ส่อื เทคโนโลยดี ิจทิ ลั
ความหมายของเทคโนโลยดี จิ ิทัล ( Digital Technology) เทคโนโลยดี ิจิตอล (Digital Technology) หมายถึง ทกั ษะความเขา้ ใจและใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั หรือ Digital literacy หมายถึง ทกั ษะในการนาเครื่องมือ อปุ กรณ์ และเทคโนโลยดี ิจิทลั ที่มีอยใู่ นปัจจุบนั อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์ แทบ็ เลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และสื่อออนไลน์ มาใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด ในการส่ือสาร การปฏิบตั ิงาน และการทางานร่วมกนั หรือใชเ้ พ่ือพฒั นากระบวนการทางาน หรือระบบงานในองคก์ รใหม้ ีความ ทนั สมยั และมีประสิทธิภาพ
ทกั ษะดงั กล่าวครอบคลุมความสามารถ 4 มติ ิ • 1. การใช้ (Use) • 2. เขา้ ใจ (Understand) • 3. การสร้าง (create) • 4. เขา้ ถึง (Access) เทคโนโลยดี ิจิทลั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
ระบบดจิ ติ อลคืออะไร? อนั ดบั แรกเรามาทาความเขา้ ใจคาวา่ ระบบหรือ system ในทางวศิ วกรรมไฟฟ้าก่อนคือ การรวมอปุ กรณ์หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ ทางอิเลก็ ทรอนิกส์ เช่น ความตา้ นทาน ตวั เกบ็ ประจุ ทรานซิสเตอร์ วงจรรวม (IC) เพือ่ ทาหนา้ ทีป่ ระมวลสญั ญาณท่ีเขา้ มา (input) ใหม้ ีคุณลกั ษณะตามที่เราตอ้ งการ แลว้ ส่งออกไป(Output) เช่น ระบบขยายเสียง ระบบเครื่องรับวทิ ยุ ระบบควบคุม เป็นตน้ ในทางวศิ วกรรมไฟฟ้าแบง่ ระบบไดเ้ ป็นสองชนิดคือ ระบบอนาลอก (Analog) และระบบดิจิตอล (Digital) ระบบ ดิจิตอลจริง ๆ แลว้ ก็ยงั อยบู่ นพ้นื ฐานของระบบอนาลอก คือมีเซนเซอร์รับสญั ญาณจากภายนอกเขา้ มาทาการประมวลสญั ญาณ (เช่น เพิ่มขนาด หน่วงเวลา ดีมอดูเลท) แลว้ กส็ ่งสญั ญาณที่ประมวลแลว้ กลบั ออกไปตวั อยา่ งเช่น ระบบขยายเสียง (amplifier) มีไมโครโฟนเป็นเซนเซอร์ทาหนา้ ทเ่ี ปล่ียนสญั ญาณเสียง (อนาลอก) ใหเ้ ป็นสญั ญาณไฟฟ้า (กระแส) ส่งเขา้ ไปในวงจรขยายเสียง (ประกอบดว้ ย ทรานซิสเตอร์ ตวั เก็บประจุความตา้ นทาน อ่นื ๆ) เพอ่ื เพม่ิ ขนาดของสญั ญาณกระแสใหส้ ูงข้ึน (ประมวลผล) จากน้นั ก็เปล่ยี นสญั ญาณกระแสกลบั เป็นสญั ญาณเสียงดว้ ยลาโพงตามภาพ ท้งั น้ีก็เพื่อใหไ้ ดเ้ สียงท่มี ีคุณภาพดีข้ึน
ระบบดจิ ิตอลคืออะไร? ส่วนระบบดิจิตอล ต่างจากระบบอนาลอกตรงการประมวลสญั ญาณ ท่ีใชต้ วั เลข (digit) แทนขนาดของสญั ญาณ (กระแส) โดยใชเ้ ลขฐานสอง (๐ กบั ๑) ซ่ึงเป็นตวั เลขท่ีคอมพิวเตอร์เขา้ ใจได้ ดงั น้นั ระบบจึงตอ้ งมีตวั เปล่ียนสญั ญาณ อนาลอกเป็นตวั เลขฐานสองเพ่ิมข้ึนมา (Analog to Digital converter หรือ A/D) เพื่อใหค้ อมพิวเตอร์ ทาการประมวลผลทางตวั เลข (digital) ได้ (นนั่ คือท่ีมาของคาวา่ Digital system) เม่ือประมวลผลทางเลข เสร็จ สญั ญาณน้ีจะถกู เปลี่ยนกลบั เป็นสญั ญาณอนาลอกอีกคร้ัง เพื่อใหส้ ู่โลกแห่งความเป็นจริงดว้ ยตวั เปลี่ยนเป็น อนาลอก (Digital to Analog converter หรือ D/A)
ระบบดจิ ติ อลคืออะไร? ยคุ แรก ๆ ของระบบดิจิตอล ระบบมีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากใชค้ อมพิวเตอร์ซ่ึงมีขนาดใหญ่ในการประมวลผล ต่อมาววิ ฒั นาการทางดา้ นการผลิตไอซี (Integrated circuit) หรือIC ไดพ้ ฒั นาไปอยา่ งรวดเร็วทา ให้ คอมพิวเตอร์มีขนาดเลก็ ลง กินกระแสไฟนอ้ ยลง ประมวลผลไดร้ วดเร็วข้ึน และราคาถกู ลง ทาใหร้ ะบบดิจิตอลมีความ นิยมมากข้ึน นอกจากน้นั แลว้ จากระบบดิจิตอลยงั มีขอ้ ดีกวา่ ระบบอนาลอกมากมายหลายประการ ไม่วา่ จะเป็นเร่ืองสญั ญาณ รบกวนที่นอ้ ยกวา่ มากเร่ืองความผดิ พลาดในการแปลงสญั ญาณกลบั มีนอ้ ยมาก เร่ืองความคมชดั เร่ืองการเขา้ ถึงขอ้ มูลท่ี รวดเร็วกวา่ เร่ืองการเก็บรักษาที่สามารถอยไู่ ดเ้ ป็นร้อยปี เร่ืองการรักษาความปลอดภยั ขอ้ มูลท่ียากตอ่ การถอดรหสั เร่ืองการออกแบบและพฒั นาระบบที่ทาไดง้ ่ายและรวดเร็วกวา่ ดว้ ยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น MATLAB และท่ี สาคญั ผลิตภณั ฑส์ ามารถผลิตคราวละจานวนมาก ๆ โดยมีคุณภาพเหมือนกนั ทุกประการ ทาใหส้ ินคา้ มีราคาถูกอยา่ งไม่ น่าเชื่อ และอีกมากมาย
ประเภทของสื่อดจิ ทิ ัล CD Training คือ การสร้างสื่อดิจิทลั ในลกั ษณะท่ีเป็น CD ท่ีใชใ้ นการสอน การใชง้ านจะเป็นการใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น การสอนการใชโ้ ปรแกรม Microsoft Word เป็นตน้ นอกจากน้นั CD Training ยงั ครอบคลมุ ไปถึงเรื่อง การสอนการทางานของโปรแกรมตา่ ง ๆ จะใชเ้ ป็นการสาธิตการทางานของโปรแกรม เป็นตน้ CD Presentation คือ การสร้างเป็นส่ือดิจิทลั ในลกั ษณะท่ีเป็น CD ที่ใชส้ าหรับการนาเสนอในสถานที่ต่าง ๆ เชน่ นาเสนอขอ้ มลู ในท่ี ประชุม นาเสนอขอ้ มลู บริษทั ท่ีเรียกวา่ Company Profile
ประเภทของสือ่ ดจิ ทิ ลั VCD/DVD คือ การสร้างสื่อดิจิทลั ในลกั ษณะที่เป็น CD ภาพยนตร์ท่ีมีการตดั ตอ่ ภาพยนตร์ต่าง ๆ ในลกั ษณะที่เป็น Movie Clip แลว้ นามาจดั เรียงตอ่ กนั เป็นภาพยนตร์ 1 เร่ือง เป็นตน้ E-book และ E-ducument คือ การสร้างสื่อดิจิทลั ในลกั ษณะท่ีเป็นการทาเป็นหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึงสามารถสร้างโดยการแปลงไฟลเ์ อกสาร ตา่ ง ๆ ใหเ้ ป็น Webpage หรือเป็น PDF File เป็นตน้
การสื่อสาร (Communication) ระบบดิจิตอลไดป้ ฏิวตั ิการติดต่อสื่อสารของมวลมนุษยโ์ ดยสิ้นเชิง ท้งั แบบใชส้ าย (wired communication) เช่น ระบบโทรศพั ทบ์ า้ นระบบอินเตอร์เนท็ และแบบไร้สาย (wireless communication) เช่น ระบบ โทรศพั ทไ์ ร้สายหรือท่ีเราเรียกกนั วา่ มือถือ ระบบดิจิตอลช่วยใหก้ ารส่งขอ้ มูล (ไบนารี) ง่าย สะดวกและผิดพลาดนอ้ ย มาก รวมถึงการรักษาความปลอดภยั ของขอ้ มูลท่ีระบบอนาลอกทาไม่ไดห้ ากใชแ้ สงเลเซอร์ในการส่งจะทาใหส้ ามารถ มีความเร็วเป็นกิกะบิทตอ่ วนิ าที (กิกะ= พนั ลา้ น) ระบบอินเตอร์เนท็ ก็เป็นผลพวงของระบบดิจิตอล
การส่ือสาร (Communication) เป็นการรับ-ส่งขอ้ มลู ดิจิตอลระหวา่ งคอมพิวเตอร์กบั คอมพิวเตอร์ผา่ นสายส่ง พฒั นาโดยหน่วยงานวจิ ยั ช้นั สูงของ สหรัฐอเมริกา หรือ Advanced Research Projects Agency (ARPA) เพื่อแลกเปลี่ยนขอ้ มูลทางการ วจิ ยั ในกล่มุ หน่วยงานรัฐบาลและมหาวทิ ยาลยั ตอ่ มาไดข้ ยายความนิยมมากข้ึนจนแพร่กระจายไปทวั่ โลก และถูก นาไปในวงการต่าง ๆ มากมายไมว่ า่ จะเป็นดา้ นการคา้ การธนาคาร ที่สามารถทาธุรกรรมทางการเงินในเวลาอนั รวดเร็ว และปลอดภยั ดา้ นการวจิ ยั และพฒั นาท่ีสามารถสืบคน้ ขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ไม่วา่ จะเป็นสิทธิบตั รตา่ ง ๆ เอกสารวจิ ยั หนงั สือ ภายในเวลาอนั รวดเร็ว ไม่ตอ้ งออกไปยมื ท่ีหอ้ งสมุด ดา้ นความบนั เทิงท่านสามารถเลือกเพลงโปรดหรือดูตวั อยา่ ง ภาพยนตร์จากน้นั ก็สงั่ ซ้ือผา่ นอินเตอร์เนท็ ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งออกไปที่ธนาคาร
ความหมาย ความสาคัญและผลกระทบของการรู้ดจิ ทิ ลั (Digital Literacy) ‘การรู้’ (Literacy) หมายถึง ความสามารถอา่ นและเขียนในภาษาที่ใชร้ ่วมกนั ของวฒั นธรรม ส่วนการรู้ดิจิทลั หมายถึง การอา่ น และ การเขียนขอ้ ความดิจิทลั เช่น สามารถ ‘อ่าน’ เวบ็ ไซต์ โดยผา่ นการเช่ือมโยงหลายมิติ และ ‘การเขียน’ โดยการอปั โหลดภาพถ่ายดิจิทลั เพื่อเวบ็ ไซตเ์ ครือข่ายสงั คม ทกั ษะการทางานที่จาเป็นในการดาเนินการ และการส่ือสาร ดว้ ยเทคโนโลยแี ละสื่อ นอกจากน้ียงั หมายถึงความรู้เกี่ยวกบั ความสาคญั ของเทคโนโลยแี ละสื่อที่มีผลกระทบ แตท่ ่ีสาคญั กวา่ น้นั คือ ความสามารถที่จะวเิ คราะห์และประเมิน ความรู้ท่ีมีอยใู่ นเวบ็ ไซต์
การเรียนรู้ดจิ ิทลั (Digital Literacy) การเรียนรู้ดิจิทลั คือการผนวกกนั ของทกั ษะความรู้และความเขา้ ใจที่ผเู้ รียนตอ้ งเรียนรู้เพื่อท่ีจะมีส่วนร่วมอยา่ ง เตม็ ท่ีและมีความปลอดภยั ในโลกยคุ ดิจิทลั มากข้ึน ทกั ษะความรู้และความเขา้ ใจน้ีเป็นกุญแจสาคญั ท่ีควรเป็น องคป์ ระกอบของหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐานท้งั ระดบั ประถมศึกษาและมธั ยมศึกษา และควรจะผนึกผสานอยใู่ น การเรียนการสอนของทุกรายวชิ าทุกระดบั ช้นั
การเรียนรู้ดจิ ิทลั มคี วามสาคญั อย่างไร เทคโนโลยใี หโ้ อกาสในการมีส่วนร่วมในชนิดใหม่ของการเรียนรู้ ชุมชน สงั คม และกิจกรรมการทางานทกุ คนจะตอ้ งมีความรู้ ดิจิทลั เพ่อื ใชป้ ระโยชน์สูงสุดจากโอกาสเหล่าน้ี หลกั ฐานที่แสดงใหเ้ ห็นว่าในขณะทเี่ ยาวชนคนหนุ่มสาว รู้สึกมน่ั ใจเก่ียวกบั การ ใชเ้ ทคโนโลยนี ้ีไม่ไดเ้ ป็นส่ิงบง่ บอกถึงสมรรถนะหรือความสามารถทแ่ี ทจ้ ริง ในดา้ นทกั ษะการคิดวจิ ารณญาณ เช่น ความ ตระหนกั ถงึ กลยทุ ธ์ทางการคา้ หรืออคติจากส่ือต่างๆตลอดจนความปลอดภยั ในการใชง้ านนอกจากน้ีการเรียนรู้ดิจทิ ลั จะมีผล สาคญั ต่อสงั คมโดยรวม ต่อความเสมอภาคในการเขา้ ถงึ ขอ้ มูลการบริการและการจา้ งงาน การเขา้ กลมุ่ ทางสงั คม และ โอกาสในการเรียนรู้เพ่ิมเติม ตลอดจนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายโอกาสทางธุรกิจการพฒั นาการเรียนรู้ดิจิทลั เป็นเรื่องเกี่ยวกบั การเปลีย่ นแปลงธรรมชาติของความรู้ความเขา้ ใจครูทุกคนสามารถนาเสนอมุมมองทแี่ ตกต่างกนั ในเร่ืองวธิ ีการท่ีเทคโนโลยี สามารถเพิม่ คุณค่าในการเรียนของผเู้ รียนนอกจากน้ียงั ช่วยใหอ้ อนไลนอ์ ยา่ งปลอดภยั หากผเู้ รียนมีความสามารถในการตดั สินใจที่ เหมาะสม
การเรียนรู้ดจิ ิทลั มคี วามสาคญั อย่างไร โอกาสในการเรียนรู้เพ่ิมเติม ตลอดจนอาจส่งผลกระทบตอ่ การขยายโอกาสทางธุรกิจการพฒั นาการเรียนรู้ดิจิทลั เป็นเรื่องเกี่ยวกบั การเปล่ียนแปลงธรรมชาติของความรู้ความเขา้ ใจครูทุกคนสามารถนาเสนอมมุ มองท่ีแตกต่างกนั ใน เรื่องวธิ ีการท่ีเทคโนโลยสี ามารถเพ่ิมคุณค่าในการเรียนของผเู้ รียนนอกจากน้ียงั ช่วยใหอ้ อนไลน์อยา่ งปลอดภยั หาก ผเู้ รียนมีความสามารถในการตดั สินใจที่เหมาะสม
รู้ใช้ รู้เข้าใจ รู้สร้างสรรค์ รู้ใช้ รู้เขา้ ใจ รู้สร้างสรรค์ เป็นคาท่ีแสดงลกั ษณะความรู้สามารถดิจิทลั 1. ใช้ (Use) แสดงถึงความคล่องแคลว่ ทางเทคนิคท่ีจาเป็นในการใชก้ บั คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตชุดรูปแบบ พ้ืนฐานสาหรับการพฒั นาทกั ษะทางเทคนิคท่ีจาเป็น รวมถึงความสามารถในการใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคาเวบ็ เบราเซอร์E-mail และการส่ือสารอื่นๆ เคร่ืองมือคน้ หาและฐานขอ้ มลู ออนไลน์
รู้ใช้ รู้เข้าใจ รู้สร้างสรรค์ 2. เขา้ ใจ (Understand) คือความสามารถท่ีจะเขา้ ใจบริบทท่ีเกี่ยวขอ้ ง และประเมินสื่อดิจิทลั ตระหนกั ถึง ความสาคญั ของการประเมินผลที่สาคญั ในการทาความเขา้ ใจดิจิทลั เน้ือหาของส่ือ และการประยกุ ตใ์ ชส้ ามารถสะทอ้ น ใหเ้ ห็นถึงรูปร่างการเพ่ิมหรือจดั การกบั ความรู้สึกความเชื่อของเราและความรู้สึกเก่ียวกบั โลกรอบตวั เราความเขา้ ใจ ความสาคญั ของส่ือดิจิทลั ท่ีช่วยใหบ้ ุคคลเก็บเก่ียวผลประโยชน์และลดความเสี่ยง การมีส่วนร่วมในสงั คมเตม็ รูปแบบ ดิจิทลั ทกั ษะชุดน้ียงั รวมถึงการพฒั นาทกั ษะการจดั กาสารสนเทศและการแขง็ ค่าของสิทธิคนและความรับผิดชอบใน การไปถึงทรัพยส์ ินทางปัญญา ในเศรษฐกิจความรู้ ชาวแคนาดาจาเป็นตอ้ งรู้วธิ ีการหาประเมินผลและมีประสิทธิภาพ ใชข้ อ้ มลู เพื่อการส่ือสารการทางานร่วมกนั และแกป้ ัญหาในชีวติ ส่วนตวั และเป็นมืออาชีพของพวกเขา
รู้ใช้ รู้เข้าใจ รู้สร้างสรรค์ 3.สร้างสรรค์ (Create) ความสามารถในการสร้างเน้ือหาและมีประสิทธิภาพ การติดต่อสื่อสารโดยใชค้ วาม หลากหลายของสื่อดิจิทลั เป็นเครื่องมือ การสร้างสื่อดิจิทลั มีความหมายมากกวา่ ความสามารถในการใชโ้ ปรแกรม ประมวลผลหรือเขียนอีเมล์ รวมถึงความสามารถในการปรับการสื่อสารกบั สถานการณ์และผรู้ ับสารการสร้างและ ติดต่อสื่อสารโดยใชส้ ่ือผสม เช่น ภาพวดี ิโอและเสียงประกอบอยา่ งมีประสิทธิภาพและมีความรับผดิ ชอบ ประกอบกบั เน้ือหาเวบ็ ไซตท์ ี่ผเู้ รียนสร้าง เช่นบลอ็ กและเวทีสนทนา วดี ิโอแลภาพถ่ายร่วมกนั เลน่ เกมทางสงั คม และรูปแบบอ่ืนๆ ของส่ือสงั คม แนวคิดน้ียงั ตระหนกั ถึงส่ิงท่ีเป็นความรู้ในโลกดิจิทลั ท่ีไม่เพียงแตส่ ร้างความชานาญทางดา้ นเทคโนโลยี เท่าน้นั แต่ยงั คานึงถึงจริยธรรม การปฏิบตั ิทางสงั คมและการสะทอ้ นสิ่งท่ีฝังอยใู่ นการเรียนรู้ การใชเ้ วลาวา่ ง และการ ใชช้ ีวติ ประจาวนั
การเรียนรู้แบบดจิ ติ อลมผี ลกระทบอย่างไร การเรียนรู้แบบดิจิตอลมีผลกระทบตอ่ การพฒั นารูปแบบการเรียนรู้ รูปแบบการนาเสนอเน้ือหา และพฤติกรรม ของผอู้ า่ น อนั เนื่องจากลกั ษณะท่ีทางกายภาพเปล่ียนไปของหนงั สือแบบเดิมไปสู่เน้ือหาการเรียนรู้แบบดิจิตอล ดงั น้นั การใชเ้ น้ือหาการเรียนรู้แบบดิจิตอลผเู้ รียนตอ้ งมีการปรับตวั ใหส้ ามารถใชเ้ น้ือหาแบบน้ีได้ และผเู้ รียน จึงตอ้ งมี การศึกษาความเช่ือมนั่ ของผเู้ รียนต่อการใชง้ านรูปแบบของส่ือ ท่ีนาเสนอเน้ือหาในรูปแบบดิจิตอล เพ่ือนาไปพฒั นา และปรับปรุงคุณภาพต่อไป เน่ืองจากมีการใชเ้ น้ือหาการเรียนรู้แบบดิจิตอลมากข้ึน ทาใหส้ ่งผลกระทบต่อ อตุ สาหกรรมส่ิงพิมพ์ ทาใหห้ นงั สือท่ีพิมพด์ ว้ ยกระดาษมียอดขายที่ลดลง สานกั พิมพต์ ่างๆจึงหนั ไปผลิตในรูปส่ิงพิมพ์ ดิจิตอลมากข้ึน
การใช้เทคโนโลยใี นชีวติ ประจาวนั ในยคุ น้ีคงจะไม่สามารถที่จะปฏิเสธไดเ้ ลยวา่ เทคโนโลยไี มม่ ีความจาเป็นสาหรับการดาเนินชีวติ ของมนุษย์ เพราะ ทุกคนลว้ นใชเ้ ทคโนโลยเี พื่ออานวยความสะดวกในชีวติ ในทุก ๆ ดา้ น ต้งั แตก่ ารตื่นนอนจนถึงการเขา้ นอน ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงเป็นส่ิงท่ีจาเป็นสาหรับมนุษย์ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ผทู้ ่ีอาศยั อยใู่ นเมืองท่ีชีวติ ประจาวนั มีแตค่ วามเร่งรีบตอ้ ง แข่งขนั กบั เวลา การนาเทคโนโลยเี ขา้ มาช่วยจึงมีความจาเป็นอยา่ งยง่ิ เพราะเทคโนโลยสี มยั ใหมน่ อกจากจะช่วยอานวย ความสะดวกในการทางานแลว้ ยงั ช่วยยน่ ระยะเวลาทากิจกรรมต่าง ๆ ใหส้ ้นั ลง
เทคโนโลยที มี่ อี ทิ ธิพลต่อการดาเนินชีวติ ของมนุษย์ เทคโนโลยมี คี วามสาคญั ต่อการดารงชีวติ อย่างไร ปัจจุบนั น้ีเทคโนโลยมี ีความสาคญั ต่อการดารงชีวติ เพราะววิ ฒั นาการเหล่าน้นั แทรกซึม อยใู่ นทุกตารางการใชช้ ีวติ ของ มนุษย์ เพราะมนุษยม์ ีการพฒั นาคิดคน้ สิ่งอานวยความสะดวกสบายตอ่ การดารงชีวติ เป็นอนั มาก เทคโนโลยไี ดเ้ ขา้ มา เสริมปัจจยั พ้ืนฐานการดารงชีวติ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี ในปัจจุบนั เทคโนโลยกี ารสื่อสารผา่ นคอมพิวเตอร์ (Computer Mediated Communication - CMC) ซ่ึงเป็นการส่ือสารแบบสองทาง ทาใหผ้ ใู้ ชส้ ามารถติดต่อกนั ได้ กล่าวถึง อิทธิพลของเครื่องมือการสื่อสารท่ีมีอิทธิพลตอ่ ววิ ฒั นาการของมนุษยชาติ อารยธรรมยคุ โลกาภิวตั น์ อารย ธรรมของโลก โลกท้งั โลกจะเช่ือมต่อกนั ดว้ ย ระบบเทคโนโลยสี ารสนเทศ
เทคโนโลยที มี่ อี ทิ ธิพลต่อการดาเนินชีวติ ของมนุษย์ สภาพของสงั คมจะเปล่ียนไปจากยคุ อตุ สาหกรรมเป็นโลกยคุ โลกาภิวตั น์ ซ่ึงแตกต่างไปจากเดิมในรูปแบบของการ ติดต่อระหวา่ งมนุษยด์ ว้ ยกนั เทคโนโลยเี ร่ิมเขา้ มาช่วยในการพิมพ์ ทาใหก้ ารส่ือสารดว้ ยขอ้ ความและภาษาเพ่ิมข้ึนมาก เทคโนโลยพี ฒั นาจนถึงการส่ือสารกนั โดยส่งขอ้ ความเป็นเสียงทางสายโทรศพั ทไ์ ด้ มีการส่งภาพโทรทศั น์และ คอมพิวเตอร์ทาใหม้ ีการใชส้ ารสนเทศในรูปแบบขา่ วสารมาก ข้ึน ในปัจจุบนั มีสถานีวทิ ยุ โทรทศั น์ผา่ นดาวเทียมเพ่ือ รายงานเหตุการณ์สด เห็นไดช้ ดั วา่ เทคโนโลยไี ดเ้ ขา้ มามีบทบาทอยา่ งมากมีการพฒั นาอยา่ งไม่หยดุ น่ิง เพื่อใหม้ ีความ เสมือนกบั โลกของจริงมาที่สุดการติดตอ่ สื่อสารผา่ นโลก Cyber อาจมีผลกระทบกบั ชีวติ ความเป็นอยขู่ องมนุษย์ เพราะมนุษยเ์ ร่ิมใหค้ วามสาคญั กบั เทคโนโลยใี นดา้ นน้ีมากเกินไปการใช้ เทคโนโลยดี า้ นน้ี เราควรรู้จกั วธิ ีใช้ และความ เหมาะสม เพ่ือการใชง้ านที่เป็นประโยชน์ และใชง้ านไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยมี ีผลต่อการดารงชีวติ ในปัจจุบนั มนุษย์ มีการดาเนินชีวติ มาต้งั แตอ่ ดีตกาล ผา่ นการดารงชีวติ มาในรูปแบบตา่ งๆตามยคุ ตามสมยั และมีการดารงชีวติ ในแตล่ ะยคุ ท่ีไมเ่ หมือนกนั อาจจะมีคลา้ ยกนั บางแตก่ ไ็ ม่เหมือนกนั ซะท่ีเดียว ซ่ึงในการดารงชีวติ ของมนุษยน์ ้นั ตอ้ งมี การประสบพบเจอกบั เร่ืองหรือปัญหา ต่างๆทาใหม้ นุษยเ์ กิดการคิด คิดท่ีจะทาอะไรซกั อยา่ งเพื่อแก่ปัญหาน้นั ๆ แรกเริ่มอาจจะคิดแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้ ไปก่อนแลว้ จากน้นั จึงมีการพฒั นาและต่อยอด ความคิดน้นั ใหส้ ามารถแกป้ ัญหา ไดด้ ีข้ึนกวา่ เดิม จนสามารถแกป้ ัญหาน้นั ไดแ้ ละมนุษยก์ ็มีการคิดอยตู่ ลอดเวลา ทาใหม้ นุษยม์ ีพฒั นาการ เกิดความคิด ประดิษฐใ์ นเรื่องตา่ งๆ ซ่ึงมีมากมายตามยคุ สมยั ของมนุษย์ เทคโนโลยเี องกเ็ ป็นส่ิงหน่ึงที่เกิดจากความคิดและการ พฒั นาข้ึนของมนุษย์ เทคโนโลยมี ีความสมั พนั ธ์กบั การดารงชีวติ ของมนุษยม์ าเป็นเวลานาน เป็นสิ่งที่มนุษยใ์ ชใ้ นการ แกป้ ัญหาพ้ืนฐาน ในการดารงชีวติ
บทบาทของเทคโนโลยตี ่อการดารงชีวติ เทคโนโลยี มบี ทบาทต่อการดารงชีวติ ของมนุษย์เพราะมนุษย์ได้ใช้เทคโนโลยเี ข้ามาเกี่ยว ข้องในการ พฒั นาในด้านต่างๆเพื่อการดารงอยู่ของมนุษย์ เช่น 1.เทคโนโลยกี บั การพฒั นาอุตสาหกรรม การนาเทคโนโลยมี าใชใ้ นการผลิต ทาใหป้ ระสิทธิภาพในการผลิตเพ่ิมข้ึน แลว้ ยงั ช่วยประหยดั แรงงาน ลดตน้ ทุนและรักษาสภาพแวดลอ้ ม เทคโนโลยที ี่มีบทบาทในการพฒั นาอตุ สาหกรรมใน ประเทศไทย เช่น คอมพิวเตอร์ และอิเลก็ ทรอนิกส์ เทคโนโลยชี ีวภาพและพนั ธุกรรม วศิ วกรรม เทคโนโลยเี ลเซอร์ การแพทย์ เทคโนโลยพี ลงั งาน เทคโนโลยวี สั ดุศาสตร์ เช่น พลาสติก แกว้ วสั ดุก่อสร้าง โลหะ
บทบาทของเทคโนโลยตี อ่ การดารงชวี ติ 2. เทคโนโลยกี บั การพฒั นาดา้ นการเกษตร ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเพ่ิมผลผลิต ปรับปรุงพนั ธุ์ เป็นตน้ เทคโนโลยี มีบทบาทในการพฒั นาอยา่ งมาก แต่ท้งั น้ีการนา เทคโนโลยมี าใชใ้ นการพฒั นาจะตอ้ งศึกษาปัจจยั แวดลอ้ มหลายดา้ น เช่น ทรัพยากรส่ิงแวดลอ้ ม ความเสมอภาคใน โอกาสและการแข่งขนั ทางเศรษฐกิจและสงั คม เพ่ือใหเ้ กิดความ ผสมกลมกลืนต่อการพฒั นาประเทศ
บทบาทของเทคโนโลยตี ่อการดารงชีวติ 3.เทคโนโลยกี บั การพฒั นาดา้ นการสื่อสาร (เทคโนโลยสี ารสนเทศ) โลก ในทุกวนั น้ี ที่การสร้างความสมั พนั ธ์ทางดา้ นสงั คม กลบั ไมไ่ ดเ้ ป็นแคก่ ารมาพบปะพดู คุย มองเห็นรูปร่างหนา้ ตา บุคลิกภาพหรือทากิจกรรมร่วมกนั แตเ่ พียงอยา่ งเดียวเท่าน้นั แต่กลบั อาศยั เทคโนโลยเี ขา้ มาช่วยในการพฒั นาทางดา้ น สงั คมใหเ้ กิดข้ึน จนเราเรียกกนั ติดหูวา่ สงั คมเครือขา่ ย (Social Network) หรือสงั คมออนไลน์นน่ั เอง
เทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ ความหมายของวทิ ยาศาสตร์ พจนานุกรมฉบบั ราชบณั ฑิตสถาน พ.ศ.2525 ไดใ้ หค้ วามหมายวา่ “วทิ ยาศาสตร์ คือ ความรู้ท่ีไดจ้ ากการสงั เกต คน้ ควา้ จากการประจกั ษต์ ามธรรมชาติแลว้ จดั เขา้ เป็นระเบียบหรือเป็นวชิ าท่ีคน้ ควา้ ไดห้ ลกั ฐานและเหตุผล แลว้ จดั เขา้ เป็นระเบียบ”ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งวทิ ยาศาสตร์กบั เทคโนโลยี เทคโนโลยี เป็นการประยกุ ต์ นาเอาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาใช้ และก่อใหเ้ กิดประโยชนใ์ นทางปฏิบตั ิแก่มวล มนุษย์ กลา่ วคือ เทคโนโลยเี ป็นการนาเอาความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาใช้ ในการประดิษฐส์ ิ่งของตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดประโยชน์ สูงสุด ส่วนที่เป็นขอ้ แตกตา่ งอยา่ งหน่ึงของเทคโนโลยี กบั วทิ ยาศาสตร์ คือเทคโนโลยจี ะข้ึนอยกู่ บั ปัจจยั ทางเศรษฐกิจ เป็นสินคา้ มีการซ้ือขาย ส่วนความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์เป็นสมบตั ิส่วนรวมของชาวโลก มีการเผยแพร่โดยไม่มีการซ้ือขาย แตอ่ ยา่ งใด
เทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ กล่าวโดยสรุปคือ เทคโนโลยสี มยั ใหม่เกิดข้ึนโดยมีความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นฐานรองรับ เทคโนโลยที ่ีเหมาะสม คาวา่ เทคโนโลยที ีเ่ หมาะสมหมายความถงึ เหมาะสมต่อสภาพเศรษฐกิจ สงั คม และความตอ้ งการของ ประเทศ เทคโนโลยบี างเรื่องเหมาะสมกบั บางประเทศ ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั สภาวะของแต่ละประเทศ 1. ความ จาเป็นท่นี าเทคโนโลยมี าใชใ้ นประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร รายไดจ้ ากผลผลิตทางการเกษตรมี มากกว่ารายไดอ้ ยา่ งอ่ืน และประมาณร้อยละ 80 ของ ประชากรอาศยั อยใู่ นชนบท ดงั น้นั การนาเทคโนโลยมี าใชจ้ ึงเป็นเร่ืองจาเป็น โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เทคโนโลยที างการเกษตร สินคา้ ทางการเกษตร ส่วนใหญส่ ่งออกจาหน่ายต่างประเทศในลกั ษณะวตั ถุดิบ เช่น การขายเมลด็ โกโกใ้ หต้ ่างประเทศแลว้ นาไปผลติ เป็น ชอ็ คโกแลต็ หากต้งั โรงงานในประเทศไทยตอ้ งใชเ้ ทคโนโลยเี ขา้ มามี บทบาทในการพฒั นาการแปรรูป
เทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ 2. เทคโนโลยที ี่เหมาะสม มีผรู้ ู้หลายท่านไดต้ ีความหมายของคาวา่ “เหมาะสม” วา่ เหมาะสมกบั อะไรต่อเศรษฐกิจ ระยะเวลาหรือระดบั เทคโนโลยที ี่เหมาะสม คือ เทคโนโลยที ี่สามารถนามาใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ตอ่ การดาเนินกิจการตา่ ง ๆ และสอดคลอ้ งกบั ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ สภาพแวดลอ้ ม วฒั นธรรมสิ่งแวดลอ้ ม และกาลงั เศรษฐกิจ ของคนทวั่ ไป
ความสัมพนั ธ์ระหว่างเทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์มีความสมั พนั ธ์กนั มาก โดยเรียกรวมๆ วา่ วทิ ยาศาตร์และเทคโนโลยี (Science and Technology) ซ่ึงเป็นการนาความรู้ทางวทิ ยาศาตร์สาขาต่างๆ มาผสมผสานประยกุ ตใ์ ชใ้ นทาง ปฏิบตั ิประดิษฐ์ เป็นเคร่ืองมือเคร่ืองใชใ้ หเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุด เพ่ือช่วยใหม้ นุษยท์ างานไดง้ ่าย สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมาก ข้ึน ตวั อยา่ งเช่น • การนาความรู้ทางฟิ สิกส์มาผลิตเคร่ืองจกั รกล • การนาความรู้ทางเคมีมาผลิตยา • การนาความรู้ทางชีววทิ ยามาใชใ้ นการผลิตอาหาร
ความสัมพนั ธ์ระหว่างเทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ อาจจะสรุป ความสมั พนั ธ์ของศาสตร์ท้งั สองไดด้ งั น้ี 1.เทคโนโลยสี มั พนั ธ์กบั ความรู้พ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์ ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงเกิดจากการใชค้ วามรู้ พ้ืนฐานทาง วทิ ยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ 2. การประยกุ ตค์ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาใชใ้ นเทคโนโลยกี เ็ พ่ือแกป้ ัญหาทางเทคโนโลยี
ความสัมพนั ธ์ระหว่างเทคโนโลยกี บั วทิ ยาศาสตร์ 3. เทคโนโลยใี ชเ้ พื่อเสริมการแกป้ ัญหา นนั่ ก็คือ การนาความรู้วทิ ยาศาสตร์ไปคู่การปฏิบตั ินนั่ เอง เทคโนโลยสี มั พนั ธ์กบั ความรู้พ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์ในการออกแบบผลิตภณั ฑต์ า่ ง ๆ เพ่ือแกป้ ัญหา แต่ ขณะเดียวกนั วทิ ยาศาสตร์ตอ้ งอาศยั ความรู้ทางเทคโนโลยแี สวงหาความรู้หรือทฤษฎีใหม่ ๆ ดงั น้นั เทคโนโลยจี ึงเกิด การใชค้ วามรู้พ้ืนฐานทางวทิ ยาศาสตร์เป็นส่วนใหญ่การประยกุ ตค์ วามรู้ทางวทิ ยาศาสตร์มาใชเ้ ทคโนโลยกี ็เพื่อ แกป้ ัญหาทางเทคโนโลยี เทคโนโลยใี ชเ้ พื่อเสริมการแกป้ ัญหา นน่ั กค็ ือ การนาความรู้วทิ ยาศาสตร์ไปคู่การปฏิบตั ิ
ผลกระทบจากการใช้เทคโนโลยี แต่อยา่ งไรก็ตาม การนาเอาเทคโนโลยมี าใชใ้ นชีวติ ประจาวนั กเ็ ปรียบเสมือนดาบสองคม เพราะในบางคร้ังก็นา โทษมาใหแ้ ก่มนุษยด์ ว้ ยเช่นกนั ยกตวั อยา่ งท่ีสามารถเห็นไดช้ ดั เจนก็คงจะหนีไมพ่ น้ เร่ืองที่เป็นขา่ วตามหนา้ หนงั สือพิมพใ์ นเรื่องของการถูกลวงไปข่มขืน โดยสาเหตุหลกั ๆ ของการถกู ลอ่ ลวงไปขม่ ขืน กเ็ ป็นผลมาจากการใช้ เทคโนโลยใี นทางท่ีผดิ ซ่ึงส่วนใหญ่ก็มาจากการพูดคุยกนั ผา่ นทางโปรแกรมการสนทนาออนไลน์(Chat) ท่ีเมื่อมีการ พดู คุยกนั กม็ ีการนดั มาเจอกนั และเกิดเหตกุ ารณ์การลอ่ ลวงไปข่มขืน เพราะการพูดคุยผา่ นการChat น้ีเป็นการพูดคุย ท่ีอิสรเสรี
ขอบคุณค่ะ
Search
Read the Text Version
- 1 - 33
Pages: