Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารติวเข้ม กศน สระแก้ว วิทย์ ครูกวาง

เอกสารติวเข้ม กศน สระแก้ว วิทย์ ครูกวาง

Published by etvthai2, 2022-07-25 09:15:03

Description: 2.2 วิทย์ ครูกวาง

Search

Read the Text Version

วิชาวิทยาศาสตร อาจารยณ ฐั รกิ า รอดสถติ ย

แบบทดสอบกอ่ นเรยี นวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. โปรตีนจากพชื มีคุณค่าทางอาหารต่ากวา่ โปรตีนจากสัตวเ์ พราะ ก.ย่อยได้ยากกวา่ ข.ให้พลงั งานน้อยกวา่ ค.ให้จ่านวนกรดอะมโิ นทีจ่าเปน็ นอ้ ยกวา่ ง.ให้ชนดิ กรดอะมโิ นทีจา่ เปน็ นอ้ ยกวา่ 2. น่าตาลโมเลกลุ เดียวทไี ด้จากการสลายตวั ของ น่านม คอื ก. กลูโคส ข. ซโู ครส ค. กาแลคโตส ง. ฟรกุ โตส 3. สารในข้อใดต่อไปนี ไม่ใช่ สารประกอบอินทรยี ์ ก. น่า ข. โปรตนี ค. ไขมัน ง. วิตามนิ 4. สารอาหารประเภทใดช่วยในการนา่ วติ ามินเอเข้าสรู่ ่างกาย ก. น่า ข. กลโู คส ค. กรดอะมิโน ง. ไขมัน

5. พอลิเมอร์ทีมีโครงสรา้ งแบบใดทมี ีความแข็งมากแต่ ไม่ยืดหยนุ่ เมอื ได้รับความร้อนสูงจะแตก ก.โครงสรา้ งแบบกงิ ข.โครงสรา้ งแบบเสน้ ค.โครงสร้างแบบรา่ งแห ง.โครงสรา้ งแบบกิงและแบบร่างแห 6. โครงสร้างทที ่าหนา้ ทเี ปรยี บไดก้ บั สมองของเซลลไ์ ดแ้ ก่ข้อใด ก.นวิ เคลียส ข.คลอโรพลาสต์ ค.เซนทริโอล ง.ไรโบโซม 7.โครงสร้างใดของเซลลม์ ีเฉพาะในเซลล์ของพืชเท่านัน ก.ผนังเซลล์ ข.เยอื หมุ้ เซลล์ ค.นวิ เคลยี ส ง.ไซโทรพลาซมึ 8.การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงเปน็ กระบวนการทีพชื สร้างอะไร ก. แป้ง และ ออกซเิ จน ข. คาร์โบไฮเดรต และ ออกชเิ จน ค. นา่ ตาล และ คารบ์ อนไดออกไซด์

ง. แปง้ และ คาร์บอนไดออกไซด์ 9. พืชในข้อใดต่อไปนีอาศัยการสืบพันธุ์โดยการแบ่งตัว ก. เฟิร์น ข. เห็ด ค. รา ง. สาหรา่ ยเซลลเ์ ดยี ว 10. การสบื พนั ธุข์ องสัตว์แบง่ ออกเปน็ กปี ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเขม้ เติมเตม็ ความรู้ กศน. เตรียมความพรอ้ มวิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย 1. โปรตนี จากพืชมีคุณคา่ ทางอาหารต่ากวา่ โปรตนี จากสัตว์เพราะ ก.ย่อยได้ยากกว่า ข.ใหพ้ ลังงานน้อยกวา่ ค.ให้จา่ นวนกรดอะมิโนทีจา่ เป็นนอ้ ยกวา่ ง.ใหช้ นดิ กรดอะมโิ นทจี า่ เป็นนอ้ ยกวา่ 2. น่าตาลโมเลกลุ เดยี วทีได้จากการสลายตวั ของ นา่ นม คือ ก. กลโู คส ข. ซโู ครส ค. กาแลคโตส ง.ฟรุกโตส 3. สารในขอ้ ใดต่อไปนี ไมใ่ ช่ สารประกอบอนิ ทรีย์ ก. น่า ข. โปรตีน ค. ไขมนั ง. วิตามิน 4. สารอาหารประเภทใดช่วยในการนา่ วติ ามินเอเข้าสู่รา่ งกาย ก. น่า ข. กลูโคส ค. กรดอะมิโน ง. ไขมนั 5. พอลเิ มอร์ทีมีโครงสรา้ งแบบใดทมี ีความแข็งมากแต่ ไม่ยืดหย่นุ เมือได้รบั ความร้อนสงู จะแตก ก.โครงสรา้ งแบบกิง ข.โครงสรา้ งแบบเสน้ ค.โครงสรา้ งแบบร่างแห ง.โครงสร้างแบบกงิ และแบบร่างแห 1

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ กศน. 6. วัตถุดิบในการผลิตยางสังเคราะห์ได้มาจากแหล่งใด ก.ปโิ ตรเลียม ข.น่ามัน ค.แกส๊ ธรรมชาติ ง.ถา่ นหิน 7. สารเคมกี า่ จัดศตั รูพชื เขา้ ส่ทู างรา่ งกายทางใดมากทีสดุ ก.การเข้าส่รู า่ งกายทางผวิ หนัง ข.การเขา้ ส่รู า่ งกายทางการหายใจ ค.การเขา้ สู่รา่ งกายทางการกลืนกิน ง.การเขา้ สรู่ า่ งกายทางอาหาร 8. ข้อใดคือปรมิ าณเวกเตอร์ ข.ความเรง่ , มวล ก.ระยะทาง , เวลา ง.น่าหนัก , มวล ค.ความเรว็ , การกระจดั 9. ขอ้ ใดคือการน่าเอาประโยชนแ์ รงมาใชใ้ นชีวติ ประจา่ วนั ก.การหิวตะกรา้ ข.การใช้คานไม่งดั ท่อนซุง ค.การกลิงล้อยางบนทีเสมอ ง.การเขยี นปา้ ยผ้า 10. ขอ้ ใดเป็นการใชท้ ัง แรงผลกั และแรงดึงในเวลาเดยี วกัน ก.การกวาดขยะ ข.การถูพืน ค.การยิงธนู ง.การเล่นบาสเก็ตบอล 2

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเข้มเติมเตม็ ความรู้ กศน. 11. มนษุ ยไ์ ดส้ ง่ ดาวเทยี มหรือยานอวกาศไปโคจรรอบโลกไดโ้ ดยอาศยั พาหนะใด ก.จรวด ข.กระสวยอวกาศ ค.ยานขนสง่ อวกาศ ง.ยานขนส่งดาวเทียม 12. ดาวเทยี มชนิดใดทมี ีอปุ กรณ์ส่ารวจแหลง่ ทรัพยากรทสี ่าคัญ และเฝา้ สงั เกตสภาวะแวดลอ้ มทเี กิดบนโลก ก.ดาวเทยี มสือสาร ข.ดาวเทียมอตุ ุนิยมวิทยา ค.ดาวเทยี มส่ารวจทรพั ยากรโลก ง.ดาวเทียมสงั เกตการณ์ดาราศาสตร์ 13. ดาวเทยี มชนิดใดทีมีกลอ้ งโทรทรรศนแ์ ละอุปกรณด์ าราศาสตรส์ ่าหรับศึกษาวัตถุบนทอ้ งฟ้า ก.ดาวเทียมสอื สาร ข.ดาวเทียมอุตุนยิ มวิทยา ค.ดาวเทยี มส่ารวจทรพั ยากรโลก ง.ดาวเทียมสังเกตการณ์ดาราศาสตร์ 14. สถานอี วกาศเมยี ร์ เปน็ สถานอี วกาศภายใต้การดแู ลของชาตดใิ ด ก.สหรัฐอเมรกิ า ข.รสั เซีย ค.องั กฤษ ง.เยอรมัน 15. การติดตังวงจรไฟฟ้าใช้ในบา้ นควรตอ่ แบบใดจึงจะเหมาะสมในการใช้งาน ก.การต่อไฟฟา้ กระแสตรง ข.การต่อไฟฟา้ กระแสสลับ ค.การต่อไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับ ง.แบบใดก็ได้ 16. ขันตอนสดุ ทา้ ยในการใช้อปุ กรณ์ช่างไฟฟ้าคือข้อใด ข.ชโลมนา่ มันทกุ ครงั ก.ล้างท่าความสะอาด ง.เก็บเฉพาะทจี ่าเป็น ค.เก็บเข้ากล่องเครอื งมือใหเ้ รียบร้อย 17. การเดนิ สายไฟฟ้าบ้านทุกครงั ควรเดนิ ก่อนการท่ากิจกรรมใด จึงจะถูกต้อง ก.ก่อนการฉาบผิวผ่าน ข.กอ่ นการปฝู า้ หลังคาบ้าน ค.ก่อนทาสบี า้ น ง.เมอื ใดก็ได้ทีพรอ้ ม 3

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เข้มเติมเตม็ ความรู้ กศน. 18. การตดิ ตงั หลอดไฟฟ้าในบา้ นควรใช้หลอดแบบใด ก.หลอดตะเกยี บ ข.หลอดธรรมดา ค.หลอดนีออน ง.หลอดชมพู 19. นา่ ตาลโมเลกุลเดียวชนิดใดทีพบใน ผลไม้ ก. กลโู คส ข. ซโู ครส ค. กาแลคโตส ง.ฟรกุ โตส 20. สารในข้อใดทีเกดิ ขนึ จากปฏกิ ริ ยิ าคายความร้อน ก.ยเู รยี ข.โซเดียมไฮดรอกไซด์ ค.กา่ มะถัน ง.การบูร 4

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเขม้ เตมิ เต็มความรู้ กศน. เตรียมความพร้อมวิชาวิทยาศาสตร์ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1. คา่ นา้ ทบี่ า้ น 3 เดือนทีผ่ า่ นมาสูงกวา่ ปกติ จากข้อความเกดิ จากทกั ษะข้อใด ก.สงั เกต ข.ตังปญั หา ค.ตังสมมติฐาน ง.ออกแบบการทดลอง 2. กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ขันตอนใด ทจี่ ะนา้ ไปสู่การสรุปผลและการศึกษาต่อไป ก.การตังสมมติฐานและการออกแบบการทดลอง ข.การหาความสัมพันธข์ องขอ้ เทจ็ จริง ค.การรวบรวมขอ้ มลู ง.การสังเกต 3. ในการออกแบบการทดลองจะต้องยึดอะไรเปน็ หลัก ก.สมมตฐิ าน ข.ข้อมลู ค.ปญั หา ง.ขอ้ เท็จจริง 4. ลกั ษณะนสิ ยั ของนักวิทยาศาสตรข์ ้อใดทีท่ ้าให้งานประสบความสา้ เร็จ ก.ชอบจดบันทกึ ข.รักการอา่ น ค.ชอบคน้ ควา้ ง.ความพยายามและอดทน 5. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของสมมตฐิ านท่ดี ี ก.สามารถอธบิ ายปัญหาไดห้ ลายแงห่ ลายมุม ข.สามารถแกป้ ญั หาทส่ี งสัยไดอ้ ย่างชัดเจน ค.สามารถอธิบายปญั หาต่าง ๆ ไดช้ ดั เจน ง.ครอบคลุมเหตกุ ารณ์และปรากฏการณ์ต่าง ๆ ภายในสภาพแวดล้อมเดยี วกนั 6. โครงงานวิทยาศาสตร์มีก่ปี ระเภท ก.4 ประเภท ข.5 ประเภท ค.6 ประเภท ง.7 ประเภท 1

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเข้มเตมิ เต็มความรู้ กศน. 7. โครงงานวทิ ยาศาสตรแ์ บบใดทเี่ หมาะสมท่ีสดุ กับนักศึกษาระดบั มัธยมศึกษาทค่ี วรท้าเพื่อฝึกประสบการณ์ ก.โครงงานส้ารวจ ข.โครงงานทฤษฎี ค.โครงงานทดลอง ง.โครงงานอธิบาย 8. ผลการทดลองทางวทิ ยาศาสตรท์ ่นี ่าเช่ือถือได้ต้องเปน็ อย่างไร ก.สรปุ ผลได้ชดั เจนดว้ ยตนเอง ข.ท้าซ้าหลาย ๆ ครังและผลเหมอื นเดมิ ทุกครัง ค.ครูทป่ี รึกษารับประกันผลงาน ง.ใหเ้ พือ่ นสรปุ ให้ 9. อตุ สาหกรรมใดไมจ่ ัดอยใู่ นอุตสาหกรรมครอบครวั ก.การทา้ ร่ม ข.การทอผา้ ค.การสีข้าว ง.การทา้ กระดาษ 10. ข้อใดต่อไปนเี ป็นการเคล่ือนทีใ่ นแนวตรง ก.คนแกว่งชงิ ชา้ ข.พดั ลมกา้ ลังหมุน ค.คนกา้ ลังดงึ รอก ง.นักฟุตบอลเตะลูกบอลใหโ้ ดง่ 11. โครงสรา้ งของเซลลใ์ ดทา้ หนา้ ที่ควบคมุ การผา่ นเขา้ ออกของสาร ก.ผนังเซลล์ ข.เยอ่ื หุ้มเซลล์ ค.เซลลค์ มุ ง.ไลโซโซม 12. โครงสรา้ งของเซลล์ทีท่ ้าหน้าที่สงั เคราะห์โปรตนี คอื ก.กอลจิคอมเพลก็ ซ์ ข.ไรโบโซม 2

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการติวเขม้ เติมเต็มความรู้ กศน. ค.ไลโซโซม ง.แวควิ โอล 13. โครงสร้างใดของเซลล์ทที่ ้าใหเ้ ซลลพ์ ชื คงรปู ร่างอยู่ไดแ้ มว้ า่ เซลล์นนั จะได้รับนา้ มากเกินไป ก.ผนงั เซลล์ ข.เยื่อหุ้มเซลล์ ค.นวิ เคลยี ส ง.ไซโทรพลาซมึ 14. โครงสรา้ งท่ีทา้ หนา้ ทีเ่ ปรียบไดก้ บั สมองของเซลล์ไดแ้ ก่ขอ้ ใด ก.นิวเคลยี ส ข.คลอโรพลาสต์ ค.เซนทริโอล ง.ไรโบโซม 15.โครงสร้างใดของเซลลม์ ีเฉพาะในเซลล์ของพชื เท่านนั ก.ผนังเซลล์ ข.เย่ือหมุ้ เซลล์ ค.นิวเคลียส ง.ไซโทรพลาซึม 16.การสังเคราะหด์ ว้ ยแสงเป็นกระบวนการท่ีพืชสร้างอะไร ก. แปง้ และ ออกซิเจน ข. คาร์โบไฮเดรต และ ออกชิเจน ค. น้าตาล และ คาร์บอนไดออกไซด์ ง. แป้ง และ คารบ์ อนไดออกไซด์ 17. พืชในขอ้ ใดต่อไปนีอาศยั การสืบพันธโุ์ ดยการแบ่งตวั ก. เฟริ น์ ข. เห็ด ค. รา ง. สาหรา่ ยเซลล์เดยี ว 3

อำนวยกำรสอนโดย อ.ณฐั ริกำ รอดสถิตย์ รายการตวิ เขม้ เตมิ เตม็ ความรู้ กศน. 18. การสืบพันธขุ์ องสัตวแ์ บ่งออกเปน็ กี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท 19. จงเรยี งล้าดบั อ้านาจทะลุทะลวงผา่ นของรังสแี อลฟา, บีตา้ และแกมมา จากมากไปน้อย ก. แอลฟา บตี ้า แกมม่า ข. บีตา้ แอลฟา แกมม่า ค. แกมมา่ บตี า้ แอลฟา ง. แกมมา่ แอลฟา บีตา้ 20. รงั สชี นดิ ใดทน่ี ยิ มน้ามาใช้ในการอาบรังสีผลไม้ ก.รังสแี อลฟา ข.รังสีบีต้า ค.แกมมา่ ง.รังสอี นิ ฟาเรด 4

แบบทดสอบหลังเรยี นวชิ าวิทยาศาสตร์ ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย 1. สารในข้อใดตอ่ ไปน้ี ไมใ่ ช่ สารประกอบอินทรีย์ ก. นา้ ข. โปรตนี ค. ไขมัน ง. วติ ามนิ 2. สารอาหารประเภทใดชว่ ยในการนา้ วิตามินเอเขา้ สรู่ า่ งกาย ก. น้า ข. กลูโคส ค. กรดอะมโิ น ง. ไขมนั 3. โครงสร้างใดของเซลลม์ เี ฉพาะในเซลลข์ องพืชเท่าน้นั ก.ผนังเซลล์ ข.เย่อื หมุ้ เซลล์ ค.นิวเคลยี ส ง.ไซโทรพลาซึม

4. โปรตนี จากพืชมคี ณุ ค่าทางอาหารต้า่ กว่าโปรตนี จากสัตว์เพราะ ก.ยอ่ ยไดย้ ากกว่า ข.ใหพ้ ลงั งานน้อยกว่า ค.ใหจ้ ้านวนกรดอะมโิ นทจี่ ้าเป็นน้อยกว่า ง.ให้ชนดิ กรดอะมิโนทจ่ี ้าเป็นนอ้ ยกว่า 5. น้าตาลโมเลกลุ เด่ียวท่ไี ดจ้ ากการสลายตวั ของ น้านม คอื ก. กลูโคส ข. ซโู ครส ค. กาแลคโตส ง. ฟรกุ โตส 6. พืชในข้อใดตอ่ ไปนีอ้ าศยั การสบื พันธโ์ุ ดยการแบง่ ตวั ก. เฟิร์น ข. เหด็ ค. รา ง. สาหรา่ ยเซลลเ์ ดยี ว 7. การสืบพนั ธุข์ องสตั วแ์ บง่ ออกเปน็ กป่ี ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท

8. พอลเิ มอร์ทม่ี ีโครงสรา้ งแบบใดทม่ี คี วามแขง็ มากแต่ ไมย่ ดื หยนุ่ เม่อื ได้รบั ความร้อนสูงจะแตก ก.โครงสรา้ งแบบกง่ิ ข.โครงสร้างแบบเสน้ ค.โครงสร้างแบบร่างแห ง.โครงสร้างแบบกงิ่ และแบบรา่ งแห 9. โครงสร้างทท่ี ้าหนา้ ทีเ่ ปรียบได้กบั สมองของเซลลไ์ ด้แกข่ อ้ ใด ก.นิวเคลียส ข.คลอโรพลาสต์ ค.เซนทรโิ อล ง.ไรโบโซม 10.การสงั เคราะห์ด้วยแสงเปน็ กระบวนการท่ีพชื สร้างอะไร ก. แป้ง และ ออกซิเจน ข. คาร์โบไฮเดรต และ ออกชิเจน ค. น้าตาล และ คารบ์ อนไดออกไซด์ ง. แปง้ และ คาร์บอนไดออกไซด์