เอกสารติวเข้ม กศน. สระแก้ว ภาษาไทย อ.คมสันต์

วิชาภาษาไทย อาจารยค มสันต อนุ เจรญิ

1 แบบทดสอบก่อนเรียนวชิ าภาษาไทย 1. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง 1. ภาษาเกิดจากการเลียนเสียงส่ิงแวดลอ้ ม 2. ภาษาของมนุษยเ์ กิดข้นึ ใหม่และตายได้ 3. ภาษาทกุ ภาษาตอ้ งมี สระ พยญั ชนะ วรรณยกุ ต์ 4. ภาษายอ่ มคลีคลายขยายตวั ตามเจริญของมนุษย์ 2. ขอ้ ใดมีการสื่อสารต่างจากขอ้ อื่น 2. แกว้ จอดรถเม่ือสญั ญาณไฟแดง 1. มดโบกมือลาเพอื่ นๆ 4. ตุ๊กตาโดนงูกดั จึงร้องดว้ ยความเจบ็ ปวด 3. นกเอาดอกไมไ้ ปไหวศ้ าลพระภูมิ 3. ขอ้ ใดอา่ นไดแ้ บบเดียว 2. ราชบุรี 3. นนทบุรี 4. ชลบุรี 1. เพชรบุรี 4. ขอ้ ใดเป็นสาระสาคญั ของขอ้ ความต่อไปน้ี การบริหารร่างกายบางอย่าง เช่น โยคะและมวยจีน แม้จะไม้ได้ออกกาลงั จนเหน่ือย แต่กม็ ีส่วนคลาย เครียดได้มาก เพราะท้งั โยคะและมวยจีนจะมีท่วงท่าทีต่ ่อเนื่อง ประกอบกบั จงั หวะหายใจเข้าออกทส่ี ัมพนั ธ์ กนั ทาให้จิตใจเกดิ สมาธิ และลดความฟ้งุ ซ่านในจติ ใจ และลดความวติ กกงั วล บางปัญหาเราหาทางออกไม่ได้ เพราะจติ ใจฟุ้งซ่าน หากจติ ใจสงบลงกจ็ ะคดิ หาทางออกท่ีดไี ด้ดงั ท่ผี มประสบมาแล้ว 1. การบริหารร่างกายช่วยฝึกสมาธิไดเ้ ป็นอยา่ งดี 2. การเล่นโยคะและมวยจีนเป็นการบริหารร่างกายที่ไดร้ ับความนิยม 3. การบริหารร่างกายดว้ ยโยคะและมวยจีนช่วยใหจ้ ิตสงบไม่ฟ้งุ ซ่าน 4. การบริหารร่างกายดว้ ยโยคะและมวยจีนตอ้ งกาหนดลมหายใจใหส้ มั พนั ธก์ บั ท่าทาง ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ี๋ KRUCLUB

2 5. ขอ้ ความใดต่อไปน้ีส่วนใดไม่เป็นภาษาระดบั ทางการ 1) บ้านไหนเลยี้ งพวกไก่ หมู วัว กจ็ ะเกบ็ มูลมาทาป๋ ยุ หมักแห้งได้/ 2) โดยนามูลสัตว์ แกลบเผา รา ละเอยี ด นา้ สกดั ชีวภาพ และนา้ ตาลมาผสมกนั ในนา้ / 3) คนจนละลายเข้ากนั ให้ได้ความชื้นพอประมาณ หมักไว้ประมาณ 4 - 5 วนั จึงนาไปใช้/ 4) เมื่อแห้งแล้วให้เกบ็ ในทร่ี ่มจะใช้ได้นานหลายเดือน 1. ส่วนท่ี 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนท่ี 4 6. ขอ้ ใดสะกดถูกตอ้ งทุกคา 2. หมูหยอ็ ง ฮ่อยจอ๊ 1. ก๋วยจบั๊ ผดั ไทย 4. หมูกะทะ ผดั กะเพรา 3. ราดหนา้ แพนง 7. ขอ้ ความส่วนใดไม่ใช่การพรรณนา 1) ลุงดาเป็ นคนร่างเล็ก ผอมเกร็น/ 2) ใบหน้ากร้านแดด เห็นรอยย่นลึกที่กลางหน้าผาก/ 3) มี ปอยเคราสี ขาวตรงปลายคางยาวลงมาถึงกลางอกในยามครุ่ นคิดใคร่ ครวญลุงจะลูบไล้ เคราขาวอย่ าง ช้าๆ/ 4) วนั หนึ่งลุงโกรธเดก็ เณรทมี่ าล้อ เลยเดนิ ไปโกนเคราทงิ้ เสียท่ีร้านหน้าปากซอย 1. ส่วนที่ 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนท่ี 3 4. ส่วนที่ 8. ขอ้ ใดใชส้ านวนไดถ้ ูกตอ้ ง 1. เธอทางานหนกั จนเลือดตาแทบกระเดน็ เพื่อหาเงินมาเล้ียงลูก ๆ 2. นอ้ งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ทุก ๆ คนจึงรักและดูแลเธอราวกบั ดาวลอ้ มเดือน 3. ชลทาธุรกิจหลายดา้ น และเพื่อใหธ้ ุรกิจดาเนินไปดว้ ยดี บางคร้ังเคา้ จึงตอ้ งเสียเบ้ียบา้ ยรายทาง บา้ ง 4. หลงั จากจดั งานศพใหพ้ อ่ แลว้ ชยั ตอ้ งทางานใชห้ น้ีอยหู่ ลายปี เขา้ ทานองตาน้าพริกละลายแม่น้า ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ี๋ KRUCLUB

3 9. วรรณกรรมในขอ้ ใดต่างจากขอ้ อ่ืน 2. บา้ นทรายทอง 1. ส่ีแผน่ ดิน 4. ผาแดงนางไอ่ 3. ทวภิ พ 2. สร้างความคุน้ เคยกบั สถานท่ีและอปุ กรณ์ที่พดู 10. ขอ้ ไม่ใช่คุณสมบตั ิของนกั พดู มืออาชีพ 4. สร้างบรรยากาศเป็นกนั เองกบั ผฟู้ ัง 1. มีอารมณ์ขนั ตลอดเวลา 3. สังเกตผฟู้ ังขณะพดู ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ๋ี KRUCLUB

1 แนวโน้มข้อสอบวชิ าภาษาไทย (N-NET) ปี การศึกษา 2565 ความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพืน้ ฐานเกยี่ วกบั ภาษาไทยและการส่ือสาร 1. การฟัง การดู 2. การพูด 3. การอ่าน 4. การเขียน 5. หลกั ภาษาไทย 6. วรรณคดี วรรณกรรม 7. ภาษาไทยเพ่ือการประกอบอาชีพ ตกี รอบข้อสอบภาษาไทย (N-NET) 1. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ ง 1. ภาษาเกิดก่อนมนุษย์ 2. ภาษาช่วยพฒั นาความคิด 3. ภาษาใชส้ ร้างงานศิลปะ 4. ภาษาคือเสียงกบั ความหมาย 2. ขอ้ ใดมีองคป์ ระกอบการ สื่อสารครบถว้ น 2. วชิ ยั เขียนคาตอบลงในสมุด 1. เดือนเด่นเรียนร้องเพลง 4. สุดาอา่ นประกาศรับสมคั รงาน 3. โสภากลา่ วขอบคุณเพอื่ น 3. ขอ้ ใดอธิบายความหมายของการฟังไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1. การไดย้ นิ เสียงจากแหล่งเสียงต่างๆ แลว้ รู้วา่ เสียงน้นั คือเสียงอะไร 2. การรับรู้เรื่องราวดว้ ยการไดย้ นิ เสียงและสามารถเขา้ ใจ ประเมินคา่ จากเสียงน้นั ได้ 3. การเกิดความสุข ความเพลิดเพลินดว้ ยการฟังเสียงท่ีไดย้ นิ จากแหล่งเสียงต่างๆ 4. การประเมินระดบั ความดงั ของเสียงที่ไดย้ นิ จากแหลง่ เสียงต่างๆ ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB (1)

2 4. ขอ้ ใดไม่ใช่มารยาทที่ดีในการพดู 1. สมหญิงกลา่ วทกั ทายผฟู้ ังทุกคร้ังเม่ือออกไปนาเสนอรายงานหนา้ ช้นั เรียน 2. ผฟู้ ังในหอ้ งประชุมปรบมือช่ืนชมการพดู ของสมยง สมยงจึงพดู ตอ่ เพอ่ื ใหผ้ ฟู้ ังประทบั ใจมากยง่ิ ข้ึน 3. สมศกั ด์ิใชน้าเสียงธรรมชาติของตนเองในการกลา่ วสุนทรพจน์ หนา้ เสาธง 4. สมหวงั มาถึงสถานท่ีพดู ก่อนเวลาท่ีจะข้ึนพดู 5. เน้ือหาการเขียนในขอ้ ใดแตกต่างจากขอ้ อื่น 2. เขียนรายงาน 1. เขียนบทความ 4. เขียนขา่ ว 3. เขียนนวนิยาย 6. ขอ้ ใดสะกดถูกตอ้ งทุกคา มรณภาพ 1. ภาพยนต์ ภตู ผี สงั สรรค์ 2. อญั ชญั อาเจียน มงกฎุ 3. โหยหวน อภิรมย์ เบนซิน 4. พแนง ผกู พนั 7. ขอ้ ความต่อไปน้ีมีวธิ ีการเขียนตามขอ้ ใด เต่าทะเลเป็ นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลงั หายใจด้วยปอด มีกระดองปกคลุมร่างกายเพ่ือปกป้อง ตัวเอง เต่าทะเลจะอาศัยเฉพาะในเขตร้อนและเขตอบอุ่น มีอายุเฉลยี่ ประมาณ 50 ปี บรรพบุรุษของเต่าเป็ น สัตว์ทีอ่ าศัยอยู่ในยคุ ดกึ ดาบรรพ์ ยุคเดยี วกบั ไดโนเสาร์ และมีววิ ฒั นาการมาจนถงึ ปัจจุบนั 1. อธิบาย 2. บรรยาย 3. บรรยายและพรรณนา 4. อธิบายและบรรยาย ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพต่ี ี๋ KRUCLUB (2)

3 8. ขอ้ ใดใชภ้ าษาเหมาะสมกบั การเขียนรายงานเชิงวิชาการ 1. งาข้ีม่อนหรืองาม่อนนิยมทานกนั ในแถบเอเชียมานานมากแลว้ 2. ทางตอนเหนือของไทยมีการปลูกงาข้ีม่อนกนั อยา่ งแพร่หลาย 3. สารสกดั จากเมลด็ งามอ้ นมีกรดไขมนั โอเมกา้ 3 ซ่ึงจาเป็นต่อร่างกาย 4. สารเซซามอลในงามอ้ นช่วยป้องกนั มะเร็งแถมยงั ช่วยใหแ้ ก่ชา้ อีกดว้ ย 9. ขอ้ ความต่อไปน้ีควรเป็นส่วนใดของเรียงความเร่ือง “พ่อของแผ่นดนิ ” พระราชกรณียกิจท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบาเพ็ญตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ท่ีผ่านมา เป็ นท่ีประจักษ์ว่าพระองค์เป็ นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรมเพ่ือประโยชน์สุขของ มหาชนชาวสยามอย่างแท้จริง และทรงเป็ นพ่อผู้ประเสริฐอย่างหาท่เี ปรียบมิได้ของอาณาประชาราษฎร์ ท้งั ปวง 1. ความนา 2. เน้ือเรื่อง 3. ส่วนขยายเน้ือเร่ือง 4. ความลงทา้ ย 10. คาในขอ้ ใดอา่ นได้ 2 แบบ 1. สุคติ 2. กลไก 3. กรกฎ 4. อรหนั (สตั ว)์ 11. คาในขอ้ อา่ นไดห้ ลายแบบ 1. ภูมิภาค 2. ภูมิประเทศ 3. ภมู ิศาสตร์ 4. ภมู ิปัญญา ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพตี่ ี๋ KRUCLUB (3)

4 12. ขอ้ ใดเป็นประเดน็ สาคญั ของขอ้ ความต่อไปน้ี ฝายชะลอนา้ แม้จะไม่ใช่ส่ิงก่อสร้างทีจ่ ะนาไปใช้แก้ปัญหานา้ ท่วมในเมืองหรือนา้ ท่วมในปริมาณ มหาศาล แต่กจ็ ะช่วยชะลอนา้ ไม่ให้ไหลเร็วเกนิ ไปเพ่ือป้องกนั นา้ ท่วม พืน้ ท่ีปลายนา้ ฝายจะช่วยเกบ็ กกั นา้ ให้ พืน้ ท่มี คี วามชุ่มชื้นได้นาน เป็ นแหล่งสารอง นา้ ในหน้าแล้งได้ด้วย การสร้างมิได้ซับซ้อนยุ่งยาก ชาวบ้านก็ ช่วยกนั สร้างได้ อกี ท้งั ไม่ต้องตดั ต้นไม้ในพืน้ ที่ทีจ่ ะสร้าง 1. วธิ ีใชฝ้ ายแกป้ ัญหาน้าท่วม 2. ประโยชนข์ องฝายชะลอน้า 3. การแกป้ ัญหาน้าท่วมและภยั แลง้ 4. ฝายชะลอน้ากบั การอนุรักษธ์ รรมชาติ 13. ขอ้ ใดไม่ไดก้ ล่าวถึงในขอ้ ความต่อไปน้ี การเพมิ่ คลอรีนในนา้ ประปาในช่วงฤดูร้อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคระบบทางเดนิ อาหารทาให้นา้ ประปามีกลนิ่ คลอรีนเพ่ิมขึ้น โดยเฉพาะบริเวณบ้านพักอาศัยที่อยู่ใกล้โรงงานผลิตน้า กล่ินคลอรีนจะระเหยไปเองถ้า กรองน้าประปาใส่ภาชนะสะอาดต้ังทิง้ ไว้ประมาณ 20 นาที อย่างไรก็ตามการประปานครหลวงได้ควบคุม ปริมาณคลอรีนให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานน้าดื่มขององค์การอนามัยโลก จึงม่ันใจได้ว่าปริมาณคลอรีนที่ เพมิ่ ขนึ้ จะไม่เป็ นอนั ตรายต่อสุขภาพอนามยั แต่อย่างใด 1. โทษของคลอรีนในน้าประปา 2. วธิ ีกาจดั กล่ินคลอรีนในน้าประปา 3. สาเหตุของการเพมิ่ คลอรีนในน้าประปา 4. การควบคุมปริมาณคลอรีนในน้าประปา 14. ขอ้ ใดแปลความหมายผดิ 2. ฉลองพระเนตร หมายถึง แวน่ ตา 1. ถุงพระบาท หมายถึง ถุงเทา้ 4. ซบั พระองค์ หมายถึง ผา้ เช็ดตวั 3. ฉลองพระหตั ถ์ หมายถึง ถุงมือ ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพต่ี ๋ี KRUCLUB (4)

5 15. ขอ้ ใดแสดงเจตนาของผสู้ ่งสารต่างกบั ขอ้ อื่น 1. โครงการบา้ นเลก็ ในป่ าใหญต่ ามพระราชดาริไดท้ ดลองเล้ียงปลาสเตอร์เจียนบนดอยอินทนนท์ 2. การเล้ียงปลาปลาสเตอร์เจียนตอ้ งใชเ้ วลา 8 – 10 ปี กวา่ จะไดไ้ ขป่ ลามาผลิตเป็นไข่คาเวียร์ 3. ไข่คาเวียร์ไดม้ าจากการนาไขป่ ลาสเตอร์เจียนมาหมกั กบั เกลือนานถึง 2 ปี 4. ไข่คาเวยี ร์ดอยคากระปุกละ 5,000 บาท ถึงจะแพงแต่คุณภาพสุดคุม้ สน้ คา้ มีจานวนจากดั 16. สานวนใดเหมาะสมท่ีจะเติมในช่องวา่ งของขอ้ ความต่อไปน้ี เราควรนึกถึงความชอบ ความถนัด และความสามารถของเราก่อนจะเลือกเรียนสาขาใด สาขาหน่ึง อย่า __________________ เลือกเพราะความนิยมหรือเพราะเพ่ือนเลือก 1. จบั ปลาสองมือ 2. ตกกระไดพลอยโจน 3. เหยยี บเรือสองแคม 4. เห็นชา้ งข้ี ข้ีตามชา้ ง 17. คาในขอ้ ใดใชไ้ ดม้ ากกวา่ 1 ความหมายท้งั สองคา 1. มือขวา จบั เส้น 2. ซ้าซอ้ น เปิ ดกลอ้ ง อ่อนขอ้ 3. ตามเรื่อง ลวงโลก 4. ตาแมว 18. ขอ้ ใดใชค้ าผิดความหมาย 1. ฉนั นอนอยกู่ าลงั เคลิบเคลิม้ กต็ กใจต่ืนเพราเสียงฟ้าผา่ 2. ตอนปิ ดภาคเรียนลูกๆของเขากร็ ่าร้องจะไปเที่ยวทะเลกนั 3. อาจารยใ์ หน้ กั เรียนสืบคน้ ความเป็นมาของผา้ ทอในประเทศไทย 4. พลเมืองดีวงิ่ ไล่กวดคนร้ายท่ีกระชากสร้อยคอของหญิงสาวไปติดๆ ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB (5)

6 19. ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั วรรณคดีทอ้ งถิ่น 1. เก่ียวขอ้ งกบั วฒั ธรรม ความเชื่อ 2. มีส่วนช่วยใหเ้ กิดความบนั เทิง 3. เป็นขอ้ มูลที่สืบทอดกนั มาจากมุขปาฐะ 4. ปรากฏชื่อผแู้ ต่ง หรือเจา้ ของผลงานชดั เจน 20. ขอ้ ใดไม่ใชอาชีพท่ีเกิดจากการใชท้ กั ษะการสื่อสารภาษาไทยอยา่ งมีประสิทธิภาพ 1. นกั ขา่ ว 2. นกั จดั รายการวทิ ยุ 3. นกั เขียน 3. นกั ดนตรี ภาษาไทย อารมณ์ดี ครูพต่ี ี๋ KRUCLUB (6)

1 1. ขอ้ ใดสะกดถูกตอ้ งทุกคำ แบบทดสอบหลงั เรียนวชิ าภาษาไทย 1. ก๋วยจบ๊ั ผดั ไทย 3. รำดหนำ้ แพนง 2. หมูหยอ็ ง ฮ่อยจ๊อ 4. หมูกะทะ ผดั กะเพรำ 2. วรรณกรรมในขอ้ ใดต่ำงจำกขอ้ อ่ืน 2. บำ้ นทรำยทอง 1. สี่แผน่ ดิน 4. ผำแดงนำงไอ่ 3. ทวภิ พ 3. ขอ้ ใดอำ่ นไดแ้ บบเดียว 2. รำชบุรี 3. นนทบุรี 4. ชลบุรี 1. เพชรบุรี 4. ขอ้ ใดไม่ถูกตอ้ ง 1. ภำษำเกิดจำกกำรเลียนเสียงส่ิงแวดลอ้ ม 2. ภำษำของมนุษยเ์ กิดข้ึนใหม่และตำยได้ 3. ภำษำทกุ ภำษำตอ้ งมี สระ พยญั ชนะ วรรณยกุ ต์ 4. ภำษำยอ่ มคลีคลำยขยำยตวั ตำมเจริญของมนุษย์ 5. ขอ้ ควำมใดต่อไปน้ีส่วนใดไม่เป็นภำษำระดบั ทำงกำร 1) บ้านไหนเลยี้ งพวกไก่ หมู ววั กจ็ ะเกบ็ มูลมาทาป๋ ยุ หมักแห้งได้/ 2) โดยนามูลสัตว์ แกลบเผา รา ละเอยี ด นา้ สกดั ชีวภาพ และนา้ ตาลมาผสมกนั ในนา้ / 3) คนจนละลายเข้ากนั ให้ได้ความชื้นพอประมาณ หมักไว้ประมาณ 4 - 5 วนั จงึ นาไปใช้/ 4) เมื่อแห้งแล้วให้เกบ็ ในท่รี ่มจะใช้ได้นานหลายเดือน 1. ส่วนท่ี 1 2. ส่วนท่ี 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนท่ี 4 6. ขอ้ ใดมีกำรส่ือสำรต่ำงจำกขอ้ อื่น 2. แกว้ จอดรถเม่ือสญั ญำณไฟแดง 1. มดโบกมือลำเพอ่ื นๆ 4. ตุ๊กตำโดนงูกดั จึงร้องดว้ ยควำมเจบ็ ปวด 3. นกเอำดอกไมไ้ ปไหวศ้ ำลพระภมู ิ ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB

2 7. ขอ้ ไม่ใช่คุณสมบตั ิของนกั พดู มืออำชีพ 2. สร้ำงควำมคุน้ เคยกบั สถำนที่และอุปกรณ์ท่ีพดู 1. มีอำรมณ์ขนั ตลอดเวลำ 4. สร้ำงบรรยำกำศเป็นกนั เองกบั ผฟู้ ัง 3. สงั เกตผฟู้ ังขณะพดู 8. ขอ้ ใดใชส้ ำนวนไดถ้ ูกตอ้ ง 1. เธอทำงำนหนกั จนเลือดตำแทบกระเดน็ เพือ่ หำเงินมำเล้ียงลูก ๆ 2. นอ้ งเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว ทุก ๆ คนจึงรักและดูแลเธอรำวกบั ดำวลอ้ มเดือน 3. ชลทำธุรกิจหลำยดำ้ น และเพ่ือใหธ้ ุรกิจดำเนินไปดว้ ยดี บำงคร้ังเคำ้ จึงตอ้ งเสียเบ้ียบำ้ ยรำยทำง บำ้ ง 4. หลงั จำกจดั งำนศพใหพ้ อ่ แลว้ ชยั ตอ้ งทำงำนใชห้ น้ีอยหู่ ลำยปี เขำ้ ทำนองตำน้ำพริกละลำยแม่น้ำ 9. ขอ้ ใดเป็นสำระสำคญั ของขอ้ ควำมต่อไปน้ี การบริหารร่างกายบางอย่าง เช่น โยคะและมวยจีน แม้จะไม้ได้ออกกาลงั จนเหน่ือย แต่กม็ ีส่วนคลาย เครียดได้มาก เพราะท้งั โยคะและมวยจนี จะมที ่วงท่าที่ต่อเน่ือง ประกอบกบั จงั หวะหายใจเข้าออกที่สัมพนั ธ์ กนั ทาให้จติ ใจเกดิ สมาธิ และลดความฟ้งุ ซ่านในจิตใจ และลดความวติ กกงั วล บางปัญหาเราหาทางออกไม่ได้ เพราะจติ ใจฟุ้งซ่าน หากจติ ใจสงบลงกจ็ ะคดิ หาทางออกท่ดี ไี ด้ดงั ท่ผี มประสบมาแล้ว 1. กำรบริหำรร่ำงกำยช่วยฝึกสมำธิไดเ้ ป็นอยำ่ งดี 2. กำรเลน่ โยคะและมวยจีนเป็นกำรบริหำรร่ำงกำยท่ีไดร้ ับควำมนิยม 3. กำรบริหำรร่ำงกำยดว้ ยโยคะและมวยจีนช่วยใหจ้ ิตสงบไม่ฟ้งุ ซ่ำน 4. กำรบริหำรร่ำงกำยดว้ ยโยคะและมวยจีนตอ้ งกำหนดลมหำยใจใหส้ มั พนั ธก์ บั ท่ำทำง 10. ขอ้ ควำมส่วนใดไม่ใช่กำรพรรณนำ 1) ลุงดาเป็ นคนร่างเล็ก ผอมเกร็น/ 2) ใบหน้ากร้านแดด เห็นรอยย่นลึกที่กลางหน้าผาก/ 3) มี ปอยเคราสี ขาวตรงปลายคางยาวลงมาถึงกลางอกในยามครุ่ นคิดใคร่ ครวญลุงจะลูบไล้ เคราขาวอย่ าง ช้าๆ/ 4) วนั หน่ึงลงุ โกรธเดก็ เณรทีม่ าล้อ เลยเดนิ ไปโกนเคราทิง้ เสียทร่ี ้านหน้าปากซอย 1. ส่วนท่ี 1 2. ส่วนที่ 2 3. ส่วนที่ 3 4. ส่วนที่ 4 ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB

1 ภาษาและการสื่อสาร ภาษาและการสื่อสาร ความหมายอย่างกว้าง : การส่งความหมายหรือความเขา้ ใจผา่ นวธิ ีการตา่ งๆ ท้งั คาพดู เสียง ท่าทาง สญั ลกั ษณ์ เพอ่ื ใหอ้ ีกฝ่ ายรับรู้และเขา้ ใจในความหมายน้นั ๆ ความหมายอย่างแคบ : การส่งความเขา้ ใจผา่ นการพดู หรือน้าเสียงเท่าน้นั 1. ชนดิ ภาษา/ชนิดการส่ือสาร (ใหส้ ังเกตจากตวั สื่อเป็นสาคญั ) • วจั นภาบา คือภาษาท่ีใชถ้ อ้ ยคาส่ือความหมาย ไดแ้ ก่กาษาพดู และกาษาเขียน • อวัจนภาษา คอื ภาษาท่ีไมใ่ ชถ้ อ้ ยคาสื่อความหมาย ไดแ้ ก่สีหนา้ /ท่าทาง/สญั ลกั ษณ์/มือ 2. โครงสร้างการสื่อสาร *** ส่ง สื่อ สาร รับ • ผู้ส่ง : บุคคลที่เป็นผถู้ า่ ยทอดสารและส่งสารไปยงั ผรู้ ับ โดยผสู้ ่งมกั ทาหนา้ ที่ ได้ 3 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ผพู้ ดู ผเู้ ขียน ผแู้ สดง • ผู้รับ : บุคคลท่ีเป็นผรู้ ับสารรับความเขา้ ใจจากผสู้ ่ง โดยผรู้ ับมกั ทาหนา้ ที่ 3 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ ผฟู้ ัง ผอู้ า่ น ผชู้ ม (ผสู้ ่งสารและผรู้ ับสารสามารถเป็น บุคคลคนเดียวกนั ไดข้ ้ึนอยกู่ บั สถานการณ์การ ส่ือสารในขณะน้นั ) • ส่ือ : ตวั กลางในการถา่ ยทอดความหมายจากผสู้ ่งไปยงั ผรู้ ับ เช่นเอกสาร ทีวี จอภาพ จดหมาย ขอ้ ความ คาพดู • สาร : ความหมายที่ผสู้ ่งตอ้ งการ จะส่งใหผ้ รู้ ับเขา้ ใจ ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB

2 3. อุปสรรคการส่ือสาร (ส่ิงท่ีทาใหก้ ารสื่อสารในขณะน้นั เป็นไปโดยไมม่ ีประสิทธิภาพทาใหผ้ รู้ ับสารไม่ สามารถ!ขา้ ใจสารท่ีผสู้ ่งพยายามจะส่ือ) ****ส่ง(ผ้สู ่ง) สาร(ตัวสาร) ษา(ภาษาอวจั น) กา(กาลเทศะ) รับ(ผ้รู ับ) ส่ือ(ตวั ส่ือ) • ผสู้ ่ง : ผสู้ ่งขาดความรู้ ความสามารถเกี่ยวกบั สาร • สาร : สารมีความหมายไม่ชดั เจน (สารกากวม) • ภาษา : เป็นภาษาท่ีสื่อความหมายไดไ้ ม่ชดั เจนผรู้ ับสารอาจไม่เขา้ ใจความหมายหากส่ือผา่ นทาง อวจั นภาษา • กาลเทศะ : สิ่งแวดลอ้ มมีผลต่อสารสื่อสาร • ผรู้ ับ : ผรู้ ับไม่มีความพร้อมท่ีจะรับสาร • ส่ือ : ตวั สื่อขดั ขอ้ งหรือติดขดั ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ี๋ KRUCLUB

3 การใช้ระดบั ภาษาในการสื่อสาร 1. ภาษาระดบั พธิ ีการ • ใชส้ ่ือสารกนั ในที่ประชุมท่ีจดั ข้ึนอยา่ งเป็นพธิ ีการ • ผสู้ ่งสารมกั เป็นคนสาคญั มีตาแหน่งสูง ผรู้ ับสารอาจเป็นบุคคลในวงการเดียวกนั ใชภ้ าษา ไพเราะสละสลวย มีการเตรียมบทหรือวาทนิพนธ์มาล่วงหนา้ • การกล่าวเปิ ด ปิ ด งานพิธีต่างๆ และใชใ้ นคาประพนั ธ์ 2. ภาษาระดบั ทางการ • ใชส้ ื่อสารกนั ในการอภิปราย บรรยายอยา่ งเป็นทางการ • ผสู้ ่งสารและผรู้ ับสารมกั อยใู่ นวงการเดียว • สารจะมีลกั ษณะเจาะจง น่าสนใจ ภาษากะทดั รัด • มกั ใชใ้ นการประชุมระดบั นกั การเมือง รัฐสภา หรือเก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองการเมือง • เน้ือหาจะเป็นเร่ืองวิชาการ และ ใชส้ รรพนามอยา่ งเป็นทางการ 3. ภาษาระดบั กงึ่ ทางการ • มกั ใชใ้ นการประชุมกลุ่ม หรืออภิปรายกลุ่ม • เป็นการส่ือการแสดงความคดิ เห็นเชิงวชิ าการ มีศพั ทว์ ิชาการบา้ ง ภาษาที่ใชจ้ ะทาใหร้ ู้สึกคุน้ เคย กวา่ ภาษาระดบั ทางการ • เน้ือหาเก่ียวกบั เร่ืองวชิ าการ แต่จะมีคาศพั ทแ์ ละสรรพนามที่แสดงความเป็นกนั เองระหวา่ งผสู้ ่ง สารและผรู้ ับสาร • เป็นภาษาใชใ้ นการกลา่ วปราศรัยหาเสียงเลือกต้งั • ใชใ้ นการพาดหวั ขา่ วหนงั สือพมิ พห์ นา้ หน่ึง ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ี๋ KRUCLUB

4 4. ภาษาระดบั ไม่เป็ นทางการ (ภาษาสนทนา) • มกั ใชใ้ นการสนทนาระหวา่ งกลุม่ บุคคล 4-5 คนในสถานท่ีสาธารณะ • ผรู้ ับสารและผสู้ ่งสารจะมีความสมั พนั ธ์กนั แบบไม่สนิท • เน้ือหาของสารในเร่ืองทว่ั ไปในชีวติ ประจาวนั ภาษาท่ีใชอ้ าจมีถอ้ ยคาที่ใชก้ นั เฉพาะกลุม่ 5. ภาษาระดบั กนั เอง • ใชก้ นั ในวงจากดั ใชก้ บั บุคคลที่มีความสนิทสนมกนั เช่นคนในครอบครัว แฟน เพื่อนสนิท • สถานที่ที่มกั เป็นที่ส่วนตวั • เน้ือหาของสารเป็นเรื่องทวั่ ไปในชีวติ ประจาวนั • ภาษาที่ใชอ้ าจมีคาคะนองหรือภาษาถิ่น อย่าลืม!! - ภาษาระดบั พธิ ีการและระดบั ทางการ จดั เป็นภาษาท่ีมีแบบแผน - ภาษาระดบั ก่ึงทางการ ภาษาไม่เปี นทางการและภาษากนั เอง จดั เป็น ภาษาไม่มีแบบแผน ***ถา้ เจอคาลกั ษณะต่อไปน้ีจะ จดั เป็นภาษาไม่มีแบบแผนทนั ที ตัดย่อ/ซ้า/ซ้อน/สร้อย/สรรพ - คาตดั คือคาที่ลดรูปลงมาจากคาหรือประโยคเดิม เช่นทาอะไร = ทาไร - คาย่อ คือคาที่ใชอ้ กั ษรยอ่ โดยไม่จาเป็น เช่น กกน. (กางเกงใน) นร. (นกั เรียน) ฯลฯ แต่คายอ่ บางคาท่ี จาเป็นตอ้ งใชก้ ส็ ามารถจดั เป็นภาษาท่ีมีแบบแผน ได้ เช่น พ.ศ. ฯลฯ - คาซ้า คือคาที่ใชไ้ มย้ มกกากบั หลงั คา ยกเวน้ คาวา่ “ต่างๆ” ท่ีสามารถใชไ้ มย้ กมไดแ้ ละจดั เป็นภาษาท่ีมี แบบแผน - คาซ้อน คือคาท่ีมีความหมายเหมือนกนั คลา้ ยกนั หรือตรงกนั ขา้ ม เช่น มากมาย ก่ายกอง, ยงุ่ ยากวนุ่ วาย, ทะเลาะเบาะแวง้ ฯลฯ - คาสร้อย คือคาลงทา้ ยที่ไม่จาเป็นตอ้ งใช้ เช่น จะ๊ , จ๋า, ดว้ ย, แลว้ , ฯลฯ - คาสรรพ คือคาสรรพนามท่ีแสดงความเป็นกนั เองไดแ้ ก่ (ผม, เรา, เขา, มนั , แก) ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ๋ี KRUCLUB

5 ชุดที่ 1 แบบฝึ กหัดเสริม เร่ืองการสะกดคา - กจิ จะลกั ษณะ / กจิ จลกั ษณะ - เจตนารมณ์ / เจตนารมย์ - รังสรรค์ / รังสรร - พธิ ีรีตอง / พธิ ีรีตรอง - คริสต์กาล / คริสตกาล - เท่ห์ / เท่ - โลกาภิวฒั น์ / โลกาภวิ ตั น์ - เซ็นต์ช่ือ / เซ็นชื่อ - ช๊อคโกแลต / ช็อกโกแลต - ตระเวน / ตระเวณ - ดอกจนั / ดอกจันทน์(เคร่ืองหมาย) - ปฐมนิเทศ / ปฐมนิเทศน์ - นานับประการ / นานปั การ - ปล้นสะดม / ปล้นสะดมภ์ - ประสบการ / ประสบการณ์ - พลศึกษา / พละศึกษา - ผูกพนั / ผูกพนั ธ์ - เรี่ยไร / เร่ียราย(ขอเงนิ ) - เกร็ดความรู้ / เกลด็ ความรู้ - ลาใส้ / ลาไส้ - ลาดยาง / ราดยาง - ศรีษะเกษ / ศรีสะเกษ - วพิ ากษ์ / วพิ ากย์ - สุขคติ / สุคติ - สาอาง / สาอางค์ - ออฟฟิ ศ / อ๊อฟฟิ ส - องคชาติ / องคชาต - อบุ าทว์ / อุบาท - อานิสงส์ / อานิสงฆ์ - ฮ่อยจ๊อ / หอยจ๊อ ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ี๋ KRUCLUB

6 ชุดท่ี 2 กรีทา / กรีฑา เกษร / เกสร เกม / เกมส์ กาละเทศะ / กาลเทศะ ขาดดลุ / ขาดดุลย์ เกยี รต์ิ / เกยี รติ ไข่มุก / ไข่มุข คนอง / คะนอง ครุศาสตร์ / ครุ ุศาสตร์ จงกรม / จงกลม โควต้า / โควตา เค้ก / เค๊ก จั๊กจ่นั / จักจัน่ ชะลอ / ชลอ จักรสาน / จักสาน ดอกไม้จนั ทร์ / ดอกไม้จนั ทน์ เซ็นติเมตร / เซนติเมตร เข้าฌาน / เข้าฌาณ ไต้ฝ่ ุน / ใต้ฝ่ นุ ดารงค์ / ดารง ตาหรับ / ตารับ ทศกณั ฑ์ / ทศกณั ฐ์ ทะยอย / ทยอย ไตรยางค์ / ไตรยางศ์ เทอด / เทิด แทก็ ซี่ / แท๊กซี่ ทูต / ฑูต ธรรมเนียม / ทาเนียม เบญจเพส / เบญจเพศ ท้าวความ / เท้าความ ประดดิ ประดอย / ประดษิ ฐ์ประดอย บอระเพด็ / บอระเพชร ปัจฉิมนิเทศก์ / ปัจฉิมนิเทศ บาเน็จ / บาเหน็จ บาททะยกั / บาดทะยกั บุคคลากร / บุคลากร ภาพยนต์ / ภาพยนตร์ สับปะรด / สัปปะรด ไอศกรีม / ไอศครีม อาเจียน / อาเจียร นานา / นาๆ โหรพา / โหระพา ประนาม / ประณาม แก๊ง / แกงค์ ลาไย / ลาใย ซ่าหร่ิม / สร่ิม ตราสังข์ / ตราสัง คริสตศักราช / คริสต์ศักราช มงกฏุ / มงกฎุ ไฟแช็ค / ไฟแช็ก ทะยอย / ทยอย มนุษยวทิ ยา / มานุษยวทิ ยา ลมปราน / ลมปราณ มสั หมนั่ / มสั มัน่ โล่ / โล่ห์ สายสิญจน์ / สายสิญจ์ เลือนลาง / เลือนราง เหลวใหล / เหลวไหล อตั คดั / อตั คตั สิริมงคล /ศิริมงคล ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB

7 เฉลยชุดท่ี 1 - รังสรรค์ / รังสรร - กจิ จะลกั ษณะ / กจิ จลกั ษณะ - คริสต์กาล / คริสตกาล - เจตนารมณ์ / เจตนารมย์ - โลกาภวิ ฒั น์ / โลกาภิวตั น์ - พธิ ีรีตอง / พธิ ีรีตรอง - ช๊อคโกแลต / ช็อกโกแลต - เท่ห์ / เท่ - ดอกจัน / ดอกจันทน์(เครื่องหมาย) - เซ็นต์ช่ือ / เซ็นช่ือ - นานบั ประการ / นานปั การ - ตระเวน / ตระเวณ - ประสบการ / ประสบการณ์ - ปฐมนิเทศ / ปฐมนิเทศน์ - ผูกพนั / ผูกพนั ธ์ - ปล้นสะดม / ปล้นสะดมภ์ - เกร็ดความรู้ / เกลด็ ความรู้ - พลศึกษา / พละศึกษา - ลาดยาง / ราดยาง - เรี่ยไร / เร่ียราย(ขอเงิน) - วพิ ากษ์ / วพิ ากย์ - ลาใส้ / ลาไส้ - สาอาง / สาอางค์ - ศรีษะเกษ / ศรีสะเกษ - องคชาติ / องคชาต - สุขคติ / สุคติ - อานิสงส์ / อานิสงฆ์ - ออฟฟิ ศ / อ๊อฟฟิ ส - ฮ่อยจ๊อ / หอยจ๊อ - อุบาทว์ / อุบาท ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ี๋ KRUCLUB

8 เฉลยชุดท่ี 2 กรีทา / กรีฑา เกษร / เกสร เกม / เกมส์ กาละเทศะ / กาลเทศะ ขาดดลุ / ขาดดลุ ย์ เกยี รต์ิ / เกยี รติ ไข่มุก / ไข่มุข คนอง / คะนอง ครุศาสตร์ / ครุ ุศาสตร์ จงกรม / จงกลม โควต้า / โควตา เค้ก / เค๊ก จก๊ั จ่นั / จักจัน่ ชะลอ / ชลอ จักรสาน / จักสาน ดอกไม้จนั ทร์ / ดอกไม้จนั ทน์ เซ็นติเมตร / เซนติเมตร เข้าฌาน / เข้าฌาณ ไต้ฝ่ ุน / ใต้ฝ่ นุ ดารงค์ / ดารง ตาหรับ / ตารับ ทศกณั ฑ์ / ทศกณั ฐ์ ทะยอย / ทยอย ไตรยางค์ / ไตรยางศ์ เทอด / เทิด แทก็ ซี่ / แท๊กซี่ ทูต / ฑูต ธรรมเนียม / ทาเนียม เบญจเพส / เบญจเพศ ท้าวความ / เท้าความ ประดดิ ประดอย / ประดษิ ฐ์ประดอย บอระเพด็ / บอระเพชร ปัจฉิมนิเทศก์ / ปัจฉิมนิเทศ บาเน็จ / บาเหน็จ บาททะยกั / บาดทะยกั บุคคลากร / บคุ ลากร ภาพยนต์ / ภาพยนตร์ สับปะรด / สัปปะรด ไอศกรีม / ไอศครีม อาเจียน / อาเจียร นานา / นาๆ โหรพา / โหระพา ประนาม / ประณาม แก๊ง / แกงค์ ลาไย / ลาใย ซ่าหร่ิม / สร่ิม ตราสังข์ / ตราสัง คริสตศักราช / คริสต์ศักราช มงกฏุ / มงกฎุ ไฟแช็ค / ไฟแช็ก ทะยอย / ทยอย มนุษยวทิ ยา / มานุษยวทิ ยา ลมปราน / ลมปราณ มสั หม่ัน / มสั มน่ั โล่ / โล่ห์ สายสิญจน์ / สายสิญจ์ เลือนลาง / เลือนราง เหลวใหล / เหลวไหล อตั คดั / อตั คตั สิริมงคล /ศิริมงคล ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพตี่ ๋ี KRUCLUB

คาที่มักเขียนผดิ 9 คา คาท่ีเขียนผดิ คาท่ีเขียนถูก คา คาที่เขียนผดิ คาท่ีเขียนถูก 1 กฏ แทก๊ ซี่ แทก็ ซี่ 2 กะเพราะ กฎ 23 ธุระกิจ ธุรกิจ 3 กระเพรา นพดล นภดล 4 กาละเทศะ กระเพาะ 24 น็อต นอต 5 กฎุ ิ นยั ตา นยั นต์ า 6 ขมกั เขมน้ กะเพรา 25 7 จงกลม นานบั ประการ นานปั การ 8 จราจล กาลเทศะ 26 ทะยอย ทยอย 9 จกั รพรรด์ิ เบญจเพศ 10 จกั รสาน กฏุ ิ 27 บลอ็ ค เบญจเพส 11 คริสตก์ าล บาทบงส์ บลอ็ ก 12 คฤหาสถ์ ขะมกั เขมน้ 28 บาทบงสุ์ 13 คลีนิก ประจญั หนา้ ประจนั หนา้ 14 ฆอ้ น จงกรม 29 ประนาม ประณาม 15 คุก้ ก้ี ประสูตร ประสูติ 16 โควตา้ จลาจล 30 ปองดอง ปรองดอง 17 ญาต ผรุสวาส ผรุสวาท 18 ทูต จกั รพรรดิ 31 ผลลพั ท์ ผลลพั ธ์ 19 ตาหรับ พานิชย์ พาณิชย์ 20 ไตรยางค์ จกั สาน 32 พิบูลย์ พบิ ูล 21 ถนนราดยาง ผกู พนั ธ์ ผกู พนั 22 ทนุถนอม คริตกาล 33 แผนการณ์ แผนการ เผลอเรอ เผอเรอ คฤหาสน์ 34 ไฝ ใฝ คลินิก 35 คอ้ น 36 คุกก้ี 37 โควตา 38 ญาติ 39 ทูต 40 ตารับ 41 ไตรยางศ์ 42 ถนนลาดยาง 43 ทะนุถนอม 44 ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ๋ี KRUCLUB

คา คาท่ีเขียนผดิ คาที่เขียนถูก คา คาที่เขียนผดิ 10 1 พหูสูตร 2 แพนง พหูสูต 23 ศรีษะ คาที่เขียนถูก 3 พงั ทะลาย ศีรษะ 4 โพนทนา พะแนง 24 เวรคืน เวนคืน 5 แฟชนั 6 ภาพยนต์ พงั ทลาย 25 เวทยม์ นตร์ เวทมนตร์ 7 ภูติผี ศิลปกรรม 8 แมลงพู่ โพนทะนา 26 ศิลปะกรรม สาบสูญ 9 มรณะภาพ สาปแช่ง 10 มนุษยวิทยา แฟชนั่ 27 สาปสูญ 11 ยอ่ มเยาว์ สงั เกต 12 เยาวยั ภาพยนตร์ 28 สาบแช่ง สังวร 13 ใยดี สอบเชาวน์ 14 มธั ยสั ต์ ภตู ผี 29 สังเกตุ สรรหา 15 ระบบนิเวศน์ สบง 16 ลิฟ แมลงภู่ 30 สังวรณ์ สถิต 17 ลูกเกตุ สบั ปะรด 18 เลือกสรรค์ มรณภาพ 31 สอบเชาว์ ห่วงใย 19 รังษี อานิสงส์ 20 รากเง่า มานุษยวิทยา 32 สรรคห์ า อารมณ์ 21 วาระดิถี อนุสาวรีย์ 22 ลมปราน ยอ่ มเยา 33 สะบง ออฟฟิ ศ อิริยาบถ เยาวว์ ยั 34 สถิตย์ อทุ ธรณ์ อามหิต ไยดี 35 สปั รด โอกาส มธั ยสั ธ์ 36 ห่วงไย ระบบนิเวศ 37 อานิสงฆ์ ลิฟต์ 38 อารมย์ ลูกเกด 39 อนุเสาวรีย์ เลือกสรร 40 ออฟฟิ ต รังสี 41 อิริยาบท รากเหงา้ 42 อุธรณ์ วารดิถี 43 อมั หิต ลมปราณ 44 โอกาศ ภาษาไทยอารมณ์ดี ครูพต่ี ๋ี KRUCLUB