งานชนิ้ ที่ 1 เรือ่ ง องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์ จัดทาโดย นางสาว ศภุ านนั สขุ ฤกษ์ ปวส.1 คอมพวิ เตอร์ 1 เลขที่ 25 เสนอ อาจารย์ ทวศี ักด์ิ หนทู ิมงานชนิ้ นีเ้ ปน็ สว่ นหนึ่งของวิชาการประกอบเครอื่ ง คอมพวิ เตอร์ วิทยาลัยอาชีวศกึ ษานครศรีธรรมราช
องคป์ ระกอบของคอมพวิ เตอร์คอมพวิ เตอร์ทางานอยา่ งเป็นระบบ(System) หมายถึงภายในระบบงานคอมพวิ เตอร์ประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบย่อยทีม่ หี นา้ ทเี่ ฉพาะ ทางานประสานสมั พันธ์กัน เพอ่ื ให้งานบรรลตุ ามเป้าหมาย ในระบบงานคอมพวิ เตอร์ การที่มเี ครอ่ื งคอมพิวเตอรเ์ พียงอยา่ งเดียว จะยังไม่สามารถทางานไดด้ ้วยตัวเอง ซึ่งหากจะใหค้ อมพวิ เตอร์ทางานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบและมีประสทิ ธิภาพแล้วระบบคอมพวิ เตอรค์ วรจะประกอบไปด้วยองค์ประกอบคือ1. ฮาร์ดแวร์ (HARDWARE) ฮารด์ แวรเ์ ป็นองค์ประกอบของตวั เครื่องที่สามารถจบั ต้องได้ ได้แก่ วงจรไฟฟ้า ตัวเคร่ืองจอภาพ เครือ่ งพิมพ์ คียบ์ อร์ด เป็นต้นซึ่งสามารถแบ่งส่วนพืน้ ฐานของฮาร์ดแวรเ์ ป็น 4 หนว่ ยสาคัญ 1.1 หนว่ ยรบั ข้อมูลหรอื อินพุต (Input Unit) ทาหนา้ ทีร่ บั ข้อมูลและโปรแกรมเข้า เครอ่ื งได้แก่ คีย์บอร์ดหรอื แป้นพิมพ์ เมาส์ เครื่องสแกน เครื่องรูดบัตร Digitizer เป็นต้น 1.2 ระบบประมวลผลกลางหรอื ซีพียู (CPU : Central Processing Unit) ทาหนา้ ที่ในการทางานตามคาส่งั ที่ปรากฏอยู่ในโปรแกรม ปจั จุบนั ซีพียขู องเครอ่ื งพีซี รู้จกั ในนามไมโครโปรเซสเซอร์(Micro Processor) ไมโครโปรเซสเซอร์ มีหน้าทีใ่ นการประมวลผลข้อมูล ในลักษณะของการคานวณและเปรียบเทียบ โดยจะทางานตามจังหวะเวลาที่แน่นอน เรยี กว่าสัญญาณClockเมื่อมีการเคาะจงั หวะหน่งึ ครง้ั กจ็ ะเกิดกิจกรรม1ครั้ง เราเรียกหน่วยทีใ่ ชใ้ นการวัดความเร็วของซีพียูว่า “เฮิร์ท”(Herzt) 1.3 หนว่ ยเกบ็ ข้อมูล (Storage) ซึง่ สามารถแยกตามหน้าทีไ่ ด้เป็น 2 ลกั ษณะ คอื1.3.1 หนว่ ยเก็บข้อมูลหลกั หรอื ความจาหลกั (Primary Storage หรอื Main Memory) ทาหนา้ ทีเ่ กบ็โปรแกรมหรือข้อมลู ทีร่ บั มาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งให้หน่วยประมวลผลกลางทาการประมวลผล และรับผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลเพื่อส่งออกหน่วยแสดงขอ้ มูลต่อไป
1.3.2 หนว่ ยเกบ็ ข้อมลู สารอง(Secondary Storage) เป็นหนว่ ยทีท่ าหน้าที่เกบ็ ข้อมลู หรอื โปรแกรมที่จะป้อนเข้าสู่หนว่ ยความจาหลกั ภายในเครื่องก่อนทาการประมวลผลโดยซีพียแู ละเกบ็ ผลลัพธ์จากการประมวลผลน้ันดว้ ย ปัจจบุ ันรู้จักในนามฮาร์ดดสิ ก์(Hard disk) หรอื แผน่ ฟรอ็ ปปีดิสก์(Floppy Disk) 1.4 หนว่ ยแสดงขอ้ มูลหรือเอาต์พุต(Output Unit) ทาหนา้ ที่ในการแสดงผลลพั ธ์ทีไ่ ด้จากการประมวลผล ได้แก่ จอภาพ และเครื่องพิมพ์ เปน็ ต้น ท้ัง 4ส่วนจะเชือ่ มต่อกนั ด้วยบสั (Bus)ere toedit.2 ซอฟต์แวร์ (SOFTWARE) ซอฟต์แวร์ คือโปรแกรมหรือชุดคาส่ัง ที่สง่ั ให้ฮาร์ดแวร์ทางาน รวมไปถึงการควบคมุ การทางาน ของอปุ กรณ์แวดล้อมตา่ งๆ เช่น ฮาร์ดดสิ ก์ ดิสก์ไดร์ฟ ซีดีรอม การด์ อินเตอร์เฟสต่าง ๆ เป็นต้นซอฟต์แวร์ เป็นสิง่ ที่มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ แตร่ ับรู้การทางานของมนั ได้ ซึ่งตา่ งกับ ฮาร์ดแวร์(Hardware) ที่สามารถจับต้องได้ ซึง่ แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ 2.1 ซอฟต์แวร์ระบบ (System Software) คือโปรแกรม ที่ใชใ้ นการควบคมุ ระบบการทางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เช่น การบตู เครื่อง การสาเนาข้อมลู การจัดการระบบของดิสก์ชุดคาส่ังทีเ่ ขียนเปน็ คาสั่งสาเร็จรูป โดยผู้ผลิตเครือ่ งคอมพิวเตอร์ และมีมาพร้อมแล้วจากโรงงานผลติการทางานหรือการประมวลผลของซอฟต์แวรเ์ หล่านี้ ขึน้ กับเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องแบบมาเพื่อการปฏิบตั ิควบคมุ และมีความสามารถในการยืดหยุ่น การประมวลผลของเครือ่ งคอมพิวเตอร์
แบ่งออกเปน็ 4 ประเภทคือ2.1.1 โปรแกรมระบบปฏิบัติการ (Operating System) เป็นโปรแกรมที่ใช้ควบคมุ และติดตอ่ กบั อปุ กรณ์ต่างๆของเคร่อื งคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะการจัดการระบบของดสิ ก์ การบริหารหน่วยความจาของระบบถ้าขาดซอฟต์แวร์ชนิดนี้ จะทาให้เครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทางานได้ ตวั อย่างของซอฟต์แวร์ประเภทนี้ได้แก่ โปรแกรมระบบปฏิบัติการ Unix Linux DOS และ Windows (เวอร์ชั่นต่าง ๆ เช่น 9598 XP Vista ) เปน็ ต้น2.1.2 ตัวแปลภาษา (Translator) จาก Source Code ให้เปน็ Object Code (แปลจากภาษาที่มนษุ ย์เข้าใจ ให้เปน็ ภาษาที่เคร่อื งเข้าใจ) เป็นซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นการแปลภาษาระดับสงู ซึ่งเป็นภาษาใกล้เคียงภาษามนษุ ย์ ให้เป็นภาษาเคร่อื งก่อนทีจ่ ะนาไปประมวลผล ตวั แปลภาษาแบ่งออกเปน็ สองประเภทคือคอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเตอรพ์ ีทเตอร์ (Interpeter) คอมไพเลอร์จะแปลคาส่ังในโปรแกรมทั้งหมดก่อน แล้วทาการลิง้ (Link) เพื่อให้ได้คาสั่งทีเ่ ครื่องคอมพิวเตอร์เข้าใจ ส่วนอินเตอร์พีทเตอร์จะแปลทีละประโยคคาสั่ง แล้วทางานตามประโยคคาสง่ั นั้น การจะเลือกใช้ตวั แปลภาษาแบบใดน้ัน จะขึน้ อยู่กบั ภาษาที่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม2.1.3 ยูติลิต้ี โปรแกรม (Utility Program) คือซอฟต์แวร์เสริมช่วยใหเ้ ครือ่ งทางานมีประสิทธิภาพ มากขนึ้ เช่น ช่วยในการตรวจสอบดิสก์ ช่วยในการจัดเกบ็ ข้อมลู ในดิสก์ ช่วยสาเนาขอ้ มูล ช่วยซ่อมอาการชารุดของดสิ ก์ ช่วยค้นหาและกาจดั ไวรัส ฯลฯ เปน็ ต้น2.1.4 ติดตงั้ และปรบั ปรุงระบบ (Diagonostic Program) เปน็ ซอฟต์แวรท์ ีใ่ ชใ้ นการตดิ ต้ังระบบ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถติดต่อและใช้งานอปุ กรณ์ต่าง ๆ ที่นามาติดตง้ั ระบบ ได้แก่ โปรแกรมSetupและDriver ต่าง 2.2 ซอฟต์แวร์ประยกุ ต์ (Application Software) คือ ซอฟต์แวรห์ รอื โปรแกรมที่ทาให้คอมพิวเตอร์ทางานต่างๆ ตามที่ผใู้ ช้ต้องการ ไม่วา่ จะด้านเอกสาร บญั ชี การจดั เก็บข้อมูล เปน็ ต้นซอฟต์แวรป์ ระยุกต์สามารถจาแนกได้เปน็ 2 ประเภท คือ2.2.1 ซอฟต์แวรส์ าหรบั งานเฉพาะด้าน(Special Purpose Software) คือ โปรแกรมซึง่ เขียนขนึ้ เพื่อการทางานเฉพาะอย่างทีเ่ ราต้องการ บางที่เรียกว่า User’s Program เชน่ โปรแกรมการทาบัญชจี า่ ยเงินเดือน โปรแกรมระบบเช่าซือ้ โปรแกรมการทาสินค้าคงคลงั เปน็ ต้น ซึง่ แต่ละโปรแกรมก็มักจะมีเง่อื นไข หรอื แบบฟอร์มแตกต่างกันออกไปตามความต้องการหรือกฏเกณฑ์ของแตล่ ะหนว่ ยงานที่ใช้2.2.2 ซอฟต์แวรส์ าหรบั งานท่ัวไป(General Purpose Software) เป็นโปรแกรมประยกุ ต์ที่มผี จู้ ัดทาไว้เพือ่ ใช้ในการทางานประเภทต่างๆ ทวั่ ไป โดยผใู้ ช้คนอ่ืนๆ สามารถนาโปรแกรมนี้ไปประยุกต์ใชก้ บั ข้อมูลของตนได้ แต่จะไม่สามารถทาการดดั แปลง หรอื แก้ไขโปรแกรมได้ ผู้ใช้ไม่จาเป็นต้องเขียนโปรแกรมเองซึง่ เป็นการประหยัดเวลา แรงงาน และค่าใช้จ่ายในการเขียนโปรแกรม ดงั นน้ั การใช้โปรแกรมสาเรจ็ รปูจงึ เปน็ สิง่ ที่อานวยความสะดวกและเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ตวั อย่างโปรแกรมสาเร็จรูปที่นยิ มใช้ได้แก่MS-Office, Adobe Photosho, Internet Explorer และ เกมส์ตา่ งๆ เป็นต้น
3 บุคลากร (PEOPLEWARE) บุคลากรจะเป็นสิง่ สาคัญทีจ่ ะเป็นตวั กาหนดถึงประสิทธิภาพถึงความสาเรจ็ และความคุ้มค่าในการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึง่ สามารถแบ่งบุคลากรตามหน้าที่เกี่ยวข้องตามลกั ษณะงานได้ 6ด้าน ดังน้ี 3.1 นกั วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบ (Systems Analyst and Designer : SA) ทาหน้าที่ศกึ ษาและรวบรวมความตอ้ งการของผู้ใชร้ ะบบ และทาหนา้ ที่เป็นสื่อกลางระหว่างผใู้ ช้ระบบและนกั เขียนโปรแกรมหรือปรับปรงุ คุณภาพงานเดิม นักวิเคราะหร์ ะบบต้องมคี วามรเู้ กี่ยวกบั ระบบคอมพิวเตอร์ พืน้ ฐานการเขียนโปรแกรม และควรจะเปน็ ผู้มคี วามคิดรเิ ริ่มสร้างสรรค์มมี นุษย์สัมพนั ธ์ที่ดี 3.2 โปรแกรมเมอร์ (Programmer) คือบุคคลทีท่ าหน้าที่เขียนซอฟต์แวร์ตา่ งๆ(Software)หรอื เขียนโปรแกรมเพื่อสั่งงานให้เครือ่ งคอมพิวเตอร์ทางานตามความตอ้ งการของผใู้ ช้ โดยเขียนตามแผนผังที่นกั วิเคราะหร์ ะบบได้เขียนไว้ 3.3 ผใู้ ช้ (User) เปน็ ผู้ใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ ซึง่ จะเป็นผปู้ ฏิบตั ิหรอื กาหนดความต้องการในการใชร้ ะบบคอมพิวเตอร์ว่าทางานอะไรได้บ้าง ผใู้ ช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป
จะต้องเรียนรวู้ ิธีการใชเ้ ครอ่ื ง และวิธีการใช้งานโปรแกรม เพื่อให้โปรแกรมที่มีอยู่สามารถทางานได้ตามทีต่ ้องการ 3.4 ผปู้ ฏิบัติการ (Operator) สาหรับระบบขนาดใหญ่ เชน่ เมนเฟรม จะต้องมเี จ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ที่คอยปิดและเปิดเครือ่ ง และเฝ้าดูจอภาพเมื่อมปี ญั หาซึง่ อาจเกิดขัดข้องจะต้องแจง้System Programmer ซึ่งเปน็ ผู้ดูแลตรวจสอบแก้ไขโปรแกรมระบบควบคุมเครือ่ งอีกทีหนึ่ง 3.5 ผบู้ ริหารฐานขอ้ มูล (Database Administrator : DBA) บคุ คลทีท่ าหน้าทีด่ ูแลข้อมูลผา่ นระบบจดั การฐานข้อมูล ซึ่งจะควบคุมให้การทางานเป็นไปอย่างราบรน่ื นอกจากนี้ยงั ทาหน้าที่กาหนดสทิ ธิการใช้งานข้อมูล พร้อมทั้งดแู ลดาต้าเบสเซิรฟ์ เวอร์ใหท้ างานอย่างปกติดว้ ย 3.6 ผจู้ ดั การระบบ (System Manager) คือ ผวู้ างนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน เป็นผู้ที่มคี วามหมายต่อความสาเร็จหรือล้มเหลวของการนาระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งานเป็นอย่างมาก4ข้อมูลและสารสนเทศ4.1 ข้อมูล (DATA)หมายถึง ข้อเทจ็ จริงหรอื เหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขึน้ แล้วใช้ตวั เลขตวั อกั ษรหรอื สญั ลกั ษณ์ ต่างๆ ทาความหมายแทนสิ่งเหล่านั้น เช่น· คะแนนสอบวิชาภาษาไทยของนักเรียน· อายขุ องพนกั งานในบริษัทชินวตั รจากดั· ราคาขายของหนงั สือในร้านหนงั สอื ดอกหญ้า· คาตอบที่ผู้ถกู สารวจตอบในแบบสอบถาม
4.2 สารสนเทศ (INFORMATION)หมายถึง ข้อสรปุ ต่างๆ ทีไ่ ด้จากการนาข้อมูลมาทาการวิเคราะห์ หรอื ผ่านวิธีการที่ได้กาหนดขนึ้ ทั้งน้ีเพือ่ นาข้อสรุปไปใช้งานหรืออ้างองิ เช่น· เกรดเฉลี่ยของวิชาภาษาไทยของนักเรียน· อายุเฉลีย่ ของพนักงานในบริษัทชินวตั รจากัด· ราคาขายสงู สุดของหนงั สือในร้านหนังสอื ดอกหญ้า· ข้อสรุปจากการสารวจคาตอบในแบบสอบถาม5 กระบวนการทา งาน (PROCEDU RE)องค์ประกอบด้านนีห้ มายถึงกระบวนการทางานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการในการทางานกบั คอมพิวเตอร์ผู้ใชจ้ าเป็นต้องทราบขั้นตอนการทางานเพือ่ ให้ได้งานที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ซึ่งอาจจะมีขั้นตอนสลับซบั ซ้อนหลายข้ันตอน ดงั น้ันจงึ มีความจาเป็นต้องมีคมู่ ือปฏิบตั ิงาน เช่น คู่มอื ผใู้ ช้ ( user manual ) หรอื คู่มอื ผดู้ แู ลระบบ ( operation manual ) เป็นต้นหลักการทางานของคอ มพิ วเต อ ร์ระบบการทางานของคอมพิวเตอร์ การทางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเปน็ 4 ส่วน ดงั นี้1. หนว่ ยรบั ข้อมูล (Input Unit) ทาหนา้ ที่ในการรบั ข้อมลู หรอื คาสงั่ จากภายนอกเข้าไปเกบ็ ไว้ในหนว่ ยความจาเพือ่ เตรียมประมวลผลข้อมลู ที่ตอ้ งการ ซึ่งอปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการนาข้อมลู ทีใ่ ช้กันอยู่ตั้งแต่อดตี จนถึงปัจจุบนั น้ัน มีอยู่หลายประเภทด้วยกนั สาหรับอปุ กรณ์ทีน่ ยิ มใช้ในปจั จบุ ันมี ดงั ต่อไปนี้ - Keyboard - Mouse - Disk Drive - Hard Drive - CD-Rom - Magnetic Tape - Card Reader - Scanner
2. หนว่ ยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) ทาหนา้ ที่ในการคานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หนว่ ยย่อย คอื - หนว่ ยควบคุม ทาหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลาดบั ข้ันตอนของการประมวลผลและการทางานของอปุ กรณ์ต่างๆ ภายในหนว่ ยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหนว่ ยประมวลผลกลาง กับอปุ กรณ์นาเข้าข้อมลู อปุ กรณ์ในการแสดงผล และหนว่ ยความจาสารอง - หนว่ ยคานวณและตรรกทาหนา้ ทีใ่ นการคานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากหนว่ ยควบคุม และหนว่ ยความจา3. หนว่ ยความจา (Memory) ทาหนา้ ทีใ่ นการเก็บข้อมลู หรอื คาส่งั ต่างๆ ทีร่ ับจากภายนอกเข้ามาเกบ็ ไว้ เพื่อประมวลผลและยงั เก็บผลทีไ่ ด้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็นหนว่ ยความจา เปน็หนว่ ยความจาที่มอี ยู่ ในตัวเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ ทาหน้าทีใ่ นการเกบ็ คาสงั่ หรอื ข้อมูล แบ่งออกเปน็ - ROM หนว่ ยความจาแบบถาวร - RAM หนว่ ยความจาแบบชัว่ คราว - หนว่ ยความจาสารอง เป็นหนว่ ยความจาทีอ่ ยู่นอกเครือ่ ง มีหน้าที่ช่วยใหห้ นว่ ยความจาหลกั สามารถเกบ็ ขอ้ มูลได้มากขึ้น4. หนว่ ยแสดงผล (Output Unit) ทาหนา้ ที่ในการแสดงผลลทั ธ์ที่ได้หลังจากการคานวณและประมวลผล สาหรับอปุ กรณ์ที่ ทาหนา้ ทีใ่ นการแสดงผลขอ้ มูลที่ได้นนั้ มตี ่อไปนี้ - Monitor จอภาพ - Printer เครื่องพิมพ์ - Plotter เครื่องพมิ พ์ทีใ่ ชป้ ากกาในการเขียนข้อมลู ต่างๆ ทีต่ อ้ งการลงกระดาษ
น้องจอยจา๋ ขอบคณุ ครา้ บบบ
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: