Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book 6

E-book 6

Published by sumalee phummarin, 2022-06-01 09:37:50

Description: E-book 6

Search

Read the Text Version

ชื่อวทิ ยาศาสตร์ Zingiber officinale Roscoe จดั อยูใ่ นวงศ์ขิง (ZINGIBERACEAE) ช่อื ท้องถนิ่ ขิงแกลง, ขิงแดง (จนั ทบรุ )ี , ขิงเผอื ก (เชยี งใหม่), สะเอ (แม่ฮอ่ งสอน)[2], ขงิ บา้ น, ขงิ แครง, ขิงปา่ , ขงิ เขา, ขิงดอกเดยี ว (ภาคกลาง), เกีย (จีนแต้จว๋ิ ) สรรพคณุ 1. เหงา้ : รสหวานเผ็ดร้อน ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสยี ด แน่นเฟ้ คลนื่ ไสอ้ าเจยี น แก้หอบไอ ขบั เสมหะ แกบ้ ดิ เจรญิ อากาศธาตุ สารสําคัญใน น้าํ มันหอมระเหย จะออกฤทธ์กิ ระตนุ้ การบีบตวั ของกระเพาะอาหารและลําไส้ ใชเ้ หง้าแกท่ บุ หรือบดเปน็ ผง ชงนํา้ ดื่ม แกอ้ าการคล่ืนไส้อาเจยี น แก้จุกเสียด แนน่ เฟอ้ เหง้าสด ตําค้นั เอานํ้าผสมกับน้ํามะนาว เตมิ เกลือเลก็ น้อย จิบแกไ้ อ ขบั เสมหะ 2. ตน้ : รสเผด็ รอ้ น ขับลมให้ผายเรอ แกจ้ ุกเสยี ด แก้ทอ้ งร่วง 3. ใบ : รสเผด็ รอ้ น บํารงุ กาํ เดา แก้ฟกชาํ้ แก้นวิ่ แก้ขดั ปสั สาวะ แก้โรคตา ฆ่าพยาธิ 4. ดอก : รสเผด็ รอ้ น แก้โรคประสาทซึ่งทาํ ใหใ้ จขุ่นมวั ชว่ ยย่อย อาหาร แกข้ ัดปัสสาวะ 5. ราก : รสหวานเผด็ ร้อนขม แกแ้ นน่ เจริญอาหาร แกล้ ม แก้ เสมหะ แกบ้ ิด 6. ผล : รสหวานเผ็ด บาํ รุงน้าํ นม แก้ไข้ แกค้ อแหง้ เจ็บคอ แกต้ า ฟาง เป็นยาอายวุ ัฒนะ 7. แก่น : ฝนทํายาแกค้ ัน

สภาพแวดลอ้ มท่ีเหมาะสม ขงิ เจริญเตบิ โตไดด้ ีในดินร่วนปนทราย การระบายน้าํ และการ ถา่ ยเทอากาศดี มีอินทรยี วตั ถุและ ธาตุอาหารสงู ความเปนกรดด่าง ( ph) ระหวาง 6.-6.5 ปรมิ าณฝน ระหวาง 80-100 น้วิ ตอป สามารถ ปลกู ไดต้ังแต ระดับน้ําทะเลถงึ ระดับความสูง 1,500 เมตร จากสภาพแวดลอมดังกลาวทําให สามารถปลกู ขิงไดท่ัวประเทศ การคัดเลอื กพันธ์ุ ท่อนพันธ์ุขิงหรือแง่งขงิ ท่จี ะนาํ มาขยายพนั ธ์ุ ควรคัดเลอื กทอนพนั ธุ ที่มีลกั ษณะดงั นี้ 1. ปราศจากโรคและแมลง 2. เป็นขงิ แกอายุ 10-20 เดือน 3. ขอถ่ี แงงใหญ 4. ตาเตง 5. เน้ือขิงไมนิ่ม ผวิ เป็นมนั การขยายพันธ์ุ ขงิ ใชว้ ิธกี ารขยายพันธ์แุ บบไมใ่ ช้เพศ โดยส่วนท่ใี ช้ขยายพันธุ์คือ เหง้า การปลูก : การเตรยี มดินปลกู โดยทําการไถพรวนดิน 3-4 ครั้ง จากน้ันกท็ าํ การยกแปลงหรือยก รอ่ งปลกู ถ้าปลูกแบบแปลงก็ทําให้การยกแปลงปลูกให้มขี นาดกว้าง 1 เมตร สูง 15-20 เซนติเมตร ความยาวขึน้ อยู่กบั ขนาดพ้ืนท่ี ถา้ ปลูกแบบรอ่ งกท็ ําเปน็ ร่องปลูก โดยให้ระยะหา่ งระหว่างร่องประมาณ 50-70 เซนติเมตรส่วนความสูง และความยาวก็เชน่ กนั ก่อนการปลกู จึงควรหาปุย๋ อินทรยี อ์ าจเปน็ ป๋ยุ คอกหรอื

ป๋ยุ หมักก็ไดใ้ นอตั รา 3-4 ต้น/ไร่ ใส่ปนู ขาวประมาณ 200-400 กโิ ลกรัม / ไร่ ควรรดนํา้ ทง้ิ ไว้ 15-30 วัน จงึ ค่อยลงมอื ปลกู ต่อไป การเตรียมพนั ธุ์ปลกู : ทําการตดั ท่อนพนั ธ์ุเป็นทอ่ น ๆ ยาว ประมาณท่อนละ 2 น้ิว โดยแต่ละท่อนใหม้ ีตาบนแงง่ ประมาณ 2-3 ตา นาํ ท่อนพันธดุ์ งั กลา่ วไปแช่ในนํ้ายากาํ จัดเช้อื ราอีกคร้งั อาจใช้ยาพวกไดโฟลาแทน หรอื แมนเซ็ท-ดี ในอัตรา 2-4 ชอ้ นแกงตอ่ นาํ้ 1 ปีบ หรอื ใช้เบนเลทในอตั รา 1 ช้อนแกงตอ่ นํ้า 1 ปีบ แชไ่ วป้ ระมาณ 10-15 นาที หรอื อาจใช้วธิ ีคลกุ ด้วยยาซรี ี แซนผงผสมน้ําคลกุ ไดเ้ ช่นกนั นําท่อนพันธท์ุ ่ีแช่หรอื คลุกยาดงั กล่าวมาผ่ึงแดด ให้แหง้ อกี คร้งั หนึ่ง จงึ คอ่ ยนําไปปลูก สาํ หรบั พ้นื ทปี่ ลกู 1 ไร่ จะใช้ท่อนพนั ธ์ุ ขิงประมาณ 200-400 กโิ ลกรัม วิธีการปลูกและระยะปลูก : การปลกู โดยอาศัยน้าฝน เป็นการปลกู ในร่องหรอื ระหวา่ งร่อง โดยมสี ันร่องสูงประมาณ 15-20 เซนตเิ มตร ปลกู ก็โดยนําท่อนพันธวุ์ างลงใน หลุมปลกู หลมุ ละ 1 ท่อน หลุมปลูกควรมีความลกึ ประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร ระยะระหว่างหลมุ 20-25 เซนตเิ มตร และระยะหา่ งระหว่างแถวประมาณ 50- 70 เซนติเมตร ในพ้ืนที่ 1 ไร่ จะใชท้ ่อนพันธุ์ปลกู ประมาณ 190-230 กโิ ลกรัม การปลูกโดยอาศัยน้าชลประทาน โดยจะทาํ การปลกู บนสนั ร่อง ร่องปลูกสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร และมคี วามกวา้ งประมาณ 1 เมตร ระหวา่ งแปลงปลกู ควรมีทางระบายน้ํากว้างประมาณ 30 เซนตเิ มตร วธิ นี จ้ี ะใช้ ระยะปลูกที่หา่ งกวา่ วธิ แี รกเพอื่ สะดวกในการใชน้ ้าํ ซึง่ ไม่เหมอื นกบั การปลูกใน วิธแี รก ทต่ี ้องปลกู ชิดเพื่อรกั ษาความชื้นเอาไว้ มหี ลมุ ปลกู ลึกประมาณ 4-5 เซนตเิ มตร ระยะปลกู ระหวา่ งต้น 30-35 เซนติเมตร ระหว่างแถวประมาณ 50-70 เซนติเมตร การปลกู ขงิ อ่อน เตรยี มแปลงแล้วก็นาํ เอาแงง่ ขงิ ทีเ่ ตรยี มไว้ลงใน แปลงปลกู โดยใชม้ ือคุ้ยทรายหรือเสียมเล็ก ๆ กไ็ ด้ ลกึ ประมาณ 8 เซนตเิ มตร

แลว้ วางทอ่ นพันธ์ุในแนวต้ัง หลังจากปลกู ประมาณ 1 เดือน ขิงจะแทงหนอ่ ข้ึนมาให้เหน็ มคี วามสูงประมาณ 15-20 เซนตเิ มตร ขิงมีอายุได้ 2 เดือน ขิงรนุ่ แรกจะโผล่พน้ พ้ืนทรายขึน้ มาสูงประมาณ 15-20 เซนติเมตร ถ้าหากสูงขน้ึ มา ประมาณ 30-40 เซนตเิ มตร ก็ทาํ การเก็บหนอ่ ขายได้ ระยะเวลาทีเ่ กบ็ แต่ละ คร้ังจะห่างกนั ประมาณ 12-15 วนั จากสถติ ิผลผลติ ท่ีได้นัน้ แม่ขิงท่ีเพาะ 100 กโิ ลกรมั จะเก็บขิงออ่ นรนุ่ แรกได้ประมาณ 13 กิโลกรมั สว่ นรนุ่ หลงั ๆ จะเก็บ ไดร้ ่นุ ละประมาณ 6-12 กโิ ลกรัม การปฏิบัตดิ ูแลรักษา การใหน้ ้า โดยตดิ ตั้งระบบการใหน้ ํ้าแบบสปริงเกอร์ ซงึ่ อาจจะตอ้ ง ลงทุนสกั หนอ่ ย แตเ่ มือ่ เทยี บกบั ผลทไี่ ดแ้ ล้วกน็ บั ไดว้ ่าคุ้มกันอยู่ หากพบวา่ หน้า ดนิ และตน้ ขิงเรม่ิ แสดงอาการเหยี่ วควรทาํ การใหน้ า้ํ ทันที ส่วนการปลกู โดย อาศยั การชลประทานนัน้ เมื่อตรวจแปลงปลกู พบว่าดนิ เริม่ แห้ง ก็ทําการทดน้าํ เขา้ แปลงปลกู หากพบว่าในแปลงปลูกมีน้าํ ท่วมขังให้รีบระบายนาํ้ ออกทนั ที การคลมุ ดิน จะสามารถลดคา่ ใช้จา่ ยในการกาํ จัดวัชพืชไปด้วย ช่วยรกั ษาความชน้ื ในแปลงปลูก สําหรับวัสดุคลมุ ดนิ ทใ่ี ช้นน้ั กห็ าทีม่ ีอยตู่ าม หมบู่ ้าน เชน่ ทางมะพรา้ ว ใบหญ้าคา ฟางขา้ ว เปน็ ต้น การใสป่ ุ๋ย สําหรบั ปุ๋ยท่ใี ชค้ อื ป๋ยุ สูตร 15-15-15 ซง่ึ จะใชเ้ ป็นปยุ๋ รอง พ้นื ในอัตรา 50-60 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ ตอ่ จากนัน้ เม่อื ขงิ อายุได้ 2 เดือน และ 4 เดอื น จะใชป้ ุ๋ยสตู ร 13-13-21 ในอัตรา 50-60 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ การใสค่ วรใส่ ระหวา่ งหลมุ ปลูกประมาณหลุมละ 1 ช้อนชา การก้าจัดวัชพืช จะเรม่ิ ต้ังแตก่ ารเตรียมแปลงปลูก โดยในการไถ จะต้องทําการไถพรวนเกบ็ เอาเศษวชั พืชออกใหห้ มด หลังจากปลูกขงิ เรียบร้อย แลว้ นั้น สามารถทจี่ ะทาํ ได้วธิ ีเดยี ว คอื ใช้มือถอน เนอื่ งจากเป็นวิธที ี่ กระทบกระเทอื นต่อขิงนอ้ ยทีส่ ดุ

การกลบโคน หรอื ถมโคน นอกจากจะเป็นการกาํ จดั วัชพืชไปในตวั แลว้ ยังเป็นการกระตนุ้ ใหข้ ิงแตกหน่อแตกกอดี และแงง่ จะเจรญิ สมบูรณ์ คร้งั แรก ทาํ การกลบโคนเม่อื ขงิ มอี ายุ 2 เดือน หรอื เมอ่ื ต้นขิงงอกข้นึ มาได้ประมาณ 3 ตน้ โดยใชจ้ อบโกยดินบนสันรอ่ งกลบโคนตน้ ขิงเพยี งคร่ึงหนงึ่ ของร่อง ครงั้ ท่ี สอง กระทาํ หลงั จากครั้งแรกประมาณ 1 เดือน คอื เมอ่ื ขงิ มอี ายุ 3 เดอื น โรคและแมลงศัตรู 1. โรคแอนแทรคโนส อาการ ใบของของจะแสดงอาการเปน็ จุดเล็ก ๆ มีลักษณะกลมเหมอื นรปู ไข่ และจะขยายจนมขี นาดใหญ่ชนกนั ++ การ ปอ้ งกนั กาํ จดั ++ สารเคมที ่ใี ชก้ ําจัดโรคแอนแทรคโนส มพี วก ไดโฟลาแทน หรือเบนเลท ใช้ฉีดพ่นไปท่ใี บให้ทั่วทั้งแปลงปลูก 2. โรคใบจดุ อาการ ขิงท่ีเปน็ โรคจดุ จะมอี าการเกิดจดุ ฉํ่านา้ํ สี เหลืองบนใบและลําตน้ ++ การปอ้ งกันกาํ จัด ++ สารเคมที ี่ใชใ้ นการฉีดพ่นอาจ ใช้ไดฟลู าแทน หรือเบนเลทกไ็ ด้ 3. โรครากปมอาการ เมอื่ ไสฝ้ อยชนดิ นี้จะเข้าทาํ ลายทางรากกทํา ให้รากแสดงอาการเปน็ ปุม่ ปมไมเ่ จรญิ ++การปอ้ งกนั กําจัด ++ ใชย้ าป้องกัน กําจดั ไส้เดอื นฝอย เชน่ คาโบฟูราน 3 จี รองกน้ หลมุ หรอื จะหวา่ นไปทว่ั ทง้ั แปลงก่อนปลกู โดยจะใส่ในอัตรา 20-30 กโิ ลกรัมต่อไร่ หรือจะใชย้ านมี ากอน หว่านลงดนิ ก่อนไถแปร แลว้ ปลอ่ ยทงิ้ ไว้ 15-20 วัน จงึ คอ่ ยนาํ เอาแงง่ พนั ธ์ุไป ปลูก การเกบ็ เกี่ยว การเกบ็ เกย่ี วขิงออ่ น จะเร่มิ เก็บเมือ่ อายปุ ระมาณ 4-6 เดอื น ผลผลติ ของแงง่ สดไดป้ ระมาณ 3,000-4,000 กโิ ลกรมั ตอ่ ไร่ การเก็บเกยี่ วขงิ แก่ จะเริม่ เก็บเมอ่ื ขิงมอี ายไุ ด้ประมาณ 8-12 เดือน โดยจะสงั เกตได้จากใบและลาํ ตน้ เริ่มมอี าการเห่ียวเฉาผลผลติ ทไ่ี ด้ ประมาณ 3,000-5,000 กโิ ลกรมั

ที่มา : https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=1540& s=tblplant https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0% B8%87


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook