Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แบบฝึกทักษะจับใจความ-63

แบบฝึกทักษะจับใจความ-63

Published by วัชรีย์ รัตโนทัย, 2020-09-02 11:53:59

Description: แบบฝึกทักษะจับใจความ-63

Search

Read the Text Version

1 แบบฝกึ ทักษะ เรื่อง หลักและวิธกี ารอ่านจบั ใจความสำคัญ รายวิชาภาษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๑ นางวัชรีย์ รตั โนทัย กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย โรงเรียนคุรปุ ระชาสรรค์

2 การอา่ นจบั ใจความสำคัญ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท21101 สำหรับนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 เรอ่ื ง หลักและวิธกี ารอา่ นเพ่อื จบั ใจความสำคญั สาระสำคญั การอา่ นจบั ใจความสำคัญ เป็นการอา่ นท่ีมุ่งค้นหาสาระของเรอื่ งที่เป็นสว่ นใจความสำคัญและสว่ นขยาย ความสำคญั ของเรื่อง สาระ/มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด สาระท่ี ๑ การอา่ น มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสนิ ใจ แก้ปัญหาในการดำเนนิ ชวี ติ และมีนิสยั รักการอา่ น ตวั ช้วี ัด ท 1.1 ม.1/2 จับใจความสำคญั จากเร่ืองท่ีอ่าน ท 1.1 ม.1/9 มมี ารยาทในการอา่ น สาระการเรยี นรู้ ๑. หลกั และวธิ ีการอา่ นจบั ใจความสำคัญ ๒. พนื้ ฐานการอา่ นจับใจความสำคัญ ๓. หลกั การจบั ใจความสำคัญ ๔. มารยาทในการอ่าน จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ๑. บอกความหมายและหลักการอา่ นจับใจความสำคัญได้ถูกต้อง ๒. จับใจความสำคัญจากขอ้ ความได้ถูกต้อง ๓. มมี ารยาทในการอา่ น

3 แบบทดสอบกอ่ นเรียน รายวิชาภาษาไทย รหัสวชิ า ท21101 สำหรบั นักเรยี นชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1 เรือ่ ง หลักและวธิ กี ารอ่านเพอ่ื จบั ใจความสำคัญ คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุดเพียงขอ้ เดียว โดยทำเครอื่ งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน) ------------------------------------------------------------------------------------------------------- ๑. ข้อใดกล่าวถงึ ความหมายของการอ่านจับใจความสำคญั ถูกต้องที่สดุ ก. การอา่ นเพ่ือประโยชน์เฉพาะทาง ข. การอา่ นเพ่ือนนำไปเล่าใหค้ นอื่นฟัง ค. การอ่านเพื่อทบทวนสง่ิ ท่ีได้เรยี นมาแล้ว ง. การอา่ นเพอ่ื จบั ใจความหรอื ข้อคดิ สำคัญของข้อความจากเรื่องท่อี ่าน ๒. คำว่า ใจความรอง หมายถึงข้อใด2 ก. ข้อความทเ่ี ป็นประโยคเดย่ี ว ๆ ข. ข้อความที่บอกถึงเจตนารมณข์ องผู้เขยี น ค. ข้อความหรอื ประโยคท่ีสามารถเปน็ หัวเร่อื งของยอ่ หน้า ง. ข้อความสนบั สนนุ หรอื ประโยคท่ขี ยายความประโยคใจความสำคัญ ๓. ขอ้ ใดไม่ควรปฏิบตั ิในการอ่านจบั ใจความสำคญั ก. อ่านให้ละเอยี ด ข. ทำความเข้าใจอย่างชัดเจน ค. การตัดเอาข้อความมาเรียงต่อกนั ง. เก็บจดุ มุ่งหมายสำคญั ของเร่ืองได้ ๔. หลกั การอ่านจบั ใจความสำคัญควรปฏบิ ตั ิอยา่ งไร ก. อา่ นและแยกเร่ืองออกเปน็ ตอน ๆ ข. ยดึ เอาย่อหน้าแรกเปน็ ใจความสำคญั ของเรือ่ ง ค. อ่านเรอื่ งราวด้วยความรวดเรว็ และใช้เวลาในการอ่านให้น้อยที่สุด ง. นำสิ่งที่สรปุ ไดม้ าเรยี บเรียงใจความสำคญั ใหม่ดว้ ยสำนวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กิดความสละสลวย 5. ข้อใดถือวา่ เป็นขนั้ ตอนสุดท้ายของการอา่ นจบั ใจความ ก. อ่านผา่ น ๆ โดยตลอดเพอื่ ให้รู้เร่ือง ข. อ่านใหล้ ะเอยี ดเพอ่ื ทำความเข้าใจ ค. เรยี บเรยี งใจความสำคญั ของเร่ือง ง. อ่านซ้ำตอนที่ไม่เขา้ ใจ

4 ๖. ข้อใดถือวา่ เปน็ ขนั้ ตอนแรกของการอา่ นจบั ใจความ ก. เรียบเรยี งใจความสำคัญของเรื่อง ข. อา่ นผา่ นๆโดยตลอดเพ่ือให้รู้เรอ่ื ง ค. อ่านให้ละเอียดเพือ่ ทำความเขา้ ใจ ง. อ่านซ้ำตอนท่ีไมเ่ ขา้ ใจ 7. ข้อใดไม่ใชล่ ักษณะของวิธีการจบั ใจความสำคญั ก. การนบั คำในประโยค ข. ตดั ส่วนที่เปน็ รายละเอยี ด ค. สรปุ ใจความสำคัญด้วยสำนวนภาษาของตนเอง ง. พจิ ารณาทลี ะย่อหนา้ หาประโยคใจความสำคญั ของแต่ละยอ่ หนา้ 8. ข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะพ้นื ฐานการอ่านจบั ใจความสำคัญ ก. มีทักษะในการใชภ้ าษา ข. สำรวจสว่ นประกอบของหนังสือ ค. การเกบ็ ขอ้ มูลแนวความคดิ หรอื ทศั นะของผูเ้ ขียน ง. ใช้ความสามารถในด้านการแปลความหมายของคำประโยค และข้อความตา่ งๆ อย่างถกู ต้องและรวดเรว็ 9. ขอ้ ใดต่อไปน้เี ปน็ ลักษณะของนกั อ่านจับใจความสำคญั ก. การรจู้ ักจดบนั ทกึ การอ่าน ข. การอ่านขา้ มข้อความที่ไมเ่ ข้าใจ ค. การลอกความหมายคำศพั ท์ที่ยาก ๆ จากเพ่ือนเพราะจะได้ไมเ่ สียเวลา ง. ฝกึ จบั ใจความของเรื่องและเลอื กเอาย่อหน้าใดย่อหน้าหนง่ึ เปน็ ใจความสำคัญของเร่อื ง 10. เมื่อพบศัพท์ยากอ่านแล้วไม่เขา้ ใจนักเรยี นควรทำอยา่ งไร ก. ปลอ่ ยไปก่อนแลว้ ค่อยอา่ นซ้ำอกี ครงั้ ข. ถามคุณครู ค. อา่ นข้ามๆ ไป ง. เปดิ พจนานกุ รม

5 กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบฝกึ ทักษะ รายวชิ าภาษาไทย รหัสวชิ า ท21101 การอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เรอื่ ง หลกั และวธิ กี ารอ่านเพ่อื จบั ใจความสำคัญ ช่ือ.....................................................................ช้นั ....................เลขท.ี่ ................ ขอ้ ท่ี ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเตม็ 10 คะแนน ได้.........................คะแนน สรุปผลการประเมนิ  ผา่ น  ไม่ผา่ น เกณฑผ์ ่านการประเมนิ ๘ – ๑๐ คะแนน

6 กรอบความร้ทู ่ี ๑ การอ่านจับใจความสำคัญ ความหมายของการอา่ นจบั ใจความสำคญั การอ่านจับใจความสำคัญ หมายถึง การอ่านเพื่อจับใจความ หรือความคิดหลักจากข้อความ หรือเรื่องที่ อ่าน เปน็ ขอ้ ความท่ีครอบคลุมข้อความอืน่ ๆ ในย่อหนา้ หนง่ึ ๆ ไวท้ ัง้ หมด (ราชบณั ฑิตยสถาน. พจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒.) การอ่านเพื่อจับใจความสำคัญ หมายถึง การอ่านเพื่อเก็บสาระสำคัญของเรื่องที่อ่านเช่น จุดมุ่งหมาย สำคญั ของเรื่อง เกบ็ เนอื้ เรอ่ื งทีส่ ำคัญ ความรู้หรือขอ้ มูลท่นี า่ สนใจตลอดจนแนวความคิดหรอื ทัศนะของผู้เขียน ใจความสำคัญ หมายถึง ใจความสำคัญและเด่นที่สุดในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้าที่สามารถครอบคลุม เนื้อความในประโยคอื่น ๆ ในย่อหน้านั้นหรือเป็นประโยคที่สามารถเป็นหัวเรื่องของย่อหน้านั้นได้ ถ้าตัดเนื้อความ ของประโยคอ่ืนออกหมดหรือสามารถเปน็ ใจความหรือประโยคเด่ียว ๆ ได้โดยไมต่ ้องมปี ระโยคอืน่ ประกอบ ในแต่ละ ยอ่ หน้าจะมีประโยคใจความสำคัญเพียงประโยคเดียวหรอื อย่างมากไม่เกิน ๒ ประโยค ใจความรอง หรือ พลความ(พน-ละ-ความ) คือ ข้อความที่ทำหน้าที่ขยายใจความให้ชัดเจน เด่นชัดมาก ขน้ึ ถ้าตัดพลความสารก็ยังไมเ่ ปล่ยี นแปลง ลักษณะของพลความ มกั จะเปน็ การอธิบาย การยกตัวอยา่ ง การเปรียบเทียบ การใหเ้ หตผุ ล เป็นตน้ ความสำคญั ของการอา่ นจบั ใจความสำคญั ๑. เปน็ พ้ืนฐานของการอา่ น การอา่ นจบั ใจความสำคญั เป็นการอา่ นทีเ่ ปน็ พื้นฐาน โดยสามารถนำไป ต่อยอด เป็นการวิเคราะหแ์ ละประเมินค่าเรื่องที่อ่านต่อไปได้ เพราะการอ่านจับใจความสำคัญทำให้ทราบข้อมูล เบื้องต้นวา่ ใคร ทำอะไร ท่ีไหน อยา่ งไร เม่อื ไร ๒. เปน็ การทราบข้อมูลในระยะส้ัน การอ่านจับใจความสำคญั เปน็ การอ่านคร่าว ๆ เพ่ือค้นหาเพยี ง ใจความ สำคญั ท่ีสดุ ผอู้ ่านจึงใช้เวลาในการอา่ นส้นั และรับสารไดต้ รงประเด็น ๓. เป็นการนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน การอ่านจับใจความสำคัญทำให้ทราบความคิดและ ทราบ ความรู้ท่ผี ู้เขียนถ่ายทอด เมือ่ นำมาวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่าสารนัน้ แลว้ กส็ ามารถเลือกสรรสงิ่ ท่ีมี ประโยชน์มาใช้ใน ชีวติ ประจำวัน

7 ลักษณะของใจความสำคัญ 1. เปน็ ขอ้ ความท่ีทำหนา้ ท่ีคลมุ ใจความของข้อความอื่นๆ ในตอนนน้ั ได้หมด 2. ยอ่ หนา้ หนึ่งๆสว่ นมากจะมีเพียงประการเดียว 3 สว่ นมากมลี ักษณะเป็นประโยค อาจจะเปน็ ประโยคเดียวหรอื ประโยคซ้อนก็ได้ 4. สว่ นมากจะปรากฏอยตู่ ้นข้อความ ในการอ่านใด ๆ ก็ตามจุดมุ่งหมายเพ่ือจบั ใจความสำคญั ของขอ้ ความทีไ่ ดอ้ ่าน ดังนั้นถ้ารู้จักสังเกตประโยค ที่เป็นใจความสำคัญของข้อความแต่ละข้อความและรู้จักแยกใจความหลักออกจากใจความรองได้ ก็จะทำให้เรา เข้าใจในสิง่ ท่ีอา่ นได้อยา่ งถูกตอ้ งและรวดเร็ว ตวั อยา่ งเชน่ คนไม่อ่านหนังสือ คือ คนถอยหลังอยู่ในสังคม เพราะทุกวันน้ีโลกเจริญข้ึนอย่างไม่หยุดหย่อน มีเหตุการณ์ ใหมๆ่ ปรากฏสืบเนอื่ งกันอยา่ งไมข่ าดสาย ทกุ คนที่หวังความกา้ วหนา้ จึงต้องตามเรอื่ งเหลา่ น้ีดว้ ยการอ่านอย่าง มิหยดุ ยั้งมฉิ ะนนั้ เขาจะนามวา่ เปน็ ผู้ถอยหลงั (อ่านเพอ่ื ความสมบรู ณข์ อง นายเจือ สตะเวทนิ ) ใจความสำคญั คือ คนไม่อา่ นหนังสอื คอื คนถอยหลังอยูใ่ นสงั คม เทคนคิ การอา่ นจบั ใจความให้ไดค้ วามรู้มากทส่ี ุด โดยพนื้ ฐานของการอา่ นเพอื่ จบั ใจความใหด้ ีสามารถเลือกทำไดด้ ้วยวิธกี ารดังตอ่ ไปน้ี 1. ตง้ั เปา้ ในจุดมงุ่ หมายของอ่านใหช้ ดั เจน วา่ ตอ้ งการอา่ นหนังสือเร่อื งนี้เพราะอะไร เพราะถา้ รูเ้ ปา้ หมายของ การอ่านเราจะรวู้ า่ ควรสนใจตรงจุดไหนของเนอื้ หามากทสี่ ุด 2. อา่ นแบบครา่ วๆ ให้รวู้ า่ เนื้อหาของเรอื่ งทั้งหมดมนั ครอบคลุมเก่ียวกบั อะไร การสรปุ เรือ่ งราวท้งั หมดไดด้ ว้ ยตัวเอง สามารถบอกต่อกบั คนอ่ืนได้อย่าง เข้าใจ ถือว่าเป็นการอา่ นแล้วจับใจความสำคญั ได้อยา่ งประสบความสำเรจ็

8 หลักการอา่ นเพ่อื จับใจความสำคัญ ๑. อา่ น ทำความเขา้ ใจในเน้อื หา พยายามจับใจความสำคัญของแต่ละยอ่ หนา้ ๒. คิด คิดต้งั คำถามวา่ อะไรเปน็ จดุ สำคัญของเร่ืองหรอื ใจความสำคัญของเร่ือง ๓. เขยี น ร่างข้อความที่ไดโ้ ดยสรุปไว้เปน็ ตอนๆ ๔. เรยี บเรียง นำขอ้ ความที่สรุปไวม้ าเรียงใหเ้ ป็นข้อความ โดยใช้ภาษาของตนเอง การฝกึ ฝนการอ่านจับใจความสำคัญ ๑. สร้างนิสัยรักการอ่านโดยพยายามฝึกอ่านข้อความ ทุกประเภท การฝึกอ่านบ่อยๆ จะทำให้เกิดนิสัยรักการอ่าน ชา่ งสังเกต และจดจำข้อความต่างๆ ได้ดีข้ึน ๒. เม่อื พบศพั ทท์ ไี่ ม่เขา้ ใจ การใช้พจนานกุ รมจะทำให้นกั เรียนรคู้ ำศัพท์มากข้นึ ๓. จดบันทึกการอ่านขณะที่อ่าน ควรมีสมุดจดบันทึกเพื่อบันทึกถ้อยคำหรือข้อความที่ตนเองสนใจ หรือใช้ปากกา เน้นข้อความหรือแปะกระดาษสีคน่ั หน้าที่มีข้อความดังกลา่ ว ๔. ฝึกจับใจความสำคัญทีละย่อหน้า ใจความหลายอย่างในหนึ่งย่อหน้ามใี จความสำคัญ ๑ ใจความเทา่ นั้น หากเร่ือง มีหลายย่อหน้า แสดงว่ามีใจความสำคญั หลายใจความ นำใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้ามาพิจารณารวมกันจะทำ ให้สามารถจบั ใจความสำคัญของเรอ่ื งได้ในทส่ี ดุ สรปุ การอ่านจบั ใจความ การอา่ นจับใจความสำคัญ หมายถึง การอ่านทีต่ ้องการแยกแยะเรือ่ งที่อ่านให้ได้ว่า สว่ นใดเปน็ ใจความ หรือ ขอ้ ความทีส่ ำคัญท่สี ุด และส่วนใดเปน็ ขอ้ ความประกอบ เขา้ ใจแล้ว... ไปทบทวนความร้กู นั เลยจา้ ...

9 แบบฝึกทกั ษะท่ี ๑.1 คำชแี้ จง ให้นักเรยี นอา่ นขอ้ ความแลว้ ทำเครื่องหมาย ✓หนา้ ขอ้ ความทีเ่ ปน็ จริงและทำเครื่องหมาย  หนา้ ขอ้ ความทีเ่ ปน็ เท็จ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ข้อละ ๑ คะแนน) ******************************************************************************************** .....................1. การอา่ นเพ่อื สรปุ ใจความสำคัญ ผ้อู ่านต้องทำความเข้าใจเร่อื งท่อี า่ น ต้องอา่ นหลายๆเทยี่ ว .....................2. ใจความสำคญั ท่มี ีลักษณะของประโยค ส่วนมากมักจะปรากฏในทกุ ย่อหน้า .....................3. จุดมุ่งหมายของการอ่านจับใจความสำคัญ คือ อ่านเพื่อความเพลดิ เพลนิ .....................4. ในการอา่ นไม่ควรตง้ั จดุ มุ่งหมายไว้มากเกินไปเพราะจะทำใหไ้ ม่ไดส้ าระความรู้ .....................5. ส่วนขยายของใจความเรยี กว่า พลความ .....................6. ไมค่ วรนำสง่ิ ทีส่ รุปไดม้ าเรยี บเรยี งใจความสำคัญใหมด่ ว้ ยสำนวนของตนเอง ....................7. การอ่านจบั ใจความ หมายถงึ การอ่านเพ่ือจบั ใจความหรือความคิดหลักจากขอ้ ความหรือเร่ืองทีอ่ า่ น ....................8 การอ่านจบั ใจความจะต้องพิจารณาทีละย่อหนา้ .................. 9. เมื่ออ่านจบไม่ควรตั้งคำถามกับตนเองว่า เรื่องที่อ่านมีใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร ...................๑๐. การอ่านจบั ใจความสำคัญเป็นการอ่านทเี่ ป็นพ้ืนฐาน โดยสามารถนำไปต่อยอดเป็นการวเิ คราะห์ และประเมินค่าเรือ่ งทอ่ี ่านต่อไปได้

10 แบบฝกึ ทกั ษะท่ี 1.2 คำชแี้ จง นกั เรียนจบั คู่คำถามและคำตอบใหถ้ กู ต้อง ( 5 คะแนน) คำถาม ************************************************** คำตอบ ๑. การอา่ นจับใจความสำคัญ ☺ ☺ ๑. ควรตง้ั จดุ มุ่งหมายในการอา่ น 2. การฝกึ อา่ นจบั ใจความสำคัญควรปฏิบัตอิ ย่างไร ☺ ๒. การคน้ หาสาระสำคัญของเรอ่ื งหรอื ของหนังสือ ☺ ทอ่ี า่ นส่วนนั้นคือข้อความที่มสี าระครอบคลุม ข้อความอืน่ ๆ 3. จุดมงุ่ หมายของการอา่ นจับใจความ ☺ ☺ 3. สร้างนสิ ัยรักการอ่าน ฝึกใชพ้ จนานกุ รม จดบนั ทึก ฝึกจับใจความทลี ะยอ่ หนา้ 4. การอา่ นจับใจความสำคญั ควรทำอย่างไร ☺ ☺ 4. จดบันทึก 5. เมื่ออา่ นจบแลว้ ต้องทำอย่างไร 5. ๑. เพอื่ ให้อ่านและจับใจความได้ ☺ ๒. เพอื่ บอกรายละเอยี ดของเร่ืองราวท่ีอ่าน ๓. อ่านเพื่อปฏิบตั ิตามคำสง่ั และคำแนะนำ ๔. ฝึกการใชส้ ายตา นิยมอา่ นเพ่ือฝึกการอา่ น เรว็ และตอบคำถามไดถ้ ูกตอ้ ง ☺ ๕. เพอื่ สรปุ หรอื ยอ่ เรื่องที่อา่ นเกี่ยวกับอะไร ๖. เพอ่ื คาดการณท์ ำนายเร่ืองว่าจะลงเอย อย่างไร ๗. เพอื่ ทำรายงานย่อสรปุ มีการฝกึ โนต้ ยอ่ ๘. เพอื่ หาความจริงและแสดงข้อคดิ เหน็ ได้ จดบันทึก

11 กรอบความรทู้ ี่ 2 หลกั การอ่านจับใจความสำคญั หลักการจบั ใจความสำคัญ ๑. ตงั้ จดุ มงุ่ หมายในการอ่านให้ชดั เจน ๒. อ่านเรอ่ื งราวอยา่ งคร่าวๆ พอเข้าใจ และเกบ็ ใจความสำคญั ของแตล่ ะยอ่ หน้า ๓. เม่อื อ่านจบใหต้ ้ังคำถามตนเองวา่ เรื่องทีอ่ ่าน มใี คร ทำอะไร ท่ีไหน เมื่อไหร่ อยา่ งไร ๔. นำสง่ิ ทีส่ รปุ ไดม้ าเรยี บเรียงใจความสำคัญใหมด่ ้วยสำนวนของตนเองเพื่อให้เกดิ ความสละสลวย วธิ จี ับใจความสำคญั วิธีการจับใจความมีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับความชอบว่าอย่างไร เช่น การขีดเส้นใต้ การใช้สีต่างๆ กัน แสดงความสำคัญมากน้อยของข้อความ การบันทึกย่อเป็นส่วนหนึ่งของการอ่านจับใจความสำคัญที่ดี แต่ผู้ท่ีย่อ ควรย่อด้วยสำนวนภาษาและสำนวนของตนเองไมค่ วรยอ่ ดว้ ยการตัดเอาข้อความสำคญั มาเรยี งต่อกนั เพราะอาจ ทำให้ผ้อู า่ นพลาดสาระสำคัญบางตอนไปอันเปน็ เหตุให้การตีความผดิ พลาดคลาดเคลื่อนได้ วธิ ีจบั ใจความสำคัญ มหี ลักดังนี้ ๑. พจิ ารณาทีละยอ่ หน้า หาประโยคใจความสำคัญของแตล่ ะย่อหน้า ๒. ตัดสว่ นทเ่ี ปน็ รายละเอียดออกได้ เชน่ ตัวอย่าง สำนวนโวหาร อปุ มาอปุ ไมย(การเปรยี บเทยี บ) ตวั เลข สถติ ิ ตลอดจนคำถามหรือคำพูดของผ้เู ขียนซ่งึ เปน็ สว่ นขยายใจความสำคัญ ๓. สรุปใจความสำคญั ดว้ ยสำนวนภาษาของตนเอง การพจิ ารณาตำแหนง่ ใจความสำคัญ ใจความสำคญั ของข้อความในแต่ละย่อหนา้ จะปรากฏดังน้ี ๑. ประโยคใจความสำคัญอยู่ตอนตน้ ของยอ่ หน้า ๒. ประโยคใจความสำคัญอยู่ตอนกลางของยอ่ หน้า ๓. ประโยคใจความสำคัญอยู่ตอนท้ายของย่อหน้า ๔. ประโยคใจความสำคัญอยูต่ อนตน้ และตอนทา้ ยของย่อหนา้ ๕. ผอู้ ่านสรุปขนึ้ เอง จากการอ่านทงั้ ย่อหน้า(ในกรณใี จความสำคญั หรอื ความคดิ สำคัญอาจอยู่ รวมในความคดิ ยอ่ ย ๆ โดยไม่มีความคิดท่เี ปน็ ประโยคหลัก)

12 มารยาทในการอ่าน การอ่านอย่างมีมารยาทเป็นสิ่งที่ผู้อ่านทุกคนพึงปฏิบัติให้เป็นนิสัย เพราะการอ่านอย่างมีมารยาท นอกจากจะเปน็ เครอ่ื งมือทแี่ สดงออกถงึ พฤตกิ รรมของบุคคลแลว้ ยังเป็นการแสดงออกถึงจติ สำนึกและ ความเจริญทางจิตใจอกี ดว้ ย ผอู้ ่านท่ดี คี วรมีมารยาทในการอา่ น ดังนี้ ๑. ไม่อา่ นเสียงดงั รบกวนผอู้ ่ืน ๒. ไม่ทำลายหนังสือโดยการขูด ขีด ฆ่า หรือฉีกหนังสือหน้าที่ต้องการไปเป็นหลักฐานอ้างอิง ออกจากเล่ม แต่ ควรนำไปถา่ ยเอกสาร ๓. ไมใ่ ช้สถานทอ่ี า่ นหนงั สือทำกจิ กรรมอ่ืน ๆ เชน่ นอนหลบั รับประทานอาหาร พดู คุย หรอื หยอกล้อกัน ๔. เม่ืออา่ นหนงั สอื เสรจ็ ควรเกบ็ เขา้ ท่เี ดมิ ๕. เลือกอา่ นหนงั สือทีเ่ ปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสงั คม ๖. เมื่อคัดลอกเนื้อหาหรือนำข้อมูลของผู้อื่นมาอ้างอิงแล้ว ควรอ้างอิงแหล่งที่มาให้ถูกต้อง ตามหลักการเขียน อา้ งองิ เพอื่ เปน็ การให้เกียรตผิ เู้ ขยี น ตัวอย่างตำแหนง่ ใจความสำคญั ใจความสำคัญอยู่ตอนตน้ ของย่อหน้า การรักษาศีลเพื่อบังคับตนเองให้มีระเบียบวินัยในการกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง เช่น เรามาอยู่วัดมานุ่ง ขาวห่มขาวไม่ใช่ถือแต่ศีลแปดข้อเท่านั้นแต่เราต้อง นึกว่าศีลนั้นคือความมีระเบียบวินัยเราเดินอย่างมีระเบียบ วนิ ัยน่ังอยา่ ง มรี ะเบยี บ กินอย่างมีระเบยี บ ทำอะไรกท็ ำอย่างมรี ะเบยี บ นัน่ เปน็ คนท่มี ศี ลี ถ้าเราไม่มีระเบยี บ กไ็ มม่ ีศลี ( ท่ีมา :แววมยุรา เหมือนนลิ . (๒๕๕๓). การอา่ นจับใจความ.) ใจความสำคญั อยู่ตรงกลางของยอ่ หน้า โดยทั่วไปผกั ทีข่ ายตามท้องตลาดส่วนใหญเ่ กษตรกรมกั ใช้สารกำจัดศัตรูพืช หากไมม่ ีความรอบคอบใน การใช้จะทำให้เกิดสารตกค้าง ทำให้มีปัญหาต่อสุขภาพ ฉะนั้นเมื่อซื้อผักไปรับประทานจึงควรล้างผักด้วยน้ำ หลายๆ ครั้ง เพราะจะช่วยกำจดั สารตกค้างไปได้บ้าง บางคนอาจแช่ผักโดยใช้น้ำผสมโซเดียมไบคาร์บอเนตกไ็ ด้ แตอ่ าจทำใหว้ ติ ามนิ ลดลง (ท่ีมา :แววมยุรา เหมอื นนิล. (๒๕๕๓). การอ่านจบั ใจความ.)

13 ใจความสำคัญอยูต่ อนทา้ ยย่อหนา้ ความเครยี ดทำใหเ้ พมิ่ ฮอร์โมนอะดรนี าลนี ในเลือด ทำใหห้ วั ใจเตน้ เรว็ เสน้ เลอื ดบบี ตัว กล้ามเนือ้ เขม็งตึง ระบบย่อยอาหารผดิ ปกติเกิดอาการปวดหัว ปวดท้อง ใจสน่ั แขง้ ขาออ่ นแรงความเครียดจึงเป็นตัวการให้แก่เรว็ ใจความสำคัญอยู่ตอนต้นตอนทา้ ย ถา่ นถงั นน่ั แหละคือค่าแรงละ จำไว้วา่ คนที่ทำงานไม่เคยมีใครขาดทนุ หรอก เพยี งแต่จะได้ ผลตอบแทน เป็นอะไร หรอื มากนอ้ ยเพยี งใด ค่าแรงหรอื กำไรไม่ได้มาสู่เราในรูปแบบของเงินเสมอไป (เศรษฐศาสตรใ์ นห้องแถว ของหยก บรู พา) (ทมี่ า : จุไรรัตน์ ลักษณะศิริ และบาหยัน อิม่ สำราญ, การใชภ้ าษาไทย , ๒๕๔๘) ใจความสำคญั ไมป่ รากฏในส่วนใด ตอ้ งสรุปเอง การเดนิ การว่ายน้ำ การฝึกโยคะ การออกกำลงั กายดว้ ยอปุ กรณ์ต่างๆ ตลอดจนการหายใจลึกๆ ลว้ นมสี ว่ น ทำใหส้ ขุ ภาพแข็งแรง ใจความสำคญั คอื การทำให้สขุ ภาพแข็งแรงทำได้หลายวธิ ี : จไุ รรัตน์ ลักษณะศริ ิ และบาหยนั อม่ิ สำราญ , การใชภ้ าษาไทย, 2547, หนา้ 45-46 งา่ ยกวา่ ท่คี ิด.... แบบน้ีทาแบบฝึกไดค้ ะแนนเต็มแน่ๆ

14 แบบฝกึ ทักษะท่ี ๑.3 คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนสรุปใจความสำคญั จากข้อความที่กำหนดให้ (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ขอ้ ละ ๒ คะแนน) ***************************************************************************** 1. การรดนำ้ ตน้ ไม้ หรอื สนามหญ้า ควรจะรดช่วงเช้าหรือช่วงเย็นมากกว่า เพราะเวลาเท่ียง หรอื ชว่ งแดดจ้า จะทำใหน้ ำ้ ร้อยละ ๕๐ ระเหยไปในอากาศ หรอื ให้ตน้ ไม้ได้ใช้เพียงคร่ึงเดยี ว เท่านั้น วธิ กี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........................................................................................ ทำอะไร : ........................................................................................ เมอ่ื ไร : ........................................................................................ อย่างไร : ........................................................................................ ผลเปน็ อย่างไร : ........................................................................................ ใจความสำคัญ : ......................................................................................... 2. บ้านในชนบท มกั จะปลกู ต้นไผ่ทำเป็นร้ัวบา้ น เพราะไม้ไผ่มีหนาม ปอ้ งกันขโมยได้ดี เมืองในสมัยโบราณนั้น ยังไมม่ ีกำแพงเพชร เขาก็ปลูกตน้ ไผท่ ำเป็นรวั้ ไวก้ ็มี วิธกี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........................................................................................ ทำอะไร : ........................................................................................ เมื่อไร : ........................................................................................ อยา่ งไร : ........................................................................................ ผลเปน็ อยา่ งไร : ........................................................................................ ใจความสำคญั : ......................................................................................... 3. หลังฤดเู กบ็ เก่ียว เกษตรกรมกั ปลูกพชื อายุสนั้ และทนแลง้ พชื ทเ่ี หมาะสมได้แก่ พชื ตระกูลถ่วั แตถ่ ้าปลกู โดยวิธีการหวา่ นจะพบปัญหา เพราะมวี ชั พืชข้ึนแขง่ กบั ตน้ ถ่ัว จึงยากแกก่ ารกำจัดวัชพชื ทำให้ไดผ้ ลผลติ ตำ่ วธิ กี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........................................................................................ ทำอะไร : ........................................................................................ เม่อื ไร : ........................................................................................ อย่างไร : ........................................................................................ ผลเปน็ อย่างไร : ........................................................................................ ใจความสำคญั : .........................................................................................

15 4. ค้างคาวเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน มันสามารถบินผาดโผนฉวัดเฉวียนไปมาโดยไม่ต้องพึ่งสายตา มัน อาศยั เสยี งสะทอ้ นกลับของตัวมนั เอง โดยคา้ งคาวจะส่งคลื่นสญั ญาณพิเศษซ่ึงสั้นและรวดเรว็ เมอื่ สัญญาณไปกระทบ ส่ิงกดี ขวางด้านหน้ากจ็ ะสะท้อนกลบั เข้ามา ทำให้รวู้ า่ มีอะไรอยู่ด้านหน้า มันจะบนิ หลบเลีย่ งได้ แมแ้ ต่สายโทรศัพท์ท่ี ระโยงระยางเป็นเส้นเล็กๆ คลื่นเสียงก็จะไปกระทบแลว้ สะท้อนกลับเขา้ หูของมันได้ ไม่มีสัตว์ชนิดไหนที่จะสามารถ รบั คลืน่ สะทอ้ นกลบั ไปไดใ้ นระยะใกล้ แต่ค้างคาว ทำได้และบนิ วนกลับไดท้ ันทว่ งที วธิ กี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........................................................................................ ทำอะไร : ........................................................................................ เมื่อไร : ........................................................................................ อย่างไร : ........................................................................................ ผลเป็นอยา่ งไร : ........................................................................................ ใจความสำคัญ : ......................................................................................... 5. กระเบื้องเคลือบในห้องน้ำ มักจะเกิดความสกปรกได้ง่าย ถ้าหากไม่ดุแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อปล่อยทิ้งไว้ นานๆ นับวันคราบไคลก็จะเต็มไปหมดจนอาจเป็นอันตรายได้ มีวิธีการทำความสะอาดได้ง่ายๆ คือ เพียงแค่เอาน้ำ ราดตรงบริเวณทกี่ ระเบื้องเคลอื บสกปรกแล้วนำเกลือมาโรยลงบนแปรงขัดท่ัวห้องนำ้ และที่ผนงั ของห้องน้ำ จะพบว่า เกลือช่วยขจัดคราบสกปรกต่างๆ ให้หายไปอย่างง่ายดาย เมื่อขัดเสร็จแล้วล้างห้องน้ำให้คราบเกลือออกให้หมด เพยี งเทา่ นี้หอ้ งนำ้ ก็จะดูสะอาดปราศจากคราบไคลเป็นเงาแวววาวเหมอื นของใหม่ วิธกี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........................................................................................ ทำอะไร : ........................................................................................ เมือ่ ไร : ........................................................................................ อยา่ งไร : ........................................................................................ ผลเป็นอยา่ งไร : ........................................................................................ ใจความสำคญั : .........................................................................................

16 แบบฝกึ ทักษะท่ี ๑.3 คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนขดี เสน้ ใตใ้ จความสำคัญจากข้อความทีก่ ำหนดให้ (คะแนนเต็ม 5 คะแนน ข้อละ 1 คะแนน) ***************************************************************************** 1. ธรรมชาตใิ หล้ ิ้นคนเราล้ินเดียว แต่หูสองหู นั่นคอื เราตอ้ งฟงั คนอื่นยงิ่ กวา่ พูดถึงสองเทา่ ( ศิลปะการฟงั : วันทิพย์) 2. ขณะนี้ไมว่ ่าท่านจะอยู่ ณ ทีใ่ ด ท่ีในบา้ น บนรถไฟ รถเมล์ ในห้องทำงาน บนสถานที่ราชการหรือทใี่ ดก็ตาม ท่าน จะต้องใช้สายตา “อ่าน” อยูต่ ลอดเวลา ซ่งึ แนล่ ะเราต้องยกเว้นในกรณีทท่ี ่านตาบอดเพราะทา่ นย่อมจะอ่านหนังสือ ในเลม่ น้ีไม่ได้แน่ ยกเว้นแตจ่ ะมใี ครอา่ นใหท้ ่านฟัง (ศลิ ปะการอา่ นหนงั สือ : ครรชิต มาลยั วงศ)์ 3. ในกจิ กรรมทมี่ นษุ ย์ต้องกระทำ การฟังเปน็ กิจกรรมท่คี นทำรองลงมาจากการหายใจเท่านน้ั การฟงั มคี วามสำคัญ ตอ่ ความสำเรจ็ ในชีวิตส่วนตวั อาชพี สังคม และครอบครัว ถ้าคนทำงานได้เรยี นรถู้ งึ การฟงั อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ (ศิลปะการฟงั : วันทพิ ย)์ 4.คนสมบูรณ์เป็นอย่างไร ท่านอาจบอกว่า คนสมบูรณ์คือคนอ้วน เพื่อนของท่านอาจบอกว่า คนสมบูรณ์คือคน ร่ำรวย บางคนอาจบอกว่าคนสมบูรณ์คือคนไม่พิการ แต่เบคอนปรัชญาเมธีชาวอังกฤษพิจารณาคนผิดไปจากน้ัน ท่านว่าคนสมบูรณค์ อื คนอ่านหนังสอื ...การอา่ นหนังสอื ทำใหค้ นสมบูรณ์ (การอา่ นเพ่อื ความสมบูรณ์ : เจอื สตะเวทิน) 5.คนไทยแม้จะมีจิตใจรักความสะดวกสบาย และมักทำตามใจตัวกันเป็นปรกติ แต่ก็มีความสำนึกมัน่ ในชาติอยู่แทบ ทกุ ตัวคน ยามมอี ันตรายเกิดขึน้ แกบ่ า้ นเมอื งเราก็รวมกนั ไดเ้ หนียวแนน่ และถือวนิ ยั ได้เครง่ ครดั (พระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั ในงานพระราชพิธีเฉลมิ พระชนมพรรษา 5 ธนั วาคม 2520)

17 แบบทดสอบหลงั เรียน แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท21101 สำหรับนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เรือ่ ง หลกั และวิธกี ารอา่ นเพ่ือจับใจความสำคญั คำช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ถี กู ตอ้ งทสี่ ดุ เพียงข้อเดียว โดยทำเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ลงในกระดาษคำตอบ (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน) ------------------------------------------------------------------------------------------------------- 1. ขอ้ ใดถอื วา่ เปน็ ขน้ั ตอนสุดท้ายของการอา่ นจับใจความ ก. อ่านผา่ น ๆ โดยตลอดเพอ่ื ใหร้ ้เู รื่อง ข. อา่ นใหล้ ะเอยี ดเพ่ือทำความเขา้ ใจ ค. เรยี บเรยี งใจความสำคัญของเรือ่ ง ง. อ่านซ้ำตอนท่ไี ม่เขา้ ใจ 2. ข้อใดไม่ใชล่ กั ษณะพน้ื ฐานการอ่านจับใจความสำคัญ ก. มีทักษะในการใชภ้ าษา ข. สำรวจส่วนประกอบของหนังสือ ค. การเกบ็ ข้อมูลแนวความคิดหรอื ทัศนะของผูเ้ ขยี น ง. ใชค้ วามสามารถในดา้ นการแปลความหมายของคำประโยค และข้อความต่างๆ อยา่ งถูกตอ้ ง และรวดเร็ว ๓. ข้อใดไมค่ วรปฏิบตั ใิ นการอา่ นจบั ใจความสำคัญ ก. อ่านใหล้ ะเอยี ด ข. ทำความเข้าใจอย่างชดั เจน ค. การตดั เอาข้อความมาเรียงต่อกนั ง. เก็บจุดมงุ่ หมายสำคัญของเรอ่ื งได้ 4. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของการอ่านจับใจความสำคญั ถูกตอ้ งที่สดุ ก. การอ่านเพอื่ ประโยชน์เฉพาะทาง ข. การอา่ นเพอ่ื นนำไปเล่าให้คนอ่นื ฟัง ค. การอา่ นเพอ่ื ทบทวนสิง่ ท่ไี ด้เรียนมาแลว้ ง. การอา่ นเพื่อจบั ใจความหรือขอ้ คดิ สำคัญของข้อความจากเรื่องท่อี ่าน

18 5. หลกั การอ่านจับใจความสำคญั ควรปฏิบตั ิอย่างไร ก. อ่านและแยกเรอ่ื งออกเป็นตอน ๆ ข. ยึดเอาย่อหน้าแรกเป็นใจความสำคัญของเรื่อง ค. อ่านเร่อื งราวดว้ ยความรวดเรว็ และใชเ้ วลาในการอา่ นให้นอ้ ยทสี่ ดุ ง. นำส่ิงทสี่ รุปได้มาเรียบเรยี งใจความสำคัญใหม่ดว้ ยสำนวนของตนเองเพ่อื ใหเ้ กิดความสละสลวย 6. เมอ่ื พบศัพท์ยากอา่ นแลว้ ไมเ่ ข้าใจนกั เรยี นควรทำอย่างไร ก. ปลอ่ ยไปกอ่ นแลว้ ค่อยอ่านซำ้ อกี คร้ัง ข. ถามคุณครู ค. อา่ นข้ามๆ ไป ง. เปิดพจนานุกรม 7. ข้อใดถือว่าเปน็ ขน้ั ตอนแรกของการอา่ นจบั ใจความ ก. เรยี บเรียงใจความสำคัญของเรื่อง ข. อา่ นผา่ นๆโดยตลอดเพอ่ื ให้รู้เรอ่ื ง ค. อ่านใหล้ ะเอียดเพือ่ ทำความเข้าใจ ง. อ่านซ้ำตอนทไี่ มเ่ ข้าใจ 8. คำวา่ ใจความรอง หมายถึงขอ้ ใด ก. ขอ้ ความท่ีเป็นประโยคเด่ียว ๆ ข. ข้อความทบี่ อกถึงเจตนารมณ์ของผู้เขยี น ค. ข้อความหรือประโยคท่สี ามารถเปน็ หัวเร่ืองของย่อหน้า ง. ขอ้ ความสนบั สนนุ หรือประโยคทข่ี ยายความประโยคใจความสำคญั 9. ขอ้ ใดไม่ใช่ลักษณะของวธิ ีการจบั ใจความสำคัญ ก. การนบั คำในประโยค ข. ตดั ส่วนทีเ่ ปน็ รายละเอียด ค. สรปุ ใจความสำคัญด้วยสำนวนภาษาของตนเอง ง. พิจารณาทลี ะยอ่ หน้า หาประโยคใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้า 10. ขอ้ ใดต่อไปนีเ้ ปน็ ลักษณะของนักอ่านจับใจความสำคัญ ก. การรจู้ ักจดบนั ทกึ การอ่าน ข. การอ่านข้ามขอ้ ความทีไ่ มเ่ ขา้ ใจ ค. การลอกความหมายคำศัพท์ท่ยี าก ๆ จากเพื่อนเพราะจะไดไ้ มเ่ สยี เวลา ง. ฝกึ จบั ใจความของเร่ืองและเลอื กเอาย่อหน้าใดยอ่ หน้าหนงึ่ เป็นใจความสำคัญของเรือ่ ง ดอกไมช้ ่อน้ี... ใหร้ างวลั สาหรบั ทกุ คนนะคะ

19 กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรียน แบบฝึกทักษะ รายวิชาภาษาไทย รหสั วชิ า ท21101 การอ่านจับใจความสำคัญ สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เร่อื ง หลกั และวธิ กี ารอ่านเพ่อื จับใจความสำคัญ ช่ือ.....................................................................ชน้ั ....................เลขท.ี่ ................ ขอ้ ที่ ก ข ค ง 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได.้ ........................คะแนน สรุปผลการประเมิน  ผา่ น  ไมผ่ า่ น เกณฑ์ผ่านการประเมนิ ๘ – ๑๐ คะแนน

20 บรรณานุกรม กรมวชิ าการ, กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๕๑). หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธกิ าร. จุไรรตั น์ ลกั ษณะศิริ และบาหยัน อมิ่ สำราญ. (๒๕๔๘). การใช้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ : คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร. ราชบัณฑิตยสถาน. (๒๕๕๖). พจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรงุ เทพฯ : นานมีบุ๊ค พบั ลิเคชั่นส์ แววมยุรา เหมือนนิล. (๒๕๕๓). การอ่านจับใจความ. กรงุ เทพฯ : ชมรมเดก็ . เสนีย์ วลิ าวรรณ. (๒๕๕๒). คมู่ อื การสอนภาษาไทย ม.๑-๓ กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย. กรุงเทพฯ : วัฒนา พานิช. https://woolfsonandtay.com https://sites.google.com/site/technicalreadingyvc2016/home/kar-xan-cabci-khwam

21 ภาคผนวก

22 เฉลยแบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น แบบฝึกทักษะ รายวิชาภาษาไทย รหสั วิชา ท21101 การอา่ นจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 เรือ่ ง หลักและวิธีการอา่ นเพือ่ จบั ใจความสำคัญ ชื่อ.....................................................................ชนั้ ....................เลขท.่ี ................ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น ขอ้ ท่ี ก ข ค ง ขอ้ ที่ ก ข ค ง 1 1  2 2  3 3  4 4  5 5  6 6  7 7 8 8  9 9 10  10  คะแนนเต็ม 10 คะแนน ได้.........................คะแนน สรปุ ผลการประเมิน  ผ่าน  ไมผ่ า่ น เกณฑผ์ ่านการประเมนิ ๘ – ๑๐ คะแนน

23 เฉลยแบบฝึกทักษะท่ี 1.1 คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอ่านข้อความแล้วทำเคร่ืองหมาย ✓หน้าขอ้ ความทเ่ี ป็นจริงและทำเครอ่ื งหมาย  หน้าข้อความท่ีเปน็ เทจ็ (คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนน ขอ้ ละ ๑ คะแนน) ********************************************************************* ... ✓... 1. การอา่ นเพ่ือสรปุ ใจความสำคัญ ผอู้ ่านต้องทำความเขา้ ใจเร่ืองที่อ่าน ต้องอ่านหลายๆเทยี่ ว ... ... 2. ใจความสำคัญทม่ี ลี กั ษณะของประโยค สว่ นมากมักจะปรากฏในทกุ ย่อหนา้ ... ... 3. จุดมงุ่ หมายของการอา่ นจบั ใจความสำคัญ คอื อา่ นเพ่ือความเพลิดเพลนิ ... ... 4. ในการอา่ นไม่ควรตัง้ จดุ มุง่ หมายไว้มากเกนิ ไปเพราะจะทำใหไ้ ม่ไดส้ าระความรู้ .... ✓... 5. ส่วนขยายของใจความเรยี กว่า พลความ ... ... 6. ไม่ควรนำสิง่ ทสี่ รปุ ไดม้ าเรียบเรยี งใจความสำคัญใหม่ด้วยสำนวนของตนเอง ... ✓... 7. การอ่านจับใจความ หมายถงึ การอ่านเพื่อจบั ใจความหรอื ความคดิ หลักจากข้อความหรือเรือ่ งท่อี า่ น ... ✓... 8 การอา่ นจับใจความจะต้องพจิ ารณาทีละย่อหน้า ...  ... 9. เมือ่ อา่ นจบไม่ควรตงั้ คำถามกบั ตนเองว่า เรอ่ื งท่อี ่านมีใคร ทำอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร อยา่ งไร ...✓... ๑๐. การอ่านจบั ใจความสำคัญเปน็ การอา่ นท่ีเป็นพืน้ ฐาน โดยสามารถนำไปต่อยอดเปน็ การวเิ คราะห์ และ ประเมนิ ค่าเร่ืองท่อี ่านต่อไปได้ เกณฑก์ ารให้คะแนน - สรุปใจความสำคญั ของข้อความไดถ้ ูกต้อง ข้อละ 1 คะแนน - สรปุ ใจความสำคญั ของข้อความไม่ถูกต้อง ขอ้ ละ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ดีมาก ดี คะแนน 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 5 หมายถึง ควรปรบั ปรุง คะแนน 3-4 หมายถึง คะแนน 0-2 หมายถึง เกณฑก์ ารตัดสนิ ต้องผ่านระดับดี 5 คะแนน (ร้อยละ 80) ขนึ้ ไป

24 แบบฝึกทักษะที่ 1.2 คำช้ีแจง นกั เรยี นจับคู่คำถามและคำตอบใหถ้ กู ต้อง (5 คะแนน) ************************************************** คำถาม คำตอบ ๑. การอา่ นจับใจความสำคัญ ควรตงั้ จดุ มุ่งหมายในการอ่าน 2. การฝกึ อ่านจับใจความสำคัญควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร การคน้ หาสาระสำคญั ของเรื่องหรือของหนงั สอื ท่ี 3. จดุ มุ่งหมายของการอ่านจับใจความ อ่านส่วนนั้นคือข้อความที่มสี าระครอบคลุม 4. การอ่านจบั ใจความสำคญั ควรทำอยา่ งไร ข้อความอื่นๆ 5. เมื่ออ่านจบแล้วต้องทำอย่างไร สร้างนิสัยรักการอ่าน ฝึกใชพ้ จนานุกรม จดบันทกึ ฝึกจับใจความทลี ะย่อหนา้ จดบนั ทึก ๑. เพื่อให้อ่านและจับใจความได้ ๒. เพอ่ื บอกรายละเอยี ดของเรื่องราวทอ่ี ่าน ๓. อ่านเพ่อื ปฏบิ ัตติ ามคำสง่ั และคำแนะนำ ๔. ฝึกการใชส้ ายตา นิยมอา่ นเพ่อื ฝึกการอา่ น เรว็ และตอบคำถามได้ถกู ต้อง ๕. เพื่อสรุปหรือย่อเรอ่ื งทอี่ า่ นเกี่ยวกบั อะไร ๖. เพอ่ื คาดการณ์ทำนายเร่อื งวา่ จะลงเอย อยา่ งไร ๗. เพือ่ ทำรายงานย่อสรปุ มีการฝึกโนต้ ยอ่ ๘. เพื่อหาความจริงและแสดงขอ้ คิดเหน็ ได้ จดบันทึก

25 เกณฑก์ ารให้คะแนน - สรปุ ใจความสำคัญของข้อความไดถ้ ูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน - สรุปใจความสำคัญของข้อความไมถ่ ูกต้อง ข้อละ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ 9-10 หมายถงึ ดมี าก 6-8 หมายถึง ดี คะแนน 2-5 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0-2 หมายถงึ ควรปรบั ปรุง คะแนน คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ ต้องผา่ นระดบั ดี 6 คะแนน (ร้อยละ 80) ขน้ึ ไป

26 เฉลยแบบฝกึ ทักษะท่ี 1.3 คำชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ใจความสำคัญจากข้อความทกี่ ำหนดให้ (คะแนนเต็ม ๑๐ คะแนน ข้อละ ๒ คะแนน) ****************************************************************************************************** 1. การรดนำ้ ตน้ ไม้ หรือสนามหญา้ ควรจะรดชว่ งเช้าหรอื ชว่ งเยน็ มากกว่า เพราะเวลาเท่ียง หรือชว่ งแดดจ้า จะทำ ใหน้ ้ำร้อยละ ๕๐ ระเหยไปในอากาศ หรือใหต้ ้นไม้ได้ใชเ้ พียงครึ่งเดียว เทา่ นนั้ วิธีการสรปุ ใจความ ใคร/อะไร : .....การรดนำ้ .................................. ทำอะไร : .....รดนำ้ ตน้ ไมห้ รอื สนามหญา้ .................................. เมือ่ ไร : .....ชว่ งเช้าหรือช่วงเย็น................................................... อยา่ งไร : ......ควรรดชว่ งเช้าหรือช่วงเยน็ ....................................... ผลเปน็ อย่างไร : ..ควรรดชว่ งเช้าหรอื ช่วงเย็นเพราะเวลาเท่ียง หรอื แดดจา้ ต้นไมจ้ ะได้น้ำ เพียงครึ่งเดียว.... ใจความสำคัญ : ....การรดนำ้ ต้นไม้หรือสนามหญ้า ควรรดช่วงเช้าหรือชว่ งเย็น เพราะเวลาเทย่ี งหรือแดดจ้า ต้นไม้จะได้น้ำเพียงครึ่งเดียว 2. บ้านในชนบท มักจะปลูกต้นไผท่ ำเปน็ ร้ัวบา้ น เพราะไม้ไผม่ หี นาม ป้องกันขโมยไดด้ ี เมอื งในสมัยโบราณน้นั ยงั ไม่ มีกำแพงเพชร เขาก็ปลูกตน้ ไผ่ทำเป็นร้ัวไวก้ ็มี วธิ กี ารสรปุ ใจความ ใคร/อะไร : ....บา้ นในชนบท..... ทำอะไร : ....ปลกู ตน้ ไม้..... เมอ่ื ไร : ......-............ อยา่ งไร : ....ปลูกตน้ ไผท่ ำเปน็ รว้ั บ้าน..... ผลเป็นอยา่ งไร : ..... ตน้ ไผม่ หี นามเปน็ รวั้ บา้ น กนั ขโมยได้..... ใจความสำคัญ : ....บา้ นในชนบท ปลูกต้นไม้ไผเ่ ป็นร้วั บา้ นกันขโมยได้เพราะตน้ ไผ่มหี นาม....

27 3. หลงั ฤดูเกบ็ เก่ียว เกษตรกรมกั ปลูกพืชอายสุ น้ั และทนแล้ง พืชทเ่ี หมาะสมได้แก่ พืชตระกลู ถ่ัว แตถ่ ้าปลกู โดยวธิ ีการหวา่ นจะพบปัญหา เพราะมวี ัชพืชขึ้นแขง่ กบั ต้นถั่ว จึงยากแกก่ ารกำจัดวชั พืช ทำใหไ้ ด้ผลผลติ ตำ่ วธิ ีการสรุปใจความ ใคร/อะไร : ....เกษตรกร.................................................................................... ทำอะไร : ....ปลูกพชื ตระกูลถั่ว.................................................................................... เมอ่ื ไร : ....หลังฤดเู ก็บเก่ยี ว.................................................................................... อยา่ งไร : .....ใชว้ ธิ ีหว่าน................................................................................... ผลเปน็ อยา่ งไร : ....วชั พชื ขน้ึ แข่ง ไดผ้ ลผลติ ต่ำ.................................... ใจความสำคญั : ..เกษตรกรปลกู พืชตระกูลถว่ั หลังฤดเู ก็บเกย่ี ว ถา้ ใช้วธิ ีหวา่ น ทำให้วัชพืชขน้ึ แข่ง ได้ผลผลิตตำ่ .. 4. ค้างคาวเป็นสัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคืน มันสามารถบินผาดโผนฉวัดเฉวียนไปมาโดยไม่ต้องพึ่งสายตา มัน อาศัยเสยี งสะท้อนกลบั ของตัวมันเอง โดยคา้ งคาวจะส่งคลื่นสญั ญาณพิเศษซึ่งส้นั และรวดเร็ว เม่อื สัญญาณไปกระทบ สงิ่ กีดขวางด้านหนา้ ก็จะสะท้อนกลบั เข้ามา ทำใหร้ วู้ า่ มีอะไรอยดู่ า้ นหนา้ มนั จะบินหลบเล่ยี งได้ แมแ้ ตส่ ายโทรศัพท์ที่ ระโยงระยางเป็นเส้นเล็กๆ คลื่นเสียงก็จะไปกระทบแล้วสะท้อนกลับเข้าหูของมันได้ ไม่มีสัตว์ชนิดไหนที่จะสามารถ รับคลน่ื สะทอ้ นกลบั ไปไดใ้ นระยะใกล้ แต่ค้างคาวทำได้และบินวนกลบั ได้ทนั ท่วงที วธิ ีการสรุปใจความ ใคร : .....ค้างคาว...................... ทำอะไร : ...ออกหากนิ ........................ เมอื่ ไร : ....ตอนกลางคืน....................... อยา่ งไร : ...โดยไมใ่ ช้สายตา แตอ่ าศยั เสียงสะทอ้ นกลับของตวั มนั เอง.. ... ผลเป็นอยา่ งไร : .....สามารถหลบสิ่งกีดขวาง................................... ใจความสำคัญของเรอื่ ง คา้ งคาว คือ .....ค้างคาว ออกหากิน คา้ งคาวจะออกหากนิ ในตอนกลางคนื โดยไม่ต้องอาศยั สายตา แตจ่ ะอาศยั เสยี ง สะท้อนกลับของตัวมนั เอง ตอนกลางคืน โดยไม่ใชส้ ายตา แต่อาศัยเสยี งสะท้อนกลบั ของ ตัวมนั เอง

28 5. กระเบื้องเคลือบในห้องน้ำ มักจะเกิดความสกปรกได้ง่าย ถ้าหากไม่ดุแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ เมื่อปล่อย ทิ้งไว้ นานๆ นับวันคราบไคลก็จะเต็มไปหมดจนอาจเป็นอันตรายได้ มีวิธีการทำความสะอาดได้ง่ายๆ คือ เพียงแค่เอาน้ำ ราดตรงบริเวณทกี่ ระเบ้อื งเคลือบสกปรกแลว้ นำเกลือมาโรยลงบนแปรงขัดทัว่ ห้องนำ้ และที่ผนงั ของห้องน้ำ จะพบว่า เกลือช่วยขจัดคราบสกปรกต่างๆ ให้หายไปอย่างง่ายดาย เมื่อขัดเสร็จแล้วล้างห้องน้ำให้คราบเกลือออกให้หมด เพียงเทา่ น้หี อ้ งน้ำกจ็ ะดูสะอาดปราศจากคราบไคลเปน็ เงาแวววาวเหมือนของใหม่ วิธกี ารสรุปใจความ ใคร/อะไร : ........กระเบ้ืองเคลือบ................................................................................ ทำอะไร : .......มคี ราบสกปรก................................................................................. เมอ่ื ไร : ........เมอ่ื ใชน้ านๆ................................................................................ อย่างไร : .......วธิ ที ่ที ำความสะอาดง่ายๆ คอื ใชเ้ กลือขัด......................................... ผลเปน็ อยา่ งไร : ........ห้องนำ้ ดสู ะอาดปราศจากคราบสกปรก................................... ใจความสำคัญ : ........กระเบ้อื งเคลือบในห้องน้ำเกิดคราบสกปรก เมื่อปลอ่ ยทงิ้ ไว้นานๆ วธิ ีการทำ ความสะอาดง่ายๆ คือ นำเกลอื มาโรยแลว้ ขัดใหท้ ่ัวห้องน้ำจะทำให้ห้องน้ำดูสะอาด ปราศจากคราบสกปรก.......

29 เกณฑก์ ารให้คะแนน - สรปุ ใจความสำคัญของข้อความไดถ้ ูกต้อง ข้อละ 2 คะแนน - สรุปใจความสำคัญของข้อความไมถ่ ูกต้อง ข้อละ 0 คะแนน เกณฑ์การประเมนิ 9-10 หมายถงึ ดีมาก 6-8 หมายถึง ดี คะแนน 2-5 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0-2 หมายถงึ ควรปรบั ปรุง คะแนน คะแนน เกณฑ์การตดั สนิ ต้องผา่ นระดบั ดี 6 คะแนน (ร้อยละ 80) ขน้ึ ไป

30 เฉลยแบบฝึกทกั ษะท่ี ๑.4 คำช้ีแจง ให้นักเรียนขีดเส้นใต้ใจความสำคัญจากข้อความทกี่ ำหนดให้ (คะแนนเต็ม 5 คะแนน ข้อละ 1 คะแนน) ***************************************************************************** 1. ธรรมชาติใหล้ ้นิ คนเราลนิ้ เดยี ว แต่หูสองหู น่นั คอื เราตอ้ งฟังคนอื่นย่งิ กวา่ พูดถงึ สองเทา่ ( ศลิ ปะการฟงั : วนั ทิพย)์ 2. ขณะน้ีไมว่ า่ ท่านจะอยู่ ณ ทใี่ ด ทใ่ี นบ้าน บนรถไฟ รถเมล์ ในหอ้ งทำงาน บนสถานท่รี าชการหรอื ท่ใี ดก็ตาม ท่านจะต้องใช้สายตา “อ่าน” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่ละเราต้องยกเว้นในกรณีที่ท่านตาบอดเพราะท่านย่อมจะอ่าน หนังสือในเล่มน้ไี มไ่ ดแ้ น่ ยกเวน้ แตจ่ ะมใี ครอ่านให้ทา่ นฟงั (ศลิ ปะการอ่านหนังสือ : ครรชติ มาลยั วงศ์) 3. ในกิจกรรมที่มนุษย์ต้องกระทำ การฟังเป็นกิจกรรมที่คนทำรองลงมาจากการหายใจเท่านั้น การฟังมี ความสำคัญต่อความสำเร็จในชีวิตส่วนตัว อาชีพ สังคม และครอบครัว ถ้าคนทำงานได้เรียนรู้ถึงการฟังอย่ างมี ประสทิ ธิภาพ (ศลิ ปะการฟงั : วันทิพย์) 4. คนสมบูรณ์เป็นอย่างไร ท่านอาจบอกว่า คนสมบูรณ์คือคนอ้วน เพื่อนของท่านอาจบอกว่า คนสมบูรณ์คือคน ร่ำรวย บางคนอาจบอกว่าคนสมบูรณ์คือคนไม่พิการ แต่เบคอนปรัชญาเมธีชาวอังกฤษพิจารณาคนผิดไปจากน้ัน ทา่ นว่าคนสมบูรณค์ ือคนอ่านหนังสือ...การอา่ นหนงั สือทำใหค้ นสมบรู ณ์ (การอ่านเพอื่ ความสมบูรณ์ : เจอื สตะเวทนิ ) 5. คนไทยแม้จะมีจิตใจรักความสะดวกสบาย และมักทำตามใจตัวกันเป็นปรกติ แต่ก็มีความสำนึกมั่นในชาติอยู่ แทบทุกตัวคน ยามมีอันตรายเกิดขน้ึ แก่บา้ นเมืองเรากร็ วมกันได้เหนยี วแนน่ และถือวินยั ไดเ้ ครง่ ครัด (พระราชดำรัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั ในงานพระราชพิธเี ฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2520)

31 เกณฑก์ ารให้คะแนน - สรุปใจความสำคญั ของข้อความได้ถูกต้อง ขอ้ ละ 1 คะแนน - สรปุ ใจความสำคัญของข้อความไม่ถูกต้อง ขอ้ ละ 0 คะแนน เกณฑก์ ารประเมิน ดมี าก ดี คะแนน 5 หมายถงึ พอใช้ คะแนน 4 หมายถงึ ควรปรบั ปรุง คะแนน 2-3 หมายถงึ คะแนน 0-1 หมายถงึ เกณฑก์ ารตดั สิน ต้องผา่ นระดบั ดี 4 คะแนน (ร้อยละ 80) ขน้ึ ไป

32 ตารางบนั ทึกคะแนนการอ่านเพอ่ื จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เรอ่ื ง หลักและวิธีการอ่านเพือ่ จบั ใจความสำคัญ ชอ่ื .......................................................สกุล...............................................ชน้ั ........... ........เลขที่............. 1. แบบทดสอบ แบบทดสอบ คะแนนเตม็ คะแนนท่ีได้ หมายเหตุ กอ่ นเรยี น หลังเรียน ผลการพฒั นา 2.แบบฝึกทกั ษะ คะแนนเตม็ คะแนนที่ได้ หมายเหตุ หลักและวิธกี ารอา่ นเพ่อื 10 จับใจความสำคญั 5 10 แบบฝึกทักษะที่ 1.1 5 แบบฝึกทักษะที่ 1.2 30 แบบฝึกทกั ษะท่ี 1.3 แบบฝึกทักษะที่ 1.4 ผลการพฒั นา

33 แบบประเมิน คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรอ่ื ง................................................................................................ คณุ ลกั ษณะ รายการประเมนิ ระดับคะแนน อนั พงึ ประสงคด์ ้าน ๔๓๒ ๑ ๑. มีวนิ ัย รับผดิ ชอบ ๑.๑ ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว และโรงเรยี น มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ๒. ใฝเ่ รียนรู้ ในชีวิตประจำวัน ๔. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ๒.๑ แสวงหาข้อมูลจากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่างๆ ๒.๒ มีการจดบนั ทกึ ความรอู้ ย่างเปน็ ระบบ ๒.๓ สรุปความรูไ้ ดอ้ ย่างมเี หตผุ ล ๔.๑ มคี วามต้ังใจและพยายามในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย ๔.๒ มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสำเรจ็ ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ ๔ คะแนน ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ ๓ คะแนน ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง้ ให้ ๒ คะแนน ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง ให้ ๑ คะแนน ๒๐ - ๒๔ ดีมาก ๑๖ – ๑๙ ดี ๑๕ – ๑๑ พอใช้ ต่ำกว่า ๑๐ ปรับปรุง

34 แบบสงั เกตพฤติกรรมรายบุคคล กจิ กรรม/เรอ่ื ง………………………………………………………… ลำดบั รายการพฤติกรรม ท่ี ชื่อ-สกุล ความ การมี การ การยอมรบั รวม ตั้งใจ สว่ นรว่ ม ถาม/ตอบ ความคดิ เหน็ ๑๒ ๑ ๒ ผอู้ ่ืน คะแนน ๓ ๔ ๓๒๑๓๒๑๓๒๑ ๓ ๒ ๑ ๕ ๖ ๗ ๘ ๙ ๑๐ เกณฑ์การให้คะแนน ๓ หมายถงึ มีพฤติกรรมน้ัน ๆ ต่อเน่ืองสม่ำเสมอ ๒ หมายถงึ มพี ฤติกรรมนน้ั ๆ เป็นบางครั้ง ๑ หมายถึง มีพฤติกรรมนั้น ๆ น้อยมาก ระดับคณุ ภาพ ๑๑ - ๑๒ คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดีมาก ๙ – ๑๐ คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ดี ๖ – ๘ คะแนน หมายถึง ระดบั คุณภาพ ปานกลาง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ระดับคุณภาพ ควรปรบั ปรุง เกณฑผ์ ่าน ได้คะแนนระดบั คุณภาพไมน่ อ้ ยกว่า ๙ คะแนนหรือคุณภาพระดับ ดี ข้ึนไป


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook