Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ชิ้นงานที่ 4 หน่วยที่ 2 แผนที่ 14-merged-compressed

ชิ้นงานที่ 4 หน่วยที่ 2 แผนที่ 14-merged-compressed

Published by วัชรีย์ รัตโนทัย, 2018-10-12 03:08:05

Description: ชิ้นงานที่ 4 หน่วยที่ 2 แผนที่ 14-merged-compressed

Search

Read the Text Version

__________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________________ ลงช่ือ__________________ (ผบู้ นั ทึก) (__________________) _____/_____/_____

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ๒ โคลงโลกนติ ิเรอ่ื ง สรรกิจกรรม นาพัฒนาทกั ษะรายวิชา ภาษาไทย รหัสวชิ า ท ๒๑๑๐๑ ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๑กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นที่ ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมงครผู ู้สอน นางวัชรยี ์ รตั โนทัย โรงเรยี น หันคาราษฎรร์ งั สฤษดิ์ มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นสื่อสาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี น เร่ืองราวในรปู แบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศ และรายงาน การศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตัวชวี้ ดั ท ๒.๑ ม. ๑/๓ เขยี นบรรยายประสบการณโ์ ดยระบุสาระสาคัญและรายละเอียด สนับสนุน ท ๒.๑ ม. ๑/๙ มีมารยาทในการเขียน มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟงั และดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด และความรสู้ ึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และสรา้ งสรรค์ ตัวชว้ี ัด ท ๓.๑ ม. ๑/๓ พดู แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งสร้างสรรคเ์ กี่ยวกบั เรื่องท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ ม. ๑/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด จดุ ประสงค์การเรยี นรูส้ ูต่ ัวช้ีวัด ๑. สรุปลกั ษณะการเขียนบรรยายประสบการณแ์ ละหลกั การพูดแสดงความคิด อย่างสรา้ งสรรค์ (K) ๒. เขยี นบรรยายประสบการณ์หรอื พูดแสดงความคดิ อย่างสร้างสรรค์ตามประเดน็ ทีก่ าหนด (P) ๓. เหน็ ความสาคญั และกระตือรือรน้ ในการรว่ มกิจกรรม (A)สาระสาคญั การพดู หรือเขียนเลา่ เรอื่ งทส่ี อดคล้องกับคาสอนในโคลงโลกนติ ิ เปน็ การพดู หรอื เขียนเพ่ือแสดงให้เห็นว่าโคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตคาสอนท่ีมีความทันสมัย เหมาะสมกับการดาเนินชีวิตในปัจจุบัน ผู้พูดหรือเขียนเล่าเร่ืองต้องเข้าใจเนื้อหาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถนามาเช่ือมโยงกับชีวิตจริงได้

สาระการเรยี นรู้ การพดู หรือเขยี นเลา่ เรื่องสมรรถนะสาคัญของผู้เรยี น ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทักษะการอ่าน - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟงั การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคดิ - การวเิ คราะห์ - การสังเคราะห์ - การประยกุ ต์/การปรับปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินค่า ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตัวชว้ี ัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเขา้ รว่ มกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตวั ชี้วัดท่ี ๔.๒ แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นร้ตู า่ ง ๆ ท้ังภายในและภายนอก โรงเรยี นดว้ ยการเลอื กใช้สื่ออย่างเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้ สามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวันได้ มุ่งมัน่ ในการทางาน ตวั ชว้ี ัดที่ ๖.๑ ตงั้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ทก่ี ารงาน ตวั ชวี้ ัดที่ ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพื่อใหง้ านสาเร็จตามเป้าหมาย รกั ความเปน็ ไทย ตัวช้ีวัดที่ ๗.๒ เหน็ คุณคา่ และใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถกู ต้องเหมาะสมช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ชิน้ งานเรอื่ ง การพดู หรอื เขยี นเล่าเรื่องท่สี ะท้อนการใชค้ าสอนในโคลงโลกนติ ิการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นกั เรยี นอ่านข้อความที่ครูกาหนด แล้วร่วมกันบอกว่าข้อความดังกล่าวสอดคล้องกับคาสอนในโคลงโลกนติ ิบทใด สมยั ท่ีผมยังเป็นเด็ก ในวนั แม่ ๑๒ สิงหา ท่ีโรงเรียนจะเปิดเพลงค่าน้านมหน้าเสาธง จนผมตอ้ งรอ้ งไห้โฮออกมาทุกที เพราะมันแทงใจดาของผม พอเขา้ ไปในห้องเรียน คุณครูประจาช้ัน กใ็ หพ้ วกเราทารายงานสง่ โดยให้เขยี นเรียงความวนั แม่ ซง่ึ ตอนนนั้ ผมก็เขียนบรรยายไปตามเรื่อง ตามราว ว่าแม่เลี้ยงดูเรามาอย่างไร แม่รักเราแค่ไหน ทุกวันแม่ทาอะไรให้เราบ้าง พร้อมท้ังคัดลอกเพลง “ใครหนอ” รักเราเท่าชีวี มาประกอบเรียงความให้ดูซาบซ้ึงกินใจขึ้น ผลงานของผมได้รับรางวัลเรียงความดีเด่นจากโรงเรียน แต่ความรู้สึกในใจของผมในตอนน้ัน มันไม่ได้เศษเสี้ยวความรักทผ่ี มมใี หแ้ มใ่ นตอนนี้เลย

เฉลย  คุณแม่หนาหนกั เพ้ียง พสุธา คณุ บิดรดจุ อา กาศกวา้ ง คุณพ่ีพา่ งศิขรา เมรมุ าศ คณุ พระอาจารยอ์ า้ ง อาจสสู้ าคร ๒. ให้นักเรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๓-๔ คน หาขา่ วในหนังสอื พิมพก์ ลุ่มละ ๑ ขา่ ว ท่สี อดคล้องกบั คาสอนในโคลงโลกนิติ ตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น ครแู ละนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๓. ให้นักเรยี นทาชนิ้ งานที่ ๔ เรอ่ื ง การพดู หรือเขยี นเล่าเรื่องที่สะทอ้ นการใช้คาสอนในโคลงโลกนิติ แล้วออกมานาเสนอหนา้ ชัน้ เรียน ทกุ คนร่วมกันประเมินผลงาน และแสดงความคิดเห็นเพม่ิ เติม ๔. นักเรยี นและครูร่วมกันสรุปความรู้ ดงั นี้  การพดู หรือเขียนเล่าเร่ืองที่สอดคล้องกับคาสอนในโคลงโลกนติ ิ เป็นการพดู หรอื เขยี นเพือ่ แสดงใหเ้ หน็ วา่ โคลงโลกนิตเิ ป็นสุภาษิตคาสอนที่มคี วามทันสมยั เหมาะสมกบั การดาเนนิ ชีวิตในปัจจุบัน ผ้พู ูดหรอื เขียนเล่าเร่ืองต้องเข้าใจเน้อื หาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถนามาเชื่อมโยงกับชีวติจริงได้ ๕. ให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามท้าทาย ดงั น้ี  ปจั จบุ ันน่าจะมคี าสอนใดเพิ่มเตมิ เพื่อให้สอดคลอ้ งกับยคุ สมัยส่ือการเรียนรู้ ๑. แถบข้อความ ๒. หนังสอื พมิ พ์ ๓. ชน้ิ งานการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ๑. วธิ กี ารวดั และประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรม ๒) สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการเข้าร่วมกิจกรรมกลมุ่ ๓) ตรวจช้ินงานท่ี ๔ ๒. เครอ่ื งมือ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) แบบสังเกตพฤติกรรมการเขา้ ร่วมกิจกรรมกลุ่ม ๓. เกณฑก์ ารประเมิน ๑) การประเมนิ พฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกจิ กรรม ผ่านตงั้ แต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผา่ น ผ่าน ๑ รายการ ถือว่าไมผ่ า่ น ๒) การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกจิ กรรมกลุ่ม คะแนน ๙ - ๑๐ ระดับ ดีมาก คะแนน ๗ - ๘ ระดับ ดี คะแนน ๕ - ๖ ระดับ พอใช้ คะแนน ๐ - ๔ ระดับ ควรปรับปรุง

การประเมนิ ผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมนิ ชนิ้ งานนี้ ใหผ้ สู้ อนพิจารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubricsเร่ือง การพดู หรือเขียนเล่าเร่ืองท่ีสะท้อนการใชค้ าสอนในโคลงโลกนิติระดับคะแนน ๔ ๓ ๒๑เกณฑ์การประเมิน พดู หรือเขียนการพูดหรือเขยี น พูดหรือเขยี น เล่าเร่ืองได้ตรง พูดหรอื เขียน พดู หรอื เขยี น ประเด็น ลาดับ เล่าเร่ืองได้ตรง เลา่ เรือ่ งได้ตรงเลา่ เร่ืองที่สะทอ้ น เลา่ เร่อื งได้ตรง เร่อื งและยก ประเดน็ ลาดับ ประเด็นแตเ่ พียง ตัวอย่างประกอบ เร่อื งดี แต่ยก สั้น ๆ มีการการใช้คาสอน ประเด็น ลาดับ ไดด้ ี สะท้อน ตวั อย่างประกอบ เชื่อมโยงกบั ให้เห็นการนา ไม่มากนกั คาสอนในโคลง-โลกในโคลงโลกนติ ิ เรอื่ งและยก คาสอนในโคลง- สอดคลอ้ งกับ นติ บิ า้ ง โลกนิตมิ าใช้ คาสอนในโคลง- เลก็ น้อย ตวั อยา่ งประกอบ ประโยชนใ์ น โลกนิติ การใช้ ชวี ติ ประจาวัน ภาษาต้องปรบั ปรุง ชัดเจน สะทอ้ น ไดด้ ี การใชภ้ าษา เลก็ น้อย ถกู ต้องเหมาะสม ให้เหน็ การนา คาสอนในโคลง- โลกนิติมาใช้ ประโยชน์ใน ชวี ิตประจาวัน ได้ดีมากและ ใชภ้ าษาถูกต้อง เหมาะสม

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑๕หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ๒ โคลงโลกนิตเิ รื่อง การเขียนกระทูแ้ ละการเขยี นบนั ทึกการเรยี นรู้รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท ๒๑๑๐๑ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ เวลา ๑ ช่ัวโมงครผู ูส้ อน นางวัชรีย์ รตั โนทัย โรงเรยี น หนั คาราษฎรร์ งั สฤษด์ิมาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขยี น เรือ่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ และรายงาน การศกึ ษาค้นควา้ อย่างมปี ระสิทธิภาพ ตวั ชว้ี ดั ท ๒.๑ ม. ๑/๒ เขยี นสอื่ สารโดยใช้ถ้อยคาถูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย ท ๒.๑ ม. ๑/๙ มีมารยาทในการเขยี นมาตรฐานการเรียนรู้มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณค่า และนามาประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิตัวช้ีวดัท ๕.๑ ม. ๑/๑ สรปุ เนอื้ หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อา่ นท ๕.๑ ม. ๑/๔ สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากการอา่ นเพ่ือประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิจุดประสงคก์ ารเรียนรสู้ ู่ตวั ชี้วัด๑. อธิบายหลักการเขียนกระทบู้ นสือ่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (K)๒. เขยี นกระท้บู นสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (P)๓. เขียนบันทกึ การเรียนรจู้ ากการอา่ นโคลงโลกนติ ิ (P)๔. เหน็ คุณคา่ ของวรรณคดีและการใชส้ ่ืออิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นประโยชน์ (A) สาระสาคัญ ๑. การเขยี นกระทู้บนกระดานสนทนาเปน็ การสื่อสารประเภทหนึ่งบนสอื่ อิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีผู้เขียนควรเลือกใช้ถ้อยคาให้กระชับ สุภาพ ส่ือความหมายได้ถูกต้อง และเขียนเร่ืองที่สร้างสรรค์เพ่ือให้เปน็ ประโยชน์แกผ่ อู้ า่ น สามารถนาไปใช้ในชีวิตจริงได้ ๒. การเขยี นบันทกึ การเรยี นรเู้ ปน็ การเขียนความรู้ ความรู้สึก และความคดิ เหน็ จากการอ่านวรรณคดี เพ่อื พฒั นาความคิดของผอู้ า่ น

สาระการเรียนรู้ ๑. การเขียนกระทู้บนกระดานสนทนา ๒. การเขียนบันทึกการเรียนรู้สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน ๑. ความสามารถในการสื่อสาร - ทักษะการอา่ น - ทักษะการเขียน - ทักษะการฟัง การดู และการพูด ๒. ความสามารถในการคดิ - การใหเ้ หตุผล - การวิเคราะห์ - การสังเคราะห์ - การสรปุ ความรู้ - การประเมนิ คา่ ๓. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝ่เรียนรู้ ตวั ช้วี ดั ท่ี ๔.๑ ต้ังใจ เพียรพยายามในการเรยี นและเขา้ ร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี ๔.๒ แสวงหาความร้จู ากแหลง่ เรยี นรู้ต่าง ๆ ทง้ั ภายในและภายนอก โรงเรียนด้วยการเลือกใช้สื่ออยา่ งเหมาะสม บันทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั ได้ ม่งุ มัน่ ในการทางาน ตัวชีว้ ัดท่ี ๖.๑ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ น้าท่กี ารงาน ตัวช้วี ดั ท่ี ๖.๒ ทางานด้วยความเพียรพยายามและอดทนเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็ ตามเป้าหมาย รักความเป็นไทย ตวั ช้วี ดั ที่ ๗.๒ เหน็ คุณค่าและใช้ภาษาไทยในการสอ่ื สารได้อย่างถูกต้องเหมาะสมชน้ิ งานหรอื ภาระงาน (หลักฐาน รอ่ งรอยแสดงความรู้) ๑. ช้นิ งานเร่อื ง การเขียนกระทเู้ กีย่ วกับโคลงโลกนิติบนกระดานสนทนา

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๑. ให้นักเรียนดูตัวอย่างการเขียนกระทู้บนกระดานสนทนาท่ีครูนามา จากนั้นร่วมกันสนทนาเกีย่ วกับประสบการณ์การเขียนกระทู้  รบกวนช่วยแนะนาหนังสือเรียนภาษาไทยสาหรับคนจีนครับ (จีนศึกษา) อยากเป็นตากลอ้ ง (0-22 เม.ย. 53 23:01)  สมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้ทาการเปลี่ยนแปลงภาษาไทยอย่างไรบ้างครับ(ภาษาไทย) ผมไมส่ น (4-22 เม.ย. 53 22:25)  ใครทราบประวัติหรือข้อมูล “ท้าวเทวราช” ท่ีประเทศลาวบ้างครับ (ประวัติศาสตร์)ก้อนหนิ ยอดดอย (2-22 เม.ย. 53 20:35)  ท่านคิดว่า อยากให้โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มาต้ังใกล้ ๆ บ้านท่านหรือไม่(วศิ วกรรมและเทคโนโลย)ี หา้ มวางไวใ้ กล้เด็ก (7-23 เม.ย. 53 00:50) ๒. ให้นักเรียนศึกษาความรู้เร่ือง การเขียนบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แล้วร่วมกันสรุปความเข้าใจครเู ป็นผอู้ ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ๓. ให้นักเรียนจับคู่ต้ังกระทู้ในประเด็นที่สนใจ ออกมานาเสนอหน้าชั้นเรียน แล้วให้เพื่อนร่วมกนั ตอบกระทู้ ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง ๔. ให้นักเรียนทาชนิ้ งานท่ี ๕ เร่ือง การเขยี นกระทู้เกี่ยวกับโคลงโลกนิตบิ นกระดานสนทนาแลว้ ช่วยกันแสดงความคดิ เห็น และคดั เลอื กประเด็นหรอื มุมมองทีส่ รา้ งสรรคม์ าบนั ทกึ ไว้ในเวบ็ ไซต์ของโรงเรยี น หรอื เวบ็ ไซต์ www.vchakarn.com และสนทนาเพมิ่ เตมิ ในช้นั เรยี น จากนัน้ รว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๕. ใหน้ ักเรียนรว่ มกันสนทนาเกี่ยวกบั ความรแู้ ละข้อคิดท่ีได้รบั จากโคลงโลกนติ ิ ๖. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ ดังนี้ การเขียนกระทู้บนกระดานสนทนาเป็นการสื่อสารประเภทหนึ่งบนสอื่ อิเล็กทรอนิกส์ ที่ผเู้ ขียนควรเลอื กใช้ถอ้ ยคาให้กระชบั สภุ าพ สื่อความหมายได้ถูกต้อง และเขยี นเรื่องทีส่ ร้างสรรค์ เพ่อื ให้เป็นประโยชนแ์ กผ่ ู้อา่ น สามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ การเขยี นบันทึกการเรยี นรู้เป็นการเขยี นความรู้ ความรู้สึก และความคดิ เห็นจากการอ่านวรรณคดี เพ่ือพัฒนาความคดิ ของผู้อา่ น สื่อการเรียนรู้ ๑. แถบข้อความ ๒. อินเทอรเ์ นต็ ๓. ชนิ้ งาน การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๑. วิธีการวัดและประเมนิ ผล ๑) สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการเข้ารว่ มกิจกรรม ๒) ตรวจชน้ิ งานท่ี ๕ และ ๖ ๒. เครอ่ื งมอื แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเขา้ ร่วมกจิ กรรม ๓. เกณฑก์ ารประเมิน การประเมินพฤติกรรมการเข้ารว่ มกิจกรรม ผา่ นต้ังแต่ ๒ รายการ ถอื ว่า ผ่าน ผ่าน ๑ รายการถือว่า ไม่ผ่าน

การประเมินผลตามสภาพจริง (Rubrics) การประเมินช้ินงานที่ ๕ ใหผ้ ้สู อนพจิ ารณาจากเกณฑ์การประเมินผลตามสภาพจรงิ (Rubrics) เร่อื ง การเขยี นกระทเู้ ก่ยี วกบั โคลงโลกนติ ิบนกระดานสนทนา ระดบั คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑เกณฑ์การประเมนิการเขียนกระทู้ เขยี นกระทู้เกี่ยวกบั เขยี นกระทเู้ กย่ี วกับ เขยี นกระทเู้ ก่ียวกับ เขียนกระท้เู ก่ียวกบั โคลงโลกนติ ิได้เกีย่ วกบั โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนติ ิ แตเ่ ป็นประเดน็ ทม่ี ใี นบทเรยี นบนกระดานสนทนา ด้วยถ้อยคากระชับ ดว้ ยถ้อยคากระชับ ดว้ ยภาษาสุภาพ และตอ้ งปรับปรุง การใช้ภาษา สือ่ ความหมายชดั เจน ส่ือความหมายชดั เจน เขียนสะกดคา สภุ าพ เขยี นสะกดคา สภุ าพ เขียนสะกดคา ถกู ต้อง แตก่ ระทู้ ถูกต้อง กระทู้มีความ ถูกต้อง กระทู้เป็น ไม่สอดคลอ้ งกบั สรา้ งสรรค์และเป็น ประโยชน์ ชีวติ จรงิ ประโยชน์แกผ่ ู้อา่ น แกผ่ ู้อ่าน และสามารถแนะนา ผู้อื่นได้

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอา่ น ตวั ชี้วดั ท ๑.๑ ม. ๑/๑ อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมกบั เรื่องท่ีอ่าน ท ๑.๑ ม. ๑/๔ ระบุและอธิบายคาเปรียบเทียบและคาที่มีหลายความหมายในบริบทต่าง ๆ จากการอ่าน ท ๑.๑ ม. ๑/๕ ตีความคายากในเอกสารวชิ าการโดยพจิ ารณาจากบริบท ท ๑.๑ ม. ๑/๘ วิเคราะห์คุณค่าท่ีไดร้ ับจากการอ่านงานเขียนอย่างหลากหลาย เพื่อนาไปใช้ แกป้ ัญหาในชีวติ ท ๑.๑ ม. ๑/๙ มีมารยาทในการอา่ น มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน เร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงาน การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ ตัวชี้วดั ท ๒.๑ ม. ๑/๒ เขียนส่ือสารโดยใชถ้ อ้ ยคาถูกตอ้ ง ชดั เจน เหมาะสม และสละสลวย ท ๒.๑ ม. ๑/๓ เขียนบรรยายประสบการณ์โดยระบุสาระสาคญั และรายละเอียด สนบั สนุน ท ๒.๑ ม. ๑/๙ มีมารยาทในการเขียน มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด และความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและ สร้างสรรค์

ตัวชี้วดัท ๓.๑ ม. ๑/๓ พดู แสดงความคิดเห็นอยา่ งสร้างสรรคเ์ ก่ียวกบั เร่ืองท่ีฟังและดูท ๓.๑ ม. ๑/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดูมาตรฐานการเรียนรู้มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของ ภาษา และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทย ไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติตัวชี้วดัท ๔.๑ ม. ๑/๒ สร้างคาในภาษาไทยท ๔.๑ ม. ๑/๓ วเิ คราะห์ชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยคท ๔.๑ ม. ๑/๖ จาแนกและใชส้ านวนท่ีเป็นคาพงั เพยและสุภาษิตมาตรฐานการเรียนรู้มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงตัวชี้วดัท ๕.๑ ม. ๑/๑ สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ นท ๕.๑ ม. ๑/๒ วเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบท ๕.๑ ม. ๑/๓ อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ นท ๕.๑ ม. ๑/๔ สรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพือ่ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริงท ๕.๑ ม. ๑/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองที่มีคุณค่าตาม ความสนใจ

สาระสาคญั ๑. โคลงโลกนิติ เป็ นสุภาษิตท่ีมีการรวบรวมและชาระสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาเดชาดิศร เน้ือหาของโคลงเป็ นคติสอนใจในการดาเนินชีวิต การศึกษาความหมายของคาศพั ท์ ทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาไดด้ ียงิ่ ข้ึน ๒. ความเปรียบเป็ นการเปรียบเทียบสิ่งใดหน่ึงให้เห็นภาพที่ชดั เจนข้ึน เน้ือหาในโคลงโลกนิติเป็ นสุภาษิตคาสอนจึงใชค้ วามเปรียบเทียบเพื่อให้ผูอ้ ่านเห็นภาพและเขา้ ใจเน้ือหาเช่ือมโยงกบั ชีวติ ประจาวนั ๓. คาพอ้ งแบง่ เป็นคาพอ้ งรูปซ่ึงเขียนเหมือนกนั อ่านออกเสียงต่างกนั คาพอ้ งเสียงเป็ นคาท่ีเขียนต่างกนั อ่านออกเสียงเหมือนกนั ส่วนคาพอ้ งรูปพอ้ งเสียงเป็ นคาท่ีเขียนและอ่านออกเสียงเหมือนกนั คาพอ้ งท้งั ๓ ประเภทมีความหมายแตกต่างกนั การเขา้ ใจความหมายของคาพอ้ ง ตอ้ งพิจารณาบริบทแวดลอ้ มจึงจะทราบความหมายอยา่ งถูกตอ้ ง ส่วนคาพอ้ งความหมายหรือคาไวพจน์เป็นคาที่เขียนต่างกนั อา่ นออกเสียงต่างกนั แต่ความหมายเหมือนกนั การนาคาไปใชต้ อ้ งเลือกใชใ้ ห้เหมาะสมกบั บริบท ๔. คาแต่ละชนิดในประโยคทาหน้าที่แตกต่างกนั และคาชนิดเดียวกนั อาจทาหน้าที่ในประโยคแตกต่างกนั ได้ ข้ึนอยกู่ บั ตาแหน่งและบริบทอ่ืน ๆ ในประโยค การรู้จกั ชนิดและหนา้ ท่ีของคาในประโยคทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือความในประโยคน้นั ไดช้ ดั เจน การสื่อสารจึงมีประสิทธิภาพ ๕. คาประพนั ธ์ประเภทโคลงบงั คบั การใช้คาเอก คาโท บางคาจึงตอ้ งใช้คาเอกโทษ โทโทษเพอื่ ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ และส่ือความหมายตามที่ผแู้ ตง่ ตอ้ งการ การเขา้ ใจคาเอกโทษ โทโทษทาให้เขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติมากข้ึน และการอ่านคาโคลงโลกนิติอยา่ งถูกตอ้ ง ทาให้ไดร้ ับอรรถรสในการอา่ น และสื่อความหมายไดต้ รงตามตอ้ งการ ๖. บทอาขยานในโคลงโลกนิติมีคุณค่าท้งั ดา้ นเน้ือหาท่ีให้ขอ้ คิดและคุณค่าดา้ นภาษาท่ีไพเราะคมคาย การทอ่ งจาบทอาขยานจึงมีประโยชน์สามารถนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ได้ ๗. กลวิธีการประพนั ธ์เป็ นการเลือกใช้ถ้อยคาให้เกิดความไพเราะงดงามและช่วยสื่อความหมายให้เกิดความชดั เจนมากยิ่งข้ึน กลวิธีการประพนั ธ์มีหลายรูปแบบ เช่น การใชค้ าอุปมาอุปลักษณ์ การเล่นคา และการเล่นเสียง การเข้าใจกลวิธีการประพันธ์ทาให้เข้าใจเน้ือหาในคาประพนั ธ์ และตระหนกั ในคุณค่าของคาประพนั ธ์มากข้ึน ๘. โคลงโลกนิติเป็ นสุภาษิตไทยโบราณที่มีเน้ือหาให้คติสอนใจ ท้งั ในเรื่องการพฒั นาตนเองและการปฏิบตั ิตนต่อผูอ้ ่ืน การเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติ ทาให้สามารถนาคาสอนไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวนั ได้ ๙. คาพงั เพยและสุภาษิตเป็ นถอ้ ยคาสานวนที่มุ่งให้คติในการดาเนินชีวติ โดยคาพงั เพยมีความหมายกลาง ๆ ที่แฝงขอ้ คิดเตือนใจให้นาไปปฏิบตั ิ ส่วนสุภาษิตมุ่งเนน้ การสั่งสอนตกั เตือนให้

จดจา ในโคลงโลกนิติมีคาสอนท่ีสอดคลอ้ งกบั คาพงั เพยและสุภาษิต การเขา้ ใจเน้ือหาทาใหส้ ามารถนาคาพงั เพยและสุภาษิตไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ๑๐. การพินิจคุณค่าของโคลงโลกนิติแบ่งเป็ นคุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านแนวคิดคุณค่าดา้ นเน้ือหา และคุณค่าดา้ นสังคม ซ่ึงคุณค่าแต่ละดา้ นน้นั มีประโยชน์ต่อการศึกษาวรรณคดีและการนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวนั ๑๑. การเขียนบรรยายประสบการณ์เป็ นการเขียนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ตามลาดับเหตุการณ์และตามความเป็ นจริง ผูเ้ ขียนจึงต้องใช้สานวนภาษา ถ้อยคาอย่างเหมาะสม เรียบเรียงเหตุการณ์ให้เป็ นลาดับ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องและเกิดความรู้คล้อยตามเรื่องราวที่ผู้เขียนตอ้ งการเล่า ๑๒. การพดู แสดงความคิดอยา่ งสร้างสรรค์ เป็นการใชค้ วามคิดพิจารณาประเด็นต่าง ๆ โดยเป็ นความคิดที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และสร้างสรรคส์ ังคม ผพู้ ูดจึงตอ้ งศึกษาเรื่องน้นั อยา่ งละเอียดแลว้ จึงวเิ คราะห์ วจิ ารณ์หรือประเมินค่าเร่ืองน้นั อยา่ งมีหลกั เกณฑ์ เพื่อใหผ้ ฟู้ ังไดร้ ับประโยชน์ และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดใ้ นชีวิตจริง ๑๓. การพดู หรือเขียนเล่าเรื่องที่สอดคลอ้ งกบั คาสอนในโคลงโลกนิติ เป็ นการพูดหรือเขียนเพอ่ื แสดงใหเ้ ห็นวา่ โคลงโลกนิติเป็ นสุภิตคาสอนที่มีความทนั สมยั เหมาะสมกบั การดาเนินชีวิตในปัจจุบนั ผูพ้ ูดหรือเขียนเล่าเรื่องตอ้ งเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถถนามาเช่ือมโยงกบัชีวติ จริงได้ ๑๔. การเขียนกระทูบ้ นกระดานสนทนาเป็ นการสื่อสารประเภทหน่ึงบนส่ืออิเล็กทรอนิกส์ที่ผเู้ ขียนควรเลือกใชถ้ อ้ ยคาใหก้ ระชบั สุภาพ ส่ือความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง และเขียนเร่ืองท่ีสร้างสรรค์เพื่อใหเ้ ป็นประโยชนแ์ ก่ผอู้ า่ น สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ ๑๕. การเขียนบนั ทึกการเรียนรู้เป็ นการเขียนความรู้ ความรู้สึก และความคิดเห็นจากการอา่ นวรรณคดี เพื่อพฒั นาความคิดของผอู้ ่าน

ความเข้าใจทค่ี งทน (Enduring Understanding นกั เรียนสามารถสรุปไดว้ า่ โคลงโลกนิติ เป็นสุภาษิตท่ีมีการรวบรวมและชาระสมเด็จพระ-เจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมพระยาเดชาดิศร เน้ือหาของโคลงเป็ นคติสอนใจในการดาเนินชีวติ การศึกษาความหมายของคาศพั ท์ ทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาไดด้ ียง่ิ ข้ึน ความเปรียบเป็ นการเปรียบเทียบส่ิงใดหน่ึงให้เห็นภาพท่ีชดั เจนข้ึน เน้ือหาในโคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตคาสอนจึงใชค้ วามเปรียบเทียบเพื่อให้ผอู้ ่านเห็นภาพและเขา้ ใจเน้ือหาเช่ือมโยงกบั ชีวิตประจาวนั คาพอ้ งแบ่งเป็ นคาพอ้ งรูปซ่ึงเขียนเหมือนกนัอา่ นออกเสียงต่างกนั คาพอ้ งเสียงเป็นคาที่เขียนต่างกนั อ่านออกเสียงเหมือนกนั ส่วนคาพอ้ งรูปพอ้ งเสียงเป็นคาท่ีเขียนและอา่ นออกเสียงเหมือนกนั คาพอ้ งท้งั ๓ ประเภทมีความหมายแตกต่างกนั การเขา้ ใจความหมายของคาพอ้ ง ตอ้ งพิจารณาบริบทแวดลอ้ มจึงจะทราบความหมายอยา่ งถูกตอ้ ง ส่วนคาพอ้ งความหมายหรือคาไวพจน์เป็ นคาท่ีเขียนต่างกัน อ่านออกเสียงต่างกัน แต่ความหมายเหมือนกนั การนาคาไปใช้ตอ้ งเลือกใช้ให้เหมาะสมกบั บริบท คาแต่ละชนิดในประโยคทาหนา้ ที่แตกต่างกนั และคาชนิดเดียวกนั อาจทาหน้าที่ในประโยคแตกต่างกนั ได้ ข้ึนอยูก่ บั ตาแหน่งและบริบทอื่น ๆ ในประโยค การรู้จกั ชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยคทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือความในประโยคน้นั ไดช้ ัดเจน การสื่อสารจึงมีประสิทธิภาพ คาประพนั ธ์ประเภทโคลงบงั คบั การใช้คาเอก คาโทบางคาจึงตอ้ งใชค้ าเอกโทษ โทโทษเพื่อให้ถูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ และสื่อความหมายตามที่ผแู้ ต่งตอ้ งการ การเขา้ ใจคาเอกโทษ โทโทษทาให้เขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติมากข้ึน และการอ่านคาโคลงโลกนิติอย่างถูกตอ้ ง ทาให้ไดร้ ับอรรถรสในการอ่าน และสื่อความหมายไดต้ รงตามตอ้ งการบทอาขยานในโคลงโลกนิติมีคุณค่าท้งั ดา้ นเน้ือหาที่ให้ขอ้ คิดและคุณค่าดา้ นภาษาที่ไพเราะคมคายการท่องจาบทอาขยานจึงมีประโยชน์สามารถนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตได้ กลวิธีการประพนั ธ์เป็ นการเลือกใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ กิดความไพเราะงดงามและช่วยสื่อความหมายให้เกิดความชดั เจนมากย่งิ ข้ึนกลวธิ ีการประพนั ธ์มีหลายรูปแบบ เช่น การใชค้ าอุปมา อุปลกั ษณ์ การเล่นคา และการเล่นเสียง การเขา้ ใจกลวธิ ีการประพนั ธ์ทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาในคาประพนั ธ์ และตระหนกั ในคุณค่าของคาประพนั ธ์มากข้ึน โคลงโลกนิติเป็ นสุภาษิตไทยโบราณที่มีเน้ือหาให้คติสอนใจ ท้งั ในเร่ืองการพฒั นาตนเองและการปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน การเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติ ทาให้สามารถนาคาสอนไปประยุกตใ์ ช้ในการดาเนินชีวิตประจาวนั ได้ คาพงั เพยและสุภาษิตเป็ นถอ้ ยคาสานวนที่มุ่งให้คติในการดาเนินชีวิต โดยคาพงั เพยมีความหมายกลาง ๆ ท่ีแฝงขอ้ คิดเตือนใจให้นาไปปฏิบตั ิ ส่วนสุภาษิตมุ่งเน้นการส่ังสอนตักเตือนให้จดจา ในโคลงโลกนิติมีคาสอนที่สอดคล้องกับคาพงั เพยและสุภาษิตการเขา้ ใจเน้ือหาทาใหส้ ามารถนาคาพงั เพยและสุภาษิตไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ การพินิจคุณค่าของโคลงโลกนิติแบ่งเป็ นคุณค่าด้านวรรณศิลป์ คุณค่าด้านแนวคิด คุณค่าด้านเน้ือหาและคุณค่าด้านสังคม ซ่ึงคุณค่าแต่ละด้านน้ันมีประโยชน์ต่อการศึกษาวรรณคดีและการนามาประยุกต์ใช้ในการดาเนินชีวิตประจาวนั การเขียนบรรยายประสบการณ์เป็ นการเขียนอธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ตามลาดบั เหตุการณ์และตามความเป็ นจริง ผเู้ ขียนจึงตอ้ งใชส้ านวนภาษา ถอ้ ยคาอยา่ ง

เหมาะสม เรียบเรียงเหตุการณ์ให้เป็ นลาดบั เพ่ือให้ผูอ้ ่านเข้าใจเร่ืองและเกิดความรู้คล้อยตามเรื่องราวท่ีผูเ้ ขียนตอ้ งการเล่า การพูดแสดงความคิดอย่างสร้างสรรค์ เป็ นการใช้ความคิดพิจารณาประเด็นต่าง ๆ โดยเป็ นความคิดท่ีแปลกใหม่ น่าสนใจ และสร้างสรรค์สังคม ผูพ้ ูดจึงตอ้ งศึกษาเร่ืองน้นั อยา่ งละเอียดแลว้ จึงวเิ คราะห์ วจิ ารณ์หรือประเมินค่าเร่ืองน้นั อยา่ งมีหลกั เกณฑ์ เพ่ือให้ผฟู้ ังไดร้ ับประโยชน์ และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดใ้ นชีวติ จริง การพูดหรือเขียนเล่าเรื่องที่สอดคลอ้ งกบั คาสอนในโคลงโลกนิติ เป็ นการพูดหรือเขียนเพ่ือแสดงให้เห็นวา่ โคลงโลกนิติเป็ นสุภิตคาสอนที่มีความทนั สมยั เหมาะสมกบั การดาเนินชีวิตในปัจจุบนั ผพู้ ูดหรือเขียนเล่าเรื่องตอ้ งเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถถนามาเช่ือมโยงกบั ชีวติ จริงได้ การเขียนกระทูบ้ นกระดานสนทนาเป็ นการสื่อสารประเภทหน่ึงบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้เขียนควรเลือกใช้ถ้อยคาให้กระชับสุภาพ ส่ือความหมายได้ถูกต้อง และเขียนเรื่องท่ีสร้างสรรค์เพ่ือให้เป็ นประโยชน์แก่ผูอ้ ่านสามารถนาไปใช้ในชีวิตจริงได้ การเขียนบนั ทึกการเรียนรู้เป็ นการเขียนความรู้ ความรู้สึก และความคิดเห็นจากการอ่านวรรณคดี เพื่อพฒั นาความคิดของผอู้ ่าน

สาระการเรียนรู้ ๑. คาพอ้ ง ๒. ชนิดของคาและหนา้ ที่ของคาในประโยค ๓. สานวนท่ีเป็นคาพงั เพยและสุภาษิต ๔. การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง ๕. การเขียนบนสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์ ๖. การเขียนบรรยายประสบการณ์ ๗. การพดู แสดงความคิดอยา่ งสร้างสรรค์ ๘. การสรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น ๙. การวเิ คราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอ่านพร้อมยกเหตุผลประกอบ ๑๐. การอธิบายคุณคา่ ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ๑๑. การสรุปความรู้และขอ้ คิดจากการอา่ นเพ่ือประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง ๑๒ การทอ่ งจาบทอาขยาน สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน ๑. ความสามารถในการส่ือสาร - ทกั ษะการอา่ น - ทกั ษะการเขียน - ทกั ษะการฟัง การดู และการพดู ๒. ความสามารถในการคิด - การจาแนก - การใหเ้ หตุผล - การวเิ คราะห์ - การสงั เคราะห์ - การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ - การประยกุ ต/์ การปรับปรุง - การสรุปความรู้ - การประเมินค่า ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประพฤติตรงตามความเป็ นจริงต่อตนเองท้งั ทางกาย วาจา ใจ ประพฤติตรงตามความเป็ นจริงต่อผอู้ ่ืนท้งั ทางกาย วาจา ใจ ซ่ือสัตย์สุจริต ตวั ช้ีวดั ที่ ๒.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๒.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท้งั ภายในและภายนอก โรงเรียนดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ ใฝ่ เรียนรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ น ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๑ ชีวติ ประจาวนั ได้ ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๒ ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบมีคุณธรรม อยู่อย่างพอเพยี ง มีภูมิคุม้ กนั ในตวั ที่ดี ปรับตวั เพือ่ อยใู่ นสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ตวั ช้ีวดั ท่ี ๕.๑ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๕.๒ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ที่การงาน ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือใหง้ านสาเร็จตาม มุ่งมั่นในการทางาน เป้ าหมาย ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๑ ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะวฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวที รักความเป็ นไทย เห็นคุณค่าและใชภ้ าษาไทยในการสื่อสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๑ ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๒ชิ้นงานหรือภาระงาน (หลกั ฐาน ร่องรอยแสดงความรู้) ๑. การท่องจาบทอาขยาน ๒. ชิ้นงานเร่ือง การพดู หรือเขียนเล่าเรื่องที่สะทอ้ นการใชค้ าสอนในโคลงโลกนิติ ๓. ชิ้นงานเรื่อง การเขียนกระทเู้ ก่ียวกบั โคลงโลกนิติบนกระดานสนทนา

การประเมนิ ผล๑. การประเมินผลตัวชี้วดั เร่ือง การทอ่ งจาบทอาขยานระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑เกณฑ์การประเมิน ท่องจาบทอาขยาน ทอ่ งจาบทอาขยาน ทอ่ งจาบทอาขยาน ทอ่ งจาบทอาขยานการทอ่ งจา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ไม่มีติดขดั ตกหล่น ไม่มีติดขดั ตกหล่น แตม่ ีติดขดั บา้ งบทอาขยาน ไดถ้ ูกตอ้ งทุกคา ออกเสียงคา ออกเสียงคา ออกเสียงคาบางคา ถูกตอ้ งชดั เจน ถูกตอ้ งชดั เจน ยงั ไม่ชดั เจน ไม่มีติดขดั ตกหล่น ทุกคา เวน้ จงั หวะ ทุกคา เวน้ จงั หวะ เวน้ จงั หวะ วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง วรรคตอนถูกตอ้ ง ออกเสียงคา ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - เป็ นส่วนใหญ่ เป็ นบางวรรค เสียงแสดงอารมณ์ ใชร้ ะดบั เสียง ระดบั เสียง ถูกตอ้ งชดั เจน ตามบทประพนั ธ์ แสดงอารมณ์ตาม ราบเรียบ ไดด้ ี บทประพนั ธ์ ไมแ่ สดงอารมณ์ ทุกคา เวน้ จงั หวะ ไดพ้ อใช้ วรรคตอนถูกตอ้ ง ทุกวรรค ใชร้ ะดบั - เสียงแสดงอารมณ์ ตามบทประพนั ธ์ ไดด้ ีมาก

ชิ้นงานเรื่อง การพดู หรือเขียนเล่าเรื่องที่สะทอ้ นการใชค้ าสอนในโคลงโลกนิติระดับคะแนน ๔ ๓ ๒๑เกณฑ์การประเมนิ พดู หรือเขียนการพดู หรือเขียน พดู หรือเขียน เล่าเรื่องไดต้ รง พดู หรือเขียน พดู หรือเขียน ประเด็น ลาดบั เล่าเรื่องไดต้ รง เล่าเรื่องไดต้ รงเล่าเร่ืองที่สะทอ้ น เล่าเรื่องไดต้ รง เรื่องและยก ประเดน็ ลาดบั ประเดน็ แต่เพียง ตวั อยา่ งประกอบ เรื่องดี แต่ยก ส้นั ๆ มีการการใชค้ าสอน ประเดน็ ลาดบั ไดด้ ี สะทอ้ น ตวั อยา่ งประกอบ เชื่อมโยงกบั ใหเ้ ห็นการนา ไมม่ ากนกั คาสอนในโคลง-ในโคลงโลกนิติ เรื่องและยก คาสอนในโคลง- สอดคลอ้ งกบั โลกนิติบา้ ง โลกนิติมาใช้ คาสอนในโคลง- เล็กนอ้ ย ตวั อยา่ งประกอบ ประโยชน์ใน โลกนิติ การใช้ ชีวติ ประจาวนั ภาษาตอ้ งปรับปรุง ชดั เจน สะทอ้ น ไดด้ ี การใชภ้ าษา เล็กนอ้ ย ถูกตอ้ งเหมาะสม ใหเ้ ห็นการนา คาสอนในโคลง- โลกนิติมาใช้ ประโยชนใ์ น ชีวติ ประจาวนั ไดด้ ีมากและ ใชภ้ าษาถูกตอ้ ง เหมาะสม ชิ้นงานเร่ือง การเขียนกระทเู้ กี่ยวกบั โคลงโลกนิติบนกระดานสนทนาระดบั คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ เขียนกระทูเ้ กี่ยวกบัเกณฑ์การประเมนิ เขียนกระทูเ้ กี่ยวกบั เขียนกระทูเ้ กี่ยวกบั เขียนกระทูเ้ ก่ียวกบัการเขียนกระทู้ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติได้ ดว้ ยภาษาสุภาพ แตเ่ ป็นประเด็นเก่ียวกบั โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติ โคลงโลกนิติ เขียนสะกดคา ที่มีในบทเรียน ถูกตอ้ ง แต่กระทู้ และตอ้ งปรับปรุงบนกระดานสนทนา ดว้ ยถอ้ ยคากระชบั ดว้ ยถอ้ ยคากระชบั ไม่สอดคลอ้ งกบั การใชภ้ าษา ชีวติ จริง สื่อความหมายชดั เจน สื่อความหมาย สุภาพ เขียนสะกดคา ชดั เจน สุภาพ เขียน ถูกตอ้ ง กระทูม้ ีความ สะกดคาถูกตอ้ ง สร้างสรรคแ์ ละเป็ น กระทูเ้ ป็นประโยชน์ ประโยชน์แก่ผอู้ ่าน แก่ผอู้ ่าน และสามารถแนะนา ผอู้ ่ืนได้

ชิ้นงานเร่ือง การเขียนบนั ทึกวรรณคดีศึกษา : โคลงโลกนิติระดบั คะแนน ๔ ๓๒ ๑เกณฑ์การประเมิน เขียนบนั ทึก เขียนบนั ทึกการเขียนบนั ทึก เขียนบนั ทึก เขียนบนั ทึก การเรียนรู้ไดเ้ พยี ง ๒-๓ บรรทดัการเรียนรู้ การเรียนรู้ไดด้ ี การเรียนรู้ไดด้ ี การเรียนรู้ที่มี สามารถสะทอ้ น แตย่ งั สะทอ้ น ความยาวมากข้ึน ความรู้ ความรู้สึก ความรู้ ความรู้สึก แตย่ งั จาแนก และความคิดเห็น และความคิดเห็น ประเดน็ การเขียน จากการอา่ น ไมช่ ดั เจนเท่าที่ควร ไม่ชดั เจน วรรณคดีหรือ วรรณกรรมได้ ชดั เจนเป็นระบบ๒. การประเมินผลคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ซ่ือสัตย์สุจริต ตวั ช้ีวดั ท่ี ๒.๑ ประพฤติตรงตามความเป็ นจริงต่อตนเองท้งั ทางกาย วาจา ใจพฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๒.๑.๑ ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกตอ้ ง ใหข้ อ้ มูลที่ถูกตอ้ ง ใหข้ อ้ มลู ท่ีถูกตอ้ ง ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกตอ้ ง ไมใ่ หข้ อ้ มลู ท่ีถูกตอ้ งและเป็ นจริ ง และเป็นจริง ปฏิบตั ิ และเป็นจริง ปฏิบตั ิ และเป็นจริง ปฏิบตั ิ และเป็นจริง๒.๑.๒ ปฏิบตั ิตนโดยคานึงถึง ในสิ่งท่ีถูกตอ้ ง ในสิ่งท่ีถูกตอ้ ง ในสิ่งท่ีถูกตอ้ งความถูกตอ้ ง ละอาย ละอายและเกรงกลวั ละอายและเกรงกลวั ทาตามสัญญาที่ตนและเกรงกลวั ตอ่ ท่ีจะทาความผดิ ท่ีจะทาความความผดิ ใหไ้ วก้ บั เพื่อน พอ่ แม่การกระทาผดิ ทาตามสญั ญาที่ตน ทาตามสัญญาที่ตน หรือผปู้ กครองและครู๒.๑.๓ ปฏิบตั ิตามคามนั่ สัญญา ใหไ้ วก้ บั เพ่อื น พ่อแม่ ใหไ้ วก้ บั เพื่อน พ่อแม่ หรือผปู้ กครอง และครู หรือผปู้ กครองและครู เป็นแบบอยา่ งท่ีดี ดา้ นความซื่อสตั ย์

ตวั ช้ีวดั ที่ ๒.๒ ประพฤติตรงตามความเป็ นจริงต่อผอู้ ่ืนท้งั ทางกาย วาจา ใจ พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๒.๒.๑ ไมถ่ ือเอาส่ิงของหรือ ไมน่ าส่ิงของและ ไมน่ าส่ิงของและ ไมน่ าสิ่งของและ นาส่ิงของของคนอื่น ผลงานของผอู้ ื่น ผลงานของผอู้ ่ืน ผลงานของผอู้ ่ืน ผลงานของผอู้ ่ืน มาเป็ นของตนเอง มาเป็ นของตนเอง มาเป็ นของตนเอง มาเป็ นของตนเอง มาเป็ นของตนเอง ปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน ปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน ปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน๒.๒.๒ ปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน ดว้ ยความซื่อตรง ดว้ ยความซ่ือตรง ดว้ ยความซ่ือตรง ดว้ ยความซื่อตรง ไม่หาประโยชน์ ไม่หาประโยชน์ ในทางที่ไม่ถูกตอ้ ง ในทางท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง๒.๒.๓ ไม่หาประโยชน์ และเป็นแบบอยา่ ง ในทางที่ไมถ่ ูกตอ้ ง ที่ดีแก่เพ่อื นดา้ น ความซื่อสัตย์ใฝ่ เรียนรู้ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๑ ต้งั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๔.๑.๑ ต้งั ใจเรียน เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไม่ต้งั ใจเรียน๔.๑.๒ เอาใจใส่และ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่มีความเพยี รพยายาม และมีความเพียร- และมีความเพียร- และมีความเพยี ร-ในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้ พยายามในการเรียนรู้๔.๑.๓ สนใจเขา้ ร่วม มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ มีส่วนร่วมในการเรียนรู้ มีส่วนร่วมในการเรียนรู้กิจกรรมการเรียนรู้ และเขา้ ร่วมกิจกรรม และเขา้ ร่วมกิจกรรม และเขา้ ร่วมกิจกรรมตา่ ง ๆ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ การเรียนรู้ตา่ ง ๆ การเรียนรู้ต่าง ๆ บางคร้ัง ท้งั ภายในและภายนอก ท้งั ภายในและภายนอก โรงเรียนเป็นประจา โรงเรียนบ่อยคร้ัง และเป็นแบบอยา่ งที่ดี

ตวั ช้ีวดั ที่ ๔.๒ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน ดว้ ยการเลือกใชส้ ื่ออยา่ งเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วเิ คราะห์ สรุปเป็น องคค์ วามรู้ สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๔.๒.๑ ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ ควา้ ไม่ศึกษาคน้ ควา้หาความรู้ หาความรู้จากหนงั สือ หาความรู้จากหนงั สือ หาความรู้จากหนงั สือ หาความรู้จากหนงั สือ เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ เอกสาร ส่ิงพมิ พ์ เอกสาร สิ่งพมิ พ์เอกสาร สิ่งพมิ พ์ ส่ือเทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยีส่ือเทคโนโลยตี ่าง ๆ และสารสนเทศ และสารสนเทศ แหล่งเรียนรู้ท้งั ภายในแหล่งเรียนรู้ท้งั แหล่งเรียนรู้ท้งั ภายใน แหล่งเรียนรู้ท้งั ภายใน และภายนอกโรงเรียนภายในและภายนอก และภายนอกโรงเรียน และภายนอกโรงเรียน เลือกใชส้ ่ือไดอ้ ยา่ งโรงเรียน และเลือก เลือกใชส้ ่ือไดอ้ ยา่ ง เลือกใชส้ ื่อไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม มีการบนั ทึกใชส้ ่ือไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม มีการบนั ทึก เหมาะสม มีการบนั ทึก ความรู้เหมาะสม ความรู้ วเิ คราะห์ขอ้ มูล ความรู้ วเิ คราะห์ขอ้ มูล๔.๒.๒บนั ทึกความรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้ สรุปเป็นองคค์ วามรู้วเิ คราะห์ ตรวจสอบ แลกเปล่ียนเรียนรู้ดว้ ย แลกเปล่ียนเรียนรู้จากสิ่งที่เรียนรู้ วธิ ีการท่ีหลากหลาย กบั ผอู้ ื่นได้ และนาไปใช้สรุปเป็นองคค์ วามรู้ และนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ได้๔.๒.๓ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ในชีวติ ประจาวนั ได้ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆเพอื่ นาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

อย่อู ย่างพอเพยี ง ตวั ช้ีวดั ท่ี ๕.๑ ดาเนินชีวติ อยา่ งพอประมาณ มีเหตุผล รอบคอบ มีคุณธรรมพฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ใชเ้ งินและใช้๕.๑.๑ ใชท้ รัพยส์ ินของตนเอง ใชท้ รัพยส์ ินของ ใชท้ รัพยส์ ินของ ใชท้ รัพยส์ ินของ ส่วนตวั อยา่ ง ตนเองและทรัพยากร ตนเองและทรัพยากร ไมป่ ระหยดัเช่น เงิน ส่ิงของ ตนเองและทรัพยากร ของส่วนรวมอยา่ ง ของส่วนรวมอยา่ ง ประหยดั คุม้ ค่า ประหยดั คุม้ คา่เครื่องใช้ ฯลฯ อยา่ ง ของส่วนรวมอยา่ ง เกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี เกบ็ รักษาดูแลอยา่ งดี ตดั สินใจอยา่ ง ตดั สินใจอยา่ งประหยดั คุม้ ค่า ประหยดั คุม้ คา่ รอบคอบ มีหุตผล รอบคอบ มีเหตุผล ไมเ่ อาเปรียบผอู้ ่ืนและเกบ็ รักษาดูแล เก็บรักษาดูแลอยา่ งดี และไมท่ าใหผ้ อู้ ื่น เดือดร้อนอยา่ งดีรวมท้งั การใช้ ตดั สินใจอยา่ งเวลาอยา่ งเหมาะสม รอบคอบ มีเหตุผล๕.๑.๒ ใชท้ รัพยากรของ ไมเ่ อาเปรียบผอู้ ื่นส่วนรวมอยา่ งประหยดั ไม่ทาใหผ้ อู้ ื่นคุม้ คา่ และเกบ็ รักษา เดือดร้อน และดูแลอยา่ งดี ใหอ้ ภยั เมื่อผอู้ ่ืน๕.๑.๓ ปฏิบตั ิตนและตดั สินใจ กระทาผดิ พลาดดว้ ยความรอบคอบมีเหตุผล๕.๑.๔ ไม่เอาเปรียบเทียบผอู้ ื่นและไมท่ าใหผ้ อู้ ื่นเดือดร้อนพร้อมใหอ้ ภยัเม่ือผอู้ ่ืนกระทาผดิ พลาด

ตวั ช้ีวดั ที่ ๕.๒ มีภูมิคุม้ กนั ในตวั ท่ีดี ปรับตวั เพ่ืออยใู่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุขพฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๕.๒.๑ วางแผนการเรียน ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล ใชค้ วามรู้ ขอ้ มูล ไม่วางแผนการเรียนการทางานและการใช้ ขา่ วสารในการ ขา่ วสารในการ ข่าวสารในการ และการใชช้ ีวติชีวติ ประจาวนั วางแผนการเรียน วางแผนการเรียน วางแผนการเรียน ประจาวนับนพ้นื ฐานของความรู้ การทางานและใช้ การทางานและใช้ การทางานและใช้ขอ้ มูล ข่าวสาร ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั ในชีวติ ประจาวนั๕.๒.๒ รู้เท่าทนั การเปล่ียนแปลง ยอมรับการเปล่ียน- ยอมรับการเปล่ียน- รับรู้การเปลี่ยนแปลลงของสังคม และสภาพ- แปลงของครอบครัว แปลงของครอบครัว ของครองครัว ชุมชนแวดลอ้ ม ยอมรับและ ชุมชน สงั คม สภาพ- ชุมชน สงั คม และสภาพแวดลอ้ มปรับตวั อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืน แวดลอ้ ม และปรับตวั และสภาพแวดลอ้ มไดอ้ ยา่ งมีความสุข อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ่ืนได้ อยา่ งมีความสุขมุ่งมนั่ ในการทางานตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๑ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีการงาน พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๖.๑.๑ เอาใจใส่ต่อการ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ไม่ต้งั ใจปฏิบตั ิ ปฏิบตั ิหนา้ ที่ ในการปฏิบตั ิหนา้ ที่ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี หนา้ ท่ีการงาน ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ที่ไดร้ ับมอบหมาย ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ีไดร้ ับมอบหมาย๖.๑.๒ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ใหส้ าเร็จ มีการ ใหส้ าเร็จ มีการ ใหส้ าเร็จ ในการทางานใหส้ าเร็จ ปรับปรุงและพฒั นา ปรับปรุงและพฒั นา๖.๑.๓ ปรับปรุงและพฒั นา การทางานใหด้ ีข้ึน การทางานใหด้ ีข้ึน การทางานดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง

ตวั ช้ีวดั ที่ ๖.๒ ทางานดว้ ยความเพียรพยายามและอดทนเพ่ือใหง้ านสาเร็จตามเป้ าหมายพฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเยยี่ ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๖.๒.๑ ทุ่มเททางาน อดทน ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ทางานดว้ ยความขยนั ไมข่ ยนั อดทนไมย่ อ่ ทอ้ ต่อปัญหาและ อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ อดทน พยายาม ในการทางานอุปสรรคในการทางาน ต่อปัญหา พยายาม ต่อปัญหาในการ ใหง้ านสาเร็จตาม๖.๒.๒ พยายามแกป้ ัญหาและ แกป้ ัญหาอุปสรรค ทางาน พยายาม เป้ าหมายอุปสรรคในการทางาน ในการทางาน ใหง้ านสาเร็จตามใหส้ าเร็จ ใหง้ านสาเร็จตาม เป้ าหมาย ชื่นชม๖.๒.๓ ชื่นชมผลงานดว้ ยความ เป้ าหมายภายใน ผลงานดว้ ยความภาคภูมิใจ เวลาที่กาหนด ภาคภูมิใจ ชื่นชมผลงาน ดว้ ยความภาคภมู ิใจรักความเป็ นไทยตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๑ ภาคภูมิใจในขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ วฒั นธรรมไทย และมีความกตญั ญูกตเวทีพฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐)๗.๑.๑ แต่งกายและมีมารยาท ปฏิบตั ิตนเป็ นมีมารยาท ปฏิบตั ิเป็นผมู้ ี ปฏิบตั ิตนเป็ นผมู้ ี ไม่มีสมั มาคารวะงดงามแบบไทย แบบไทยมีสัมมาคารวะ มารยาทแบบไทย มารยาทแบบไทย ต่อผใู้ หญ่มีสัมมาคารวะ กตญั ญูกตเวที มีสัมมาคารวะ มีสัมมาคารวะกตญั ญูกตเวที ตอ่ ผมู้ ีพระคุณ กตญั ญูกตเวที กตญั ญูกตเวทีตอ่ ผมู้ ีพระคุณ แต่งกายแบไทย ต่อผมู้ ีพระคุณ และ ต่อผมู้ ีพระคุณ และ๗.๑.๒ ร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวขอ้ ง ดว้ ยความภาคภูมิใจ แต่งกายแบบไทย แต่งกายแบบไทยกบั ประเพณี ศิลปะ เขา้ ร่วมหรือมีส่วนร่วม ดว้ ยความภาคภมู ิใจ เขา้ ร่วมหรือมีส่วนร่วมและวฒั นธรรมไทย ในการจดั กิจกรรม เขา้ ร่วมหรือมีส่วนร่วม ในกิจกรรมที่เกี่ยวขอ้ ง๗.๑.๓ ชกั ชวน แนะนา ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ในกิจกรรมท่ีเกี่ยวขอ้ ง กบั ประเพณี ศิลปะใหผ้ อู้ ่ืนปฏิบตั ิตาม ประเพณี ศิลปะ กบั ประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทยขนบธรรมเนียม และวฒั นธรรมไทย และวฒั นธรรมไทยประเพณี ศิลปะ ชกั ชวน แนะนาเพ่ือนและวฒั นธรรมไทย และคนอ่ืนปฏิบตั ิ ตามขนบธรรมเนียม ประเพณี ศิลปะ และวฒั นธรรมไทย

ตวั ช้ีวดั ท่ี ๗.๒ เห็นคุณคา่ และใชภ้ าษาไทยในการส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสมพฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยย่ี ม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ไมส่ นใจใชภ้ าษาไทย๗.๒.๑ ใชภ้ าษาไทยและ ใชภ้ าษาไทย เลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทย ใชภ้ าษาไทย เลขไทย อยา่ งถูกตอ้ งเลขไทยในการสื่อสาร ในการสื่อสารได้ ในการสื่อสารได้ ในการส่ือสารได้ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ถูกตอ้ งเหมาะสม ถูกตอ้ งเหมาะสม ถูกตอ้ งเหมาะสมเหมาะสม แนะนา ชกั ชวนใหผ้ อู้ ื่น แนะนา ชกั ชวนใหผ้ อู้ ื่น แนะนา ใหผ้ อู้ ื่นใช้๗.๒.๒ ชกั ชวน แนะนาให้ ใชภ้ าษาไทยท่ีถูกตอ้ ง ใชภ้ าษาไทยท่ีถูกตอ้ ง ภาษาไทยที่ถูกตอ้ งผอู้ ่ืนเห็นคุณคา่ เป็นประจาของการใชภ้ าษาไทย เป็นแบบอยา่ งท่ีดีที่ถูกตอ้ ง ดา้ นการใชภ้ าษาไทย การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑. ใหน้ กั เรียนดูตวั อยา่ งโคลงโลกนิติ แลว้ ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ลกั ษณะของโคลงโลกนิติ ๒. ใหน้ กั เรียนอ่านบทนาเร่ืองโคลงโลกนิติ แลว้ ร่วมกนั สรุปสาระสาคญั ๓. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่ม อา่ นโคลงโลกนิติกลุ่มละ ๑๐ บท อธิบายความหมายของคาศพั ทแ์ ละวธิ ีการสงั เกต หากยงั ไมเ่ ขา้ ใจความหมายของคาศพั ทใ์ หค้ น้ หาในพจนานุกรรมฉบบัราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนัตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๔. ใหน้ กั เรียนจบั คูเ่ ล่นเกมทายคาศพั ท์ โดยใหน้ กั เรียนคนท่ี ๑ ชูบตั รคาศพั ท์ นกั เรียนคนท่ี๒ ทาทา่ ทางหรือพดู ใบค้ าศพั ท์ ใหน้ กั เรียนคนท่ี ๑ ทาย นกั เรียนคู่ใดทายถูกไดค้ ะแนน ๑ คะแนน ๕. ใหน้ กั เรียนคน้ หาคาศพั ทจ์ ากโคลงโลกนิติท่ีมีความหมายตรงกบั ที่กาหนด เติมลงในตารางปริศนาอกั ษรไขว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี โคลงโลกนิติ เป็นสุภาษิตที่มีการรวบรวมและชาระโดยสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมพระยาเดชาดิศร เน้ือหาของโคลงเป็ นคติสอนใจในการดาเนินชีวติ การศึกษาความหมายของคาศพั ท์ ทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาไดด้ ียง่ิ ข้ึน ๗. ใหน้ กั เรียนดูภาพแลว้ ร่วมกนั บอกคาศพั ทจ์ ากเร่ืองโคลงโลกนิติ ๘. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๓ คน วาดภาพคาศพั ทจ์ ากเรื่องโคลงโลกนิติ ระบายสีใหส้ วยงาม จากน้นั ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ใหเ้ พ่ือนในช้นั เรียนร่วมกนั ทายคาศพั ท์ ๙. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั หาคามาเติมคาเปรียบเทียบต่อไปน้ี

✪ ใจดีเป็น _____________ (แมพ่ ระ) ✪ ใจกวา้ งเหมือน _____________ (มหาสมุทร) ✪ ใจดาเหมือน _____________ (อีกา) ✪ แขง็ เหมือน _____________ (หิน) ✪ หยาบเป็น _____________ (หนงั ชา้ ง) ✪ คนั เหมือน _____________ (ตาแย) ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง แลว้ ร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ลกั ษณะของคาเปรียบเทียบ๑๐. ใหน้ กั เรียนนาภาพท่ีวาดออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียนอีกคร้ัง แลว้ บอกความเปรียบของภาพ จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง๑๑. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๖ กลุ่ม หาความเปรียบในโคลงโลกนิติและวเิ คราะห์ความหมายออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง๑๒. ให้นกั เรียนแต่ละกลุ่มแต่งขอ้ ความ กลอนเปล่า หรืองานเขียนรูปแบบอื่น ๆ ตามความถนดัโดยใช้ความเปรี ยบ และกาหนดเร่ืองราวตามความสนใจ จากน้ันส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบและแสสดงความคิดเห็น๑๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี ความเปรียบเป็ นการเปรียบเทียบสิ่งใดสิ่งหน่ึงให้เห็นภาพท่ีชัดเจนข้ึน เน้ือหาในโคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตคาสอนจึงใชค้ วามเปรียบเพื่อใหผ้ อู้ ่านเห็นภาพและเขา้ ใจเน้ือหา เช่ือมโยงกบั ชีวติ ประจาวนั๑๔. ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคจากแถบประโยคบนกระดาน สังเกตและบอกลกั ษณะของคาพอ้ ง๑๕. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง คาพอ้ ง ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็ นผอู้ ธิบายเพ่มิ เติม๑๖. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๖ กลุ่ม วเิ คราะห์คาพอ้ งในโคลงโลกนิติตามประเภทท่ีจบั ฉลากได้ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง๑๗. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มรวบรวมคาพอ้ งท่ีใชใ้ นชีวติ ประจาวนั เพม่ิ เติมจากโคลงโลกนิติ๑๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี คาพอ้ งแบง่ เป็นคาพอ้ งรูปซ่ึงเขียนเหมือนกนั อา่ นออกเสียงต่างกนั คาพอ้ งเสียงเป็ นคาท่ีเขียนต่างกนั อา่ นออกเสียงเหมือนกนั ส่วนคาพอ้ งรูปพอ้ งเสียงเป็นคาที่เขียนและอา่ นออกเสียงเหมือนกนั คาพอ้ งท้งั ๓ ประเภทมีความหมายแตกตา่ งกนั การเขา้ ใจความหมายของคาพอ้ งตอ้ งพจิ ารณาบริบทแวดลอ้ มจึงจะทราบความหมายอยา่ งถูกตอ้ ง ส่วนคาพอ้ งความหมายหรือคาไวพจน์เป็นคาท่ีเขียนตา่ งกนั อ่านอออกเสียงต่างกนั แต่ความหมายเหมือนกนั การนาคาไปใชต้ อ้ งเลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั บริบท

๑๙. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แต่งประโยคโดยบอกคาคนละ ๑ คา ใหเ้ รียงต่อกนั แลว้ บอกชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยคน้นั ๒๐. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง ชนิดของคาและหนา้ ท่ีของคาในประโยค แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพ่ิมเติม ๒๑. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่ม วเิ คราะห์ชนิดและหนา้ ท่ีของคาในเพลงที่ชื่นชอบกลุ่มละ ๑เพลง โดยวเิ คราะห์คาท่ีสนใจ ๑๐ คา ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนัตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๒๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์ชนิดและหนา้ ท่ีของคาในโคลงโลกนิติท่ีครูกาหนด ครูช่วยอธิบายเพิม่ เติมและตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๒๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี คาแตล่ ะชนิดในประดยคทาหนา้ ท่ีแตกตา่ งกนั และคาชนิดเดียวกนั อาจทาหนา้ ท่ีในประโยคแตกตา่ งกนั ได้ ข้ึนอยกู่ บั ตาแหน่งและบริบทอื่น ๆ ในประโยค การรู้จกั ชนิดและหนา้ ที่ของคาในประโยคทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือความในประโยคน้นั ไดช้ ดั เจน การส่ือสารจึงมีประสิทธภาพ ๒๔. ใหน้ กั เรียนอ่านคาประพนั ธ์จากโคลงโลกนิติที่ครูกาหนด แลว้ สงั เกตการใชค้ าเอกโทษและคาโทโทษ ๒๕. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง คาเอกโทษ โทโทษ แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็ นผอู้ ธิบายเพิม่ เติม ๒๖. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๕ กลุ่ม พิจารณาคาเอกโทษและคาโทโทษในโคลงโลกนิติกลุ่มละ๑๐ บท โดยบอกคาเอกโทษ คาโทโทษ การสะกดคาที่ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี และความหมายของคาออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๒๗. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มสารวจคาศพั ทใ์ นโคลงโลกนิติบทท่ีไดร้ ับมอบหมายวา่ มีคาใดอาจจะอา่ นไดไ้ ม่ถูกตอ้ ง ใหต้ รวจสอบคาอา่ นจากพจนานุกรม บนั ทึกและนามาแลกเปลี่ยนกนั ศึกษาระหวา่ งกลุ่ม ๒๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี คาประพนั ธ์ประเภทโคลงบงั คบั การใชค้ าเอก คาโท บางคาจึงตอ้ งใชค้ าเอกโทษ โทโทษเพอ่ื ใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ และส่ือความหมายตามท่ีผแู้ ต่งตอ้ งการ การเขา้ ใจคาเอกโทษ โทโทษทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติมากข้ึน และการอ่านคาโคลงโลกนิติอยา่ งถูกตอ้ ง ทาใหไ้ ดร้ ับอรรถรสในการอา่ นและสื่อความหมายไดต้ รงตามตอ้ งการ ๒๙. ใหน้ กั เรียนฟังครูอา่ นโคลงโลกนิติแบบทานองเสนาะแลว้ ร่วมกนั บอกจงั หวะการอ่าน ๓๐. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง การอ่านออกเสียงแบบบทร้อยกรอง และการอา่ นโคลงสี่สุภาพ แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพ่ิมเติม ๓๑. ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงบทอาขยานจากโคลงโลกนิติเป็ นทานองเสนาะจนคล่องแคล่วแลว้ ท่องจาบทอาขยานเพอ่ื นาไปทอ่ งใหค้ รูฟัง

๓๒. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั วเิ คราะห์คุณค่าบทอาขยานในดา้ นวรรณศิลป์ และดา้ นเน้ือหา ครูช่วยแนะนาอธิบายเพมิ่ เติม ๓๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี บทอาขยานในโคลงโลกนิติมีคุณค่าท้งั ดา้ นเน้ือหาที่ใหข้ อ้ คิดและคุณค่าดา้ นภาษาท่ีไพเราะคมคาย การท่องจาบทอาขยานจึงมีประโยชน์สามารถนาไปใชใ้ นการดาเนินชีวิตได้ ๓๔. ใหน้ กั เรียนอ่านคาประพนั ธ์ที่ครูกาหนด แลว้ ร่วมกนั บอกลกั ษณะเด่นของคาประพนั ธ์ ๓๕. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เร่ือง กลวธิ ีการประพนั ธ์ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพ่มิ เติม ๓๖. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มวเิ คราะห์กลวธิ ีการประพนั ธ์ในโคลงโลกนิติ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๓๗. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี กลวธิ ีการประพนั ธ์เป็นการเลือกใชถ้ อ้ ยคาใหเ้ กิดความไพเราะงดงามและช่วยสื่อความหมายใหเ้ กิดความชดั เจนมากยงิ่ ข้ึน กลวธิ ีการประพนั ธ์มีหลายรูปแบบ เช่น การใชค้ าอุปมาอุปลกั ษณ์ การเล่นคา และการเล่นเสียง การเขา้ ใจกลวธิ ีการประพนั ธ์ทาใหเ้ ขา้ ใจเน้ือหาในคาประพนั ธ์ และตระหนกั ในคุณค่าของคาประพนั ธ์มากข้ึน ๓๘. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๖ กลุ่ม เลือกโคลงโลกนิติกลุ่มละ ๒ บท แลว้ บอกคาสอน ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๓๙. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มแสดงบทบาทสมมุติประกอบคาสอนในโคลงโลกนิติกลุ่มละ ๑ คาสอนครูและนกั เรียนร่วมกนั ประเมินผลงาน ๔๐. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี โคลงโลกนิติเป็นสุภาษิตไทยโบราณท่ีมีเน้ือหาใหค้ ติสอนใจท้งั ในเร่ืองการพฒั นาตนเองและการปฏิบตั ิตนต่อผอู้ ่ืน การเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติ ทาใหส้ ามารถนาคาสอนไปประยกุ ตใ์ ช้ในการดาเนินชีวติ ประจาวนั ได้ ๔๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั เติมตวั อกั ษรท่ีหายไปในคาพงั เพยและสุภาษิตใหส้ ัมพนั ธ์กบัความหมายท่ีครูบอก ๔๒. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เร่ือง สานวนท่ีเป็นคาพงั เพยและสุภาษิต แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพมิ่ เติม ๔๓. ใหน้ กั เรียนดูภาพแลว้ ช่วยกนั บอกคาพงั เพยหรือสุภาษิตท่ีสมั พนั ธ์กบั ภาพ พร้อมท้งัอธิบายความหมาย จากน้นั คน้ หาโคลงโลกนิติท่ีมีคาสอนตรงกบั คาพงั เพยและสุภาษิตน้นั ๔๔. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน วาดภาพใหส้ อดคลอ้ งกบั สุภาษิตหรือคาพงั เพยในโคลงโลกนิติ ระบายสีตกแต่งใหส้ วยงาม ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน โดยใหเ้ พื่อนทายวา่ ตรงกบัโคลงโลกนิติบทใด ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั นาภาพวาดไปจดั ป้ ายนิเทศ

๔๕. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี คาพงั เพยและสุภาษิตเป็นถอ้ ยคาสานวนที่มุง่ เนน้ ให้คติในการดาเนินชีวติ โดยคาพงั เพยมีความหมายกลาง ๆ ท่ีแฝงขอ้ คิดเตือนใจใหน้ าไปปฏิบตั ิ ส่วนสุภาษิตมุ่งเนน้ การสั่งสอน ตกั เตือนให้จดจา ในโคลงโลกนิติมีคาสอนที่สอดคลอ้ งกบั คาพงั เพยและสุภิต การเขา้ ใจเน้ือหาทาใหส้ ามารถนาคาพงั เพยและสุภาษิตไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ๔๖. ใหน้ กั เรียนอ่านโคลงโลกนิติบทที่ครูกาหนด แลว้ ร่วมกนั บอกลกั ษณะเด่นของโคลง และขอ้ คิดที่ไดร้ ับ ๔๗. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง การพินิจคุณค่าของวรรณคดี แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจครูเป็นผอู้ ธิบายเพิ่มเติม ๔๘. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๔ กลุ่ม พนิ ิจคุณค่าของโคลงโลกนิติ โดยเขียนเป็นแผนภาพความคิด แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๔๙. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การพินิจคุณค่าของโลกนิติแบ่งเป็นคุณคา่ ดา้ นวรรณศิลป์ คุณคา่ ดา้ นแนวคิด คุณค่าดา้ นเน้ือหา และคุณคา่ ดา้ นสังคม ซ่ึงคุณค่าแต่ละดา้ นน้นั มีประโยชน์ต่อการศึกษาวรรณคดีและการนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวนั ๕๐. ใหน้ กั เรียนอ่านงานเขียนบรรยายประสบการณ์ที่ครูเตรียมมาจากนิตยสารหรืออินเทอร์เน็ต ที่มีเน้ือหาเหมาะสมและน่าสนใจ แลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ลกั ษณะของงานเขียน ๕๑. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เร่ือง การเขียนบรรยายประสบการณ์ แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพิ่มเติม ๕๒. ใหน้ กั เรียนเขียนแผนภาพความคิดเก่ียวกบั ประสบการณ์จากสิ่งต่าง ๆ จากน้นั เขียนบรรยายประสบการณ์ โดยเลือกรูปแบบตามความสนใจ เช่น เรียงความ จดหมาย บนั ทึก ตวั แทนนกั เรียนออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง และประเมินผลงาน โดยคดั เลือกผลงานท่ีดีนามาติดป้ ายนิเทศ ๕๓. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเขียนบรรยายประสบการณ์ เป็นการเขียนอธิบายเร่ืองราวต่าง ๆ ตามลาดบั เหตุการณ์และตามความเป็ นจริง ผเู้ ขียนจึงตอ้ งใชส้ านวนภาษา ถอ้ ยคาอยา่ งเหมาะสม เรียบเรียงลาดบั เหตุการณ์ใหเ้ ป็นลาดบั เพื่อใหอ้ ่านเขา้ ใจเรื่องและเกิดความรู้สึกคลอ้ ยตามเรื่องราวท่ีผเู้ ขียนตอ้ งการเล่า ๕๔. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั เสนอความคิดในประเด็นท่ีครูกาหนด แลว้ สังเกตลกั ษณะการพดู ๕๕. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เร่ือง การพดู แสดงความคิดอยา่ งสร้างสรรค์ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูเป็นผอู้ ธิบายเพิ่มเติม ๕๖. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ ๔-๕ คน พดู แสดงความคิดอยา่ งสร้างสรรคใ์ นสถานการณ์หรือประเด็นที่กลุ่มสนใจ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งและประเมินผลการพูด

๕๗. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การพดู แสดงความคิดอยา่ งสร้างสรรค์ เป็นการใชค้ วามคิดพิจารณาประเด็นต่าง ๆโดยเป็นความคิดที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และสร้างสรรคส์ ังคม ผพู้ ดู จึงตอ้ งศึกษาเร่ืองน้นั อยา่ งละเอียดแลว้ จึงวเิ คราะห์ วจิ ารณ์หรือประเมินคา่ เร่ืองน้นั อยา่ งมีหลกั เกณฑ์ เพอื่ ใหผ้ ฟู้ ังไดร้ ับประโยชน์และสามารถนาไปประยกุ ตใ์ ชไ้ ดใ้ นชีวติ จริง ๕๘. ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความที่ครูกาหนด แลว้ บอกวา่ ขอ้ ความดงั กล่าวสอดคลอ้ งกบั คาสอนในโคลงโลกนิติบทใด ๕๙. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน หาขา่ วในหนงั สือพิมพก์ ลุ่มละ ๑ ขา่ ว ที่สอดคลอ้ งกบั คาสอนในโคลงโลกนิติ ตวั แทนกลุ่มออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ครูและนกั เรียนร่วมกนัตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖๐. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานท่ี ๔ เร่ือง การพดู หรือเขียนเล่าเรื่องที่สะทอ้ นการใชค้ าสอนในโคลงโลกนิติ แลว้ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน ทุกคนร่วมกนั ประเมินผลงาน และแสดงความคิดเห็นเพ่มิ เติม ๖๑. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การพดู หรือเขียนเล่าเรื่องท่ีสอดคลอ้ งกบั คาสอนในโคลงโลกนิติ เป็ นการพดู หรือเขียนเพื่อแสดงให้เห็นวา่ โคลงโลกนิติเป็ นสุภาษิตคาสอนที่มีความทนั สมยั เหมาะสมกบั การดาเนินชีวติในปัจจุบนั ผพู้ ดู หรือเขียนเล่าเรื่องตอ้ งเขา้ ใจเน้ือหาในโคลงโลกนิติจึงจะสามารถนามาเชื่อมโยงกบัชีวติ จริงได้ ๖๒. ใหน้ กั เรียนดูตวั อยา่ งการเขียนกระทูบ้ นกระดานสนทนาท่ีครูนามา จากน้นั ร่วมกนัสนทนาเกี่ยวกบั ประสบการณ์การเขียนกระทู้ ๖๓. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้เรื่อง การเขียนบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ แลว้ ร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจครูเป็นผอู้ ธิบายเพ่ิมเติม ๖๔. ใหน้ กั เรียนจบั คูต่ ้งั กระทูใ้ นประเดน็ ที่สนใจ ออกมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน แลว้ ใหเ้ พ่ือนร่วมกนั ตอบกระทู้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖๕. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ ๕ เร่ือง การเขียนกระทเู้ กี่ยวกบั โคลงโลกนิติบนกระดานสนทนาแลว้ ช่วยกนั แสดงความคิดเห็น และคดั เลือกประเดน็ หรือมุมมองที่สร้างสรรคม์ าบนั ทึกไวใ้ นเวบ็ ไซตข์ องโรงเรียน หรือเวบ็ ไซต์ www.vchakarn.com และสนทนาเพิม่ เติมในช้นั เรียน จากน้นัร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ๖๖. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั ความรู้และขอ้ คิดท่ีไดร้ ับจากโคลงโลกนิติ ๖๗. ใหน้ กั เรียนทาชิ้นงานที่ ๖ เร่ือง การเขียนบนั ทึกวรรณคดีศึกษา : โคลงโลกนิติครูตรวจสอบผลงานของนกั เรียนเป็นรายบุคคล

๖๘. นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี การเขียนกระทบู้ นกระดานสนทนาเป็นการสื่อสารประเภทหน่ึงบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่ผเู้ ขียนควรเลือกใชถ้ อ้ ยคาใหก้ ระชบั สุภาพ สื่อความหมายไดถ้ ูกตอ้ ง และเขียนเร่ืองที่สร้างสรรค์เพอ่ื ใหเ้ ป็ นประโยชนแ์ ก่ผอู้ า่ น สามารถนาไปใชใ้ นชีวติ จริงได้ การเขียนบนั ทึกการเรียนรู้เป็ นการเขียนความรู้ ความรู้สึก และความคิดเห็นจากการอา่ นวรรณคดี เพื่อพฒั นาความคิดของผอู้ า่ น ส่ือการเรียนรู้ ๑. บตั รคา ๒. แถบขอ้ ความ ๓. แถบประโยค ๔. แผนภูมิคาประพนั ธ์ ๕. พจนานุกรม ๖. กระดาษสาหรับทากิจกรรม ๗. สีเทียน สีไม้ สีเมจิก ๘. ภาพ ๙. เพลง ๑๐. ตวั อยา่ งงานเขียนบรรยายประสบการณ์ ๑๑. หนงั สือพมิ พ์ ๑๒. อินเทอร์เน็ต ๑๓. ชิ้นงานท่ี ๔-๖

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre - Test)ช่ือ _____________________ นามสกุล________________ เลขที่______ช้นั _______ ได_้ ___________คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนนให้นักเรียนใช้ดินสอระบายลงใน หน้าคาตอบทถ่ี ูกต้องให้เต็มวง๑. ความรู้ผปู้ ราชญน์ ้นั นกั เรียน ความหมายของคาวา่ “นกั เรียน” ตรงกบั ขอ้ ใด ๑ ผศู้ ึกษาเล่าเรียน ๒ ผมู้ ีปัญญา ๓ ชอบเรียนรู้ ๔ ผรู้ ับการศึกษาจากโรงเรียน๒. ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ ชาดบา้ ย ภายนอกแดงดูฉนั หนอนบ่อน ภายในยอ่ มแมลงวนั นอกน้นั ดูงาม ดุจดงั่ คนใจร้าย ๒ ๒ แห่ง โคลงท่ียกมาขา้ งตน้ ใชอ้ ุปมาก่ีแห่ง ๔ ๔ แห่ง ๑ ๑ แห่ง ๓ ๓ แห่ง๓. เวน้ วจิ ารณ์วา่ งเวน้ สดบั ฟัง เวน้ ท่ีถามอนั ยงั ไป่ รู้ เวน้ เล่าลิขิตสงั เกตวา่ ง เวน้ นา เวน้ ดง่ั กล่าววา่ ผู้ ปราชญไ์ ดฤ้ ๅมี โคลงโลกนิติขา้ งตน้ กล่าวถึงการเวน้ เร่ืองใด ๑ ส สิ มิ ร ๒ สุ จิ ปุ ลิ ๓ เต ช สุ เน ๔ ทุ ส นิ ม๔. ถึงจนทนสู้กดั กินเกลือ อยา่ เที่ยวแล่เน้ือเถือ พวกพอ้ ง อดอยากเยยี่ งอยา่ งเสือ สงวนศกั ด์ิ โซก็เสาะใส่ทอ้ ง จบั เน้ือกินเอง โคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใดมากที่สุด ๑ ใหร้ ู้จกั อดทน ๒ ใหร้ ู้จกั ประมาณตน ๓ ใหร้ ู้จกั รักศกั ด์ิศรี ๔ ใหร้ ู้จกั ช่วยเหลือตนเอง๕. กบเกิดในสระใต้ บวั บาน ฤๅห่อนรู้รสมาลย์ หน่ึงนอ้ ย โคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใด ๑ มดแดงแฝงพวงมะม่วง ๒ กบในกะลาครอบ ๓ ใกลเ้ กลือกินด่าง ๔ บวั ไมช่ ้า น้าไมข่ ่นุ

๖. รูปแร้งดูร่างร้าย รุงรัง ภายนอกเพยี งพึงชงั ชวั่ ชา้ เสพสตั วท์ ่ีมรณงั นฤโทษ ดงั จิตสาธุชนกลา้ กลน่ั สร้างทางผล โคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใด ๑ ปลาร้าพนั ห่อดว้ ย ใบคา ใบกเ็ หมน็ คาวปลา คละคลุง้ ๒ ใบพอ้ พนั ห่อหุม้ กฤษณา หอมระรวยรสพา เพริศดว้ ย ๓ ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ มีพรรณ ภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ย ๔ ขนุนสุกสลา้ งแห่ง สาขา ภายนอกเห็นหนามหนา หนนั่ แท้๗. ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดบั นา สุริยะส่องดาราไร้ เพ่ือร้อนแรงแสง โคลงโลกนิติขา้ งตน้ น้ีเปรียบดวงจนั ทร์กบั ดวงอาทิตยก์ บั ขอ้ ใด ๑ ตวั นางกบั ตวั พระ ๒ คนมีเมตตากบั คนโหดร้าย ๓ คนพดู จาอ่อนหวานกบั คนพดู จากหยาบกระดา้ ง ๔ หญิงสาวผงู้ ดงามกบั ชายหนุ่มผเู้ ก่งกลา้๘. พระสมุทรสุดลึกลน้ คณนา เพราะเหตุใดจึงอา่ น “คณนา” ในโคลงโลกนิติบาทน้ีวา่ [คนนะนา] ๑ เพอ่ื เอ้ือสมั ผสั ๒ เพ่ือใหต้ รงความหมาย ๓ เพื่อใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ ๔ เพอื่ ใหถ้ ูกตอ้ งตามที่ราชบณั ฑิตยสถานกาหนด๙. ขอ้ ใดสอนตรงกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ๑ ผทู้ าสิ่งอกุศล กรรมติด ตามนา ๒ เคหาอยา่ สูญวาย ขา้ วเปลือก มีนา ๓ รู้จริงสิ่งเดียวอาจ มีมง่ั ๔ นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั๑๐. ลกั ษณะคาสอนในโคลงโลกนิติตรงกบั ขอ้ ใดมากที่สุด ๑ หลกั ธรรมะ ๒ สุภาษิตสอนใจ ๓ คาอธิบายสุภาษิตตา่ ง ๆ ๔ ขอ้ คิดเตือนใจในชีวติ ประจาวนั

แบบทดสอบหลังเรียน (Post - Test)ช่ือ ____________________ นามสกุล________________ เลขที่______ช้นั _______ ได_้ ___________คะแนน คะแนนเตม็ ๑๐ คะแนนให้นักเรียนใช้ดนิ สอระบายลงใน หน้าคาตอบทถี่ ูกต้องให้เต็มวง๑.ลกั ษณะคาสอนในโคลงโลกนิติตรงกบั ขอ้ ใดมากท่ีสุด๑ หลกั ธรรมะ ๒ สุภาษิตสอนใจ๓ คาอธิบายสุภาษิตต่าง ๆ ๔ ขอ้ คิดเตือนใจในชีวิตประจาวนั๒. ผลเด่ือเมื่อสุกไซร้ มีพรรณภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ยภายในยอ่ มแมลงวนั หนอนบ่อนดุจดงั่ คนใจร้าย นอกน้นั ดูงามโคลงท่ียกมาขา้ งตน้ ใชอ้ ุปมากี่แห่ง๑ ๑ แห่ง ๒ ๒ แห่ง๓ ๓ แห่ง ๔ ๔ แห่ง๓. รูปแร้งดูร่างร้าย รุงรังภายนอกเพียงพึงชงั ชวั่ ชา้เสพสัตวท์ ่ีมรณงั นฤโทษดงั จิตสาธุชนกลา้ กลนั่ สร้างทางผลโคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใด๑ ปลาร้าพนั ห่อดว้ ย ใบคาใบก็เหมน็ คาวปลา คละคลุง้๒ ใบพอ้ พนั ห่อหุม้ กฤษณาหอมระรวยรสพา เพริศดว้ ย๓ ผลเดื่อเม่ือสุกไซร้ มีพรรณภายนอกแดงดูฉนั ชาดบา้ ย๔ ขนุนสุกสลา้ งแห่ง สาขาภายนอกเห็นหนามหนา หนน่ั แท้๔. กบเกิดในสระใต้ บวั บานฤๅห่อนรู้รสมาลย์ หน่ึงนอ้ ยโคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใด๑ มดแดงแฝงพวงมะมว่ ง ๒ กบในกะลาครอบ๓ ใกลเ้ กลือกินด่าง ๔ บวั ไมช่ ้า น้าไม่ข่นุ

๕. ความรู้ผปู้ ราชญน์ ้นั นกั เรียน ความหมายของคาวา่ “นกั เรียน” ตรงกบั ขอ้ ใด ๑ ผศู้ ึกษาเล่าเรียน ๒ ผมู้ ีปัญญา ๓ ชอบเรียนรู้ ๔ ผรู้ ับการศึกษาจากโรงเรียน๖. เวน้ วจิ ารณ์วา่ งเวน้ สดบั ฟัง เวน้ ท่ีถามอนั ยงั ไป่ รู้ เวน้ เล่าลิขิตสัง เกตวา่ ง เวน้ นา เวน้ ดงั่ กล่าววา่ ผู้ ปราชญไ์ ดฤ้ ๅมี โคลงโลกนิติขา้ งตน้ กล่าวถึงการเวน้ เรื่องใด ๑ ส สิ มิ ร ๒ สุ จิ ปุ ลิ ๓ เต ช สุ เน ๔ ทุ ส นิ ม๗. พระสมุทรสุดลึกลน้ คณนา เพราะเหตุใดจึงอ่าน “คณนา” ในโคลงโลกนิติบาทน้ีวา่ [คนนะนา] ๑ เพ่ือเอ้ือสมั ผสั ๒ เพื่อใหต้ รงความหมาย ๓ เพื่อใหถ้ ูกตอ้ งตามฉนั ทลกั ษณ์ ๔ เพื่อใหถ้ ูกตอ้ งตามที่ราชบณั ฑิตยสถานกาหนด๘. ถึงจนทนสู้กดั กินเกลือ อยา่ เท่ียวแล่เน้ือเถือ พวกพอ้ ง อดอยากเยยี่ งอยา่ งเสือ สงวนศกั ด์ิ โซก็เสาะใส่ทอ้ ง จบั เน้ือกินเอง โคลงโลกนิติขา้ งตน้ สอนตรงกบั ขอ้ ใดมากที่สุด ๑ ใหร้ ู้จกั อดทน ๒ ใหร้ ู้จกั ประมาณตน ๓ ใหร้ ู้จกั รักศกั ด์ิศรี ๔ ใหร้ ู้จกั ช่วยเหลือตนเอง๙. ขอ้ ใดสอนตรงกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ๑ ผทู้ าส่ิงอกศุ ล กรรมติด ตามนา ๒ เคหาอยา่ สูญวาย ขา้ วเปลือก มีนา ๓ รู้จริงสิ่งเดียวอาจ มีมงั่ ๔ นกนอ้ ยขนนอ้ ยแต่ พอตวั๑๐. ดุจดวงศศิฉาย ดาวดาษ ประดบั นา สุริยะส่องดาราไร้ เพอ่ื ร้อนแรงแสง โคลงโลกนิติขา้ งตน้ น้ีเปรียบดวงจนั ทร์กบั ดวงอาทิตยก์ บั ขอ้ ใด ๑ ตวั นางกบั ตวั พระ ๒ คนมีเมตตากบั คนโหดร้าย ๓ คนพดู จาอ่อนหวานกบั คนพูดจากหยาบกระดา้ ง ๔ หญิงสาวผงู้ ดงามกบั ชายหนุ่มผเู้ ก่งกลา้

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-Test) ๓. ๒ ๔. ๓ ๕. ๓ ๑. ๓ ๒. ๒ ๘. ๑ ๙. ๔ ๑๐. ๔ ๖. ๔ ๗. ๓เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน (Post-Test) ๓. ๔ ๔. ๓ ๕. ๓ ๑. ๔ ๒. ๒ ๘. ๓ ๙. ๔ ๑๐. ๓ ๖. ๒ ๗. ๑

แบบบนั ทกึ สรุปผลการเรียนรู้สาหรับผ้เู รียนชื่อ-นามสกลุ ...............................................................เลขท่ี......................ช้นั .......................วนั ที่................................................เดือน.............................................พ.ศ. .........................คาชี้แจง ใหน้ กั เรียนบนั ทึกสรุปผลการเรียนรู้จากหน่วยการเรียนรู้น้ีนกั เรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจเร่ืองใดอีกบา้ ง นกั เรียนมีความรู้สึกอยา่ งไร หลงั จากท่ี นกั เรียนไดร้ ับความรู้เร่ืองใดบา้ งจากท่ีเก่ียวกบั หน่วยการเรียนรู้น้ี เรียนหน่วยการเรียนรู้น้ีแลว้ หน่วยการเรียนรู้น้ีซ่ึงตอ้ งการใหค้ รูอธิบายเพิม่ เติม ............................................................... ......................................................................................................................... ............................................................... ......................................................................................................................... ............................................................... ......................................................................................................................... ............................................................... ......................................................................................................................... ............................................................... ......................................................................................................................... ............................................................... ........................................................... หน่วยการเรียนรูท้ ี่.............. ...........................................นกั เรียนจะสามารถนาความรู้ ความเขา้ ใจ ผลงานท่ีนกั เรียนชอบและตอ้ งการ นกั เรียนไดท้ ากิจกรรมอะไรบา้ งในจากหน่วยการเรียนรู้น้ีไปใชป้ ระโยชน์ใน คดั เลือกเป็ นผลงานดีเด่นจาก หน่วยการเรียนรู้น้ีชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งไรบา้ ง หน่วยการเรียนรู้น้ีคือผลงานใดบา้ ง .............................................................................................................................. เพราะอะไร .............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. . ...........................................................หมายเหตุ ใหค้ รูสาเนาแบบบนั ทึกน้ีเพื่อใหน้ กั เรียนบนั ทึกทุกหน่วยการเรียนรู้๑. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชเ้ ป็ นหลกั ฐานและขอ้ มลู เพือ่ ปรับปรุงและพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน๒. ครูสามารถนาแบบบนั ทึกน้ีไปใชป้ ระกอบการทาวจิ ยั ในช้นั เรียนเพ่อื เป็ นผลงานประกอบการเลื่อนวทิ ยฐานะได้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook