ประเพณี ประเพณีแห่หลวงพอ่ พทุ ธโสธร จะจัดในวันขึ้น 12 ค่ำ เดือน 12 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี สำหรับในวัน ขึ ้ น 12 ค่ ำ เ ด ื อ น 12 ม ี ก า ร อ ัญเ ชิญ หลวงพ ่อ พ ุท ธโส ธรแ ห่ ท าง บกแ ละ ใน วั น ขึ ้ น 14 - 15 ค่ำ เดอื น 12 จะมีการแห่ทางน้ำลอ่ งไปตามลำนำ้ บางปะกง เพอ่ื ใหป้ ระชาชนได้นมัสการองค์หลวงพ่อ พุทธโสธร สำหรับในงานจะมกี ารละเล่นมหรสพ อาทิ การแขง่ เรือฝีพาย การแขง่ เรือเรว็ เปน็ งานสกั การะพระยาศรีสนุ ทรโวหาร พระยาศรสี ุนทรโวหาร (นอ้ ย อาจารยางกรู ) เปน็ คนตำบลโสธร อำเภอเมอื งฉะเชิงเทรา จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา เป็น ปราชญท์ างภาษาไทย ผแู้ ตง่ แบบเรยี นภาษาไทยเล่มแรก เคยเป็นครสู อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว ซึ่งถือ ได้ว่าเป็นปชู นียบุคคลที่สำคัญของเมืองแปดริ้วที่ได้ถึงแก่อนจิ กรรมไปแล้ว และควรจะได้มีการสักการะเพื่อรำลึกถงึ คณุ งาม ความดีท่ไี ดส้ ร้างไว้ ซ่งึ จะจดั ในวันท่ี 5 กรกฎาคม ของทกุ ปี ในวนั งานจะมีการทำบุญและพิธีสักการะทีบ่ ริเวณหน้าอนุสาวรีย์ พระยาศรสี ุนทรโวหาร การจัดนิทรรศการและกิจกรรมตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งดา้ นภาษาไทย
ประเพณีแห่ธงตะขาบ เป็นวัฒนธรรมของชาวรามัญที่เข้าตั้งรกรากอยู่บริเวณวัดพิมพาวาส อำเภอบางปะกง ประเพณี ดังกล่าวจดั ขนึ้ ในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ เป็นการสบื สานงานหตั ถกรรมอันแสดงถึงความละเอียดอ่อนและ เป็นเอกลกั ษณข์ องชาวรามญั คอื การทำธงกระดาษ ผู้ท่จี ะทำธงกระดาษได้จะต้องเป็นผูท้ ี่มีความรู้และสืบ ทอดการทำธงตะขาบมาจากบรรพบุรษุ มเิ ชน่ นน้ั ก็จะไมส่ ามารถทำธงตะขาบไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งตามประเพณี ใน วนั พธิ ีแหธ่ งตะขาบ แตล่ ะบา้ นจะจดั เตรยี มธงเพ่อื นำไปถวายวัด โดยจะถวายครั้งละ 2 - 3 ตัว ลักษณะของ ธงตะขาบ คือ ตะขาบ 1 ตัว จะมีราวนม 9 ราวนาม นมละ 14 ช่วง นมนี้มีลักษณะเป็นนมคู่ หาก เป็นตะขาบตัวเทมียจะมีปากเพียงปากเดียว ส่วนตัวผู้ต้องมี 2 ปาก เมื่อทำเสร็จผ้ทำจะนำ แป้ง หวี กระจก ผม 1 ปอย และผ้าเช็ดหนา้ แขวนไว้ที่ปากตะขาบ การแห่นยิ มแห่ทางบกมากกว่าทาง เรือ เมื่อถึงวัดชาวบ้านจะนำธงตะขาบไปผูกไว้กับต้นเสาในศาลาวัดเพื่อทำพิธี เมื่อถึงเวลาพระสงฆ์จะนำ สายสญิ จน์มาวงรอบธง จากนน้ั พิธีถวายธงจะเริม่ ขนึ้ ด้วยการกลา่ วบทนมัสการคุณพระศรรี ตั นตรัย ตามด้วย การสรงนำ้ พระพทุ ธรปู และพระสฆ์ เสรจ็ แลว้ ชาวบ้านจะนำธงตะขาบขึ้นไปไวบ้ นหงส์ เช่ือกันวาทุกครั้งที่ธง ตะขาบจะนำธงตะขาบไปไว้บนเสาหงส์ เชื่อกันว่าทุกครั้งที่ธงตะขาบส่ายเพราะแรงบม จะทำให้บรรุณาท่ ลว่ งลบั ไปแล้วไดข้ ส้ึ วรรค์ (จัดงาน 12 - 14 เมษายน ของทุกปี) ประเพณตี กั บาตรนำ้ ผง้ึ เป็นประเพณีถวายน้ำผึง้ แก่พระสงฆ์และสามเณรของชาวรามัญที่วัดพิมพาวาส (ใต้) อำเภอบางปะกง จะจัดงาน กลางเดอื น 9 ของทกุ ปี มูลเหตขุ องการถวายน้ำผ้ึงสืบเนื่องจากสมัยพุทธกาลซ่ึงพระพุทธเจ้าอนยุ าตให้พระภิกษุสามเณรรับ น้ำผึง้ และนำ้ อ้อยเป็นยาได้ ชาวรามัญทอี่ าศัยอยใู่ นตำบลพิมพา อำเภอบางปะกง จะทำการตกั บาตรน้ำผึง้ ทศ่ี าลาวดั ในขณะ ทพี่ ระสงฆเ์ จริญพระพทุ ธมนต์ โดยชาวบ้านจะนำน้ำผง้ึ มาใสบ่ าตรและใสน่ ้ำตาลในจานทว่ี างคู่กับบาตร สว่ นอาหารคาวหวาน นำไปใส่ภาชนะที่วางไว้อีกด้านหนึ่งของศาลา อาหารพิเศษที่นำมาใส่บาตรนอเหนือไปจากน้ำผึ้งและน้ำตาลแล้ว มักจะมี ขา้ วตม้ มัดสำหรบั พระจ้มิ นำ้ ผึ้งฉนั ดว้ ย
บวงสรวงเจา้ พอ่ เขากา มีการจัดงาน 2 วัน ในวันแรกจะมีการแข่งขันเผาข้าวหลามบริเวณหน้าศาลเจ้าพ่อเขากา ซึ่ง ชาวบา้ นจะเขา้ รว่ มแขง่ กนั เป็นจำนวนมาก กลางคนื จะมมี หรสพสมโภชตลอดคืน วันท่สี อง ทำพธิ ีบวงสรวง เจ้าพ่อเขากา ซึ่งตรงกับวันจขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 โดยเริ่มพิธีบวงสรวงแต่เช้ามืด เครื่อบวงสรวง ประกอบดว้ ย หวั หมู ไก่ พธิ บี วงสรวงอ่ืน ๆ โดท้วั ไป แต่ส่งิ ที่เพมิ่ เตมิ ในพิธี คอื ข้าวหลาม ยาเสน้ เหล้า ป่า เพราะเชื่อว่าเจ้าพอ่ ชื่นชอบมาก ต่อจากพิธีบวงสรวงจะเป็นพิธีสงฆ์ และในวันดังกล่าวจะมีผู้ที่เคารพ ศรัทธาเจา้ พ่อเขากาจากทั่วทุกสารทิสนำขา้ วหลามมาถวายเป็นจำนวนมาก และในวนั น้ีถ้าใครมาจะได้กินข้าว หลามอยา่ งอ่มิ หนำสำราญใจ งานวนั มะม่วง งานเพื่อแสดงถึงของดีมีคุณภาพของเมืองแปดริ้วให้เป็นที่รู้จักแก่ตลาดโดยทั่วไป และเป็นเวที แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางการเกษตรแก่เจา้ หน้าท่ีการเกษตรและเกษตรกร รวมถึงผู้ที่สนใจแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆมากมายที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าชมงาน ให้ได้เลือกชม ช็อป ชิม อาทิเช่น การ ประกวดผลผลิตทางการเกษตร นทิ รรศการการผลติ มะม่วง การประกวดข้าวเหนียวมนู การแข่งขันตำ ส้มตำมะม่วง การแขง่ ขนั กินไอศกรีมมะมว่ ง,มะม่วงดบิ ,มะมว่ งสกุ +ขา้ วเหนียวมนู การประกวดหนูน้อยงานวัน มะม่วง การประกวดร้อง เพลงประเภทเยาวชนและประชาชนทั่วไป ผู้ที่สนใจสามารถชมการแสดงบน เวที ในช่วงเย็นของทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 - 21.00 น. และที่พลาดไม่ได้สำหรับการจัดงานในครั้ง น้ี น่นั คอื การออกร้านจำหนา่ ยผลผลิตทางการเกษตรและของดขี ึน้ ช่อื ของเมอื งแปดริ้ว อาทิ มะม่วง คณุ ภาพจากสวนเกษตร ผลติ ภันฑข์ องวสิ าหกจิ ชมุ ชน พันธไุ์ มผ้ ล ไม้ดอกไม้ประดบั ใหผ้ ู้เข้าร่วมงานได้ เลือกซอี้ เลือกชมิ กนั อย่างจุใจ
ประเพณขี ้ึนเขาเผาข้าวหลาม ประเพณขี ึ้นเขาเผาขา้ วหลามของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา เปน็ ประเพณที ส่ี บื ทอดมาจากบรรพบุรษุ ซงึ่ อพยพมาจากเวียงจันทร์ สมัยพระบาทสมเดจ็ พระนัง่ เกล้าเจา้ อยู่หวั (รัชกาลท่ี 3) ซงึ่ เรยี กตวั เอง วา่ “ชาวลาวเวยี ง” ปัจจบุ ันตงั้ ถิ่นฐานอยูใ่ นเขต อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา “บุญข้าวหลาม” เปน็ ประเพณี การทำบญุ ถวายข้าวหลาม ขนมจนี น้ำยาปา่ แดพ่ ระภิกษุสงฆ์ วัดหนองบัว วัดหนองแหน ซึง่ อยใู่ นเขต อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชงิ เทรา ประเพณีนี้มีในวนั ขึ้น 15 คำ่ เดือน 3ของทกุ ปี เหตุทถี่ วายขา้ วหลามน้นั อาจเปน็ เพราะเดอื น 3 เปน็ ฤดกู าลเก็บเกี่ยวข้าว ชาวบ้านสว่ นใหญ่ประกอบอาชีพทำนา จึงนำข้าวอนั เปน็ พืชหลกั ของตนทไี่ ดจ้ ากการเก็บเกี่ยวครง้ั แรก ซึง่ เรียกวา่ ขา้ วใหม่ จะมีกล่ินหอมนา่ รบั ประทานมาก นำมาทำเป็น อาหาร โดยใชไ้ ม้ไผ่สสี กุ เป็นวสั ดปุ ระกอบในการเผา เพ่ือทำใหข้ ้าวสกุ เรยี กว่า “ขา้ วหลาม” เพ่อื นำไปถวาย พระภิกษุ การเผาขา้ วหลาม ชาวบา้ นจะเริ่มเผาในวนั ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 3 โดยชาวบา้ นจะออกไปหาไม้ไผ่ ซงึ่ มีอย่มู ากในหมบู่ ้านมาทำกระบอกขา้ วหลามซง่ึ จะต้องเลอื กลำไผท่ ่ไี มแ่ กห่ รือออ่ นมากเกินไป ไม่มีตามด เพราะ ตามดจะทำใหม้ กี ล่ินเหมน็ และไมม่ เี ยอ่ื ทำให้ขา้ วตดิ กระบอก ความยาวของปล้องไมไ้ ผ่ หา่ งพอควรยาว ประมาณ 18 น้วิ นำไม้ไผ่ทั้งลำมาตัด หรือเลอื่ ยเป็นทอ่ น ๆ โดยมขี อ้ ตอ่ ที่ก้นกระบอกจากนัน้ นำ “ข้าวเหนียว”ท่ีมกี ะทผิ สมเรียบรอ้ ยแลว้ ใสก่ ระบอกนำไปเผาไฟทล่ี านบ้าน โดยขุดดนิ เป็น รางตืน้ ๆ เปน็ ทีต่ ง้ั กระบอกขา้ วหลาม รอบๆ แถวข้าวหลามก่อกองไฟขนานไปกับข้าวหลาม บางบา้ นใช้ ตน้ ไมท้ ี่ตายแลว้ ท้งั ต้นมาเป็นเช้ือเพลิง เช้าวนั ขึ้น 15 ค่ำ เดอื น 3 ชาวบา้ นจะนำข้าวหลามขนมจนี ไปทำบญุ ที่ วดั การทำบญุ ข้าวหลามของชาว“ลาวเวียง”ยงั คงทำกันตาม ประเพณีดั้งเดิมและผสมผสานกบั ประเพณีไทยกค็ อื การปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลองทว่ี ัดเขาดงยาง (วัดสวุ รรณคีร)ี เขต ต.หนองแหน อ.พนม สารคาม จ.ฉะเชงิ เทรา กลางเดือน 3 ชาวบ้าน “ลาวเวียง” ซง่ึ อยูห่ า่ งจากวดั ดงยาง ประมาณ 4 – 6 กโิ ลเมตร ตอ้ งเดินทางด้วย เท้าไปปดิ ทอง โดยใชเ้ ส้นทางผ่านบ้านหัวสำโรง ต.หัวสำโรง อ.แปลงยาว ซง่ึ มชี าวไทยเชือ้ สายเขมร ตั้ง บา้ นเรอื นอยู่เป็นจำนวนมาก ประเพณบี ญุ ขา้ วหลามจงึ แพรห่ ลายสบู่ ้านหัวสำโรง และรบั เป็นประเพณีของชน กลุ่มตน เป็นประเพณี “ขนึ้ เขาเผาข้าวหลาม” ของชาวชุมชนหัวสำโรง ต.หวั สำโรง อ.แปลงยาว จ. ฉะเชิงเทรามาจนถึงทกุ วนั นี้
Search
Read the Text Version
- 1 - 5
Pages: