รายงานการวิจัย พ่ อ เ จ้ า ห น า น ทิ พ ย์ ช้ า ง (พระเจ้าทิพจักรสุลวฦาไชย) : วี ร บุ รุ ษ วั ฒ น ธ ร ร ม ใ น ตำ น า น พื้ นถิ่นเมืองลำปาง ณัฐนรินทร์ เมธีวุฒินันทน์ ภานุภัทรธนวัฒน์ อาจารย์ประจำวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ หมาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ร า ย ง า น ก า ร วิ จั ย นี้ ไ ด้ รั บ ง บ ป ร ะ ม า ณ ส นั บ ส นุ น จ า ก ม ห า วิ ท ย า ลั ย ร า ช ภั ฏ ลำ ป า ง ป ร ะ จำ ปี ง บ ป ร ะ ม า ณ ๒ ๕ ๕ ๕ F.ห้องสมุดคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ โทร.081-950-2340 [email protected]
บทคัดย่อ ชื่อเรื่อง พ่อเจ้าหนานทิพย์ช้าง (พระเจ้าทิพจักรสุลวฦไซย) : วีรบุรุษวัฒนธรรมในตำนาน Phor Caow Nan Thip Chang (Phraya Surawaluechai): The Heroes Cultur in Lampang myth. ผู้วิจัย นายณัฐนรินทร์ เมธีวุฒินันทน์ ภาณุภัทรธนวัฒน์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ทุนวิจัย ประจำาปังบประมาณ ๒๕๕๕ จำนวน ๒๕,๐๐๐ การวิจัยพ่อเจ้าหนานทิพย์ช้าง (พระเจ้าทิพจักรสุลวฦไชย) : วีรบุรุษวัฒนธรรมในตำนาน พื้นถิ่นเมืองลำปาง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการรับรู้เกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้างในต้านต่างๆ และเพื่อ วิเคราะห์ความเชื่อที่มีต่อพ่อเจ้าทิพย์ข้างในฐานะที่เป็นวีรบุรุษด้านวัฒนธรรม ขอบเขตของการวิจัย ได้แก่ มุ่งศึกษาวิคราะห์การรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อจ้าทิพย์ช้าง ที่แสดงออกผ่านการขอพรและการบน เท่านั้น ส่วนขอบเขตของกลุ่มตัวอย่างที่เก็บข้อมูลคือ ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดลำปางโดย กำเนิดเท่านั้น กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ประชาชนใน จังหวัดลำปาง จำนวน ๕- คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบจำเพาะเจาะจง คือ ต้องเป็นผู้มีถิ่น กำเนิดในจังหวัดลำปาง และต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดลำปาง เครื่องมือเพื่อการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือแบบสอบถามการรับรู้เกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ของประชาชนในจังหวัดลำปาง การเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ในครั้งนี้ใด้ใช้วิธีการคัดเลือก แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ๕- คน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูล เนื่องจากการวิจัยครั้งนี้มี ข้อมูล 2 ประเภท คือ ข้อมูลเชิงคุณภาพ และข้อมูลเชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงคุณภาพจะใช้วิธีการวิเคราะห์ เนื้อหา (Content Analysis) ตามประเด็นต่างๆ และเชื่อมโยงความสัมพันธ์แต่ละประเด็นเข้าด้วยกัน สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณ ผู้วิจัยตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูล จากนั้นบันทึกลง คอมพิวเตอร์ เพื่อทำการประมวลผลทางสถิติด้วยค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า ประชาชนพื้นถิ่นจังหวัดลำปาง มีกิจกรรมต่างๆ ที่แสดงออกเกี่ยวกับ วัฒนธรรมและการยอมรับบทบาทความสำคัญของของพ่อเจ้าทิพย์ช้างในฐานะวีรบุรุษ มีสาเหตุหลักที่ สำคัญก็คือ มีมุมมองว่าพ่อเจ้าทิพย์ช้างเป็นวีรบุรุษ บรรดาประชาชนทุกกลุ่มตัวอย่างหลากหลายอาชีพ
การขอพรหรือบนกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง มีเหตุผลคือ เพราะเชื่อว่าพระองค์ท่าน ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างมักจะบนหรือขอพรนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิประจำวันของตนเอง รวมถึงบุคคลนอกจากนี้ ส่วนใหญ่ต่างก็มีความเชื่อเกี่ยวกับพลังอำนาจของพ่อเจ้าทิพย์ช้างว่า ถ้าขอพรหรือบนสำเร็จแล้ว หากไม่แก้บนหรือไม่ปฏิบัติตามที่กล่าวไว้ เชื่อว่าจะต้องถูกพ่อเจ้า ทิพย์ช้างลงโทษอย่างแน่นอน ผลจากการวิจัยครั้งนี้จึงสรุปได้ว่า พ่อเจ้าทิพย์ช้างทรงมีบทบาท สำคัญ ในฐานะที่ทรงเป็นวีรบุรุษวัฒนธรรมอย่างแท้จริง ในชุมชนพื้นถิ่นลำปาง หลายพื้นที่มีเรื่องราว สถานที่ หรือตำนานสืบสานเล่าเรื่อง เกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ดังปรากฏเรื่องราวที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ร่องรอยกระสุนปืน หรือ ตำนานชื่อหมู่บ้านเป็นต้น ดังนั้น หากจะกล่าวว่าพ่อเจ้าทิพย์ช้างเป็นผู้มีบทบาทในชุมชนและ ท้องถิ่น ที่ยังทรงมีบทบาทดำรงอยู่มาถึงปัจจุบัน ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาว่า ในปัจจุบันชาว บ้านในขุชนพื้นถิ่นลำปาง ยังคงมีความเชื่อและรับรู้เรื่องราวของพ่อเจ้าทิพย์ข้างในด้านใดบ้าง งานวิจัยเรื่องนี้จึงได้เกิดขึ้น วัตถุประสงค์ของการวิจัย ๑ เพื่อศึกษาการรับรู้เกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้างในด้านต่างๆ ๒ เพื่อวิเคราะห์ความเชื่อที่มีต่อพ่อเจ้าทิพย์ข้างในฐานะที่เป็นวีรบุรุษด้านวัฒนธรรม การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยกำหนดขอบเขตของการวิจัยไว้ดังนี้ ขอบเขตของการวิจัย ๑) มุ่งศึกษาวิเคราะห์การรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ที่แสดงออกผ่านการขอพร และการบนเท่านั้น ๒) กลุ่มตัวอย่างที่เก็บข้อมูลคือ ประชนชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดลำปา นิยามศัพท์เฉพาะ วีรบุรุษวัฒนธรรม หมายถึง บุคคลผู้ใด้รับการยกย่องในฐานะที่เป็นวีรบุรุษ และบุคคลดัง กล่าวเป็นผู้มีอิทธิพลต่อความคิด ความเชื่อ การประพฤติปฏิบัติของชุมชนพื้นถิ่น จนกระทั่ง แสดงออกให้อย่างเด่นชัดในเชิงวัฒนธรรม ในฐานะที่เป็นผู้นำวัฒนธรรม
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยเรื่อง \"พ่อเจ้าหนานทิพย์ช้าง (พระเจ้าทิพจักรสุรวะภไขย) : วีรบุรุษ วัฒนธรรมในตำนานพื้นถิ่นเมืองลำปาง\" ผู้วิจัยได้ศึกษาคันคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๑. แนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษ แนวคิดเรื่อง \"วีรบุรุษ\" ในสังคมไทยมีหลายประเภท ได้แก่ วีรบุรุษทางวัฒนธรรม วีรบุรุษของประชาชน วีรบุรุษของราชสำนัก วีรบุรุษของพุทธศาสนา และวีรบุรุษของรัฐชาติ อย่างไร นิยามและแนวคิดดังกล่าว บุคคลบางคนจึงสามารถเป็นได้ทั้งวีรบุรุษของประชาชน (วีรบุรุษท้อง ถิ่น)หรือวีรบุรุษของรัฐชาติ ฯลฯ ในเวลาเดียวกัน ผ่านการสร้างเรื่องเล่าแบบต่างๆ แนวคิดเกี่ยวกับ วีรบุรุษ\" ที่สำคัญประการหนึ่งปรากฏอยู่ที่รูปศัพท์ของคำดังกล่าว นั่นคือคำว่า \"วีร\" ซึ่งแปลว่า แกล้ว กล้า อาจหาญ อย่างไรก็ตาม เมื่อกล่าวถึงประวัติศาสตร์ท้องถิ่นภาคใต้ แม้การเกิดขึ้นของชุมโจรต่าง ๆ จำนวนมากในช่วงอดีตที่ผ่านมาจะถูกสร้าง \"เรื่องเล่า\" จากรัฐส่วนกลาง ว่าเป็นเป็นการท้าทายและ กระด้างกระเดื่องต่ออำนาจรัฐ แต่จากการศึกษาวิจัยของนักวิชาการท้องถิ่นภาคใต้จำนวนหนึ่งได้ ทำให้ \"โจร\"ในนิยามของรัฐส่วนกลาง กลายเป็น \"วีรบุรุษท้องถิ่น\" ผ่านมุมมองเชิงวัฒนธรรมความเป็น \"ปักษ์ใต้\" ไป ดังนั้น การที่บทสังเคราะห์นี้นิยามว่า \"พระสงฆ์\" เป็น \"วีรบุรุษท้องถิ่น\" จึงเป็นการ อธิบายในลักษณะย้อนแย้งบางประการที่น่าสนใจศึกษาว่า คนในท้องถิ่นภาคใต้มี \"พระ\" และ \"โจร\" เป็น \"วีรบุรุษ\" ของตนในเวลาเดียวกันได้อย่างไร ด้วยแนวคิดและการให้คุณค่าแบบใด การสร้างเรื่องเล่าเกี่ยวกับผู้มีบทบาทในชุมชนนั้น ผู้เล่าหรือผู้ทรงจำซึ่งเป็นคนในท้อง ถิ่น มักจะเล่าเรื่องเล่าเหล่านี้ เพื่อตอบสนองต่ออัตลักษณ์หรือท้องถิ่นชุมชนของตนในเรื่องต่างๆ ด้วย นอกจากนี้เรื่องเล่า \"วีรบุรุษแห่งชาติ\" นั้น ตอกย้ำวาทกรรม \"ชาตินิยม\" และความพยายามใน การรวมศูนย์อำนาจ ขณะที่เรื่องเล่าเกี่ยวกับ \"วีรบุรุษท้องถิ่น\" ผ่านประวัติและตำนานของบุคคลๆ นั้น ก็ตอกย้ำให้เห็นความเชื่อของชุมชน ซึ่งมีต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง จนยอมรับว่าบุคลลนั้นมีอำนาจ ศักดิ์สิทธิ์อิทธิปาฏิหาริย์ และอำนาจของความดีงาม นอกจากกรอบคิดเรื่อง \"วีรบุรุษ\"แล้ว การนำ กรอบคิดเกี่ยวกับ \"อำนาจ\" และ\"เรื่องเล่า\" มาใช้ในการสังเคราะห์ร่วมด้วยจึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็น อย่า
แนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษในเอกสารฝ่ายตะวันออก ได้แก่ จากการศึกษาของ อรอุษา สุวรรณประเทศได้รวบรวมแนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษ ดังที่ ปรากฎในเอกสารฝ่ายตะวันออก สรุปได้ ดังนี้ คัมภีร์ ไตตติรียะอุปนิษัท แสดงให้เห็นแนวความคิดเกี่ยวกับผู้เป็นวีรบุรุษแห่งโลกตามคติของฝ่าย ตะวันออก ซึ่งก็คือ\"พระมหาจักรพรรดิราช\" ว่า พระมหาจักรพรรดิราชนั้นเป็นผู้ที่มีความสำคัญต่อใน คัมภีร์ดังกล่าวให้ความชอบธรรมแก่การทำสงครามของประชาชาติและเป็นผู้นำในการทำสงคราม ของพระราชา โดยได้ระบุไว้ชัดเจนว่าหน้าที่หลักของพระราชาคือการทำสงคราม ดังความว่า \"ชน เหล่าพระราชา ชนเหล่านั้นทำสงครามไม่ได้\" นอกจากนี้ในคัมภีร์อรรถศาสตร์และราชศาสตร์อันว่าด้วยภาระหน้าที่ของพระ ราชาก็เน้นเรื่องการทำสงครามโดยเฉพาะเพื่อขยายอาณาจักรว่าเป็นราชธรรมที่สำคัญที่สุด ใน พงศาวดารของพวกพระราชาที่มีความสามารถในการทำสงครามจะได้รับการยกย่องสูงสุด และจะได้ รับการขนานนามว่า \"ทิศวิชยิน\" หมายถึงพระราชาผู้มีชัยในทั้งสิบทิศ กษัตริย์อินเดียโบราณที่ทรง นามนี้อารยันในอินเดียกษัตริย์ปาณฑพในมหากาพย์มหาภารตะและ \"พระรามในมหากาพย์รามาย ณะคือ\"พระยุธิษฐิระ\" นอกจากพระราชาทั้งสองพระองค์นี้แล้ว ยังมีพระราชาอีกประมาณ ๑๒ พระองค์ ที่มีชื่อเสียงเลื่องระบือในการทำสงคราม พระราชาทั้งหมดก็ได้รับการขนานนามว่า \"จักรวรรตินหมาย ถึง พระราชาผู้มีวงล้อแห่งรถศึกของพระองค์แล่นราบปราบได้ทั้งชมพูทวีปซึ่งคำว่า \"จักรวรรติน\" ในภาษาไทยก็คือคำว่า\"พระมหาจักรพรรดิราช\" นั่นเอง ความเชื่อเรื่องพระมหาจักรพรรดิราชมีความสำคัญมากแม่ในสมัยพระเจ้าอโศก มหาราชดังปรากฏในคัมภีร์พุทธศาสนาเองว่า พระมหาจักรพรรดิราชจะประกอบด้วยมงคลลักษณะ และแวดล้อมด้วยรัตนะหรือสิ่งมีค่าต่างๆ เข่นเดียวกับพระพุทธเจ้า ต่างกันแต่เพียงว่าพระพุทธเจ้าจะ นำสรรพสัตว์สู่วิถีแห่งความรู้แจ้ง ส่วนพระมหาจักรพรรดิราชจะปกครองขมพูทวีปโดยธรรมและ นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองนอกจากนั้นในยุคสมัยใดถ้าไม่มีพระพุทธเจ้ามาเกิดในโลกจะมีพระ มหาจักรพรรดิราชมาเกิดแทน ซึ่งไทยเรารับเอาคติเรื่องพระมหาจักรพรรดิราชของพราหมณ์มาทาง พระพุทธศาสนา ดังปรากฏในไตรภูมิโลกวินิจฉัย และ ไตรภูมิโลกวินิจฉัย ไตรภูมิโลกวินิจฉัย กล่าวถึง ความเชื่อเรื่องพระมหาจักรพรรดิราชจะเป็นพระมหาจักรพรรดิราช มีพระบรมเดซานุภาพแผ่ไปทั่วทิศานุทิศ จะต้องมีหลักธรรมที่กล่าวไว้ว่าธรรมที่ว่าด้วยเรื่อง \"จักรวรรดิวัตร \" อันเป็นธรรมของพระมหาจักรพรรติราช มี ๑๐ เอกสารฝ่ายตะวันออก สรุปได้ ดังนี้
๑. สงเคราะห์ฝ่ายในให้ทั่วหน้า ๒. สงเคราะห์กษัตริย์เมืองออกเมืองขึ้นทั้งปวง ๓. สงเคราะห์บรรดากษัตริย์ที่ตามเสด็จ ๔. สงเคราะห์พราหมณ์และคหบดี ๕. สงเคราะห์ชาวนิคมและชาวชนบท ๖. สงเคราะห์สมณะและพราหมณาจารย์ ๗. สงเคราะห์แก่เนื้อและนกทั้งหลายในอาณาจักร ๘. ห้ามปรามราษฎรไม่ให้ทำบาป ๙. พระราชทานทรัพย์แก่ผู้ไม่มีทรัพย์ ๑๐. ไปมาหาสู่เพื่อสนทนาธรรมกับสมณพราหมณาจารย์ ไตรภูมิโลกวินิจฉัย ระบุไว้แจ่มชัดว่าพระมหากษัตริย์จะปฏิบัติแต่จักรวรรดิวัตรอย่าง เดียวไม่ได้ ต้องประกอบจักรวรรดิวัตรเป็นหนึ่งในชุดของราชธรรมอันประกอบด้วย ทศกุศลกรรมบถ ๑๐แยกออกเป็นกายสุจริต ๓ วจีสุจริตและมโนสุจริต ๓ พระมหากษัตริย์ผู้บำเพ็ญจักรวรรดิวัตรต้อง บำเพ็ญกุศลกรรมบถเป็นนิจก่อนจึงจะปฏิบัติจักรวรรดิวัตรในขณะที่ปฏิบัติจักรวรรดิวัตรพระมหา กษัตริย์ต้องปฏิบัติธรรม ๓ ประการควบคู่ไปด้วย ธรรมนี้คือรักขธรรมกรุณาแก่สัตว์ทั้งหลาย อาวรณ ธรรม คือ การสงเคราะห์บุคคลทั้งปวงที่ควรจะสงเคราะห์ และคุติธรรมคือการคุ้มครองป้องกันคนที่ ควรจะป้องกัน ให้พ้นอันตรายต่างๆ ดังนั้น แม้ว่าสงครามจะเป็นหน้าที่หลักของพระราชาแต่พระ ราชาผู้ที่จะเป็นจักรพรรดิราชได้ จะต้องปฏิบัติพระองค์ตามหลักธรรมะด้วย จึงจะถึงพร้อมด้วย คุณสมบัติแห่งความเป็นจักรพรรดิ \"ไตรภูมิพระร่วง\" เป็นพระราชนิพนธ์พระมหาธรรมราชาที่ ๑ ลิไทย เป็นวรรณคดีพุทธ ศาสนาที่สำคัญเล่มหนึ่ง มีอายเก่าแก่กว่า ๖๐๐ ปี มาแล้ว เนื้อหายังกล่าวถึงเรื่องราวเกี่ยวกับจักรวา สวิทยาและมหาบุรุษ ตอนหนึ่งในเรื่องไตรภูมิ คือ ตอนมนุษยภูมิ ได้กล่าวถึงเรื่องของมหาบุรุษซึ่งใน ที่นี้หมายถึงพรมหาจักรพรรดิราชว่า พระมหาจักรพรรดิราชเป็นเจ้านายแก่คนทั้งหลายอันมีในแผ่น ดินใหญ่ ๔ แผ่นดินและแผ่นดินน้อยทั้งหลาย ๒ พัน อันมีในขอบจักรวาล ว่าผู้ที่จะมาเกิดเป็นพระ มหาจักรพรรดิราชได้นั้นจะต้องเป็นผู้มีบุญ ได้ทำบุญมาแต่กาลก่อน โดยจะต้องรู้จักปฏิบัติบูชาแก่ พระศรีรัตนตรัย รู้จักคุณพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นผู้ให้ทานรักษาศีล แล้วมีเมตตาภาวนา
ทรงมีพระบรมราชาธิบายว่า บ่อเกิดแห่งรามเกียรติ์มาจากคัมภีร์รามายณะภาษาสันสกฤต และ ได้ทรงรามายณะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง บ่อเกิด และกล่าวถึงคัมภีร์รามายณว่าเป็นคัมภีร์สำคัญนแสดงด้วยกิจการของพระราม ปราชญ์นิยมกัน ว่าเป็นหนังสือมหากาพย์ที่เก่าที่สุดในภาษาสันสกฤต ผู้รจนาเป็นพรหมฤษีผู้มีนามว่า วาลมีกิ พระรามเป็นวีรบุรุษของชาวฮินดู ไม่เพียงแต่เป็นมหากษัตริย์ครองกรุงอโยธยาเท่านั้น ชาวยินดู ยังยกย่องว่าพระราม คือองค์พระวิษณุนารายณ์เป็นเจ้า อวตารลงมาปราบอธรรม ได้แก่ พวก รากษสซึ่งมีท้าวราพณาสูรเป็นหัวหน้า เพื่อถนอมโลกไว้ให้บังเกิดความร่มเย็นเป็นสันติสุขแก่ ทวยเทพและมนุษยนิกร พระรามจึงมีอุปการคุณใหญ่หลวงและเป็นสหายของผู้ได้ทุกข์พระราม เป็นวีรบุรุษนักรบผู้มีบริวารมากมาย และได้รับการขนานนามว่า \"ทิศวิชยิน\" อันหมายถึงพระ ราชาผู้มีชัยในทั้งสิบทิศ เช่นเดียวกับ \"พระยุธิษฐิระ\" กษัตริย์ปาณฑพในมหากาพย์มหาภารตะ แต่พร้อมกันนี้พระรามยังเป็นแบบฉบับของความดี ความงามเลิศทุกประการ หาตำหนิด่าง พร้อย มิได้ อันสาธุชนควรถือเป็นเยียงอย่างชาวฮินดูยกย่องว่าระรามเป็นบุคคลแบบฉบับ เป็น แบบของลูกที่ดี มีความกตัญญูกตเวที เป็นผู้มีสัจวาจา เชื่อฟัง รักษาคำพูดของพระราชบิดา เป็นสามีที่ซื่อตรงต่อภรรยา เป็นพี่ที่รักน้องเป็นนักรบที่กล้าหาญ เป็นกษัตริย์ที่เห็นแก่ความ ผาสุกของประชาขนชาวฮินดูยกย่องพระองค์เสมอองค์พระวิษณุ ทั้งยังเชื่อว่าพระรามพาชาวอ โยธยาขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นอีกด้วย
แนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษในเอกสารฝ่ายตะวันตก ได้แก่ แนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษวัฒนธรรมจากเอกสารในฝ่ายตะวันตก มีอยู่ด้วยกันหลากหลาย แนวคิดดังที่ อรอุษา สุวรรณประเทศ ได้ศึกษาไว้ สรุปได้ดังนี้ \"The Myth of the birth of the Hrro. ผลงานของ ออทโท รางค์ นักจิตวิทยาชาว ออสเตรียผู้เป็นสาวกที่เชื่อมั่นในทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของชิกมุนด์ ฟรอยด์ (sigmund Freud) ในงาน เรื่อง Myth of the Birth ofthe Hero นี้ เขาได้ศึกษาเทพปกรณัมเกี่ยวกับกำเนิดของวีรบุรุะเอเชีย ทั้งของกรีก โรมัน ยิวและคริสเตียน อินเดีย ตลอดจนพวกทิวทอนิก และนำมาดำเนินรอยตามทฤษฎี จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ โดยเขาได้สรุปคุณลักษณะของชีวิตวีรบุรุษไว้ดังนี้ ๑. ผู้ที่เป็นวีรบุรุษมักจะเป็นบุตรของผู้ที่มีเกียรติยศชื่อเสียง หรือชนขั้นสูง ซึ่งโดยทั่วไปมักเป็นโอรส ของกษัตริย์ ๒. วีรบุรุษมักถือกำเนิดมาในท่ามกลางภาวะความยุ่งยาก ซึ่งภาวะความยุ่งยากนี้อาจจะเป็นภาวะ ความยุ่งยากอึดอัดบีบคั้นจิตใจ หรือภาวะความยุ่งยากของบิดามารดาที่อาจเป็นหมันหรือมีบุตรยาก หรือบิดามารดามีความสัมพันธ์ลับแบบซ่อนเร้นปกปิด เป็นต้น ๓. ระหว่างหรือก่อนการตั้งครรภ์ มักจะมีคำทำนายในรูปของความฝันหรือเทพพยากรณ์ ซึ่งมักจะ เป็นคำเตือนบอกผู้รู้ว่ากำเนิดของวีรบุรุษผู้นี้จะนำอันตรายหายนะมาสู่บิดา หรือผู้เกี่ยวข้องที่ ๔. และด้วยคำทำนายนั้น เมื่อวีรบุรุษถือกำเนิดมา เขาจะถูกนำใสในภาชนะไปทิ้งน้ำ ๕. แต่เขาจะได้รับการช่วยชีวิตจากสัตว์ หรือคนชั้นล่าง เช่น พวกคนเลี้ยงสัตว์ และจะได้รับการเลี้ยง ดูจากสัตว์หรือคนต่ำศักดิ์นั้น ๖. หลังจากที่เขาเติบโตขึ้นเขาจะออกตามหาและค้นพบบิดาซึ่งเป็นบุคคลพิเศษ เป็นผู้ที่มีชื่อเสียง ใน รูปแบบที่หลากหลาย ๗.เขาจะแก้แค้นบิดา ๘. ในท้ายที่สุด เขาจะได้รับเกียรติยศและชื่อเสียงอย่างไรก็ตาม โครงสร้างชีวิตวีรบุรุษของปรางค์นั้น ดูเหมือนจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างเนื่องจากเขาวิเคราะห์โดยดำเนินรอยตามฟรอยด์ในปมอีดีพุสมันอาจจะ เป็นจริงสำหรับวีรบุรุษกลุ่มหนึ่ง แต่วีรบุรุษอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากก็อาจจะไม่ได้มีลักษณะเช่นนี้ ใน ท้ายที่สุดแล้วเมื่อรางค์เองมีข้อมูลเดิมมากขึ้น เขาก็เห็นว่าฟรอยด์ยังมีข้อจำกัดและเลิกที่จะเป็นสาวก ของฟรอยด์
จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวกับแนวคิดเรื่องวีรบุรุษทั้งของตะวันตกและตะวันออก ทำให้มองเห็นลักษณะของความเหมือนคล้ายเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับวีรบุรุษระหว่างสองวัฒนธรรม กล่าวคือมุมมองเรื่องวีรบุรุษของโลกตะวันตกจะมองเพียงมิติแห่งโลกปัจจุบัน แต่ในมุมมองเรื่อง วีรบุรุษของโลกตะวันออก กลับมีความเชื่อมโยงข้ามภพชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคติตะวันออกมัก จะมองวีรบุรุษ ว่าเป็นเทพอวตาร หรือเป็นผู้ที่เคยสั่งสมบุญบารมีมาแต่อดีต แต่ถึงกระนั้นสิ่งที่ เป็นมุมมองร่วมกันก็คือ ผู้ที่เป็นวีรบุรุษจะต้องเป็นบุคคลพิเศษ มีภารกิจที่พิเศษแตกต่างไปจาก บุคคลโดยทั่วไป แม้จะมีความชอบธรรมในการรบและการทำสงคราม แต่ผู้ที่เป็นวีรบุรุษจะต้อง ประกอบไปด้วยคุณธรรม ไม่ใช้ความพิเศษของตนในการข่มเหงรังแกผู้อื่น ต้องเป็นผู้ \"บำบัด\" มิใช่ผู้ \"เบียดเบียน\" ยิ่งไปกว่านั้น \"แบบชีวิต\" ของวีรบุรุษยังเป็นอุปลักษณ์ที่สื่อสารสาระแห่ง ชีวิตและจิตวิญญาณอันจะนำพาให้มนุษย์ก้าวล่วงพ้นไปจากสังสารวัฏ
สรุปผลการวิจัยและข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ๒ ประการ คือ เพื่อศึกษาการรับรู้เกี่ยวกับพ่อ เจ้าทิพย์ข้างในด้านและเพื่อวิเคราะห์ความเชื่อที่มีต่อพ่อเจ้าทิพย์ข้างในฐานะที่เป็นวีรบุรุษด้าน วัฒนธรรมวิจัย ได้แก่ มุ่งศึกษาวิเคราะห์การรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ที่แสดงออก ผ่าส่วนชอบเขตของกลุ่มตัวอย่างที่เก็บข้อมูลคือ ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัด กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ประชาชนในจังหวัดลำปาง การเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่าง ในครั้งนี้ได้ใช้วิธีการคัด เลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน ๕๐ คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มตัวอย่าง แบบจำเพาะเจาะจง คือ ต้องเป็นผู้มีถิ่นกำเนิดในจังหวัดลำปาง และต้องมีภูมิลำเนาอยู่ใน จังหวัดลำปาง เครื่องมือเพื่อการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ คือแบบสอบถามการรับรู้เกี่ยวกับพ่อ เจ้าทิพย์ช้าง (พระญาภไขย) ของประชาชนในจังหวัดลำปาง ครั้งนี้มีข้อมูล 6 ประเภท คือ ข้อมูลเชิงคุณภาพ และข้อมูลเชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงคุณภาพจะใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) ตามประเด็นต่างๆ และเชื่อมโยงความสัมพันธ์แต่ละประเด็นเข้าด้วยกัน สำหรับข้อมูลเชิงปริมาณผู้วิจัยตรวจสอบความสมบูรณ์และความถูกต้องของข้อมูล จากนั้น บันทึกลงคอมพิวเตอร์เพื่อทำการประมวลผลทางสถิติด้วยค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า กิจกรรมต่างๆที่แสดงออกเกี่ยวกับวัฒนธรรมและการ ยอมรับฐานะของพ่อเจ้าทิพย์ช้างในฐานะวีรบุรุษ ซึ่งชาวบ้านในชุมชนพื้นถิ่นแสดงออกและ การกระทำทั้งหมด เกิดจากสาเหตุหลักที่สำคัญก็คือ การที่ชุมชนพื้นถิ่นมองว่าพ่อเจ้าทิพย์ช้าง เป็นวีรบุรุษ สอดคล้องกับข้อมูลจากจากการตอบแบบสอบถาม บรรดาประชาชนทุกกลุ่ม ตัวอย่างหลากหลายอาชีพ เช่น ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปรับราชการ ค้าขาย ธุรกิจส่วนตัว แม่บ้าน เกษตรกร นักศึกษา และรัฐวิสาหกิจ และต่างก็เป็นผู้มีกล่าวคือจบการศึกษาขั้นตำใน ระดับประถมศึกษา และในระดับสูงสุดคือระดับปวนแต่ยอมรับนับถือพ่อเจ้าทิพย์ช้างแทบทั้งสิ้น
ประชาชนในชุมชนพื้นถิ่น ส่วนใหญ่จะยึดเหนี่ยวพระองค์ไว้เป็นที่พึ่ง ดังที่กลุ่มตัวอย่างให้ ข้อมูลว่า ที่มาขอพรหรือบนกับพ่อเจ้าทิพย์ช้าง เพราะเชื่อว่าพระองค์ท่านศักดิ์สิทธิ์ ในระดับ รองลงมา เชื่อว่าพระองค์ท่นสามารถแก้ปัญหาให้สำเร็จลุล่วงได้ หรือบ้างก็เห็นว่าบุคคลอื่นๆ ที่เคยมาขอก็ประสบความสำเร็จมาแล้ว สิ่งที่กลุ่มตัวอย่างมักจะบนหรือขอพรนั้น จะเป็น เรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของตนเองรวมถึงบุคคลใกล้ด นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ต่างก็มีความ เชื่อเกี่ยวกับพลังอำนาจของพ่อเจ้าทิพย์ข้างว่า ถ้าขอพรหรือบนสำเร็จแล้ว หากไม่แก้บน หรือไม่ปฏิบัติตามที่กล่าวไว้จะมีผลอย่างไรบ้างนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เชื่อว่าจะต้องถูก ลงโทษอย่างแน่นอนการวิเคราะห์การรับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับพ่อเจ้าทิพย์ข้าง ทำให้ผู้วิจัยพบ ว่า ชาวชุมชนพื้นถิ่นส่วนใหญ่ต่างให้การยอมรับพ่อเจ้าทิพย์ช้างในฐานะที่เป็นวีรบุรุษ ดังนั้น บทบาทของพ่อเจ้าทิพย์ช้างที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน และบทบาทอิทธิพลที่ทรงมีต่อชุมชนพื้น ถิ่นในจังหวัดลำปาง จะคงคงอยู่อย่างเข้มข้น และดำรงอยู่ต่อไป จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะ เพื่อการวิจัยครั้งต่อไป ดังนี้ ๑) การศึกษาพระราชประวัติของพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ควรมีการสืบค้นข้อมูลจากตำนานพระราชวงศ์ล้านนาฉบับอื่น โดยเฉพาะการ สืบค้นพระนามที่มีการจารึกไว้ในเอกสารโบราณ ความเปลี่ยนแปลงของพระนาม สืบค้นพระ ราชประวัติในส่วนที่ทรงมีความสัมพันธ์กับพระราชวงศ์ของล้นนาสายเจ้าเจ็ดตน ในฐานะที่ ทรงเป็นต้นพระราชวงศ์ การรับรู้ของผู้สืบสายพระราชวงศ์ในปัจจุบัน รวมทั้งการศึกษา ข้อมูลเกี่ยวกับพระราชประวัติ สื่อออนไลน์ ภาพยนตร์และการ์ตูนที่เกี่ยวข้องกับพระราช ประวัติ เพื่อให้เห็นข้อมูลเชิงวัฒนธรรม ในฐานะที่ทรงเป็นวีรบุรุษวัฒนธรรมเด่นชัดมากยิ่ง ขึ้น ๒) การศึกษาประวัติของสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับพ่อเจ้าทิพย์ข้างควรมีการศึกษาประวัติการ ก่อสร้างศาลเจ้าพ่อทิพย์ช้าง ที่ตั้ง วัดพระแก้วดอนเต้า อำเภอเมืองจังหวัดลำปาง อนุสาวรีย์ ㆍพ่อเจ้าทิพย์ช้าง ข่วงเจ้าหน พระบาท อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปางสาวรีย์พ่อเจ้าทิพย์ ข้างสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ ๘ พรรษา เกาะคา จังหวัดลำปา
บรรณานุกรม
Search
Read the Text Version
- 1 - 15
Pages: