หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 6 ปิโตรเลยี มและ ผลิตภัณฑ์ Here is where your presentation begins
ปิโตรเลยี ม มนุษยใ์ ชพ้ ลงั งานจากธรรมชาตจิ าก หลายแหลง่ เชน่ ปโิ ตรเลียมแกส๊ ธรรมชาติถ่านหินลมนา้ และแสงอาทติ ย์ปจั จุบนั โลกมีจา้ นวน ประชากรมากขนึ ความตอ้ งการใช้พลงั งานในด้านต่างๆเช่นดา้ นอุตสาหกรรมการขนส่งและการสื่อสารจึงเพ่ิมมากขนึ โดยแหล่งพลงั งาน จากธรรมชาตทิ ่นี า้ มาใชป้ ระโยชน์มากทส่ี ุดคอื ปิโตรเลยี มประเภทน้ามนั ดบิ และ แก๊สธรรมชาติ ปิโตรเลยี มจดั เปน็ เชอื เพลิงฟอสซิล หรือ เชือเพลงิ ซากดกึ ดา้ บรรพ์ เกดิ จากซากสิ่งมชี วี ิตทังพชื และสัตวท์ เี่ นา่ เปื่อยทบั ถมอยู่ใตท้ รายและโคลนตมเป็นเวลานานเกดิ การยอ่ ยสลาย กลายเป็นชาตคุ าร์บอน และไฮโดรเจน เม่ือคาร์บอนและไฮโดรเจนถูกกดทบั อยู่ใตเ้ ปลือกโลกท่มี ีความดนั และอุณหภูมิสงู เป็นเวลานาน จะ รวมตวั เป็นสารประกอบไฮโดรคารบ์ อนหลายชนิดปะปนกัน มที งั สารทม่ี สี ถานะเป็นของเหลว คือ นา้ มนั ดิบ และสารทีม่ ีสถานะเปน็ แก็ส คือ แก๊สธรรมชาติ โดยทว่ั ไปปโิ ตรเลียมถกู กกั เก็บอยภู่ ายใตพ้ นื ผิวโลกในชันหนิ ทรายท่อี ยรู่ ะหว่างชนั หินดนิ ดานเนอ่ื งจากหินทรายมีความ พรุนสงู จงึ ยอมใหน้ ้าและปโิ ตรเลียมซมึ ผ่านไดง้ า่ ย ปโิ ตรเลยี มจงึ แทรกอยู่ในชอ่ งวา่ งระหว่างเมด็ ทราย สว่ นหินดินดานมีสมบตั ิไม่ยอมให้ นา้ และปโิ ตรเลียมซมึ ผ่านไดง้ ่าย หินดินดานรีเปน็ ตวั อักเก็บ และปอ้ งกนั การระเหยของปโิ ตรเลยี ม
ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเลยี ม ● 1. ผลิตภณั ฑจ์ ากนา้ มนั ดบิ และการใช้ประโยชน์ ● 1) แกส๊ ธรรมชาติเหลว (Liquefied Petroleur Gls : LPG หรือเรยี กวา่ แกส๊ หุงต้มเป็นผลติ ภณั ฑ์ท่ีไดจ้ ากกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ และจากกระบวนการกล่นั น้ามนั ดิบ มสี ถานะเป็นแก๊สที่อุณหภูมแิ ละความดนั บรรยากาศ ประกอบดว้ ยแก๊สโพรเพน (CH) และแก้สบิวเทน (CH) โดยมีสว่ นผสมแตกตา่ งกันออกไปแลว้ แตก่ ารผลติ ● 2 ผลติ ภัณฑจ์ ากแก๊สธรรมชาติและการใชป้ ระโยชน์ ● 1) แก๊สมเี ทน (CH) ส่วนใหญ่ถูกน้าไปใช้เป็นเชอื เพลงิ ในการผลติ 18 แลไฟฟา้ และโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนนั ยังสามารถใช้เปน็ เชอื เพลิงในรถยนต์ โดยการอดั ใสถ่ งั ดว้ ยความดนั สูง เรียกวา่ แกส๊ ธรรมชาติอัด ● 2) แก๊สอีเทน (CH) และแก๊สโพรเพน (CH) ใชเ้ ป็นวตั ถดุ ิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เพ่ือนา้ ไปผลติ เปน็ เมด็ และเสน้ ใยพลาสตกิ ชนดิ ตา่ ง ๆ และนา้ ไปสู่กระบวนการแปรรูปต่อไป ● 3) แก๊สโพรเพน (CH) และแก๊สบวิ เทน (CH10) เมอ่ื นา้ แก๊สทงั สองชนดิ มารวมกันจะไดแ้ ก๊สปิโตรเลียมเหลว(Liquefied Petroleum Gas : LPG) หรอื เรยี กวา่ แกส๊ หุงต้ม ใชเ้ ปน็ เชือเพลิงในครัวเรอื น ● 4) แกส้ โซลนี ธรรมชาติเหลว (C ) แก๊สธรรมชาตเิ มื่อผ่านกระบวนการแยกในโรงแยกแก็สธรรมชาตแิ ลว้ จะมีบางสว่ นท่ีมสี ถานะเปน็ ของเหลว ● 5) คารบ์ อนไดออกไซด์ (CO) เป็นผลิตภัณฑ์พลอยได้จากกระบวนการแยกแก๊สธรรมชาตซิ ่ึงสามารถนา้ ไปใชป้ ระโยชนไ์ ดห้ ลากหลาย เช่น ใชผ้ ลิตนา้ แขง็ แห้งสา้ หรับอตุ สาหกรรมถนอมอาหาร
ผลกระทบจากผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลียม ผลกระทบจากผลิตภณั ฑป์ ิโตรเลยี ม ผลิตภัณฑป์ ิโตรเลียมมสี ารประกอบไฮโดรคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลกั เมอ่ื เผาไหมจ้ ะเกดิ ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งสาร ไฮโดรคารบ์ อนกบั ออกซเิ จน ได้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์และน้า ปฏิกริ ิยานเี กิดได้สมบรู ณเ์ ม่ือมปี รมิ าณแกส๊ ออกซเิ จนเพียงพอ สารประกอบไฮโดรคาร์บอนส่วนใหญ่ทีน่ ้ามาใชป้ ระโยชน์ ไดม้ าจากน้ามนั ดบิ และแก๊สธรรมชาติ องคป์ ระกอบหลักของแก๊ส ธรรมชาติ คอื แกส๊ มเี ทน เมื่อเผาไหมส้ มบรู ณ์จะใหแ้ ก๊สคาร์บอนไดออกไซดแ์ ละนา้ แนวทางการป้องกันสา้ หรบั ผเู้ กี่ยวข้องกับตวั ทา้ ละลาย คือ ควรศึกษาความเปน็ อันตรายของสารจากเอกสารหรือฉลากที่ ตดิ มากบั ผลิตภัณฑ์ ใชส้ ารตามค้าแนะนา้ ใสอ่ ุปกรณป์ ้องกันไมใ่ ห้ตัวทา้ ละลายเข้าสู่รา่ งกาย ใชใ้ นทท่ี ี่มอี ากาศถ่ายเทไดด้ ี ท้า ความสะอาดมอื และรา่ งกายหลังจากการสมั ผสั ตวั ท้าละลาย และควรหลกี เลย่ี งการสูดดมกล่นิ ไอของสารเหล่านี
สถานการณก์ ารใชป้ โิ ตรเลียม สถานการณ์การใชป้ โิ ตรเลียม สถานการณก์ ารใช้พลงั งานเชือเพลงิ ฟอสซลิ มสี ูงขึนเร่อื ยๆอยา่ งสามารถด้านมแี น่นอนท้าใหเ้ กดิ วิกฤตพลังงานเนือ่ งจากมี จา้ นวนไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการใช้งานส้าหรับประเทศไทยน้ามนั สา้ เร็จรปู ยังคงเป็นพลังงานทใี่ ชม้ ากทสี่ ุดรองลงมาคือ พลังไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนถ่านหินลกิ ไนตแ์ ละกา๊ ซธรรมชาตโิ ดยพบวา่ การใช้พลังงานในสาขาขนสง่ มสี ดั สว่ นการใช้สงู สดุ รองลงมาเปน็ สาอุตสาหกรรมบา้ นอยอู่ าศัยธุรกจิ รา้ นค้าและเกษตรกรรม พลงั งานทดแทนคือพลังงานทีใ่ ช้แทนพลงั งานเชอื เพลิงฟอสซิลหรือเรียกวา่ พลังงานหมนุ เวียนซง่ึ ถือว่าเป็นพลังงานที่ใช้ไม่ หมดเช่นพลงั งานแสงอาทิตย์พลงั งานลมพลังงานนิวเคลียสพลงั งานความร้อนใต้พภิ พ เซลลแ์ สงอาทิตยเ์ ปน็ ประดษิ ฐก์ รรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ทส่ี ร้างขึนเพ่อื เป็นอุปกรณส์ า้ หรบั เปล่ยี นพลังงานแสงอาทิตยใ์ ห้เปน็ พลังงานไฟฟา้ โดย การน้าสารกง่ึ ตัวนา้ เชน่ ซลิ คิ อนซ่งึ มรี าคาถกู รัฐมมี ากทส่ี ดุ บนพนื โลกมากระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์เพื่อ ผลิตเป็นแผ่นบางบริสุทธิ์และเมอ่ื แสงอาทิตยก์ ระทบบนแผ่นเซลลจ์ ะทา้ ให้เกดิ ไฟฟา้ กระแสตรง การใช้ประโยชนจ์ ากเชือเพลิงฟอสซลิ และผลติ ภัณฑ์ปิโตรเลียมอย่างฟุม่ เฟือย และขาดการควบคุมทด่ี ี นอกจากจะ กอ่ ให้เกิดผลเสียตอ่ สง่ิ แวดลอ้ มแล้ว ยงั ท้าใหป้ ริมาณเชอื เพลิงฟอสซิลลดลงอย่างรวดเร็วโลกอาจจะขาดแคลนเชือเพลิงฟอสซลิ ในอนาคตอนั ใกล้ จงึ ควรน้าพลังงานทดแทนมาใชเ้ ป็นทางเลือกเพื่อทดแทนการใช้พลังงานฟอสซลิ
ผลกระทบจากผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลียม ผลกระทบจากผลิตภณั ฑป์ ิโตรเลยี ม ผลิตภัณฑป์ ิโตรเลียมมสี ารประกอบไฮโดรคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลกั เมอ่ื เผาไหมจ้ ะเกดิ ปฏิกริ ยิ าระหวา่ งสาร ไฮโดรคารบ์ อนกบั ออกซเิ จน ได้แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์และน้า ปฏิกริ ิยานเี กิดได้สมบรู ณเ์ ม่ือมปี รมิ าณแกส๊ ออกซเิ จนเพียงพอ สารประกอบไฮโดรคาร์บอนส่วนใหญ่ทีน่ ้ามาใชป้ ระโยชน์ ไดม้ าจากน้ามนั ดบิ และแก๊สธรรมชาติ องคป์ ระกอบหลักของแก๊ส ธรรมชาติ คอื แกส๊ มเี ทน เมื่อเผาไหมส้ มบรู ณ์จะใหแ้ ก๊สคาร์บอนไดออกไซดแ์ ละนา้ แนวทางการป้องกันสา้ หรบั ผเู้ กี่ยวข้องกับตวั ทา้ ละลาย คือ ควรศึกษาความเปน็ อันตรายของสารจากเอกสารหรือฉลากที่ ตดิ มากบั ผลิตภัณฑ์ ใชส้ ารตามค้าแนะนา้ ใสอ่ ุปกรณป์ ้องกันไมใ่ ห้ตัวทา้ ละลายเข้าสู่รา่ งกาย ใชใ้ นทท่ี ี่มอี ากาศถ่ายเทไดด้ ี ท้า ความสะอาดมอื และรา่ งกายหลังจากการสมั ผสั ตวั ท้าละลาย และควรหลกี เลย่ี งการสูดดมกล่นิ ไอของสารเหล่านี
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: