Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาส่สวิสเซอร์แลนด

เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาส่สวิสเซอร์แลนด

Description: เมื่อข้าพเจ้าจากสยามมาส่สวิสเซอร์แลนด

Search

Read the Text Version

เมอ่ื ข้าพเจ้าจากสยามมาสู่สวสิ เซอร์แลนด์ เรียบเรียงโดย อาจารยส์ ุภกญั ญา ชวนิชย์ รายการหนงั สือส่ือความรู้ ช่วงหนงั สือชวนคุย ออกอากาศทางสถานีวทิ ยุ FM ๙๗.๗๕ Mhz. “คลื่นสีขาวของชาวพทุ ธ” คร้ังท่ี ๑๙ พระราชนิพนธเ์ รื่องแรก “เม่ือขา้ พเจา้ จากสยามมาสู่ “วงวรรณคดี” ไดข้ อร้องใหข้ า้ พเจา้ เขียนเรื่อง สวสิ เซอร์แลนด”์ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระ เลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ท่ีถนดั มาลงในหนงั สือน้ีนานมาแลว้ อนั ที่ จริงขา้ พเจา้ กไ็ มใ่ ช่นกั ประพนั ธ์ เมื่ออยโู่ รงเรียน เจา้ อยหู่ วั ภูมิพลอดุลยเดช พระราชนิพนธ์เร่ืองน้ีได้ เรียงความและแต่งเร่ืองกท็ าํ ไม่ไดด้ ีนกั อยา่ งไรกด็ ีขา้ พเจา้ ตีพิมพค์ ร้ังแรกในหนงั สือรายเดือน วงวรรณคดี ฉบบั กป็ รารถนาที่จะสนองความตอ้ งการของ “วงวรรณคดี” ประจาํ เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๐ เป็นตอนแรก โดยพระ อยบู่ า้ ง และเน่ืองดว้ ยไมส่ ามารถท่ีจะเขียนเร่ืองท่ีขา้ พเจา้ บรมราชานุญาติพิเศษเฉพาะหนงั สือเล่มน้ีเท่าน้นั ในขณะ รู้บา้ งเช่นดนตรี ศิลปะ วิทยาศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ หรือ น้นั ถือไดว้ า่ หนงั สือวงวรรณคดี จดั วา่ เป็นหนงั สือท่ีดีและ กฎหมาย ฯลฯ ได้ เพราะไมม่ ีความรู้ในเร่ืองเหล่าน้ีดีพอ ฉะน้นั จึงตกลงใจส่งบนั ทึกประจาํ วนั ที่เขียนไวก้ ่อน และ มีเน้ือหาสาระที่มีคุณค่าอยา่ งมาก ระหวา่ งวนั เดินทางจากสยามมาสู่สวิสเซอร์แลนดม์ าให้ พระราชนิพนธ์ “เม่ือขา้ พเจา้ จากสยามสู่สวิส และในโอกาสน้ีจึงขอขอบใจเป็นการส่วนตวั ต่อทุก ๆ แลนด”์ เป็นบนั ทึกของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ที่ คน ที่มาถวายความจงรักภกั ดีต่อสมเดจ็ พระบรมเชษฐาธิ ไดพ้ ระราชนิพนธ์ข้ึนในช่วงเวลาเสดจ็ พระราชดาํ เนิน ราชของขา้ พเจา้ ณ พระมหาปราสาท ตลอดจนความ เพื่อกลบั ไปศึกษาต่อที่ประเทศสวติ เซอร์แลนดอ์ ีกคร้ัง ปรารถนาดีที่มีต่อตวั ขา้ พเจา้ เอง กบั ขอขอบใจเหลา่ ทหาร เม่ือวนั ท่ี ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๙หลงั จากที่พระองค์ และเจา้ หนา้ ที่ผปู้ ฏิบตั ิการดว้ ยความจงรักภกั ดีต่อเราดว้ ย ท่านทรงเสดจ็ ข้ึนครองราชยเ์ ป็นพระมหากษตั ริยล์ าํ ดบั ที่ ๙ ในราชวงศจ์ กั รี เมื่อวนั ที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙ โดย วนั ท่ี ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ อีกสามวนั พระองคไ์ ดท้ รงบนั ทึกแสดงถึงความรู้สึกตลอดถึง เท่าน้นั เรากต็ อ้ งจากกนั ไปแลว้ ฉะน้นั จึงต้งั ใจจะไป เหตุการณ์ท่ีทรงไดป้ ระสบพบเจอผา่ นพระอกั ษรเป็น นมสั การพระพทุ ธชินสีห์ ที่วดั บวรนิเวศน์วหิ าร รวมท้งั เร่ืองราวของการเดินทาง สมเดจ็ พระสงั ฆราชดว้ ย เมื่อไปถึงวดั บวรนิเวศนว์ ิหาร เมื่อขา้ พเจา้ จากสยามมาสู่สวิสเซอร์แลนด์ ตอนบ่ายวนั น้ี มีประชาชนผรู้ ู้วา่ ขา้ พเจา้ จะมายืนรออยู่ พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ฯ บา้ ง แต่ไม่สูม้ ากนกั เขา้ ไปในพระอุโบสถ จุดเทียน นมสั การ ฯลฯ แลว้ ไดม้ ีโอกาสทลู ปฏิสันถารกบั สมเดจ็ พระราชนิพนธข์ องพระบาทสมเดจ็ พระ พระสงั ฆราช ทรงนาํ พระสงฆท์ ่ีมีสมณศกั ด์ิสูงมาใหร้ ู้จกั เจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลมหาราช พระราชทานแก่หนงั สือ “วง โดยปรกติไดเ้ ห็นหนา้ ท่านเหล่าน้ีมาจนชินแลว้ ทรงนาํ วรรณคดี” ฉบบั เดือนสิงหาคม ๒๔๙๐ ข้ึนไปนมสั การพระสถปู บนน้นั มีพระพทุ ธรูปสาํ คญั องค์ ปีท่ี 5 ฉบับท่ี 2 ประจำ� เดือน พฤษภาคม-สิงหาคม 2558 วารสารวิชาการมหาวิทยาลยั อสี เทริ น์ เอเชีย ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ 343

หน่ึงประดิษฐานอยู่ ช่ือพระไพรีพินาศ พระองคน์ ้ีเคยทรง วนั ที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ วนั น้ีถึงวนั ท่ีเรา เล่าประวตั ิใหฟ้ ังก่อนหนา้ น้ีแลว้ หลายวนั หลงั จากน้นั กม็ ี จะตอ้ งจากไปแลว้ พอถึงเวลาท่ีลงจากพระที่นงั่ พร้อมกบั การนมสั การ แม่ ลาเจา้ นายฝ่ ายใน ณ พระที่นง่ั ช้นั ลา่ งน้นั แลว้ กไ็ ปยงั วดั พระแกว้ เพื่อนมสั การลาพระแกว้ มรกต และพระภิกษุ ตอนน้ีมีราษฎรชุมนุมกนั หนาข้ึน ต่างกย็ ดั เยียด สงฆ์ ลาเจา้ นายฝ่ ายหนา้ ลาขา้ ราชการท้งั ไทยและฝรั่ง เบียดเสียดกนั จนรู้สึกเกรงไปวา่ รถท่ีนงั่ มาจะทบั เอาใคร แลว้ กข็ ้ึนรถยนต์ พอรถแลน่ ออกไปไดถ้ ึง ๒๐๐ เมตร มี เขา้ บา้ ง ช่างเคราะหด์ ีแท้ ๆ ท่ีไมม่ ีอนั ตรายใดเกิดข้ึนแก่ หญิงคนหน่ึงเขา้ มาหา หยดุ รถแลว้ ส่งกระป๋ องใหเ้ ราคน ประชาชนที่มาน้นั เลย ในหมปู่ ระชาชนที่มารอรับกนั อยู่ ละใบ ราชองครักษไ์ ม่แน่ใจวา่ มีอะไรอยใู่ นน้นั บางทีจะ วนั น้ี จาํ ไดว้ า่ บางคนเคยเห็นที่พระมหาปราสาทเป็น เป็นลกู ระเบิด เม่ือมาเปิ ดดูภายหลงั ปรากฏวา่ เป็นทอฟฟ่ี ท่ี ประจาํ มิไดข้ าด ไม่รู้วา่ หาเวลาจากไหนจึงไปท่ีพระมหา อร่อยมาก ตามถนนผคู้ นช่างมากมายเสียจริง ๆ ท่ีถนน ปราสาทไดเ้ สมอเกือบทุกวนั องั คาร พฤหสั บดี และวนั ราชดาํ เนินกลางราษฎรเขา้ มาใกลช้ ิดรถท่ีเรานง่ั กลวั อาทิตย์ พวกน้ีกม็ าที่วดั ดว้ ยเหมือนกนั เหลือเกินวา่ ลอ้ รถของเราจะไปทบั แขง้ ขาใครเขา้ บา้ ง รถ แลน่ ฝ่ าฝงู คนไปไดอ้ ยา่ งชา้ ท่ีสุดถึงวดั เบญจมบพิตร รถ วนั ท่ี ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ เกบ็ ของลงหีบ แลน่ เร็วข้ึนไดบ้ า้ ง ตามทางที่ผา่ นมา ไดย้ นิ เสียงใครคน แลว้ เตรียมตวั หน่ึงข้ึนมาดงั ๆ วา่ “อยา่ ทิ้งประชาชน” อยากจะร้องออก บอกเขาลงไปวา่ ถา้ ประชาชนไม่ “ทิ้ง” ขา้ พเจา้ แลว้ วนั ที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ เราจะตอ้ งจาก ขา้ พเจา้ จะ “ละทิ้ง” อยา่ งไรได้ แต่รถวิง่ เร็วและเลยไป ไปในวนั พรุ่งน้ีแลว้ อะไรกจ็ ดั เสร็จหมด ไกลเสียแลว้ หมายกาํ หนดการกม็ ีอยพู่ ร้อม บ่ายวนั น้ีเราไปถวายบงั คม พระบรมอฐั ิของพระบรมราชบุพการีของเรา ท้งั สมเดจ็ เมื่อมาถึงดอนเมือง เห็นนิสิตมหาวิทยาลยั ผจู้ ง พระมหากษตั ริย์ และสมเดจ็ พระบรมราชินีในรัชกาล ใจมาเพื่อส่งเราใหถ้ ึงท่ีไดร้ ับของที่ระลึกเป็นรูป ก่อน ๆ แลว้ กไ็ ปถวายบงั คมทูลลาพระบรมศพ เราตอ้ ง เครื่องหมายของมหาวิทยาลยั ๑๑.๔๕ นาฬิกาแลว้ มีเวลา ทลู ลาใหเ้ สร็จในวนั น้ี และไม่ใช่พรุ่งน้ีตามที่ไดก้ ะไวแ้ ต่ เหลืออีกเลก็ นอ้ ยสาํ หรับเปลี่ยนเคร่ืองแต่งตวั ที่สโมสร เดิม เพื่อจะรีบไม่ใหช้ กั ชา้ เพราะพรุ่งน้ีจะไดม้ ีเวลาแลน่ นายทหาร ต่อจากน้นั กไ็ ปข้ึนเครื่องบิน เดินผา่ ฝงู ชนคน รถชา้ ๆ ใหร้ าษฎรเห็นหนา้ กนั โดยทวั่ ถึง ซ่ึงเฝ้ าดูเราอยจู่ นวาระสุดทา้ ย เม่ือออกจากพระที่นง่ั ไพศาลทกั ษิณมายงั พระที่ เมื่อข้ึนมาอยบู่ นเครื่องบินแลว้ กย็ งั มองเห็นเหล่า นงั่ อมรินทราวินิจฉยั ผคู้ นอะไร ๆ ช่างมากมายเช่นน้ี เม่ือ ราษฎรไดย้ นิ เสียงไชโยโห่ร้องอวยชยั ใหพ้ ร แต่เม่ือคน วานน้ีเจา้ หนา้ ที่ไดเ้ ขา้ มาถามวา่ จะอนุญาตใหป้ ระชาชน ประจาํ เคร่ืองบินเริ่มเดินเครื่องทีละเครื่อง ๆ เสียง เขา้ มาหรือไม่ในขณะท่ีไปถวายบงั คมพระบรมศพ ตอบ เครื่องยนตด์ งั สนนั่ หวน่ั ไหวกลบเสียงโห่ร้องกอ้ งกงั วาน เขาวา่ “ใหเ้ ขา้ มาซิ” เพราะเหตุวา่ วนั อาทิตย์ เป็นวนั ของ ของประชาชนท่ีดงั อยหู่ มด พอถึง ๑๒ นาฬิกา เรากอ็ อก เขา จะไปหา้ มเสียกระไรได้ และย่งิ กวา่ น้นั ยงั เป็นวนั เดินทางมาบินวนอยเู่ หนือพระนครสามรอบ ยงั มองเห็น สุดทา้ ยก่อนที่เราจะจากบา้ นเมืองไปดว้ ย ขา้ พเจา้ ก็ ประชาชนแหงนดูเคร่ืองบินทวั่ ถนนทุกสายในพระนคร อยากจะแลเห็นราษฎร เพราะกวา่ จะไดก้ ลบั มาเห็นเช่นน้ี กค็ งอีกนานมาก... วนั น้ีพวกทหารรักษาการณ์กนั อยา่ ง บ่ายหนา้ ไปทางทิศตะวนั ตกมุ่งตรงไปยงั เกาะ เตม็ ที่เพื่อกนั ทางใหร้ ถแลน่ ไดส้ ะดวก ไมเ่ หมือนอยา่ ง ลงั กา(ซีลอน) เสียงเคร่ืองบินดงั สนนั่ หนวกหู หากผใู้ ด เมื่อวนั ท่ี ๑๕ สิงหาคม ท่ีมากนั คนชา้ เกินไป อยากจะพดู ตะโกนออกมาใหส้ ุดเสียง ดงั น้นั จึงไม่มีใคร 344 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 2 May-August 2015 Social Science and Humanity

พดู เลย ทางท่ีดีที่สุดที่พึงทาํ คือหลบั ตาเสียแลว้ นิ่งคิด ท่ีอดุ มดีและกง็ าม ประชาชนกส็ ุภาพและมีนิสยั ดี เหตุที่ ...แปลกดีเหมือนกนั ท่ีใจหวนไปคิดวา่ เพียงชว่ั โมงเดียวน้ี ทาํ ใหเ้ หมือนมากน้ีขอ้ สาํ คญั อย่ทู ่ีนบั ถือศาสนาร่วมกนั เลา่ เรากาํ ลงั เหาะอยเู่ หนือทอ้ งทะเลอนั กวา้ งใหญ่ไพศาล กบั ไทยเรา แมจ้ ะมีเสียงเครื่องยนตก์ ด็ เู ป็นเหมือนเงียบและน่ิงอยกู่ บั ที่ เพราะเสียงทุก ๆ เสียงจากสิ่งท่ีมีชีวติ และจางหายไป พอมาถึงจวนขา้ หลวง กต็ รงเขา้ หอ้ งพกั เป็นหอ้ ง หมดแลว้ และกาํ ลงั ชินกบั เสียงครางกระห่ึมของ กวา้ งและสบาย ท่ีน่ีไมค่ ่อยร้อนเหมือนเมืองไทย ท้งั ไม่มี เครื่องยนตน์ ้นั หวนกลบั ไปนึกดูเมื่อ ๙ เดือนท่ีแลว้ มา เรา ยงุ ดว้ ย ฉะน้นั จึงไม่จาํ เป็นตอ้ งมีมงุ้ เราไดพ้ กั ผอ่ นชว่ั ครู่ กาํ ลงั บินไปในทิศทางตรงกนั ขา้ ม เพ่ือจะเย่ียมเยียน ภายหลงั ที่ไดเ้ ดินทางมาอยา่ งเหนด็ เหน่ือย หูยงั อ้ืออยู่ ประเทศหน่ึง เยีย่ มอาณาประชาชนท่ีเราตอ้ งพลดั พราก เพราะเสียงเครื่องบิน กินขา้ วม้ือเยน็ กบั ขา้ หลวง และรู้สึก จากมาถึง ๑๗ ปี เตม็ ๆ โดยท่ีเราเกือบไม่รู้เร่ืองและข่าว ดีใจเหลือเกินท่ีไดห้ ลบั นอนสบาย เพราะรุ่งเชา้ พรุ่งน้ี คราวของบา้ นเมืองและประชาชนของเราเลยแมแ้ ต่นอ้ ย... จะตอ้ งบินต่อไปยงั เมืองการาจี เดี๋ยวน้ีเรากาํ ลงั บินจากประเทศน้นั จากประชาชน พลเมืองเหลา่ น้นั ไปแลว้ การจากคร้ังน้ีมิไดเ้ พียงแต่จาก วนั ที่ ๒๐ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ เวลา ๐๘.๓๐ มาอยา่ งเดียวเท่าน้นั ขา้ พเจา้ ไดจ้ ากเรื่องท่ีลว่ งมาแลว้ ดว้ ย นาฬิกา ก่อนที่จะออกเดินทาง เราไปที่วดั ใน สจ๊วตเขา้ มาขดั จงั หวะเสีย ทาํ ใหค้ วามคิดท่ีกาํ ลงั พระพทุ ธศาสนาแห่งหน่ึงที่อยใู่ นเมือง เขา้ ไปในโบสถ์ เพลิดเพลินจางไปเสียจากสมอง เขานาํ อาหารกลางวนั ท่ีมี แลว้ จุดเทียน (เทียนไขเราดี ๆ นี่เอง) เอาดอกไมท้ ่ี รสกลมกล่อมเขา้ มาให้ การเดินทางในระยะต่อมาช่าง ขา้ หลวงจดั มาใหบ้ ูชาพระสมภารเจา้ วดั น้ีเป็นคนคน เปลา่ เปลี่ยวเสียจริง ๆ สิ่งที่มองเห็นในเบ้ืองหนา้ ไม่มี เดียวกนั กบั ท่ีไดเ้ คยตอ้ นรับเราเม่ือคราวมาเที่ยวที่แลว้ ท่ี อะไรเสียเลย นอกจากทอ้ งทะเลเขียวครามอนั แสนลึก วดั น้ีเองเม่ือ ๘ ปี มาแลว้ พ่ีชายของขา้ พเจา้ ไดม้ าปลกู ตน้ นาน ๆ จะแลเห็นเกาะบา้ งเป็นคร้ังคราว จนั ทนบ์ นแท่นท่ีบชู า ยงั มีรูปถ่ายเป็นรูปพ่ีท่ีเคยมาดว้ ยกนั กาํ ลงั ต้งั ท่าปลกู อยทู่ ีเดียว สมภารไดน้ าํ เราไปยงั ตน้ จนั ทน์ เรามาถึงเมืองเนเกมโบ (Negambo) ใกลก้ บั ตน้ น้นั คาดวา่ จะใหญโ่ ต แต่ดูไม่เจริญงอกงามเสียเลย สูง โคลมั โบ เมืองหลวงของเกาะลงั กาภายหลงั จากท่ีไดบ้ ิน ไม่เกินสองฟตุ มาเป็นเวลานานถึง ๘ ชวั่ โมง ถึง ๑๕ นาที เดี๋ยวน้ี ๑๘.๔๕ นาฬิกา ตามเวลาของเกาะลงั กาแลว้ เมื่อเทียบกบั เมื่ออกมาจากวดั มีประชาชนกลมุ่ หน่ึงมาคอย เวลาท่ีกรุงเทพฯ ที่น่ีชา้ กวา่ ๑ ชวั่ โมง ๓๐ นาที พอดี เฝ้ า บางคนยกมือข้ึนไหวอ้ ยา่ งไทย ๆ เรา บางคนตบมือ บางคนตะโกนออกมาดว้ ยความพออกพอใจ มาถึง ขา้ หลวงประจาํ เกาะลงั กาคือ เซอร์ยอห์น ฮา สนามบินเวลาประมาณ ๐๙.๐๐ นาฬิกา เรา ขา้ หลวง และ เวิร์ด (Sir John Haward) ไดเ้ ดินทางจากโคลมั เบียมาเพื่อ ภริยาผอู้ ธั ยาศยั สุภาพออ่ นโยน และใหค้ วามเอ้ือเฟ้ื อต่อ ตอ้ นรับเรา ขา้ พเจา้ ข้ึนนง่ั รถยนตท์ ี่มีท่านขา้ หลวงตามมา เราเป็นอยา่ งดี แลว้ ข้ึนเคร่ืองบินจากมา ดว้ ย ส่วนแม่น้นั ไปกบั ภรรยาของเรา ระยะทางจาก สนามบินไปยงั จวนขา้ หลวงในเมืองโคลมั โบตอ้ งนงั่ รถ การเดินทางเป็นไปอยา่ งปกติ สจว๊ ตนาํ อาหารมา ไปราว ๓๐ นาที อนั เป็นระยะที่กาํ ลงั สบาย และมีโอกาส ใหเ้ รากินตามเวลามิไดข้ าด บางทีกไ็ ดร้ ับรายงานจาก ไดช้ มพมู ิประเทศตามถนนตามที่เห็นมาดว้ ยตา และตาม นกั บินแสดงดว้ ยแผนที่ใหเ้ ห็นวา่ เด๋ียวน้ีเราอยตู่ รงไหน คาํ บอกเล่าของเซอร์ยอห์น ฮาเวริ ์ด รู้สึกวา่ เกาะลงั กาน้ี บางทีกร็ ายงานอากาศที่เราจะตอ้ งประสบในเบ้ืองหนา้ ช่างละมา้ ยคลา้ ยคลึงกบั เมืองไทยเราเสียจริง ๆ เป็นเมือง ตลอดจนความเร็ว และระยะสูงของเครื่องบิน ฯลฯ เป็น การเดินทางที่สะดวกสบายดี... ปีท่ี 5 ฉบับท่ี 2 ประจำ� เดือน พฤษภาคม-สงิ หาคม 2558 วารสารวชิ าการมหาวิทยาลัยอีสเทิรน์ เอเชยี ฉบบั สังคมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์ 345

ในตอนจวนจะถึง อากาศไมส่ ูจ้ ะดีเหมือนที่แลว้ ไดถ้ นดั ท้งั ๆ ที่บินสูงถึง ๒,๕๐๐ เมตร ขา้ พเจา้ ชอบเดิน มา เพราะมรสุมกาํ ลงั ต้งั เคา้ แต่เรากาํ ลงั จะถึงการาจีอยู่ ไปที่ที่นกั บินขบั บ่อย ๆ และนง่ั ลงขา้ ง ๆ ตรงที่นงั่ ของ แลว้ เพราะเคร่ืองบินเร็วทาํ เวลาไดด้ ีมาก เม่ือบินอยเู่ หนือ นกั บินสาํ รอง ช่างมีเคร่ืองบงั คบั หลายอยา่ งเสียจริง ๆ เมืองมองดูรอบ ๆ ลกั ษณะเป็นทะเลทรายเราดี ๆ นี่เอง บงั คบั ปี ก บงั คบั ใบพดั เครื่องยนต์ ถงั น้าํ มนั และอื่น ๆ อีก ช่างไมม่ ีชีวิตจิตใจเสียเลย ที่ต้งั เป็นบา้ นเป็นเมืองข้ึนไดก้ ็ มาก ในตอนตน้ ๆ ออกจะงง ๆ แต่นกั บินเป็นคนที่สุภาพ เพราะเป็นท่าเรือใหญ่ อยใู่ นทาํ เลท่ีเหมาะ เคร่ืองบินลงถึง มาก ไดพ้ ยายามช้ีแจงใหเ้ ขา้ ใจถึงเครื่องทุก ๆ ส่วนท่ีมีอยู่ พ้ืนดินเม่ือเวลา ๑๗ นาฬิกา บินมาได้ ๘ ชวั่ โมง มีพวก ขา้ ราชการมาคอยรับอยขู่ ้ึนรถตรงไปยงั ศาลาวา่ การของ ท่ีขอ้ มือนกั บินสงั เกตเห็นวา่ ผกู นาฬิกาไวส้ อง รัฐบาล เป็นแขกของขา้ หลวง เช่นเดียวกบั ท่ีเกาะลงั กา เรือน เรือนหน่ึง ๖ นาฬิกา อีกเรือนหน่ึง ๔ นาฬิกา แต่ ของเราเองเป็น ๐๙.๓๐ นาฬิกา เขาอธิบายใหเ้ ขา้ ใจวา่ ๔ พรุ่งน้ีเราจะตอ้ งบินเป็นระยะทางไกล ฉะน้นั จึง นาฬิกาน้นั เป็นเวลาที่กรีนิช (Greenich) ๖ นาฬิกาน้นั เป็น อยากจะนอนแต่หวั ค่าํ สกั หน่อย แต่วา่ ตอ้ งกินขา้ วกบั เวลาที่กรุงโคโร ที่เรากาํ ลงั จะไป และ ๐๙.๓๐ นาฬิกาน้นั ขา้ หลวงและคณะ จาํ เป็นตอ้ งสนทนาปราศรัยถึงเร่ืองท่ี เป็นเวลาท่ีการาจี เราจะไปโคโรจึงเล่ือนเขม็ ถอยหลงั ไม่มีเรื่องเหมือนที่พวกฝรั่งนิยมกนั กวา่ จะไดพ้ กั ผอ่ น กลบั ไปสามชวั่ โมงคร่ึง นอนหลบั กเ็ กือบสองยาม เราเพลียมาก รู้สึกหลบั อยา่ ง ง่ายดาย ราว ๆ เท่ียงเราบินอยเู่ หนือทะเลทรายอาหรับ มี หลุมอากาศหลายแห่ง ฝร่ังเรียกวา่ “ Bumps” เป็นลม วนั ท่ี ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ จากศาลาวา่ การ สูงข้ึน เกิดจากความร้อนของทรายจากเบ้ืองลา่ งที่ถกู พระ รัฐบาลไปสนามบิน รถว่งิ ๒๐ นาที ผา่ นเขา้ ไปยา่ น อาทิตยแ์ ผดเผาหลุมอากาศเหล่าน้ีมีอยตู่ ลอดทาง กระทง่ั การคา้ ในเมือง มีขอ้ ท่ีน่าสนใจและพึงสงั เกตอยบู่ า้ ง คือ ผา่ นพน้ เขตของทะเลทรายไปคือราว ๑๔.๓๐ นาฬิกา การ พบคนนอนหลบั อยา่ งสบายอยขู่ า้ งทางตามประตู พวกที่ ผา่ นหลมุ อากาศวบั ๆ หวาํ ๆ เช่นน้ีไม่มีความสบายเลย ต่ืนลุกข้ึนลา้ งหนา้ ที่ท่อน้าํ ใกล้ ๆ กบั ท่ีนอน และเขาทาํ และความไมส่ บายใจน้ีทวีข้ึน เม่ือพวกประจาํ เครื่องบิน กนั อยา่ งน้ีในบริเวณที่มีตึกรามตามแบบสมยั ใหม่ในยา่ น เลา่ ใหฟ้ ังวา่ หากเราจาํ ตอ้ งร่อนลงยงั ทอ้ งทะเลทรายน้ีแลว้ การคา้ เช่นน้นั ออกจะน่าวิตกอยมู่ าก ที่ชาวพ้ืนเมืองเบ้ืองล่างน้ีมิค่อยจะ เป็นมิตรที่ดีของคนแปลกหนา้ นกั ประชาชนพลเมืองเหลา่ น้ีแต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ที่ ขาดวน่ิ สีของเส้ือผา้ น้นั ขาวหรือกค็ งตอ้ งเป็นขาวมาก่อน ล่วงไปอีกชว่ั โมงหน่ึงกผ็ า่ นคลองสุเอช กาํ ลงั มี ที่มาแลเห็นเป็นสีเทาไปมากกว่าสีขาวน้นั กเ็ พราะระคน เรือแล่นเขา้ คลอง มีเรือรบขนาดหนกั ลาํ หน่ึงจอดอยทู่ ี่นน่ั ปนไปกบั ฝ่ นุ นอกจากน้ียงั ไดแ้ ลเห็นววั ศกั ด์ิสิทธ์ิเดิน ขนาดของเรือลาํ น้ีเห็นจะหนกั กวา่ เรือศรีอยธุ ยาประมาณ ท่องเท่ียวหาอาหารอยตู่ ามทอ้ งถนนหลวง จะไปไหนมา ๑๕ เท่า แมก้ ระน้นั มองดชู ่างเลก็ เสียเหลือเกินเมื่อเทียบ ไหนไม่มีใครกลา้ จะขบั ไล่ ไมว่ า่ จะเกิดหิวข้ึนเมื่อไร พบ กบั ความกวา้ งใหญไ่ พศาลของทอ้ งทะเล และความเวิ้ง ร้านขายผกั กเ็ ดินเขา้ ไปเลือกกินไดต้ ามใจชอบ ส่วน วา้ ง ของทะเลทรายอนั มหึมาน้นั เจา้ ของร้านน้นั เม่ือววั เขา้ ไปถือวา่ เป็นมงคล... เรามาถึงสนามบินอลั มาซา (Almargza) ใกล้ ๆ ถึงสนามบินเวลา ๐๘.๓๐ นาฬิกา และออกบิน กบั กรุงโคโร หลงั จากท่ีทาํ การบินมาแลว้ เป็นเวลา ๑๑ ในทนั ทีท่ีมาถึง เคร่ืองบินบ่ายหวั ตรงไปสู่ทอ้ งทะเลดว้ ย ชว่ั โมง ๔๕ นาที เราเหน็ดเหน่ือยเพราะถกู รบกวนดว้ ย อตั ราความเร็ว ๓๒๐ กิโลเมตรต่อชวั่ โมง ทอ้ งฟ้ าแจ่มก เสียงสนนั่ หวน่ั ไหวของเคร่ืองบิน ดว้ ยความสน่ั สะเทือน ระจ่างจนสามารถมองเห็นเรือหาปลาเลก็ ๆ ในทอ้ งทะเล ของเครื่องยนตท์ าํ เอาเรางงไปหมด 346 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 2 May-August 2015 Social Science and Humanity

เราไปพกั อยู่ ณ โรงแรมท่ีดีแห่งหน่ึง และได้ ตอ้ งชา้ ลงและชา้ ไปกวา่ กาํ หนด ๑๕ นาที เม่ือเวลา ๑๖ พกั ผอ่ นอยา่ งสุขสาํ ราญในตอนเยน็ สมหุ พระราช นาฬิกาชา้ มากข้ึนอีกเป็น ๔๕ นาที เรากาํ ลงั บินอยเู่ หนือ มณเฑียรของพระเจา้ ฟารุคไดเ้ ชิญพระราชปราศรยั ของ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บางเวลากแ็ ลเห็นเกาะต่าง ๆ เกาะ พระองคม์ า ขา้ พเจา้ กไ็ ดส้ นองพระราชปราศรัยไปตาม ใหญ่ท่ีสุดคือเกาะซารดิเนียและคอร์ซิกา กวา่ จะแลเห็นฝ่ัง สมควรนอกประตูหอ้ งของเรา มีตาํ รวจอียปิ ตย์ นื ยามอยู่ ก็ ๑๖.๔๐ นาฬิกา เป็นชายฝั่งของฝร่ังเศส อีกชว่ั โมงเดียว ท้งั น้ีเพราะรัฐบาลอียิปตไ์ ดจ้ ดั ไวเ้ พื่อความปลอดภยั ของ เท่าน้นั เราจะถึงสวิสเซอร์แลนดแ์ ลว้ ...จากขอบฟ้ าสลวั ๆ เรา ท่ีบดบงั ดว้ ยเมฆหมอกแลเห็นเมือง ๆ หน่ึงอยรู่ ิม ทะเลสาบใหญ่ เรากาํ ลงั มุ่งหนา้ ไปสู่เมืองน้นั คือ เมืองเจนี กรุงโคโรเป็นเมืองใหม่ที่เตม็ ไปดว้ ยตึก วา อนั เป็นท่ีหมายปลายทางที่เรามาดว้ ยเครื่องบิน และเรา สมยั ใหม่ แต่เบ้ืองหลงั ของตึกเหล่าน้ีมีบา้ นกระจกงอก จะตอ้ งพรากจากพวกประจาํ เรือไป คนประจาํ เครื่องบิน ง่อยอยเู่ ป็นอนั มาก บา้ นเหล่าน้ีเป็นท่ีอยขู่ องคนจน เล้ียง เหลา่ น้ีเป็นคนที่ดีต่อเรามาก ไดใ้ หเ้ ครื่องถมเป็นท่ีระลึก เป็ดไก่และสตั วเ์ ล้ียงอื่น ๆ อีกตามถนน รถรางกเ็ ตม็ ไป บินอยรู่ อบเมืองรอบหน่ึงแลว้ กร็ ่อนลงสู่พ้ืนดินเม่ือเวลา ดว้ ยผคู้ นเบียดเสียดเยียดยดั หอ้ ยโหนกนั จนไม่มีที่วา่ ง ๑๗.๕๕ นาฬิกา และลว้ นแต่แต่งกายดว้ ยเส้ือผา้ ปุปะไม่มีชิ้นดี เป็นผชู้ าย ท้งั น้นั เกือบไม่มีผหู้ ญิงปะปนอยดู่ ว้ ยเลย คลา้ ย ๆ กบั ท่ีกา อธิบดีกรมพิธีการแห่งรัฐบาลสวสิ ส์ไดม้ า ราจีอยมู่ าก ผคู้ นหลบั อยา่ งแสนสบายตามสนามหญา้ ขา้ ง รับรองในนามของรัฐบาล และแนะนาํ ใหร้ ู้จกั กบั บรรดา ถนน รถยนตม์ ีมากแต่เป็นรถรับจา้ งท่ีขบั กนั อยา่ งเร็วปรื๋อ ขา้ ราชการที่มารับ นกั เรียนไทย เอกอคั รราชทูตไทย และ โดยมาก ขา้ ราชการไทยกพ็ ากนั มารับดว้ ย รัฐบาลสวิสส์จดั รถยนต์ ไวส้ ่งเราถึงเมือง วนั ท่ี ๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๘๙ คืนวนั น้ี โลซานน์ ซ่ึงอยหู่ ่างจากเจนีวาไปราว ๖๐ กิโลเมตร สบายดีแทถ้ า้ ไม่คาํ นึงถึงเสียง เสียงที่มาจากโรงหนงั ใกล้ ๆ ท่ีพกั กินอาหารเชา้ แลว้ ก็ออกเดินทางไปสนามบิน อธิบดีกรมพิธีการและเอกอคั ราชทูตไทยนงั่ รถ รถยนตส์ มุหพระราชมณเฑียรของพระเจา้ ฟารุคมาส่ง ไปกบั ขา้ พเจา้ ดว้ ย อธิบดีกรมพิธีการเลา่ ใหฟ้ ังวา่ รัฐบาล และเชิญพระพรใหเ้ ดินทางโดยสวสั ดีของพระองคม์ า สวิสส์มีความยินดีนกั ที่ขา้ พเจา้ เลือกมาอยแู่ ละมาศึกษาท่ี ประทาน... ขา้ พเจา้ ตอบขอบพระราชหฤทยั และขอใหน้ าํ สวิสเซอร์แลนดน์ ้ี บอกเขาวา่ ชอบประเทศน้ีมากเขาไดช้ ้ี ความไปทลู ขอใหท้ รงพระเจริญสุข กบั ขออาํ นวยพรให้ ชวนใหช้ มสถานท่ีต่างๆที่ผา่ นมา โดยคิดวา่ ขา้ พเจา้ ไม่ ประชาชนพลเมืองของพระองคม์ ีความสุขสาํ ราญดว้ ย รู้จกั และรู้สึกประหลาดใจมากเม่ือไดท้ ราบวา่ ขา้ พเจา้ รู้จกั สถานที่เหลา่ น้ีแลว้ เป็นอยา่ งดี เพราะอยทู่ ี่น่ีมาถึง ๑๕ รอบ ๆ เคร่ืองบินมีตาํ รวจอียิปตร์ ักษาการณ์อยู่ ปี เศษแลว้ เขารับสารภาพวา่ เขาเพ่ิงเขา้ มารับหนา้ ท่ีใหม่ อยา่ งกวดขนั ย่ิงนกั เวลา ๐๘.๑๕ นาฬิกา เร่ิมออกเดินทาง และเพิ่งมาจากอเมริกาใต้ แลว้ เรากค็ ุยกนั ถึงเร่ืองอื่น ๆ ต่อมาอีก ๔๐ นาทีกผ็ า่ นเมืองอาเลกซานเดรียเมืองท่า ต่อไป ไดท้ ราบต่อมาวา่ เขาเป็นคนชอบศึกษาเร่ืองราว ใหญ่ท่ีสุดของอียิปต์ วนั น้ีตอ้ งบินถึง ๙ ชวั่ โมง ๕๐ นาที ของชาวเรา ชาวตะวนั ออก และพระพุทธศาสนาดว้ ย จะถึงกรุงเจนีวา ราว ๆ ๑๗.๐๕ นาฬิกา พอถึง “วิลลาวฒั นา” เขากล็ ากลบั อาํ นวยพรให้ ไม่น่าจะเป็นไปไดเ้ ลย เมื่อสามวนั ท่ีแลว้ มา เรา เรามีความสุขความเจริญ ขา้ พเจา้ จึงขอใหเ้ ขานาํ คาํ ขอบใจ ยงั อยเู่ มืองไทย แลว้ วนั น้ีเราจะถึงสวสิ เซอร์แลนดแ์ ลว้ ของขา้ พเจา้ ไปแจง้ ต่อท่านประธานาธิบดีพร้อมท้งั คาํ อวย ระยะทางต้งั ๑๐,๐๐๐ กิโลเมตรกวา่ ...เวลา ๑๕.๐๐ พร เพ่ือความเจริญรุ่งเรืองของประเทศน้นั ดว้ ย นาฬิกา เราตอ้ งบินฝ่ ากระแสลมอนั แรงทาํ ใหเ้ คร่ืองบิน ปที ่ี 5 ฉบับท่ี 2 ประจำ� เดือน พฤษภาคม-สงิ หาคม 2558 วารสารวิชาการมหาวทิ ยาลยั อสี เทิรน์ เอเชยี ฉบบั สงั คมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ 347

เรากลบั ถึงโลซานนแ์ ลว้ ...ไมช่ า้ ขา้ พเจา้ จะตอ้ ง เขา้ เรียนต่อไป... ภมู ิพลอดุลยเดช 348 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 2 May-August 2015 Social Science and Humanity