Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี

ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี

Published by Thapakorn Namjaisuk, 2021-03-03 07:17:47

Description: เล่มติว รับรองผล ความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี

Search

Read the Text Version

ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 หน้าทีแ่ ละความรับผดิ ในการปฏิบัติหนา้ ท่รี าชการ ความรับผดิ ทางแพง่ (ละเมดิ ) ละเมดิ ตอ่ บคุ คลภายนอก (มาตรา 5, 6, 11, 14) 1. ละเมดิ ตอ่ บคุ คลภายนอก - กระทาละเมดิ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ (ต่อ) มาตรา 14 เม่อื ได้มีการจัดตัง้ ศาลปกครองขน้ึ แลว้ สทิ ธิรอ้ งทกุ ขต์ ่อคณะกรรมการวินจิ ฉยั รอ้ งทุกขต์ ามมาตรา 11 ให้ถอื วา่ เป็นสทิ ธฟิ ้องคดีต่อศาลปกครอง 2. ละเมดิ ตอ่ บคุ คลภายนอก - กระทาละเมดิ ในทางสว่ นตวั มาตรา 6 ถ้าการกระทาละเมิดของเจา้ หน้าท่ีมใิ ช่การกระทาในการปฏิบัตหิ น้าที่ เจ้าหน้าทตี่ ้องรบั ผิดในการน้ันเปน็ การ เฉพาะตัว ในกรณีนผ้ี เู้ สียหายอาจฟ้องเจ้าหนา้ ทไ่ี ดโ้ ดยตรง แตจ่ ะฟ้องหน่วยงานของรฐั ไมไ่ ด้ ละเมดิ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั (มาตรา 8, 10 ,12) 1. ละเมดิ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั – กระทาละเมดิ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ มาตรา 10 ในกรณที ่เี จ้าหนา้ ที่เป็นผ้กู ระทาละเมิดตอ่ หน่วยงานของรฐั ไม่วา่ จะเป็นหนว่ ยงานของรัฐทผ่ี นู้ ัน้ อยู่ในสงั กัด หรือไม่ ถ้าเป็นการกระทาในการปฏิบัตหิ นา้ ทก่ี ารเรยี กร้องคา่ สินไหมทดแทนจากเจา้ หน้าท่ีใหน้ าบทบัญญตั ิ มาตรา 8 มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม แตถ่ า้ มใิ ช่การกระทาในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ีใหบ้ ังคับตามบทบญั ญัตแิ ห่งประมวลกฎหมาย แพง่ และพาณชิ ย์ มาตรา 8 ในกรณีท่หี นว่ ยงานของรฐั ต้องรับผดิ ใชค้ ่าสนิ ไหมทดแทนแกผ่ ู้เสยี หายเพือ่ การละเมิดของเจา้ หนา้ ที่ ใหห้ น่วย งานของรฐั มีสิทธิเรียกใหเ้ จา้ หนา้ ทผ่ี ู้ทาละเมดิ ชดใช้คา่ สนิ ไหมทดแทนดังกล่าวแกห่ น่วยงานของรัฐได้ ถ้าเจา้ หนา้ ทไี่ ด้ กระทาการนนั้ ไปดว้ ยความจงใจหรือประมาทเลนิ เลอ่ อยา่ งรา้ ยแรง สิทธเิ รยี กให้ชดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนตามวรรคหน่ึงจะมไี ดเ้ พียงใดให้คานึงถงึ ระดบั ความร้ายแรงแห่งการกระทา และความเปน็ ธรรมในแตล่ ะกรณีเป็นเกณฑ์โดยมติ ้องใหใ้ ช้เตม็ จานวนของความเสยี หายกไ็ ด้ ถ้าการละเมดิ เกิดจากความผดิ หรอื ความบกพรอ่ งของหน่วยงานของรฐั หรือระบบการดาเนนิ งานสว่ นรวมใหห้ กั สว่ นแหง่ ความรับผดิ ดงั กลา่ วออกด้วย มาตรา 12 ในกรณีที่เจา้ หน้าท่ีตอ้ งชดใช้คา่ สินไหมทดแทนทห่ี นว่ ยงานของรฐั ได้ใช้ให้แกผ่ เู้ สยี หายตาม มาตรา 8 หรอื ใน ทเี่ จ้าหน้าท่ีตอ้ งใช้ค่าสนิ ไหมทดแทนเนื่องจากเจ้าหน้าท่ผี นู้ น้ั ได้กระทาละเมิดต่อหนว่ ยงานของรัฐตามมาตรา 10 ประกอบกับมาตรา 8 ใหห้ น่วยงานของรฐั ทีเ่ สยี หายมอี านาจออกคาสั่งเรยี กใหเ้ จ้าหน้าทผ่ี ู้น้นั ชาระเงนิ ดงั กล่าวภายใน เวลาที่กาหนด มาตรา 10วรรคสอง ... สทิ ธเิ รยี กรอ้ งคา่ สนิ ไหมทดแทนจากเจา้ หนา้ ที่ทัง้ สองประการตามวรรคหน่ึง ใหม้ ีกาหนดอายุความ 2 ปี นบั แต่ วนั ทหี่ นว่ ยงานของรัฐรู้ถงึ การละเมิดและรตู้ วั เจ้าหน้าท่ี ผูจ้ ะพึงตอ้ งใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทน และกรณที ห่ี นว่ ยงาน ของรฐั เห็นวา่ เจา้ หนา้ ทีผ่ ้นู ้นั ไม่ตอ้ งรบั ผดิ แต่กระทรวงการคลังตรวจสอบแลว้ เหน็ วา่ ต้องรับผดิ ใหส้ ิทธิเรียกรอ้ งค่าสินไหม ทดแทนน้นั มกี าหนดอายุความ 1 ปนี ับแตว่ นั ทหี่ น่วยงานของรฐั มคี าสั่งตามความเห็นของกระทรวงการคลงั 49

ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 หน้าท่แี ละความรบั ผิดในการปฏบิ ัติหนา้ ทร่ี าชการ ความรบั ผิดทางแพ่ง (ละเมิด) ละเมดิ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั (มาตรา 8, 10 ,12) 2. ละเมดิ ตอ่ หนว่ ยงานของรฐั – กระทาละเมดิ ในทางสว่ นตวั มาตรา 10 ในกรณีทเ่ี จ้าหน้าท่เี ปน็ ผกู้ ระทาละเมิดตอ่ หนว่ ยงานของรัฐไมว่ า่ จะเป็นหน่วยงานของรัฐทผ่ี ูน้ ั้นอยใู่ นสงั กดั หรือไม่ ถ้าเปน็ การกระทาในการปฏบิ ัตหิ น้าที่การเรยี กรอ้ งค่าสินไหมทดแทนจากเจา้ หน้าที่ให้นาบทบญั ญัติ มาตรา 8 มา ใช้บงั คบั โดยอนโุ ลม แตถ่ ้ามใิ ช่การกระทาในการปฏิบตั ิหนา้ ทใ่ี หบ้ งั คบั ตามบทบญั ญตั แิ หง่ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณชิ ย์ หา้ มใช้หลกั ลกู หนี้รว่ ม (มาตรา 8 วรรคสี่) ในกรณที กี่ ารละเมดิ เกดิ จากเจา้ หนา้ ทห่ี ลายคน มิใหน้ าหลกั เรอ่ื งลูกหนร้ี ว่ มมาใช้บงั คับและเจา้ หนา้ ที่แตล่ ะคน ต้องรับผิดใชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนเฉพาะส่วนของตนเท่านั้น สทิ ธไิ ลเ่ บยี้ (มาตรา 9) มาตรา 9 ถ้าหนว่ ยงานของรฐั หรอื เจา้ หนา้ ทไี่ ดใ้ ชค้ า่ สนิ ไหมทดแทนแกผ่ เู้ สยี หาย สิทธิทจ่ี ะเรียกใหอ้ กี ฝา่ ยหนง่ึ ชดใชค้ า่ สินไหมทดแทนแกต่ นใหม้ กี าหนดอายคุ วาม 1 ปนี บั แต่วันทีห่ น่วยงานของรัฐหรือเจ้าหนา้ ที่ไดใ้ ชค้ า่ สินไหมทดแทนนน้ั แก่ ผเู้ สียหาย ความรับผิดทางอาญา ทาความเขา้ ใจคาวา่ “เจ้าพนกั งาน” และ “โดยทจุ ริต” “เจ้าพนกั งาน” บคุ คลซ่งึ กฎหมายบัญญตั วิ ่าเปน็ เจา้ พนักงานหรือได้รบั แตง่ ตงั้ ตามกฎหมายใหป้ ฏิบตั หิ น้าท่ี ราชการไม่วา่ เป็นประจาหรอื ครัง้ คราว และไมว่ า่ จะได้รบั คา่ ตอบแทนหรือไม่ “โดยทจุ รติ ” เพอ่ื แสวงหาประโยชนท์ ม่ี คิ วรได้โดยชอบดว้ ยกฎหมายสาหรับตนเองหรอื ผอู้ น่ื 50

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หนา้ ที่และความรับผดิ ในการปฏบิ ัตหิ น้าทรี่ าชการ ความรบั ผดิ ทางอาญา กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 147 - 157) เจ้าพนกั งานยกั ยอก มาตรา 147 ผู้ใดเป็นเจา้ พนักงาน มีหนา้ ทซี่ ้อื ทา จัดการหรือรักษาทรพั ย์ใด เบียดบงั ทรพั ยน์ นั้ เปน็ ของตน หรือเปน็ ของผอู้ นื่ โดยทจุ รติ หรือโดยทจุ ริตยอมใหผ้ ู้อื่นเอาทรัพยน์ ั้นเสยี โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้ังแต่ 5 - 20ปี หรือจาคกุ ตลอดชีวิต และปรบั ต้ังแต่ 1 แสน - 4 แสนบาท ใชอ้ านาจในตาแหนง่ ข่มขืนใจเอาทรพั ย์ มาตรา 148 ผใู้ ดเปน็ เจ้าพนกั งาน ใช้อานาจในตาแหนง่ โดยมชิ อบ ขม่ ขนื ใจหรือจูงใจ เพือ่ ให้บคุ คลใดมอบใหห้ รอื หามา ใหซ้ ง่ึ ทรพั ยส์ ินหรอื ประโยชน์อน่ื ใดแก่ตนเองหรือผอู้ ่นื โทษ  ต้องระวางโทษจาคกุ ตง้ั แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคกุ ตลอดชีวติ และปรับต้ังแต่ 1 แสน - 4 แสนบาท หรอื ประหารชวี ิต เรียก รับ หรือยอมรบั จะรบั สนิ บน มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนกั งาน สมาชกิ สภานิตบิ ญั ญตั ิแหง่ รัฐ สมาชกิ สภาจงั หวัด หรอื สมาชิกสภา เทศบาล เรยี กรบั หรอื ยอมจะรบั ทรพั ยส์ ิน หรือประโยชนอ์ นื่ ใด สาหรับตนเองหรือผูอ้ ืน่ โดยมิชอบ เพือ่ กระทาการ หรือไมก่ ระทา การอยา่ งใดในตาแหน่งไมว่ ่าการน้ันจะชอบหรอื มิชอบด้วยหน้าท่ี โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกตัง้ แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคุกตลอดชวี ติ และปรับตงั้ แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท หรอื ประหารชวี ติ เรียกสนิ บนกอ่ นรบั ตาแหนง่ มาตรา 150 ผใู้ ดเป็นเจ้าพนกั งาน กระทาการหรอื ไมก่ ระทาการอยา่ งใดในตาแหนง่ โดยเหน็ แกท่ รพั ยส์ นิ หรือประโยชนอ์ ื่นใด ซ่ึงตนได้เรยี ก รบั หรอื ยอมจะรับไวก้ ่อนทตี่ นได้รับแตง่ ตง้ั เป็นเจา้ พนกั งานในตาแหน่งนนั้ โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกตงั้ แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคุกตลอดชวี ิต และปรับต้งั แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท ใช้อานาจในตาแหนง่ โดยทจุ ริต มาตรา 151 ผู้ใดเปน็ เจา้ พนักงาน มหี น้าทีซ่ อ้ื ทา จดั การหรอื รักษาทรัพยใ์ ด ๆ ใชอ้ านาจในตาแหนง่ โดยทจุ รติ อนั เปน็ การเสยี หายแกร่ ฐั เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรพั ย์นนั้ โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่ 5 - 20ปี หรือจาคุกตลอดชวี ติ และปรับตงั้ แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท 51

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หนา้ ทแ่ี ละความรบั ผดิ ในการปฏิบัตหิ นา้ ทรี่ าชการ ความรบั ผดิ ทางอาญา กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 147 - 157) เขา้ มสี ว่ นไดเ้ สยี ในกจิ การในหนา้ ท่ี มาตรา 152 ผู้ใดเปน็ เจ้าพนักงาน มีหนา้ ท่ีจัดการหรือดูแลกจิ การใด เขา้ มสี ว่ นไดเ้ สยี เพอ่ื ประโยชนส์ าหรบั ตนเองหรอื ผอู้ น่ื เนอ่ื งดว้ ยกจิ การนนั้ โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกตง้ั แต่ 1 - 10ปี และปรับตั้งแต่ 2 หม่ืน - 2 แสนบาท จ่ายทรพั ย์เกนิ กวา่ ทค่ี วรจา่ ย มาตรา 153 ผูใ้ ดเปน็ เจา้ พนักงาน มีหน้าท่จี ่ายทรพั ย์ จ่ายทรัพยน์ นั้ เกนิ กวา่ ทคี่ วรจา่ ยเพอื่ ประโยชนส์ าหรบั ตนเองหรือผอู้ น่ื โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตงั้ แต่ 1 - 10ปี และปรับตัง้ แต่ 2 หม่นื - 2 แสนบาท เรยี กเกบ็ หรือไมเ่ รยี กเกบ็ ภาษอี ากร คา่ ธรรมเนียม โดยทจุ รติ มาตรา 154 ผู้ใดเปน็ เจ้าพนกั งาน มหี น้าที่หรือแสดงว่าตนมหี น้าท่ีเรยี กเกบ็ หรือตรวจสอบภาษีอากร ค่าธรรมเนยี ม หรอื เงนิ อืน่ ใด โดยทจุ รติ เรยี กเกบ็ หรอื ละเวน้ ไมเ่ รยี กเกบ็ ภาษอี ากรคา่ ธรรมเนยี มหรือเงินน้ัน หรือ กระทาการ หรอื ไมก่ ระทาการอย่างใด เพือ่ ใหผ้ ู้มีหน้าทีเ่ สยี ภาษีอากรหรอื ค่าธรรมเนียมนัน้ มติ ้องเสยี หรอื เสยี นอ้ ยไปกว่า ที่จะต้องเสยี โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ตัง้ แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคุกตลอดชวี ิต และปรบั ต้งั แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท กาหนดราคาทรพั ยส์ นิ หรือสนิ คา้ โดยทจุ รติ มาตรา 155 ผูใ้ ดเปน็ เจ้าพนกั งาน มีหน้าที่กาหนดราคาทรัพยส์ นิ หรอื สินค้าใด ๆ เพือ่ เรียกเกบ็ ภาษอี ากร หรอื ค่าธรรมเนยี ม ตามกฎหมาย โดยทจุ รติ กาหนดราคาทรพั ยส์ ินหรือสนิ คา้ นน้ั เพอ่ื ให้ผู้มหี นา้ ที่เสียภาษอี ากรหรือ คา่ ธรรมเนียม น้นั มิตอ้ งเสยี หรอื เสยี น้อยไปกวา่ ท่ีจะต้องเสยี โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ต้งั แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคุกตลอดชีวิต และปรบั ตัง้ แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท ตรวจสอบบญั ชีโดยทจุ รติ มาตรา 156 ผใู้ ดเปน็ เจ้าพนักงาน มีหนา้ ท่ีตรวจสอบบญั ชตี ามกฎหมายโดยทจุ รติ แนะนา หรอื กระทาการหรือไมก่ ระทาการ อยา่ งใด เพ่ือใหม้ กี ารละเวน้ การลงรายการในบญั ชี ลงรายการเทจ็ ในบัญชี แกไ้ ขบญั ชี หรอื ซอ่ นเรน้ หรอื ทา หลักฐานในการลงบญั ชอี ันจะเป็นผลให้การเสยี ภาษีอากรหรอื ค่าธรรมเนียมนน้ั มิต้องเสีย หรือเสยี นอ้ ยกวา่ ที่ จะต้องเสยี โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกตง้ั แต่ 5 - 20ปี หรอื จาคุกตลอดชวี ิต และปรบั ตัง้ แต่ 1 แสน - 4 แสนบาท 52

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หนา้ ท่ีและความรับผดิ ในการปฏบิ ตั ิหน้าทร่ี าชการ ความรบั ผดิ ทางอาญา กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 147 - 157) (ตอ่ ) ปฏบิ ัตหิ รือละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทโี่ ดยมชิ อบหรือโดยทจุ รติ มาตรา 157 ผูใ้ ดเปน็ เจา้ พนักงาน ปฏิบัตหิ รอื ละเวน้ การปฏบิ ตั หิ นา้ ทโี่ ดยมชิ อบ เพ่อื ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกผ่ หู้ นึง่ ผู้ใด หรอื ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัตหิ น้าที่โดยทจุ ริต โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกต้งั แต่ 1 - 10ปี และปรับตั้งแต่ 2 หม่ืน - 2 แสนบาท หรือทง้ั จาทัง้ ปรับ ไม่ถงึ กบั กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 158 - 166) ทาใหเ้ สยี หายซงึ่ ทรพั ยห์ รอื เอกสาร มาตรา 158 ผู้ใดเป็นเจา้ พนกั งาน ทาใหเ้ สยี หาย ทาลาย ซ่อนเรน้ เอาไปเสยี หรือทาใหส้ ญู หายหรือทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ ซึ่งทรพั ยห์ รือเอกสารใดอันเป็นหน้าท่ีของตนทีจ่ ะปกครองหรือรกั ษาไว้ หรอื ยนิ ยอมให้ผ้อู ่ืนกระทาเช่นนนั้ โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กิน 7 ปี และปรับ ไมเ่ กนิ 1 แสน 4 หม่ืนบาท ทาใหเ้ สยี หายซงึ่ ตราหรอื เครอื่ งหมาย มาตรา 159 ผใู้ ดเป็นเจ้าพนกั งาน มีหนา้ ท่ดี ูแล รักษาทรพั ยห์ รือเอกสารใด กระทาการอนั มชิ อบดว้ ยหนา้ ที่ โดยถอน ทาใหเ้ สยี หาย ทาลายหรอื ทาใหไ้ รป้ ระโยชน์ หรอื โดยยนิ ยอมใหผ้ อู้ น่ื กระทาเชน่ นน้ั ซง่ึ ตราหรือ เครอื่ งหมายอันเจา้ พนกั งานไดป้ ระทับหรือหมายไวท้ ที่ รัพยห์ รือเอกสารนน้ั ในการปฏบิ ตั ิการตามหน้าที่ เพื่อเปน็ หลกั ฐานในการยดึ หรอื รกั ษาส่ิงนน้ั โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ 5 ปี และปรบั ไม่เกนิ 1 แสนบาทหรือท้งั จาทง้ั ปรับ ใชด้ วงตราหรือรอยตราโดยมชิ อบ มาตรา 160 ผู้ใดเปน็ เจา้ พนกั งาน มีหน้าทรี่ ักษาหรือใชด้ วงตราหรือรอยตราของราชการหรือของผู้อ่นื กระทาการอันมิ ชอบด้วยหน้าที่ โดยใชด้ วงตราหรอื รอยตรานนั้ หรือโดยยนิ ยอมใหผ้ อู้ น่ื กระทาเชน่ นน้ั ซึ่งอาจทาใหผ้ อู้ น่ื หรอื ประชาชนเสยี หาย โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ 5 ปี และปรับ ไมเ่ กิน 1 แสนบาทหรือทง้ั จาทง้ั ปรับ 53

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 หน้าทแี่ ละความรบั ผิดในการปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ความรับผดิ ทางอาญา ไม่ถงึ กบั กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 158 - 166) (ต่อ) ปลอมเอกสารโดยอาศยั โอกาสทม่ี หี นา้ ท่ี มาตรา 161 ผู้ใดเปน็ เจา้ พนักงาน มีหน้าทีท่ าเอกสาร กรอกข้อความลงในเอกสารหรอื ดแู ลรกั ษา เอกสาร กระทาการ ปลอมเอกสารโดยอาศยั โอกาสทต่ี นมหี นา้ ทนี่ น้ั โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกไมเ่ กิน 10 ปี และปรบั ไม่เกิน 2 แสนบาท รับรองหรอื กรอกขอ้ ความลงในเอกสารอนั เปน็ เทจ็ มาตรา 162 ผใู้ ดเปน็ เจา้ พนกั งาน มหี นา้ ทที่ าเอกสาร รบั เอกสารหรอื กรอกข้อความลงในเอกสาร กระทาการดังต่อไปน้ี ในการปฏบิ ัตกิ ารตามหนา้ ท่ี (1) รับรองเป็นหลกั ฐานวา่ ตนไดก้ ระทาการอย่างใดขน้ึ หรอื ว่าการอยา่ งใดได้กระทาตอ่ หน้าตนอันเปน็ ความเทจ็ (2) รับรองเปน็ หลักฐานวา่ ได้มีการแจง้ ซงึ่ ขอ้ ความอนั มไิ ดม้ กี ารแจง้ (3) ละเว้นไมจ่ ดขอ้ ความซงึ่ ตนมีหนา้ ท่ตี ้องรบั จด หรอื จดเปลยี่ นแปลงข้อความเชน่ วา่ น้ัน หรอื (4) รับรองเปน็ หลกั ฐานซึ่งขอ้ เทจ็ จรงิ อันเอกสารนั้น มุ่งพิสจู นค์ วามจรงิ อนั เปน็ ความเทจ็ โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 7 ปี และปรับ ไมเ่ กิน 1 แสน 4หม่ืนบาท พนักงานไปรษณยี ์ โทรเลขหรอื โทรศพั ทก์ ระทามชิ อบ มาตรา 163 ผู้ใดเป็นเจา้ พนักงาน มหี นา้ ทีใ่ นการไปรษณยี ์ โทรเลขหรือโทรศพั ท์ กระทาการอนั มชิ อบดว้ ยหน้าท่ี ดังตอ่ ไปนี้ (1) เปดิ หรอื ยอมใหผ้ อู้ นื่ เปดิ จดหมายหรอื ส่ิงอ่ืนทส่ี ่งทางไปรษณยี ห์ รอื โทรเลข (2) ทาใหเ้ สยี หาย ทาลาย ทาใหส้ ญู หาย หรือยอมใหผ้ ู้อืน่ ทาให้เสยี หาย ทาลายหรอื ทาให้สญู หายซึง่ จดหมาย หรือส่ิงอน่ื ทีส่ ่งทางไปรษณยี ์หรอื โทรเลข (3) กกั ส่งใหผ้ ดิ ทาง หรือสง่ ใหแ้ กบ่ คุ คลซง่ึ รวู้ า่ มใิ ชเ่ ปน็ ผคู้ วรรบั ซงึ่ จดหมาย หรอื สงิ่ อื่นทส่ี ง่ ทางไปรษณีย์หรอื โทรเลข หรือ (4) เปดิ เผยขอ้ ความทส่ี ง่ ทางไปรษณยี ์ ทางโทรเลขหรอื ทางโทรศัพท์ โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกิน 5 ปี และปรบั ไมเ่ กิน 1 แสนบาทหรือทั้งจาทงั้ ปรบั 54

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 หนา้ ที่และความรบั ผดิ ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทร่ี าชการ ความรบั ผิดทางอาญา ไมถ่ ึงกบั กระทาโดยทจุ รติ (มาตรา 158 - 166) (ต่อ) กระทาใหผ้ ู้อน่ื ลว่ งรคู้ วามลบั ในราชการ มาตรา 164 ผู้ใดเปน็ เจา้ พนกั งาน รู้หรอื อาจรู้ความลบั ในราชการกระทาโดยประการใด ๆ อันมชิ อบดว้ ยหนา้ ที่ ใหผ้ ู้อ่ืน ลว่ งรคู้ วามลบั น้นั โทษ  ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 5 ปี และปรบั ไมเ่ กนิ 1 แสนบาทหรอื ท้ังจาทงั้ ปรบั ป้องกนั หรอื ขัดขวางมใิ หก้ ารเปน็ ไปตามกฎหมาย มาตรา 165 ผู้ใดเป็นเจา้ พนักงาน มหี น้าทีป่ ฏบิ ัตกิ ารให้เปน็ ไปตามกฎหมาย หรอื คาสั่ง ซ่ึงไดส้ ง่ั เพอื่ บังคบั การให้เป็นไป ตามกฎหมายปอ้ งกนั หรือขดั ขวางมใิ หก้ ารเปน็ ไปตามกฎหมายหรอื คาสงั่ น้ัน โทษ  ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกิน 1 ปี และปรบั ไมเ่ กิน 2 หมื่นบาทหรือทง้ั จาทงั้ ปรับ ละทง้ิ งานหรอื กระทาเพอื่ ใหง้ านหยดุ ชะงกั หรอื เสยี หาย มาตรา 166 ผูใ้ ดเป็นเจา้ พนักงาน ละทงิ้ งานหรอื กระทาการอยา่ งใด ๆ เพ่อื ใหง้ านหยดุ ชะงักหรอื เสียหายโดยร่วม กระทาการเช่นน้นั ดว้ ยกันตงั้ แต่ 5 คนขน้ึ ไป โทษ  ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 5 ปี และปรับ ไมเ่ กิน 1 แสนบาทหรือท้งั จาทงั้ ปรับ # ถ้าความผดิ นั้นไดก้ ระทาลงเพอ่ื ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงในกฎหมายแผน่ ดนิ เพ่ือบงั คบั รฐั บาลหรอื เพอื่ ขม่ ขปู่ ระชาชน โทษ  ต้องระวางโทษจาคกุ ไม่เกิน 10 ปี และปรับ ไม่เกิน 2 แสนบาท 55

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 เจตคตแิ ละจรยิ ธรรมสาหรบั ขา้ ราชการ พระราชบญั ญัตมิ าตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 เร่ืองทวั่ ไป 1. พระราชบญั ญตั มิ าตรฐานทางจรยิ ธรรม พ.ศ. 2562 เรม่ิ บงั คบั ใช้ 17 เมษายน พ.ศ. 2562 2. นายกรัฐมรตรีรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ 3. นยิ าม มาตรา 3 ในพระราชบัญญัติน้ี “หน่วยงานของรฐั ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม สว่ นราชการท่ีเรยี กชอ่ื อย่างอ่นื และมีฐานะเป็นกรม ราชการสว่ นท้องถน่ิ รัฐวสิ าหกิจ องคก์ ารมหาชน หรอื หนว่ ยงานอื่นของรฐั ในฝ่ายบริหาร แต่ไม่หมายความรวมถงึ หนว่ ยงานธุรการของรัฐสภา องคก์ รอสิ ระ ศาล และองค์กรอยั การ “เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ” หมายความวา่ ขา้ ราชการ พนกั งาน ลกู จ้าง หรือผ้ปู ฏิบตั งิ านอ่นื ในหน่วยงานของรฐั “องคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คล” คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื นในสถาบันอดุ มศกึ ษา คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการข้าราชการตารวจ ตามกฎหมายว่าดว้ ยระเบียบขา้ ราชการประเภทน้ัน คณะกรรมการกลางบรหิ ารงานบคุ คลของเจา้ หน้าท่ีของรัฐในฝ่ายบริหาร คณะกรรมการมาตรฐานการบรหิ ารงานบุคคลส่วนทอ้ งถิน่ ตามกฎหมายว่าด้วยระเบยี บบรหิ ารงานบุคคลสว่ นทอ้ งถิน่ “กรรมการ” หมายความวา่ กรรมการมาตรฐานทางจริยธรรม 56

ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 มาตรฐานทางจรยิ ธรรม กบั ประมวลจรยิ ธรรม มาตรฐานทางจริยธรรม (มาตรา 5) มาตรา 5 มาตรฐานทางจริยธรรม คือ หลักเกณฑ์การประพฤตปิ ฏบิ ตั อิ ย่างมคี ุณธรรมของเจา้ หนา้ ทข่ี องรัฐ ซงึ่ จะต้องประกอบด้วย (1) ยดึ มน่ั ในสถาบนั หลักของประเทศ อนั ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ และการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ (2) ซื่อสัตยส์ ุจริต มีจติ สานึกที่ดี และรับผิดชอบต่อหน้าท่ี (3) กล้าตดั สนิ ใจและกระทาในสง่ิ ทถี่ กู ตอ้ งชอบธรรม (4) คดิ ถึงประโยชนส์ ว่ นรวมมากกวา่ ประโยชน์สว่ นตวั และมีจติ สาธารณะ (5) ม่งุ ผลสมั ฤทธขิ์ องงาน (6) ปฏิบตั ิหน้าทอ่ี ย่างเป็นธรรมและไมเ่ ลอื กปฏิบตั ิ 5. (7) ดารงตนเป็นแบบอยา่ งที่ดแี ละรักษาภาพลักษณข์ องทางราชการ จา 2. 4. มงุ่ ผลสัมฤทธ์ิ 7. คิดถึงประโยชน์ 1. ซอ่ื สัตยส์ ุจริต ส่วนรวม แบบอย่างทดี่ ี ยึดม่ันในสถาบัน 3. กระทาในสง่ิ ไม่เลือกปฏบิ ัติ ท่ีถกู ตอ้ ง 6. ประมวลจริยธรรม (มาตรา 5 วรรค2, 6, 7, 20, 14) มาตรา 5 วรรคสอง ... มาตรฐานทางจรยิ ธรรมตามวรรคหนึง่ ให้ใชเ้ ปน็ หลกั สาคญั ในการจดั ทาประมวลจรยิ ธรรมของหนว่ ยงานของรฐั ทจ่ี ะกาหนด เป็นหลักเกณฑ์ในการปฏบิ ัติตนของเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั เกี่ยวกับสภาพคณุ งามความดีที่เจา้ หน้าท่ีของรัฐตอ้ งยดึ ถือสาหรับ การปฏบิ ัติงาน การตัดสินความถกู ผดิ การปฏบิ ตั ทิ ีค่ วรกระทาหรอื ไมค่ วรกระทา ตลอดจนการดารงตนในการกระทาความดี และละเวน้ ความชั่ว มาตรา 6 ใหอ้ งคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลของหนว่ ยงานของรฐั มหี นา้ ทจ่ี ดั ทาประมวลจริยธรรมสาหรบั เจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ท่อี ย่ใู นความรบั ผดิ ชอบ ในกรณที ีเ่ ป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐซ่ึงไมม่ อี งคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลทร่ี บั ผิดชอบ ให้องค์กรตอ่ ไปนี้เป็นผจู้ ดั ทา ประมวลจริยธรรม (1) คณะรัฐมนตรี สาหรบั ขา้ ราชการการเมอื ง (2) สภากลาโหม สาหรับขา้ ราชการทหารและข้าราชการพลเรอื นกลาโหม (3) สานกั งานคณะกรรมการนโยบายรัฐวสิ าหกจิ สาหรับผบู้ ริหารและพนักงานรัฐวิสาหกจิ (4) คณะกรรมการพัฒนาและสง่ เสรมิ องคก์ ารมหาชน สาหรับผบู้ รหิ าร เจ้าหนา้ ท่ี และผปู้ ฏบิ ัติงานของ องค์การ มหาชน  ในกรณที ่ีมีปญั หาว่าองค์กรใดเป็นผูจ้ ดั ทาประมวลจริยธรรมสาหรับเจ้าหน้าท่ขี องรัฐประเภทใด ให้ ก.ม.จ. เป็นผูม้ ีอานาจวินจิ ฉยั 57

ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 มาตรฐานทางจรยิ ธรรม กบั ประมวลจรยิ ธรรม ประมวลจริยธรรม (มาตรา 5 วรรค2, 6, 7, 20, 14) มาตรา 7 เพื่อให้การจดั ทาประมวลจรยิ ธรรมในภาครัฐมมี าตรฐานทางจรยิ ธรรมในระดับเดียวกัน ในการจัดทาประมวล จรยิ ธรรมขององคก์ รกลางบริหารงานบุคคลของศาลหรอื องคก์ รอยั การ องค์กรกลางบรหิ ารงานบคุ คลของหนว่ ยงาน ธรุ การของรฐั สภาและองคก์ รอสิ ระ ให้นามาตรฐานทางจรยิ ธรรมตามมาตรา 5 ไปใชป้ ระกอบการพิจารณาจดั ทาประมวล จรยิ ธรรมของเจ้าหนา้ ที่ของรัฐที่อยู่ในความรบั ผดิ ชอบด้วย มาตรา 20 ใหอ้ งคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คลแตล่ ะประเภทและองคก์ รตามมาตรา 6 วรรคสอง มหี นา้ ทก่ี ากบั ดแู ลการ ดาเนนิ กระบวนการรกั ษาจรยิ ธรรม และการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรม รวมทง้ั ให้ มหี น้าท่ีและอานาจจดั หลักสตู รการฝกึ อบรม การเผยแพรค่ วามเข้าใจ ตลอดจนการกาหนดมาตรการจงู ใจเพ่อื พฒั นา และส่งเสริมใหเ้ จ้าหนา้ ท่ี ของรัฐในหนว่ ยงานของรฐั มีพฤตกิ รรมทางจรยิ ธรรมเป็นแบบอยา่ งที่ดี และมาตรการทใ่ี ช้บังคบั แก่เจ้าหน้าทขี่ องรฐั ใน หนว่ ยงานของรัฐซงึ่ มพี ฤตกิ รรมท่ีเปน็ การฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไมป่ ฏบิ ัตติ าม ประมวลจริยธรรม โดยอาจ กาหนดมาตรการเพือ่ ใชใ้ นการบรหิ ารงานบคุ คลตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบขา้ ราชการประเภทนนั้ มาตรา 14 เพ่อื ให้การดาเนินการจดั ทาประมวลจรยิ ธรรมและขอ้ กาหนดจริยธรรมตามมาตรา 6 เปน็ ไปดว้ ย ความเรียบ -ร้อยและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานทางจริยธรรม และเพ่อื ประโยชน์ในการดาเนนิ การตามหนา้ ที่และอานาจ ตามมาตรา 13 ให้ ก.ม.จ. มอี านาจกาหนดหลกั เกณฑเ์ ปน็ ระเบยี บ คมู่ ือ หรือแนวทางปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหอ้ งคก์ รกลางบรหิ ารงานบคุ คล องค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง และหนว่ ยงานของรฐั ใชเ้ ปน็ หลกั เกณฑส์ าหรบั การจดั ทาประมวลจรยิ ธรรมและขอ้ กาหนด จริยธรรม รวมทั้งการกาหนดกระบวนการรกั ษาจริยธรรมของเจา้ หนา้ ทขี่ องรฐั ในการนี้ ให้ ก.ม.จ. มีหน้าทีใ่ หค้ าแนะนาแก่ องค์กรกลางบรหิ ารงานบคุ คล องค์กรตามมาตรา 6 วรรคสอง และหนว่ ยงาน ของรัฐในการปฏบิ ตั ติ ามพระราชบญั ญตั นิ ้ี ก.ม.จ.  มีอานาจกาหนดหลักเกณฑเ์ ป็นระเบียบ คู่มือ  แนวทางปฏบิ ัตเิ พือ่ ให้องคก์ รกลาง บริหารงานบุคคลองคก์ ร  หน่วยงานของรัฐใชเ้ ปน็ หลกั เกณฑ์สาหรบั การจดั ทาประมวลจรยิ ธรรม คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม (ก.ม.จ.) องค์ประกอบ (มาตรา 8) ตารางหน้าถัดไปจา้ >_< มาตรา 8 ให้มีคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมคณะหน่งึ เรียกโดยย่อว่า “ก.ม.จ.” ประกอบดว้ ย (1) นายกรฐั มนตรีหรอื รองนายกรฐั มนตรีซงึ่ นายกรฐั มนตรีมอบหมายเปน็ ประธานกรรมการ (2) ผ้แู ทนคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนท่ีได้รับมอบหมาย เปน็ รองประธานกรรมการ (3) กรรมการโดยตาแหนง่ จานวนหา้ คน ได้แก่ ผ้แู ทนที่ได้รบั มอบหมายจากคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน ในสถาบันอุดมศกึ ษา คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา คณะกรรมการข้าราชการ ตารวจ คณะกรรมการมาตรฐานการบรหิ ารงานบคุ คลสว่ นทอ้ งถนิ่ และสภากลาโหม อย่างละหนง่ึ คน (4) กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิซง่ึ นายกรฐั มนตรแี ตง่ ตงั้ จานวนไมเ่ กนิ หา้ คนเปน็ กรรมการ ใหเ้ ลขาธกิ าร ก.พ. เป็นกรรมการและเลขานกุ าร และใหเ้ ลขาธิการ ก.พ. แตง่ ตงั้ ข้าราชการในสานักงาน ก.พ. เป็นผู้ชว่ ยเลขานุการได้ตามความจาเปน็ 58

ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม (ก.ม.จ.) องคป์ ระกอบ ก.ม.จ. (มาตรา 8) ตาราง ใคร ตาแหนง่ จานวน ประธานกรรมการ 1 คน นายกรฐั มนตรหี รอื รองนายกรฐั มนตรี รองประธานกรรมการ 1 คน ซึ่งนายกรฐั มนตรมี อบหมาย กรรมการโดยตาแหนง่ (อยา่ งละ 1 คน) ผูแ้ ทนคณะกรรมการข้าราชการ 5 คน พลเรอื นทไ่ี ด้รบั มอบหมาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการและเลขานกุ าร ไม่เกิน 5 คน แทนที่ไดร้ บั มอบหมายจาก 1 คน - คณะกรรมการข้าราชการพลเรอื น ในสถาบนั อดุ มศกึ ษา - คณะกรรมการขา้ ราชการครูและ บคุ ลากรทางการศกึ ษา - คณะกรรมการขา้ ราชการตารวจ - คณะกรรมการมาตรฐานการ บริหารงานบุคคลส่วนท้องถ่ิน - สภากลาโหม ผทู้ รงคณุ วุฒิ ซึง่ นายกรัฐมนตรแี ต่งตั้ง เลขาธกิ าร ก.พ. ใหเ้ ลขาธกิ าร ก.พ. แตง่ ตัง้ ขา้ ราชการในสานกั งาน ก.พ. เป็นผู้ช่วยเลขานกุ ารได้ตามความจาเป็น 59

ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 คณะกรรมการมาตรฐานทางจรยิ ธรรม (ก.ม.จ.) ผู้ทรงคณุ วุฒิ (มาตรา 9 - 10) มาตรา 9 กรรมการผู้ทรงคณุ วฒุ ิต้องมคี วามร้คู วามสามารถ หรือประสบการณ์ดา้ นการสง่ เสรมิ จรยิ ธรรม ดา้ นกฎหมาย ดา้ นการบรหิ ารงานบคุ คล ดา้ นการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์ หรือด้านอื่นใดอนั จะเป็นประโยชนแ์ ก่การปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี อง ก.ม.จ. โดยมผี ลงานเปน็ ทีป่ ระจักษ์ และต้องมีคุณสมบตั ิและไมม่ ีลักษณะต้องหา้ ม ดังตอ่ ไปนี้ (1) มสี ญั ชาติไทย (2) มอี ายุไม่ตา่ กวา่ 45 ปี (3) ไมเ่ ปน็ บุคคลลม้ ละลายหรือเคยเป็นบคุ คลล้มละลายทุจรติ (4) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรอื คนเสมือนไรค้ วามสามารถ (5) ไมเ่ คยได้รบั โทษจาคกุ โดยคาพพิ ากษาถึงท่ีสุดให้จาคกุ เวน้ แต่เปน็ โทษสาหรับความผดิ ทไ่ี ดก้ ระทาโดย ประมาท (6) ไมเ่ ป็นผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมือง สมาชิกสภาทอ้ งถ่ินหรอื ผ้บู ริหารท้องถิ่น กรรมการหรอื ผซู้ ึ่งดารงตาแหน่งซ่งึ รับผิดชอบการบริหารพรรคการเมือง ท่ีปรกึ ษาพรรคการเมืองหรอื เจ้าหนา้ ทพ่ี รรคการเมือง (7) ไม่เคยถกู ลงโทษทางวินยั หรอื ใหอ้ อก ปลดออก หรอื ไลอ่ อกจากราชการ รฐั วิสาหกิจ หรอื หน่วยงานของรัฐ (8) ไม่เคยต้องคาพิพากษาหรือคาส่งั ของศาลอนั ถึงทีส่ ดุ ให้ทรัพยส์ นิ ตกเปน็ ของแผ่นดินเพราะรา่ รวยผดิ ปกติ (9) ไม่เคยต้องคาพิพากษาอันถึงทสี่ ุดวา่ กระทาความผดิ ต่อตาแหน่งหน้าทร่ี าชการหรอื ต่อตาแหนง่ หน้าท่ใี นการ ยุตธิ รรม หรอื กระทาความผดิ ตามกฎหมายว่าด้วยความผดิ ของพนักงานในองคก์ ารหรือหนว่ ยงานของรฐั (10) ไม่อยูใ่ นระหว่างต้องห้ามมิให้ดารงตาแหนง่ ทางการเมือง (11) ไม่เคยพน้ จากตาแหนง่ เพราะศาลฎกี าหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผดู้ ารงตาแหน่งทางการเมืองมคี าพพิ ากษา วา่ ฝ่าฝืนหรอื ไม่ปฏิบตั ติ ามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างรา้ ยแรง มาตรา 11 นอกจากการพน้ จากตาแหนง่ ตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตาแหน่ง เม่ือ ..... (1) ตาย 1 (2) ลาออก (3) ขาดคุณสมบตั ิหรือมีลกั ษณะต้องหา้ มตามมาตรา 9 ตาย (4) ก.ม.จ. มีมตใิ หอ้ อกจากตาแหนง่ ดว้ ยคะแนนเสยี งไม่ นอ้ ยกวา่ กงึ่ หนง่ึ ของจานวนกรรมการเทา่ ทมี่ อี ยู่ เพราะบกพรอ่ งตอ่ หนา้ ท่ี มีความประพฤตเิ สอ่ื มเสยี หรอื หยอ่ นความสามารถ 3 ลาออก 4ก.ม.จ.ใหอ้ อก บกพร่อง ขาด 2 เส่ือมเสยี คุณสมบัติ หย่อนความสามารถ 60

ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 องคก์ ร ใหส้ านกั งาน ก.พ. มีหนา้ ทปี่ ฏบิ ตั งิ านธรุ การ งานประชมุ งานวชิ าการ การศกึ ษาหาขอ้ มลู และกจิ การตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งใหแ้ ก่ ก.ม.จ. คณะอนุกรรมการหรอื คณะทางานท่แี ตง่ ตงั้ โดย ก.ม.จ. รวมทง้ั ใหม้ หี น้าทแ่ี ละอานาจอืน่ ตามทกี่ าหนดในพระราชบัญญัตินี้ อานาจหนา้ ที่ ก.ม.จ. มาตรา 13 ก.ม.จ. มหี นา้ ท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปน้ี (1) เสนอแนะและใหค้ าปรกึ ษาเกย่ี วกบั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ดา้ นมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจรยิ ธรรมภาครฐั ต่อคณะรฐั มนตรี (2) กาหนดแนวทางหรือมาตรการในการขบั เคลอื่ น การดาเนนิ กระบวนการรกั ษาจรยิ ธรรม รวมทงั้ กลไก และการบังคบั ใช้ ประมวลจริยธรรมสาหรบั เจ้าหน้าท่ีของรฐั เพ่ือให้องคก์ รกลางบรหิ ารงานบุคคล องคก์ รตามมาตรา 6 วรรคสอง หรอื ผบู้ ังคับบัญชานาไปใช้ในกระบวนการบรหิ ารงานบุคคลอยา่ งเปน็ รปู ธรรม (3) กาหนดแนวทางในการสง่ เสรมิ และพฒั นาเพอื่ เสรมิ สรา้ งประสทิ ธภิ าพใหเ้ จา้ หนา้ ทข่ี องรฐั มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั มาตรฐานทางจรยิ ธรรมและยดึ ถอื แนวทางปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรม รวมทง้ั เสนอแนะมาตรการในการเพม่ิ พูลประสิทธิภาพ และเสรมิ สร้างแรงจูงใจในการปฏิบัตติ ามประมวลจรยิ ธรรมแก่หน่วยงานของรัฐตอ่ คณะรัฐมนตรี (4) กากบั ติดตาม และประเมนิ ผลการดาเนนิ การตามมาตรฐานทางจรยิ ธรรม โดยอยา่ งนอ้ ยต้องให้หนว่ ยงานของรฐั จัดให้มี การประเมินความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั มาตรฐานทางจริยธรรม และใหม้ กี ารประเมินพฤตกิ รรมทางจรยิ ธรรมสาหรบั เจ้าหน้าท่ขี องรฐั ในหน่วยงานนั้น (5) ตรวจสอบรายงานประจาปขี องหนว่ ยงานของรฐั ตามมาตรา 19 (3) และรายงานสรปุ ผลการดาเนนิ งานดงั กล่าวเสนอ ต่อคณะรฐั มนตรีเพอื่ ทราบอย่างนอ้ ยปลี ะหนง่ึ ครั้ง (6) ตคี วามและวนิ จิ ฉยั ปญั หาทเี่ กดิ จากการใชบ้ งั คบั พระราชบญั ญตั นิ ี้ (7) ปฏบิ ัติหน้าท่อี น่ื ตามทบี่ ัญญัติไวใ้ นพระราชบญั ญตั นิ ้หี รอื ตามทคี่ ณะรฐั มนตรีมอบหมาย ## การประเมินผลตาม (4) ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่ี ก.ม.จ. กาหนด โดยอาจจัดให้มีองค์กร ภายนอกเข้าร่วม การประเมินผลดว้ ยก็ได้ การทบทวน มาตรา 15 ให้ ก.ม.จ. จัดให้มกี ารทบทวนมาตรฐานทางจรยิ ธรรมตามมาตรา 5 ทุก 5 ปี หรือในกรณีทีม่ คี วามจาเป็น หรอื สถานการณ์เปลย่ี นแปลงไป ก.ม.จ. จะพจิ ารณาทบทวนในรอบระยะเวลาท่เี ร็วกว่านน้ั ก็ไดโ้ ดยในการดาเนนิ การ ดงั กล่าวให้เชิญผ้แู ทนจากองค์กรกลางบริหารงานบคุ คลและองคก์ รตามมาตรา 6 วรรคสอง มาหารอื รว่ มกันด้วย 61

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 การทบทวน หน่วยงานของรัฐในการดาเนินการรักษาจริยธรรม (มาตรา 19) มาตรา 19 เพือ่ ประโยชน์ในการรกั ษาจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรฐั ให้หน่วยงานของรฐั ดาเนินการ ดังต่อไปน้ี (1) กาหนดใหม้ ผี รู้ บั ผดิ ชอบเกยี่ วกบั การรกั ษาจรยิ ธรรมประจาหนว่ ยงานของรฐั ในการน้ี อาจมอบหมายใหส้ ่วนงานทีม่ หี นา้ ที่ และภารกิจในด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล หรือที่เกยี่ วกับการบริหารงานบคุ คล หรอื คณะกรรมการและกล่มุ งานจรยิ ธรรม ประจาหนว่ ยงานของรัฐท่มี ีอย่แู ล้วเป็นผูร้ ับผดิ ชอบกไ็ ด้ (2) ดาเนนิ กจิ กรรมการส่งเสรมิ สนับสนนุ ให้ความรู้ ฝกึ อบรม และพฒั นาเจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ในหนว่ ยงานของรฐั และจัดใหม้ ี มาตรการและกลไกที่มีประสทิ ธิภาพเพ่ือเสรมิ สร้างให้มกี ารปฏิบัตติ ามประมวลจริยธรรม รวมท้ัง กาหนดกลไกในการสง่ เสริม ใหป้ ระชาชนมีส่วนรว่ มในการตรวจสอบพฤตกิ รรมของเจา้ หน้าท่ขี องรัฐ ตลอดจนสรา้ งเครือขา่ ยและประสานความรว่ มมือ ระหว่างหนว่ ยงานของรฐั และภาคเอกชน (3) ทกุ สน้ิ ปงี บประมาณ ให้จดั ทารายงานประจาปตี ามหลกั เกณฑท์ ี่ ก.ม.จ. กาหนดเสนอตอ่ ก.ม.จ. โดย ใหห้ นว่ ยงานของรฐั เสนอรายงานประจาปผี า่ นองคก์ รกลางบริหารงานบคุ คลหรอื องคก์ รตามมาตรา 6 วรรคสอง แลว้ แต่กรณี เพ่อื ประเมนิ ผล ในภาพรวมของหน่วยงานของรฐั เสนอตอ่ ก.ม.จ. ด้วย ใหจ้ ัดทารายงานประจาปีตามหลกั เกณฑท์ ่ี ก.ม.จ. กาหนด เสนอต่อ ก.ม.จ. ทกุ สิน้ ปีงบประมาณ ให้หนว่ ยงานของรฐั เสนอรายงานประจาปี ก.ม.จ. เสนอตอ่  เพอ่ื ประเมินผล องค์กรกลางบริหารงานบุคคล ในภาพรวมของหนว่ ยงานของรฐั หรอื องคก์ รตามมาตรา 6 62

ติวเข้มหลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 เจตคตแิ ละจรยิ ธรรมสาหรบั ขา้ ราชการ ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น 1 เรอื่ งทว่ั ไป 1. ประมวลจรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื นนี้ให้ใช้บงั คับต้งั แต่วันครบเกา้ สบิ วนั นบั แต่วนั ประกาศในราช กจิ จานเุ บกษา เรมิ่ บงั คบั ใช้ 3 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2553 2. นิยาม ขอ้ 2 ในประมวลจรยิ ธรรมข้าราชการพลเรอื นนี้ “ขา้ ราชการ” หมายความว่า ขา้ ราชการพลเรือน พนักงานราชการ และลูกจา้ งในสังกดั ราชการพลเรอื น “หัวหนา้ สว่ นราชการ” หมายความรวมถงึ ผู้ว่าราชการจงั หวัดในกรณที ีเ่ ปน็ ข้าราชการสว่ นภมู ภิ าค “คณะกรรมการจรยิ ธรรม” หมายความว่า คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจาสว่ นราชการ “ของขวญั ” หมายความว่า ของขวญั ตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนญู ว่าดว้ ยการปอ้ งกัน และปราบปรามการทจุ รติ หรือกฎหมายเกี่ยวกบั การขัดกนั ระหวา่ งประโยชนส์ ่วนบคุ คลและประโยชนส์ ่วนรวม 2 คา่ นยิ มหลกั ของมาตรฐานจรยิ ธรรมของสานกั งานผตู้ รวจการแผน่ ดนิ 9 ประการ (1) การยดึ มน่ั ในคุณธรรมและจรยิ ธรรม (2) การมีจติ สานกึ ที่ดี ซ่อื สัตย์สุจรติ และรับผิดชอบ (3) การยดึ ถอื ประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มผี ลประโยชน์ทบั ซอ้ น (4) การยืนหยัดทาในสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ งเปน็ ธรรม และถกู กฎหมาย (5) การให้บริการแกป่ ระชาชนดว้ ยความรวดเรว็ มีอัธยาศยั และไม่เลอื กปฏิบัติ (6) การให้ขอ้ มลู ขา่ วสารแกป่ ระชาชนอย่างครบถ้วนถูกต้อง และไมบ่ ิดเบอื นขอ้ เทจ็ จริง (7) การมุ่งผลสัมฤทธ์ขิ องงานรกั ษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปร่งใส และตรวจสอบได้ (8) การยึดมน่ั ในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเปน็ ประมุข (9) การยึดม่ันในหลกั จรรยาวิชาชพี ขององคก์ ร 63

ติวเข้มหลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 3 จรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น 10 ประการ 1. ตอ้ งยดึ ม่นั ในจรยิ ธรรมและยืนหยัดกระทาในสงิ่ ท่ถี กู ตอ้ งและเป็นธรรม 2. ตอ้ งมจี ติ สานกึ ทดี่ แี ละความรบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ท่ี เสยี สละปฏบิ ตั ิหน้าที่ด้วยความรวดเรว็ โปรง่ ใส และสามารถตรวจสอบได้ 3. ตอ้ งแยกเรอ่ื งสว่ นตวั ออกจากตาแหนง่ หนา้ ท่ี และยดึ ถือประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศชาติเหนอื กว่าประโยชน์ส่วนตน 4. ต้องละเวน้ จากการแสวงประโยชนท์ มี่ ชิ อบ โดยอาศยั ตาแหนง่ หนา้ ทแี่ ละไม่กระทาการอันเปน็ การขดั กนั ระหวา่ งประโยชน์ส่วนตน และประโยชน์ส่วนรวม 5. ต้องเคารพและปฏบิ ตั ติ ามรฐั ธรรมนญู และกฎหมายอยา่ งตรงไปตรงมา 6. ตอ้ งปฏิบตั หิ นา้ ทดี่ ว้ ยความเทยี่ งธรรม เป็นกลางทางการเมอื ง ให้บริการแก่ประชาชนโดยมอี ธั ยาศยั ทดี่ ี และไมเ่ ลอื กปฏบิ ัติโดยไม่เปน็ ธรรม 7. ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎหมายวา่ ดว้ ยขอ้ มลู ขา่ วสารของทางราชการอยา่ งเครง่ ครดั และรวดเร็วไมถ่ ว่ งเวลา ใหเ้ นน่ิ ชา้ และใชข้ ้อมูลขา่ วสาร ท่ไี ดม้ าจากการดาเนินงานเพอื่ การในหนา้ ทแี่ ละใหข้ อ้ มลู ข่าวสารแกป่ ระชาชนอยา่ งครบถ้วน ถกู ต้อง ทนั การณ์ และไม่บดิ เบอื น ขอ้ เทจ็ จริง 8. ตอ้ งมุง่ ผลสมั ฤทธข์ิ องงาน รกั ษาคณุ ภาพและมาตรฐานแห่งวิชาชพี โดยเคร่งครัด 9. ตอ้ งยึดมน่ั ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข 10. ต้องเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ใี นการดารงตน รักษาชอื่ เสียงและภาพลกั ษณ์ของราชการโดยรวม รายละเอยี ด 1. ต้องยึดมั่นในจริยธรรมและยืนหยัดกระทาในสิ่งท่ีถกู ตอ้ งและเปน็ ธรรม (1) ปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมอยา่ งตรงไปตรงมา และไมก่ ระทาการเลยี่ งประมวลจรยิ ธรรมน้ี (2) เม่อื รูห้ รือพบเห็นการฝา่ ฝนื ประมวลจรยิ ธรรมน้ี ขา้ ราชการมหี นา้ ที่ต้องรายงานการฝา่ ฝนื ดังกลา่ วพรอ้ มพยานหลกั ฐาน (หากม)ี ต่อหัวหนา้ ส่วนราชการและหรือคณะกรรมการจรยิ ธรรม (3) ต้องรายงานการดารงตาแหน่งท้งั ที่ไดร้ บั คา่ ตอบแทนและไมไ่ ดร้ ับคา่ ตอบแทนในนิติบคุ คลซงึ่ มิใช่ส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ องค์การมหาชน ราชการส่วนท้องถิ่น หน่วยงานอ่นื ของรฐั และกิจการที่รฐั ถือห้นุ ใหญ่ ต่อหัวหนา้ ส่วนราชการ และคณะกรรมการจริยธรรม 2. ตอ้ งมจี ิตสานึกทีด่ แี ละความรบั ผิดชอบต่อหน้าท่ี เสียสละ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีดว้ ยความรวดเรว็ โปร่งใสและ สามารถตรวจสอบได้ (1) อุทศิ ตนใหก้ บั การปฏบิ ตั งิ านในหนา้ ท่ี (2) ละเวน้ จากการกระทาท้ังปวงทีจ่ ะก่อใหเ้ กดิ ความเสียหายต่อตาแหนง่ หนา้ ทขี่ องตนหรือของขา้ ราชการอืน่ ไมก่ า้ วกา่ ยหรอื แทรกแซงการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องขา้ ราชการอน่ื โดยมชิ อบ (3) ใชด้ ุลพนิ จิ และตดั สินใจในการปฏิบตั ิหน้าทดี่ ้วยความรู้ ความสามารถ เยยี่ งทป่ี ฏิบัตใิ นวชิ าชีพตรงไปตรงมาปราศจากอคตสิ ว่ นตน (4) เมอ่ื เกดิ ความผดิ พลาดขน้ึ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ต้องรบี แกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ ง (5) ไมข่ ดั ขวางการตรวจสอบของหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีตรวจสอบตามกฎหมายหรอื ประชาชน (6) ไม่ส่ังราชการดว้ ยวาจาในเรื่องที่อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายแกร่ าชการ 64

ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมคั รติว ID 0951800066 3 จริยธรรมขา้ ราชการพลเรอื น 10 ประการ รายละเอียด (ตอ่ ) 3. ต้องแยกเร่อื งส่วนตวั ออกจากตาแหนง่ หนา้ ที่ และยดึ ถอื ประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศชาตเิ หนือกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน (1) ไม่นาความสมั พนั ธส์ ว่ นตวั ที่ตนมีตอ่ บคุ คลอ่นื มาประกอบการใช้ดุลพินิจใหเ้ ป็นคณุ หรือเป็นโทษแก่ บุคคลนนั้ (2) ไมใ่ ชเ้ วลาราชการ เงิน ทรพั ย์สนิ บคุ ลากร บริการ เพือ่ ประโยชนส์ ว่ นตัวของตนเองหรอื ผอู้ น่ื (3) ไมก่ ระทาการใด ซ่งึ กอ่ ให้เกดิ ความเคลอื บแคลงหรอื สงสยั วา่ จะขดั กบั ประโยชนส์ ว่ นรวม (4) ในการปฏบิ ัตหิ น้าท่ีที่ ขา้ ราชการตอ้ งยดึ ถอื ประโยชนข์ องทางราชการเปน็ หลกั 4. ตอ้ งละเว้นจากการแสวงประโยชน์ทมี่ ชิ อบ โดยอาศัยตาแหนง่ หน้าทแี่ ละไม่กระทาการอันเป็นการขัดกนั ระหว่างประโยชน์ ส่วนตนและประโยชนส์ ่วนรวม (1) ไม่เรียกรบั หรือยอมจะรบั หรอื ยอมใหผ้ ู้อน่ื เรียกรับ หรอื ยอมจะรับซงึ่ ของขวญั (2) ไม่ใชต้ าแหนง่ หรอื กระทาการที่เปน็ คุณ หรือเปน็ โทษแกบ่ คุ คลใด เพราะมีอคติ (3) ไม่เสนอ หรืออนมุ ตั โิ ครงการ การดาเนินการ หรอื การทานติ กิ รรมหรือสญั ญา ซงึ่ ตนเองหรือบคุ คลอนื่ จะ ไดป้ ระโยชนอ์ ันมคิ วร ได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรอื ประมวลจรยิ ธรรมนี้ 5. ตอ้ งเคารพและปฏิบตั ิตามรฐั ธรรมนญู และกฎหมายอย่างตรงไปตรงมา (1) ไม่ละเมดิ รฐั ธรรมนญู กฎหมาย กฎ ขอ้ บงั คบั หรอื มตคิ ณะรฐั มนตรที ชี่ อบดว้ ยกฎหมาย (2) ในกรณีที่เหน็ ว่าคาสง่ั ผบู้ งั คบั บญั ชา ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนญู ต้องทักท้วงเปน็ ลายลักษณ์อักษรไว้ (3) ในกรณที เี่ หน็ วา่ มตคิ ณะรฐั มนตรไี มช่ อบดว้ ยกฎหมาย ตอ้ งทาเรอ่ื งเสนอให้หวั หนา้ สว่ นราชการพิจารณา และส่งเรื่องให้สานัก เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี (4) ไมเ่ ลยี่ งกฎหมาย ใชห้ รือแนะนาใหใ้ ช้ชอ่ งว่างของกฎหมายที่อยใู่ นความรบั ผิดชอบของตนเพือ่ ประโยชน์ของตนเองหรือผู้อืน่ (5) ไมย่ อมใหบ้ คุ คลอนื่ อาศยั ชอ่ื ตนเองถอื ครองทรพั ยส์ นิ สิทธิ หรือประโยชนอ์ ื่นใดแทนบุคคลอืน่ อนั เป็นการเลีย่ งกฎหมาย (6) เม่ือทราบวา่ มีการละเมดิ หรอื ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายในส่วนราชการของตน หัวหน้าส่วนราชการตอ้ งดาเนนิ การทจ่ี าเปน็ เพ่อื ใหเ้ กดิ การเคารพกฎหมายขึน้ โดยเร็ว (7) เม่ือไดร้ บั คารอ้ ง หรือคาแนะนาจากผตู้ รวจการแผน่ ดนิ หรือหน่วยงานอ่นื วา่ กฎหมาย กฎ หรือ ข้อบังคับ ท่ีอยูใ่ นความ รับผิดชอบของสว่ นราชการของตน สร้างภาระเกินสมควรแกป่ ระชาชน หรอื สรา้ งความไมเ่ ป็นธรรมใหเ้ กดิ ข้ึน ต้องดาเนินการ ทบทวนกฎหมาย กฎ หรอื ขอ้ บังคับดังกลา่ วโดยเร็ว 6. ตอ้ งปฏิบตั หิ น้าท่ีดว้ ยความเทยี่ งธรรม เปน็ กลางทางการเมืองให้บรกิ ารแก่ประชาชนโดยมีอัธยาศัยที่ดี และไมเ่ ลือกปฏบิ ตั ิ โดยไมเ่ ปน็ ธรรม (1) ปฏิบตั หิ นา้ ทใ่ี หล้ ลุ ว่ ง โดยไมห่ ลกี เลยี่ ง ละเลย หรอื ละเวน้ การใชอ้ านาจเกนิ กวา่ ทมี่ อี ยตู่ ามกฎหมาย (2) ปฏิบตั หิ นา้ ที่ หรอื ดาเนนิ การอืน่ โดยคานงึ ถงึ ศกั ดศ์ิ รคี วามเปน็ มนษุ ยแ์ ละสทิ ธเิ สรภี าพของบคุ คล (3) ให้บรกิ ารและอานวยความสะดวกแกป่ ระชาชนโดยมอี ธั ยาศยั ทด่ี ี (4) ละเวน้ การใหส้ มั ภาษณก์ ารอภิปราย การแสดงปาฐกถา การบรรยาย หรอื การวพิ ากษว์ จิ ารณ์อันกระทบตอ่ ความเป็นกลาง ทางการเมอื ง เว้นแตเ่ ปน็ การแสดงความเหน็ ทางวิชาการตามหลักวิชา (5) ไมเ่ ออื้ ประโยชนเ์ ปน็ พเิ ศษใหแ้ กญ่ าตพิ น่ี อ้ ง พรรคพวกเพอื่ นฝงู หรือผูม้ ีบญุ คณุ และต้องปฏบิ ตั หิ น้าที่ ดว้ ยความเท่ียงธรรมไม่เห็น แกห่ น้าผใู้ ด (6) ไม่ลอกหรือนาผลงานของผอู้ น่ื มาใชเ้ ปน็ ของตนเองโดยมไิ ดร้ ะบแุ หลง่ ทมี่ า 65

ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 3 จรยิ ธรรมขา้ ราชการพลเรอื น 10 ประการ รายละเอยี ด (ต่อ) 7. ตอ้ งปฏิบตั ิตามกฎหมายวา่ ดว้ ยข้อมลู ข่าวสารของทางราชการอย่างเครง่ ครัด และรวดเร็ว ไม่ถ่วงเวลาใหเ้ นิน่ ชา้ และใช้ขอ้ มลู ขา่ วสารทไ่ี ด้มาจากการดาเนนิ งานเพ่อื การในหน้าท่แี ละใหข้ อ้ มลู ข่าวสารแก่ประชาชนอยา่ งครบถว้ น ถกู ตอ้ ง ทนั การณ์ และไม่บิดเบือนขอ้ เทจ็ จรงิ (1) ไมใ่ ช้ขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าจากการดาเนนิ งานไปเพอื่ การอืน่ อนั ไม่ใชก่ ารปฏบิ ตั หิ น้าที่โดยเฉพาะอย่างย่ิง เพอ่ื เอือ้ ประโยชน์แก่ตนเองหรือ บุคคลอ่นื (2) ชีแ้ จง แสดงเหตผุ ลที่แทจ้ ริงอยา่ งครบถ้วนในกรณที ีก่ ระทาการอันกระทบต่อสทิ ธแิ ละเสรภี าพบุคคลอ่ืน 8. ต้องมุง่ ผลสมั ฤทธ์ิของงาน รกั ษาคุณภาพและมาตรฐานแห่งวชิ าชีพโดยเครง่ ครดั (1) ปฏิบตั งิ านโดยมงุ่ ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของงานให้เกดิ ผลดที ่ีสดุ จนเต็มกาลังความสามารถ (2) ใช้งบประมาณ ทรัพย์สนิ สิทธแิ ละประโยชนท์ ท่ี างราชการจัดให้ ดว้ ยความประหยดั ค้มุ คา่ ไมฟ่ ่มุ เฟอื ย (3) ใช้ความรคู้ วามสามารถ ความระมดั ระวงั ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทต่ี ามคณุ ภาพและมาตรฐานวชิ าชพี โดยเครง่ ครดั 9. ตอ้ งยึดมนั่ ในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข (1) ไม่แสดงการตอ่ ตา้ นการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ หรือ สนบั สนุนใหน้ าการปกครองใน ระบอบอ่ืนทไี่ ม่มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ มาใชใ้ นประเทศไทย (2) จงรักภกั ดตี อ่ พระมหากษตั รยิ ์ และไมล่ ะเมดิ องคพ์ ระมหากษตั รยิ ์ พระราชนิ ี และพระรชั ทายาทไมว่ า่ ทางกาย หรือทางวาจา 10. ต้องเปน็ แบบอย่างทดี่ ีในการดารงตน รกั ษาชือ่ เสียงและภาพลกั ษณ์ของราชการโดยรวม (1) ไม่ละเมดิ หลกั สาคญั ทางศลี ธรรม ศาสนา และประเพณี (2) หวั หนา้ ส่วนราชการและผบู้ งั คบั บญั ชาในส่วนราชการทุกระดบั ชนั้ ตอ้ งปกครองผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาดว้ ย ความเทยี่ งธรรม (3) หัวหน้าสว่ นราชการและผู้บงั คับบัญชาในสว่ นราชการทกุ ระดับชน้ั ตอ้ งสนบั สนนุ สง่ เสรมิ และยกยอ่ งผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาทีม่ ีความ ซือ่ สตั ย์ มผี ลงานดเี ดน่ มคี วามรูค้ วามสามารถ และขยนั ขนั แขง็ ไม่เลือกที่รักมกั ท่ีชัง และยึดมน่ั ในระบบคณุ ธรรม (4) ไมก่ ระทาการใดอนั อาจนาความเสอ่ื มเสยี และไมไ่ ว้วางใจใหเ้ กดิ แกส่ ว่ นราชการ หรือราชการโดยรวม 4 ถ้าฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม ขอ้ 18 การฝา่ ฝืนจริยธรรมตามความในหมวด 2 ของประมวลจริยธรรมนเ้ี ป็นความผดิ วินยั ตาม - กฎหมายวา่ ด้วยพระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการพลเรอื น พ.ศ. 2551 - ระเบยี บสานกั นายกรฐั มนตรวี า่ ดว้ ยพนกั งานราชการ พ.ศ. 2547 - หรือระเบยี บกระทรวงการคลังวา่ ดว้ ยลกู จ้างประจาของสว่ นราชการ พ.ศ. 2537 แล้วแต่กรณี ข้อ 19 เมื่อมีกรณกี ารฝ่าฝนื จริยธรรม ผู้บังคบั บัญชาอาจสง่ั ลงโทษ ทางวนิ ัย วา่ กลา่ วตกั เตือน ทาทัณฑ์ บนเปน็ หนงั สอื หรือสั่งให้ไดร้ บั การพฒั นาตามท่เี หน็ สมควร 66

ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 5 องคก์ รคมุ้ ครองจรยิ ธรรม องค์กรค้มุ ครองจริยธรรม - ก.พ. ข้อ 13 ก.พ. มีหน้าทค่ี วบคุมกากับให้มกี ารปฏบิ ัติตามประมวลจรยิ ธรรมอย่างท่ัวถงึ และจริงจงั โดยมีอานาจหน้าที่ ดังน้ี (1) วางระเบยี บเพอ่ื กาหนดการทง้ั หลายอนั จาเปน็ แกก่ ารใชบ้ งั คบั ประมวลจรยิ ธรรม (2) คุม้ ครองและประกนั ความเปน็ อสิ ระและเทยี่ งธรรมของคณะกรรมการจรยิ ธรรมและกลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรม (3) คุ้มครองขา้ ราชการซง่ึ ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนอี้ ยา่ งตรงไปตรงมามใิ หผ้ บู้ งั คบั บญั ชาใชอ้ านาจ โดยไมเ่ ปน็ ธรรม ต่อขา้ ราชการผนู้ นั้ (4) เผยแพรแ่ ละปลูกฝังจรยิ ธรรมใหเ้ ป็นทร่ี ับทราบอย่างกว้างขวางท้ังในหมู่ขา้ ราชการและประชาชน (5) ส่งเสรมิ และยกย่องสว่ นราชการ หวั หน้าสว่ นราชการ ผู้บังคบั บัญชา และข้าราชการที่ปฏบิ ัติตามประมวลจรยิ ธรรม อยา่ งจรงิ จงั (6) ติดตาม สอดส่องการใชบ้ ังคบั และการปฏบิ ตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมน้ี ในกรณีมีการฝา่ ฝืนจริยธรรมและยงั ไมม่ ีการ ดาเนินการใด ก.พ. อาจมีมตใิ ห้หวั หน้าสว่ นราชการของข้าราชการผูฝ้ ่าฝืนปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมได้ (7) ประสานงานกบั ผตู้ รวจการแผน่ ดนิ เพื่อให้การปฏบิ ัตติ ามค่านยิ มหลกั สาหรับผ้ดู ารงตาแหน่งทางการเมอื ง และ เจา้ หนา้ ทข่ี องรฐั ตลอดจนประมวลจริยธรรมนมี้ ผี ลใช้บงั คับอย่างจริงจงั มีประสทิ ธิภาพและทวั่ ถงึ (8) ประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรมน้ีของหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการจริยธรรมและข้าราชการทง้ั ปวง และจัดทารายงานประจาปีเสนอคณะรัฐมนตรี และผูต้ รวจการแผ่นดนิ แลว้ เผยแพรใ่ ห้ประชาชนทราบ (9) ตคี วาม และวินิจฉยั ชี้ขาดปญั หาอนั เกิดจากประมวลจริยธรรมน้ี (10) ประมวลการตคี วามและวนิ จิ ฉยั ปญั หาอนั เกดิ จากการใชบ้ งั คบั ประมวลจรยิ ธรรมนที้ กุ ปี และเผยแพรใ่ ห้ข้าราชการ ทราบเพือ่ ยึดถอื และเป็นแนวทางปฏบิ ัติต่อไป (11) ทบทวนวา่ สมควรแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ ประมวลจรยิ ธรรมนห้ี รอื ไม่ ทกุ 4 ปี (12) ดาเนินการอ่นื ตามประมวลจริยธรรมน้ี หรอื ตามทีจ่ ะตกลงกับผู้ตรวจการแผน่ ดนิ องค์กรคุม้ ครองจริยธรรม – คณะกรรมการจริยธรรมประจาสว่ นราชการ ข้อ14 ให้ ก.พ. โดยขอ้ เสนอของหวั หน้าส่วนราชการ แต่งต้งั คณะกรรมการจริยธรรมประจาสว่ นราชการข้นึ เพื่อควบคุม กากบั ใหม้ ีการปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมนี้ คณะกรรมการจรยิ ธรรมประกอบดว้ ย (1) ประธานกรรมการ ซ่งึ หัวหนา้ สว่ นราชการเสนอจากผทู้ รงคณุ วฒุ ภิ ายนอกผมู้ ีความซอ่ื สตั ย์เป็นประจกั ษโ์ ดยไดร้ ับ ความเหน็ ชอบจาก ก.พ. (2) กรรมการผดู้ ารงตาแหนง่ ประเภทบรหิ ารหรอื ประเภทอานวยการเลอื กกนั เองใหเ้ หลอื 2 คน (3) กรรมการ 2 คนซึ่งเปน็ ขา้ ราชการในสว่ นราชการท่ีได้รับคดั เลอื กจากขา้ ราชการ พนักงานราชการและ ลูกจ้างของ ส่วนราชการนนั้ ตามวิธกี ารดาเนนิ การทแ่ี ตล่ ะสว่ นราชการเห็นสมควร (4) กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ภิ ายนอก 2 คน ซึ่งหัวหน้าสว่ นราชการและรองหัวหนา้ สว่ นราชการรว่ มกนั เสนอใหห้ ัวหนา้ กล่มุ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมเปน็ เลขานกุ ารคณะกรรมการจรยิ ธรรม 67

ติวเขม้ หลักสตู ร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 5 องคก์ รคมุ้ ครองจรยิ ธรรม องค์กรคมุ้ ครองจรยิ ธรรม – คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจาสว่ นราชการ ขอ้ 15 คณะกรรมการจรยิ ธรรมมอี านาจหนา้ ท่ี ดังนี้ (1) ควบคุม กากับ สง่ เสรมิ และให้คาแนะนาในการใช้บังคับประมวลจริยธรรมน้ีในส่วนราชการ (2) สอดสอ่ งดแู ลใหม้ กี ารปฏบิ ัตติ ามประมวลจริยธรรมในส่วนราชการ ในกรณีท่มี ีข้อสงสยั หรอื มขี อ้ รอ้ งเรยี น วา่ มีการ ฝ่าฝนื จรยิ ธรรม ให้ส่งเรอื่ งใหห้ ัวหน้าส่วนราชการเพอ่ื ปฏิบตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้โดยเร็ว (3) พจิ ารณาวนิ จิ ฉยั ชขี้ าดปญั หาอนั เกดิ จากการใชบ้ งั คบั ประมวลจรยิ ธรรมนใ้ี นสว่ นราชการ เมื่อไดว้ นิ จิ ฉยั แลว้ ใหส้ ง่ คา วนิ ิจฉยั ให้ ก.พ. โดยพลนั ถา้ ก.พ. มไิ ดว้ นิ จิ ฉยั เปน็ อยา่ งอน่ื ภายในหกสบิ วันนบั แตว่ นั ที่ ก.พ. รับเร่อื งใหค้ าวินจิ ฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรมเปน็ ทส่ี ดุ (4) สง่ เรอื่ งให้ ก.พ. พจิ ารณาวินิจฉยั ในกรณีทีเ่ ห็นว่าเรอื่ งน้ันเป็นเร่อื งสาคัญหรือมีผลกระทบในวงกว้างหลาย ส่วนราชการ และยังไม่มคี าวนิ ิจฉยั ของ ก.พ. หรือผูต้ รวจการแผน่ ดนิ (5) คุ้มครองและประกนั ความเปน็ อสิ ระและเทยี่ งธรรมของกลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมของสว่ นราชการ (6) คุ้มครองขา้ ราชการซงึ่ ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนอี้ ยา่ งตรงไปตรงมา มใิ หผ้ บู้ งั คบั บญั ชาใชอ้ านาจโดยไมเ่ ปน็ ธรรม ตอ่ ขา้ ราชการผนู้ นั้ (7) เสนอผลการประเมินการปฏิบตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมนข้ี องหวั หนา้ สว่ นราชการ ต่อ ก.พ. และ ประเมนิ ผลการ ปฏิบตั ิงานของกล่มุ งานคุม้ ครองจริยธรรมของสว่ นราชการเพอ่ื เสนอหวั หน้าสว่ นราชการเพ่ือประกอบการเล่ือน เงินเดอื น หรอื เล่อื นตาแหนง่ ข้าราชการในกลมุ่ งาน (8) เสนอแนะการแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ประมวลจริยธรรมนี้ หรอื การอน่ื ท่เี หน็ สมควรตอ่ ก.พ. (9) ดาเนนิ การอนื่ ตามประมวลจริยธรรมนี้ หรอื ตามท่ี ก.พ. มอบหมาย ฃ การประชมุ คณะกรรมการจรยิ ธรรมใหน้ ากฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีปฏบิ ตั ริ าชการทางปกครองมาใชบ้ งั คบั องคก์ รคุม้ ครองจรยิ ธรรม – กลมุ่ งานคมุ้ ครองจริยธรรม ข้อ 17 ให้จดั ตง้ั กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมข้ึนในทกุ สว่ นราชการขน้ึ ตรงตอ่ หวั หนา้ สว่ นราชการ มหี น้าที่ คุ้มครองจริยธรรมตามประมวลจรยิ ธรรมนี้ ซึ่งมคี วามเป็นอสิ ระ โดยมีข้าราชการซงึ่ ดารงตาแหนง่ ประเภทบรหิ าร ระดบั ตน้ ข้ึนไปเปน็ หวั หนา้ กลมุ่ และมอี านาจหน้าที่ ดังต่อไปน้ี (1) ดาเนนิ การเผยแพร่ ปลูกฝงั ส่งเสรมิ ยกย่องขา้ ราชการทเ่ี ปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี และติดตามสอดส่องการปฏบิ ตั ติ าม ประมวลจริยธรรมนอี้ ยา่ งสม่าเสมอ (2) สบื สวนขอ้ เทจ็ จรงิ การฝา่ ฝนื จรยิ ธรรม เพ่อื รายงานผลให้หวั หนา้ สว่ นราชการพจิ ารณา ทั้งน้ี โดยอาจมผี ู้ร้องขอหรอื อาจดาเนินการตามทห่ี ัวหน้าสว่ นราชการมอบหมาย หรือตามทเี่ หน็ สมควรก็ได้ (3) ให้ความชว่ ยเหลอื และดแู ลข้าราชการซ่งึ ปฏิบัติตามประมวลจริยธรรมนอ้ี ยา่ งตรงไปตรงมา มใิ หถ้ ูกกล่นั แกล้งหรือ ถูกใชอ้ านาจโดยไมเ่ ปน็ ธรรม (4) ทาหนา้ ทฝี่ า่ ยเลขานกุ ารของคณะกรรมการจรยิ ธรรมประจาส่วนราชการ (5) ดาเนนิ การอ่ืนตามที่กาหนดในประมวลจรยิ ธรรมน้ี หรือตามที่หวั หนา้ ส่วนราชการ คณะกรรมการ จริยธรรม หรือ ตามที่ ก.พ. มอบหมาย ทั้งน้ี โดยไม่กระทบตอ่ ความเปน็ อสิ ระของผดู้ ารงตาแหนง่ ในกลุ่มงานดงั กลา่ ว 68

ติวเขม้ หลักสูตร รบั รองผลสอบ ก.พ. 2563 อ.นนท์ สมัครติว ID 0951800066 6 ผู้บงั คบั บญั ชากบั การปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรม ขอ้ 16 หัวหนา้ ส่วนราชการ และผู้บรหิ ารส่วนราชการต้ังแต่ผดู้ ารงตาแหนง่ ประเภทบรหิ าร ประเภทอานวยการ หรอื ดารงตาแหน่งประเภทอนื่ ท่ีทาหน้าท่เี ป็นผู้บงั คับบญั ชามหี นา้ ที่ปฏบิ ตั ติ ามประมวลจรยิ ธรรมนี้ และ ประพฤตติ นใหเ้ ปน็ แบบอยา่ งทด่ี แี กผ่ อู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชา ควบคมุ ใหผ้ อู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาปฏบิ ตั ติ าม ประมวลจรยิ ธรรมนี้ สนับสนนุ ส่งเสริมผอู้ ยู่ใต้บังคับบญั ชาทม่ี ีความซ่ือสัตย์มผี ลงานและความรู้ ความสามารถ และปฏบิ ตั ติ ามประมวลจริยธรรม โดยให้มอี านาจหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) คมุ้ ครองและประกนั ความเป็นอสิ ระและเที่ยงธรรมของกลุ่มงานคมุ้ ครองจริยธรรมของส่วนราชการ (2) ค้มุ ครองขา้ ราชการซง่ึ ปฏิบตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมน้ีอย่างตรงไปตรงมา มใิ ห้ถูกกลนั่ แกลง้ หรือถกู ใชอ้ านาจ โดยไม่เปน็ ธรรม (3) สง่ เสรมิ และเผยแพรก่ ารปฏิบตั ิตามประมวลจรยิ ธรรมน้อี ยา่ งสมา่ เสมอ (4) ตดิ ตามสอดสอ่ งใหข้ ้าราชการในสว่ นราชการปฏบิ ัติตามประมวลจริยธรรมนอี้ ย่างเครง่ ครดั (5) ปฏบิ ตั ติ ามมตหิ รอื คาวินจิ ฉยั ก.พ. หรอื คณะกรรมการจรยิ ธรรม 7 ผูบ้ งั คบั บญั ชากบั การปฏบิ ตั ิตามประมวลจรยิ ธรรม ขอ้ 21 เมือ่ มปี ญั หาการปฏิบตั ติ ามประมวลจริยธรรมนใี้ นเรอ่ื งใด ขา้ ราชการอาจเสนอเร่อื งทเี่ ป็นปญั หา ดังกลา่ วให้หวั หนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครองจรยิ ธรรมของสว่ นราชการที่ตนสังกดั นาเสนอเพอ่ื ขอคาวนิ ิจฉยั หรอื อนญุ าต แลว้ แต่กรณีจากคณะกรรมการจรยิ ธรรมได้ ในกรณที เี่ รอ่ื งนนั้ เปน็ เรอื่ งสาคญั หรอื มี ผลกระทบในวงกวา้ งหลายสว่ น ราชการ และยงั ไมม่ คี าวนิ จิ ฉยั ของ ก.พ. หรอื ผู้ตรวจการแผ่นดนิ แล้วแตก่ รณี คณะกรรมการจรยิ ธรรมอาจสง่ เรอื่ ง ให้ ก.พ. วนิ จิ ฉยั ##ข้าราชการทป่ี ฏบิ ตั ติ ามคาวนิ จิ ฉยั ของคณะกรรมการจรยิ ธรรม ก.พ. หรอื ผู้ตรวจการแผน่ ดนิ ไมต่ อ้ งรบั ผดิ ทางวนิ ยั ขอ้ 22 .. หัวหน้ากลุม่ งานคุ้มครองจรยิ ธรรม.. มหี น้าท่ตี อ้ งใหค้ าแนะนาตามสมควรตามคาวนิ ิจฉัยของ คณะกรรมการจริยธรรม ก.พ. หรือผตู้ รวจการแผ่นดนิ หากไมม่ คี าวนิ จิ ฉยั ในเรื่องทเี่ ปน็ ปญั หามากอ่ น หัวหนา้ กลมุ่ งานคมุ้ ครองจริยธรรมอาจใหค้ าแนะนาโดยยดึ ประโยชนส์ งู สดุ ของสว่ นรวมเปน็ สาคญั ##ข้าราชการทปี่ ฏบิ ตั ติ ามคาแนะนาของหวั หนา้ กลมุ่ งานคุม้ ครองจรยิ ธรรมตามแนวทางท่คี ณะกรรมการ จรยิ ธรรม ก.พ. หรือผตู้ รวจการแผ่นดนิ เคยวนิ จิ ฉยั ไวแ้ ลว้ โดยสจุ รติ ไมต่ อ้ งรบั ผดิ ทางวนิ ยั 69


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook