Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore E-book 8

E-book 8

Published by sumalee phummarin, 2022-06-01 09:58:14

Description: E-book 8

Search

Read the Text Version

ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Zingiber montanum (Koenig) Link ex Dietr. ชอ่ื ท้องถ่ิน ไพล , ว่านไฟ(ภาคกลาง), ปเู ลย, ปลู อย (เหนือ), ม้นิ สะล่าง (เง้ยี ว - แมฮ่ อ่ งสอน), ปันเลย (เขมร) ส่วนทีใ่ ชเ้ ป็นยา เหง้าแก่จดั เก็บหลังจากต้นไพลลงหัวแล้ว สรรพคณุ เหงา้ - เปน็ ยาแก้ท้องขนึ้ ทอ้ งอดื เฟ้อ ขับลม - แกบ้ ดิ ท้องเดนิ ขับประจาเดือนสตรี ทาแกฟ้ กบวม แก้ผ่ืนคัน - เป็นยารกั ษาหืด - เป็นยากันเล็บถอด - ใช้ตม้ นา้ อาบหลงั คลอด น้าคั้นจากเหง้า - รกั ษาอาการเคล็ดขดั ยอก ฟกบวม แพลงชา้ เมอ่ื ย หัว - ช่วยขบั ระดู ประจาเดือนสตรี เลือดรา้ ย แกม้ ุตกิตระดูขาว - แก้อาเจยี น - แกป้ วดฟนั ดอก - ขบั โลหิตกระจายเลือดเสีย

ต้น - แกธ้ าตุพกิ าร แก้อุจาระพิการ ใบ - แกไ้ ข้ ปวดเมอ่ื ย แก้คร่นั เนื้อคร่ันตวั แกเ้ ม่ือย วธิ แี ละปรมิ าณทใ่ี ช้ 1. แก้ท้องข้นึ ทอ้ งอดื ทอ้ งเฟ้อ ขบั ลม ใช้เหงา้ แห้งบดเป็นผง รบั ประทานคร้ังละ ½ ถึง 1 ชอ้ นชา ชงน้ารอ้ น ผสมเกลอื เลก็ น้อย ด่มื 2. รักษาอาการเคล็ดขดั ยอก ฟกช้าบวม ข้อเท้าแพลง ใช้หวั ไพลฝน ทาแกฟ้ กบวม เคล็ด ขัด ยอก ใชเ้ หง้าไพล ประมาณ 1 เหงา้ ตาแลว้ ค้ันเอาน้า ทาถนู วดบรเิ วณทม่ี อี าการ หรือตาใหล้ ะเอียด ผสมเกลือเล็กน้อยคลกุ เคลา้ แลว้ นามาห่อเป็นลกู ประคบ อังไอนา้ ใหค้ วามรอ้ น ประคบบริเวณปวดเมอื่ ย และบวมฟกช้า เช้า-เย็น จนกว่าจะหาย หรอื ทาเป็นนา้ มนั ไพลไวใ้ ช้กไ็ ด้ โดย เอาไพล หนัก 2 กโิ ลกรมั ทอดในน้ามันพชื รอ้ นๆ 1 กโิ ลกรัม ทอดจนเหลือง แลว้ เอาไพลออก ใส่กานพลผู งประมาณ 4 ชอ้ นชา ทอดตอ่ ไปดว้ ยไฟอ่อนๆ ประมาณ 10 นาที กรองแลว้ รอจนน้ามันอุน่ ๆ ใส่การบรู ลงไป 4 ช้อนชา ใส่ ภาชนะปิดฝามดิ ชดิ รอจนเยน็ จึงเขยา่ การบูรใหล้ ะลาย นา้ มนั ไพลนใ้ี ช้ทาถู นวดวนั ละ 2 คร้ัง เชา้ -เยน็ หรือเวลาปวด (สูตรนี้เปน็ ของ นายวบิ ูลย์ เข็มเฉลมิ อ.สนามชยั เขต จ.ฉะเชิงเทรา) 3. แกบ้ ดิ ทอ้ งเสยี ใช้เหงา้ ไพลสด 4-5 แวน่ ตาให้ละเอียด คน้ั เอา แตน่ ้าเติมเกลอื คร่ึงช้อนชา ใช้รบั ประทาน หรอื ฝนกับน้าปูนใส รับประทาน 4. เป็นยารักษาหดื ใชเ้ หงา้ ไพลแห้ง 5 สว่ น พรกิ ไทย ดปี ลี อยา่ ง ละ 2 ส่วน กานพลู พมิ เสน อยา่ งละ ½ สว่ น บดผสมรวมกัน ใช้ผงยา 1 ช้อน ชา ชงน้ารอ้ นรับประทาน หรือปน้ั เป็นลูกกลอนด้วยน้าผ้งึ ขนาดเท่าเมด็ พทุ รา รบั ประทานคร้งั ละ 2 ลูก ต้องรับประทานติดตอ่ กนั เวลานาน จนกว่าอาการจะ ดขี ึ้น

5. เป็นยาแก้เล็บถอด ใชเ้ หงา้ ไพลสด 1 แง่ง ขนาดเทา่ หัวแมม่ อื ตาใหล้ ะเอยี ดผสมเกลอื และการบรู อย่างละประมาณครึง่ ช้อนชา แลว้ นามา พอกบริเวณที่เปน็ หนอง ควรเปลีย่ นยาวันละครั้ง 6. ชว่ ยทาให้ผิวหนงั ชมุ่ ชื่น และเปน็ ยาช่วยสมานแผลด้วย ใชเ้ หงา้ สด 1 แงง่ ฝานเป็นชน้ิ บางๆ ใชต้ ม้ รวมกบั สมนุ ไพรอืน่ ๆ เน่ืองจาก ไพลมนี่ า้ มันหอมระเหย สภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสม พนื้ ทีป่ ลูก ตอ้ งการดนิ โปร่ง ชอบดนิ ร่วนปนทราย หรือดนิ เหนยี วปนทรายมอี ินทรียวตั ถุสงู มกี ารระบายน้าดี ปลกู ได้ท้งั ท่ีแจ้งและท่ี ร่มราไร ควรหลีกเล่ียงการปลูกในดินลูกรงั และพนื้ ท่นี ้าขงั การปลกู 1. ฤดปู ลูก ควรปลูกช่วงต้นฤดฝู น ในราวเดอื นพฤษภาคม 2. การเตรียมพันธ์ุ ตอ้ งเปน็ หัวพันธ์ุท่มี ีอายุมากกวา่ 1 ปมี ีตา สมบรณู ไ์ ม่มโี รคแมลงเขา้ ทาลาย ปล่อยให้หัวพนั ธุ์ฟกั ตัวในระยะเวลาหนง่ึ แล้ว แชใ่ น Indole Acetic Acid (IAA) ทร่ี ะดับความเขม้ ข้น 250 ppm เป็นเวลา 24 เซนตเิ มตร จะช่วยกระต้นุ ให้หัวไพลงอกได้เร็วขึน้ จะทาใหไ้ ด้ผลผลติ สูงขน้ึ โดยแบ่งหัวพันธุ์ให้มนี ้าหนัก 100 กรัม/หวั มีตา 3 - 5 ตา และชุบทอ่ นพันธุ์ดว้ ย สารเคมีป้องกันเช้อื ราก่อนปลกู ใน 1 ไร่ จะใช้หัวพันธุ์ประมาณ ๙๖๐ กโิ ลกรัม 3. การเตรยี มแปลงปลกู เตรียมดนิ ให้โปร่ง ร่วนซยุ ดว้ ยการไถ พรวนกาจดั เศษวสั ดแุ ละวัชพชื ตากดินไวป้ ระมาณ 7 - 15 วัน จากนน้ั ใสป่ ยุ๋ คอกหรือปุย๋ หมักอกี คร้งั แล้วคลกุ เคลา้ ใหเ้ ขา้ กนั ขดุ หลุมขนาด 25 x 25 เซนติเมตร และลกึ 15เซนตเิ มตร 4. วธิ ีการปลูก สามารถทาได้ 2 วิธคี ือ วธิ ี 1 ปลูกโดยใช้เหง้าตัด เปน็ ทอ่ น ๆ ชบุ ด้วยสารเคมปี ้องกนั เชื้อราท้ิงไวส้ กั ครู่ แลว้ ปลูกลงแปลงที่ เตรียมไวร้ ะยะระหว่างต้นและระหว่างแถว 25 x 27 เซนติเมตร และกลบดนิ

ให้มดิ หนาประมาณ 2 - 3 เซนติเมตร คลุมดว้ ยฟางหรือใบหญา้ คาตากแหง้ หนาประมาณ 2 นิ้ว รดนา้ ทนั ที วิธี 2 ปลกู โดยใชเ้ หง้าเพาะใหง้ อกก่อน โดย เพาะเหง้าท่ีตดั เป็นทอ่ น ๆ ในกระบะทรายให้แทงยอด แตกใบประมาณ 2 - 3 ใบ จงึ ยา้ ยลงปลกู ในแปลงปลกู การปฏิบตั ิดแู ลรกั ษา 1. การใหน้ ้า ในระยะแรกของการปลูกต้องคอยดแู ลอย่าให้พืชขาด น้า ตอ้ งรดน้าสม่าเสมอ จนกว่าพชื จะต้งั ตวั ได้หลงั จากน้ันก็ควรใหน้ า้ บ้างอย่าง น้อย สัปดาห์ละ 1 ครงั้ ในพื้นท่ีท่ีแห้งแลง้ โดยปกติในพ้ืนท่ีปลูกภาคตะวันออก อาศัยนา้ ฝนจากธรรมชาตจิ ะไมม่ กี ารรดนา้ 2. การให้ปยุ๋ ใสป่ ยุ๋ N,P และ K ในอัตราส่วน 12:6:6 กก./ไร่ จะให้ ผลผลติ สงู สดุ และให้เปอร์เซ็นต์น้ามนั สงู สดุ 1.25 % ควรใหใ้ นระยะทมี่ ีการ เจรญิ เติบโตทางลาตน้ ไม่ควรใหร้ ะยะท่ไี พลลงหัว เพราะเชอ่ื ว่าปุย๋ เคมจี ะมีผล ตอ่ คุณภาพของน้ามนั ไพล 3. การกาจดั วัชพชื ปแี รก กาจดั วัชพชื 2 ครงั้ ปที ่ีสอง กาจดั วัชพชื 1 ครงั้ เน่ืองจากไพลจะคลุมพ้นื ท่รี ะหว่างต้นและแถวจนเตม็ ปที ่ีสาม ไม่ตอ้ งกาจดั วชั พืช และปลอ่ ยใหแ้ ห้งตายไปพร้อมกบั ตน้ ไพลที่ฟบุ 4. การปอ้ งกนั กาจัดโรคและแมลงศตั รู ไพลมกี ลน่ิ เฉพาะตัวท่ไี ล่ แมลง จึงไม่ค่อยมศี ัตรูพชื รบกวน แตถ่ ้าสภาพดนิ ปลูกชืน้ แฉะและการระบาย นา้ ไมด่ เี หงา้ ไพลจะเนา่ เสียหายได้ และห้ามฉดี สารเคมปี ้องกันกาจัดแมลง เพราะจะมพี ษิ ตกค้างในนา้ มันไพล การเก็บเกย่ี ว ฤดูเก็บเกีย่ ว ควรเกบ็ ในฤดแู ล้ง การเก็บเกย่ี ว ตงั้ แตเ่ รม่ิ ปลูกจนถงึ วนั ทเ่ี กบ็ เก่ยี วผลผลิตไพลจะใชร้ ะยะเวลานาน2 - 3 ปเี ป็นระยะเวลาท่ี เหมาะสม ในการนาไพลไปสกัดน้ามนั จะได้ปรมิ าณน้ามนั มาก และมคี ณุ ภาพ หัวไพลจะเก็บช่วงเดือน มกราคม - มีนาคม จะสงั เกตเหน็ ต้น

ไพลแหง้ และฟุบลงกบั พื้น ห้ามเกบ็ หวั ไพลขณะที่เริม่ แตกหน่อใหม่ เพราะ จะทาให้ไดน้ า้ มันไพลทม่ี ีปรมิ าณและคุณภาพตา่ วธิ เี กบ็ เกี่ยว ใชจ้ อบ เสยี มขุด หรือนยิ มใชอ้ เี ทอร์(อจี กิ ) ขุดเหง้า ไพลขึ้นมาจากดนิ (ตอ้ งระวงั ไมใ่ ห้เกิดแผลหรือรอ้ ยช้ากบั เหง้า) เขยา่ ดินออก ตัดรากแล้วนาไปผึง่ ลมให้แห้งเก็บผลผลิตบรรจกุ ระสอบพร้อมทจี่ ะนาไปสกัด นา้ มนั ไพล ผลผลติ ปริมาณผลิตไพลสด ๑๓,๗๕๔ กก./ไร่ โดยใช้หัวพันธ์ุ ขนาด ๑๐๐ กรมั /หัว/หลมุ ทรี่ ะยะปลกู ๒๕ x ๒๗ เซนติเมตร และเกบ็ เกีย่ ว หลงั ปลกู ๒๑ เดอื น การทาแห้ง ล้างดินและลา้ งน้าอกี ๕ คร้ัง หน่ั บาง ๆ จากน้ันนาไปตากแดดจัด ๒ วัน อัตราสว่ นนา้ หนัก นา้ หนักสด : น้าหนักแหง้ เทา่ กับ ๕ - ๖ กก./๑ กก. การปฏบิ ัติหลงั การเก็บเกีย่ ว เกบ็ หัวไพลท่ตี ดั ราก และผึง่ ลมให้แหง้ แล้วเก็บบรรจกุ ระสอบพร้อมที่จะนาไปสกัดน้ามนั โดยเคร่ือง กลน่ั ไอนา้ อัตราสว่ นสกดั น้ามนั หอมระเหย ผลผลติ สด : น้ามนั หอมระเหย เท่ากับ ๑ ตัน/๘ - ๑๐ ลติ ร ทม่ี า http://www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_06_6.htm http://puparn.rid.go.th/nineteen%20MENU/eightteen.pdf


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook