cameras รปู ที่ 4 ภาพการถ่านทอดสดกฬี าโอลมิ ปิกท่ีกรงุ เบอรล์ ิน ในปี 1956 บริษทั Ampex ได้พัฒนาระบบเครอื่ งบนั ทึกเทปเครื่องแรกของโลก (vid- eo tape recover) รูปที่ 5 เคร่อื งบันทกึ เทปเครือ่ งแรกของโลก 4

ระบบโทรทัศนส์ ี พฒั นาการของวิทยุโทรทศั น์มาพร้อมกบั โทรทศั น์ขาวดำ� กลา่ วคอื ในปี พ.ศ. 2471 แบร์ดได้เปน็ ผู้คน้ พบการแยกสจี ากการกวาดภาพดว้ ยระบบกลไกตามทฤษฎขี องนฟิ โกวเขา ใชจ้ านแยกแม่สี 3 อนั แต่ละอันเจาะรเู ลก็ ๆ 30 รเู รยี งกนั เปน็ เกลยี ว จานกจ็ ะหมุนและ แยกสีตามล�ำ ดับสว่ นทเ่ี ครือ่ งรับจะประกอบด้วยหลอดบรรจุก๊าซ 2 หลอด หลอดหนึ่งเปน็ ไอ ปรอทกบั ฮีเลียม ส�ำ หรบั ให้แสงสีเขียวกับสนี �้ำ เงนิ ส่วนอีกหลอดหน่งึ บรรจกุ า๊ ซนีออนเพอื่ ให้ แสงสีแดง ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2472 เฮอร์เบริ ์ต อฟิ ส์ (Herbert Ives) กับผ้รู ว่ มงาน ไดท้ ดลอง ท่ีบรษิ ทั เบล เทเลโฟน (Bell Telephone) โดยใช้โฟโตเซลแยกสี จะเห็นได้วา่ การทดลอง คน้ ควา้ เก่ยี วกับโทรทัศนส์ ีทำ�กนั ท่วั ไป ปลายปี พ.ศ. 2473 เจ. เอล. แบร์ด แห่งอังกฤษ และ ปเี ตอร์ โกลมารค์ แหง่ บริษัท ซบี ีเอส (Columbia Broadcasting System) แหง่ อเมริกา กไ็ ด้พบความสำ�เรจ็ ในการใชฟ้ ลิ เตอร์หมุนแยกสใี นกล้องโทรทัศน์และเครอ่ื งรับ แตค่ ณะ กรรมาธกิ ารว่าดว้ ยการสื่อการของรัฐบาลกลาง หรอื FCC (Federal Communications Commission) ยังไมพ่ อใจจนต้องถกู ยกเลิกไป จนถึง พ.ศ.2496 FCC และคณะกรรมาธกิ าร ว่าดว้ ยระบบวิทยุโทรทศั นแ์ หง่ ชาติ หรือ NTSC (National Television System Committee) จึงยอมรับระบบวทิ ยุโทรทศั นส์ ีของ NBC (National Broadcasting Cor- poration) ซ่งึ ใชก้ ารวาดภาพด้วยระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ทั้งกลอ้ งโทรทศั น์และเครอื่ งรบั ทั้งน้ี เครื่องรบั โทรทัศนข์ าวดำ�ทม่ี อี ยกู่ ่อนแล้วจะตอ้ งสามารถรับสญั ญาณไดด้ ว้ ย นอกจากน้เี คร่ือง รบั โทรทัศน์สกี จ็ ะตอ้ งสามารถรับสญั ญาณภาพขาวด�ำ จากสถานีสง่ วิทยุโทรทศั น์ท่มี ีอยูไ่ ด้ด้วย เช่นเดยี วกันแต่ภาพทไ่ี ด้จะเปน็ ภาพขาวดำ� ในเดอื นมกราคม พ.ศ. 2497 จงึ เริม่ แพรภ่ าพออกอากาศตอ่ สาธารณชน นับวา่ สหรัฐอเมรกิ าเปน็ ชาตแิ รกทสี่ ่งสัญญาณโทรทัศนส์ แี พรภ่ าพออกอากาศในระบบ NTSC 525 เส้น ระบบวิทยุโทรทศั นส์ ีทพี่ ฒั นาขึ้นภายในระบบ NTSC ไดแ้ ก่ระบบ PAL (Phase Al- ternation Line) ซ่งึ เปน็ ผลจากการค้นควา้ ทดลองของบริษัทเทเลฟงุ เกน (Telefuken) ภาย ใต้การน�ำ ของ ดร.วอลเตอร์ บรซู (Dr. Walter Bruch) เยอรมนั นีไดป้ ระกาศรบั ระบบ PAL เป็นระบบโทรทัศนส์ แี ห่งชาติ เมอื่ พ.ศ. 2509 ประเทศไทยก็ใชร้ ะบบน้ีเพราะถือว่าเปน็ ระบบ ท่ดี ที ีส่ ดุ นอกจากนีก้ ม็ ีระบบ SECAM (System Electronique Couleur Avec Memoire) ซ่ึงค้นคว้าผลการทดลองโดยเฮนรี่ เดอ ฟรานซ์ (Henri de France) แหง่ ปารสี ประเทศที่ใช้ ระบบนไ้ี ด้แก่ ฝรัง่ เศสและรสั เซยี 5

วิทยุโทรทัศนใ์ นประเทศไทย ประเทศไทยเปน็ ประเทศแรกในเอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ทม่ี สี ถานีวิทยโุ ทรทัศน์ แต่ เดมิ แพรภ่ าพในระบบขาวด�ำ ตอ่ มาเปน็ การแพรภ่ าพในระบบโทรทศั นส์ ี ปัจจบุ ันแพรภ่ าพ ในระบบโทรทศั น์ดิจิตอล และแพร่ภาพขยายเครือข่ายผ่านดาวเทยี มกระจายไปทวั่ ประเทศ ทำ�ให้ประชาชนสามารถรบั ชมรายการต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งทว่ั ถงึ พฒั นาการทางวิทยโุ ทรทัศน์ ส�ำ หรับประเทศไทยมพี ฒั นาการตามล�ำ ดับดังนี้ สถานวี ิทยุโทรทัศนไ์ ทยทวี สี ีชอ่ ง 9 สถานีโทรทัศนไ์ ทยทีวสี ี ชอ่ ง ๙ ด�ำ เนินงาน โดย อ.ส.ม.ท. เปน็ รฐั วสิ าหกจิ สังกดั สำ�นกั นายกรฐั มนตรี 14 กรกฎาคม 2495 (วนั เกิดจอมพล ป. พิบลู สงคราม) บริษัท ไทย โทรทัศน์ จำ�กดั ทดลองจดั ตัง้ สถานโี ทรทศั น์ ถอื เปน็ ชาตแิ รกของเอเชีย 24 มถิ นุ ายน 2498 (วันชาต)ิ เร่ิมออกอากาศครง้ั แรก 525 เส้น ขาว-ด�ำ ช่อง 4 1 กรกฎาคม 2513 เปล่ียนเป็น 625 เส้น ขาว-ด�ำ ทางช่อง 9 2520 ออกอากาศเป็น สี ยบุ บริษัทโอนเปน็ ของ อ.ส.ม.ท. กจิ การวทิ ยโุ ทรทศั นใ์ นประเทศไทยเริ่มต้นมาตง้ั แต่สมยั ทจี่ อมพล ป. พิบูลสงคราม เปน็ นายก รฐั มนตรี คอื ให้มสี ถานวี ิทยุโทรทศั นข์ ึน้ ในประเทศไทยเพอ่ื ใช้เป็นประโยชนใ์ นการศกึ ษาให้ ประชาชนไดม้ ีความรกู้ วา้ งไกล จึงไดม้ อบหมายไดก้ รมประชาสมั พนั ธ์หรอื กรมโฆษณาการใน สมยั น้นั รบั ไปด�ำ เนินการ กรมประชาสัมพันธไ์ ด้เสนอโครงการการจดั ตงั้ สถานีวิทยุโทรทศั น์ เป็นจำ�นวน 12 ล้านบาท ให้ทปี่ ระชมุ คณะรัฐมนตรพี จิ ารณา ปรากฏวา่ มเี สยี งคดั ค้านจาก ประชาชนอยา่ งกว้างขวาง อ้างว่าเป็นการสน้ิ เปลอื งงบประมาณแผ่นดนิ โดยใช่เหตคุ วรใช้เงนิ จ�ำ นวนนี้ไปพัฒนาดา้ นอ่นื จะดีกวา่ ผลสุดทา้ ยจงึ ได้ระงบั โครงการนีไ้ ป แตร่ ัฐบาลก็ยงั เห็นคุณค่าและความจำ�เปน็ ที่ควรจะมสี ถานีวิทยุโทรทศั น์ เมือ่ ไม่ สามารถใชเ้ งนิ งบประมาณได ้ จึงจดั ต้งั ในรูปของบรษิ ัทจ�ำ กดั โดยไม่ต้องใชเ้ งนิ งบประมาณ ใชช้ อื่ ว่า “บรษิ ทั ไทยโทรทศั นจ์ ำ�กดั ” มพี ลต�ำ รวจเอกเผ่า ศรยี านนท์ อธบิ ดีกรมต�ำ รวจเปน็ ประธานกรรมการ บรษิ ทั ไทยโทรทัศนจ์ ำ�กัดไดท้ �ำ หนงั สอื ถึงกรมประชาสมั พันธ์เพ่ือขอจดั ต้ัง บริษทั เมือ่ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2495 โดยใชท้ ุนด�ำ เนนิ การ 20 ล้านบาท จากนั้นได้ท�ำ การก่อสร้างทท่ี ำ�การของสถานีขึน้ ที่วดั บางขนุ พรม อันเปน็ ที่ตั้งของ ธนาคารแหง่ ประเทศไทยในปัจจบุ ัน ใช้เวลากอ่ สรา้ งนาน 8 เดือน เม่ือท�ำ การติดตงั้ เครอื่ งส่ง พรอ้ มดว้ ยอุปกรณเ์ สรจ็ แล้ว 6

จงึ ได้เรมิ่ แพรภ่ าพออกอากาศอย่างเปน็ ทางการเมือ่ วันท่ี 24 มิถุนายน พ.ศ.2498 ซงึ่ ตรงกับวันชาตใิ นขณะนนั้ โดยใชช้ ือ่ วา่ “สถานีวทิ ยโุ ทรทัศน์ไทยทวี ี ชอ่ ง 4” สงั กดั กรม ประชาสมั พนั ธ์ ส�ำ นักนายกรัฐมนตรี ด้วยกำ�ลังสง่ 10 กโิ ลวัตต์ เสาอากาศสูง 96 เมตร ระบบ ขาวด�ำ 525 เสน้ จึงนับได้วา่ ประเทศไทยเปน็ ประเทศแรกบนผืนแผน่ ดินใหญ่ของทวีปเอเชีย ท่มี สี ถานีวิทยุโทรทัศน์ ระยะเริม่ แรกแพรภ่ าพออกอากาศเพยี ง 4 วัน คอื วันอาทติ ย์ องั คาร พฤหัสบดี และวนั เสาร์ ต่อมาปี พ.ศ. 2501 จงึ ไดอ้ อกอากาศเป็นประจำ�ทกุ วนั พฒั นาการของวิทยโุ ทรทศั น์เจริญก้าวหนา้ อย่างไมห่ ยุดยัง้ จากวทิ ยโุ ทรทศั น์ทเี่ ป็น ภาพขาวดำ�เปลี่ยนมาเป็นแพร่ภาพสีท่ีใหค้ วามสมจรงิ เหมอื นกับธรรมชาติ นานาประเทศ จงึ ต่นื ตัวทจ่ี ะเปลยี่ นระบบวทิ ยุจากระบบขาวด�ำ ใหเ้ ป็นสี ในปพี .ศ. 2507 คณะรฐั มนตรไี ด้ มีมติแตง่ ตง้ั คณะกรรมการเพื่อพิจารณาเปล่ียนแปลงระบบการสง่ วิทยโุ ทรทัศนข์ องประเทศ จากระบบ 525 เส้น 30 ภาพตอ่ วินาที เป็นระบบ 625 เส้น 25 ภาพต่อวนิ าที ดังนน้ั ใน พ.ศ. 2513 สถานีวิทยุโทรทศั น์ไทยทีวี ชอ่ ง 4 จงึ ได้เปลยี่ นระบบการแพร่ภาพเป็น 625 เสน้ 25 ภาพตอ่ วนิ าที ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2517 ไดเ้ ปล่ยี นช่องการแพรภ่ าพออกอากาศเปน็ สถานวี ทิ ยุ ไทยทวี สี ีช่อง 9 เม่อื วนั ท่ี 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 คณะรฐั มนตรไี ด้มมี ตใิ ห้ยุบเลกิ บริษทั ไทยโทรทัศน์ จ�ำ กัดและตราพระราชกฤษฎกี าจดั ตง้ั องค์กรสือ่ สารมวลชนแห่งประเทศไทย หรอื อสมท. พ.ศ. 2520 ขึ้นแทน ดว้ ยเหตผุ ลทว่ี ่าจะจดั กจิ การสอ่ื สารมวลชนของรัฐบาล สถานีวทิ ยุ โทรทศั นใ์ ห้มคี วามคลอ่ งตวั มีประสทิ ธภิ าพถูกตอ้ ง รวดเร็ว และเปน็ ที่เชอื่ ถอื แก่ประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล สถานวี ทิ ยุโทรทศั นไ์ ทยทีวีสชี ่อง 9 จึงได้เข้าสังกดั การบรกิ ารงานใน อสมท. ต้ังแตว่ นั ท่ี 26 มีนาคม พ.ศ. 2520 เปน็ ต้นมา 2495-2517 2517-2519 2519-2546 2546-ปัจจุบนั 7

ตราสญั ลักษณ์ สถานวี ิทยโุ ทรทศั น์สีกองทัพบก ช่อง 5 สถานวี ทิ ยโุ ทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 สังกดั กองทพั บกไทย เร่ิมทดลองออกอากาศ 3 สงิ หาคม 2500 25 มกราคม 2501 (วนั กองทัพบก) แพรภ่ าพอย่างเปน็ ทางการ 525 เส้น ขาว-ดำ� ทางช่อง 7 ตุลาคม 2516 เปล่ยี นเปน็ 625 เสน้ ขาว-ดำ� ทางช่อง 5 ธนั วาคม 2516 แพรภ่ าพออกอากาศเป็นวทิ ยโุ ทรทัศนส์ ี เมอื่ วันที่ 25 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. 2500 จอมพลสฤษด์ิ ธนะรัชต์ ผ้บู ัญชาการทหารบก ในสมยั นน้ั ได้มคี ำ�สั่งแต่งตง้ั คณะกรรมการด�ำ เนินกจิ การวทิ ยุโทรทศั น์ของกองทัพบก โดย ให้ พลเอกไสว ไสวแสนยากร เปน็ ประธานกรรมการด�ำ เนินการจัดต้ังสถานีวิทยโุ ทรทศั น ์ จงึ เกดิ สถานวี ทิ ยุโทรทัศน์กองทัพบกขนึ้ ต้ังอยู่ในบริเวณกองทหารม้า ถนนพหลโยธิน สนามเป้า เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ใชช้ อื่ วา่ “สถานีวทิ ยุโทรทัศน์กองทพั บก ช่อง 7” แพรภ่ าพ ออกอากาศเปน็ คร้งั แรกเมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2501 ซึ่งเปน็ วันกองทพั บก ด้วยระบบ FCC (Federal Communication Commission) ภาพขาวด�ำ 525 เสน้ 30 ภาพตอ่ วนิ าที ใชก้ ำ�ลงั ส่ง 5 กิโลวัตต์ ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2517 สถานชี อ่ ง 7 ได้เปลี่ยนระบบเคร่ืองสง่ วทิ ยโุ ทรทศั น์ที่มีมาแต่ เดิมเป็นระบบ CCIR (Comitte Concultief International des Radio Communica- tion) สง่ สัญญาณภาพ 625 เสน้ ระบบสี PAL (Phase Alternation Line) แล้วแพรภ่ าพ ออกอากาศทางชอ่ ง 5 ตั้งแต่วันที่ 3 ตลุ าคม พ.ศ. 2517 เป็นตน้ มา ดังนน้ั สถานวี ิทยุโทรทศั น์ กองทัพบกชอ่ ง 7 จงึ ไดเ้ ปลยี่ นช่ือไปเปน็ “สถานีวทิ ยโุ ทรทศั นส์ กี องทพั บกช่อง 5 ” แทน ตราสัญลักษณ์ ตราสญั ลักษณ์ ททบ.5 ในยคุ แรก ปจั จุบนั 8

สถานีวิทยโุ ทรทัศนก์ องทัพบกช่อง 7 สถานีโทรทัศนส์ ีกองทัพบก ช่อง 7 โดย บรษิ ทั กรงุ เทพโทรทัศนแ์ ละวิทยุ จำ�กดั [Bangkok TV and Broadcasting Co.,Ltd. (BBTV)] เปน็ ผดู้ �ำ เนนิ กิจการในนามกองทัพ บก 25 พฤศจกิ ายน 2510 (วันวชิราวุธ) ออกอากาศเป็นระบบวทิ ยโุ ทรทศั นส์ ี สถานแี รกของ ไทย 625 เส้น ทางชอ่ ง 7 สถานวี ทิ ยโุ ทรทศั นส์ กี องทพั บกชอ่ ง 7 เป็นสถานวี ิทยุโทรทศั นส์ แี ห่งแรกของ ประเทศไทย เกดิ ขนึ้ จากการทีบ่ ริษทั กรงุ เทพโทรทัศนแ์ ละวิทยุจ�ำ กัด ซงึ่ เป็นบริษทั ของ เอกชน ได้รว่ มกับสถานวี ทิ ยุโทรทศั น์กองทพั บกเพอื่ ด�ำ เนนิ การจัดต้งั สถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์สี ขึน้ โดยในช้ันต้นไดใ้ ชส้ ถานท่ีหอ้ งสง่ รวมกับสถานวี ิทยโุ ทรทัศนก์ องทพั บก สนามเปา้ และเร่มิ แพร่ภาพออกอากาศเมอื่ วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 ในนามวชริ าวธุ ภายหลงั จงึ ได้จัด ต้ังสถานีและหอ้ งส่งเปน็ ของตนเองบรเิ วณหลังสถานีขนส่งสายเหนอื ตลาดหมอชติ และได้ ยา้ ยไปอยูใ่ นเดอื นพฤศจิกายน พ.ศ. 2513 สถานวี ิทยุโทรทัศน์สกี องทพั บกช่อง 7 แพร่ภาพออกอากาศด้วยระบบ CCIR 625 เสน้ 25 ภาพ ต่อวินาที ระบบสี PAL ใช้กำ�ลังสง่ 10 กโิ ลวัตต์ กำ�ลงั ส่งทย่ี อดเสา อากาศ 240 กิโลวัตต์ ตราสัญลกั ษณ์ ปัจจุบัน 9

สถานวี ิทยุไทยทีวสี ชี ่อง 3 สถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์ไทยทวี ีสี ชอ่ ง 3 โดยบรษิ ทั บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์ จ�ำ กดั [Bangkok Entertainment Company (BEC ) ] ปัจจุบนั ร่วมมือกนั กับบริษทั Tero En- tertainment จ�ำ กดั เปลี่ยนเปน็ บรษิ ัท [บอี ีซี เทโร เอน็ เตอร์ เทนเมนต์ จาํ กัด [BEC-TERO Entertainment Company ] เป็นผดู้ �ำ เนนิ กจิ การในนาม อ.ส.ม.ท. 26 มีนาคม 2513ออก อากาศเปน็ สี 625 เสน้ ทางช่อง 3 ท้ังย่าน VL และ UHF เมอ่ื วันท่ี 3 ธันวาคม พ.ศ. 2510 บรษิ ัทบางกอกเอ็นเตอรเ์ ทนเมนต์จำ�กดั ได้ยืน่ หนงั สอื ของรว่ มทนุ กบั บริษัทไทยโทรทัศนจ์ ำ�กดั เพื่อจดั ตงั้ สถานวี ทิ ยุโทรทศั น์สีช่อง 3 ขน้ึ และได้ลงนามในสญั ญาในเวลาต่อมา สาระส�ำ คญั ในสญั ญาคือข้อก�ำ หนดในเร่อื งของผล ประโยชน์ตอบแทนแกร่ ฐั และบริษัทไทยโทรทศั น์จ�ำ กัด รวมไปถงึ อาคารสถานทีแ่ ละอปุ กรณ์ เครอ่ื งสง่ วิทยโุ ทรทัศนท์ ้ังหมดวา่ จะตอ้ งตกเปน็ ของบรษิ ทั แต่มีข้อแม้ว่า ในชว่ งเวลา 10 ปี บริษทั บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนต์จำ�กดั จะด�ำ เนนิ การของสถานีเอง เมื่อตกลงทำ�สญั ญา เรยี บรอ้ ยแล้ว จึงได้เร่ิมกอ่ ต้งั สถานีซ่งึ อยทู่ ่แี ขวงหลกั สอง เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร และเร่ิมแพรภ่ าพออกอากาศอยา่ งเป็นทางการ เม่ือวันท่ี 6 มีนาคม พ.ศ. 2513 ทางชอ่ ง 3 ด้วยระบบ CCIR ระบบสี PAL 625 เสน้ 25 ภาพตอ่ วินาที ก�ำ ลังสง่ 50 กโิ ลวัตต์ ก�ำ ลงั สง่ ทีป่ ลายสายออกอากาศ 650 กโิ ลวตั ต์ เสาอากาศสูง 250 เมตร พร้อมกันนนั้ สถานวี ทิ ยุ โทรทัศน์ไทยทีวีสชี อ่ ง 3 ก็ได้ท�ำ การส่งวิทยุกระจายเสยี งระบบเอฟ็ เอ็มสเตอรโี อมัลติเพลก็ ซ์ (FM Stereo multiplex) ด้วยก�ำ ลงั ส่ง 10 กิโลวัตต์ เพอ่ื ถ่ายทอดเสยี งภาพยนตรเ์ ป็นภาษา อังกฤษไปดว้ ย สถานวี ทิ ยุโทรทศั น์ไทยทวี ีสีช่อง 3 เกดิ ข้ึนจาก บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมน้ ต์ จ�ำ กดั (Bangkok Entertainment Company Limited; BEC) ซง่ึ จดทะเบยี นจัดต้งั เป็น บรษิ ัท เมอ่ื วนั ท่ี 10 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2510 บรษิ ทั ไทยโทรทัศน์ จำ�กัด ลงนามร่วมกัน ใน สัญญาด�ำ เนนิ กจิ การสง่ โทรทัศน์ เมื่อวันท่ี 4 มนี าคม พ.ศ. 2511 โดยมอี ายสุ ัญญา 10 ปี ระหวา่ งวนั ท่ี 26 มีนาคม พ.ศ. 2513-25 มีนาคม พ.ศ. 2523 บรษิ ัทฯ ไดร้ ับอนุมตั ใิ ห้ขยายอายสุ ัญญาดำ�เนินกิจการสง่ โทรทศั น์ กบั องคก์ ารส่ือสารมวลชน แห่งประเทศไทย (อ.ส.ม.ท.) ซง่ึ แปรรูปมาจาก บริษัท ไทยโทรทัศน์ จำ�กัด เมื่อปี พ.ศ. 2520 มาแลว้ สองคร้งั คอื เมือ่ วนั ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2521 ขยายออกไปอกี 10 ปี ระหวา่ งวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2523 - 25 มนี าคม พ.ศ. 2533 และในวนั ท่ี 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2530 10

ขยายออกไปอีก 30 ปี ระหวา่ งวันท่ี 26 มีนาคม พ.ศ. 2533 - 25 มนี าคม พ.ศ. 2563 สถานีวทิ ยุโทรทัศน์ไทยทวี ีสชี อ่ ง 3 (ชือ่ สากล: HS-TV 3) เป็นสถานโี ทรทัศน์เพียงแห่ง เดียวในประเทศไทย ท่ีออกอากาศโดยใช้ช่องความถ่ีต�่ำ ระบบวเี อชเอฟ ทางช่อง 2 ถงึ ชอ่ ง 4 โดยในระยะเรม่ิ แรก สามารถให้บรกิ ารในเขตกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑลเทา่ น้นั โดยใช้ เคร่อื งส่งโทรทศั นส์ ีขนาด 25 กโิ ลวัตต์ จ�ำ นวนสองเครอ่ื งขนานกนั รวมกำ�ลงั ส่งเปน็ 50 กโิ ล วตั ต์ อัตราการขยายสายอากาศ 13 เท่า กำ�ลงั ออกอากาศท่ปี ลายเสาอยทู่ ี่ 650 กโิ ลวตั ต์ เสา อากาศเครื่องสง่ มีความสูง 250 เมตร ความถ่คี ลน่ื อยู่ระหว่าง 54-61 เมกะเฮิรต์ ใชร้ ะบบ ซีซีไออาร์ พาล (CCIR PAL) 625 เส้น เปน็ แหง่ แรกของไทย โดยส่งออกอากาศ ทางช่อง สญั ญาณท่ี 3 ท้งั นี้ ไทยทวี ีสีชอ่ ง 3 เป็นสถานีโทรทัศน์สีแห่งทส่ี องของประเทศไทย ตอ่ จาก สถานโี ทรทศั น์สีกองทพั บกชอ่ ง 7 สำ�หรบั สถานสี ่งหลักในกรงุ เทพมหานคร ได้มกี ารร่วมกันลงนามในสัญญารว่ มใชเ้ สา สง่ โทรทศั น์ และระบบสายอากาศโทรทศั น์ บนอาคารใบหยก 2 ระหว่าง บรษิ ัท บางกอก เอ็นเตอรเ์ ทนเมน้ ต์ จำ�กัด และ บรษิ ทั ไอทีวี จำ�กดั (มหาชน) เม่อื วนั ท่ี 25 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2547 (ต่อมา เกดิ การโอนกิจการ ทรัพย์สนิ สญั ญาการด�ำ เนนิ การ และสิทธติ ่างๆ ของสถานี โทรทศั น์ไอทีวี ซงึ่ รวมถึงเสาสง่ คล่นื ความถ่ี และเครอื่ งสง่ โทรทศั น์ ไปเป็นกรรมสทิ ธิ์ของ สำ�นกั บรหิ ารกิจการสถานีวิทยโุ ทรทัศน์ระบบยูเอชเอฟเฉพาะกจิ (หนว่ ยบรกิ ารรูปแบบพเิ ศษ) เมอื่ ปี พ.ศ. 2550 และ องคก์ ารกระจายเสยี งและแพรภ่ าพสาธารณะแหง่ ประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2551 ตามลำ�ดบั จงึ มกี ารเปล่ียนแปลงคสู่ ัญญา เปน็ องคก์ รของรฐั ทง้ั สองตามไปดว้ ย) ตราสญั ลกั ษณ์ ปจั จุบัน 11

สถานวี ิทยุโทรทัศนแ์ ห่งประเทศไทย โทรทัศนแ์ ห่งชาติ ชอ่ ง11 วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2528 คณะรฐั มนตรไี ด้มีมตใิ หก้ รมประชาสมั พนั ธ์ดำ�เนนิ การ จัดตั้งสถานวี ทิ ยุโทรทศั น์แห่งประเทศไทย ชอ่ ง 11 ขึ้น และเร่ิมทดลองแพรภ่ าพออกอากาศ เมือ่ วนั ที่ 14 ตลุ าคม พ.ศ. 2528 นอกจากน้ีในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2528 คณะรัฐมนตรียังไดม้ มี ตใิ ห้ขยายเครือ ข่ายบริการโทรทศั น์ไปยงั ตา่ งจังหวดั ได้ ดงั นัน้ สถานีวทิ ยโุ ทรทัศนท์ ุกสถานีจงึ ได้จดั ตง้ั สถานี เครอื ข่ายของตนเองให้ครอบคลุมพ้ืนที่ทัว่ ประเทศไทยโดยสง่ สัญญาณผา่ นดาวเทยี ม ท�ำ ให้ ประชาชนทั้งประเทศไดร้ บั ชมรายการโทรทัศน์พรอ้ มๆกัน สถานีวทิ ยโุ ทรทัศน์แหง่ ประเทศไทย โทรทัศนแ์ หง่ ชาติ [ช่อง11 (สทท.11 , TVT11, NBT)] กรมประชาสัมพนั ธ์ สังกัดส�ำ นกั นายกรฐั มนตรี รวมศนู ยป์ ระชาสมั พนั ธ์ท้ัง 6 เขต (เมอื่ เรมิ่ จดั ตัง้ ) (ปัจจบุ นั มี 8 เขต เพ่มิ อกี 2 เขต คอื เขต 7 จันทบรุ ี และเขต 8 กาญจนบรุ ี) เขา้ ด้วยกนั คือ ศูนยป์ ระชาสมั พันธเ์ ขต 1 ขอนแก่น ศูนย์ประชาสมั พนั ธเ์ ขต 2 อบุ ลราชธาน ี ศนู ย์ประชาสมั พนั ธเ์ ขต 3 เชยี งใหม่ (เดมิ คือ ล�ำ ปาง) ศนู ย์ประชาสัมพนั ธเ์ ขต 4 พิษณโุ ลก ศนู ยป์ ระชาสมั พันธเ์ ขต 5 สุราษฎรธ์ านี ศนู ย์ประชาสัมพันธ์เขต 6 สงขลา เรมิ่ ทดลองออกอากาศ เดือน ตลุ าคม 2528 แพรภ่ าพเปน็ ทางการเมอ่ื 11 กรกฎาคม 2531 แบ่งออกเปน็ 2 ภาค คอื ภาค 1 แพร่ภาพเฉพาะในกรุงเทพและปรมิ ณฑล โดยไม่มีโฆษณา ภาค 2 แพร่ภาพในส่วนภูมภิ าคตามศนู ยป์ ระชาสัมพนั ธ์เขตต่างๆ ตราสญั ลักษณ์

การเปลยี่ นแปลงตราสัญลักษณช์ ่อง 11 สถานีวทิ ยโุ ทรทศั น์แห่งประเทศไทยในสว่ นภมู ิภาค คณะรัฐมนตรสี มยั จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นนายยกรฐั มนตรี ได้พิจารณาเหน็ วา่ สถานวี ิทยโุ ทรทศั น์ไม่ควรมีอยแู่ ตใ่ นกรุงเทพฯ อยา่ งเดียว ควรจะกระจายไปส่ภู ูมิภาคตา่ งๆ ใน ชนบทด้วย เพ่อื ให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเท่าเทยี มกันในการรบั ขา่ วสาร นโยบาย ความ ไหวรวมทั้งการด�ำ เนนิ การพฒั นาทุกๆด้านของรัฐบาลจงึ มอบหมายให้กรมประชาสมั พนั ธร์ ับไป ด�ำ เนินการ ในข้นั ตอนแรก กรมประชาสัมพนั ธไ์ ดจ้ ดั ตง้ั สถานวี ิทยโุ ทรทัศนก์ ่อน 3 จงั หวัด คอื ภาคเหนอื ทจี่ ังหวดั ล�ำ ปาง ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือทจี่ งั หวดั ขอนแก่น และภาคใต้ท่จี งั หวดั สงขลา ต่อมาภายหลังจึงได้จัดต้ังเพิ่มขนึ้ อกี 2 จงั หวัด คือสุราษฎร์ธานีกบั ภูเก็ต โดยมรี าย ละเอียดดงั น้ี 1. ภาคเหนือทีจ่ ังหวัดลำ�ปาง ต้ังสถานอี ยู่ที่ต�ำ บลหัวเวียง อำ�เภอเมือง เริม่ แพร่ภาพ ออกอากาศเมอื่ วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2505 ทางชอ่ ง 8 ระบบภาพขาวดำ� 525 เสน้ เสาอากาศ สงู 75 เมตร ก�ำ ลงั ส่งออกอากาศ 10 กโิ ลวัตต์ ตอ่ มาเปน็ ระบบ 625 เสน้

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จัดตัง้ ท่จี งั หวดั ขอนแกน่ บริเวณบงึ แก่นนคร อ�ำ เภอเมอื ง เริ่ม แพรภ่ าพออกอากาศเมอ่ื วันที่ 25 กนั ยายน พ.ศ. 2505 ทางช่อง 5 ระบบภาพขาวด�ำ 5252 เสน้ เสาอากาศสงู 120 เมตร กำ�ลงั ส่ง 6 วตั ต์ ต่อมาในปี พ.ศ.2521 ไดเ้ ปลีย่ นระบบ 625 เส้น และออกอากาศดว้ ยก�ำ ลงั ส่ง 10 กโิ ลวตั ตท์ างช่อง 4 3. ภาคใต้ จดั ตั้งอยทู่ อ่ี ำ�เภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แพร่ภาพออกอากาศครั้งแรก เม่ือวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2505 ทางช่อง 9 ระบบภาพ 525 เส้น ก�ำ ลงั สง่ 500 วตั ต์ กำ�ลัง สง่ 500 วตั ต์ ต่อมาไดเ้ ปล่ียนเปน็ เครื่องสง่ ระบบ 625 เสน้ แพรภ่ าพออกอากาศทางชอ่ ง 10 ดว้ ยก�ำ ลงั สง่ 10 กิโลวัตต์ ตอ่ มาไดเ้ ปลย่ี นเปน็ เครือ่ งส่งระบบ 625 เส้น แพร่ภาพออกอากาศ ทางช่อง 10 ดว้ ยกำ�ลังส่ง 10 กิโลวัตต์ เม่อื วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 4. จัดตง้ั อยทู่ ่จี ังหวดั สรุ าษฎรธ์ านโี ดยนำ�เคร่ืองสง่ ระบบเกา่ มาจากจงั หวัดสงขลา เร่ิม ออกอากาศทางช่อง 7 ด้วยก�ำ ลังส่ง 10 กิโลวตั ต์ 5. จัดตั้งสถานีวทิ ยุโทรทศั นแ์ หง่ ประเทศไทยที่อ�ำ เภอเมอื ง จงั หวัดภเู ก็ต เริ่มแพรภ่ าพ ออกอากาศเม่อื วันท่ี 13 มนี าคม พ.ศ. 2515 ทางช่อง 11 ระบบภาพขาวด�ำ 525 เส้น ก�ำ ลัง สง่ 100 วตั ต์ ต่อมาปี พ.ศ. 2520 ได้เปลย่ี นเปน็ ระบบ 625 เส้น กำ�ลงั ส่ง 1 กิโลวัตต์ แพร่ ภาพออกอากาศทางชอ่ ง 9 สถานีวิทยุโทรทัศน์แหง่ ประเทศไทยทง้ั 5 สถานีนสี้ ังกดั กรมประชาสัมพันธแ์ ละเปน็ สถานแี มข่ ่าย สถานีโทรทศั นไ์ ทยพีบีเอส สถานีโทรทัศน์ ทีวไี ทย (ทีวสี าธารณะ ทไี อทีว)ี เปน็ สถานีโทรทัศน์ ไอทวี ีเดิม ออก อากาศทางชอ่ ง 29 ตอ่ มาเปลี่ยนเปน็ ชอ่ ง 34 เรม่ิ ออกอากาศเปน็ ทางการใน วันท่ี 1 กรกฎาคม 2539 สิน้ สดุ การออกอากาศเวลา 24.00 น. คนื วันที่ 7 มีนาคม 2550 เปลี่ยน ช่ือเปน็ สถานโี ทรทัศน์ ทไี อทวี ี วันท่ี 8 มีนาคม 2550 เข้ามาอยู่ในสังกดั การดแู ลของ กรมประชาสัมพันธ ์ และเปลยี่ นชอ่ื อกี ครง้ั เปน็ สถานโี ทรทศั น์ ทวี ไี ทย และในวันท่ี 21 พฤษภาคม 2554 เริม่ ออกอากาศด้วยระบบ HDTV เป็นสถานแี รก วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 องค์การกระจายเสียงและแพรภ่ าพสาธารณะแห่ง ประเทศไทยได้ยา้ ยท่ีทำ�การจากที่ท�ำ การช่ัวคราวอาคารชินวัตรทาวเวอร์ 3 ถนนวภิ าวดรี ังสติ ไปยังท่ีท�ำ การถาวรแหง่ ใหม่ ข้างสโมสรตำ�รวจ ถนนวิภาวดีรังสติ ซึง่ ทำ�ให้ไทยพบี เี อส เริม่ ระบบการออกอากาศใหม่ดว้ ยระบบ HD สดั สว่ น 16:9 เป็นแหง่ แรกของฟรที วี ีของ ประเทศไทย

การออกอากาศ การแพรภ่ าพดว้ ยสถานสี ่งสัญญาณภาคพืน้ ดินไทยพีบีเอส ออกอากาศเสยี งด้วยระบบ Digital NICAM Stereo เป็นการจัดตงั้ สถานีเครื่องส่งสญั ญาณโทรทัศน์ในจงั หวัดหรืออ�ำ เภอ ต่างๆ เพ่อื ใหบ้ รกิ ารแก่ประชาชนอยา่ งทัว่ ถงึ โดยใชค้ ลื่นความถย่ี ูเอชเอฟ (UHF) ทางช่อง 29 และใช้มาตรฐานของ Video ระบบ PAL G ซงึ่ เปน็ ไปตามมาตรฐาน CCIR โดยชอ่ งสัญญาณ ย่านความถ่ี UHF สำ�หรับกิจการโทรทศั น์ในประเทศไทยไดจ้ ัดสรรไวท้ ี่ยา่ นความถี่ท่ี 4 ถงึ 5 ตั้งแตช่ ่องที่ 26 ถึง 60 หรือมคี วามถอ่ี ยรู่ ะหว่าง 510 ถึง 790 MHz. ระบบเสียงทส่ี ถานโี ทรทัศน์ไทยพีบีเอสส่งออกอากาศประกอบด้วย ระบบเสียง Mono และ Digital NICAM Stereo ไทยพีบเี อสมสี ถานีสง่ สญั ญาณภาคพื้นดนิ เปน็ จ�ำ นวน 52 สถานี แบ่งเปน็ ใน กรุงเทพมหานคร 2 สถานี ภาคเหนือ 14 สถานี ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื 13 สถานี ภาค กลางและตะวันออก 11 สถานี และภาคใต้ 12 สถานี โดยคลืน่ ความถีร่ ะบบยเู อชเอฟและ เครือ่ งส่งโทรทศั น์ ตัง้ แตว่ ันศกุ รท์ ี่ 25 มกราคม 2556 ไทยพบี ีเอส ได้เร่มิ ทดลองแพร่ภาพออกอากาศ ดว้ ยระบบดจิ ติ อลภาคพ้นื ดนิ (Digital TV) มาตรฐาน DVB-T2 โดยทดลองออกอากาศร่วม กบั สถานโี ทรทศั นก์ องทพั บกชอ่ ง 5 ซึ่งจะสามารถรับชมได้ในเขตกรงุ เทพและปริมณฑล โดย ผา่ นกลอ่ งรบั สญั ญาณหรือโทรทศั น์ท่ีรองรับการแพร่ภาพระบบดิจิตอลภาคพืน้ ดิน การแพรภ่ าพผ่านดาวเทียม ไทยพีบเี อสส่งสัญญาณแพรภ่ าพผ่านดาวเทียมไทยคม 5 ยา่ นความถี่ C-Band ใน ระบบ DVB-S หรือ Digital Video Broadcast - Satellite ซง่ึ เปน็ ระบบมาตรฐานส�ำ หรับ การสง่ สญั ญาณโทรทัศน์ผ่านดาวเทยี มในแบบดิจติ อล สญั ญาณดาวเทยี มนค้ี รอบคลมุ ประเทศไทยทง้ั ประเทศ เอเชยี ตะวนั ออกและตะวนั ออกเฉียงใต้ อดตี ไทยพีบเี อสเริม่ แพร่ภาพออกอากาศมาตงั้ แตว่ ันท่ี 15 มกราคม พ.ศ. 2551 ทาง ดาวเทยี มไทยคม 2 คลนื่ ความถ่ี 4145 Symbol Rate แนว H แตเ่ มอ่ื เดือนเมษายน พ.ศ. 2553 ไทยพบี ีเอสได้ย้ายสง่ สญั ญาณจากดาวเทียมไทยคม 2 มาเปน็ ไทยคม 5 ย่านความถ่ี C-Band มาพร้อมกับความถใี่ หม่ ที่ 3985 Symbol Rate 4815 แนว V และปจั จบุ นั ได้ย้าย ความถี่ C-Band เปน็ ความถ่ี 4017 Symbol Rate 1800 แนว V โดยความถ่เี ดมิ จะยกเลิก ในเดือนพฤศจิกายน 2555

ตงั้ แตว่ นั ที่ 21 พฤษภาคม 2554 ไทยพีบเี อสสง่ สญั ญาณโทรทัศนค์ วามละเอียดสงู (High Definition Television) ในระบบ DVB-S2 MPEG4 AVC ทางดาวเทยี มไทยคม 5 ยา่ น ความถี่ C-Band ที่ความถ่ี 4012 Symbol Rate 6400 แนว V ซ่ึงสถานอี อกอากาศระบบ ความคมชัดปกตคิ วบคกู่ นั ไปในความถี่เดิม ตราสัญลักษณ์ การเปล่ยี นแปลงตราสัญลกั ษณ์ชอ่ ง Thai PBS สถานีวิทยโุ ทรทัศน์เพ่ือการศึกษากระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ETV.) ในสว่ นของโทรทัศนเ์ พอ่ื การศกึ ษานั้นกระทรวงศึกษาธกิ าร ไดเ้ ร่มิ จัดรายการโทรทัศน์ เพอ่ื การศึกษามาตัง้ แต่ ปี พ.ศ.2500 ตอ่ มาในปีพ.ศ.2528 จึงสร้างศูนย์ผลติ รายการโทรทัศน์ ทีศ่ นู ยเ์ ทคโนโลยีทางการศกึ ษา ถนนศรอี ยธุ ยา เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยผลติ รายการสง่ ไป ออกอากาศทส่ี ถานโี ทรทัศนช์ อ่ ง 5 ช่อง7 ชอ่ ง 9 และชอ่ ง 11 ตอ่ มาเมื่อวันที่ 12 สงิ หาคม พ.ศ.2537 จึงไดเ้ ร่ิมออกอากาศทางสถานีวทิ ยุโทรทศั น์เพ่อื การศกึ ษากระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV.) ออกอากาศในระบบ DTH (Direct to Home)ในระบบ Ku-band มีชดุ อปุ กรณ์รบั สญั ญาณดาวเทียมที่ตดิ ต้ังไว้ทว่ั ประเทศประมาณ 20,000 จดุ และสามารถรับชมไดท้ างเครอื ขา่ ยสากล (Internet) ที่เว็บไซต์ www.etvthai.tv สามารถรับชมรายการยอ้ นหลังภายใน 2 สัปดาห์ แพร่ภาพออกอากาศวันละ 18 ชม. ตัง้ แต่เวลา 06.00 - 24.00 น. และจะมีการพฒั นาใหส้ ามารถรบั ชมรายการ จากเคร่ืองรับปกติทั่วไปไดเ้ หมอื นกับสถานี โทรทศั นช์ ่องตา่ งๆ 3, 5, 7,9, 11 และไทยทวี ี ซ่งึ จะเปน็ อกี ทางเลือกหนง่ึ ของประชาชนชาว ไทย

สถานีวทิ ยโุ ทรทศั นเ์ พือ่ การศึกษากระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ETV.) ในส่วนของโทรทศั นเ์ พอ่ื การศึกษาน้ันกระทรวงศึกษาธิการ ได้เริม่ จัดรายการโทรทัศน์ เพ่ือการศกึ ษามาตั้ง แต่ ปี พ.ศ.2500 ต่อมาในปีพ.ศ.2528 จงึ สร้างศนู ยผ์ ลติ รายการโทรทัศน์ ทศ่ี นู ยเ์ ทคโนโลยที างการศึกษา ถนนศรอี ยธุ ยา เขตราชเทวี กรงุ เทพฯ โดยผลิตรายการส่งไป ออกอากาศทสี่ ถานโี ทรทศั นช์ ่อง 5 ช่อง7 ชอ่ ง 9 และชอ่ ง 11 ต่อมาเมื่อวันท่ี 12 สิงหาคม พ.ศ.2537 จงึ ไดเ้ รมิ่ ออกอากาศทางสถานวี ิทยุโทรทศั น์เพ่อื การศึกษากระทรวงศกึ ษาธิการ (ETV.) ออกอากาศในระบบ DTH (Direct to Home)ในระบบ Ku-band มชี ดุ อุปกรณร์ ับ สญั ญาณดาวเทียมทีต่ ิดตง้ั ไว้ทว่ั ประเทศประมาณ 20,000 จดุ และสามารถรบั ชมได้ทางเครอื ข่ายสากล (Internet) ท่ีเว็บไซต์ www.etvthai.tv สามารถรบั ชมรายการย้อนหลงั ภายใน 2 สปั ดาห์ แพรภ่ าพออกอากาศวันละ 18 ชม. ต้ังแตเ่ วลา 06.00 - 24.00 น. และจะมกี ารพัฒนาให้สามารถรับชมรายการ จากเครอ่ื งรับปกตทิ ่ัวไปไดเ้ หมอื นกับสถานี โทรทศั น์ชอ่ งตา่ งๆ 3, 5, 7,9, 11 และไทยทวี ี ซง่ึ จะเปน็ อีกทางเลือกหนึ่งของประชาชนชาว ไทย ตราสญั ลกั ษณ์ ปจั จุบัน ยา่ นความถท่ี ีเ่ ก่ียวขอ้ งกับกจิ การวทิ ยุโทรทศั น์ 3000 - 30000 MHz. Microwave 300 - 3000 MHz. UHF 606-890 MHz Band 5 TV Ch. 38-69 470-582 MHz. Band 4 TV Ch. 21-37 30 – 300 MHz. VHF 174-230 MHz Band 3 TV Ch. 5-12 (VH) 87.5-108 MHz Band 2 FM 41-68 MHz. Band 1 TV Ch. 2-4 (VL)

ระบบการสง่ สญั ญาณโทรทัศน์ ระบบการสง่ สัญญาณโทรทัศน์มอี ยู่ดว้ ยกัน 4 ระบบไดแ้ ก่ 1. NTSC เป็นระบบโทรทศั นส์ รี ะบบแรกท่ใี ช้งานในประเทศสหรฐั อเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ.1953 ประเทศทใี่ ช้ระบบน้ตี ่อ ๆ มาได้แก่ ญ่ีปุน่ แคนาดา เปอเตอรโิ ก้ และเมก็ ซโิ ก เปน็ ต้น ข้อดี สามารถมองเห็นภาพได้ 30 ภาพ/วนิ าที ทำ�ให้การส่นั ไหวของภาพลดน้อยลง ขอ้ เสยี ส่วนขอ้ เสยี นนั้ เกิดจากการท่ีเส้นสแกนภาพมจี ำ�นวนนอ้ ย หากใช้จอภาพเคร่ืองรับ โทรทศั น์ทีม่ ีขนาดใหญร่ ับภาพจะทำ�ให้รายละเอยี ดภาพมนี ้อย ดงั นัน้ ภาพจึงขาดความคม ชดั และถ้าใช้เคร่ืองรับโทรทศั น์ขาว-ดำ� สัญญาณสที ่ีความถี่ 3.58 MHz จะเกิดการรบกวน สัญญาณขาว-ดำ� ท�ำ ให้เกดิ ความผดิ เพี้ยนของสี

2. PAL เปน็ ระบบโทรทัศน์ที่พัฒนามาจากระบบ NTSC ท�ำ ใหม้ กี ารเพ้ียนของสนี อ้ ยลง เรมิ่ ใช้งานมาตงั้ แต่ปี ค.ศ.1967 ในประเทศทางแถบยโุ รป คือ เยอรมนั ตะวันตก อังกฤษ ออสเตรเลยี เบลเยีย่ ม บราซลิ เดนมาร์ก นอร์เวย์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ และมหี ลาย ประเทศในแถบเอเซยี ที่ใชก้ นั คอื สงิ คโปร์ มาเลเซยี รวมไปถึงประเทศไทยกใ็ ชร้ ะบบน้ี ขอ้ ดี เปน็ ระบบท่ใี หร้ ายละเอียดของภาพสงู ไม่มคี วามผิดเพีย้ นของสี ภาพท่ไี ดเ้ ปน็ ธรรมชาติ ความเขม้ ของภาพสูง (High Contrast) ข้อเสยี ขอ้ เสียคอื ภาพท่ีมองเหน็ มีความส่ันไหวมากกวา่ ระบบ NTSC เนื่องจากภาพทม่ี องเห็น 25 ภาพ/วินาที 3. SECAM

เป็นระบบโทรทัศนอ์ ีกระบบหนึ่งคดิ คน้ ขึน้ โดย Dr.Henry D.France เร่มิ ใชม้ าตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1967 นยิ มใช้กนั อยู่หลายประเทศแถบยโุ รปตะวนั ออก ได้แก่ ฝรัง่ เศส อลั จเี รยี เยอรมันตะวัน ออก ฮังการี ตูนเี ซีย รมู าเนยี และรัสเซยี * เปน็ ต้น *ระบบ SECAM ทร่ี ัสเซยี ใชม้ ี 625 เส้น ข้อดี เป็นระบบที่ไม่มีความผดิ เพย้ี นของสี รายละเอียดของภาพมีคุณภาพสูงเทียบเท่ากัน ระบบ PAL ข้อเสีย ข้อเสีย ภาพจะมกี ารส่ันไหวเหมอื นระบบ PAL เกิดมสี รี บกวนในขณะรับชมรายการได้ ระบบโทรทศั นส์ ีท่ใี ช้งานทวั่ โลก ในระบบแอนาล็อกยังมีการแบง่ ยอ่ ยจากระบบใหญๆ่ ทั้ง 3 ระบบดงั กล่าว ทัง้ นเ้ี พ่ือความเหมาะสมของกระแสไฟฟ้าทีแ่ ตล่ ะประเทศใช้งาน และ ความเหมาะสม กับประเทศทใ่ี ชง้ านกำ�หนดโดยสหภาพวิทยโุ ทรคมนาคม (ITU) เชน่ กระแส ไฟฟา้ 60 Hz จะใชร้ ะบบสญั ญาณโทรทศั นส์ ี Field frequency 60 Hz และกระแสไฟฟา้ 50 Hz จะใช้ระบบสัญญาณโทรทศั นส์ ี Field frequency 50 Hz ทงั้ นี้กเ็ พ่อื ปอ้ งกันความถ่ีของ กระแสไฟฟ้าที่ใช้รบกวนสัญญาณภาพ ระบบสญั ญาณโทรทัศน์สที ่ีใชง้ านอยใู่ นปัจจุบนั มคี ณุ ภาพสัญญาณทด่ี ไี มพ่ บข้อเสยี ดังน้ันในการพจิ ารณาใช้งานระบบใดระบบหนึ่งก็อาจมีสาเหตุ มาจากเหตุผลอนื่ ๆ เช่น เหตุผล ทางด้านเศรษฐกิจการลงทุนในการผลติ และการใชเ้ คร่ืองรบั โทรทศั น์เป็นจ�ำ นวนมากแล้วถ้า หากจะเปลย่ี นระบบอาจต้องลงทนุ สงู เหตผุ ลทางดา้ นการเมอื ง อาจได้รบั การสนบั สนุนจาก ประเทศมหาอ�ำ นาจใหใ้ ช้ระบบใดระบบหน่ึง

1. HDTV (High-definition television) โทรทศั นค์ วามละเอียดสูง เปน็ การถ่ายทอดสญั ญาณโทรทัศน์ทมี่ คี วามละเอยี ดของ ภาพมากกวา่ สญั ญาณโทรทัศน์แบบดงั้ เดิม (NTSC, SÉCAM, PAL) สัญญาณจะถูกแพร่ภาพ ในระบบโทรทศั น์ระบบดจิ ทิ ัล การถา่ ยทอดสญั ญาณภาพ HD เกิดขึน้ ครั้งแรกของโลกในช่วง ปี ค.ศ.1980 สถานีโทรทศั นท์ ีอ่ อกอากาศระบบ HD แห่งแรกของโลกคือสถานโี ทรทศั น์ NBC ของสหรัฐอเมรกิ า จากนน้ั เรม่ิ แพร่หลายไปใน ยุโรป ช่วงยุคปี ค.ศ.1992 ในปจั จุบนั ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2550 เป็นต้นมามีขอ้ บงั คับอยูว่ ่า โทรทศั น์ท่ีถกู ผลติ หลังจากนเ้ี ปน็ ต้นไปจะตอ้ งมตี ัวรบั สัญญาณแบบ HDTV อย่ใู นตวั ด้วย และ สัดส่วนเป็น 16:9 ท้งั หมด ประเทศไทยกบั ระบบเอชดเี ริ่มทดลองเปน็ ครัง้ แรกมาตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2550 โดย ทรู วชิ ่ันส์ และเปิดใหบ้ รกิ ารอยา่ งเป็นทางการในปี พ.ศ. 2553 ไทยเปน็ ประเทศที่สามของเอเชยี ตะวนั ออกเฉยี งใต้ทเ่ี ริ่มออกอากาศโทรทัศนผ์ า่ นดาวเทียมแบบเอชดี ส�ำ หรับโทรทัศนภ์ าคพนื้ ดนิ นน้ั ยงั ไมม่ กี ารออกอากาศระบบเอชดี เพราะต้องรอ กสทช. อนุญาตในการส่งสัญญาณ โทรทศั น์ระบบดจิ ิทัลเสยี ก่อน ทรวู ชิ น่ั ส์ ได้ออกอากาศด้วยระบบ HD อย่างเป็นทางการเม่อื 12 เมษายน พ.ศ. 2553 ในระบบดาวเทยี ม เครือขา่ ยไทยคม 5 ระบบ Ku-Band ดว้ ยเทคโนโลยี โทรทัศน์ ระบบดจิ ทิ ลั DVB-S2 แบบ MPEG-2/HD และในระบบเคเบิลทีวรี ะบบดิจิทลั DVB-C2 โดย เริม่ แรกท่ีเปดิ ให้บริการมี 3 ชอ่ ง HD คือ True Sport HD, HBO HD และ True Reality HD และในปชี ว่ งกลางปี พ.ศ. 2554 ได้เพมิ่ ช่อง HD อีกจำ�นวน 8 ชอ่ ง คือ True Sport HD2, National Geographic Channel HD, Discovery HD World, Star Movies HD, Fox Family Movies HD, AXN HD, KMTV HD และ I Concerts HD โดยผูร้ ับตอ้ งเปลี่ยน อปุ กรณใ์ หม่ท่ีรองรบั ระบบ HD ทรบี รอดแบนด์ ผู้ใหบ้ ริการเครือขา่ ยอินเทอร์เนต็ ความเร็วสงู มบี รกิ าร 3BB HDTV แบบบอกรบั เป็นสมาชกิ บนเครือข่ายอนิ เทอร์เนต็ ความเรว็ สูงแก่ลกู คา้ โดยสามารถตอ่ อุปกรณ์ Set Top Box เขา้ กบั เครื่องรบั โทรทศั นท์ ่ีรองรบั เพือ่ รบั ชมรายการต่างๆ ซึง่ ถือเปน็ HDTV ด้วยเทคโนโลยี โทรทัศนร์ ะบบดิจิทลั ไอพีทีวี

สรปุ สญั ญาณโทรทศั น์สใี นระบบตา่ งๆทใ่ี ช้กันอยทู่ ุกวนั นมี้ หี ลกั การออกแบบคล้ายกัน คือ การส่งโทรทศั น์สจี ะต้องท�ำ ให้เครอื่ งรบั โทรทัศนข์ าว-ดำ�และเครือ่ งรบั โทรทัศนส์ รี บั สญั ญาณ ได้ โดยสญั ญาณที่ส่งออกอากาศจะตอ้ งเปน็ สญั ญาณเดยี วกัน สว่ นคุณภาพของภาพโทรทัศน์ นั้นขน้ึ อยูก่ ับขอ้ จ�ำ กดั ทางเทคนคิ การก�ำ หนดภาพทเี่ หมาะสมมี 2 ระบบหลักคือ 25 ภาพ/ วนิ าที และ 30 ภาพ/วินาที สญั ญาณโทรทศั นส์ ีในระบบแอนาลอ็ กนจี้ ะถกู เปล่ียนเข้ารหสั เป็น ระบบดจิ ิทลั กอ่ นทีจ่ ะสง่ เปน็ สัญญาณโทรทศั นร์ ะบบดิจทิ ลั
























Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook