Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3 Step: D & 2 Presentation

3 Step: D & 2 Presentation

Published by ชั้นหนังสือ ป.6, 2021-04-09 00:08:04

Description: นางสาวลักษมี เรืองศุข
“นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอน ปีการศึกษา 2563”
โรงเรียนวัดพระพิเรนทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

Search

Read the Text Version

การจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้ “ เทคนคิ การสอนแบบพัฒนาทกั ษะการนำเสนอผลงานของเดก็ ปฐมวยั ” ( 3 Step: D & 2 Presentation ) Step 1: Design การออกแบบรูปแบบการนาเสนอ Step 2: Presentation การนาเสนอผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ Step 3: Presentation Summary สรุปการนาเสนอ

๑. แนวคดิ การจดั การเรยี นรู้ รปู แบบการเรียนรูต้ ามแนวคิด HighScope เรยี นรู้จากการลงมือทำ มพี ื้นฐานแนวคดิ มาจากทฤษฎขี องเพยี เจต์ (Piage’s Theory) ทเ่ี กยี่ วกบั พัฒนาทางสติปัญญาท่ีเน้นเรยี นรูผ้ า่ นการ ลงมือปฏิบัติ โดยเดก็ สามารถสร้างความรู้ไดเ้ องโดยใช้กระบวนการสรา้ งสรรค์การเรยี นรู้ (Constructive process of Learning) ซง่ึ เดก็ จะไดเ้ รยี นรู้จากการกระทำ และมีการประเมนิ ผลงานอย่างมีแบบแผน การเรียนรู้แบบไฮสโคปน้ันมหี ัวใจสำคัญอย่ทู ่ีกระบวนการท่ีทำให้เกดิ การเรียนรู้อยู่ 3 ข้ันตอนคือ 1. การวางแผน (Plan) เปน็ การกำหนดแนวทางในการปฏบิ ตั ิว่าจะดำเนินกจิ กรรมออกมายังไง ไม่วา่ จะเปน็ กิจกรรมท่ี ได้รบั มอบหมาย หรือกิจกรรมทีต่ นเองสนใจก็ตาม โดยเด็กจะตอ้ งคุยกบั คุณครหู รือเพอื่ นๆ เพื่อวางแผนการทำงาน อย่างเหมาะสม ทำให้เด็กๆ รูส้ กึ สนใจในกจิ กรรมนนั้ ๆ เพราะตนเองได้เป็นคนวางแผนเอง ซึ่งน่ันเป็นโอกาสใหเ้ ดก็ ได้ แสดงความคิดเหน็ และกลา้ ตัดสนิ ใจ การทำแบบนีจ้ ะช่วยใหเ้ ด็กเชอ่ื ม่ันในตนเอง สามารถควบคมุ ตัวเองได้ 2. การลงมอื ทำ (Do) ในขนั้ ตอนนเ้ี ปน็ การให้เด็กลงมือทำตามสง่ิ ทว่ี างแผนไวอ้ ยา่ งอิสระ โดยจะมเี วลากำหนด เน้นให้ เด็กชว่ ยกนั คดิ ชว่ ยกนั ทำ ชว่ ยกนั ทดลองและแกป้ ญั หารว่ มกนั อย่างมจี ดุ หมาย ซึ่งจะทำให้เด็กๆ เรียนรูผ้ ่าน ประสบการณ์ รจู้ ักคิดแกป้ ญั หาและคน้ พบความคดิ ใหม่ๆ อกี ทั้งยงั ได้พฒั นาทักษะการพูดและมีปฏสิ มั พันธ์ทางสังคม สูงอีกดว้ ย 3. การทบทวน (Review) ในช่วงน้เี ด็กๆ จะได้ทบทวนในส่ิงทต่ี นเองไดล้ งมอื ทำไป เป็นการพูดคุยร่วมกัน วา่ ผลลพั ธท์ ี่ ไดอ้ อกเปน็ ยังไง ตรงตามที่คิดไหม มีวิธีการดำเนินการแบบไหน มีการเปลยี่ นแปลแผนหรือไม่ มจี ุดมงุ่ หมายเพื่อให้ เดก็ ได้เชื่อมโยงสิง่ ท่วี างแผนไว้กบั ผลงานทท่ี ำ และเป็นการเลา่ ประสบการณ์ต่างๆ ที่ไดล้ งมอื ทำด้วยตนเอง หลกั การทสี่ ำคัญคือการเรยี นรจู้ ากการลงมือทำ ผา่ นกจิ กรรมและสือ่ ทีห่ ลากหลายท่ีมคี วามเหมาะสมกับพฒั นาการของ เด็กเปน็ ตวั ช่วย โดยจะต้องปล่อยใหเ้ ดก็ เปน็ คนเริ่มการเล่นหรอื กิจกรรมอยา่ งอิสระดว้ ยตวั เอง ซ่งึ ถือเปน็ พ้ืนฐานสำคัญในการ พฒั นาเด็ก ซึ่งการเรยี นรแู้ บบลงมอื ทำจะเกิดประสทิ ธิภาพมากทส่ี ุดถ้าสง่ เสริมเด็กอย่างเหมาะสมกบั พฒั นาการ จุดเดน่ ของการเรียนรตู้ ามแนวคดิ ไฮสโคปอยูท่ ี่องคป์ ระกอบของการเรียนรซู้ ึ่งมีอยู่ด้วยกัน 6 ข้อ คอื 1. เดก็ คอื จุดศูนย์กลาง : เปดิ โอกาสใหเ้ ด็กเป็นคนเลือกและตัดสนิ ใจว่าจะทำกิจกรรมไหน ตามความสนใจของ ตนเอง ซึ่งจะทำใหเ้ ดก็ เกิดการเรียนรมู้ ากกว่าการรอรบั ฟังความร้จู ากผู้ใหญ่ 2. ต้องมสี ่ือและอุปกรณ์ท่ีเหมาะสม : ควรจะต้องมีการจดั เตรียมสอ่ื วสั ดแุ ละอุปกรณ์ในห้องเรยี นใหห้ ลากหลาย จัดเกบ็ ให้เรียบรอ้ ย และเหมาะสมกับช่วงอายุของเดก็ เพ่ือให้เด็กไดเ้ ลือกวัสดุมาใชอ้ ย่างอิสระ การทำแบบน้ีจะช่วยให้เดก็ รู้จักเช่ือมโยงการกระทำต่างๆ ว่าของทเี่ ลือกมาจะเข้ากันไหม ไดเ้ รยี นรูใ้ นเรื่องความสัมพันธ์ของส่ิงของและเรยี นรทู้ ่ีจะ แก้ปัญหามากขนึ้

3. มพี ื้นที่และเวลาที่เพยี งพอ : การทำกิจกรรมแบบไฮสโคปจะตอ้ งมพี นื้ ทีท่ ี่เหมาะสมทง้ั ต่อการทำกจิ กรรมคนเดยี ว และทำเปน็ กลุ่ม มีมุมประสบการณ์ต่างๆ ท่ีส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ ได้เรยี นรู้ผ่านการเล่นที่เหมาะสม นอกจากนกี้ ารจัดสรรเวลาให้ เพียงพอต่อการดำเนนิ กิจกรรมตลอดท้ังวนั กเ็ ปน็ ส่ิงจำเปน็ เพราะจะชว่ ยใหเ้ ดก็ ร้จู กั รักษาเวลานัน่ เอง 4. เนน้ ให้เด็กใชส้ มั ผสั ท้ัง 5 ในการเรียนรู้ : การใช้ประสาทสัมผสั ทง้ั 5 ในการเรยี นรู้จะช่วยให้เด็กคนุ้ เคยกบั วัตถุ ได้ ลองทดสอบสิ่งตา่ งๆ ดว้ ยตนเอง นำไปสกู่ ารเรียนรูด้ า้ นความสมั พนั ธ์และความเกี่ยวข้องของวัตถุด้วยตวั เอง ทำให้เด็กเปน็ คน ชา่ งสังเกต และขี้สงสัย 5. ภาษาจากเดก็ : เดก็ จะสะทอ้ นประสบการณ์ความคิด ความเขา้ ใจ และความร้สู กึ ผา่ นการพูดและการบอกเล่า การ ท่เี ด็กไดเ้ รยี นรแู้ บบลงมือทำ เด็กมกั จะเล่าวา่ ตวั เองไดท้ ำอะไรลงไปบา้ ง มีผลลัพธแ์ บบไหน เม่ือเด็กมีอิสระในการแสดงความ คิดเห็นและรบั ฟงั ความคดิ เห็นจากคนอื่น ก็จะทำให้ได้เรยี นร้วู ธิ กี ารพูดทที่ ำใหค้ นอื่นเขา้ ใจ เป็นที่ยอมรบั ของผู้อื่น ได้พัฒนา ความคิดควบคูไ่ ปกับพัฒนาความเชอ่ื มน่ั ในตนเอง 6. การสนบั สนุนจากผูใ้ หญ่ : การเรียนรู้ตามแนวคิดไฮสโคปจะเกดิ ข้นึ ไปไดเ้ ลยถ้าไมม่ ีผ้ใู หญค่ อยดูแลหรือสนบั สนนุ เพราะจะต้องมีการเตรียมสง่ิ ของต่างๆ ให้พรอ้ มต่อการเรยี นรู้ของเด็ก ทสี่ ำคัญอกี อย่างหนงึ่ คือ การเรยี นร้แู บบนี้จะต้องสร้าง สัมพนั ธ์กับเด็ก สงั เกตและค้นหาความสนใจ ความตัง้ ใจในการทำกิจกรรม ผู้ใหญค่ วรรับฟังและสง่ เสริมใหเ้ ด็กคดิ และทำสงิ่ ตา่ งๆ ด้วยตัวเอง 2. วธิ ีการสอนแบบพัฒนาทักษะการนำเสนอผลงานของเด็กปฐมวยั หลกั การการนำเสนอผลงานของเด็กปฐมวัย โดยครใู ช้เทคนิคการสอน 3 Step: D & 2 Presentation 2.1 การออกแบบรปู แบบการนำเสนอ โดยการใช้คำถามกับเด็กปฐมวัย การใชค้ ำถามในเด็กปฐมวัยเพื่อพัฒนากระบวนการคิด การ ใช้คำถามเปน็ กิจกรรมท่ีใชอ้ ยเู่ สมอในการเรียนการสอนเพ่ือยวั่ ยุใหผ้ ้เู รียน ใช้ความคิดทง้ั ในดา้ นเหตุผล ความคิด สรา้ งสรรค์ การวิเคราะหป์ ัญหา ตลอดจนเขา้ รว่ มกิจกรรม ครูใชค้ วรเปน็ คำถามทมี่ ปี ระสิทธิภาพ เพ่ือให้เด็กเกดิ ทกั ษะความรู้ ความเข้าใจในการออกแบบรูปแบบการนำเสนอ และเกิดเจตคติท่ีดตี ่อการนำเสนอผลงานอย่างแท้จรงิ ความสำคัญของการใชค้ ำถามทพิ ย์วัลย์ สจี นั ทร์ (2531 : 64) กล่าวถึงความสำคัญของการใช้คำถามไวด้ ังต่อไปน้ี 1. ใช้เป็นส่อื สำหรบั สำรวจและทบทวนพืน้ ความรเู้ ดิมและประสบการณ์เดิมของเด็ก 2. ใช้คำถามกระต้นุ ความสนใจของเด็ก ครูอาจใช้คำถามเพอ่ื เรา้ ความสนใจของเด็กได้ทุกข้นั ตอนใน การออกแบบรูปแบบการนำเสนอ 3. ใช้คำถามเสรมิ สร้างความสามารถทางความคิดให้แก่เด็ก ช่วยให้เด็กฝกึ คดิ หาคำตอบ หาเหตุผล และหาความรู้ได้ดว้ ยตนเอง 4. คำถามท่ดี ีจะชว่ ยให้มีการอภปิ รายตอ่ เน่ือง เป็นการขยายความคิดและแนวทางในการเรยี นรู้ และข้อสรปุ หลักเกณฑใ์ หม่ ๆ 5. การใช้คำถาม ช่วยให้นักเรียนมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอน เชน่ ทำใหน้ กั เรยี นมีโอกาสตอบคำถาม เสนอความคิดเห็นและตง้ั คำถาม รวมทง้ั ได้ร่วมกิจกรรมอ่ืน ๆ ด้วย 6. ช่วยให้นกั เรียนพยายามคน้ คว้าหาความรใู้ หม่เพ่ิมเตมิ เพ่อื ที่จะนำมาตอบคำถามของครู 7. ใชช้ ว่ ยทบทวนหรือสรปุ บทเรียนให้เปน็ ท่ีเขา้ ใจตรงกัน 8. ใชช้ ่วยประเมินผลการเรยี นของนักเรยี นและการสอนของครู

2.2 การนำเสนอผลงานดว้ ยความภาคภูมใิ จ การใช้ภาษาของเด็ก : เด็กจะสะทอ้ นประสบการณ์ความคิด ความเขา้ ใจ และความรู้สึกผ่านการพดู และการบอกเลา่ การทีเ่ ด็กได้เรียนรู้แบบลงมือทำนำเสนอผลงานดว้ ยความภาคภมู ิใจ เดก็ มักจะเลา่ วา่ ตัวเองได้ทำอะไรลงไปบ้าง มีผลลัพธ์ แบบไหน เมื่อเดก็ มอี ิสระในการแสดงความคิดเห็นและรับฟังความคดิ เหน็ จากคนอ่ืน กจ็ ะทำให้ไดเ้ รียนร้วู ธิ กี ารพูดท่ีทำให้คน อืน่ เข้าใจ เปน็ ทีย่ อมรบั ของผู้อ่นื ได้พฒั นาความคดิ ควบคู่ไปกบั พัฒนาความเชื่อมน่ั ในตนเอง 2.3 สรปุ การนำเสนอ การสนับสนนุ จากครู และเพอื่ น : การนำเสนอผลงานจะเกิดข้นึ ไม่ได้เลยถา้ ไม่มีคณุ ครูคอยดแู ล หรือสนบั สนุน เพราะ จะต้องมกี ารเตรียมสิ่งของต่างๆ ใหพ้ ร้อมต่อการนำเสนอผลงานของเด็ก ที่สำคัญอีกอย่างหนง่ึ คือ การนำเสนอผลงานแบบน้ี เป็นการสง่ เสรมิ ให้เด็กคดิ และทำสง่ิ ต่างๆ ด้วยตวั เอง ครจู ะตอ้ งสร้างสัมพันธ์กบั เด็ก สังเกตและคน้ หาความสนใจ ความต้ังใจ ในการนำเสนอผลงานให้ครู และเพื่อนไดร้ บั ฟัง หลกั การการนำเสนอผลงานของเดก็ ปฐมวัย โดยครูใชเ้ ทคนิคการสอน 3 Step: D & 2 Presentation ได้บรู ณาการ วธิ กี ารสอนโดยการใช้คำถาม ให้เดก็ จะสะท้อนประสบการณ์ความคดิ ความเขา้ ใจ และความรู้สกึ ผ่านการพูด และการบอก เล่า การทเ่ี ดก็ ได้เรียนรู้แบบลงมือทำนำเสนอผลงานด้วยความภาคภมู ิใจ ผ่านกระบวนการขั้นตอนในกิจกรรมสรา้ งสรรค์ และ ยงั สามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ได้กับทกุ กิจกรรมหลักของการจัดประสบการณ์เด็กปฐมวยั

นางสาวลักษมี เรอื งศขุ ตำแหน่ง ครู รบั เงินเดือนอันดบั คศ.2 วิชา การจัดประสบการณก์ ารเรยี นรแู้ บบบรู ณาการปฐมวัย ระดับชนั้ อนุบาลปีที่ 1 สาระการเรียนรู้ที่ 4 สงิ่ ตา่ งๆ รอบตัวเด็ก หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 23 การติดต่อส่ือสาร ฝึกปฏบิ ัติการวเิ คราะห์ความสามารถสดุ ทา้ ยที่ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับจากการเรียนรู้ กิจกรรมสร้างสรรค์ สาระสำคัญ ความสามารถท่ผี ูเ้ รียนต้องไดร้ บั ลำดบั พัฒนาการ/ ชน้ิ งาน/ ของหนว่ ยการเรียนรู้ ลำดบั ความยากง่าย นวตั กรรม การประดษิ ฐ์ Big Book เรื่อง 1.เดก็ รจู้ กั เครอื่ งมือการสื่อสาร ไดแ้ ก่ 1 การสอ่ื สารของหนู เปน็ กจิ กรรมที่ โทรศัพท์มอื ถอื วทิ ยุ โทรทัศน์ เด็กได้สร้างสรรค์ผลงานกตาม หนังสอื พิมพ์ ฯลฯ จนิ ตนาการ ผ่านการจำดว้ ยแบบ การถา่ ยโยงความรู้ลงมอื ปฏิบัติ 2. เดก็ รจู้ ักวิธกี ารใชเ้ คร่อื งมือส่อื สาร 2 และถา่ ยทอดความรจู้ ากการ ให้เป็นประโยชน์ เช่น โทรศัพท์มอื ถือ การประดิษฐ์ Big Book เร่อื ง การ นำเสนอเลา่ เรอื่ งราวผ่านผลงาน โทรทศั น์ 4 สือ่ สารของหนู และ นำเสนอผลงานด้วย ศลิ ปะ ความภาคภมู ิใจ 3. การใชภ้ าษาพดู เล่าเรื่องราวเปน็ ประโยคตอ่ เนื่องเกย่ี วกับการประดิษฐ์ Big Book เรื่อง การส่ือสารของหนู 4. การแสดงความพอใจและภาคภมู ิใจ 3 ในการนำเสนอผลงานของตนเอง

การวเิ คราะหต์ วั ชี้วัดและสาระการเรียนรู้ ตัวบง่ ช้ี สาระการเรยี นรู้ ประเภท ลำดับความยากงา่ ย มฐ.๓ ตบช.๓.๒.๒ 1 เดก็ สามารถแสดงความพอใจและ 1. เด็กรู้จักวธิ ีการใชเ้ ครื่องมือส่อื สารให้ ความรู้ (K) ภาคภูมใิ จในการนำเสนอผลงานของ เป็นประโยชน์ เช่น โทรศัพท์มือถือ 2 ตนเอง มฐ.9 ตบช.๙.๑.๒ โทรทัศน์ 3 การนำเสนอผลงานผ่านการเลา่ เรื่อง 4 ดว้ ยประโยคอยา่ งตอ่ เนื่องเกี่ยวกบั 2. เดก็ บอกลกั ษณะ วสั ดุ อปุ กรณ์ ความรู้ (K) 5 หนงั สือ Big Book เรือ่ ง การสือ่ สารของหนู ส่วนประกอบทีน่ ำมาประดษิ ฐ์เปน็ Big 6 มฐ.1๐ ตบช.1๐.๑.๑ Book เรอ่ื ง การสือ่ สารของหนู ของเด็ก บอกลักษณะและส่วนประกอบของ สิ่งของต่าง ๆ จากการสงั เกตโดยใช้ 3.เดก็ วางแผนออกแบบ Big Book ความรู้ (K) ประสาทสัมผสั เรอ่ื ง การส่ือสารของหนู มฐ.1๐ ตบช.1๐.๓.๑ ตดั สินใจในเรอ่ื งงา่ ยๆและยอมรบั ผล 4.เด็กประดษิ ฐ์ Big Book เรื่อง การ ทักษะ (P) ท่เี กิดขึ้น ส่ือสารของหนู มฐ.11 ตบช.11.1.1 สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือส่ือสาร 5.เด็กนำเสนอผลงานผา่ นการเล่าเรอื่ ง ทักษะ (P) ความคดิ ความรู้สกึ ของตนเองโดยมี ดว้ ยประโยคอยา่ งตอ่ เนื่องเกย่ี วกับ การดดั แปลง และแปลกใหม่จากเดิม หรือมรี ายละเอียดเพ่มิ ขึ้น หนงั สอื Big Book เร่อื ง การส่ือสารของ มฐ.12 ตบช.12.2.2 หนไู ด้ (3 Step: D & 2 Presentation) ค้นหาคำตอบของข้อสงสยั ต่าง ๆ ตามวิธีการของตนเอง 6.เดก็ สามารถแสดงความพอใจ และ เจตคติ (A) ภาคภมู ิใจในการนำเสนอผลงานของ ตนเองได้

การกำหนดภาระงาน / ช้นิ งาน / นวัตกรรม วนั ที่ ตัวบ่งชี้ สาระการเรียนรู้ ภาระงาน/กิจกรรม/นวัตกรรม ๑ มฐ.๓ ตบช.๓.๒.๒ ๑. ประเภทของการสื่อสาร ช้นิ งาน - การจุดสนี ำ้ ลงใน เด็กสามารถแสดงความพอใจ และ เคร่อื งมอื ส่ือสารตามจินตนาการ ภาคภมู ใิ จในการนำเสนอผลงานของ ๒ ตนเอง ๒.เดก็ รจู้ กั วิธกี ารใช้เครื่องมือ ใบงาน : การตดั กระดาษรปู ภาพ มฐ.9 ตบช.๙.๑.๒ ส่ือสารให้เปน็ ประโยชน์ เช่น เครื่องมอื สื่อสาร การนำเสนอผลงานผา่ นการเลา่ เร่ืองดว้ ย โทรศพั ท์มอื ถือ โทรทัศน์ ประโยคอยา่ งตอ่ เน่ืองเกีย่ วกับหนังสือ 3 Big Book เร่ือง การส่ือสารของหนู 3. เดก็ การพับกระดาษ ใบงาน : การพับกระดาษเพ่ือไว้ มฐ.1๐ ตบช.1๐.๑.๑ ตกแต่ง Big Book เรื่อง การ บอกลักษณะและสว่ นประกอบของ สือ่ สารของหนู 4. สง่ิ ของตา่ ง ๆ จากการสงั เกตโดยใช้ 4. การประดษิ ฐ์ Big Book นวัตกรรม : การประดษิ ฐ์ Big ประสาทสมั ผสั เรือ่ ง การส่ือสารของหนู Book เร่ือง การสอ่ื สารของหนู มฐ.1๐ ตบช.1๐.๓.๑ 5 ตัดสนิ ใจในเรอื่ งง่ายๆและยอมรับผล 5. นำเสนอผลงาน Big Book 6 ทเ่ี กดิ ขน้ึ เรอื่ ง การสื่อสารของหนู นวตั กรรม : นำเสนอผลงาน Big มฐ.11 ตบช.11.1.1 Book เรอ่ื ง การส่อื สารของหนู สร้างผลงานศลิ ปะเพอ่ื ส่ือสารความคิด 6.เด็กสามารถแสดงความ ความรสู้ กึ ของตนเองโดยมีการดัดแปลง พอใจในการนำเสนอผลงาน โดยใช้ และแปลกใหม่จากเดมิ หรอื มีรายละเอยี ด และภาคภมู ิใจในความสามารถ “เทคนิคการสอนแบบพัฒนา เพม่ิ ขึน้ ของตนเอง ทักษะการนำเสนอผลงานของ มฐ.12 ตบช.12.2.2 ค้นหาคำตอบของข้อสงสยั ตา่ ง ๆ ตาม เด็กปฐมวยั ” (3 Step: D & 2 Presentation) วิธกี ารของตนเอง


































































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook